The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยในชั้นเรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by fah_love2539, 2022-05-06 09:41:53

งานวิจัยในชั้นเรียน

งานวิจัยในชั้นเรียน

คานา

การวจิ ัยในช้ันเรยี นในครง้ั นี้ จัดทาขนึ้ เพือ่ ศกึ ษาปัญหาของนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ในดา้ นทักษะ
การอา่ นภาษาองั กฤษ และหาแนวทางการแกไ้ ขปญั หาดังกลา่ ว เพอ่ื ให้นักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน
ภาษาอังกฤษและการมีเจตคติทดี่ ตี อ่ วชิ าภาษาอังกฤษ

ผู้วจิ ยั หวงั วา่ การวิจัยในชั้นเรียนครงั้ นี้จะเปน็ ประโยชน์กบั ผูอ้ ่าน หรือผู้ที่กาลงั ประสบปัญหาน้อี ยู่ หากมี
ขอ้ แนะนาหรอื ขอ้ ผิดพลาดประการใด ผู้วิจยั ขอนอ้ มรับไว้และขออภยั มา ณ ทน่ี ี้ด้วย

นางสาวปราชญาพร แยม้ พันธ์นุ ุ้ย
ผวู้ ิจัย

สารบัญ หนา้

เร่อื ง ก

คานา ค
สารบญั ง
สารบญั ตาราง 1
บทคัดยอ่ 1
บทนา – ทมี่ าและความสาคญั ของปญั หาการวจิ ยั 1
วัตถปุ ระสงค์ของการวิจัย 1
ประโยชนข์ องการวิจัย 2
ขอบเขตของการวจิ ยั 2
ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน 3
วิธดี าเนนิ การวจิ ัย 4
เคร่ืองมอื ในการวิจยั 7
ผลการวจิ ยั 7
สรุปผลการวิจยั 8
ขอ้ เสนอแนะ
เอกสารอ้างองิ
ภาคผนวก

สารบญั ตาราง หนา้

เรอ่ื ง 2
4
ตารางท่ี 1 วธิ ีดาเนนิ การวิจยั 5
ตารางที่ 2 ตารางแสดงการพฒั นาทกั ษะในการอ่านแบบฝกึ หัดที่ (กอ่ นเรยี น) 5
ตารางที่ 3 ตารางแสดงการพฒั นาทักษะในการอา่ นแบบฝึกหดั ท่ี (หลงั เรยี น) 6
ตารางท่ี 3 ตารางสรุปผลการพัฒนาทกั ษะการอ่านของนักเรยี น
ตารางท่ี 4 ตารางเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นและหลังการพฒั นาทักษะการอา่ น

ชือ่ งานวิจยั การพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรยี น
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
ชอื่ ผวู้ ิจยั นางสาวปราชญาพร แย้มพันธน์ุ ุ้ย
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ
ชอ่ื สถานศกึ ษา โรงเรยี นวดั อบทม(อบทมวทิ ยาประชานกุ ลู )

บทคัดย่อ

การทาวิจยั เรือ่ ง การพัฒนาทกั ษะการอ่านออกเสยี งคาศัพท์ภาษาองั กฤษของนักเรยี นชนั้
ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนวดั อบทม(อบทมวทิ ยาประชานุกูล) มวี ตั ถุประสงค์ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการ
อ่านคาศัพทภ์ าษาอังกฤษ ของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผ้วู ิจยั ไดส้ ร้างชุดฝึกการอา่ นคาศพั ท์
จานวน 13 ชดุ โดยจดั ทาเปน็ หมวดหมู่ จานวน 13 ชุด ดังนน้ั การเรยี นรคู้ าศัพท์ใหม้ ากทส่ี ดุ
จงึ เป็นสิ่งสาคัญมาก หลังจากก ารฝึกอ่าน ซ้าแลว้ ซา้ อีก ทาให้นักเรียนได้เรยี นรคู้ าศัพท์มากขน้ึ
จนสามารถอา่ นบทความสน้ั ๆ ได้อย่างนา่ พอใจ ผลสรุปแล้ว นักเรยี นมที ักษะการอ่านเพิ่มขึน้ ร้อย
ละ 30.77

การพัฒนาทกั ษะการอ่านออกเสยี งคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3

ความสาคัญและที่มา
ภาษาองั กฤษนับเป็นภาษาหน่งึ ที่มคี วามสาคญั มากในปัจจบุ ันนี้ เรือ่ งของคาศัพท์กเ็ ปน็ ปจั จยั หน่งึ ท่ที าให้

นักเรียนสามารถเรียนไดด้ ีและเข้าใจในภาษาเชน่ กนั ซึง่ จากการสงั เกตนักเรียนปรากฏว่านกั เรียนจะจาคาศพั ท์ได้
น้อยมากบางคนจะจาไมไ่ ด้เลยแมว้ ่าจะเคยท่องกับคุณครผู สู้ อนวชิ าอื่นมาแล้วกต็ าม ทาให้นกั เรียนไม่สนใจและไม่
อยากจะเรียนในวชิ านี้ ซง่ึ เรื่องของคาศพั ทถ์ ือเปน็ พนื้ ฐานของการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ ซึง่ นกั เรยี นช้ัน
ประถมศึกษายังมปี ญั หาในเรอ่ื งของคาศัพท์อยูม่ าก สาเหตุหนง่ึ เป็นเพราะนกั เรียนยังอายุน้อยจึงขาดความเอาใจใน
ในเร่อื งการท่องคาศัพท์และการพัฒนาของสมองยงั รบั ไม่สามารถจดจาคาศพั ท์ได้เปน็ จานวนมาก

ดงั น้ันผู้วจิ ยั จึงไดพ้ ยายามศกึ ษาและสง่ เสริมทจ่ี ะช่วยใหน้ ักเรียนได้จดจาคาศัพทแ์ ละนาไ ปใชใ้ นการเรยี น
การสอนในวชิ าอน่ื ๆ ไดม้ ากขน้ึ

ทางเลือกทค่ี าดว่าจะแกป้ ัญหา
จากความสาคัญและประโยชน์ของคาศพั ท์ในภาษาองั กฤษดงั ทไ่ี ดก้ ล่าวมาแล้วนั้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่

จะหาวิธีการส่งเสริมการทอ่ งคาศัพท์ดว้ ยตนเองให้มากยงิ่ ข้นึ โดยใชก้ ลวธิ ีในการเขียนคาศพั ท์ และทาแบบฝึกหดั
เกี่ยวกบั คาศพั ท์ ซ่งึ วธิ ีนผี้ จู้ ัดทาคาดวา่ จะสามารถพัฒนาการจดจาคาศัพทข์ องนักเรียนใหเ้ กิดผลสัมฤทธ์ิได้ จงึ มี
ความสนใจท่ีจะนากิจกรรมดงั กล่าวมาทดลองใชเ้ พื่อชว่ ยพัฒนาการจดจาคาศัพท์ของนักเรียน

จุดประสงคข์ องการวิจยั
1. นักเรียนสามารถพัฒนาทกั ษะการอ่านภาษาองั กฤษได้
2. นกั เรียนสามารถพัฒนาทกั ษะที่เกิดจากการอ่านประเภทต่าง ๆ และเป็นความร้พู ้นื ฐานในการศึกษา

ตอ่ ในข้ันที่สงู ขน้ึ
3. นกั เรยี นมเี จตคติทีด่ ตี อ่ วชิ าภาษาอังกฤษ

ประโยชนท์ ่ีคาดวา่ จะได้รบั
1. นักเรียนมพี ัฒนาการทางด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษไปในทศิ ทางทีด่ ีข้นึ
2. นักเรยี นมผี ลสัมฤทธิท์ างการอา่ นภาษาอังกฤษสงู ข้ึน

ขอบเขตของการวิจยั

การวิจัยครัง้ นีเ้ ปน็ การศกึ ษาทกั ษะการอา่ นภาษาองั กฤษของนักเรียนระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3

โรงเรยี น วัด อบทม (อบทมวทิ ยาปร ะชานุกลู )ท่เี รยี นวชิ าภาษาองั กฤษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 25 64

ที่มีผลสัมฤทธิท์ างการอ่านภาษาองั กฤษตา่

ประชากรและกล่มุ เปา้ หมาย 3 จานวน 7 คน
ประชากรทีใ่ ช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ไดแ้ ก่ นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ี่ หมายเหตุ

โรงเรยี นวดั อบทม(อบทมวิทยาประชานุกลู ) ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

ระยะเวลาในการดาเนินงาน
15 มถิ ุนายน 2564 ถึง 30 กันยายน 2564

วธิ ีดาเนินการวจิ ัย
ตารางท่ี 1 วธิ ีดาเนนิ การวจิ ยั

วัน เดือน ปี กิจกรรม

15 – 30 มิถนุ ายน 2564 1. ศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์หาแนวทาง
แก้ปญั หา
1 – 15 กรกฎาคม 2564 2. เขียนเคา้ โครงงานวิจยั ในช้ันเรียน
3. ศึกษาหลักสตู รเกย่ี วกับคาศัพท์
16 - 20 กรกฎาคม 2564 4. วเิ คราะห์ผู้เรยี นและวิเคราะห์เนอ้ื หา
21 กรกฎาคม – 20 5. ออกแบบเครอ่ื งมือที่จะใช้ในงานวิจยั
กนั ยายน 2564 6. นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน
7. แจงตารางเทียบพยัญชนะและสระใหน้ ักเรียน
ศกึ ษาพร้อมทัง้ อธบิ ายประกอบ

7.1 ทบทวนความร้เู กี่ยวกบั การออกเสียงสระ
2 ประเภท คอื สระเด่ียวและสระผสม

7.2 นกั เรียนทาแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคา
สิ่งของในหอ้ งเรียน

7.3 นกั เรียนทาแบบฝึกชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคา
สตั ว์

7.4 นักเรียนทาแบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคา
ผลไม้

7.5 นักเรยี นทาแบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคา
สว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย

วนั เดือน ปี กิจกรรม หมายเหตุ

21 – 27 กนั ยายน 2564 7.6 นกั เรยี นทาแบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ได้แก่ หมวดคา
28 – 15 ตลุ าคม 2564 อาหาร และ เครื่องด่ืม

7.7 นักเรยี นทาแบบฝึกชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคา
ของเล่น

7.8 นกั เรียนทาแบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคา
เครอื่ งนงุ่ หม่

7.9 นักเรยี นทาแบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ได้แก่ หมวดคา
อาชพี

7.10 นักเรยี นทาแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคา
จานวนนบั

7.11 นกั เรยี นทาแบบฝึกชดุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดวัน
ทั้ง 7

7.12 นักเรียนทาแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดสี
7.13 นักเรยี นทาแบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวด
คากรยิ า
7.14 นกั เรียนทาแบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคา
ครอบครัว
8. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน
9. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และวเิ คราะห์ข้อมูล
10. สรปุ และอภปิ รายผล
11. จัดทารปู เลม่

เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั
เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการวจิ ยั ได้แก่ แบบทดสอบและแบบฝึก ดงั น้ี
1. แบบทดสอบกอ่ นและหลังเรยี น
2. แจงตารางเทียบพยญั ชนะและสระให้นักเรียนศกึ ษาพร้อมท้งั อธิบายประกอบ

3. ทบทวนความรเู้ กีย่ วกบั การออกเสียงสระ 2 ประเภท คอื สระเด่ยี วและสระผสม
4. แบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคาส่งิ ของในหอ้ งเรยี น
5. แบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคาสัตว์
6. แบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคาผลไม้
7. แบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคาส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
8. แบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ได้แก่ หมวดคาอาหาร และ เคร่ืองด่มื
9. แบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ได้แก่ หมวดคาของเลน่
10. แบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคาเครอ่ื งนงุ่ หม่
11. แบบฝึกชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคาอาชพี
12. แบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคาจานวนนบั
13. แบบฝกึ ชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดวนั ทั้ง 7
14. แบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ได้แก่ หมวดสี
15. แบบฝึกชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคากรยิ า
16. แบบฝึกชดุ ท่ี 1 ได้แก่ หมวดคาครอบครวั

ผลการวจิ ัย
การประเมนิ ผลจากการอ่านของนักเรยี นจากเกณฑท์ ่กี าหนดของแตล่ ะชุด คือ

ตารางที่ 2 ตารางแสดงการพฒั นาทกั ษะในการอ่านแบบฝึกหัดที่ 1 – 13 (กอ่ นเรยี น)

ลาดบั แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ
ที่ ฝกึ 1 ฝกึ 2 ฝึก 3 ฝกึ 4 ฝึก5 ฝึก 6 ฝึก 7 ฝึก 8 ฝกึ 9 ฝกึ 10 ฝึก11 ฝกึ 12 ฝึก13

1          
2         
3           
4         
5           
6          
7          
รวม 0 3 2 2 1 3 3 3 5 0 1 1 4

ตารางที่ 3 ตารางแสดงการพฒั นาทกั ษะในการอา่ นแบบฝึกหดั ที่ 1 – 13 (หลงั เรียน)

ลาดับ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ แบบ
ท่ี ฝึก 1 ฝกึ 2 ฝึก 3 ฝึก 4 ฝึก5 ฝึก 6 ฝกึ 7 ฝึก 8 ฝกึ 9 ฝึก 10 ฝึก11 ฝกึ 12 ฝึก13

1           
2          
3          
4          
5          
6          
7         
รวม 3 3 5 5 3 4 3 5 3 7 3 5 7

เกณฑ์การให้คะแนน  หมายถึง ผา่ น ( ผดิ ไมเ่ กนิ 5 คา )
 หมายถึง ไม่ผา่ น ( ผิดตั้งแต่ 6 คาขึน้ ไป )

ตารางที่ 4 ตารางสรปุ ผลการพัฒนาทักษะการอ่านของนกั เรยี นจานวน 7 คน รอ้ ยละ
42.85
ชุดท่ี จานวนนักเรียน 42.85
13 71.42
23 71.42
35 42.85
45 57.14
53 42.85
64 71.42
73 42.85
85 100
93 42.85
10 7 71.42
11 3 100
12 5
13 7

จากตารางสรปุ ผลการพัฒนาทักษะการอ่านของกลมุ่ เปา้ หมาย พบว่า หลงั จากนักเรียนได้ฝกึ การอา่ น
แบบฝึกชดุ ท่ี 1 นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ประเมินร้อยละ 42.85
แบบฝึกชุดที่ 2 นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมินรอ้ ยละ 42.85
แบบฝึกชุดที่ 3 นกั เรียนผ่านเกณฑป์ ระเมนิ รอ้ ยละ 71.42
แบบฝึกชุดท่ี 4 นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมินรอ้ ยละ 71.42
แบบฝกึ ชดุ ที่ 5 นกั เรยี นผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ รอ้ ยละ 42.85
แบบฝกึ ชุดที่ 6 นักเรยี นผ่านเกณฑ์ประเมนิ ร้อยละ 57.14
แบบฝกึ ชดุ ท่ี 7 นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมินร้อยละ 42.85
แบบฝึกชดุ ท่ี 8 นักเรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ รอ้ ยละ 71.42
แบบฝึกชุดท่ี 9 นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ร้อยละ 42.85
แบบฝึกชุดที่ 10 นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ประเมินรอ้ ยละ 100
แบบฝึกชุดท่ี 11 นักเรียนผา่ นเกณฑป์ ระเมินร้อยละ 42.85

แบบฝกึ ชดุ ท่ี 12 นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ประเมินรอ้ ยละ 71.42
แบบฝกึ ชุดที่ 13 นกั เรยี นผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ รอ้ ยละ 100

แสดงวา่ นักเรียนมกี ารพัฒนาทกั ษะการอา่ นดีขน้ึ

ตารางที่ 5 ตารางเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นและหลังการพัฒนาทักษะการอา่ น

ลาดับท่ี กอ่ นเรยี น หลงั เรียน
1 0 7
2 5 8
3 5 9
4 4 7
5 6 10
6 8 10
7 0 5

จากตารางเปรยี บเทียบพบว่า หลงั การพฒั นาทกั ษะการอา่ น นกั เรยี นท้งั หมดมีผลการอา่ นดีขน้ึ
สรุปผลการวิจยั

จากการวจิ ยั ในครั้งนี้ พบวา่ หลงั จากนักเรยี นไดอ้ ่านชดุ ฝึก จากแบบฝกึ ทง้ั 13 ชดุ นกั เรียนมีทักษะ
การอ่านดขี น้ึ และมีความมัน่ ใจในการอ่านมากขน้ึ

ขอ้ เสนอแนะ
การอา่ นเป็นทักษะซ่ึงจะสมฤทธผ์ิ ลได้จากการกระทาอย่างต่อเนอ่ื ง หรอื สมา่ เสมอ ดังน้นั จงึ ควรมีการ

พัฒนาทักษะการอ่านตอ่ ไป โดยการกระตุ้นใหน้ กั เรียนเหน็ ความสาคัญและรกั การอ่าน โ ดยครผู ู้สอนเรียก
นกั เรียนมาอ่านให้ฟังเปน็ ระยะ ๆ และควรพัฒนาทกั ษะการอ่านออกเสียง กับนักเรียนระดับชั้น อน่ื ๆ

เอกสารอ้างอิง
มลวิ ัลย์ พงศ์สเุ สนีย์ ,การวจิ ยั ในชั้นเรยี น เร่ืองการพัฒนาทักษะการอา่ นออกเสียงภาษาองั กฤษของ

นกั เรยี นระดบั ปวช. 1 สาขาวชิ าชา่ งอเิ ลก็ ทรอนิกส์ และชา่ งไฟฟ้า วทิ ยาลยั สารพัดช่างนครปฐม
บุญเสริม สัมมนาวงค์ , My E Book เสรมิ การเรยี นรู้ พ้นื ฐานภาษาองั กฤษ กลุม่ สาระการเรียนรู้

ภาษาตา่ งประเทศ ช่วงชัน้ ท่ี 1 และผเู้ ร่มิ เรยี น
บญุ เสริม สมั มนาวงค์ , My E Book เสริมการเรียนรู้ พน้ื ฐานภาษาองั กฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรู้

ภาษาตา่ งประเทศ ช่วงชนั้ ที่ 2

ภาคผนวก

1. คาศพั ท์หมวด สิ่งของในห้องเรยี น ( Things in the classroom )

Vocabulary Reading Meaning
Book บ๊คุ หนังสอื
Pen เพน ปากกา
Pencil เพนซลิ ดนิ สอ
Ruler รเู ลอร์ ไมบ้ รรทัด
Chair แชร์ เกา้ อ้ี
Desk เดส โต๊ะเรียน
Bag แบค กระเปา๋
Box บอ็ ค กล่อง
Door ดอร์ ประตู
Window วินโดว์ หน้าต่าง

Vocabulary 2. สัตว์ ( Animals ) Meaning
Cat แมว
Fish Reading ปลา
Pig แคท หมู
ฟิช ช้าง
Elephant พกิ เสือ
Tiger วัว
Cow แอลเลิฟแฟ้น เป็ด
Duck ไทเกอร์ ไก่
Chicken คาว เปด็
Dog ดคั มด
Ant ชคิ เคน้ ก้งุ
Prawn ดอ็ ก ห่งิ หอ้ ย
Firefly แอนท์ แมลงปอ
พรอน เต่า
Dragonfly หมแี พนดา้
Turtle ไฟเออรไ์ ฟร์ ค้างคาว
Panda ดราก้อนไฟร นก
Bat เทอร์เทิล แมงมุม
Bird คางคก
Spider แพนด้า ปู
Toad แบท หมีโคลา่
Crab เบิร์ด สิงโต
Koala สไปเดอร์ ควาย
Lion โทด จงิ โจ้
Buffalo แครบ นกเพนกวนิ
Kangaroo โคอาลา่
Penguin ไลออ้ น
บฟั ฟาโล
แคงการู
เพนกวิน

Vocabulary Reading Meaning
Hippopotamus ฮิปโปโปเทมสั ฮิปโป
ปลาดาวทะเล
Starfish สตาร์ฟชิ อูฐ
Camel คาเมล เมน่
Porcupine พอรค์ ิวไพน์ ปลาไหล
Eel อีล นกยงู
Peacock พคี อ็ ค ตั๊กแตน
Grasshopper แกล้สฮอ้ ปเปอร์ ผงึ้
Bee ปลาฉลาม
Shark บี แกะ
Sheep ชาร์ค นกกระจอกเทศ
Ostrich ชพี มา้ ลาย
Zebra ออสตริส นกอินทรยี ์
Eagle ซบี รา้ ลงิ
Monkey อเี กิ้ล จระเข้
Crocodile มงั คี้ ผีเสอ้ื
Butterfly คร็อคโคดาย แรด
Rhino บตั เตอรฟ์ ลาย หงส์
Swan ไรนอ หมู
สวอน ปลาวาฬ
Pig พิก หมี
whale เวล ยีราฟ
Bear แบร์ งู
Giraffe จีราฟ กระต่าย
Snake สเน็ค ปลาหมึก
Rabbit แรบบิท
octopus อ็อคโทพสั

3. หมวดผลไม้ และ ผัก ( Fruits and vegetables )

Vocabulary Reading Meaning
Orange ออเรน้ สม้
Durian ดเู รยี น ทุเรียน
แมงโกสทนี มงั คดุ
Mangosteen พี เอก้ แพลน มะเขอื พวง
Pea eggplants สตรอเบอร่ี สตรอเบอร่ี
แรมบูแทน เงาะ
Strawberry โคโคนัท มะพร้าว
Rambutan กิงเกอร์ ขงิ
Coconut คอร์น ขา้ วโพด
กัวว่า ฝรงั่
Ginger บานาน่า กล้วย
Corn มาเรียน พรัม มะปราง
Guava พาพาย่า มะละกอ
Banana แบมบู ชูท หน่อไม้
Marian plum แครอท แครอท
Papaya ชิลลิ พรกิ
Bamboo shoot ไชนสิ แคบเบท ผักกาดขาว
Carrot บีน สเปรา้ ถว่ั งอก
Chili พาย แอบเพลิ้ สับปะรด
Chinese cabbage ไชนสิ คารท์ คะนา้
Bean sprouts คอลี่ฟลาวเวอร์ กะหลา่ ดอก
Pineapple บิทเทอร์ ควิ คัมเบอร์ มะระ
Chinese kale มสั รูม เหด็
Cauliflower คัสตารด์ แอบเพ้ิล นอ้ ยหน่า
Bitter cucumber โรส แอบเพ้ิล ชมพู่
Mushroom
Custard apple
Rose apple

Vocabulary Reading Meaning
Ivy gourd ไอวี่ กอร์ด ตาลึง
Grapes องุ่น
เกรฟ ลกู เชอรี่
Cherry เชอร์รี่ มะนาว
Lime ไลม ฟักทอง
Pumpkin พัมก้ิน ผกั บุ้ง
Morning glory มอร์น่ิง กลอร่ี แตงโม
Watermelon วอเทอรเ์ มลอน มะม่วง
Mango แมงโก ตน้ หอม
Green onion กรนี ออนเนียน กระเทียม
Garlic กาลคี กะเพรา
Holly basil ฮอลลี่ เบซิล ผกั ชี
Parsley พารส์ เลย์ มะขาม
Tamarind แทมมารีน ลกู สาล่ี
Chinese pear ไชนสิ แพร์ หอมหวั ใหญ่
Onion ออนเนยี น ลูกแอบเปิ้ล
Apple แอบเพิล้ ลิน้ จี่
Lychee ลน้ิ ช่ี มะเขือเทศ
Tomato โทเมโท้ แตงกวา
cucumber คิวคัมเบอร์

4. หมวดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ( Parts of body )

Vocabulary Reading Meaning
Hair ผม
Head แฮร์ หวั
Brain เฮด สมอง
Eye เบรน ตา
Ear อาย หู
Eyebrow เอียร์ คิ้ว
Cheek อายโบร แกม้
Chin ชคี คาง
Lip ชิน รมิ ฝปี าก
Mouth ลปิ ปาก
Teeth เม้า ฟนั
Neck ทสี คอ
Shoulder เนค ไหล่
Leg โชเดอร์ ขา
Knee เลค เขา่
Foot นี เท้า
toe ฟตุ น้ิวเท้า
โท

5. หมวด อาหารและเครอื่ งด่ืม ( Food and Drink )

Vocabulary Reading Meaning
Egg เอ็ก
Ice cream ไอครมี ไข่
Coffee คอฟฟี่ ไอศกรมี
Tea ที กาแฟ
Water วอร์เตอร์ ชา
Bread เบรด นา้
Milk มิลค์ ขนมปัง
Cake เค้ก นม
Rice ไรส์ ขนมเคก้
soup ซุป ขา้ ว
นา้ ซปุ

6. หมวด ของเล่น ( toys )

vocabulary reading meaning
Ball บอล ลูกบอล
doll ดอล ต๊กุ ตา

vocabulary 7. หมวด เครอ่ื งนุง่ ห่ม ( Cloth )
Shirt
skirt reading meaning
Jeans เช้ิต เสอ้ื ยืด
Pants สเกติ กระโปรง
Shorts จีนส์ กางเกงยนี ส์
Uniform แพน กางเกงขายาว
Hat ชอ้ ต กางเกงขาส้นั
Gloves ยนู ิฟอรม์ ชุดนักเรยี น
Cap แฮท หมวก
Umbrella โกรป ถงุ มือ
Socks แคป หมวกแก๊ป
อมั เบรลล่า รม่
ซอ้ ค ถงุ เท้า

vocabulary 8. อาชพี ( Occupation ) meaning
Teacher ครู
Student reading นกั เรยี น
Doctor ทชิ เชอร์ หมอ
Soldier สทวิ เดน้ ทหาร
Nurse ดอกเทอร์ นางพยาบาล
Policeman โซเจอร์ ตารวจ
carpenter เนสิ ช่างไม้
actor โพลิสแมน นักแสดง
Businessman คารเ์ พนเทอร์ นกั ธุรกิจ
Dentist แอคเทอร์ หมอฟนั
Painter บสิ สเิ นสแมน ช่างทาสี
Postman เดนทิส บุรษุ ไปรษณีย์
Gardener เพนเทอร์ ชาวสวน
Lawyer โพสแมน นกั กฎหมาย
Reporter การ์เดนเนอร์ นกั ข่าว
ลอเยอร์
รพี อร์ทเทอร์

9. จานวนนบั ( one - a hundred )

vocabulary reading meaning
One
Two วนั หนึง่
Three ทู สอง
Four ทรี สาม
Five โฟร์ ส่ี
Six ไฟร์ หา้
Seven ซกิ หก
Eight เซเวน เจด็
Nine เอท แปด
Ten นาย เกา้
Eleven เทน สิบ
Twelve อเี ลฟเวน สบิ เอ็ด
Thirteen ทเวล สิบสอง
Fourteen เทอทนี สิบสาม
Fifteen โฟทนี สิบสี่
Sixteen ฟฟิ ทนี สิบห้า
Seventeen ซิกทีน สบิ หก
Eighteen เซเวนทีน สบิ เจด็
Nineteen เอททีน สบิ แปด
Twenty นายทนี สิบเกา้
Thirty ทเวนตี้ ยี่สิบ
Forty เทอรต์ ้ี สามสิบ
Fifty ฟอรต์ ี้ สี่สิบ
Sixty ฟิฟตี้ ห้าสบิ
ซกิ ตี้ หกสิบ

vocabulary reading meaning
Seventy เซเวนตี้ เจ็ดสบิ
Eighty เอทตี้ แปดสิบ
Ninety นายตี้ เก้าสิบ
One hundred วัน ฮนั เดรด หน่ึงร้อย

10. วันท้ัง 7 ( Days of the week )

vocabulary reading meaning
Sunday ซันเด วนั อาทติ ย์
Monday มันเด วันจันทร์
Tuesday ทวิ สเด วนั อังคาร
Wednesday เวสเด วันพุธ
Thursday เทสิ เด วนั พฤหัสบดี
Friday ฟลายเดย์ วนั ศุกร์
Saturday แซทเทอเด วนั เสาร์

11. สี ( Colours )

vocabulary reading meaning
White สีขาว
Black ไว สีดา
Blue แบรค สฟี ้า
Red บรู สีแดง
Purple เรด สีมว่ ง
Yellow เพอเพลิ สเี หลือง
Pink เยลโล สชี มพู
Green พิง สีเขียว
Orange กรนี สแี สด
Brown ออเรน้ สีน้าตาล
บราว

vocabulary 12. หมวดคากรยิ า ( Verbs ) meaning
Walk เดนิ
Sit reading นง่ั
Stand วอค ยนื
Run ซิด วิง่
Jump สแตน กระโดด
Fly รนั บนิ
Point to จมั้ ชี้ไปท่ี
Put ฟลาย วาง
Clap พ้อย ทู ปรบมือ
Shake พุด เขย่า
แครบ
เชค

13. หมวดครอบครวั ของฉัน ( My family )

vocabulary reading meaning
Father ฟารเ์ ทอร์ พอ่
Mother มาเทอร์ แม่
Sister ซิสเตอร์ พส่ี าว , นอ้ งสาว
Brother บราเทอร์ พช่ี าย ,นอ้ งชาย
Son ซัน ลกู ชาย
Daughter ดอรเ์ ทอร์ ลูกสาว
Nephew เนฟฟลิ หลานชาย
Niece นสิ หลานสาว
Uncle อังเคิล ลงุ
Aunt อาน ปา้
Cousin เคาซึน ลกู พล่ี กู นอ้ ง


Click to View FlipBook Version