เรื่อ รื่ ง หน้า ประว้ติ ว้ ติ คุณธรรมที่ควรถือเป็นเเบบอย่าง ผลงาน 9-10 7-8 3-6
สมเด็จด็พระวันวัรัตรัมีนมีามเดิมดิว่า กิมกิเฮง บิดบิาเป็นป็พ่อพ่ค้าค้ชาวจีนจี ชื่อ ชื่ ตั้วตั้เก๊าก๊แซ่ฉั่ซ่วฉั่มารดาชื่อ ชื่ ทับทัทิมทิเสียสีชีวิชีตวิระหว่าว่งคลอดบุตบุรคน ที่สี่ ที่ สี่ ท่าท่นเกิดกิเมื่อ มื่ วันวัจันจัทร์ ขึ้น ขึ้ 11 ค่ำ เดือดืน 3 ปีมปีะเส็งส็ตรงกับกัวันวัที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2424 (นับแบบปัจปัจุบัจุนบัตรงกับกั ปี พ.ศ. 2425) ภูมิภูลำมิลำเนาท่าท่นอยู่บ้ยู่ าบ้นท่าท่แร่ ตำ บลสะแกกรังรัอำ เภอเมือมืง อุทัอุยทัธานี เมื่อ มื่ อายุไยุด้ 10 ปี ได้เด้รียรีนภาษาไทยกับกัพระอาจารย์ ชังชัวัดวัขวิดวิอยู่ 2 ปี แล้วล้ย้าย้ยไปเรียรีนกับกัพระสุนสุทรมุนีมุนี(ใจ) ขณะ ยังยัเป็นป็พระปลัดลัอยู่วัยู่ ดวัมณีธุดธุงค์
เมื่อ มื่ อายุไยุด้ 13 ปี ได้บด้รรพชาเป็นป็ สามเณรแล้วล้เรียรีนภาษาบาลีที่ลีวั ที่ วัด มณีธุดธุงค์ต่ค์อต่จนกระทั่งทั่อายุไยุด้ 16 ปี ตรงกับกั ปี พ.ศ. 2440 จึงจึย้าย้ย ไปอยู่วัยู่ ดวัมหาธาตุยุตุวยุราชรังรัสฤษฎิ์ เรียรีนภาษาบาลีกัลีบกัพระยาธรรม ปรีชรีา (ทิมทิ ) และหลวงชลธีธธีรรมพิทัพิกทัษ์ (ยิ้มยิ้ ) เมื่อ มื่ ยังยัเป็นป็มหา เปรียรีญ ต่อต่มาเรียรีนกับกัพระอมรเมธาจารย์ (เข้มข้ธมฺมมฺสโร) วัดวัมหา ธาตุฯตุสมเด็จด็พระวันวัรัตรั (แดง สีลวฑฺฒฑฺโน) สมเด็จด็พระวันรัตรั (ฑิต อุทอุโย) และ สมเด็จด็พระมหาสมณเจ้าจ้กรมพระยาวชิรชิญาณวโรรส เมื่อ มื่ ยังยัดำ รงพระยศเป็นป็กรมหลวง จนสอบได้ เปรียรีญธรรม 5 ประโยค ในปี พ.ศ. 2444 ถึงถึปีขปีาล พ.ศ. 2445 ได้อุด้ ปอุสมบทเป็นป็พระภิกภิษุที่วั ที่ ดวัมหาธาตุฯตุ สมเด็จด็พระวันวัรัตรั (ฑิต อุทอุโย) เป็นป็พระอุปัอุชปัฌาย์ พระธรรมวโรดม (จ่าจ่ย ปุณฺปุณณฺทตฺโตฺต) และ พระเทพเมธี (เข้มข้ธมฺมมฺสโร) เป็นป็คู่พคู่ ระกร รมวาจาจารย์ [3] แล้วล้เข้าข้สอบในปี ร.ศ. 122 ได้เด้พิ่มพิ่อีกอี 2 ประโยค รวมเป็นป็เปรียรีญธรรม 7 ประโยค [4] ต่อต่มาเข้าข้สอบอีกอี ได้เด้ป็นป็ เปรียรีญธรรม 8 ประโยค ในปี ร.ศ. 123 [5] และในที่สุ ที่ ดสุสอบได้ เปรียรีญธรรม 9 ประโยค ในปี ร.ศ. 124
พ.ศ. 2452 เป็นป็พระราชาคณะชั้นชั้สามัญมัที่ พระศรีวิรีสุวิทสุธิวธิงษ์[10] พ.ศ. 2455 เป็นป็พระราชาคณะชั้นชั้ราชที่ พระราชสุธีสุธีธรรมปรีชรีาภิมภิณฑ์ ปริยัริติยั โติกศล ยติคติณิศร บวรสังสัฆารามคามวาสี[11] พ.ศ. 2459 เป็นป็พระราชาคณะชั้นชั้เทพที่ พระเทพโมลี ตรีปิรีฎปิกธาดา มหากถิกถิสุนสุทร ยติคติณิศร บวรสังสัฆาราม คามวาสี[12] พ.ศ. 2464 เป็นป็พระราชาคณะชั้นชั้ธรรมที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ ปรีชรีาญาณดิลดิก ตรีปิรีฎปิกคุณคุาลงกรณ์ ยติคติณิศร บวรสังสัฆาราม คามวาสี[สี13] พ.ศ. 2471 เป็นป็พระราชาคณะเจ้าจ้คณะรองหนเหนือที่ พระพิมพิลธรรม มหันตคุณคุวิบุวิลบุปรีชรีา ญาณนายก ตรีปิรีฎปิกคุณคุาลังลัการภูสิภูตสิอุตอุดรทิศทิ คณิสสร บวรสังสัฆาราม คามวาสี[สี14] พ.ศ. 2482 เป็นป็ สมเด็จด็พระราชาคณะเจ้าจ้คณะใหญ่หญ่นใต้ที่ต้ ที่ สมเด็จด็พระวันวัรัตรั ปริยัริติยัพิติพัพิฒพันพงศ์ วิสุวิทสุธิสธิงฆปรินริายก ตรีปิรีฎปิกโกศล วิมวิล คัมคัภีรภีญาณสุนสุทร มหาทักทัษิณคณฤศร บวรสังสัฆาราม คามวาสี อรัญรั ญวาสี สมณศักดิ์
นับแต่เต่ป็นป็ สามเณรเปรียรีญ 4 ประโยค ท่าท่นก็ไก็ด้รัด้บรัมอบหมายให้เป็นป็ครู สอนในมหาธาตุวิตุทวิยาลัยลั [7] เมื่อ มื่ สมเด็จด็พระวันรัตรั (ฑิต) ชราภาพ สมเด็จด็ กรมพระยาวชิรชิญาณวโรรสโปรดให้ท่าท่นเป็นป็ผู้จัดจัการวัดมหาธาตุแตุทนมา ตั้งตั้แต่ปีต่ ปีพ.ศ. 2455[8] เมื่อ มื่ สมเด็จด็พระวันรัตรัมรณภาพในปี พ.ศ. 2466 ท่าท่นจึงจึ ได้รัด้บรั โปรดเกล้าล้ให้เป็นป็เจ้าจ้อาวาสสืบสืแทน[9] ตลอดช่วช่งเวลาที่ ครองวัดวัท่าท่นได้จัด้ดจัระเบียบีบวัดวัทั้งทั้ ในด้าด้นการทะเบียบีน การทำ สังฆกรรม จัดจัลำ ดับดัชั้นชั้การปกครองคณะ เข้มข้งวดกับกัจริยริวัตรของพระเณรในวัด และจัดจัการบูรบูณปฏิสัฏิงสัขรณ์เสนาสนะที่ท ที่ รุดรุโทรมและก่อก่สร้าร้งเพิ่มพิ่เติมติเพื่อ พื่ ให้เพียพีงพอกับกัการขยายการศึกษา นอกจากนี้ท่าท่นยังยัสนองงานถวาย สมเด็จด็กรมพระยาวชิรชิญาณวโรรสจนเป็นป็ที่พ ที่ อพระทัยทั เมื่อ มื่ พระราชบัญบัญัติญัคติณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 ประกาศใช้ ท่าท่นได้รัด้บรัคัดคัเลือลืก เป็นป็ ประธานสังสัฆสภาเป็นป็รูปรูแรก ศาสนกิจ
๑) เป็น ป็ ผู้เผู้คารพต่อพระรัตรันตรัยรั ๒) ป็น ป็ ผู้มีผู้ คมีวามกตัญญูกตเวที
๓) การบำ เพ็ญ พ็ สาราณียธรรม ๔) เป็น ป็ นักนั ปกครองที่ดีเยี่ย ยี่ ม
สมเด็จฯได้ขวนขวายจัดตั้งมูลนิธิบำ รุงการศึกษาพระปริยัริยั ติธรรมของ มหาธาตุ วิทวิยาลัยขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2468 เรีย รี กชื่อตามตราสารตั้งมูลนิธิว่าว่ “มูลนิธิโรงเรีย รี นบาลีมหาธาตุวิทวิยาลัย”มีคณะกรรมการทั้งฝ่ายบรรพชิต และฝ่าย คฤหัสถ์ร่วมจัดการ และมีระเบียบดำ เนินการอย่างรัดกุมเป็น อย่างดียิ่งสำ นักงานของมูลนิธิตั้ง อยู่ที่สำ นักงานพระคลังข้างที่ใน พระบรมราชวัง วั การจัดตั้งมูลนิธิของสมเด็จฯ ทำ ให้มหาธาตุวิทวิยาลัยสมัย นั้นมีฐานะมั่นคงเข้มแข็งและสามารถขยายการศึกษาได้ กว้า ว้ งขวางยิ่งขึ้น็ จพระวัน วั รัต (เฮง เขมจารี)รี เป็นนักการศึกษา ตำ แหน่งหน้าที่ประจำ ที่ไม่ เคยเปลี่ยนแปลงและยืดยาวนานของท่านคือ นายกมหาธาตุวิทวิยาลัย ซึ่ง ท่านได้รับช่วงสืบต่อมาจากสมเด็จพระวัน วั รัต (ฑิต) พระอุปัชฌาย์ของท่าน และท่านก็สามารถทำ นุบำ รุงและจัดการศึกษาของสถานศึกษาฝ่ายพระ มหานิกายแห่งนี้ ให้เจริญริก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง สมดังพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งปรากฏในประกาศพระ ราชปรารภในการก่อพระฤกษ์สังฆิกเสนาสนราชวิทวิยาลัยท้าว ความเดิม ถึงพระราชปณิธานที่ทรงตั้งมหาธาตุวิทวิยาลัยไว้ว่าว่ “อีกสถานหนึ่งเป็น ที่ เล่าเรีย รี นของคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ได้ตั้งไว้ที่ ว้ ที่ วัดมหาธาตุฯ ได้เปิดการ เล่าเรีย รี นมาตั้งแต่วัน วั ที่ 8 พฤศจิกายน รัตนโกสินทรศก 108 (พ.ศ. 2432) สืบมา
ผลงานด้านการบริหริาร สมเด็จพระวัน วั รัต (เฮง เขมจารี)รีได้สร้างความเจริญริ ให้แก่สำ นักวัด วั มหา ธาตุฯ เป็นอย่างมากในสมัยนั้น ทางด้านการศึกษามีพระมหาเปรีย รี ญมาก รูป และได้ส่งไปเป็นครูอาจารย์ยังวัด วั ต่าง ๆ ไปเป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะ ปกครอง เกียรติยศชื่อเสียงของพระสำ นักวัดมหาธาตุฯ ระบือไปทั่ว สังฆมณฑล ตลอดจนการก่อสร้างซ่อมแซมในวัด วั มหาธาตุ การก่อตั้ง มูลนิธิ ระเบียบกติกาของวัด วั ทำ ให้พระเณรเรีย รี บร้อย มีความขยันหมั่น เพียร เป็นที่ศรัทธาปสาทะของสาธุชนทั้งหลายเป็นอย่างมาก จึงถือว่าเป็น ผู้ทำ คุณงามความดีต่อพระพุทธศาสนาอย่างมหาศาล
จัดทำ โดย 1.นางสาวนวพรรษ เเก้ว ก้ อุ่นอุ่ เรือ รื น ม.5/3 เลขที่ 22 2.นางสาวอริณริยากรณ์ อัศอัวีน วี ารักรัษ์ ม.5/3 เลขที่ 26