กล่มุ บริหารงานบคุ คลและกิจการนกั เรียน
โรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
กลมุ่ บรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนกั เรียนโรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
วสิ ัยทัศน์
สร้างคุณธรรม นาวนิ ยั มีความเป็นไทย สรา้ งบุคลากรสศู่ ตวรรษท่ี ๒๑ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
พันธกิจ
๑. ปลกู ฝงั นกั เรียนใหม้ คี ณุ ธรรม นาวนิ ัย และความเป็นไทย
๒. บริหารงานบคุ ลากรครู ให้มอี ตั รากาลงั อย่างเหมาะสม
๓. มรี ะบบขอ้ มูลบุคลากรทถี่ ูกต้องเปน็ ปัจจบุ ัน
๔. มกี ารสง่ เสรมิ และพฒั นานกั เรียน ครูสศู่ ตวรรษที่ ๒๑ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
เปา้ ประสงค์
๑. พฒั นาใหโ้ รงเรยี นมีคุณธรรม นาวนิ ัย และความเปน็ ไทย
๒. ครู บุคลากรได้รบั พฒั นาตามสมรรถนะประจาสายงาน
๓. สามารถนาข้อมลู ไปพฒั นา ครู บุคลากรใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสูงสุด
๔. นกั เรยี น ครทู ุกคนไดร้ ับการพัฒนา วินยั คณุ ธรรม จริยธรรม
กลมุ่ บรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนักเรียน
นางนติ ยา ยุวัฒนะกุล
รองผูอ้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คลและกจิ การนักเรียน
นางกัญจนา เหลี่ยมสมบัติ นายบดนิ ทรเ์ ดชา รตั นเจยี เจริญ
ผชู้ ว่ ยรองผอู้ านวยการ ผ้ชู ว่ ยรองผู้อานวยการ
กลุม่ บรหิ ารงานบคุ คลและกจิ การนักเรยี น กล่มุ บรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนักเรยี น
สายงานการบริหารกลุม่ บรหิ ารงานบคุ คลและกจิ การนกั เรยี น
ผูอ้ านวยการโรงเรียนสตรวี ดั อัปสรสวรรค์
นายสทิ ธศิ ักดิ์ แกว้ สอนทะเล
รองผู้อานวยการ
กลุม่ บรหิ ารงานบุคคลและกิจการนักเรยี น
นางนติ ยา ยวุ ัฒนะกุล
ผู้ชว่ ยรองผู้อานวยการ ผ้ชู ่วยรองผูอ้ านวยการ
กลุ่มบรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนกั เรียน กลุม่ บริหารงานบุคคลและกจิ การนักเรียน
นางกัญจนา เหล่ยี มสมบัติ นายบดินทร์เดชา รตั นเจียเจรญิ
-งานพฒั นาความประพฤตแิ ละระเบยี บวินยั -งานรกั ษาวินยั ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา
นางกัญจนา เหล่ยี มสมบตั ิ หัวหนา้ นายบดินทร์เดชา รตั นเจียเจรญิ หัวหน้า
-งานส่งเสรมิ กจิ การนกั เรยี น -งานสานกั งานกลมุ่ บรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนกั เรยี น
นางกญั จนา เหลย่ี มสมบัติ หัวหนา้ นายถริ นิษฐ์ ฉัตรธนโชติ หัวหน้า
-งานรักษาวินยั และแก้ไขพฤติกรรมท่ีไมพ่ ึงประสงค์ -งานแผนงานกลุ่มบรหิ ารงานบคุ คลและกิจการนกั เรยี น
( นกั เรียน ) นายปรัชญา จิตรร์ ะเบยี บ หัวหนา้
นางกญั จนา เหลย่ี มสมบัติ หัวหนา้ -งานสารสนเทศกลุ่มบรหิ ารงานบคุ คลและกิจการนกั เรียน
-งานระบบดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียน สบิ เอกนพิ นธ์ ด้วงคาจนั ทร์ หัวหน้า
นางสาวบุตรียา รตั นมณี หวั หนา้ -งานทะเบยี นประวัติข้อมูลและปรบั วุฒกิ ารศกึ ษา
-งานสง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม นางสาวพรสดุ า รตั นกลุ หวั หนา้
นางสาวพรพรรณ ศรสี ิรริ ตั น์ หวั หนา้ -งานบาเหนจ็ ความชอบ
-งานปอ้ งกันการใชส้ ารเสพติดและยาเสพตดิ นางสาวรตั นา ใสแ่ ก้ว หัวหน้า
นายภาณมุ าต พงษเ์ ส็ง หัวหน้า -งานเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์
-งานสง่ เสรมิ ประชาธิปไตย นางสาวภทั ราภรณ์ เตชวาณชิ ย์ หัวหน้า
นายศภุ ชยั อัครชวู งศ์ หวั หน้า -งานพฒั นาบคุ ลากรและสง่ เสริมประสิทธิภาพ
-งานท่ีปรกึ ษาคณะกรรมการนักเรียน การปฏิบตั ริ าชการ
นางกญั จนา เหลี่ยมสมบตั ิ หวั หน้า นางสาวพรสุดา รัตนกุล หวั หนา้
-งานเครือข่ายผู้ปกครองนกั เรยี น -งานใบประกอบวิชาชพี และบตั รข้าราชการ
นางกัญจนา เหล่ยี มสมบตั ิ หวั หนา้ นายสบงกช จานงค์ชอบ หวั หน้า
-งานบนั ทึกข้อมลู นักเรียนประจาวัน -งานประชาสมั พนั ธ์
นายสมภาค หวังทอง หวั หน้า นางสาววรรณภิ า ขุนอินทร์ หัวหนา้
-งานจดั ทาคู่มือนกั เรยี น -งานรกั ษาความปลอดภยั
นางสาวรัตนา ใส่แก้ว หวั หน้า นายธรรมนญู ลพรวี หวั หนา้
-งานระดบั ชนั้ และคณะสี -งานบนั ทกึ การปฏิบตั ริ าชการของครแู ละบคุ ลากร
นางกัญจนา เหล่ยี มสมบตั ิ หัวหน้า นางสาวศุภนชุ พระบุ หวั หน้า
-งานสารวัตรนักเรียน
นายบดินทรเ์ ดชา รัตนเจียเจรญิ หวั หน้า
ระเบยี บโรงเรียนสตรีวดั อัปสรสวรรค์
ว่าด้วยจรรยามารยาทและการทาความเคารพ
ของนักเรียน พ.ศ.๒๕๖๑
หมวดท่ี ๑
บททัว่ ไป
ด้วยจรรยามารยาทที่ดีงามของไทย เป็นเอกลักษณ์ของชาติและอัตลักษณ์ของ“โรงเรียนสตรีวัดอัปสร
สวรรค์”ท่ีเน้นเรื่อง “กุลสตรีไทยนาใจงาม” จึงกาหนดระเบียบว่าด้วยจรรยามารยาทและการทาความเคารพของ
นกั เรียน ดงั ตอ่ ไปนี
ข้อ ๑ ระเบยี บนเี รยี กวา่ “ระเบียบจรรยามารยาทและการทาความเคารพ” ของนกั เรียน พ.ศ. ๒๕๕๐
ข้อ ๒ ให้ใช้ระเบยี บนตี งั แต่ “วันถดั จากวนั ประกาศ”เป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ในระเบยี บนี
๓.๑. “นักเรียน” หมายถงึ นักเรยี นทกุ คนของโรงเรยี นสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
๓.๒. “ครเู วรประจาวัน” หมายถึง ครทู ่ไี ดร้ ับการแต่งตงั หรือรบั มอบหมายให้ปฏบิ ตั ิ
ราชการจากทางโรงเรยี นในการดูแลนักเรยี น ตามสถานที่ต่างๆ ในแตล่ ะวนั
๓.๓. “คร”ู หมายถงึ ครูทุกคนท่ปี ฏบิ ัติราชการในโรงเรียนสตรีวัดอปั สรสวรรค์
๓.๔. “แขกผู้มเี กยี รติ” หมายถงึ บุคคลทร่ี ับการเชญิ หรือมาเยยี่ มชมโรงเรยี นเป็นหมู่
คณะหรือบคุ คลเดยี ว
๓.๕. “แบบกาหนดของสานกั งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง่ ชาติ” หมายถงึ
หน่วยงานกระทรวงวัฒนธรรม ท่กี าหนดแบบอย่างการปฏบิ ัติมารยาทไทยออกไปใช้เป็นแบบเดียวกันท่วั ประเทศ
หมวดที่ ๒
วา่ ดว้ ยจรรยามารยาทและการทาความเคารพ
ข้อ ๔ การแสดงความเคารพเม่ือแรกเร่ิมเข้าสู่บริเวณโรงเรียน ให้ถือปฏิบัติดังนีเมื่อนักเรียนเข้ามาสู่บริเวณ
โรงเรียนให้นักเรียนหยุดยืนทาความเคารพครูเวรประจาวันด้วยการไหว้โดยใช้การไหว้ตามแบบกาหนดของ
สานกั งานคณะกรรมการวัฒนธรรมแหง่ ชาติไหว้พระตามจดุ ตาแหน่งทโี่ รงเรียนกาหนดโดยพร้อมเพยี งกนั
ขอ้ ๕ การแสดงความเคารพเมอื่ อย่ใู นห้องเรียน ใหป้ ฏิบตั ิดังตอ่ ไปนี
๕.๑. เมอ่ื ครูเขา้ มาในหอ้ งเรียนใหห้ วั หนา้ ชนั บอกทาความเคารพโดยให้ใชค้ าวา่ “นักเรยี น”ให้
นกั เรยี น
ทกุ คนหยดุ กจิ กรรมต่างๆ ทุกอยา่ ง แล้วนงั่ ตัวตรงหัวหนา้ บอกว่า “ทาความเคารพ”ใหน้ ักเรียนไหว้พร้อมกล่าวคา
ว่า “สวสั ดีค่ะ”
๕.๒. ในระหว่างทีค่ รกู าลังสอน หากมีข้อสงสัยในบทเรยี นให้ยกมอื ขนึ รอเพื่อให้ครูอนุญาต จงึ
ยืนถามขอ้ สงสยั ได้ เมอื่ ไดร้ ับคาอธบิ ายเข้าใจแลว้ ให้กล่าวคาวา่ “ขอบพระคุณคะ่ ”
๕.๓. เม่ือจะเขา้ ไปหาครเู พอื่ สง่ งาน หรือรบั งานใหน้ ักเรยี นยืนตรงในระยะทห่ี า่ งพอสมควรเมื่อ
รบั หรือส่งงานแล้ว นักเรียนจะกลับมาทโี่ ต๊ะ ใหน้ ักเรียนทาความเคารพด้วย “การไหว้”
๕.๔. การออกหรอื เข้าหอ้ งเรยี นในขณะทค่ี รกู าลังสอนหรืออยูใ่ นห้อง นกั เรยี นต้องขออนุญาต
กอ่ นทุกครัง โดยยนื ตรงแล้วกล่าวคาวา่ “ขออนญุ าตค่ะ” เมอื่ ได้รับอนญุ าตแลว้ ให้นักเรียน “ไหว้” พร้อมกบั กล่าว
คาวา่ “ขอบพระคุณคะ่ ”
ขอ้ ๖ การแสดงความเคารพเม่อื อยภู่ ายนอกหอ้ งเรียนให้ปฏบิ ตั ิดังต่อไปนี
๖.๑. เมื่อเดินสวนทางกบั ครู ผทู้ ีเ่ คารพ หรือแขกผู้มเี กยี รติท่ีมาเย่ยี มชมโรงเรียนหยดุ ยืนตรงแลว้
“ไหว้” พร้อมกล่าวคาทักทายว่า“สวัสดีค่ะ” ด้วยก็ได้ ในกรณีนีหากเป็นการพบกันครังแรกสาหรับครู ให้ปฏิบัติ
ดว้ ยการไหว้ และถา้ เป็นการพบกันในครังต่อๆ ไปให้ยนื ตรง เป็นการแสดงความเคารพ
๖.๒. เมอ่ื ขึนลงบนั ไดใหย้ ดึ หลกั ชดิ ขวามือเสมอ และเมือ่ เดินสวนทางกบั ครู หรอื ผทู้ ี่เคารพ หรอื
แขกผู้มีเกียรติ ให้นักเรยี นหยุดยนื อยกู่ ับทีจ่ นกว่า ครู ผู้ทเี่ คารพหรือแขกผ้มู เี กยี รติเดินผา่ นไป
๖.๓. เมอื่ จะเดินแซงครูให้นักเรียนกลา่ วคาว่า“ขออนญุ าตค่ะ” แลว้ จงึ เดนิ ก้มหลงั ลง
เล็กน้อย แล้วเดินแซงผา่ นไป
๖.๔. ขณะท่คี รูหรอื ผูท้ ่เี คารพหรอื แขกผ้มู ีเกียรติอยู่กบั ท่ี ถ้านักเรียนตอ้ งการเดนิ ผ่าน
ให้ก้มหลงั เลก็ น้อย
๖.๕. เพอื่ สง่ เสรมิ ความรกั ความสามัคคใี นหมคู่ ณะ ให้นกั เรียนร่นุ น้องแสดงความเคารพรนุ่ พด่ี ว้ ย
การไหว้ และนักเรยี นรนุ่ พี่ควรรับไหวร้ นุ่ น้อง เปน็ การตอบรับการแสดงความเคารพซึง่ กนั และกนั
ขอ้ ๗ การแสดงความเคารพ เม่อื อยนู่ อกบรเิ วณโรงเรยี น ใหป้ ฏบิ ตั ิดังนี
เม่อื พบครูใหน้ ักเรยี นทาความเคารพดว้ ยการ“ไหว้”อาจจะกล่าวทักทายตามควรแก่กรณี ทังการ
ทาความเคารพให้พิจารณาตามความเหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น กรณีขับข่ียวดยานพาหนะอยู่ในที่คับขันอันตราย
ใหก้ ล่าวคาสวสั ดแี ละก้มศรี ษะพอประมาณ
การมาเรียน การขาดเรยี น และการลาของนักเรยี น พ.ศ.๒๕๖๒
เพ่อื การปฏิบัตติ ัวเหมาะสมกบั สภาพของนักเรียน ในการศกึ ษาหาความรู้ในสถานศกึ ษา
“โรงเรยี นสตรีวดั อปั สรสวรรค์” จงึ กาหนดระเบียบว่าด้วยการมาเรียน การขาดเรียนและการลาของนกั เรียนขึนโดย
ให้ถือปฏบิ ัติ ดงั ตอ่ ไปนี
หมวดที่ ๑
บททวั่ ไป
ขอ้ ๑ ระเบยี บนีเรียกว่า “ระเบียบการมาเรยี น การขาดเรียน และการลา” ของนกั เรยี น พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๒ ให้ใช้ระเบยี บนีตงั แต่“วนั ถดั จากวันประกาศ”เป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ในระเบยี บนี
๓.๑. “นักเรยี น”หมายถงึ นกั เรียนทุกคนของโรงเรียนสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๓.๒. “ครูเวรประจาวัน” หมายถึง ครูท่ีได้รับการแต่งตัง หรือรับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการจากทาง
โรงเรยี นในการดแู ลนักเรยี น ตามสถานทตี่ ่าง ๆ ในแตล่ ะวนั
๓.๓. “ครูทป่ี รกึ ษา”หมายถึง ครทู ี่ได้รับการแต่งตังหรอื รับมอบหมายให้ปฏิบตั ิราชการจากทาง
โรงเรยี นในการอบรม ดแู ล รับผดิ ชอบนกั เรยี นทุกคนในแตล่ ะห้อง
๓.๔. “หัวหน้าระดับชัน” หมายถึง ครูที่ได้รับการแต่งตังหรือรับมอบหมายให้ปฏิบัติราชการจากทาง
โรงเรยี น ในการควบคุมดแู ล รับผิดชอบนกั เรียนทุกคนในแต่ละระดบั ชัน
๓.๕. “หัวหน้าคณะสี” หมายถึง บุคคลที่ได้รับการแต่งตังหรือรับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่จากทาง
โรงเรยี น ในการควบคมุ ดูแล รับผดิ ชอบนกั เรียนทุกคนในแตล่ ะคณะสี
๓.๖. “ผู้ปกครอง”หมายถึง บุคคลซึ่งรับนักเรียนไว้ในความปกครอง หรืออุปการะเลียงดูและเป็น
บคุ คลท่นี ักเรยี นอาศัยอยูด่ ้วยในสาเนาทะเบียนบา้ น
หมวดที่ ๒
การมาเรยี น
ขอ้ ๔ นกั เรียนต้องแตง่ ชุดนกั เรียน ตามระเบียบท่ีกาหนดให้ และมาโรงเรียนก่อนเวลา ๐๗.๔o น.
ข้อ ๕ นกั เรยี นทุกคนต้องถือกระเป๋าตามแบบกาหนดของโรงเรยี น ทใ่ี ส่อปุ กรณก์ ารศกึ ษาครบถ้วนในแตล่ ะวัน
มาโรงเรียน
ข้อ ๖ เม่อื มาโรงเรียนทุกเช้า นักเรยี นทกุ คนต้องทาความเคารพครูเวรท่ีประตเู ขา้ โรงเรียน และไหว้พระศากย
มนุ ีศรีอัปสรสวรรค์ (หลวงพ่อก้าวหนา้ ) และรบั การตรวจความเรยี บร้อยในการแตง่ กาย
ข้อ ๗ ถ้านักเรียนคนใดแตง่ กายผดิ ระเบียบไมเ่ รยี บรอ้ ย
๗.๑. ให้ครูเวรประจาวนั ตักเตอื นแนะนาแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง
๗.๒. ครูเวรประจาวันบันทึก ชื่อ – สกุล เลขประจาตัว ชัน และรายการความผิดลงในแบบบันทึก
นักเรียนผิดระเบียบประจาวัน ซึ่งฝ่ายปกครองจะแจ้งไปให้หัวหน้าระดับชันและครูท่ีปรึกษาทราบเพ่ือดาเนินการ
ติดตามแกไ้ ขตอ่ ไป
ข้อ ๘ เวลา ๐๗.๔๐ น. โรงเรียนจะเปิด“เพลงมาร์ช” ประจาโรงเรียนช่วงนีให้นักเรียนมาพร้อมกันบริเวณ
สนาม เพ่ือเข้าแถวเรียบร้อยพร้อมทาพิธีหน้าเสาธงกรณีนักเรียนมาเข้าแถวร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงไม่ทัน ถือว่า
นกั เรียนมาโรงเรียนสาย
ขอ้ ๙ เวลา ๘.๐๐ – ๘.๒๐ น. ครทู ีป่ รึกษาโฮมรมู ตามห้องเรยี นของนักเรียนในคาบศนู ย์ (หน้าที่พลเมอื ง)
อน่งึ การเข้าเรยี นและเลกิ เรียน ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของโรงเรียน หรอื กระทรวงศึกษาธกิ าร
ขอ้ ๑๐ นักเรยี นทมี่ าสายทางโรงเรยี นจะดาเนนิ การเรียกมาตกั เตอื นหากยังมาสายเหมือนเดิมจะเชญิ
ผปู้ กครองมาพบรองผอู้ านวยการหรอื ผ้ทู ่ีได้รับมอบหมายตามลาดบั ตอ่ ไป
กรณีถ้านักเรียนมาสาย ด้วยเหตุจาเป็นอ่ืน ๆ โดยมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองที่ถูกต้องมาแสดงให้
ครบู นั ทึกลงในแบบบนั ทกึ นกั เรียนมาสายดว้ ย
๑๐.๑. ถา้ นักเรยี นมาสาย ดว้ ยเหตุจาเปน็ อื่น ๆ โดยมหี นงั สือรับรองจากผู้ปกครองที่ถูกต้องมาแสดงให้
ครบู นั ทกึ ลงในแบบบนั ทกึ นักเรยี นมาสายด้วย
๑๐.๒. นกั เรียนมาโรงเรียนสาย ๓ ครงั ทางโรงเรียนจะโทรแจ้งผ้ปู กครอง
นกั เรยี นมาโรงเรียนสาย ๕ ครัง ทางโรงเรยี นจะเชญิ ผ้ปู กครองมาพบ
นักเรียนมาโรงเรียนสายเกนิ ๕ ครัง ทางโรงเรยี นจะมีกิจกรรมพฒั นาคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ข้อ ๑๑ เม่ือนักเรียนมาเรียนแล้วให้ประพฤติปฏิบัติตัวในการศึกษาหาความรู้อย่างเต็มท่ีไม่ทาการหลีกเล่ียง
หลบเลยี่ ง หลบหนกี ารเรยี น นักเรยี นคนใดปฏบิ ตั ติ วั ดงั กล่าวจะได้รับโทษตามระเบยี บวา่ ดว้ ยวนิ ยั การเรียน
ข้อ ๑๒ เมอ่ื ถึงเวลา ๑๕.๑๐ น. หรอื เวลา ๑๖.๐๐ น. การเรียนการสอนประจาวันยุติลง ถ้านกั เรียนไมม่ ี
กจิ กรรมประชุม อบรม ใหน้ ักเรียนกลบั บ้านได้
ข้อ ๑๓ เม่ือเลิกเรียนให้นักเรียนทุกคนเดินมาที่หน้าสานักงานปกครองตามจุดที่กาหนด เพื่อไหว้พระและทา
ความเคารพครูเวรประจาวัน และตรวจความเรียบร้อยของการแต่งตัวก่อนออกจากบริเวณโรงเรียน หากนักเรียน
ต้องโดยสารรถประจาทาง ให้นักเรยี นเข้าแถวใหเ้ ป็นระเบียบในการขนึ รถโดยสาร
ข้อ ๑๔ ถา้ ครูเวรประจาวนั พบเหน็ นักเรยี นคนใดปฏิบตั ไิ ม่ถกู ต้อง ให้ดาเนินการตามข้อ ๗, ๗.๑, ๗.๒
ข้อ ๑๕ นักเรียนทกุ คนจะต้องกลับบา้ น และออกจากบริเวณโรงเรยี นไมเ่ กินเวลา ๑๗.๐๐ น.
ข้อ ๑๖ ในกรณีที่นักเรียนจะต้องอยู่ทากิจกรรมหลังเลิกเรียน หรืออยู่เกินเวลา ๑๗.๐๐ น. จะต้องมีครูอยู่
ควบคุมดูแลด้วยทุกครังและลงช่ือรับรองการทากิจกรรมรวมทังอนุญาตให้ทากิจกรรมต่อจนถึงเวลา ๑๘.๐๐ น.
หากมกี ิจกรรมทตี่ ้องทาเกนิ กาหนดเวลาดงั กลา่ ว ใหท้ าบันทกึ ข้อความขออนุญาตผูอ้ านวยการโรงเรยี นรบั ทราบ
ขอ้ ๑๗ หากเป็นวนั หยดุ ราชการถ้านักเรียนจะมาโรงเรียนไมว่ ่ากรณใี ด ๆ ให้แตง่ กายชดุ นกั เรียน
ข้อ ๑๘ นกั เรียนที่มธี ุระจาเป็นต้องทาหลงั เลิกเรียนแล้วต้องแจง้ ใหผ้ ู้ปกครองทราบล่วงหน้าในการกลบั บ้านช้า
กวา่ กาหนด
ข้อ ๑๙ กรณีป่วยไข้ การอนุญาตใหน้ กั เรียนกลบั บา้ นให้อยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูพยาบาลและไดร้ ับอนญุ าตจาก
ครทู ่ปี รึกษา โรงเรยี นจะไม่อนญุ าตให้กลับบา้ นในกรณนี ักเรียนโทรศพั ทแ์ จ้งผูป้ กครองให้มารบั กลบั บา้ นเองโดยไม่
ผ่านการพจิ ารณาอนญุ าตจากครูหอ้ งพยาบาล ครทู ี่ปรึกษา และกล่มุ บรหิ ารงานบุคคลและกจิ การนักเรียน
หมวดท่ี ๓
การขาดเรยี นและการลา
ข้อ ๒๐ การหยดุ เรยี นของนักเรยี นทกุ ครงั จะต้องมใี บลาทมี่ ีการรบั รองจากผูป้ กครอง ชีแจงสาเหตุของการ
ลาหยดุ โดยนาส่งต่อครทู ี่ปรึกษา
ขอ้ ๒๑ หากนักเรียนผู้ใดหยดุ เรยี นโดยไมส่ ่งใบลา ทางโรงเรียนจะถือว่าผูน้ นั ขาดเรียนโดยไมท่ ราบสาเหตุ
และจะได้รับโทษตามระเบยี บว่าด้วยวินัยนกั เรยี น
ข้อ ๒๒ การขาดเรยี นและการลา ใหย้ ึดถือแนวการปฏบิ ตั ิ ดังตอ่ ไปนี
๒๒.๑. นักเรียนขาดเรียนตดิ ตอ่ กนั เกนิ ๒ วัน ทางโรงเรียนจะแจง้ ให้ผู้ปกครองทราบ
๒๒.๒. ถ้านกั เรยี นขาดเรยี นตดิ ตอ่ กนั เกนิ ๕ วันทาการ และ ๑๐ วนั ทาการ โดยไมท่ ราบสาเหตุหรอื ไม่
มีเหตุอันควรหรอื โรงเรียนแจง้ ผู้ปกครองรับทราบแล้วไม่ได้รบั การติดตอ่ กลับมาให้ครูที่ปรึกษาแจ้งให้หัวหน้าระดับ
หรือฝ่ายปกครอง เพ่ือเสนอเร่ืองต่อทางโรงเรียนในการพิจารณาแจ้งช่ือนักเรยี นแขวนลอย และลงในบัญชีรายชื่อ
นักเรยี นแขวนลอยตามคาส่งั กระทรวงศกึ ษาธิการ
ขอ้ ๒๓ นักเรยี นคนใดขาดเรียนเกนิ ๗ วัน ซึ่งได้ตดิ ต่อทางโรงเรยี นทราบล่วงหน้าแล้วเมอ่ื มาเรียนตามปกติ
ให้นาผปู้ กครอง พร้อมหลักฐานการขาดเรยี น อาทิ ใบรับรองแพทย์มาแสดงต่อทางโรงเรียนด้วย
ขอ้ ๒๔ หลกั ฐานการลาทุกชนิด หากนกั เรยี นปลอมแปลงแก้ไขเอกสารจะมคี วามผิดทางวนิ ัยและจะถูก
ดาเนินการตามระเบียบวา่ ด้วยวินัยนกั เรียน
ข้อ ๒๕ การขาดเรยี น หรือการส่งหลกั ฐานการลาครังใด มขี ้อนา่ สงสัย หรือปกปิดอาพรางครูทป่ี รึกษา
หัวหน้าระดบั ฝา่ ยปกครองอาจเชิญผปู้ กครองมายนื ยันการลาหยดุ ในครงั นนั
ข้อ ๒๖ นกั เรยี นท่ีตอ้ งไปทากิจธุระกับผปู้ กครองท่ีทราบลว่ งหน้าแน่นอน ให้นักเรยี นสง่ ใบลาต่อครทู ี่ปรึกษา
ลว่ งหน้ากอ่ นวนั จะขาดเรยี น ๑ วนั
ข้อ ๒๗ นักเรียนที่ขาดเรียนดว้ ยสาเหตุป่วย หรือการทากิจธุระที่ไมท่ ราบลว่ งหนา้ ให้นักเรียนส่งใบลาต่อครู
ทป่ี รึกษาในวนั แรกท่ีมาเรยี นตามปกติ
ข้อ ๒๘ นักเรียนท่ีมีความจาเป็นในการทาธุระคร่ึงวัน ในวันเวลาที่มีการเรียนการสอนให้ปฏิบั ติตาม
ดงั ต่อไปนี
๒๘.๑. นักเรียนไปทากิจธรุ ะช่วงเช้าและจะเข้าเรียนในช่วงบ่าย ให้นักเรียนนาใบลาหรือหนงั สอื รับรอง
จากผปู้ กครองมาแสดงตอ่ ฝ่ายปกครองรบั ทราบ
๒๘.๒. นักเรียนไปทาธุระช่วงบ่ายและช่วงเช้ามาเรียน ให้นักเรียนนาผู้ปกครองมาลาพร้อมแสดงบัตร
ประชาชนต่อฝ่ายปกครอง แล้วนาใบอนุญาตออกนอกโรงเรียน ไปให้ครูท่ีปรึกษาลงชื่อรับทราบและให้รอง
ผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียนลงช่ืออนุญาต แล้วบันทึกลงในสมุดขออนุญาตออกนอก
โรงเรยี นแสดงกบั ยามรกั ษาการณ์ เพ่ือนาสง่ ฝ่ายปกครองตอ่ ไป
ข้อ ๒๙ การขาดเรยี นของนักเรียนขณะอยูใ่ นโรงเรียน โดยมสี าเหตุดังตอ่ ไปนี
๒๙.๑. นักเรียนปว่ ยหรอื ได้รบั บาดเจ็บ ใหพ้ ยาบาลท่ที าหน้าท่ีพยาบาลของโรงเรยี นแจง้ ให้ครูทป่ี รึกษา
ทราบ เพ่อื ครูทีป่ รึกษาแจ้งต่อครูประจาวิชาทจ่ี ะเข้าสอนในวันนนั ทราบ
๒๙.๒. นักเรียนที่เป็นตัวแทนโรงเรียนไปร่วมกิจกรรมภายนอกโรงเรียนหรือเป็นนักเรียนช่วยงาน
กิจกรรมท่จี ดั ภายนอกโรงเรยี น ใหค้ รูท่ีรับผดิ ชอบกจิ กรรมทาหนังสือชีแจงวตั ถุประสงค์การเข้ารว่ มกจิ กรรมแจ้ง
ช่ือ – สกุล เลขที่ เลขประจาตัว ชัน ของนักเรียนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมตาม วัน เวลา สถานท่ี ในการจัดกิจกรรมแล้ว
เสนอต่อรองผู้อานวยการโรงเรียนกลุ่มงานวิชาการหรือผู้อานวยการโรงเรียน แล้วแจ้งกลุ่มบริหารงานบุคคลและ
กิจการนกั เรียน และครูทปี่ รึกษาทราบ โดยครูท่ปี รึกษาจะแจ้งไปยงั ครูประจาวิชาทราบต่อไป
ข้อ ๓๐ ให้นักเรียนใช้แบบการลาในกรณีการลาป่วย หรือการลากิจตามแบบฟอร์มโรงเรียน โดยขอรับได้
โดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ยท่กี ล่มุ บริหารงานบคุ คลและกิจการนกั เรียน
ข้อ ๓๑ กรณีหนีเรยี น การทนี่ ักเรียนหายไปจากห้องเรียนในเวลาเรียนโดยไม่ได้แจ้งให้ครูประจาวิชาทราบ
ใหค้ รูประจาวิชาบันทกึ ลงในสมดุ ประจาหอ้ งแล้วรายงานครูทีป่ รกึ ษาทราบเป็นลายลักษณอ์ ักษรเพอ่ื แก้ไขต่อไป
ขอ้ ๓๒ ข้อปฏิบัตขิ ณะมีชวั่ โมงเรยี น
๓๒.๑. ในระหวา่ งที่มชี ่วั โมงเรยี น นกั เรียนต้องอยู่ในห้องเรยี น จะอยใู่ นท่ีอื่น ๆ ไม่ได้ เวน้ แต่ไดร้ ับการ
อนญุ าตจากครทู ่ีสอนในคาบนนั ๆ
๓๒.๒. ขณะทมี่ กี ารเรยี นการสอน ไม่อนญุ าตให้นกั เรยี นใช้โทรศพั ทม์ ือถือ
๓๒.๓. ตังใจเรยี นฟังคาอธบิ ายของครูดว้ ยความสงบเรียบรอ้ ยไม่ลุกจากท่โี ดยไม่ได้รบั อนญุ าต
๓๒.๔. ไมน่ าวชิ าหรอื งานอน่ื ๆ มาทาขณะท่มี ีการเรียนการสอน
๓๒.๕. ในกรณีทคี่ รูไม่อยใู่ นห้องเรยี น ให้นกั เรยี นทกุ คนอยู่ในห้องด้วยความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อยไม่ส่ง
เสียงหรอื กระทาการใด ๆ อนั เปน็ การรบกวนห้องข้างเคียง หากภายใน ๑๕ นาที ครยู ังไมเ่ ขา้ ห้องเรียน ใหห้ ัวหน้า
ห้องแจง้ หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรนู้ นั ทราบโดยเร็ว
ข้อ ๓๓ ให้นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามระเบียบนีอย่างเคร่งครัด หากผู้ใดฝ่าฝืน หลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามให้
พจิ ารณาโทษตามระเบียบวา่ ด้วยวนิ ัยนักเรียน
ขอ้ ๓๔ ให้รองผ้อู านวยการกลมุ่ บริหารงานบคุ คลและกิจการนกั เรียนให้เป็นไปตามระเบยี บนี
ประกาศ ณ วันที่ ๓๑ เดอื นมนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๔
นายสิทธิศกั ดิ์ แกว้ สอนทะเล
ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรวี ัดอัปสรสวรรค์
กฎกระทรวง
กาหนดความประพฤติของนกั เรียนและนกั ศึกษา พ.ศ.๒๕๕๖
อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๖ และมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๕๑ อันเป็น
กฎหมายท่ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับ
มาตรา ๓๑ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖ มาตรา ๓๙ มาตรา ๔๘ และมาตรา ๕๐ของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย
บัญญตั ใิ หก้ ระทาได้โดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญัตแิ ห่งกฎหมาย รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ
ออกกฎกระทรวงไวด้ ังตอ่ ไปนี
ขอ้ ๑ นกั เรยี นและนกั ศึกษาตอ้ งไมป่ ระพฤติตน ดงั ตอ่ ไปนี
(๑) หนีเรียนหรอื ออกนอกสถานท่ีโดยไมไ่ ด้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน
(๒) เลน่ การพนนั จดั ใหม้ ีการเลน่ การพนัน หรอื มวั่ สมุ่ ในวงการพนัน
(๓) พกพาอาวุธ หรอื วัตถุระเบิด
(๔) ซือ จาหนา่ ย แลกเปล่ยี น เสพสุราหรอื เคร่อื งดื่มทม่ี แี อลกอฮอล์สงิ่ มึนเมา บหุ ร่หี รอื ยาเสพตดิ
(๕) ลกั ทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ หรอื บงั คับขนื ใจเพอ่ื เอาทรพั ยบ์ ุคคลอื่น
(๖) ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทารา้ ยร่างกายผ้อู ่นื เตรยี มการหรอื กระทาการใด ๆ อันนา่ ก่อใหเ้ กดิ ความไม่
สงบเรยี บรอ้ ย หรือขัดตอ่ ศลี ธรรมอันดีของประชาชน
(๗) แสดงพฤตกิ รรมทางชู้สาวซ่ึงไม่เหมาะสมในทสี่ าธารณะ
(๘) เกยี่ วขอ้ งกบั การคา้ ประเวณี
(๙) ออกนอกสถานทพี่ ักเวลากลางคนื เพอื่ เทีย่ วเตร่ หรือรวมกลมุ่ อันสรา้ งความเดอื ดรอ้ นให้แก่
ตนเองหรือผู้อ่ืน
ข้อ ๒ ให้โรงเรียนหรือสถานท่ีศึกษา กาหนดระเบียบว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาได้
เท่าท่ไี มไ่ ด้ขัดแย้งกบั กฎกระทรวงนี
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
นายจาตรุ นต์ ฉายแสง
รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร
หมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี คือ โดยท่ีมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติ
คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ บัญญัติให้โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนว
ให้คาปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง เพ่ือส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม ความ
รับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยแก่นักเรียน และนักศึกษา ตามเกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขที่กาหนดใน
กฎกระทรวง จึงจาเปน็ ต้องออกกฎกระทรวงน
ขัน้ ตอนการดแู ลระเบียบแถวของครูท่ีปรกึ ษาสาหรับกจิ กรรมหน้าเสาธง
๑. เมื่อนักเรยี นลงมาถึงสนามให้คุณครยู ืนดูแลหวั แถวและทา้ ยแถว ด้านละ ๑ ท่าน
๒. ให้หัวหน้าห้องจัดระเบียบแถว โดยคุณครูคอยกากับให้นักเรียนยืนตรงทังแถวหน้ากระดานในห้องของ
ตนเองและยืนตรงแถวตอนลึกดา้ นหนา้ โดยใหน้ กั เรียนใชเ้ สยี งน้อยทส่ี ดุ
๓. คุณครเู ดนิ สารวจการแต่งกายของนักเรยี นในแถว หากนกั เรยี นคนใด แตง่ กายไม่ถูกระเบียบในครงั แรก
ให้ตักเตือน แต่ครังต่อไปให้ตัดคะแนนพฤติกรรมได้เลย ในกรณีท่ีนักเรียนตัดทรงผมผู้ชายเปิดหู หากเป็นนักเรียน
เก่าให้ส่งฝ่ายปกครองเพื่อถ่ายรูปทาประวัติในกรณีที่ทาสีผมให้คุณครจู ดชื่อและให้ไปย้อมผมเป็นสีดา เพ่ือตรวจใน
วนั รุง่ ขนึ
๔. ระหว่างทากิจกรรมหน้าเสาธงให้คุณครูคอยควบคุมดูแลให้นักเรียนทากิจกรรมด้วยความตังใจ โดยไม่คุย
หรอื เล่นกัน
๕. เมือ่ นกั เรียนทากจิ กรรมหน้าเสาธงเรียบร้อยแลว้ ใหค้ ณุ ครูปลอ่ ยแถวนักเรยี น โดยครคู อยควบคุมกากบั ดูแล
ใหน้ ักเรียนเดนิ แถวอย่างมีระเบยี บจนกว่านักเรยี นจะเดินเขา้ ตวั อาคารเรียบร้อยแล้ว
ขอ้ กาหนดของโรงเรยี นสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
๑. กาหนดเวลาทาการปกติของโรงเรยี นสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๐๗.๔๐ น. สัญญาณครังท่ี ๑ เพลงมาร์ชอปั สรสวรรค์เตรยี มเข้าแถว
๐๗.๔๕ น. สญั ญาณครงั ท่ี ๒ นกั เรียนเข้าแถวตามท่ีกาหนดเพ่ือเคารพธงชาติสวดมนต์ สงบนิ่ง
แผ่เมตตา ปฏิญาณตนร้องเพลงประจาโรงเรียน
๐๘.๐๐–๐๘.๒๐น. นกั เรยี นและครโู ฮมรูมเรอื่ ง หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ในห้องเรยี น
ตารางเรยี น A (ตารางปกติ) น.
คาบที่ เวลา น.
น.
๑ ๐๘.๓๐ - ๐๙.๒๐ น.
๒ ๐๙.๒๐-๑๐.๑๐ น.
๓ ๑๐.๑๐ - ๑๑.๐๐ น.
๔ ๑๑.๐๐ - ๑๑.๕๐ น.
๕ ๑๑.๕๐ - ๑๒.๔๐ น.
๖ ๑๒.๔๐ - ๑๓.๓๐ น.
๗ ๑๓.๓๐ - ๑๔.๒๐
๘ ๑๔.๒๐ - ๑๕.๑๐
๙ ๑๕.๑๐ - ๑๖.๐๐
ตารางเรียน B (เร่ิมเรียน ๐๙.๐๐ น. คาบละ ๕๐ นาท)ี
คาบท่ี เวลา
๑ ๐๙.๐๐ - ๐๙.๕๐ น.
๒ ๐๙.๕๐ - ๑๐.๔๐ น.
๓ ๑๐.๔๐ - ๑๑.๓๐ น.
๔ ๑๑.๓๐ - ๑๒.๒๐ น.
๕ ๑๒.๒๐ - ๑๓.๑๐ น.
๖ ๑๓.๑๐ - ๑๔.๐๐ น.
๗ ๑๔.๐๐ - ๑๔.๕๐ น.
๘ ๑๔.๕๐ - ๑๕.๔๐ น.
๙ ๑๕.๔๐ - ๑๖.๓๐ น.
ตารางเรยี น C (เรม่ิ เรียน ๐๙.๐๒๐ น. คาบละ ๔๐นาท)ี
คาบท่ี เวลา
๑ ๐๙.๒๐ - ๑๐.๐๐ น.
๒ ๑๐.๐๐ - ๑๐.๔๐ น.
๓ ๑๐.๔๐ - ๑๑.๒๐ น.
๔ ๑๑.๒๐ - ๑๒.๐๐ น.
๕ ๑๒.๐๐ - ๑๒.๔๐ น.
๖ ๑๒.๔๐ - ๑๓.๒๐ น.
๗ ๑๓.๒๐ - ๑๔.๐๐ น.
๘ ๑๔.๐๐ - ๑๔.๔๐ น.
๙ ๑๔.๔๐ - ๑๕.๒๐ น.
ตารางเรียน D (เร่ิมเรียน ๑๐.๐๐ น. คาบละ ๔๐ นาท)ี
คาบท่ี เวลา
๑ ๑๐.๐๐ - ๑๐.๔๐ น.
๒ ๑๐.๔๐ - ๑๑.๒๐ น.
๓ ๑๑.๒๐ - ๑๒.๐๐ น.
๔ ๑๒.๐๐ - ๑๒.๔๐ น.
๕ ๑๒.๔๐ - ๑๓.๒๐ น.
๖ ๑๓.๒๐ - ๑๔.๐๐ น.
๗ ๑๔.๐๐ - ๑๔.๔๐ น.
๘ ๑๔.๔๐ - ๑๕.๒๐ น.
๙ ๑๕.๒๐ - ๑๖.๐๐ น.
หมายเหตุ
- คาบที่ ๔ ม.๑ และ ม.๖ พกั กลางวนั
- คาบท่ี ๕ ม.๒ และ ม.๔ พกั กลางวนั
- คาบที่ ๖ ม.๓ และ ม.๕ พกั กลางวนั
- หลังจากเลิกเรียนแล้ว นักเรยี นจะอยู่ในบรเิ วณโรงเรียนได้ไมเ่ กินเวลา ๑๗.๐๐ น.
เว้นแต่มีกจิ กรรมพเิ ศษที่ได้รับมอบหมาย โดยมคี รรู ับผดิ ชอบในกิจกรรมนนั ควบคุมดูแล
๑. การเข้าเรียน นักเรียนต้องเข้าหอ้ งเรียนใหต้ รงเวลา ถ้าเข้าหอ้ งเรียนหลังครูผู้สอนทาการสอนไปแลว้
๑๕ นาที ใหถ้ ือวา่ เขา้ หอ้ งเรียนสายในวชิ านัน
๒. การทากิจกรรมนอกโรงเรียน เช่น การแข่งขันตอบปัญหา การแสดงศิลปะต่าง ๆ การนาผลผลิตและ
ผลงานของนักเรียนไปแสดง การไปทัศนศกึ ษาในกรณนี ตี ้องถือปฏบิ ตั ิ คอื โรงเรียนจะมีหนังสอื ขออนุญาตผ้ปู กครอง
เพ่ือแจง้ ใหผ้ ู้ปกครองทราบและอนญุ าตนักเรียนต้องนาหนังสืออนุญาตจากผู้ปกครองส่งคืนโรงเรยี น และนักเรียนท่ี
ผปู้ กครองไม่อนญุ าตทางโรงเรียนจะไม่อนุญาตให้นกั เรยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมนัน ๆ เช่นกนั
๓. การนาบุคคลภายนอกเข้ามาในโรงเรียน นักเรียนจะนาเข้ามาไม่ได้ ยกเว้นมาติดต่อราชการและไม่ให้ขนึ
ไปบนอาคาร ทังนีเพ่อื ปอ้ งกนั ความเสยี หายท่ีจะเกิดขนึ โดยจะอนุญาตใหพ้ บในบรเิ วณทีก่ าหนดเทา่ นนั
๔. การมาโรงเรียนสาย นกั เรยี นท่มี าโรงเรยี นไม่ทนั เขา้ แถว ถอื วา่ มาโรงเรยี นสายตอ้ งปฏิบตั ดิ งั นี
๔.๑. มาหลังเขา้ แถว แตท่ นั เรียนคาบที่ ๑
- ให้ยนื เป็นแถวอยใู่ นท่ที ีค่ รเู วรกาหนด
- เคารพธงชาติ สวดมนต์ ฯลฯ พร้อมนักเรยี นท่ีมาสาย
- เขยี นชื่อและชันเรยี นลงในแบบบันทกึ ของงานกจิ การนักเรียน
- ทากิจกรรมตามทีค่ รเู วรเห็นสมควร
๔.๒. มาหลังสัญญาณเข้าเรียนคาบที่ ๑
- รายงานตอ่ เจา้ หนา้ ที่ เขียนชอื่ และชนั เรียน สาเหตุการมาสายลงในใบรายงานการมาสาย
- นาใบรายงานการมาสายไปรายงานตัวต่อครูกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียนแล้วนา
ใบขอเข้าเรยี นไปใหค้ รูประจาวิชาในคาบนัน ๆ เพอื่ เขา้ เรยี น
- ไปรายงานตัวกบั ครูทป่ี รึกษา
๕. การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน หากนักเรียนมีความจาเป็นต้องออกนอกบริเวณด้วยสาเหตุ
จาเป็นต่าง ๆ ผู้ท่ีจะรบั นกั เรียนออกนอกบรเิ วณต้องเป็น พ่อ แม่ หรอื ผู้ปกครองนักเรยี นทใ่ี ห้ข้อมลู กับฝ่ายปกครอง
มารับเทา่ นัน โดยมลี าดบั การดาเนนิ การ ดงั นี
๕.๑. เขยี นบนั ทึกในแบบขออนุญาตออกนอกบรเิ วณโรงเรียนทงั สองสว่ น โดยผูป้ กครองลงนามใน
แบบขออนญุ าตนัน
๕.๒. นาแบบขอออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นใหค้ รทู ป่ี รึกษารับทราบและลงลายมือชือ่ รบั รอง
๕.๓. นาแบบฟอร์มดังกล่าว ส่งกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียนเพื่อรับทราบ และลงชื่อ
อนุญาตโดยรองกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียนหรือผู้ได้รับมอบหมายอนุญาต พร้อมกับลงรายการใน
สมดุ ควบคมุ การอนุญาตการออกนอกบริเวณที่ปอ้ มยามอีกครังหน่ึง
๕.๔. นาแบบฟอร์มการอนญุ าตออกนอกบริเวณส่งทีย่ ามรกั ษาการณเ์ ก็บไว้หนึ่งส่วน
๖. การรกั ษาความสะอาด นกั เรียนทุกคนต้องช่วยกันรักษาความสะอาด บริเวณโรงเรยี นห้องเรียนก่อนและ
หลงั เรียนแตล่ ะวิชา ต้องดแู ลความเรียบร้อยของโตะ๊ เกา้ อีใหเ้ ปน็ ระเบียบและไมท่ าลายทรัพย์สนิ ของทางโรงเรียน
๗. การประหยัด นักเรยี นต้องชว่ ยกนั ประหยัดส่ิงสาธารณูปโภค เช่น นา ไฟ เพอ่ื ฝึกนสิ ยั ที่ดีงามและหากพบ
การใชไ้ ฟฟ้าภายในโรงเรียนจะเชิญผูป้ กครองมาพบฝา่ ยปกครอง
๘. การรับประทานอาหาร นักเรียนต้องไม่นาอาหารและเคร่ืองดม่ื ออกนอกบริเวณพืนท่ีท่ีกาหนด นักเรียน
ต้องน่งั รับประทานให้เรยี บรอ้ ย
๙. การเป็นผู้มีคุณธรรม นักเรียนต้องปฏิบัติตนให้เป็นผู้มีศีลธรรม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ลักขโมยสิ่งของของผู้อื่น
เม่ือเก็บของท่ีผู้อ่ืนทาตกหรือลืมไว้ต้องนาส่งครูกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียนเพ่ือประกาศหาเจ้าของ
ตอ่ ไป
๑๐. กิริยามารยาทและการแต่งกาย นักเรียนต้องมีกิริยา วาจาท่ีสุภาพ เรียบร้อย และแต่งกายให้ถูกต้อง
ตามระเบยี บของโรงเรียน โดยคานงึ ถึงศลี ธรรม วัฒนธรรมและประเพณที ดี่ ีงามของไทยทงั ในและนอกโรงเรียน
๑๑. การปฏบิ ตั ิตนเมอื่ อยูใ่ นชดุ นักเรียนนักเรียนพึงระวังควบคมุ กิรยิ าวาจาให้สภุ าพเรยี บร้อยไมป่ ระพฤติตน
ทาใหโ้ รงเรียนเส่ือมเสียชอื่ เสยี ง
ประกาศโรงเรียนสตรวี ดั อัปสรสวรรค์
เรือ่ ง ปรับเปล่ียนแกไ้ ขระเบยี บการแตง่ กายของนักเรียนโรงเรียนสตรวี ดั อัปสรสวรรค์
----------------------------------------------------------------
ด้วยกลุ่มงานบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียน ได้มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขระเบียบการแต่งกายของ
นักเรียนโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์เพ่ือให้สอดคล้องกับยุคสมัยในปัจจุบันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและ
บรรลุเป้าหมายของโรงเรียนในการดูแลนักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ สุภาพ เรียบร้อย
ประหยัด เหมาะสมกบั สภาพและวยั ของนักเรยี น จงึ ไดก้ าหนดการแต่งกายไวด้ ังนี
ระเบยี บการแตง่ กายของนักเรียนโรงเรียนสตรวี ดั อปั สรสวรรค์
ทรงผม
ทรงผมนักเรยี นมัธยมศึกษาตอนต้น
- นักเรียนไว้ผมสนั ให้ตดั ทรงบอ๊ บยาวเสมอกนั ทงั ด้านหนา้ และดา้ นหลัง ด้านหน้าตา่ จากระดบั ติ่งหู
ไมเ่ กนิ ๑ นวิ ห้ามโกรกสีผม ย้อมผม ดัดผมหรอื ซอยผมทุกชนดิ ให้หวีแสกตรงกลางหรือด้านข้างแลว้ ตดิ กบิ๊ ธรรมดา
สีดา ไม่ตดั ผมดา้ นหนา้ เป็นผมหน้ามา้
- นกั เรยี นไว้ผมยาว ให้ถักเปยี แล้วผูกโบว์ขนาด ๒ เซนติเมตร ๒ ข้าง ไมใ่ ช้โบวส์ าเรจ็ รปู โบวท์ ใ่ี ช้
ให้มสี ีเดยี วคอื สคี รีม (ผมยาวไดไ้ ม่เกนิ คร่ึงหลงั )
ทรงผมนกั เรียนมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
- นักเรยี นไวผ้ มสันให้ตัดทรงบ๊อบยาวเสมอกันทังดา้ นหน้าและด้านหลัง ด้านหนา้ ตา่ จากระดับตง่ิ หูไมเ่ กนิ
๑ นวิ ห้ามโกรกสีผม ยอ้ มผมดดั ผมหรอื ซอยผมทกุ ชนดิ ให้หวีแสกตรงกลางหรอื ดา้ นขา้ งแล้วติดกิ๊บธรรมดาสดี า
ไม่ตดั ผมดา้ นหน้าเปน็ ผมหนา้ มา้
- นักเรียนไว้ผมยาวให้รวบผมหลังใบหูรวบให้ตึงด้วยยางเส้นเล็กสีดาแล้วผูกโบว์สีครีมทับให้
เรียบร้อย ห้ามโกรกสีผม ย้อมผม ดัดผมหรือยีผม ไม่ปล่อยผมสยายเม่ืออยู่ในเครื่องแบบนักเรียนทังในและนอก
โรงเรียน การรวบผมต้องรวบระหว่างใบหู (ผมยาวได้ไม่เกินคร่ึงหลัง)ไม่มีไรผม หรือจอนผมห้อยรุงรัง ด้านหน้า
จะต้องไม่ปลอ่ ยยาวในลักษณะผมหนา้ ม้าหรือผมยกกระบังหน้าใหส้ ูงขึน โบวท์ ่ใี ชใ้ หม้ ีสเี ดียวคอื สีครีม มีขนาดความ
กวา้ ง ๒.๕ เซนติเมตร ไม่ใช้โบว์สาเร็จรูป ก๊ิบทีต่ ดิ ผมใหใ้ ช้ก๊บิ ธรรมดาสีดาเท่านัน
ชุดเคร่ืองแบบนกั เรยี น
๑. เสื้อ (ทงั ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายใชผ้ ้าเหมือนกันแบบตา่ งกัน)
เสื้อเครอื่ งแบบนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาตอนตน้
- ชนดิ ของผา้ ใช้ผา้ ขาวเกลยี ง เนือไม่บาง (เชน่ ลนิ ิน หรอื โทเร ชนิดเนือหนา)
- แบบเสือ แบบคอพบั ในตวั ลึกพอสวมศีรษะได้สะดวก สาบตลบเขา้ ข้างในส่วนบนของสาบให้พอแบะคอแล้ว
ไมเ่ ห็นตะเข็บข้างใน มปี กขนาด ๑๐–๑๕ ซม. ใชผ้ า้ สองชันเยบ็ เข้าถา แขนยาวเพียงเหนือข้อศอกประมาณ ๗ ซม.
ปลายแขนเสือจีบเล็กน้อย (ห้ามใช้ผ้าเฉลียง) ไม่จีบต้นแขน ขอบปลายแขนประกอบด้วยผ้าสองชันกว้าง ๓ ซม.
ความยาวของตวั เสือวัดจากข้อมือขึนมาเม่ือยืนตรงระยะ ๑๐ ซม. ชายขอบเสอื ด้านล่าง พับไมเ่ กนิ ๓ ซม. ริมขอบ
ลา่ งดา้ นหนา้ ข้างขวาตดิ กระเป๋าขนาด ๙–๑๐ ซม. ยาว ๑๐–๑๒ ซม. ตามส่วนของขนาดตวั เสือ ปากกระเปา๋ พับริม
กวา้ งไมเ่ กนิ ๒ ซม. ตวั เสือตรงตลอดความหลวมของเสอื วัดจากข้างหน้าซา้ ยและขวาห่างกันประมาณข้างละ ๕ ซม.
- ผูกคอซองด้วยผ้าสเี ดยี วกนั กบั กระโปรง ชายสามเหลยี่ มกว้าง ๖–๗ ซม. ยาว ๘๐–๑๐๐ ซม. เงือ่ นกะลาสี
เม่อื ผูกแล้วเงอ่ื นตา่ กวา่ คอ ๖–๗ ซม.
- เสอื ชนั ใน ไมอ่ นญุ าตใหส้ วมเสือชนั ในเพียงตัวเดียว ตอ้ งสวมเสอื ซับในทกุ ครงั ทังมัธยมศึกษาตอนตน้
และมัธยมศึกษาตอนปลาย
เส้ือเคร่อื งแบบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
- ชนดิ ของผา้ ใชผ้ า้ ขาวเกลยี ง เนอื ไม่บาง (เชน่ ลินนิ หรือโทเร ชนิดเนือหนา)
- แบบเสือ แบบคอเชิตผ่าอกตลอด ทังอกเสือทาเป็นสาบ ตลบเข้าข้างในกว้าง ๓ ซม.เจาะรังดุมเหนือเข็มขัด
ขนาดคร่ึงนิว ๓ รังดุม ใช้กระดุมแบนสีขาว ๓ เม็ดแขนเสือยาวเหนอื ศอกประมาณ ๒ ซม. ไม่จีบต้นแขน จีบปลาย
แขนเล็กน้อย (ห้ามใช้ผ้าเฉลียง) ขอบแขนประกอบด้วยผ้า ๒ ชัน กว้าง ๓ ซม. ตัวเสือทรงตรงตลอด ความหลวม
ของตัวเสือวดั จากข้างหนา้ ซา้ ยและขวาห่างกนั ประมาณข้างละ ๕ ซม. ชายเสอื สอดไว้ในกระโปรง
- เสือชนั ใน ถ้าสวมชนดิ หลงั เลก็ ตอ้ งสวมเสอื ซบั ในตัวยาวทับอีกตวั หน่ึง และสอดชายเสือไว้ในกระโปรง
๒. กระโปรง เหมือนกันทงั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และตอนปลาย
- ชนิดของผ้า หา้ มใช้ผา้ เนือหนา แบบยีนส์ ลายสอง เวสปอย หรือผ้าบางแบบผา้ จอรเ์ จยี
ใหใ้ ช้ผ้าเนอื หนา เรยี บ ผา้ โทเร
- สี ใชส้ ีนาเงนิ เขม้ หรอื กรมท่า“หา้ มใชส้ ีดา”
- แบบกระโปรงดา้ นหน้าและดา้ นหลังกระโปรงจบี ดา้ นละ ๖ กลีบ แบ่งเป็น ๒ ข้าง ขา้ งละ ๓ กลีบ
พบั กลีบออกดา้ นนอก เย็บทบั กลบี ยาวประมาณ ๘ ซม. กลีบเวน้ ระยะความกวา้ งระหวา่ งกลีบพองาม
- ความยาวของกระโปรง ให้ยาวคลมุ เข่า
๓. เข็มขัด (ใช้เฉพาะมัธยมศึกษาตอนปลาย)
- ใช้เข็มขดั หนงั สดี า กว้าง ๔–๕ ซม. ตามสว่ นขนาดตวั นกั เรยี น
- หัวรูปส่ีเหลี่ยมผืนผ้าชนิดหุ้มหนังสีดา มีปลอกสีเดียวกับเข็มขัด สอดเข้ากับตัวเข็มขัด ตัวปลอกกว้าง
ประมาณ ๑.๕ ซม. หา้ มใช้เขม็ ขัดมีลวดลายหรือตวั อักษรใด ๆ บนเขม็ ขัด
๔. ถงุ เท้า (มธั ยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย)
- ใช้ถุงเท้าผ้าหรือไนลอนแบบยาว สีขาวไม่มีลวดลายหรือสลับสีหรือขลิบ ขอบไม่หนา หรือไม่บาง
จนเกินไป
- ความยาวของถุงเทา้ ตอ้ งยาวพอพับขอบไดป้ ระมาณ ๑.๕ นวิ .
- ห้ามสวมถงุ เท้าสนั รัดขอ้ เทา้ ชนิดพบั ขอบไม่ได้
๕. รองเท้า (มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย)
- ใช้แบบหมุ้ ส้น หุม้ ปลายเทา้ หัวมน ชนิดมีสายรดั หลงั เทา้ หนงั สีดา ไม่มลี วดลาย ส้นสงู ไมเ่ กนิ ๓ ซม.
- รองเท้าผ้าใบต้องเป็นสีขาวธรรมดา ไม่หุ้มข้อ ไม่มีลวดลาย ไม่สลับสีใด ๆ ทังสิน และเชือกผูกรองเท้า
ตอ้ งเปน็ สีขาวและใช้เฉพาะวันทีม่ วี ชิ าพลศกึ ษาเทา่ นัน
- ไมอ่ นญุ าตให้สวมรองเทา้ ผา้ ใบสขี าวกับชดุ นักเรยี นและรองเท้าหนังสดี ากบั ชดุ พละ
๖. กางเกงวอรม์ (มัธยมศึกษาตอนต้นและมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย)
- ใช้กางเกงวอร์มขายาว ผา้ ยืด สกี รมทา่ เสอื และกางเกงพละได้จัดจาหน่ายไวท้ ี่กลุม่ สาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษาและใหส้ วมกางเกงวอร์มเฉพาะคาบพลศึกษาเทา่ นนั
๗. กระเป๋า
- ให้ใช้กระเป๋าหนังหรือกระเป๋าหนังเทียมสีดาแบบกระเป๋าหนังสือเรียน ห้ามใช้กระเป๋าหนังมีราคาแพง
หรือกระเป๋าที่มีที่ล็อคอันเดียวและขนาดต้องไม่เล็กมากแบบอนุบาลหรือประถมศึกษา และให้ใช้กระเป๋าสะพาย
หลังแบบของโรงเรียนเท่านัน
- ให้ใชก้ ระเป๋าเคยี งแบบของโรงเรยี นไว้ใส่สัมภาระอ่นื ๆโดยใชค้ ู่กับกระเป๋าหลักเท่านนั และไมอ่ นญุ าตให้ใช้
กระเป๋าเคยี งเพยี งใบเดยี วหรอื ใชก้ ระเป๋าแบบอน่ื ๆ ในการใสส่ มั ภาระ
๘. นาฬิกา
- รูปเรือนและสายนาฬิกาเป็นแบบสุภาพห้ามใช้นาฬิกาแฟนซีท่ีหน้าปัดมีสีสันลวดลายหรือรูปเรือนและ
ขนาดทผี่ ิดปกติจากนาฬกิ าท่วั ๆ ไปหรือนาฬิกาที่แสดงถึงความฟ่มุ เฟอื ยในการใชง้ านสายนาฬิกาเป็นแบบ
สแตนเลสหรือโลหะ ถา้ เป็นสายหนังสที อี่ นญุ าตใหใ้ ชไ้ ด้คอื สีดา สกี รมทา่ สนี าเงนิ นาตาลและเทา
๙. แวน่ ตา
- ถ้าต้องสวมแว่นตาต้องใช้กรอบสีสุภาพ คือ กรอบสีเงิน ทอง ดา นาตาลไหม้ หรือสีเทาแก่ไม่ใช้แว่นท่ีมี
รูปแบบแปลกๆ แบบของแว่นตาต้องสุภาพ ตามลักษณะของผู้เป็นนักเรียนให้เหมาะสมไม่ใหญ่เกินไปหรือขนาด
กลมใหญจ่ นเข้าลักษณะแบบแฟชัน่
๑๐. คอนแทคเลนส์
- อนญุ าตใหใ้ สค่ อนแทคเลนส์ใส ไม่มีสี (สาหรับนกั เรียนทม่ี ีความผิดปกติทางสายตา) และไมใ่ ส่
คอนแทคเลนส์แบบแฟชนั่
๑๑. ของมีค่า
- ไม่นาสิ่งของมคี ่ามาโรงเรยี นทุกชนิด เช่น เคร่ืองประดบั ทองคา หรืออุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีมรี าคามาใช้
ในโรงเรยี น (ถ้าสญู หายทางโรงเรยี นจะไมร่ บั ผดิ ชอบ)
๑๒. เครอื่ งประดบั
- ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องประดับใด ๆ ตกแต่งร่างกายหรือแต่งกายในลักษณะที่ขัดต่อสภาพของการเป็น
นกั เรียนที่ดถี ึงแมจ้ ะไมไ่ ด้ระบไุ ว้ในระเบยี บนีก็ตาม
๑๓. ตา่ งหู
- อนุญาตให้เจาะหูใส่ต่างหูเพ่ือป้องกันรูหูตันเพียงข้างละ ๑ รูเท่านัน ให้ใช้ต่างหูที่ทาด้วยโลหะสีเงิน
เทา่ นันเป็นรูปหว่ งเล็ก ๆ แบบเส้นลวดไมม่ ลี วดลายและไมอ่ นญุ าตให้ใสก่ า้ นสีดา
๑๔. โทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี
- โรงเรียนไม่อนุญาตให้นามาใช้ในขณะท่ีมีการเรียนการสอน มีกิจกรรมและประชุม หากฝ่าฝืนโรงเรียน
จะขออนุญาตเปน็ ผู้เก็บไว้และจะใหบ้ ิดา มารดาหรอื ผู้ปกครองของนักเรยี นเปน็ ผูม้ ารบั คนื เท่านนั
- ห้ามนาอุปกรณ์ส่ือสารมาชาร์ตไฟท่ีโรงเรียนโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะทาการยึดอุปกรณ์ในการชาร์ต
และโทรศัพท์ไว้โดยให้ผู้ปกครองมารับคืนหลังเลิกเรียนเท่านัน ถ้าหากมีการสูญหายเกิดขึนจะไม่อนุญาตให้ดูกลอ้ ง
วงจรปดิ ของทางโรงเรียน และทางโรงเรียนจะไมม่ ีการรับผดิ ชอบใด ๆ ทงั สนิ
ประกาศ ณ วันท่ี ๓๑ เดอื นมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
( นายสทิ ธศิ กั ด์ิ แกว้ สอนทะเล )
ผู้อานวยการโรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
เคร่ืองแบบและเครอื่ งหมายประกอบเคร่อื งแบบยวุ กาชาด
มีดังตอ่ ไปนี
๑. หมวก ทาดว้ ยผ้าสีกรมท่า มรี ูปทรงคงที่ แบบมแี กป๊ ขา้ งหนา้ และตลบปกี ข้างหนา้ ขึนทังสองข้างประดับ
เคร่ืองหมายลายดุนเป็นรูปกาชาดทาดว้ ยโลหะสเี งนิ มีเส้นขอบสนี าเงนิ แก่อยบู่ นพืนวงกลมสีขาวล้อมกรอบเป็น
ช่อชัยพฤกษ์ และตรงส่วนบนมีอุณาโลม ยอดอุณาโลมมีรัศมีจากฐาน เคร่ืองหมายถึงยอดรัศมียาว ๓ ซม.
เคร่ืองหมายนปี ระดบั ดา้ นหนา้ กลางหมวก (หมวกใช้ในโอกาสพิเศษ)
๒. เส้ือ เชติ สีเทาอมฟา้ อกเชติ ผ่าตลอดทีอ่ กเสือ ทาเป็นสาบขนาด ๓ ซม. มีดมุ ขัดตลอดเหนอื
เข็มขัด ๔ ดมุ แขนสันเหนอื ศอก ๑ นิว พับตลอดปลายแขน ขนาด ๑ ซม. มีกระเปา๋ สองขา้ ง แบบปดิ ปาก
ด้วยกระดุมสีเดียวกับเสือ ตรงกึ่งกลางกระเป๋าพับจีบเป็นแถวกว้างเท่ากับสาบเสือ ตรงบ่าทังสองมีอินทรธนูติด
กระดุมข้างละหน่ึงเม็ด ด้านหลังเสือตัดเรียบกระดุมทังสินมีลักษณะเป็นรูปกลม แบน ขนาดเดียวกัน ทาด้วย
วสั ดสุ ีเดยี วกับเสอื ท่อี กเบอื งขวาติดเครอ่ื งหมายยวุ กาชาด ตน้ แขนเบืองซ้ายติดแถบป้ายชอ่ื โรงเรียน
๓. ผ้าผูกคอ ผ้ารูปสามเหลย่ี มมุมฉากสีกรมท่า มีด้านยาวประกอบมุมฉากด้านละ ๗๕ ซม. เย็บริมทังสอง
ดา้ น เวลาใช้ให้พับด้านทแยงให้เรียบรอ้ ยแล้วจีบกวา้ ง ๓ – ๔ ซม. ตลบไปมา ๔ ครงั พับหน่ึงหรือสองครงั
พอเหมาะสมกับผู้ใช้ แล้วผูกเงื่อนพิรอดทับปกเสือเชิตให้เป็นโบว์ กระชับอกเสือ ตรงกระดุมเม็ดที่สองจัดมุมของ
ผ้าผูกคอใหอ้ ยู่ตรงกง่ึ กลางด้านหลงั
๔. กระโปรง ใช้ผ้าและสชี นดิ เดียวกับเสือเป็นกระโปรงแบบสตี่ ะเข็บเข้ารูปกระโปรงบานพองามใชส้ วมทับเสอื
๕. เข็มขัด ทาดว้ ยหนังสีดา กวา้ ง ๓.๕ ซม. มหี วั ทาดว้ ยโลหะสีเงินรูปส่เี หลี่ยมผนื ผ้ากว้างพอที่จะสวมกับสาย
เข็มขัดให้ได้พอดียาว ๔ -๕ ซม. ตรงกลางหัวเข็มขัดมีลายดุนเป็นรูปเคร่ืองหมายอย่างเดยี วกับเครื่องหมายประดับ
หมวก ใหค้ าดทับขอบกระโปรง
๖. ถงุ เทา้ ชนดิ ยาวสีขาว เวลาสวมให้พับขอบถงุ เท้าลงไปเพียงขอ้ เทา้ ขนาด ๑.๕ นวิ
๗. รองเทา้ ผา้ ใบสีขาวชนดิ ผกู ส้นสงู ไม่เกิน ๓ ซม. (กรณมี เี รยี นวชิ าสุขศกึ ษาและพละศกึ ษา) หรอื รองเท้า
สดี าแบบนกั เรียนหญงิ
เคร่อื งแบบและเคร่อื งหมายประกอบเคร่อื งแบบเนตรนารี
เนตรนารสี ามัญรนุ่ ใหญ่
๑. หมวกปีกแคบสีเขียวแก่ มีตราหน้าหมวกรูปเครื่องหมายเนตรนารีทาด้วยโลหะสีทอง ปีกหมวกด้านหลัง
พับขึน
๒. เสอ้ื คอพบั สีเขยี วแก่ (ผ้าโทเร เบอร์ ๓๒) แขนสนั เหนอื ขอ้ ศอกผา่ อกตลอด อกเสือทาเป็นสาบกวา้ ง
๓.๕ ซม. มีดุมเหนือเข็มขัด ๔ ดุม อกมีกระเป๋าข้างละหน่ึงกระเป๋า มีแถบตรงก่ึงกลางตามแนวดิ่ง ปกรูปมนมี
อินทรธนูอยู่เหนือบ่าทังสองข้าง (ลักษณะอินทรธนูด้านไหล่กว้าง ๓.๔ ซม. เย็บติดกับตะเข็บไหล่เสือด้านคอกว้าง
๒.๕ ซม. ปลายมน มดี ุมติดทาด้วยวัตถสุ ีเขียวแก่) ให้ชายเสือสอดเข้าในกระโปรงหรอื เยบ็ ตดิ กับกระโปรงก็ได้
๓. กระโปรงสเี ขยี วแก่ ยาวคลมุ เข่าด้านหนา้ ดา้ นหลังพับเปน็ กลบี หันออกข้างขา้ งละหน่ึงกลบี
๔. ผา้ ผกู คอรปู สามเหล่ียมหน้าจวั่ สีตามสปี ระจาเขตการศึกษามหี ว่ ง (วอล์คเกิล) สวมผา้ ผกู คอ
๕. เขม็ ขดั หนงั สดี า กว้างไมเ่ กนิ ๓ ซม. หวั รปู สีเ่ หลีย่ มผืนผ้าทาดว้ ยโลหะสีทอง มลี ายดนุ เคร่ืองหมาย
เนตรนารี
๖. ถุงเทา้ สีขาว พบั สนั เพยี งข้อเท้า
๗. รองเท้าหนังสดี าหรือรองเท้าผ้าใบชนิดผกู (อนโุ ลมใชร้ องเท้าผ้าใบสีขาวไม่มีลวดลายบางโอกาส)
๘. เครื่องหมายเนตรนารสี ามัญรนุ่ ใหญ่ ทาด้วยโลหะสที องประกอบแถบโบอยสู่ ว่ นกลางมคี าว่าสามญั
รุ่นใหญใ่ ช้กลดั ติดอกเสือขา้ งซา้ ย
๙. เคร่ืองหมายสังกัด – ช่ือสกุลหรือกอง ทาด้วยผ้าสีแดงตัวอักษรสีขาว ขลิบริมด้วยผ้าขาวติดโค้งตามไหล่
เสือข้างขวา
๑๐. อนิ ทรธนูสีเลือดหมู ดา้ นบนปกั เครอ่ื งหมายเนตรนารสี เี หลอื ง
หมายเหตุ สาหรับเนตรนารีวิสามญั ใหแ้ ต่งเคร่ืองแบบและเคร่ืองหมายประกอบเคร่ืองแบบให้ถูกต้องควบถ้วน
ตามข้อกาหนด
การแต่งกายเครื่องแบบนักเรยี นระดบั ชนั้ ม.ต้น
ด้านหนา้ ดา้ นขา้ ง
ดา้ นหน้า ด้านข้าง
การแต่งกายเคร่ืองแบบเนตรนารี
ด้านหน้า ด้านหลงั
ด้านหน้า ด้านหลงั
ด้านหน้า การแต่งกายเคร่ืองแบบยุวกาชาด
ด้านหลงั
ด้านหน้า ด้านหลงั
การแต่งกายชุดพละ
แบบกระโปรง แบบกางเกง
แบบกระโปรง แบบกางเกง
การแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนระดบั ช้ัน ม.ปลาย
ด้านหน้า ด้านข้าง
ด้านหน้า ด้านข้าง
แบบการปักช่ือและเครื่องหมายเครื่องแบบนักเรียน
ด้านซ้ายของอกเสื้อ ช่ือ-นามสกุล
ปกั ขนาด 0.8 ซ.ม.
กลุ สตรีไทย Front ไทย-สามญั
ช่ือนักเรียนห้องเรียน Gifted
NATHATHAI S.
ชอื่ -นามสกุล
ปกั ขนาด 0.8 ซ.ม.
Front ไทย-สามัญ
สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
คุณภาพผู้เรียนด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน๕ข้อ ได้ยึดตามกรอบหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน
พืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ดงั นี
๑. ความสามารถในการสือ่ สาร หมายถงึ ใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรคู้ วามเขา้ ใจ ความรู้สึก
และทัศนะของตนเองเพื่อเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและ
สังคมรวมทังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆการเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วย
หลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อ
ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคดิ หมายถงึ รู้จกั คิดวิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ อยา่ งสร้างสรรคค์ ิดอย่าง
มีวิจารณญาณ และคิดเป็นระบบเพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเก่ียวกับตนเอง
และสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา หมายถึงเข้าใจความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคมแสวงหาความรู้ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสมบนพืนฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศรวมทังตัดสินใจท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึง
ผลกระทบทเ่ี กดิ ขนึ ตอ่ ตนเองสังคมและสงิ่ แวดล้อม
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต หมายถึงใช้กระบวนการต่าง ๆ ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน
เรียนรู้ดว้ ยตนเองต่อเนื่องทางานและอยู่รว่ มกนั ในสงั คมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหวา่ งบุคคลจัดการ
ปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆอย่างเหมาะสมรู้จักปรับตัวให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมสภาพแวดล้อมและ
หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่สี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี หมายถึง รูจ้ กั เลอื กและใช้เทคโนโลยีด้านตา่ ง ๆ ทักษะ
กระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรกู้ ารส่ือสาร การทางาน การแก้ปญั หา
อยา่ งสรา้ งสรรคถ์ ูกตอ้ งเหมาะสมและมคี ุณธรรม
เป้าหมายสดุ ทา้ ยของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (Ends)
๑. ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสามารถเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพและขีด
ความสามารถของทุนมนุษย์ (Productivity) ท่ีตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ
เพ่ือให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดับของประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศ ท่ีพัฒนาแล้วอย่างย่ังยืน
ภายใต้พลวตั ของโลกศตวรรษที่๒๑
๒. ประชากรทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรียนรู้จากระบบ
การศึกษาที่มีความยืดหยุ่นหลากหลายและสนองตอบความต้องการของผู้เรียนเพ่ือยกระดับชนชันของสังคม ๕
ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ท่ีเอือต่อการสร้างสังคมแห่งปัญญาและการ
สรา้ งสภาพแวดล้อมท่เี อือต่อการเรียนรู้ท่ปี ระชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวติ
๓. ผู้เรียนแต่ละระดับการศึกษาได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพท่ีมีอยู่ ในตัวตนของ
แต่ละบุคคลและมีคุณลักษณะนิสัย/พฤตกิ รรมที่พึงประสงคม์ ีองค์ความรูท้ ่ีสาคัญและทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี
๒๑รวมทังทักษะการดารงชีวิตและทักษะความรู้ความสามารถและสมรรถนะในการปฏิบัติงานที่ตอบสนองความ
ต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ
๔. ภาคการศึกษามีทรัพยากรและทุนท่ีเพียงพอสาหรับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพมาตรฐานจากการมี
สว่ นรว่ มในการระดมทนุ และสนองทนุ เพื่อการศึกษาจากทุกภาคส่วนของสังคมผ่านการเสียภาษีตามสทิ ธิและหน้าท่ี
ของพลเมอื งการบริจาคและการรว่ มรับภาระคา่ ใชจ้ า่ ยทางการศึกษา
๕. สถานศึกษามีระบบการบรหิ ารและการจดั การศึกษาที่มีประสิทธิภาพด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับ
สากลสามารถให้บริการการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของบรบิ ทเชิงพืนที่ระดับประเทศและระดับภูมภิ าคใน
ฐานะที่เป็นศูนย์กลางของการบริการด้านการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน (Hub for Education) และเป็นภาค
เศรษฐกิจหนง่ึ ของระบบเศรษฐกิจของประเทศและของภมู ิภาคทสี่ ร้างรายไดใ้ ห้กบั ประเทศไทย
กจิ กรรมสง่ เสรมิ ค่านิยมไทย ๑๒ ประการ
การสร้างคา่ นิยมหลกั ของคนไทย ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพอ่ื สรา้ งสรรค์ประเทศไทยใหเ้ ขม้ แข็ง โดยตอ้ งสร้างคนในชาติ ใหม้ คี ่านิยมไทย ๑๒ ประการ
๑. ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
นิยาม การประพฤติปฏิบตั ิตนทีแ่ สดงถึงความสานึกและภาคภมู ใิ จความเป็นไทยปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา
ท่ีตนนับถอื และจงรกั ภกั ดีต่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
๒. ซื่อสัตย์ เสยี สละ อดทน มีอุดมการณ์ในส่ิงท่ีดงี ามเพ่ือสว่ นรวม
นิยาม การประพฤติปฏิบัติตนท่ีแสดงถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง ประพฤติตรงตามความเป็นจริงต่อ
ตนเองและผู้อ่ืน ละความเห็นแก่ตวั รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคมและบุคคลท่ีควรให้ รู้จักควบคุมตัวเองเมอ่ื ประสบ
กับความยากลาบากและสิ่งทกี่ อ่ ใหเ้ กิดความเสียหาย
๓. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์
นิยาม การประพฤติท่แี สดงถึงการรูจ้ ักบุญคุณ ปฏบิ ัตติ ามคาส่ังสอนแสดงความรักความเคารพความเอาใจ
ใส่รักษาชื่อเสยี งและตอบแทนบญุ คุณของพ่อแม่ผู้ปกครองและครอู าจารย์
๔. ใฝห่ าความรู้ หมน่ั ศึกษาเลา่ เรียนทงั้ ทางตรง และทางออ้ ม
นิยาม การประพฤติปฏบิ ัตติ นท่ีแสดงถงึ ความตงั ใจเพยี รพยายามในการศึกษาเล่าเรียนแสวงหาความรู้ทัง
ทางตรงและทางอ้อม
๕. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
นิยามการปฏบิ ตั ติ นที่แสดงถงึ การเห็นคณุ ค่าความสาคัญภาคภมู ิใจอนรุ ักษ์สืบทอดวฒั นธรรมและประเพณี
ไทยอนั ดงี าม
๖. มีศลี ธรรมรกั ษาความสัตย์ หวังดตี อ่ ผ้อู นื่ เผ่ือแผ่และแบง่ ปนั
นิยาม การประพฤติปฏิบัติตนโดยยึดมั่นในคาสัญญามีจิตใจโอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อ่ืนเท่าท่ีช่วยได้ทัง
กาลังทรัพยก์ าลงั กายและกาลงั สติปัญญา
๗. เขา้ ใจเรียนรู้การเปน็ ประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทถี่ กู ต้อง
นิยาม การแสดงถึงการมีความรู้ความเข้าใจปฏิบัติตนตามหน้าที่และสิทธิของตนเองเคารพสิทธิของผู้อื่น
ภายใตก้ ารปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๘. มีระเบียบวินัยเคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
นิยาม การปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ระเบียบขอ้ บังคบั และกฎหมายไทยมีความเคารพและนอบน้อม
ต่อผใู้ หญ่
๙. มีสตริ ตู้ วั ร้คู ดิ รู้ทาร้ปู ฏิบตั ิตามพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว
นิยาม การประพฤติปฏิบัติตนอย่างมีสติรู้ตัวรู้คิดรู้ทาอย่างรอบคอบถูกต้องเหมาะสมและน้อมนาพระราช
ดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักปฏบิ ัติในการดาเนินชีวิต
๑o. ร้จู กั ดารงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
นิยาม การดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณมีเหตุผลมีภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีมีความรู้มีคุณธรรมและปรับตัวเพ่ือ
อยู่ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั
๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่ายกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออานาจฝ่ายต่า หรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัวต่อ
บาปตามหลักของศาสนา
นิยาม การปฏบิ ัตติ นใหม้ รี ่างกายสมบรู ณแ์ ขง็ แรงปราศจากโรคภัยและมจี ิตใจทเี่ ข้มแข็งมีความละอาย
เกรงกลัวต่อบาปไม่กระทาความชั่วใด ๆ ยดึ ม่นั ในการทาความดขี องศาสนา
๑๒. คานงึ ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
นิยาม การปฏิบัติตนและให้ความร่วมมือในกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติยอม
เสยี สละประโยชนส์ ว่ นตนเพื่อรกั ษาประโยชนข์ องส่วนรวม
ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอปั สรสวรรค์ ว่าดว้ ยผูป้ กครองนักเรยี น
ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันท่ี ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒ กล่าวถึงระเบียบของเครือข่ายผู้ปกครอง
ดังนี
ก. วา่ ดว้ ยการปฏิบัติของผู้ปกครองนักเรยี น
๑. ผูป้ กครอง หมายถึง บุคคลซึง่ รบั นกั เรียนไว้ในปกครอง หรอื อุปการะเลยี งดูหรอื บุคคล
ทีน่ ักเรียนอาศัยอยดู่ ้วย
๒. ใหน้ ักเรยี นท่ีกาลงั ศึกษาในสถานศึกษาสังกัดหรือในความควบคุมดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ เว้นแต่
การศึกษาผ้ใู หญ่ มีผปู้ กครองตลอดเวลาที่ศึกษาอยู่
๓. ในวันมอบตัวนักเรียนใหม่ ให้ผู้ปกครอง มามอบตัวนักเรียนที่สถานศึกษาพร้อมกับส่งหลักฐานเอกสาร
ต่าง ๆ ตามท่ีสถานศึกษากาหนด ถ้าผู้ปกครองไม่อาจมามอบตัวนักเรียนได้ตามเวลาท่ีกาหนดเวลา ผู้ปกครอง
จะต้องมามอบตัวใหม่ ตาม วัน เวลา ทีโ่ รงเรยี นกาหนด
๔. ผู้ปกครองต้องร่วมมือกับทางโรงเรียนในการควบคุมความประพฤติและการศึกษาเล่าเรียน คอย
ตักเตือนนักเรียนในความปกครองให้หม่ันศึกษาเล่าเรยี น และประพฤติตนให้เรยี บรอ้ ย ตามข้อบังคับและระเบยี บ
วินัยของโรงเรียนทุกประการ เป็นผู้อุปถัมภ์ด้านค่าเล่าเรียน เคร่ืองแบบนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ค่าอาหารให้
พอใชส้ อยและถกู ตอ้ งตามระเบียบ
๕. ผู้ปกครองควรติดต่อกับสถานศึกษาอยู่เสมอ เพื่อจะได้รับทราบปัญหาต่าง ๆ เก่ียวกับการศึกษาและ
ความประพฤติของนกั เรียนและรว่ มมอื กบั สถานศึกษาแก้ไขปัญหานัน ๆ
๖. เมื่อผู้ปกครองย้ายท่ีอยู่ ความเป็นผู้ปกครองสินสุดด้วยประการใด ๆ หรือจะเปล่ียนผู้ปกครอง
ผู้ปกครองตอ้ งแจง้ ใหท้ างโรงเรียนทราบภายใน ๓ วนั ผปู้ กครองคนใหม่ต้องมาทาใบมอบตวั ท่โี รงเรยี น และปฏิบัติ
ตามระเบียบ วา่ ด้วยหนา้ ทข่ี องผู้ปกครอง
๗. สาหรับนักเรียนทศี่ กึ ษาอยใู่ นสถานศกึ ษาแลว้ หากโรงเรยี นตรวจสอบตดิ ต่อหลักฐานการเปน็ ผู้ปกครอง
ของนักเรียนแล้วเห็นว่าคนใดไม่มีผู้ปกครอง หรือมีผู้ปกครองไม่เหมาะสมก็ให้โรงเรียนดาเนินการให้เป็นไปตาม
ระเบียบดังนี
ข. ว่าด้วยบุคคลที่เป็นผู้ปกครองของนักเรียนได้
๑. บดิ า มารดา
๒. ญาตผิ ใู้ หญเ่ สมอบิดา มารดา หรอื ครู
๓. เจ้าของหรือผ้จู ดั การหอพัก ซ่งึ บดิ า มารดา ของนักเรียน และโรงเรยี นพิจารณา
เหน็ ว่าสมควรเป็นผูป้ กครองได้
๔. ผู้ทบ่ี รรลุนติ ิภาวะมีบา้ นอยู่อาศัย และมีอาชีพเป็นหลกั ฐาน ซึ่งบดิ า มารดามอบความ
ไว้วางใจให้เป็นผู้ปกครองนักเรียน (โรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือผู้ที่ไร้อาชีพเป็นผู้ปกครอง
นักเรียน)
ระเบียบโรงเรยี นสตรีวัดอัปสรสวรรค์ วา่ ดว้ ยเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง พุทธศกั ราช ๒๕๖๑
เพ่ือให้การบริหารและการจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ปกครองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และอาศัยอานาจ
ตามความในข้อ ๑๔ แห่งระเบียบสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน ว่าด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง พ.ศ.
๒๕๕๑ โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์จึงกาหนดระเบียบเพ่ือเป็นแนวทางบริหารและจัดการร่วมกันระหว่าง
สถานศึกษากับผูป้ กครอง ไวด้ ังนี
ขอ้ ๑ ระเบยี บนเี รยี กว่า “ ระเบยี บโรงเรยี นสตรวี ดั อัปสรสวรรค์ ว่าด้วยเครอื ข่ายผ้ปู กครอง
พ.ศ. ๒๕๖๑ ”
ข้อ ๒ ระเบยี บนใี หใ้ ช้บงั คับตงั แต่วนั ถัดจากวันประกาศเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ ว่าด้วยเครือข่ายผู้ปกครอง และระเบียบข้อบังคับ
ประกาศและคาสั่งอนื่ ในส่วนทกี่ าหนดไว้ในระเบียบนหี รือซ่ึงขัดแยง้ กบั ระเบยี บนี ใหใ้ ชร้ ะเบยี บนีแทน
ขอ้ ๔ ในระเบียบนี ถ้าขอ้ ความมิได้แสดงให้เห็นเปน็ อยา่ งอืน่
๔.๑. “เครอื ข่ายผ้ปู กครอง” หมายความว่า การรวมกนั ระหว่างผปู้ กครองนกั เรียนในสถานศึกษา
เดียวกนั เพ่ือรว่ มมือกับสถานศกึ ษาในการประกอบกิจกรรมด้านการพฒั นาการ เรียนร้แู ละพฤตกิ รรมของนักเรยี น
๔.๒. “ผปู้ กครอง” หมายความว่า บิดา มารดา หรือบดิ า หรือมารดา ซ่ึงเป็นผใู้ ช้อานาจ
ปกครองหรือผู้ปกครอง ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ และหมายความรวมถงึ บุคคลทนี่ ักเรยี นอยู่ดว้ ยเป็น
ประจาหรอื นักเรยี นอยรู่ ับใช้การงาน
๔.๓. “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการเครือขา่ ยผ้ปู กครองโรงเรยี น
สตรวี ดั อัปสรสวรรค์
๔.๔. “ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา” หมายความวา่ ผูอ้ านวยการโรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์หรอื ผู้รบั
มอบหมายแทน
๔.๕. “สถานศกึ ษา” หมายความว่า โรงเรียนสตรีวดั อัปสรสวรรค์
๔.๖. “นักเรยี น” หมายความวา่ นักเรยี นโรงเรยี นสตรวี ดั อปั สรสวรรค์
ข้อ ๕ วตั ถุประสงค์ของเครือข่ายผูป้ กครอง
๕.๑. เพื่อการสรา้ งความสัมพนั ธ์อันดรี ะหว่าง บิดา มารดา ผ้ปู กครองนกั เรียนกบั สถานศกึ ษา
๕.๒. เพ่ือให้ บิดา มารดา ผู้ปกครอง มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และพัฒนา
พฤตกิ รรมของนักเรยี นให้เป็นคนดี คนเกง่ และอยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
๕.๓. ให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์และแนวคดิ ระหว่างผู้ปกครอง ครูและนักเรียนใน
สถานศกึ ษา
๕.๔. เพ่ือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้เกิดความรู้เป็นประสบการณ์สาหรับนักเรียน สามารถช่วยเหลือ
ตนเองได้ ดารงไว้ซ่ึงวัฒนธรรม ประเพณีและการละเว้นอบายมุขทังปวง เพ่ือส่งเสริม ความสามัคคี ช่วยเหลือ
เกือกลู ซงึ่ กันและกัน ตลอดถงึ การอนุรักษ์ส่งิ แวดล้อม
๕.๕. เพือ่ ให้มีการติดต่อส่ือสารระหว่างสถานศึกษากับบิดา มารดา ผู้ปกครองอย่างรวดเร็วและมี
ประสทิ ธภิ าพ
๕.๖. จัดหารายได้โดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ หรือรับให้ หรือรับจากการบริจาค หรือมีรายได้อ่ืน
ใด หรือมีทรัพย์สิน ส่ิงของ เงินต่าง ๆ เพื่อนาไปใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนและการพัฒนาพฤติกรรมของ
นกั เรียน
ข้อ ๖ องค์ประกอบของคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองคณะกรรมการประกอบด้วย เครือข่ายระดับ
หอ้ งเรียน ระดับชันเรยี น และระดบั โรงเรยี น
๖.๑. คณะกรรมการเครือข่ายระดับห้องเรียน มีจานวน ๕ คน ประกอบด้วย ประธาน รอง
ประธาน เลขานกุ าร นายทะเบยี น และประชาสมั พนั ธ์ โดยการคัดเลือกหรืออาสาสมัครจากผู้ปกครองของนักเรียน
ในแต่ละห้องเรียน แลว้ ให้เลือกกนั เองเพื่อดารงตาแหน่งดังกล่าว
๖.๒. คณะกรรมการเครือข่ายระดับชันเรียน ประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ
นายทะเบยี น ประชาสัมพนั ธ์ และกรรมการ โดยการเลอื กกนั เองจากคณะกรรมการระดับหอ้ งเรียนของชนั เรยี น
นัน ๆ ทังหมด ห้องละ ๕ คน ซึ่งประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ นายทะเบียนและประชาสมั พนั ธ์
ระดบั หอ้ งเรียนของชนั เรยี นนนั ๆ แลว้ ใหเ้ ลือกกนั เองเพ่อื ดารงตาแหน่งดงั กลา่ ว
๖.๓. คณะกรรมการเครอื ข่ายระดับโรงเรยี น มีจานวนทังสนิ ๓๑ คน ประกอบดว้ ย ประธาน รอง
ประธานคนท่ี ๑ และรองประธานคนท่ี ๒ เลขานุการ ผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร นายทะเบยี น ประชาสมั พันธ์ เหรญั ญกิ และ
กรรมการที่เหลือเป็นกรรมการ โดยการเลือกกันเองจากคณะกรรมการระดับชันเรียนของชนั เรยี นนันๆทังหมด ชัน
ละ ๕ คน ซ่ึงประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ นายทะเบียนและประชาสัมพันธ์ของทุกระดับชัน
เรียน แล้วให้เลือกกันเองเพ่ือดารงตาแหน่งดังกล่าวกรณีผู้แทนของระดับชันใดได้รับการคัดเลือกเป็นประธาน
เครือข่ายผู้ปกครอง ให้เลือกผู้แทนของระดับชันนนั ๆ ขึนมาแทนตาแหน่งท่ีวา่ งเพ่ือให้ครบจานวน ๓๑ คน โดยให้
ระดบั ชันนัน ๆ เป็นผ้สู รรหา
ข้อ ๗ คณุ สมบตั ิของกรรมการเครือขา่ ยผู้ปกครอง
๗.๑. บรรลุนิตภิ าวะและมีสถานภาพเปน็ ผูป้ กครองโดยชอบด้วยกฎหมายของนักเรยี นในขณะท่ี
นักเรียนยงั คงศกึ ษาอยใู่ นโรงเรยี น
๗.๒. ไมเ่ ป็นโรคตดิ ต่อรา้ ยแรงหรอื โรคทส่ี ังคมรงั เกยี จ
๗.๓. ไมเ่ ป็นบคุ คลวิกลจริตหรอื ไร้ความสามารถหรือเสมอื นไร้ความสามารถหรือเคยถกู
พิพากษาใหเ้ ป็นบคุ คลล้มละลาย
ข้อ ๘ การพ้นจากตาแหน่งของกรรมการเครอื ข่ายผปู้ กครอง
๘.๑. ตาย
๘.๒. ลาออก
๘.๓. ขาดคณุ สมบตั ิตามท่ีกาหนดไว้ในข้อ ๗
๘.๔. คณะกรรมการมีมติใหอ้ อก
๘.๕. ไดร้ ับโทษจาคุกโดยคาพพิ ากษาถึงท่ีสดุ ให้จาคกุ เว้นแตเ่ ป็นความผิดลหุโทษหรอื
ความผิดอันได้กระทาโดยประมาท
ข้อ ๙ วาระการดารงตาแหนง่ ของกรรมการเครือขา่ ยผ้ปู กครอง
๙.๑. คณะกรรมการทกุ ระดบั มีวาระ ๑ ปี ซง่ึ ถอื วันสง่ มอบงานคณะกรรมการเครือขา่ ย
ผปู้ กครอง เปน็ วันสนิ สุดวาระการดารงตาแหน่ง และเปน็ วันเร่มิ ปฏิบตั ิหน้าทขี่ องคณะกรรมการเครือขา่ ยผ้ปู กครอง
ชดุ ใหม่
๙.๒. กรณีกรรมการพน้ จากตาแหนง่ ใหด้ าเนนิ การเลอื กตังหรือสรรหากรรมการคนใหม่
แทนในตาแหน่งที่ว่าง ภายใน ๓๐ วัน นับตังแต่วันพ้นจากตาแหน่งและให้มีวาระเท่ากับเวลาท่ีเหลืออยู่ของผู้ท่ีตน
แทน โดยใหค้ ณะกรรมการในระดับของตาแหนง่ ทวี่ า่ งลงเปน็ ผู้สรรหา
๙.๓. ให้ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาจดั ให้มกี ารเลือกตงั คณะกรรมการเครอื ข่ายผู้ปกครอง
ระดบั ห้องเรยี น ระดบั ชนั เรยี นและระดบั โรงเรยี นชุดใหม่ ภายใน ๓๐ วัน นับจากวนั เปิดภาคเรียนแรก
ข้อ ๑๐ บทบาทและหนา้ ทขี่ องคณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง
๑๐.๑. ใหค้ วามร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมของสถานศกึ ษา โดยผา่ นความเหน็ ชอบจากผบู้ รหิ าร
สถานศึกษา
๑๐.๒. ส่งเสริมสนับสนุนร่วมสร้างสายใย เช่ือมสายสัมพันธ์อันดีระหว่างครู ผู้ปกครองและ
นักเรียน ในการดาเนนิ กจิ กรรมของโรงเรยี น
๑๐.๓. ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนตลอดจนการดูแลเร่ืองระเบียบวินัย และ
พฤติกรรมของบุตรหลานและนักเรยี นของโรงเรียน
๑๐.๔. ให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะต่อสถานศึกษาในเร่ืองต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่นักเรียน
และสถานศึกษา
๑๐.๕. จัดการประชุมคณะกรรมการและผ้ปู กครองระดับห้องเรียน และระดับชันเรยี นตามความ
เหมาะสมหรอื อยา่ งน้อยปลี ะ ๒ ครงั
๑๐.๖. ให้คณะกรรมการระดับห้องเรียนร่วมกับคุณครูที่ปรึกษาของแต่ละห้องเรียน จัดทา
ทาเนียบนักเรียนและผู้ปกครองโดยละเอียด และส่งมอบสาเนาให้เลขานุการคณะกรรมการในระดับชันเรียนและ
ระดบั โรงเรียนให้เปน็ ปจั จบุ ัน
๑๐.๗. คณะกรรมการในระดับโรงเรียน จะต้องรวบรวมข้อมูลและกิจกรรมของแต่ละระดับชัน
เพ่ือกาหนดกรอบแผนงาน โครงการนาเสนอโรงเรียน เพ่อื ดาเนินการต่อไป
๑๐.๘. ให้คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน จัดการประชุมใหญ่คณะกรรมการ
เครือขา่ ยผู้ปกครองทุกระดับ เพ่ือติดตาม ประเมินผลกิจกรรมตามความเหมาะสมอยา่ งน้อย ๒ ครงั ตอ่ ปี
๑๐.๙. ให้คณะกรรมการทกุ ระดับ ดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามที่โรงเรยี นขอความร่วมมือ โดยยึด
แนวปฏิบตั ิของสถานศึกษาเป็นหลัก
ข้อ ๑๑ การประชุมของคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองทุกระดับ ต้องมีกรรมการมาเข้าร่วมประชุมไม่
น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนคณะกรรมการแต่ละระดับ จึงจะเป็นองค์ประชุมและมติของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้าง
มากของกรรมการ และกรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่
ประชมุ ออกเสยี งเพิม่ ขนึ อกี เสยี งหน่ึงเพื่อชีขาด
ข้อ ๑๒ ให้ผู้บริหารสถานศึกษา แต่งตังครู-อาจารย์เป็นผู้ประสานงานกับคณะกรรมการเครือข่าย
ผปู้ กครองในทุกระดับและจัดทาประกาศแจง้ ใหค้ รู-อาจารย์ ผู้ปกครองและนักเรยี นในสถานศึกษาทราบโดยทว่ั กนั
ข้อ ๑๓ ขอ้ ปฏบิ ัตวิ ่าดว้ ยการรบั – จา่ ยเงนิ ของคณะกรรมการ
๑๓.๑. เม่อื มรี ายไดห้ รือรายรบั อนั เกิดจากการจดั กจิ กรรมตา่ งๆ จากการบรจิ าคการให้หรอื ยกให้
หรือจากอ่ืนใด ให้เหรัญญิกมีหน้าที่รับเงิน โดยการออกใบสาคัญรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐานแล้วรวบรวมเงินทังหมด
เก็บรักษาไว้ โดยนาเงินไปฝากธนาคารในบญั ชีของคณะกรรมการที่เปิดบญั ชีไว้ในรปู แบบ “ชื่อบคุ คล
บัญชีร่วม ๓ คน” ในวันทาการนัน ๆ หรือโดยเร็วท่ีสุดและต้องทาบัญชีการรับเงินแยกไว้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
และเกบ็ รกั ษาบญั ชีไว้ให้สามารถตรวจสอบได้ในเวลาทสี่ มควร
๑๓.๒. คณะกรรมการเครือข่ายระดับโรงเรียน มอบหมายให้เหรัญญิกเป็นผู้ไปดาเนินการขอเปิด
บัญชีธนาคารตามท่ีคณะกรรมการกาหนด โดยมีผู้อานาจลงนามเบิกถอนเงิน ประกอบด้วย ครู-อาจารย์ คนใดคน
หนึ่งท่ีได้รับแต่งตังให้เป็นผู้ประสานงานกับคณะกรรมการระดับโรงเรียน และ ประธานคณะกรรมการระดับ
โรงเรียน และกรรมการท่ีได้รับการคดั เลือกจากคณะกรรมการอีก ๑ คน ลงลายมอื ช่ือร่วมกันจานวน ๒ ใน ๓ จึงมี
อานาจเบิกถอนเงนิ จากบัญชไี ด้ หากครู-อาจารย์ หรือประธานคนใดคนหนง่ึ ไมส่ ามารถดาเนนิ การดงั กลา่ วได้
ให้คณะกรรมการระดับโรงเรยี นรว่ มกนั พจิ ารณาตอ่ ไป
๑๓.๓. เมอื่ คณะกรรมการพน้ วาระ ให้คณะกรรมการมอบเงนิ ในบัญชีและทรัพยส์ นิ ต่าง ๆ ท่เี หลอื
ใหก้ ับคณะกรรมการชุดใหม่ทันที ในวนั ท่สี ง่ มอบงาน
ขอ้ ๑๔ วตั ถุประสงคข์ องการจ่ายเงิน
๑๔.๑. จ่ายเงนิ เปน็ คา่ ใช้จา่ ยในการดาเนนิ งานของคณะกรรมการ
๑๔.๒. จา่ ยเงนิ เปน็ ค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ของคณะกรรมการ
๑๔.๓. จ่ายเงินทุนเพือ่ สนบั สนนุ กิจกรรมตา่ ง ๆ เพือ่ การหารายได้
๑๔.๔. จา่ ยเงนิ เพอื่ สนับสนนุ ทนุ การศึกษานกั เรียนหรอื กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรียน ในส่วนที่ไมม่ ี
งบประมาณหรือมีไมเ่ พยี งพอ
๑๔.๕. จ่ายเงินเพ่ือสนบั สนนุ สาธารณปู โภค อปุ โภค หรืออ่ืนใดแก่โรงเรยี น
๑๔.๖. จา่ ยเงินในกรณอี ื่น ๆ ตามท่คี ณะกรรมการระดบั โรงเรยี นพจิ ารณาเห็นสมควร
๑๔.๗. การจ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมติของท่ีประชุมคณะกรรมการระดับ
โรงเรยี นเปน็ ผ้พู ิจารณาอนมุ ตั ิ ผ้มู อี านาจลงช่ือเบกิ ถอนเงนิ จงึ จะดาเนนิ การได้
ข้อ ๑๕ หากไม่มีคณะกรรมการรับผิดชอบดูแล เงิน ทรัพย์สินต่าง ๆ ท่ีได้รับหรือมีอยู่ทังหมด หรือไม่
สามารถจัดการตามวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการแล้ว ให้เงิน ทรัพย์สินต่าง ๆ ทังหมดตกเป็นทรัพย์สินของ
สถานศกึ ษา
ข้อ ๑๖ หากมีปัญหาในการปฏิบัติตามระเบียบนี ให้คณะกรรมการระดับโรงเรียนเป็นผู้ พิจารณาและ
วินจิ ฉยั มติของทีป่ ระชุมของคณะกรรมการให้ถอื เป็นทีย่ ุติ
ข้อ ๑๗ คณะกรรมการที่ได้จัดตังหรือกิจกรรมใดที่ได้ดาเนินการอยู่ก่อนระเบียบนีใช้บังคับให้ปรับหรือจัด
กจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ระเบียบนี
ขอ้ ๑๘ การแกไ้ ขระเบียบนี สามารถกระทาได้ตามความเหมาะสมตามสมัยแหง่ กาลเวลาโดยให้ผู้เสนอขอ
แกไ้ ขยน่ื ญัตติขอแก้ไขระเบยี บต่อคณะกรรมการระดบั โรงเรียนพจิ ารณาและต้องไดร้ ับมติให้แก้ไขดว้ ยเสียงขา้ งมาก
ของจานวนกรรมการท่ีเขา้ ร่วมประชมุ และครบองค์ประชมุ
ข้อ ๑๙ ให้ผู้บริหารสถานศึกษา กากับดูแล ให้เป็นไปตามระเบียบนี และเป็นผู้ลงนามในประกาศแต่งตัง
คณะกรรมการเครือขา่ ยผปู้ กครองได้
อตั ลกั ษณ์ : กลุ สตรีไทยน้าใจงาม
ขอ้ กาหนดต่าง ๆ ท่ตี ้องปฏิบัติของนักเรยี นโรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรคต์ ามระเบยี บของโรงเรียน ดงั นี
๑. ทรงผมตัดตามระเบียบของโรงเรยี น ไมส่ วมหมวกใด ๆ นอกจากเคร่อื งแบบเนตรนารี
และยวุ กาชาด
๒. สวมเสอื ไมค่ บั หรอื หลวมเกินไปจนดูไม่เหมาะสม ติดกระดุมเสือตงั แต่เม็ดท่ีสองจากคอลงมา
ชายเสอื อยู่ในกระโปรง มองให้เหน็ เข็มขดั ไดช้ ดั เจน ห้ามปล่อยชายเสือออกนอกกระโปรงทงั ในและนอกโรงเรยี น
๓. สวมกระโปรงต้องยาวคลมุ หวั เข่าและให้เข็มขัดที่คาดกระโปรงอยู่ระดับเอวของนักเรยี น
๔. สวมถงุ เทา้ สนั สีขาว ไมพ่ ับหรอื ปลอ่ ยให้ร่นไปอย่ทู ขี่ ้อเทา้ และถุงเท้าตอ้ งอย่เู หนอื ตาต่มุ
เลก็ นอ้ ย ๓ นวิ
๕. สวมรองเทา้ หนังหรือผา้ ใบสขี าว และตอ้ งสวมให้เรยี บรอ้ ยไมเ่ หยียบทับสน้ รองเทา้ ไม่ใช้
รองเทา้ กีฬาท่ีมีรปู ทรงไมเ่ หมาะสมมาสวมใส่
๖. หา้ มแตง่ หน้าหรอื เขยี นคิวด้วยเครือ่ งสาอาง และห้ามไวเ้ ล็บหรือทาเล็บอย่างเด็ดขาด
๗. หา้ มสวมใสส่ รอ้ ยหรอื เคร่ืองประดับ ของมีค่า มาในขณะเขา้ โรงเรยี น
คณุ สมบตั ิของนักเรียนโรงเรียนสตรวี ัดอปั สรสวรรค์
นกั เรยี นท่ดี พี งึ ประพฤตแิ ละปฏิบัตติ น ดงั ต่อไปนี
๑. นกั เรยี นต้องมีเครอ่ื งแต่งกาย เครือ่ งเขยี น แบบเรียน และเครื่องใช้ต่าง ๆ ครบตามทโ่ี รงเรียน
กาหนด
๒. นักเรยี นตอ้ งแตง่ กายและประพฤติตนตามกฎระเบียบข้อบงั ของกระทรวงศึกษาธกิ าร และ
ขอ้ กาหนดของโรงเรยี น
๓. นกั เรียนต้องเชือ่ ฟงั และปฏิบัติตนอยู่ในโอวาทของครทู กุ ทา่ น
๔. นักเรียนต้องประพฤตปิ ฏิบัตติ นให้สมกบั สภาพความเป็นนกั เรียน เชน่ ไม่หนเี รียน ไม่สูบบหุ ร่ี
ไมด่ ื่มเหลา้ ไมเ่ สพส่งิ เสพตดิ ไม่เลน่ การพนัน ไม่ลักทรัพย์ ไมท่ ะเลาะววิ าท ไมม่ ่ัวสมุ ในอบายมขุ ตา่ ง ๆ
๕. นกั เรียนตอ้ งประพฤติปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายของบา้ นเมือง จารตี ประเพณี และวฒั นธรรมอนั
ดีงามของสถานการณ์บา้ นเมือง
๖. นักเรยี นตอ้ งขยนั ประหยดั ซ่อื สตั ย์ ตรงต่อเวลา มนี าใจนักกฬี า และยดึ ม่ันในหลกั คุณธรรม
จริยธรรมทีด่ ี
๗. นักเรียนตอ้ งสภุ าพอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะต่อบคุ คลทวั่ ไป และปฏบิ ตั ิตนเหมาะสมตามวัย
เพศ และสถานภาพแหง่ ตน
๘. นักเรียนตอ้ งมีความเสยี สละ เออื เฟ้ือเผ่อื แผ่ เห็นประโยชนส์ ว่ นรวม รกั ษาทรัพย์สมบตั ขิ อง
โรงเรียนของสังคมท่ัวไป และมีความสามัคคีในหมู่คณะ รุ่นน้องนับถือรุ่นพี่ และรุ่นพี่ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็น
ตวั อยา่ งที่ดแี ก่ร่นุ นอ้ ง
๙. นักเรียนต้องสร้างชือ่ เสียงให้แก่โรงเรยี นทกุ วิถีทาง และไม่กระทาการใด ๆ ท่ีเปน็ การทาลาย
ช่ือเสียงของโรงเรียน
๑o. นกั เรียนต้องพฒั นาศักยภาพ และสมรรถภาพของตนตลอดเวลา ทงั ทางด้านร่างกาย จิตใจ
อารมณ์สติปัญญา ความรู้ ความสามารถ และสงั คม
๑๑. ห้ามเลน่ ตามบริเวณต่าง ๆ ในขณะทเี่ ป็นเวลาทีม่ ีการเรียนการสอนตามตารางเรยี นหรือ
สถานท่ีที่กาหนดห้ามเล่น ยกเว้นเวลาเช้าก่อนเข้าแถว เวลาพักกลางวัน และเวลาเลิกเรียน และต้องอยู่ใน
เครื่องแบบนักเรียนทเ่ี รยี บร้อย
การปฏิบตั ติ นในการมาโรงเรียนและเข้าเรียน
๑. แตง่ กายดว้ ยเครอ่ื งแบบนกั เรียน หรือเครอื่ งแต่งกายท่ีถูกต้อง และเรยี บร้อยตลอดเวลาท่เี ดนิ ทางไปและ
กลบั จากโรงเรียน ขณะอยู่ในโรงเรียนและการไปทากิจกรรมนอกโรงเรียน
๒. เข้ามาในโรงเรียนตอ้ งแตง่ เครอื่ งแบบนกั เรียน หรือแตง่ กายสภุ าพเรียบรอ้ ยในวนั ราชการ
๓. แต่งกายสภุ าพเรียบร้อย ไม่สวมรองเทา้ แตะเขา้ มาในบริเวณโรงเรียนในวนั หยดุ ราชการ
๔. ต้องไม่นารถส่วนตัวเข้ามาในบริเวณโรงเรียน และห้ามรถผู้ปกครองเข้ามาส่งและรับภายในบริเวณ
โรงเรียน
๕. ไม่พกอาวุธ ไม่นาสิ่งมึนเมาทุกชนิดเข้ามาในบริเวณโรงเรียน ไม่นาของมีค่ามาโรงเรียน และไม่ตกแต่ง
เคร่ืองประดับใด ๆ ทังสิน
๖. มาถึงโรงเรยี นก่อนสัญญาณเขา้ เรยี นครังแรก อยา่ งช้าไม่เกิน ๐๗.๕๐น.
๗. ต้องแสดงความเคารพครูด้วยการไหว้ ท่ีหนา้ ประตูโรงเรียน และรับการตรวจความเรียบร้อยกอ่ นจะเข้า
และออกจากโรงเรยี น และต้องสแกนใบหน้านักเรียนทังเวลามาและเวลากลับ
ทุกครงั
๘. ต้องเขา้ แถวเคารพธงชาติ และกิจกรรมอ่ืน ๆ ที่กาหนดก่อนเข้าเรยี นในตอนเชา้
๙. ไมอ่ อกจากโรงเรียนกอ่ นเวลาโรงเรยี นเลกิ โดยไม่ได้รบั อนญุ าต
๑o. ไมอ่ ยูใ่ นบริเวณโรงเรียน โดยไม่มีครูควบคุมเกินเวลาทโ่ี รงเรยี นกาหนด
๑๑. ต้องเขา้ โรงเรยี น เข้าห้องประชุม หรือเขา้ ร่วมกิจกรรมอย่างพรอ้ มเพรยี ง
๑๒. ตอ้ งมีความเคารพ สารวม และรักษาระเบยี บวินัยในขณะอยโู่ รงเรยี น
๑๓. ต้องทาความเคารพครูและผู้มาเยือน เมื่อพบปะในบริเวณโรงเรียนด้วยวิธีการท่ีเหมาะสมและ
สม่าเสมอ
๑๔. เม่ือมีความจาเป็นต้องหยุดเรียน นักเรียนหรือผู้ปกครองต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบเป็นลายลักษณ์
อกั ษร (ใบลาตามแบบฟอร์มให้ถูกต้อง)
๑๕. ไมน่ าสินคา้ ทกุ ประเภทขายในบรเิ วณโรงเรียน กอ่ นไดร้ ับอนุญาต
๑๖. ไม่นาหนังสือ เอกสาร และแผ่นประกาศ มาแจกหรือติดประกาศในบริเวณโรงเรียน ก่อนได้รับ
อนญุ าต
๑๗. ไมน่ าบุคคลภายนอกเขา้ มาในบริเวณโรงเรียน โดยมไิ ด้รับอนุญาตจากทางโรงเรยี น
๑๘. ต้องไม่นาอาหาร และเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานในห้องเรียนหรือบริเวณอื่นท่ีนอกจากห้องอาหาร
และเศษขยะ ขวดนาพลาสตกิ ต้องทิงในจุดทีแ่ ต่ละคณะสีกาหนดให้
๑๙. ไม่เข้าไปในบริเวณต่อไปนี คอื บ้านพักคนงานภารโรง หรอื พนื ที่หวงห้ามอ่ืน ๆ
๒o. มาโรงเรียน และกลับบ้านให้ตรงเวลา ไม่ไปในสถานท่ีอันไม่สมควร ในระหว่างเดินทางไปและกลับ
จากโรงเรียน
การปฏบิ ตั ิตนในพิธีการกอ่ นเขา้ ห้องเรียน
๑. สัญญาณครังที่ ๑นักเรียนมาเข้าแถวประจาที่ตามชนั ของตนเอง และจัดแถวให้เป็นระเบยี บภายใต้การ
ควบคุมของหวั หน้าชนั ครูที่ปรกึ ษา ครูฝ่ายปกครอง และหวั หน้าระดับชัน
๒. สัญญาณครังท่ี ๒ นักเรียนทุกคนต้องอยู่ในความสงบ ผู้ดาเนินการพิธีการบอกทาความเคารพธงชาติ
ขนึ สเู่ สา นักเรยี นทกุ คนร้องเพลงชาติ เพลงประจาโรงเรยี นพรอ้ มกนั และสวดมนต์ไหว้พระ
๓. เมื่อเสร็จพิธีการตามข้อ ๒ ผู้ดาเนินการพิธีการจะแจ้งข่าวหรอื ประกาศประจาวัน และหรือมีการอบรม
นักเรียนประมาณ ๕ – ๑๐ นาที โดยนักเรียนทุกคนต้องอยู่ในความสงบสารวม หลังจากนันผู้ดาเนินการพิธีการจะ
อนุญาตให้นกั เรียนเขา้ หอ้ งเรียนได้ ต้องอยู่ในความดแู ลของครูที่ปรกึ ษาและหัวหน้าระดบั ชันเทา่ นัน
๔. การเดนิ เข้าห้องเรยี น ต้องเดินแถวอยา่ งมีระเบียบ ไม่พดู คยุ เลน่ หรือแตกแถว
๕. นักเรียนที่มาสายจะเข้าไปในแถวโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้ ให้เข้าแถวในกลุ่มผู้มาสาย และปฏิบัติตาม
ขอ้ กาหนดทว่ี างไว้สาหรบั นกั เรยี นทีม่ าสาย คอื หลังเวลา ๐๗.๕๐ น. เปน็ ตน้ ไป
การปฏบิ ัติตนในการเขา้ หอประชมุ
๑. นักเรยี นทกุ คนจะต้องรับผดิ ชอบวา่ เป็นหนา้ ที่ของตน ทจ่ี ะเข้ารว่ มการประชุมทุกครังตามวนั เวลา
และสถานท่ีทโ่ี รงเรยี นกาหนดไว้ ผ้ทู ี่ไม่สามารถเข้ารว่ มประชุมได้จะต้องไดร้ บั อนุญาตจากครูทีป่ รึกษา หรือหวั หน้า
ระดบั ชัน
๒. ต้องเดินเข้าห้องประชุมอย่างมีระเบียบ น่ังประจาท่ีตามท่ีกาหนดไว้ และอยู่ในอาการสงบ สารวม
ตลอดเวลาการประชุม
๓. ต้องทาความเคารพ เมอ่ื ผใู้ ห้การประชุมเขา้ มาและจะออกจากห้องประชุม
๔. ตอ้ งไม่ออกและเข้าห้องประชมุ ขณะทม่ี กี ารประชุม กอ่ นได้รบั อนญุ าต
๕. หลังจากสินสุดการประชุมแล้ว นักเรียนจะออกจากห้องประชุมได้ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ดาเนินการ
จดั การประชมุ ก่อน และออกจากหอ้ งประชมุ เปน็ ห้อง ๆ อยา่ งมีระเบียบและอยู่ในการดูแลของครูท่ปี รกึ ษา
การปฏิบัตติ นในการเข้าห้องเรียน
๑. ตอ้ งเขา้ และออกจากห้องเรียน โดยพร้อมเพรียงกนั
๒. ตอ้ งแตง่ ตังเวรทาความสะอาดห้องเรียน และดูแลความเรียบร้อยของห้องเรียนก่อนท่ีจะมีการเรยี นการ
สอน และหลงั เลกิ เรียนเปน็ ประจาทุกวนั
๓. ตอ้ งแตง่ กายด้วยชุดแตง่ กายท่ีโรงเรยี นกาหนดในการเรียนแตล่ ะวชิ า ในลักษณะท่เี รยี บรอ้ ย
๔. ต้องทาความเคารพครผู ้สู อนและวิทยากร ก่อนและหลังเสรจ็ จากการสนิ สุดการเรยี นการสอน
๕. ตอ้ งรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย ในขณะทม่ี ีการเรยี นการสอน
๖. ต้องให้ความสนใจเฉพาะวิชาท่ีกาลังเรียนเท่านัน ไม่นาวิชาอื่นมาทาโดยเด็ดขาด หรือ เล่น
โทรศพั ท์มอื ถอื ในเวลาเรียน
๗. ต้องไต่ถามปญั หา เสนอแนะ และให้ขอ้ คิดในขณะทีม่ กี ารเรียนการสอน
๘. ต้องขออนญุ าตผู้สอนหรอื วทิ ยากร กอ่ นจะทาการใด ๆ ทเี่ ปน็ การขดั จงั หวะการเรียนการสอน เชน่ การ
ออกและเข้าห้องเรียนในขณะท่ีมีการเรียนการสอน หรือเม่ือต้องการท่ีจะแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะ
ตลอดจนความตอ้ งการที่จะลกุ เดินไปตดิ ต่อกบั เพอ่ื นร่วมห้อง
๙. เปลย่ี นหอ้ งเรียนดว้ ยความรวดเร็ว และเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย
๑o. ต้องปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบ และข้อบงั คับในการใช้ห้องต่าง ๆ ตามทีก่ าหนดไว้อยา่ งเคร่งครดั
การทาความเคารพ
นักเรยี นทคุ นต้องทาความเคารพครทู กุ ทา่ น โดยปฏบิ ตั ิดงั นี
๑. เม่ือครูเข้าห้องสอนทุกครัง ให้หัวหน้านักเรียนบอกทาความเคารพ โดยใช้คา "นักเรียนเตรียม
นักเรียนกราบ"ให้ทุกคนกล่าวพร้อมกันว่า "สวัสดีค่ะ" พร้อมกัน และเมื่อเวลาเลิกชันเรียนบอก ทาความเคารพ
"นกั เรียนเตรยี ม นักเรยี นกราบ"ให้ทกุ คนกลา่ วพร้อมกนั ว่า "ขอบคณุ ค่ะ"
๒. เมือ่ ครพู ูดกับนกั เรียนทีก่ าลังนั่งทางานอยู่ ใหน้ กั เรยี นยนื ขึนพดู กับครใู นท่ายืนตรง
๓. เมอ่ื ครูทา่ นอ่นื เข้ามาในห้อง ให้หวั หน้าห้องบอกทาความเคารพ และกล่าววา่ "สวัสดีค่ะ"
๔. การทาความเคารพในโอกาสตา่ ง ๆ พึงปฏิบัตดิ ังนี
๔.๑. เม่ืออยใู่ นบริเวณโรงเรียน พบผใู้ หญ่เดนิ ผ่านมาให้ทาความเคารพด้วยการยืนตรง
ถา้ นกั เรยี นแตง่ เครือ่ งแบบเนตรนารใี หท้ าวนั ทยหตั ถ์
๔.๒. เมอ่ื พบครนู อกบรเิ วณโรงเรยี น ให้ทาความเคารพดว้ ยการคานับ หรอื ไหว้ตามความเหมาะสม
การออกนอกหอ้ งเรยี น
การออกนอกหอ้ งเรยี นขณะทม่ี ีการเรียนการสอน
๑. ในระหวา่ งทม่ี ีชั่วโมงเรยี น นกั เรียนจะตอ้ งอยู่ในหอ้ งเรยี น จะไปอยู่ในห้องสมดุ โรงอาหารหรือทีอ่ ื่น ๆ
ไมไ่ ด้ เว้นแต่ไดร้ ับอนญุ าตจากครูผสู้ อนในชว่ั โมงนัน
๒. ตอ้ งไม่ออกนอกห้องเรียนในช่ัวโมงแรกทีเ่ ขา้ หอ้ งเรียน ทังในตอนเช้าและหลังพักกลางวัน
๓. ถา้ จาเปน็ ตอ้ งออกจากหอ้ งเรียน ใหข้ ออนุญาตตอ่ ครูท่ีกาลงั ทาการสอน
๔. ในกรณีทค่ี รไู มไ่ ดอ้ ยู่ในห้องเรยี นให้ทกุ คนอย่ใู นห้องดว้ ยความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย ไมส่ ง่
เสียงหรือกระทาการใด ๆ อันเป็นการรบกวนห้องเรียนใกล้เคียง และหัวหน้าชันแจ้งให้ครูที่ปรึกษา หรือหัวหน้า
และรองหัวหนา้ ระดบั ชนั โดยเร็ว
การออกนอกบริเวณโรงเรียน
๑. กรอกขอ้ ความขออนุญาตตามแบบฟอร์มการขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียน เสนอตอ่ ครูท่ปี รึกษา
หัวหน้าระดับ และรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานบุคคลและกิจการนักเรียน หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายพิจารณา
อนุญาตเปน็ คนสุดทา้ ย
๒. ครูท่ีปฏิบัติหน้าท่เี วรประตูโรงเรยี นของแตล่ ะคณะสีลงทะเบยี น และเกบ็ หลกั ฐานไว้ส่วนหนงึ่
๓. นักเรยี นเอาหนงั สอื อนุญาตอกี สว่ นหนึง่ ตดิ ตวั ไปดว้ ย
๔. เมื่อนักเรียนกลับมาถึงโรงเรียน ให้แสดงเอกสารการอนุญาตกับครูเวร หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายท่ีประตู
โรงเรียน
การปฏบิ ตั ติ นในการใชส้ นามและบริเวณโรงเรียน
๑. ลงเลน่ ในสนามตามวันและเวลาที่โรงเรียนกาหนด
๒. ไม่ลงเล่นในสนามในเวลาท่ีสนามเปยี ก
๓. ไม่เล่นในบริเวณที่โรงเรียนจัดไว้เป็นเขตหวงห้าม เช่น บริเวณศาลตา ศาลตายายและบริเวณสถูปคุณ
ยายจีบ เปน็ ต้น
๔. ไม่นอนเล่นบริเวณมา้ หินอ่อน และไมน่ ่ังโดยเอาเท้าเหยยี ดหรอื ยนื บนมา้ หินออ่ น
๕. หา้ มอยูห่ รอื เขา้ บรเิ วณโรงเรยี นก่อนไดร้ บั อนญุ าตในวนั หยุดราชการ และใหแ้ ตง่ กายชดุ
นักเรียนเม่ือเข้ามาติดต่อราชการ กรณีเป็นผู้ปกครองนักเรียนให้แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยเม่ือเข้าในสถานท่ี
ราชการ
๖. ให้รกั ษาทรัพย์สินและสง่ิ ของมคี ่าของตนเอง โดยโรงเรยี นไม่อนุญาตใหน้ าทรัพยส์ ิน
และเครอื่ งประดับมอื ถือราคาแพงมาโรงเรียน หากมกี ารสญู หายทางโรงเรยี นจะไมร่ บั ผิดชอบใด ๆ ทงั สนิ
การปฏบิ ตั ิตนในการไปทศั นศึกษาและทากจิ กรรมนอกสถานท่ี
๑. นกั เรยี นต้องนาใบอนญุ าตผูป้ กครองไปให้ผู้ปกครอง และนาใบอนญุ าตของผปู้ กครองในการนานักเรียน
ไปศึกษานอกสถานท่มี าใหโ้ รงเรียนกอ่ นวนั ไป
๒. นักเรียนต้องแต่งเคร่ืองแบบนักเรียน หรือแต่งกายตามข้อตกลงของครูผู้ควบคุมนักเรียนในบางโอกาส
และตอ้ งเรยี บร้อยอยตู่ ลอดเวลา
๓. ประพฤติปฏิบัติตนตามระเบียบว่าด้วยการเป็นนักเรียน และเชื่อฟังอยู่ในโอวาทของครูผู้ควบคุมอย่าง
เครง่ ครัด
๔. รวมแถวก่อนออกและเมื่อกลบั ถึงโรงเรียน เพื่อรายงานตัวต่อครผู ้คู วบคุมก่อนออกเดินทางไปและกอ่ น
กลับบา้ น การกลบั บา้ นตอ้ งได้รบั อนุญาตจากครูผูค้ วบคุมก่อน
๕. ขึนและลงรถดว้ ยความเรียบร้อย และตังอยู่ในความสงบเมื่อเดินทาง ไมท่ าการใด ๆ อันเปน็ เหตุให้เกิด
อันตรายหรือหวาดเสียว
๖. เข้าชมสถานท่ี และกิจกรรมในสถานท่ีต่าง ๆ ด้วยอาการสารวม ในกรณีที่ต้องพบเจ้าของสถานท่ีหรือ
เจ้าของสถานที่นาชม จะตอ้ งตงั แถวรอรบั การพบนาชมและตังแถวเพื่อกล่าวคาขอบคณุ
๗. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่นาชม จะต้องตังใจฟังคาอธิบายและปฏิบัติตามคาแนะนาของเจ้าหน้าท่ีอย่าง
เครง่ ครดั
๘. ไมก่ ลา่ ววาจาไมส่ ภุ าพและไมแ่ สดงอาการอื่นใดท่เี ป็นส่งิ ไม่เหมาะสมแก่การเป็นนักเรยี น หรือกระทาใน
สิง่ ท่เี ปน็ การเสยี ช่ือเสยี งแก่โรงเรียน
๙. ปฏบิ ตั ิตนตามกฎข้อบังคับ และระเบยี บในการใชส้ ถานทตี่ า่ ง ๆ ตามทกี่ าหนดไว้อยา่ งเคร่งครดั
งานระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี นกล่มุ บรหิ ารงานบคุ คล
ตามโครงการโรงเรียนอบอุน่ ปลอดภัย
ระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียน เปน็ กระบวนการดาเนินงานดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี นอย่างมีขันตอน พร้อมด้วย
วิธีการและเครื่องมือการทางานทช่ี ัดเจน โดยมคี รทู ี่ปรึกษาเปน็ บุคลากรหลักในการดาเนินการดงั กล่าว และมีการ
ประสานความร่วมมืออย่างใกลช้ ิดกับครูท่ีเกยี่ วข้อง หรือบุคลากรภายนอก รวมทงั การสนบั สนุน สง่ เสรมิ จาก
โรงเรียนงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน หมายถึง การสง่ เสริม การป้องกนั และการแก้ไขปัญหา โดยมวี ิธีการและ
เคร่อื งมอื สาหรับครูท่ีปรึกษาและบุคลากรท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการดาเนนิ งานพัฒนานักเรยี นให้มีคุณลักษณะท่ีพึง
ประสงค์และปลอดจากสารเสพตดิ มีกระบวนการดาเนนิ งานโดยครูท่ปี รกึ ษาเปน็ บุคลากรหลักในการปฏิบัตงิ าน มี
องค์ประกอบสาคัญ ๕ ประการ คือ
๑. การรู้จักนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล ซ่งึ ครอบคลมุ ด้านความสามารถ (ด้านการเรียน ความสามารถด้านอนื่ ๆ)
ดา้ นสุขภาพ (รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ)์ ด้านครอบครัว (เศรษฐกจิ การคุม้ ครองนักเรยี น) ด้านอื่น ๆ (สารเสพตดิ
ความสมั พนั ธ์ทางเพศ)
๒. การคัดกรองนกั เรียน โดยจัดกลุม่ นักเรียนออกเป็น ๓กลุ่ม คอื กลมุ่ ปกติ กลมุ่ เสีย่ ง และกลุ่มมปี ัญหา
๓. การส่งเสรมิ พัฒนานักเรียนทกุ คนที่อยู่ในการดูแล โดยการจัดกจิ กรรมโฮมรูม(Homeroom) กจิ กรรม
ประชมุ ผูป้ กครองในชันเรียน (Classroom Meeting)
๔. การป้องกันและแก้ไขปัญหาของนักเรียนกลุ่มเส่ียงและกลุ่มมีปัญหา ด้วยวิธีการให้คาปรึกษาแนะนา
ช่วยเหลือ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน โดยใช้กิจกรรมในชันเรียน กิจกรรมเสริม
หลกั สูตร กจิ กรรมซ่อมเสริม กิจกรรมสื่อสารกบั ผปู้ กครอง เป็นต้น
๕. การส่งต่อนักเรียน ในกรณีท่ีปัญหาบางอย่างครูที่ปรึกษาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็บันทึกการส่งต่อครู
แนะแนว กลุ่มบริหารกิจกรรมนักเรียน หรือส่งต่อผู้เช่ียวชาญภายนอก โดยครูที่ปรึกษาจะมีการเย่ียมบ้านนักเรียน
ให้เปน็ ไปตามเกณฑ์ที่โรงเรยี นกาหนด
ช่ือคณะสี
แนวคดิ ชือ่ คณะสตี ่าง ๆ ของโรงเรยี นสตรีวัดอัปสรสวรรค์
จากชื่อของโรงเรียน “อัปสรสวรรค์” หมายถึงนางฟ้าหรือนางอัปสรซ่ึงสถิตอยู่บนสวรรค์ นางอัปสรเกิด
จากเทพและอสรู ชว่ ยกันกวนนาอมฤตซึง่ เชื่อกันวา่ ด่ืมแลว้ จะไม่ตาย ขณะทาพธิ กี วนนาอมฤตนันก็เกิดส่ิงต่าง ๆ ผุด
ขึนมาหลายอย่าง หน่ึงในนันคือนางอัปสรซึ่งมีรูปร่างหน้าตางดงามจานวนมากมาย ล่องลอยสถิตอยู่บนสวรรค์แต่
เนื่องจากช่ือของนางอัปสรทังหลายนันเป็นภาษาบาลีสันสฤตยากต่อการออกเสียงและคนท่ัวไปไม่คุ้นเคย ได้
พยายามหาช่ือท่ีออกเสียงง่ายและจดจาได้ง่ายก็ไม่มี จึงไม่นาชื่อนางอัปสรมาตังช่ือคณะสี แต่จะใช้ชื่อของเทวีซ่ึง
เป็นนางฟ้านางสวรรค์ผู้เป็นใหญ่สูงสุดบนสวรรค์คือพระแม่อุมาเทวีซ่ึงมีชื่อต่าง ๆ มากมายหลายชื่อมาตังเป็นชื่อ
คณะสี เพราะแมจ้ ะเปน็ ภาษาบาลสี นั สฤตแต่ก็มีช่ือทคี่ ดิ วา่ ออกเสียงงา่ ยและจดจาได้งา่ ยอยหู่ ลายชอ่ื
พระแม่อุมาเทวีเป็นพระชายาของศิวะหรือพระอิศวรเทพราชผู้เป็นใหญ่สูงสุดบนสวรรค์มีอานาจบารมี
เหนอื กว่าเทวีทังปวง มักจะแบง่ ภาคไปช่วยเหลอื หรือแก้ไขเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทาใหม้ ีพระนามมากถึง ๑๘๐ พระนาม
และมีสมญานามต่าง ๆ ตามภาคที่เป็น เช่น เทวีแห่งความเมตตา เทวีแห่งความสุข เทวีแห่งศิลปะ เทวีแห่ง
การศึกษา เทวแี ห่งการขบั รอ้ งฟ้องรา เทวแี ห่งการดนตรี เทวแี ห่งความอดุ มสมบูรณ์ เทวีแหง่ ความดรุ ้าย เป็นตน้
ช่อื คณะสีมดี งั นี้
วันจนั ทร์ ( คณะสเี หลอื ง ) คณะจนั ทรกิ า
วนั องั คาร ( คณะสีมว่ ง ) คณะนันทณิ ี
วันพธุ ( คณะสเี ขยี ว ) คณะลกั ษมี
วันพฤหสั บดี ( คณะสีแดง ) คณะสุรัสวดี
วันศกุ ร์ ( คณะสีฟ้า ) คณะอนิ ทราณี
ขอบขา่ ยหน้าทีแ่ ละความรบั ผิดชอบของคณะสี
แนวปฏบิ ัติหนา้ ทีเ่ วรคณะสี
๑. ออกคาสั่งครูปฏบิ ตั ิหนา้ ที่เวรประจาวัน พร้อมทังสรุปรายงานส่งต่อรองผอู้ านวยการ/ผอู้ านวยการโรงเรยี น
๒. ตดิ ตามประสานงานกบั งานกิจกรรมนักเรียน เพ่ือใหเ้ กดิ ความเรียบร้อยในโรงเรียน
๓. ประสานงานกับหัวหนา้ ระดับชัน ครูทีป่ รกึ ษา กากับ/ดูแลวนิ ัยของนกั เรยี นทกุ ระดับ
๔. ครทู ีป่ ฏบิ ตั ิหน้าท่ีเวรรกั ษาการณใ์ นแตล่ ะวัน ตามจุดทีไ่ ด้รับมอบหมาย ดงั นี
• ตลาดเจรญิ ศรีและบรเิ วณโดยรอบ เวลา ๖.๕๐ – ๘.๐๐ น.
• หน้าประตโู รงเรียน เวลา ๖.๓๐ – ๘.๐๐ น.และ ๑๔.๒๐ – ๑๗.๐๐ น.
• โรงอาหาร เวลา ๗.๐๐ – ๘.๐๐ น. ๑๑.๐๐ – ๑๑.๕๐ น. ๑๑.๕๐ – ๑๒.๔๐ น.
และ ๑๒.๔๐ – ๑๓.๓๐ น.
• อาคารเรียน เวลา ๗.๓๐ - ๑๖.๓๐น.
• กากับนักเรียนตอนเย็นเวลา ๑๗.๐๐ น. โดยมีหน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อยในการแต่งกาย
ของนกั เรยี น กริ ยิ ามารยาท หากพบผู้ที่
กระทาผิดหรอื ไม่เหมาะสมใหแ้ นะนา และตกั เตือนทกุ ครัง
๕. ติดตาม สรุปผล ประเมนิ ผล และรายงานการดาเนินงานเวรรกั ษาการณ์ในแต่ละจุดลงในสมดุ บันทึก
การปฏิบัติหนา้ ท่ีเวรรกั ษาการณ์
๖. ปฏิบัตงิ านอน่ื ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
แนวปฏิบตั กิ ิจกรรมคณะสี
กิจกรรมสง่ เสรมิ ประชาธิปไตย
๑. ออกคาสง่ั แต่งตงั ครูปฏิบตั หิ น้าทีก่ ากบั ดูแลและสง่ เสรมิ นักเรียน พรอ้ มทงั สรุปรายงานสง่ ต่อ
รองผอู้ านวยการ/ผอู้ านวยการโรงเรียน
๒. สนบั สนุน ส่งเสรมิ ให้มบี รรยากาศของประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น
๓. จดั ให้มีการเลอื กตงั ประธานนกั เรยี น และคณะกรรมการสี
๔. ประสานงานกับครูในโรงเรียน / งานต่าง ๆ เพือ่ จดั กิจกรรมของคณะกรรมการสีใหส้ อดคล้อง
กบั นโยบายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั พืนฐาน
๕. ปฏิบัติงานอน่ื ๆ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
กจิ กรรมกฬี าสี
๑. ออกคาส่ังครูปฏิบัติหน้าท่ีกากับ ดูแลและส่งเสริมนักเรียนพร้อมทังสรุปรายงานสง่ ต่อรองผู้อานวยการ
และผอู้ านวยการโรงเรยี น
๒. ประสานงานกับครูในโรงเรียน / งานต่าง ๆ เพ่ือจัดกิจกรรมของคณะกรรมการสีให้สอดคล้องกับ
กจิ กรรมกฬี าสี
๓. ส่งเสริม ให้คาปรกึ ษา แนะนา เกี่ยวกับการทากจิ กรรมคณะกรรมการสใี หอ้ ยู่ในขอบข่าย
ที่เหมาสมและไมข่ ัดต่อระเบยี บวนิ ัยของโรงเรยี น
๔. ปฏิบัติงานอ่นื ๆ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
กจิ กรรมวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา
๑. ส่งเสริมและกากบั ดแู ล เกยี่ วกับการทากิจกรรมคณะกรรมการสีในการดาเนินกิจกรรม
วนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา
๒. ปฏิบัตงิ านอนื่ ๆ ทีไ่ ด้รับมอบหมาย