The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by praethong906451, 2022-08-30 06:05:43

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2

อินเทอร์เน็ต
ทุกสรรพสิ่ง

(Internet of Things)

TOPICS

ความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

ความสำคัญและระดับความฉลาดในการบริการ
ของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

รูปแบบการเชื่อมต่อทุกสิ่งเข้ากับอินเทอร์เน็ต

การนำข้อมูลของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง
ไปใช้ในรูปแบบธุรกิจ

บทบาทของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งในงานด้านต่าง ๆ

ความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตกำเนิดขึ้นครั้งแรก
ในสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ. 1969 โดย
องค์กรทางทหารของสหรัฐอเมริกา
ชื่อว่า
U.S. Department of Defence
เพื่อให้มีระบบเครือข่ายที่ไม่มีวันตาย
แม้จะมีสงคราม ระบบสื่อสารถูก
ทำลายหรือตัดขาด แต่ระบบนี้ยัง
ทำงานได้ โดยถูกนิยายโดย เควิน
ว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆก็ตาม

ที่สามารถสื่อสารกันได้ก็ถือเป็น
อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งหรือไอโอที หมายถึง เครือข่ายของวัตถุ
อุปกรณ์ พาหนะ สิ่งปลูกสร้าง และสิ่งของ อื่น ๆ ที่มีวงจร
อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายฝังตัว
อยู่ และทําให้วัตถุเหล่านั้น สามารถบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งทําให้วัตถุสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและ
ถูกควบคุมได้จากระยะไกลผ่านโครงสร้าง พื้นฐานเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว ทํา
ให้สามารถผสานโลกกายภาพกับระบบคอมพิวเตอร์ได้แนบแน่นขึ้น ผลที่
ตามมา คือ ประสิทธิภาพ ความแม่นยํา และประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เพิ่ม
มากขึ้น

ความสำคัญและระดับความฉลาดในการบริการของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง

ความสําคัญของอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง คือช่วยให้ภาคธุรกิจหรือบุคคล
ทั่วไปได้รับทราบข้อมูลเชิงลึก และสามารถควบคุมข้อมูลของวัตถุและสิ่งแวดล้อมได้
ถึงร้อยละ 99 ซึ่งอยู่นอกเหนือจากการเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต และนอกจากนั้น

อแิวนดเทล้ออรม์เน็รตอทบุกตัสวรรอีพกทสัิ้่งงยยัังงสช่าวมยาใหร้ถภทาํคางธุรานกิ
หจรแือลดะํผูา้คเนนินไดก้ิจเชืก่อามรตไ่ดอ้อเขย้่าากงับมีโปลรกะสแิลทะธิสภภาาพพ

และคล่องแคล่วมากขึ้น

อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งเป็น
ตัวขับเคลื่อนบริการ อัจฉริยะใน
โดเมน (Domain) ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
ในกรณีของโดเมนเมืองอัจฉริยะที่
เกี่ยวข้องด้านการจราจรและ ขนส่ง
ได้มีการแบ่งระดับความฉลาดของ
บริการออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้

1. ระดับการเชื่อมต่อ ในระดับล่างซึ่งเป็นขั้นพื้นฐาน
(Connected Level) ที่สุดคือการเชื่อมต่อ (Connected)
หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถ
เชื่อมต่อเพื่อส่งผ่านข้อมูลระหว่างกัน
ได้ โดยระบบมีการทํางานแบบง่าย ๆ
ในลักษณะของการรวบรวมข้อมูลเพื่อ
แสดงผลหรือการควบคุมอุปกรณ์อื่น
ๆ ภายในโดเมนการประยุกต์เดียวกัน
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ด้านบ้าน
อัจฉริยะ เช่น การควบคุมการเปิด-ปิด
สวิตซ์ไฟและหน้าต่างภายในบ้านผ่าน
โทรศัพท์มือถือ

2. ระดับบูรณาการ ในความฉลาดที่สูงขึ้น
(integrated Level) มาอีกระดับคือการบูรณาการ
(integrated) จะมีการส่งผ่าน
ข้อมูลข้ามโดเมน การประยุกต์
หรือระหว่างอุปกรณ์ต่างชนิด
ที่อยู่คนละระบบ เช่น ข้อมูล
ขณะเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์
สามารถถูก ส่งต่อไปยังหน่วย
งานที่เกี่ยวข้องในทันที เช่น
สถานีตํารวจ และโรงพยาบาล
เพื่อให้มีการช่วยเหลือได้อย่าง
รวดเร็ว

3. ระดับเฉพาะบุคคล ระดับความฉลาดเฉพาะ
(Personalized Level) บุคคล หมายถึง การที่ระบบ
สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้

บริการ ให้ตอบสนองการใช้งานผู้
ใช้แต่ละคนและผู้ใช้แต่ละกลุ่ม เช่น
ในโดเมนเมืองอัจฉริยะ ผู้ใช้สามารถ
เลือกให้ระบบ รายงานสภาพจราจร
มีการแจ้งเตือนสภาพจราจรเมื่อ
รถกําลังเคลื่อนที่เข้าสู่บริเวณที่ผู้ใช้
กําหนด หรือเลือกให้ รายงานความ
คับคั่งของสภาพจราจรในเส้นทาง
ที่ใช้เป็นประจําในช่วงเวลาเฉพาะ
เป็นต้น

4. ระดับทํานายล่วงหน้า ในขั้นที่เป็นการทํานายล่วงหน้า
(Predictive Level) ระบบสามารถทํานายล่วงหน้าหรือ
พยากรณ์ถึงการเปลี่ยนแปลง ที่อาจ
เกิดขึ้น และทําการตอบสนองต่อ
สภาพแวดล้อมโดยไม่ต้องมีการก
ระทําจากผู้ใช้เป็นตัวกระตุ้น โดยอาศัย
การเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต เช่น
การใช้ข้อมูลสภาพจราจรในการทํา
นายรูปแบบและระดับความดับดังของ
จราจร ในถนนเส้นต่าง ๆ ล่วงหน้า
เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้รถ รวมถึงเป็น
แนวทางในการขยายเส้นทางเพื่อ
รองรับปริมาณรถ เป็นต้น

รูปแบบการเชื่อมต่อทุกสิ่งเข้ากับอินเทอร์เน็ต

สิ่งที่รวบรวมจัดเก็บข้อมูลและทำการส่งข้อมูล
ออกไป
สิ่งที่รับข้อมูลและนำข้อมูลไปประเมินผล
สิ่งที่ทำได้ทั้งสองอย่าง
(รวบรวมจัดเก็บข้อมูลและประเมินผลข้อมูลเอง)

1. จัดเก็บข้อมูลและส่งต่อข้อมูล

ส่วนนี้หมายถึงอุปกรณ์เซ็นเซอร์โดยที่อาจเป็นได้ทั้ง
เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ เซ็นเซอร์ตรวจจับ การเคลื่อนไหว
เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นเขตว์ตรวยวัดแสง และ
อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเซ็นเซอร์ ดังกล่าวเมื่อถูกนําไปเชื่อมต่อ
กับอินเทอร์เน็ตแล้ว จะทําให้สามารถจัดเก็บข้อมูลสภาพ
แวดล้อมได้อย่างอัตโนมัติ และรวดเร็ว จึงทําให้ตัดสินใจได้
คล่องแคล่วว่องไวขึ้น

2. รับข้อมูลและไปประเมินผล

การใช้อุปกรณ์เครื่องจักรในการรับข้อมูลและนำข้อมูลไป
ใช้ เช่น เครื่องพิมพ์เอกสารที่รับข้อมูลและทำการพิมพ์ออกมา

3. ดำเนินการได้ทั้งสองรูปแบบ

รวบรวมจัดเก็บข้อมูลและประเมินผลข้อมูลเอง เช่น ตัว
อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดค่าความชื้นได้อย่างเดียว

การนำข้อมูลของอินเทอร์เน็ตทุก
สรรพสิ่งไปใช้ในรูปแบบธุรกิจ

ข้อมูล คือ สิ่งที่มีอัตราการขยายตัวมหาศาล มีอัตรา
การเติบโตเพิ่มมากขึ้น ในแต่ละวันข้อมูลไหลเข้าออกผ่าน
ทุกทิศทาง สร้างขึ้นและส่งต่อข้อมูลจากการติดต่อทางสื่อ
สังคมออนไลน์ สมาร์ทโฟน และอีกหลายแหล่งที่มา

สำหรับธุรกิจข้อมูลมีรูปแบบ 7 หลัก ซึ่ง
สามารถนำเอาบิ๊กดาต้ามาช่วยทำให้เกิดธุรกิจได้
ดังนี้

สินค้าสั่งทำ (Build to Order)

การนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อใช้สร้างผลิตภัณฑ์สินค้า
หรือบริการที่มีความเฉพาะตัว เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้า โดยธุรกิจแบบนี้จะสร้างค่าและความพึงพอใจให้
แก่ลูกค้าได้ดี

กลุ่มสินค้า/บริการ (Service Bundle) สินค้าขายคล่อง (Plug and play)

ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่มีความเกี่ยว สินค้าขายคล่องใช้รูปแบบการขาย
เนื่องกันจะสามารถทำให้มองเห็นสินค้าและบริการที่ ผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันให้กับลูกค้าทุกคน ซึ่ง
สามารถนำมารวมกลุ่มกันได้ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสใน รูปแบบนี้จะง่ายต่อการวางกลยุทธ์ในการขาย
การขายให้มีมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถกดดันคู่แข่งได้ และการขนส่ง อีกทั้งช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี

จ่ายเมื่อใช้ (Pay per Use)

เป็นรูปแบบที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ตรง
กับความต้องการด้วยตัวเอง โดยจ่ายเงินเฉพาะที่เท่านั้น ส่ง
ผลให้กระตุ้นยอดขายได้ดี

คอมมิชชั่น (Commission) แลกเปลี่ยน (Value Exchange)

การทำธุรกิจแบบอาศัยความสัมพันธ์กับลูกค้า การลดราคาสินค้าหรืออาหารเมื่อใช้จ่าย
เช่น ธนาคารวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่มีสภาพคล่อง ผ่านบัตรเครดิต เป็นการใช้ข้อมูลวิเคราะห์
ทางการเงินสูงเป็นอันดับแรก พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิต

การสมัครสมาชิก

เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลจากบิ๊กดาต้า
เพื่อหากลุ่มลูกค้าเฉพาะในการสร้างแรง
จูงใจเพื่อสมัครสมาชิก จะทำให้เกิดรายได้ที่
แน่นอน สม่ำเสมอ

1.การจัดการพลังงานและสาธารณูปโภค บทบาทของ
(Utility Management)
อินเทอร์เน็ตทุก
อินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งถูกนำมาประยุกต์ใช้
ในลักษณะการตรวจวัดระยะไกล เช่น ระบบมาตร สรรพสิ่งในงาน
อัจฉริยะ การประยุกต์ใช้งานประเภทนี้ คือ การ ด้านต่าง ๆ
บริหารจัดการพลังงานไฟฟ้า โดยใช้ระบบโครงข่าย
ไฟฟ้าอัจฉริยะ

2.ระบบสาธารณสุขอัจฉริยะและการแพทย์
(Smart Health)

ทำได้โดยการใช้อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลสุขภาพและ
สัญญาณทางร่างกาย เช่น สัญญาณชีพจร ความดัน
โลหิต คุณภาพการนอน การเคลื่อนที่ การหายใจ ผ่าน
การใช้อุปกรณ์สวมใส่ เพื่อรวบรวมและประมวลผลออก
มาเป็นข้อมูลสุขภาพ

3. ระบบเทคโนโลยีการเงิน
(Fintech)

มีบทบาทสนับสนุนเทคโนโลยีทางการเงินได้
หลายรูปแบบ เช่น ระบบการจ่ายเงินอัตโนมัติใน
ร้านค้าปลีก ระบบการจ่ายเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่
และโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงสามารถทำงานร่วม
กับอุปกรณ์อื่นๆ

4. ระบบคมนาคมและการจัดการโลจิสติกส์แบบอัจฉริยะ
(Transportation and Logistics Intelligent

มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบคมนาคม
และการจัดการโลจิสติกส์ช่วยสนับสนุนให้มีการ
เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างยานพาหนะด้วยกัน หรือ
และระบบควบคุมการจราจรอื่น เช่น ระบบ
สัญญาณการจราจร

5. การเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
(Smart Industrial Agriculture)

อินเทอร์เน็ตนำมาใช้โดยอาศัยการ
ทำงานร่วมกันของระบบเซ็นเซอร์ที่วัด
ความชื้น ปริมาณแสงแดด อุณหภูมิ ระบบ
ฐานข้อมูลพืช ระบบให้น้ำ ระบบปรับปริมาณ
แสง ที่ทำงานสอดคล้องกันเพื่อสร้างสภาวะ
แวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของ
พืชมากที่สุด

6. อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม (Industril Internet)

นำมาใช้กับระบบอุตสาหกรรม คือ โครงข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์
เครื่องจักร เครื่องวัด และระบบการควบคุมในระบบอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน การส่งข้อมูล
ผ่านโครงข่าย จะช่วยให้อุปกรณ์และระบบการทำงานต่าง ๆ มีการทำงานที่แม่นยำ และ
สามารถทำงานสอดคล้องกัน

จบการนำเสนอ

จัดทำโดย

แพรทอง
สีทะเทพ

Praethong Seethathep

ห้อง สทค.65/1 เลขที่ 7


Click to View FlipBook Version