The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prepairpan, 2021-05-09 06:02:56

ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการศึกษา

ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการศึกษา

ระเบียบโรงเรยี นสตรวี ดั อปั สรสวรรค์
วา่ ด้วยการวัดและประเมินผลการเรียนระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

พุทธศักราช ๒๕๖๒

ตามหลกั สตู รแกนรกละาเงบกาียรศบึกษโารขนั้งพเ้ืนรฐียานนพสทตุ ธรศกั วี ราดั ชอ๒๕ัป๕ส๑ ร(ฉสบบั วปรรับรปครงุ ์ พ.ศ.๒๕๖๐)
.............................................................................

ตามท่กี ระทรวงศึกษาธวกิ า่ารดไ้วดป้ยรกะกาาศรใชว้หลดั ักแสูตลรแะกนปกลราะงกเามรศินึกษผาขล้นั พกนื้ าฐารนเพรทุ ียธศนกั ราช ๒๕๕๑ เม่อื

วนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ตามคาสั่งกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่ สพฐ ๒๙๓/๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม

๒๕๕๑ และรกาะหดนดับใหมส้ ธั ถายนมศึกศษึกาจษัดทาาตรอะเนบยีตบ้นกแารลวัดะแรละะปดรับะเมมินัธผยล มแศลกึะเอษกาสาตรอปนระปกอลบาหลยักสูตรที่

เกยี่ วขอ้ งนั้น เพือ่ ใหม้ ีข้อกาหนดตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั การวดั และประเมนิ ผล โรงเรยี นจึง กาหนดระเบียบการวัดผล

ปปรระะเเมมนิินผผลลดังต่อกไาปรนเร้ี ียนข้อรตู้ ๑าม. หรละักเสบูตยี รบโนรพง้ีเรเรยี ทุ ียกนวธส่าศต“รักรีวะัดรเอบาปัียชสบรโสร๒งวเ๕รรรยี ค๖น์ ส๒ตรโีวดัดยอกปั าสหรนสดวรรคร์วะา่ เดบ้วียยบกกาารรววดั ดั แผลละแกลาะร

ประเมนิ ผล การเรียน พทุ ธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖ต๐า)”มขหอ้ ล๒ก. สัระตูเบรยี แบนก้ใี หน้บกังคลบั าใชง้ในกทากุ ระศดึกับชษั้นาตข้ังแั้นต่ปพกี า้นื รศฐึกาษนา ๒๕๖๒ เปน็ ต้นไป
ขอ้ ๓. บรรดาระเบียบ ข้อบงั คับ หรอื คาสั่งอื่นใดในส่วนท่ีกาหนดไวแ้ ล้วซงึ่ ขดั แยง้ หรอื แย้งกบั

ระเบยี บน้ใี ห้ใช้ระเบียขบ้อน๔แี้ .ทนให้ใชร้ ะเบียบนพ้ีควุทบธคู่กศับกัหลรกั าสชูตรแ๒กน๕ก๕ลา๑งการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

(ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) และหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์ ปพี ทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒

ข้อ ๕. ใหผ้ อู้ านวยการโรง(เรฉียนบรบักั ษปากราับรใหป้เปรน็ ุงไปพตา.มศระ.เบ๒ยี ๕บน๖ี้ o)

หมวดที่ ๑
หลกั การวดั และประเมินผลการเรยี น

ข้อ ๖. ใหส้ ถานศึกษามหี นา้ ท่ีวดั และประเมนิ ผล ตดั สิน และอนุมัติผลการเรยี นทุกระดับชั้น โดย

ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน และครอบคลุมมาตรฐฉาบนกบั าปรเรรียับนปรู้รุงคแรลง้ั ะทตัวี่ ๗ชว้ี ดั /
ข้อ ๗. การวดั และประเมินผลการเรยี น ตอ้ งสอดคล้อง

ผลการเรียนรู้ ที่กาหนดในหลักสูตร วันที่ ๑๒ มนี าคม พ.ศ.๒๕๖๒

พฒั นาผู้เรข๘ีย้อ.๑น๘.กกาากรราววรัดดั วแแัดลลแสะะลาปปะนรรปะะรกั เเะมมงเนิินมาผผินนลลผเรเลขพะกด่ือตาบัตพรดัชเร้นืสัน้ ยี ินเทนรผียตี่กลน้อากงารปปรศรเรระกึะียกกษนออาบบมดดว้ว้ธั ยยยมกศารกึ วษัดแาลกะรปงุรโะรเทเงมเพินรผมยี ลหนาอนปั คสรเรพส่ือเขวปรตรบั รป๑คร์ งุ

ระเบียบโรงเรยี นสตรวี ดั อัปสรสวรรค์
วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี นระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศึกษาตอน

ปลาย
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐)

.............................................................................

ตามทีก่ ระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใชห้ ลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ เมอื่ วนั ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ตามคาส่งั กระทรวงศึกษาธกิ าร ที่ สพฐ ๒๙๓/๒๕๕๑ ลงวนั ที่ ๑๑
กรกฎาคม ๒๕๕๑ และกาหนดให้สถานศึกษาจดั ทา ระเบยี บ การวัดและประเมินผล และเอกสารประกอบ
หลักสตู รทเ่ี กี่ยวข้องนน้ั เพ่ือใหม้ ขี ้อกาหนดตา่ ง ๆ เก่ียวกับการวดั และประเมนิ ผล โรงเรียนจึงกาหนดระเบยี บ
การวัดผลประเมนิ ผล การเรียนรู้ตามหลักสูตรโรงเรียนสตรีวดั อปั สรสวรรค์ โดยกาหนดระเบียบการวดั ผลและ
ประเมนิ ผลดังต่อไปนี้

ขอ้ ๑. ระเบยี บน้ีเรยี กว่า “ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์วา่ ด้วยการวัดและการประเมินผลการ
เรียน พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.
๒๕๖๐)”

ข้อ ๒. ระเบยี บน้ใี หบ้ งั คบั ใช้ในทุกระดับชนั้ ตง้ั แตป่ กี ารศกึ ษา ๒๕๖๒ เป็นต้นไป
ข้อ ๓. บรรดาระเบียบ ขอ้ บังคับ หรือคาส่ังอื่นใดในสว่ นท่กี าหนดไว้แลว้ ซึง่ ขัดแยง้ หรือแยง้ กับระเบยี บ
นใี้ หใ้ ชร้ ะเบยี บน้ีแทน
ข้อ ๔. ให้ใชร้ ะเบยี บนีค้ วบคู่กบั หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับ
ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) และหลกั สตู รสถานศึกษาของโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ปีพทุ ธศักราช ๒๕๖๒
ข้อ ๕. ให้ผูอ้ านวยการโรงเรียนรักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บน้ี

หมวดที่ ๑

หลกั การวัดและประเมนิ ผลการเรียน

ขอ้ ๖. ใหส้ ถานศึกษามหี น้าทว่ี ัดและประเมินผล ตดั สิน และอนมุ ัติผลการเรยี นทุกระดับชน้ั โดยความ
เหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน

ข้อ ๗. การวัดและประเมินผลการเรียน ต้องสอดคล้อง และครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ ทีก่ าหนดในหลักสูตร

ขอ้ ๘. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนต้องประกอบดว้ ย
๘.๑ การวดั และประเมินผลระดับช้ันเรียน ประกอบด้วย การวดั และประเมินผลเพื่อปรับปรุง

พฒั นาผู้เรียน การวัดและประเมนิ ผลเพ่อื ตดั สนิ ผลการเรยี น
๘.๒ การประเมินผลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย การประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรม

พัฒนาผู้เรียน การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน และการประเมนิ ความสามารถในการอ่าน คดิ
วิเคราะห์ และเขียนสอื่ ความของผูเ้ รียน

๘.๓ การประเมินผลระดับชาติ เป็นการประเมินคุณภาพระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่
สาคัญท้ัง ๘ กลุ่มสาระ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ภาษาองั กฤษ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชพี และเทคโนโลยี และนาผลการประเมินไปใช้ใน
การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น และคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น

ข้อ ๙. การวัดและประเมินผล เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดาเนินการ
ประเมินดว้ ยวธิ ีการทีห่ ลากหลายสอดคล้องและเหมาะสมกบั ส่ิงท่ีต้องการวดั ธรรมชาติของวิชา และธรรมชาติของ
ผู้เรียน โดยการวัดและประเมินการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการจัดการเรียนการสอน สังเกตพัฒนาการ
และความประพฤติของผู้เรียน สังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม ควบคู่ไปกับการใช้แบบทดสอบแบบ
ต่าง ๆ อยา่ งสมดุล

ข้อ ๑๐. จัดใหม้ กี ารวัดและประเมนิ ผูเ้ รยี นในดา้ นตา่ ง ๆ ดังนี้
๑๐.๑ วัดและประเมินผลการเรยี นตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
๑๐.๒ การประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในแต่ละ

ภาคเรียน
๑๐.๓ การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ในแต่ละภาคเรยี น
๑๐.๔ การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ทกี่ าหนดตามหลักสูตร
๑๐.๕ การจัดให้ผู้เรียนได้รับการประเมินคุณภาพระดับชาติ และนาผลจากการ

ประเมินไปใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี น
ขอ้ ๑๑. การวัดและประเมนิ ผลต้องมหี ลักฐานชดั เจน ผู้มสี ่วนเกยี่ วขอ้ งสามารถตรวจสอบได้
ขอ้ ๑๒. ใหม้ ีการเทียบโอนผลการเรยี นระหว่างสถานศึกษา และการศกึ ษาในรูปแบบตา่ ง ๆ

หมวดที่ ๒
วิธีการวดั และประเมินผลการเรยี น

ขอ้ ๑๓. การวัดและประเมินผลการเรยี นกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ใหถ้ อื ปฏิบตั ิดังนี้
๑๓.๑ ให้มีการวัดและประเมินผลเป็นรายวิชา โดยแจ้งให้ผู้เรียนทราบเก่ียวกับ

มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการจัดการเรียนรู้ และวิธีการวัดและประเมินผลก่อนจัดการ
เรยี นรู้

๑๓.๒ ใหม้ กี ารวัดและประเมนิ ผลก่อนการเรียน เพ่อื เป็นการตรวจสอบความรู้พ้ืนฐาน
ของผเู้ รยี น

๑๓.๓ การวัดและประเมินผล ต้องครอบคลุมท้ังด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ/
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

๑๓.๔ การวัดและประเมินผลต้องใช้วิธีการท่ีหลากหลาย เป็นการวัดและประเมินผล
ตามสภาพจริง เนน้ การปฏิบัตดิ าเนินการอยา่ งต่อเนอื่ งควบคูไ่ ปในกิจกรรมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น

๑๓.๕ ใหม้ กี ารวัดและประเมนิ ผลระหว่างภาคเรยี น โดยดาเนินการใน ๒ สว่ น ดงั น้ี
๑๓.๕.๑ ให้มีการวัดและประเมินผลระหว่างเรยี นเป็นระยะ เพ่ือประเมินพัฒนาการของผู้เรียน และ

เพ่ือเก็บคะแนนทุกตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ถ้าพบว่าผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ของตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ใด ให้ผู้สอน

วินิจฉัยข้อบกพร่องของการเรียนรู้ และซ่อมเสริมจนนักเรียนผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนด ทั้งนี้ต้องได้รับการประเมิน

ผา่ นทุกตัวช้ีวดั /ผลการ

เรยี นรู้ มเี กณฑ์ และวิธีการเกบ็ คะแนนให้เป็นไปตามแผน การวดั และประเมินผลของแต่ละรายวชิ าท่จี ดั ทาไว้
๑๓.๕.๒ ในแตล่ ะรายวชิ าต้องมีการประเมนิ คณุ ลักษณะดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีระบุไว้ โดยมีการประเมินตลอดทุกภาคเรียน หากพบว่าผู้เรียนไม่ผ่านเกณฑ์ท่ี
กาหนด ต้องจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นาผเู้ รยี นให้มกี ารพฒั นาข้ึนจนผ่านเกณฑ์

๑๓.๖ ให้มีการวัดและประเมินผลปลายภาคเรียน เพื่อตรวจสอบการเรียนโดยวัดให้
ครอบคลุมตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ ท่สี าคญั

๑๓.๗ กาหนดสัดสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียน : กลางภาคเรียน : ปลายภาคเรียน ดงั น้ีคอื
รายวิชาในกลุ่มสาระภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และ
ภาษาต่างประเทศ กาหนดให้ใช้สัดสว่ น ๖๐ : ๒๐ : ๒๐ ส่วนรายวิชาในกลุ่มสาระสขุ ศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ
และการงานอาชีพและเทคโนโลยี กาหนดให้ใชส้ ดั ส่วน ๘๐ : ๑๐ : ๑๐

๑๓.๘ การตดั สินการเรยี น ให้นาคะแนนระหวา่ งภาคเรยี น รวมกบั คะแนนปลายภาค
เรยี นตามอตั ราสว่ นที่กาหนด

๑๓.๙ ใหใ้ ช้ตัวเลขแสดงระดบั ผลการเรียนในแตล่ ะรายวิชา ดงั นี้

คะแนนร้อยละ ระดบั ผลการเรียน ความหมายของผลการประเมิน

๘๐ – ๑๐๐ ๔ ดเี ยยี่ ม

๗๕ – ๗๙ ๓.๕ ดมี าก

๗๐ – ๗๔ ๓ ดี

๖๕ – ๖๙ ๒.๕ คอ่ นข้างดี

๖๐ – ๖๔ ๒ ปานกลาง

๕๕ – ๕๙ ๑.๕ พอใช้

๕๐ – ๕๔ ๑ ผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่า

๐ – ๔๙ ๐ ตา่ กว่าเกณฑ์

ให้ใช้อกั ษร แสดงผลการเรียนท่มี ีเง่ือนไขในแต่ละรายวิชา ดงั นี้

มส หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสทิ ธิ์เข้ารับการวดั ผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรยี นมีเวลา

เรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละรายวิชา และไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการวัดผลปลายภาค

เรียน

ร หมายถึง รอการตัดสิน และยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เน่ืองจากผู้เรียนไม่มี

ข้อมูล ผลการเรียนรายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่

มอบหมายให้ทา ซึ่งงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียนหรือเหตุสุดวิสัยท่ีทาให้ประเมินผลการเรียน

ไม่ได้

ขอ้ ๑๔. การวัดและประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ให้ถือปฏิบตั ิดังนี้

๑๔.๑ โรงเรียนจัดกิจกรรมการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนส่ือความตามโครงการรัก

การอ่าน (วางทุกงาน อ่านทุกคน) โดยให้นักเรียนอ่านหนังสือที่สนใจในช่ัวโมงรักการอ่านซึ่งจัดไว้ ๑ คาบต่อ

สัปดาห์ แล้วบันทึกลงสมุดบันทึกการอ่าน และประเมินผลผู้เรียนรายบุคคล โดยคณะกรรมการการ

ประเมินท่โี รงเรยี นแต่งตงั้ ในทกุ ภาคเรยี น

๑๔.๒ ใหม้ กี ารประเมนิ เป็นระยะ เพื่อพฒั นาปรับปรุงผเู้ รยี น และประเมินเม่ือส้ินภาค

เรียนเพ่ือพจิ ารณาการผา่ นเกณฑ์

๑๔.๓ การประเมิน ให้ระดับผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน กรณีท่ีผ่านให้ระดับ

ผลการประเมินเป็นดีเย่ยี ม ดแี ละผา่ น

ข้อ ๑๕. การวัดและประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ใหถ้ อื ปฏบิ ัตดิ งั น้ี
๑๕.๑ ให้ผู้รับผิดชอบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นผู้วัดและประเมินผล ตามเกณฑ์ท่ี

โรงเรยี นกาหนด
๑๕.๒ ให้มีการวัดและประเมินผลการเรียน ตามจุดประสงค์ของกิจกรรมอย่าง

ต่อเนือ่ ง เพอื่ พัฒนาปรับปรงุ ผเู้ รยี น และประเมนิ เม่ือสน้ิ ภาคเรยี น เพื่อพิจารณาการผา่ นเกณฑ์
๑๕.๓ การประเมินจะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรม

และผลงานของผเู้ รยี น ตามเกณฑท์ ีโ่ รงเรยี นกาหนดและให้ผลการประเมินกจิ กรรมเป็นผ่าน และไม่ผา่ น
กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน มี ๓ ลักษณะ คอื

. กจิ กรรมแนะแนว
๒. กิจกรรมนกั เรียน ซง่ึ ประกอบด้วย

๒.๑ กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด
๒.๒ กจิ กรรมชุมนมุ
๓. กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
ขอ้ ๑๖. การวดั และประเมนิ ผลคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ให้ถอื ปฏบิ ัติดังน้ี
๑๖.๑ โรงเรยี นแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผ้เู รยี น
๑ ๖ . ๒ โ ร ง เ รี ย น ม อ บ ห ม า ย ใ ห้ ผู้ ส อ น ทุ ก ร า ย วิ ช า เ ป็ น ผู้ ด า เ นิ น ก า ร
ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคค์ วบคู่ไปกับกระบวนการเรยี นการสอนเป็นระยะอย่างต่อเน่ือง ตามเกณฑ์
ท่สี ถานศกึ ษากาหนด เพอื่ พัฒนาปรับปรุงผ้เู รียน และประเมนิ เมอ่ื สนิ้ ภาคเรยี นเพ่อื พจิ ารณาการผ่านเกณฑ์
๑๖.๓ คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน นาผลการ
ประเมิน ของครูผู้สอนทุกคน มาสรุปผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในแต่ละช้ันปีตาม
เกณฑ์ ที่โรงเรียนกาหนด และนาผลการประเมนิ ไปใช้ปรบั ปรุงพัฒนาคุณลกั ษณะผเู้ รยี นอยา่ งต่อเนื่องตลอดจน
จบหลกั สตู ร
๑๖.๔ คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนดาเนินการ
ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้เรียน ในปีสุดทา้ ยของระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้นและตอนปลาย
๑๖.๕ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์รวมทุกคุณลักษณะเพื่อการเลื่อนช้ัน
และ จบการศึกษา ให้ระดับผลการประเมินเป็นผ่านและไม่ผ่าน กรณีที่ผ่านให้ระดับผลการเรียนเป็นดีเยี่ยม ดี
และผ่าน

หมวดที่ ๓
การตัดสนิ ผลการเรยี น

ข้อ ๑๗. การตดั สนิ ผลการเรยี น ให้ถือปฏบิ ตั ดิ ังนี้
๑๗.๑ พิจารณาตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา พิจารณาตัดสินว่าผู้เรียนได้หน่วยกิต

เฉพาะผูไ้ ดร้ ะดบั ผลการเรียน “๑” ถึง “๔” เทา่ นัน้
๑๗.๒ ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ และผ่านเกณฑ์ทุก

ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
๑๗.๓ วัดผลปลายภาคเรียนเฉพาะผู้ที่มีเวลาเรยี นตลอดภาคเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ

๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมดในรายวิชาน้ัน ยกเว้นในกรณีที่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ และมีเหตุจาเป็น
ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของผอู้ านวยการโรงเรยี นในการพจิ ารณาอนญุ าต

๑๗.๔ ผูเ้ รยี นที่มเี วลาเรียนไม่ถงึ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นในรายวิชาน้ัน และไม่ได้รับ
อนญุ าตใหเ้ ข้าวัดผลปลายภาคเรยี น ใหไ้ ด้ผลการเรยี น “มส”

๑๗.๕ ผู้เรียนท่ีไม่ได้รับการวัดผลปลายภาคเรียน ยกเว้นกรณีข้อ ๑๗.๔ ให้ได้ผลการ
เรยี น “ร”

๑๗.๖ ผู้เรียนท่ีทุจริตในการสอบหรอื ทุจริตในงานที่ได้รับมอบหมาย ให้ทาในรายวิชา
ใด ครัง้ ใดก็ตามให้ได้คะแนน ๐ ในคร้งั นัน้

๑๗.๗ การประเมินผลการร่วมกิจกรรม พิจารณาเวลาท่ีร่วมกิจกรรมครบร้อยละ ๘๐
ของเวลาท้ังหมด และผ่านเกณฑ์การประเมินให้ได้ผลการประเมินเป็น “ผ่าน” ถ้าเวลาเรียนไม่ครบร้อยละ ๘๐
และ/หรือ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินใหไ้ ด้ผลการประเมนิ “ไม่ผ่าน”

๑๗.๘ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และการประเมินคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ ประเมินโดยเกณฑ์ที่โรงเรียนกาหนด ให้ผลการประเมินผา่ นและไม่ผ่าน กรณีที่ผ่านให้ระดับผลการ
เรียนเปน็ “ดีเยี่ยม” “ด”ี และ “ผา่ น”

๑๗.๙ การเลือ่ นช้นั
เมอื่ สิ้นปีการศึกษา ผเู้ รียนจะไดร้ ับการเล่ือนช้ัน เมือ่ มคี ณุ สมบัติดังตอ่ ไปน้ี
๑. รายวชิ าพ้ืนฐานและรายวิชาเพิ่มเตมิ ได้รบั การตัดสนิ ผลการเรยี นในระดับ

ผ่านตามเกณฑท์ ี่โรงเรยี นกาหนด
๒. ไดร้ บั การประเมนิ และมีผลการประเมินในระดบั ผ่านตามเกณฑ์ทโ่ี รงเรียน

กาหนด ในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน
๓. ระดับผลการเรยี นเฉลีย่ ในปีการศกึ ษานัน้ ไมต่ ่ากว่า ๑.๐๐

ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเลก็ น้อย และโรงเรียนพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนา และสอนซ่อมเสริมได้ให้อยู่ใน
ดุลยพินิจของผอู้ านวยการโรงเรยี น ท่ีจะผ่อนผนั ใหเ้ ล่อื นช้นั ได้

๑๗.๑๐ การสอนซ่อมเสริม
การสอนซอ่ มเสริม ให้ดาเนินการในกรณตี อ่ ไปน้ี

๑. ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชาน้ัน
ให้สอนซอ่ มเสรมิ ปรบั ความรู้/ทกั ษะพน้ื ฐาน

๒. ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ/
คุณลกั ษณะ ท่ีกาหนดไว้ ตามมาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ ในการประเมินผลระหว่างเรียน

๓. ผู้เรียนที่ได้ระดับผลการเรียน “๐” ให้จัดการสอนซ่อมเสริมก่อนสอบแก้
ตวั

๔. กรณีผู้เรียนมีผลการเรียนไม่ผ่าน สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดู
ร้อน เพ่อื แกไ้ ขผลการเรยี น ทง้ั น้ี ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของสถานศึกษา

๑๗.๑๑ การเรยี นซ้าชน้ั
การเรียนซ้าชั้น มี ๒ ลักษณะ คือ ผู้เรียนมีผลการเรียน ๐, ร, มส เกิน

คร่ึงหน่ึง ของวิชาที่ลงทะเบียนเรียนหลังจากสอบแก้ตัวครั้งท่ี ๒ และเรียนซ้าแล้ว หรือมีระดับผลการเรียน
เฉล่ีย ในปีการศึกษานั้นต่ากว่า ๑.๐๐ และมีแนวโน้มวา่ จะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นท่ีสูงขึ้น หาก
เกิดลักษณะใดลักษณะหน่ึง หรือท้ัง ๒ ลักษณะ ให้โรงเรียนแต่งต้ังคณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มี
เหตุผลอันสมควรกใ็ หซ้ า้ ชัน้ โดยยกเลิกผลการเรียนเดมิ และใหใ้ ช้ผลการเรียนใหมแ่ ทน หากพจิ ารณาแล้วไม่ต้อง
เรยี นซา้ ชั้นให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของสถานศกึ ษาในการแก้ไขผลการเรยี น

ข้อ ๑๘. การเปลี่ยนระดับผลการเรยี น ให้ถอื ปฏิบตั ิดังน้ี
๑๘.๑ การเปลีย่ นระดับผลการเรยี น “๐”
ให้โรงเรียนจัดสอนซ่อมเสริมในตัวช้วี ัดท่ีผเู้ รียนไม่ผ่านแล้วจึงจัดสอบ

แก้ตัว และให้สอบแก้ตัวได้ไม่เกิน ๒ ครั้ง ถ้าผู้เรียนไม่ดาเนินการสอบแก้ตัวตามระยะเวลาที่โรงเรียนกาหนด ให้
อยู่ใน ดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก ๑ ภาคเรียน สาหรับภาคเรียนท่ี ๒ ต้อง
ดาเนนิ การให้เสร็จส้นิ ภายในปกี ารศกึ ษานั้น
ถ้าผ้เู รียนยังไม่มาดาเนนิ การตดิ ต่อขอแก้ตวั ตามระยะเวลาท่ีทางโรงเรียนกาหนดหรือยังดาเนนิ การไม่
เรียบร้อย โดยมีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียน การสอบแก้ตัวให้ระดับผลการเรียนไม่
เกนิ “๑” ถา้ สอบแก้ตวั ๒ ครั้งแล้วยังไดร้ ะดบั ผลการเรียน “๐” อีก ให้โรงเรยี นแต่งต้งั คณะกรรมการดาเนินการ
เกย่ี วกับการเปลี่ยนผลการเรียนของผเู้ รียน โดยปฏิบตั ดิ งั น้ี

๑. ถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐานให้เรยี นซา้ ในรายวชิ านน้ั
๒. ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียน ให้
เรียนซา้ หรือเปลยี่ นรายวิชาเรียนใหม่

ในกรณีท่ีเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ให้หมายเหตุในหลักฐานแสดงผลการ
เรยี นด้วยว่าเรียนแทนรายวิชาใด

๑๘.๒ การเปลีย่ นผลการเรยี น “ร” แยกเปน็ ๒ กรณี ดงั น้ี
๑๘.๒.๑ ผู้เรียนได้ผลการเรียน “ร” กรณีไม่ได้วัดผลระหว่างภาค

เรียน/ปลายภาคเรียน เพราะเหตุสุดวิสัย เม่ือผู้เรียนแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว ให้ได้ระดับผลการเรียนตามปกติ

(ตัง้ แต่ “๐ – ๔”) กรณไี ด้ผลการเรียน “ร” โดยไมใ่ ชเ่ หตุสุดวสิ ัย เมอื่ ผู้เรียนแกไ้ ขปัญหาเรียบร้อยแล้วให้ได้ระดับ
ผลการเรยี น “๐” หรือ “๑”

๑๘.๒.๒ ถา้ ผเู้ รียนไมด่ าเนินการแก้ไข “ร” กรณีทส่ี ่งงานไม่ครบ แต่มผี ลการ
ประเมินระหว่างภาคเรียนและปลายภาค ให้ผู้สอนนาข้อมูลที่มีอยู่ตัดสินผลการเรียน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่
ในดุลยพินิจของโรงเรียนท่ีจะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีก ๑ ภาคเรียน สาหรับภาคเรียนที่ ๒ ต้อง
ดาเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษาน้ัน เม่ือพ้นกาหนดน้ีแล้วให้เรียนซ้า หากผลการเรียนเป็น “๐” ให้
ดาเนนิ การแกไ้ ขตามหลักเกณฑ์

๑๘.๓ การเปล่ียนผลการเรียน “มส” แยกเป็น ๒ กรณี ดงั นี้
๑๘.๓.๑ กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ

๘๐ แต่มีเวลาไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนในรายวิชาน้ัน ให้โรงเรียนจัดให้ผู้เรียนเรียนเพิ่มเติมโดยใช้
ชั่วโมงสอนซอ่ มเสรมิ หรอื ใชเ้ วลาวา่ ง หรอื ใชว้ นั หยุด หรอื มอบหมายงานให้ศึกษาด้วยตนเอง จนมีเวลาเรยี นครบ
ตามทกี่ าหนดไว้สาหรับรายวชิ านั้นแล้วจึงใหว้ ดั ผลปลายภาคเป็นกรณีพิเศษ ผลการสอบแกต้ วั “มส” ใหไ้ ด้ระดับ
ผลการเรียนไมเ่ กนิ “๑” หากไดผ้ ลการเรียน “๐” ให้ดาเนินการแก้ “๐” ตามระเบียบนี้

การแก้ “มส” ในกรณนี ้ีใหด้ าเนนิ การใหเ้ สร็จส้ินภายในปีการศึกษาน้นั ถ้าผูเ้ รียนยงั ไม่ดาเนินการตาม
เวลาที่โรงเรียนกาหนด ให้เรียนซ้า ยกเว้น มีเหตุสุดวิสัยให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนที่จะขยาย
เวลาแก้ “มส” ออกไปอกี ไมเ่ กิน ๑ ภาคเรียน แต่เมื่อพน้ กาหนดนีแ้ ล้วให้ปฏิบตั ิดังนี้

๑. ถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐานให้เรียนซ้าในรายวชิ าน้ัน
๒. ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อานวยการ
โรงเรียน ใหเ้ รยี นซ้าหรือเปลยี่ นรายวิชาเรียนใหม่
ในกรณที ่เี ปลย่ี นรายวชิ าเรียนใหมใ่ หห้ มายเหตุในหลกั ฐานแสดงผล การ
เรยี นด้วยวา่ เรยี นแทนรายวิชาใด
๑๘.๓.๒ กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ
๖๐ ของเวลาเรียนทั้งหมด ถ้าเป็นรายวิชาพ้ืนฐานให้เรียนซ้าในรายวิชาน้ัน ถ้าเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมให้อยู่
ใน ดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรยี น ใหเ้ รยี นซา้ ในรายวิชาน้ัน หรอื เปลี่ยนรายวิชาใหม่แลว้ แตก่ รณี ในกรณี
ทีเ่ ปลี่ยนรายวิชาใหมใ่ ห้หมายเหตใุ นหลกั ฐานแสดงผลการเรยี นด้วยว่า เรียนแทนรายวิชาใด
๑๘.๔ การเรียนซ้ารายวิชา ผู้เรียนที่ได้รับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว ๒ ครั้ง
แลว้ ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน ใหเ้ รียนซา้ รายวิชานั้น ท้งั นี้ ใหอ้ ยใู่ นดุลพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนในการจัด
ให้เรียนซ้าในช่วงใดช่วงหนึ่งที่สถานศึกษาเห็นว่าเหมาะสม เช่น พักกลางวัน วันหยุด ช่ัวโมงว่างหลังเลิกเรียน
ภาคฤดูรอ้ น เป็นตน้
ในกรณีภาคเรียนท่ี ๒ หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “๐” “ร” “มส”
“มผ” ให้ดาเนินการให้เสร็จส้ินก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษาถัดไป โรงเรียนอาจเปิดการเรียนการสอนในภาค
ฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรียนได้ ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับดุลยพินิจของผู้อานวยการโรงเรียนท่ีจะกาหนด
ชว่ งเวลา ในการเรยี นให้เหมาะสม และต้องประเมนิ ผลการเรียนตามทีร่ ะเบียบกาหนดไว้
๑๘.๕ การเปล่ยี นผลการเรียน “มผ” เป็น “ผ” ใหผ้ ้เู รียนทากิจกรรมเสริม เพอื่ ให้ผ่าน
ตามเกณฑ์ที่กาหนด โดยให้ผลการประเมินเป็น “ผ” ระยะเวลาในการแก้ “มผ” ให้ดาเนินการได้ไม่เกิน ๒ คร้ัง

ทั้งน้ีให้ดาเนินการให้เสร็จส้ินภายในภาคเรียนน้ันๆถ้าผู้เรียนยังไม่มาดาเนินการติดต่อขอแก้ตัวตามระยะเวลาที่
โรงเรยี นกาหนด หรอื ดาเนนิ การไมเ่ รียบร้อยโดยมเี หตุผลสุดวสิ ัย ให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของผู้อานวยการโรงเรยี นที่จะ
พิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน สาหรับภาคเรียนที่ ๒ ต้องดาเนินการให้เสร็จส้ินภายในปี
การศกึ ษานัน้

ขอ้ ๑๙. การอนุมัติการจบหลกั สตู ร
๑๙.๑ ให้ใช้ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) ของ

ผู้เรียน เป็นองค์ประกอบหน่ึงในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ท้ังระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ใน
สดั สว่ น ๗๐ : ๓๐

๑๙.๒ ผ้เู รยี นทจี่ ะไดร้ บั การพจิ ารณาอนุมัตใิ ห้จบการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น
ตอ้ งมคี ุณสมบตั ดิ งั นี้

๑๙.๒.๑ เรียนรายวิชาพื้นฐานและเพ่ิมเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน ๖๖
หน่วยกิต รายวิชาเพม่ิ เตมิ ตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด

๑๙.๒.๒ ต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็น
รายวิชาพนื้ ฐาน ๖๖ หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพิ่มเตมิ ไมน่ ้อยกว่า ๑๑ หน่วยกิต

๑๙.๒.๓ ผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ตามที่โรงเรียน
กาหนด มีระดบั ผลการประเมนิ “ผ่าน”

๑๙.๒.๔ ผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่โรงเรียนกาหนด
มีระดบั ผลการประเมนิ “ผ่าน”

๑๙.๒.๕ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ ตามท่โี รงเรยี นกาหนด

๑๙.๓ ผู้เรียนที่จะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลายต้องมีคุณสมบตั ิดงั น้ี

๑๙.๓.๑ เรียนรายวิชาพ้นื ฐานและเพ่ิมเตมิ โดยเปน็ รายวชิ าพน้ื ฐาน ๔๑
หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพมิ่ เติมตามท่ีสถานศึกษากาหนด

๑๙.๓.๒ ตอ้ งได้หน่วยกติ ตลอดหลกั สูตรไม่นอ้ ยกวา่ ๗๗ หนว่ ยกิต โดยเปน็
รายวิชาพ้ืนฐาน ๔๑ หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพ่มิ เติมไมน่ ้อยกวา่ ๓๖ หน่วยกิต

๑๙.๓.๓ ผา่ นการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ตามที่โรงเรียน
กาหนด มีระดับผลการประเมนิ “ผ่าน”

๑๙.๒.๔ ผา่ นการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามทโ่ี รงเรียนกาหนด
มรี ะดับผลการประเมิน “ผ่าน”

๑๙.๓.๕ เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น มผี ลการประเมินผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ ตามท่โี รงเรยี นกาหนด

๑๙.๔ ใหผ้ ู้อานวยการโรงเรยี น เป็นผ้อู นมุ ตั ผิ ลการเรียน และการจบหลกั สตู ร

หมวดท่ี ๔
การเทยี บโอนผลการเรียน

ข้อ ๒๐. การเทียบโอนผลการเรียน เป็นผลการเรียนซ่ึงเป็นความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของผู้เรียน
ที่เกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย มาประเมินเป็นส่วนหนึ่งของ
การศกึ ษาตามหลักสตู รของโรงเรยี น แนวดาเนินการเทยี บโอนผลการเรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบว่าด้วยการเทียบ
โอนผลการเรยี นดังน้ี

๒๐.๑ การเทียบโอนผลการเรียน ให้ดาเนนิ การในรปู ของคณะกรรมการเทยี บโอนผล
การเรยี น จานวนไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ คน แตไ่ ม่เกิน ๕ คน

๒๐.๒ ผู้ขอเทียบโอน ต้องข้ึนทะเบียนเป็นนักเรียนของโรงเรียน จึงดาเนินการเทียบ
โอน ผลการเรยี นในภาคเรียนทขี่ ึ้นทะเบยี นเปน็ นักเรยี น

๒๐.๓ จานวนรายวิชาที่จะรับเทียบโอน และอายุของผลการเรียนท่ีจะนามาเทียบ
โอนให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ทั้งนี้เม่ือเทียบโอนแล้วผู้ขอเทียบโอนต้องมีเวลา
เรียนอยูใ่ นสถานศึกษาที่รับเทยี บโอนอย่างนอ้ ย ๑ ภาคเรียน

๒๐.๔ การเทียบโอนผลการเรียน ให้นารายวิชาที่มีเน้ือหาสอดคล้องกันไม่น้อยกว่า
ร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนได้ และพิจารณาให้ระดับผลการเรียน ให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่ รับ
เทียบโอน

๒๐.๕ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสาร
หลักฐาน โดยให้มกี ารประเมินด้วยเครอ่ื งมอื ท่ี
หลากหลาย และให้ระดบั ผลการเรยี นตามเกณฑ์ การประเมนิ ผลการเรียนของหลกั สตู รที่รับเทยี บโอน

๒๐.๖ กรณีการเทียบโอนนักเรียนท่ีเข้าโครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ให้
ดาเนินการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักการและแนวปฏิบัติการเทียบช้ันการศึกษา สาหรับ
นกั เรยี นท่ี เขา้ รว่ มโครงการแลกเปลีย่ น

หมวดที่ ๕
หนา้ ทข่ี องโรงเรียน

ขอ้ ๒๑. ใหโ้ รงเรียนจัดใหม้ ีเอกสารประเมนิ ผลการเรยี นต่าง ๆ ดังนี้
๒๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรียน (Transcript) (ปพ.๑)
๒๑.๒ หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา (ใบประกาศนียบัตร) (ปพ.๒)
๒๑.๓ แบบรายงานผู้สาเรจ็ การศึกษา (ปพ.๓)
๒๑.๔ แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ปพ. ๔) เป็น

เอกสารรายงาน ผลการประเมินคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมอันพึงประสงค์ของผู้เรียนรายบุคคลแบบแสดง
บันทึกผล การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

๒๑.๕ เอกสารแสดงบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน (ปพ.๕) เป็นเอกสารที่ผู้สอน
บนั ทกึ ขอ้ มูลการประเมนิ ผลการเรียนรู้รายวิชาตา่ ง ๆ ของผ้เู รียน

๒๑.๖ เอกสารรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.๖) เป็นเอกสาร
บันทกึ และรายงานพฒั นาการ และผลการเรียนรูข้ องผเู้ รียนใหผ้ ปู้ กครองทราบ

๒๑.๗ ใบรับรองผลการศกึ ษา (ปพ.๗) เป็นเอกสารรบั รองผลการศึกษาของผู้เรยี นเป็น
การชว่ั คราว

๒๑.๘ เอกสารระเบียนสะสม (ปพ.๘) เป็นเอกสารบันทึกพัฒนาการด้านต่างๆ ของ
ผ้เู รียนแตล่ ะคน เพ่ือประโยชนใ์ นการปรบั ปรุง พัฒนาส่งเสริมผูเ้ รียน

ข้อ ๒๒. ในการดาเนนิ การใหเ้ ป็นไปตามระเบียบนี้ ให้ใช้ควบคกู่ บั คาอธบิ ายระเบียบโรงเรียนสตรี วดั
อัปสรสวรรค์ ว่าด้วยการวัดและการประเมินผลการเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลาย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.
๒๕๖๐)

หมวดที่ ๖
บทเฉพาะกาล

ข้อ ๒๓. ในกรณีนักเรียนที่เรียนตามหลักสูตแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ
หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ซ่ึงควรจะจบหลักสูตรในปีการศึกษา ๒๕๖๑ หรือก่อน ปี
การศกึ ษา ๒๕๖๑ แต่ไมส่ ามารถจบหลักสตู รไดต้ ามกาหนด ให้ใช้ระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันท่ี ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๒

(นางสภุ าณี ธรรมาธคิ ม)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นสตรีวัดอัปสรสวรรค์


Click to View FlipBook Version