ก
ก
รายงาน
เรอื่ ง สถานการณ์ประชากรประเทศเนปาล
จัดทำโดย
นางสาวสชุ านาถ ชนะพลชัย
รหัสประจำตวั นักศึกษา 6211116044
คณะครศุ าสตร์ สาขาวิชาสังคมศกึ ษา
รายงานฉบบั นี้เปน็ ส่วนหนง่ึ รายวิชาส่งิ แวดลอ้ มและประชากร(2542107)
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช
ก
คำนำ
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา สิ่งแวดล้อมและประชากร(2542107) จัดทำโดย
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศกึ ษา เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องสถานการประชากร
ประเทศเนปาล และได้ศึกษาอยา่ งเข้าใจเพื่อเปน็ ประโยชนก์ ับการเรยี น
ผจู้ ดั ทำหวงั ว่า รายงานเล่มน้จี ะเป็นประโยชนก์ ับผู้อ่าน หรือนักเรยี น นกั ศกึ ษา ท่ีกำลังหาข้อมูลเรื่อง
นอี้ ยู่ หากมีข้อแนะนำหรอื ข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอนอ้ มรับไวแ้ ละขออภัยมา ณ ท่ีน้ดี ้วย
นางสาวสชุ านาถ ชนะพลชัย
(ผ้จู ัดทำ)
ข
สารบญั
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทที่1 ประเทศเนปาล 1-7
1.1 ที่ต้ังและภูมปิ ระเทศ
1.2 การเมอื งการปกครอง
1.3 เศรษฐกจิ
1.4 สังคมและวัฒนธรรม
บทที่ 2 สถานการณ์ประชากรประเทศเนปาล 8-13
2.1 จำนวนประชากร
2.2 องคป์ ระกอบของประชากรและโครงสรา้ งประชากร
2.3 การกระจายตัวและความหนาแน่นประชากร
2.4 การเปลยี่ นแปลงจำนวนประชากร
2.5 ปญั หา-ผลกระทบของภาวะประชากรท่ีมผี ลตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม สงั คม และคุณภาพของชวี ิต
2.6 นโยบายเกีย่ วกับประชากรของประเทศ
บทที่ 3 การวเิ คราะหป์ ระเด็นจำนวนประชากรประเทศเนปาล 13-16
บทท่ี 4 สรปุ 17
บรรณานกุ รม 18
บทที่ 1
ประเทศเนปาล
ประเทศเนปาล (เนปาล: नेपाल) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตย
เนปาล (อังกฤษ: Federal Democratic Republic of Nepal; เนปาล: सङ्घीय लोकतान्त्रिक
गणति नेपाल "สงฺฆีย โลกตานตฺ รฺ ิก คณตนตฺ รฺ เนปาล") เปน็ ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียใต้ มี
พืน้ ท่ี 147,181 ตารางกโิ ลเมตร และประชากรประมาณ 27 ล้านคน ประเทศเนปาลเป็นประเทศที่มีพ้ืนที่ใหญ่
เป็นอันดับที่ 93 ของโลก และมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 41 ของโลก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย มี
พรมแดนทิศเหนือติดสาธารณรัฐประชาชนจีน ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตกติดสาธารณรัฐอินเดีย ประเทศ
เนปาลแยกจากประเทศบังกลาเทศด้วยฉนวนศิลิกูริ (Siliguri Corridor) แคบ ๆ ในประเทศอินเดีย และแยก
จากประเทศภฏู านด้วยรัฐสิกขมิ ของอนิ เดยี กรุงกาฐมาณฑเุ ป็นเมอื งหลวงและเมอื งใหญ่สดุ ของประเทศ
1.1 ทตี่ ง้ั และภูมิประเทศ
แผนที่ประเทศเนปาล
ที่มารูปภาพ https://www.blockdit.com/posts/5eddf0f8dad6f552b68763bb
ภูมิศาสตร์ของประเทศเนปาล ตั้งอยู่ในเอเชียใต้ระหว่างจีนในภาคเหนือและอินเดียในภาคใต้
ตะวันออกและทิศตะวันตก ในขณะที่พน้ื ท่ที ง้ั หมดเป็น 147,181 ตร. กม. รวมท้ังพืน้ ทน่ี ้ำของประเทศที่เป็น
2
3,830 ตร. กม. พิกัดทางภูมิศาสตร์ที่ 28 ° 00'N 84 ° 00'E เนปาลตกอยู่ในเขตอบอุ่นทางตอนเหนือ
ของเขตร้อนของโซนระบบนิเวศ Cancer.Nepal วิ่งทางทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ 800
กิโลเมตรตามแนวแกนหิมาลัยสูง 150-250 กม. เหนือจรดใต้และมีการตัดในแนวตั้งโดยระบบแม่น้ำ ประเทศ
สามารถแบ่งออกเปน็ สามภูมิภาคหลัก: ภมู ภิ าคหมิ าลัยภูมภิ าคเนินเขากลางและภูมภิ าค Terai จุดท่ีสูงท่ีสุดใน
ประเทศที่เป็นภูเขา เอเวอร์เรส (8,848 เมตร) ในขณะที่จุดต่ำสุดอยู่ในที่ราบ Terai ของ Kechana กาลันใน
Jhapa (60 เมตร)
ภมู ภิ าค Terai, มีความกวา้ งตัง้ แต่ 26-32 กม. และความสงู ตงั้ แต่ 60 -305 เมตรตรงบริเวณประมาณ
17 เปอร์เซน็ ตข์ องพื้นทที่ ั้งหมดของประเทศ Kechana กาลันจดุ ตำ่ สดุ ของประเทศที่มรี ะดับความสูง 60 เมตร
ตั้งอยู่ในอำเภอ Jhapa ของภาคตะวันออกภาคใต้ Terai.The ลุ่ม Terai ยังคงเข็มขัด Bhabar ปกคลุมไปด้วย
ป่า Char Kose Jhadi ที่รู้จักสำหรับสัตว์ป่าที่อุดมไปด้วย ขึ้นไปทางเหนือโซน Siwalik (700 - 1,500 เมตร)
และช่วง Mahabharat (1,500 - 2,700 เมตร) วิธีที่จะให้ Duns (หุบเขา) เช่น Trijuga, Sindhuli, Chitwan
แดงและ Surkhet มิดแลนด์ (600 - 3,500 เมตร) ทางตอนเหนือของช่วง Mahabharat เป็นท่ที ท่ี ั้งสองหุบเขา
ทส่ี วยงามของฐมา ณ ฑุและโปขระโกหกครอบคลมุ ในนาข้าวระเบยี งและล้อมรอบด้วยป่าต้นน้ำ
ทีม่ าภาพ https://www.tripdeedee.com/traveldata/nepal/nepal600/nepal-027.jpg
เทือกเขาหิมาลัย (สูงกว่า 3,000 เมตร) ประกอบด้วยภูเขาทุ่งหญา้ อลั ไพน์และป่าไม้เมืองหนาว จำกัด
ด้วยต้นไม้เส้น (4,000 เมตร) และสายหิมะ (5,500 เมตร) แปด 14 แปด thousanders ของโกหกโลกใน
เนปาล: Sagarmatha หรือ Mount Everest (8,848 เมตร) Kanchenjunga (8,586 เมตร) Lhotse (8,516
เมตร) Makalu (8,463 เมตร) Cho Oyu (8,201m) Dhaulagiri ( 8,167 เมตร) Manaslu (8,163 เมตร) และ
อันนะปุรณะ (8,091 เมตร) ภายในหุบเขาหิมาลัย (สูงกว่า 3,600 เมตร) เช่นมัสแตงและ Dolpa เป็น
ทะเลทรายเย็นร่วมกันลักษณะภูมิประเทศกับ plateau.Nepal ทิเบตถือที่เรียกว่า "น้ำอาคารเอเชียใต้" กับ
6,000 แม่น้ำที่เป็นหิมะที่เลี้ยงหรือขึ้นอยู่กับฝน . แม่น้ำยืนต้น ได้แก่ Mahakali, Karnali, Narayani และ
Koshi แมน่ ำ้ ทม่ี ีต้นกำเนิดในเทือกเขาหิมาลัย แม่นำ้ ขนาดกลางเช่น Babai ตะวันตก Rapti, Bagmati,Kamla,
3
Kankai และ Mechi เกิดในช่วงมิดแลนด์และ Mahabharat จำนวนมากของลำธารตามฤดูกาลส่วนใหญ่ที่
เกิดขน้ึ ใน Siwaliks ไหลขา้ ม Terai
163 พื้นที่ชุ่มน้ำเอกสารเก้าได้รับการยอมรับทั่วโลกเว็บไซต์ Ramsar คือ: Koshi Tappu สัตว์ป่า
สงวน, Beeshazarital (Chitwan) Jagdishpur คลังสินค้า (กบิลพัสดุ์) Ghodaghodi Tal (Kailali) ใน Terai
และ Gokyo (Solukhumbu) Phoksundo (Dolpa) Rara ( Mugu) และเชียงใหม่ Pokhari (Ilam) ในภูเขา
region.There มีมากกว่า 30 ถ้ำธรรมชาติในประเทศออกจากทีเ่ พียงไม่กี่สามารถเข้าถึงได้โดยถนน Maratika
ถ้ำ (หรือเรียกว่า Haleshi) เป็นสถานที่แสวงบุญที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและศาสนาฮินดู สิทธาถ้ำอยู่ใกล้
Bimalnagar ตามทางหลวงฐมา ณ ฑุ-โปขระ โปขระยังเป็นที่รู้จักคือถ้ำค้างคาว 'โรง Batulechar,
Gupteswar, Patale Chhango ถำ้ หลายรอบ Lo Manthang ในมสั แตงรวม Luri และ Tashi Kabum ทบี่ า้ น
ภาพจิตรกรรมฝาผนงั โบราณและ chhortens ย้อนกลบั ไปในศตวรรษที่ 13
สภาพอากาศ
สภาพอากาศในประเทศเนปาล แตกตา่ งไปตามลักษณะภูมิประเทศ ต้ังแต่ลักษณะภมู อิ ากาศเขตร้อนไปถึงแบบ
อาร์กติก ซงึ่ ข้นึ อยกู่ ับความสูงเหนือระดับนำ้ ทะเล ตวั อย่างเช่น เขตเตไร ซง่ึ อยใู่ ตเ้ ขตร้อนของประเทศมีสภาพ
อากาศแบบร้อนช้ืน เขตพ้นื ท่ีภาคกลางนน้ั มีอากาศดเี กอื บตลอดปี ถงึ แม้ชว่ งกลางคืนของฤดูหนาวจะเยน็ ก็ตาม
ส่วนในเขตภเู ขาทางตอนเหนือทีม่ ีความสูงเหนอื ระดับนำ้ ทะเลเกนิ 3,353 เมตร มีสภาพอากาศแบบเทือกเขา
สงู ท่ีมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำในฤดูหนาว
ประเทศเนปาลมี 4 ฤดู ได้แก่
ฤดใู บไมผ้ ลิ (มนี าคม-พฤษภาคม) มีอากาศท่ีอบอุ่น แต่ก็อาจจะมีฝนตกประปราย อุณหภูมิสูงสดุ 30 องศา
เซลเซยี ส ต่ำสดุ 7 องศาเซลเซยี ส
ฤดูรอ้ น (มิถุนายน-สิงหาคม) มอี ากาศอบอุ่นถงึ ร้อน แตก่ ็มีพายฝุ น ตามเทือกเขาจะเขียวชอ่มุ อุณหภูมสงู สดุ
29 องศาเซลเซยี ส ตำ่ สุด 19 องศาเซลเซียส
ฤดใู บไมร้ ว่ ง (กนั ยายน-พฤศจกิ ายน) มีอากาศอบอนุ่ และเย็นในบางเวลา ท้องฟา้ แจ่มใสเหมาะกับการเดนิ เขา
เป็นอยา่ งยิ่ง อณุ หภมู สิ ูงสดุ 28 องศาเซลเซียส ตำ่ สดุ 7 องศาเซลเซยี ส
1.2 การเมอื งการปกครอง
การเมอื งและการปกครองเนปาล
ในช่วงปี พ.ศ. 2522 ได้เกิดการเดินขบวนเรียกรอ้ งการปกครองแบบประชาธปิ ไตยขึน้ หลายคร้ัง เพื่อสนองตอบ
ข้อเรยี กร้องดังกลา่ ว พระราชาธิบดพี ิเรนทรา พรี ์ วกิ รม ชาห์ เทพ (Birendra bir bikram Shah Dev) จึง
4
โปรดใหม้ ีการลงคะแนนเสียงขึน้ ผลทไ่ี ด้กค็ อื ฝา่ ยที่สนับสนนุ การปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ชนะ
ไปดว้ ยคะแนนเสยี งเพียงเลก็ น้อย
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่
เป็นประชาธิปไตยครั้งแรกในรอบ 32 ปี และได้รับความสนใจจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ
สหรฐั อเมริกาซ่ึงนอกจากจะช่วยเหลือจดั ทำหบี บตั รเลือกตั้งและให้ข้อมลู เกี่ยวกับกฎหมายเลือกต้ัง เพื่อให้การ
เลือกต้ังดำเนินไปโดยเสรีและยุตธิ รรมแลว้ นาย James Earl (Jimmy) Carter อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
ยงั ได้เขา้ รว่ มสงั เกตการณ์ด้วย
พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันคือ สมเด็จพระราชาธิบดีกคยาเนนทรา พีร์ พิกรม ชาห์ เทพ ( His
Majesty King Gyanendra Bir Bikram Shah Dev) และพระนางโกมาล รัชญา ลักษมี เทวี ชาร์ (Komal
Rajya Laxmi Devi Shah) พระมเหสี
ปัจจุบันเนปาลปกครองด้วยระบบการเมืองที่เรียกว่า “ระบบปัญจยัต”(Panchayat System) หรือ
ระบบรัฐสภาแบบรัฐสภาเดียวและไม่มีพรรคการเมือง(Partyless System) พระมหากษัตริย์มีอำนาจสูงสุด
(แบบก่ึงสมบรู ณาญาสิทธิราชย์) ทรงเป็นประมุขของประเทศภายใต้รฐั ธรรมนญู (Constitutional Monarchy)
โดยมีนายกรัฐมนตรเี ป็นหัวหน้าฝ่ายบรหิ าร พรอ้ มท้ังควบตำแหนง่ รฐั มนตรีกิจการพระราชวงั รฐั มนตรกี ลาโหม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทั่วไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
อุตสาหกรรมพาณิชย์และพัสดุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสตรี เด็ก และสวัสดิการสังคม รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงปฏิรูปและบริหารที่ดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกฎหมาย ยตุ ธิ รรมและกจิ การรฐั สภา
ระบอบการปกครอง
ฝ่ายนิติบัญญัติ : รัฐสภาประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
(House of Representatives – Pratinidhi Sabha) จำนวน 205 คน มีวาระ 5 ปี และสภาสูง (National
Assembly – Rajya Sabha) จำนวน 60 คน ซึง่ 10 คน มาจากพระมหากษัตริยท์ รงแต่งต้งั 35 คนมาจากการ
เลือกตั้งของสมาชกิ สภาฯ (ตอ้ งมผี ู้หญงิ อย่างน้อย 3 คน) และ 15 คน มาจากการเลอื กตั้งจากเขตต่างๆ ทั่ว
ประเทศ สมาชกิ สภาสูง 1 ใน 3 หมดวาระทกุ 2 ปี
หมายเหตุ - ต้ังแต่ 22 พฤษภาคม 2545 สภาผูแ้ ทนราษฎรและสภาสงู ถูกยุบไป และยังอยู่ระหว่างรอกำหนด
วนั เลือกต้ัง ปัจจุบันพระมหากษัตริยท์ รงใชพ้ ระราชอำนาจแตง่ ตง้ั รัฐบาลให้เป็นผ้บู รหิ ารประเทศ
ฝ่ายบริหาร : รัฐบาลมาจากพรรคที่มีเสียงข้างมากในสภาฯ หรือหลายพรรคที่รวมกันแล้วมีเสียง
ข้างมากในสภาฯ อยูใ่ นตำแหนง่ คราวละ 5 ปี
เนปาลแบ่งเขตการปกครองท้องถิ่นออกเป็น 5 ภาค (Development Regions) แต่ละภาค
ประกอบด้วย 2-3 โซน มีทั้งสิ้น 14 โซน แต่ละโซนประกอบด้วย 4-8 เขต รวมทั้งสิ้น 75 เขตบริหาร
(Administrative Districts) ในแตล่ ะเขตมหี วั หน้าผูบ้ ริหาร เรียกวา่ “Chief District Officer” มหี นา้ ที่
5
รับผิดชอบการปกครองดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย รว่ มมอื ประสานงานและปฏิบัตติ ามนโยบายของกระทรวง
ต้นสงั กดั ในแตล่ ะเขตแบง่ ออกเปน็ หน่วยยอ่ ย คอื เขตพฒั นาหมบู่ า้ น “Village Development Committee”
โดยมหี วั หน้าบรหิ ารเรยี กว่า “Local Development Officer”
ฝ่ายตุลาการ : ประกอบด้วยศาลชั้นต้น (District Court) ศาลอุทธรณ์ (Appellate Court) และ
ศาลฎกี า (Supreme Court) ประธานศาลฎกี าได้รบั การแต่งต้ังจากพระมหากษัตริย์ มวี าระ 7 ปี
การเลอื กตั้งเม่ือวันท่ี 12 พฤษภาคม 2534 เป็นการเลือกตั้งท่วั ไปภายใตร้ ฐั ธรรมนูญฉบับใหม่ที่
เป็นประชาธิปไตยครั้งแรกในรอบ 32 ปี และได้รับความสนใจจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ
ประเทศสหรัฐฯซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือจัดทำหีบบัตรเลือกตั้งและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกต้ัง
เพื่อให้การเลือกตั้งดำเนินไปโดยเสรีและยุติธรรมแลว้ นาย James Earl (Jimmy) Carter อดีตประธานาธิบดี
สหรัฐฯ ยงั ได้เขา้ ร่วมสังเกตการณด์ ว้ ย
การแบ่งส่วนการปกครอง
เนปาล แบ่งเขตการปกครองท้องถิ่นออกเป็น 5 ภาค (Development Regions) แต่ละภาค
ประกอบด้วย 2-3 โซน มีทั้งสิ้น 14 โซน แต่ละโซนประกอบด้วย 4-8 เขต รวมทั้งสิ้น 75 เขต บริหาร
(Administrative Districts) ในแต่ละเขตมีหัวหน้าผู้บริหาร เรียกว่า “Chief District Officer” มีหน้าที่
รับผิดชอบการปกครองดูแลให้เปน็ ไปตามกฎหมาย ร่วมมือประสานงานและปฏิบัตติ ามนโยบายของกระทรวง
ต้นสังกัด โดยแต่ละเขตแบ่งออกเป็นหน่วยย่อยคือ เขตพัฒนาหมู่บ้าน “ Village Development
Committee” โดยมีหวั หนา้ บริหาร เรียกว่า “Local Development Officer”
1.3 เศรษฐกจิ
เนปาลเปน็ ประเทศหน่ึงทีย่ ากจนที่สดุ ในโลก ประชากรเกือบ 1 ใน 4 มีรายได้ต่ำกว่าระดับ มาตรฐาน
ความยากจน เนปาลเริ่มพัฒนาไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2493 และพัฒนาไปสู่ ระบบ
เศรษฐกิจแบบเสรี เนปาลดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีตั้งแต่ปี 2545 แต่ยังคงพึ่งพาความช่วยเหลือ ด้าน
การเงินจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นครึง่ หนึ่งของงบประมาณการพัฒนาประเทศ ขณะที่รัฐบาลเนปาลให้คำมั่น ใน
การบรหิ ารประเทศอย่างโปร่งใส ธรรมาภบิ าล และเช่อื ถือได้ โดยเริ่มดำเนินโครงการพฒั นา และ ตัดค่าใช้จ่าย
ที่ไม่จำเป็น การเกษตรยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจเนปาล โดยมีการจ้างงานกว่า 71% ของ
จำนวนประชากร และมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 25% ผลผลิตการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวและข้าวสาลี
อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร เช่น ถั่ว ปอ อ้อย ยาสูบ เมล็ดพืช
ทรัพยากรธรรมชาติ สำคัญ ได้แก่ แร่ควอทซ์ ไม้ ไฟฟ้า พลังน้ำ แร่ลิกไนต์ ทองแดง โคบอลต์ และแร่เหล็ก
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจ เนปาลมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อยเพราะได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และการ
ถกู อินเดยี ปดิ ก้นั ทางการค้าเมื่อปี 2558 เนปาลใช้ประโยชนจ์ ากศักยภาพด้านการผลติ ไฟฟา้ พลังน้ำท่ีผลิตได้ปี
ละประมาณ 42,000 เมกะวัตต์ แต่ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เทคโนโลยีที่ยังคงล้าสมัย พื้นที่ที่ไม่มี
ทางออกสู่ทะเล ความไม่สงบ ทางการเมือง การชุมนุมประท้วงของผู้ใช้แรงงานและชนพื้นเมือง ตลอดจนภัย
ธรรมชาตเิ ปน็ อปุ สรรคสำคญั ตอ่ การลงทุนของตา่ งประเทศ ปีงบประมาณ
6
เนปาลต้องพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญ ได้แก่ จีน และอินเดีย ซึ่งทั้ง สองประเทศมี
อิทธิพลต่อเศรษฐกิจเนปาลอย่างมาก ทั้งนี้ เนปาลได้เริ่มฟื้นฟูพัฒนาประเทศซึ่งบอบช้ำจากการ ต่อสู้ระหว่าง
รัฐบาล พรรคการเมืองและกลุ่ม Maoist เนปาลต้องการความช่วยเหลือทางการเงินและโครงการ ความ
ช่วยเหลือจากนานาประเทศเพื่อเรง่ ฟ้ืนฟูโครงสร้างพนื้ ฐาน จัดสรรท่ีอยู่ให้แก่ผู้พลัดถิ่น และดูแล ครอบครัวผู้ที่
เสยี ชวี ิตและผู้ที่ไดร้ ับบาดเจ็บจากสถานการณค์ วามไมส่ งบทางการเมือง ทรัพยากร แรควอทซ์ ไมป้ า่ ไม้พลังงาน
น้ำสถานที่ท่องเที่ยว ลิกไนซ์ทองแดงโคบอลต์เหล็ก อุตสาหกรรมหลัก การท่องเที่ยว สิ่งทอ พรม หัตถกรรม
สินค้านำเข้าสำคัญ ปิโตรเลียม ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องจักร ยา ประเทศนำเข้าสำคัญ จีน อินโดนีเซีย
เกาหลี ญี่ปุ่น สงิ คโปร์ สินค้าสง่ ออกสำคญั พรม เสอื้ ผา้ สำเรจ็ รูป ส่งิ ทอ ไม้แกะสลัก ผา้ พาชมนี
ทีภ่ าพ https://southasiainsight.com/?page_id=2650
1.4 สงั คมและวฒั นธรรม
สภาพความเปน็ อยู่ ระบบสาธารณสขุ มูลฐาน
ของเนปาลยังไม่ดีนัก การรับประทานอาหารและน้ำ
ดื่มจะต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาดเป็น อย่าง
มาก นอกจากนี้ เนปาลยังขาดแคลนเครื่องอุปโภค-
บริโภค สินค้าส่วนใหญ่ต้องนําเข้าจากต่างประเทศ
โดยเฉพาะจาก อินเดีย และจีน สําหรับอาหารที่หา
ง่ายที่สุดคือ เนื้อไก่ สําหรับเนื้อหมูนั้นไม่เหมาะ
สําหรับการบริโภค เนื่องจากการเลี้ยงไม่ ถูก
สุขลักษณะ อาหารทะเลมีน้อยมาก นําเข้ามาจาก
อนิ เดยี และบังกลาเทศโดยการแช่แข็ง และโดยท่ี
7
เนปาลเป็นประเทศ ฮินดู การบริโภคเนื้อววั จึงเป็นเรื่องผิดกฎหมายสภาพอากาศในกรุงกาฐมาณฑ มี
ฝุ่นและมลภาวะสงู เนื่องจากต้ังอยู่ในหุบเขา ดังน้ันอากาศเสียท่ีเกิดจากโรงงานเผาอฐิ ทอ พรม และควันพิษ7
จากท่อไอเสยี จงึ ไม่สามารถลอยออกไปจากหบุ เขาได้ในฤดูแลง้ ประชาชนจะประสบภาวะขาดแคลนน้ำ ประปา
เป็นอันมาก นอกจากนี้ เนปาลยังประสบกับภาวะการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ในบางครั้งทางการจึงต้อง
ประกาศปิด ไฟฟ้าทกุ วัน ๆ ละ 1-2 ชั่วโมง โดยหมุนเวียนไปในแต่ละพน้ื ที่
วัฒนธรรม ประเพณีคนเนปาลสว่ นใหญ่จติ ใจดี และใจเยน็ เชน่ เดยี วกับคนไทย ชาวเนปาลถอื ว่าการใช้
เท้าเป็นเร่ืองไม่สุภาพเช่นเดยี วกบั การใช้ มอื ซา้ ย การให้และรับของจากผู้อ่ืนจึงใชม้ ือขวา อยา่ งไรก็ดี ภาษากาย
ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างคนไทยกับคน เนปาล ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่ผู้เพิ่งไปถึงใหม่ ๆ คือ "การ
ส่ายหน้า "สําหรับคนไทย การส่ายหน้าหมายถึงการ ปฏิเสธ แต่สําหรับคนเนปาลการส่ายหน้าคล้ายการโคลง
ศีรษะเพียงรอบเดียว คือสญั ญาณการตอบรับ การผกู มติ รกับชาว เนปาลนั้นไม่ยาก การพนมมือพรอ้ มกับกล่าว
คําว่า " นมสั เต " มคี วามหมายเช่นเดยี วกับคําว่า "สวัสด"ี ของไทย
ทีม่ าภาพ https://southasiainsight.com/?page_id=2650
บทที่ 2
สถานการณป์ ระชากรประเทศเนปาล
2.1 จำนวนประชากร
ทีม่ าภาพ https://www.worldlifeexpectancy.com/th/nepal-population-pyramid
ประเทศเนปาล ประชากรพีระมิดแสดงอายุเพศและประชากรข้อมูล 100 ปี เราได้เลือกปีระหว่าง
1950-2050 สำหรับพีระมิดของเราเพื่อแสดงความสมดุลของประมาณการในอดีตและอนาคต การ
เปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคืออัตราการตายที่เพิ่มขึ้นและการลดลงหรือการเพิ่มจำนวนบุตรที่เกิด
ประกอบด้วยชนหลากหลายเชื้อชาติ (เมื่อปี 2554 มีประมาณ 125 เชื้อชาติ) ที่สำคัญ คือ เชื้อสาย Chhetri
16.6% Brahman-Hill 12.2% Magar 7.1% Tharu 6.6% Tamang 5.8% Newar 5% Kami 4.8% Yadav
4% อื่น ๆ 32.7% อัตราส่วนประชากรจำแนกตามอายุ : วัยเด็ก (0-14 ปี) 28.81% วัยรุ่นถึงวัยกลางคน (15-
64 ปี) 65.36% และวัยชรา (65 ปีขึ้นไป) 5.83% อายุขัยเฉลี่ยของประชากรเนปาล โดยรวมประมาณ 71.74
ปี อายุขัยเฉลี่ยเพศชายประมาณ 70.1 ปี อายุขัยเฉลี่ยเพศหญิงประมาณ 73.2 ปี อัตราการเกิด 23.4 คนต่อ
ประชากร 1,000 คน อตั ราการตาย 27.7 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการเพ่มิ ของประชากร 1.07%
9
2.2 องค์ประกอบของประชากรและโครงสร้างประชากร
โครงสร้างประชากรประเทศเนปาล
ท่ีมาภาพ https://www.worldlifeexpectancy.com/th/nepal-population-pyramid
ประชากร
ประกอบด้วยชาติพันธท์ุ ส่ี ำคัญ ได้แก่ พวกมองโกลอยด์ ซงึ่ มาจากทเิ บต สิกขมิ และบรเิ วณภเู ขาในแคว้นอสั สมั
และเบงกอล ส่วนอกี พวกหนึ่งสืบเช้ือสายมาจากอินโดอารยันซงึ่ อพยพมาจากทร่ี าบลมุ่ ทางตอนเหนือของ
อินเดยี
กลมุ่ ประชากร
ประเทศเนปาลมีประชากรที่ประกอบไปดว้ ยผคู้ นต่างเช้ือชาตแิ ละต่างเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอย่ใู นพ้นื ท่ตี ่างกนั มี
วัฒนธรรม ภาษาพูด และภาษาทอ้ งถน่ิ ทีห่ ลากหลาย แบง่ ออกเป็นกลุม่ ตา่ งๆ ดงั ต่อไปนี้
1. กลมุ่ ทีไ่ ดร้ ับการยกยอ่ งและมีอำนาจมากทสี่ ดุ ในสังคม ได้แก่ วรรณพราหมณ์ กษตั รยิ ์ และแพศย์
2. กลุ่มที่สำคัญรองลงมาคือ ชาวเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในประเทศเนปาลได้แก่ เผ่า
คุรุง (Gurung) และเผ่ามาคาร์(Magar) อาศัยอยู่ท่างทิศตะวันตกและทางตอนใต้ของที่ราบแนว
เทือกเขาอรรณาปุรณะ หิมาชูริ และคเณศหิมัล เผ่าราย(Rai) เผ่าลิมบู(Limbu) และ เผ่าซูนูวาร์
(Sunuwar) อาศัยตามเทือกเขา หุบเขาแนวที่ลาด และหมู่บ้านทางทิศตะวันออก เผ่าเชอร์ปา
(Sherpa) และเผ่ากุรข่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย บนความสูงระดับ 4,570 เมตร เผ่าเน
วาร์(Newar) ซึ่งเป็นเผ่าที่มีความสำคัญมาก อาศัยอยู่ในแถบเมือหลวงกาฐมาณฑุ นอกจากนี้ยังมีเผ่า
ตารุ (Tharu) เผ่ายาดาวา (Yadava) เผ่าซาตาร์(Satar) เผ่าราชบันชิ (Rajbanshi) และเผ่าธิมัล
(Dhimal) ที่อาศัยตามที่ลุ่มในเขตเตไร ส่วนพวกพราหมณ์ (Brahman) เผ่าเฉตริ(Chhetri) เผ่าฐากูรี
(Thakuri) จะกระจายอยทู่ ่วั ไป
10
ทั้งนี้การแบ่งกลุ่มดังกล่าวข้างต้นทำให้เกิดบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อสังคมและการเมืองของประเทศ อัน
ได้แก่ ความแตกต่างทางขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา และวัฒนธรรม สิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิด
ความแตกต่างเหล่านี้ ได้แก่ ปัจจัยทางด้านเผ่าพันธุ์ และสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ตั้งอยูบ่ นพื้นทีส่ งู ทางตอนใตข้ องเทือกเขาหิมาลัย โดยมีพื้นที่ 147,181 ตารางกิโลเมตร
(ขนาดเท่ากับประเทศสวิตเซอร์แลนด์รวมกับประเทศออสเตรีย) เป็นประเทศเล็กๆที่ไม่มีทางออกทะเล
เนือ่ งจากถูกลอ้ มรอบโดยประเทศอื่นๆ (Land Locked Country)
2.3 การกระจายตวั และความหนาแนน่ ประชากร
ทมี่ าภาพ https://th.maps-nepal.com/img/0/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0.
11
เทศบาลในประเทศเนปาล คือเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล โดยอิงเกณฑ์จากจำนวนประชากร
โครงสรา้ งพน้ื ฐาน และรายได้ของประชากร ปจั จุบนั ประเทศเนปาลมีเทศบาลจำนวน 293 แห่ง แบง่ เป็น มหา
นคร 6 แห่ง กิ่งมหานคร 11 แห่ง และเทศบาลเมือง 276 แห่ง มีโปขราเป็นมหานครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วย
พน้ื ท่ี 464.28 ตารางกิโลเมตร และลลิตปรุ เปน็ มหานครที่มีขนาดเล็กท่ีสดุ ด้วยพื้นที่ 36.12 ตารางกโิ ลเมตร ก่ิง
มหานครท่มี ขี นาดใหญท่ ่สี ุดคือ โฆราหี มพี ืน้ ท่ี 522.21 ตารางกิโลเมตร
***ความหนาแน่นของประชากรท่ีมากทสี่ ดุ คอื กาฐมาณฑุ काठमाण्डौ 975,453 คน
***ความหนาแนน่ ของประชากรที่น้อยที่สดุ คอื มิรไจยา ममर्चैयाสิราหา 50,079 คน
2.4 การเปลย่ี นแปลงจำนวนประชากร
2.4.1 การเกิด
จากข้อมูลจากกราฟแสดงให้เหน็ ว่าการเกิดหรอื การเพิ่มขน้ึ ของประชากรเพิม่ ขึน้ สูงเรื่อยๆในแตล่ ะปี
เนือ่ งจากประเทศเนปาลเปน็ ประเทศทีม่ ีแหลง่ ทรพั ยากรที่อดุ มสมบรู ณ์ มกี ารแพทย์และเทคโนโลยีที่
เอ้ืออำนวยมากมาย
2.4.2 การตาย
การตายของประชากรประเทศเนปาลมักจะมีอตั ราการตายน้อยกว่าอัตราการเกิดและการลดลงของประชากร
ส่วนใหญม่ าจากสาเหตุจากภยั พิบตั ิ แผน่ ดินไหว
2.4.3 การยา้ ยถ่ินฐาน
การยา้ ยถนิ่ ฐานประชากรประเทศเนปาลสว่ นมากผู้คนชาวต่างชาตจิ ะอพยพเข้ามาตั้งถิน่ ฐานเป็นจำนวนมาก
เพราะประเทศเนปาลเปน็ ประเทศท่ีมที รัพยากร ดิน นำ้ ท่ีเหมาะแกก่ ารประกอบอาชีพ
12
การย้ายออกส่วนใหญป่ ระเทศเนปาลมักจะประสบกบั ปญั หาทางธรรมชาติอยา่ งเชน่ แผ่นดนิ ไหว ทำให้ต้อง
อพยพหนไี ปต้ังถิน่ ฐานท่ปี ลอดภัย
2.5 ปญั หา-ผลกระทบของภาวะประชากรที่มผี ลตอ่ สิ่งแวดล้อม สงั คม และคุณภาพของชวี ติ
ประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ล้วนเป็นองค์ประกอบทางชีวภาพที่สำคัญในระบบนิเวศ ทุกชีวิต
ต่างมีบทบาทและหนา้ ที่ของตน ทั้งการเป็นผู้ผลิต ผู้บริโภค และผู้ย่อยสลาย ซึ่งขนาดสัดสว่ นและการกระจาย
ตัวอยา่ งเหมาะสมของสงิ่ มชี ีวติ ทัง้ 3 กลมุ่ เปน็ กลไกสำคญั ท่ีสร้างความสมดุลให้แกร่ ะบบนิเวศของโลก
แต่ในปจั จุบัน วิถี ความคดิ และแนวทางในการดำเนินชีวติ ของมนษุ ย์ไดเ้ ปลย่ี นแปลงไปจากอดตี อย่างมาก การ
เติบโตของประชากรมนุษย์กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสมดุลของระบบนิเวศ จากการนำ
ทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์เกินควร การสร้างมลพิษและขยะ รวมถึงการจัดการในด้านต่าง ๆ ที่ยังคง
ก่อปญั หาและสง่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโลก ซง่ึ ในอนาคต ประเด็นทางสิง่ แวดล้อมเหล่านี้ อาจกลายเป็นห่วง
โซ่สำคัญที่ส่งผลต่อความอยู่รอดของมนุษย์ ไม่เพียงเฉพาะด้านการเป็นแหล่งอาหาร แหล่งน้ำและทรัพยากร
แต่อาจกลายเป็นฉนวนของปัญหาด้านคุณภาพชีวิตและสังคม การแก่งแย่งแข่งขัน และความขัดแย้งระหว่าง
ผคู้ นและประเทศชาตอิ กี ดว้ ย
13
2.6 นโยบายเกยี่ วกับประชากรของประเทศ
นโยบายเศรษฐกิจ เนปาลเป็นประเทศหนึ่งที่ยากจนที่สุดในโลก ประชากรเกือบ 1 ใน 4 มี รายได้ระดับต่ำา
กว่ามาตรฐานความยากจน เนปาลเริ่มพัฒนาไปสู่การ พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2493 และพัฒนา
ไปสู่ระบบ เศรษฐกิจแบบเสรี เนปาลดำเนินแผนพัฒนาเศรษฐกิจต้ังแต่ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2545 แต่ยังคง พึ่งพา
ความช่วยเหลือด้านการเงินจากตา่ งประเทศ ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ งบประมาณการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้รัฐบาล
เนปาลให้ค้ามั่นในการ บริหารประเทศอย่างโปรง่ ใส ธรรมภิบาลและเช่ือถือได้ โดยเริ่มดำเนิน โครงการพัฒนา
และตัดค่าใช้จ่ายโดยไม่จ้าเป็น แนวโน้มเศรษฐกิจ เศรษฐกิจเนปาลมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับ
ผลกระทบจาก แผ่นดินไหว และการถูกอินเดียปิดกันทางการค้าเมื่อปี 2558 ภาค เกษตรเป็นตัวหลักในการ
ขบั เคลือ่ นเศรษฐกิจของเนปาล คดิ เป็นร้อยละ 71 ของประชากร มพี ้ืนทเี่ พาะปลูกร้อยละ 25 ผลติ ภัณฑ์เกษตร
ที่สำคัญ คือ ข้าว ข้าวสาลี อุตสาหกรรมหลัก คือ การแปรรูปสินค้าเกษตร อาทิ ถั่ว ปอ อ้อย ยาสูบ เมล็ดพืช
เนปาลใชป้ ระโยชน์จากศกั ยภาพด้านการผลิตไฟฟ้าพลงั น้ำทผ่ี ลติ ได้ปี ละประมาณ 42,000 เมกะวตั ต์ แต่ความ
ไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง การชุมนุมประท้วงของผู้ใช้แรงงานและชนพื นเมือง ตลอดจนภัย ธรรมชาติเป็น
อุปสรรคสำคัญต่อการลงทุนของประเทศ สถานการณ์การค้าการลงทุน - ไทยกับเนปาลมีปริมาณการค้า
ระหว่างกันไม่มากนัก แต่ยังมีโอกาสท่ี จะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยเฉพาะด้าน
การเกษตร การท่องเที่ยว การก่อสร้าง พลังงาน และสาธารณูปโภค นอกจากนี ไทยยังสนับสนุนให้เนปาลใช้
ประโยชน์จากสิทธิ Duty Free, Quota Free (DFQF) เพิ่มเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างไทย-เนปาล และ ช่วย
ลดการขาดดุลการค้าของเนปาล - รัฐบาลเนปาลส่งเสริมให้เอกชนไทยเข้าลงทุนในสาขาอุตสาหกรรมผ้า ไหม
กาแฟ ผลผลิตทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูง การพัฒนาพืชสวน ไม้ตัด ดอก และโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงธุรกิจ
บริการและการท่องเท่ียว - โดยจากการเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีของเอกอัครราชทูตสหพันธ์ สาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยเนปาลประจ้าประเทศไทย (Mr. Ganesh Prasad Dhakal) ในโอกาสที่เข้ารับหน้าที่ เมื่อ 19
ก.พ. 63 ได้ขอให้ ไทยพิจารณาเปิดเที่ยวบินตรงไทย-เนปาลเพิ่มข้ึน เนื่องจากเนปาลจะมี ท่าอากาศยานแห่ง
ใหม่ ณ เมืองลุมพินี ซึ่งไทยได้มอบหมายให้กระทรวง คมนาคมพิจารณาต่อไป - สำหรับบริษัทไทยท่ีเข้าลงทนุ
ในเนปาล ส่วนใหญ่ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ บริการ เช่น โรงแรม และการผลิต ได้แก่ General Food Industries,
Nepal Thai Food (ผลิตบะหมี่สำเร็จรูป) Nepal Ekarat (electrical transformer) SB furniture, Index
และเครือดสุ ิตธานีเปน็ ดว้ ย
บทที่ 3
การวิเคราะห์ประเด็นจำนวนประชากรประเทศเนปาล
ท่มี าภาพ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/645453
ประเดน็ การตายของประชากรประเทศเนปาลทเ่ี กิดจากภัยพิบัติ
แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล พ.ศ. 2558 เกิดเมื่อเวลา 11:56 น. ตามเวลาในประเทศ
เนปาล (6:11:26 น. เวลาสากลเชิงพิกัด) ในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 วัดขนาดได้ 7.8 ตามมาตรา
โมเมนต์ และวัดความรุนแรงได้ IX หรือระดับ 9 ตามมาตราเมร์กัลลี โดยมี epicenter หรือ จุดเหนือศนู ย์เกิด
แผ่นดนิ ไหวอยูห่ ่างจากเมืองลัมชุง ประเทศเนปาล ไปทางตะวันออก-ตะวนั ออกเฉยี งใต้ประมาณ 34 กิโลเมตร
และศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 15 กิโลเมตร[1] นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดของ
ประเทศเนปาลนบั แต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล–รัฐพิหาร พ.ศ. 2477 จนถงึ วันท่ี 27 เมษายน มี
รายงานผ้ตู อ้ งอุบัตเิ หตุในประเทศเนปาลและพื้นที่ใกลเ้ คียงของประเทศอนิ เดยี , จีน และบงั กลาเทศ
แผ่นดินไหวนี้ยังทำให้เกิดหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างนอ้ ย 17 ราย ยอด
ผู้เสียชีวิตเกินเหตุการณ์หิมะถล่มที่ยอดเขาเอเวอเรสต์ พ.ศ. 2557 ทำให้เป็นวันที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดบนเขา
ดังกล่าว อาคารเก่าแก่หลายศตวรรษที่แหล่งมรดกโลกของยูเนสโกในหุบเขากาฐมาณฑุถูกทำลาย รวมทั้ง
บางสว่ นของจัตุรัสกาฐมาณฑุดรู ์บาร์
เกิดแผ่นดินไหวตามต่อเนื่องทั่วประเทศเนปาล มีครั้งหนึ่งขนาด 6.7 แมกนิจูด เกิดเมื่อวันที่ 26
เมษายน เวลาสากลเชิงพิกดั 07:09:08 น.
แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่สอง เกิดขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ที่เวลา 12:35 น. ที่ระดับความ
แรง 7.3 แมกนจิ ดู โดยศูนยก์ ลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกลช้ ายแดนจนี ระหว่างกาฐมาณฑุกับภูเขาเอเวอเรสต์
15
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2558 ที่เวลา 11:56 น. ของเวลามาตรฐานเนปาล (6:11:26 น.
ของเวลาสากลเชงิ พิกัด) ทีร่ ะดับความลกึ ประมาณ 15 km (9.3 mi) กับจดุ เหนือศูนยเ์ กดิ แผน่ ดินไหวประมาณ
34 km (21 mi) ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ของเมืองลัมชงุ ประเทศเนปาล เปน็ เวลานานประมาณยส่ี ิบวินาที
ผลกระทบ
เหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 9,000 คน บาดเจ็บมากกว่า 23,000 คน
และประชาชนมากกวา่ 450,000 คนตอ้ งไรท้ ี่อยู่อาศัย จนถงึ ขณะนก้ี ย็ ังคงมีชาวจำนวนมากทต่ี ้องอาศัยอยู่ในที่
พักพงิ ชัว่ คราวมีรายงานการเสียชวี ิตที่บรเิ วณยอดเขาเอเวอเรสต์ ซง่ึ รวมผู้บริหารระดับสงู แห่งบรษิ ัทกเู กิล และ
ผู้ช่วยแพทย์หญิงสัญชาติไทย-อเมริกัน นอกจากนี้ยังทำให้โบราณหลายแห่งซึ่งบางส่วนได้รับการขึ้นทะเบียน
เป็นมรดกโลกถูกทำลายเสียหายยับเยิน อาทิเช่น ธาราฮารา หอคอยเก่าแก่ที่สูงที่สุดในเนปาล สถูปปูธานา
รถ เทวสถานสำคัญทางพทุ ธศาสนาในเนปาล สถปู เจดยี เ์ กา่ แก่ ภายในจตั ุรัสกาฐมาณฑุดรู ์บาร์ เป็นตน้
ความช่วยเหลือจากนานาชาติ
บุคลากรจากกองทัพบกไทย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องซี-130เอช ที่ท่าอากาศยานดอน
เมือง
ภูฏาน — นอร์บุ วังชุก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเศรษฐกิจ ได้แสดงความ
เสียใจ และแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับคนของประเทศเนปาล โดยได้ระงับงานฉลองทรัพย์สินทาง
ปัญญาแห่งโลก นอร์บุ วังชุก กล่าวเสริมว่าไม่มีความเสียหายที่สำคัญในประเทศภูฏาน และพระมหา
กรุณาธิคุณแห่งสมเดจ็ พระราชาธิบดจี ิกมี เคเซอร์ นมั เกล วงั ชกุ ได้ทรงมีพระบญั ชาใหส้ ่งทีมแพทย์ 63 นาย ซ่งึ
นำโดยเชอรงิ ตอ๊ บเกย์ นายกรฐั มนตรีภฏู านและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางสกู่ าฐมาณฑุ โดย
ทางภูฏานได้จัดมอบกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นจำนวน 62 ล้านงุลตรัมภูฏาน (1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จาก
สำนกั นายกรัฐมนตรี นอกจากน้ี นายกรฐั มนตรีต๊อบเกย์ ยงั ไดป้ ระกาศให้ประเทศภูฏานรว่ มลดธงคร่ึงเสา เพ่ือ
เป็นการไว้อาลัยการสญู เสยี ชวี ิตท่เี กดิ จากแผน่ ดินไหว
ญี่ปุ่น — ภายในครึ่งวันหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ประเทศญี่ปุ่นได้เสนอให้ความชว่ ยเหลือฉุกเฉิน
โดยทางองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) จะส่งผู้เชี่ยวชาญ 70 คนออกเดินทางจาก
สนามบินนาริตะในวันที่ 26 เมษายน ซึ่งพวกเขาจะทำหน้าที่ในประเทศเนปาลเป็นระยะเวลา 7 วัน ทีมนี้
ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, องค์การความร่วมมือ
ระหวา่ งประเทศแหง่ ญี่ป่นุ , เจา้ หน้าทหี่ น่วยก้ภู ัย, ผฝู้ กึ สุนัขก้ภู ยั และคน้ หา, ผูเ้ ชย่ี วชาญดา้ นการสือ่ สาร, แพทย์
และฝ่ายประสานงานภาคสนาม ด้านสมาคมแพทยแ์ ห่งเอเชยี (AMDA) และชาปลาเนียร์ ยงั ไดป้ ระกาศเร่ิมการ
ประสานงานความชว่ ยเหลือฉุกเฉนิ รว่ มกบั ทมี ดังกลา่ ว
ไทย — พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ
พระบรมราชินนี าถ ทรงพระกรุณาพระราชทาน 10 ลา้ นบาทแก่ผู้ประสบภัย และสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา
ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงพระกรุณาพระราชทานสง่ิ ของจำนวน 5 ตัน ซึ่งไดแ้ ก่ เต็นท์, ผา้ ห่ม, หมอนอิง, เตา
16
แก๊ส และยารักษาโรคนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการให้กระทรวง
สาธารณสขุ พรอ้ มดว้ ยกองทัพ จดั สง่ ทีมแพทย์และชุดบรรเทาสาธารณภยั เฉพาะกิจ เข้าช่วยเหลอื
สหราชอาณาจักร — เดวิด แคเมอรอน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้แสดงความ
เสียใจ พร้อมเสนอความช่วยเหลือต่อประเทศเนปาลโดยในวันที่ 25 เมษายน ทางสหราชอาณาจักรได้ส่งทีม
ผู้เชย่ี วชาญด้านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังพน้ื ทีด่ ังกล่าว เพอ่ื หาวธิ ีท่ดี ที ี่สุดในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับ
ผลกระทบจากเหตุการณ์
สหรัฐ — ด้านทำเนียบขาว และจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงความ
เสียใจและให้คำมั่นที่จะใหค้ วามชว่ ยเหลือ โดยในวันทีเ่ กิดแผน่ ดนิ ไหว สหรัฐอเมริกาได้ส่งความชว่ ยเหลือและ
มอบเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมด้วยทีมงานด้านภัยพิบัติที่ให้ความช่วยเหลือจำเป็นในทันที และ
องคก์ รเพอ่ื การพัฒนาระหว่างประเทศแหง่ สหรฐั อเมรกิ าไดส้ ง่ ทีมคน้ หาและทีมก้ภู ัยในพ้ืนทีด่ ังกล่าว
นครรัฐวาติกัน — สมเด็จพระสนั ตะปาปาฟรานซิส ไดน้ ำสวดมนตส์ ำหรบั การพกั ผอ่ นแห่งดวงวิญญาณของ
ผู้เสียชีวิต และสำหรับผู้ท่ีได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ท่านทรงมอบเงินบริจาค 100,000 ดอลลาร์สหรฐั
ในงวดแรก เพอ่ื บรรเทาความเดอื ดร้อน
ท่มี า : https://www.thaihealth.or.th/Content/28115.html
17
บทที่ 4
สรปุ
เนปาลเปน็ ประเทศหนึ่งทมี่ ีความอุดมสมบรู ณ์ในแงค่ วามหลากหลายทางด้านชวี วทิ ยา อันเนื่องมาจาก
สภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีลักษณะเด่น คือ มีพื้นที่ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 60 เมตร ขึ้นไป จนถึง
จดุ สูงสุดของโลก คือ ยอดเขาเอเวอเรสต์ (8,848 เมตร) และยงั มสี ภาพภูมิอากาศทีผ่ ันแปรแตกต่างกันไปทุกๆ
ระยะ 150 กิโลเมตร ตั้งแต่ภูมิอากาศแบบเขตร้อนถึงแบบอาร์กติก สิ่งเหล่านี้ทำให้เนปาลมีระบบนิเวศที่น่า
อศั จรรย์ ตั้งแต่เทอื กเขาที่ยาวเปน็ แนวซึ่งปกคลุมด้วยแมกไม้ ปา่ เมืองร้อนที่อุดมไปดว้ ยสัตว์ป่ามากมาย แม่น้ำ
ที่เชีย่ วกราก รวมถึงหุบเขาท่ีหนาวเยน็
นอกจากนี้เนปาลยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม เนื่องจากประเทศ
เนปาลเปน็ แหล่งรวมผ้คู นหลายเชอื้ ชาตแิ ละหลายชนเผ่าที่มีภาษาพูดและภาษาทอ้ งถ่นิ แตกตา่ งกันมากกว่า 70
ภาษาเมอื งหลวงคือ กรงุ กาฐมาณฑจุ ำนวนประชากรประมาณ 27 ลา้ นคน (สถิติปี ค.ศ.2005)
ประชากร
ประกอบดว้ ยชาติพันธ์ุทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ พวกมองโกลอยด์ ซ่งึ มาจากทเิ บต สิกขมิ และบริเวณภูเขาในแคว้นอัสสัม
และเบงกอล ส่วนอีกพวกหนึ่งสืบเช้ือสายมาจากอินโดอารยันซึง่ อพยพมาจากที่ราบลมุ่ ทางตอนเหนือของ
อนิ เดยี
กลุ่มประชากร
ประเทศเนปาลมปี ระชากรท่ปี ระกอบไปดว้ ยผูค้ นต่างเชือ้ ชาตแิ ละตา่ งเผ่าพนั ธ์ทุ ่ีอาศัยอยู่ในพ้นื ที่ตา่ งกัน มี
วัฒนธรรม ภาษาพูด และภาษาทอ้ งถิ่นท่หี ลากหลาย แบง่ ออกเปน็ กลุม่ ตา่ งๆ ดังต่อไปน้ี
กลุม่ ทไี่ ดร้ ับการยกยอ่ งและมอี ำนาจมากท่ีสดุ ในสงั คม ได้แก่ วรรณพราหมณ์ กษัตริย์ และแพศย์
กลุ่มที่สำคัญรองลงมาคือ ชาวเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในประเทศเนปาลได้แก่ เผ่าคุรุง
(Gurung) และเผ่ามาคาร์(Magar) อาศัยอยู่ท่างทิศตะวันตกและทางตอนใต้ของที่ราบแนวเทือกเขาอรรณา
ปรุ ณะ หิมาชรู ิ และคเณศหมิ ัล เผ่าราย(Rai) เผ่าลมิ บู(Limbu) และ เผา่ ซนู วู าร์(Sunuwar) อาศัยตามเทือกเขา
หุบเขาแนวที่ลาด และหมู่บ้านทางทิศตะวันออก เผ่าเชอร์ปา (Sherpa) และเผ่ากุรข่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณ
เทอื กเขาหิมาลัย บนความสูงระดบั 4,570 เมตร เผ่าเนวาร(์ Newar) ซง่ึ เปน็ เผา่ ท่ีมีความสำคญั มาก อาศยั อยู่ใน
แถบเมอื หลวงกาฐมาณฑุ นอกจากน้ยี งั มเี ผา่ ตารุ (Tharu) เผ่ายาดาวา (Yadava) เผ่าซาตาร์(Satar) เผา่ ราชบนั
ชิ (Rajbanshi) และเผ่าธิมัล(Dhimal) ที่อาศัยตามที่ลุ่มในเขตเตไร ส่วนพวกพราหมณ์ (Brahman) เผ่าเฉตริ
(Chhetri) เผ่าฐากรู (ี Thakuri) จะกระจายอย่ทู ัว่ ไป
ทั้งนี้การแบ่งกลุ่มดังกล่าวข้างต้นทำให้เกิดบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อสังคมและการเมืองของประเทศ
อันไดแ้ ก่ ความแตกตา่ งทางขนบธรรมเนียม ประเพณี ภาษา และวฒั นธรรม ส่ิงทเ่ี ปน็ ตวั แปรสำคัญท่ีทำให้เกิด
ความแตกตา่ งเหลา่ นี้ ไดแ้ ก่ ปัจจัยทางดา้ นเผา่ พนั ธ์ุ วรรณ และสภาพแวดลอ้ มทางภมู ศิ าสตร์
18
บรรณานกุ รม
ชวนิ ทร์ สระคำ. (2523). เย่ียมเนปาล. สำนักวิทยาบรกิ าร : มหาลยั ราชภฏั นครศรธี รรมราช
โกวิท ต้ังตรงจิตร. (2551). เนปาลสถานเทวาลัย. พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1. สำนกั พมิ พร์ วมสาสน์ .
ชอ่ื ผูแ้ ต่ง./(ปพี มิ พ)์ .//ชื่อบทความ.//ช่ือวารสาร,/เลขของปที ่/ี (เลขของฉบับท)่ี ,/เลขหน้า.
สำนกั พมิ พ์มหาวทิ ยาลยั นเรศวร. ข้อมลู ท่วั ไปประเทศเนปาล ประวตั ศิ าสตร์ ประชากร
วฒั นธรรม. สบื คน้ จาก
wwwhttps://www.tripdeedee.com/traveldata/nepal/nepal01.php. สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 5
มีนาคม 2564
ภูมปิ ระเทศและภูมิอากาศ.สืบคน้ จากก
https://sites.google.com/site/phdhadiekfphfehkphfeaphaefphe/prathes-nepal
สบื คน้ เม่ือวันที่ 6 มีนาคม 2564
18
18