The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา เรื่อง โนรากาย ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลพิจิตร<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาหม่อม <br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โนรากาย

วรรณกรรมชุมชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา เรื่อง โนรากาย ของศูนย์การเรียนรู้ตำบลพิจิตร<br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอนาหม่อม <br>ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา

โนรากาย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำ เภอนาหมอม ศุูนย์การเรียนรู้ตำ บลพิจิตร รรณกรรมชุม ชุ ชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา


โนรากายทีมสนับสนุนระดับสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา :นางสุนิตย์ ไชยถาวร สำ นักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำ เภอนาหม่อม ศูนย์การเรียนรู้ตำ บลพิจิตร ทีมงานดำ เนินเรื่อง ผู้ให้ข้อมูล/บุคคลอ้างอิง : นายธรานนท์ เพชรสกุล ผู้สำ รวจข้อมูล/ผู้เขียนเรื่องราว : นางสาวสมสมร บัวชื่น : นางสาวสิรินดา นวลละออง ทีมสนับสนุนระดับหน่วยงาน ผู้อำ นวยการ สกร.จังหวัดสงขลา : นางเกษร ธานีรัตน์ รองผู้อำ นวยการ สกร.จังหวัดสงขลา : นางสาวบุปผาชาติ เรืองกุล


โนรากาย สารจากผู้อำ นวยการ สกร.จังหวัดสงขลา


โนรากาย สารจากรองผู้อำ นวยการ สกร.จังหวัดสงขลา


“นาหม่อมเมืองน่าอยู่ หลวงปู่ลิ้นดำ คู่บ้าน อาหารพื้นเมืองมากมี ทุเรียนพันธุ์ดี พื้นที่เศรษฐกิจ พอเพียง”การดำ เนินชีวิตของคนนาหม่อมเรียบง่าย ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์แบบเครือญาติ มีความผูกพัน กันอย่างใกล้ชิดมีความรักสามัคคี วรรณกรรมชุมชนเป็นเรื่องราวทางวัฒนธรรม สังคม บรรพบุรุษ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราว เพื่อให้ สืบค้นหาคุณค่าของดี ชุมชนและเกิดความภาคภูมิใจ ให้รู้รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ความดีงาม ของคนนาหม่อมในอดีตได้ และเข้าใจเรื่องราวของ ชุมชนตนเอง สำ นึกรักบ้านเกิดถิ่นฐานของตนเอง พร้อมทั้งส่งเสริมสืบสานวรรณกรรมชุมชน อำ เภอนาหม่อม ต่อไป โนรากาย “ร้อยเรียง เรื่องเล่า เพื่อเรียนรู้และถ่ายทอด” สุนิตย์ ไชยถาวร ผู้อำ นวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำ เภอนาหม่อม


จะขอกล่าวเล่าความ ไปตามเรื่อง ให้ฟูเฟื่อง คณะชาย ประกายศิลป์ แต่เบื้องหลัง ขอสาทก ยกวาทิน เลือดศิลปิน สืบทอดมา ครั้งตายาย ตั้งแต่เด็ก เริ่มหัดรำ ทำ ซัดท่า ศิลป์โนรา เริ่มก่อเกื้อ เพราะเชื้อสาย ตั้งแต่แรก อยู่โรงเรียน วัดพลีควาย (ปู่) โปหัดให้ เปิดซีดี ดนตรีรำ และศึกษา ต่อมา วิชาเรียน ด้วยความเพียร ทำ ตามครู รู้ไม่หลำ แม่ละมัย ฝึกสอนให้ กาย ได้รำ ทุกถ้อยคำ จำ ติดหู ครูชี้ทาง โนรากาย 1


เดินตามรีต ขีดตามรอย คอยเรียนรู้ ทำ ตามครู ไม่เพลิดเพลิน จนเหินห่าง ตัดจุกเสร็จ ก็ดำ เนิน เดินตามทาง ได้เริ่มสร้าง ตั้งวง ด้วยจงใจ ฝึกหัดเด็ก พร้อมลูกคู่ หมู่รำ ชุด ไม่เคยหยุด ไม่เคยเบื่อ ถึงเหงื่อไหล จารึกชื่อ ไว้ชัดเจน นิแหละเหลนโนราไว กายตั้งใจ ยกชู ทวดเหอขึ้นบูชา จะรักษา ไม่ให้หาย ถึงตายจาก จะขอฝาก ชื่อประกายศิลป์ ให้ถวิลหา จะสืบทอด ไม่ให้สิ้น ศิลป์โนรา สิ่งล้ำ ค่า คู่แผ่นดิน ถิ่นเมืองไทย โนรากาย นายธรานนท์ เพชรสกุล (ผู้ประพันธ์) 2


นายธรานนท์ เพชรสกุล หรือโนรากาย มีความสนใจในเรื่องมโนราห์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จึงได้เรียนมโนราห์อย่างจริงจังตอนเรียนอยู่โรงเรียน วัดพรหมประดิษฐ์ และได้หัดรำ มโนราห์ กับ ครูอรพิน อินทรัตน์ (ครูนุ้ย) หลังจากนั้นเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนธรรมโฆษิต ก็ได้เข้าชมรมมโนราห์ ซึ่งท่ารำ ก็รำ เท่าที่จะรำ ได้ เพราะเราไม่ได้ มีครูที่สอนได้ทุกอย่าง ซึ่งได้รำ อย่างจริงจังเมื่อตอนอยู่ ม.3 และ ได้เข้าไปเรียน กับมโนราห์ละมัยศิลป์ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ หลังจากนั้นก็ได้ฝึกฝนมโนราห์ อย่างจริงจัง ตามกระบวนการเรียนการสอน ในเรื่องมโนราห์ จนรำ ได้ ว่าบทได้ ออกพรานได้ โนรากาย ประวัติโนรากาย 3


หลังจากที่เรียนกับมโนราห์ ละมัยศิลป์มาโดยตลอด ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ก็สามารถออกงานได้อย่างจริงจังได้ ไปรำ กับหลายๆคณะ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้มีคณะเป็นของตัวเอง เพราะที่รำ อยู่ ประจำ คือจะรำ อยู่กับมโนราห์ละมัยศิลป์ ต่อมาก็ได้เข้า เรียนกับมโนราห์อรุณ ท่าข้ามและในนาหม่อม ก็จะมี มโนราห์ดุล โดยเข้าไปอยู่ช่วยใน โรงมโนราห์ แล้วแต่ใคร จะเรียกหาให้ไปรำ หรือตีเครื่องก็ได้ ออกพรานก็ได้ จนครบอายุ 21 ปี ได้เข้าพิธีตัดจุก ผูกผ้า ตั้งโรงครูใหญ่ ที่บ้าน 3 คืน 4 วัน เป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าได้สำ เร็จ เป็นโนราใหญ่ เต็มตัว โดยมีมโนราห์น้อม คงเกลี้ยง จากจังหวัดพัทลุง เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ (อุปัชฌาย์ในทางมโนราห์) โนรากาย 4


โนรากาย หลังจากเสร็จพิธีกรรมโรงครูก็ได้เข้าพิธีอุปสมบท ตอนที่บวชเป็นพระก็ยังได้ มีการฝึกมโนราห์ให้กับ ลูกศิษย์ด้วย ฝึกทั้งนางรำ ลูกคู่ ออกพราน ถ่ายทอด ความรู้ให้กับเด็กๆ เพราะตอนที่บวชเป็นพระก็ได้มี เด็กๆ ไปเฝ้ากันอยู่ในวัดก็ได้เกิดความคิดที่จะฝึก มโนราห์ให้กับเด็กๆ ถ่ายทอดความรู้โดย การบอกกล่าวว่าต้องทำ อย่างไรโดยไม่สามารถแสดง ท่าทางให้ดูได้ พอบวชครบ 1 พรรษา แล้วลาสิกขา ก็ได้รำ 3 วัด 3 บ้าน เป็นการบอกกล่าวให้รู้ว่า ได้สำ เร็จเป็นราชย์ครูโนราใหญ่เต็มตัว 5


หลังจากนั้น ก็ได้รับงานมาโดยตลอดและยังได้ฝึกหัด มโนราห์อย่างจริงจังให้กับเด็กๆที่มีความสนใจ โดยส่วนมากจะเริ่มจากเด็กๆ ในหมู่ที่ 4 ต.พิจิตรก่อน พอทราบข่าวการฝึกมโนราห์ก็ได้มีเด็กเกือบทุกตำ บล ในอำ เภอนาหม่อมและได้มีเด็กๆ จากที่อื่นๆมาร่วม เรียนมโนราห์ด้วย และเริ่มมีผลงานให้คนได้รับรู้ว่ามี คณะมโนราห์เกิดขึ้นแล้วในอำ เภอนาหม่อม โนรากาย 6


โนรากาย 7 ได้รับงานมาตลอด เช่น งานโรงครู แก้บน รำ โชว์ งานวัด งานกฐิน งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ แต่งานที่รับมาโดยตลอดคือ งานโรงครูที่มีทุกปี ไม่เคยขาด และมีมากขึ้นมาตลอด ซึ่งงานโรงครู ที่ได้รับในแต่ละปีมีไม่ต่ำ กว่า 30 โรงของทุกปี


โนรากาย โดยธรรมเนียมการปฏิบัติของมโนราห์แต่ละที่ จะ ไม่เหมือนกัน แต่มโนราห์สามารถที่จะปรับเปลี่ยนได้ ตลอดเวลาตามธรรมเนียมของแต่ละที่ งานโรงครู จะ อยู่ในช่วงเดือน 6,7,8,9 ซึ่งช่วงนี้ จะเน้นในเรื่อง ของพิธีกรรมงานโรงครู โดยมีการสอดแทรกการตั้ง หิ้ง แต่จะมีการเว้นช่วงการตั้งหิ้ง ในช่วงเดือนสิบ หลังจากนี้ ก็จะรับงานตลอด ส่วนงานแก้บนจะรับได้ ตลอดทั้งปี 8


การทำ พิธีกรรมโนราห์โรงครูคือโนราที่แสดง เพื่อประกอบพิธีเชิญครูหรือบรรพบุรุษโนรามายังโรงพิธี เพื่อรับการเซ่นสังเวย เพื่อรับของแก้บนและเพื่อครอบเทริด หรือผูกผ้าแก่ผู้แสดงโนรารุ่นใหม่ด้วย เหตุที่ต้องทำ การ เชื้อเชิญครู มาเข้าทรงหรือมา“ลง” ยังโรงพิธี จึงเรียก พิธีกรรมนี้อีกชื่อหนึ่งว่า “โนราลงครู” โนราลงครู เป็นพิธีกรรมที่มีความละเอียดแนบเนียน รอบคอบและ เป็นพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความเชื่อโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโนรา และผู้ที่มีเชื้อสายโนรา จุดเด่นของโนรากาย โนรากาย 9


โนรากาย 10 ชาวบ้านในพื้นที่อำ เภอนาหม่อม และใกล้เคียง ขอความช่วยเหลือบนบานในเรื่องต่างๆ หรือ จะมาขอรับ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างจากครูหมอโนรา เมื่อได้รับผลสำ เร็จตามความต้องการแล้วจึงได้ทำ พิธีโนรา ลงครู เพื่อการเซ่นไหว้แก้บนและยังได้ประกอบพิธีกรรม เหยียบเสน เป็นพิธีกรรม ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคซึ่ง เชื่อว่าเด็กที่เป็นเสนเป็นเพราะครูหมอ ทำ เครื่องหมายไว้ เลยต้องทำ พิธีกรรม ให้โนรารักษาที่เรียกว่าเหยียบเสน ถึงจะหาย โดยพิธีกรรมต่างๆนี้เป็นที่ยอมรับของคน ในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง


โนรากาย ค่าราชย์ เบิกโรง 212บาท ตัดเหมย 312บาท ตั้งราชย์ 12 บาท x (สอบราชย์หรือมุก) 3 ลูก ขั้นหมากแล้วแต่ศรัทธา ***ค่าราชย์ที่ลงท้ายด้วย 12 บาท เป็นความเชื่อที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ และได้มีการสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน 11


โนรากาย อุปกรณ์ในการทำ พิธีโรงครู เสื่อ หมอน ผ้าขาว ชุดเชี่ยนหมาก ประกอบด้วย ปูน หมาก พลู ยาเส้น ดอกไม้ ขัน สำ หรับใส่หมากพลู สายสิญจน์ สอบหมุก เทียน ชวาลา ใช้ในการประกอบ พิธีกรรม เครื่องเซ่นที่12 หมายถึง ข้าวแกง อาหารคาว หวาน ให้ครบ 12 ถ้วย 12 อย่าง หัวหมู ไก่ กล้วย อ้อย มะพร้าวอ่อน ข้าวสารใส่ในสอบราชย์ เหล้า น้ำ ผ้าคู่ (ชุดผู้หญิง ชุดผู้ชาย) แป้ง กระจก หวี เงินสำ หรับทำ พิธี 212 บาท 12


โนรากาย โนรากายได้นำ ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ ทั้งหมดนำ ไปสอน ให้กับนักเรียนในพื้นที่ อำ เภอนาหม่อม เช่น โรงเรียนบ้านต้นปริง โรงเรียน ธรรมโฆษิต โดยเป็นการสอนให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้มีการสืบทอดภูมิปัญญา ในการรำ มโนราห์ให้คงอยู่คู่คนไทยตลอดไป 13


รูปเล่มและภาพประกอบ นางสาวสุภารัตน์ พรมชาติ บรรณารักษ์ นายอัฆเดช ครุวรรณพัฒน์ นักจัดการงานทั่วไป นางสาวสิรินดา นวลละออง ครู กศน.ตำ บล โนรากาย สำ นักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำ เภอนาหม่อม บรรณาธิการ นางสาวสุภารัตน์ พรมชาติ บรรณารักษ์ คำ ประพันธ์ นายธรานนท์ เพชรสกุล จัดพิมพ์ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำ เภอนาหม่อม สำ นักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา พ.ศ.2567


สำ นักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดสงขลา กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ รื่รื่ รื่ อ รื่ องราว ตำตำตำตำนาน ควรค่ค่ ค่ า ค่ าเล่ล่า ล่ า ล่ ขาน ผ่ผ่ ผ่ า ผ่ านหนันั นั ง นั งสืสืสืสื อ วรรณกรรมชุม ชุ ชนเพื่อการเรียนรู้จังหวัดสงขลา


Click to View FlipBook Version