คำนำ
ตามที่สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษากาแพงเพชร เชิญชวนครูกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทยท่เี คยได้รบั การพฒั นาจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ตามแนวทางการประเมิน PISA หรอื ครูท่ีมี
ความสนใจ ส่งผลงานประกวดแผนการจัดการเรียนร้เู พ่ือส่งเสริมความสามารถการอ่านการเขียน เพื่อ
นาเสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้อนั จะก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาความสามารถดา้ นการอ่านการเขียน
ในระดบั เขตพื้นท่กี ารศึกษาต่อไปนัน้
ข้าพเจ้า นายภานุเดช ดิงรัมย์ นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มหาวิทยาลัยพะเยา เห็นว่า
แผนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การอ่านกวีนิพนธ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการรู้รายวิชาภาษาไทย 5
รหัสวิชา ท23101 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 ประจาปีการศึกษา 2564 เป็นแผนการจัด
การเรียนรู้ที่มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และมี
การวัดผลประเมินผลที่หลากหลาย สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้และตัวช้ีวัดตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้การเรียนรู้ภาษาไทย ท้ังนี้ ข้าพเจ้าได้
ปรับวธิ ีการวดั และประเมินผลตามแนวทางการประเมนิ PISA เพ่อื พฒั นาสมรรถนะทจ่ี าเปน็ ของผู้เรียน
แผนการจัดการเรียนรู้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตัดในการประกวดแผนการจัด
การเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถการอ่านการเขียน ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี หากมีข้อบกพร่อง
ประการใด ขา้ พเจ้านอ้ มรบั เพอ่ื ปรบั ปรุงแก้ไขและขออภัยมา ณ โอกาสนี้
ภานุเดช ดงิ รมั ย์
สำรบัญ
เรือ่ ง หนำ้
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ เรอ่ื ง กำรอำ่ นกวนี ิพนธ์................................................................... 1
สาระสาคญั (องค์ความรู)้ ........................................................................................... 1
สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด....................................................................... 1
ตวั ชว้ี ัดกบั สมรรถนะความฉลาดด้านการอ่าน PISA.................................................... 2
จุดประสงค์การเรียนรู้ ................................................................................................ 2
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ........................................................................................ 2
ชน้ิ งาน/ภาระงาน....................................................................................................... 2
กจิ กรรมการเรยี นรู้..................................................................................................... 3
สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้..................................................................................... 4
ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผูท้ ี่ได้รับมอบหมาย .................. 6
บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ...................................................................................... 7
ภำคผนวก ............................................................................................................................ 10
ภาคผนวก ก บทอ่าน ................................................................................................. 11
ภาคผนวก ข ใบงาน................................................................................................... 12
ภาคผนวก ค แบบทดสอบตามแนวทางการประเมิน PISA ......................................... 16
ภาคผนวก ง แบบประเมิน ......................................................................................... 19
สำรบญั ตำรำง
ตำรำง หนำ้
1 แสดงตัวชี้วดั กบั สมรรถนะความฉลาดดา้ นการอ่าน PISA .............................................. 2
2 แสดงกิจกรรมการเรยี นรู้ (ชว่ั โมงที่ 1)........................................................................... 3
2 (ต่อ) (ช่ัวโมงที่ 2) .......................................................................................................... 3
3 แสดงการวดั และประเมินผลการเรียนรู้.......................................................................... 5
1
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เร่ือง กำรอำ่ นกวีนิพนธ์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ่ี 9
กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ภำคเรยี นที่ 1 โรงเรยี นพิไกรวิทยำ
รำยวชิ ำ ท23๑๐1 ภำษำไทย 5 ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 3 ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖4
หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ 3 งำมวิถีนกั อำ่ น
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เรอื่ ง กำรอำ่ นกวนี พิ นธ์ จำนวน 2 ชั่วโมง
สอนวนั ท่ี 21-23 กรกฎำคม 2564 ผ้สู อน นำยภำนุเดช ดิงรัมย์
สำระสำคญั (องค์ควำมรู้)
กวีนิพนธ์ คือ รูปแบบทางศิลปะที่มนุษย์ใช้ภาษา เพื่อคุณประโยชน์ด้านสุนทรียะ นับเป็น
ส่วนหนึ่งของวรรณกรรม โดยเป็นคาประพันธ์ที่กวีแต่งเป็นงานเขียนท่ีมีวรรณศิลป์ เร้าให้สะเทือน
อารมณไ์ ด้ ผู้เรียนจะตอ้ งใชก้ ระบวนการอ่านจบั ใจความ อ่านตีความ อ่านเชงิ วิเคราะห์ เพ่ือประเมินค่า
ขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการอ่านกวีนิพนธ์ การนากวนี ิพนธ์มาใชเ้ ปน็ บทอ่านจะช่วยให้ผูเ้ รียนนาสาระเนื้อหาและ
วิธีการต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้การพัฒนากระบวนการคิด การให้เหตุผล ตลอดจนการทางานร่วมกัน จน
เกดิ เปน็ นิสัยรักการอ่าน
สำระ/มำตรฐำนกำรเรยี นร้แู ละตวั ชี้วัด
1. สำระท่ี 1 กำรอำ่ น
1.1 มำตรฐำน ท 1.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้
ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ัยรกั การอ่าน
1.1.1 ตวั ชว้ี ัด
ม. 3/3 ระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุนจากเร่ือง
ท่อี ่าน
ม. 3/9 ตีความและประเมินคุณค่า และแนวคิดที่ได้จากงานเขียนอย่าง
หลากหลายเพอ่ื นาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ
2
ตัวช้ีวดั กับสมรรถนะควำมฉลำดด้ำนกำรอำ่ น PISA
ตำรำง 1 แสดงตวั ชวี้ ัดกบั สมรรถนะควำมฉลำดด้ำนกำรอ่ำน PISA
ตัวชวี้ ัด สมรรถนะควำมฉลำดดำ้ นกำรอ่ำน PISA
ม. 3/3 ระบใุ จความสาคญั สมรรถนะกำรเขำ้ ถึงสำระและคน้ หำสำระ (assess and retrieve)
และรายละเอียดของข้อมูลท่ี -ระบุใจความสาคญั ท่ปี รากฏในบทอ่าน
สนบั สนนุ จากเรอ่ื งที่อา่ น -ระบุสาระของบทอ่าน
-ค้นหาความหมายของคาศพั ท์
ม. 3/9 ตีความและประเมิน สมรรถนะกำรบรู ณำกำรและตีควำม (assess and retrieve) (เข้ำใจ)
คณุ ค่า และแนวคิดทไ่ี ดจ้ าก -วิเคราะห์เจตนาของผู้เขียน
งานเขียนอย่างหลากหลาย -ตคี วาม แปลความเนอ้ื หา
เพื่อนาไปใช้แก้ปญั หาในชวี ติ -วเิ คราะหค์ ุณค่า
สมรรถนะกำรสะทอ้ นและกำรประเมิน (reflection and assessment)
-ตดั สินขอ้ มลู
จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
๑. ดำ้ นควำมรู้ (K)
-นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของคาศพั ท์ได้
๒. ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำร (P)
-นกั เรียนสามารถจบั ใจความสาคัญจากการอ่านกวีนพิ นธ์ได้
-นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหข์ ้อมลู จากการอ่านกวนี พิ นธ์ได้
๓. ดำ้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
-นกั เรียนความซ่อื สตั ย์สจุ ริต
-นักเรียนใฝเ่ รยี นรู้
-นกั เรยี นรกั ความเป็นไทย
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
ชิ้นงำน/ภำระงำน
1. ใบงานที่ 1 อ่านกวีนพิ นธ์ คน้ ใจความ
2. ใบงานที่ 2 อ่านเพื่อวิเคราะห์
3. แบบทดสอบตามแนวทางการประเมนิ PISA
3
กิจกรรมกำรเรียนรู้
ตำรำง 2 แสดงกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1
ขั้นตอน บทบำทของผสู้ อน บทบำทของผเู้ รยี น
1. สารวจเนอ้ื หา -ผู้สอนยกตัวอยา่ งบคุ คลสาคญั
ในประวตั ศิ าสตร์ ได้แก่ ท้าวสรุ นารี
-จากนน้ั สนทนากบั ผูเ้ รียนเกย่ี วกับวรี กรรม -ผเู้ รียนสนทนากบั ผสู้ อนเก่ยี วกบั วรี กรรม
ของท้าวสรุ นารี ของทา้ วสรุ นารี
-ผูส้ อนเชอื่ มโยงวรี กรรมของท้าวสรุ นารีกบั
บทบาทของสตรี เพอื่ เขา้ สบู่ ทเรียน
-นาเสนอกวนี พิ นธ์ เร่อื ง อหังการของดอกไม้ -ผู้เรียนอา่ นกวนี พิ นธ์ เร่ือง อหงั การของ
ให้ผู้เรียนอา่ นและสงั เคราะห์ใจความสาคญั ดอกไม้แลว้ สงั เคราะห์ใจความสาคญั
-ผเู้ รยี นทาใบงานท่ี 1 อ่านกวนี ิพนธ์
ค้นใจความ
2. พจิ ารณาคาศพั ท์ -ผสู้ อนแบง่ กลุม่ ผ้เู รียน -ผ้เู รียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน
-จากนน้ั ถามคาถามกระตุน้ ความคดิ -บอกความหมายของคาว่า “เสรีชน”
1) จงอธบิ ายความหมายของคาวา่ ตามความเขา้ ใจของตนเอง
“เสรีชน” ตามความเข้าใจของตนเอง
-ผู้เรียนอ่านกวีนพิ นธ์อกี ครง้ั เพอ่ื ค้นหา
คาศัพท์ยาก
-แต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิด
เพอ่ื พิจารณาและอธิบายความหมาย
ของคาศพั ท์
-ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรุปความหมาย -ผเู้ รยี นร่วมกันอภปิ ราย
จากการตีความและพิจารณาคาศพั ท์ เพื่อสรปุ ความหมายของคาศัพท์
3. จดั ลาดับขอ้ มลู -ผู้สอนให้ผเู้ รียนแตล่ ะกลุม่ ระดมความคิด -ผูเ้ รียนแต่ละกลุม่ ระดมความคิด
เพ่อื สรปุ เนอื้ หาจากการอ่านกวนี พิ นธ์ เพื่อสรุปเนอ้ื หาจากการอา่ นกวนี พิ นธ์
เรอ่ื ง อหังการของดอกไม้ อหงั การของดอกไม้
-ให้ผูเ้ รยี นแต่ละกลุ่มสรุปเนอ้ื หาจากการอ่าน -ผเู้ รียนสรุปเนอื้ หาจากการอ่านกวนี พิ นธ์
กวีนพิ นธ์ เร่อื ง อหงั การของดอกไม้ เรอ่ื ง อหงั การของดอกไม้ ลงในกระดาษ
ลงในกระดาษ A4 A4
-ให้ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอเนือ้ หาท่ีไดจ้ าก -ตวั แทนกลุ่มนาเสนอเนื้อหาที่สรปุ
การสรุป ในกระดาษ A4
-จากนนั้ รว่ มกนั สรุปเนอ้ื หาจากกวนี พิ นธ์ -ร่วมกนั สรุปเนอื้ หาจากกวนี ิพนธ์ เรือ่ ง
เร่อื ง อหงั การของดอกไม้ อหงั การของดอกไม้
4
ตำรำง 2 (ต่อ) ชั่วโมงท่ี 2
ขน้ั ตอน บทบำทของผู้สอน บทบำทของผเู้ รียน
4. พินิจ -จากนนั้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ นาเน้อื หาทไ่ี ดส้ รปุ -ผูเ้ รยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วิเคราะห์
ตามประเดน็ ดงั ตอ่ ไปน้ี
ความสมบูรณ์ มาวเิ คราะหต์ ามประเดน็ ดังตอ่ ไปน้ี 1) แนวคดิ ของผเู้ ขยี น
2) การใช้ภาษา
เนอื้ หา 1) แนวคดิ ของผเู้ ขยี น 3) บทบาทของสตรี
4) คุณคา่ ท่ีได้
2) การใช้ภาษา -ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มแสดงความคดิ เหน็ และ
โตแ้ ย้งกนั อยา่ งมีอสิ ระ
3) บทบาทของสตรี
-นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั บันทกึ ขอ้ มูล
4) คณุ คา่ ทีไ่ ด้ จากการวเิ คราะหใ์ นใบงานที่ 2
อา่ นเพอ่ื วเิ คราะห์
-เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนแตล่ ะกลุ่ม
-ผเู้ รยี นทงั้ ชัน้ เรยี นร่วมกัน
แสดงความคดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ กนั แสดงความคดิ เหน็ อภิปราย หรือ
โต้แยง้ กนั อยา่ งมีเหตผุ ล เพือ่ ประเมนิ คา่
อย่างมอี ิสระ จากการวิเคราะห์ข้อมลู จากประเดน็
ขา้ งต้น
-ให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกันบนั ทกึ ขอ้ มูล -ผ้เู รยี น (อาสาสมัคร) ออกมา
นาเสนอขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการทาใบงานที่ 1
จากการวเิ คราะหใ์ นใบงานท่ี 2 และ 2 หนา้ ชัน้ เรยี น
-ผู้เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น
อา่ นเพื่อวเิ คราะห์ อภปิ ราย และตรวจสอบความถกู ต้องของ
เนอื้ หา
5. สนทนา -ผสู้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นทงั้ ชัน้ เรยี น -นาขอ้ มูลมาปรับปรุงใบงานให้สมบูรณ์
-ผู้เรยี นทาแบบทดสอบ
แลกเปล่ยี น ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ อภิปราย หรือ ตามแนวทางการประเมนิ PISA
โต้แยง้ กันอย่างมีเหตุผล เพอ่ื ประเมินคา่
จากการวิเคราะห์ข้อมลู จากประเด็น
ขา้ งต้น
6. สรปุ งานเขียน -เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี น (อาสาสมคั ร) ออกมา
อย่างสมบรู ณ์ นาเสนอขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการทาใบงานท่ี 1
และ 2 หนา้ ช้ันเรียน
-ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั เสนอแนะ/
ปรบั ปรงุ ใบงานใหส้ มบรู ณ์
สอื่ /อุปกรณ์/แหล่งกำรเรียนรู้
1. ใบงานท่ี 1 อา่ นกวีนิพนธ์ คน้ ใจความ
2. ใบงานท่ี 2 อา่ นเพื่อวเิ คราะห์
3. แบบทดสอบตามแนวทางการประเมิน PISA
4. กวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหงั การของดอกไม้ ของ จิระนันท์ พติ รปรชี า
5
กำรวัดและประเมินผล
ตำรำง 3 แสดงกำรวัดและประเมินผลกำรจัดกำรเรยี นรู้
ดำ้ นควำมรู้ (K) วิธกี ำร เครื่องมือ เกณฑ์
โดยภาพรวม เขา้ ใจ
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ สงั เกตการตอบคาถาม กิจกรรมการเรียนการสอน รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป
-นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมาย ของนักเรียน
ของคาศพั ท์ได้ เกณฑ์
ดำ้ นทกั ษะ/กระบวนกำร (P) ถกู ต้อง รอ้ ยละ 70
ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์
จุดประสงค์กำรเรียนรู้ วิธกี ำร เครือ่ งมอื
-ประเมนิ ใบงานที่ 1 -ใบงานท่ี 1 ได้ 1 คะแนน ข้นึ ไป
-นกั เรียนสามารถจับใจความสาคญั อ่านกวีนิพนธ์ อ่านกวนี ิพนธ์ ผ่านเกณฑ์
จากการอา่ นกวีนิพนธไ์ ด้ คน้ ใจความ ค้นใจความ
-นกั เรียนสามารถวเิ คราะหข์ ้อมูล -ประเมินใบงานท่ี 2 -ใบงานที่ 2
จากการอา่ นกวีนิพนธไ์ ด้ อา่ นเพือ่ วิเคราะห์ อา่ นเพ่ือวิเคราะห์
-ตรวจแบบทดสอบ -แบบทดสอบตาม
ตามแนวทาง แนวทางการประเมนิ PISA
การประเมิน PISA
-การนาเสนอ -การนาเสนอหนา้ ช้ันเรียน ระดบั คณุ ภาพ ดี
หน้าช้ันเรียน ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑ์
ด้ำนคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ วธิ กี ำร เคร่ืองมือ เกณฑ์
-นกั เรยี นมีความซอ่ื สัตย์สุจรติ สงั เกตพฤติกรรม แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั ระดบั คณุ ภาพ ดี
-นักเรียนใฝ่เรยี นรู้ ของนักเรยี น
-นกั เรียนรกั ความเป็นไทย พงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป ผา่ นเกณฑ์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วิธกี ำร เครื่องมอื เกณฑ์
1. ความสามารถในการส่ือสาร สังเกตพฤติกรรม แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ระดบั คณุ ภาพ ดี
2. ความสามารถในการคดิ ของนกั เรียน
3. ความสามารถ ของผู้เรียน ขึ้นไป ผา่ นเกณฑ์
ในการใช้ทกั ษะชีวติ
6
ควำมเห็น/ข้อเสนอแนะของผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำหรือผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมำย
ควำมคิดเหน็ ของครพู ่เี ลย้ี ง ควำมคดิ เหน็ ของหัวหน้ำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้
ใชจ้ ดั การเรยี นการสสอนได้
แผนการจัดการเรยี นรู้มีคณุ ภาพ
สามารถใชจ้ ดั การเรียนการสอนได้
ลงชอื่ ................................................... ลงชื่อ...................................................
(นายไกรจกั ร คาบุญเรอื ง) (นางสาวสุธเนตร ถาวร)
ครูพ่เี ลยี้ ง
ตำแหนง่ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ควำมเห็นของหัวหนำ้ กลุ่มบรหิ ำรงำนวชิ ำกำร
เห็นควรอนมุ ัติ
ลงชือ่ ...................................................
(นางสาวรุ่งทิพย์ ขอนทอง)
ตำแหน่ง หวั หน้ากลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำ
อนมุ ตั ิ
ไมอ่ นุมัติ
สามารถใชจ้ ัดการเรยี นการสอนได้
ลงช่ือ...................................................
(นางสาวจุฑามาศ วงษ์เขียว)
ตำแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียนพิไกรวทิ ยา
7
บันทึกหลังกำรจดั กำรเรียนรู้
รำยวิชำ ท23๑๐1 ภำษำไทย 5 ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3/1
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ 3 งำมวิถีนกั อำ่ น
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ เร่อื ง กำรอ่ำนกวนี พิ นธ์ จำนวน 2 ช่วั โมง
สอนวันที่ 21 และ 23 กรกฎำคม 2564 ผูส้ อน นำยภำนุเดช ดงิ รมั ย์
ผลกำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ จำนวนนกั เรียน 20 คน
๑. ดำ้ นควำมรู้ (K)
-ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 80
-ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 20
2. ดำ้ นทักษะ/กระบวนกำร (P)
-ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 16 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80
-ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 4 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 20
๓. ด้ำนคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
-ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 16 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 80
-ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 20
สรุปผลหลังกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้
นกั เรยี นสว่ นใหญ่ สามารถอธบิ ายความหมายของคาศัพท์ไดถ้ กู ต้อง อีกทงั้ สามารถ
จบั ใจความสาคญั และวิเคราะห์ข้อมลู จากการอ่านกวนี ิพนธ์ได้ ตลอดจนให้ความร่วมมือ
ในการจัดการเรยี นการสอน
ปัญหำหรืออุปสรรค
นักเรยี นไมเ่ ขา้ เรียน จึงทาให้ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ
แนวทำงกำรแกไ้ ขหรอื ข้อเสนอแนะ
แจง้ ครทู ีป่ รึกษาใหด้ าเนนิ การตดิ ตามนกั เรยี น
ลงชื่อ ................................................. ลงชือ่ .................................................
(นายภานุเดช ดงิ รัมย)์ (นายไกรจกั ร คาบญุ เรือง)
ผสู้ อน ครูพ่เี ล้ยี ง
8
รำยวชิ ำ ท23๑๐1 ภำษำไทย 5 ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3/2
หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 งำมวิถีนกั อ่ำน
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ เร่อื ง กำรอำ่ นกวนี ิพนธ์ จำนวน 2 ชัว่ โมง
สอนวนั ท่ี 21 และ 22 กรกฎำคม 2564 ผู้สอน นำยภำนเุ ดช ดิงรมั ย์
ผลกำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ จำนวนนกั เรยี น 26 คน
๑. ด้ำนควำมรู้ (K)
-ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 23 คน คิดเปน็ ร้อยละ 88.46
-ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11.54
2. ดำ้ นทกั ษะ/กระบวนกำร (P)
-ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 23 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 88.46
-ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 11.54
๓. ด้ำนคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
-ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 23 คน คิดเปน็ ร้อยละ 88.46
-ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 11.54
สรุปผลหลังกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
นักเรยี นสว่ นใหญ่ สามารถอธิบายความหมายของคาศัพท์ไดถ้ กู ต้อง อีกท้ังสามารถ
จบั ใจความสาคญั และวเิ คราะห์ขอ้ มลู จากการอ่านกวนี ิพนธไ์ ด้ นักเรยี นบางสว่ นให้ความร่วมมอื
ในการจัดการเรยี นการสอน
ปัญหำหรืออุปสรรค
มนี กั เรียนบางคนไมใ่ ห้ความร่วมมอื ในการจดั การเรียนการสอน และการจัดการเรยี น
การสอนเกินเวลาทก่ี าหนด
แนวทำงกำรแกไ้ ขหรอื ข้อเสนอแนะ
สอบถามปัญหาของนกั เรยี นว่า เหตใุ ดจึงไม้ให้ความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอน
และรวบรัดเนื้อหา/ข้นั ตอนการจัดการเรียนรู้ใหม้ คี วามกระชบั ตลอดจนปรับปรงุ ข้นั ตอน
การจดั การเรียนการสอนให้ดียงิ่ ขนึ้ ต่อไป
ลงชือ่ ................................................. ลงชื่อ .................................................
(นายภานเุ ดช ดงิ รมั ย)์ (นายไกรจกั ร คาบญุ เรอื ง)
ผู้สอน ครพู ่ีเล้ยี ง
9
รำยวชิ ำ ท23๑๐1 ภำษำไทย 5 ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 3/3
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3 งำมวิถีนกั อำ่ น
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ เรื่อง กำรอ่ำนกวีนพิ นธ์ จำนวน 2 ชัว่ โมง
สอนวันท่ี 21 และ 23 กรกฎำคม 2564 ผู้สอน นำยภำนเุ ดช ดงิ รมั ย์
ผลกำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ จำนวนนกั เรียน 33 คน
๑. ดำ้ นควำมรู้ (K)
-ผ่านเกณฑ์การประเมิน 30 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 90.91
-ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 9.09
2. ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร (P)
-ผ่านเกณฑ์การประเมิน 30 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 90.91
-ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมิน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 9.09
๓. ด้ำนคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
-ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 30 คน คิดเปน็ ร้อยละ 90.91
-ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 9.09
สรุปผลหลังกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้
นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของคาศพั ท์ได้ถูกต้อง อีกท้ังสามารถจับใจความสาคัญ
และวิเคราะห์ขอ้ มูลจากการอ่านกวีนพิ นธ์ได้ นักเรยี นให้ความรว่ มมือในการจดั การเรยี นการสอน
เป็นอย่างดี
ปญั หำหรืออุปสรรค
นกั เรียนบางคนไมเ่ ขา้ ใจในบทอ่าน
แนวทำงกำรแกไ้ ขหรอื ข้อเสนอแนะ
ครูอธิบายเพิ่มเติม แนะนาแนวทางในการวิเคราะห์ ตลอดจนใหก้ าลังใจนักเรยี น
ลงชอ่ื ................................................. ลงช่อื .................................................
(นายภานุเดช ดงิ รัมย)์ (นายไกรจกั ร คาบุญเรอื ง)
ผ้สู อน ครูพเ่ี ลย้ี ง
10
ภำคผนวก
11
ภำคผนวก ก บทอ่ำน
อหงั กำรของดอกไม้
สตรมี สี องมือ มนั่ ยดึ ถือในแก่นสาร
เกลียวเอน็ จกั เปน็ งาน มใิ ช่รา่ นหลงแพรพรรณ
สตรมี สี องตีน ไวป้ ่ายปีนความใฝ่ฝนั
ยนื หยดั อยูร่ ่วมกนั มหิ มายมน่ั กนิ แรงใคร
สตรีมดี วงตา เพือ่ เสาะหาชวี ติ ใหม่
มองโลกอยา่ งกว้างไกล มิใช่คอยชะม้อยชวน
สตรมี ีดวงใจ เป็นดวงไฟมิผันผวน
สรา้ งสมพลังมวล ด้วยเธอล้วนก็คอื คน
สตรีมชี วี ิต ลา้ งรอยผิดดว้ ยเหตุผล
คณุ คา่ “เสรชี น” มใิ ชป่ รนกามารมณ์
ดอกไม้มีหนามแหลม มิใชแ่ ยม้ คอยคนชม
บานไวเ้ พ่ือสะสม ความอดุ มแหง่ แผ่นดิน
จิระนันท์ พติ รปรีชำ
12
ภำคผนวก ข ใบงำน
1. ใบงำนท่ี 1 อ่ำนกวนี ิพนธ์ ค้นใจควำม
ใบงำนท่ี 1 อ่ำนกวีนพิ นธ์ คน้ ใจควำม
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นอ่านกวีนิพนธ์ เร่อื ง อหังการของดอกไม้ และตอบคาถาม
1. ใจความสาคัญของกวนี ิพนธ์ เรอื่ ง อหงั การของดอกไม้ คืออะไร
13
เฉลย ใบงำนที่ 1 อ่ำนกวีนพิ นธ์ คน้ ใจควำม
คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านกวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหงั การของดอกไม้ และตอบคาถาม
1. ใจความสาคัญของกวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหังการของดอกไม้ คืออะไร
สตรี คอื มนษุ ยท์ ี่มมี ือ มีเทา้ มดี วงตา มีดวงใจ และมีชวี ติ
14
2. ใบงำนที่ 2 อำ่ นเพ่อื วิเครำะห์
ใบงำนท่ี 2 อ่ำนเพอ่ื วิเครำะห์
คำชีแ้ จง ให้นักเรียนอ่านกวนี ิพนธ์ เรื่อง อหังการของดอกไม้ และตอบคาถาม
1. จากกวนี พิ นธ์ เร่อื ง อหังการของดอกไม้ ผเู้ ขยี นมแี นวคิดอยา่ งไร
ในบท “อหังการของดอกไม้” กวีใช้ ดอกไม้ เปน็ สญั ลกั ษณ์แทนสตรี หรือความเป็นหญงิ
แต่ดอกไมน้ ีแ้ ทนสตรยี คุ ใหม่ ผปู้ รารถนาจะประกาศคณุ คา่ แบบใหม่ของผหู้ ญิงวา่ ไมใ่ ชเ่ ปน็ เพยี ง
เครอื่ งประดับโลกแตเ่ ปน็ ผูม้ พี ลงั สรา้ งสรรคโ์ ลกดว้ ย
2. จากกวนี ิพนธ์ เรือ่ ง อหังการของดอกไม้ มกี ารใชภ้ าษาอย่างไร
ใชภ้ าษาโดยเปรยี บผหู้ ญงิ เปน็ ดอกไมท้ ี่สวยงาม แต่มหี นามแหลม สอื่ ให้เหน็ ถึง ผูห้ ญิงมีชีวติ จิตใจ
ไม่ใชเ่ พียงเครอื่ งประดับ แตส่ ามารถพฒั นาโลกใบน้ีได้
3. จากกวีนิพนธ์ เร่อื ง อหงั การของดอกไม้ บทบาทของสตรคี วรเป็นอยา่ งไร
ควรมบี ทบาทในการพฒั นาส่ิงตา่ ง ๆ ได้ เนือ่ งจากเปน็ ผูม้ ชี วี ติ จิตใจเชน่ เดยี วกบั มนษุ ย์
ทุกคน และควรมีบทบาทในการเป็นผูน้ าแทนผชู้ ายได้
4. จากกวีนิพนธ์ เรื่อง อหงั การของดอกไม้ มีคุณค่าอย่างไร
เป็นตวั แทน เป็นส่ือของสตรี ทแ่ี สดงออกมาว่า สตรนี น้ั ไม่ใชเ่ พยี งเคร่อื งประโลมโลก
เพยี งเทา่ นนั้ หากแตส่ ตรียังมพี ลัง ทช่ี ดั เทียมกับทุกคนบนโลกใบน้ี
15
เฉลย ใบงำนที่ 2 อำ่ นเพ่ือวเิ ครำะห์
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอ่านกวนี ิพนธ์ เร่อื ง อหงั การของดอกไม้ และตอบคาถาม
1. จากกวนี ิพนธ์ เร่ือง อหงั การของดอกไม้ ผเู้ ขียนมีแนวคิดอย่างไร
ในบท “อหงั การของดอกไม้” กวีใช้ ดอกไม้ เปน็ สัญลักษณ์แทนสตรี หรอื ความเปน็ หญงิ
แตด่ อกไม้น้แี ทนสตรียุคใหม่ ผปู้ รารถนาจะประกาศคณุ คา่ แบบใหม่ของผู้หญิงวา่ ไม่ใช่เปน็ เพยี ง
เคร่อื งประดบั โลกแต่เปน็ ผมู้ พี ลงั สร้างสรรคโ์ ลกดว้ ย
2. จากกวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหงั การของดอกไม้ มีการใช้ภาษาอย่างไร
ใชภ้ าษาโดยเปรียบผูห้ ญิงเปน็ ดอกไมท้ ี่สวยงาม แต่มหี นามแหลม สอื่ ใหเ้ หน็ ถงึ ผหู้ ญิงมีชีวติ จิตใจ
ไมใ่ ชเ่ พยี งเครื่องประดบั แตส่ ามารถพฒั นาโลกใบนไ้ี ด้
3. จากกวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหงั การของดอกไม้ บทบาทของสตรีควรเป็นอย่างไร
ควรมีบทบาทในการพัฒนาสง่ิ ตา่ ง ๆ ได้ เนือ่ งจากเปน็ ผู้มชี วี ิตจติ ใจเชน่ เดียวกบั มนษุ ย์
ทุกคน และควรมีบทบาทในการเป็นผู้นาแทนผชู้ ายได้
4. จากกวนี พิ นธ์ เรอื่ ง อหังการของดอกไม้ มคี ุณคา่ อย่างไร
เป็นตวั แทน เปน็ สื่อของสตรี ทแ่ี สดงออกมาว่า สตรนี นั้ ไม่ใช่เพียงเครื่องประโลมโลก
เพยี งเทา่ น้นั หากแตส่ ตรยี งั มีพลงั ที่ชดั เทยี มกบั ทุกคนบนโลกใบนี้
16
ภำคผนวก ค แบบทดสอบตำมแนวทำงกำรประเมนิ PISA
แบบทดสอบตำมแนวทำงกำรประเมิน PISA
อหงั กำรของดอกไม้
สตรีมสี องมือ มั่นยึดถอื ในแก่นสาร
เกลยี วเอน็ จักเป็นงาน มใิ ช่รา่ นหลงแพรพรรณ
สตรมี ีสองตีน ไวป้ ่ายปีนความใฝ่ฝัน
ยืนหยดั อยู่ร่วมกัน มหิ มายมน่ั กินแรงใคร
สตรมี ดี วงตา เพื่อเสาะหาชวี ติ ใหม่
มองโลกอยา่ งกว้างไกล มิใช่คอยชะม้อยชวน
สตรมี ีดวงใจ เป็นดวงไฟมิผนั ผวน
สร้างสมพลงั มวล ด้วยเธอลว้ นก็คอื คน
สตรมี ีชีวิต ล้างรอยผิดดว้ ยเหตุผล
คุณค่า “เสรีชน” มใิ ช่ปรนกามารมณ์
ดอกไมม้ หี นามแหลม มิใชแ่ ย้มคอยคนชม
บานไว้เพ่ือสะสม ความอุดมแห่งแผน่ ดนิ
จิระนันท์ พิตรปรชี ำ
1. พจิ ารณาข้อความต่อไปนว้ี ่า ใช่ หรอื ไม่ใช่ (1 คะแนน) ใช่ ไมใ่ ช่
1.1 ข้อความทเ่ี ปน็ ความจริง ให้ทาเครื่องหมาย ในช่องใช่
1.2 ข้อความท่ีไมเ่ ป็นความจรงิ ให้ทาเคร่ืองหมาย ในช่องไม่ใช่
ประเด็น
1. บทกวนี พิ นธ์ เร่อื ง อหังการของดอกไม้ ใชถ้ ้อยคาทมี่ ีพลัง หยิง่ ทะนงตน
2. ผู้หญงิ ไมส่ ามารถทางานได้ดีเทา่ กบั ผชู้ าย
3. ผู้หญงิ ในยคุ ปัจจุบันมคี วามคิดเป็นของตนเอง ดาเนนิ ชีวิตดว้ ยตนเอง
ไมต่ อ้ งรอใหผ้ ชู้ ายมาดแู ล
2. นกั เรยี นเห็นดว้ ยกับกวีนพิ นธ์ เร่อื ง อหังการของดอกไม้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด
17
เฉลย แบบทดสอบตำมแนวทำงกำรประเมนิ PISA
อหงั กำรของดอกไม้
สตรมี ีสองมือ ม่นั ยดึ ถอื ในแก่นสาร
เกลียวเอน็ จกั เป็นงาน มิใชร่ ่านหลงแพรพรรณ
สตรีมีสองตีน ไวป้ า่ ยปนี ความใฝ่ฝนั
ยืนหยัดอยู่รว่ มกัน มหิ มายม่ันกินแรงใคร
สตรีมีดวงตา เพอื่ เสาะหาชวี ติ ใหม่
มองโลกอยา่ งกว้างไกล มใิ ช่คอยชะม้อยชวน
สตรีมีดวงใจ เปน็ ดวงไฟมผิ ันผวน
สร้างสมพลงั มวล ด้วยเธอลว้ นกค็ ือคน
สตรมี ชี วี ติ ลา้ งรอยผดิ ดว้ ยเหตุผล
คุณค่า “เสรีชน” มิใชป่ รนกามารมณ์
ดอกไม้มหี นามแหลม มใิ ช่แย้มคอยคนชม
บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแหง่ แผน่ ดิน
จิระนันท์ พติ รปรชี ำ
สถำนกำรณ์ ส่วนตวั การศกึ ษา สาธารณะ อาชพี
รูปแบบของเนอ้ื เรอ่ื ง ตอ่ เน่อื ง ไมต่ อ่ เน่ือง ผสมผสาน
สมรรถนะกำรเรยี นรเู้ ร่อื งกำรอ่ำน เข้าถึงข้อมลู ความเข้าใจ ประเมินและสะท้อน
สำระ/มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวช้ีวดั
1. สำระที่ 1 กำรอำ่ น
1.1 มำตรฐำน ท 1.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้
ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ติ และมีนิสัยรกั การอ่าน
1.1.1 ตวั ชี้วดั
ม. 3/9 ตีความและประเมนิ คุณค่า และแนวคิดที่ได้จากงานเขยี นอย่าง
รูปแบบ หลากหลายเพือ่ นาไปใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ิต
เลือกตอบ เลือกตอบเชงิ ซอ้ น
เขยี นตอบแบบปิด เขยี นตอบแบบเปิด
18
1. พจิ ารณาขอ้ ความต่อไปน้ีว่า ใช่ หรอื ไม่ใช่ (1 คะแนน) ใช่ ไมใ่ ช่
1.1 ข้อความที่เป็นความจรงิ ใหท้ าเคร่ืองหมาย ในช่องใช่
1.2 ขอ้ ความท่ีไมเ่ ปน็ ความจรงิ ให้ทาเคร่ืองหมาย ในช่องไม่ใช่
ประเดน็
1. บทกวนี ิพนธ์ เรอ่ื ง อหังการของดอกไม้ ใช้ถ้อยคาท่ีมีพลัง หยิ่งทะนงตน
2. ผูห้ ญิงไม่สามารถทางานได้ดเี ท่ากบั ผู้ชาย
3. ผหู้ ญิงในยคุ ปจั จบุ นั มีความคดิ เป็นของตนเอง ดาเนินชวี ิตดว้ ยตนเอง
ไม่ต้องรอให้ผ้ชู ายมาดแู ล
เกณฑ์
คะแนนเตม็ 1 คะแนน
-ตอบถกู ทงั้ 3 ขอ้ ไดแ้ ก่ ใช่ ไม่ใช่ และใช่ ตามลาดับ
ไม่มีคะแนน
-ตอบไม่ถกู เลย
-ตอบถกู 1-2 ข้อ
-ไมม่ ีคาตอบ
2. นักเรียนเห็นด้วยกบั กวีนิพนธ์ เรือ่ ง อหังการของดอกไม้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด แนวคำตอบ
เห็นดว้ ย เพราะในปจั จบุ ันนผี้ ้หู ญงิ และผชู้ ายมีสิทธิและเสรภี าพเท่าเทยี มกัน สามารถทางาน
เพื่อพฒั นาสงั คมและประเทศชาตไิ ด้ดีเช่นเดียวกับผู้ชาย
เกณฑ์
คะแนนเตม็ 1 คะแนน
-เห็นดว้ ย
1) ผู้หญิงและผชู้ ายมสี ทิ ธิและเสรภี าพเท่าเทยี มกัน
2) ผ้หู ญิงสามารถทางานไดด้ เี ชน่ เดยี วกบั ผชู้ าย
ไม่มคี ะแนน
-ไม่เหน็ ด้วย
-ไมม่ คี าตอบ
19
ภำคผนวก ง แบบประเมิน
1. แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน
คำชี้แจง: ให้ครูผ้สู อนประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทกี่ าหนด
แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน
ชอ่ื -สกลุ เนอื้ หำชดั เจน ควำมถูกตอ้ ง วิธ/ี ภำษำ ประโยชน์ที่ได้ รวม
ของเน้ือหำ
กลุ่มที่ ของสมำชิก ท่ใี ช้ในกำร จำกกำร 16
ท่รี ับกำรประเมิน นำเสนอ นำเสนอ คะแนน
4321432143214321
เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบำงสว่ น ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งมำก
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
เกณฑ์กำรตดั สนิ คณุ ภำพ (..................................................)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ วนั ที่............เดือน...........................พ.ศ. .................
14-16 ดีมาก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง
20
2. แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
กลุ่มสาระการเรียนรู้............................................................ภาคเรยี นที่......................ปกี ารศกึ ษา…………………………
ชื่อ-สกุลนกั เรียน..........................................................................................ชัน้ ........................เลขท่ี....................
คำชี้แจง: ให้ครผู ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน
แล้วขีด ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน
คุณลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อันพึงประสงค์ 4321
1. ซือ่ สตั ย์สจุ ริต 1.1 เข้าร่วมกจิ กรรมเพื่อแกป้ ัญหาหรอื ร่วมสรา้ งสิ่งท่ดี งี าม
ของสว่ นรวมตามสถานการณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ
ด้วยความกระตือรอื รน้
2. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ
2.2 มีการจดบนั ทกึ ความร้อู ยา่ งเปน็ ระบบ
2.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล
3. รกั ควำมเปน็ ไทย 3.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
3.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
รวมคะแนน
เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบำงครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมน้อยครัง้
เกณฑ์กำรตดั สนิ คุณภำพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภำพ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
(..................................................)
9-24 ดมี าก
วันที.่ ...........เดอื น...........................พ.ศ. .................
13-18 ดี
6-12 พอใช้
ตา่ กว่า 6 ปรับปรงุ
21
3. แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
กล่มุ สาระการเรียนรู้............................................................ภาคเรยี นที่......................ปกี ารศกึ ษา…………………………
ช่อื -สกุลนักเรียน..........................................................................................ชั้น........................เลขท่ี....................
คำชี้แจง: ให้ครูผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน
แล้วขดี ลงในช่องที่ตรงกบั ระดบั คะแนน
สมรรถนะสำคัญ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน
ของผ้เู รยี น 4321
1. ควำมสำมำรถ 1.1 มคี วามสามารถในการรับ – ส่งสาร
ในกำรสอื่ สำร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้
ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษา
อยา่ งเหมาะสม
1.3 ใช้วิธกี ารส่อื สารทเ่ี หมาะสม
1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล
1.5 เขียนบันทกึ เหตกุ ารณป์ ระจาวัน
แลว้ เล่าใหเ้ พ่ือนฟงั ได้
2. ควำมสำมำรถ 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์
ในกำรคิด 2.2 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ
2.5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเกยี่ วกับตนเองได้
3. ควำมสำมำรถ 3.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย
ในกำรใช้ทักษะชวี ิต 3.2 สามารถทางานกลมุ่ รว่ มกบั ผู้อ่ืนได้
3.3 นาความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
3.4 จดั การปญั หาและความขดั แย้งได้เหมาะสม
3.5 หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงคท์ ่ีสง่ ผลกระทบตอ่
ตนเอง
รวมคะแนน
22
เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งบำงส่วน ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมมขี อ้ บกพรอ่ งเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมำก
เกณฑก์ ำรตัดสินคณุ ภำพ ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน
(..................................................)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
วันท.่ี ...........เดอื น...........................พ.ศ. ................
40-60 ดีมาก
20-39 ดี
10-19 พอใช้
ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง
23