กรมประมง กองวจิยัและพัฒนาการเพาะเลยี้งสตัวน์ ้าชายฝ่ัง กองวจิยัและพัฒนาสขุภาพสตัวน์ ้า
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 1 คู่มือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 1. บทน ำ 2 2. ฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทย 2 3. โรคกุ้งทะเลที่ส ำคัญ 3 4. กำรพัฒนำไบโอซีเคียวริตี้ในฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเล 9 4.1 วิธีกำรระบุปัจจัยเสี่ยงของฟำร์ม 9 4.2 กำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรค 4.2.1 กำรวิเครำะห์เส้นทำงที่เชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์ม 4.2.2 กำรแพร่กระจำยภำยในและปล่อยออกนอกฟำร์ม 9 9 10 5. กำรจัดกำรไบโอซีเคียวริตี้ในฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเล 11 5.1 มำตรกำรในภำวะปกติ 5.1.1 กุ้ง / สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค 5.1.2 บุคคล 5.1.3 เครื่องมือ / อุปกรณ์ / ยำนพำหนะ 5.1.4 น ้ำที่ใช้เลี้ยง 5.1.5 อำหำรและกำรให้อำหำร 5.1.6 ของเสีย (ซำกกุ้ง / น ้ำในบ่อเลี้ยง / น ้ำทิ้ง / ดินเลน) 5.1.7 กำรจัดกำรสุขภำพกุ้ง 11 13 14 14 15 15 16 5.2 มำตรกำรภำวะฉุกเฉิน 16 5.3 กำรถ่ำยทอดแนวปฏิบัติไปยังบุคลำกร 17 5.4 กำรบันทึกข้อมูล 17 5.5 กำรตรวจสอบและทบทวนแผนกำรด ำเนินงำนทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ 18 6. แบบประเมินตนเองทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ของฟำร์ม 19 7. เอกสำรอ้ำงอิง 24 8. ภำคผนวก 25
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 2 1. บทน ำ กำรเลี้ยงกุ้งทะเล เป็นภำคกำรผลิตสัตว์น ้ำชำยฝั่งเพื่อกำรบริโภคที่สร้ำงรำยได้ให้แก่เกษตรกรและประเทศไทยอย่ำงมำก ปัจจุบันมีจ ำนวนฟำร์มเลี้ยงเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับหลำยสิบปีก่อน กำรเลี้ยงมีรูปแบบและแนวปฏิบัติกำรจัดกำร ที่หลำกหลำย และโรคกุ้งยังเป็นปัญหำส ำคัญที่ท้ำทำยต่อควำมยั่งยืนในกำรประกอบอำชีพและอุตสำหกรรมกุ้งทะเล ของประเทศ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล ทั้งผู้ผลิตในฟำร์มขนำดเล็กไปจนถึงผู้ผลิตในฟำร์ม ขนำดใหญ่ เป็นปัญหำต่อเนื่องถึงควำมปลอดภัยด้ำนอำหำรและสุขภำพของผู้บริโภค เช่น ปัญหำกำรใช้ยำปฏิชีวนะ หรือยำต้ำนจุลชีพ และปัญหำกำรเกิดเชื้อดื้อยำในอำหำรและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น รวมถึงกระทบต่อควำมมั่นคงทำง อำหำรอีกด้วย มำตรกำรหนึ่งที่องค์กำรสุขภำพสัตว์โลก (World Organisation for Animal Health: WOAH) แนะน ำและส่งเสริมให้ น ำมำใช้ในกำรป้องกันและจัดกำรปัญหำกำรเกิดโรคระบำดในระบบกำรผลิตสัตว์น ้ำ คือ “มำตรกำรด้ำนควำมปลอดภัยทำง ชีวภำพ หรือ ไบโอซีเคียวริตี้ (Biosecurity)” โดยมุ่งเน้นกำรป้องกันเชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์ม กำรแพร่กระจำยเชื้อก่อโรค ภำยในฟำร์ม และกำรแพร่กระจำยของเชื้อโรคออกนอกฟำร์ม ซึ่งกำรประยุกต์ใช้ไบโอซีเคียวริตี้ในฟำร์มเพำะเลี้ยง สัตว์น ้ำ ต้องทรำบควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรค มีกำรประเมินควำมเสี่ยงของฟำร์มเพื่อสำมำรถวำงมำตรกำรป้องกัน โรคที่มีประสิทธิภำพ และน ำไปใช้จัดกำรแก้ไขปัญหำกำรเกิดโรคกุ้งทะเลภำยในฟำร์มให้หมดไปได้ ปัจจุบันไบโอซีเคียวริตี้ได้ถูกพัฒนำและน ำมำประยุกต์ใช้ในฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเลเพิ่มมำกขึ้น เป็นที่ยอมรับในหลำยภูมิภำค ทั่วโลก เกษตรกรไทยจึงควรให้ควำมสนใจ ศึกษำเรียนรู้ และน ำมำประยุกต์ใช้ในฟำร์ม อย่ำงไรก็ตำม ระดับควำมส ำเร็จใน กำรประยุกต์ใช้ไบโอซีเคียวริตี้อำจแตกต่ำงกันไป เนื่องจำกควำมไม่เข้ำใจหลักกำรหรือน ำหลักกำรไบโอซีเคียวริตี้ไปใช้ อย่ำงไม่ถูกต้องหรือเพียงพอ อีกทั้งไบโอซีเคียวริตี้ที่ดีเกษตรกรต้องน ำมำปฏิบัติใช้อย่ำงสม ่ำเสมอตลอดเวลำ ไม่ใช่ เฉพำะช่วงเวลำเกิดโรคระบำด เพื่อรักษำสถำนภำพปลอดโรคของฟำร์มได้อย่ำงต่อเนื่อง ดังนั้น กรมประมงจึงจัดท ำ คู่มือไบโอซีเคียวริตี้ขึ้น เพื่อเป็นแนวทำงให้เกษตรกรน ำไปประยุกต์ใช้ภำยในฟำร์ม อันจะช่วยลดควำมสูญเสียของ ผลผลิตกุ้งทะเลที่มีสำเหตุมำจำกกำรเกิดโรคระบำด สนับสนุนให้เกิดควำมยั่งยืนในอุตสำหกรรมกุ้งทะเลของประเทศไทยต่อไป 2. ฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทย ในปัจจุบันฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทยสำมำรถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักตำมสำยพันธุ์กุ้งที่เลี้ยง กลุ่มแรก คือ ฟำร์มเลี้ยงกุ้งขำว หรือ กุ้งขำวแวนนำไม (Litopenaeus vannamei)และกลุ่มที่สอง คือ ฟำร์มเลี้ยงกุ้งกุลำด ำ (Penaeus monodon) จำกข้อมูลกำรแจ้งประกอบกิจกำรกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำควบคุม ประเภทกิจกำรกำรเพำะเลี้ยง กุ้งทะเล ณ วันที่ 31 สิงหำคม 2566 ประเทศไทยมีฟำร์มเพำะเลี้ยงกุ้งทะเลทั้งหมด 42,425 ฟำร์ม กระจำยอยู่ใน 35 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตรำด ระยอง ฉะเชิงเทรำ นครนำยก ปรำจีนบุรี ชลบุรี ปทุมธำนี กรุงเทพฯ กำญจนบุรี นนทบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรปรำกำร สมุทรสงครำม สมุทรสำคร เพชรบุรี พระนครศรีอยุธยำ รำชบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ สุรำษฎร์ธำนีระนอง ภูเก็ต สตูล ตรัง พังงำ กระบี่ พัทลุง สงขลำ นครศรีธรรมรำช ปัตตำนี นรำธิวำส ชัยภูมิ และอุดรธำนี โดยจังหวัดที่มีฟำร์มเพำะเลี้ยงกุ้งทะเลมำกที่สุด คือ จังหวัดฉะเชิงเทรำ มีจ ำนวน 8,336 ฟำร์ม
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 3 รูปแบบกำรเลี้ยงกุ้งทะเลของประเทศไทยส่วนใหญ่ เป็นกำรเลี้ยงแบบพัฒนำหรือที่เรียกว่ำ กำรเลี้ยงแบบหนำแน่น (Intensive culture) เป็นกำรเลี้ยงกุ้งทะเลที่ใช้ลูกพันธุ์กุ้งจำกโรงเพำะฟักทั้งหมด ปล่อยลูกกุ้งในอัตรำควำมหนำแน่นสูง มีกำรให้อำกำศเพื่อเพิ่มปริมำณออกซิเจนในน ้ำ ให้อำหำรเม็ดส ำเร็จรูปตลอดระยะเวลำกำรเลี้ยง มีขั้นตอนกำรเตรียมน ้ำ กำรเตรียมบ่อเลี้ยงและกำรจัดกำรคุณภำพน ้ำก่อนและหลังเลี้ยง ตลอดจนกำรจัดกำรสุขภำพกุ้งและกำรจัดกำร สุขอนำมัยภำยในฟำร์มที่ดีทั้งนี้ กำรเลี้ยงกุ้งทะเลของไทยอยู่ภำยใต้มำตรฐำนสมัครใจ ได้แก่ มำตรฐำน GAP เน้น กระบวนกำรผลิตทั่วไป ควำมปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสวัสดิภำพสัตว์ มีข้อก ำหนดที่ เกี่ยวข้องกับกำรจัดกำรสุขภำพกุ้งในฟำร์มเพียงบำงส่วน และไม่ได้มีกำรกล่ำวถึงกำรประยุกต์ไบโอซีเคียวริตี้ใช้ในฟำร์ม เพื่อกำรป้องกันและควบคุมโรคอย่ำงชัดเจน 3. โรคกุ้งทะเลที่ส ำคัญ โรคกุ้งทะเลสำมำรถพบได้ทั้งในโรงเพำะฟัก โรงอนุบำล และฟำร์มเลี้ยง องค์ประกอบของกำรเกิดโรคในกุ้งทะเลมีสำมส่วน คือ ตัวกุ้ง เชื้อก่อโรค และปัจจัยแวดล้อม (ภำพที่ 1) ในสภำวะกำรเลี้ยงปกติที่กุ้งมีควำมแข็งแรง ไม่มีเชื้อก่อโรคใน ระบบและสิ่งแวดล้อมกำรเลี้ยงเหมำะสม โอกำสที่กุ้งเกิดโรคมีน้อย กรณีที่ไม่มีเชื้อก่อโรคในระบบกำรเลี้ยง โรคหรือ อำกำรผิดปกติที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้เกิดจำกกำรติดเชื้อแต่เกิดจำกปัจจัยแวดล้อมกำรเลี้ยงไม่เหมำะสมกับกำรด ำรงชีวิตของกุ้ง เช่น คุณภำพน ้ำ คุณภำพอำหำร สภำพอำกำศ และเทคนิคกำรจัดกำรกำรเลี้ยงที่ไม่เหมำะสม เป็นต้น ฟำร์มจะมีควำม เสี่ยงต่อกำรเกิดโรคระบำดเมื่อเปิดโอกำสหรือปล่อยให้เชื้อก่อโรคเข้ำมำในระบบ กำรจัดกำรสุขภำพของตัวกุ้งให้แข็งแรง จะช่วยลดโอกำสกำรเกิดโรคและลดควำมเสียหำยจำกเชื้อก่อโรคได้ ภำพที่ 1 องค์ประกอบของกำรเกิดโรคในกุ้งทะเล
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 4 โรคกุ้งทะเลเกิดจำกเชื้อก่อโรคหลำยกลุ่ม ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย รำ และปรสิต เชื้อแต่ละกลุ่มมีกำรก่อโรคที่ แตกต่ำงกัน เนื่องจำกมีควำมแตกต่ำงกันของช่องทำงกำรติดเชื้อ อวัยวะเป้ำหมำยของเชื้อ ควำมคงตัวในสภำวะ แวดล้อมที่แตกต่ำงกัน ควำมรวดเร็วของกำรแพร่กระจำยเชื้อ และพำหะน ำเชื้อที่แตกต่ำงกัน ส่งผลให้เชื้อแต่ละกลุ่ม มีควำมรุนแรงและสร้ำงควำมเสียหำยแตกต่ำงกัน เชื้อกลุ่มไวรัสเป็นเชื้อที่ไม่มียำรักษำ มีกำรถ่ำยทอดเชื้อทำงตรงจำกพ่อแม่สู่ลูกพันธุ์มีสัตว์พำหะหลำยชนิดที่เป็นแหล่งเชื้อ เชื้อถ่ำยทอดผ่ำนน ้ำ ผ่ำนกำรกินกุ้งที่มีเชื้อ ท ำให้กำรจัดกำรไม่ให้เชื้อเข้ำมำในระบบกำรเลี้ยงจึงเป็นไบโอซีเคียวริตี้ที่ดี ที่สุดส ำหรับเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสที่ก่อโรครุนแรงในกุ้งทะเลของประเทศไทย คือ เชื้อก่อโรคตัวแดงดวงขำว (White spot syndrome virus: WSSV) หัวเหลือง (Yellow head virus genotype 1: YHV) และแคระแกร็น (Infectious hypodermal and haematopoietic necrosis virus: IHHNV) ซึ่งจัดเป็นเชื้อประจ ำถิ่น เชื้อกลุ่มนี้ยังมีควำมเสี่ยงใน กำรตรวจพบในโรงเพำะฟักและอนุบำลและฟำร์มเลี้ยง โดยควำมเสียหำยจะพบในฟำร์มเลี้ยงมำกกว่ำโรงเพำะฟัก และอนุบำล นอกจำกนี้ยังมีเชื้ออุบัติใหม่ที่ต้องเฝ้ำระวังอีก 2 ชนิด คือ เชื้อก่อโรคกล้ำมเนื้อตำย (Infectious myonecrosis virus: IMNV) และเชื้อก่อโรคดีไอวีวัน (Decapod iridescent virus 1: DIV1) เชื้อกลุ่มแบคทีเรีย สำมำรถพบได้ในธรรมชำติในระดับที่ไม่ก่อโรค แต่ในระบบกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำที่มีกำรสะสม ของสำรอินทรีย์จำกอำหำรเหลือจ ำนวนมำก เป็นปัจจัยส ำคัญกระตุ้นให้เชื้อเพิ่มจ ำนวนได้อย่ำงรวดเร็วจนเกิดโรคระบำด กำรป้องกันเชื้อแบคทีเรียจึงควรเน้นที่กำรจัดกำรกำรให้อำหำรที่เหมำะสม รวมถึงกำรจัดกำรตะกอนของเสียและ สำรอินทรีย์ที่มีประสิทธิภำพ แม้ว่ำเชื้อกลุ่มแบคทีเรียจะสำมำรถใช้ยำรักษำได้ แต่กำรใช้ยำอำจส่งผลให้เกิดกำร ตกค้ำงของยำในเนื้อกุ้งและกำรดื้อยำต้ำนจุลชีพ ท ำให้ปัญหำโรคที่เกิดจำกกำรติดเชื้อแบคทีเรียไม่สำมำรถ แก้ปัญหำได้ด้วยกำรใช้ยำที่เคยใช้เชื้อแบคทีเรียก่อโรครุนแรงในกุ้งทะเล คือ เชื้อก่อโรคตับวำยเฉียบพลัน (VpAHPND) เชื้อนี้จัดเป็นเชื้อประจ ำถิ่นของประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งยังมีควำมเสี่ยงในกำรตรวจพบเชื้อ ทั้งในโรงเพำะฟัก โรงอนุบำล และฟำร์มเลี้ยง ปัญหำแบคทีเรียอีกชนิดที่พบทั้งในโรงอนุบำลและฟำร์มเลี้ยง คือ Filamentous bacteria ที่มักจะเกำะ ตำมล ำตัวและรยำงค์ของกุ้ง มีสำเหตุจำกคุณภำพน ้ำไม่ดี มีกำรสะสมของตะกอนสำรอินทรีย์ นอกจำกนี้ยังมีเชื้อ แบคทีเรียก่อโรคตับอักเสบ (NHPB) ที่อยู่ในบัญชีรำยชื่อขององค์กำรสุขภำพสัตว์โลก (WOAH) ที่ต้องช่วยกันเฝ้ำระวัง เนื่องจำกยังไม่มีรำยงำนกำรพบและสร้ำงควำมเสียหำยในประเทศไทย เชื้อรำ เชื้อ EHP (Enterocytozoon hepatopenaei) เป็นเชื้อก่อโรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเชื้อรำ ส่วนมำกจะตรวจพบใน กุ้งฟำร์มเลี้ยงที่มีอำกำรขี้ขำว จึงเป็นปัจจัยร่วมหนึ่งของกำรป่วยด้วยอำกำรขี้ขำวของกุ้งทะเล เชื้อนี้มีควำมเสี่ยง ตรวจพบทั้งในโรงเพำะฟัก โรงอนุบำล และฟำร์มเลี้ยง นอกจำกเชื้อ EHP ในโรงเพำะฟักและอนุบำล ยังมีปัญหำเชื้อรำ Fusarium solani เป็นสำเหตุของโรคจุดด ำ Aspergillus awamori เป็นสำเหตุของโรคเหงือกด ำ ที่เกิดจำกกำรสะสม ของตะกอนสำรอินทรีย์ ซึ่งมักพบเป็นปัญหำในโรงอนุบำล และเชื้อรำชนิดอื่น ๆ ได้แก่ Saprolegnia parasiticaและ Achlya flagellate เชื้อกลุ่มปรสิต ที่ยังพบทั้งในโรงอนุบำลและฟำร์มเลี้ยง คือ Zoothamnium sp. และ Acenita sp. โดยพบเกำะตำม รยำงค์และเหงือกของกุ้ง ส่งผลต่อระบบกำรแลกเปลี่ยนออกซิเจน เกิดจำกกำรสะสมของตะกอนสำรอินทรีย์ กำรลด ของเสียในบ่อเลี้ยงและกำรจัดกำรคุณภำพน ้ำ ช่วยลดปัญหำเชื้อปรสิตได้ทั้งในโรงอนุบำลและฟำร์มเลี้ยง
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 5 ในห่วงโซ่กำรผลิตกุ้ง หำกมีกำรปนเปื้อนของเชื้อก่อโรคต่ำง ๆ ในโรงเพำะฟักและอนุบำล จะมีโอกำสของกำร ปนเปื้อนเชื้อในลูกกุ้งถูกส่งต่อไปยังฟำร์มเลี้ยง กำรใช้ไบโอซีเคียวริตี้ในโรงเพำะฟักและอนุบำล จะช่วยลดควำม เสี่ยงของกำรปนเปื้อนเชื้อตั้งแต่ต้นสำยของกำรผลิตถึงฟำร์ม แต่หำกไม่มีไบโอซีเคียวริตี้ที่ดีพอในกำรป้องกันเชื้อ เข้ำฟำร์ม ก็สำมำรถท ำให้กุ้งในฟำร์มเกิดโรคได้ กำรใช้ไบโอซีเคียวริตี้ในฟำร์มเลี้ยงจึงมีควำมส ำคัญในกำรป้องกัน และลดปัญหำกำรเกิดโรคระบำดในกำรเลี้ยงกุ้งทะเล เนื่องด้วยมีเชื้อก่อโรคหลำยชนิดถูกตรวจพบในฟำร์มเลี้ยง ทั้งใน ส่วนของน ้ำที่ใช้เลี้ยง ดินบ่อเลี้ยง รวมถึงในพำหะต่ำง ๆ ในระบบกำรเลี้ยง โรคกุ้งทะเลที่ส ำคัญซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลควรรู้และเข้ำใจรูปแบบกำรแพร่กระจำยของโรค มีดังนี้ 1) โรคตัวแดงดวงขำว (White Spot Syndrome Disease: WSD) ● โรคตัวแดงดวงขำวเกิดจำกเชื้อไวรัสชนิด White Spot Syndrome Virus (WSSV) ● ในโรงเพำะฟักและอนุบำล กุ้งที่ติดเชื้อก่อโรคตัวแดงดวงขำวไม่แสดงอำกำรที่ชัดเจน ต้องใช้กำรตรวจ ทำงห้องปฏิบัติกำรด้วยวิธีพีซีอำร์ และกำรตรวจสอบสถำนภำพกำรปลอดเชื้อของพ่อแม่พันธุ์ ● กุ้งสำมำรถรับเชื้อได้ทุกระยะตั้งแต่ไข่จนถึงระยะพ่อแม่พันธุ์แต่อำกำรป่วยจะเห็นชัดในกุ้งบ่อเลี้ยง มำกกว่ำลูกกุ้งระยะ PL ● กุ้งติดเชื้อก่อโรคตัวแดงดวงขำวได้หลำยช่องทำง โดยสำมำรถถ่ำยทอดเชื้อผ่ำนจำกพ่อแม่กุ้งไปสู่ลูกกุ้งรุ่น ต่อไปได้ ซึ่งเป็นกำรติดเชื้อในไข่ กำรล้ำงไข่กุ้งไม่สำมำรถก ำจัดเชื้อได้ เมื่อพบกำรติดเชื้อในแม่พันธุ์จึงไม่ ควรใช้ผลิตลูกกุ้ง นอกจำกนี้เชื้อยังสำมำรถถ่ำยทอดผ่ำนน ้ำที่มีกำรปนเปื้อน และกำรกินกันเองของกุ้ง ● ในโรงอนุบำลกำรเลี้ยงลูกกุ้งที่อุณหภูมิน ้ำ 32 องศำเซลเซียส ไม่น้อยกว่ำ 7 วัน ช่วยลดกำรติดเชื้อก่อ โรคตัวแดงดวงขำวในลูกกุ้งได้ ● บ่อที่เกิดโรคตัวแดงดวงขำว จะมีเชื้อตกค้ำงในดินจ ำนวนมำก (106อนุภำค / กรัม) ในบ่อที่มีกำรจับกุ้ง ฉุกเฉินเชื้อในดินจะมีชีวิตอยู่ได้ 26 วัน ในดินที่ตำกแห้ง เชื้อมีชีวิตอยู่ได้ 19 วัน ดังนั้น กำรตำกบ่อเป็น ระยะเวลำ 20–30วัน ช่วยลดควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรคในรอบกำรเลี้ยงถัดไป ● บ่อที่เกิดโรคตัวแดงดวงขำวจะมีเชื้อตกค้ำงในน ้ำ (102อนุภำค / กรัม) จำกกำรทดสอบในห้องปฏิบัติกำร เชื้อในน ้ำที่ระดับ 103อนุภำค / กรัม)สำมำรถท ำให้กุ้งป่วยภำยใน 12 วัน ● สัตว์พำหะที่น ำเชื้อ ได้แก่ ปู อำร์ทีเมีย เพรียง และสัตว์น ำโรค ได้แก่ นก สุนัข และสัตว์เลี้ยง รวมถึงคน ● ในฟำร์มเลี้ยง กุ้งที่เป็นโรคตัวแดงดวงขำวจะว่ำยอยู่บริเวณผิวน ้ำหรือเกยขอบบ่อ ไม่มีแรงดีดตัว กิน อำหำรลดลง พบกุ้งในยอที่อ่อนแรงและมีสีเข้มกว่ำปกติ และอำจพบกุ้งตำยในยอ กุ้งที่ตำยอำจพบจุดขำว ขนำดเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 0.1 – 2.0 มิลลิเมตร บริเวณใต้เปลือกส่วนหัวและล ำตัว มักพบกำรระบำด ในช่วงรอยต่อของกำรเปลี่ยนฤดูกำล หรือในช่วงที่มีอำกำศหนำวหรือฝนตกหนักติดต่อกันหลำยวัน อัตรำกำรตำยของกุ้งสูงถึง 80 – 100% ภำยใน 4 – 5 วัน
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 6 ● แนวทำงกำรป้องกันและจัดกำรระหว่ำงเลี้ยงควรใช้ลูกกุ้งปลอดเชื้อ กรณีบ่อที่เกิดโรคในรอบกำรเลี้ยง ที่ผ่ำนมำต้องฆ่ำเชื้อในบ่อ ฆ่ำเชื้อในน ้ำที่น ำเข้ำบ่อเลี้ยง ก ำจัดสัตว์พำหะในช่วงกำรเตรียมบ่อ ควบคุมและป้องกันสัตว์พำหะและสัตว์น ำโรคระหว่ำงกำรเลี้ยง กรณีเกิดโรคในกุ้งเล็กที่ไม่สำมำรถจับ จ ำหน่ำยได้ให้ลงยำฆ่ำพำหะทิ้งไว้ประมำณ 14 วัน โดยปิดเครื่องตีน ้ำ เพื่อลดกำรฟุ้งกระจำยของเชื้อ ไวรัส กรณีกุ้งมีขนำดใหญ่ที่สำมำรถจ ำหน่ำยได้ ก่อนจับกุ้งให้สูบน ้ำออกจำกบ่อไปเก็บไว้ในบ่อว่ำง อำจใช้ Potassium monopersulfate 4 กิโลกรัม / ไร่ เพื่อลดเชื้อ โดยใส่ก่อนสูบน ้ำออกไปเก็บในบ่อ ว่ำง และใช้อวนลำกจับกุ้งจำกบ่อ 2) โรคหัวเหลือง (Yellow Head Disease: YHD) ● โรคหัวเหลืองเกิดจำกกำรติดเชื้อไวรัสชนิด Yellow head virus (YHV) มีควำมรุนแรงสูงในพื้นที่ ควำมเค็มต ่ำ พบกำรติดเชื้อได้ทั้งกุ้งขำวแวนนำไมและกุ้งกุลำด ำ ในทุกช่วงอำยุของกำรเลี้ยง ● จำกกำรทดลองในห้องปฏิบัติกำร พบว่ำ เชื้อ YHV มีชีวิตในน ้ำได้นำน 72 ชั่วโมง ในห้องปฏิบัติกำร และสำมำรถถูกท ำลำยได้ด้วยคลอรีน 30 พีพีเอ็ม ● กุ้งสำมำรถติดเชื้อ YHV ผ่ำนกำรกินกันเอง และผ่ำนน ้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน โดยกำรกินกันเองมักท ำให้ เชื้อแพร่ระบำดได้เร็วกว่ำกำรติดเชื้อผ่ำนทำงน ้ำ ● ในพื้นที่น ้ำจืดมีสัตว์พำหะที่สำมำรถน ำเชื้อ YHV ได้ คือ ปูนำ กุ้งฝอย กุ้งก้ำมกรำม แมลงน ้ำ และหอย พำหะเหล่ำนี้ถ้ำหลุดรอดเข้ำมำในระบบกำรเลี้ยง สำมำรถท ำให้กุ้งขำวแวนนำไมหรือกุ้งกุลำด ำเกิด กำรติดเชื้อและป่วยตำยได้ ● สัตว์น ำโรค ได้แก่ สัตว์เลี้ยงในฟำร์ม (เช่น สุนัข แมว เป็นต้น) และสัตว์กลุ่มของนก หนู เป็นต้น ก่อนแสดงอำกำรป่วยกุ้งมีพฤติกรรมกำรกินอำหำรมำกผิดปกติ โดยกุ้งป่วยแสดงอำกำรอ่อนแรง ว่ำยน ้ำบริเวณขอบบ่อ ล ำตัวซีด ส่วนหัวมีลักษณะซีดเหลือง เนื่องจำกสีของเหงือกซีดลงและสีของตับ และตับอ่อนเปลี่ยนจำกสีน ้ำตำลเป็นสีเหลือง กำรตำยเกิดขึ้นอย่ำงรวดเร็วหลังกุ้งเริ่มแสดงอำกำรป่วย โดยพบอัตรำกำรตำยอยู่ในช่วง 60–70% ในสองวันแรก และอำจเพิ่มเป็น 100% ในช่วง 3 –9 วัน ● แนวทำงกำรป้องกันเชื้อในโรงอนุบำล คือ กำรใช้พ่อแม่พันธุ์นอเพลียส น ้ำอำหำรมีชีวิต และเครื่องมือ/ อุปกรณ์ที่ผ่ำนกำรฆ่ำเชื้อก่อนน ำไปใช้ปลอดจำกเชื้อ YHV ● แนวทำงกำรป้องกันเชื้อในฟำร์มเลี้ยง ใช้แนวทำงเดียวกับกำรจัดกำรเชื้อตัวแดงดวงขำว ตำมที่กล่ำว มำแล้วข้ำงต้น 3) โรคตัวพิกำรหรือแคระแกร็น (Runt deformity/ Slow growth) ● โรคตัวพิกำรหรือแคระแกร็นเกิดจำกกำรติดเชื้อไวรัสชนิด Infectious Hypodermal and Hematopoietic Necrosis Virus (IHHNV)
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 7 ● เชื้อ IHHNV ส่งผลกระทบต่อกำรส่งออกกุ้งของประเทศไทยโดยเฉพำะกุ้งทะเลมีชีวิตเพื่อกำร เพำะเลี้ยงและกำรบริโภคส่งออกไปยังสำธำรณรัฐประชำชนจีนซึ่งก ำหนดให้สินค้ำกุ้งทะเลที่จะ น ำเข้ำสำธำรณรัฐประชำชนจีนต้องมีหนังสือรับรองกำรปลอดเชื้อ IHHNV ● ในประเทศไทยมีกำรตรวจพบเชื้อ IHHNV ทั้งกุ้งขำวและกุ้งกุลำด ำ โดยส่งผลให้กุ้งมีอำกำรตัว พิกำรแคระแกร็น และโตช้ำ ● เชื้อ IHHNV สำมำรถถ่ำยทอดผ่ำนจำกพ่อแม่กุ้งไปสู่ลูกกุ้งได้ กำรติดเชื้อเป็นกำรติดในไข่ กำรล้ำงไข่ กุ้งไม่สำมำรถก ำจัดเชื้อได้ เมื่อพบกำรติดเชื้อในแม่พันธุ์จึงไม่ควรน ำมำใช้ผลิตลูกกุ้ง นอกจำกนี้ เชื้อยังสำมำรถถ่ำยทอดผ่ำนน ้ำที่มีกำรปนเปื้อน และกำรกินกันเองของกุ้ง ● แนวทำงกำรป้องกันและจัดกำรระหว่ำงเลี้ยง ใช้แนวทำงเดียวกับกำรจัดกำรเชื้อตัวแดงดวงขำว ตำมที่กล่ำวมำแล้วข้ำงต้น 4) โรคตับวำยเฉียบพลันจำกเชื้อ Vibrio parahaemolyticus AHPND strain (VpAHPND) ● โรคตับวำยเฉียบพลัน (AHPND) หรือโรคตำยด่วน (EMS) เกิดจำกเชื้อแบคทีเรีย Vibrio parahaemolyticus ที่มียีนสร้ำงสำรพิษ (Photorhabdus insect-related (Pir) toxins, PirA and PirB) มีชื่อย่อว่ำเชื้อ VpAHPND โดยสำรพิษมีคุณสมบัติเหมือนยำฆ่ำแมลง ● เชื้อ VpAHPND ท ำควำมเสียหำยให้กับกุ้งบ่อเลี้ยง ทั้งกุ้งขำวแวนนำไมและกุ้งกุลำด ำ หลังลงเลี้ยงในบ่อดิน 10 – 40 วัน มีอัตรำกำรตำยสูงถึง 100% โดยพบกุ้งตำยจ ำนวนมำกบริเวณพื้นก้นบ่อ แตกต่ำงจำก กุ้งที่ป่วยด้วยโรคตัวแดงดวงขำวหรือโรคหัวเหลือง ที่พบกุ้งลอยเข้ำมำตำยบริเวณขอบบ่อ ● กำรติดเชื้อเป็นลักษณะกำรติดเชื้อเฉพำะที่ (Local infection) ในส่วนของระบบทำงเดินอำหำรโดยมีอวัยวะ เป้ำหมำย คือ กระเพำะอำหำร ตับและตับอ่อน และล ำไส้ ● กุ้งที่ติดเชื้อมีอำกำรเซื่องซึม ไม่แข็งแรง ว่ำยน ้ำช้ำ กินอำหำรลดลง อำหำรไม่เต็มล ำไส้ กุ้งเปลือกนิ่ม ตับ และตับอ่อนมีสีซีด ถ้ำติดเชื้อรุนแรงตับจะซีดขำว เนื้อตับเหนียวติดกัน ตับจะฝ่อเล็ก เมื่อส่องใต้กล้อง จุลทรรศน์จะเห็นกำรตำยของเนื้อเยื่อตับและตับอ่อน ● กุ้งสำมำรถติดเชื้อ VpAHPND ได้จำกกำรเลี้ยงกุ้งในน ้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ กำรเลี้ยงร่วมกับกุ้งหรือสัตว์พำหะ ที่มีเชื้อ หรือกำรกินซำกกุ้งป่วยที่ติดเชื้อ เชื้อไม่สำมำรถถ่ำยทอดจำกพ่อแม่สู่ลูกพันธุ์ แต่ลูกพันธุ์ สำมำรถติดเชื้อได้จำกน ้ำ อำหำร อุปกรณ์ที่มีกำรปนเปื้อนเชื้อ ● แนวทำงกำรป้องกันเชื้อ VpAHPND ในโรงอนุบำล โดยกำรใช้นอเพลียสจำกโรงเพำะฟักที่ได้มำตรฐำน มกษ. 7432 ที่มีกำรจัดกำรฟำร์มไบโอซีเคียวริตี้ที่ดี มีกำรเฝ้ำระวังโรค VpAHPND อย่ำงต่อเนื่อง ● แนวทำงกำรป้องกันและจัดกำรระหว่ำงเลี้ยงโดยใช้ลูกกุ้งปลอดเชื้อ ควบคุมไม่ให้มีอำหำรเหลือ มีกำร ตรวจสุขภำพและแบคทีเรียในตัวกุ้งเป็นระยะ ๆ และใช้จุลินทรีย์ในกำรควบคุมแบคทีเรียก่อโรค
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 8 5) โรคขี้ขำวหรือกลุ่มอำกำรขี้ขำว (White feces syndrome) ● เป็นอำกำรผิดปกติของระบบทำงเดินอำหำรของกุ้งที่เกิดจำกปัจจัยหลำยสำเหตุร่วมกัน สำเหตุหลัก มำจำกกำรอักเสบของล ำไส้ที่เกิดจำกกำรติดเชื้อ Enterocytozoon hepatopenaei (EHP) ร่วมกับเชื้อ แบคทีเรียกลุ่มวิบริโอ ส่งผลให้กำรดูดซึมอำหำรของล ำไส้กุ้งไม่ดี ประสิทธิภำพกำรใช้อำหำรลดลง กุ้งโตช้ำ ส่วนของผนังล ำไส้เกิดกำรหลุดลอกถูกขับถ่ำยออกมำเป็นเส้นสีขำว กุ้งบำงส่วนทยอยตำยระหว่ำง กำรลอกครำบเนื่องจำกกุ้งอ่อนแอ และกำรติดเชื้อฉวยโอกำส ● กลุ่มอำกำรขี้ขำวพบในกุ้งฟำร์มเลี้ยงในช่วงอำยุประมำณ 30 – 60 วัน โดยทั่วไปพบกุ้งป่วยด้วย อำกำรขี้ขำวในบ่อที่ปล่อยกุ้งหนำแน่น น ้ำขุ่น น ้ำหนืด เป็นบ่อระบบปิดหรือกึ่งปิด หรือระบบเปิดที่ไม่ มีวิธีกำรจัดกำรคุณภำพน ้ำที่ดีพอ โดยมีควำมเสียหำยในกุ้งขำวมำกกว่ำกุ้งกุลำด ำ ● แหล่งที่มำของเชื้อ EHP และแบคทีเรียที่ท ำให้เกิดกลุ่มอำกำรขี้ขำวนั้น ส ำหรับเชื้อ EHP ยังไม่มี ข้อมูลยืนยันกำรติดเชื้อทำงตรงจำกพ่อแม่พันธุ์ไปยังลูกพันธุ์แต่มีโอกำสที่เชื้อจะปนเปื้อนในน ้ำ ท ำให้พบ กำรติดเชื้อในลูกกุ้งระยะนอเพลียส ช่องทำงกำรติดเชื้อที่พบเป็นกำรติดเชื้อผ่ำนกำรเลี้ยงร่วมกัน โดย กำรกินกุ้งที่ตำยหรือขี้กุ้ง จำกกำรศึกษำของนักวิจัยจำกมหำวิทยำลัยอริโซน่ำ สหรัฐอเมริกำ (Aranguren et al., 2021) พบว่ำกุ้งที่ติดเชื้อ EHP หรือแบคทีเรีย Vibrioparahaemolyticus เพียง อย่ำงใดอย่ำงหนึ่งไม่ท ำให้กุ้งมีอำกำรขี้ขำว แต่เมื่อมีกำรติดเชื้อร่วมกันของ EHP และแบคทีเรีย V. parahaemolyticus ท ำให้กุ้งแสดงอำกำรขี้ขำวให้เห็นได้ แสดงให้เห็นว่ำอำกำรขี้ขำวเกิดจำกเชื้อก่อ โรคมำกกว่ำหนึ่งชนิด ● อำกำรเริ่มต้นของกุ้งขี้ขำว เริ่มจำกกุ้งกินอำหำรลดลง อำหำรไม่เต็มล ำไส้ พบลักษณะขี้ขำวในล ำไส้ พบขี้ขำว ลอยอยู่ผิวน ้ำ โตช้ำ ขนำดแตกต่ำงกันมำก (แตกไซส์) กุ้งเปลือกบำง ทยอยตำย ● แนวทำงกำรป้องกันเชื้อ EHP ในโรงอนุบำล ท ำได้โดยกำรก ำจัดเชื้อในน ้ำโดยใช้ปูนร้อน (CaO) เพิ่ม pH น ้ำให้สูงกว่ำ 9 เพื่อกระตุ้นให้สปอร์ EHP แตกตัวในสภำพที่ไม่มีกุ้งหรือสัตว์พำหะก่อนกำรฆ่ำเชื้อ ด้วยคลอรีนหรือสำรเคมีอื่น ๆ หลีกเลี่ยงกำรใช้อำหำรสดที่ปนเปื้อนเชื้อโดยกำรแช่แข็งอำหำรสด อย่ำงน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สปอร์ของเชื้อมีกำรเจริญก่อนกำรใช้เลี้ยงกุ้ง ● แนวทำงกำรป้องกันอำกำรขี้ขำวส ำหรับฟำร์มเลี้ยงคือควรใช้ลูกพันธุ์สุขภำพดีปลอดเชื้อ EHP มีกำร ตรวจสอบควำมสมบูรณ์ของตับและตับอ่อนของกุ้ง ทดสอบควำมทนทำนต่อควำมเครียดก่อนลงเลี้ยง ในส่วนของตัวเชื้อก่อโรค ฟำร์มต้องมีกำรตรวจสอบเชื้อแบคทีเรียและเชื้อ EHP ในตัวกุ้งระหว่ำงเลี้ยง เพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อมีกำรเพิ่มปริมำณจนท ำให้กุ้งป่วยด้วยอำกำรขี้ขำว
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 9 4. กำรพฒันำไบโอซีเคียวริตี้ในฟำรม์เลี้ยงก้งุทะเล ไบโอซีเคียวริตี้เป็นมำตรกำรกำรจัดกำรที่จัดท ำขึ้นและน ำมำใช้ปฏิบัติเพื่อลดควำมเสี่ยงของกำรน ำเชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์ม ลดควำมเสี่ยงกำรแพร่กระจำยเชื้อภำยในฟำร์ม และลดควำมเสี่ยงกำรแพร่กระจำยของเชื้อออกนอกฟำร์ม วัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันควำมเสียหำยทำงเศรษฐกิจที่เกิดจำกโรคระบำด ขั้นตอนกำรพัฒนำไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเล เริ่มต้นจำกกำรระบุปัจจัยเสี่ยงของฟำร์ม และกำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรค ทั้งกำรวิเครำะห์เส้นทำงที่เชื้อก่อโรคเข้ำ ฟำร์มและกำรแพร่กระจำยภำยในและปล่อยออกนอกฟำร์ม 4.1 กำรระบุปัจจัยเสี่ยงของฟำร์ม ฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเล มีปัจจัยเสี่ยงของกำรเกิดโรค ได้แก่ ตัวสัตว์ (ลูกพันธุ์/ สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค) บุคคล เครื่องมือ / อุปกรณ์/ ยำนพำหนะ น ้ำที่ใช้เลี้ยง อำหำรและปัจจัยกำรผลิต และของเสีย กำรระบุควำมปัจจัยเสี่ยงของฟำร์มได้ ควรพิจำรณำเป็นรำยโรคไป เนื่องจำกแต่ละโรคอำจพบว่ำมีปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่ำง เช่น • ปัจจัยเสี่ยงต่อกำรโรคตับวำยเฉียบพลัน (AHPND) หรือโรคตำยด่วน (EMS) เช่น ฟำร์มตั้งอยู่ใกล้กับ ฟำร์มที่มีประวัติกำรเกิดโรค AHPND ลูกกุ้งมำจำกแหล่งที่ไม่ปลอดโรค เป็นต้น • ปัจจัยเสี่ยงต่อกำรโรคตัวแดงดวงขำว (WSD) เช่น กำรเปลี่ยนฤดูกำล หรือในช่วงที่มีอำกำศหนำวหรือ ฝนตกหนักติดต่อกันหลำยวัน เป็นต้น 4.2 กำรวิเครำะห์ควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรค 4.2.1 กำรวิเครำะห์เส้นทำงที่เชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์ม 1) ตัวสัตว์ (ลูกพันธุ์/ สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค) • กำรใช้ลูกกุ้งติดเชื้อโดยเฉพำะเชื้อในกลุ่มไวรัสที่มีโอกำสแพร่จำกแม่สู่ลูก หรือกำร ปนเปื้อนในระหว่ำงกำรเพำะฟักและอนุบำล • สัตว์พำหะ เช่น ปู กุ้งเคย กุ้งกะต่อม หอยสองฝำ ติดเชื้อจำกนอกฟำร์ม เข้ำมำในบ่อเลี้ยงกุ้ง • สัตว์น ำโรค เช่น สุนัข แมว หรือนก ลงไปในบ่อเลี้ยงกุ้งที่ติดเชื้อจำกฟำร์มอื่น และน ำเชื้อ มำลงในบ่อเลี้ยงที่ไม่ติดเชื้อ 2) คน (บุคคลภำยนอก) บุคคลภำยนอกที่ไปยังฟำร์มอื่นที่เป็นโรคและปนเปื้อนเชื้อติดตัวเข้ำมำภำยในฟำร์ม โดยไม่ได้ อำบน ้ำ ฆ่ำเชื้อโรคก่อนเข้ำฟำร์ม 3) เครื่องมือ / อุปกรณ์/ ยำนพำหนะ • ยืมอุปกรณ์ต่ำง ๆ เช่น เครื่องสูบน ้ำ จำกฟำร์มอื่นที่เป็นโรคมำใช้ โดยไม่ฆ่ำเชื้อก่อนใช้งำนใน บ่อเลี้ยง • ยำนพำหนะที่ปนเปื้อนเชื้อจำกฟำร์มอื่น โดยเฉพำะรถจับกุ้ง เข้ำมำภำยในฟำร์มโดยไม่ผ่ำน กำรฆ่ำเชื้อ รวมถึงยำนพำหนะของผู้ปฏิบัติงำนและบุคคลภำยนอกผู้เข้ำเยี่ยมชมฟำร์มด้วย
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 10 4) น ้ำที่ใช้เลี้ยง กำรสูบน ้ำจำกแหล่งน ้ำธรรมชำติภำยนอกฟำร์มเข้ำมำใช้ โดยไม่ได้ฆ่ำเชื้อ 5) อำหำรและปัจจัยกำรผลิต • อำหำรปนเปื้อนเชื้อรำ • กำรใช้อำหำรสดเสริมให้กุ้งกินในระหว่ำงกำรเลี้ยง โดยไม่ฆ่ำเชื้อ • กำรใช้โพรไบโอติกหรือกระบวนกำรขยำยโพรไบโอติกที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ท ำให้เพิ่ม จ ำนวนเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในโพรไบโอติก เมื่อน ำมำใช้ก็จะเป็นกำรเพิ่มเชื้อในบ่อเลี้ยง 4.2.2 กำรแพร่กระจำยภำยในและปล่อยออกนอกฟำร์ม 1) ตัวสัตว์ (สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค) • สัตว์พำหะที่ติดเชื้อเดินข้ำมจำกบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่งภำยในฟำร์ม • สัตว์น ำโรคลงไปในบ่อเลี้ยงกุ้งที่ติดเชื้อจำกบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่งภำยในฟำร์ม • สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค จำกบ่อที่ติดเชื้อจำกฟำร์มที่เป็นโรค ออกสู่ธรรมชำติหรือออกไป ยังฟำร์มข้ำงเคียง 2) บุคคล (ผู้ปฏิบัติงำน) • ผู้ปฏิบัติงำนไม่มีควำมเข้ำใจและไม่ปฏิบัติตำมไบโอซีเคียวริตี้ • ผู้ปฏิบัติงำนคนเดียวปฏิบัติงำนหลำยบ่อ ไม่แบ่งพื้นที่กำรท ำงำนให้ชัดเจน เมื่อบ่อใดบ่อ หนึ่งเป็นโรค ผู้ปฏิบัติงำนก็จะน ำเชื้อไปติดบ่ออื่น 3) อุปกรณ์และยำนพำหนะ • ใช้อุปกรณ์ร่วมกับบ่อที่ติดเชื้อ ไม่แบ่งแยกอุปกรณ์ประจ ำแต่ละบ่อ • เมื่อใช้อุปกรณ์ในบ่อที่ติดเชื้อ ไม่ฆ่ำเชื้อก่อนน ำไปใช้ในบ่ออื่น • ยำนพำหนะออกจำกพื้นที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยไม่มีกำรท ำควำมสะอำดและฆ่ำเชื้อก่อนไปเข้ำ ฟำร์มอื่น 4) น ้ำที่ใช้เลี้ยง • ฟำร์มไม่ท ำกำรฆ่ำเชื้อน ้ำในบ่อที่เป็นโรคก่อนสูบไปเก็บในบ่อพักน ้ำ 5) ของเสีย (ซำกกุ้ง / น ้ำในบ่อเลี้ยง / น ้ำทิ้ง / ดินเลน) • ปล่อยน ้ำทิ้งจำกบ่อที่เป็นโรค ออกสู่ภำยนอกฟำร์มโดยไม่ฆ่ำเชื้อ • สูบน ้ำทิ้งจำกบ่อที่เป็นโรค ปล่อยลงสู่บ่อพักน ้ำโดยไม่ฆ่ำเชื้อ • ก ำจัดซำกกุ้งป่วยตำยไม่ถูกวิธี ท ำให้สัตว์พำหะ /สัตว์น ำโรคไปคุ้ยเขี่ยและน ำโรคไปยังบ่ออื่น • เมื่อจับกุ้งฉุกเฉินจำกสำเหตุกุ้งป่วยเป็นโรค แล้วไม่ลอกเลนพื้นบ่อ หรือตำกบ่อ ฆ่ำเชื้อ ก่อน ปล่อยรอบต่อไป ท ำให้กุ้งรอบใหม่ติดเชื้อซ ้ำอีก
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 11 5. กำรจดักำรไบโอซีเคียวริตี้ในฟำรม์เลี้ยงก้งุทะเล กำรน ำไบโอซีเคียวริตี้มำใช้กับฟำร์มเลี้ยงกุ้งทะเลเป็นกำรเพิ่มมำตรกำรเพื่อป้องกันควำมผิดพลำดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ในรูปแบบกำรน ำเข้ำเชื้อก่อโรคจำกภำยนอกเข้ำสู่ภำยในฟำร์ม กำรท ำให้เชื้อก่อโรคแพร่กระจำยในฟำร์มและกำรท ำให้ เชื้อก่อโรคหลุดรอดออกจำกฟำร์ม ฟำร์มสำมำรถศึกษำหลักกำรของระบบและน ำไปประยุกต์ใช้ให้เหมำะสมกับ ฟำร์มของตนเอง เพื่อลดวำมเสี่ยงในกำรพบเชื้อและเพิ่มประสิทธิภำพของระบบไบโอซีเคียวริตี้ 5.1 มำตรกำรในภำวะปกติ 5.1.1 กุ้ง / สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค 1) กุ้ง วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์มผ่ำนกุ้งทะเลมีชีวิต แนวทำงปฏิบตัิ: • กุ้งเป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ต่อฟำร์ม และควรมีมำตรกำรกำรจัดกำรที่เหมำะสม • ควรใช้ลูกกุ้งที่ปลอดโรค มำจำกแหล่งที่น่ำเชื่อถือได้ • กำรตรวจสอบสุขภำพของกุ้งที่เลี้ยงเป็นประจ ำทุกวัน และจดบันทึกควำมผิดปกติและกำรตำย ของกุ้ง รวมทั้งลักษณะของควำมเครียด พฤติกรรมของกุ้งที่เปลี่ยนแปลง หรือกำรพบเห็น สัตว์พำหะ • สืบหำสำเหตุของปัญหำที่เกิดขึ้น • สังเกตและจดบันทึกควำมผิดปกติและกำรตำยของสัตว์น ้ำในธรรมชำติรอบ ๆ ฟำร์ม • ทรำบช่องทำงติดต่อผู้เชี่ยวชำญด้ำนสุขภำพสัตว์น ้ำ เพื่อรับค ำปรึกษำและประเมินสุขภำพกุ้ง • มีกำรตรวจเชื้อก่อโรคในกุ้งทะเล และบันทึกประวัติกำรเกิดโรคอย่ำง • ตรวจสอบและจดบันทึกกำรตำยตลอดเวลำ เพื่อระบุแนวโน้มที่จะใช้อธิบำยว่ำเป็นอัตรำ กำรตำยอย่ำงปกติหรือไม่ปกติ • ถ้ำฟำร์มหรือผู้ปฏิบัติงำนพบว่ำกุ้งตำยอย่ำงผิดปกติ ให้แจ้งเจ้ำหน้ำที่กรมประมงในพื้นที่ • จัดท ำคู่มือกำรปฏิบัติงำน (SOP) หรือข้อควรปฏิบัติให้ผู้ปฏิบัติงำน ระบุช่องทำงแจ้ง เจ้ำหน้ำที่ที่มีอ ำนำจหน้ำที่ทรำบถึงกำรตำยของกุ้งและกำรตำยอย่ำงผิดปกติ
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 12 2) กำรเคลื่อนย้ำยกุ้ง วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์มผ่ำนกำรเคลื่อนย้ำยกุ้งเข้ำฟำร์ม ภำยในฟำร์ม และออกนอกฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • กุ้งที่เคลื่อนย้ำยเข้ำฟำร์ม ต้องมีเอกสำรแสดงผลกำรตรวจโรค (Test report) เพื่อให้มั่นใจ ว่ำกุ้งชุดนั้นปลอดโรค • น ้ำที่ใช้ในกำรล ำเลียงลูกกุ้ง ต้องสะอำด ไม่มีกำรปนเปื้อนของเชื้อโรค • กำรเคลื่อนย้ำยกุ้งภำยในฟำร์ม เช่น ย้ำยจำกบ่อช ำหรือย้ำยเพื่อลดควำมหนำแน่น ควรมีกำร ตรวจสุขภำพกุ้งก่อนกำรย้ำย เช่น กำรท ำ Stress test ตรวจควำมสมบูรณ์ของตับโดยกำร ส่องใต้กล้องจุลทรรศน์ เป็นต้น ต้องมั่นใจว่ำลูกกุ้งมีสุขภำพที่แข็งแรง ไม่แสดงอำกำรของ โรคติดเชื้อ • กรณีที่กุ้งมีกำรตำยอย่ำงผิดปกติ ไม่ควรทิ้งน ้ำที่ไม่ผ่ำนกำรก ำจัดเชื้อโรค เก็บเกี่ยวกุ้งโดย ระมัดระวังไม่ให้เกิดกำรแพร่เชื้อไปยังบ่อข้ำงเคียง กุ้งติดเชื้อควรน ำไปผลิตสินค้ำที่ปลอดภัย ก ำจัดเชื้อในอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้กับบ่อติดเชื้อ • กรณีเกิดโรคระบำดในฟำร์ม ควรมีกำรแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงำน เพื่อไม่ให้เกิดกำรแพร่เชื้อ จำกฟำร์มสู่ภำยนอก กำรแจ้งเตือนควรด ำเนินกำรจนสถำนกำรณ์กลับสู่ภำวะปกติ แสดง สัญลักษณ์สถำนกำรณ์กำรติดเชื้อภำยในฟำร์ม เช่น ยกธงแดง เพื่อให้เกษตรกรข้ำงเคียง จะได้ระมัดระวังในกำรปฏิบัติงำนของฟำร์ม เช่น ไม่สูบน ้ำเข้ำ สังเกตสุขภำพกุ้ง ป้องกันนก เข้ำมำภำยในฟำร์ม • บันทึกข้อมูลกำรเคลื่อนย้ำยกุ้งเข้ำฟำร์มและออกจำกฟำร์ม • ป้องกันไม่ให้กุ้งหลุดรอดออกนอกฟำร์ม 3) สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของพำหะน ำโรคเข้ำสู่ฟำร์ม แพร่ภำยในฟำร์ม และออกนอกฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • ควบคุมสัตว์พำหะที่มำกับน ้ำ เช่น กุ้งฝอย กุ้งกะต่อม และโคพิพอด โดยกำรติดตั้งระบบกรองน ้ำ และใช้สำรเคมีฆ่ำพำหะ และควบคุมสัตว์พำหะที่เคลื่อนที่ได้ เช่น ปู โดยกำรติดตั้งรั้วกันปู เป็นต้น ส ำหรับหอยสองฝำ อำจใช้สำรคอปเปอร์ซัลเฟตในกำรก ำจัด • ควบคุมสัตว์น ำโรค เช่น นก เข้ำระบบเลี้ยง โดยกำรติดตั้งเชือกกันนก • เมื่อพบสัตว์พำหะภำยในฟำร์ม ต้องมีกำรตรวจสอบควำมบกพร่องของมำตรกำรที่ใช้ ควบคุมสัตว์พำหะ และแก้ไขโดยเร็ว
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 13 5.1.2 บุคคล 1) ผู้ปฏิบัติงำนและบุคคลภำยนอก วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรที่ผู้ปฏิบัติงำนและบุคคลภำยนอกจะน ำเชื้อโรคเข้ำสู่ฟำร์ม แพร่กระจำยภำยในฟำร์ม และออกจำกฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • กำรเข้ำฟำร์มของผู้ปฏิบัติงำนและบุคคลภำยนอกเป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ต้องมั่นใจว่ำควำมเสี่ยงจำกผู้ปฏิบัติงำนและบุคคลภำยนอกถูกจัดกำรโดยใช้มำตรกำรที่ เหมำะสม • จัดระบบเข้ำฟำร์ม เช่น กำรลงชื่อและควบคุมกำรเข้ำฟำร์ม • จ ำกัดกำรเข้ำถึงของบุคคลภำยนอกเข้ำพื้นที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญำต หรือให้อยู่บริเวณที่ ได้รับอนุญำตเท่ำนั้น • ติดป้ำยประกำศมำตรกำรไบโอซีเคียวริตี้ • บุคคลภำยนอกควรได้รับค ำอธิบำยโดยย่อเกี่ยวกับมำตรกำรไบโอซีเคียวริตี้ภำยในฟำร์ม เช่น ห้ำมไปฟำร์มเพำะเลี้ยงกุ้งอื่นอย่ำงน้อย 24 ชั่วโมง • ฟำร์มควรจัดให้มีรองเท้ำบู๊ทส ำหรับเข้ำพื้นที่ผลิต และที่ล้ำงมือ • เก็บข้อมูลของบุคคลภำยนอกทั้งหมดที่เข้ำฟำร์ม • ผู้จับกุ้งไม่ควรเดินเพ่นพ่ำน และกรณีแบ่งจับควรเตรียมที่จุ่มตัวที่ใส่สำรคลอรีน 30 – 40 พีพีเอ็ม ให้ผู้จับกุ้งลงจุ่มตัวก่อนปฏิบัติงำน และจุ่มอวน • เก็บข้อมูลกำรศึกษำและกำรฝึกอบรมของผู้ปฏิบัติงำน 2) กำรควบคุมกำรเข้ำฟำร์ม วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภำยนอกและบุคคลที่ไม่ได้รับ อนุญำตให้เข้ำฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • ฟำร์มควรก ำหนดพื้นที่ไบโอซีเคียวริตี้ที่ชัดเจน เช่น มีรั้วรอบหรือก ำหนดขอบเขตโดยวิธีอื่น เช่น คูน ้ำ รั้วธรรมชำติ แนวต้นไม้ เป็นต้น ภำยในฟำร์มควรแยกโซนบ้ำนพัก และบ่อเลี้ยง ให้ชัดเจน • กรณีที่ฟำร์มมีประตูรั้ว ควรมีกำรปิดล็อคทำงเข้ำฟำร์มเพื่อป้องกันไม่ให้มีกำรเข้ำถึงโดย ไม่ได้รับอนุญำต ปิดล็อคทำงเข้ำในช่วงเวลำไม่ให้เข้ำฟำร์ม • อำจติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันกำรก่อกวนมำตรกำรควำมปลอดภัย (เช่น ขโมย)
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 14 5.1.3 เครื่องมือ / อุปกรณ์/ ยำนพำหนะ วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อโรคเข้ำสู่ฟำร์ม ภำยในฟำร์ม และออกจำกฟำร์ม โดยผ่ำน เครื่องมือ อุปกรณ์และยำนพำหนะ แนวทำงปฏิบตัิ: • เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้และยำนพำหนะที่เข้ำฟำร์ม เป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ต้องมั่นใจว่ำควำมเสี่ยงจำกเครื่องมือ อุปกรณ์และยำนพำหนะถูกจัดกำรโดยใช้มำตรกำรที่ เหมำะสม • เครื่องมือ อุปกรณ์ บ่อ ถัง และโครงสร้ำงพื้นฐำนที่เกี่ยวข้องควรอยู่ในสภำพที่สะอำด และ มีกำรก ำจัดเชื้อ • ฟำร์มควรมีกำรขนส่งที่ดีและมีพื้นที่จอดส ำหรับยำนพำหนะที่เข้ำมำส่งของโดยเฉพำะ • หำกเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงกำรใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ร่วมกับบ่ออื่นภำยในฟำร์มและ ระหว่ำงฟำร์ม และควรหลีกเลี่ยงกำรใช้ยำนพำหนะร่วมกับฟำร์มอื่น เมื่อมีกำรใช้อุปกรณ์ และยำนพำหนะร่วมกันระหว่ำงฟำร์ม ต้องมีกำรท ำควำมสะอำดและก ำจัดเชื้อและมีกำรจดบันทึก • วำงต ำแหน่งท่อ รำงน ้ำ บ่อ และถัง เป็นต้น ให้ง่ำยต่อกำรท ำควำมสะอำด • บันทึกกำรท ำควำมสะอำดและก ำจัดเชื้อของเครื่องมือ อุปกรณ์ บ่อ ถัง และโครงสร้ำง พื้นฐำน และยำนพำหนะของฟำร์ม 5.1.4 น ้ำที่ใช้เลี้ยง วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อก่อโรคเข้ำฟำร์มผ่ำนน ้ำ แนวทำงปฏิบตัิ: • น ้ำที่ใช้เลี้ยงเป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ต้องมั่นใจว่ำควำมเสี่ยงจำกน ้ำที่ใช้เลี้ยง ถูกจัดกำรโดยใช้มำตรกำรที่เหมำะสม • ทำงน ้ำเข้ำและทำงน ้ำออกควรมีระยะห่ำงที่เหมำะสม เพื่อป้องกันกำรปนเปื้อนข้ำม • ติดตั้งถุงกรองที่ท่อน ้ำเข้ำเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์น ้ำในธรรมชำติเข้ำสู่ฟำร์ม • ก ำจัดเชื้อในน ้ำที่น ำเข้ำมำใช้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เพื่อลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อ เข้ำฟำร์ม เช่น กำรตรวจเชื้อในน ้ำ กำรกรอง กำรใช้สำรเคมีในกำรก ำจัดเชื้อ เป็นต้น • มีกำรตรวจสอบระบบก ำจัดเชื้อในน ้ำอย่ำงสม ่ำเสมอและรักษำบ่อเก็บน ้ำให้อยู่ในสภำพที่ดี • กำรไหลของน ้ำภำยในฟำร์มควรมีประสิทธิภำพในกำรลดกำรแพร่เชื้อสู่บ่ออื่นๆ • มีวิธีกำรแก้ไขกรณีพบกำรก ำจัดเชื้อในน ้ำผิดพลำด เช่น อบรมให้ควำมรู้แก่ผู้ปฏิบัติงำน กรณีบ่อพักสำมำรถลงสำรเคมีเพิ่มให้ได้ควำมเข้มข้นที่ก ำหนดในบ่อเลี้ยง เฝ้ำระวังหรือ ตรวจเชื้อไวรัสในกุ้งในบ่อเลี้ยงภำยใน 5 –7 วัน • บันทึกข้อมูลกำรก ำจัดเชื้อในน ้ำทั้งหมด รวมถึงกำรบ ำรุงรักษำที่กรอง
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 15 5.1.5 อำหำรและกำรให้อำหำร วัตถุประสงค์: • เสริมสร้ำงสุขภำพกุ้งลดควำมเสี่ยงของอำหำรที่จะท ำให้กำรเกิดโรครุนแรงขึ้นหรือน ำโรคเข้ำสู่ฟำร์ม แพร่กระจำยภำยในฟำร์ม และออกนอกฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • อำหำรทั้งหมดที่เข้ำฟำร์มเป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ต้องมั่นใจว่ำควำมเสี่ยง จำกอำหำรถูกจัดกำรโดยใช้มำตรกำรที่เหมำะสม • อำหำรสัตว์ควรมำจำกแหล่งที่มั่นใจได้ว่ำมีคุณภำพและโภชนำกำรครบถ้วน • ใช้อำหำรที่ใหม่ ไม่มีเชื้อรำ • ควรเก็บอำหำรในพื้นที่เก็บอำหำรที่สะอำดและไม่ชื้น มีพื้นที่ส ำหรับวำงอำหำรให้สูงจำกพื้น อย่ำงน้อย 20 เซนติเมตร ป้องกันควำมชื้นจำกพื้นมำสู่อำหำร เพื่อหลีกเลี่ยงกำรปนเปื้อน และท ำให้คุณภำพของอำหำรลดลง • หมั่นสังเกตควำมผิดปกติของอำหำร เช่น กำรเกิดเชื้อรำ และสิ่งไม่พึงประสงค์เป็นประจ ำ • ให้อำหำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ เพื่อป้องกันอำหำรเหลือที่อำจเป็นสำเหตุให้คุณภำพน ้ำ เสื่อมโทรม และก่อให้เกิดกำรเพิ่มปริมำณของแบคทีเรียก่อโรค • กรณีมีกำรใช้อำหำรมีชีวิต เช่น อำร์ทีเมีย ในกำรอนุบำลลูกกุ้งภำยในฟำร์ม ต้องมั่นใจว่ำ ปลอดจำกเชื้อก่อโรคกุ้งทะเล มำจำกแหล่งที่น่ำเชื่อถือได้ 5.1.6 ของเสีย (ซำกกุ้ง / น ้ำในบ่อเลี้ยง / น ้ำทิ้ง / ดินเลน) วัตถุประสงค์: • ลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่กระจำยเชื้อก่อโรคผ่ำนกำรปล่อยน ้ำออกนอกฟำร์ม ลดควำมเสี่ยง ของกำรเกิดโรคและสัตว์พำหะแพร่กระจำยผ่ำนน ้ำทิ้งหรือน ้ำที่เปลี่ยนถ่ำยออกจำกฟำร์ม แนวทำงปฏิบตัิ: • ซำกกุ้ง / น ้ำในบ่อเลี้ยง / น ้ำทิ้ง / ดินเลน เป็นควำมเสี่ยงทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ต่อฟำร์ม และสิ่งแวดล้อม และควรมีมำตรกำรกำรจัดกำรที่เหมำะสม • น ำซำกกุ้งออกจำกบ่อทันที ถ้ำกุ้งตำยเพรำะโรคระบำดหรือสงสัยว่ำเป็นโรคระบำด ควรแจ้ง เจ้ำหน้ำที่กรมประมงโดยเร็ว เก็บซำกกุ้งนั้นในสภำพที่เหมำะสมต่อกำรตรวจวินิจฉัยโรค ควบคุมไม่ให้ซำกกุ้งปนเปื้อนในระบบเลี้ยงและปลอดภัยจำกสัตว์พำหะ หำกกุ้งยังมีขนำดเล็ก ไม่สำมำรถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ควรก ำจัดและฆ่ำเชื้อก่อโรคในกุ้ง โดยใช้คลอรีน 200 ppm แช่นำน 24 – 48 ชั่วโมง บันทึกข้อมูลกำรเกิดโรค และสิ่งที่ด ำเนินกำรไปทั้งหมด • ทิ้งซำกครำบกุ้งโดยวิธีฝังและใช้สำรเคมีที่สำมำรถท ำลำยเชื้อจุลินทรีย์หรือเชื้อก่อโรค ต่ำงๆ เช่น คลอรีน หรือปูนร้อน (CaO) รำดหรือโรยปิดทับซำกของกุ้งที่ฝังดินรวมถึง บริเวณปำกหลุมที่ฝังด้วย หรือใช้กำรเผำ • ไม่ปล่อยน ้ำที่ไม่ผ่ำนกำรก ำจัดเชื้อลงสู่สิ่งแวดล้อม
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 16 • ก ำจัดเชื้อในน ้ำทิ้งเพื่อลดควำมเสี่ยงของกำรเกิดโรคในสิ่งแวดล้อมหรือฟำร์มข้ำงเคียง • กรณีที่มีหลุมกลำงบ่อเพื่อดูดเศษอำหำรและสิ่งขับถ่ำยของกุ้งออกจำกบ่อ ต้องน ำเอำของ เสียเหล่ำนี้ไปจัดกำรอย่ำงเหมำะสม ไม่ทิ้งลงสู่แหล่งน ้ำโดยตรง • ติดตำข่ำยหรือตะแกรงที่ท่อน ้ำทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กุ้งหลุดลอดและลดควำมเสี่ยงของ กำรแพร่เชื้อออกนอกฟำร์ม • ออกแบบบ่อเก็บน ้ำทิ้งและดินเลนให้สำมำรถจัดกำรเชื้อโรคได้ก่อนทิ้งออกนอกฟำร์ม ไม่ให้เกิดกำรรั่วไหล ให้บ่อเก็บน ้ำทิ้งอยู่ห่ำงจำกพื้นที่ผลิตและสถำนที่เก็บอำหำร • กำรทิ้งน ้ำควรปฏิบัติตำมกฎหมำยที่เกี่ยวข้อง 5.1.7 กำรจัดกำรสุขภำพกุ้ง วัตถุประสงค์: • ดูแลกุ้งให้มีสุขภำพดีอยู่เสมอ แนวทำงปฏิบตัิ: • ปฏิบัติตำมมำตรฐำนกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำที่ดี GAP • เลี้ยงกุ้งที่ควำมหนำแน่นที่เหมำะสมตำมขนำดบ่อ และควำมพร้อมของเกษตรกร • เลี้ยงกุ้งในสภำพที่ท ำให้กุ้งเครียดน้อยที่สุด ต้องมีกำรตรวจวัดคุณภำพน ้ำอย่ำงเหมำะสม DO หรือปริมำณออกซิเจนที่ละลำยในน ้ำ ไม่ต ่ำกว่ำ 5 พีพีเอ็ม ตลอดเวลำ และรักษำพีเอช ไม่ให้แกว่งเกินช่วง 0.3 • รักษำคุณภำพน ้ำให้เหมำะสม เช่น แอมโมเนียรวม ต้องไม่เกิน 1 มิลลิกรัม/ลิตร ไนไตรท์ ต้อง ไม่เกิน 2 มิลลิกรัม / ลิตร เป็นต้น • บันทึกข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดกำรสิ่งแวดล้อม เช่น ข้อมูลคุณภำพน ้ำ อัตรำ ควำมหนำแน่นของกุ้ง กำรเติบโต กำรจัดกำรให้อำหำร และ FCR 5.2 มำตรกำรภำวะฉุกเฉิน วัตถุประสงค์: • เพื่อให้มั่นใจว่ำเมื่อเกิดกำรระบำดของโรคติดเชื้อ กำรตำยโดยไม่ทรำบสำเหตุรวมทั้งกำร เกิดเหตุกำรณ์ไม่ปกติผู้ปฏิบัติงำนสำมำรถแก้ไขปัญหำได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและ ทันท่วงทีบรรเทำผลกระทบที่อำจเกิดขึ้นได้ แนวทำงปฏิบตัิ: • คู่มือไบโอซีเคียวริตี้ของฟำร์มควรมีแผนฉุกเฉินรองรับในกรณีเกิดโรคระบำดและกำรเกิด เหตุกำรณ์ไม่ปกติ เช่น ไฟฟ้ำดับ (ฟำร์มควรมีน ้ำมันส ำรอง น ้ำมันควรส ำรองใช้ได้นำน 12 ชั่วโมง มีเครื่องปั่นไฟส ำรอง และเตรียมออกซิเจนผง) กำรเกิดพำยุ และน ้ำท่วม • ตรวจสอบควำมพร้อม / ซักซ้อมในกำรปฏิบัติงำนตำมแผนฉุกเฉิน อย่ำงน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 17 • เมื่อเกิดกำรระบำดของโรคติดเชื้อและ / หรือกำรตำยโดยไม่ทรำบสำเหตุมีกำรเก็บตัวอย่ำง และกำรประเมินสภำพกำรเลี้ยงซึ่งอำจเกี่ยวข้องกับกำรเกิดโรคระบำด ห้ำมปล่อยน ้ำออก นอกฟำร์มโดยเด็ดขำด โดยอำจปิดคลองน ้ำทิ้ง ก ำจัดกุ้งติดเชื้อหรือจับกุ้งฉุกเฉินภำยใต้ กำรควบคุมอย่ำงมีประสิทธิภำพ ไม่ให้เชื้อแพร่กระจำยออกสู่ภำยนอกฟำร์ม 5.3 กำรถ่ำยทอดแนวปฏิบัติไปยังบุคลำกร วัตถุประสงค์: • เพื่อให้มั่นใจว่ำผู้ปฏิบัติงำนผ่ำนกำรฝึกอบรมและเข้ำใจถึงควำมรับผิดชอบทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ แนวทำงปฏิบตัิ: • มีคู่มือไบโอซีเคียวริตี้ของฟำร์ม และควรมีผู้ปฏิบัติงำนที่ได้รับมอบหมำยให้ก ำกับดูแล ไบโอซีเคียวริตี้ของฟำร์ม • จัดกำรฝึกอบรมแผนไบโอซีเคียวริตี้หรือกำรปฏิบัติตำมคู่มือไบโอซีเคียวริตี้ของกรมประมง • ผู้ปฏิบัติงำนควรมีควำมเข้ำใจถึงแผนไบโอซีเคียวริตี้ของฟำร์มและควำมรับผิดชอบในสิ่งที่ ต้องน ำไปปฏิบัติรวมทั้ง ผู้ปฏิบัติงำนควรทรำบแนวปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุกำรณ์โรคระบำด และ/หรือพบกำรตำยของกุ้งโดยไม่ทรำบสำเหตุทั้งกุ้งที่เลี้ยงภำยในฟำร์มและในธรรมชำติ โดยต้องแจ้งเจ้ำหน้ำที่กรมประมงในพื้นที่ฟำร์มตั้งอยู่ • ผู้ปฏิบัติงำนที่รับผิดชอบในกำรเลี้ยงกุ้งต้องค ำนึงถึงควำมส ำคัญของมำตรกำรที่เกี่ยวกับกำร ป้องกัน ข้อดีของกำรตรวจพบโรคในระยะแรก และกำรรำยงำนควำมผิดปกติ กุ้งป่วยหรือตำย ให้ผู้เชี่ยวชำญด้ำนสุขภำพสัตว์น ้ำ • มีกำรประเมินผลของกำรฝึกอบรมและตรวจสอบว่ำน ำไปปฏิบัติใช้จริง 5.4 กำรบันทึกข้อมูล วัตถุประสงค์: • จดบันทึกข้อมูลทั้งหมดเพื่อใช้ในกำรอธิบำยถึงสำเหตุของกำรเกิดโรค แก้ไขปัญหำวำงแนวทำง ป้องกัน และกำรตรวจสอบย้อนกลับ แนวทำงปฏิบตัิ: • บันทึกข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผนไบโอซีเคียวริตี้ เช่น กำรฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงำน กำร ตรวจสอบและบ ำรุงรักษำโครงสร้ำงพื้นฐำนของฟำร์มและอุปกรณ์ และบันทึกกำรเข้ำ -ออก ของบุคคลภำยนอก ให้เป็นปัจจุบัน • เก็บข้อมูลเพื่อตรวจสอบย้อนกลับ เช่น กำรเคลื่อนย้ำยกุ้งเข้ำฟำร์มและออกนอกฟำร์ม สุขภำพกุ้ง กำรซื้อขำยกุ้งทะเล กำรตรวจสอบและเฝ้ำระวังโรคกำรทดสอบและยืนยันโรค อัตรำควำม หนำแน่น ศักยภำพกำรผลิต ตำรำงกำรให้อำหำรและกำรตรวจคุณภำพน ้ำ ปัจจัยทำง สิ่งแวดล้อม (เช่น อุณหภูมิน ้ำและอำกำศ) จ ำนวนกุ้งที่ตำยและเป็นโรค ขั้นตอนกำรท ำควำม สะอำดและก ำจัดเชื้อ กำรฝ่ำฝืนข้อก ำหนด กำรก่อกวนมำตรกำรควำมปลอดภัย (เช่น ขโมย) • วิเครำะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนำกำรปฏิบัติให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 18 5.5 กำรตรวจสอบและทบทวนแผนกำรด ำเนินงำนทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ วัตถุประสงค์: • เพื่อให้มั่นใจว่ำแผนกำรด ำเนินงำนทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้มีควำมต่อเนื่องและมี ประสิทธิภำพ/ประสิทธิผล แนวทำงปฏิบตัิ: • ตรวจสอบและทบทวนแผนกำรด ำเนินงำนทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ให้มีประสิทธิภำพ อย่ำง น้อยปีละ 1 ครั้ง • มีกำรตรวจสอบหรือประเมินว่ำผู้ปฏิบัติงำนมีควำมเข้ำใจในแผนกำรด ำเนินงำน ทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้และมีกำรปฏิบัติตำมแผนอย่ำงสม ่ำเสมอ
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 19 6. แบบประเมินตนเองทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ของฟำรม์ ข้อมูลพื้นฐำนฟำร์ม ชื่อฟำร์ม ที่ตั้งฟำร์ม เลขที่ หมู่ที่ ต ำบล อ ำเภอ จังหวัด ชื่อผู้ประกอบกำร โทร เลขทะเบียนฟำร์ม เลขที่ จสค. ทะเบียนมำตรฐำนฟำร์ม GAP คู่มือประจ ำฟำร์ม มี ไม่มี คู่มือปฏิบัติงำน (SOP) กำรเลี้ยงกุ้งทะเล มี ไม่มี คู่มือควำมปลอดภัยทำงชีวภำพ (Biosecurity: ไบโอซีเคียวริตี้) แบบประเมินไบโอซีเคียวริตี้ฟำรม์ก้งุทะเล แนวทำงปฏิบตัิผลกำรประเมิน คำ อธิบำยเพิ่มเติม 1. พื้นที่ฟำร์ม 1.1 มีรั้วแสดงขอบเขตฟำร์มที่ชัดเจน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 1.2 แนวรั้วสำมำรถป้องกันกำรเข้ำออกของ บุคคลภำยนอก รวมทั้งสัตว์พำหะและสัตว์น ำโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 1.3 เส้นทำงถนนและทำงเดินภำยในฟำรม์ต้องใช้งำนได้ ทุกฤดูกำล สะอำด และไม่มีน ้ำขัง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 1.4 แบ่งพื้นที่ภำยในฟำร์มตำมวัตถุประสงค์ของกำร ปฏิบตัิงำนอย่ำงชดัเจน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 1.5 มีกำรแยกพื้นที่บ่อเลี้ยงออกจำกพื้นที่ที่พักอำศัย ห้องครัว และห้องสุขำอย่ำงชัดเจน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 1.6 มีแผนผังฟำร์มชัดเจน และเป็นปัจจุบัน ตรงกับกำร ปฏิบตัิงำนจริง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2. กุ้ง / สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค 2.1 ใช้ลูกกุ้งจำกโรงอนุบำลที่อยู่ในระบบเฝ้ำระวัง และ ควบคุมโรคของกรมประมง เช่น ระบบ White list hatchery หรือแหล่งที่มีกำรตรวจเฝ้ำระวังโรคอย่ำง สม ่ำเสมอ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.2 กุ้งที่เคลื่อนย้ำยเข้ำฟำร์มต้องมีเอกสำรแสดงผลกำร ตรวจโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.3 มีกำรตรวจสุขภำพกุ้งระหว่ำงเลี้ยงและจดบันทึก ควำมผิดปกติและกำรตำยของก้งอยุ่ำงสม ่ำเสมอ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.4 มีกำรตรวจโรคกุ้งทะเลในห้องปฏิบตัิกำร และบันทึก ประวตัิกำรเกิดโรคอย่ำงต่อเนื่อง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.5 มีข้อมูลติดต่อหน่วยงำนกรมประมงที่รับแจ้งเหตุเมื่อ เกิดกำรตำยของก้งอยุ่ำงผิดปกติระบุในคู่มือกำร ปฏิบตัิงำน (SOP) หรือมีไว้พร้อมติดต่อ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 20 แนวทำงปฏิบตัิผลกำรประเมิน คำ อธิบำยเพิ่มเติม 2.6 มีบันทึกข้อมูลกำรเคลื่อนย้ำยกุ้ง (AFPD) เข้ำฟำร์ม และออกจำกฟำร์ม (APPD) อย่ำงครบถ้วน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.7 ควบคุมสัตว์พำหะที่มำกับน ้ำ โดยกำรกรอง และกำร ฆ่ำเชื้อพำหะด้วยสำรเคมีหรือวิธีกำรอื่นที่มี ประสิทธิภำพ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.8 ควบคุมสัตว์พำหะที่เคลื่อนที่ได้เช่น ปูโดยกำรติดตงั้ รั้วกันปูเป็นต้น ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.9 ควบคุมสัตว์น ำโรค เช่น นก เข้ำระบบเลี้ยง โดยกำร ติดตงั้เชือก ตำข่ำย หรือมุ้งกันนก ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 2.10 ไม่น ำสัตว์หรือชิ้นส่วนของสัตว์ที่เป็นพำหะของโรค เข้ำพื้นที่บ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3. บุคคล (ผ้ปู ฏิบตัิงำน และบุคคลภำยนอก) 3.1 ฟำร์มมีข้อก ำหนดในกำรควบคุมกำรเข้ำ– ออก ของ บุคคลภำยนอกที่ชัดเจน โดยบุคลำกรของฟำร์มทุก คนรับทรำบข้อก ำหนด ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.2 มีกำรติดป้ำยประกำศมำตรกำรไบโอซีเคียวริตี้เพื่อ สื่อสำรกับบุคคลภำยนอกที่เข้ำเยี่ยมชมฟำร์ม เช่น พื้นที่จอดรถผู้มำติดต่อพื้นที่เลี้ยงกุ้ง จุดฆ่ำเชื้อต่ำงๆ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.3 มีกำรบันทึกกำรเข้ำ – ออกของบุคคลภำยนอก ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.4 มีรองเท้ำบู๊ทหรืออุปกรณ์อื่นให้ผู้เข้ำเยี่ยมชมเปลี่ยน ก่อนเข้ำพื้นที่บ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.5 มีระบบกำรฆ่ำเชื้อส ำหรับผู้เข้ำเยี่ยมชมงำนก่อนเข้ำ พื้นที่ฟำร์มเลี้ยง/ บ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.6 มีกำรแบ่งแยกผู้ปฏิบตัิงำนทำ งำนเฉพำะในแต่ละ พื้นที่เช่น บ่อ โซน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.7 มีระบบกำรฆ่ำเชื้อสำ หรบัผ้ปู ฏิบตัิงำนก่อนเข้ำพื้นที่ ปฏิบตัิงำน เช่น สวมชุดปฏิบตัิงำนที่สะอำด เพื่อลด ควำมเสี่ยงของกำรน ำพำโรค มีรองเท้ำบู๊ทพร้อมอ่ำง ฆ่ำเชื้อเท้ำส ำหรับเข้ำพื้นที่เลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.8 มีผู้ปฏิบตัิงำนที่ได้รับมอบหมำยให้ก ำกับดูแล ไบโอซีเคียวริตี้ของฟำรม์ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.9 ผู้ปฏิบตัิงำนมีควำมเข้ำใจถึงแผนไบโอซีเคียวริตี้ของฟำรม์ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.10 มีกำรฝึกอบรมแผนไบโอซีเคียวริตี้ให้แก่ ผ้ปู ฏิบตัิงำน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 3.11 ผู้ปฏิบตัิงำนทรำบขนั้ตอนที่ต้องปฏิบตัิเมื่อเกิด เหตุกำรณ์ผิดปกติเช่น มีกุ้งป่วยตำยผิดปกติ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 4. เครื่องมือ / อุปกรณ์/ ยำนพำหนะ 4.1 มีกำรแยกเครื่องมือ / อุปกรณ์ระหว่ำงบ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 4.2ไม่ใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือ ร่วมกับฟำร์มอื่น ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 4.3 กรณีใช้อุปกรณ์/ เครื่องมือ ร่วมกับฟำร์มอื่น มีกำร ท ำควำมสะอำด ฆ่ำเชื้อก่อนน ำมำใช้งำนในฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 21 แนวทำงปฏิบตัิผลกำรประเมิน คำ อธิบำยเพิ่มเติม 4.4 มีกำรล้ำงท ำควำมสะอำดเครื่องมือ / อุปกรณ์ หลังจำกกำรใช้ทุกครั้ง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 4.5 มีกำรฆ่ำเชื้อเครื่องมือ / อุปกรณ์หลังจำกกำรใช้ทุกครั้ง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 4.6 มีวิธีปฏิบตัิในกำรลดควำมเสี่ยงโรคจำกยำนพำหนะ เช่น มีกำรฆ่ำเชื้อยำนพำหนะที่เข้ำฟำร์ม มีกำร ก ำหนดจุดจอด และกำรเข้ำถึงของยำนพำหนะ ภำยในและภำยนอกฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 5. น ้ำที่ใช้เลี้ยง 5.1 มีมำตรกำรกำรจัดกำรน ้ำจำกแหล่งน ้ำ ที่น ำมำใช้ใน ฟำร์มเพื่อลดควำมเสี่ยงของโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 5.2 มีกำรติดตำมข้อมูลเชื้อก่อโรคในแหล่งน ้ำที่ใช้เป็น ประจ ำ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 5.3 มีบ่อพักน ้ำส ำหรับพักน ้ำและเตรียมน ้ำก่อนเข้ำบ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 5.4 มีระบบกำรกรองน ้ำก่อนเข้ำฟำร์มเพื่อลดควำมเสี่ยง จำกสัตว์พำหะ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 5.5 มีระบบกำรฆ่ำเชื้อน ้ำหรือวิธีลดควำมเสี่ยงของโรค ก่อนน ำเข้ำบ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 6. อำหำรและกำรให้อำหำร 6.1ใช้อำหำรที่มีทะเบียนจำกแหล่งที่มั ่นใจได้ว่ำมี คุณภำพและโภชนกำรครบถ้วน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 6.2 มีโรงเรือน / ห้อง / พื้นที่ส ำหรับเก็บอำหำรที่สะอำด และไม่เปียกชื้น ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 6.3 พื้นที่เก็บอำหำรมีกำรป้องกันกำรเข้ำถึงของสัตว์น ำโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 6.4 มีวิธีปฏิบตัิในกำรตรวจสอบอำหำรก่อนใช้เลี้ยงกุ้ง ทุกครั้ง เช่น วันหมดอำยุเชื้อรำ สิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 6.5 ควบคุมกำรให้อำหำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ เพื่อ ป้องกันอำหำรเหลือที่อำจเป็นสำเหตุให้คุณภำพน ้ำ เสื่อมโทรมและก่อให้เกิดกำรเพิ่มปริมำณของ แบคทีเรียก่อโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7. ของเสีย (ซำกกุ้ง / น ้ำในบ่อเลี้ยง / น ้ำทิ้ง / ดินเลน) 7.1 น ำซำกกุ้งออกจำกบ่อทันทีและมีกำรป้องกันกำร เคลื่อนย้ำยซำกกุ้งผ่ำนบ่อที่ไม่เป็นโรคอย่ำง ระมัดระวัง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.2 ไม่มีกำรเคลื่อนย้ำยซำกกุ้งออกไปภำยนอกฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.3 กรณีมีกำรเคลื่อนย้ำยซำกกุ้งออกจำกฟำร์ม มีแนว ปฏิบตัิในกำรลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่กระจำยเชื้อ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.4 มีกำรก ำจัดซำกกุ้งอย่ำงถกูวิธีเช่น เผำ ฝังกลบฆ่ำเชื้อ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.5 มีเส้นทำงทิ้งน ้ำแยกออกจำกเส้นทำงน ้ำดีอย่ำงชัดเจน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.6ไม่ปล่อยน ้ำที่ไม่ผ่ำนกำรก ำจัดเชื้อลงสู่สิ่งแวดลอม้ กรณีที่มีหลุมกลำงบ่อเพื่อดดูเศษอำหำรและสิ่ง ขับถ่ำยของกุ้งออกจำกบ่อต้องน ำเอำของเสียเหล่ำนี้ ไปจัดกำรอย่ำงเหมำะสม ไม่ทิ้งลงสู่แหล่งน ้ำโดยตรง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 22 แนวทำงปฏิบตัิผลกำรประเมิน คำ อธิบำยเพิ่มเติม 7.7 ติดตำข่ำยหรือตะแกรงที่ท่อน ้ำทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ กุ้งหลุดรอด และลดควำมเสี่ยงของกำรแพร่เชื้อ จำกฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.8 ออกแบบบ่อเกบ็น ้ำทิ้งและดินเลนให้สำมำรถจัดกำร เชื้อโรคได้ก่อนทิ้งออกนอกฟำรม์ ไม่ให้เกิดกำร รั ่วไหล ให้บ่อเกบ็น ้ำทิ้งอยู่ห่ำงจำกพื้นที่ผลิตและ สถำนที่เก็บอำหำร ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 7.9 มีกำรควบคมุคุณภำพน ้ำทิ้งที่เป็นไปตำมกฎหมำยที่ เกี่ยวข้อง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 8. กำรจัดกำรสุขภำพกุ้ง 8.1 ควำมหนำแน่นกุ้งเหมำะสมกับศักยภำพของบ่อเลี้ยง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 8.2 มีกำรตรวจและรักษำคุณภำพน ้ำให้เหมำะสม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 8.3 ใช้อำหำรที่มีโภชนำกำรที่เหมำะสมกับกุ้ง และมีกำร จดักำรปริมำณอำหำรที่ให้อย่ำงเหมำะสม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 8.4 บันทึกข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกำรจัดกำร สุขภำพกุ้ง เช่น ข้อมูลคุณภำพน ้ำ อัตรำควำมหนำแน่นของกุ้ง กำรเติบโต กำรจัดกำรกำรให้อำหำร กำรใช้สำรเคมี วิตำมิน ยำ และFCR ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9. กำรบันทึกข้อมูล 9.1 มีบันทึกกำรฝึกอบรมผู้ปฏิบตัิงำนด้ำนกำรเลี้ยง กำรป้องกันโรคและกำรแก้ไขด้ำนสิ่งแวดล้อม ด้ำนระเบียบข้อก ำหนด และด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.2 มีบันทึกกำรตรวจสอบและบ ำรุงรักษำโครงสร้ำง พื้นฐำนของฟำร์มและอุปกรณ์ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.3 มีบันทึกกำรเข้ำฟำร์มของบุคคลภำยนอก ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.4มีบันทึกกำรฆ่ำเชื้อยำนพำหนะก่อนเข้ำฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.5 มีบันทึกกำรเคลื่อนย้ำยกุ้งเข้ำฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.6 มีบันทึกกำรเคลื่อนย้ำยกุ้งภำยในฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.7 มีบันทึกกำรเคลื่อนย้ำยกุ้งออกนอกฟำร์ม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.8 มีบันทึกสุขภำพกุ้ง จ ำนวนกุ้งที่ตำยและเป็นโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.9 มีบันทึกกำรซื้อ - ขำย กุ้งทะเล ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.10 มีบันทึกกำรตรวจสอบและเฝ้ำระวังโรค กำรทดสอบและยืนยันโรค ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.11 มีบันทึกกำรท ำควำมสะอำดและก ำจัดเชื้อ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.12 มีบันทึกข้อมูลคุณภำพน ้ำเช่น บ่อเลี้ยง บ่อพักน ้ำ บ่อน ้ำทิ้ง แหล่งน ้ำใช้เป็นต้น ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.13 มีบันทึกอัตรำควำมหนำแน่น ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.14 มีบันทึกกำรให้อำหำร ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 9.15 มีบนัทึกผลผลิตแต่ละบ่อที่จับสัตว์น ้ำ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 23 แนวทำงปฏิบตัิผลกำรประเมิน คำ อธิบำยเพิ่มเติม 10. กำรตรวจสอบและทบทวนแผนกำรดำ เนินงำนทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ 10.1 ตรวจสอบและทบทวนแผนกำรดำ เนินงำน ทำงด้ำนไบโอซีเคียวรติ้ให้มีประสิทธิภำพ อย่ำง น้อยปีละ 1 ครั้ง ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 10.2 ผู้ปฏิบตัิงำนมีควำมเข้ำใจในแผนกำรดำ เนินงำน ทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 10.3 ผู้ปฏิบตัิงำนมีกำรปฏิบตัิตำมแผนกำรดำ เนินงำน ทำงด้ำนไบโอซีเคียวรตี้อย่ำงสม ่ำเสมอ ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 11. แผนฉุกเฉินในกรณีเกิดระบำดและกำรเกิดเหตุกำรณ์ไม่ปกติ 11.1 มีกำรจดัทำ แผนฉุกเฉิน กรณีเกิดเหตุกำรณ์ไม่ปกติ เช่น โรคระบำด กำรเกิดพำยุน ้ำท่วม ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ 11.2 ผู้ปฏิบตัิงำนเข้ำใจถึงแผนฉุกเฉินและสำมำรถ ดำ เนินกำรตำมขนั้ตอนที่กำ หนดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ☐ ใช่ ☐ ไม่ใช่ สรปุผลกำรตรวจประเมิน รำยกำร จ ำนวน ข้อก ำหนด (ข้อ) สรปุผลกำรตรวจประเมิน สอดคล้อง (ข้อ) ไม่สอดคล้อง (ข้อ) 1. พื้นที่ฟำร์ม 6 2. กุ้ง / สัตว์พำหะ / สัตว์น ำโรค 10 3. บุคคล (ผู้ปฏิบตัิงำนและบุคคลภำยนอก) 11 4. เครื่องมือ / อุปกรณ์/ ยำนพำหนะ 6 5. น ้ำที่ใช้เลี้ยง 5 6. อำหำรและกำรให้อำหำร 5 7. ของเสีย (ซำกกุ้ง/ น ้ำในบ่อเลี้ยง/ น ้ำทิ้ง/ ดินเลน) 9 8. กำรจัดกำรสุขภำพกุ้ง 4 9. กำรบันทึกข้อมูล 15 10. กำรตรวจสอบและทบทวนแผนกำรดำ เนินงำน ทำงด้ำนไบโอซีเคียวริตี้ 3 11. แผนฉุกเฉินในกรณีเกิดระบำดและกำรเกิด เหตุกำรณ์ไม่ปกติ 2 รวม 76 คะแนนที่ได้ (จ ำนวนข้อที่สอดคล้อง x 100 / 76) เกณฑก์ำรประเมินควำมปลอดภยัทำงชีวภำพ กำรประเมินครงั้ที่1 น ำผลกำรตรวจประเมินมำวิเครำะห์และจัดระดับควำมปลอดภัยทำงชีวภำพของฟำร์มเลี้ยงแต่ละฟำร์ม ก ำหนดแนวทำงและวิธีปฏิบัติในกำรส่งเสริมให้ฟำร์มมีระดับควำมปลอดภัยทำงชีวภำพที่สูงขึ้น กำรประเมินครงั้ที่2 น ำผลกำรตรวจประเมินมำวิเครำะห์เปรียบเทียบระดับควำมปลอดภัยทำงชีวภำพระหว่ำงกำรประเมิน ครั้งที่1 และ ครั้งที่2 วิเครำะห์ควำมสัมพันธ์ของระดับควำมปลอดภัยทำงชีวภำพกับปัญหำกำรเกิดโรค
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 24 7. เอกสำรอ้ำงอิง Aranguren Caro, L. F., Mai, H. N., Cruz-Florez, R., Marcos, F. L. A., Alenton, R. R. R., & Dhar, A. K. 2021. Experimental reproduction of White Feces Syndrome in whiteleg shrimp, Penaeus vannamei. Plos one. 16 (12): e0261289. Francois Brenta. 2016. Biosecurity in Shrimp Farming, Practical Biosecurity Risk Management Measures. Available source: http://www.cenaim.espol.edu.ec /sites/cenaim.espol.edu.ec. March 1, 2022. Ministry of Environment Water & Agriculture of Kingdom of Saudi Arabia. 2018. National Biosecurity Manual for Shrimp Culture in Kingdom of Saudi Arabia. Ministry for Primary Industries of New Zealand. 2016. Aquaculture Biosecurity Handbook: Minimising On-farm Biosecurity Risk. Motte, E., Yugcha, E., Luzardo, J., Castro, F., Leclercq, G., Rodrı́guez, J., and Boulo, V. 2003. Prevention of IHHNV vertical transmission in the white shrimp Litopenaeus vannamei. Aquaculture. 219 (1-4): 57 - 70. Wongmaneeprateep, S., Chuchird, N., Baoprasertkul, P., Prompamorn, P., Thongkao, K., and Limsuwan, C. 2010. Effects of high-water temperature on the elimination of white spot syndrome virus in juveniles of Litopenaeus vannamei. Journal of Fisheries and Environment. 34 (2): 14-26.
กรมประมง ค่มูือไบโอซีเคียวริตี้ส ำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล 25 8. ภำคผนวก ช่องทำงกำรติดต่อ/แจ้งกำรเกิดโรคระบำดในสตัวน์ ้ำ (ระบบ กพส. สร1) เกษตรกรที่ประสบปัญหำกุ้งทะเลหรือสัตว์น ้ำป่วย / ตำย สำมำรถรำยงำนข้อมูลเข้ำสู่ระบบ กพส.สร. 1 เพื่อที่ กรมประมงสำมำรถให้ควำมช่วยเหลือ แนะน ำแนวทำงแก้ไขปัญหำได้อย่ำงทันท่วงทีและมีประสิทธิภำพ รวมทั้งให้ค ำปรึกษำ เ พื่ อ เ ฝ้ ำ ร ะ วัง เ ชื้ อ ก่ อ โ ร ค ดัง ก ล่ ำ ว ใ น ฟ ำ ร์ ม ส ำ ห รับ ผู้ ที่ ส น ใ จ ส ำ ม ำ ร ถ ส มัค ร เ ข้ำ ใ ช้ ง ำ น ร ะ บ บ ไ ด้ที่ https://forms.gle/azM27Cu8CSi92bG3A หรือตำม QR-Code ด้ำนล่ำงนี้ คณะผู้จัดท ำ 1. นำยพุทธ ส่องแสงจินดำ ที่ปรึกษำด้ำนกำรจัดกำรระบบกำรเลี้ยงกุ้งทะเล 2. นำยสัตวแพทย์สุวรรณ ยิ้มเจริญ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลจังหวัดจันทบุรี 3. นำงสำวเจนจิตต์ คงก ำเนิด ผู้เชี่ยวชำญด้ำนโรคสัตว์น ้ำ 4. นำงธิดำพร ฉวีภักดิ์ ผู้เชี่ยวชำญด้ำนกำรเพำะเลี้ยงกุ้งทะเล 5. นำงสำวมนทกำนติท้ำมติ้น ผู้อ ำนวยกำรกองวิจัยและพัฒนำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำชำยฝั่ง 6. นำงสำวพุทธรัตน์เบ้ำประเสริฐกุล ผู้อ ำนวยกำรกองวิจัยและพัฒนำสุขภำพสัตว์น ้ำ 7. นำงจ ำเริญศรีถำวรสุวรรณ ผู้อ ำนวยกำรศูนย์วิจัยและพัฒนำสุขภำพสัตว์น ้ำสงขลำ 8. นำงสำวนวนิตย์ คล่องแคล่ว นักวิชำกำรประมงช ำนำญกำร กองวิจัยและพัฒนำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำชำยฝั่ง 9. นำงสำวณัฐกำนต์สำลีติด นักวิชำกำรประมงช ำนำญกำร กองวิจัยและพัฒนำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำชำยฝั่ง 10. นำยศรัณย์สิรินวลมณี นำยสัตวแพทย์ช ำนำญกำร ศูนย์วิจัยและพัฒนำสุขภำพสัตว์น ้ำสงขลำ 11. นำงสำวอังศิณำ ธีรรัตนสถิต นักวิชำกำรประมง (พนักงำนรำชกำร) กองวิจัยและพัฒนำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำชำยฝั่ง 12. นำงสำวณัฐธิกำนต์ งำมเมือง นักวิชำกำรประมง (จ้ำงเหมำบริกำร) กองวิจัยและพัฒนำกำรเพำะเลี้ยงสัตว์น ้ำชำยฝั่ง
กรมประมง กองวจิยัและพัฒนาการเพาะเลยี้งสตัวน์ ้าชายฝ่ัง กองวจิยัและพัฒนาสขุภาพสตัวน์ ้า