ภาษีอากร-ครบ

แบบทดสอบก่อนเรียน ตอนที่ ๑ ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้นำภาษีขายจากการขายเชื่อไปรวมคำนวณภาษีเพิ่มและได้ยื่นแบบใด ก. แบบ ภ.พ.31 ข. แบบ ภ.พ.30 ค. แบบ ภ.พ.32 ง. แบบ ภ.พ.33 2. การตัดหนี้สูญและให้บันทึกลดยอดในรายงานภาษีขาย ข้อใดถูก ก. เดบิต ลูกหนี้ xx ข. เดบิต เงินสด xx ภาษีขาย xx เครดิต หนี้สูญ xx เครดิต หนี้สูญ xx ภาษีขาย xx ค. เดบิต หนี้สูญ xx ง. เดบิต หนี้สูญ xx ภาษีขาย xx เครดิต ลูกหนี้ xx เครดิต ลูกหนี้ xx ภาษีขาย xx 3. วันที่ 8 ม.ค. 2561 ขายสินค้าเป็นเงินเช่อ 5,000 หน่วยๆละ 10 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% วิธีบันทึกบัญชีข้อใดถูก ก. เดบิต ลูกหนี้การค้า 53,500 ข. เดบิต เงินสด 53,500 เครดิต ขายสินค้า 50,000 เครดิต ขายสินค้า 50,000 ภาษีขาย 3,500 ภาษีขาย 3,500 ค. เดบิต ลูกหนี้การค้า 50,000 ง. เดบิต เงินสด 50,000 เครดิต ขายสินค้า 50,000 เครดิต ขายสินค้า 50,000 4. กิจการต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแทนให้ Facebook โดยใช้ แบบ ภ.พ.36 ภายในกี่วัน ก. 7 วัน ข. 14 วัน ค. 30 วัน ง. 60 วัน 5. บริษัท มานะ จำกัด จ่ายค่าโฆษณาให้ Facebook โดยโอนเงินผ่านธนาคาร จำนวน 300,000 บาท ข้อใดบันทึกรายการบัญชีถูกต้อง ก. เดบิต ค่าโฆษณา 300,000 ข. เดบิต ค่าโฆษณา 321,000 เครดิต เงินสด 300,000 เครดิต ธนาคาร 321,000 ค. เดบิต ค่าโฆษณา 321,000 ง. เดบิต ค่าโฆษณา 300,000 เครดิต เงินสด 321,000 เครดิต ธนาคาร 300,000

6.ภาษีซื้อแบ่งงออกเป็นกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 7.การบันทึกบัญชีรายการเกี่ยวกับซื้อสินค้าหรือสินทรัพย์บันทึกได้อย่างไร ก. เดบิต เจ้าหนี้ xx ข. เดบิต เงินสด xx เครดิต เงินสด xx เครดิต ภาษีซื้อ xx ค. เดบิต ซื้อสินค้า/สินทรัพย์xx ง. เดบิต เงินสด xx ภาษีซื้อ xx ภาษีซื้อ xx เครดิต เงินสด/เจ้าหนี้การค้า xx เครดิต เจ้าหนี้xx 8.ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีในมาตราที่เท่าไร ก. มาตรา 68/4 ข. มาตรา 56/4 ค. มาตรา 86/4 ง. มาตรา 89/4 9.นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้แต่หากเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้คือภาษีอะไร ก. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ข. ภาษีซื้อต้องห้าม ค. ภาษีซื้อเครดิตได้ ง. ภาษีซื้อ 10.บริษัท รวยทอง จำกัด จ่ายค่าไฟฟ้าของบริษัทจำนวน6,000บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% รวม6,420บาท ต้องบันทึกบัญชีอย่างไร ก. เดบิต ค่าไฟฟ้า 6,000 เครดิต เงินสด 6,000 ข. เดบิต ค่าไฟฟ้า(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 6,420 เครดิต เงินสด 6,420 ค. เดบิต ค่าใช้จ่าย 6,420 เครดิต เจ้าหนี้ 6,420 ง. เดบิต เจ้าหนี้ 6,000 เครดิต เงินสด 6,000 แบบทดสอบก่อนเรียน

6. การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับหนี้สูญ ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้นำภาษีขายจากการขายเชื่อไปรวมคำนวณภาษีเพิ่มและได้ยื่นแบบ ภ.พ. 30 ของเดือนที่มีการขายเกิดขึ้นไปแล้ว หากไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ ให้นำภาษี ขายที่ คำนวณจากส่วนของหนี้สูญไปหักจากภาษีซื้อในเดือนที่เกิดหนี้สูญได้ ทั้งนี้เฉพาะลูกหนี้ที่เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 85) ลูกหนี้รายใดที่ได้จำหน่ายเป็นหนี้สูญไปแล้ว ต่อมาเรียกเก็บเงินได้ ให้นำภาษีที่คำนวณจากส่วนของหนี้สูญ ได้รับกลับคืนมารวมเป็นภาษีขายในเดือนภาษีที่ได้รับชำระ การบันทึกบัญชีเดี่ยวกับหนี้สูญ เมื่อตัดหนี้สูญ เดบิต หนี้สูญ xx ภาษีขาย xx เครดิต ลูกหนี้ xx บันทึกบัญชีหนี้สูญรับคืนและให้บันทึกเพิ่มยอดในรายงานภาษีขาย ต่อมาหากหนี้สูญตัดจ่ายเป็นสูญแล้วต่อมาได้รับคืน เดบิต เงินสด xx เครดิต หนี้สูญได้รับคืน xx ภาษีขาย xx บันทึกบัญชีหนี้สูญรับคืนและให้บันทึกเพิ่มยอดในรายงานภาษีขาย ตัวอย่าง ๖.1 บริษัท อังกฤษ จำกัด มีรายการขายเชื่อ การจำหน่ายหนี้สูญ และรายการได้รับชำระคืนจากลูกหนี้ที่จำหน่าย เป็นหนี้สูญไปแล้วดังนี้ วันที่ 15 ม.ค. 25x2 ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ 5,000 หน่วย ๆ ละ 15 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% วันที่ 20 เม.ย. 25x2 ได้รับชำระเงินบางส่วน 15,000 บาท วันที่ 21 มิ.ย. 25x2 จากการติดตามหนี้รายการดังกล่าวทั้งทางโทรศัพท์ และ ทางจดหมาย ลงทะเบียนตอบรับ รวม 3 ครั้ง และปรากฏว่าไม่มีผู้รับเนื่องจากลูกนี้เลิกกิจการไปแล้ว ย้ายที่อยู่ติดตามไม่ได้ แล้ว ซึ่งกรณีที่ให้ตัดหนี้สูญได้ตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศอธิบดีเกี่ยวกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม วันที่ 25 ธ.ค. 25x2 ลูกค้าที่บริษัทตัดหนี้สูญไปแล้วมาชำระหนี้ที่ติดค้างทั้งหมด

การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 25x2 ม.ค. 15 ขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ 5,000 หน่วย ๆ ละ 15 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เดบิต ลูกหนี้การค้า 53,500 เครดิต ขายสินค้า 50,000 ภาษีขาย (50,000x7%) 3,500 เม.ย. 20 ได้รับชำระเงินบางส่วน 15,000 บาท เดบิต เงินสด 15,000 เครดิต ลูกหนี้การค้า 15,000 มิ.ย. 21 ตัดหนี้ที่เหลือเป็นหนี้สูญ เดบิต หนี้สูญ (38,500x100/107) 35,981.13 ภาษีขาย (38,500x7/107) 2,518.70 เครดิต ลูกหนี้ (53,500-15,000) 38,500 ธ.ค. 25 หนี้สูญไปแล้วมาชำระหนี้ที่ติดค้างทั้งหมด เดบิต เงินสด 38,500 เครดิต หนี้สูญได้รับคืน (38,500x100/107) 35,981.13 ภาษีขาย (38,500x7/107) 2,518.70

7. การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการนำเข้าสินคำและการซื้อบริการในต่างประเทศ (นำเข้าบริการ) 7.1 การนำเข้าสินค้า การนำเข้าตามปกติโดยทั่วไป ความรับผิดเกิดขึ้นเมื่อชำระอากรขาเข้าวางหลักประกันอากร ขาเข้าหรือจัดให้มีผู้ค้ำประกันอากรขาเข้า ฐานที่ใช้ในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มใช้ราคา C.I.F. ของสินค้าบวก อากรขาเข้า บวกภาษีสรรพสามิตและค่าธรรมเนียมอื่นที่กฎหมายกำหนด การบันทึกรายการเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้า การบันทึกรายการนำเข้าสินค้า เดบิต ซื้อสินค้า/สินค้าคงเหลือ xx เครดิต เจ้าหนี้ต่างประเทศ xx บันทึกการจ่ายค่าอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบเสร็จที่กรมศุลกากรออกให้ เดบิต ค่าอากรขาเข้า xx ภาษีซื้อ xx เครดิต เงินฝากธนาคาร xx เดบิต เจ้าหนี้ต่างประเทศ xx กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน xx เครดิต เงินฝากธนาคาร xx บันทึกรายการในรายงานภาษีซื้อ ตามใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจากกรมศุลกากร และให้บันทึกรายการในรายงานสินค้าและวัตถุดิบด้วย ตัวอย่าง ๗.๑ บริษัท รุ่งเรือง จำกัด นำเข้าสินค้า ราคาตามใบกำกับสินค้า (C.I.F) 20,000 เหรียญ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 25x1 ได้ออกใบขนสินค้าและชำระอากรขาเข้า 24,000บาท วันที่ 31 ตุลาคม 25x1 ได้โอนเงินชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ต่างประเทศ 40,000 เหรียญ อัตราแลกเปลี่ยนที่ธนาคารพาณิชย์ขายเป็น ดังนี้ มิถุนายน US $ = 30 บาท ตุลาคม US $ = 35 บาท อัตราถั่วเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์ขายที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันสิ้นงวดบัญชี US $ = 39 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ พ.ศ.๒๕x๑ มิ.ย. ๓๐ เดบิต ซื้อสินค้า (20,000x30) 600,000 ค่าอากรขาเข้า 24,000 ภาษีซื้อ (600,000+24,000) x 7% 43,680 เครดิต เจ้าหนี้ต่างประเทศ (20,000x30) 600,000 เงินฝากธนาคาร (24,000+43680) 67,680 - บันทึกรายการในรายงาน ภาษีซื้อ ตามใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจากกรมศุลกากร - บันทึกรายการในรายงานสินค้าและวัตถุดิบ

ต.ค. ๓๑ เดบิต เจ้าหนี้ต่างประเทศ (4,000x30) 120,000 ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (4,000x5) 20,000 เครดิต เงินฝากธนาคาร (4,000x35) 140,000 บันทึกชำระหนี้เจ้าหนี้ต่างประเทศ 4,000 US $ = 35 บาท ธ.ค. ๓๑ เดบิต ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (16,000x9) 144,000 เครดิต เจ้าหนี้ต่างประเทศ 144,000 บันทึกกำไรขาดทุนจากการแลกเปลี่ยนในวันสิ้นงวดบัญชี 7.2 การซื้อบริการที่ทำในต่างประเทศและมีการใช้บริการนั้นในประเทศ ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่จ่ายเงินให้ผู้ให้บริการที่ต่างประเทศ เช่น การจ่ายค่าโฆษณา สินค้าทางเว็บไซต์ให้ Facebook/Google ค่ามีหน้าที่ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแทนบริษัทต่างประเทศด้วยแบบ ภ.พ. 36 ภายใน 7 วันนับจากสิ้นเดือนที่จ่ายเงิน ตัวอย่าง ๗.๒ บริษัท ดาวรุ่ง จำกัด จ่ายค่าโฆษณาสินค้าทางเว็บไซต์ให้ Facebook โดยโอนเงินผ่าน ธนาคาร จำนวน 500,000 บาท เดบิต ค่าโฆษณา 500,000 เครดิต ธนาคาร 500,000 กิจการต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มแทนให้ Facebook โดยใช้ แบบ ภ.พ.36 ภายใน 7 วันบันจากสิ้นเดือนที่ จ่ายเงิน เดบิต ภาษีซื้อ (500,000x7%) 35,000 เครดิต เงินสด/ธนาคาร 35,000 บันทึกรายการในรายงานภาษีซื้อ ตามใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจากกรมศุลกากร และให้บันทึกรายการในรายงานสินค้าและวัตถุดิบด้วย บริษัท ดาวรุ่ง จำกัด จ่ายค่า โฆษณาสินค้าทางเว็บไซต์ให้ Facebook ยื่นแบบ ภ.พ.36 ภายใน 7 วันนับจากสิ้นเดือนที่ จ่ายเงิน บริษัท ดาวรุ่ง จำกัด ได้ใบเสร็จ รับเงินจากกรมสรรพากรเพื่อ นำมาเป็นภาษีซื้อ

8. การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อและภาษีซื้อ ภาษีซื้อแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ภาษีซื้อเครดิตได้ 2. ภาษีซื้อต้องห้าม 1. ภาษีซื้อเครดิตได้ เป็นภาษีซื้อที่สามารถนำไปหักจากภาษีขายในการคำนวณ ภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยต้องเป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ เป็นภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีเต็ม รูปที่เป็น ต้นฉบับ มีรายการครบถ้วนสมบูรณ์ และออกโดยผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษี และไม่เป็นภาษีซื้อต้องห้าม • ภาษีซื้อประเภทนี้เป็นภาษีที่เกิดจาก • การซื้อสินค้า • ซื้อทรัพย์สินหรือรับบริการที่ถูกเรียกเก็บจากผู้ประกอบการจดทะเบียนรายอื่น • จ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การบันทึกรายการเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ 1. การบันทึกรายการเกี่ยวกับซื้อสินค้า เมื่อมีการซื้อสินค้าหรือสินทรัพย์ เดบิต ซื้อสินค้า/สินทรัพย์ xx ภาษีซื้อ xx เครดิต เงินสด/เจ้าหนี้การค้า xx บันทึกการซื้อและจัดทำรายงานภาษีซื้อ เมื่อจ่ายชำระหนี้ให้เจ้าหนี้การค้า เดบิต เจ้าหนี้การค้า xx เครดิต เงินสดหรือธนาคาร xx เมื่อส่งคืนสินค้าและได้รับใบลดหนี้ เดบิต เจ้าหนี้การค้า xx เครดิต ส่งคืนสินค้า xx ภาษีซื้อ xx บันทึกการส่งคืนและจัดทำรายงานภาษีซื้อ เมื่อจ่ายชำระหนี้ให้เจ้าหนี้การค้าและได้ส่วนลดเงินสด เดบิต เจ้าหนี้การค้า xx เครดิต เงินสดหรือธนาคาร xx ส่วนลดรับ xx

2. การใช้บริการเป็นเงินเชื่อ เมื่อมีการใช้บริการบันทึกค่าบริการและได้รับใบแจ้งหนี้ (ความรับผิดยังไม่เกิด) เดบิต ค่าใช้จ่าย (ระบุ) xx ภาษีซื้อที่ยังไม่ครบกำหนด xx เครดิต ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย xx เมื่อชำระค่าบริการได้รับใบกำกับภาษี เดบิต ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย xx เครดิต เงินสดหรือธนาคาร xx เดบิต ภาษีซื้อ xx เครดิต ภาษีซื้อที่ยังไม่ครบกำหนด xx บันทึกการชำระหนี้และจัดทำรายงานภาษีซื้อ ตัวอย่าง ๘.๑ บริษัท นานาทรัพย์ จำกัด จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีรายการค้าระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ 25x7 ดังนี้ ก.พ. 1 ซื้อสินค้าเป็นเงินสด 500,000บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 35,000บาท 2/10,N/30 3 จ่ายค่าวัสดุสำนักงาน 7,500 บาท เป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว 6 ส่งคืนสินค้าที่ซื้อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์จำนวน 30,000 บาทภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ได้รับใบลด หนี้เลขที่ 22/ 222 9 จ่ายชำระหนี้ที่เหลือได้รับส่วนลด 2% 15 ได้รับบิล แจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า 6,000 บาทภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 20 จ่ายชำระหนี้ค่าไฟฟ้าตามใบแจ้งหนี้วันที่ 15 กุมภาพันธ์ได้รับใบกำกับภาษี เลขที่99/999 2. ภาษีซื้อต้องห้าม เป็นภาษีซื้อที่ไม่สามารถนำไปหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ แต่ถือเป็นค่าใช้จ่ายหรือถือเป็นมูลค่าของทรัพย์สินได้ (นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้แต่หัก เป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้) ภาษีซื้อต้องห้ามประเภทนี้ ได้แก่ (1) ภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายเพื่อการรับรอง (2) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่ง ไม่เกิน 10 คน และภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อสินค้าหรือการรับบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั่งดังกล่าว (3) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อ เช่าซื้อ เช่า หรือรับโอนรถยนต์ที่มิใช่รถยนต์นั่งและรถยนต์ โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ต่อมาได้ดัดแปลงให้เป็นรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ทั้งนี้เฉพาะที่ได้กระทำใน 3 ปีนับแต่เดือนภาษีที่ได้รถยนต์ไว้ครอบครอง (4) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีอย่างย่อ (5) ภาษีซื้อที่เกิดจากการซื้อทรัพย์สินเพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายของกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

(6) ภาษีซื้อที่เกิดจากการก่อสร้างอาคารหรืออสังหาริมทรัพย์อื่น เพื่อใช้หรือจะใช้ในกิจการ ประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และต่อมาได้ขาย หรือให้เช่า หรือนำไปใช้ในกิจการประเภทที่ไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ เฉพาะที่ได้กระทำภายใน 3 ปีนับแต่เดือนภาษีที่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ (7) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีที่มิได้พิมพ์คำว่า "ใบกำกับภาษี" มิได้ตีพิมพ์ขึ้นหรือมิได้จัดทำ ขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งฉบับ (8) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ได้จัดทำรวมกับเอกสารทางการค้าอื่นและ ใบกำกับภาษีไม่ใช่ฉบับแรกของเอกสารดังกล่าวโดยข้อความว่า เอกสารออกเป็นชุด ในใบกำกับภาษีมิได้ตีพิมพ์ ขึ้น หรือจัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (9) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปของสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่ซึ่งสาขา เป็นผู้ออกใบกำกับภาษีและส่งมอบให้กับผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการโดยไม่มีคำว่า "สาขาที่ออกใบกำกับภาษี คือ.…" ไว้ในใบกำกับภาษี (10) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปของสถานีบริการน้ำมันที่ไม่ได้ระบุเลขทะเบียน รถยนต์ไว้ในใบกำกับภาษี (11) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษี ซึ่งมีรายการในใบกำกับภาษีเป็นสำเนา (copy) เว้นแต่กรณี ใบกำกับภาษีที่เป็นเอกสารออกเป็นชุด (12) ภาษีซื้อส่วนที่เฉลี่ยเป็นของกิจการประเภท ที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (13) ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 ซึ่งมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการภาษีซื้อ ต้องห้ามประเภทนี้ไม่ให้นำมาทักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มรวมเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ แต่หักเป็นค่าใช้จ่ายหรือถือเป็นมูลค่าของทรัพย์สินได้ โดยให้นำไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าทรัพย์สินที่ซื้อหรือรวม เป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ การบันทึกบัญชีภาษีซื้อต้องห้าม แต่หักเป็นค่าใช้จ่ายหรือถือเป็นมูลค่าของทรัพย์สินได้ เดบิต ค่าใช้จ่าย/สินทรัพย์ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) xx เครดิต เงินสด/เจ้าหนี้ xx ตัวอย่าง ๘.๒ บริษัท นานาเจริญ จำกัด จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัทจำนวน 3,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และจ่ายค่ารับรองลูกค้าจำนวน 1,500 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 105 บาท ได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็ม รูปแบบ การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ เดบิต ค่าน้ำมัน (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 3,210 เครดิต เงินสด 3,210 จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท

เดบิต ค่ารับรอง (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2,605 เครดิต เงินสด 2,605 จ่ายค่ารับรองลูกค้า เดบิต รถยนต์นั่ง (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 963,000 เครดิต เงินสด 963,000 บริษัทซื้อรถยนต์นั่งราคา 900,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 63,000 บาท นอกจากนั้นยังมีภาษีซื้อต้องห้ามอีกประเภทหนึ่งที่ห้ามขอคืน และห้ามที่ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไร สุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลอีกด้วย ให้บันทึกภาษีซื้อดังกล่าวไว้ในบัญชีภาษีซื้อ ต้องห้าม โดยกิจการต้อง นำภาษีซื้อต้องห้ามดังกล่าวไปบวกกลับในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี (ต้องห้ามทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและ ภาษีเงินได้นิติบุคคล) ได้แก่ 1. ภาษีซื้อที่ไม่มีหลักฐานใบกำกับภาษี 2. ภาษีซื้อที่มีใบกำกับภาษีแต่ไม่อาจแสดงได้ว่ามีการชำระภาษีซื้อ 3. ภาษีซื้อที่ใบกำกับภาษีมีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ 4. ภาษีซื้อที่ไม่เกี่ยวข้องโดยุตรงกับการประกอบกิจการของผู้ประกอบการ 5. ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีซึ่งออกโดยผู้ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี การบันทึกบัญชีภาษีซื้อต้องห้าม กรณีกิจการได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป มีสิทธิขอคืนภาษีซื้อจากกรมสรรพากร แต่ไม่ประสงค์จะขอคืน ภาษี ซื้อดังกล่าวไม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ เมื่อจ่ายค่าใช้จ่าย เดบิต ค่าใช้จ่าย หรือสินทรัพย์ xx ภาษีซื้อต้องห้าม xx เครดิต เงินสด/ธนาคาร/เจ้าหนี้ xx ภาษีซื้อไม่ขอคืนดังกล่าวไม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ ต้องนำไปบวกกลับ ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี เดบิต ค่าใช้จ่าย xx ภาษีซื้อไม่ขอเครดิต/ไม่ขอคืน xx เครดิต เงินสด/ธนาคาร xx

ตัวอย่าง ๘.๓ บริษัท ร่ำรวย จำกัด จ่ายค่าซ่อมแซมรถยนต์ 30,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,100 บาท ได้รับ ใบกำกับภาษีที่ระบุที่อยู่ผู้ซื้อไม่ถูกต้อง จากที่อยู่ 99/9 เป็น 89/9 เดบิต ค่าซ่อมแซมรถยนต์ 30,000 ภาษีซื้อห้องห้าม 2,100 เครดิต เงินสด 32,100 จ่ายค่าซ่อมแซมรถยนต์ ภาษีซื้อต้องห้ามจำนวน 2,100 บาทถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติ บุคคล เนื่องจากเป็นใบกำกับภาษีที่มีการแก้ไขในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ในวันสิ้นงวด บัญชีกิจการต้องนำภาษี ซื้อต้องห้ามไปบวกกลับกับกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี

9. การบันทึกบัญชีภาษีซื้อข้ามเดือน ตามปกติภาษีซื้อเกิดขึ้นในเดือนใดให้ถือเป็นภาษีซื้อของเดือนนั้น โดยไม่คำนึงว่าสินค้าที่ซื้อมานั้นจะ ขายหรือนำไปใช้ในการผลิตใน้ดือนใดก็ตาม แต่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ภาษีซื้อข้ามเดือนได้ โดยให้กระทำได้ ภายในกำหนดระยะเวลาไม่เกิน ๖ เดือน นับแต่เดือนถัดจากเดือนที่ออกใบกำกับภาษีนั้นโดยผู้ประกอบการจด ทะเบียนไม่ต้องแสดงหลักฐานพิสูจน์ต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่า ได้รับใบกำกับภาษีในเดือนใด แต่ให้ระบุ ข้อความว่า "ถือเป็นภาษีซื้อในเดือนภาษี..." ในใบกำกับภาษีฉบับนั้นด้วย การบันทึกบัญชีภาษีซื้อข้ามเดือน เมื่อซื้อสินค้าหรือทรัพย์สินยังไม่ได้รับใบกำกับภาษีหรือได้รับใบกำกับภาษีแต่ยังไม่ประสงค์ใช้ใบกำกับภาษี เดบิต ซื้อสินค้า/ทรัพย์สิน xx ภาษีซื้อรอเครดิต/ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป xx เครดิต เงินสด/เจ้าหนี้ xx เมื่อมีความประสงค์จะใช้ภาษีซื้อตาม ใบกำกับภาษี (ใช้ได้ภายใน 6 เดือนนับแต่ได้รับใบกำกับภาษี) เดบิต ภาษีซื้อ xx เครดิต ภาษีซื้อรอเครดิต/ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป xx ให้บันทึกยอดในรายงานภาษีซื้อ ตัวอย่าง ๙.๑ บริษัท ทรัพย์เจริญ จำกัด มีรายการค้าระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 25x7 ดังนี้ 25x7 พ.ย. 20 ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง ราคาเครื่องละ 35,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่ยัง ไม่ได้รับใบกำกับภาษี ธ.ค. 5 ได้รับใบกำกับภาษีสำหรับสินทรัพย์ที่ซื้อเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน บันทึกรายการเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มในสมุดรายวันทั่วไป 25x7 พ.ย. 20 เดบิต เครื่องคอมพิวเตอร์ 105,000 ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป 7,350 เครดิต เงินสด 112,350 ซื้อสินทรัพย์ไม่ได้รับใบกำกับภาษี ธ.ค. 5 เดบิต ภาษีซื้อ 7,350 เครดิต ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป 7,350 ชำระภาษีตามใบกำกับภาษี

10. การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการเฉลี่ยภาษีซื้อ การเฉลี่ยภาษีซื้อ หมายถึง การนำภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ประกอบ กิจการทั้งเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (NON-VAT) และได้นำสินค้าหรือบริการไปใช้ใน กิจการทั้งสองประเภทผู้ประกอบการจะต้องเฉลี่ยภาษีซื้อที่จะนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณ ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อไว้ดังนี้ 1. กรณีสามารถแยกได้อย่างชัดแจ้งว่าภาษีซื้อที่เกิดจากสินค้าหรือบริการดังกล่าวเป็นซื้อของกิจการ ประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็ถือให้เป็นภาษีซื้อของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นๆ 2. กรณีไม่สามารถแยกได้อย่างชัดแจ้งว่าภาษีซื้อที่เกิดจากสินค้าหรือบริการดังกล่าวเป็นภาษีซื้อของ กิจการประเภทใด ให้เฉลี่ยภาษีซื้อตามส่วนของรายได้ของแต่ละกิจการดังนี้ (1). กรณีผู้ประกอบการจะทะเบียนเริ่มประกอบกิจการ หรือได้ประกอบกิจการมาแล้วแต่ยัง ไม่มีรายได้ ให้ผู้ประกอบกิจการจะทะเบียนเฉลี่ยภาษีซื้อ ตามส่วนของประมาณการรายได้ และนำภาษีซื้อที่ เฉลี่ยได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักออกจากภาษีขาย แต่ต้องมีจำนวนำม่เกินกึ่งหนึ่งของ ภาษีซื้อที่นำมาเฉลี่ย (2). สำหรับในปีถัดจากปีที่เริ่มประกอบกิจการ และยังไม่มีรายได้ถึงสิ้นปีของที่เริ่มมีรายได้ให้ เฉลี่ยภาษีซื้อ ตามส่วนของประมาณการรายได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ข้างต้นเมื่อสิ้นปีที่เริ่มมีรายได้ให้ คำนวณภาษีซื้อที่หักได้จริงตามส่วนของรายได้ที่เกิดขึ้นของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและ ปรับปรุงภาษีซื้อที่ได้นำมาหักออกจากภาษีขาย ปีที่เริ่มมีรายได้ หมายถึง ผีแรกที่มีรายได้เกิดขึ้นจริงไม่น้อยกว่า 6 เดือนภาษี รายได้ของปีที่ผ่านมา หมายถึง รายได้ของปีก่อนปีปัจจุบัน 1 ปี ประกาศอธิบดีกรมสรรพกรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ฉบับที่ 29 ได้ให้แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเฉลี่ยภาษี ซื้อเพิ่มเติมดังนี้ 1. ถ้ารายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมีจำนวนไม่น้อยว่า 90% ของ รายได้ของกิจการทั้งหมด กิจการมีสิทธิเลือกนำภาษีซื้อทั้งจำนวนไปหักออกจากภาษีขาย ห้ามนำภาษี ซื้อไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินหรือรายจ่ายของกิจการ 2. ถ้ารายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการประเภทไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมีจำนวนไม่น้อยว่า 90% ของรายได้ของกิจการทั้งหมด กิจการมีสิทธิเลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งจำนวนไปหักออกจากภาษีขาย แต่ให้นำไป รวมคำนวณเป็นมูลค่าต้นทุนทรัพย์สินหรือรายจ่ายของกิจการ เมื่อได้เลือกปฏิบัติวิธีหนึ่งวิธีใดแล้ว ให้ถือปฏิบัติต่อไป เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร ให้เปลี่ยนแปลงได้

ตัวอย่าง ๑๐.๑ บริษัท มงคล จำกัด ประกอบกิจการมีรายได้ในปี 2564 ดังนี้ จำนวนเงิน % 1. รายได้ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 6,000,000 60 2. รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (NON-VAT) 2,000,000 20 8,000,000 100 ในเดือนมกราคม 2565 จ่ายค่าน้ำประปารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 10,700 บาท ค่าสินค้า/บริการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าน้ำประปา 10,000 700 การบันทึกบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องนำไปเฉลี่ยภาษีซื้อ เดบิต ค่าน้ำปะป่า (10,000+280) 10,280 ภาษีซื้อ 420 เครดิต เงินสด/ธนาคาร 10,700 หากรายได้ของกิจการอยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 90 % ขึ้นไป ของรายได้ทั้งหมด สามารถเลือกว่าจะเฉลี่ยภาษีซื้อตราอัตราดังกล่าว หรือนำไปเครดิตภาษีขายได้ทั้งจำนวนโดยไม่ต้องนำไปเฉลี่ย ตัวอย่าง ๑๐.๒ สมมติว่ารายได้ของกิจการในปีก่อน 2565 มีรายได้ดังนี้ จำนวนเงิน % รายได้ในระบบภาษีค่าเพิ่ม (VAT) 900,000 90 รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (NON-VAT) 100,000 10 1,000,000 100 กิจการมีรายได้ในปีที่ผ่านมาอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม 90% ขึ้นไป กิจการเลือกที่จะนำภาษีซื้อไป เครดิตภาษีขายได้ทั้งจำนวนโดยไม่ต้องนำไปเฉลี่ย การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ เดบิต ค่าน้ำปะป่า 10,000 ภาษีซื้อ 700 เครดิต เงินสด/ธนาคาร 10,700 (VAT) 60% = 420 (NON-VAT) 40% = 280

แบบทดสอบหลังเรียน ตอนที่ ๑ ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อไว้กี่กรณี ก. ๑ กรณี ข. ๒ กรณี ค. ๓ กรณี ง. ๔ กรณี 2. ปีที่เริ่มมีรายได้จะต้องมีรายได้เกิดขึ้นอน่างน้อยกี่เดือน ก. ๖ เดือน ข. ๕ เดือน ค. ๔ เดือน ง. ๓ เดือน 3. อธิบดีกรมสรรพากรประกาศเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มในแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเฉลี่ยภาษีซื้อ ฉบับที่เท่าไร ก. ๒๐ ฉบับ ข. ๒๕ ฉบับ ค. ๒๗ ฉบับ ง. ๒๙ ฉบับ 4. รายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนไม่น้อยกว่ากี่เปอร์เซ็นต์ ก. ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ข. ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ค. ๗๕ เปอร์เซ็นต์ ง. ๙๐ เปอร์เซ็นต์ 5. การบันทึกบัญชีภาษีซื้อข้ามเดือนจะเกิดขึ้นในเดือนใดให้ถือเป็นภาษีซื้อของเดือนนั้น โดยไม่คำนึงว่าสินค้าที่ ซื้อมานั้นจะขายหรือนำไปใช้ในการผลิตในเดือนใดก็ตาม แต่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ภาษีซื้อข้ามเดือนได้แต่ต้อง ไม่เกินระยะเวลาเท่าใด ก. ๑๕ วัน ข. ๓ เดือน ค. ๖ เดือน ง. ๑๒ เดือน 6. เมื่อซื้อสินค้าหรือทรัพย์สินยังไม่ได้รับกำกับภาษีหรือได้รับใบกำกับภาษีแต่ไม่ประสงค์ใช้ใบกำกับภาษี จะต้องบันทึกอย่างไร ก. เดบิต ภาษีซื้อ เครดิต ภาษีซื้อรอเครดิต / ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป ข. เดบิต ค่าใช้จ่าย เครดิต เงินสด / ธนาคาร ค. เดบิต ซื้อสินค้า / ทรัพย์สิน ภาษีรอเครดิต / ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป ง. เดบิต ค่าใช้จ่าย หรือสินทรัพย์ ภาษีซื้อต้องห้าม เครดิต เงินสด / ธนาคาร / ลูกหนี้

7. เมื่อมีความประสงค์จะใช้ภาษีซื้อตาม ใบกำกับภาษีใช้ได้ในเวลา กี่เดือน ก. ๑ เดือน ข. ๓ เดือน ค. ๕ เดือน ง. ๖ เดือน 8. กรณีผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนเฉลี่ยภาษีซื้อ ตามส่วนของประมาณการรายได้และให้นำภาษีซื้อที่เฉลี่ย ได้ของกิจการประเภทที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมาหักออกจากภาษีอะไร ก. ภาษีขาย ข. ภาษีซื้อ ค. ภาษีมูลค่าเพิ่ม ง. ภาษีไม่ขอคืน 9. เมื่อมีความประสงค์จะใช้ภาษีซื้ออตามใบกำกับภาษี จะต้องบันทึกอย่างไร ก. เดบิต ภาษีซื้อ เครดิต ภาษีซื้อรอเครดิต / ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป ข. เดบิต ค่าใช้จ่าย เครดิต เงินสด / ธนาคาร ค. เดบิต ซื้อสินค้า / ทรัพย์สิน ภาษีรอเครดิต / ภาษีซื้อใช้เดือนถัดไป ง. เดบิต ค่าใช้จ่าย หรือสินทรัพย์ ภาษีซื้อต้องห้าม เครดิต เงินสด / ธนาคาร / ลูกหนี้ 10. การเฉลี่ยภาษีซื้อหมายถึงข้อใด ก. การนำภาษีซื้อที่ผู้ปะการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ประกอบการจิการทั้งเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) และไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (Non-Vat) ข. รายได้ของปี่ที่ผ่านมาต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมีจำวนไม่น้อยกว่า ๙๐% ค. รายได้ของปี่ก่อนปีปัจจุบัน ๑ ปี ง. ราได้ที่เกินขึ้นขงกิจการประเภทที่ต้องเสีบภาษีมูลค่าเพิ่ม แบบทดหลังก่อนเรียน