รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า พลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 3 เป็นเน้ือเกี่ยวกบั ทางวชิ าการใน เร่ือง กีฬาเปตอง
รายงานเล่มน้ีจดั ทาํ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สูตรการสอนภายในโรงเรียนตามความเหมาะสม
หวงั วา่ รายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการหาความรู้ไดอยา่ งมีประสิทธิภาพเป็นไปตาม
หลกั การและจุดมุ่งหมาย ขอขอบคุณเวบ็ ไซตท์ ี่ใหข้ อ้ มลู ในการทาํ รายงานเล่มน้ีใหส้ าํ เร็จลุล่วง
ดว้ ยดีไว้ ณ โอกาสน้ี
จาํ ทาํ โดย
ด.ญ.ภรณ์ประพรรณ พุทธคู
เร่ือง หน้า
ประวตั เิ ปตอง กติกา และความเป็ นมา 1
จดุ เด่นของกฬี าเปตอง 3
ประโยชน์ของกฬี าเปตอง 4
อปุ กรณ์การเล่นเปตอง 6
ประเภทการเล่น 7
การบริหารร่างกายก่อนและหลงั การฝึ กก่อนการเล่น 9
วธิ ีการจบั ลกู เปตอง 10
หลกั การเข้าลกู บูล 11
วธิ ีการเข้าลกู วธิ กี ารเข้าลกู มอี ยู่ 3 แบบ 12
13
วิธีการฝึ กเข้าลูก 14
วธิ กี ารฝึ กตลี กู
ประวัตเิ ปตอง กติกา และความเป็ นมา
ประวัติความเป็ นมากีฬาเปตองในประเทศไทย
กีฬาเปตองไดเ้ ร่ิมเขา้ มาในประเทศไทยเม่ือปี พ.ศ. 2518 โดยการริเริ่ม
ของนายจนั ทร์ โพยหาญ นาํ กีฬาเปตองเขา้ มาเผยแพร่ให้คนรู้จกั อยา่ ง
เป็นทางการคนแรก นายจนั ทร์ โพยหาญไดร้ ่วมกบั นายศรีภมู ิ สุขเนตร
ซ่ึงเป็ นอดีตนักเรียนเก่าฝรั่งเศส ซ่ึงมีความรู้ความสามารถในด้าน
กีฬาเปตองเป็ นอยา่ งดี ไดร้ ่วมกนั จดั ต้งั สมาคมเปตอง และโรปวงั ซาล
แห่งประเทศไทย ข้ึนเม่ือวนั ที่ 18 พฤศจิกายน 2519 โดยมีนายศรีภูมิ
สุขเนตร เป็ นนายกสมาคมคนแรกเม่ือจัดต้ังสมาคมเรียบร้อยแล้ว
คณะกรรมการไดช้ ่วยกนั รณรงคเ์ ผยแพร่ และสาธิตการเล่นเปตองมา
โ ด ย ต ล อ ด แ ต่ ไ ม่ ไ ด้ รั บ
ค ว า ม สํ า เ ร็ จ เ ท่ า ที่ ค ว ร
ต่อมาสมเด็จพระศรี นคริ นทราบรมรา
ชนนีทรงช่วยส่งเสริม และเผยแพร่ให้
อีกทางหน่ึง โดยทรงรับส่ังให้จัดการ
แ ข่ ง ขัน เ ป ต อ ง ชิ ง ช น ะ เ ลิ ศ ภ า ค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือข้ึน ซ่ึงพระองค์
ทา่ นและสมเดจ็ พระพ่ีนางเอเจา้ ฟ้ ากลั ยา
นิวฒั นาฯ ทรงไดล้ งร่วมทาํ การแข่งขนั
ในคร้ังน้ีดว้ ย และอีกหลาย ๆ รายการ
จึงให้สมญานามกีฬาเปตองว่า “กีฬา
สมเดจ็ ยา่ ”
ใน พ.ศ. 2527 พระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนี ทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ รับสมาคมเป สมเดต็ อง
และโปรวงั ซาล แห่งแระเทศไทย ไวใ้ น
พระอุปถมั ภ์ และวนั ที่ 22 เมษายน
2530 เปล่ียนชื่อสมาคมเปตองฯ เป็น
สหพนั ธเ์ ปตอง แห่งประเทศไทยใน
พระอปุ ถมั ภ์ สาํ นกั งานต้งั อยทู่ ี่ 2088
อินเดอร์สเตเด้ียม หวั หมาก กรุงเทพฯ
ปัจจุบนั กีฬาเปตอง มีการบรรจุเขา้ ใน
การแข่งขนั กีฬา ของส่วนราชการต่าง ๆ
รวมท้งั ภาคเอกชนดว้ ย เช่น กีฬา
แห่งชาติ กีฬาเขตการศึกษา กีฬา
กองทพั ไทย กีฬามหาวทิ ยาลยั กีฬาของ
กระทรวงต่าง ๆ กีฬารัฐวิสาหกิจ
จุดเด่นของกฬี าเปตอง
1. เป็นพ้นื ฐานในการเล่นกีฬาประเภทอื่น ๆ
ลกั ษณะของการเล่นเป็นการ เสริมสร้างแนวความคิด
และสติปัญญาของผเู้ ล่น
2. ในระหว่างการเล่นร่างกายจะไดร้ ับการบริหารทกุ
ส่วน กล่าวไดว้ า่ ในการเล่นเปตอง 6 เกมส์/วนั จะตอ้ ง
ออกกาํ ลงั ในการใชล้ กู บลูท่ีมีน้าํ หนกั 680/700 กรัม ถึง
ประมาณ 200 คร้ัง กม้ ข้ึนลงประมารณ 250 คร้ัง เดิน
ไปมาในสนามประมาณ 3 กิโลเมตร
3. การเล่นกีฬาประเภทน้ีง่าย และสะดวก เล่นไดท้ กุ
เวลาท้งั ในร่ม และกลางแจง้ สนามเดิน หญา้ และลูกรัง
ประโยชน์ของกฬี าเปตอง
พฒั นาทางด้านร่างกาย
– กาํ ลงั แขน ผเู้ ล่นจะฝึ กการใชก้ าํ ลงั ท้งั นิ้วมือ
ขอ้ มือ แขน ขอ้ ศอก และหวั ไหล่ใหส้ มั พนั ธืกนั
เพื่อการบงั คบั ลกู ใหไ้ ดจ้ งั หวะ และระยะที่
ตอ้ งการ
– กาํ ลงั ขา ผเู้ ล่นจะตอ้ งเดินไปเดินมาตามความ
ยาวของสนามซ่ึงมีขนาดยาว 15 เมตร กวา้ ง 4
เมตร ลุกนงั่ เพือ่ การวาง หรือเขา้ ลูกตลอดเวลา
การเล่น
– สายตา กีฬาเปตองช่วยใหเ้ กิดการทาํ งานท่ี
สัมพนั ธ์กนั ระหว่างสายตา และมือ เน่ืองจาก
ตอ้ งใชส้ ายตา กะระยะทาง พิจารณาแง่มุมต่าง
ๆ ทีจ่ ะเขา้ ลกู ตีลกู เพือ่ ใหไ้ ดป้ ระสิทธิภาพตาม
ตอ้ งการ
พฒั นาการทางด้านสติปัญญา
– กีฬาเปตองเป็นเกมการเล่นท่จี าํ เป็นตอ้ งอาศยั
การคิด คาดคะเน และการอ่านเกมในการเล่น
อยา่ งจริงจงั คิดเกมรับเมื่อเป็นฝ่ ายเสียเปรียบ
และเกมรุกท่บี งั คบั ใหฝ้ ่ ายตรงขา้ มเล่นตามเกมที่
เราวางไว้
ประโยชน์ของกฬี าเปตอง
พฒั นาการทางด้านจติ ใจ
– กีฬาเปตองมีท้งั เด่ียว ค่ทู ีม ผเู้ ล่นจะตอ้ งเขา้ ใจ
ถึงจิตใจของผรู้ ่วมทมี เป็นอยา่ งดี มีการ
ปรึกษาหารือกนั ยอมรับความคิดของกนั และ
กนั แสดงใหเ้ ห็นถึงการเป็นผนู้ าํ และผตู้ ามท่ดี ี
สมาธิเป็นส่วนสาํ คญั อยา่ งยงิ่ ไม่วา่ เป้ นการเลน่
ประการใด ๆ ผเู้ ล่นจะตอ้ งฝึ กการวางเฉย ทาํ จิต
ใหส้ งบ ทาํ สมาธิใหไ้ ด้ ต้งั ความหวงั ใหน้ อ้ ย
กว่าความเป็นจริง ไม่วิตกกงั วลเกินไป ไม่
ทอ้ ถอยในการเล่น ไม่สนใจเสียงข่มขวญั เสียง
เชียร์ทด่ี งั การสอนเกมการเลน่ ของฝ่ ายตรงขา้ ม
เพราะส่ิงต่าง ๆ เหล่าน้ีจะทาํ ใหเ้ กิดความกงั วล
สับสน จะมีผลต่อเกมการเล่น ถา้ สมาธิไม่ดีพอ
การพฒั นาการทางด้านสังคม
– กีฬาเปตอง เป็นกีฬาท่เี ล่นไดไ้ ม่ยาก จึงมีผู้
นิยมเล่นกนั อยา่ งแพร่หลายจะเห็นไดว้ า่ ใน
หมู่บา้ น หน่วยงานของรัฐและเอกชนไดจ้ ดั ใหม้ ี
การแข่งขนั เพ่อื ใหผ้ เู้ ล่นไดม้ าพบปะสังสรรค์
ไดร้ ู้จกั และไดร้ ่วมสนุกกนั นบั เป็นการสร้าง
สงั คมอนั ดีแก่นกั กีฬา นอกจากน้ียงั ลดปัญหา
สารเสพติด เนื่องจากคนหนั มาเล่นกีฬาล่งผลให้
ปัญหาอาชญากรรมลดลง
– ดงั น้นั การเล่นกีฬาเปตองจาํ เป็นตอ้ งรู้
พ้ืนฐานของการเล่น การใชเ้ ทคนิคทกุ รูปแบบ
อปุ กรณ์การเล่นเปตอง
1. ลูกเปตอง (ลูกบลู ) เป็นลกู ทรงกลมดา้ น
ในกลวง ทาํ ดว้ ยโลหะมีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางระหวา่ ง
71-76 ม. มีน้าํ หนกั 350-800 กรัม มีเครื่องหมาย
ของโรงงานผผู้ ลิต ตวั เลขแสดงน้าํ หนกั และเลข
รหสั ปรากฎอยบู่ นลกู บลู อยา่ งชดั เจน หมายเหตุ :
ปัจจุบนั ประเทศไทยมีลูกเปตองที่ทาํ ดว้ ย
พลาสติกเรียกวา่ “ลูกพลาสตอง” ผลิต จาํ หน่าย
โดยบริษทั มาราธอน มีขนาด น้าํ หนกั มาตรฐาน
ใกลเ้ คียงกบั ลกู เปตองสามารถใชเ้ ล่นฝึ กซอ้ ม หรือ
แข่งขนั ไดใ้ นบางรายการ
2. ลกู เป้ า เป็นลกู ทรงกลมทาํ ดว้ ยไมเ้ น้ือ
แขง็ หรือพลาสติก มีเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางระหวา่ ง
25-35 ม.ม. ทาสีทสี่ ามารถมองเห็นไดช้ ดั เจน
3. สนามเล่น สามารถเล่นไดท้ กุ สนาม ทม่ี ี
ดา้ นหนา้ เรียบยาวตรงพอประมาณ ขนาดของ
สนามกวา้ ง 4 เมตร ยาว 15 เมตร (ยกเวน้ พ้ืนไม้
พ้ืนคอนกรีตลาดยาง)
ประเภทการเล่น
แบ่งประเภทการเล่นเป็น 3 ประเภท คือ
1. ประเภทเด่ียว ใชล้ กู บลู 3 ลูก
2. ประเภทคู่ คู่ผสม ใชล้ ูกบลู คนละ 3 ลูก
3. ประเภททมี ใชล้ กู บลู คนละ 2 ลกู
วธิ ีการเล่นเปตอง
แบง่ ผเู้ ล่นออกเป็น 2 ฝ่ าย ๆ ละเทา่ ๆ กนั ใหล้ กู บลู มี
ลวดลายต่างกนั
– เริ่มดว้ ยการเสี่ยง เพือ่ ตดั สินว่าฝ่ ายใดจะเป็นฝ่ายได้
เริ่มเล่นก่อน
– ฝ่ ายชนะเสื่ยงเริ่มเล่นคนใดคนหน่ึง เลือกจุดเริ่มตน้
เขียนวงกลมบนพ้นื สนามเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง ระหวา่ ง
35-50 ซม. ห่างจากเสน้ สนามไดน้ อ้ ยกวา่ 1 เมตร
– ฝ่ ายชนะการเส่ียงคนใดคนหน่ึงเขา้ ไปโยนลูกเป้ าใน
สนาม ใหห้ ่างจากจุดเริ่มตน้ ตามระยะดงั น้ี
– สาํ หรับเดก็ เลก็ ไม่นอ้ ยกวา่ 4 เมตร ไม่เกิน 8 เมตร
– สาํ หรับเยาวชน ไม่นอ้ ยกว่า 5 เมตร ไม่เกิน 9 เมตร
– สาํ หรับเยาวชน ไม่นอ้ ยกว่า 6 เมตร ไม่เกิน 9 เมตร
– ผใู้ หญ่หรือทว่ั ไป ไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร ไม่เกิน 10
เมตร
ประเภทการเล่น
แบ่งประเภทการเล่นเป็น 3 ประเภท คือ
1. ประเภทเด่ียว ใชล้ กู บลู 3 ลูก
2. ประเภทคู่ คู่ผสม ใชล้ ูกบลู คนละ 3 ลูก
3. ประเภททมี ใชล้ กู บลู คนละ 2 ลกู
วธิ ีการเล่นเปตอง
แบง่ ผเู้ ล่นออกเป็น 2 ฝ่ าย ๆ ละเทา่ ๆ กนั ใหล้ กู บลู มี
ลวดลายต่างกนั
– เริ่มดว้ ยการเสี่ยง เพือ่ ตดั สินว่าฝ่ ายใดจะเป็นฝ่ายได้
เริ่มเล่นก่อน
– ฝ่ ายชนะเสื่ยงเริ่มเล่นคนใดคนหน่ึง เลือกจุดเริ่มตน้
เขียนวงกลมบนพ้นื สนามเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง ระหวา่ ง
35-50 ซม. ห่างจากเสน้ สนามไดน้ อ้ ยกวา่ 1 เมตร
– ฝ่ ายชนะการเส่ียงคนใดคนหน่ึงเขา้ ไปโยนลูกเป้ าใน
สนาม ใหห้ ่างจากจุดเริ่มตน้ ตามระยะดงั น้ี
– สาํ หรับเดก็ เลก็ ไม่นอ้ ยกวา่ 4 เมตร ไม่เกิน 8 เมตร
– สาํ หรับเยาวชน ไม่นอ้ ยกว่า 5 เมตร ไม่เกิน 9 เมตร
– สาํ หรับเยาวชน ไม่นอ้ ยกว่า 6 เมตร ไม่เกิน 9 เมตร
– ผใู้ หญ่หรือทว่ั ไป ไม่นอ้ ยกวา่ 6 เมตร ไม่เกิน 10
เมตร
การบริหาร
ร่างกายก่อนและ
หลงั การฝึ กก่อน
การเล่น
การบริหารร่างกายก่อนและหลงั การฝึ กก่อนการเล่น
การบริหารร่างกายเป็นส่ิงสาํ คญั สาํ หรับนกั กีฬาทกุ คน และตอ้ งปฏิบตั ิ
เป็นประจาํ ก่อนและหลงั การฝึ กซอ้ มทกุ คร้ัง เพอื่ เป็นการกระตุน้ เตือน
ใหร้ ะบบภายในต่าง ๆ ของร่างกายตื่นตวั ระบบประสาทมีความฉบั ไว
ในการรับคาํ สง่ั จากสมอง ไม่เกิดอาการเฉื่อยชา ระบบการหายใจ
ทาํ งานไดส้ ะดวก หวั ใจสูบฉีดโลหิตไดด้ ี ปอดมีการขยายตวั ทาํ ใหม้ ี
ความจุของปอดทาํ ออกซิเจนเขา้ สู่ร่างกายไดเ้ พยี งพอ นอกจากน้นั ยงั ทาํ
ใหก้ ลา้ มเน้ือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายยดื หยนุ่ แขง็ แรงทนทานพร้อมที่
จะเริ่มตน้ ฝึ กซอ้ มได้
หลงั การเล่น
หลงั การฝึ กซอ้ มทกุ คร้ัง ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเกิดความตึงเครียด
และเสียพลงั งานไปเป็นจาํ นวนมาก การบริหารร่างกายหลงั การ
ฝึกซอ้ ม เช่น บีบ นวด กด จบั ทุกสลบั กนั ไป จะเป็นการผอ่ นคลาย
ความตึงของกลา้ มเน้ือส่วนต่าง ๆ ไม่ใหเ้ กิดความเม่ือยลา้ และ
นอกจากน้ียงั ช่วยใหร้ ะบบภายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกลบั สู่สภาพ
ปกติโดยเร็วทีส่ ุด
วธิ ีการจบั ลกู เปตอง
1. หงายมือวางลกู บลู ลงไปในอมุ้ มือใน
ทา่ ท่ีสบาย
2. หรือควา่ํ มือจบั ลกู
3. ท้งั น้ีจะจบั แบบใดกไ้ ดแ้ ต่ความถนดั
ของแต่ละบคุ คล
4. ก่อนโยนลูกใหค้ ว่าํ มือลงดงั รูปท่ี เหตุ
ท่ตี อ้ งคว่าํ มือเพราะจะสามารถบงั คบั ลกู
ใหไ้ ปตามทศิ ทางทเ่ี ราตอ้ งการไดไ้ ม่วา่
ลูกทปี่ ล่อยไปน้นั เป็นลูกเขา้ หรือลกู ตี
5. ก่อนโยนใหห้ กั ขอ้ มือลง และมว้ นเขา้
หาขอ้ มือ ในจงั หวะสุดทา้ ย ทจ่ี ะปล่อย
ลูกใหใ้ ชอ้ ุง้ มือส่งลกู ออกไป โดยใช้
ปลายนิ้วบงั คบั ลูก
หลกั การบงั คบั ลกู เปตอง
นกั เปตองที่ฝึกหดั ใหม่ มกั จะประสบ
ปัญหาเก่ียวกบั การบงั คบั ลกู เปตองอยา่ ง
มาก สาเหตุอาจมาจากการฝึ กทีผ่ ดิ หรือ
การไปจาํ วธิ ีการผอู้ น่ื แลว้ นาํ มาฝึ กอยา่ ง
ผดิ โดยขาดการแนะนาํ หรือจากการฝึ ก
ท่ีฝืนธรรมชาติของตนเอง การฝึ กการ
บงั คบั ลูก ไม่ว่าจะเป็นลกู เขา้ หรือลกู ตี
ลูกหมุนซา้ ย หมุนขวา หรือลกู สกรู (ลูก
หมุนกลบั หลงั ) ปลายนิ้วมือและขอ้ มือมี
ส่วนสาํ คญั เป็นอยา่ งมากในการบงั คบั ลกู
หลกั การเข้าลกู บูล
การเขา้ ลูกบลู ถือเป็นหวั ใจ
สาํ คญั ของการเล่นเปตอง ซ่ึงเป็นเรื่องท่ี
ยงุ่ ยากพอสมควร มีหลกั การเขา้ ลูกดงั น้ี
1. ใชค้ วามสงั เกต และจดจาํ ปัญหาต่าง ๆ
ท่ีเกิดข้ึนกบั ตนเอง และค่ตู ่อสู่
2. ศึกาพ้นื สภาพทีใ่ ชฝ้ ึ ก หรือแข่งขนั ว่า
มีสภาพเป็นเช่นไร แขง็ เรียบ ขรุขระ
ฯลฯ
3. หาจุดตก เพ่ือจะไดค้ าํ นวณน้าํ หนกั มือ
ทีจ่ ะส่งลูก ใหพ้ อเหมาะกบั ระยะ
4. ไม่ควรโยนลูกออกจากมือ ถา้ สมาธิยงั
ไม่ดีพอ
นอกเหนือจาก 4 ประการน้ีแลว้
ส่ิงที่อาจทาํ ใหก้ ารเขา้ ลกู ไม่ดีเท่าท่คี วรก็
คือ ลกู บลู น้าํ หนกั และมือไม่สมดุลกนั
การเขา้ ลกู มี 2 ลกั ษณะ คือ นง่ั กบั ยนื ไม่
ว่าจะเป็นการนงั่ หรือยนื เทา้ ท้งั สองขา้ ง
จะตอ้ งอยใู่ นวงกลม ไม่เหยยี บกนั และ
ไม่ยกเทา้ ในขณะโยนลกู
วธิ ีการเข้าลูก
วธิ ีการเขา้ ลูกมีอยู่ 3 แบบ
1. การโยนลกู ระยะใกล้(ลกู ไลน)์ การโยน
ลกู ระยะใกล้ (ลูกไลน)์ เป็นการโยนลูกใหต้ ก
ต้งั แต่จุดโยนหรือไม่เกิน 3 เมตร จากจุดโยน ใช้
แรงเหวย่ี งจากแขน ขอ้ มือ และปลายนิ้วส่งลกู
ระยะทางทล่ี ูกบลู วง่ิ เขา้ หาเป้ าจะมีระยะทางไกล
ทศิ ทางของลกู บลู อาจมีการเปล่ียนแปลงไดง้ ่าย
ตามลกั ษณะของพ้นื สนามการโยนลูกน้ีเหมาะ
สาํ หรับสนามเรียบเทา่ น้นั
2. การโยนลูกระยะกลาง (ฮาฟดร๊อป) การโยนลูก
ระยะกลาง (ฮาฟดร๊อป) เป็นการโยนลูกใหต้ ก
เกือบก่ึงกลางระหวา่ งจุดเร่ิมกบั ลกู เหา้ ตอ้ งโยนลกู
ใหส้ ูงกว่าการโยนลูกระยะใกล้และทุกลกู ทโ่ี ยน
ออกไปตอ้ งเป็นลกู ท่หี มุนกลบั หลงั (ลกู สกรู) ขอ้
สาํ คญั ของการโยนลกู คอื จุดตก การโยนลกู น้ี
เหมาะสาํ หรับพ้นื สนามทไ่ี ม่เรียบ เป็นหลุม พ้นื
สนามแขง็ ขระขระ หรือ จุดตกของการปล่อยลูก
ระยะใกลเ้ ป็นหลุมไม่สามารถหาจดุ ตกได้
3. การโยนลูกโด่ง (ดร๊อฟ) การโยนลกู โด่งตอ้ ง
โยนใหส้ ูงกว่าลูกระยะกลาง และตอ้ งใหล้ ูกหมุน
กลบั หลงั (สกรู) มากกว่า โดยใชป้ ลายนิ้วสกรูลกู
ไม่ใช่เป็นการกระดกขอ้ มลู การโยนลูกน้ีจุดตกมี
ความสาํ คญั มาก ลูกน้ีเหมาะสมกบั พ้นื สนามทไี่ ม่
เรียบ เปี ยกแฉะ เป็นหลุมเป็นบอ่ ตอ้ งโยนใหเ้ กือบ
ถึงลกู เป้ า ห่างจากลูกเป้ า ประมาณ 50-100 ซม.
วธิ ีการฝึ กเข้าลูก
วธิ ีท่ี 1 ใหเ้ ขียนวงกลมเป็นเป้ าหมายซอ้ นกนั หลาย
ๆ วง วงในสุดมีเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 20
ซม. วงนอกต่อ ๆ มาห่างกนั วงละ 10-15 ซม.
กาํ หนดคะแนนวงในให้ 5 คะแนน วงต่อ ๆ มา
เป็น 4,3,2,1 ตามลาํ ดบั แลว้ ฝึ กเขา้ ลกู จากระยะ 6
เมตร 6,5,7,7.5 ไปเร่ือย ๆ จนถึง 11 เมตร ฝึ กโยน
ทกุ ระยะ ระยะละ 40-50 ลูก แลว้ จดบนั ทึกคะแนน
แต่ละระยะไวเ้ พือ่ เปรียบเทียบถึงความบกพร่อง
ระยะใดที่มีความบกพร่องมากก็ใหฝ้ ึ กระยะน้นั
มากข้ึน
วธิ ีท่ี 2 ใหเ้ ขียนส่ีเหลี่ยมมีลูกเป้ าอยใู่ นส่ีเหล่ียมใน
สุด ซ่ึงมีรัศมี 20 ซม. จากน้นั ใหท้ าํ สี่เหล่ียมซอ้ น
ไปเรื่อย ๆ เส้นห่าง 5-10 ซม. กาํ หนดคะแนน
5,4,3,2,1 ตามลาํ ดบั ในแต่ละเสน้ ล่างของส่ีเหลี่ยม
จะมีลูกบลู อยโู่ ดยวางแบบสลบั ฟันปลา กาํ หนดจุด
ในการฝึ กเหมือนวธิ ีท่ี 1 ระยะใดบกพร่องก็ใหฝ้ ึ ก
ระยะน้นั มาก ๆ
วธิ ีที่ 3 การฝึ กเขา้ เหมือนแบบที่ 1 แต่เพม่ิ ลูกบลู ดกั
ไว้ ถา้ เขา้ ถกู ลูกบลู ทว่ี างไวถ้ ือว่าฟาวลต์ องติดลบ
คะแนน ฝึ กใหช้ าํ นาญ
วธิ ีการฝึ กตลี ูก
การตีลูกเป็นส่วนสาํ คญั ของการเลน่ เปตอง
อีกประการหน่ึง เม่ือไม่สามารถเขา้ ลกู ใหช้ นะคู่
ต่อสู้ได้ ตอ้ งอาศยั การตีลกู เพ่ือใหล้ กู ของค่ตู ่อสู้
ออกจากจุดทีต่ ้งั อยู่ ผเู้ ล่นทฝ่ี ึ กหดั ใหม่มกั เผชิญต่อ
ความยากลาํ บากในการตีและบงั คบั ลูก สาเหตุอาจ
มาจากขอ้ บกพร่องดงั น้ี
1. ผเู้ ล่นจบั ลกู ไม่ถูกวิธี และขาดสมาธิ
2. ผเู้ ล่นอาจตีลูกชา้ หรือเร็วเกินไป
3. การประสานงานของแรงตีลูกไม่ถกู จงั หวะ
4. การวางตวั และวางเทา้ ผดิ จากความถนดั ของ
ตนเอง
5. แขนงอ หรือแกวง่ ขณะตีลกู
6. ขาดความเช่ือมน่ั ในตวั เอง
7. ขาดการฝึ กซอ้ มหรือเวน้ ระยะการฝึ กซอ้ มนาน
เกินไป
8. ลูกเปตอง (ลกู บลู ) มีขนาดและน้าํ หนกั ไม่สม
ดูลกนั
แต่ถา้ ผฝู้ ึ กพบว่าสาเหตุต่าง ๆ ของการตีเกิดข้ีน
เพราะสาเหตุใด หรือหลายสาเหตุ ใหแ้ กไ้ ข
ดดั แปลงวธิ ีการฝึ กทีละข้นั แต่ตอ้ งจบั และวาง
ลาํ ตวั เทา้ ใหถ้ กู ตอ้ ง โดยอาศยั แรงจาก 3 แหล่ง
ใหญ่ คือ
1. แรงตีทเี่ กิดจากการเหวีย่ งของแขน
2. แรงตีทีเ่ กิดจากการดีดตวดั ขอ้ มือและนิ้วมือ
3. แรงตีท่ีเกิดจากาํ ลงั ขาท้งั สองขา้ ง โดยการยอ่ เข่า
ช่วยเลก็ นอ้ ย
การกีฬาแห่งประเทศไทย. ฝ่ ายพฒั นาและส่งเสริมกฬี ากรุงเทพฯ : บริษทั นิวไทยมิตรการพิมพ์
(1996) จาํ กดั , 2542.
กติกาการแข่งขนั เปตอง จดั ทาํ โดย กองวชิ าการและฝึ กอบรม ฝ่ ายพฒั นาและส่งเสริมกฬี า การ
กฬี าแห่งประเทศไทย [กรุงเทพฯ] : การกีฬาแห่งประเทศไทย, 2539.
กติกากีฬาเปตอง / จดั ทาํ โดย กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี า [จดั พมิ พถ์ วายเป็นพระราชกุศล
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเดจ็ พระเจา้ พนี่ างเธอ
เจา้ ฟ้ ากลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ วนั เสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน
2551] : กระทรวงการท่องเทย่ี วและกีฬา, 255
กติกาเปตอง / จดั ทาํ โดย ฝ่ ายวชิ าการกองกฬี า กรมพลศึกษา กรุงเทพฯ : ฝ่ ายวชิ าการฯ, 2534
กติกาสากลการเล่นเปตอง / สหพนั ธ์เปตองแห่งประเทศไทยในพระอปุ ถัมภ์ของสมเด็จพระศรี
นครินทราบรมราชชนน.ี กรุงเทพฯ : สหพนั ธ์เปตองแห่งประเทศไทย, [253?]