The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นักสำรวจตัวจิ๋ว 5326

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จู่ฟุง แซ่ฟ่าน, 2020-10-26 07:44:52

นักสำรวจตัวจิ๋ว 5326

นักสำรวจตัวจิ๋ว 5326

ชิ้นงานนักสารวจตวั จ๋ิว

เดก็ ชาย ณฐพรรฒน์ นามสกลุ เตชะวชั รานนท์
ชนั้ ป.5/3 เลขท่2ี 6

โรงเรยี นแสงทองวิทยา อ. หาดใหญ่ จ. สงขลา

1.กาหนดหวั ขอ้ 2วางแผนและเลอื ก 3.กาหนดวิธีการ 4.คน้ หาและวิธีการ 5. สรุปขอ้ มลู
แหล่งขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู

วตั ถุประสงค์

1.เพ่ือรวบรวมขอ้ มูลทำชิ้นงำนวทิ ยำกำรคำนวณ
2.จะไดค้ วำมรู้จำกหนงั วิทยำกำรคำนวณ

วำงแผนและเลือกแหล่งขอ้ มูล

•ทตุ ิยภมู ิ
•1.คน้ หาจากหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์
•2. คน้ หาจากอนิ เตอรเ์ น็ต
•ปฐมภมู ิ
•1.ปรกึ ษาครู
•2.สารวจโดยตรง

กำหนดข้นั ตอนกำรรวบรวมขอ้ มูล

•1.กาหนดหวั ขอ้
•2จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์
•3.สารวจโดยตรง
•4.สรุปขอ้ มลู
•5.นาเสนอ

คน้ หำและรวบรวมขอ้ มูล

• ปรงเป็นพชื ทม่ี ีขนาดเลก็ คลา้ ยกบั ใบของปาลม์ แตก่ ารเรยี งตวั ของใบนนั้ คลา้ ยกบั เฟิรน์ ขา้ หลวงมนั เจริญเตบิ โตชา้ มากคอื 1ปี
จะเกิดใบเพียงแคใ่ บ เดยี วเทา่ นนั้ ปรงสามารถทนตอ่ การขาดนา้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

• ประเภทของปรง
ปรงท่วั โลกมีอยดู่ ว้ ยกนั 3 วงศ์ คือ Cycadaceae, Stangeriaceae และ Zamiaceae มีสมาชิกรวมแลว้ ประมาณ
300 ชนิด (อาจมีการแยก ยบุ รวม หรอื พบชนดิ ใหมเ่ พม่ิ เตมิ อยตู่ ามความเห็นนกั พฤกษศาสตรแ์ ตล่ ะทา่ น) โดยในวงศแ์ รก
Cycadaceae มเี พยี ง 1 สกลุ คือ Cycas มีประมาณ 90 ชนิด กระจายพนั ธกุ์ วา้ งขวางในเขตโลกเกา่ ตงั้ แตฝ่ ่ังตะวนั ออก
ของทวีปแอฟรกิ า มาจนถึงเอเชีย ออสเตรเลยี และตามหมเู่ กาะในมหาสมทุ รแปซิฟิก ปรงที่พบในไทยทงั้ สบิ กวา่ ชนิดก็ลว้ นอยู่
ในสกลุ Cycas นี้ วงศ์ Stangeriaceae แยกเป็น 2 วงศย์ อ่ ย คอื Stangerioideae และ Bowenioideae ซง่ึ
แตล่ ะวงศย์ อ่ ยก็มีเพียงหนง่ึ สกลุ
แหลง่ ขอ้ มลู https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%87

คน้ หำและรวบรวมขอ้ มูล

ตน้ ปรง
ลกั ษณะท่วั ไป:
ตน้ เป็นตน้ ไมเ้ ปลอื กสนี า้ ตาล มรี อยแผลใบท่ลี าตน้ มเี หงา้ ก่งึ ใตด้ นิ
ใบ ประกอบแบบขนนก เรยี งเวยี นสลบั หนาแน่นชว่ งยอดหรอื ปลายก่งิ ใบยอ่ ยดา้ นลา่ งมกั ลดรูปเป็นหนามแหลม ใบยอ่ ยรูปแถบ หนา จานวนมาก เรยี งสลบั หรอื เกอื บตรงขา้ ม เสน้ กลางใบนนู เด่นชดั ไม่มีเสน้ แขนงใบย่อย มเี กลด็
หมุ้ ยอด
ดอก แยกเพศตา่ งตน้ ใบสรา้ งอบั ไมโครสปอร์ จานวนมาก รูปลม่ิ ปลายมกั แหลมคลา้ ยหนาม เรยี งเวยี นเป็นรูปโคน ตง้ั ขนึ้ ท่ียอดลาตน้ ใบสรา้ งอบั เมกาสปอร์ ของเพศเมีย เรยี งเป็นกลมุ่ คลา้ ยใบกระจุกแบบกหุ ลาบซอ้ น ไมเ่ ป็น
รูปโคน แตล่ ะสปอรโ์ รฟิ ลมีกา้ น ปลายกา้ นเป็นแฉกแบบขนนกรองรบั ออวุล ออวลุ มี 1-5 เมด็
เมลด็ ทรงกลมหรอื รี ขนาดค่อนขา้ งใหญ่ มเี นอื้ สดหนาดา้ นนอก ดา้ นในแข็งเป็นเนือ้ ไม้ ลกั ษณะคลา้ ยผลแบบเมลด็ เดียวแข็ง ใบเลยี้ ง 2 ใบ ติดกนั ท่โี คน
การปลกู : เมลด็ ของปรงจะงอกไดช้ า้ มาก ถงึ แมว้ า่ จะไมม่ ีการฟักตวั ก็ตาม การทาใหเ้ มลด็ ปรงงอกไดเ้ รว็ จงึ ตอ้ งนาเมลด็ ปรงมาปอก เอาเนือ้ หมุ้ เมลด็ ท่ีอย่ชู น้ั นอกออกใหห้ มด แลว้ จะพบเปลอื กแขง็ อกี ชน้ั หน่งึ ท่เี รยี กวา่ กะลา
ห่อหมุ้ เมลด็ อยู่ จงึ ควรนาไปฝนจนกะลาทะลหุ รอื กะเทาะใหแ้ ตก เพ่ือใหน้ า้ หรอื ความชนื้ ซมึ เขา้ ไปในเมล็ด แลว้ เมลด็ จะงอกไดเ้ รว็ ขนึ้ ถา้ มีการแกะกะลาออกใหห้ มดจะเหลอื แต่ กอ่ นนาไปเพาะ ควรนาไปแช่นา้ ยาป้องกนั เชอื้ รา
เสยี กอ่ น การเพาะโดยวิธีนีจ้ ะไดต้ น้ ออ่ น ท่ีมเี ปอรเ์ ซ็นตก์ ารงอกสงู และตน้ ออ่ นมีขนาดสม่าเสมอกนั
การดแู ลรกั ษา: ตอ้ งการดินปลกู ท่ีระบายนา้ ดี ตอ้ งการนา้ นอ้ ย
การขยายพนั ธุ:์ การแยกหน่อและการเพาะเมลด็
- เมลด็ ของปรงบางชนิด การสกดั ยาจาก แต่การนามาเป็นอาหารและยา ควรจะระมดั ระวงั ใหม้ ากเน่ืองจากปรงบางชนิดยงั มีสารพิษอย่ดู ว้ ย
แหลง่ ขอ้ มลู https://sites.google.com/site/treesthayang/makham/sn-ptiphathth/nnthri/krathin-nrngkh-1/tn-prng

.คน้ หำและรวบรวมขอ้ มูล

ปรงป่ า ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Cycas siamensis Miq. จดั อยใู่ นวงศป์ รง (CYCADACEAE)

ลกั ษณะของปรงป่ ำ
ตน้ ปรงป่ ำ จดั เป็ นไมพ้ มุ่ หรือไมย้ นื ตน้ ขนำดเลก็ มีควำมสูงไดป้ ระมำณ 3 เมตร ลำตน้ มีลกั ษณะเป็นขอ้ ส้นั ๆ สีเทำดำ รูปทรง
ทรงกระบอก ตรงโคนตน้ จะป่ องเลก็ นอ้ ย มีหวั ใตด้ ินแบนแผอ่ อก มีเขตกำรกระจำยพนั ธุ์ในประเทศไทย ลำว พมำ่ เวียดนำม และ
จีนตอนใต้ ในประเทศไทยพบไดท้ กุ ภำคยกเวน้ ทำงภำคใต้ พบข้ึนหนำแน่นในป่ ำเบญจพรรณแลง้ และป่ ำเตง็ รังทวั่ ไปที่มีไฟไหม้
เป็นประจำ ท่ีควำมสูงประมำณ 20-1,000 เมตร จำกระดบั น้ำทะเล
ใบปรงป่ ำ ใบเป็ นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงเวียนแน่นที่ปลำยยอด ใบสีเขียวเป็นมนั ยำวประมำณ 60-90 เซนติเมตร ใบยอ่ ย
ยำวมีลกั ษณะเป็นรูปขอบขนำนแคบ มีจำนวน 50-70 คู่ ใบยอ่ ยมีขนำดกวำ้ งประมำณ 6 มิลลิเมตร และยำวประมำณ 7.5-20
เซนติเมตร ปลำยใบแขง็ เป็ นหนำม เสน้ กลำงใบนูนเห็นชดั เจนท้งั สองดำ้ น กำ้ นใบยำวประมำณ 30 เซนติเมตร มีหนำมที่สนั ดอก
เป็นแบบแยกเพศอยกู่ นั คนละตน้ ดอกเพศผจู้ ะออกเป็นช่อแน่น ลกั ษณะเป็นรูปโคมยำวแกมขอบขนำน มีขนำดยำวประมำณ 30
เซนติเมตร กำบดอกเป็ นแผน่ แขง็ รูปขอบขนำน ยำวประมำณ 17 เซนติเมตร ดำ้ นนอกเป็นรูปสำมเหลี่ยม มีรยำงคแ์ หลมที่ปลำย
ต้งั ข้ึน ส่วนดอกเพศเมียแผเ่ ป็ นแผน่ คลำ้ ยกำบ ขอบจกั ลึกคลำ้ ยหนำม มีขนำดยำวประมำณ 10-10.5 เซนติเมตร และมีขนำดเส้นผำ่ น
ศนู ยก์ ลำงประมำณ 2-2.5 เซนติเมตร มีขนสีน้ำตำลอมเหลืองข้ึนปกคลุมอยหู่ นำแน่น ตอนล่ำงมีไข่ออ่ นติดอยู่ 1 คู่ ขำ้ งละ 1 ใบ

แหล่งขอ้ มูล

https://medthai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9
B%E0%B9%88%E0%B8%B2/

รวบรวมขอ้ มูลจำกกำรสำรวจ
ภำยในโรงเรียนมีพรรณไมด้ งั น้ี
1ตน้ เขม็ 11หญำ้ หลวง
2ตน้ หมำก 12อญั ชนั
3ตน้ สน
4ตน้ ปำลม์
5ตน้ ตะเคียน
6ตน้ ไทร
7ตน้ แกว้
8ตน้ ไผ่
9คุณนำยตื่นสำย
10ตน้ มะลิวรณ์

รบกวนชว่ ย scan QR CODE
เพื่อตอบแบบสอบถามความพงึ พอใจ


Click to View FlipBook Version