The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 50768.kaowpanoo7, 2022-12-15 07:05:27

พัฒนาการด้านสังคมสมัยอยุธยา

3A9438B5-EAC6-4414-9B37-C3E717CBA374

พัฒนาการด้านสังคม

รายวิชาประวัติศาสตร์4 (ส22106)
เสนอ

ครูญานี อนันตอาจ


พัฒนาการด้านสังคม

ทุกคนรู้ไหมคะ ไม่ทราบ ไม่ครับ
พัฒนาการด้านสังคม ครับ

ในสมัยอยุธยาเป็น
อย่างไร


1. ความเป็นมาของสังคมศักดินาสมัยอยุธยา 2. ลักษณะโครงสร้างสังคมไทยสมัยอยุธยา

คำว่า “ศักดินา” หมายถึง เครื่องกำหนดสิทธิและหน้าที่ของบุคคลในสังคม เป็นการจำแนกให้เห็นถึงความแตกต่างในเรื่องสิทธิ โครงสร้างทางสังคมไทยสมัยอยุธยา มีองค์
และหน้าที่ของบุคคลตามศักดินา เช่น ผู้มีศักดินา 400 ขึ้นไปมีสิทธิ์เข้าเฝ้าได้ แต่ต่ำกว่านี้ลงมาไม่มีสิทธิ์เข้าเฝ้า ขณะเดียวกันผู้ที่มี ประกอบที่สำคัญดังต่อไปนี้

ศักดินา 400 ก็มีสิทธิ์ในการถือครองที่ดินเหนือกว่าผู้ที่มีศักดินาต่ำกว่าลงไป เป็นต้น 2.1 พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขของราชอาณาจักร พระองค์ทรงเป็นเสมือนเจ้าชีวิตของทุก
ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้ทรงตราอัยการตำแหน่งนาพลเรือนและพระอัยการตำแหน่งนาท คนในแผ่นดิน จึงเรียกว่า “เจ้าแผ่นดิน” พระองค์ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น สมมติเทพ ตามความ
หารหัวเมือง หรือที่เรียกว่า “กฎหมายศักดินา” ขึ้นมาบังคับใช้เมื่อ พ.ศ. 1997 โดยกำหนดให้บุคคลทุกประเภทในสังคมไทยที่มี เชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู นอกจากนี้ยังทรงเป็น “ธรรมราชา” เช่นเดียวกับคติความเชื่อในสมัย
ศักดินาด้วยกันทั้งสิ้นแตกต่างกันไปตามฐานะอำนาจและหน้าที่ความรับผิดชอบ ยกเว้นพระมหากษัตริย์ซึ่งมิได้ระบุศักดินา สุโขทัย เพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธศาสนูปถัมภก พระองค์จึงต้องมี ทศพิธราชธรรม 10 ปะ

เพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าศักดินาทั้งปวง การ อันเป็นข้อปฏิบัติของพระมหากษัตริย์เพื่อให้ราษฎรเกิดความผาสุกทั่วหน้า
ระบบศักดินาอำนวยประโยชน์ในการควบคุมบังคับบัญชาผู้คนตามลำดับชั้นของศักดินาและการหมอบหมายให้คนมีหน้าที่
รับผิดชอบตามที่กำหนดเอาไว้ เมื่อบุคคลทำความผิดต่อกันก็สามารถใช้เป็นหลักไหมการปรับไหมได้ เช่น ถ้าผู้มีศักดินาสูง 2.2 พระบรมวงศาสนุวงศ์ คือ บรรดาเจ้านาย ซึ่งมีลักษณะเครือญาติของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์
ทำความผิดต่อผู้ที่มีศักดินาต่ำกว่าก็จะปรับไหมตามศักดินาของผู้ที่มีศักดินาสูงกว่า ถ้าผู้ที่มีศักดินาต่ำกว่ากระทำผิดต่อผู้ที่มี นั้นๆ บรรดาเจ้านายก็มีศักดินาแตกต่างกันไปตามฐานะ เช่น สมเด็จพระอนุชาธิราชทรงศักดินา
ศักดินาสูงกว่าก็จะปรับไหมผู้ที่ทำผิดตามศักดินาสูงกว่า ทั้งนี้เพื่อป้องกันการมิให้ผู้ใหญ่รังแกผู้น้อยและมิให้ผู้น้อยละเมิดผู้ใหญ่ 20,000 แต่พระลูกเธอทรงศักดินา 15,000 เป็นต้น บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์เหล่านี้จะได้รับส่วน
แบ่งจากรายได้ภาษีอากรของแผ่นดิน โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงพระราชทานให้ ส่วนสิทธิตาม
เป็นต้น
การใช้ศักดินาเป็นตัวกำหนดความรับผิดชอบตามฐานะของบุคคลในสังคม เพราะคนไทยสมัยนั้นมี “นา” เป็นเครื่องมือ กฎหมายของเจ้านายคือ จะถูกพิจารณาคดีในศาลใดๆ ไม่ได้ นอกจากศาลของกรมวัง และจะถูกนำไป
ขายเป็นทาสไม่ได้
สำหรับยังชีพในชีวิตประจำวันทั่วทุกคน
2.3 ขุนนาง คือ บุคคลรับราชการแผ่นดินสนองเดชพระคุณของพระมหากษัตริย์ โดยขุนนางมีฐานะ
2.4 ไพร่ คือ ราษฎรทั้งหลายที่ต้องถูกเกณฑ์แรงงานให้กับราชการ ทั้งในยามปกติและ อยู่บนเกณฑ์ 4 ประการ คือ ศักดินา ยศ ราชทินนาม และตำแหน่ง เช่น เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์
ในยามสงครามไพร่จะต้องสังกัดมูลนาย ถ้าไม่มีสังกัดมูลหน้าจะมีความผิด สมุหนายก ถือศักดินา 10,000 มียศเป็นเจ้าพระยา มีพระราชทินนามว่า จักกรีศรีองครักษ์ มีตำแหน่ง

เป็นสมุหนายก เป็นต้น ขุนนางจะมีศักดินาลดหลั่นกันลงไปตามยศที่ได้รับ และได้รับการโปรดเกล้า
2.5 ทาส หมายถึง บุคคลที่มิได้มีกรรมสิทธิ์ในแรงงานและชีวิตของตนเอง แต่กลับ
แต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์เท่านั้น
เป็นของนายจนกว่าจะได้รับการไถ่ตัวให้พ้นจากความเป็นทาสนายมีสิทธิซื้อขายทาสได้
ทาสมีศักดินา 4 และถือเป็นบุคคลที่มีฐานะต่ำต้อยในสังคม



2.6 พระภิกษุสงฆ์ คือ บุคคลที่สืบทอดพระพุทธศาสนาซึ่งได้รับการยกย่องและศรัทธา
จากบุคคลทุกชนชั้น ในสังคมคมอยุธยาตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงไพร่และทาส
สามารถจะบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ได้ ดังนั้น สถาบันสงฆ์จึงมีบทบาทสำคัญในการ
ประสานกลุ่มคนในสังคมไทยให้ดำรงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข

ภาพขุนนางไทยสมัยอยุธยา ภาพวาดพระภิกษุสงฆ์สมัยอยุธยา
ในจดหมายเหตุลาลูแบร์ ในจดหมายเหตุลาลูแบร์


กล่าวโดยสรุป สภาพสังคมไทยสมัยอยุธยามีลักษณะเป็นสังคมศักดินา ซึ่ง
ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่มีความสำคัญต่อสังคมในฐานะที่แตกต่างกันออกไป
สังคมอยุธยาเป็นสังคมที่มีความเคลื่อนไหวไม่คงที่ เช่น ทาสสามารถเลื่อนฐานะ
เป็นไพร่ได้เมื่อได้รับการไถ่ตัวให้เป็นอิสระ หรือ ไพร่ก็สามารถเลื่อนขึ้นเป็นขุนนาง
ได้ เมื่อมีความสามารถทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินเป็นที่ประจักษ์ ในทางกลับ
กันถ้าขุนนางทำความผิดก็อาจถอดถอนเป็นไพร่ได้ และถ้าไพร่เป็นหนีสินจนไม่
สามารถใช้หนี้ให้นายเงินได้ก็จะตกเป็นทาสของนายเงินในที่สุด ความเคลื่อนไหว
ดังกล่าวนับเป็นลักษณะของการเลื่อนชั้นทางสังคมอันเป็นลักษณะเฉพาะของ

สังคมไทย


พัฒนาการด้านสังคม

หลังจากที่นักเรียนได้ เข้าใจครับ เข้าใจครับ
ทราบข้อมูลดังกล่าว
ไปนักเรียนเข้าใจไหม

คะ


1.ด.ช.คณพศ คชวงษ์ เลขที่1 ม.2/9
2.ด.ช.ภคิณธร หงษ์ไกร เลขที่13 ม.2/9
3.ด.ญ. ทิวาพร พากเพียร เลขที่30 ม.2/9
4.ด.ญ. แทนดาว ศิริวัฒน์ เลขที่31 ม.2/9
5.ด.ญ. สุนันท์ทา ทองบุญฤทธิ์ เลขที่39 ม.2/9


Click to View FlipBook Version