1 หน ่ วยท ี่6การร ้ ู จ ั กใช ้ เงน ิ ภายใต ้ หลก ัปร ั ชญาเศรษฐกจ ิ พอเพย ี ง เรียบเรียงโดย นายแวอารงค์ สาและ นายกิตติพงษ์พันธุ์มณี นางผาณิต มุสิกะ ร้อยต ารวจเอกสาธร ไหมเกตุ
1 ค าน า เน้ือหาเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาศึกษาทวั่ ไป วิชา ศท 0202 ศิลปะและทักษะการใช้ชีวิต จดัทา ข้ึนสา หรับใชป้ระกอบการเรียนการสอนสา หรับนกัศึกษาและผทู้ี่สนใจเกี่ยวกบัการวางจุดมุ่งหมายและ การจัดการชีวิต ปัญญาทางอารมณ์ หลักธรรมที่ใช้ในการด าเนินชีวิต ภาวะผู้น า การรู้จักใช้เงิน การพัฒนาตน และการเห็นคุณค่าแห่งตน สุนทรียภาพของชีวิต การเรียนรู้บุคคลในชุมชนที่เป็นแบบอยา่งการดา เนินชีวิต และ ดา รงชีวิตอย่างมีความสุข ซึงเรียบเรียงจากหนงัสื่อของอาจารยป์านดีคงสมบตัิ(ครูชา นาญการพิเศษ) จากวิทยาลัยชุมชนระนอง สถาบันวิทยาลัยชุมชนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผูเ้รียบเรียงหวงัวา่เน้ือหาเล่มจะเป็นประโยชน์ต่อผูท้ี่สนใจเพื่อใชใ้นการดา รงชีวิตประจา วนัต่อไป และขอขอบคุณ อาจารย์ปานดี คงสมบัติ (ครูช านาญการพิเศษ) จากวิทยาลัยชุมชนระนอง สถาบันวิทยาลัย ชุมชนกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจยัและนวตักรรม เป็นอย่างสูง ที่อนุเคราะห์ให้ใช้ในการ ประกอบการเรียนการสอนในคร้ังน้ี คณะผู้เรียบเรียง ธันวาคม 2565
2 หน ่ วยท ี่6การร ้ ู จก ัใช ้ เงน ิ ภายใต ้ หลก ัปร ั ชญาเศรษฐกจ ิ พอเพย ี ง 1.การรู้ชีวติรู้คา พ่อสอน –รู้ตนเอง –รู้รับรู้จ่าย เศรษฐกิจพอเพียง เป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐาน ความมนั่คงของแผ่นดิน เปรียบเสมือน เสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือน ตัวอาคาร ค าว่า พอเพียง มีความหมายว่า พอมีพอกิน แปลว่า เศรษฐกิจ พอเพียง หมายความวา่มีกินมีอยู่ไม่ฟุ่มเฟือยไม่หรูหราก็ไดแ้ต่วา่พอกิน แมว้า่บางอยา่งอาจจะดูฟุ่มเฟือยแต่ ก็ทา ให้มี ความสุข ถ้าท าไดก้ ็สมควรที่จะทา สมควรที่จะปฏิบตัิเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นแนวทางเพื่อความ ยงั่ยนืสา หรับตนเองครอบครัวและชุมชน ที่ส่งผลต่อประเทศชาติโดยแต่ละสมาชิกของสังคมไทยควรยึด หลักการ “ค าวา่พอเพียง” ดงัน้ี 1) ประหยัด ตดัทอนค่าใชจ้่ายที่ไม่จา เป็ น ลดละความฟุ่ มเฟื อย ในการด ารงชีพอยา่ง จริงจัง ไม่ฟุ้งเฟ้อไม่หวงัร่ ารวยในทางลัด 2) ประกอบอาชีพอย่างถูกต้อง สุจริต แมจ้ะตอ้งเผชิญกบัการ ทา้ทายและปัญหาที่ล่อใจใน การกา้วไปสู่สิ่งที่ตอ้งทุจริต ก็ละหรือทา ใจให้ได้ 3) ละเลิกการเบียดเบียน เลิกแก่งแยง่ผลประโยชน์และแข่งขนักนั ในทางการคา้ขายแบบ ต่อสู้กนัเองอยา่งรุนแรง และไร้ศีลธรรม 4) ขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้เกิดมีรายไดเ้พิ่มพูนข้ึนถึงข้นัพอเพียงและเป็นตวัของ ตวัเอง ที่ยดึไวว้า่แค่น้ีก็เพียงพอ ทา ให้ครอบครัว มีความสุข 5) ลดละสิ่งชั่ว ในตวัเองให้หมดไป ช่วยกนัสร้างให้หรือรังสรรค์สังคมอย่างมีศีลธรรม กา กบัมากยงิ่ข้ึน หลายคนไม่มีความสุขจากการเป็นหน้ีเพราะไม่เพียงพอ ต่อสิ่งที่อยากไดค้ือการปล่อยให้ความอยาก ได้มีอิทธิพลมากกว่าความพอเพียง ซ่ึงความสุขแบบพอเพียง (ดว้ยการไม่เป็นหน้ี) เกิดข้ึนได้ไม่ยากนกั เพียงแค่เราเริ่มมีวินัยทางการเงินกบัตนเอง แต่หากการ ดา เนินชีวิตตอ้งการ ซ่ึงปัจจยัสี่เงินไม่เพียงพอก็ สามารถก่อหน้ีได้ตามความจา เป็ น เพราะแนวคิดจากปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงสามารถ น าไปใช้เป็ น แนวทางปฏิบัติในการด าเนินชีวิตไดเ้ป็นอยา่งดีท้งัน้ีตอ้ง วิเคราะห์ตนเองและครอบครัวให้ไดโ้ดยการรู้ชีวิต รู้จกัการวเิคราะห์สิ่งที่จา เป็น ยดึหลกัแนวคิด ตามหลกัปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประกอบดว้ย 5 ส่วน ดงัน้ี ส่วนที่ 1กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ช้ีแนะแนวทางการดา รงอยู่และปฏิบตัิตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพ้ืนฐานมาจากวถิีชีวติด้งัเดิมของสังคมไทย สามารถ นา มาประยุกต์ใช้ได้ ตลอดเวลา และเป็ นการมอง
3 โลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยูต่ลอดเวลา มุ่งเนน้การรอดพน้จากภยัและวิกฤต เพื่อความมนั่คงและ ความยงั่ยนืของการ ส่วนที่ 2 คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนา มาประยุกตใ์ชก้บัการปฏิบตัิตนได้ในทุกระดบั โดยเนน้การปฏิบตัิบนทางสายกลางและการพฒันาอยา่ง เป็นข้นัตอน ส่ วนที่ 3 ค านิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ ดังน้ีความพอประมาณ หมายถึงความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และ ไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผูอ้ื่น เช่น การผลิต และ การบริโภคที่อยู่ในระดบัพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึงการตดัสินใจเกี่ยวกบัระดบัของความ พอเพียงน้นัจะตอ้ง เป็นไปอยา่งมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจยัที่เกี่ยวขอ้ง ตลอดจนคา นึงถึงผลที่คาด วา่จะ เกิดข้ึนจากการกระทา น้นัๆ อยา่งรอบคอบ การมีภูมิคุม้กนัที่ดีในตวัหมายถึงการเตรียมตวัให้พร้อม รับ ผลกระทบ และการ เปลี่ยนแปลงดา้นต่างๆ ที่จะเกิดข้ึน โดยคา นึงถึง ความเป็ นไปได้ของสถานการณ์ ต่างๆ ที่คาดวา่จะเกิดข้ึนในอนาคต ท้งัใกลแ้ละไกล ส่วนที่ 4 เงื่อนไข การตัดสินใจและการด าเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยูใ่นระดบัพอเพียงน้นัตอ้งอาศยั ท้งัความรู้และคุณธรรมเป็นพ้ืนฐาน 2 เงื่อนไข ดงัน้ี 1) เงื่อนไขความรู้ประกอบดว้ยความรอบรู้เกี่ยวกบัวชิาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยา่งรอบ ดา้น ความรอบครอบที่จะน าความรู้เหล่าน้ัน มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกนัเพื่อประกอบการวางแผน และความ ระมดัระวงั ในข้นั ปฏิบตัิ 2) เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความ ตระหนักในคุณธรรมมี ความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน และมีความเพียร ใช้สติปัญญาในการด าเนินชีวิต ส่ วนที่ 5 แนวทางปฏิบัติ/ ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการน าปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมา ประยุกต์ใช้คือการพฒันาที่สมดุลและยงั่ยืน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในทุกดา้นท้งัดา้นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ม ความรู้และเทคโนโลยี
4 “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวทางการดา รงอยู่และปฏิบตัิตนของประชาชนใน ทุกระดบั ต้งัแต่ระดบัครอบครัวระดบัชุมชนจนถึงระดบัรัฐ ท้งัในการพัฒนาและบริหารประเทศ ให้ด าเนินไป ในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวตัน์และการปรับตัวของ ประชาชน เพื่อลดตน้ทุนในการผลิตสินคา้ต่างๆ 1.1 รู้ตนเอง การวิเคราะห์ฐานะตนเองและครอบครัวได้ รู้ชีวิตต้องประเมินฐานะตนเองและครอบครัว เพื่อสะท้อน ฐานะที่แท้จริงของบุคคลและ ครอบครัว โดยพิจารณาถึงสินทรัพย์ที่มีอยู่ท้งัหมด ภาระหน้ีสินที่ตอ้งชดใชแ้ละสินทรัพยส์ ่วนที่คงเหลือเมื่อหกัดว้ย ภาระหน้ีสินแลว้หรือเรียกวา่ “ทุนตนเอง” หรือ “มูลค่า เงินทุนที่แทจริงของ ตนและครอบครัว ้ ” ซึ่งสามารถ ประเมินไดโ้ดยการ แยกหมวดรายการ สินทรัพย์หน้ีสิน และทุน ตนเอง ตามสมการหรือ วิธีการค านวณ อยา่งง่าย ดงัน้ี
5 สมการเก็บออมเพื่อความมนั่คงทางการเงิน 1.2 โอ่งชีวิต การรู้ชีวิตคือ การรู้จกัจกัตนเองและเรียนรู้ที่จะเขา้ใจตนเอง ยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดข้ึน การรู้จักตนเอง (Self-awareness) รวมถึงการรับรู้และรู้จกัความสามารถของตนเอง จะตอ้งรู้ว่าเราเป็นคน อยางไร รู้อารมณ์ของตนเอง ซึ่งจะน า ่ ไปสู่การควบคุมอารมณ์และการแสดงออกที่เหมาะสม เริ่มจากการรู้ตวั หรือการมีสติการรู้จัก ตนเองเป็ นการวางรากฐานของ ตนเองและครอบครัว รู้จักคิด รู้จักใช้ เงินทองที่หามา ได้แยกใช้แยกเก็บออม เพื่ออนาคตที่มั่นคง ดา รงตน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยอมรับสิ่งที่ ผดิพลาด และความ สามารถเท่าที่มีอยู่ต่อสู้กบัความล าบากรวมท้งัการยอมรับและเขา้ใจผูอ้ื่น จะไดอ้ยูใ่น สังคมไดอ้ย่างมีความสุขการรู้จกัตนเองตอ้งเรียนรู้ถึงแผนชีวิต สามารถคิดและจดัการ แผนชีวิตไดอ้ย่างรู้ ทิศทาง รู้ที่มาแห่งรายได้รู้แนวทางที่ต้องใช้จ่าย ที่จา เป็น มองเห็นถึงส่วนที่ต้องเก็บออม พร้อมที่จะ ด าเนินการตามแผน การควบคุมปฏิบตัิให้เป็นไปตามแผน และการประเมินผลเพื่อให้เห็น ผลอยา่งถูกต้อง และชัดเจน จึงจะสามารถน าผลที่ได้ไปใช้ประโยชน์ ในการด ารงชีวิตประจ าวนัไดอ้ย่างมีทิศทาง แผนจึง เป็นแสงไฟส่องทาง สามารถนา แผนมาเป็นเครื่องมืออุดรูรั่วของรายไดใ้นครัวเรือน ที่จะมีผล ต่อการออม และเกิดการลงทุนในครัวเรือนไดม้ากข้ึน แผนจึงเปรียบเสมือน โอ่งชีวิตที่วิเคราะห์ไดห้ลายแนวทาง ดงั ภาพ (โอ่งชีวติ) ดงัน้ี
6 หากครอบครัวเปรียบเสมือนโอ่งชีวิต สิ่งที่เกิดข้ึนในชีวิตประจา วัน จ าเป็ นต้องบันทึกเป็ น ประจ า เพื่อเป็ นแนวทางการประเมินและวิเคราะห์ ฐานะของตนเองและครอบครัว การจดบันทึก ท าให้ทราบที่มา ของเงิน และรายการที่ท าให้เงินรั่วไหลออก เมื่อนา รายการเหล่าน้ันมาประเมินและ แยกแยะออกเป็ น หมวดหมู่น าแต่ละหมวดมาวิเคราะห์จะท าให้พบสิ่งที่ดีมีค่า และสิ่งไม่ดีไม่มีราคา ต้องปรับปรุง เปลี่ยนแปลงใหม่ให้เกิดเป็น แนวทางการดา เนินชีวิตที่ดีข้ึนกว่าเดิมได้การจด บนัทึกรายการต่างๆ ใน ครัวเรือน จึงจ าเป็ นส าหรับการจัดท าแผน/เป้าหมายทางการเงินใน ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง แผน/เป้าหมาย การเงินในครัวเรือน ควรคู่กบัระบบบญัชีในครัวเรือน ซ่ึงตอ้งกา หนดรูปแบบให้มีความสอดคลอ้งกนัมีการ กา หนดรายการแยกเป็นหมวดหมู่ดา้นรายรับ รายจ่าย ที่ง่าย ต่อการจดบนัทึก ดงัน้ี 1) วิธีการจดบันทึกรายรับเป็ นเงินสด คือ รายการที่ท าใหเ้งินสดเพิ่มข้ึนหรือยอดบวก(+) 2) วิธีการจดบันทึกรายจ่ายเป็นเงินสด คือรายการที่ทา ให้เงินสดลดลงหรือยอดลบ (-) 3) สรุป เมื่อน ายอดรายรับ หกัลบ ดว้ยรายการจ่ายท้งัหมด =ยอดคงเหลือ ฐานะการเงินครอบครัว วิเคราะห์จาก สินทรัพย=์หน้ีสิน + ทุน (ทุนคือสินทรัพยค์งเหลือ เมื่อหัก ดว้ยรายการหน้ีสินท้งัหมดแลว้หรือเรียกวา่ “สินทรัพย์สุทธิ”) หากชีวิตเปรียบเสมือน “โอ่งรั่ว...ชีวิตน้นัก็ ด าเนินไปตาม ค่านิยมฟุ้งเฟ้อที่สังคมมอมเมา มีรายรับเขา้มาก็จ่ายออกไป เงินรั่วไหลเก็บไม่ไดม้องวตัถุ รอบตวัล้วนเป็นสิ่งจ าเป็ นของชีวิต ยึดติด ด้วยค่านิยม บ่อยคร้ัง หรือเป็นประจา ที่หลงติดจมปลกัอยู่กบั อบายมุข ที่ท ามาหาได้เท่าไรก็ไม่พอกิน โอ่งชีวิต จา เป็นตอ้งอุดรูรั่ว หากไม่สามารถดิ้นรนหา รายได้จาก อาชีพเสริม เพราะด าเนินชีวิต อย่างผิดๆ ถมเท่าไรก็ไม่รู้จกัเต็ม แต่ที่เห็นไดอ้ย่างชดัเจนคืองดรายจ่ายที่ไม่ จ าเป็น วิเคราะห์ก่อน ใชจ้่าย แยกรายไดส้ ่วนหน่ึงเป็นการอดออม เงินทองก็จะถูกจดัเก็บไวใ้นโอ่ง “ท ามา” ไม่ใช่“หากิน” แต่“กินจนหมดสิ้นไม่มีใหเ้หลือเก็บ”ในโอ่งชีวติ 1.3 รู้รับ-รู้จ่าย การ “รู้รับรู้จ่าย” จะแยกแยะได้ต้องใช้วิธีการคิด วิเคราะห์–แยกแยะ โดยวางแผนการใช้จ่ายเงินใน ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ การวางแผนเป็น คิดหรือคาดการณ์ไวล้่วงหน้าว่าเงินที่ได้มา จากทางไหนบ้าง จ านวนเท่าไร จะตอ้งใช้จ่ายอย่างไร แยกแยะรายจ่ายแต่ละหมวดจา นวน เท่าไร แต่ประเด็นส าคัญต้อง จดัสรรการออมไวก้่อนเป็นอนัดบัแรกการวางแผนเพื่อการจดัการเงินที่ไดม้าเพื่อใช้จ่ายออกไป เพื่อให้มี ส่วนเหลือจา นวนเท่าไรจึงตอ้งทา เป็นข้นัเป็นตอน
7 ขั้นตอนการวางแผนทางการเงินในครัวเรือน 1) ส ารวจที่มาของรายรับและรายการที่จ าเป็นจะตอ้งใชเ้งินอยา่งชดัเจนวา่ ในแต่ละวนัหรือ แต่ละเดือนจะมีรายรับเงินจากแหล่งใด 2) กา หนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของการใช้เงินที่ชัดเจน และเรียงล าดับความจ าเป็ น มากน้อยตามปริมาณเงินที่มีอยูอ่ย่างจา กดั โดยรายจ่ายใดที่มีความจ าเป็นมากก็กา หนดแนวทาง การใช้ไว้ ก่อน มีความจา เป็นนอ้ยก็จดัลา ดับด าเนินการไว้ทีหลัง 3) น าแผนและเป้าหมายมาพิจารณาจัดสรรเงินแยกตามประเภท และความจ าเป็ นของ รายจ่ายใหเ้ป็นหมวดหมู่อยา่งเหมาะสม 4) ใช้เงินตามแผนและสัดส่วนที่ไดจ้ดัสรรไวแ้ต่ละประเภทของ รายการและปริมาณตาม สัดส่วนจา นวนเงินที่กา หนดไวอ้ยา่งสอดคลอ้ง และสัมพนัธ์กบัความจา เป็ น 5) ประเมินการใช้เงินตามแผนและสัดส่วนที่ไดก้า หนดไวว้่า เป็นไปตามที่จดัลา ดับและ ปริมาณแต่ละหมวด ไดจ้่ายเงินไปมากน้อย เพียงใดและไดผ้ลประโยชน์ตามที่กา หนดไวห้รือไม่ 6) วิเคราะห์/เปรียบเทียบระหวา่งผลของการใชก้บัแผน ที่กา หนดไว้มีปริมาณการใช้ขาด เกินในแต่ละหมวดหรือแต่ละประเภท มาก-นอ้ยเท่าไร เพื่อจะไดป้รับแผนและผลของการใช้ให้เกิด ความ สมดุลและสอดคลอ้งกบัความเป็นจริงที่ถือวา่เป็นสิ่งจา เป็ นต้องใช้
8 2. การรู้การออม รู้ออมก่อนใช้–รู้ออมแบบไหน –รู้ผลตอบแทน 2.1 รู้ออมก่อนใช้การออม คือการสะสมเงินเพื่อประโยชน์ในอนาคตและยามฉุกเฉิน “การออมไม่ใช่การอด” การออมคือการ ได้ใช้เงินแน่นอนแต่เป็นการใชเ้มื่อจา เป็ นในอนาคต ท าไมต้อง “ออม” การออมเป็ นการกนัเงินที่หาไดใ้น วนัน้ีไวส้า หรับการ ลงทุนหรือการท าใหช้ีวติมนั่คงยงิ่ข้ึนในอนาคต เพราะอนาคตเป็น สิ่งที่ไม่แน่นอนและ ไม่สามารถทา นายไดว้า่อะไรจะเกิดข้ึนในวนัขา้งหนา้ 1) ความส าคัญของเงินออม เงินออมเป็ นปัจจัยที่จะท าให้เป้าหมายซ่ึงบุคคลกา หนดไว้ใน อนาคตบรรลุจุดประสงค์เช่น กา หนดเป้าหมายไวว้า่จะตอ้งมีบา้นเป็นของตนเองในอนาคตให้ได้ เงินออม จะเป็ นปัจจัยส าคญัที่กา หนดเป้าหมายที่วางไวเ้ป็นจริงข้ึนมาได้นอกจากน้ีเงินออมยงัใช้ส าหรับแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน ที่อาจเกิดข้ึนไดอ้ยา่งคาดไม่ถึงดงัน้นัจึงควรมีการออมอยา่งสม่า เสมอ 2) การออมเงินให้ส าเร็จต้องท าอย่างไร (1) กนัเงินส่วนหน่ึงไปออม เหลือเท่าไหร่ค่อยใชเ้ท่าน้นั (2) เริ่มออมใหเ้ร็วที่สุด เงินออมยงิ่ขยายขนาด (3) สร้าง “บัญชีต้องห้าม” ที่เป็ นบัญชีปิ ดตาย เพื่อการออมโดยเฉพาะ (4)กา หนดตารางการออมอยา่งมีวนัยและท า ิ จนเป็ นนิสัย. (5) เปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็ นเงินโดยใช้พรสวรรค์ (6) เปรียบเทียบหาดอกเบ้ียเงินฝากที่ดีที่สุด คนส่วนมากคุน้เคยกบัการ “ใชก้่อนออม” เพราะคุน้เคยกบัการออมที่ไดร้ับการปลูกฝัง แต่เล็กๆ วา่ ควรน าเงินเหลือจากค่าขนมในแต่ละวนัมาหยอดกระปุกเพื่อออม แทจ้ริงแลว้วิธีการ เช่นน้นัเป็นอุปสรรคต่อ การออม โดยเฉพาะในสภาวะปัจจุบันที่มีสินค้าและบริการมากมายเชิญ ชวนให้ซ้ืออยู่ตลอดเวลา ทา ให้ผู้ที่ เลือกแนวทางน้ีและไม่ความสามารถยบัย้งัใจตนเองได้จะไม่สามารถออมเงินไดอ้ยา่งต้งัใจ ส่วนอีกแนวทาง หนึ่งของการออมที่มีโอกาสสร้างวินัยในการออมสูงคือการ “ออมก่อน ใช” ้ผูท้ี่เลือกแนวทางน้ีจะเป็นการ บังคับตนเอง วา่มีเงินใช้เพียงเท่าน้ีจา เป็นตอ้งใช้ให้พอและอาจ รู้สึกอึดอดัเพราะรู้สึกว่ามีเงินใช้น้อย แต่ วิธีการน้ีเป็นการสร้างวินัยการออมที่ดี ซึ่งหากท า สม ่าเสมอก็จะทา ให้ผู้ออมรู้สึกคุ้นเคยกบัเงินที่มีอยู่และ สามารถด าเนินชีวติไปไดอ้ยา่งสบาย 3) การจัดสรรเงินออมด้วยกระปุก 4 ใบ
9 กระปุกใบที่1ไวใ้ชจ้่ายในยามฉุกเฉิน เช่น เจบ็ ป่วย ประสบอุบัติเหตุ หรือมีเหตุ จ าเป็ นต้อง ใชเ้งินเร่งด่วน เป็นตน้ กระปุกใบที่2ไวใ้ชจ้่ายสา หรับเป้าหมายระยะส้ันและระยะปานกลาง เช่น ซ้ือคอมพิวเตอร์ เรียนพิเศษ ท่องเที่ยวค่าเทอมเมื่อเรียนต่อระดบัมหาวทิยาลยัเป็นตน้ กระปุกใบที่3 ไวใ้ช้จ่ายส าหรับเป้าหมายระยะยาว เช่นเรียนต่อปริญญาโท ซ้ือบา้น ซ้ือรถ หรือเงินใชจ้่ายยามวา่งงาน เป็นตน้ กระปุกใบที่4 ไว้ใช้ส าหรับการลงทุนให้เงินออมงอกเงยเช่น การลงทุนเพื่อสร้างผลกา ไร ตอบแทน การฝากเงิน เป็ นต้น 4) รู้ออมแบบไหน (1) การฝากเงิน การฝากเงิน ถือเป็ นเรื่องส าคัญ เป็นก้าวแรกของการออมเพื่อให้ได้รับ ผลตอบแทนงอกเงยข้ึนมาก่อนจะพฒันาต่อไปสู่การลงทุน ในประเภทอื่นๆ ต่อไป ดงัน้นัจึงควรท าความ รู้จกักบัการฝากเงินวา่จะฝากแบบไหน ฝากกบัที่ได ผลตอบแทนเป็นอยา่งไรและการคุม้ครอง เงินฝาก (2) ประเภทเงินฝาก การฝากเงินในปัจจุบนัมีหลากหลายรูปแบบ มีความแตกต่างกนัท้งั ระยะเวลาในการ ฝากและอตัราดอกเบ้ีย ดงัน้นัควรทา ความรู้จกักบับญัชีเงินฝากแต่ละประเภทก่อน เพื่อที่จะ สามารถเลือกเปิ ดบัญชีเงินฝากได้ตรงตามวัตถุประสงค์หรือตามความต้องการที่แท้จริง ประเภท เงินฝาก พ้ืนฐานโดยทวั่ ไปมี3 ประเภท ดงัน้ี เงินฝากออมทรัพย์ (Saving Deposit Account) เป็นบญัชีเงินฝากที่ไม่กา หนด ระยะเวลาใน การฝากหรือถอนกา หนดยอดเงินฝากข้นต ่า ั ไวไ้ม่สูงนกัอตัราดอกเบ้ียเงินฝาก ค่อนขา้งต่า ธนาคารจะคิด ดอกเบ้ียเป็นรายวนัแต่จะสะสมยอดไวแ้ละจ่ายให้กบัผูฝ้ากปีละ 2คร้ัง ตามนโยบายของแต่ละธนาคารถา้ ไดร้ับดอกเบ้ียไม่เกิน 20,000 บาท ไม่ตอ้งเสียภาษี(ฝากกบัธ.ก.ส. ไดร้ับการยกเวน้ภาษี)เงินฝากประเภทน้ี เหมาะกบัผูท้ี่เบิกถอนบ่อยคร้ัง หรือใช้บริการหัก บัญชีเพื่อช าระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้า ค่าไฟ ค่าบตัรเครดิต และค่าใชจ้า่ยอื่นๆ เป็นตน้และควรปรับ สมุดบญัชีบ่อยๆ เพื่อตรวจสอบวา่เงินในบญัชีเหลือพอจ่ายและเงิน ที่ตดัจากบญัชีตรงกบั ใบแจง้หน้ี บัญชีเงินฝากประจ า (Fixed Deposit Account) เป็นบญัชีเงินฝากที่กา หนด ระยะเวลาฝาก แน่นอน เช่น 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี เป็นต้น การฝากแต่ละคร้ังธนาคารจะกา หนด จ านวนเงินข้นัต่า ไว้ประมาณ 1,000 - 5,000 บาท อตัราดอกเบ้ียที่จะไดร้ับจะสูงกวา่เงินฝากออม ทรัพย์แต่ดอกเบ้ียที่ไดร้ับตอ้งเสียภาษีใน อัตราร้อยละ 15 ต่อปี(ในกรณีเป็นบุคคลธรรมดา) แต่ใน กรณีที่ถอนก่อนครบกา หนดผูฝ้ากอาจไม่ไดร้ับ
10 ดอกเบ้ีย หรือไดร้ับดอกเบ้ียนอ้ยลงท้งัน้ีเป็นไปตาม เงื่อนไขที่ธนาคารกา หนดเงินฝากประเภทน้ีเหมาะกบัผู้ ที่ตอ้งการเก็บออมเพื่อเพิ่มรายไดจ้าก ดอกเบ้ียและไม่มีความจ าเป็นที่จะใชเ้งินในช่วงระยะเวลาหน่ึง เงินฝากกระแสรายวัน (Current Account) เป็นบญัชีที่มีความคล่องตวัสูง สามารถเบิก ถอนหรือโอนให้แก่บุคคลอื่นได้โดยการสั่งจ่ายเช็ค จึงเหมาะส าหรับธุรกิจที่ตอ้งการ ความสะดวกปกติ ธนาคารจะไม่ใหด้อกเบ้ียสา หรับเงินฝากประเภทน้ีเพราะถือวา่บญัชีน้ีให้ประโยชน์ทางออ้มที่ไม่เป็นตวัเงิน กบัผูฝ้ากนอกจากน้ีผูฝ้ากยงัสามารถขอเปิดวงเงินเบิกเกินบญัชีหรือวงเงิน O/D บนบญัชีน้ีได้โดยผูกู้จ้ะใช้ เงินเมื่อใดก็ไดต้ามที่ตอ้งการและธนาคารจะคิดดอกเบ้ีย เฉพาะส่วนที่เจา้ของบญัชีเบิกเกินบญัชีและเฉพาะ วนัที่มีการเบิกเกินบญัชีจริงเท่าน้นั
11 5) รู้ผลตอบแทน
12 3. การรู้ก่อนกู้เงิน 3.1 รู้คิดก่อนกู้ 1) รู้คิดก่อนตัดสินใจกู้เงิน - ต้องคิด ก่อนกู้ สิ่งที่เราจะกูเ้งินมาซ้ือหรือลงทุนน้นัจา เป็นหรือไม่สิ่งน้นัรอไดไ้หม เพราะสิ่งที่เกิดข้ึน ทนัทีเมื่อกูเ้งินคือ“ดอกเบ้ีย” ก่อนตดัสินใจกูเ้งิน ควรพิจารณาความจ าเป็นและประโยชน์สิ่ง สา คญัอีกอยา่ง คือการอุดรูรั่วค่าใชจ้่ายที่ไม่จา เป็นตามทฤษฎีโอ่งชีวติเพราะแมจ้ะมีรายได้มากเท่าไรก็จะไม่พอยงิ่มีก็ยงิ่ใช้ ยงิ่มีก็ยงิ่เป็นหน้ีตรงน้ีจึงตอ้งรู้จกัทา บัญชีประจ าเดือนหรือบญัชีครัวเรือน เพื่อให้รู้วา่รูรั่วของการใชจ้่ายอยู่ ตรงไหน แลว้จึงค่อยหาเงินหารายไดเ้พิ่ม และวางแผนกู้เงิน วางแผนชา ระหน้ีให้เหมาะสมกบัรายได้ ค่าใชจ้่ายโดยนอ้มนา แนวคิดหลกัปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ 2) การเตรียมตัวก่อนขอกู้เงิน ผกูู้จ้ะตอ้งเตรียมตวัก่อนการกูเ้งิน ดงัน้ี (1) เตรียมข้อมูลรายละเอียดสินเชื่อของสถาบนัการเงินต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบ เช่น ลกัษณะสินเชื่อที่ตอ้งการอตัราดอกเบ้ียค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าปรับกรณีชา ระล่าชา้แลว้จึง ตดัสินใจเลือก สถาบันการเงินที่เหมาะสมและได้สินเชื่อตามความต้องการ (2) เตรียมเอกสารให้พร้อม เป็นเอกสารที่เกี่ยวขอ้ง ดงัน้ี 2.1 เอกสารแสดงรายได้เช่น สลิปเงินเดือน หลกัฐานการเคลื่อนไหวของ บญัชีเงินฝาก ยอ้นหลงัอยา่งนอ้ย6 เดือน หรือ บัญชีรายรับ -รายจ่ายเป็นตน้ 2.2 เอกสารแสดงตน เช่น บตัรประชาชน ทะเบียนบา้นทะเบียนสมรส เป็นตน้ 2.3 หลักฐานอื่นๆ เช่น เอกสารแสดงหลกัประกนั (โฉนดที่ดินน.ส.3) ใบแสดง ภาษี หลักฐานแสดงเงินสมทบ เป็ นต้น
13 3) รู้ดอกเบีย้ (1) รู้จักดอกเบีย้เงินกู้สิ่งที่เกิดข้ึนทนัทีหลงัการกูเ้งิน คือ ดอกเบ้ียเงินกู้ซ่ึงเป็นเสมือนภาระ ตามมาที่เรา ตอ้งรับผดิชอบจนกวา่จะชา ระหน้ีเสร็จสิ้น (2) ประเภทของดอกเบี้ยเงินกู้โดยทั่วไป อตัราดอกเบ้ียเงินกูแ้บ่งเป็น 2 ประเภท หลักๆ ไดแ้ก่ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate) คืออตัราดอกเบ้ียที่กา หนดไว้คงที่ตลอด อายุสัญญาหรือ ในช่วงเวลาที่กา หนด อาทิกา หนดให้ช าระดอกเบ้ียร้อยละ 5 ต่อปีเป็นเวลา 10 ปี อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate)คืออตัราดอกเบ้ียที่เปลี่ยนแปลงไป ตามตน้ทุนของ ธนาคารแต่ละแห่งในช่วงเวลาต่างๆโดยจะประกาศอตัราใหม่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง วิธีการคิดดอกเบ้ียเงินกู้ การคิดดอกเบ้ียเงินกูม้ีดว้ยกนัหลายวธิีดงัน้ี 1) การคิดดอกเบ้ียเงินกูแ้บบเงินตน้คงที่(Flat Rate) ส่วนมากใชส้ าหรับการ เช่าซ้ือรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยเริ่มคิดดอกเบ้ียจากตน้เงินท้งัจา นวนและระยะเวลาในการผ่อน ชา ระท้งัหมดจากน้ัน ผู้ให้สินเชื่อจะน าดอกเบ้ียที่คา นวณได้มารวมกบัเงินตน้แลว้หาร ดว้ยจา นวนงวดที่จะผอ่ นช าระ 2) การคิดดอกเบ้ียเงินกูแ้บบลดตน้ลดดอก(Effective Rate) เป็ นการ ค านวณดอกเบ้ียใน สินเชื่อเกือบทุกประเภท การคิดดอกเบ้ียวิธีน้ีจะคิดทีละงวดจากฐานต้นเงินที่ ทยอยลดลงตามการช าระหน้ี “กฎหมายหา้มผูใ้ห้กูท้ ี่ไม่ใช่สถาบนัการเงินเรียกดอกเบ้ียเกิน ร้อยละ15 ต่อปี” หากฝ่ าฝื นมีความผิด ตาม พ.ร.บ. หา้มเรียกดอกเบ้ียเกินอตัราพ.ศ. 2475 มาตรา 3 มีโทษ จ าคุกไม่เกินหน่ึงปีหรือปรับไม่เกินหน่ึง พันบาทหรือท้งัจา ท้งัปรับ และขอ้ตกลงในส่วนดอกเบ้ียเป็น โมฆะ เสมือนหน่ึงไม่มีการตกลงเรียกดอกเบ้ีย ผูกู้จ้ึงไม่ตอ้งชา ระดอกเบ้ีย ตอ้งชา ระเพียง ตน้เงินเท่าน้นัหากตกลงกนัวา่จะตอ้งเสียดอกเบ้ีย แต่ไม่กา หนด อตัราดอกเบ้ียผใู้หกู้ค้ิดดอกเบ้ียไดเ้พียง ร้อยละ7.5 ต่อปี 4) รู้แหล่งเงินกู้ แหล่งเงินกูแ้บ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ (1) ในระบบ สถาบันการเงินในระบบ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐไดแ้ก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ. ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ธนาคารพฒันาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่ง ประเทศไทยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
14 ธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคลผู้ประกอบธุรกรรมการเงินอื่น เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทยธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรี เป็ นต้น สถาบันการเงินในระบบชุมชน ไดแ้ก่กองทุนหมู่บา้นกองทุนฟ้ืนฟูเกษตรกร กลุ่มออม ทรัพยเ์พื่อการผลิต กลุ่มสัจจะออมทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ในรูปแบบต่างๆ กลุ่มเกษตรกรโรงรับจา น า ผู้ประกอบธุรกจิทมี่ิใช่สถาบันการเงิน ซ่ึงอยภู่ายใตก้ารกา กบัดูแลของธนาคารแห่งประเทศ ไทย หรือ Non–bank ไดแ้ก่บริษทับตัรเครดิต บริษทัลิสซิ่งอิออน อีซี่บาย (2) นอกระบบ คิดดอกเบีย้ทยีุ่ติธรรม - ญาติพี่น้อง - นายทุนนอกระบบ ที่คิดดอกเบ้ียไม่เกินกฎหมายกา หนด คิดดอกเบี้ยที่ไม่ยุติธรรม นายทุนนอกระบบ ที่คิดดอกเบ้ียเกินกว่ากฎหมาย ก าหนด หลกัการพิจารณาการเลือกแหล่งเงินกู้ก่อนตดัสินใจเลือกแหล่งเงินกู้เราควรศึกษาเงื่อนไขรายละเอียดแต่ละ แหล่งอยา่งละเอียด รอบคอบ และควรเริ่มจาก - ดูเงินออมทรัพยข์องตนเองวา่มีจา นวนเท่าใด เพื่อกูเ้พิ่มเท่าที่จา เป็ น - ยมืญาติพี่นอ้ง ที่สามารถดูแลใหค้วามช่วยเหลือและไวว้างใจได้ - หากไม่พอใหข้อกูจ้ากสถาบนัการเงินในระบบต่างๆ - พึงหลีกเลี่ยงการกูเ้งินนอกระบบ 4. รู้หลกัใช้เงินกู้ เมื่อเราไดเ้งินกูม้าแลว้จะตอ้งบริหารจดัการเงินกูใ้ห้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อป้องกนัการเกิด ปัญหาภายหลังเราจะต้อง 4.1 ใช้เงินกู้ตามวตัถุประสงค์ ไม่ควรแบ่งเงินกู้ไปทา อย่างอื่น เพราะอาจทา ให้เราเหลือเงินไม่พอที่จะทา สิ่งที่ต้ังใจ และมี ประโยชน์กวา่รวมท้งอาจท า ั ใหม้ีรายไดไ้ม่พอไปชา ระหน้ีตามที่ประมาณการไวแ้ต่เดิม 4.2 เบิกเงินกู้ตามความก้าวหน้าโครงการ - ท าใหเ้ราไม่ตอ้งแบกรับภาระดอกเบ้ีย โดยที่จะไม่ไดน้า เงินกูไ้ปใช้ - ป้องกนัการเรียกคืนเงินกูจ้ากเจา้หน้ีซ่ึงอาจทา ใหไ้ดร้ับผลกระทบต่อธุรกิจที่ดา เนินการอยู่
15 4.3 จัดท าบัญชีรายรับรายจ่ายตามกจิการทขี่อกู้ ท าให้เรารู้รายรับ รายจ่าย ที่แทจ้ริงแลว้นา ไปวางแผนบริหารจดัการไดอ้ยา่งถูกตอ้งในอนาคต 4.4 มีการบริหารความเสี่ยง เพื่อป้องกนัและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดข้ึนในอนาคตเช่น การทา ประกนัภยัต่างๆ การออม การท าประกนัชีวติเป็นตน้ 5. รู้การช าระหนี้ 5.1 ต้องตรวจสอบความถูกต้องของใบแจ้งหนีทุ้กคร้ัง เช่น ต้นเงินกู้ที่ชา ระ ภาระหน้ีตามงวดกา หนดช าระ หากไม่ถูกต้องให้รีบแจ้งเจ้าหน้ีและเก็บ เอกสารไว้เป็ นหลักฐาน เป็ นต้น 5.2 ช าระหนี้ตรงเวลา การช าระหน้ีตรงเวลานอกจากท าใหเ้ราไม่เสียค่าปรับ หรืออตัราดอกเบ้ียที่เพิ่มข้ึน ยงัเป็นการรักษา ประวตัิของเราซ่ึงจะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อคร้ังต่อไปง่ายข้ึน และอาจไดร้ับ ส่วนลดอตัราดอกเบ้ียเมื่อ ได้รับใบเสร็จช าระหน้ีใหต้รวจสอบความถูกตอ้งทุกคร้ัง เช่น ยอดชา ระ หน้ีลายเซ็นผรู้ับเงิน เป็นตน้ 5.3 รีบช าระหนี้เมื่อมีเงินก้อน หากเจา้หน้ีไม่ไดค้ิดเบ้ียปรับหรือค่าใชจ้่ายอื่นๆ ในกรณีชา ระหน้ีก่อนครบกา หนด ช าระ การช าระหน้ีเพิ่มข้ึน จะช่วยลดภาระหน้ีจากตน้เงินและดอกเบ้ีย หรือกรณีมีเงินกูห้ลาย สัญญาควรเลือกชา ระหน้ีในสัญญาที่มี อตัราดอกเบ้ียสูงก่อน 5.4รีบติดต่อเจ้าหนี้เมื่อประสบปัญหาภาระจ าเป็ น เพื่อหาแนวทางแกไ้ขหน้ีเงินกูร้่วมกนัและป้องกนั ปัญหาที่จะเกิดข้ึนตามมา ตลอดจนรักษาประวัติ การช าระหน้ีเพราะการหนีหน้าเจา้หน้ีนอกจากจะไม่ช่วยแกป้ ัญหาแลว้ยงัอาจทา ให้เกิดปัญหาเพิ่มข้ึน จนถึงการฟ้องร้องเกิดคดีความ 5. แจ้งเจ้าหนีทุ้กคร้ังทเี่ปลยี่นแปลงทอี่ยู่ เพื่อป้องกนัการไม่ไดร้ับการติดต่อจากเจา้หน้ีไม่ไดร้ับใบแจง้หน้ีหรือเอกสารต่างๆ อาจทา ให้เสีย สิทธิและโอกาสในการช าระหน้ีเงินกูท้ ี่เป็นประโยชน์กบัตนเอง
16 บรรณานุกรม นางปานดีคงสมบัติ. (2564). (ศิลปะและทักษะการใช้ชีวิต). วิทยาลัยชุมชนระนอง สถาบัน วิทยาลัยชุมชน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม