The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.5 (6281124060-นางสาววศิตา ดาราแสง-เลขที่ 26-D7)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wasita301143, 2022-05-06 00:39:39

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.5 (6281124060-นางสาววศิตา ดาราแสง-เลขที่ 26-D7)

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.5 (6281124060-นางสาววศิตา ดาราแสง-เลขที่ 26-D7)

๔๗

แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕/…..

ลาดับ ชอื่ -นามสกุล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม ผลการ
ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ (๑๐) ประเมนิ
(๓) (๓) (๓) (๑)

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

๔๘

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รียน

ช่อื -นามสกุล..................................................................ช้ัน........................เลขท่ี........................

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตัวช้ีวัด ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ใฝ่เรียนรู้ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ ม
มงุ่ มน่ั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้
ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทกี่ ารงาน

ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่อื ให้
งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ลงชือ่ ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ หรือไม่เคยปฏิบัติเลย

๔๙

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น

ช่อื -นามสกุล..................................................................ชัน้ ........................เลขท.ี่ .......................

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตวั ช้ีวัด ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร
มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด
ความสามารถในการคดิ ความเข้าใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม
ความสามารถในการใช้ ใช้วิธกี ารสื่อสารที่เหมาะสม
เทคโนโลยี วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล
มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์
มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ
มีความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยี
มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑ์การประเมนิ ผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ หรือไม่เคยปฏบิ ัติเลย

๕๐

๕๑

ตารางวิเคราะห์หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของแผนการจัดการเรยี นรู้

เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทั รี

๑. ผู้สอนนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ดังนี้

หลักพอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กันในตัวทีด่ ี
ประเดน็

เน้อื หา กาหนดเนอื้ หาได้สอดคลอ้ งกบั นักเรียนได้เรยี นรู้ตรงตาม ลาดบั เนอ้ื หาจากง่ายไปยาก

มาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั และ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด และครบถว้ น เพอื่ ให้นักเรยี นเข้าใจงา่ ย

เหมาะสมกับเวลา วยั และ บรรลุตามเป้าหมาย เกดิ การใฝเ่ รียนรู้ และเตรยี ม

ความสามารถของนกั เรยี น เนอื้ หาใหค้ รอบคลุมตาม

มาตรฐานและตวั ช้วี ัดตรง

ตามหลักสูตร

เวลา กาหนดเวลาได้เหมาะสมกบั เพื่อให้จดั กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ กาหนดเวลาไว้สารองใน

เนอ้ื หาและกจิ กรรมการเรียนรู้ ครบถว้ นตามทก่ี าหนด ตรงตาม กรณีทบ่ี างกจิ กรรมอาจจะใช้

โครงสรา้ งหลักสูตร เวลามากกว่าทก่ี าหนด

วิธกี ารจัดกจิ กรรม ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู้ เพือ่ ให้นักเรยี นไดม้ คี วามรู้ตาม มีแนวทางในการพฒั นา
แหลง่ เรยี นรู้ เหมาะสมกบั นักเรียนตามบรบิ ท มาตรฐาน ตัวชี้วดั และจัด ปรบั ปรงุ การเรียนการสอน
ส่ือ/อุปกรณ์ ท่ีแตกตา่ งใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ กิจกรรมการเรยี นรไู้ ดเ้ หมาะสม ในครง้ั ตอ่ ไป
การประเมนิ ผล กบั นักเรยี น

เลือกแหลง่ เรียนร้ทู ่เี ข้าใจงา่ ย ส่งเสริมการใชแ้ หล่งเรยี นรู้ใน มีความพรอ้ มในการจัดการ

เหมาะสมกับเนือ้ หาและความ หอ้ งเรียนและนอกห้องเรยี น เรยี นการสอน และเปน็ ไป

สนใจของนักเรยี น เพื่อใหน้ กั เรียนเข้าใจเน้อื หาได้ ตามแผนท่วี างไว้

ดีข้ึน

เลือกส่อื ทเี่ หมาะสมกับเนอื้ หา ใช้สื่อเพือ่ กระต้นุ ความสนใจของ เตรยี มส่ือหรอื อปุ กรณใ์ ห้

กิจกรรมการเรียนการสอน และ ผู้เรยี น และให้เขา้ ใจบทเรยี นได้ เหมาะสมกบั วยั ของผู้เรียน

ความสนในของนักเรยี น งา่ ยข้ึน เพอ่ื ชว่ ยสร้างความรแู้ ละ

ความเขา้ ใจมากขึ้น

ออกแบบการวดั และประเมนิ ผล ประเมินนักเรยี นตรงตามสภาพ มวี ิธีการวัดทหี่ ลากหลาย

ได้เหมาะสมกบั ตวั ชวี้ ัด เน้ือหา จริงด้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย เท่ียงตรง มคี วามเชอ่ื มนั่ ตรง

เวลา และวัยของนกั เรยี น และเหมาะสมตรงตวั ช้วี ัด ตามจุดประสงค์

ความรู้ท่ีครูจาเป็นตอ้ งมี ความรวู้ รรณคดี เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑ์มทั รี
การจดั การเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั และการวดั ประเมินผล

คณุ ธรรมของครู มีความรกั เมตตาศษิ ย์ มคี วามรบั ผิดชอบ มีความยตุ ิธรรม มีความอดทน

๕๒

๑. ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

๑.๑ ผู้เรยี นได้เรียนร้หู ลกั คิดและฝกึ ปฏิบัตติ ามหลกั ๓ ห่วง ๒ เงอื่ นไข ดังน้ี

พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู ิคุม้ กนั ในตัวทดี่ ี

๑.นักเรียนใชเ้ วลาใน ๑. นกั เรียนตระหนกั ถึง ๑. ร้จู ักการวางแผนใน

กิจกรรมการเรียนรไู้ ด้ ความสาคญั ของกิจกรรม การทางาน

เหมาะสมตามลาดบั การเรยี นรู้ ๒. รูค้ ณุ ค่าและ

ขั้นตอน และมี ๒. นกั เรยี นตระหนกั ถึง ความสาคญั ของ

หลกั พอเพียง ประสทิ ธภิ าพ คุณคา่ ของภาษาและ ภาษาไทย รวมถึง

๒. นักเรียนเลือกศึกษา วัฒนธรรมไทย และการ วฒั นธรรมทางภาษา

จากแหลง่ เรยี นรู้ได้อย่าง ใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสาร

ค้มุ คา่ ๓. นักเรยี นมคี วามรู้ และ

เกดิ ความเขา้ ใจในคุณคา่

ของภาษาไทย

ความรทู้ ตี่ ้องมีก่อนเรยี น ความรพู้ ื้นฐานเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กณั ฑ์

คุณธรรมของผูเ้ รยี น ความต้งั ใจใฝเ่ รยี นรู้ ความมุง่ ม่นั ในการทางาน ความรบั ผิดชอบและระเบียบวินยั

๑.๒ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้การใช้ชวี ติ ทส่ี มดุลและพร้อมรับการเปล่ียนแปลงใน ๔ มติ ิ ตามหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง ดังน้ี

ด้าน สมดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ

องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้
มคี วามรู้และเข้าใจ เขา้ ใจบรบิ ททาง เข้าใจบริบทอืน่ ท่ี เข้าใจบรบิ ททาง
ทกั ษะ เนื้อหาสาระวชิ า สังคมท่ีเกีย่ วข้อง ส่งผลตอ่ การใช้ วฒั นธรรมท่ี
และสามารถใช้ได้ ภาษาไทย เก่ียวขอ้ งกบั
ค่านยิ ม มีทักษะทาง อยา่ งถูกต้อง ภาษาไทย
ภาษาไทยอย่าง สามารถใช้ทักษะ สามารถปรับตัวให้ สามารถเข้าใจและ
รอบด้าน ทางภาษาไทยใน เขา้ กบั ส่งิ แวดล้อม ธารงภาษาไทยใน
การติดต่อกบั สงั คม ใหม่โดยใชภ้ าษา บรบิ ททาง
มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ ได้ เปน็ เครอื่ งมอื ได้ วัฒนธรรม
ภาษาไทยอนั เปน็ ตระหนกั ถึง ตระหนกั ถึงความ ตระหนกั และเหน็
ภาษาประจาชาติ ความสาคัญของ เกีย่ วข้องระหว่าง คุณคา่ ของ
ภาษาไทยในฐานะ สง่ิ แวดล้อมกับ วัฒนธรรมท่ี
สือ่ กลางของสังคม ภาษาไทย เกี่ยวกับภาษาไทย

๕๓

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๔

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ ชอ่ื พุทธมหาชาติ

เร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ัทรี เวลาสอน ๕๐ นาที

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน รหัสวชิ า ท ๓๒๑๐๑
ปีการศึกษา ๒๕๖๔
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๑

ผูส้ อน นางสาววศติ า ดาราแสง

๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา

ในการดาเนินชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า

และนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ
๒. ตวั ชว้ี ดั

ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ตคี วาม แปลความ และขยายความเร่ืองที่อ่าน
ท ๑.๑ ม.๔-๖/๕ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แยง้ เก่ียวกับเรื่องที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่
อยา่ งมีเหตุผล
ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น
๓. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
วรรณคดีเร่ือง มหาเวสสันดรชาดก เป็นเร่ืองราวของพระโพธิสัตว์ในพระชาติสุดท้ายก่อนตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้า ประกอบด้วยทั้งหมด ๑๓ กัณฑ์ โดยมีเนื้อหาที่สอดแทรกคุณธรรม แฝงแง่คิดเมื่ออ่าน ในระดับ
ชั้นน้ีผู้เรียนจะได้ศึกษากัณฑ์มัทรี ซ่ึงมีเน้ือหาสะท้อนให้เห็นถึงความรักของแม่ท่ีมีต่อลูก และคุณธรรมอ่ืน ๆ
ที่ปรากฏ อย่างไรก็ดี ผู้เรียนจาเป็นต้องเรียนรู้ เพ่ือจะได้นาข้อคิด และคุณธรรมดังกล่าวไปประยุ กต์ใช้
ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ของตนเองต่อไป
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ความรู้ (K)
นกั เรียนอธบิ ายความหมายของคาศัพท์ เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มทั รี ได้ถกู ตอ้ ง
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นักเรยี นเขียนคาศัพท์ เร่ือง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑ์มทั รี ไดถ้ ูกต้อง
คุณธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ ม (A)
นักเรยี นใฝ่เรียนรูแ้ ละร่วมกิจกรรมในชนั้ เรยี น

๕๔

๕. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

๑. ใฝ่เรียนรู้

๒. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

๖. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

๑. ความสามารถในการสื่อสาร

๒. ความสามารถในการคิด

๓. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

๗. ด้านคุณลักษณะของผู้เรียนตามหลกั สูตรมาตรฐานสากล

 เป็นเลิศทางวชิ าการ  ส่ือสารสองภาษา  ลา้ หน้าทางความคิด

 ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์  รว่ มกันรับผดิ ชอบต่อสังคมโลก

๘. สอดคล้องกับคา่ นิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ

๑. ใฝห่ าความรู้ หม่นั ศกึ ษาเล่าเรยี น

๒. รักษาวฒั นธรรม ประเพณีไทย

๙. สาระการเรยี นรู้

วรรณคดเี รื่อง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มทั รี

๑๐. ภาระงาน/ช้ินงานท่แี สดงผลการเรยี นรู้

-

๑๑. กิจกรรมการเรียนรู้

ขัน้ นา

๑. นักเรียนและครรู ว่ มกันทบทวนลาดับช่ือมหาเวสสันดรชาดกทงั้ ๑๓ กณั ฑ์

(โดยครูให้นักเรียนยกมือตอบตามความสมัครใจ ตามลาดับจนครบทั้งหมด แล้วจึงร่วมกันตรวจสอบ

ความถูกตอ้ ง)

ขนั้ สอน

๒. นักเรียนนาหนงั สอื เรยี นวิชาภาษาไทย วรรณคดวี จิ ักษ์ ม.๕ ขน้ึ มาเปดิ หน้า ๓๕ - ๓๘

๓. ครูอธิบายความหมายของคาศัพท์ท่ีปรากฏในเนื้อหาเร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี

โดยใช้โปรแกรมนาเสนอภาพนิง่ ประกอบการสอน เพื่อให้นกั เรียนเข้าใจความหมายของคาศพั ท์มากยิง่ ขึ้น

๔. นักเรียนทดสอบความรู้ ความเข้าใจเรื่องคาศัพท์ โดยครูให้นักเรียนร่วมกันเล่นเกมตอบคาถาม

“เปดิ ความหมาย ทายคาศพั ท์”

ขนั้ สรุป
๕. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ความรเู้ รอื่ งคาศัพท์

๕๕

๑๒. ส่อื การเรียนรแู้ ละแหล่งเรยี นรู้
๑. โปรแกรมนาเสนอภาพน่ิง วรรณคดี เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก

ตวั อยา่ งสื่อ

๒. หนังสอื เรยี นวชิ าภาษาไทย วรรณคดีวจิ ักษ์ ม.๕
๓. เกม “เปิดความหมาย ทายคาศัพท์”

๑๓. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ๕๖

ประเด็นการพิจารณา วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ
แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ความรู้ (K) การร่วมกิจกรรมใน รายบคุ คล
ระดับคุณภาพพอใช้ข้ึนไป
นักเรยี นอธบิ ายความหมายของ ชั้นเรียน การสังเกตพฤติกรรม
รายบคุ คล ระดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป
คาศัพท์ เรื่อง มหาเวสสนั ดร
แบบสงั เกตพฤติกรรม
ชาดก กัณฑ์มทั รี ไดถ้ ูกต้อง รายบคุ คล

ทักษะ/กระบวนการ (P) การสังเกตพฤติกรรม

นกั เรยี นเขยี นคาศัพท์ เร่อื ง รายบคุ คล

มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มทั รี

ไดถ้ ูกต้อง

คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ การสงั เกตพฤติกรรม

ค่านยิ ม (A) รายบุคคล

นักเรียนใฝ่เรยี นรแู้ ละรว่ ม

กิจกรรมในชั้นเรียน

๕๗

ประเด็นการพิจารณา วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การสังเกตพฤติกรรม
รายบุคคล แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพพอใช้ข้นึ ไป
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุ่งมัน่ ในการทางาน การสงั เกตพฤติกรรม อนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียน
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น รายบุคคล
แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป
๑.ความสามารถในการส่ือสาร การสงั เกตพฤติกรรม สาคญั ของผเู้ รยี น
๒.ความสามารถในการคิด รายบคุ คล
๓.ความสามารถในการใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป
เทคโนโลยี การสังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
คุณลักษณะของผเู้ รียนตาม รายบุคคล
หลักสตู รมาตรฐานสากล แบบสงั เกตพฤติกรรม
เป็นเลิศทางวิชาการ รายบุคคล
คา่ นิยมหลกั ของคนไทย ๑๒
ประการ
๑.ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศกึ ษา
เล่าเรยี น
๒. รกั ษาวัฒนธรรม
ประเพณไี ทย

๕๘

เกณฑ์การประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล

เกณฑก์ ารประเมิน ดมี าก (๓) ระดับคะแนน ควรปรบั ปรงุ (๐)
ดี (๒) พอใช้ (๑)

๑. ความตงั้ ใจใน ตง้ั ใจและมสี มาธใิ น ต้งั ใจเรยี นดี อาจมี ตัง้ ใจเรยี น แต่ ไม่ตง้ั ใจเรียน

การเรยี น การเรยี นตลอดเวลา มี บางครง้ั ท่สี นใจส่ิงอน่ื บ่อยคร้งั ที่สนใจสิ่งอนื่

การถามตอบกับ ท่ไี มเ่ ออื้ ประโยชน์ตอ่ ท่ไี มเ่ อื้อประโยชนต์ อ่

ครผู ู้สอน การเรยี น มีการถาม การเรียน ไม่มีการถาม

ตอบกบั ครูผสู้ อนบา้ ง ตอบกบั ครูผู้สอน

๒. การตอบคาถาม ใหค้ วามรว่ มมือ แสดง ใหค้ วามรว่ มมือ แสดง ให้ความร่วมมือ แสดง ไมแ่ สดงความสนใจ

ในชน้ั เรียน ความสนใจ มกี ารถาม ความสนใจ มกี ารถาม ความสนใจ มกี ารถาม ไม่มีการถามตอบหรือ

ตอบหรือแลกเปลี่ยน ตอบหรอื แลกเปลยี่ น ตอบหรือแลกเปลี่ยน แลกเปลีย่ นความคิด

ความคดิ ภายในชน้ั ความคิดภายในชน้ั ความคิดภายในชน้ั ภายในชนั้ เรียน

เรียนอย่างสมา่ เสมอ เรียนอย่างบ่อยคร้ัง เรียนบา้ ง

๓. การให้ความ ใหค้ วามร่วมมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ไมใ่ ห้ความรว่ มมือใน

รว่ มมอื ในการทา ทากจิ กรรมอยา่ งดที กุ ทากิจกรรมแต่ขาด ทากจิ กรรมแต่ขาด การทากจิ กรรมเลย

กิจกรรม ครัง้ ด้วยความเต็มใจ ความกระตอื รือรน้ เต็มใจ ตอ้ งมกี ารย้า

และมคี วาม เตอื นมากกว่า ๓ คร้ัง

กระตือรือร้น

๔. การเขา้ ชนั้ เรยี น เขา้ ชั้นเรียน ไม่เข้าชน้ั เรียน

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล

คะแนน ผลการประเมิน

๙ - ๑๐ ดีมาก

๗ - ๘ ดี

๕ - ๖ พอใช้

๐ - ๔ ควรปรบั ปรุง

(*เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ผล ตอ้ งไดผ้ ลการประเมนิ ระดับพอใชข้ ึน้ ไป)

๕๙

แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕/…..

ลาดับ ชอื่ -นามสกุล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม ผลการ
ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ (๑๐) ประเมนิ
(๓) (๓) (๓) (๑)

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

๖๐

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น

ช่อื -นามสกุล..................................................................ช้ัน........................เลขที่........................

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตัวช้ีวัด ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ใฝ่เรียนรู้ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ ม
มงุ่ มน่ั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้
ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทกี่ ารงาน

ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่อื ให้
งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ลงชือ่ ......................................................ผูป้ ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ ๐ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยครงั้ หรือไม่เคยปฏิบัติเลย

๖๑

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

ช่ือ-นามสกุล..................................................................ช้นั ........................เลขที่........................

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ตัวชี้วดั ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ความสามารถในการสือ่ สาร มคี วามสามารถในการรับ – ส่งสาร
มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ความสามารถในการคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
ความสามารถในการใช้ ใชว้ ธิ ีการส่ือสารที่เหมาะสม
เทคโนโลยี วิเคราะหแ์ สดงความคิดเห็นอย่างมีเหตผุ ล
มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์
มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ
มคี วามสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยี
มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ ๐ คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครง้ั หรือไม่เคยปฏบิ ัติเลย

๖๒

๖๓

ตารางวเิ คราะห์หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของแผนการจัดการเรยี นรู้

เร่อื ง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มัทรี

๑. ผู้สอนนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังน้ี

หลักพอเพียง พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี ูมคิ ุ้มกันในตัวทด่ี ี
ประเดน็

เนื้อหา กาหนดเนอ้ื หาไดส้ อดคลอ้ งกบั นกั เรียนไดเ้ รียนรตู้ รงตาม ลาดบั เน้อื หาจากง่ายไปยาก

มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั และ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด และ เพือ่ ให้นกั เรียนเข้าใจงา่ ย เกดิ

เหมาะสมกบั เวลา วัย และ ครบถว้ นบรรลตุ ามเป้าหมาย การใฝ่เรยี นรู้ และเตรียม

ความสามารถของนกั เรยี น เนอื้ หาใหค้ รอบคลมุ ตาม

มาตรฐานและตวั ช้ีวดั ตรงตาม

หลกั สตู ร

เวลา กาหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับ เพือ่ ใหจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กาหนดเวลาไว้สารองในกรณีท่ี

เนือ้ หาและกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดค้ รบถว้ นตามที่กาหนด ตรง บางกจิ กรรมอาจจะใช้เวลา

ตามโครงสรา้ งหลกั สูตร มากกว่าทก่ี าหนด

วิธีการจัดกิจกรรม ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้มีความรู้ตาม มแี นวทางในการพฒั นา
เหมาะสมกบั นกั เรียนตาม มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั และจดั ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนใน
แหล่งเรียนรู้ บริบททแ่ี ตกตา่ งใหบ้ รรลุ กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้ ครงั้ ตอ่ ไป
ส่ือ/อุปกรณ์ วัตถปุ ระสงค์ เหมาะสมกบั นักเรียน
การประเมินผล
ความรทู้ ีค่ รจู าเปน็ ตอ้ งมี เลือกแหล่งเรียนร้ทู เ่ี ขา้ ใจง่าย ส่งเสรมิ การใช้แหล่งเรียนรู้ใน มีความพรอ้ มในการจัดการ
คณุ ธรรมของครู
เหมาะสมกับเน้ือหาและความ หอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน เรยี นการสอน และเปน็ ไปตาม

สนใจของนกั เรยี น เพื่อใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาได้ แผนท่ีวางไว้

ดขี ้นึ

เลือกสอื่ ทเ่ี หมาะสมกบั เนอ้ื หา ใชส้ อ่ื เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจ เตรยี มสื่อหรอื อปุ กรณ์ให้

กิจกรรมการเรียนการสอน ของผูเ้ รียน และให้เขา้ ใจ เหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน

และความสนในของนกั เรยี น บทเรยี นไดง้ า่ ยขนึ้ เพอ่ื ชว่ ยสร้างความรู้และความ

เข้าใจมากขนึ้

ออกแบบการวดั และ ประเมนิ นกั เรียนตรงตามสภาพ มวี ิธีการวดั ทห่ี ลากหลาย

ประเมนิ ผลไดเ้ หมาะสมกบั จรงิ ดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย เทย่ี งตรง มีความเชือ่ ม่นั ตรง

ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา เวลา และวยั และเหมาะสมตรงตัวชี้วัด ตามจุดประสงค์

ของนกั เรียน

ความร้วู รรณคดี เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ ทั รี

การจัดการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญและการวดั ประเมนิ ผล

มคี วามรกั เมตตาศษิ ย์ มีความรับผิดชอบ มีความยตุ ธิ รรม มีความอดทน

๖๔

๑. ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

๑.๑ ผู้เรยี นได้เรียนร้หู ลกั คิดและฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลัก ๓ หว่ ง ๒ เงอื่ นไข ดังน้ี

พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ี

๑.นักเรียนใชเ้ วลาใน ๑. นกั เรียนตระหนกั ถึง ๑. รู้จักการวางแผนใน

กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ ความสาคัญของกิจกรรม การทางาน

เหมาะสมตามลาดับ การเรียนรู้ ๒. ร้คู ณุ ค่าและ

ขั้นตอน และมี ๒. นกั เรยี นตระหนกั ถึง ความสาคัญของ

หลกั พอเพียง ประสทิ ธภิ าพ คุณค่าของภาษาและ ภาษาไทย รวมถึง

๒. นักเรียนเลือกศึกษา วฒั นธรรมไทย และการ วัฒนธรรมทางภาษา

จากแหลง่ เรียนรู้ได้อย่าง ใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร

ค้มุ คา่ ๓. นักเรียนมีความรู้ และ

เกดิ ความเขา้ ใจในคณุ ค่า

ของภาษาไทย

ความรทู้ ตี่ ้องมีก่อนเรยี น ความรพู้ ื้นฐานเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กณั ฑ์

คุณธรรมของผูเ้ รยี น ความต้งั ใจใฝเ่ รียนรู้ ความมุง่ ม่นั ในการทางาน ความรับผิดชอบและระเบียบวินยั

๑.๒ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้การใช้ชวี ติ ทสี่ มดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ ตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง ดังน้ี

ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ

องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้
มคี วามรู้และเข้าใจ เข้าใจบรบิ ททาง เข้าใจบรบิ ทอืน่ ท่ี เข้าใจบรบิ ททาง
ทกั ษะ เนื้อหาสาระวชิ า สังคมท่ีเกีย่ วข้อง สง่ ผลตอ่ การใช้ วฒั นธรรมท่ี
และสามารถใชไ้ ด้ ภาษาไทย เกี่ยวขอ้ งกบั
ค่านยิ ม มีทักษะทาง อย่างถูกต้อง ภาษาไทย
ภาษาไทยอย่าง สามารถใช้ทักษะ สามารถปรับตวั ให้ สามารถเขา้ ใจและ
รอบด้าน ทางภาษาไทยใน เข้ากบั สิ่งแวดล้อม ธารงภาษาไทยใน
การติดต่อกบั สงั คม ใหม่โดยใชภ้ าษา บรบิ ททาง
มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ ได้ เปน็ เคร่ืองมอื ได้ วฒั นธรรม
ภาษาไทยอนั เปน็ ตระหนกั ถึง ตระหนกั ถึงความ ตระหนักและเหน็
ภาษาประจาชาติ ความสาคัญของ เกีย่ วข้องระหวา่ ง คณุ คา่ ของ
ภาษาไทยในฐานะ ส่งิ แวดลอ้ มกับ วฒั นธรรมท่ี
สอ่ื กลางของสังคม ภาษาไทย เก่ยี วกับภาษาไทย

๖๕

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ ใชส้ อบสอน

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ ชอ่ื พุทธมหาชาติ รหสั วิชา ท ๓๒๑๐๑
ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
เร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์มัทรี เวลาสอน ๕๐ นาที

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน

ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑

ผสู้ อน นางสาววศติ า ดาราแสง

๑. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา

ในการดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ัยรักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า

และนามาประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง
๒. ตัวชว้ี ัด

ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ตีความ แปลความ และขยายความเรื่องที่อา่ น
ท ๑.๑ ม.๔-๖/๕ วเิ คราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แยง้ เก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่
อยา่ งมีเหตุผล
ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบ้ืองต้น
๓. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
วรรณคดีเร่ือง มหาเวสสันดรชาดก เป็นเร่ืองราวของพระโพธิสัตว์ในพระชาติสุดท้ายก่อนตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้า ประกอบด้วยท้ังหมด ๑๓ กัณฑ์ โดยมีเน้ือหาท่ีสอดแทรกคุณธรรม แฝงแง่คิดเมื่ออ่าน ในระดับ
ชั้นนี้ผู้เรียนจะได้ศึกษากัณฑ์มัทรี ซึ่งมีเน้ือหาสะท้อนให้เห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก และคุณธรรมอื่น ๆ
ที่ปรากฏ อย่างไรก็ดี ผู้เรียนจาเป็นต้องเรียนรู้ เพ่ือจะได้นาข้อคิด และคุณธรรมดังกล่าวไปประยุกต์ใช้
ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวันของตนเองต่อไป
๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ความรู้ (K)
นักเรียนอธิบายเน้อื หาเร่ือง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑม์ ัทรี หนา้ ๒๕ - ๒๙ ไดถ้ กู ตอ้ ง
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
นักเรียนเขยี นถอดคาประพันธ์เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี หน้า ๒๕ – ๒๙ ไดถ้ ูกต้อง
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม (A)
นกั เรียนใฝ่เรียนรูแ้ ละร่วมกิจกรรมในชนั้ เรยี น

๖๖

๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

๑. ใฝเ่ รยี นรู้

๒. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

๖. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

๑. ความสามารถในการส่ือสาร

๒. ความสามารถในการคิด

๓. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๗. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนตามหลักสูตรมาตรฐาน

สากล

 เป็นเลศิ ทางวชิ าการ  สือ่ สารสองภาษา  ล้าหนา้ ทางความคิด

 ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์  รว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมโลก

๘. สอดคลอ้ งกับค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ

๑. ใฝ่หาความรู้ หมัน่ ศกึ ษาเล่าเรียน

๒. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย

๙. สาระการเรียนรู้

วรรณคดเี รอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ ทั รี

๑๐. ภาระงาน/ช้นิ งานที่แสดงผลการเรียนรู้

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ ัทรี

๑๑. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้ันนา

๑. ครูเปิดเพลง “สี่กษัตริย์เดินดง” (ซึ่งมีเน้ือหาของเพลงเกี่ยวกับเนื้อเร่ืองมหาเวสสันดรชาดก)

ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันฟัง จากน้นั จึงใช้คาถามให้นักเรียนรว่ มแสดงความคิดเห็นที่มีหลงั จากการฟงั เพลง

ขั้นสอน
๒. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนา “ลาดับเหตุการณ์” ของเรื่อง โดยครูใช้โปรแกรมนาเสนอภาพน่ิง
เร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ัทรี นาเสนอเน้อื หา เพื่อให้นักเรยี นเขา้ ใจมากขนึ้
๓. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๕ กลุ่ม จากน้ันครูให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกแผ่นป้ายสีชฎา
ที่นางมัทรีสวม ก่อนให้นักเรียนร่วมกันถอดคาประพันธ์ตามหมายเลขหน้าที่ตัวแทนกลุ่มจับได้ (นักเรียนต้อง
ถอดคาประพันธ์ทกุ คนจากหมายเลขหน้าท่ีตวั แทนกลุม่ จับได)้ ซงึ่ มเี นือ้ หาตัง้ แตห่ น้าท่ี ๒๕ - ๒๙

๖๗

๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือศึกษา และสืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติมจากทางอินเทอร์เน็ต แล้วเขียนถอด
คาประพันธ์ตามหมายเลขหน้า ท่ีตัวแทนกลุ่มจับได้ลงในเอกสารประกอบการเรียน (โดยครูทาหน้าท่ีคอยให้
คาแนะนาเพ่มิ เตมิ กรณีนักเรยี นเกิดความสงสยั หรอื ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื )

๕. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ เนื้อหา เร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ัทรี พร้อมกันอกี คร้ัง
ขน้ั สรุป
๖. ครูขออาสาสมัครตัวแทนนกั เรยี นในห้อง สรปุ เนือ้ หาของหนา้ ๒๕ – ๒๙
๑๒. ส่อื การเรียนร้แู ละแหลง่ เรยี นรู้
๑. โปรแกรมนาเสนอภาพน่งิ วรรณคดี เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑม์ ัทรี
ตวั อย่างส่อื

๒. หนังสือเรยี นวิชาภาษาไทย วรรณคดีวจิ ักษ์ ม.๕
๓. เอกสารประกอบการเรยี นการสอน เร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑม์ ทั รี

QR code
เอกสารประกอบการเรียน

การสอน

๔. เพลง “สก่ี ษัตริยเ์ ดินดง” (ขับร้องโดย ปราง ปรางทิพย์) สบื คน้ จาก
https://www.youtube.com/watch?v=2f0juuQhhyw&ab_channel=NATHAProject

๖๘

๑๓. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

ประเดน็ การพิจารณา วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
ระดบั คุณภาพพอใช้ขึ้นไป
ความรู้ (K) การรว่ มกิจกรรมใน แบบสงั เกตพฤติกรรม
ระดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป
นกั เรยี นอธิบายเนื้อหาเรอ่ื ง ช้ันเรียน รายบุคคล
ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มัทรี

หน้า ๒๕ - ๒๙ ไดถ้ กู ตอ้ ง

ทักษะ/กระบวนการ (P) ตรวจความถกู ต้อง แบบตรวจเอกสาร

นกั เรยี นเขียนถอดคาประพนั ธ์ เอกสารประกอบการ ประกอบการเรียน

เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก เรียนการสอน เรอื่ ง

กณั ฑม์ ัทรี หน้า ๒๕ – ๒๙ มหาเวสสนั ดรชาดก

ไดถ้ ูกต้อง กณั ฑ์มัทรี หน้า๒๕–๒๙

คุณธรรม จริยธรรมและ การสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม

ค่านิยม (A) รายบุคคล รายบคุ คล

นกั เรยี นใฝ่เรียนรแู้ ละร่วม

กิจกรรมในชน้ั เรยี น

๖๙

ประเด็นการพิจารณา วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การสังเกตพฤติกรรม
รายบุคคล แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพพอใช้ขึน้ ไป
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุ่งมัน่ ในการทางาน การสงั เกตพฤติกรรม อนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียน
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น รายบุคคล
แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพพอใช้ขึน้ ไป
๑.ความสามารถในการส่ือสาร การสงั เกตพฤติกรรม สาคญั ของผเู้ รยี น
๒.ความสามารถในการคิด รายบคุ คล
๓.ความสามารถในการใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป
เทคโนโลยี การสังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล ระดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป
คุณลักษณะของผเู้ รียนตาม รายบุคคล
หลักสตู รมาตรฐานสากล แบบสงั เกตพฤติกรรม
เป็นเลิศทางวิชาการ รายบุคคล
คา่ นิยมหลกั ของคนไทย ๑๒
ประการ
๑.ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศกึ ษา
เล่าเรยี น
๒. รกั ษาวัฒนธรรม
ประเพณไี ทย

๗๐

แบบตรวจเอกสารประกอบการเรียน

ประเดน็ การประเมิน ๓ (ดี) เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๑ (ปรบั ปรุง)
๒ (พอใช้)

๑. ความถูกตอ้ ง นกั เรียนถอดความ นักเรียนถอดความ นกั เรยี นถอดความ

จากบทประพันธท์ ี่กาหนด จากบทประพันธท์ ี่กาหนด จากบทประพันธ์ที่กาหนด

ได้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกข้อ ไม่ถูกตอ้ งจานวน ๒ ขอ้ ไม่ถูกตอ้ งมากกวา่ ๒ ขอ้

๒. ความเรียบร้อย ใบงานมีระเบยี บ ใบงานค่อนขา้ งเรยี บรอ้ ย ใบงานไมเ่ รยี บรอ้ ย

เรียบรอ้ ย สะอาด ไม่มี สะอาด มรี อยยบั เลก็ น้อย ตอบคาถามไมค่ รบถว้ น

รอยยบั ตอบคาถามได้ ตอบคาถามไดค้ รบถว้ น ตามคาช้แี จง

ครบถ้วนตามคาชี้แจง ตามคาชีแ้ จง

๓. ความรับผิดชอบต่องาน นักเรียนส่งงานตามเวลา นักเรยี นส่งงานชา้ กวา่ นักเรยี นส่งงานชา้ กว่าเวลา

ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ท่กี าหนด เวลาที่กาหนด ๕ นาที ท่กี าหนดมากกวา่ ๕ นาที

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ
คะแนน ๗ - ๙ หมายถงึ ดี
คะแนน ๔ - ๖ หมายถึง พอใช้
คะแนน ๑ - ๓ หมายถงึ ปรบั ปรงุ

หมายเหตุ นักเรยี นมรี ะดับคุณภาพอยู่ในระดบั ดขี ึ้นไปจึงจะผา่ นเกณฑ์

๗๑

เกณฑก์ ารประเมินการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล

เกณฑก์ ารประเมนิ ดมี าก (๓) ระดับคะแนน ควรปรบั ปรงุ (๐)
ดี (๒) พอใช้ (๑)

๑. ความตงั้ ใจใน ตั้งใจและมสี มาธใิ น ตัง้ ใจเรียนดี อาจมี ตัง้ ใจเรยี น แต่ ไม่ตง้ั ใจเรียน

การเรียน การเรียนตลอดเวลา บางคร้ังท่สี นใจส่ิงอน่ื บ่อยคร้งั ที่สนใจสิ่งอนื่

มีการถามตอบกับ ทีไ่ ม่เอื้อประโยชน์ตอ่ ท่ไี มเ่ อื้อประโยชนต์ อ่

ครผู ูส้ อน การเรยี น มีการถาม การเรยี น ไม่มีการถาม

ตอบกับครผู ู้สอนบา้ ง ตอบกบั ครูผู้สอน

๒. การตอบคาถาม ให้ความรว่ มมือ แสดง ให้ความร่วมมือ แสดง ให้ความร่วมมือ แสดง ไมแ่ สดงความสนใจ

ในชน้ั เรียน ความสนใจ มีการถาม ความสนใจ มกี ารถาม ความสนใจ มกี ารถาม ไม่มีการถามตอบหรือ

ตอบหรือแลกเปลย่ี น ตอบหรอื แลกเปลี่ยน ตอบหรอื แลกเปลี่ยน แลกเปลีย่ นความคิด

ความคดิ ภายในชนั้ ความคิดภายในชั้น ความคิดภายในชน้ั ภายในชนั้ เรียน

เรียนอยา่ งสมา่ เสมอ เรียนอยา่ งบ่อยครั้ง เรียนบา้ ง

๓. การให้ความ ใหค้ วามร่วมมือในการ ใหค้ วามรว่ มมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ไมใ่ ห้ความรว่ มมือใน

รว่ มมือในการทา ทากิจกรรมอย่างดีทกุ ทากิจกรรมแต่ขาด ทากจิ กรรมแต่ขาด การทากจิ กรรมเลย

กิจกรรม คร้ังดว้ ยความเตม็ ใจ ความกระตือรือรน้ เต็มใจ ตอ้ งมกี ารย้า

และมีความ เตอื นมากกว่า ๓ คร้ัง

กระตือรอื รน้

๔. การเขา้ ชนั้ เรยี น เขา้ ชั้นเรียน ไม่เข้าชน้ั เรียน

เกณฑ์การประเมนิ ผล

คะแนน ผลการประเมิน

๙ - ๑๐ ดีมาก

๗ - ๘ ดี

๕ - ๖ พอใช้

๐ - ๔ ควรปรบั ปรุง

(*เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ผล ต้องไดผ้ ลการประเมินระดับพอใชข้ ึน้ ไป)

๗๒

แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕/…..

ลาดับ ชอื่ -นามสกุล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม ผลการ
ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ (๑๐) ประเมนิ
(๓) (๓) (๓) (๑)

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

๗๓

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผูเ้ รียน

ช่อื -นามสกุล..................................................................ช้ัน........................เลขท่.ี .......................

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตัวช้ีวดั ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ใฝ่เรียนรู้ ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ ม
มงุ่ มน่ั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้
ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน

ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพอื่ ให้
งานสาเรจ็ ตามเป้าหมาย

ลงชือ่ ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั หรือไม่เคยปฏิบัตเิ ลย

๗๔

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ชอื่ -นามสกุล..................................................................ช้นั ........................เลขท.่ี .......................

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตวั ช้ีวดั ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ความสามารถในการส่อื สาร มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร
มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ความสามารถในการคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
ความสามารถในการใช้ ใช้วิธีการสอ่ื สารทีเ่ หมาะสม
เทคโนโลยี วเิ คราะห์แสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตุผล
มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์
มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ
มีความสามารถในการเลอื กและใช้เทคโนโลยี
มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

ลงช่อื ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครง้ั หรือไม่เคยปฏบิ ตั เิ ลย

๗๕

๗๖

ตารางวเิ คราะห์หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของแผนการจัดการเรยี นรู้

เร่อื ง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มัทรี

๑. ผู้สอนนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังน้ี

หลักพอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี
ประเดน็

เนื้อหา กาหนดเนอ้ื หาไดส้ อดคลอ้ งกบั นกั เรียนไดเ้ รียนรตู้ รงตาม ลาดบั เน้อื หาจากง่ายไปยาก

มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั และ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด และ เพือ่ ให้นกั เรียนเข้าใจงา่ ย เกดิ

เหมาะสมกบั เวลา วัย และ ครบถว้ นบรรลตุ ามเป้าหมาย การใฝ่เรยี นรู้ และเตรียม

ความสามารถของนกั เรยี น เนอื้ หาใหค้ รอบคลมุ ตาม

มาตรฐานและตวั ช้ีวดั ตรงตาม

หลกั สตู ร

เวลา กาหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับ เพอื่ ใหจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ กาหนดเวลาไว้สารองในกรณีท่ี

เนือ้ หาและกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดค้ รบถว้ นตามที่กาหนด ตรง บางกจิ กรรมอาจจะใช้เวลา

ตามโครงสร้างหลกั สูตร มากกว่าท่กี าหนด

วิธีการจัดกิจกรรม ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้มีความรู้ตาม มแี นวทางในการพฒั นา
เหมาะสมกบั นักเรียนตาม มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั และจดั ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนใน
แหล่งเรียนรู้ บริบททแ่ี ตกตา่ งใหบ้ รรลุ กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้ ครงั้ ตอ่ ไป
ส่ือ/อุปกรณ์ วัตถปุ ระสงค์ เหมาะสมกับนักเรียน
การประเมินผล
ความรทู้ ีค่ รจู าเปน็ ตอ้ งมี เลือกแหล่งเรียนร้ทู เ่ี ขา้ ใจง่าย ส่งเสรมิ การใช้แหล่งเรียนรู้ใน มีความพรอ้ มในการจัดการ
คณุ ธรรมของครู
เหมาะสมกับเน้ือหาและความ หอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน เรยี นการสอน และเปน็ ไปตาม

สนใจของนกั เรยี น เพอื่ ให้นักเรยี นเขา้ ใจเนอ้ื หาได้ แผนท่ีวางไว้

ดขี ้นึ

เลือกสอื่ ทเ่ี หมาะสมกบั เนอ้ื หา ใชส้ อ่ื เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจ เตรยี มสื่อหรอื อปุ กรณ์ให้

กิจกรรมการเรยี นการสอน ของผูเ้ รียน และให้เขา้ ใจ เหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน

และความสนในของนกั เรยี น บทเรยี นไดง้ ่ายขนึ้ เพอ่ื ชว่ ยสร้างความรู้และความ

เข้าใจมากขนึ้

ออกแบบการวดั และ ประเมนิ นักเรียนตรงตามสภาพ มวี ิธีการวดั ทห่ี ลากหลาย

ประเมนิ ผลไดเ้ หมาะสมกบั จรงิ ดว้ ยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย เทย่ี งตรง มีความเชือ่ ม่นั ตรง

ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา เวลา และวยั และเหมาะสมตรงตัวช้ีวัด ตามจุดประสงค์

ของนกั เรียน

ความร้วู รรณคดี เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑม์ ทั รี

การจัดการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญและการวดั ประเมนิ ผล

มคี วามรกั เมตตาศษิ ย์ มีความรับผิดชอบ มคี วามยตุ ธิ รรม มีความอดทน

๗๗

๑. ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

๑.๑ ผู้เรยี นได้เรียนร้หู ลกั คิดและฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลัก ๓ หว่ ง ๒ เงอื่ นไข ดังน้ี

พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุม้ กนั ในตัวทดี่ ี

๑.นกั เรียนใชเ้ วลาใน ๑. นกั เรียนตระหนกั ถึง ๑. รู้จักการวางแผนใน

กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ ความสาคัญของกิจกรรม การทางาน

เหมาะสมตามลาดับ การเรียนรู้ ๒. รู้คณุ ค่าและ

ขั้นตอน และมี ๒. นกั เรยี นตระหนกั ถึง ความสาคญั ของ

หลกั พอเพียง ประสทิ ธภิ าพ คุณค่าของภาษาและ ภาษาไทย รวมถึง

๒. นักเรียนเลือกศึกษา วฒั นธรรมไทย และการ วัฒนธรรมทางภาษา

จากแหลง่ เรียนรู้ได้อย่าง ใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร

ค้มุ คา่ ๓. นักเรียนมีความรู้ และ

เกดิ ความเขา้ ใจในคณุ ค่า

ของภาษาไทย

ความรทู้ ตี่ ้องมีก่อนเรยี น ความรพู้ ื้นฐานเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กณั ฑ์

คุณธรรมของผูเ้ รยี น ความต้งั ใจใฝเ่ รียนรู้ ความมุง่ ม่นั ในการทางาน ความรับผิดชอบและระเบียบวินยั

๑.๒ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้การใช้ชวี ติ ทสี่ มดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ ตามหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง ดังน้ี

ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ

องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้
มคี วามรู้และเข้าใจ เข้าใจบรบิ ททาง เข้าใจบรบิ ทอืน่ ท่ี เข้าใจบรบิ ททาง
ทกั ษะ เนื้อหาสาระวชิ า สังคมท่ีเกีย่ วข้อง สง่ ผลตอ่ การใช้ วฒั นธรรมท่ี
และสามารถใชไ้ ด้ ภาษาไทย เกี่ยวขอ้ งกบั
ค่านยิ ม มีทักษะทาง อย่างถูกต้อง ภาษาไทย
ภาษาไทยอย่าง สามารถใช้ทักษะ สามารถปรับตวั ให้ สามารถเข้าใจและ
รอบดา้ น ทางภาษาไทยใน เข้ากบั สิ่งแวดล้อม ธารงภาษาไทยใน
การติดต่อกบั สงั คม ใหม่โดยใชภ้ าษา บรบิ ททาง
มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ ได้ เปน็ เคร่ืองมือได้ วฒั นธรรม
ภาษาไทยอนั เปน็ ตระหนกั ถึง ตระหนกั ถึงความ ตระหนกั และเหน็
ภาษาประจาชาติ ความสาคัญของ เกีย่ วข้องระหวา่ ง คณุ คา่ ของ
ภาษาไทยในฐานะ ส่งิ แวดลอ้ มกับ วฒั นธรรมท่ี
ส่ือกลางของสังคม ภาษาไทย เกยี่ วกับภาษาไทย

๗๘

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๖

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ ชือ่ พุทธมหาชาติ

เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์มทั รี เวลาสอน ๕๐ นาที

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน รหัสวิชา ท ๓๒๑๐๑
ปีการศึกษา ๒๕๖๔
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑

ผู้สอน นางสาววศติ า ดาราแสง

๑. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา

ในการดาเนินชวี ิตและมนี สิ ัยรักการอ่าน
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า

และนามาประยุกต์ใช้ในชีวติ จริง
๒. ตัวชี้วดั

ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ตคี วาม แปลความ และขยายความเร่ืองที่อา่ น
ท ๑.๑ ม.๔-๖/๕ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็น โตแ้ ยง้ เก่ียวกับเรื่องที่อ่าน และเสนอความคิดใหม่
อย่างมีเหตผุ ล
ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์เบ้ืองต้น
๓. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
วรรณคดีเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก เป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ในพระชาติสุดท้ายก่อนตรัสรู้
เป็นพระพุทธเจ้า ประกอบด้วยทั้งหมด ๑๓ กัณฑ์ โดยมีเน้ือหาท่ีสอดแทรกคุณธรรม แฝงแง่คิดเม่ืออ่าน ในระดับ
ช้ันนี้ผู้เรียนจะได้ศึกษากัณฑ์มัทรี ซ่ึงมีเนื้อหาสะท้อนให้เห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก และคุณธรรมอ่ืน ๆ
ที่ปรากฏ อย่างไรก็ดี ผู้เรียนจาเป็นต้องเรียนรู้ เพ่ือจะได้นาข้อคิด และคุณธรรมดังกล่าวไปประยุกต์ใช้
ในการดาเนินชวี ิตประจาวนั ของตนเองต่อไป
๔. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ความรู้ (K)
นักเรียนอธบิ ายเนื้อหาเร่ือง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ทั รี หน้า ๓๐ - ๓๔ ไดถ้ กู ตอ้ ง
ทักษะ/กระบวนการ (P)
นักเรยี นเขียนถอดคาประพนั ธ์เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑม์ ัทรี หนา้ ๓๐ – ๓๔ ไดถ้ ูกต้อง
คุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ ม (A)
นักเรยี นใฝเ่ รยี นรแู้ ละรว่ มกิจกรรมในชนั้ เรียน

๗๙

๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

๑. ใฝ่เรยี นรู้

๒. มงุ่ ม่ันในการทางาน

๖. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

๑. ความสามารถในการส่ือสาร

๒. ความสามารถในการคิด

๓. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

๗. ดา้ นคณุ ลกั ษณะของผ้เู รยี นตามหลกั สตู รมาตรฐาน

สากล

 เป็นเลศิ ทางวชิ าการ  สื่อสารสองภาษา  ล้าหนา้ ทางความคิด

 ผลติ งานอยา่ งสรา้ งสรรค์  ร่วมกนั รบั ผดิ ชอบต่อสังคมโลก

๘. สอดคลอ้ งกับคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ

๑. ใฝห่ าความรู้ หมัน่ ศึกษาเล่าเรยี น

๒. รักษาวัฒนธรรม ประเพณีไทย

๙. สาระการเรยี นรู้

วรรณคดีเรื่อง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑ์มทั รี

๑๐. ภาระงาน/ช้นิ งานท่แี สดงผลการเรียนรู้

เอกสารประกอบการเรยี นรู้ เรอื่ ง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี

๑๑. กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นนา

๑. ครเู ปิดวดี ทิ ัศน์ “บทอาขยาน กณั ฑม์ ัทรี (มหาเวสสันดรชาดก)” ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ฟัง จากนั้นจึงใช้

คาถามใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นทีม่ ีต่อการฟัง

ข้ันสอน
๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั ทบทวนเน้ือหา “ลาดับเหตกุ ารณ์” ท่ถี อดคาประพนั ธ์จากช่วั โมงท่แี ลว้
๓. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ออกเปน็ ๕ กลุ่ม จากนน้ั ครใู ห้ตวั แทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มเลือกแผ่นปา้ ยหมายเลข
ก่อนให้นักเรียนร่วมกันถอดคาประพันธ์ตามหมายเลขหน้าท่ีตัวแทนกลุ่มจับได้ (นักเรียนต้องถอดคาประพันธ์
ทกุ คนจากหมายเลขหน้าท่ตี ัวแทนกลมุ่ จับได้) ซง่ึ มีเนอื้ หาตงั้ แตห่ น้าที่ ๓๐ – ๓๔

๘๐

๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือศึกษา และสืบค้นข้อมูลเพ่ิมเติมจากทางอินเทอร์เน็ต แล้วเขียนถอด
คาประพันธ์ตามหมายเลขหน้า ที่ตัวแทนกลุ่มจับได้ลงในเอกสารประกอบการเรียน (โดยครูทาหน้าท่ีคอยให้
คาแนะนาเพมิ่ เตมิ กรณนี กั เรยี นเกิดความสงสัยหรอื ต้องการความช่วยเหลอื )

๕. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เนือ้ หา เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์มัทรี พร้อมกนั อกี ครงั้
ขน้ั สรุป
๖. ครูขออาสาสมัครตัวแทนนักเรียนในห้อง สรุปเนอ้ื หาของหนา้ ๓๐ – ๓๔
๑๒. ส่อื การเรยี นรูแ้ ละแหลง่ เรยี นรู้
๑. โปรแกรมนาเสนอภาพน่ิง วรรณคดี เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กณั ฑ์มทั รี
ตัวอย่างสอ่ื

๒. หนังสอื เรยี นวชิ าภาษาไทย วรรณคดีวิจกั ษ์ ม.๕
๓. เอกสารประกอบการเรียนการสอน เรอ่ื ง มหาเวสสันดรชาดก กัณฑม์ ทั รี

QR code
เอกสารประกอบการ
เรยี น

๔. วีดทิ ัศน์ “บทอาขยาน กัณฑ์มัทรี (มหาเวสสันดรชาดก)” สืบค้นจาก
https://www.youtube.com/watch?v=tiAcXvGJLC4&ab_channel=R-Kayan

๑๓. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๘๑

ประเดน็ การพิจารณา วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ความรู้ (K) การรว่ มกิจกรรมใน แบบสงั เกตพฤติกรรม
ระดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป
นกั เรยี นอธิบายเนื้อหาเรอ่ื ง ช้ันเรียน รายบุคคล
ระดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป
มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มัทรี

หน้า ๓๐ - ๓๔ ไดถ้ กู ตอ้ ง

ทักษะ/กระบวนการ (P) ตรวจความถกู ต้อง แบบตรวจเอกสาร

นกั เรยี นเขียนถอดคาประพนั ธ์ เอกสารประกอบการ ประกอบการเรียน

เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก เรียนการสอน เรอื่ ง

กณั ฑม์ ัทรี หน้า ๓๐ – ๓๔ มหาเวสสนั ดรชาดก

ไดถ้ ูกต้อง กณั ฑ์มัทรี หน้า๓๐–๓๔

คุณธรรม จริยธรรมและ การสงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม

ค่านิยม (A) รายบุคคล รายบคุ คล

นกั เรยี นใฝ่เรียนรแู้ ละร่วม

กิจกรรมในชน้ั เรยี น

๘๒

ประเด็นการพิจารณา วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ การสังเกตพฤติกรรม
รายบุคคล แบบประเมินคณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพพอใช้ข้นึ ไป
๑. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุ่งมัน่ ในการทางาน การสังเกตพฤติกรรม อนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียน
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น รายบุคคล
แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไป
๑.ความสามารถในการส่ือสาร การสังเกตพฤติกรรม สาคญั ของผเู้ รยี น
๒.ความสามารถในการคิด รายบุคคล
๓.ความสามารถในการใช้ แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพพอใช้ข้ึนไป
เทคโนโลยี การสังเกตพฤติกรรม รายบคุ คล ระดบั คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
คุณลักษณะของผเู้ รียนตาม รายบุคคล
หลักสตู รมาตรฐานสากล แบบสงั เกตพฤติกรรม
เป็นเลิศทางวิชาการ รายบุคคล
คา่ นิยมหลกั ของคนไทย ๑๒
ประการ
๑.ใฝ่หาความรู้ หม่นั ศกึ ษา
เล่าเรยี น
๒. รกั ษาวัฒนธรรม
ประเพณไี ทย

๘๓

แบบตรวจเอกสารประกอบการเรยี น

ประเด็นการประเมิน ๓ (ด)ี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑ (ปรับปรุง)
๒ (พอใช้)

๑. ความถกู ตอ้ ง นกั เรยี นถอดความ นักเรียนถอดความจากบท นกั เรยี นถอดความ

จากบทประพันธ์ท่ีกาหนด ประพันธ์ท่ีกาหนดไม่ จากบทประพันธท์ ี่กาหนด

ได้ถูกตอ้ งครบถ้วยทุกข้อ ถูกต้องจานวน ๒ ขอ้ ไม่ถูกต้องมากกวา่ ๒ ข้อ

๒. ความเรียบรอ้ ย ใบงานมีระเบยี บ ใบงานค่อนขา้ งเรยี บร้อย ใบงานไมเ่ รยี บรอ้ ย

เรยี บร้อย สะอาด ไม่มี สะอาด มีรอยยับเล็กน้อย ตอบคาถามไมค่ รบถว้ น

รอยยับ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ครบถ้วน ตามคาช้แี จง

ครบถว้ นตามคาชี้แจง ตามคาช้แี จง

๓. ความรบั ผิดชอบต่องาน นกั เรียนส่งงานตามเวลาที่ นกั เรยี นส่งงานชา้ กว่า นกั เรยี นส่งงานชา้ กวา่ เวลา

ที่ไดร้ บั มอบหมาย กาหนด เวลาทกี่ าหนด ๕ นาที ทกี่ าหนดมากกว่า ๕ นาที

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
คะแนน ๗ - ๙ หมายถงึ ดี
คะแนน ๔ - ๖ หมายถงึ พอใช้
คะแนน ๑ - ๓ หมายถงึ ปรบั ปรุง

หมายเหตุ นักเรยี นมรี ะดบั คุณภาพอยู่ในระดบั ดขี ้นึ ไปจึงจะผ่านเกณฑ์

๘๔

เกณฑก์ ารประเมินการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล

เกณฑก์ ารประเมิน ดมี าก (๓) ระดับคะแนน ควรปรบั ปรงุ (๐)
ดี (๒) พอใช้ (๑)

๑. ความตงั้ ใจใน ตั้งใจและมสี มาธใิ น ตัง้ ใจเรียนดี อาจมี ตัง้ ใจเรยี น แต่ ไม่ตง้ั ใจเรียน

การเรียน การเรียนตลอดเวลา บางคร้ังท่สี นใจส่ิงอน่ื บ่อยครั้งที่สนใจสิ่งอนื่

มีการถามตอบกับ ทไ่ี ม่เอื้อประโยชน์ตอ่ ท่ไี มเ่ อ้ือประโยชนต์ อ่

ครผู ูส้ อน การเรยี น มีการถาม การเรียน ไม่มีการถาม

ตอบกับครผู ู้สอนบา้ ง ตอบกบั ครูผู้สอน

๒. การตอบคาถาม ให้ความรว่ มมือ แสดง ให้ความร่วมมือ แสดง ให้ความร่วมมือ แสดง ไมแ่ สดงความสนใจ

ในชน้ั เรียน ความสนใจ มกี ารถาม ความสนใจ มกี ารถาม ความสนใจ มกี ารถาม ไม่มีการถามตอบหรือ

ตอบหรือแลกเปลย่ี น ตอบหรอื แลกเปลี่ยน ตอบหรอื แลกเปลี่ยน แลกเปลีย่ นความคิด

ความคดิ ภายในชนั้ ความคิดภายในชั้น ความคดิ ภายในชน้ั ภายในชนั้ เรียน

เรียนอยา่ งสมา่ เสมอ เรียนอยา่ งบ่อยครั้ง เรียนบา้ ง

๓. การให้ความ ใหค้ วามร่วมมือในการ ใหค้ วามรว่ มมือในการ ให้ความร่วมมือในการ ไมใ่ ห้ความรว่ มมือใน

รว่ มมอื ในการทา ทากิจกรรมอย่างดีทกุ ทากิจกรรมแต่ขาด ทากจิ กรรมแต่ขาด การทากจิ กรรมเลย

กิจกรรม คร้ังดว้ ยความเตม็ ใจ ความกระตือรือรน้ เต็มใจ ตอ้ งมกี ารย้า

และมีความ เตอื นมากกว่า ๓ คร้ัง

กระตือรอื รน้

๔. การเขา้ ชนั้ เรยี น เขา้ ชั้นเรียน ไม่เข้าชน้ั เรียน

เกณฑ์การประเมนิ ผล

คะแนน ผลการประเมิน

๙ - ๑๐ ดีมาก

๗ - ๘ ดี

๕ - ๖ พอใช้

๐ - ๔ ควรปรบั ปรุง

(*เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ ผล ต้องไดผ้ ลการประเมินระดับพอใชข้ น้ึ ไป)

๘๕

แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๕/…..

ลาดับ ชอื่ -นามสกุล เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม ผลการ
ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔ (๑๐) ประเมนิ
(๓) (๓) (๓) (๑)

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาววศิตา ดาราแสง)

……………/……………/……………

๘๖

แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น

ช่อื -นามสกุล..................................................................ช้ัน........................เลขท่ี........................

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตัวช้ีวัด ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ใฝ่เรียนรู้ ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ ม
มงุ่ มน่ั ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นรู้
ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัติหนา้ ทกี่ ารงาน

ทางานด้วยความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่อื ให้
งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย

ลงชือ่ ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ หรือไม่เคยปฏิบัติเลย

๘๗

แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

ชอ่ื -นามสกุล..................................................................ช้นั ........................เลขท่.ี .......................

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ตวั ช้ีวดั ระดับคะแนน
๓๒๑๐

ความสามารถในการส่อื สาร มีความสามารถในการรับ – สง่ สาร
มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด
ความสามารถในการคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม
ความสามารถในการใช้ ใช้วิธีการสือ่ สารทีเ่ หมาะสม
เทคโนโลยี วิเคราะห์แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล
มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์
มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ
มีความสามารถในการเลอื กและใช้เทคโนโลยี
มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี

ลงช่อื ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาววศติ า ดาราแสง)

……………/……………/……………

เกณฑก์ ารประเมินผล ให้ ๓ คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ ๐ คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้งหรือไม่เคยปฏิบัติเลย

๘๘

๘๙

ตารางวเิ คราะห์หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของแผนการจัดการเรียนรู้

เร่อื ง มหาเวสสนั ดรชาดก กัณฑ์มัทรี

๑. ผู้สอนนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังน้ี

หลักพอเพียง พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมคิ มุ้ กนั ในตัวทด่ี ี
ประเดน็

เนื้อหา กาหนดเนอ้ื หาไดส้ อดคลอ้ งกบั นกั เรียนไดเ้ รียนรตู้ รงตาม ลาดบั เนื้อหาจากง่ายไปยาก

มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั และ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด และ เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจงา่ ย เกดิ

เหมาะสมกบั เวลา วัย และ ครบถว้ นบรรลตุ ามเป้าหมาย การใฝ่เรยี นรู้ และเตรียม

ความสามารถของนกั เรยี น เน้อื หาใหค้ รอบคลมุ ตาม

มาตรฐานและตวั ช้ีวดั ตรงตาม

หลกั สตู ร

เวลา กาหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับ เพือ่ ใหจ้ ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ กาหนดเวลาไว้สารองในกรณีท่ี

เนือ้ หาและกิจกรรมการเรยี นรู้ ไดค้ รบถว้ นตามที่กาหนด ตรง บางกจิ กรรมอาจจะใช้เวลา

ตามโครงสรา้ งหลกั สูตร มากกว่าท่กี าหนด

วิธีการจัดกิจกรรม ออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนได้มีความรู้ตาม มแี นวทางในการพฒั นา
เหมาะสมกบั นกั เรียนตาม มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั และจดั ปรบั ปรงุ การเรยี นการสอนใน
แหล่งเรียนรู้ บริบททแ่ี ตกตา่ งใหบ้ รรลุ กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้ ครงั้ ต่อไป
ส่ือ/อุปกรณ์ วัตถปุ ระสงค์ เหมาะสมกบั นักเรียน
การประเมินผล
ความรทู้ ีค่ รจู าเปน็ ตอ้ งมี เลือกแหล่งเรียนร้ทู เ่ี ขา้ ใจง่าย ส่งเสรมิ การใช้แหล่งเรียนรู้ใน มีความพรอ้ มในการจัดการ
คณุ ธรรมของครู
เหมาะสมกับเน้ือหาและความ หอ้ งเรยี นและนอกหอ้ งเรียน เรยี นการสอน และเปน็ ไปตาม

สนใจของนกั เรยี น เพื่อใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาได้ แผนท่ีวางไว้

ดขี ้นึ

เลือกสอื่ ทเ่ี หมาะสมกบั เนอ้ื หา ใชส้ อ่ื เพอ่ื กระตนุ้ ความสนใจ เตรยี มสือ่ หรอื อปุ กรณ์ให้

กิจกรรมการเรียนการสอน ของผูเ้ รียน และให้เขา้ ใจ เหมาะสมกบั วยั ของผเู้ รียน

และความสนในของนกั เรยี น บทเรยี นไดง้ า่ ยขนึ้ เพอ่ื ช่วยสร้างความรู้และความ

เข้าใจมากขนึ้

ออกแบบการวดั และ ประเมนิ นกั เรียนตรงตามสภาพ มวี ิธีการวดั ทห่ี ลากหลาย

ประเมนิ ผลไดเ้ หมาะสมกบั จรงิ ดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย เทย่ี งตรง มีความเชือ่ ม่ันตรง

ตัวช้วี ดั เนอ้ื หา เวลา และวยั และเหมาะสมตรงตัวชี้วัด ตามจุดประสงค์

ของนกั เรียน

ความร้วู รรณคดี เรอื่ ง มหาเวสสนั ดรชาดก กณั ฑม์ ทั รี

การจัดการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญและการวดั ประเมนิ ผล

มคี วามรกั เมตตาศษิ ย์ มีความรับผิดชอบ มีความยตุ ธิ รรม มีความอดทน

๙๐

๑. ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

๑.๑ ผู้เรยี นได้เรียนร้หู ลกั คิดและฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลัก ๓ หว่ ง ๒ เงอื่ นไข ดังน้ี

พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ี

๑.นักเรียนใชเ้ วลาใน ๑. นกั เรียนตระหนกั ถึง ๑. รู้จักการวางแผนใน

กิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ ความสาคัญของกิจกรรม การทางาน

เหมาะสมตามลาดับ การเรียนรู้ ๒. ร้คู ณุ คา่ และ

ขนั้ ตอน และมี ๒. นกั เรยี นตระหนกั ถึง ความสาคญั ของ

หลกั พอเพียง ประสทิ ธภิ าพ คุณค่าของภาษาและ ภาษาไทย รวมถึง

๒. นักเรียนเลือกศึกษา วฒั นธรรมไทย และการ วัฒนธรรมทางภาษา

จากแหลง่ เรียนรไู้ ด้อย่าง ใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร

ค้มุ คา่ ๓. นักเรียนมีความรู้ และ

เกดิ ความเขา้ ใจในคณุ ค่า

ของภาษาไทย

ความรทู้ ตี่ ้องมีก่อนเรยี น ความรูพ้ ื้นฐานเรื่องมหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กณั ฑ์

คุณธรรมของผูเ้ รยี น ความตัง้ ใจใฝเ่ รียนรู้ ความมุง่ ม่นั ในการทางาน ความรับผิดชอบและระเบียบวินยั

๑.๒ ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้การใช้ชวี ติ ทสี่ มดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน ๔ มิติ ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง ดังน้ี

ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ

องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้
มคี วามรู้และเข้าใจ เข้าใจบรบิ ททาง เข้าใจบรบิ ทอืน่ ท่ี เข้าใจบรบิ ททาง
ทกั ษะ เนื้อหาสาระวชิ า สังคมท่ีเกีย่ วขอ้ ง สง่ ผลตอ่ การใช้ วฒั นธรรมท่ี
และสามารถใชไ้ ด้ ภาษาไทย เกี่ยวขอ้ งกบั
ค่านยิ ม มีทักษะทาง อย่างถูกต้อง ภาษาไทย
ภาษาไทยอย่าง สามารถใช้ทักษะ สามารถปรับตวั ให้ สามารถเข้าใจและ
รอบด้าน ทางภาษาไทยใน เข้ากบั สิ่งแวดล้อม ธารงภาษาไทยใน
การติดต่อกบั สงั คม ใหม่โดยใชภ้ าษา บรบิ ททาง
มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ ได้ เปน็ เคร่ืองมือได้ วฒั นธรรม
ภาษาไทยอนั เปน็ ตระหนกั ถึง ตระหนกั ถึงความ ตระหนักและเหน็
ภาษาประจาชาติ ความสาคัญของ เกีย่ วข้องระหวา่ ง คณุ คา่ ของ
ภาษาไทยในฐานะ ส่งิ แวดลอ้ มกับ วฒั นธรรมท่ี
สอ่ื กลางของสังคม ภาษาไทย เก่ยี วกับภาษาไทย

๙๑

แผนการจัดการเรียนรู้ ๙๒

สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย
ชัน้ มะธยมศึกษาปที ี่ ๕ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรอ่ื ง คัมภรี ฉ์ นั ทศาสตร์ แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เวลา ๔ ช่วั โมง

๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจก้ปัญหา
ในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอา่ น

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย
อยา่ งเหน็ คณุ คา่ และนามาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง
ตวั ช้วี ัด

ท ๑.๑ ม.๔-๖/๒ ตีความ แปลความ และขยายความเรอื่ งทอี่ า่ น
ท ๑.๑ ม.๔-๖/๓ วเิ คราะห์และวิจารณเ์ รอื่ งทีอ่ ่านในทุก ๆ ดา้ นอยา่ งมีเหตผุ ล
ท ๕.๑ ม.๔-๖/๒ วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเช่ือมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
และวถิ ชี ีวติ ของสังคมในอดีต
๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๒.๑ ความรู้ (K)
๑. อธิบายความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง ลักษณะการประพันธ์ จุดประสงค์ในการแต่ง และการวิเคราะห์
คณุ คา่ ในแต่ละด้าน ของคมั ภีร์ฉันทศาสตร์แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
๒.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๑. เรียงลาดบั ความเป็นมาของตาราแพทยศ์ าสตรส์ งเคราะหไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง
๒. เขียนถอดคาประพนั ธเ์ ร่อื ง คัมภีร์ฉนั ทศาสตร์ แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์
๓. วเิ คราะห์คณุ คา่ ในแตล่ ะดา้ น ของคมั ภีรฉ์ นั ทศาสตรแ์ พทยศ์ าสตร์สงเคราะห์ ได้อย่างถูกตอ้ ง
๒.๓ คุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านยิ ม (A)
๑. ใหค้ วามร่วมมือในการทาเอกสารประกอบการเรยี นรสู้ ง่ ตามเวลาที่กาหนด
๓. สาระสาคัญ
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ เป็นคัมภีร์ท่ีรวบรวมเนื้อหาของทุกคัมภีร์ในหนังสือแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
โดยกล่าวแต่ละเรื่องไว้พอสังเขป ซ่ึงมีเน้ือหาครอบคลุมเก่ียวกับอาการของโรค การรักษา รวมท้ังคุณสมบัติ
ของแพทย์ผู้มหี น้าทีส่ าคัญในการรักษาโรค ผ้เู รียนจาเปน็ ตอ้ งเรยี นรู้เพ่ือศึกษา ทาความเขา้ ใจวิธีคดิ ตามวิถีชีวิต
ของคนไทยโบราณที่ตกทอดกันมาช้านาน และสามารถนาความรู้ท่ีได้รับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
ในชีวิตประจาวนั ได้ต่อไป

๙๓

๔. สาระการเรียนรู้

- การอ่านจบั ใจความจากวรรณคดีในบทเรยี น

- วรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกับ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิต คาสอน เหตุการณ์

ประวัติศาสตร์ บนั เทงิ คดี บันทกึ การเดนิ ทาง

- การวเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรม

๕. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

 ๑. ความสามารถในการส่ือสาร  ๒. ความสามารถในการคิด

 ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา  ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

 ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

๖. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  ๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ

 ๓. มีวินยั  ๔. ใฝ่เรยี นรู้

 ๕. อยอู่ ย่างพอเพียง  ๖. มงุ่ มั่นในการทางาน

 ๗. รกั ความเปน็ ไทย  ๘. มจี ติ สาธารณะ

๗. ด้านคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล

 ๑. เปน็ เลศิ วชิ าการ  ๒. สื่อสารสองภาษา  ๓. ลา้ หน้าทางความคดิ

 ๔. ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์  ๕. รว่ มกนั รบั ผิดชอบต่อสงั คมโลก

๘. ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C ๒L

 R๑-Reading (อา่ นออก)  R๒-(W) Ringting (เขยี นได้)  R๓-(A) Rithmetics (คิดเลขเป็น)

 ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะการแก้ไขปัญหา(Critical Thinking and Problem Solving)

 ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

 ทักษะด้านความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)

 ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)

 ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันสอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy)

 ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร(Computing and ICT Literacy)

 ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)

 ความมีเมตตา วนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม ฯลฯ (Compassion)

๙. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้)

๙.๑ เอกสารประกอบการเรียนรู้

๙.๒ ใบงาน

๙.๓ แบบฝึกหัด

๙๔

๑๐. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี ๑

ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรียน
๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและกระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนดูวิดีทัศน์เก่ียวกับ
แพทย์อาสา และถามนักเรียนด้วยคาถามเร้าความสนใจ ได้แก่ นักเรียนคิดว่าแพทย์แผนไทยในสมัยก่อน
เป็นอย่างไร และมคี วามสาคัญอย่างไร เพ่ือเป็นการเกร่นิ เข้าสเู่ น้ือหา

ขั้นสอน
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่อง ความเป็นมาของคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
โดยใชส้ ื่อ Powerpoint เรื่อง คมั ภีร์ฉันทศาสตร์ แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ พร้อมใหน้ ักเรียนจดความรู้ท่ีได้ลงใน
สมดุ รายวชิ าภาษาไทย
๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเรยี งลาดบั ความเป็นมาของตาราแพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์
๓. ครสู ่มุ นกั เรียนจานวน ๕ คน ใหเ้ รยี งลาดบั ความเปน็ มาของตาราแพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์
เพ่อื วัดความเข้าใจของนักเรียน
ขัน้ สรุป
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่องที่เรียน พร้อมให้นักเรียนทาเอกสารประกอบการเรียนรู้
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ท้ายชั่วโมง

ชั่วโมงที่ ๒
ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น
๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและทบทวนความรู้เดิม และยกตัวอย่างบทประพันธ์จากเน้ือเร่ืองคัมภีร์

ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ๑ บท แล้วถามนักเรียนว่านักเรียนคิดว่าเป็นบทประพันธ์ประเภทใด
เพือ่ เปน็ การเกร่นิ เขา้ ส่เู น้อื หา

ขั้นสอน
๑. ครูอภิปรายลักษณะการประพันธ์ของเร่ืองคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
โดยใชส้ ือ่ Powerpoint พร้อมใหน้ ักเรยี นจดความรทู้ ่ีได้ลงในสมดุ รายวชิ าภาษาไทย
๒. นักเรียนทาใบงานในเอกสารประกอบการเรียนรู้ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เมื่อทาเสร็จ
ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั เฉลย

๙๕

ขัน้ สรุป
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ืองท่ีเรียน พร้อมให้นักเรียนส่งสมุดรายวิชาภาษาไทย
และเอกสารประกอบการเรียนรูร้ ะดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ทา้ ยชว่ั โมง

ชัว่ โมงท่ี ๓
ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเนื้อหาที่เรียนไปในคาบที่แล้วและกระตุ้นความสนใจของนักเรียน

ด้วยการให้นกั เรยี นดูวดี ทิ ศั น์เกีย่ วกับแพทยใ์ นปัจจบุ ัน เพอ่ื เป็นการเกร่นิ เข้าสู่เนอื้ หา

ข้นั สอน
๑.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม แบ่งเน้ือหาให้นักเรียนร่วมกันถอดคาประพันธ์ตามท่ีได้รับ
มอบหมาย แล้วขดี เส้นใต้คาศัพทย์ ากหรอื คาศพั ท์ทไ่ี มเ่ ข้าใจความหมายไว้
๒. ครูใหต้ วั แทนกล่มุ อธิบายเนื้อเร่ืองทีไ่ ดจ้ ากการถอดคาประพนั ธ์ โดยครูคอยอธบิ ายเพิ่มเติม
ข้ันสรุป
๑. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเน้ือหาเร่ือง คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ร่วมกัน
แลว้ เรยี บเรียงเนอื้ เรอ่ื งเป็นความเรียงรอ้ ยแก้ว
๒. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปเน้ือหาเร่ือง คมั ภีรฉ์ นั ทศาสตร์ แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ โดยครเู พม่ิ เติม
เกร็ดความรเู้ ก่ยี วกับคัมภีร์ตา่ ง ๆ ว่าดว้ ยเรอื่ งอะไรบา้ ง

ชวั่ โมงท่ี ๔
ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนเนื้อหาท่ีเรียนไปในคาบที่แล้วและครูขออาสาสมัครให้ตัวแทน

นกั เรียนอธบิ ายเนือ้ หาเรอื่ ง คัมภรี ฉ์ ันทศาสตร์ แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์
๒. ครใู หน้ กั เรยี นเลน่ เกม “บงิ โก โอ้โหคาศพั ท์” โดยนาคาศพั ทท์ ีน่ ักเรียนไมเ่ ขา้ ใจความหมายในคาบ

ท่แี ลว้ มาเปน็ คาศัพทใ์ นการเล่น เพือ่ ให้นักเรียนได้คนุ้ ชนิ แล้วจึงนาเขา้ สู่บทเรยี น
ขั้นสอน
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเน้ือหาเร่ือง คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์เพ่ิมเติม

พรอ้ มยกตัวอยา่ งข้อคิดจากเรอื่ งท่อี ่าน และการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั
๒. นักเรียนทาแบบฝึกทบทวนบทเรียน เร่ืองคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์

จานวน ๑๐ ข้อ เพอื่ เปน็ การทดสอบความรคู้ วามเข้าใจของนักเรยี นหลังเรียน

๙๖

ข้นั สรุป
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ืองที่เรียนและมอบหมายงานให้นักเรียนกลับไปทา
เอกสารประกอบการเรยี นร้รู ะดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ แล้วนามาสง่ ในวันที่ได้นัดหมาย
๑๑. ส่อื การเรียนรู้
๑๑.๑ หนงั สือภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรมระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕
๑๑.๒ Powerpoint เรอ่ื ง คมั ภรี ์ฉนั ท์ศาสตร์แพทยศ์ าสตร์สงเคราะห์
ตัวอยา่ งสื่อ

๑๑.๓ วีดทิ ัศน์เกีย่ วกบั แพทย์อาสา สืบค้นจาก
https://www.youtube.com/watch?v=wBt8wNXLj6E
๑๑.๔ วีดทิ ัศน์เกยี่ วกับแพทย์ในปัจจบุ ัน สบื คน้ จาก
https://www.youtube.com/watch?v=BgPS1C6kPzU
๑๑.๕ เกมบงิ โก โอ้โหคาศพั ท์
๑๑.๖ เอกสารประกอบการเรียนรรู้ ะดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕
๑๑.๗ แบบฝกึ ทบทวนบทเรียน เรอื่ ง คัมภรี ์ฉนั ท์ศาสตรแ์ พทย์ศาสตรส์ งเคราะห์


Click to View FlipBook Version