The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผลของเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phanudet Dingram, 2022-02-05 09:13:34

ผลของเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้

ผลของเทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้

บรรณานุกรม

กรมวชิ าการ. (2546). คู่มอื การจัดการเรียนรกู้ ล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์.
กรงุ เทพฯ: องค์การรับส่งสนิ ค้าและพัสดุ.

กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551). หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551.
กรุงเทพฯ: ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย.

กุสมุ า รักษมณี. (2547). วรรณสารวิจยั . กรุงเทพฯ: แมค่ ำผาง.
กหุ ลาบ มัลลกิ ะมาส. (2527). วรรณคดวี ิจารณ์. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั รามคำแหง.
ขนิษฐา กล่ำทบั . (2563). การพัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีเรอ่ื ง พระบรมราโชวาท

โดยใช้การจดั การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื ด้วยเทคนคิ CIRC ของนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3.
การคน้ ควา้ อสิ ระ กศ.ม., มหาวทิ ยาลัยนเรศวร, พิษณโุ ลก.
ชัยวฒั น์ สุทธริ ัตน.์ (2561). 80 นวัตกรรม การจดั การเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั .
นนทบรุ ี: พบี าลานซ์ดไี ซด์ แอนปริน้ ต้ิง.
ชาตรี เกดิ ธรรม. (2545). เทคนคิ การสอนท่ีเน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั . กรงุ เทพฯ: บริษทั โรงพิมพ์
ไทยวัฒนาพานชิ .
เชยี รศรี วิวิธสิร.ิ (2527). จิตวทิ ยาการเรียนรูข้ องผู้ใหญ่. กรงุ เทพฯ: ภาควชิ าการศกึ ษาผู้ใหญ่
มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒประสานมิตร.
ดาวรุ่ง อยู่ย่งั ยืน. (2555). การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ (5Es) ท่มี ีตอ่ ผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและความคดิ สรา้ งสรรค์กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ของนกั เรียน
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม., มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ขอนแกน่ .
ทัศนีย์ ศุภเมธี. (2542). การสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ: สถาบนั ราชภัฏธนบรุ .ี
ทศิ นา แขมมณ.ี (2550). 14 วิธีสอนสำหรับครูมอื อาชพี . กรุงเทพฯ: สำนักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั .
ประดิษฐ์ กลัดประเสริฐ. (2522). วรรณกรรมวิจารณแ์ ละแนวทางการวจิ ารณ์วรรณกรรม.
พิษณุโลก: วทิ ยาลยั ครูพบิ ูลสงคราม.
ประภาศรี สีหอำไพ. (2535). วธิ กี ารสอนภาษาไทยระดับมัธยมศึกษา.
กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
ประสาท เนืองเฉลิม. (2556). วจิ ัยการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
ปรยี าพร วงศอ์ นุตรโรจน์. (2534). จิตวทิ ยาการศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์สือ่ เสริมกรงุ เทพ.

43

ปัทมาภรณ์ พรดวงคำ. (2555). การพัฒนาความสามารถในการวเิ คราะหว์ รรณกรรม
โดยใชก้ ารสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
โรงเรียนบา้ นเขก็ นอ้ ย จังหวัดเพชรบรู ณ์. วทิ ยานิพนธ์ ศษ.ม., มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่,
เชียงใหม่.

ปยิ นุช แหวนเพชร. (2560). การพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวรรณคดีของนกั เรยี น
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยใช้วธิ กี ารสอนแบบสืบเสาะหาความรู้
รว่ มกับเทคนคิ การใชแ้ ผนท่ีความคดิ . วทิ ยานพิ นธ์ ศษ.ม. (การสอนภาษาไทย),
มหาวทิ ยาลัยศิลปากร, กรุงเทพฯ.

พศิน แตงจวง. (2537). องค์ประกอบที่มอี ิทธิพลต่อผลสัมฤทธท์ิ างการสำเร็จการศึกษา
ระดบั บณั ฑิตศึกษาภาคพเิ ศษของนักศึกษา สังกัดสถาบันอุดมศกึ ษาของรัฐ.
รายงานการวิจยั คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม,่ เชยี งใหม.่

พิมพันธ์ เตชะคปุ ต.์ (2554). การเรยี นการสอนทเี่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญ.
กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์ กรุ๊ฟแมเนจเม้นท์.

ม.ล.อัจจิมา เกิดผล. (2545). การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ าวรรณคดีไทย
ของนกั เรียนระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝ่ายมธั ยม
ท่ีเรียนดว้ ยวธิ ีสอนแบบกระบวนการกล่มุ สัมพันธ์กบั วิธสี อนแบบปกติ. รายงานการวิจยั ,
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , กรงุ เทพฯ.

มาลี จุฑา. (2544). การประยุกต์จิตวิทยาเพ่ือการเรียนรู้. กรุงเทพ: บรษิ ัทอักษราพิพัฒน์
จำกดั .

รตั ติกาล บุญอาจ. (2555). การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวรรณคดี ของนกั เรียน
ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 โดยใช้วิธกี ารสอนแบบสืบเสาะหาความร้กู ับวิธกี ารสอนแบบ
ใชแ้ ผนผังมโนทศั น์. วิทยานพิ นธ์ ศษ.ม., มหาวิทยาลยั รามคำแหง, กรุงเทพฯ.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พทุ ธศกั ราช 2564.
กรงุ เทพฯ: ศิริวัฒนาอนิ เตอร์พริ้น.

โรงเรียนพิไกรวทิ ยา. (2564). หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นพิไกรวิทยา พุทธศักราช 2562
(ฉบับปรบั ปรุง 2560) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน
พทุ ธศักราช 2551. มปท: มปพ..

ฤทยั สจั จพันธ.์ุ (2544). วรรณคดศี ึกษา. กรงุ เทพฯ: ธาญบญั ญา.
วสนั ต์ รัตนโภคา. (2554). ความร้เู กี่ยวกับวรรณคดไี ทย. ใน เอกสารการสอน

ชดุ วรรณคดีไทย หน่วยท่ี 1-7. นนทบุรี: สานกั พิมพ์
มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช.

44

วชั รา เล่าเรยี นดี. (2548). เทคนคิ และยุทธวิธีพัฒนาทกั ษะการคดิ การจัดการเรียนเรียนรู้
ท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสำคญั . นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วฒั นาพร ระงบั ทุกข์. (2542). แผนการสอนทเี่ น้นผเู้ รยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง.
กรงุ เทพฯ: บริษัท แอล ที เพรส.

วภิ า กงกะนนั ทน์. (2533). วรรณคดีศกึ ษา. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานชิ .
สถาบันภาษาไทย สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา

ขัน้ พ้ืนฐาน. (2557). การพัฒนาทกั ษาะการอ่านคดิ วเิ คราะห์และเขียนสื่อความ.
กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2549). เอกสารประกอบการประชุมปฏบิ ตั กิ าร
เผยแพร่ ขยายผลและอบรมรูปแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้แบบวัฏจกั ร
การสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ตอน เพ่อื พัฒนากระบวนการคิดระดับสงู .
กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สาโรช โศภีรักข์. (2546). นวตั กรรมการสอนท่ียดึ ผู้เรยี นเป็นสำคญั . กรุงเทพฯ: บ๊คุ พอยท.์
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน. (2558). คู่มอื การเรยี นการสอนภาษาไทย
คิดและเขยี นเชงิ สร้างสรรค์: เรยี งความ ย่อความ และสรุปความ (พมิ พ์ครั้งท่ี 2).
กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ สำนักงานคณะกรรมการสง่ เสรมิ สวสั ดกิ ารและสวสั ดิภาพครู
และบคุ ลากรทางการศึกษา.
ไสว ฟกั ขาว. (2544). หลักการสอนสำหรับการเป็นครูมืออาชีพ. กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ.์
สุจรติ เพียรชอบ และสายใจ อนิ ทรมั พรรย์. (2538). วธิ ีสอนภาษาไทยระดบั มัธยมศกึ ษา
(พิมพค์ รั้งท่ี 3). กรุงเทพฯ: ภาควิชามัธยมศึกษา คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อารี พนั ธม์ ณี. (2534). จิตวิทยาการเรยี นการสอน. กรงุ เทพฯ: ต้นอ้อ.

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก เคร่อื งมือท่ีใชใ้ นการวิจัย
1. แผนการจดั การเรยี นรเู้ รือ่ ง พระบรมราโชวาท ด้วยวิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ภาคเรยี นที่ 2 โรงเรยี นพไิ กรวิทยา
ปีการศกึ ษา 2564
รายวชิ า ท23102 ภาษาไทย 6 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
จำนวน 2 ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ทศั นาวรรณคดี ผู้สอน นายภานุเดช ดิงรัมย์

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง รเู้ รื่องพระบรมราโชวาท

ครูพเี่ ลีย้ ง นายไกรจักร คำบญุ เรือง

สาระ/มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั
สาระท่ี 1 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย

อย่างเห็นคุณคา่ และนำมาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง
ตวั ชี้วัด ม. 3/1 สรุปเนือ้ หาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถน่ิ ในระดับท่ียาก

ย่งิ ข้ึน

สาระสำคัญ (องค์ความรู้)
สาระสำคัญของพระบรมราโชวาทเน้นให้ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดในการวางพระองค์ให้

เหมาะสมเมื่อไปศกึ ษาต่างประเทศ เชน่ ไม่ไว้ยศว่าเป็นเจ้าเพราะจะต้องรักษายศศักด์ิ ระวังพระองค์มาก
นอกจากนั้นยังให้เป็นผู้อ่อนน้อมว่างา่ ยสอนง่าย ความในพระบรมราโชวาทที่ทรงย้ำอยา่ งยิง่ คือมิให้ถือ
พระองคว์ ่าเป็นพระราชโอรสพระเจ้าแผน่ ดินแลว้ ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเกินไปจนเปน็ หนี้ ทรงเน้นในเรื่องการ
ประหยัดค่าใช้สอยทุกด้าน และทรงย้ำให้ตระหนักว่า ค่าใช้จ่ายที่โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ไปทรง
ศึกษานั้นแม้จะเป็นพระราชทรัพย์ในส่วนที่เป็นเงินพระคลังข้างที่ แต่ก็เป็นเงินส่วนแผ่นดินที่ราษฎร
ทลู เกลา้ ฯ ถวายใหท้ รงใช้สอยดว้ ยทรงเป็นผทู้ ำนุบำรุงรกั ษาบ้านเมือง

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ดา้ นความรู้ (K)
-นกั เรยี นสามารถอธบิ ายสาระสำคญั ของพระบรมราโชวาทได้
2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
-นักเรยี นสามารถสรปุ เน้อื หาของพระบรมราโชวาทได้

47

3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
-นักเรียนมคี วามซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
-นักเรียนใฝ่เรยี นรู้
-นักเรียนรักความเปน็ ไทย

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

ช้นิ งาน/ภาระงาน
กิจกรรมการนำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน

การวดั และประเมนิ ผลแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1

ดา้ นความรู้ (K) วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

-นกั เรียนสามารอธบิ ายอธบิ าย สงั เกตการตอบคำถาม กิจกรรมการเรยี นการสอน โดยภาพรวม เข้าใจ
สาระสำคญั ของพระบรมราโชวาท ของนกั เรียน รอ้ ยละ 80 ขึ้นไป

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-นกั เรยี นสามารถสรปุ เนอ้ื หาของ ประเมนิ การนำเสนอ แบบประเมินการนำเสนอ ถูกตอ้ ง ร้อยละ 70
พระบรมราโชวาทได้
หนา้ ชน้ั เรยี น หน้าช้ันเรยี น (ใบกจิ กรรมที่ 1) ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ดี
-นักเรยี นมีความซ่อื สตั ย์สจุ ริต สังเกตพฤติกรรม อันพึงประสงค์ ขึ้นไป ผา่ นเกณฑ์
-นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้ ของนักเรยี น
-นักเรียนรกั ความเป็นไทย

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ ดี
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ขนึ้ ไป ผา่ นเกณฑ์
2. ความสามารถในการคดิ ของนักเรียน ของผ้เู รยี น
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

48

ส่ือ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้
-หนงั สอื เรยี นวรรณคดีและวรรณกรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
-ส่ืออินเทอร์เน็ต
-แบบฝกึ ทกั ษะเรอื่ ง พระบรมราโชวาท

กิจกรรมการเรยี นรู้ แบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
คาบเรยี นท่ี 1
1. ขัน้ สร้างความสนใจ (Engage)
1) ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี น
2) สนทนากับนักเรียนเกีย่ วกับคำสั่งสอนของพ่อแม่ ที่ท่านมักจะสอนและเตือนนักเรียน

เสมอ
3) ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า นักเรียนรู้สึกอย่างไรกับคำสั่งสอนของพ่อแม่

นกั เรยี นเช่อื ฟงั ปฏิบัตติ ามหรือไม่ อย่างไร
2. ข้ันสำรวจ (Explore)
1) ให้นักเรยี นรวมกลุ่ม กลุม่ ละ 6 คน จากนั้นครใู ห้นักเรียนศึกษาเร่ือง พระบรมราโชวาท

จากหนังสือเรียนและสื่ออินเทอร์เน็ต โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกประธานกลุ่ม และเลขานุการกลุ่ม
จากนั้นประธานกลุ่มมอบหมายให้สมาชิกกลุ่มร่วมกันศึกษาและสรุปเนื้อหาเรื่อง พระบรมราโชวาท
ดังนี้

- สมาชิกคนที่ 1 ศกึ ษาโอวาทข้อที่ 1 และ 2
- สมาชิกคนท่ี 2 ศกึ ษาโอวาทขอ้ ท่ี 3 และ 4
- สมาชิกคนท่ี 3 ศึกษาโอวาทข้อที่ 5
- สมาชิกคนท่ี 4 ศกึ ษาโอวาทข้อที่ 6
2) สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มศึกษาและสรุปเนื้อหาเรื่อง พระบรมราโชวาท ที่ได้รับ
มอบหมายตามแผนงานทีไ่ ด้วางไว้

คาบเรียนที่ 2
3. ขั้นอธบิ าย (Explain)

1) สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ อภิปรายและเลา่ เร่อื งที่ตนเองรับผดิ ชอบทีละคน
2) ประธานกลุ่ม สอบถามสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเกี่ยวกับปัญหาที่พบระหว่างปฏิบัติ
กจิ กรรม โดยให้เลขานกุ ารกลมุ่ เปน็ ผูบ้ ันทกึ ผลลงในใบกิจกรรมท่ี 1
3) สมาชิกในแต่ละกลุ่มร่วมกันประเมินผลการสรุปเนื้อหาเรื่อง พระบรมราโชวาท และ
เพิ่มเตมิ รายละเอียดเกี่ยวกบั เนือ้ หาทีบ่ กพรอ่ งใหส้ มบรู ณ์

49

4. ขั้นขยายความรู้ (Elaborate)
1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอความรู้ที่ได้จากการร่วมกันอภิปรายและสรุป

หนา้ ชน้ั เรยี น โดยจบั สลากสุ่มทีละกลุม่ จนครบทุกกลมุ่
5. ขนั้ ประเมินผล (Evaluate)
1) ครูซักถามนักเรียนว่า มีประเด็นใดบ้าง ที่ยังไม่เข้าใจ พร้อมทั้งให้นักเรียนที่มีความ

เขา้ ใจแล้ว อธบิ ายให้ฟงั
2) จากนั้นขอตัวแทนนักเรียน 1 คน ให้ทำการสรุปความรู้ที่ได้จากการนำเสนอ ให้

เพ่ือนฟัง ถอื เป็นการจบการเรยี นการสอนในเร่ืองน้ี
3) ครูกล่าวชื่นชมและใหข้ ้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ

50

ใบกจิ กรรมท่ี 1

สรปุ เนือ้ หาพระบรมราโชวาท

คำชแ้ี จง: ให้นักเรียนบันทึกข้อมูลตามหวั ข้อต่อไปน้ี

1. เนื้อหาของโอวาทแต่ละข้อ

2. ปัญหาทพ่ี บ

51

แบบประเมินการนำเสนอผลงาน

คำช้ีแจง: ให้ครูผู้สอนประเมนิ การนำเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการที่กำหนด
แล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน

กลุ่มที่ ช่ือ-สกลุ เนอื้ หาถกู ต้อง การมสี ่วน วิธี/ภาษา ความคดิ รวม
ของสมาชกิ ชดั เจน ร่วมของ ทใ่ี ชใ้ นการ สรา้ งสรรค์ 16
ทรี่ ับการประเมิน สมาชกิ นำเสนอ
คะแนน

4321432143214321

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางส่วน ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่
ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

14-16 ดีมาก

11-13 ดี

8-10 พอใช้

ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน
(..................................................)

วันท่.ี ...........เดอื น...........................พ.ศ. .................

52

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

กลุ่มสาระการเรียนร.ู้ .............................................ภาคเรียนที่........ปีการศึกษา……………………

ชอ่ื -สกลุ นักเรยี น..........................................................ชั้น........................เลขที่....................

คำชี้แจง: ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน
แล้วขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ 4321

1. ซื่อสัตย์สจุ ริต 1.1 เข้าร่วมกจิ กรรมเพื่อแกป้ ัญหาหรอื ร่วมสร้างส่งิ ที่ดีงาม
ของส่วนรวมตามสถานการณ์ทีเ่ กดิ ขนึ้
ดว้ ยความกระตือรือรน้

2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ

2.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ

2.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมีเหตุผล

3. รักความเป็นไทย 3.1 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

3.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย

รวมคะแนน

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้งั
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ (..................................................)

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ วนั ท.่ี ...........เดอื น...........................พ.ศ. .................

9-24 ดีมาก

13-18 ดี

6-12 พอใช้

ตำ่ กวา่ 6 ปรบั ปรงุ

53

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน

กลมุ่ สาระการเรียนร้.ู .............................................ภาคเรียนท่.ี .........ปีการศึกษา……….…………

ชอ่ื -สกุลนักเรียน.............................................................ชนั้ .....................เลขท่ี....................

คำชี้แจง: ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน

แล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน

สมรรถนะสำคัญ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ของผู้เรียน 4321

1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร

ในการสือ่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้

ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา

อยา่ งเหมาะสม

1.3 ใชว้ ิธกี ารสื่อสารที่เหมาะสม

1.4 วเิ คราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล

1.5 เขียนบันทกึ เหตุการณป์ ระจำวนั

แล้วเล่าให้เพ่อื นฟังได้

2. ความสามารถ 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์

ในการคิด 2.2 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสร้างสรรค์

2.3 สามารถคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ

2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ

2.5 ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาเกยี่ วกับตนเองได้

3. ความสามารถ 3.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ในการใช้ทักษะชวี ติ 3.2 สามารถทำงานกลุม่ รว่ มกับผู้อืน่ ได้

3.3 นำความรู้ทไี่ ด้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั

3.4 จดั การปญั หาและความขดั แยง้ ไดเ้ หมาะสม

3.5 หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบ
ตอ่ ตนเอง

รวมคะแนน

54

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งมาก

เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

40-60 ดมี าก

20-39 ดี

10-19 พอใช้

ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรงุ

ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
(..................................................)

วนั ที.่ ...........เดือน...........................พ.ศ. .................

55

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย

ความคิดเหน็ ของครูพี่เลีย้ ง ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้
เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ท่ีมี สามารถใช้จัดการเรียนการสอนได้

องคป์ ระกอบครบถว้ น

ลงชอื่ ลงช่อื
(นายไกรจักร คำบญุ เรือง) (นางสาวสุธเนตร ถาวร)
ครูพเ่ี ล้ียง
ตำแหน่ง หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ
ทราบ สามารถใชจ้ ดั การเรยี นการสอนได้

ลงชื่อ
(นางสาวรงุ่ ทพิ ย์ ขอนทอง)

ตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษา

 อนมุ ตั ิ
 ไม่อนุมัติ

แผนการจัดการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบครบถว้ น มีคุณภาพ สามารถพัฒนาการเรยี นรูต้ าม
มาตรฐานการเรียนร้ขู องหลักสตู รสถานศึกษาได้

ลงช่อื
(นางสาวจฑุ ามาศ วงษ์เขียว)

ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นพิไกรวทิ ยา

56

บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้

ผลการจดั การเรยี นรู้ แผนการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง รเู้ ร่อื งพระบรมราโชวาท
1. กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ีกำหนดไวใ้ นแผนการจัดการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมทีเ่ หมาะสมกบั วยั
ของผเู้ รยี นและเหมาะสมกบั สาระการเรียนรู้ สามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน

 ไดต้ ามเวลาทกี่ ำหนดทกุ กิจกรรม
 ไมท่ ันตามเวลาที่กำหนดในกิจกรรมเนื่องจาก -
2. การวัดผลประเมินผล ในการจดั การเรียนการสอนคร้ังนี้ ครอบคลุมพฤติกรรมตามจดุ ประสงค์
การเรยี นรู้ที่กำหนดในแผนการจดั การเรยี นรู้ ผลการวดั ผลและประเมินผลสรุปได้ ดงั นี้
2.1 ด้านความรู้ (K)
2.1.1 นกั เรียนท่ีผา่ นจดุ ประสงค์ตามเกณฑ์ จำนวน 79 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
2.1.2 นักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นจุดประสงคต์ ามเกณฑ์ จำนวน - คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ -
ได้แก่
-

ไดด้ ำเนินการแกป้ ัญหา คอื

 สอนเสริม  มอบงานให้ทำเพิ่มเติม

 ทำรายงาน  อน่ื ๆ

2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)

2.1.1 นกั เรียนท่ีผ่านจุดประสงค์ตามเกณฑ์ จำนวน 79 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100

2.1.2 นกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นจุดประสงคต์ ามเกณฑ์ จำนวน - คน คิดเปน็ รอ้ ยละ -

ไดแ้ ก่

-

ได้ดำเนินการแกป้ ัญหา คือ
-

57

2.3 ดา้ นคา่ นยิ ม (A)
2.1.1 นกั เรยี นท่มี คี ่านิยมตามเกณฑ์ จำนวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 100
2.1.2 นักเรยี นท่ีตอ้ งปรับเปล่ียนคา่ นยิ ม จำนวน - คน คิดเป็นร้อยละ -

ได้แก่
-

และไดด้ ำเนินการปรับเปล่ยี นค่านยิ ม (แจงรายละเอยี ดของการปรบั เปล่ยี นคา่ นิยม) คือ
-

ปัญหาและอปุ สรรค
จากการจดั การเรยี นการสอน พบวา่ เวลาไม่เพียงพอต่อการดำเนินกิจกรรมการเรยี น

การสอน และมนี กั เรยี นบางส่วนเหมอ่ ลอย ไมใ่ ห้ความสนใจ

แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
รวบรดั กิจกรรมบางกจิ กรรมใหม้ คี วามกระชบั และหม่นั กระตนุ้ นักเรยี นใหม้ ีความตน่ื ตัว

กระตือรือร้นอย่เู สมอ

วจิ ยั ในช้นั เรยี น
ในการแกป้ ัญหานักเรียนท่ไี ม่ผา่ นด้านความรู้ ดา้ นทักษะกระบวนการ และด้านค่านิยม

จงึ ไดท้ ำการศึกษาคน้ ควา้ วิจัยในชน้ั เรียนเรอ่ื ง -

ลงชอ่ื ผ้สู อน ลงช่ือ ครูพ่เี ลีย้ ง
(นายภานเุ ดช ดิงรมั ย์) (นายไกรจักร คำบุญเรอื ง)

58

2. แบบทดสอบวัดความสามารถทางการเรยี นวรรณคดเี รอ่ื ง พระบรมราโชวาท โดยใช้
การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ของนกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3

คำชี้แจง: ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว แล้วทำเครื่องหมาย X ลงใน
กระดาษคำตอบ
1. ข้อใดไม่ไดส้ ะท้อนสภาพสังคมไทยในสมยั รัชกาลที่ 5 ท่ีปรากฏอย่ใู นพระบรมราโชวาท

ก. ความสัมพนั ธ์กับตา่ งประเทศ
ข. การเตรยี มความพร้อมเพอ่ื รบั อารยธรรมตะวนั ตก
ค. การนิยมส่งบตุ รหลานไปศกึ ษาตอ่ ต่างประเทศ
ง. ระบบบรหิ ารราชการแผ่นดนิ ที่เก่ยี วขอ้ งกบั พระราชสำนกั
2. ขอ้ ใดไม่ใช่คำตอบทีป่ รากฏในพระบรมราโชวาท
ก. ใหร้ ้จู ักการวางตน
ข. ใหร้ ูจ้ กั รักษาช่ือเสยี งของวงศ์ตระกูล
ค. ใหร้ จู้ ักการเขา้ สังคมอยา่ งตะวนั ตก
ง. ให้เหน็ ความสำคญั ของภาษาอื่น แต่ไมท่ ง้ิ ภาษาไทย
3. ข้อใดคอื จุดมงุ่ หมายในการส่งพระราชโอรสไปเรียนต่างประเทศ
ก. ไปเรียนภาษาและวิชาเลข
ข. ไปศึกษาวฒั นธรรมความเจรญิ ของประเทศในยโุ รป
ค. ไปศกึ ษาหาความรจู้ นสำเรจ็ แล้วนำความรู้มาพัฒนาประเทศ
ง. เป็นการให้สมบัติอันเปน็ ความรตู้ ิดตัวไปตลอดกาล
4. คำสอนใดทแี่ สดงให้เห็นวา่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัวทรงรักลกู เสมอกนั
ก. เพราะค่าท่เี ปน็ ลกู ของพ่อ ไมอ่ ยากจะให้มีมลทนิ
ข. การสงเคราะห์ดว้ ยเล่าเรยี นดงั น้ีเป็นดีกวา่ อย่างอน่ื ๆ
ค. อยา่ ได้ถอื ตวั ว่าเปน็ ลกู เจา้ แผน่ ดนิ พอ่ มีอำนาจยง่ิ ใหญอ่ ยใู่ นบ้านเมือง
ง. ลกู คนใดทมี่ ีสตปิ ัญญาเฉลียวฉลาดกด็ หี รือไมม่ สี ติปัญญาเฉลยี วฉลาดก็ดีก็จะตอ้ งสง่ ออก

ไปเรียนวิชาทกุ คน
5. เรือ่ งพระบรมราโชวาทนีม้ ีประโยชน์ต่อบคุ คลใดมากท่สี ุด

ก. ผู้ทีเ่ ข้ารับราชการ
ข. ชนชน้ั สงู ในสงั คมไทย
ค. ทกุ คนทป่ี ระพฤติตาม
ง. ผ้ทู ีก่ ำลังจะไปศึกษาต่อตา่ งประเทศ

59

6. ข้อกำหนดใดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดให้พระราชโอรสปฏิบัติเป็น
ประจำทกุ เดอื น

ก. เลา่ ประสบการณ์
ข. รายงานผลการเรียน
ค. เขียนจดหมายถงึ พอ่
ง. ตงั้ ใจศกึ ษาเล่าเรยี น
7. ภาษาต่างประเทศในขอ้ ใดทีร่ ัชกาลที่ 5 ทรงกำหนดให้พระราชโอรสตอ้ งเรยี น
ก. ภาษาองั กฤษ
ข. ภาษาอังกฤษ ภาษาฝร่ังเศส
ค. ภาษาองั กฤษ ภาษาเยอรมนั
ง. ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรัง่ เศส ภาษาเยอรมัน
8. ข้อใดเป็นวิชาสามัญที่รัชกาลที่ 5 ทรงกำหนดให้พระราชโอรสจำเป็นต้องเรียนรู้ได้จริง ๆ ใน
เบ้อื งตน้
ก. วชิ าภาษายโุ รปอยา่ งนอ้ ยหน่ึงภาษาและวชิ าเลข
ข. วิชาภาษายโุ รปอยา่ งน้อยสองภาษาและวิชาเลข
ค. วชิ าภาษายุโรปอย่างนอ้ ยสองภาษา วชิ าภาษาไทยและวชิ าเลข
ง. วชิ าภาษายโุ รปอยา่ งนอ้ ยสามภาษา วชิ าภาษาไทยและวิชาเลข
9. ขอ้ ใดเป็นเหตุผลสำคญั ท่ีต้องใหพ้ ระราชโอรสเรียนภาษาอ่ืนทางยโุ รป
ก. เพื่อใหท้ ดั เทยี มอารยประเทศ
ข. เพอื่ ศึกษาวิชาความรู้ทชี่ าติยโุ รปคน้ ควา้ ไว้กอ่ นแลว้
ค. เพอ่ื แสดงความสามารถของคนไทย
ง. เพ่ือให้เกิดความชำนาญและมีความสามารถหลาย ๆ ภาษา
10. ภาษาไทยและหนังสือไทยซึ่งเป็นภาษาของตัว หนังสือของตัว คงจะต้องใช้อยู่เป็นนิจ” จาก
ขอ้ ความตอนน้ี หมายความว่าอย่างไร
ก. ภาษาไทยมคี วามสำคญั กวา่ ภาษาอื่น ๆ
ข. แมจ้ ะศึกษาภาษาอนื่ ๆ ก็จะตอ้ งใช้ภาษาไทยใหก้ ว้างขวางออกไป
ค. ภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาตทิ ่ีจำเป็นต้องศกึ ษา
ง. ไมว่ า่ จะเป็นชนชาติใด กค็ วรศกึ ษาภาษาประจำชาตขิ องตนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้

60

11. “จะใช้เงินพระคลังข้างที่ คือเงินที่เป็นส่วนสิทธิ์ขาดแก่ตัวพ่อเอง" คำที่ขีดเส้นใต้หมายความว่า
อย่างไร

ก. เงินของแผ่นดนิ
ข. เงนิ ที่จ่ายเบย้ี หวดั กลางปี
ค. เงนิ ทก่ี ำหนดจา่ ยเปน็ รายปีให้แกพ่ ระบรมวงศานวุ งศ์
ง. เงนิ ส่วนที่ถวายพระมหากษตั ริยเ์ พ่ือทรงใช้ในพระราชกจิ ตา่ ง ๆ
12. เพราะเหตุใดรชั กาลที่ 5 จึงใชเ้ งนิ พระคลังขา้ งที่เพอ่ื การศึกษาแทนเงินแผน่ ดนิ
ก. เพราะ เป็นเงนิ สาํ รองสำหรับคา่ ใชจ้ ่ายเร่อื งการศึกษา
ข. เพราะ เปน็ เงนิ ของพระองค์ที่ทรงเกบ็ สะสมไว้ในท้องพระคลงั มานานแลว้
ค. เพราะ ทรงเกรงการดเิ ตียนว่าทรงมพี ระราชโอรส และพระราชธดิ ามากเกินไป
ง. เพราะ ทรงต้องการฝึกหดั ใหพ้ ระราชโอรสและพระราชธดิ าใหใ้ ช้จา่ ยอย่างสามญั ชน
13. เพราะเหตุใดรัชกาลที่ 5 จึงมีพระบรมราโชวาทแก่พระราชโอรสตอนหนึ่งว่า “เงินพระคลังข้างที่
นน่ั เองก็เปน็ ส่วนหนง่ึ ในเงินแผน่ ดินเหมือนกัน
ก. เพื่อใหท้ ุกพระองคท์ รงประหยัดในการใชจ้ ่าย
ข. เพอ่ื ใหท้ รงนึกวา่ เปน็ หน้ีบญุ คณุ แผ่นดิน
ค. เพ่อื ให้ทรงเห็นวา่ พระองค์มเี มตตาธรรม
ง. เพอ่ื ให้ทรงมีความอุตสาหะเพ่มิ มากข้ึน
14. ขอ้ ใดไมถ่ ูกต้องตามพระบรมราโชวาทเกย่ี วกบั เรื่องการใชจ้ า่ ยเงนิ
ก. จงใช้เงนิ อย่างประหยดั อยา่ ใช้จ่ายสุรุย่ สุรา่ ย
ข. จงใชเ้ งินเขม็ดแขม่ ใช้แต่เพยี งพอที่อนุญาตใหใ้ ช้
ค. จงใชเ้ งนิ เฉพาะทีแ่ ตจ่ ะรกั ษาความสขุ ขอตัวพอสมควรเทา่ น้นั
ง. จงใช้เงินให้เหมาะสมกับท่ีเป็นลกู เจา้ ฟ้าเจา้ แผ่นดิน
15. "จงอุตสาหะที่จะเรียนวิชาเข้ามาเป็นกำลังที่จะทำตัวให้ดีกว่าสัตว์ดิรัจฉาน” จากพระบรม
ราโชวาท ค่าทีขดี เส้นใตห้ มายถึงขอ้ ใด (ท 1.1 ม.3/3)
ก. ผูท้ ีถ่ อื วา่ เกิดมาเป็นเจา้ แลว้ อยนู่ ิง่ ๆ จนตลอดชีวิต
ข. ผู้ท่ีถือตวั วา่ เป็นเจา้ นายค
ค. ผู้ท่ใี ชจ้ ่ายสรุ ยุ่ สุรา่ ย
ง. ผู้ท่ีขาดความอุตสาหะในการเลา่ เรียนหนังสอื วิชาการต่าง ๆ

61

16. “สัตว์ดิรจั ฉานมนั เกิดมากิน ๆ นอน ๆ แล้วก็ตาย แตส่ ตั วบ์ างอย่างยงั มีเขามีกระดกู เปน็ ประโยชน์

ไดบ้ า้ ง” พระบรมราโชวาทตอนนีส้ อดคล้องกบั บทประพนั ธ์ในข้อใด

ก. รู้นอ้ ยวา่ มากรู้ เรงิ ใจ

กลทบเกดิ อยู่ใน สระจอ้ ย

ข. หา้ มเพลิงไวอ้ ยา่ ให้ มคี วนั

หา้ มสุรยิ แสงจนั ทร์ สอ่ งไซร้

ค. พฤษภกาสร อีกกญุ ชรอนั ปลดปลง

โททนตเ์ สนง่ คง สำคัญหมายในกายมี

ง. อันดีช่ัวตัวตายเมื่อภายหลัง ช่อื ก็ยงั ยืนอยมู่ หาย

เหมอื นดวงตาดอกประทับติดกบั กาย เป็นเคร่ืองหมายบอกทว่ั ทกุ ตัวคน

17. ถ้าจะถือว่าเกิดมาเปน็ เจ้านายแล้วนิง่ ๆ อยู่จนตลอดชีวิตก็เป็นสบาย ดังนั้นจะไม่ผดิ อันใดกับสตั ว์

ดิรัจฉานอย่างเลวนัก สัตว์ดิรัจฉานมันเกิดมากิน ๆ นอน ๆ แล้วก็ตาย” พระบรมราโชวาทตอนนี้

สะทอ้ นให้เหน็ แนวคิดตามข้อใด

ก. เกิดเปน็ คนทัง้ ทีทำดีเขา้ ไว้

ข. เกดิ เป็นคนทง้ั ทีตอ้ งใหม้ ีสขุ สบาย

ค. เกดิ เป็นคนทง้ั ทีตอ้ งมีศกั ด์ศิ รีไว้ลาย

ง. เกิดเปน็ คนท้งั ที กินดีอยดู่ ี เป็นท่ีหมาย

18. “เจา้ เกดิ มาเปน็ เจา้ นายมียศถาบรรดาศักดิ์มากจริงอยู่ แตไ่ ม่เป็นการจำเป็นเลยที่ผู้เป็นเจ้าแผ่นดิน

จะต้องใช้ราชการอันเป็นช่องทางที่จะหาเกียรติยศ ชื่อเสียง และทรัพย์สมบตั ิ พระบรม ราโชวาทที่ยก

มานี้ เนน้ คณุ ธรรมขอ้ ใดมากท่สี ุด

ก. ความเมตตา

ข. ความซ่ือสัตย์

ค. ความกตญั ญู

ง. การรับราชการ

19. “ผลประโยชน์อันใดทีจ่ ะไดอ้ ยู่ในเวลามีพ่อและไมม่ ีพ่อนัน้ จะถือเอาเป็นแนว่ ่าคงทอ่ี ยูน่ ัน้ ไมไ่ ด้ และ

ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ขึน้ ก็จะมีบ้านเรือน บุตรภรรยามากขึ้น คงต้องใช้มากขึ้น" ตามข้อความข้างต้นนี้ ผู้กล่าว

ต้องการสอนเร่ืองใด

ก. ความรจู้ ักประมาณในการใชจ้ ่าย

ข. ความไมป่ ระมาทในการครองทรพั ย์

ค. ความไม่แนน่ อนในการดำรงชวี ติ

ง. ความประหยัดในการเลีย้ งดูครอบครวั

62

20. ข้อความใดในเรอื่ งพระบรมราโชวาทที่สะทอ้ นบทบาทสำคัญทีส่ ุดของผู้ทเี่ ปน็ บดิ ามารดา
ก. อย่าไดถ้ ือตวั วา่ เปน็ ลกู เจ้าแผน่ ดิน พ่อมอี ำนาจยงิ่ ใหญใ่ นบา้ นเมือง ถึงจะเกะกะ
ไมก่ ลัว เกรงคมุ เหงผใู้ ด
ข. การซงึ่ ให้มีโอกาสและมีทุนทรัพย์ ซง่ึ จะไดเ้ ลา่ เรียนวชิ าน้ี เป็นทรัพย์มรดกอันประเสรฐิ
ดีกวา่ ทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองอื่น ๆ
ค. เงินทองท่จี ะใช้สอยในคา่ กินอยู่ น่งุ หม่ หรอื ใช้สอยเบ็ดเสรจ็ ทงั้ ปวง จงเขม็ดแขม่
ง. เม่อื ไปอย่โู รงเรียนแห่งใด จงประพฤติการใหเ้ รียบรอ้ ยตามแบบอยา่ งซ่ึงเขาตั้งลงไว้

53

เฉลยแบบทดสอบ

ตาราง 6 แสดงคำตอบของแบบทดสอบ ข้อที่ คำตอบ
11 ง
ขอ้ ที่ คำตอบ 12 ค
1ข 13 ข
2ค 14 ง
3ค 15 ก
4ง 16 ข
5ค 17 ค
6ค 18 ค
7ง 19 ง
8ค 20 ค
9ข
10 ข

ภาคผนวก ข ค่าสถิติ t-test dependent ของการเปรียบเทยี บคะแนน
ก่อนเรยี นและหลังเรียน ด้วยโปรแกรม SPSS

ภาพ 2 แสดงคา่ สถิติ t-test dependent ของการเปรยี บเทียบคะแนนก่อนเรยี นและหลังเรียน
ด้วยโปรแกรม SPSS

ประวัตผิ ้ศู ึกษาค้นคว้า

ประวัติผู้ศึกษาคน้ คว้า

ชอ่ื นามสกลุ ภานุเดช ดิงรัมย์

วัน เดือน ปี เกิด 31 มกราคม 2541

ท่อี ยู่ปจั จบุ นั 11/1 หมู่ 2 บา้ นไรด่ ง ตำบลคยุ บ้านโอง อำเภอพรานกระตา่ ย

จงั หวดั กำแพงเพชร

ทีท่ ำงานปจั จุบนั -

ตำแหน่งหนา้ ท่ปี จั จบุ ัน -

ประสบการณ์การทำงาน -

ประวตั ิการศึกษา

พ.ศ. 2559 สำเรจ็ การศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย โรงเรยี นพไิ กรวทิ ยา

จังหวัดกำแพงเพชร

ผลงานตพี มิ พ์ -


Click to View FlipBook Version