The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Zeen Piraporn, 2022-06-15 09:57:23

แผนการสอนที่ 4

แผนที่4 บท 1

แผนการจัดการเรยี นรูท ่ี ๔ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 2
วชิ า ภาษาองั กฤษ กลุม สาระการเรียนรู ภาษาตา งประเทศ จาํ นวน 7 คาบ
หนวยการเรียนรูที่ 1 ชอ่ื หนวย Food Is Nice
ภาคเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา 2565 เวลา 60 นาท/ี คาบ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู ตวั ชีว้ ัด
ต 1.1 ป.2/3 เลือกภาพตรงตามความหมายของคํา กลุม คํา และประโยคท่ฟี ง
ต 2.2 ป.2/1 พดู ใหขอ มูลเกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกลตวั
ต 3.1 ป.2/1 บอกคําศพั ทที่เกี่ยวขอ งกบั กลมุ สาระการเรียนรอู น่ื
ต 4.1 ป.2/1 ฟง /พูดในสถานการณง ายๆ ทีเ่ กิดขึ้นในหองเรยี น

2. สาระการเรียนรู
คํานามในภาษาองั กฤษจะมี 2 แบบ คือ นามนบั ไดแ ละนามนบั ไมได นามนบั ไดจะตอ งมคี าํ นําหนาเสมอ

และเปนพหูพจนไดเมือ่ มจี าํ นวนมากกวา 1 สวนนามนบั ไมไ ดจ ะไมม คี ํานําหนา และเปนเอกพจนเสมอ
3. จดุ ประสงคการเรยี นรู

๓.๑ เขา ใจ จาํ และใชค าํ ศัพทท่ีเรยี นไดถ กู ตอ งทัง้ การพูดและการเขยี น
๓.๒ เขา ใจและใช this, that, these และ those ไดถ กู ตอ ง
๓.๓ เขาใจ และใช a และ an นําหนา คาํ นามท่ีขึ้นตนดว ยเสยี งสระไดถูกตอง
4. พฤติกรรมการเรียนรู Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา นความรู ( Knowledge : K)

- Vocabulary
meat, egg, beans, sausage, these, those

- Structure
Zero determiners

Specific determiners these and those
- Function

Asking and answering questions about food and drink.
ดา นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P)

- ทกั ษะการฟง พูด อา น เขียน
- ทักษะการเชื่อมโยง (บูรณาการขามสาระการเรยี นรู)
- ทกั ษะการจํา

ดานเจตคติ/คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค (Attitude: A)
1. รักชาติ
2. ซือ่ สัตยสุจริต
3. มีวนิ ยั
4. ใฝความรู
5. อยูอยางพอเพยี ง
6. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน
7. รกั ความเปนไทย
8. มีจติ สาธารณะ
๙.ความเชือ่ มนั่ และกลา แสดงออก

5. สมรรถนะสําคัญของผเู รยี นหลักสตู รการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป ญ หา
4. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี

6. ทักษะของผูเรียนในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )
1. ทักษะการอาน (Reading)
2. ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
3. ทักษะการคิดคํานวณ (Arithmetic)
4. ทักษะดา นการคดิ อยางมีวิจารณญาณและทักษะในการแกปญ หา (Critical thinking and
problem solving)
5. ทักษะดา นการสรา งสรรคและนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะดา นความรวมมอื การทาํ งานเปนทมี และภาวะผนู ํา (Collaboration, teamwork
and leadership)
7. ทักษะดา นความเขาใจตางวัฒนธรรมตางกระบวนทศั น (Cross-cultural understanding)
8. ทักษะดานการสือ่ สารสารสนเทศและรูเ ทา ทนั สอื่ (Communication information
and media literacy)
9. ทักษะดานคอมพิวเตอรและเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT
Literacy)
10. ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มรี ะเบียบวินยั (compassion)

7. การบรู ณาการ
1. บูรณาการรายวชิ าอ่นื .....................................................................................................
2. บูรณาการหลกั สตู ร STAR STEM ................................................................................

8. สาระการเรียนรู Structure Vocabulary
1. ความรู (K) - Zero determiners meat, egg, beans, sausage,
- Specific determiners these these, those
Content and those
Asking and answering
questions about food and
drink.

9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู
เร่ือง Hello friends
ขั้นนาํ

๑. ทาํ กจิ กรรม Chain Game ใชคาํ ศพั ทเก่ียวกบั ผกั ผลไม อาหาร และเคร่ืองดืม่ ท่เี รียนไปแลว
- ครูเริ่มกิจกรรมโดยพูด Pex has got two orange carrots. และเขยี นบนกระดาน ใหน กั เรียน
พูดซา้ํ และหาคําศัพทม าพูดตอ เชน
Pex has got two orange carrots and six white eggs. ครเู ขยี นตอและชี้ให
นกั เรยี นอา น
Pex has got two orange (ครูปด and) แลว ชี้ใหอานตอ six green limes ครพู ูด
and นักเรยี นพูดคําศัพทตอ
- ครูใหน ักเรยี นพูดยอนจากขอ ความแรกถึงขอความสุดทาย และพูด and แลว ชี้ใหน กั เรียนคน
หนงึ่ ลองพูดตอความ
- นกั เรียนท้งั หอ งพูดยอนจากขอความแรกถึงขอ ความสุดทาย ครพู ูด and และชีใ้ หนกั เรยี นตอบ
เมื่อนกั เรียนตอบ ครูเขยี นตอบนกระดาน ทกุ ครงั้ ทเ่ี ขียนตอ ครูตัด and และใสเ คร่อื งหมาย (,)
แทน
- ครูชี้ขอความบนกระดาน ใหนักเรยี นอานพรอ มกันจนจบ ครพู ูด and นกั เรียนคนใดตอ งการ
ตอบใหยกมอื และยนื ขน้ึ พูดตอ ทําเชน น้สี ัก 5-10 นาที เพอ่ื ความสนกุ สนาน

๒. ทาํ กจิ กรรม Speaking ใหน ักเรยี นดูภาพใน Word box และบอกเปนภาษาไทยวา เปนภาพ
อะไร

- ครูเปด PB Audio CD Track 8 Speaking; meat, an egg, beans, a sausage
ใหนกั เรียนฟงคําศัพทและอานตาม
- ครใู หนักเรียนสงั เกตคาํ ศพั ททง้ั 4 คาํ ใน Word box อธบิ ายเปน ภาษาไทยวา ช่อื อาหารท้ังหมด
เปนคาํ นาม ครเู ขียนคําศพั ทบ นกระดานทางซายมอื ใหน ักเรยี นออกมาเขียนภาษาไทยทางขวามือ ดังน้ี
meat เนือ้
an egg ไข
bean ถ่วั
a sausage ไสก รอก
- ใหนักเรียนสงั เกตคํานามในภาษาองั กฤษและภาษาไทย ภาษาองั กฤษจะมีคํานาํ หนา คือ a และ
an หรือมี s ตอ ทา ย เพ่ือบอกใหร วู า มีจาํ นวนเพยี ง 1 หรอื มากกวา 1 ซงึ่ เปน นามนบั ได สวนคําท่ไี มมี
a/an นาํ หนา และไมมี s ตอทาย เขยี นคํานามนน้ั มาโดด ๆ เชน meat เปน คาํ นามนับไมไ ด สวน
ภาษาไทยจะเปนคําโดด ๆ ไมตอ งมีคาํ นาํ หนา หรอื ตอทาย การบอกจํานวนของคนไทยจะไวหลงั คํานาม
เชน ไข 1 ฟอง ถวั่ 3 ฝก ไสกรอก 2 อนั
- ครวู งรอบ an หนา egg และ a หนา sausage ดงั นี้
an egg หมายถงึ ไข 1 ฟอง
a sausage หมายถึง ไสก รอก 1 อัน
จาํ นวน 1 เหมอื นกัน แตเขียนไมเหมือนกนั
an ใชน ําหนาคาํ นามทข่ี ้ึนตนดวยเสียงสระ เชน
an egg ครขู ดี เสน ใตต ัว e
an apple ครขู ีดเสน ใตตัว a
an orange ครูขีดเสน ใตตัว o
an ice cream cone ครูขดี เสน ใตตวั I และวาดไอศกรมี โคนหลงั คําศัพท
an umbrella ครขู ดี เสนใตต วั u และวาดรปู รมหลงั คาํ ศพั ท

คํานามทีไ่ มไ ดขน้ึ ตน ดว ยเสียงสระ จะใช a นาํ หนา เชน a book, a pencil,
a ruler, a desk
- ครูพูดและหยิบหรอื ชีท้ ่ีสิ่งตางๆ ตามทีพ่ ูด
- ครูอธบิ ายวา เราไมใ ช a หรือ an นาํ หนา ส่ิงทน่ี บั ไมไ ด เชน meat, milk, juice, lemonade
และคาํ นามพหพู จน เชน bananas, coconuts, mangoes, tomatoes ขณะอธิบาย ครูเขยี นคาํ ศัพทบน
กระดานดว ย เชน
a - an - No a - / an -
a book an egg eggs
a pencil an orange oranges
a ruler an apple meat
a coconut an umbrella milk
a paper an icecream cone juice

- ใหนกั เรียนอานคําศพั ทในตารางบนกระดานอีกคร้ัง
- ทาํ กจิ กรรม Listen, point and say. ในหนังสอื เรยี นหนา 12-13 ครูอานบทสนทนาของตวั
ละครแตละตัว นกั เรยี นช้แี ละอา นตาม
- ครูเปด PB Audio CD Track 9 ใหนกั เรียนฟงและชี้ตามภาพท่ีไดย นิ

ขน้ั สอน
๑. ครูเปด PB Audio CD Track 9 ใหน ักเรยี นฟง ฝกออกเสียงคาํ ศพั ทแ ละชี้ภาพตามคําท่ไี ดย ิน
ครูหยดุ Audio CD เปนชว งๆ เพื่อใหน ักเรียนหาภาพทัน
๒. ครูเปด PB Audio CD Track 9 อกี 2-3 รอบ เพ่ือใหนักเรยี นพูดตาม และชี้ทภี่ าพไดเร็วข้ึน
๓. นักเรยี นจับคู ผลัดกันบอกคําศพั ทใหเพอ่ื นชี้ภาพ

ขัน้ สรุป - นักเรียนบอกคาํ ศพั ทต ามภาพในหนงั สือเรียนหนา 12-13 กิจกรรม Listen, point and say.

ครเู ขียนบนกระดานทางซายมือ ทางขวามือครตู ตี ารางและเขียนหัวตาราง ดงั น้ี
a/an No a/an
Things we can count นบั ได
(Singular) (Plural) Things we cannot count (นบั ไมไ ด)

an egg sausages

- ครพู ูดคําศพั ท เชน an egg และเขียน an egg ในชอง Singular
ครู : sausages และเขยี น sausages ในชอง Plural
ครู : milk และเขียน milk ในชอ งที่ 3 Things we cannot count.

- ครอู า นคําศัพท ใหนกั เรยี นอาสาสมัครออกมาเขียน เสร็จแลวอา นคําศัพททีละชอง เชน
ครู : Things we can count นับได
Singular เอกพจน จํานวนเพยี ง 1 เทาน้นั
นักเรยี น : พดู ตาม

- ครูอานคาํ ศพั ทใ นชอ ง Singular ทีละคาํ ใหน ักเรยี นพูดตาม และบอกความหมาย เชน
ครู : an egg นกั เรยี น : an egg ไข 1 ฟอง
ทําเชนนี้จนครบทัง้ 3 ชอ งตาราง

ครงั้ ที่ 2 PB หนา 12-13
ขัน้ นาํ

๑. นักเรียนเปด หนังสือเรยี นหนา 12-13 ครพู ดู คําศัพทใ หน ักเรยี นชภ้ี าพในกจิ กรรม Listen, point and
say. และพูดตาม เชน

ครู : a cake
นักเรียน : a cake พรอ มทง้ั ชีท้ ภ่ี าพขนมเคก
2.ทาํ กิจกรรม Point and say. ในหนังสอื เรยี นหนา 12 ครอู านประโยคที่มี Max และ Pex
พูดใหน กั เรียนอานตาม
๓. ครูทบทวนความหมายของ this/that และ these/those
- ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา this และ that ใชกับคํานามเอกพจน สว น these และ those ใชก ับ
คํานามพหูพจน

- ครูอธบิ ายโดยใชสิ่งตา งๆ ในหองเรียน เชน
This is s book. ครชู หู นังสือแบบเรียนใหนักเรียนดู
That is a ruler. ครูช้ีไปทีไ่ มที
These are windows. ครูยนื ขางหนา ตาง
Those are doors. ครชู ป้ี ระตู

ข้นั สอน
๑. ครตู ดิ ภาพอาหารและเครื่องด่ืมทั้งเอกพจนและพหูพจนไ วร อบ ๆ หอ ง อาจหาอาสาสมัคร ใหน กั เรยี น
ออกมาหยิบส่งิ ท่ีชอบ แลวไปยืนรอบๆ หอง ใหนักเรยี นพดู ถงึ ภาพของตนเอง และชไ้ี ปทภี่ าพของเพอ่ื นคน
หนึ่งโดยสงั เกตวาถาภาพที่ถอื เปน เอกพจน ก็ใหชี้ภาพทเ่ี ปนเอกพจนเ หมือนกัน และถาภาพท่ถี ือเปน
พหูพจน ก็ใหชภ้ี าพทเี่ ปน พหพู จนเหมือนกนั เพื่อฝก พูด This is ………. . และ That is ………. . These
are ………. . และ Those are ………. .

ขั้นสรุป
- แบงนกั เรยี นเปน 4 กลุมเทา ๆ กัน ทาํ กิจกรรม Take turns talking.
- ครแู จกกระดาษใหนกั เรยี นคนละแผน
กลมุ 1 วาดเคร่อื งดืม่ ท่ชี อบคนละ 1 อยา ง เชน water, milk, juice, lemonade
กลมุ 2 วาดภาพอาหารคนละ 1 อยา ง เชน meat, rice, a cake, a fish
กลมุ 3 วาดภาพผลไมท่มี จี ํานวนมากกวา 1 ผล เชน mangoes, pears, watermelons,
bananas, apples
กลุม 4 วาดภาพผักจํานวนมากกวา 1 ผล/ฝก /หวั เชน carrots, peas, tomatoes, onions
- กลุม 1 และกลุม 2 ทายหัวกอ ยแลวเลอื กวาจะยนื หนาหองหรอื หลังหอง อกี กลมุ ยืนตรงขามกัน กลมุ ที่

เลอื กแดน เลอื กกิจกรรมกอน โดยพูดวา This is ………. . และชที้ ี่ฝา ยตรงขา ม และพูด That is ………. . เชน
S1: This is water. That is meat.
คนถือภาพ meat พูด This is meat. That is water.
ภาพหนงึ่ อาจใชนกั เรยี นพูด 2 คนกไ็ ด ทําเชน นจี้ นหมดทุกภาพ เสร็จแลว กลุม 3 และกลุม 4
ทาํ เชนเดยี วกัน แตพ ดู โดยใช These are ………. . และ Those are ………. .

- ครูและนกั เรยี นสรุปการใช These/Those พรอ มท้งั ตอบคาํ ถาม

ครัง้ ที่ 3 PB หนา 13 PB Audio CD Track 12
ข้นั นํา
๑. ทํากิจกรรม Take turns talking ตามแผนครัง้ ที่ 1 ข้นั Wrap up
- นกั เรียนเปดหนงั สอื เรยี น หนา 13 ดกู จิ กรรม Point, ask and answer. ดบู ทสนทนาที่ May
และ Sue พดู กัน และบทสนทนาที่ Bill และ Sam พูดกัน
- ครยู าํ้ วา การตอบคําถาม What’s this/that? ใหต อบวา It’s ………. . ครเู ขยี นบนกระดาน ดังนี้
Q: What’s this? A: It’s ………. .
What’s that?

และคาํ ถาม What are these/those ……….?
ใหต อบ They’re ………. .
Q: What are these? A: They’re ………. .
What are those?
- ใหน ักเรยี นอานประโยคคาํ ถาม และตอบคาํ ถามบนกระดานอกี คร้งั
- ครูอานบทสนทนาระหวาง May กับ Sue และ Bill กบั Sam ใหน กั เรียนฟง นักเรียนชี้ขอความ
ตามท่ีครูอา น
- แบง นกั เรียนหญิงเปน 2 กลุม กลุมหนึ่งเปน May อีกกลมุ หนง่ึ เปน Sue อานบทสนทนาตามครู
นกั เรยี นชายเปนกรรมการตัดสนิ วา กลุม ใดอา นตามครไู ดด ี
- แบงนักเรียนชายเปน 2 กลุม กลมุ หน่ึงเปน Bill อกี กลุมหน่งึ เปน Sam นกั เรียนหญงิ เปน
กรรมการตดั สินวากลมุ ใดอา นตามครูไดดี

ขั้นสอน
๑. ทํากิจกรรม Let’s practise! ครูเปด PB Audio CD Track 12 ใหน กั เรียนฟง และอานตาม

ขน้ั สรปุ
- ทํากจิ กรรม Take turns talking เหมือนครัง้ ที่ 2 กิจกรรม Wrap up ใหนกั เรยี นสนทนาโดยใชป ระโยค
What’s this? What’s that? It’s a/an ………. . และ What are these? What are those?
They’re ………. .
เชน กลมุ 1 คนถอื ภาพ meat ถาม What’s this?
กลมุ 2 ตอบ It’s meat.
กลุม 1 ชภ้ี าพในกลุม 2 เชนน้ําดมื่ และถาม What’s that?
กลุม 2 ตอบพรอมกัน It’s water.
ทําเชน น้จี นครบทกุ ภาพ
- หลังจากนั้นใหก ลมุ 3 และกลุม 4 ออกมาทํากจิ กรรมเพือ่ ถามดว ยประโยค What are these/those?
They’re ………. .
- นกั เรยี นจบั คผู ลดั กนั ถาม โดยใชอ ุปกรณการเรียนของนักเรียน หรือสิง่ ตาง ๆ ในหอง ครูคอยเดินฟง การ
พูดถาม-ตอบของนักเรยี น
- ใหน ักเรยี นเดินไปเลอื กถามเพือ่ น 2-3 คน ดวยประโยค What’s this? หรอื What’s that?
- อา นประโยคคาํ ถามและคําตอบใน Let’s practise! อกี คร้ัง

ครง้ั ท่ี 4 WB หนา 12 WB Audio CD Track 7
ขน้ั นาํ
1. ทบทวนคําศัพทจากบตั รภาพ เชน pear, lemon, coconut, watermelon, tomato, carrot,
potato, onion, pears and banana ใหน ักเรียนบอกคาํ ศพั ทจากภาพ
- ครูเขียนคําศพั ทลงบนกระดาน ใหนกั เรยี นออกมาหยบิ บตั รภาพติดคูกบั คําศัพท
- ทบทวนคาํ ศพั ทเกี่ยวกับสี เชน red, yellow, brown, green โดยใชก ระดาษสี
- ครถู ามจากภาพ เชน ครูช้ีทม่ี ะเขือเทศ
ครู : What’s this? นักเรยี น : It’s a tomato.
ครู : Is it fruit? นกั เรียน : No. It’s vegetables.
ครู : What color is it? นกั เรียน : Red.
ถามเชน นี้หลาย ๆ คาํ ถาม
๒. เมอ่ื นกั เรยี นตอบวา คําศัพททงั้ หมดเปน fruit ครเู ขยี น fruit บนกระดานและติดบัตรภาพนั้นไว
ใตคําวา fruit ทําเชน เดยี วกับผกั ดงั ตัวอยาง

Fruit vegetable

- อานคาํ ศพั ทบ นกระดานแยกตามชนดิ ของผลไมและผัก แลว ใหนักเรยี นบอกชื่อผลไมหรือผกั ที่
รจู ักหรอื ท่ีเรียนมาแลว ครวู าดรูปลายเสน งา ย ๆ ตามชนดิ ของผลไมห รือผกั หรอื เขียนคําศัพท
แลวใหน ักเรยี นอา น
- ครูวาดรปู ปลาหรอื เขียนคาํ ศัพท fish และถาม
ครู : Is it fruit? นักเรยี น : No.
ครู : Is it vegetables? นกั เรยี น : No.
ครู : What is it? นกั เรยี น : เนื้อสตั ว
ครู : Yes. It’s meat.
ครเู ขียน meat บนกระดานระดับเดียวกบั fruit และ vegetables
- ครูใหนกั เรยี นดภู าพเนื้อไก ไสก รอก เบอรเกอร และถามเชนเดียวกบั กิจกรรม 2.3 เสร็จแลว
อา นอกี ครัง้

ขนั้ สอน ๑. ครพู ูดคาํ ศัพท นักเรียนบอกประเภท เชน

ครู : apples นักเรียน : fruit.
ครู : oranges นักเรียน : fruit.
ครู : beans นักเรียน : vegetables.
ครู : onions นกั เรียน : vegetables.
ครู : potatoes นักเรยี น : vegetables.
ครู : sausages นักเรยี น : meat.
ครู : fish นักเรียน : meat.
ครู : chicken นกั เรยี น : meat.
๒. ทาํ กจิ กรรม Writing. คําสั่ง Write the words in the correct place. ในแบบฝก หัด
หนา 12 ครเู ปด WB Audio CD Track 7 ใหนกั เรียนฟงคาํ ใน Word box และอานตาม

๓.นกั เรียนอานคําศัพทพ รอ มกัน แลว เขียนลงในตารางใหถ ูกประเภท
ขัน้ สรปุ

- แบง นกั เรียนเปน 3 กลมุ
กลมุ ท่ี 1 อา นรายช่ือ Fruit ในตาราง
กลุม ที่ 2 อา นรายชอื่ Meat ในตาราง
กลุมที่ 3 อา นรายชื่อ Vegetable ในตาราง

- นักเรยี นตรวจคําตอบที่เขียนไว นกั เรยี นจะเขียนคาํ ไหนกอนหลงั กไ็ ด แตใหถกู ตอ ง

- ครอู านคําใน Word box ใหนกั เรียนบอกประเภท เชน
ครู : carrots นกั เรียน : vegetable
ครู : burgers นักเรียน : meat
ครู : chicken นกั เรยี น : meat
ทาํ เชน นจ้ี นหมดทุกคาํ

ครั้งที่ 5 WB หน้า 12 WB Audio CD Track 8

ขัน้ นาํ ๑. ครูเขียน a และ an บนกระดาน ใหน กั เรยี นอานออกเสยี ง ครทู บทวนวา a และ an ใชนําหนา คํานาม

ทีน่ บั ไดทีม่ จี าํ นวนเพยี ง 1 เทา นั้น
- ครูพดู banana, a banana or an banana
นกั เรยี น : a banana
ครู : pear, a pear or an pear
นกั เรยี น : a pear
- ครยู กหลาย ๆ ตัวอยาง ทัง้ a และ an
- ครูอาจพูดคําศัพทแลว ถาม A banana or An banana
- Whose idea is a banana? ใครคดิ วา a banana และ Whose idea is an banana? ใคร
คิดวา an banana นักเรยี นตอบตามประสบการณ ครเู ฉลยโดยเขยี นคาํ ศพั ทใต a หรอื an ตาม
ความเปนจรงิ เชน

a an
banana

- ครูหยิบภาพผักและผลไมใหน ักเรียนดทู ลี ะภาพ และพูดนํา เชน a mango ใหน ักเรยี นพูดตาม
- อาสาสมัครออกมาหยิบภาพ และพดู คําศัพทใหเพือ่ นพดู ตาม
ขัน้ สอน
ครวู าดภาพลายเสนงาย ๆ รปู ผักหรือผลไม ใหนักเรยี นบอกคําศัพทโดยใช a หรอื an อยางถูกตอ ง
ขั้นสรุป
- ครนู าํ บตั รภาพและบัตรคาํ บนโตะ ใหน กั เรยี นอาสาสมัครออกมาหยบิ ใหเพื่อนดู และออกเสียงคําศัพท
- ทํากิจกรรมในแบบฝก หดั หนา 12 Write a or an. ใหนักเรียนเขียน a หรือ an หนา คาํ ศพั ทใตภาพแต
ละขอ
- นกั เรยี นจบั คูก ันอา นคาํ ตอบทีแ่ ตละคนทาํ คนละขอ
- อานพรอมกนั อีกครัง้ เพอื่ เฉลยคําตอบ

ครง้ั ที่ 6 WB หนา 13 WB Audio CD Track 9
ข้นั นาํ

1. ทบทวนการถามและตอบดว ย What’s this/that? และ It’s ………. . What are these/those? และ
They’re ………. . ดว ยการถามคําถามจากภาพและสิง่ ตา ง ๆ ในหอ ง

- ทบทวนคาํ ศพั ทเก่ยี วกบั สี
2. นักเรยี นเปดแบบฝก หัดหนา 13 ทํากิจกรรม Colour the food and answer the questions.
อธิบายวานกั เรยี นตอ งระบายสภี าพอาหารและตอบคําถามใหถูกตอ ง

- ครเู ขยี นคําถามและคาํ ตอบจากตวั อยางขอ 1 บนกระดาน
What’s that?
What colour is it?

- ใหน ักเรียนดูภาพอาหารท่ีใหม าคือกลวย ดงั น้นั คําตอบคอื That’s a banana.
และสีของกลวยคอื สีเหลือง ดังนัน้ คําตอบคือ It’s yellow.
- ใหน กั เรยี นดูคาํ ถามในขอ 2
คาํ ถามคอื What are these? ภาพทีใ่ หมาคือมะเขอื เทศ
ดังน้นั คําตอบคอื (ครใู หนกั เรยี นลองตอบ)

นักเรียน : These are tomatoes.
นักเรียนระบายสมี ะเขือเทศ และตอบคาํ ถามที่สอง
What colour are they? คําตอบคือ They are red/orange. แลวแตสีทีน่ กั เรียนระบาย
ขั้นสอน
๑. ใหนกั เรียนระบายสหี วั หอมในภาพขอ 3 แลวตอบคาํ ถาม
๒. ใหนกั เรียนระบายสีภาพลกู แพรใ นขอ 4 แลวตอบคําถาม

ขน้ั สรปุ
-ใหน กั เรียนทาํ ชน้ิ งาน Good food วาดรูปอาหารและเครือ่ งด่มื ที่ดีตอนักเรยี น 1 มอ้ื ระบายสี
ใหสวยงาม เสรจ็ แลวจับคนู ําเสนอผลงาน โดยผลัดกนั ถาม What’s this/that? และ It’s ………. . หรอื
What are these/those? และ They’re ………. .
- ใหนกั เรียนเขียนอธิบายดวยประโยค This is ………. . These are ………. . They’re good food.

10. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
แบบฝกหดั

11. สอ่ื การเรยี นรู / แหลง เรยี นรู
- หนังสือเรยี น Fly with English 2
- แบบฝก หดั Fly with English 2
- Pupil’s Book Audio CD
- Workbook Audio CD
- บัตรภาพอาหาร และเคร่อื งด่ืม

12. การประเมนิ ผลการเรียนรู เครือ่ งมอื วดั
สงิ่ ท่ีวดั วธิ ีวัด - แบบฝก หดั เกณฑก ารผาน
ดา นความรู (K) - ตรวจผลงาน - แบบสงั เกตการพดู - นักเรยี นผานเกณฑ
- การระบุคําศพั ท แบบประเมินตาม โดยการปฏิบตั ิกจิ กรรม
- การใหข อมูลเก่ยี วกับอาหาร สภาพจริง ไดถูกตอ ง
และเครื่องด่มื -แบบสงั เกตการใฝ รอยละ 80
- ความถูกตองในการ เรียนรู - นักเรยี นผานเกณฑ
ใชคําศัพท -แบบสังเกตความมี โดยปฏิบตั กิ จิ กรรมได
- การสนทนาตามสถานการณ วินยั ถกู ตอ งรอยละ 70
ดานทักษะ/กระบวนการ (P) -การตรวจ/การ -นกั เรียนผานเกณฑ
- ทักษะการฟง พดู อาน สังเกต โดยมีสว นรวมใน
เขยี น กจิ กรรมและมี
- ทักษะการเชอื่ มโยง (บรู ณา ความสุขในการเรียน
การขา มสาระการเรยี นร)ู อยา งนอย
- ทกั ษะการจาํ รอ ยละ 80
ดา นคุณลักษณะอันพงึ - สังเกตพฤติกรรม
ประสงค (A)
- การใฝเรียนรู
- ความเชอ่ื ม่นั และกลา
แสดงออก
- ความมงุ มนั่ ในการทาํ งาน

เกณฑการประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
เกณฑก าร
ประเมนิ ดเี ยย่ี ม (4) ดี (3) พอใช (2) ปรบั ปรงุ (1)
การพูด
ความถกู ตอง ออกเสียงคาํ ศัพท ออกเสยี งคาํ ศพั ท ออกเสยี งคาํ ศพั ท ออกเสยี งคาํ /
และประโยคได และประโยคได และประโยคได ประโยคผิด
ถูกตอ งตามหลกั ถูกตองตาม ถกู ตอ งเปนสวน หลักการออกเสยี ง
การออกเสยี ง หลักการออกเสียงมี ใหญข าดการออก ทําใหสือ่ สารไมได
ออกเสยี งเนน เสียงเนน หนักใน เสียงเนน หนกั
หนักในคาํ /ประโยค คํา/ประโยคเปน
อยางสมบรู ณ สว นใหญ
ความ พูดตอเน่ืองไม พดู ตะกกุ ตะกกั บา ง พดู เปนคาํ ๆหยดุ พดู ไดบางคาํ
คลองแคลว ติดขดั พูดชัดเจน แตยงั พอสอ่ื สารได เปนชว งๆเพ่อื ทําให ทําใหส่ือ
ทาํ ใหสอ่ื สารได สือ่ สารไดไ มชัดเจน ความหมายไมได
การแสดง แสดงทา ทาง พดู ดว ยน้ําเสียง พดู เหมอื นอา น พดู ไดนอยมาก
ทา ทาง/นาํ้ เสียง และพูดดว ยนาํ้ เสียง เหมาะสมกบั บท ไมเปน ธรรมชาติ
ประกอบการพูด เหมาะสมกบั บท บรรยายแตไ มม ี ขาดความนาสนใจ
บรรยาย ทา ทางประกอบ
การอา นออกเสียง

ความเขา ใจ ตอบคําถาม ตอบคําถาม ตอบคาํ ถาม ตอบคําถาม
หลังจากทอี่ า นได หลังจากที่อานไดเกอื บ หลงั จากทีอ่ านได หลงั จากทีอ่ านได
ทั้งหมด ทงั้ หมด เล็กนอย นอยมาก

การจับใจความ จับใจความสําคญั ของ จับใจความสําคัญของ จับใจความสําคญั ของ จบั ใจความสําคัญของ
สําคัญ เน้อื หาไดทั้งหมด เนอ้ื หาไดเ กือบทง้ั หมด เนือ้ หาไดเ ลก็ นอย เน้อื หาไดน อยมาก

การรคู วามหมาย เมอ่ื อา นพบคําศพั ท เมื่ออานพบคําศพั ท เมอ่ื อา นพบคาํ ศพั ท เมือ่ อา นพบคาํ ศพั ท
คาํ ศพั ท ใหมสามารถเดา ใหม สามารถเดา ใหม สามารถเดา ใหม สามารถเดา
ความหมายคําศัพท ความหมายคําศัพท ความหมายคําศพั ท ความหมายคําศัพท
ความเขา ใจ จากบรบิ ทไดท ้งั หมด จากบรบิ ทไดเกอื บ จากบรบิ ทไดเลก็ นอย จากบรบิ ทไดนอ ยมาก
การจบั ใจความ สามารถตอบ
สาํ คญั คําถามหลังจาก ทง้ั หมด การฟง
ทฟ่ี งไดท ัง้ หมด
จับใจความ สามารถตอบ สามารถตอบ ตอบคําถาม
สําคญั ของ คําถามหลงั จากทฟี่ ง คาํ ถามหลังจากที่ หลงั จากทฟ่ี งไดนอย
ไดเ ปน สว นใหญ ฟงไดเล็กนอย มาก
จบั ใจความ จับใจความ จับใจความ
สําคัญของ สาํ คญั ของ สาํ คญั ของ

เนอ้ื หาได เน้ือหาไดเ กอื บ เนือ้ หาได เน้อื หาได
ทั้งหมด ท้งั หมด เลก็ นอ ย นอ ยมาก
การรู รูความหมาย รูความหมาย รคู วามหมาย รคู วามหมาย
ความหมาย คาํ ศัพททั้งหมด คาํ ศัพทโ ดย คําศัพททงั้ หมด คําศัพทเลก็ นอย
คําศัพท สว นใหญแ ละ และไมชัดเจน
การปฏบิ ตั ิตาม ชัดเจน
คําสง่ั ปฏบิ ตั ิตามคาํ สง่ั ปฏบิ ัตติ ามคาํ ส่งั ปฏบิ ตั ติ ามคําส่งั ปฏิบตั ติ ามคาํ สั่ง
การใชภ าษา ไดถูกตองและ ไดถ กู ตอ งแต ไมคอ ยถกู ตอ งและ ไดถกู ตอ งนอยมาก
คลองแคลว คอ นขา งชา คอ นขางชา
เนือ้ หา การเขยี น
ปฏบิ ตั ติ าม การสะกด การสะกด สะกดคาํ ผิดมาก สะกดคําผิดมาก
ขอ ตกลง คาํ ศพั ทถูกตอ ง คําศพั ทผดิ เล็กนอ ย แตพ อเดา เขียนรูปประโยคไม
กฎเกณฑ การเลือกใชคํา พอเดาวามหมายได ความหมายไดรูป ถูกตอง ไมม ี
ระเบียบ ตรงกบั เนื้อหา เขยี นรูปประโยคผิด ประโยคผิดพลาด เครื่องหมายวรรค
ขอ บังคบั ของ ประโยคถูกตอง หลักไวยากรณ มากเคร่อื งหมาย ตอน
ครอบครัว มีเครือ่ งหมาย เลก็ นอ ย วรรคตอนไมค รบ
โรงเรยี น และ วรรคตอนที่ เคร่อื งหมาย หรอื ไมถ ูกตอ ง
สงั คม ถกู ตอ ง วรรคตอนผิด
ตงั้ ใจ เพยี ร เล็กนอย
พยายามในการ มีรายละเอยี ด รายละเอียดของ มีรายละเอยี ด มีรายละเอียด
เรียน และเขา เน้อื หาตรงกับ เน้ือหามากแตย งั ไม ของเน้อื หา ของเนื้อหา
รวมกจิ กรรม ลักษณะทก่ี ําหนด ครอบคลุมทั้งหมด นอย นอยมาก
การเรียนรู มากทส่ี ดุ
เกณฑก ารใหค ะแนนคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
ปฏิบัตติ นตาม ปฏบิ ัติตนตาม ปฏิบัติตนตาม
ขอตกลง กฎเกณฑ ขอตกลง กฎเกณฑ ขอ ตกลง กฎเกณฑ
ระเบียบ ขอ บงั คบั ระเบยี บ ขอ บังคับ ระเบยี บ ขอบงั คับ
ของโรงเรียน และ ของ ตรงตอเวลา ของโรงเรยี น ตรง
ไมล ะเมิดสทิ ธิของ ในการปฏิบัติ ตอ เวลาในการ
ผูอ ่ืน ตรงตอ เวลาใน กจิ กรรมและ ปฏบิ ตั ิกิจกรรม
การ ปฏบิ ัติ รับผดิ ชอบในการ
กิจกรรม และ ทาํ งาน
รับผิดชอบใน
การทาํ งาน
เขาเรียนตรงเวลา เขา เรยี นตรงเวลา เขา เรียนตรงเวลา
ตั้งใจเรียน เอาใจ ต้งั ใจเรียน เอาใจ ต้ังใจเรยี น เอาใจ
ใสใ นการเรียน ใสใ นการเรยี น ใสใ นการเรยี น
และมีสว นรวมใน และมีสว นรว มใน และมีสวนรวมใน
การเรียนรู และเขา การเรยี นรู และเขา การเรียนรู และเขา

รวมกจิ กรรมการ รวมกจิ กรรมการ รว มกิจกรรมการ
เรยี นรตู า งๆ ท้งั เรียนรูต า งๆ เรยี นรตู างๆ เปน
ภายในและ บอ ยคร้ัง บางครัง้
ภายนอกโรงเรียน
เปนประจํา
ตง้ั ใจและ ต้งั ใจและ ตัง้ ใจและ ตั้งใจและ
รับผิดชอบใน รับผิดชอบในการ รับผิดชอบในการ รับผิดชอบในการ
การปฏิบัติ ปฏบิ ัตหิ นาที่ท่ี ปฏบิ ัติหนาท่ีท่ี ปฏิบตั ิหนาที่ท่ี
หนา ท่กี ารงาน ไดร บั มอบหมายให ไดร ับมอบหมายให ไดรบั มอบหมายให
สําเรจ็ สําเร็จ มีการ สาํ เรจ็
ปรับปรงุ และ
พัฒนาการทํางาน
เกณฑก ารประเมิน
1. เกณฑการใหค ะแนนตัดสินระดับคุณภาพชิน้ งาน/ภาระงาน
ระดับ 4 หมายถงึ ดีเย่ียม = 9 - 10 คะแนน
ระดบั 3 หมายถึง ดี = 7 - 8 คะแนน
ระดับ 2 หมายถงึ พอใช = 5 – 6 คะแนน
ระดบั 1 หมายถงึ ปรับปรุง = 1 - 4 คะแนน

การประเมินสมรรถนะสาํ คัญ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคและทักษะศตวรรษท่ี 21 เกณฑการให
คะแนน
ประเด็นประเมนิ แหลง วิธีวัด เครือ่ งมอื วัด
- ความถูกตอ งของ
สมรรถนะสาํ คัญ ช้ินงาน/การ การตรวจ/ แบบตรวจ/ ช้ินงาน
- ความสามารถในการสอ่ื สาร อธบิ ายหรอื การ การสงั เกต แบบสังเกต -ตรงกับความเปน
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค นาํ เสนอ การประเมนิ แบบประเมนิ จรงิ
- ใฝความรู ชน้ิ งาน/การ
- มุง มน่ั ในการทาํ งาน อธิบาย/การ -ความถกู ตอ ง
- ความเช่ือมนั่ และกลาแสดงออก นําเสนอ - ความเขาใจ
ทกั ษะศตวรรษที่ 21 -ความเหมาะสม
- Writing ชน้ิ งาน/การ การตรวจ แบบตรวจ
- Collaboration, teamwork and อธิบายหรอื การ ประเมนิ ประเมิน
leadership นาํ เสนอ ช้ินงาน/ ชน้ิ งาน/ การ
การสังเกต สงั เกตการ
การอธบิ าย อธบิ ายหรอื
หรือการ การนาํ เสนอ
นาํ เสนอ




Click to View FlipBook Version