The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การเรียนรู้แบบร่วมมือ

เทคนิคTAI และ TGT

Keywords: เทคนิคการสอน

เทคนคิ การจดั การเรยี นรู้
แบบTAI และ TGT

v

อุไรรตั น์ ศรวี งษ์ชัย

ใบความรู้ท่ี 2 เทคนคิ วิธกี ารจดั การเรียนรู้ร่วมสมัย

เทคนิควธิ ีการจดั การเรยี นรู้รว่ มสมัยในกลมุ่ การเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning) หมายถึง การ
จัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ร่วมมือกันในกลุ่มย่อยๆ เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน ในแต่ละกลุ่ม
จะมีสมาชิกที่มีความรู้ความสามารถแตกต่างกัน ผู้เรียนแต่ละคนจะต้องร่วมมือกันในการเรียนรู้ร่วมกัน มีการ
ช่วยเหลือและแลกเปล่ียนความคิดเห็น ให้กาลังใจซ่ึงกันและกัน คนที่เก่งกว่าจะช่วยคนท่ีอ่อนกว่า สมาชิกในกลุ่ม
จะต้องร่วมกันรับผิดชอบค่อการเรียนรู้ของเพ่ือนสมาชิกทุกคนในกลุ่ม เพราะมีแนวคิดว่าความสาเร็จของสมาชิก
ทกุ คนจะรวมเปน็ ความสาเรจ็ ของกลุ่ม

เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ร่วมสมัยในกลุ่มการเรียนแบบร่วมมือ (Cooperative Learning) มีลักษณะ
สาคัญคือ เป็นการจัดการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนต้องทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม และการจัดกลุ่มของการเรียนแบบร่วมมือจะ
ให้ความสาคัญกับการจัดกลุ่มแบบคละเพศ คละความสามารถ คละเช้ือชาติฯลฯ เทคนิคการจัดกลุ่มท่ีครูผู้สอน
นิยมใช้โดยทั่วไป เช่น เกมการจัดกลุ่มโดยใชบ้ ัตรคา บัตรภาพ โดยให้ผู้เรยี นที่ได้บตั รคา บัตรภาพลักษณะเดียวกัน
มาเข้ากลุ่มกัน หรืออาจให้ผู้เรียนนับเลข 1, 2, 3, ... ผู้เรียนท่ีได้หมายเลขเดียวกันก็จัดกลุ่มอยู่ด้วยกัน การจัดกลุ่ม
ในลักษณะดังกล่าวมาน้ีนับว่าไม่เหมาะกับการจัดกลุ่มเพ่ือเรียนแบบร่วมมือ เพราะมีโอกาสที่ผู้เรียนจะไม่คละเพศ
ไมค่ ละความสามารถ ดังน้นั การจดั กล่มุ สาหรับการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือควรมุ่งเน้นในการให้กล่มุ ผ้เู รียนแต่ละ
กลุ่มมกี ารคละความสามารถเปน็ หลกั โดยท่ัวไปจะมีการแบง่ ระดบั ความสามารถเปน็ 3 ระดบั ไดแ้ ก่ เกง่ ปานกลาง
และอ่อน ซ่ึงหากพิจารณาผู้เรียนในห้องจะพบว่าเด็กเก่งและเด็กอ่อนจะมีจานวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเด็กที่มี
ความสามารถระดับปานกลาง ทาให้การจัดกลุ่มอาจมีผู้เรียนในแต่ละระดับความสามารถมากน้อยต่างกัน เช่น ใน
1 กลุ่ม มีเด็กเก่ง 1 คน ปานกลาง 3 คน และอ่อน 1 คน เป็นต้น และการได้มาซึ่งระดับความสามารถที่คละกัน
ลักษณะนี้ครูผู้สอนมีหน้าที่ในการจัดการแบ่งระดับความสามารถ เช่น การพิจารณาจากผลคะแนนการสอบเก็บ
คะแนนทผ่ี า่ นมา, การพิจารณาจากคะแนน GPA, การพิจารณาจากการสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ เปน็ ต้น

การนาเสนอเทคนคิ วธิ ีการจดั การเรยี นรรู้ ่วมสมยั ในกลุม่ การเรยี นแบบรว่ มมือในครงั้ นจ้ี ะนาเสนอ จานวน
4 เทคนคิ วิธกี ารจัดการเรยี นรู้ โดยแบ่งเป็น 2 สว่ น สว่ นท่ี 1 ได้แก่ แบบทมี ชว่ ยเหลอื ผู้เรียนรายบคุ คล (Team
Assisted Individualization: TAI) และ แบบทีมเกมแข่งขัน (Team Game Tournament: TGT) และส่วนที่ 2
ได้แก่ แบบจก้ิ ซอว์ (JIGSAW) และ แบบซีไออารซ์ ี (CIRC) ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

เทคนิควิธกี ารจัดการเรยี นรู้แบบทีมช่วยเหลอื รายบคุ คล (Team Assisted Individualization: TAI)

เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ร่วมสมัยในกลุ่มการเรียนแบบร่วมมือแบบทีมช่วยเหลือรายบุคคล (Team
Assisted Individualization: TAI) เป็นเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ท่ีใช้ในการทบทวนบทเรียนหรืออธิบาย
บทเรียน เม่ือผสู้ อนและผู้เรยี นได้อภิปรายความรู้ในบทเรยี นหรือทบทวนบทเรยี นเมื่อเข้าใจดีแล้ว ผสู้ อนจะนาแบบ

ฝึกหรือใบงานให้ผู้เรียนแต่ละคนทา เมื่อทาเสร็จแล้วให้ผเู้ รียนจบั คู่กันภายในกลุม่ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องจาก
แบบเฉลยที่ผู้สอนแจกให้และผลัดกันอธิบายสิ่งท่ีสงสัย ต่อจากนั้นผู้สอนจะทาการทดสอบพร้อมกันทุกคนและนา
คะแนนของสมาชิกของกลุ่มมารวมกนั และหาคา่ เฉลี่ย กลมุ่ ใดได้คะแนนสูงสุดจะได้รางวัลหรอื ได้รับการประกาศชื่อ
ติดปา้ ยนเิ ทศ

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้เทคนิควธิ ีการจัดการเรยี นรรู้ ่วมสมัยในกลุ่มการเรียนแบบรว่ มมือแบบทีม
ช่วยเหลือรายบคุ คล (Team Assisted Individualization: TAI) มขี ้นั ตอนการดาเนนิ การจดั การเรยี นรูด้ ังนี้

1) ผู้สอนมีการแบ่งกลุ่มผู้เรียนล่วงหน้ากลุ่มละ 4 คน ให้มีความสามารถคละกัน คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน
และให้จับคกู่ นั 2 ค่ใู นแตล่ ะกลมุ่

2) ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันอภิปรายเนื้อหาในบทเรียนหรือทบทวนบทเรียน

3) ผสู้ อนแจกแบบฝกึ หรือใบงานใหส้ มาชิกแตล่ ะคนทา

4) ผู้สอนให้จับคู่กับสมาชิกภายในกลุ่มเดียวกัน และผลัดกันตรวจคาตอบตามเฉลยพร้อมทั้งอธิบายส่ิงท่ี
สงสัยให้แก่สมาชิกทเี่ ปน็ คู่ของตนเองฟัง

5) ผ้สู อนใหผ้ เู้ รยี นที่ทาแบบฝึกหรือใบงานถูกตอ้ งไม่ถึงเกณฑ์ท่ีกาหนดก็ให้ผูเ้ รยี นในกลุ่มชว่ ยเหลือกันและ
ทาแบบฝึกหรอื ใบงานอีกครัง้

6) ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทกุ คนทาการทดสอบคร้ังสดุ ทา้ ยพร้อมกนั โดยแตล่ ะคนต่างทาแบบทดสอบของตนเอง

7) ผู้สอนนาคะแนนของผูเ้ รยี นแตล่ ะคนภายในกลุ่มรวมกนั และหาค่าเฉลีย่ จากนนั้ ประกาศผลและยกย่อง
กลมุ่ ทไ่ี ดค้ ะแนนสงู สดุ และให้กาลงั ใจกล่มุ ท่ีไดค้ ะแนนลาดับรองลงมา

เทคนิควิธกี ารจดั การเรยี นรู้แบบทมี เกมแขง่ ขัน (Team Game Tournament: TGT)

เทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้ร่วมสมัยในกลุ่มการเรียนแบบร่วมมือแบบทีมเกมแข่งขัน (Team Game
Tournament: TGT) เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสาหรับการเรียนการสอนท่ีต้องการให้กลุ่มผู้เรียนได้ศึกษา
ประเด็นหรือปัญหาท่ีมีคาตอบท่ีถูกต้องเพียงคาตอบเดียว ซ่ึงเป็นคาตอบที่ชัดเจน เช่น คณิตศาสตร์ การใช้ภาษา
ภูมิศาสตร์ แผนที่ ฯลฯ ผู้เรียนมีโอกาสได้ช่วยกันศึกษาหาคาตอบเป็นการแบ่งปันความรู้ร่วมกัน การนาเทคนิค
วิธีการจดั การเรียนรู้แบบทมี เกมแข่งขัน (Team Game Tournament: TGT) มาใช้สามารถนามาประยุกต์ได้ในแต่
ละรายวิชาตามความเหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีเป็นเนอื้ หาความรูแ้ ละมีคาตอบทช่ี ัดเจน

การจดั กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิควธิ ีการจัดการเรยี นรู้ร่วมสมยั ในกลุ่มการเรียนแบบร่วมมือแบบทีม
เกมแขง่ ขนั (Team Game Tournament: TGT) มขี น้ั ตอนการดาเนนิ การจดั การเรียนรู้ดงั น้ี

1) ผู้สอนมกี ารแบ่งกลมุ่ ผู้เรียนล่วงหนา้ กลุม่ ละ 4 คน ใหม้ ีความสามารถคละกัน คอื เก่ง ปานกลาง อ่อน

2) ผสู้ อนนาเสนอเนอื้ หาทีจ่ ะสอน และผูเ้ รยี นรว่ มกันอภปิ รายเน้อื หาในบทเรียน

3) ผู้สอนแจกแบบฝึกหรือใบงานให้สมาชิกแต่ละกลุ่ม สมาชิกแต่ละกลุ่มจะแบ่งหน้าที่และปฏิบัติตาม
หน้าที่เวียนกันไปดังน้ี คนท่ี 1 มีหน้าท่ีอ่านคาถามและแยกประเด็นท่ีโจทก์กาหนด คนท่ี 2 วิเคราะห์หาแนวทาง
ตอบคาถามอธิบายให้ได้มาซ่ึงแนวคาตอบ คนท่ี 3 รวบรวมข้อมูลและเขียนคาตอบ คนที่ 4 สรุปขั้นตอนทั้งหมด
และตรวจคาตอบ

4) ผ้สู อนจัดการแข่งขัน โดยมีโตะ๊ แขง่ ขันทม่ี ีตัวแทนแต่ละกลุ่ม เช่น คนเก่งของแตล่ ะกลุ่มจะมาแข่งขันกัน
ในโตะ๊ ท่จี ดั ไว้สาหรับคนเกง่ ส่วนปลางกลางและออ่ นกจ็ ดั ในลกั ษณะเดียวกนั

5) ผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นแจกซองคาถามใหท้ กุ โต๊ะ ซึ่งมคี าถามเท่ากบั จานวนผู้เรยี น

6) ผู้สอนให้ผู้เรียนเริ่มการแข่งขันโดยคนท่ี 1 หยิบซองคาถาม 1 ซอง เปิดอ่านคาถาม ผู้เรียนอีก 3 คน
แข่งขันกันตอบคาถาม โดยเขียนคาตอบของตนส่งให้คนอ่าน คนอ่านทาหน้าที่ให้คะแนนตามลาดับคนท่ีส่ ง
กอ่ นหลงั ดงั นี้ ตอบถูกคนแรกได้ 2 คะแนน ตอบถกู คนท2่ี ได้ 1 คะแนน ตอบผดิ ได้ 0

7) ผ้สู อนให้สมาชกิ ผลักกนั ทาหน้าทอี่ ่านคาถามจนหมดโดยทุกคนต้องไดต้ อบคาถามจานวนเทา่ กนั

8) ผู้สอนให้ทกุ คนรวมคะแนนของตนเอง จากนั้นกลับเข้ากลุ่มเดิม นาคะแนนการแข่งขันแต่ละคนในกลุ่ม
มารวมกันเปน็ คะแนนของทีม ยกยอ่ งกลุ่มท่ีได้คะแนนสงู สุดและใหก้ าลังใจกลมุ่ ท่ีได้คะแนนลาดับรองลงมา


Click to View FlipBook Version