แผนการจัดการเรียนรู้
วชิ า ภาษาไทย
รหสั วิชา ท33101
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1
นางสาวลลิตา เภาคำ
ตำแหน่ง นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์
โรงเรยี นวัดประดใู่ นทรงธรรม
สำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 1
สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชา ภาษาไทย
รหสั วิชา ท33101
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1
ลงชอ่ื ………………………………………......…ผู้จดั ทำ
(นางสาวลลติ า เภาคำ)
ลงชื่อ……………………………….......…………หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้
(นายณฐั ภัทร สำเรจ็ )
ลงชอ่ื ……………………………….................,,รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ
(นางสาววาสนา เปรมชืน่ )
ลงชอ่ื ………………………………………......…ผู้อำนวยการสถานศึกษา
(นางสาวเอื้อมพร วอนยิน)
แผนการจัดการเรยี นรู้ เล่มน้ีประกอบด้วย
1. แบบวิเคราะห์ตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้
2. คำอธิบายรายวชิ า
3. โครงสรา้ งรายวิชา
4. หนว่ ยการเรยี นรู้
5. แผนการจดั การเรยี นรู้
- ใบงาน
- ใบกจิ กรรม
- ส่ือ/นวัตกรรม
- แบบประเมนิ
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลังเรียน
- ฯลฯ
6. หลักฐาน/ร่องรอยการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
บนั ทกึ ข้อความ
สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดประดู่ในทรงธรรม
ท…่ี ………………………………………. วันที่ ...............................................................................................
เรื่อง ขออนุมัตแิ ผนการจัดการเรยี นรู้
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-------------
เรียน ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวัดประด่ใู นทรงธรรม
ตามที่ข้าพเจ้านางสาวลลิตา เภาคำ ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา
ท33101 รายวชิ าภาษาไทย จำนวน 1.0 หน่วยกติ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 นน้ั
ข้าพเจ้าจึงได้วิเคราะห์ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อจัดทำ
แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วยการเรียนรู้และรายคาบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวัดประดู่
ในทรงธรรม พุทธศักราช 2562 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 โดยจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และได้นำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่ อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ให้บรรลุเป้าหมายของหลกั สูตรฯ ต่อไป
จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ
ลงช่ือ ............................................................
(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหนง่ นักศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ............................................................
(นายณัฐภัทร สำเร็จ)
ความเห็นของรองผ้อู ำนวยการโรงเรียนกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ
..............................................................................................................................................................................
ลงช่อื ............................................................
(นางสาววาสนา เปรมชน่ื )
ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ ............................................................
(นางสาวเอื้อมพร วอนยนิ )
คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน (Course Syllabus)
ท๓3๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 4 ช่ัวโมง จำนวน ๑.0 หนว่ ยกิต
ครูผูส้ อน นางสาวลลิตา เภาคำ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ศึกษาและอธิบายธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา และลักษณะของภาษา และอธิบายและวิเคราะห
หลกั การสร้างคําในภาษาไทย
เพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้ด้านธรรมชาติและลักษณะของภาษาอย่างถูกต้อง สามารถใช้ภาษาในการ
สื่อสารได้เหมาะสมแก่โอกาสและบุคคล ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์หลักการสร้างคำในลักษณะต่าง ๆ ได้ รวมถึง
ตระหนักและเห็นคุณค่าของวรรณกรรมทั้งด้านวรรณศิลป์และด้านเนื้อหา สามารถนำข้อคิดที่ได้จากวรรณกรรม
ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม
ตัวชวี้ ัดตามหลักสูตร
ตวั ชี้วดั สาระที่ ๔ (หลักการใชภ้ าษาไทย)
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและ พลังของภาษา
ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ (๑,6)
รวมท้ังหมด 2 ตวั ช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้
โครงสร้างรายวิชา
รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท33101 กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
เวลา 4 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี 1
ลำดบั ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั
ที่ เรียนรู้ เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
/ ตวั ชี้วัด
4 10
1 หลกั การสร้างคำ ท 4.1 ม.4-6/1 - ลกั ษณะของภาษา
ในภาษาไทย ท 4.1 ม.4-6/6 - หลกั การสรางคาํ ในภาษาไทย 4 10
รวม
คะแนนกลางภาค 50 คะแนน คะแนนปลายภาค 50 คะแนน รวมทั้งสน้ิ 100 คะแนน
แผนการจดั การเรียนรู้
รหสั วิชา ท33101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง การสร้างคำในภาษาไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1
เร่ือง หลกั การสร้างคำในภาษาไทย
เวลา 1 ช่ัวโมง ผ้สู อน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบัติของชาติ
ม.4-6/1 อธบิ ายธรรมชาติของภาษา พลงั ของภาษา และลกั ษณะของภาษา
ม.4-6/6 อธิบายและวเิ คราะหหลกั การสรางคาํ ในภาษาไทย
จุดประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
เม่อื จบหนว่ ยการเรียนรแู้ ล้ว ผู้เรียนสามารถ
(1) อธิบายหลักการสรา้ งคำในภาษาไทยได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
การฟงั : .............................................................
การพดู : ............................................................
การอ่าน : ...........................................................
การเขยี น : ยกตัวอย่าง คำมลู คำประสม และคำซอ้ นได้ถูกตอ้ ง
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Attitude )
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ซ่อื สัตยส์ จุ รติ มุง่ ม่ันในการทำงาน
มวี ินัย รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มจี ติ สาธารณะ
ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
ความสามารถในการสือ่ สาร : .......................................................................................
ความสามารถในการคิด : .......................................................................................
ความสามารถในการแก้ปัญหา : .......................................................................................
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต : .....................................................................................
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .....................................................................................
สาระการเรียนรู้
คำมูล คือ คำ ๆ เดียวที่มิได้ประสมกับคำอื่น อาจมี ๑ พยางค์ หรือหลายพยางค์ก็ได้แต่เมื่อแยกพยางค์
แลว้ แตล่ ะพยางค์ไมม่ ีความหมาย คำภาษาไทยทใ่ี ช้มาแต่เดมิ สว่ นใหญ่เปน็ คำมลู ทมี่ พี ยางคเ์ ดียว
คำประสม คือ คำที่สร้างขึ้นใหม่โดยนำคำมูลตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมาประสมกัน ให้เกิดเป็นคำใหม่
ความหมายใหม่ โดยอาจมเี คา้ ความหมายเดิมหรือมคี วามหมายใหม่ก็ได้
คำซ้อน เป็นการสร้างคำโดยนำคำมูลที่มีความหมายเหมือนกัน ใกล้เคียงกัน หรือตรงข้ามกันมาวางซ้อนกัน
ทำให้เกดิ คำใหม่ มคี วามหมายใหม่ โดยความหมายใหมอ่ าจกวา้ งขึ้น หนักแนน่ ขึ้น หรือเบาลงก็ได้
การบรู ณาการ
บรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….
บรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
บรู ณาการกับประชาคมอาเซยี น
บูรณาการอืน่ ๆ (ระบุ) .....................................................................................................
คา่ นิยม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
ซ่ือสัตย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสงิ่ ทดี่ งี ามเพื่อส่วนรวม
กตัญญูต่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หม่ันศึกษาเล่าเรียนท้ังทางตรง และทางอ้อม
รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวงั ดีตอ่ ผอู้ ่นื เผอ่ื แผ่และแบง่ ปนั
เขา้ ใจเรยี นรู้การเป็นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุขท่ีถูกต้อง
มีระเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรู้จกั การเคารพผูใ้ หญ่
มสี ตริ ้ตู ัว รคู้ ิด รู้ทำ รปู้ ฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว
รูจ้ ักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีความเข้มแขง็ ทัง้ รา่ งกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายตำ่ หรือกิเลส มคี วามละอายเกรงกลัว
ต่อบาปตามหลักของศาสนา
คำนงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง
กรอบแนวคิดโรงเรยี นคณุ ธรรม 5 ประการ ความซอ่ื สัตย์สุจริต
ความพอเพยี ง ความกตัญญู
ความรบั ผดิ ชอบ อุดมการณ์คุณธรรม
ภาระ / ชน้ิ งาน
ใบงาน เรอื่ ง การสร้างคำในภาษาไทย
แนวทางการวัดประเมนิ ผล
สง่ิ ทป่ี ระเมิน เครอื่ งมือ วิธกี าร เกณฑ์
ถกู 80% - ผ่าน
อธบิ ายหลกั การสร้างคำในภาษาไทยได้ ใบงาน ตรวจสอบคำตอบ ถูก 80% - ผ่าน
เร่ือง การสร้างคำ ของนักเรียน/ตรวจใบงาน
ยกตัวอย่าง คำมลู คำประสม และคำ ใบงาน ตรวจสอบคำตอบ
ซอ้ นได้ถกู ต้อง เร่อื ง การสร้างคำ ของนักเรียน/ตรวจใบงาน
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมิน 1–ผ่าน, 0–ไม่ผา่ น
กจิ กรรมการเรียนร้เู น้นทกั ษะการคิด หลักฐานการเรยี นรู้
ใบงาน เรือ่ ง การสรา้ งคำ /การตอบคำถาม
ความเขา้ ใจท่ีคงทน ใบงาน เรื่อง การสร้างคำ /การตอบคำถาม
เขา้ ใจหลกั การสรา้ งคำ
ยกตวั อย่าง คำมูล คำประสม และคำซ้อน
ช่วั โมงที่ 1
กลยุทธก์ ารสอน/เนอื้ หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเข้าสู่บทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual
- ครูกล่าวทักทายและทบทวนเนื้อหาเดิมของผู้เรียน Auditory 6: Create
เพือ่ ทดสอบความเขา้ ใจเกย่ี วกับลักษณะของภาษาไทย Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
2. การนำเสนอเน้ือหา ทักษะ กระบวนการ (Presentation) Visual 1:Remember
- ครูอธิบายเกี่ยวกับความหมายของพยางค์ คำ Auditory
และหลักการสร้างคำประสม คำซ้อน และคำซ้ำ Read/write 6: Create
5: Evaluate
Kinesthetic 4: Analyze
3: Apply
3. การฝกึ เนอ้ื หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 2:Understand
1:Remember
- นักเรียนทำใบงานตามที่ครูมอบหมาย เรื่อง การสร้างคำ Auditory
6: Create
คำประสม คำซอ้ น และคำซำ้ Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
- นกั เรียนและครรู ว่ มกันยกตวั อย่าง Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
4. การนำไปใช้ (Application) Visual 1:Remember
- ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายความหมายและหลักการ Auditory 6: Create
5: Evaluate
ของการสรา้ งคำประสม คำซ้อน และคำซ้ำ Read/write 4: Analyze
3: Apply
Kinesthetic 2:Understand
1:Remember
สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นหลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................. ..................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... ............................................................................... ..
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชือ่ ………………………………………
ผสู้ อน
(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
ใบงาน
เรื่อง การสร้างคำ
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนแยกประเภทของคำลงในชอ่ งว่างให้ถูกต้อง
มะละกอ ไขแ่ ดง แขง้ ขา การบา้ น ศลิ ปะ ไมจ้ มิ้ ฟัน แดง ๆ
น่งั ๆ นอน ๆ ขาวดำ จิ้มลม้ิ ตาเขียว รมิ ๆ ไกล ๆ บดิ า
ซักฟอก คัดเลอื ก รถไฟใตด้ นิ ทกุ ๆ วนั มือหนัก กาแฟ
คำมลู คำประสม
คำซำ้ คำซอ้ น
ช่ือ - นามสกุล ................................................................ เลขที่ ...... ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6/......
แผนการจัดการเรยี นรู้
รหัสวิชา ท33101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การสร้างคำในภาษาไทย แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2
เรอ่ื ง คำสมาส
เวลา 1 ชัว่ โมง ผสู้ อน นางสาวลลิตา เภาคำ โรงเรียนวดั ประดใู่ นทรงธรรม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ปิ ญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเปนสมบตั ขิ องชาติ
ม.4-6/6 อธบิ ายและวิเคราะหหลักการสรางคําในภาษาไทย
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
เม่ือจบหน่วยการเรียนรแู้ ล้ว ผูเ้ รียนสามารถ
(1) อธิบายหลกั การและลักษณะของคำสมาสได้
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ( Process)
การฟัง : .............................................................
การพดู : ............................................................
การอ่าน : ...........................................................
การเขียน : สามารถแยกชนิดของคำสมาสได้ถูกตอ้ ง
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551
รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ อยู่อย่างพอเพยี ง ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มงุ่ มั่นในการทำงาน
มวี ินยั รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มจี ิตสาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสอื่ สาร : .......................................................................................
ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................
ความสามารถในการแก้ปญั หา : ...................................................................................
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .............................................................................
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : .............................................................................
สาระการเรยี นรู้
ภาษาไทยยืมคำสมาสในภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตมาใช้นานแลว้ และคนไทยคงจะได้เรียนรู้กฎเกณฑ์การ
สร้างคำสมาสในภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตดจี ึงได้สร้างคำสมาสในภาษาไทยข้ึนเลียนแบบคำสมาสในภาษาบาลี
และภาษาสันสกฤต คำสมาสประเภทน้ีอาจนำคำยืมภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตทมี่ ีใช้อยู่ในภาษาไทยมารวมเป็น
คำสมาส
การบรู ณาการ
บูรณาการข้ามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….
บรู ณาการกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
บรู ณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บรู ณาการอื่นๆ (ระบุ) .....................................................................................................
ค่านยิ ม 12 ประการ
ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซอื่ สัตย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณใ์ นส่งิ ที่ดีงามเพ่ือส่วนรวม
กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผ้ปู กครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมั่นศกึ ษาเล่าเรียนทงั้ ทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
มีศลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผือ่ แผ่และแบง่ ปนั
เขา้ ใจเรียนร้กู ารเป็นประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขท่ีถกู ต้อง
มีระเบยี บวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรูจ้ ักการเคารพผใู้ หญ่
มีสตริ ูต้ วั ร้คู ดิ รู้ทำ รู้ปฏบิ ตั ติ ามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว
รู้จักดำรงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มคี วามเข้มแข็งทง้ั ร่างกาย และจติ ใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรง
กลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา
คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง
กรอบแนวคดิ โรงเรียนคณุ ธรรม 5 ประการ ความซือ่ สตั ย์สจุ ริต
ความพอเพียง ความกตัญญู
ความรับผิดชอบ อุดมการณ์คุณธรรม
ภาระ / ชิ้นงาน เครอื่ งมือ วิธกี าร เกณฑ์
- การถามคำถาม ถกู 80% - ผา่ น
การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ ถกู 80% - ผ่าน
แนวทางการวัดประเมนิ ผล ของนักเรยี น
สง่ิ ทป่ี ระเมนิ ตรวจสอบคำตอบ
อธิบายหลกั การและลกั ษณะของ ของนักเรยี น
คำสมาสได้
สามารถแยกชนดิ ของคำสมาสได้
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมนิ 1–ผา่ น, 0–ไม่ผา่ น
กจิ กรรมการเรยี นรเู้ น้นทกั ษะการคดิ หลักฐานการเรียนรู้
การตอบคำถามหน้าชั้นเรียน
ความเข้าใจทคี่ งทน การตอบคำถามหนา้ ชน้ั เรียน
เข้าใจหลักการและลักษณะของคำสมาส
ยกตัวอยา่ งและแยกชนิดของคำสมาส
ช่ัวโมงที่ 1
กลยุทธก์ ารสอน/เนือ้ หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สูบ่ ทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual
- ครูกล่าวทักทายและนำผู้เรียนเข้าสู่เนื้อหา โดยการทำ Auditory 6: Create
กจิ กรรมทายซิ...ฉันคอื คำวา่ อะไร ผู้สอนจะมีความหมายและ Read/write 5: Evaluate
ตัวอักษรเพียงบางส่วนของคำศัพท์คำนั้นให้ โดยผู้เรียนต้อง Kinesthetic 4: Analyze
คิดหาคำตอบวา่ คำศพั ทท์ ถ่ี กู ต้องคือคำว่าอะไร 3: Apply
2:Understand
2. การนำเสนอเนื้อหา ทักษะ กระบวนการ Visual 1:Remember
(Presentation) Auditory
- ครูชแี้ จงวา่ คำศัพทท์ ่นี ำมาใชข้ า้ งต้นทง้ั หมดเปน็ คำสมาส Read/write 6: Create
และอธบิ ายเกีย่ วกบั ความหมาย หลักการสรา้ งคำสมาส Kinesthetic 5: Evaluate
และลกั ษณะของคำสมาส 4: Analyze
3: Apply
3. การฝกึ เนอื้ หา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 2:Understand
1:Remember
- ครูและผู้เรียนร่วมกันยกตัวอย่างคำสมาส และมีการ Auditory
6: Create
อภิปรายรว่ มกนั ว่าคำสมาสทย่ี กตัวอย่างมีทมี่ าจากคำว่าอะไร Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
และเป็นคำสมาสชนดิ ใด Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
4. การนำไปใช้ (Application) Visual 1:Remember
- ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายความหมาย หลักการ Auditory
และชนิดของคำสมาส Read/write 6: Create
Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
3: Apply
2:Understand
1:Remember
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนหลกั ภาษา และการใชภ้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
2) ส่อื การเรียนการสอน เรอ่ื ง ทายซิ...ฉันคอื คำวา่ อะไร
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน
(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
แผนการจดั การเรียนรู้
รหัสวิชา ท33101 ชือ่ วิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ ง การสรา้ งคำในภาษาไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3
เรื่อง คำสมาสแบบสนธิ
เวลา 1 ช่ัวโมง ผสู้ อน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรยี นวดั ประดใู่ นทรงธรรม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเปนสมบตั ขิ องชาติ
ม.4-6/6 อธิบายและวิเคราะหหลักการสรางคาํ ในภาษาไทย
จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ ( Knowledge)
เมือ่ จบหนว่ ยการเรียนรแู้ ลว้ ผ้เู รยี นสามารถ
(1) อธบิ ายหลักการและลักษณะของคำสมาสแบบสนธิชนดิ ตา่ ง ๆ ได้
ด้านทกั ษะกระบวนการ ( Process)
การฟงั : .............................................................
การพูด : ............................................................
การอ่าน : ...........................................................
การเขียน : สามารถแยกคำสมาสแบบสนธิไดถ้ ูกตอ้ ง
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ( Attitude )
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยูอ่ ย่างพอเพียง ซอ่ื สัตย์สุจริต มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
มีวนิ ัย รกั ความเปน็ ไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร : .......................................................................................
ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................
ความสามารถในการแก้ปัญหา : ...................................................................................
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต : .............................................................................
ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : .............................................................................
สาระการเรียนรู้
คำสนธิเกิดจากการนำคำบาลีหรือสันสกฤตมาเชื่อมเสียงให้กลมกลืนกันโดยการเปลี่ยนแปลงรูปสระ
รูปพยัญชนะ หรือนฤคหิตให้รวมกันเป็นคำใหม่ ควรจำแนกและศึกษาความหมายของคำให้เข้าใจจึงจะนำไปใช้ได้
ถูกตอ้ ง
การบรู ณาการ
บูรณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ระบ)ุ ……………………………………………………………….
บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บูรณาการกับประชาคมอาเซยี น
บรู ณาการอ่นื ๆ (ระบุ) .....................................................................................................
คา่ นิยม 12 ประการ
ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซ่อื สัตย์ เสยี สละ อดทน มีอดุ มการณใ์ นสง่ิ ทด่ี งี ามเพื่อส่วนรวม
กตญั ญูต่อพ่อแม่ ผ้ปู กครอง ครูบาอาจารย์
ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศึกษาเล่าเรียนท้ังทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
มีศีลธรรม รักษาความสตั ย์ หวังดตี อ่ ผูอ้ ื่น เผอ่ื แผ่และแบ่งปัน
เขา้ ใจเรียนรู้การเปน็ ประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุขท่ีถกู ต้อง
มรี ะเบียบวนิ ัย เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรู้จักการเคารพผใู้ หญ่
มีสตริ ้ตู ัว รคู้ ิด ร้ทู ำ รู้ปฏบิ ตั ิตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว
รจู้ กั ดำรงตนอย่โู ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มคี วามเข้มแข็งทัง้ รา่ งกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพต้ ่ออำนาจฝา่ ยตำ่ หรอื กเิ ลส มีความละอายเกรง
กลัวตอ่ บาปตามหลักของศาสนา
คำนึงถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
กรอบแนวคดิ โรงเรียนคุณธรรม 5 ประการ ความซ่ือสัตย์สจุ รติ
ความพอเพยี ง ความกตัญญู
ความรับผดิ ชอบ อดุ มการณ์คุณธรรม
ภาระ / ช้ินงาน
- ใบงาน เรอื่ ง คำสมาสแบบมีสนธิ
แนวทางการวัดประเมินผล
ส่งิ ท่ปี ระเมิน เครอื่ งมือ วธิ กี าร เกณฑ์
ถกู 80% - ผา่ น
อธบิ ายหลักการและลกั ษณะของ การถามคำถาม ตรวจสอบคำตอบ
คำสมาสแบบสนธชิ นิดตา่ ง ๆ ได้ ของนักเรียน ถูก 80% - ผ่าน
สามารถเช่ือมและแยกคำสมาสแบบ การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบ
สนธไิ ด้ถกู ต้อง
ใบงานคำสมาส ของนักเรียน/ตรวจใบงาน
แบบมีสนธิ คำสมาสแบบมีสนธิ
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมนิ 1–ผ่าน, 0–ไมผ่ า่ น
กิจกรรมการเรียนรเู้ นน้ ทกั ษะการคิด หลกั ฐานการเรียนรู้
การตอบคำถามหนา้ ช้นั เรยี น
ความเข้าใจท่คี งทน
หลักการและลักษณะของคำสมาสแบบสนธิ การตอบคำถามหน้าชน้ั เรยี น
ชนิดตา่ ง ๆ
ยกตัวอย่างและแยกชนดิ ของคำสมาส
ชว่ั โมงที่ 1
กลยุทธ์การสอน/เน้อื หา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สู่บทเรยี น (Warm-up & Introduction) Visual
6: Create
- ครูกล่าวทักทายและทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียนเรื่อง Auditory 5: Evaluate
4: Analyze
คำสมาส Read/write 3: Apply
2:Understand
Kinesthetic 1:Remember
2. การนำเสนอเน้อื หา ทักษะ กระบวนการ Visual 6: Create
(Presentation) Auditory 5: Evaluate
- ครอู ธบิ ายความหมายและชนิดของคำสมาสแบบสนธชิ นดิ Read/write 4: Analyze
ต่าง ๆ และรว่ มกนั ยกตวั อยา่ งคำสมาสแบบสนธิ Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
3. การฝึกเน้ือหา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 1:Remember
- ผู้เรียนทำใบงานคำสมาสแบบมีสนธิ เพื่อทดสอบความ Auditory 6: Create
เข้าใจ Read/write 5: Evaluate
4: Analyze
Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
4. การนำไปใช้ (Application) Visual 1:Remember
- ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายความหมาย หลกั การ Auditory
Read/write 6: Create
และชนดิ ของคำสมาสแบบสนธิ Kinesthetic 5: Evaluate
4: Analyze
3: Apply
2:Understand
1:Remember
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนหลกั ภาษา และการใช้ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................... ................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชื่อ ………………………………………
ผสู้ อน
(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
แผนการจดั การเรียนรู้
รหัสวชิ า ท33101 ชอ่ื วิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง การสรา้ งคำในภาษาไทย แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4
เรือ่ ง หลักการสรา้ งคำชนิดต่าง ๆ
เวลา 1 ช่วั โมง ผูส้ อน นางสาวลลติ า เภาคำ โรงเรยี นวัดประดใู่ นทรงธรรม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขาใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเปนสมบตั ิของชาติ
ม.4-6/6 อธิบายและวเิ คราะหหลักการสรางคาํ ในภาษาไทย
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ ( Knowledge)
เม่ือจบหน่วยการเรยี นรแู้ ล้ว ผู้เรียนสามารถ
(1) อธิบายหลกั การและลักษณะของการสร้างคำชนดิ ตา่ ง ๆ ได้
ดา้ นทักษะกระบวนการ ( Process)
การฟงั : .............................................................
การพดู : ............................................................
การอ่าน : ...........................................................
การเขยี น : จำแนกคำตามชนิดของการสรา้ งคำได้ถูกต้อง
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Attitude )
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อย่อู ย่างพอเพยี ง ซื่อสัตยส์ ุจริต ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
มวี นิ ัย รกั ความเป็นไทย ใฝเ่ รยี นรู้ มีจิตสาธารณะ
ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
ความสามารถในการสื่อสาร : .......................................................................................
ความสามารถในการคิด : ..............................................................................................
ความสามารถในการแก้ปญั หา : ...................................................................................
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต : .............................................................................
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี : .............................................................................
สาระการเรยี นรู้
คำประสม เกิดจากการนำคำมูลที่มีความหมายต่างกันตั้งแต่ ๒ คำขึ้นไปมารวมกัน แล้วเกิดเป็นคำที่มี
ความหมายใหม่ หรอื ยงั คงมีเค้าความหมายของคำเดิม การสรา้ งคำประสมทำให้ภาษาไทย มีคำใชเ้ พ่ิมมากขึน้
คำซ้อน เป็นการสร้างคำขึ้นใหม่จากคำมูล โดยการนำคำมูลที่มีความหมายเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกัน หรือ
ตรงขา้ มกนั มารวมกนั แบ่งออกเปน็ 2 ชนดิ คอื คำซอ้ นเพื่อความหมาย และคำซอ้ นเพ่ือเสียง
คำซ้ำ เป็นการสร้างคำขึ้นใหม่จากคำมูล โดยการนำคำมูลคำเดียวกันมากล่าวซ้ำ ความหมายของคำซ้ำอาจ
เหมอื นคำมลู เดมิ หรอื อาจมีน้ำหนกั มากข้ึนหรือเบาลง หรือแสดงความเป็นพหูพจน์
คําสมาสและคําสนธิ มีลักษณะเฉพาะ คือ ตองเปนคําที่มาจากภาษาบาลี – สันสกฤตมาสมาสหรือสนธิกัน
เท่านัน้ ภาษาอ่ืนมารวมกันจะไมใชคําสมาสหรือคาํ สนธิ
การบรู ณาการ
บรู ณาการขา้ มกลุม่ สาระการเรยี นรู้ (ระบุ)……………………………………………………………….
บูรณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
บูรณาการกบั ประชาคมอาเซียน
บูรณาการอ่ืนๆ (ระบุ) .....................................................................................................
คา่ นิยม 12 ประการ
ความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซื่อสตั ย์ เสยี สละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสง่ิ ทีด่ ีงามเพื่อสว่ นรวม
กตญั ญตู ่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์
ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนท้งั ทางตรง และทางอ้อม
รกั ษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
มีศลี ธรรม รักษาความสัตย์ หวงั ดตี ่อผ้อู ื่น เผอ่ื แผ่และแบ่งปนั
เข้าใจเรยี นรกู้ ารเป็นประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผ้นู อ้ ยรจู้ ักการเคารพผู้ใหญ่
มีสติรูต้ วั รู้คดิ รทู้ ำ ร้ปู ฏิบัติตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั
รู้จกั ดำรงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มีความเข้มแข็งทงั้ รา่ งกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออำนาจฝา่ ยต่ำ หรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั
ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา
คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
กรอบแนวคิดโรงเรยี นคุณธรรม 5 ประการ
ความพอเพยี ง ความกตัญญู ความซอื่ สัตย์สจุ ริต
ความรบั ผิดชอบ อดุ มการณค์ ุณธรรม
ภาระ / ชิ้นงาน
- แผนผงั ความคิด เรือ่ ง การสรา้ งคำในภาษาไทย
แนวทางการวดั ประเมนิ ผล
สิง่ ท่ปี ระเมิน เครือ่ งมือ วิธกี าร เกณฑ์
ถกู 80% - ผา่ น
อธิบายหลักการและลกั ษณะของ การถามคำถาม/ ตรวจสอบคำตอบ
การสรา้ งคำชนิดต่าง ๆ ได้ แผนผังความคิด ของนักเรียน/ตรวจ ถูก 80% - ผ่าน
เรื่อง การสรา้ งคำ แผนผงั ความคิด
ในภาษาไทย
ตรวจสอบคำตอบ
จำแนกคำตามชนดิ ของการสร้างคำได้ การถามคำถาม/ ของนักเรยี น/ตรวจ
ถกู ต้อง แผนผงั ความคดิ แผนผังความคดิ
เรื่อง การสรา้ งคำ
ในภาษาไทย
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แบบประเมิน ตรวจแบบประเมิน 1–ผ่าน, 0–ไม่ผา่ น
กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้นทกั ษะการคดิ หลักฐานการเรยี นรู้
การตอบคำถามหน้าชนั้ เรยี น/แผนผังความคดิ
ความเขา้ ใจทค่ี งทน การตอบคำถามหน้าชนั้ เรียน/แผนผังความคิด
หลักการและลักษณะของการสรา้ งคำชนิดตา่ ง ๆ
จำแนกคำตามชนิดของการสรา้ งคำไดถ้ กู ต้อง
ชั่วโมงที่ 1
กลยทุ ธก์ ารสอน/เน้ือหา VARK style Bloom’s
taxonomy
1. การนำเขา้ สู่บทเรียน (Warm-up & Introduction) Visual 6: Create
- ครูกล่าวทักทาย ทบทวนความรู้เดิมของผู้เรียน และ Auditory 5: Evaluate
ตรวจสอบงานท่มี อบหมายในเร่ือง คำสมาสแบบมีสนธิ Read/write 4: Analyze
3: Apply
Kinesthetic 2:Understand
1:Remember
2. การนำเสนอเนอ้ื หา ทักษะ กระบวนการ Visual 6: Create
(Presentation) Auditory 5: Evaluate
- ครสู รุปลกั ษณะของการสรา้ งคำ ชนดิ ของการสร้างคำแต่ Read/write 4: Analyze
ละประเภท และขอ้ สงั เกตคำชนดิ ต่าง ๆ Kinesthetic 3: Apply
2:Understand
3. การฝึกเน้ือหา ทกั ษะ กระบวนการ (Practice) Visual 1:Remember
6: Create
- ผู้เรยี นแบง่ กลมุ่ รว่ มกันทำงานกับเพื่อนในชั้นเรยี น กลุม่ ละ Auditory 5: Evaluate
3-4 คน ผู้สอนแบ่งหัวข้อตามความเหมาะสม โดยให้ Read/write 4: Analyze
ผู้เรียนสรุปหลักการ ข้อสงั เกต และยกตัวอยา่ งคำท่ีเกิดจาก Kinesthetic 3: Apply
การสร้างคำรูปแบบต่าง ๆ ดังน้ี 2:Understand
1:Remember
1) คำซ้ำ
6: Create
2) คำซ้อน 5: Evaluate
4: Analyze
3) คำประสม 3: Apply
2:Understand
4) คำสมาส 1:Remember
5) คำสมาสแบบสนธิ
4. การนำไปใช้ (Application) Visual
- ผ้เู รยี นนำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรียน ผสู้ อนพจิ ารณาและ Auditory
ตรวจสอบผลงาน พร้อมให้คำแนะนำที่เปน็ ประโยชนใ์ ห้ Read/write
ผูเ้ รียนต่อไป
Kinesthetic
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นหลกั ภาษา และการใช้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
บนั ทกึ ผลหลงั การสอน
1. ผลการสอน
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................. .......
............................................................................................................................ ........................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................. ...................................................
2.ปญั หา/อปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
................................................................................................................................................................................ ....
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................... ................................
................................................................................................... .................................................................................
3. แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
........................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .............................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
ลงชือ่ ………………………………………
ผสู้ อน
(นางสาวลลิตา เภาคำ)
ตำแหน่ง นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ