1. แนวคิด / ความเปน็ มา
วรรณคดีซ่ึงเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นๆ ในเน้ือเร่ืองกวีมัก
สอดแทรกแนวคิด คติสอนใจและปรัชญาชีวิตไว้ทาให้ผู้อ่านเกิดความรู้ความประทับใจมีความรู้สึกร่วมไปกับ
กวี ดังน้ันวรรณคดีจึงมีคุณค่าท้ังในด้านประวัติศาสตร์ สังคม อารมณ์และคติสอนใจ รวมทั้งมีคุณค่าในด้าน
วรรณศลิ ป์ดว้ ย วรรณคดเี ปน็ เครือ่ งเชิดชูอารยธรรมของชาติและยังมีคุณค่าเป็นหลักฐานทางโบราณคดี ทาให้
คนในชาติสามารถรับรู้เร่ืองราวในอดีต การอ่านวรรณคดีจึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้อ่านเข้าใจความจริงของโลก
มากย่ิงข้ึน วรรณคดีเป็นดังกระจกเงาสะท้อนภาพสังคมและวัฒนธรรม แต่ทุก ๆ ปีจากการจัดการเรียนการ
สอนวรรณคดีในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่านักเรียนเกิดความเบ่ือหน่าย ไม่สนใจ เรียนวรรณคดีไทย
เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องท่ี น่าเบื่อ ล้าสมัย เข้าใจยาก อ่านยาก ไม่รู้ว่าอ่านแล้ว หรือ เรียนแล้วจะนาไปใช้
ประโยชนอ์ ะไร ประกอบกับวธิ ีการจัดการเรยี นการสอนของครูแบบดัง้ เดิมที่เนน้ ให้นกั เรยี นได้อ่าน การท่องคา
ประพนั ธ์แลว้ ทาแบบทดสอบ ตลอดจนไม่มีสื่อประกอบการสอนเพ่ือสร้างความเข้าใจและกระตุ้นความสนใจ
จงึ ส่งผลให้การเรยี นในคร้งั นน้ั ๆ มคี วามนา่ เบื่อและไม่ประสบผลสาเร็จตามเป้าหมายท่ีตอ้ งการ
สภาพการณท์ างการเรียนรู้ในปจั จบุ ันไดม้ กี ารปรบั เปล่ียนเพอ่ื ก้าวทนั กบั สังคมที่เปลยี่ นแปลงไป สังคม
แห่งการเรยี นรู้ภายใต้กระแสแหง่ โลกในยคุ ดิจิตลั นั้นสง่ ผลตอ่ การแสวงหารปู แบบและการปรบั กระบวนทัศน์ใน
การ ท่ีมีความหลากหลายให้สอดรับและก้าวทันความเปลี่ยนแปลงกับโลกยุคใหม่ซ่ึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
วธิ กี ารปรับเปลีย่ นแนวคิด เพือ่ สร้างนวัตกรรมทางการศึกษาภายใต้กรอบแนวคิดท่ีเรียกว่า 21 st Century ซ่ึง
เป็นแนวคิดในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีคุณลักษณะพร้อมสาหรั บการดารงชีวิตและรับมือการความ
เปลีย่ นแปลงท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคตเน่ืองด้วยโลกท่ีไร้พรมแดนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการ สื่อสาร และ
นโยบายความร่วมมือของพลเมืองโลก ซึ่งเป็นสิ่งจาเป็นท่ีต้องมีการคิดค้นหา แนวทางสู่ กระบวนการทักษะ
ใหม่ในศตวรรษท่ี 21 นี้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5E เป็นการ
เรียนการสอนให้ความสาคัญกบั ผ้เู รยี นหรอื ผู้เรียนเปน็ ศนู ยก์ ลาง มีการจัดการเรียนรู้ท่ีฝึกให้ผู้เรียนรู้จักค้นคว้า
หาความรูโ้ ดยใช้กระบวนการทางความคิดหาเหตุผล ทาให้ค้นพบความรู้หรือแนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องด้วย
ตนเอง โดยผู้สอนตั้งคาถามประเภทกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ความคิด หาวิธีการแก้ปัญหาได้เอง สามารถนาการ
แก้ปัญหามาใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั ได้ซง่ึ ได้เสนอขน้ั ตอนในการจดั การเรยี นการสอนเปน็ 5 ขนั้ ตอน คอื 5
ขนั้ ตอน คอื ข้นั กระตุ้นความสนใจ (Engage) ขนั้ สารวจคน้ หา (Explore) ข้นั อธบิ ายความรู้ (Explain) ข้ันขยาย
ความเข้าใจ (Expand) และข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate) ซ่งึ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบ 5E ขึ้น จะช่วยให้
ผเู้ รยี นสามารถพัฒนา ความคิดได้อยา่ งเตม็ ท่ี รจู้ ักใช้เหตุผลมาวิเคราะห์บทเรียน ผู้เรียนสามารถคิดเร่ืองอย่าง
เป็นระบบมีขัน้ ตอนในการคดิ อนั จะสง่ ผลตอ่ ผ้เู รยี นในการพฒั นาตัวเอง นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ได้ฝึกซ้า
และทบทวน มีส่อื ดึงดูดความสนใจ ไม่นา่ เบ่อื ใหข้ อ้ มูลปอ้ นกลบั เพื่อการแก้ไข ปรังปรุงใช้กระบวนการกลุ่มใน
การเรียนรู้ และแลกเปลีย่ นเรยี นรซู้ ่งึ กนั และกนั มีเกมหรอื กจิ กรรมการแข่งขัน ท่ีเกิดความท้าทายให้ผู้เรียนได้
คิดได้ตดั สนิ ใจ และใช้การเสรมิ แรงในทางบวก
ดังนน้ั ขา้ พเจ้าจึงได้จดั กจิ กรรมพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวรรณคดีไทยในบทเรยี นของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 ดว้ ยการสอนแบบสบื เสาะหาความร้(ู Inquiry Method : 5E)
2. วัตถุประสงค์ เป้าหมายและ ขอบเขต
วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนด
มากกวา่ ร้อยละ 80
2. เพอ่ื เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
2 หลงั เรยี นด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method: 5E) เพิ่มขึ้นมากกวา่ รอ้ ยละ 10
เปา้ หมาย
1. เชิงปรมิ าณ : นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ทกุ คนไดร้ ับการพัฒนาทางการเรียนดา้ นวรรณคดี
ด้วยกจิ กรรมการเรียนดว้ ยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method: 5E)
2. เชิงคณุ ภาพ : นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยในบทเรียน
ผ่านเกณฑท์ ี่กาหนดมากกว่ารอ้ ยละ 80
3. เชงิ คณุ ภาพ : นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ทุกคนมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวรรณคดีไทยของ
นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 หลังเรียนเมอ่ื เปรียบเทียบกบั ก่อนเรียนเพม่ิ ข้นึ มากกวา่ ร้อยละ 10
ขอบเขต
1.ประชากร ไดแ้ ก่ นักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 จานวน 4 ห้องเรยี น รวม 162 คน
2.ระยะเวลาทใ่ี ช้ในการวิจยั คอื ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563
3.เนอ้ื หา คือ วรรณคดีในบทเรยี น เรื่องกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในปา่ ช้า
ตัวแปรท่ศี กึ ษา
1. ตวั แปรตน้ คอื กิจกรรมการเรียนรู้ดว้ ยการสอนแบบสบื เสาะหาความรู(้ Inquiry Method : 5E)
2. ตวั แปรตามคอื ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดไี ทยในบทเรียนของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ
1.นักเรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นเรือ่ งวรรณคดีไทยสูงข้ึน
2.ได้แนวทาง กิจกรรมเพอื่ พัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนวรรณคดีไทย
3. กระบวนการและข้นั ตอนการดาเนินงาน
3.1 กระบวนการ ข้าพเจา้ ใชก้ ระบวนการดาเนนิ การโดยวงจรคุณภาพของ Deming PDCA
(A : ขั้นพฒั นา แก้ไข / ปรับปรงุ ) (P : ขัน้ วางแผน)
1) ดาเนนิ การทดสอบหลังเรียนและทาการตรวจบนั ทึกผลคะแนน การวางแผนงานกอ่ นการปฎบิ ตั ิงาน
4 ข้นั ตอน ดงั นี้
การทดสอบ 1) ขนั้ การศกึ ษา
2) เปรยี บเทียบผลคะแนนการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียนเพ่ือ
2) ข้ันเตรยี มงาน
เปรยี บผลการพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน 3) ข้นั ดาเนินงาน
4) ขน้ั การประเมินผล
(C : ขน้ั ตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผล) (D : ข้ันการปฏบิ ัตติ ามแผนงาน)
1) โดยแก้ไขข้อบกพรอ่ งทเ่ี กดิ ขึน้
ไมว่ ่าจะเป็นขั้นตอนใดกต็ าม เม่อื มกี ารปรับ ขน้ั การปฏบิ ัติตามแผนงาน (Do)
1) ดาเนนิ การทดสอบกอ่ นเรยี น
ปรุงแกไ้ ขคณุ ภาพการจัดการเรียนรดู้ ีขึ้น 2) ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบสืบเสาะหา
ความรู้ (: 5E) 5 ขั้นตอน คือขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engage) ขั้น
สารวจค้นหา (Explore) ข้ันอธบิ ายความรู้ (Explain) ข้นั ขยายความ
เข้าใจ (Expand) และข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate)
รปู ภาพท่ี 1 แสดงกระบวนการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดไี ทยในบทเรียนของนักเรียนชน้ั
มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ดว้ ยกจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E)
3.2 ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน
การวจิ ยั ครัง้ นีเ้ ป็นวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) แบบ One group Pretest Posttest
design (วาโร เพ็งสวัสด์,ิ 2557) ขา้ พเจ้าดาเนินการตามลาดับข้นั ดังนี้
3.2.1 ขน้ั การวางแผน (Plan) การวางแผนงานก่อนการปฎบิ ัติงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้
1) ขั้นการศกึ ษา โดย การวางแผนศกึ ษาขอ้ มูล วธิ ีการ ความต้องการ ความสนใจ
ของนกั เรียนที่มตี ่อการเรียนวรรณคดีจนไดว้ ิธกี ารสอนที่เหมาะสมนามาจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้
2) ขัน้ เตรยี มงานโดยการวางแผนการเตรยี มงานดา้ นเน้ือหาทีจ่ ะใช้จัดกจิ กรรม ส่ือ
การเรียนรู้ ใบงาน และแบบทดสอบ
3) ขนั้ ดาเนินงานโดยการวางแนวทางการปฏิบัติงานของแต่ละขน้ั ตอน
4) ขัน้ การประเมนิ ผลโดยการวางแผนหรือเตรียมการประเมินผลการจดั การเรยี นรู้
ประเมินผลงานนักเรยี น เพ่ือให้ผลท่ไี ดจ้ ากการประเมนิ เกิดการเท่ยี งตรง
3.2.2 ขั้นการปฏบิ ตั ิตามแผนงาน (Do) ดงั ตอ่ ไปนี้
1. ดาเนนิ การทดสอบกอ่ นเรียนของนกั เรียนกลุม่ เป้าหมาย โดยใช้แบบทดสอบก่อน
เรียนรายวิชาภาษาไทย ท22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เร่ืองกลอนดอกสร้อย จานวน 30 ข้อ และทาการ
ตรวจบนั ทกึ ผลคะแนนการทดสอบ
2. ดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยการสอนแบบสบื เสาะหาความร(ู้ Inquiry
Method : 5E) โดยการดาเนินการตามข้นั ตอน 5 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่
2.1 ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) ดงั ต่อไปน้ี
2.1.1 ครูใชค้ าถามปลายเปิดกบั นักเรียน เช่น ความตายคอื อะไร ตาย
แลว้ ไปไหน นกั เรยี นกลวั ความตายหรือไม่ ชวี ิตหลังความตายมีจริงหรอื ไม่ เพือ่ กระตนุ้ ความสนใจให้กับผู้เรยี น
2.1.2 นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคดิ เห็นในประเด็นต่อไปนี้
1) เร่อื ง กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่าช้า สรปุ ความไดอ้ ยา่ งไร
2) ธรรมเนียมทป่ี รากฏในเร่อื ง กลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่าชา้ มีอะไรบา้ ง
โดยครคู อยกระตุน้ ให้นกั เรยี นทุกคนมีส่วนรว่ มในการตอบคาถาม
2.2. ข้ันสารวจคน้ หา (Explore) นักเรียนแตล่ ะกล่มุ จบั ค่กู ันเปน็ 2 คู่ ให้แต่
ละคู่รว่ มกนั ศกึ ษาความรูแ้ ละวเิ คราะห์วิจารณ์เร่อื ง คุณคา่ และข้อคิดจากเร่ือง กลอนดอกสร้อยราพึงในป่าชา้
จากหนังสือเรยี น แล้วร่วมกนั สรปุ สาระสาคัญลงในสมุดของแตล่ ะคน
2.3. ข้ันอธิบายความรู้ (Explain) นักเรียนแต่ละคู่รวมกลุ่มเดิม (4 คน)
ผลดั กนั นาความรทู้ ีไ่ ด้จากการศึกษามาอธิบายให้เพ่ือนอีกคู่หน่ึงฟัง ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและอธิบายจนทุก
คนมีความเขา้ ใจชดั เจนตรงกัน แลว้ สรุปเป็นองค์ความรขู้ องกลุ่ม
2.4. ขน้ั ขยายความเข้าใจ (Expand) นักเรียนแต่ละกลุม่ ชว่ ยกันทาใบงานที่
7 เรอ่ื ง คณุ ค่าและขอ้ คิดเรือ่ ง กลอนดอกสรอ้ ยราพึงในปา่ ช้าเสรจ็ แลว้ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ก่อนนาส่งครู
ตรวจ
2.5. ขน้ั ตรวจสอบผล (Evaluate)
1.ครูประเมินและตรวจสอบผลการทาใบงาน ผลงานของนักเรยี นแต่ละกลมุ่
2.นักเรยี นร่วมกันสรุปความรคู้ ณุ คา่ และข้อคดิ เร่อื ง กลอนดอกสรอ้ ยราพึงในปา่ ช้า
3.2.3 ข้ันการตรวจสอบ (Check) ดาเนนิ การ ดงั นี้
1) โดยหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมการเรียนรู้ ดาเนินการทดสอบหลังเรียนของ
นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้แบบทดสอบหลังเรียนรายวิชาภาษาไทย ท22101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง
กลอนดอกสรอ้ ย จานวน 30 ข้อ และทาการตรวจบันทกึ ผลคะแนนการทดสอบ
2) เปรยี บเทียบผลคะแนนการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียนของนักเรยี น
กลุม่ เปา้ หมายเพอ่ื เปรยี บผลการพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหน่วยการเรยี นรู้เร่ืองวรรณคดีไทย
3.2.4 ข้ันการปรับปรงุ แก้ไข (Act) ดาเนินการ ดงั นี้ โดยแก้ไขข้อบกพร่องทเี่ กิดขึ้น ไมว่ ่าจะเป็น
ข้นั ตอนใดกต็ าม เม่อื มกี ารปรบั ปรงุ แก้ไขคุณภาพการจัดการเรยี นรดู้ ีขึน้
4. ผลการดาเนนิ งาน
4.1 ผลทีเ่ กดิ ตามวัตถุประสงค์
4.1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ให้ผ่านเกณฑ์ท่ี
กาหนดมากกว่ารอ้ ยละ 80 ซ่งึ เป็นไปตามวัตถปุ ระสงคท์ ี่ตงั้ ได้ สามารถแสดงข้อมลู ได้ดังตารางที่ 1
คะแนนทดสอบก่อนเรียน คะแนนทดสอบหลงั เรยี น
ระดับ จานวน คะแน จานวน คดิ เป็น จานวน คดิ เป็น จานวน คิดเป็น จานวน คิดเปน็
ชน้ั นกั เรยี นเตม็ ผา่ น / ร้อยละ ไมผ่ ่าน / ร้อยละ ผ่าน / รอ้ ยละ ไม่ผ่าน รอ้ ยละ
คน คน
น คน /
คน
ม.2/1 41 11 26.83 30 73.17 33 80.48 8 19.51
ม.2/2 40 30 12 30.00 28 70.00 36 90.00 4 10.00
ม.2/3 41 15 36.59 26 63.41 36 87.80 5 12.20
ม.2/4 40 17 42.50 23 57.50 35 87.50 5 12.50
รวม 162 30 55 33.98 107 66.02 140 86.42 22 13.58
ตารางท่ี 1 แสดงผลการพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นเรื่องวรรณคดีไทยของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
ดว้ ยกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ทงั้ ภาพรวมและรายหอ้ ง
4.1.2 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นก่อนเรยี นและหลงั เรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
หลงั เรยี นดว้ ยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method: 5E) เพ่มิ ขน้ึ มากกว่า รอ้ ยละ 10 เป็นไปตาม
วตั ถปุ ระสงค์ท่ตี ั้งไว้ สามารถแสดงขอ้ มูลไดด้ ัง ตารางท่ี 2
ลาดบั ท่ี ช่ือ - สกลุ คะแนนกอ่ นเรียน Z - T - คะแนนหลงั เรียน Z - T-
30 Score Score 30 Score Score
1 ด.ช.ณฐั ภมู ิ ชาญชัยพิทกั ษ์สนิ 6 -1.082 39.180 16 0.440 54.404
2 ด.ช.มนตรี แซย่าง 3 -1.539 34.613 18 0.745 57.448
3 ด.ช.ชนิ วัฒน์ วัฒนศรพนั ธ์ 4 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
4 ด.ช.ณรงค์ฤทธิ์ แซ่ฟา่ 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
5 ด.ช.พีรพัฒน์ ปญั ญาจีน 2 -1.691 33.091 4 -1.386 36.135
6 ด.ช.คุณากร แซ่ลี 15 0.288 52.881 18 0.745 57.448
7 ด.ช.จักรภพ ศรีสมบัติ 8 -0.778 42.225 18 0.745 57.448
8 ด.ช.จารเุ ดช ไชยวฒุ ิ 9 -0.625 43.747 17 0.593 55.926
9 ด.ช.วรราช จันทรเ์ ป็ง 4 -1.386 36.135 4 -1.386 36.135
10 ด.ช.ไชยวฒั น์ แซม่ ัว 15 0.288 52.881 15 0.288 52.881
11 ด.ช.ธวัชชัย ชัยธนเมธา 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
12 ด.ช.ธรี ะ บษุ ยไพสฐิ 7 -0.930 40.702 15 0.288 52.881
13 ด.ช.เพชรใส ศักด์ิสิทธานภุ าพ 15 0.288 52.881 15 0.288 52.881
14 ด.ช.วันชนะ เทยี นเงิน 5 -1.234 37.658 7 -0.930 40.702
15 ด.ช.วิชัยบูรณ์ แซล่ ี 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
16 ด.ช.สารศิ วนาเจรญิ ธรรม 7 -0.930 40.702 15 0.288 52.881
17 ด.ช.สทุ ธินันท์ เหลอื งตรงกิจ 9 -0.625 43.747 15 0.288 52.881
18 ด.ช.เม้ง แซ่ว่าง 2 -1.691 33.091 8 -0.778 42.225
19 ด.ช.ภูริภาคย์ หวังสอ๊ิด 17 0.593 55.926 18 0.745 57.448
20 ด.ช.ศักด์ิดา แซ่จาง 2 -1.691 33.091 9 -0.625 43.747
21 ด.ช.อาทติ ย์ แซกง 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
22 ด.ญ.กัญญารัตน์ ท่อเจริญไชยกุล 18 0.745 57.448 24 1.658 66.583
23 ด.ญ.นัทธิรา แซว่ ่าง 2 -1.691 33.091 14 0.136 51.359
24 ด.ญ.วริศรา แซ่หาญ 20 1.049 60.493 28 2.267 72.672
25 ด.ญ.อารยา อรรถพลภูษิต 17 0.593 55.926 25 1.810 68.105
26 ด.ญ.สาลกิ า แซเ่ จียง 5 -1.234 37.658 18 0.745 57.448
27 ด.ญ.วันระ แซฟ่ า้ 16 0.440 54.404 22 1.354 63.538
28 ด.ญ.นัฐธชิ า ตยุ้ สาร 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
29 ด.ญ.กัลญา ธรรมวงศ์ 5 -1.234 37.658 18 0.745 57.448
30 ด.ญ.จกั ษณา แซย่ ่าง 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
31 ด.ญ.จนั ทรจ์ ิรา วงศบ์ ุญชัยเลิศ 11 -0.321 46.792 19 0.897 58.971
32 ด.ญ.จิราภรณ์ แซจ่ าง 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
ลาดบั ที่ ชื่อ - สกุล คะแนนกอ่ นเรียน Z - T - คะแนนหลงั เรียน Z - T-
33 ด.ญ.ญาณิศา วฒุ ิ 30 Score Score 30 Score Score
34 ด.ญ.ฐติ กิ านต์ นารมย์
35 ด.ญ.บษุ บา แซ่คู 19 0.897 58.971 26 1.963 69.627
36 ด.ญ.ปณิดา แซ่เลา้
37 ด.ญ.พทิ ยาภรณ์ แซ่ลี 5 -1.234 37.658 20 1.049 60.493
38 ด.ญ.ศภุ สิ รา แซผ่ ่าน
39 ด.ญ.สุนิสา ไชยมงคล 16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
40 ด.ญ.เกษรา จนั ทรด์ ี
41 ด.ญ.ยุพารัตน์ ดอกคา 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
42 ด.ช.เฉลิมชัย แซ่ยา่ ง
43 ด.ช.พงศ์ภทั ร พวงมาลา 4 -1.386 36.135 16 0.440 54.404
44 ด.ช.กิตติพงษ์ แซย่ ้า
45 ด.ช.เกยี รติศกั ดิ์ แซ่คู 16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
46 ด.ช.จีรวฒั น์ แซล่ ี
47 ด.ช.ฉลองราชย์ นามพฒุ 2 -1.691 33.091 15 0.288 52.881
33 ด.ญ.ญาณิศา วฒุ ิ
34 ด.ญ.ฐติ กิ านต์ นารมย์ 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
35 ด.ญ.บษุ บา แซค่ ู
36 ด.ญ.ปณิดา แซ่เลา้ 5 -1.234 37.658 18 0.745 57.448
37 ด.ญ.พิทยาภรณ์ แซ่ลี
38 ด.ญ.ศุภสิ รา แซ่ผา่ น 7 -0.930 40.702 14 0.136 51.359
39 ด.ญ.สุนิสา ไชยมงคล
40 ด.ญ.เกษรา จันทรด์ ี 6 -1.082 39.180 9 -0.625 43.747
41 ด.ญ.ยุพารตั น์ ดอกคา
42 ด.ช.เฉลมิ ชัย แซย่ ่าง 3 -1.539 34.613 24 1.658 66.583
43 ด.ช.พงศ์ภทั ร พวงมาลา
44 ด.ช.กติ ติพงษ์ แซ่ยา้ 4 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
45 ด.ช.เกยี รติศักดิ์ แซ่คู
46 ด.ช.จรี วฒั น์ แซล่ ี 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
47 ด.ช.ฉลองราชย์ นามพุฒ
2 -1.691 33.091 4 -1.386 36.135
19 0.897 58.971 26 1.963 69.627
5 -1.234 37.658 20 1.049 60.493
16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
4 -1.386 36.135 16 0.440 54.404
16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
2 -1.691 33.091 15 0.288 52.881
4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
5 -1.234 37.658 18 0.745 57.448
7 -0.930 40.702 14 0.136 51.359
6 -1.082 39.180 9 -0.625 43.747
3 -1.539 34.613 24 1.658 66.583
4 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
2 -1.691 33.091 4 -1.386 36.135
ลาดับท่ี ชื่อ - สกุล คะแนนก่อนเรียน Z - T - คะแนนหลงั เรียน Z - T-
30 Score Score 30 Score Score
48 ด.ช.ชนะชล พงศม์ ณเฑียร 15 0.288 52.881 18 0.745 57.448
49 ด.ช.ชษิ ณุชา ก้องทวีกลุ 8 -0.778 42.225 24 1.658 66.583
50 ด.ช.โชกุล ศริ ิพานกลุ 9 -0.625 43.747 17 0.593 55.926
51 ด.ช.ธนดล แซเ่ ฮ้อ 4 -1.386 36.135 4 -1.386 36.135
52 ด.ช.ธนวัต พนั ธระ 15 0.288 52.881 15 0.288 52.881
53 ด.ช.ธนวัฒน์ วนาพงศากลุ 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
54 ด.ช.ธีร์ธวัช แซ่ฟา้ 7 -0.930 40.702 15 0.288 52.881
55 ด.ช.ศุภสทิ ธ์ อาซอง 15 0.288 52.881 15 0.288 52.881
56 ด.ช.อนชุ ติ แซ่ชนิ้ 5 -1.234 37.658 7 -0.930 40.702
57 ด.ช.ศเุ จริญ เตรยี มพยุง 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
58 ด.ช.วฒุ ิศกั ด์ิ วงศน์ ภาไพศาล 7 -0.930 40.702 15 0.288 52.881
59 ด.ช.นราวชิ ญ์ แซย่ า่ ง 9 -0.625 43.747 15 0.288 52.881
60 ด.ญ.รตั นาภรณ์ ลฤี ทธก์ิ ุล 2 -1.691 33.091 8 -0.778 42.225
61 ด.ญ.วาสนา อนิ ถา 17 0.593 55.926 18 0.745 57.448
62 ด.ญ.สุทธิดา แซม่ ัว 9 -0.625 43.747 18 0.745 57.448
63 ด.ญ.กมลทพิ ย์ แซล่ ี 18 0.745 57.448 18 0.745 57.448
64 ด.ญ.กญั ยาภรณ์ วรอินทร์ 18 0.745 57.448 24 1.658 66.583
65 ด.ญ.กลั ยรตั น์ แซม่ า้ 2 -1.691 33.091 14 0.136 51.359
66 ด.ญ.จันทรจ์ ิรา ชมพู 20 1.049 60.493 28 2.267 72.672
67 ด.ญ.จริ ญั ญา สงิ ห์อุดร 17 0.593 55.926 25 1.810 68.105
68 ด.ญ.ธญั ญารตั น์ วงศ์บญุ ชัยเลิศ 5 -1.234 37.658 14 0.136 51.359
69 ด.ญ.ปราณปริยา บีพมิ าย 16 0.440 54.404 22 1.354 63.538
70 ด.ญ.ปา้ ฮวั้ แซย่ า่ ง 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
71 ด.ญ.พิมพช์ นก สงิ ห์ชัย 5 -1.234 37.658 18 0.745 57.448
72 ด.ญ.ภัทรพร บัวตูม 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
73 ด.ญ.มณฑิรา แซ่ว่าง 11 -0.321 46.792 19 0.897 58.971
74 ด.ญ.มัทรี บริรกั ษ์ 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
75 ด.ญ.วลิ ยั วลั แซ่ลี 19 0.897 58.971 26 1.963 69.627
76 ด.ญ.สุภัชชา อินตะ๊ สิน 5 -1.234 37.658 20 1.049 60.493
77 ด.ญ.สริตา แสวงผล 16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
78 ด.ญ.เสาวลักษณ์ ลรี ัตนเลิศ 6 -1.082 39.180 15 0.288 52.881
79 ด.ญ.แสงเดอื น ทอเจริญไชยกลุ 4 -1.386 36.135 16 0.440 54.404
ลาดบั ที่ ชือ่ - สกลุ คะแนนกอ่ นเรียน Z - T - คะแนนหลงั เรยี น Z - T-
30 Score Score 30 Score Score
80 ด.ญ.วลัยลกั ษณ์ จีบอื 16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
81 ด.ญ.ทิพย์สุดา คณาคา 2 -1.691 33.091 15 0.288 52.881
82 ด.ช.ทรงวุฒิ แซโ่ ซ่ง 4 -1.386 36.135 18 0.745 57.448
83 ด.ช.กติ ตพิ ล แซ่ลี 6 -1.082 39.180 11 -0.321 46.792
84 ด.ช.ชาญชัย แซ่โซ่ง 3 -1.539 34.613 17 0.593 55.926
85 ด.ช.ทวีชยั หงษ์ชยั 4 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
86 ด.ช.ภานุศักดิ์ วงศ์นภาไพศาล 6 -1.082 39.180 8 -0.778 42.225
87 ด.ช.คงศกั ด์ิ กิตตวิ โรสนั 2 -1.691 33.091 17 0.593 55.926
88 ด.ช.วรี เทพ แซฟ่ า้ 15 0.288 52.881 18 0.745 57.448
89 ด.ช.ชนะชัย แซล่ ี 8 -0.778 42.225 17 0.593 55.926
90 ด.ช.ชดั นรินทร์ แกว้ จนิ ดา 9 -0.625 43.747 19 0.897 58.971
91 ด.ช.โชกุน งานธนสญั ญา 4 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
92 ด.ช.เดชา ลีภิวฒั นว์ งศ์ 15 0.288 52.881 19 0.897 58.971
93 ด.ช.ทองชัย แซโ่ ซง้ 18 0.745 57.448 22 1.354 63.538
94 ด.ช.ประสทิ ธ์ สิงห์รอ 7 -0.930 40.702 9 -0.625 43.747
95 ด.ช.พทั ธพล เชอมือ 15 0.288 52.881 19 0.897 58.971
96 ด.ช.ภาณุพงศ์ พงศม์ ณเฑียร 16 0.440 54.404 19 0.897 58.971
97 ด.ช.รัฐภมู ิ แซล่ ี 6 -1.082 39.180 17 0.593 55.926
98 ด.ช.อดิศร จงจิตต์ 7 -0.930 40.702 8 -0.778 42.225
99 ด.ช.อนาวิล งานธนสญั ญา 9 -0.625 43.747 8 -0.778 42.225
100 ด.ช.ณัฐพล สายป้อง 2 -1.691 33.091 19 0.897 58.971
101 ด.ญ.สดุ ารัตน์ แซย่ ้า 17 0.593 55.926 17 0.593 55.926
102 ด.ญ.อรปรยี า แซล่ ี 18 0.745 57.448 22 1.354 63.538
103 ด.ญ.ชนิสรา วชิ ัย 18 0.745 57.448 12 -0.169 48.314
104 ด.ญ.ณิชกมล แกน่ จันทร์ 18 0.745 57.448 19 0.897 58.971
105 ด.ญ.ดวงดาว แซว่ ่าง 2 -1.691 33.091 19 0.897 58.971
106 ด.ญ.ทฆิ ัมพร เทีย่ งสวสั ดิ์ 20 1.049 60.493 19 0.897 58.971
107 ด.ญ.ธิตกิ านต์ ชื่นบาน 17 0.593 55.926 19 0.897 58.971
108 ด.ญ.ปรศิ นา แซ่จาง 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
109 ด.ญ.พชั รี เลาสาร 16 0.440 54.404 19 0.897 58.971
110 ด.ญ.พิยดา แซ่โซง้ 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
111 ด.ญ.รุ่งทวิ า ศรียา 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
112 ด.ญ.วมิ ลสิริ ราไพ 4 -1.386 36.135 19 0.897 58.971
113 ด.ญ.ศศิกาณร์ เวียงคา 11 -0.321 46.792 19 0.897 58.971
ลาดบั ท่ี ชื่อ - สกลุ คะแนนกอ่ น Z -Score T - Score คะแนนหลงั Z -Score T - Score
เรยี น 30 เรยี น 30
114 ด.ญ.สุดารัตน์ สงู กลาง 0.897 58.971 1.658 66.583
115 ด.ญ.สุธาวัลย์ พรหมเทพ 19 -1.234 37.658 24 1.049 60.493
116 ด.ญ.สพุ ัตรา จาปาพนั ธ์ุ 5 0.440 54.404 20 1.049 60.493
117 ด.ญ.กฤตธีรา เข็มทองนาชัย 16 -1.082 39.180 20 1.049 60.493
118 ด.ญ.อาทิตยา สังคะหะ 6 -1.386 36.135 20 1.049 60.493
119 ด.ญ.พฤกษา วงษา 4 0.440 54.404 20 0.593 55.926
120 ด.ญ.ภวภิ า ปงแกว้ 16 -1.691 33.091 17 0.745 57.448
121 ด.ญ.ช่อเอื้อง แซ่หาญ 2 -1.386 36.135 18 0.593 55.926
122 ด.ญ.ปรยี าพร แซ่ย่าง 4 -1.234 37.658 17 0.897 58.971
123 ด.ช.ธีรภัทร์ ยอดมณบี รรพต 5 -1.234 37.658 19 1.049 60.493
124 ด.ช.เศรษฐสรรค์ แซ่ย่าง 5 -1.082 39.180 20 -0.321 46.792
125 ด.ช.สรวศิ วินยั ผาสกุ 6 -1.539 34.613 11 0.593 55.926
126 ด.ช.เอกกวี ลที อง 3 -1.386 36.135 17 0.593 55.926
127 ด.ช.อภิสทิ ธิ์ แซจ่ าง 4 -1.082 39.180 17 -0.778 42.225
128 ด.ช.กฤตศิลป์ ผดั วงศ์ 6 -1.691 33.091 8 0.593 55.926
129 ด.ช.ธรี ก์ วิน แซก่ ู 2 0.288 52.881 17 0.745 57.448
130 ด.ช.โกสินทร์ กจิ สุขโกศล 15 -0.778 42.225 18 0.593 55.926
131 ด.ช.ธวัชชัย อนุชติ วรการ 8 -0.625 43.747 17 0.897 58.971
132 ด.ช.นที แดนนาสาร 9 -1.386 36.135 19 0.593 55.926
133 ด.ช.นวพล แซ่ลี 4 0.288 52.881 17 0.897 58.971
134 ด.ช.ภิรเมธ จันทรห์ อม 15 0.745 57.448 19 1.354 63.538
135 ด.ช.ยทุ ธนชยั ชศู รเี มือง 18 -0.930 40.702 22 -0.625 43.747
136 ด.ช.วิศวิ ัฒน์ อภภิ วู ฒั นพงษ์ 7 0.288 52.881 9 -0.625 43.747
137 ด.ช.ศุภกร แซเ่ ตน๋ิ 15 0.440 54.404 9 0.897 58.971
138 ด.ช.ศุภชยั ละโป้ 16 -1.082 39.180 19 0.593 55.926
139 ด.ช.อดิศักด์ิ ตน้ ปลกู 6 -0.930 40.702 17 -0.778 42.225
140 ด.ญ.ชมพนู ุช แซ่หาง 7 -0.625 43.747 8 -0.778 42.225
141 ด.ญ.ตะวนั แซ่วา่ ง 9 -1.691 33.091 8 1.354 63.538
142 ด.ญ. น้าฝน แซ่ยา่ ง 2 0.593 55.926 22 0.593 55.926
143 ด.ญ.กัญญาวรี ์ อนชุ ติ วรการ 17 0.745 57.448 17 1.354 63.538
144 ด.ญ.จิณตณา นาวงษา 18 0.745 57.448 22 -0.169 48.314
145 ด.ญ.จริ ภิญญา พลายน้อย 18 0.745 57.448 12 0.897 58.971
146 ด.ญ.ชุตมิ ณฑน์ สายเครือชุ่ม 18 -1.691 33.091 19 0.897 58.971
147 ด.ญ.ณฐั ธิดาภรณ์ โคมแก้ว 2 1.049 60.493 19 0.897 58.971
148 ด.ญ.นภสั สุวรรณ 20 0.593 55.926 19 0.897 58.971
17 19
คะแนนก่อน Z -Score T - คะแนนหลงั Z- T-
Score Score
ลาดับที่ ชอ่ื - สกลุ เรียน30 Score เรียน
30
149 ด.ญ.บุษยมาส เดนิ เร็ว 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
150 ด.ญ.ปราณี สุนิธิ 16 0.440 54.404 19 0.897 58.971
151 ด.ญ.ปรายปรียา สะเภาคา 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
152 ด.ญ.พัชรี อนุชติ วรการ 5 -1.234 37.658 19 0.897 58.971
153 ด.ญ.พิชชาภา แซ่เติ๋น 16 0.440 54.404 19 0.897 58.971
154 ด.ญ.พติ ตินันท์ พจนาวรกุล 11 -0.321 46.792 24 1.658 66.583
155 ด.ญ.พิมพ์สภุ า แซล่ ี 19 0.897 58.971 20 1.049 60.493
156 ด.ญ.พยิ ดา นอ้ ยมณี 5 -1.234 37.658 20 1.049 60.493
157 ด.ญ.ภทั ราภรณ์ ขนุ เพ็ชร 16 0.440 54.404 20 1.049 60.493
158 ด.ญ.ยพุ ิน เกษตรโสภาพนั ธ์ 6 -1.082 39.180 20 1.049 60.493
159 ด.ญ.สุพรรษา พัดไธสง 15 0.288 52.881 17 0.593 55.926
160 ด.ญ.อรญั ญา กมลาสนบ์ ูชา 16 0.440 54.404 18 0.745 57.448
161 ด.ญ.ศริ ิรัตน์ สถาน 2 -1.691 33.091 17 0.593 55.926
162 ด.ญ.ฐิตริ ตั น์ หอมออ่ น 4 -1.386 36.135 19 0.897 58.971
ผลรวม T-score_pre-test 597.64 ผลรวม T-score_post-test 772.709
43.99 56.010
ตารางที่ 2 แสดงผลการพัฒนาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนกอ่ นเรยี นและหลังเรยี นวรรณคดไี ทยของนกั เรียนช้ัน
มัธยมศึกษาปที ่ี 2 หลังเรียนด้วยการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method: 5E) เพ่ิมข้ึนมากกว่า รอ้ ย
ละ 10 ทงั้ ภาพรวมและรายหอ้ ง
คะแนนทเี ฉล่ีย (Average T Score) ของผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรยี น = 43.99
คะแนนทีเฉลยี่ (Average T Score) ของผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนหลังเรียน = 56.01
ร้อยละของคะแนนทเี ฉลี่ยที่เพิ่มขึน้ ร้อยละ = 27.32
จากวตั ถปุ ระสงคท์ ีก่ าหนดไว้เพอ่ื พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทยในบทเรียนของนักเรียน
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ใหส้ ูงขึ้น ด้วยกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method
: 5E) โดยเปรยี บเทียบเปน็ แผนภมู ดิ งั ตอ่ ไปนี้
100.00 90.00 87.80 87.50
90.00
80.00 80.48
70.00
60.00 42.50
50.00
40.00 36.59
30.00
20.00 26.83 30.00
10.00
-
ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
คะแนนทดสอบก่อนเรียน คะแนนทดสอบหลงั เรียน
แผนภมู ิท่ี 1 แสดงผลการเปรียบเทียบทางการเรยี นกอ่ นและหลังเรียนแยกตามห้องเรยี น
จากการดาเนนิ การพฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นเรื่องวรรณคดีไทย ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา
ปีท่ี 2 ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้(Inquiry Method : 5E) อภิปราย
ผลการวจิ ยั ไดด้ งั นี้นักเรียนมีคะแนนหลงั เรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรยี น และผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนมีจานวน
นกั เรียนผ่านเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 80 เน่ืองจากนักเรียนได้เรียนรู้ภายใต้บรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ไม่
รสู้ ึกกดดัน สภาพแวดล้อมที่สอดคล้องเหมาะสมกับหัวข้อการเรียนรู้จะทาให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้ดี (Renate
Nummela Caine and Geoffrey Caine, 1991:79) นักเรียนได้เรียนรจู้ ากการลงมือปฏิบตั จิ ริง ได้ช่วยเหลือ
กนั เรียนรู้ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั วิมลรตั น์ สุนทรโรจน์ (2550 : 112) ที่กลา่ วว่าการเรียนรทู้ ่ีเน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญคือ
ตอ้ งมงุ่ ให้ผูเ้ รยี นมโี อกาสไดล้ งมือปฏิบตั จิ รงิ ไดม้ กี ารรจู้ ักค้นคว้า ศึกษาหาข้อมูล ฝึกฝน สร้างองค์ความรู้ หรือ
ฝึกฝนทักษะ การใช้กระบวนกลุ่มในการเรียนรู้นักเรียนได้มีส่วนช่วยเหลือกัน และได้ระดมแนวคิดแสดง
ความคดิ ท่ีหลากหลายในการสรา้ งชน้ิ งานของกลุ่ม นกั เรยี นมีการแข่งขนั กันอย่างสนกุ สนานในการเรียนการทา
กิจกรรม สง่ ผลให้นกั เรียนมีความมั่นใจในความรู้ของตนเองมากข้ึน กล้าพูดกล้าแสดงออกถึงความสามารถที่
ตนเองมี นกั เรียนแต่ละกล่มุ มีความสามัคคกี ันในการทางานกล่มุ และช่วยเหลือกันเรียนรู้ดี นอกจากนี้ยังพบว่า
การเสริมแรงในทางบวก การให้กาลังใจคือแรงกระตุ้นแรงผลักให้นักเรียนต้องการพัฒนาตนเอง การให้
นักเรียนได้ทราบผลคะแนนการทางานหรือการสร้างชิ้นงานของตนเองทาให้นักเรียน ทราบข้อบกพร่องของ
ตนเองและสามารถนาไปพฒั นาปรับปรุงใหด้ ียิ่งข้ึน ดงั ท่ี โกวิท ประวาลพฤกษ์ (2549 : 25)
กล่าวว่าควรให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเป็นผู้ประเมินตนเอง แต่การประเมินจะต้องเป็นการนาเสนอให้
ผูเ้ รียนไดเ้ หน็ ถงึ ความสามารถท่แี ท้จรงิ ของตนเอง อีกทงั้ เปน็ การกระตุ้นให้ผู้เรยี นเกิดความอยากในการเพ่ิมพูน
หรือพฒั นาตนเองไปในตัวและจากการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เขียนแผนภาพ ความคิดสรุปความรู้ในสิ่งที่ได้
เรียนมาช่วยเสริมสร้างความจาของนักเรียนได้เป็นอย่างดี นักเรียนสามารถระลึกหรือเช่ือมโยงความรู้เดิมท่ี
เรยี นมากับความรใู้ หมไ่ ด้ โดยสังเกตได้จากการตอบคาถาม การแสดงความคิดเห็น การทาแบบทดสอบ ท้ังน้ี
เน่ืองจากสมองนั้นสามารถเรียนรู้ได้ดีเม่ือสร้างแผนภาพความคิด เพราะเป็นการจัดระบบข้อมูล เรียบ
เรยี งความคดิ ทาใหเ้ หน็ ภาพความคิดในหลายมติ ชิ ัดเจนขน้ึ เป็นการสะท้อนข้อมูลออกมาเป็นภาพ ก่อให้เกิด
การเรยี นร้ทู ่ีมีประสทิ ธภิ าพ (เกศสดุ า ใจคา, 2552 : 66)
4.2 ผลสัมฤทธ์ิของงาน
1) ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ผ่านเกณฑท์ ก่ี าหนด
มากกว่ารอ้ ยละ 80 โดยมีผลสัมฤทธ์ทเี่ พ่มิ ข้ึนร้อยละ 86.42 โดยหอ้ ง ม.2 / 2 เพ่มิ ข้ึนสงู สุดทีร่ ้อยละ 90.00
ส่วนห้อง ม.2/1 เพ่มิ ขนึ้ นอ้ ยที่สดุ รอ้ ยละ 80.48
2) ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 หลังเรยี นเมื่อ
เปรยี บเทียบกบั ก่อนเรยี นเพ่มิ ขนึ้ มากกวา่ ร้อยละ 10 โดยเพิม่ ขนึ้ ร้อยละ 27.32
4.3 ประโยชน์ทไี่ ด้รับ
4.3.1 ต่อผเู้ รียน
1) นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ได้รับการพฒั นาทกั ษะทางการเรียนวรรณคดีไทย
2) นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นวรรณคดไี ทยสงู ขน้ึ
3) นกั เรยี นเห็นคณุ คา่ และมีเจตคตทิ ่ีดีต่อวรรณคดีไทย
4.3.2 ต่อครู
1) ครไู ด้พฒั นาการจดั การเรียนรูท้ ีห่ ลากหลายเขา้ กับโลกในยุคศตวรรษท่ี 21
2) ครูได้สรา้ งและส่อื นวตั กรรม ทีเ่ หมาะสมกับผู้เรียน
4.3.3 ตอ่ สถานศึกษา
1) คุณภาพผู้เรียนได้ตามมาตรฐานการศกึ ษาด้านผ้เู รียนมีคณุ ภาพ
5. บทเรียนทีไ่ ดร้ ับ
5.1 กระบวนการดาเนินการโดยวงจรคุณภาพของ Deming PDCA สามารถพัฒนากระบวนการ
ทางานใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล
5.2 การสอนแบบสืบเสาะหาความร้(ู Inquiry Method : 5E) สามารถพัฒนาผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน
ของนกั เรยี นให้สงู ข้ึนได้เพราะเปน็ กระบวนการจัดการเรยี นรู้อยา่ งเป็นข้นั ทเ่ี ริ่มตน้ ด้วยความสนใจ
5.3 กระบวนการจดั การเรียนรู้ที่สง่ ผลต่อการเรียนรู้ของผเู้ รยี นมากทส่ี ดุ คอื การจัดกระบวนการ
เรียยนรู้แบบ Active learning
6. ปัจจยั ความสาเร็จ
6.1 ความเขา้ ใจ เอาใจใส่ มคี วามรับผิดตอ่ หนา้ ทข่ี องครู
6.2 ความมีวนิ ัย ใฝ่เรียนรูข้ องผูเ้ รียน
6.3 ผ้บู รหิ ารให้ความสาคญั และสนบั สนุนกบั การดาเนนิ งานของครู
7. . การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรบั /รางวัลท่ีไดร้ บั
1. จดั นิทรรศการเผยแพร่แก่นักเรียน ครูสนใจผ่านวิธกี ารตลาดนดั ความรู้
2. นาเสนอผลงานครแู ละนักเรยี นผ่านส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น ผ่านโปรแกรมหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์
(E-BOOK)
บรรณานกุ รม
เกศสดุ า ใจคา. สภาพการเป็นองคก์ ารแหง่ การเรยี นร้ขู องมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอรน์
จังหวัดเชยี งใหม่. เชียงใหม่ ; บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2552.
โกวิท ประวาลพฤกษ.์ การเรียนรู้ท่ีสอดคลอ้ งกับการทางานของสมอง สรา้ งพหุปัญญาด้วยโครงงาน
กรุงเทพฯ ; สานักพมิ พ์พัฒนาคุณภาพวิชาการ, 2549.
วิมลรัตน์ สนุ ทรโรจน์. การเรยี นรโู้ ดยใชส้ มองเปน็ ฐานกบั การสร้างเด็กเกง่ . กรุงเทพฯ ;
ซีเอด็ ยูเคช่ัน, 2550.
วาโร เพ็งสวสั ด์.ิ วารสามหาวิทยาลยั ราชภัฎสกลนคร ปีที่ 6 ฉบบั ท่ี 11 มกราคม-มิถุนายน ,
2557.
Renate Nummela Caine. 12 Brain/Mind Learning Principles in Action– One Author's
Personal Journey. <http://www.newhorizons.org/neuro/caine> Septembe 1, 2017.
ภาคผนวก
ผลงานนกั เรยี น
ผลงานนกั เรยี น
ตวั อยา่ งสอ่ื
ตวั อยา่ งสอ่ื
ตวั อยา่ งสอ่ื
ภาพกจิ กรรมการสอน
แบบทดสอบ ก่อนเรียนและหลงั เรียน
รายวชิ าภาษาไทย ท22102 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 30 ข้อ รวม 30 คะแนน
ครูผู้สอน นางสาวอภญิ ญา ผัดวงค์
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา
ชอ่ื -สกุล_______________________________________ชนั้ ม.2/______ เลขท่ี________
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนทาเคร่อื งหมายกากบาท (X) ทบั คาตอบข้อท่ถี กู ตอ้ งทส่ี ดุ
**************************************************************************
1. กลอนดอกสร้อยราพึงในป่าช้าเปน็ ผลงานการประพันธข์ องกวีท่านใด
ก. เจเค โรวล์ ิ่ง ข. ทอมัส เกรย์ ค. แดน บราวน์ ง. จอหน์ แฮมพ์เดน็
2. กลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในปา่ ช้าใชส้ ญั ลกั ษณใ์ ดแทนความตาย
ก. นกแสก ข. ความมืด ค. เสยี งเรไร ง. เสียงระฆัง
3. แนวคดิ หลกั ของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่าช้าคอื ข้อใด
ก. ทกุ ชวี ติ มีความเสมอภาคกัน
ข. ชาวนาเปน็ ผ้ทู ป่ี ลกู ขา้ วเพ่อื เลย้ี งชาวโลก
ค. ทรพั ยส์ ิน สมบัติ เงนิ ทองลว้ นแต่เปน็ ของนอกกาย
ง. ทกุ ชวี ิตมคี วามตายเป็นท่พี ง่ึ ความตายจงึ เปน็ เรื่องธรรมดาของโลก
4. ลักษณะบังคบั ของกลอนดอกสร้อย คาที่ ๒ ของวรรคแรกคือคาใด
ก. เอย ข. เอ๋ย ค. เฮย้ ง. เออ
5. คาประพันธข์ ้อใดท่ีกวีกล่าวถึงความพอเพียงในการดาเนนิ ชวี ิต
ก. อทุ ิศสง่ิ ซึง่ สรา้ งตามทางธรรม์ ของผนู้ นั้ ผนู้ แี้ กผ่ ีเอย
ข. ไมม่ ีใครไดเ้ ชยเลยสักคน ย่อมบานหลน่ เปลา่ ตายมากมายเอย
ค. สันโดษคบั ฟ้งุ วา่ นทะยานใจ ตามวิสยั ชาวนาเย็นกว่าเอย
ง. แหล่งหลุมลกึ ลานสลดระทดใจ เรายงิ่ ใกล้หลมุ น้นั ทุกวนั เอย
6. “ใครจะยอมละทงิ้ ซง่ึ สงิ่ สขุ เคยเป็นทุกข์หว่ งใยเสียไดง้ า่ ย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย โดยไมช่ ายตาใฝ่อาลัยเอย”
คาประพันธน์ ี้กวตี ้องการเสนอสาระสาคญั เกย่ี วกับเรื่องใด
ก. ใหด้ ารงชีวิตอย่อู ย่างเปน็ สุขตลอดไป
ข. มนุษย์ควรรจู้ ักปล่อยวางส่งิ ตา่ งๆ ในชวี ติ
ค. การละทิ้งซงึ่ ความสขุ ก่อใหเ้ กิดความทกุ ข์
ง. สงั คมหลงมัวเมาในกิเลส
7. “ศพเอ๋ยศพไพร่ ไมม่ ีใครขน้ึ ช่ือระบอื ขาน
ไม่เกรงใครนินทาว่าประจาน ไม่มกี ารจารกึ บันทึกคุณ
ถึงบางท่มี ีบา้ งเป็นอย่างเลศิ กไ็ ม่ฉดู ฉาดเชิญประเสริฐสุนทร
พอเตือนใจได้บา้ งในทางบุญ เป็นเครือ่ งหนนุ นาเหตุสงั เวชเอย”
กวกี ลา่ วด้วยนา้ เสยี งอย่างไร
ก. ปลงตก ข. เคยี ดแค้น
ค. ดถู ูกดหู มิน่ ง. เยาะเย้ย
8. กลอนดอกสรอ้ ยราพึงในป่าชา้ มีความดีเด่นในด้านใดที่สดุ
ก. เลือกสรรคาท่ีไพเราะ ข. สานวนโวหารกินใจ
ค. เตอื นสติมนุษย์ทุกคน ง. มสี มั ผัสแพรวพราว
9. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกยี่ วกบั กลอนดอกสร้อยราพึงในปา่ ช้า
ก. เนอื้ หามงุ่ แสดงความไพเราะของการใช้คา
ข. เน้นการพรรณนาเกี่ยวกบั ความอ้างวา้ งของทงุ่ นา
ค. เปน็ กวนี พิ นธข์ นาดสั้นที่มุง่ แสดงความคิดของกวี
ง. กลอนดอกสรอ้ ยราพึงในปา่ ช้ามาจากตน้ ฉบบั แปล
10. จากเรอ่ื งกลอนดอกสรอ้ ยราพงึ ในปา่ ชา้ เกิดขึ้นทีใ่ ด
ก. ชนบทในประเทศไทย ข. ปา่ ช้าของวัดชนบท
ค. วัดโบราณ ง. ธรรมชาตใิ นปา่
11. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเกีย่ วกบั ลักษณะการประพันธ์ของกลอนดอกสรอ้ ยราพึงในป่าชา้
ก. วรรคแรกประกอบดว้ ยคา 7-8 คา คาท่ีสองลงท้ายดว้ ย เอย
ข. บทดอกสรอ้ ยหนง่ึ บท ประกอบดว้ ยกลอนสุภาพ 2 คากลอน
ค. คาท่ีสองของวรรคแรกจะใชค้ าว่า เอ๋ย จบคาสุดท้ายของบทด้วย เอย
ง. จบคาสุดทา้ ยของบทด้วยคาวา่ เอ๋ย ลักษณะสัมผัสเหมือนกลอนสุภาพ
12. คณุ ค่าดา้ นเน้อื หาของกลอนดอกสร้อยราพงึ ในป่าช้าคือขอ้ ใด
ก. มงุ่ แสดงคุณค่าของชวี ิต ข. มงุ่ แสดงสจั ธรรมของชีวิต
ค. มงุ่ แสดงความสาคญั ของชีวติ ง. มงุ่ แสดงความเป็นไปของชวี ติ
13. “ชาวนาเหนือ่ ยออ่ นตา่ งจรกลบั ตะวันลบั อบั แสงทุกแหง่ หน
ทง้ิ ทงุ่ ให้มืดมัวทัว่ มณฑล และท้ิงตนตเู ปลี่ยวอยเู่ ดยี วเอย”
กลอนบทนใ้ี หอ้ ารมณค์ วามรู้สกึ เช่นไร ข. สขุ สงบ
ก. สขุ สดชน่ื ง. เศรา้ โศก
ค. เหงาว้าเหว่
14. “สกุลเอย๋ สกุลสูง ชกั จงู จติ ฟชู ูศกั ดิศ์ รี
อานาจนาความสง่าอ่าอินทรีย์ ความงามนาให้มีไมตรีกนั
ความรา่ รวยอวยสขุ ให้ทุกอย่าง เหล่าน้ตี ่างรอตายทาลายขันธ์
วถิ ีแห่งเกยี รตยิ ศท้ังหมดนน้ั แต่ล้วนผนั มาประจบหลมุ ศพเอย”
แนวคดิ หลักของกลอนดอกสร้อยบทน้ี คอื อะไร
ก. คนท่ีมีสกุลสงู มีศกั ด์ิศรีเชดิ ชตู น
ข. คนร่ารวยจะมคี วามสุขทกุ อย่าง
ค. ความมอี านาจทาให้คนอยากมีไมตรดี ว้ ย
ง. ทุกคนไม่มใี ครหลีกพน้ ความตายไปได้
15. “วถิ ีแหง่ เกียรติยศท้ังหมดนั้น แตล่ ้วนผันมาประจบหลมุ ศพเอย”
ก. ความตายเป็นสงิ จริงแท้แน่นนอน ข. ทาดไี ดด้ ีทาชัว่ ไดช้ ั่ว
ค. หลมุ ฝงั ศพเป็นเกยี รติยศของมนษุ ย์ ง. ถูกท้ังขอ้ ก. และ ค.
16. ใครแตง่ เรือ่ งรามเกียรต์ิ
ก. รชั กาลท่ี 1 ข. รัชกาลที่ 2 ค. รัชกาลท่ี3 ง. รัชกาลที่ 4
17. รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณ์ปราบบนนทก แตง่ ดว้ ยคาประพันธช์ นิดใด
ก. กลอนสุภาพ ข. กาพยย์ านี 11
ค. กาพย์ฉบงั 16 ง. กลอนบทละคร
18. ขอ้ คิดจากเรอ่ื งรามเกยี รตข์ิ ้อใดท่ีเราสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้
ก. การอดทนอดกล้นั ข. แค้นนต้ี ้องชาระ
ค. การใชอ้ านาจ ง. เวรยอ่ มระงบั ดว้ ยการจองเวร
19. ตัวละครตัวใดในเรอ่ื งทสี่ มควรไดร้ ับการเหน็ ใจมากที่สุด
ก. เทวดา ข. พระอศิ วร ค. นนทก ง. พระนารายณ์
20. ขอ้ ใดมีอปุ มาโวหาร
ก. กจู ะเป็นมนษุ ย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชวี ี
ข. ฮึดฮัดขดั แค้นแน่นใจ ตาแดงดัง่ แสงไฟฟา้
ค. ครนั้ ถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธนิ ั่งยิม้ ริมอา่ งใหญ่
ง. เชญิ ไปสังหารอา้ ยอาธรรม์ ใหม้ ันสน้ิ ชีพชวี า
21. คาประพันธ์ขอ้ ใดเปน็ นารีปราโมทย์
ก. สพั ยอกหยอกเล่นเหมอื นทุกวนั สรวลสันตเ์ ยาะเยย้ เฮฮา
ข. เมขลาโยนแกว้ แววไว มยเุ รศฟ้อนในอัมพร
ค. ยา้ ยท่ามจั ฉาชมสาคร พระส่ีกรขวา้ งจกั รฤทธริ งค์
ง. สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดล้าเทพอปั สร
22. ทา่ ราสุดท้ายทน่ี นทกใชน้ ว้ิ ทาร้ายตัวเองคือทา่ ราใด
ก. กนิ รินเลียบถ้า ข. มัจฉาชมสาคร ค. เมขลาโยนแกว้ ง. นาคาม้วนหาง
23. ขอ้ ใดมีการซา้ คา
ก. พนกั งานฟอ้ นราระบาบัน ช่ือสุวรรณอัปสรเสนห่ า
ข. งามจรติ กริ ิยางามงอน งามเอวงามออ่ นทงั้ กายา
ค. เชญิ เจ้าราเถิดนะนางฟ้า ใหส้ น้ิ ท่าที่นางจาได้
ง. ย่งิ คิดย่ิงพศิ ผกู พัน กเ็ ดนิ กระชัน้ เขา้ ไป
24. ขอ้ ใดเป็นเหตุการณ์ทเ่ี กดิ ก่อนเหตุการณอ์ ่นื
ก. พระอิศวรประทานพรใหน้ นทก ข. นนทกถกู เทวดากลนั่ แกลง้
ค. นนทกทลู ขอน้ิวเพชรจากพระอิศวร ง. นนทกหลงรกั นางสุวรรณอปั สร
25. กลอนบทละครต่างจากกลอนสุภาพอยา่ งไร
ก. จานวนคาในแตล่ ะวรรค
ข. กลอนบทละครต้องจบดว้ ย “เอย”
ค. กลอนบทละครไม่บงั คับเรื่องสมั ผัส
ง. ถ้าข้นึ ต้นดว้ ยวรรคแรกมักใช้คาว่า เมื่อน้นั บดั นัน้
26. นนทกมภี าระหน้าท่ีประจาอะไร ท่ีเชิงเขาไกรลาส
ก. ลา้ งเท้าใหเ้ หล่าเทวดา ข. ปราบมารผมู้ ารกุ ราน
ค. ปรนนิบตั ิพระอิศวร ง. สอนหนังสอื แกบ่ ุตรหลานของเทวดา
27. ใครคือผทู้ ีพ่ ระอศิ วรขอให้มาลงโทษนนทกทก่ี าลงั มใี จกาเรบิ ไม่ยบั ย้งั ชงั่ ใจ ใชอ้ านาจไมถ่ ูกตอ้ ง
ก. พระนารายณ์ ข. พระราม ค. หนมุ าน ง. พระอนิ ทร์
28. นนทกหลงกลอุบายใดของใครจงึ ทาใหเ้ กิดเหตุรา้ ยแกต่ นเอง
ก. เหล่าเทวดา หลอกใหว้ งิ่ จนตกเขา
ข. พระนารายณ์ท่ีแปลงกายเป็นหญิง ร่ายราทา่ ทางจนนทกพลาดช้ขี าตัวเองทาให้ขาหัก
ค. พระอศิ วรหลอกให้รา่ ยราจนนนทกพลาดชี้ตาตนเองบอด
ง. พระอินทรห์ ลอกให้นนทกวง่ิ จนตกเขา
29. เมอ่ื นนทกถกู ฆ่าแลว้ ได้มาเกดิ ใหม่เปน็ ใคร
ก. พระราม ข. ทศกณั ฐ์ ค. หนุมาน ง. พระลักษมณ์
30. พฤติกรรมของนนทกตรงกับข้อใด
ก. ยิง่ ว่ายิง่ ยุ ข. ยิง่ กดยงิ่ ดนั ค. เพชรตดั เพชร ง. ขิงกร็ า ขา่ กแ็ รง