ไม้รูปทรง 47
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไร บตั รกจิ กรรมท่ี 2.1
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไรช่ือ…………………………………………………ใ…บนางมาสนกลุ ท…่ี…2………………….………………ชัน้ ม. 1/…… เลขท…ี่ ……..
ไม้เลื้อยพรรณไมใ้ นการจดั สวนถาด
ไม้ใบ
ไม้อวบนํ้าคาํ สงั่ ใหน้ กั เรียนแยกประเภทพรรณไมต้ ามประเภทพรรณไม้ พรอ้ มทาํ เครื่องหมาย /
ไม้น้ํา ประเภท
กล้วยไม้
ไมด้ อก ไมใ้ บ
ชอื่ พรรณไม้
1. แวนดา้
2. โมกแคระ
3. ฟ้ าประดษิ ฐ์
4. ชาฮกเกี้ยนแคระ
5. กล็อกนเี ซีย
6. หนา้ ววั แคระ
7. ผกั เป็ ดแดง
8. โฮย่า
9. ชวนชม
10.เดปกระเป๋ า
11.พลดู า่ ง
12.หวาย
13.หนวดปลาดกุ แคระ
14.ดาวเรืองจิว๋
15.เฟิ รน์ ใบมะขาม
16.พรมออสเตรเลยี
17.บวั บา
18.กกร่ม
19.แคคตสั
20.ยิปโซ
21.หลิวดอก
22.แอฟริกนั ไวโอเลต
23.กกอียปิ ต์
48
ไมด้ อก ประเภท
ไมใ้ บ
ชอ่ื พรรณไม้ ไม้รูปทรง
24.ลานไพลิน ชอบแสงจัด
25.ฟาแลนนอพซิส ชอบแสงรําไร
26.เฟิ รน์ ใบผกั ชี ชอบแสงจัด
27.ชา้ ง ชอบแสงรําไร
28.วา่ นหางจระเข้ ไม้เลื้อย
29.เฟิ รน์ ขา้ หลวงหลงั ลาย ไม้ใบ
30.กระจบั แกว้ ไม้อวบนํ้า
31.ไอว่ี ไม้น้ํา
32.แคทลียา กล้วยไม้
33.หยิกนโิ กร
34.แกว้ แคระ
35.เฟิ รน์ กนกนารี
36.แววมยรุ า
37.ฟ้ าประดบั
38.มะสงั ดดั
39.กหุ ลาบหิน
40.เศรษฐเี รือนใน
41.เทยี นทอง
42.สบั ปะรดสี
43.ไขม่ กุ
44.หวั ใจสมี ว่ ง
45.เศรษฐเี รือนนอก
46.โปร่งฟ้ า
47.กวนอิม
48.หกู ระจงแคระ
49
บตั รกจิ กรรมที่ 2.2
สวนถาดแหง้
1. การจดั สวนถาดแหง้ เป็ นการยอ่ ทิวทศั นข์ อง…………………………………………………………………
2. การจดั สวนถาดแหง้ นยิ มใชต้ น้ ไมป้ ระเภท…………………………………………………………….……..
3. ขนั้ ตอนแรกในการจดั สวนถาดแหง้ คือ…………….…………………………………………………………
4. หินทใ่ี ชจ้ ดั สวนถาดม.ี ...........................ประเภท ไดแ้ ก.่ .....................................................
5. ดนิ ผสมสาํ หรบั การจดั สวนถาดแหง้ ประกอบดว้ ย
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
6. ขน้ั ตอนการจดั สวนถาดแหง้ มกี ่ี.............ขนั้ ตอน
7. แนวทางการพจิ ารณาขนาดของหินยืน หินนงั่ หินนอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซคั ควิ เลนท์
……………………………………………………………………………………………………………........…………
………………………………………………………………………………………………………………………………
1. มมุ มองที่สาํ คญั ท่ีสดุ ซึ่งจะอย่ตู รงบริเวณไหนของถาด
…………………………………………………………………………........……………………………………………
2. การจดั สวนถาดแหง้ เมอื่ กาํ หนดตาํ แหนง่ ของจดุ เดน่ แลว้ ใหว้ างหินชนดิ ใด บริเวณตาํ แหนง่
ใดของถาด
…………………………….......................................................................................................
3. อธิบายการวางตน้ แคคตสั
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………
4. ตาํ แหนง่ ของการวางหินยืน หินนงั่ และหินนอนเป็ นรปู อะไร
……………………………………………………………………………………………………………………….........
50
5. ใหอ้ ธิบายการทาํ โครงสวน
………………………………………………………………………………………………………………………………
..……………………………………………………………………………………………………………………………
…..…………………………………………………………………………………………………………………………
……..………………………………………………………………………………………………………………………
………..……………………………………………………………………………
6. การปลกู ไมป้ ระดบั สวนใหส้ มบรู ณ์ หมายถึง
..............................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………
..……………………………………………………………………………………………………………………………
…..…………………………………………………………………………………
7. การจดั สวนถาดแหง้ ใชว้ สั ดใุ ดตกแตง่ ผวิ และโรยเสน้ ขอบของผวิ สวนถาด
………………………………………………………………………………………………………………………
51
ชดุ กจิ กรรมที่3 ทรายสใี นแกว้ ใส
บตั รกจิ กรรม
การจดั สวนแกว้
การจัดสวนแกว้ เป็ นการจินตนาการทางศิลปะใหเ้ กิดความงดงามภายในแกว้ โดยการนาํ
พรรณไมอ้ วบนาํ้ กระบองเพชร หินสีต่างๆ หรืออาจจะใชพ้ รรณไมน้ าํ้ ก็ได้ ตกุ๊ ตาจาํ ลองขนาดเล็ก
มาจัดวางใหเ้ กิดความงดงามตามจินตนาการของผจู้ ัดการจัดสวนแกว้ มีหลักการเดียวกับการจัด
สวนถาดเป็ นการจัดสวนโดยย่อเร่ืองราวทางธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัว
เรา ทิวทศั น์ ทะเลทราย หรือเรื่องราวการดาํ รงชวี ิตของมนษุ ย์ ศาสนา ประเพณีและวฒั นธรรม
ตลอดจนเร่ืองราวทางวรรณคดี หรือสตั วต์ ่างๆ อีกอย่างหน่งึ คือการจดั สวนตามจินตนาการไดแ้ ก่
เร่ืองราวของสวนสาธารณะ ลงในแกว้ ทรงกลม ทรงสีเ่ หลยี่ ม ทรงรปู ไข่ ฯลฯ
การจดั สวนเปิ ดโอกาสใหผ้ จู้ ดั ไดใ้ ชค้ วามคดิ อย่างสรา้ งสรรคอ์ ย่างหลากหลายไมม่ ที ีส่ ิน้ สดุ ใช้
ความสามารถความละเอียดอ่อนในการปลูกต้นไม้ ใช้ความสามารถในทางศิลปะ ใช้สีสัน
รปู ทรง ความสมดลุ ความกลมกลืน ความแตกต่างไดอ้ ย่างเหมาะสม เกิดความเพลิดเพลิน
สนกุ สนานโลกยคุ กอ่ นชา่ งชมุ่ ชนื้ และรม่ เย็นดว้ ยป่ าไมจ้ นอยากยอ้ นเวลาไปไดอ้ ีกครงั้ ในปัจจบุ นั เราคง
ทาํ ไดแ้ ค่สรรหาพนั ธไ์ุ มม้ าปลกู ไวใ้ กลต้ วั บา้ นซ่ึงมที ก่ี วา้ งก็ย่อมจดั สวนสวยไดด้ งั ใจ แตท่ ่ีพกั อาศัยใน
เมืองหลวงและเมืองใหญ่มกั คับแคบ คนรักตน้ ไมจ้ ึงตอ้ งพอใจกบั สวนหย่อมสวนเล็กๆในกระบะหรือ
แกว้ ไมก้ ระถางตามเนอ้ื ทีข่ องตนก็เพียงพอแลว้
รปู แบบของสวนแกว้
1. สวนแกว้ แบบแหง้ ใชพ้ รรณไมอ้ วบนาํ้ กระบองเพชร
2. สวนแกว้ แบบชน้ื ใชพ้ รรณไมแ้ บบชน้ื ไมน้ า้ํ
สวนแกว้ แบบแหง้ (พรรณไมอ้ วบนา้ํ )
52
สวนแกว้ แบบช้ืน(พรรณไมช้ ้ืน)
สวนแกว้ แบบช้ืน(พรรณไมน้ ้ํา)
วสั ดอุ ปุ กรณ์
1. แกว้ ใสเรียบไมม่ ลี ายรปู ทรงตา่ งๆ
2. ทรายสีตา่ งๆ ถา้ เตรียมใชเ้ องจะไดส้ เี ป็ นธรรมชาตมิ าก
3. หินประดบั เลือกทรงทม่ี คี วามงดงามขนาดท่ีพอเหมาะกบั แกว้
4. พรรณไมก้ ระบองเพชรและหรือพรรณไมน้ าํ้ (เลือกใชต้ ามเนอื้ เร่ืองในจนิ ตนาการ)
5. ชอ้ นปลกู ขนาดเล็ก (ประดษิ ฐข์ น้ึ มาเองจะดมี าก)
6. พ่กู นั ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่
7. แป้ นหมนุ รองแกว้
8. กระป๋ องสเปรยน์ าํ้
9. กรรไกร มดี คตั เตอร์
10.ชดุ เขยี นแบบ (กระดาษ ดนิ สอ ไมบ้ รรทดั วงเวยี น ยางลบ)
53
วิธีการจดั สวนแกว้
1. เขยี นแบบ เลียนแบบธรรมชาตหิ รือตามจนิ ตนาการแบบใดแบบหนง่ึ
2. เตรียมพรรณไม้ อปุ กรณ์ สงิ่ ตกแตง่ อ่ืนๆ ใหค้ รบตามแบบ
3. ทาํ ความสะอาดภายในแกว้ ท่ตี อ้ งการเป็ นภาชนะในการจดั ใหป้ ราศจากคราบสกปรก
4. นาํ ทรายสตี า่ งๆทต่ี อ้ งการมาโรยท่กี น้ ของแกว้ และขา้ งแกว้ เพยี งบางๆใหท้ รายสีสงู ขน้ึ
เล็กนอ้ ย
5. ใส่ดินผสมตามชนดิ ของพรรณไมท้ ี่ตอ้ งการเพ่ือประคองทรายสีใหอ้ ย่ใู นระดบั ท่ีตอ้ งการ
ระวังอย่าใหด้ ินปลกู สงู กว่าทรายสี (หลงั จากนนั้ จึงโรยทรายสีท่ีขา้ งแกว้ ตามลวดลายที่ออกแบบไว้
และตามดว้ ยดนิ ปลกู ทาํ อย่างนจี้ นเสร็จ)
6. วางหินประดบั ตอไม้ ปลกู พรรณไมต้ ามแบบ
7. โรยหินเกร็ดทบั ดนิ ปลกู
8. ปัดหินเกร็ดดว้ ยแปรง ใหเ้ รียบ
9. สเปรยน์ าํ้ ภายในแกว้ ใหท้ ัว่ ถึงเพื่อใหห้ ินประดับ ตอไม้ พรรณไม้ หินเกร็ดสะอาดเป็ น
มนั วาว
10. เช็ดขา้ งแกว้ ภายในและภายนอกใหส้ ะอาดสดใส เป็ นเสร็จวิธีการจดั สวนแกว้
11. นาํ สวนแกว้ ไปวางท่ีแสงแดดสอ่ งถึงอย่างพอเพียงตามความตอ้ งการของพรรณไม้
สวนในขวดแกว้ หรอื Terrariumคืออะไร
สวนขวดแกว้ คือ การจาํ ลองระบบนเิ วศนใ์ หม้ าอย่ใู นภาชนะท่ีเป็ นกระจกใส หรือขวดแกว้ มี
ท้ังแบบ เปิ ด และแบบปิ ด ซึ่งตน้ ไมส้ ่วนมากท่ีจะเอามาจัดแต่งในโหลแกว้ มักจะเป็ นไมเ้ ขตรอ้ นช้ืน
เพราะไมช้ นดิ นจี้ ะใช้ ความชนื้ สงู ฉะนนั้ ควรตอ้ งเลือกสวนขวดระบบปิ ด เพอื่ รกั ษาความชน้ื ใหส้ มดลุ
ชนิดของสวนขวดในแกว้
สวนขวดแกว้ มี ๒ แบบ คือ สวนขวดแกว้ ระบบเปิ ด คือไม่ตอ้ งใชฝ้ าขวดแกว้ มาปิ ด และ
ตอ้ งการการรด นา้ํ มากกวา่ แบบระบบปิ ด เพราะความชนื้ นนั้ จะไหลเวียนออกไปไดง้ า่ ย และสวนระบบ
ปิ ด คอื การนาํ ฝาขวดแกว้ มาปิ ดใหส้ นทิ และไมจ่ าํ เป็ นตอ้ งรดนาํ้ บ่อย ๆ จึงเหมาะสาํ หรบั คนทไ่ี มค่ อ่ ย
มีเวลา หรือมกั จะชอบลืมรดนา้ํ ตน้ ไมบ้ ่อย ๆ เพราะสวนขวดแกว้ เป็ นระบบนิเวศนเ์ ล็ก ๆ ท่ียังชีพได้
ดว้ ยตวั เอง คอื นาํ ความชน้ื กลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ จึงไมต่ อ้ งการนา้ํ และไมต่ อ้ งการการดแู ลมากนกั
54
ประโยชนข์ องสวนในขวดแกว้
สําหรับผูท้ ่ีอยู่คอนโด หอพัก หรือบ้านหลังเล็กท่ีไม่มีพื้นท่ีปลูกตน้ ไม้ แต่อยากใกลช้ ิด
ธรรมชาติ การจดั สวนในขวดแกว้ จงึ ชว่ ยใหส้ มั ผสั ถึงความเป็ นธรรมชาตไิ ดอ้ ยา่ งใกลช้ ดิ ชว่ ยใหร้ สู้ ึก
ผ่อนคลาย ท่ีสาํ คัญขวดแกว้ เหล่านี้ก็ไม่ไดก้ ินเนื้อที่ในบา้ นมาก ทาํ ใหส้ ามารถจัดสวนในขวดแกว้ ได้
หลาย ๆ แบบ และหลาย ๆ สวน เพือ่ ใช้ ตกแตง่ ภายในหอ้ งตา่ ง ๆ ได้
ตน้ ไมท้ ่ีนิยมปลกู ในสวนขวดแกว้
ตน้ ไมท้ ี่นิยมนํามาปลกู ไวใ้ นสวนขวดแกว้
คอื ไมใ้ นเขตรอ้ นชน้ื และตอ้ งมขี นาดเล็ก เพ่อื ทาํ เป็ นสวนขนาดเล็ก โดยตน้ ไมท้ นี่ ยิ มนาํ มาจดั
สวนในขวดแกว้ เชน่
พนั ธไ์ ุ ม้ ภาพ ที่มาแหลง่ ขอ้ มลู
มอส ชนิดต่างๆ
http://www.tinyworld๒๐๑๓.
com/product/
ไอว่ี (Ivy) http://www.catdumb.com/๑๐
treenasa/
เฟิ รน์ กา้ นดํา https://www.nanagarden.com/produ
ct/๑๗๐๘๙๑
กระบองเพชร
(Cactus) https://cactusstorysite.wordpress.co
m/๒๐๑๖/๐๔/๐๔/
55
บตั รกจิ กรรมท่ี3
ชื่อ-นามสกลุ .............................................................. เลขท่ี ................. ชน้ั ...................
คําช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามตอ่ ไปนี้
๑. การจดั สวนในขวดแกว้ หรือ Terrarium คืออะไร
ตอบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๒. Terrarium แบบระบบเปิ ด และแบบระบบปิ ด มคี วามเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร
ตอบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๓. นยิ มพืชชนดิ ใดบา้ งมาจดั สวน Terrarium เพราะเหตใุ ด
ตอบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๔. นกั เรียนคิดว่า ประโยชนข์ องการจดั สวนแบบ Terrarium คอื อะไร
ตอบ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๕. จงออกแบบการจดั สวนแบบ Terrarium ตามความชน่ื ชอบของนกั เรียน โดยสวน Terrarium
ทนี่ กั เรียนออกแบบนนั้ จะตอ้ งมรี ะบบนเิ วศท่สี ามารถดาํ รงอยไู่ ดจ้ ริง พรอ้ มบอกชนดิ พชื และวสั ดุ
ที่นาํ มาตกแตง่ (วาดภาพประกอบ)
ตอบ
56
บรรณานกุ รม
สถาบนั การศึกษานอกระบบภาคตะวนั ออก.(2552). สวนสวยในแกว้ ใส. นครราชสมี า : ศนู ย์
การศึกษานอกระบบ.
ธนติ ย์ เสนชี ยั . (2550) การจดั สวนถาดแบบทนั สมยั (พิมพค์ รงั้ ที่ 2). กรงุ เทพฯ : เอ็นไอเอส
เพ็งปรีชา และสายใจ เจริญร่ืน. (2552). ศิลปะการจดั ทรายสใี นแกว้ ใส. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั
มญั ชสุ า วฒั นพร. (2545). การจดั สวนถาด (พิมพค์ รง้ั ท่ี 7). กรงุ เทพ : บา้ นและสวน.
เอกวิทย์ หาสนนท.์ (2554). Terrarium สวนสวยในแกว้ ใส. กรงุ เทพ : สาํ นกั พมิ พบ์ า้ นและสวน.
อไุ รวรรณ กว้ั พิสมยั .สวนนอ้ ยในโลกใบเล็ก.https://www.kroobannok.com
57
ภาคผนวก
58
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ขอ้ คาํ ตอบ
1ง
2ค
3ค
4ข
5ค
6ค
7ง
8ง
9ง
10 ก
ไดก้ คี่ ะแนนกนั ค่ะ หลงั ยี นตอ้ งทาํ ไดด้ กี ว่านี้
แนอ่ นค่ะ
59
เฉลย
รปู แบบของสวนถาด
8. การจดั สวนถาดที่นยิ ม แบง่ ออกเป็ นกป่ี ระเภท อะไรบา้ ง
2 ประเภทใหญ่ๆ คอื
1. สวนถาดที่มลี กั ษณะคลา้ ยการจดั แจกนั
2. สวนถาดทีจ่ ดั แบบยอ่ สว่ นทวิ ทศั นห์ รือเร่ืองราว
9. การจดั สวนถาดทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยแจกนั มแี นวทางในการจดั อย่างไร
การจดั ดอกไม้ ไมด้ อก ไมป้ ระดบั ผสมผสานกนั ลงในภาชนะทีส่ วยงาม เชน่ กระถาง
กระเบ้ืองเคลือบ เซรามกิ เครื่องสาน
พรรณไมท้ ่ีนาํ มาจดั ควรเป็ นประเภทเดยี วกนั เชน่ ไมช้ อบแสงแดดราํ ไร ไมน้ าํ้ ไมอ้ วบ
นาํ้ กลว้ ยไม้ เพื่อทาํ ใหส้ ะดวกตอ่ การเลือกวัสดปุ ลกู และสะดวกต่อการนาํ สวนถาดนนั้ ไปวาง
ในสถานท่ีๆ เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพรรณไมท้ ี่จัดวางในสวนถาดนั้นๆ ซ่ึงทาํ ให้
งา่ ยต่อการดแู ลและมีอายกุ ารใชง้ านไดน้ านขน้ึ อีกทั้งรปู แบบของภาชนะก็ควรเลือกใหเ้ หมาะ
กับรปู ร่างของพรรณไมแ้ ละรปู แบบในการจัดสวนถาด ถา้ เป็ นภาชนะท่ีมีหหู ิ้วอาจจะทาํ ให้
ความเด่นของพรรณไมท้ ี่นาํ มาจัดนั้นนอ้ ยลงแต่จะเกิดความสะดวกท้ังผใู้ หแ้ ละผรู้ ับซึ่งตอ้ ง
พิจารณาแลว้ แตโ่ อกาสทเี่ หมาะสม
10.การจดั สวนถาดตอ้ งใชพ้ รรณไมป้ ระเภทเดยี วกนั เพราะเหตใุ ด
พรรณไมท้ ่ีนาํ มาจดั ควรเป็ นประเภทเดยี วกนั เชน่ ไมช้ อบแสงแดดราํ ไร ไมน้ าํ้ ไมอ้ วบ
นา้ํ กลว้ ยไม้ เพื่อทาํ ใหส้ ะดวกต่อการเลือกวัสดปุ ลกู และสะดวกต่อการนาํ สวนถาดนนั้ ไปวาง
ในสถานที่ๆ เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพรรณไมท้ ่ีจัดวางในสวนถาดน้ันๆ ซ่ึงทาํ ให้
งา่ ยตอ่ การดแู ลและมอี ายกุ ารใชง้ านไดน้ านขนึ้
11.ถา้ พรรณไมใ้ นสวนถาดของนกั เรียนโตขน้ึ ควรปฏิบตั อิ ย่างไร
เม่ือพรรณไมท้ ่ีนํามาจัดสวนถาดแบบน้ีโตขึ้นก็ควรยา้ ยไปปลกู ในภาชนะใหม่ที่
เหมาะสม ซึ่งอายกุ ารใชง้ านของสวนถาดแบบนจี้ ะขน้ึ อย่กู บั การเลือกชนดิ พนั ธข์ุ องพรรณไม้
ท่ีนาํ มาจดั ดว้ ย เชน่ ไมด้ อกลม้ ลกุ จะมอี ายนุ อ้ ยกวา่ ไมใ้ บ
12.นกั เรียนมแี นวคิดในการจดั สวนถาดทยี่ อ่ สว่ นทิวทศั นท์ วั่ ไปอย่างไร
สวนถาดแบบน้ีจะเป็ นการจัดสวนแบบจาํ ลองทิวทัศนธ์ รรมชาติ หรือการเป็ นสื่อถึง
เร่ืองราวที่พบเห็นในชีวิตประจาํ วัน หรือเป็ นเร่ืองราวที่สรา้ งขน้ึ มาก็ได้ เชน่ การจาํ ลองภาพ
ในฟารม์ การจาํ ลองภาพในชนบท
สวนถาดแบบนี้สามารถใชไ้ ดก้ ับกระถางทกุ ประเภทแต่กระถางตอ้ งมีความลึก
พอเหมาะต่อการบรรจวุ ัสดปุ ลกู ซึ่งการจัดสวนแบบน้ีมักจะมีต๊กุ ตาคนหรือสัตว์ หรือ
ส่ิงก่อสรา้ งจําลอง เช่น ศาลา บา้ น สะพาน เพ่ือทําใหส้ ื่อถึงความหมายของเร่ืองราวของ
ทวิ ทศั นห์ รือภาพจาํ ลองของสวนถาด
60
13.ถา้ นกั เรียนตอ้ งการกอ่ เขามอ นกั เรียนสามารถออกแบบไดก้ แ่ี บบ อะไรบา้ ง
การกอ่ เขามอมี 2 แบบ คือ
1. การกอ่ แบบติดตาย คือ การกอ่ หินใหต้ ดิ กบั พ้ืนถาดอย่างถาวร ซ่ึงทาํ ไดง้ า่ ย
แตไ่ มส่ ามารถยกเขามอออกได้
2. การก่อแบบลอยตัว คือ การก่อเขามอท่ีสามารถยกเขามอออกจากถาดได้
สะดวกไปยงั ทีต่ า่ งๆ ตามตอ้ งการ
14.การจดั สวนถาดที่ยอ่ สว่ นทวิ ทศั นห์ รือเร่ืองราวโดยการนาํ กอ้ นหินจริงมาจาํ ลอง นยิ มนาํ
กอ้ นหินจริงมาจดั เพ่อื เป็ นตวั แทนของอะไร
ภเู ขา
61
เฉลย
พรรณไมใ้ นการจดั สวนถาด
คาํ สงั่ ใหน้ กั เรียนแยกประเภทพรรณไมต้ ามประเภทพรรณไม้ พรอ้ มทาํ เครื่องหมาย /
ประเภท
ไมด้ อก ไมใ้ บ
ชอ่ื พรรณไม้
ไม้รูปทรง
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไร
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไร
ไม้เลื้อย
ไม้ใบ
ไม้อวบนํ้า
ไม้น้ํา
กล้วยไม้
1. แวนดา้ / / /
2. โมกแคระ /
3. ฟ้ าประดษิ ฐ์ /
4. ชาฮกเกยี้ นแคระ / /
5. กล็อกนเี ซีย /
6. หนา้ ววั แคระ / /
7. ผกั เป็ ดแดง / /
8. โฮย่า /
9. ชวนชม / /
10.เดปกระเป๋ า / /
11.พลดู า่ ง
12.หวาย / /
13.หนวดปลาดกุ แคระ / /
14.ดาวเรืองจวิ๋
15.เฟิ รน์ ใบมะขาม /
16.พรมออสเตรเลีย /
17.บวั บา
18.กกร่ม /
19.แคคตสั /
20.ยปิ โซ
21.หลิวดอก /
22.แอฟริกนั ไวโอเลต
23.กกอียิปต์ /
24.ลานไพลนิ
25.ฟาแลนนอพซิส
26.เฟิ รน์ ใบผกั ชี
27.ชา้ ง
62
ไมด้ อก ประเภท
ไมใ้ บ
ชอ่ื พรรณไม้ ไม้รูปทรง
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไร
ชอบแสงจัด
ชอบแสงรําไร
ไม้เลื้อย
ไม้ใบ
ไม้อวบนํ้า
ไม้น้ํา
กล้วยไม้
28.ว่านหางจระเข้ / / /
29.เฟิ รน์ ขา้ หลวงหลงั ลาย / / /
30.กระจบั แกว้ / /
31.ไอว่ี /
32.แคทลยี า / / /
33.หยิกนโิ กร /
34.แกว้ แคระ / /
35.เฟิ รน์ กนกนารี / /
36.แววมยรุ า /
37.ฟ้ าประดบั /
38.มะสงั ดดั /
39.กหุ ลาบหิน
40.เศรษฐเี รือนใน /
41.เทยี นทอง
42.สบั ปะรดสี
43.ไขม่ กุ
44.หวั ใจสีมว่ ง
45.เศรษฐเี รือนนอก
46.โปร่งฟ้ า
47.กวนอิม
48.หกู ระจงแคระ
63
เฉลย
สวนถาดแหง้
1. การจดั สวนถาดแหง้ เป็ นการย่อทวิ ทศั นข์ อง ทะเลทราย
2. การจดั สวนถาดแหง้ นยิ มใชต้ น้ ไมป้ ระเภทตน้ ไมพ้ วกแคคตสั กบั พวกซคั คิวเลนท์
3. ขนั้ ตอนแรกในการจดั สวนถาดแหง้ คือ กาํ หนดรปู แบบ
4. หินทใ่ี ชจ้ ดั สวนถาดมี 3 ประเภท ไดแ้ ก่ หินนงั่ หินนอน หินยนื
5. ดนิ ผสมสาํ หรบั การจดั สวนถาดแหง้ ประกอบดว้ ย
ดนิ ร่วน 2 สว่ น
ทรายหยาบ 3 สว่ น
ถา่ นป่ น 1 สว่ น
ใบไมผ้ ุ 0.5 สว่ น
ป๋ ุยหมกั 0.5 สว่ น
6. ขน้ั ตอนการจดั สวนถาดแหง้ มกี ี่ 4 ขน้ั ตอน
7. แนวทางการพิจารณาขนาดของหินยนื หินนงั่ หินนอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซคั ควิ เลนท์
1 พิจารณาขนาดของวัสดอุ ปุ กรณห์ ลกั กับขนาดของถาดในท่ีนี้พิจารณาขนาด
ของหินยืน นงั่ นอน ขนาดของตน้ แคคตสั ตน้ ซัคคิวเลนท์ กบั ขนาดของถาด พิจารณาขนาด
ของวสั ดอุ ปุ กรณห์ ลกั ไดส้ ดั สว่ นกบั ขนาดของถาดหรือไม่ ตอ้ งเลอื กใชท้ ่ีไดส้ ดั สว่ นกนั
2 พิจารณาขนาดของหินยืน นงั่ นอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซัคคิวเลนท์ เลือกใชท้ ่ี
ขนาดไดส้ ดั สว่ นกนั ซ่ึงขนาดเล็กใหญ่สงู ตา่ํ ไล่เลี่ยกนั เพื่อใหเ้ ป็ นโครงสรา้ งหลกั ของสวนถาด
เลือกใชเ้ ฉพาะทไ่ี ดส้ ดั สว่ นกนั
3 พิจารณารปู ทรงหรือรปู รา่ งหนา้ ตาของหินยนื นงั่ นอน ตน้ แคคตสั และตน้ ซัค
คิวเลนท์ เลือกใชร้ ปู ทรงที่กลมกลืนกันประมาณรอ้ ยละ 70- 80 และรปู ทรงที่แตกต่างกัน
รอ้ ยละ 30 – 20
8. มมุ มองท่สี าํ คญั ท่ีสดุ ซึ่งจะอย่ตู รงบริเวณไหนของถาด
อย่ตู รงกลางถาด
9. การจดั สวนถาดแหง้ เมอื่ กาํ หนดตาํ แหนง่ ของจดุ เดน่ แลว้ ใหว้ างหินชนดิ ใด บริเวณตาํ แหนง่
ใดของถาด
วางหินยนื ตรงจดุ เดน่ ซ่ึงจะอยตู่ รงจดุ ก่งึ กลางของถาด
10.อธิบายการวางตน้ แคคตสั
วางตาํ แหนง่ แคคตสั ท่ี 1 ซึ่งตา่ํ กว่าหินยืนเล็กนอ้ ยเพื่อประกอบหินยนื ใหเ้ ดน่ วางดา้ นขวาของ
หินยืนแตเ่ ย้ืองไปทางดา้ นหนา้ ของหินยืนเล็กนอ้ ย วางตาํ แหนง่ ตน้ แคคตสั ตน้ ท่ี 2 ซ่ึงสงู กว่า
ตน้ ท่ี 1 เล็กนอ้ ย วางดา้ นซา้ ยของหินยืนใหเ้ ยื้องมาดา้ นหลงั ของหินยืนเล็กนอ้ ยไมใ่ หบ้ ังสว่ น
หนา้ ของหินยืน การวางนจี้ ะวางเป็ นรปู สามเหลี่ยม จะเห็นว่าตาํ แหนง่ ของการวางหินยืน หิน
นงั่ และหินนอนเป็ นรปู สามเหลี่ยมดา้ นไม่เท่า จากนน้ั วางตาํ แหนง่ ตน้ ซัคคิวเลนท์ ซ่ึงตาํ่ กว่า
ตน้ ที่ 2และรปู ทรงตา่ งกนั โดยระหว่างดา้ นหนา้ ของหินยนื กบั หินนอน จะเห็นว่าทง้ั 3 ตน้ วาง
เป็ นรปู สามเหล่ียมดา้ นไม่เท่า เหมือนการวางหินยืน หินนงั่ หินนอน วางไม่ชิดหรือห่างกัน
มากเกนิ ไปไมบ่ งั กนั ใหค้ าํ นงึ ถึงทวี่ ่างและชว่ งจงั หวะ
11.ตาํ แหนง่ ของการวางหินยืน หินนงั่ และหินนอนเป็ นรปู อะไร
รปู สามเหลย่ี มดา้ นไมเ่ ทา่
64
12.ใหอ้ ธิบายการทาํ โครงสวน
การทาํ โครงสวนไดแ้ ก่ทาํ ใหอ้ งคป์ ระกอบหลักต่าง ๆ ท่ีประกอบกันเป็ นโครงร่างยึด
อย่กู ับที่โดยไม่เปล่ียนแปลงตาํ แหนง่ อีกหินท้งั 3 กอ้ นและตน้ ไมท้ ัง้ 3 จะอย่ตู รงตาํ แหนง่ เดิม
โดยไมเ่ ปล่ยี นแปลงอีก ขน้ั ตอ่ ไปใชด้ นิ ทบั โคนตน้ แคคตสั และทบั บริเวณฐานหินทง้ั 3 กอ้ น การ
จัดวางหินจะไม่วางลอยไวบ้ นผิวดิน เพราะผิดธรรมชาติ จัดทาํ เนินดินใหส้ งู ๆ ตาํ่ ๆ การทาํ
เนินดินใหน้ าํ เร่ืองรปู ทรงและเสน้ มาใช้ บริเวณส่วนหนึ่งของเนินดินจะเวน้ ท่ีเผ่ือไวป้ ลกู ตน้ ไม้
เพ่ิมเติมเสริมแต่งหรือไวเ้ พ่ิมเติมหิน กดดินใหแ้ น่นพอประมาณและแต่งผิวเรียบ จะไดโ้ ครง
สวนท่สี มบรู ณ์
13.การปลกู ไมป้ ระดบั สวนใหส้ มบรู ณ์ หมายถึง
การใชต้ น้ ซัสคิวเลนท์ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าตน้ ไมท้ ี่ปลกู ไวเ้ ป็ นหลัก เรียกว่า ไมแ้ ฟนซี
นาํ มาปลกู เพิ่มเตมิ เสริมแตง่ ปลกู ตรงไหนใหข้ ดี เสน้ แสดงรปู ร่างไวต้ รงจดุ นนั้ จากนนั้ ตกั ดิน
ออกจากบริเวณท่ีจะปลกู โดยตักออกเพียงเล็กนอ้ ยเพ่ือใหเ้ ห็นแนวท่ีจะปลกู และทาํ การปลกู
การจดั สวนถาดแหง้ ใชว้ สั ดใุ ดตกแตง่ ผวิ และโรยเสน้ ขอบของผวิ สวนถาด
65
เฉลย
คําช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามตอ่ ไปน้ี
๑. การจดั สวนในขวดแกว้ หรือ Terrarium คืออะไร
ตอบ การจาํ ลองระบบนเิ วศนใ์ หม้ าอย่ใู นภาชนะทเ่ี ป็ นกระจกใส หรือขวดแกว้ มที ง้ั แบบ เปิ ด และแบบ
ปิ ด ซึ่งตน้ ไมส้ ว่ นมากทจี่ ะเอามาจดั แตง่ ในโหลแกว้ มกั จะเป็ นไมเ้ ขตรอ้ นชน้ื เพราะไมช้ นดิ นจี้ ะใช้
ความชน้ื สงู ฉะนน้ั ควรตอ้ งเลือกสวนขวดระบบปิ ด เพอ่ื รกั ษาความชน้ื ใหส้ มดลุ
๒. Terrarium แบบระบบเปิ ด และแบบระบบปิ ด มคี วามเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร
ตอบ สวนขวดแกว้ ระบบเปิ ด คอื ไมต่ อ้ งใชฝ้ าขวดแกว้ มาปิ ด และตอ้ งการการรด นาํ้ มากกว่าแบบ
ระบบปิ ด เพราะความชนื้ นนั้ จะไหลเวียนออกไปไดง้ า่ ย และสวนระบบปิ ด คอื การนาํ ฝาขวดแกว้ มา
ปิ ดใหส้ นทิ และไมจ่ าํ เป็ นตอ้ งรดนา้ํ บ่อย ๆ จึงเหมาะสาํ หรบั คนที่ไมค่ ่อยมเี วลา หรือมกั จะชอบลมื รด
นา้ํ ตน้ ไมบ้ อ่ ย ๆ เพราะสวนขวดแกว้ เป็ นระบบนเิ วศนเ์ ล็ก ๆ ทย่ี งั ชพี ไดด้ ว้ ยตวั เอง คือนาํ ความชน้ื
กลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ จึงไมต่ อ้ งการนาํ้ และไมต่ อ้ งการการดแู ลมากนกั
๓. นยิ มพชื ชนดิ ใดบา้ งมาจดั สวน Terrarium เพราะเหตใุ ด
ตอบ ตน้ ไมใ้ นเขตรอ้ นชน้ื และตอ้ งมขี นาดเล็กเพราะไมช้ นดิ นจ้ี ะใช้ ความชน้ื สงู
๔. นกั เรียนคิดว่า ประโยชนข์ องการจดั สวนแบบ Terrarium คืออะไร
ตอบ สาํ หรบั ผทู้ ี่อย่คู อนโด หอพกั หรือบา้ นหลงั เล็กทไ่ี มม่ พี นื้ ทปี่ ลกู ตน้ ไม้ แตอ่ ยากใกลช้ ดิ ธรรมชาติ
การจดั สวนในขวดแกว้ จึงชว่ ยใหส้ มั ผสั ถึงความเป็ นธรรมชาตไิ ดอ้ ย่างใกลช้ ดิ ชว่ ยใหร้ สู้ ึกผอ่ นคลาย
ที่สาํ คญั ขวดแกว้ เหลา่ นกี้ ็ไมไ่ ดก้ ินเนอ้ื ทใ่ี นบา้ นมาก ทาํ ใหส้ ามารถจดั สวนในขวดแกว้ ไดห้ ลาย ๆ แบบ
และหลาย ๆ สวน เพ่ือใช้ ตกแตง่ ภายในหอ้ งตา่ ง ๆ ได้
๕. จงออกแบบการจดั สวนแบบ Terrarium ตามความชน่ื ชอบของนกั เรียน โดยสวน Terrarium
ท่นี กั เรียนออกแบบนน้ั จะตอ้ งมรี ะบบนเิ วศที่สามารถดาํ รงอยไู่ ดจ้ ริง พรอ้ มบอกชนดิ พชื และวสั ดุ
ท่ีนาํ มาตกแตง่ (วาดภาพประกอบ)
ตอบ
66
แบบทดสอบหลงั เรียน
ขอ้ คาํ ตอบ
1ข
2ค
3ง
4ง
5ง
6ก
7ง
8ค
9ค
10 ค
พอใจกบั คะแนนของตนเองกนั มย้ั คะ่ ....
ใครยงั ไมเ่ ขา้ ใจศึกษาใหมไ่ ดน้ ะคะ
67
ประวตั ิผจู้ ดั ทํา
ชื่อ นางสาวรงุ่ อรณุ รนุ รา
ท่ีอยู่ 56/20 แขวงรชั ดาภเิ ษก เขตดนิ แดง กรงุ เทพมหานคร 10400
วฒุ ิการศึกษา วิทยาศาสตรบณั ฑติ (วท.บ) วิชาเอก พชื ไร่
สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหาร ลาดกระบงั
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ครู วิชาเอก การศึกษา
มหาวิทยายราชภฎั ราชนคริทร์
ตําแหนง่ งานปัจจบุ นั ครู คศ.1
รางวลั ท่ีเคยไดร้ บั 1.รางวลั ชนะเลศิ ระดบั ประเทศ โรงเรียนคารบ์ อนตาํ่ (ลดการใช้
พลงั งานไฟฟ้ าที่โรงเรียน) ระดบั มธั ยมศึกษา ประเภทจาํ นวนนกั เรียน 2,501-3,000 คน
2.รางวลั ชนะเลิศระดบั ประเทศ โรงเรียนสเี ขยี ว
3.ครผู สู้ อนนกั เรียนไดร้ บั รางวลั เหรียญทองกจิ กรรมการแขง่ ขนั
การจดั สวนถาดแบบชนื้ ระดบั ชนั้ ม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนกั เรยี นระดบั ชาติ ครงั้ ที่
67-68 ปี การศึกษา 2560-2561
สถานท่ีทํางานปัจจบุ นั โรงเรียนสรุ ศกั ดมิ์ นตรี เขตดนิ แดง กรงุ เทฑมหานคร
สาํ นกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา กรงุ เทพมหานคร เขต 2