The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา เรื่อง หลวงพ่อด้วง วาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ วัดบางลุ่ม ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลทับช้าง<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หลวงพ่อด้วง วาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ วัดบางลุ่ม

วรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา เรื่อง หลวงพ่อด้วง วาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ วัดบางลุ่ม ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลทับช้าง<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา

สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ศูนย์การเรียนรู้ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา รายชื่อบุคคลอ้างอิง/ดำเนินการ ทีมงานดำเนินเรื่อง ผู้ให้ข้อมูล/บุคคลอ้างอิง : นางสมนึก อินสุวรรณ์ ผู้สำรวจข้อมูล/เขียนเรื่องราว : นางจารุวรรณ นกแก้ว : นายอรรถวุฒิ ขุนแก้ว : นายพรชัย ทองคง ทีมสนับสนุนระดับสถานศึกษา ผู้อำนวยการ สกร.อ.นาทวี : นางสาวนิตยา จิตภักดี ครู : นายพรพล พุทธวิโร ทีมสนับสนุนระดับหน่วยงาน ผู้อำนวยการ สกร.จังหวัดสงขลา : นางเกษร ธานีรัตน์ รองผู้อำนวยการ สกร.จังหวัดสงขลา : นางบุปผาชาติ เรืองกูล


ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี ให้ ความสำคัญกับการส่งเสริม สนับสนุนให้เยาวชนและ ประชาชนมีนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ โดยเฉพาะ การอ่านเรื่องราว ที่ถ่ายทอดออกมาจากบรรพบุรุษ หรือบุคคลในชุมชน ในรูปแบบของวรรณกรรมชุมชน วรรณกรรมชุมชน ที่ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอนาทวี ได้จัดทำขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะช่วยสืบทอด สืบสานและส่งต่อความงดงามทาง วัฒนธรรมสู่คนรุ่นหลัง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของครู ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี ในการลงพื้นที่ เก็บข้อมูล จากบุคคลต้นเรื่อง สถานที่จริง ผู้ถ่ายทอด เรื่องราวจากอดีตสู่ปัจจุบัน นิตยา จิตภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี


หลวงพ่อด้วงวาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ วัดบ้านลุ่ม หลวงพ่อด้วงลิ้นดำวาจาสิทธิ์ อิทธิฤทธิ์เล่าขานนานหนักหนา ท่านธุดงค์ถึงบ้านลุ่มสร้างวัดวา ด้วยบุญญาบารมีที่ครองตน วาจาสิทธิ์กล่าวเรื่องใดเป็นไปสิ้น ปาฏิหาริย์ลือทั่วถิ่น อริยสงฆ์ สุนัขดุ สั่งได้ ให้นอนลง ให้ฟ้าผ่ากลางวงการพนัน ถึงงานวัดหนังตะลุงมโนรามีท้าแข่ง ต่างสำแดงนานาสิ่งอาถรรพ์ สั่งไสยเวทย์วิชามาประจัญ จากไปพลันเหลือไว้เหล่ามนต์ดำ 1


พวกชาวบ้าน ร้านถิ่น ต่างเดือดร้อน เฝ้าหลอกหลอน ขวัญผวา กับอาถรรพ์ วิ่งมาหา หลวงพ่อด้วง ให้ช่วยพลัน ท่านจึงลั่น สั่งห้าม ด้วยรำคาญ เมื่อมีการ แข่งครั้งใด ไม่สำเร็จ ต้องมีเหตุ ให้เป็นไป ตามเล่าขาน บ้างล้มพับ ก่อนแสดง เพียงไม่นาน ต้องกล่าวขาน ขออนุญาต กาดแก้บน 2


หลวงพ่อด้วงวาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ วัดบ้านลุ่ม หลวงพ่อด้วง อมโร เดิมนั้นท่านเป็น พระภิกษุจำพรรษาที่ไทรบุรี ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นรัฐเคดาร์ ของมาเลเซียในปัจจุบัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติท่าน จึงได้ธุดงค์มายังประเทศไทย ท่านได้ตั้งจิตอธิฐานว่า หากพบหมู่บ้านใดที่มีบ้านเก้าหลังท่านจะสร้างวัดที่ 3


หมู่บ้านนั้น ท่านเดินธุดงค์ข้ามแนวชายแดนเทือกเขา น้ำค้างจนมาถึงบ้านลุ่ม มีบ้านเรือนเก้าหลังพอดี ท่าน จึงได้สร้างวัดบ้านลุ่มแห่งนี้ขึ้นมา วัดบ้านลุ่ม ตั้งอยู่เลขที่ 48 หมู่ 8 ตำบลทับ ช้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เริ่มก่อตั้งเมื่อ ประมาณปี พุทธศักราช 2300 และได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา ประมาณปีพุทธศักราช 2340 สังกัดคณะ สงฆ์มหานิกาย มีพ่อหลวงด้วงเป็นปฐมเจ้าอาวาสองค์ แรกและได้ติดต่อทางราชการจัดตั้งโรงเรียน ประถมศึกษาภายในวัดด้วย 4


วัดบ้านลุ่ม หลวงพ่อด้วง อมโร ท่านเป็นที่นับ ถือของพุทธศาสนิกชน ทั้งในประเทศมาเลเซียและ หมู่บ้านใกล้เคียง กิตติศัพท์ของท่านในด้านพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เลื่องลือมาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันพระ อธิการประวิช (นสุวรรณ์) ฐานกโร ครองตำแหน่งเจ้า อาวาส ลำดับที่ 12 5


ปาฏิหาริย์หลวงพ่อด้วงวาจาสิทธิ์ ลิ้นดำ ด้วยบุญญาบารมีของพ่อหลวงด้วงผู้ครองตน อยู่ในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จึงเป็นที่มาของปาฏิหาริย์ต่างๆ เป็นที่น่า อัศจรรย์ใจต่อบรรดาญาติโยมและลูกศิษย์ทั้งหลาย เป็นอย่างยิ่ง ดังเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้ 6


ฟ้าผ่ากลางวง เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจากการติดการพนันของ บรรดาถูกศิษย์วัดที่อาศัยอยู่ในวัด ที่เตรียมตัวบวชใน พรรษาถัดไป ซึ่งหน้าที่ประจำวันของลูกศิษย์ต้อง เตรียมอาหารไว้สำหรับถวายภัตตาหารเพลแด่พระใน วัด แต่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายกำลังหลงมัวเมาอยู่กับ การเล่นพนัน จึงทำให้การถวายภัตตาหารเพลแด่พระ ไม่ทันเป็นเวลา 3 วันติด หลวงพ่อด้วงจึงเผลอหลุด ปากออกไปว่า "ให้ฟ้าผ่าลงกลางวงที" สิ้นคำของ หลวงพ่อด้วง ในทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าลงกลางวงพนันแบบ ไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงวันและ ไม่มีเค้าของเมฆฝนแต่อย่างใด บรรดาลูกศิษย์ในวง 7


พนันต่างพากันตื่นตกใจและวิ่งมาหาหลวงพ่อด้วงด้วย อาการสั่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีด หลวงพ่อด้วง จึงใช้มือลูบหัวลูกศิษย์และตั้งจิตอธิษฐาน อาการของ ลูกศิษย์ทุกคนก็หายเป็นปลิดทิ้ง ตายเสียดีหวา เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจากการที่พ่อหลวงด้วง ได้รับกิจนิมนต์จากชาวบ้านในงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งบ้านนี้ขึ้นชื่อว่ามีหมาดุมากและจะทำร้ายคนแปลก หน้าทุกคนที่เข้ามาในบริเวณบ้าน ขณะที่ท่านเดินเข้า ไปในบริเวณบ้านนั้นหมาตัวนี้ก็เริ่มเห่ากรรโชกตาม 8


นิสัย หลวงพ่อด้วงก็หยุดเดินและพูดขึ้นว่า "หมาตัวนี้ กัดคน ตายเสียดีหวา" ทันใดนั้นหมาตัวนั้นก็ลงนอน แน่นิ่งไปในทันที และหลวงพ่อด้วงยังสั่งไม่ให้ผู้ใดแตะ ต้องหมาตัวนั้นเป็นอันขาด หลังจากเสร็จกิจนิมนต์แล้ว หลวงพ่อด้วงก็เดินไปหยุดอยู่ตรงที่หมาตัวนั้นนอนอยู่ แล้วพูดขึ้นว่า "ลุกขึ้นได้แล้ว อย่าหลับเลย" สิ้นคำพูด หมาตัวนั้นก็ลุกขึ้นยืนเหมือนเพิ่งตื่นจากนอนหลับ นำ ความอัศจรรย์ใจมาสู่ผู้ที่อยู่ในบริเวณงานเป็นอย่างยิ่ง ห้ามแข่งขันกันในวัด เป็นที่รู้กันดีว่าในสมัยโบราณมีความเชื่อเรื่อง ไสยศาสตร์ และภูตผีปีศาจกันเป็นอย่างมากจนเป็น ที่มาของของเรื่องราวการประชันโรง เพื่อเอารางวัล ระหว่างคณะหนังตะลุงกับคณะมโนราห์ที่จัดขึ้นใน 9


บริเวณวัด ตลอดระยะเวลาในการแข่งขัน หัวหน้า คณะทั้งสองต่างนำของดีของตนเองออกมากำราบคู่ ต่อสู้ซึ่งเป็นมนต์ดำต่างๆที่ต่างก็คิดว่าสามารถช่วยให้ คณะของตนเองได้รับชัยชนะออกมาใช้ในคืนนั้น เมื่อ การแข่งขันได้ดำเนินไปเสร็จสิ้น หัวหน้าคณะหนัง ตะลุงและคณะมโนราห์ได้เก็บข้าวของเดินทางกลับแต่ มีอยู่อย่างหนึ่งที่หัวหน้าคณะทั้งสองเอากลับไปไม่หมด นั้นก็คือเหล่ามนต์ดำทั้งหลายที่อยู่นอกเหนือจากการ ควบคุมหรือไม่สามารถควบคุมได้ จึงเร่ร่อนและ ล่องลอยไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านใน หมู่บ้านต่างๆนานา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นในแต่ละครั้ง ชาวบ้านก็จะมานิมนต์ให้หลวงพ่อด้วงไปช่วยขจัดปัด เป่าให้ทั้งกลางวันและกลางคืน ในวันหนึ่งๆ เป็นเวลา หลายรอบ สร้างความรำคาญใจให้กับหลวงพ่อด้วง เป็นอย่างมาก ท่านจึงสั่ง "ห้ามไม่ให้จัดการแข่งขัน หนังตะลุงและมโนราห์ขึ้นในบริเวณวัดอีกเป็นอัน ขาด" นับแต่พ่อหลวงด้วงมรณภาพแล้ว หากมีการ จัดการแข่งขันหนังตะลุงหรือมโนราห์ขึ้นในบริเวณวัด ครั้งใดก็มีเหตุให้ไม่สามารถที่จะทำการแข่งขันได้เลย ในแต่ละครั้งจะมีสมาชิกไม่คณะใดก็คณะหนึ่งจะต้อง 10


ประสบกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง บ้างก็ล้มเจ็บเสียเฉยๆ โดยไม่มีสาเหตุ บ้างก็เป็นล้มพับกลางงานจนไม่ สามารถทำการแข่งขันได้เลย และหากว่าคนในหมู่บ้าน จัดให้มีการละเล่นของหนังตะลุงหรือมโนราห์หรือมี คณะหนังตะลุงหรือมโนราห์เข้ามาเปิดทำการแสดง ภายในหมู่บ้านแล้วไม่กล่าวขออนุญาตต่อหน้าวิหารซึ่ง บรรจุอัฐิของหลวงพ่อด้วงก่อน ก็จะมีเหตุให้ไม่สามารถ ทำการแสดงได้เลย จึงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อ ๆ กันมาที่ต้องกล่าวขออนุญาตต่อหน้าวิหารหลวงพ่อด้วง ก่อนทุกครั้ง ซึ่งหากเป็นคณะหนังตะลุงก็ต้องนำรูป หนังมาเชิดหน้าวิหารหลวงพ่อด้วงก่อนการแสดง และ หากเป็นคณะมโนราห์เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จแล้ว ก็จะมาร่ายรำต่อหน้าวิหารหลวงพ่อด้วงก่อนทุกครั้ง จึงจะสามารถแสดงได้จนแล้วเสร็จโดยที่ไม่มีเหตุการณ์ ใดมารบกวนเลย 11


ปืนไม่ลั่น นับแต่หลวงพ่อด้วงมรณภาพ บรรดาถูกศิษย์ และญาติโยมก็ได้ก่อสร้างวิหารขึ้นเพื่อใช้บรรจุอัฐิของ หลวงพ่อด้วงเพื่อเป็นอนุสรณ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจของชาวบ้านและผู้ที่ให้ความเคารพศรัทธา และ หลังจากการบนบานศาลกล่าวได้รับผลดังที่หวังแล้วก็ มาแก้บน ของแก้บนที่หลวงพ่อด้วงโปรดปรานก็คือ ขนมโคสามหาม ทรายสามหาม เทียนทองสามหาม เสียงปืนและเสียงประทัด จากตำนานที่เล่าขานต่อกัน มาในการแก้บนด้วยเสียงปืนนั้น ชายชราผู้บนบานศาล กล่าว ไม่สามารถจะยิงปืนแก้บนเองได้จึงออกปากให้ 12


หลานชายเป็นผู้ยิงแก้บนแทน ส่วนตนเองนั่งฟังเสียง ปืนอยู่ที่บ้าน เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ได้ ยินเสียงปืนแก้บนเห็นแต่หลานชายเดินแบกปืน กลับมาบ้านโดยที่หลานชายบอกว่า "ปืนไม่ลั่น"ขอ แก้ไขปืนเสียใหม่ก่อนแล้วจะกลับไปยิงใหม่ ชายชราก็ ถามหลานชายว่าหันปากกระบอกปืนไปทางใด หลานชายก็บอกว่าหันปากกระบอกปืนไปยังด้านวิหาร พ่อหลวงด้วง ชายชราก็บอกว่าไม่ต้องแก้ไขปืน ให้ กลับไปใหม่แล้วหันปากกระบอกปืนไปทางอื่นอย่าหัน ไปทางวิหารหลวงพ่อด้วงเป็นอันขาด อึดใจต่อมา หลังจากหลานชายเดินกลับไปที่วัด ชายชราก็ได้ยิน เสียงปืนติดต่อกัน 2 นัดซ้อน ดังสนั่นไปทั่วหมู่บ้าน คาถาบูชาหลวงพ่อด้วง นะโม พุทธายะ เสสาสีติ มหาเถรา วิชิตา ชินะ สาวะกา เอเตสีติ มหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา ชะ ลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา 13


สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี บรรณาธิการ นางสาวนิตยา จิตภักดี ผู้อำนวยการ นางพัทธยา โชติรัตน์ บรรณารักษ์ คำประพันธ์ นางพัทธยา โชติรัตน์ บรรณารักษ์ รูปเล่มและภาพประกอบ นายพรพล พุทธวิโร ครู นางวิยดา หวันปะรัตน์ ครู นางสาวธัญสินี สุดทองคง ครู กศน.ตำบล จัดพิมพ์โดย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาทวี สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา พ.ศ. 2567 14


Click to View FlipBook Version