แผนการจัดประสบการณ์
แบบ Project Approach เรื่อง ธรรมชาติในโรงเรียน
ระดับปฐมวัย ชั้นอนุบาล 2
จัดทำโดย
นางสาววิไลพร ปรางศรี
รหัสประจำตัวนักศึกษา ๖๑๑๑๑๕๖๖๐๐๙
นางสาวเดือนจันทร์ อินทปัน
รหัสประจำตัวนักศึกษา ๖๑๑๑๑๕๖๖๐๑๒
นางสาว ถมรัตน์ เฉลยคราม
รหัสประจำตัวนักศึกษา ๖๑๑๑๑๕๖๖๐๒๘
สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
คํานํา
เอกสารนี้ คือ แผนการจัดประสบการณ์ Project Approach ระดับปฐมวัย ซึ่งเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ จากการสำรวจธรรมชาติภายใน
โรงเรียน ของนักเรียนระดับปฐมวัยปีที่ 2 เรื่อง ธรรมชาติในโรงเรียน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย ด้านสติ
ปัญญา ด้านอารมณ์ - จิตใจ และด้านสังคม ให้นักเรียนได้รู้จัดการสืบค้นหาข้อมูลอย่างลึกตามหัวเรื่องที่เด็กสนใจคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล โดยผ่าน
ทางกิจกรรมเสริมประสบการณ์ตรงต่างๆ อย่างหลากหลาย รวมทั้งกิจกรรมหลักทั้ง 6 กิจกรรม
ดังนั้นแผนการจัดประสบการณ์จึงมีความสําคัญอย่างยิ่ง เพื่อใช้เป็นเอกสารร่องรอยให้บุคคลต่างๆ ได้ศึกษาหาความรู้ได้ไม่มากก็น้อย
คณะผู้จัดทำ
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ธรรมชาติในโรงเรียน
ระดับปฐมวัย ชั้นอนุบาล 2
สาระการเรียนรู้
ธรรมชาติในโรงเรียน ภายในโรงเรียนนั้นมีสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นมากมาย ตัวอย่างเช่น ต้นไม้ หญ้า
ดิน สัตว์ น้ำ ทราย อากาศ อาคารเรียน บ้านพัก โรงอาหาร ฯลฯ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่ต้องได้รับการอนุรักษ์ เป็นสิ่งที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ทุกคน
ต้องร่วมช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักษาสาธารณสมบัติโดยไม่ทำลายและบำรุงรักษาให้ดีขึ้น การพาเด็กๆออกสำรวจธรรมชาติสิ่งแวดล้อมภายนอก
ห้องเรียนในพื้นที่รอบรั้วโรงเรียน สร้างโลกการเรียนรู้และโลกของจินตนาการ รวมถึงความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างเด็กๆและคุณครู เด็กๆเตรียมพร้อม
ฐาน ใจ-กาย ที่จะซึมซับเรื่องราวต่างๆ ผ่านโลกธรรมชาติที่คุณครูจะพาไปเจอะเจอนอกห้องเรียน โจทย์การพาเด็กๆสังเกตสำคัญมาก ๆ สำหรับเด็ก
อนุบาล สังเกตแบบสัมผัส แสงแดด ต้นไม้ ท้องฟ้า ก้อนเมฆ อากาศ สายลม
จุดประสงค์
1. เพื่อให้เด็กสนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัว ผ่านกิจกรรมและสื่อในโอกาสต่างๆ รู้จักตั้งคําถาม สํารวจและทดลอง ( มฐ. 4.1, มฐ.ค. 12.1 )
2. เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยการกระทําและปฏิบัติการด้วยตนเอง มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดจากประสบการณ์การเรียนรู้
( มฐ. 4.2, มฐ.ค. 8.1, 9, 10 )
3. เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงในการเรียนรู้และแบงป่ ันความรู้ของตนให้ผู้อื่นรับทราบด้วยวิธีที่หลากหลาย ( มฐ. 4.3, มฐ.ค. 11.1 )
4. เพื่อให้เด็กเกิดทักษะการเรียนรู้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ทักษะทางสงคม ั และนําไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจําวันได้ ( มฐ. 4.4, มฐ.ค. 2.2, 12 )
5. เพื่อให้ครูพัฒนาทักษะในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Project Approach ได้ดียิ่งขึ้น( มฐ. 11.1, 11.2 )
10.บ่อเลี้ยงปลา ผังมโนทัศน์ 3. สนามหญ้า
พื้นที่การทำให้ปลามีการเจริญเติบโต 4.โรงอาหาร เป็นพื้นที่ของที่ดินปกคลุมดินข้อ
และเพิ่มขนาดน้ำหนักให้ได้ตามเป้า ปลูกหญ้าและพืชคงทนอื่น ๆ เช่น
หมาย ด้วยการให้อาหาร และการดูแล สถานที่ประกอบและจำหน่าย
นอกเหนือจากการปล่อยเลี้ยงตาม อาหาร เป็นศูนย์กลางของ ไม้จำพวกถั่วซึ่งได้รับการเก็บ
รักษาไว้ที่มีความสูงระยะสั้นกับ
ธรรมชาติ บุคลากรทุกฝ่ายของโรงเรียน ที่
จะเข้าไปใช้บริการด้านอาหาร เครื่องตัดหญ้า
5.ฟาร์มเลี้ยงไก่
และเครื่องดื่ม 6. สวนผลไม้
พื้นที่ใช้สำหรับการเลี้ยงไก่ให้
เติบโต และส่งออกไปขาย บริเวณที่มีการปลูกต้นไม้หรือไม้พุ่มซึ่งมี
จุดประสงค์ด้านเกษตรกรรมเกี่ยวกับ
8. สนามเด็กเล่น การผลิตอาหาร โดยต้นไม้หรือไม้พุ่มที่
นำมาปลูกอาจให้ผลเป็นผลไม้
เป็นสถานที่ที่ออกแบบสำหรับเด็กเล่น
2. ต้นไม้
คือ ยืนต้นขนาดใหญ่ ต้นไม้มีอายุ
ยืนยาวเมื่อเปรียบเทียบกับพืชใน
ลักษณะอื่นๆและต้นไม้ก็มีมากมาย
หลายชนิดมีทั้งแบบยืนต้นและล้มลุก
ต้นไม้เป็นส่วนประกอบสำคัญของ
ภูมิประเทศตามธรรมชาติ
9. บ้านพักครู 1.สวนผัก 7. สระน้ำ
เป็นอาคารซึ่งทางราชการก่อสร้าง เป็นการปลูกผักต่างๆ เป็นอาชีพ แหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อ
ขึ้น เพื่อเป็นที่พัก อาศัยของ เพื่อส่งตลาดในท้องที่ ส่วนมาก ใช้สำหรับการว่ายน้ำหรือ
ข้าราชการครู และบุคลากร เป็นการปลูกที่ไม่ต้องการดินฟ้า กิจกรรมนันทนาการ
ทางการศึกษา
อากาศพิเศษอะไร
แผนการจัดประสบการณ์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
เรื่อง ธรรมชาติในโรงเรียน
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม สื่อ การประเมินผล
สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ
สังเกต
เด็กสามารถ เด็กควรเรียนรู้ 1.การฟังเพลง การร้อง ขั้นนำ 1. กล่องปริศนา 1.เลือกศึกษาตามความ
1.เลือกศึกษาตาม เกี่ยวกับการ เพลง และการแสดง 1. เด็กนั่งเป็นครึ่งวงกลม 2. แว่นขยาย สนใจของตนเอง
ความสนใจของ สำรวจสิ่งต่างๆ ปฏิกิริยาโต้ตอบเสียง 2. ครูนำกล่องปริศนาขึ้นมา โดยด้านในกล่องปริศนาใส่อุปกรณ์ไว้ 1 ชนิด ได้แก่ 3. เพลง “รอเธอ” 2.การเล่าเรื่องราวจาก
ตนเองได้ ในธรรมชาติ ดนตรี แว่นขยาย 4. แบบบันทึกการ การออกไปสำรวจได้
2.เล่าเรื่องราวจาก ภายในโรงเรียน 2.การปฏิบัติกิจกรรมต่าง 3. ครูให้เด็กแต่ละคนได้สัมผัสกับสิ่งของที่อยู่ด้านในกล่องปริศนา แล้วให้เด็ก สำรวจ 3.การร่วมสนทนากับครู
การออกไปสำรวจได้ เช่น สัตว์ พืช ๆ ตามความสามารถของ บอกเล่าลักษณะสิ่งของจากการสัมผัส และบอกสิ่งของที่อยู่ในกล่องปริศนานั้น และเพื่อนได้
3.ร่วมสนทนากับครู ดอกไม้ ใบไม้ ตนเอง คืออะไร
และเพื่อนได้ ผ่านการใช้ 3.การให้ความร่วมมือใน 4. เมื่อเด็กได้สัมผัสกับสิ่งของในกล่องปริศนาครบทุกคนแล้ว ครูเฉลยกล่อง
ประสาทสัมผัส การปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ปริศนา ว่าคือแว่นขยาย
ทั้งห้า 4.การอธิบายเกี่ยวกับสิ่ง 5. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับแว่นขยายและวิธีการใช้ โดยใช้คำถาม
ต่างๆ (การใช้ภาษา) ดังนี้
5.การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับ - มีใครรู้จักแว่นขยายบ้างไหมคะ
ประสบการณ์ - แว่นขยายเอาไว้ทำอะไร
ของตนเอง หรือพูดเล่า 3. ครูสอนวิธีการใช้แว่นขยายที่ถูกต้องให้กับเด็ก
เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง 4. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับธรรมชาติที่เด็กรู้จัก โดยใช้คำถามดังนี้
6.การสังเกตลักษณะส่วน - เด็กๆรู้จักธรรมชาติไหมคะ
ประกอบ การ - ธรรมชาติเป็นอย่างไรคะ
เปลี่ยนแปลงและความ - ในโรงเรียนของเรามีธรรมชาติอะไรบ้างคะ
สัมพันธ์ของสิ่งต่างๆโดย 5. ครูนำแบบบันทึกการสำรวจธรรมชาติ ขึ้นมาให้เด็กดู พร้อมทั้งอธิบายวิธี
ใช้ประสาทสัมผัสอย่าง การใช้ ดังนี้
เหมาะสม - จุดสำรวจธรรมชาติในโรงเรียนมี 10 จุด ได้แก่ สนามหญ้า สวนผัก สวนผลไม้
7.การสำรวจสิ่งต่างๆและ ต้นไม้ บ่อเลี้ยงปลา สนามเด็กเล่น สระน้ำ บ้านพักครู ฟาร์มเลี้ยงไก่ และโรง
แหลางเรียนรู้รอบตัว อาหาร
แผนการจัดประสบการณ์โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
เรื่อง ธรรมชาติในโรงเรียน
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม สื่อ การประเมินผล
สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ
- เมื่อเด็กๆได้ออกไปสำรวจนอกห้องเรียน ให้เด็กๆ สำรวจธรรมชาติในโรงเรียนให้
ครบทั้ง 10 จุด
- ให้เด็กบันทึกข้อมูลที่เด็กๆพบเจอในแต่ละจุด ใส่ลงในแบบบันทึกการสำรวจ โดย
การวาดรู ปภาพ
6. ครูสร้างข้อตกลงในการสำรวจธรรมชาติในโรงเรียนกับเด็ก ดังนี้
- การเป็นนักสำรวจที่ดี ควรใช้ประสาทสัมผัส ( ตา หู จมูก ) ให้เป็นประโยชน์
- สิ่งสำคัญที่นักสำรวจต้องมี คือการเคารพธรรมชาติ ไม่เบียดเบียนให้ธรรมชาติ
เกิดความเสียหาย และไม่เบียดเบียนเพื่อนนักสำรวจด้วยกัน
7. ครูแจกแว่นขยาย และแบบบันทึกการสำรวจให้กับเด็ก แล้วพร้อมออกไปสำรวจ
ธรรมชาติในโรงเรียน
ขั้นสอน
1. เด็กออกไปสำรวจธรรมชาติในโรงเรียน และเรียนรู้อย่างอิสระ โดยมีครูเป็นผู้คอย
ดูแลความปลอดภัย
2. ครูคอยกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็ก แนะนำและให้คำปรึกษา เกี่ยวกับแบบบันทึก
การสำรวจ
3. เมื่อหมดเวลาครูให้สัญญาณโดยการร้องเพลง “รอเธอ” 2 รอบ ให้เด็กทุกคนล้าง
มือ ทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมานั่งตามจุดที่กำหนดให้ ให้เรียบร้อย
ขั้นสรุ ป
1. ครูสนทนากับเด็กเกี่ยวกับปัญหาและประสบการณ์ที่เด็กได้พบเจอในระหว่างการ
ทำกิจกรรมการสำรวจธรรมชาติในโรงเรียน
2. ให้เด็กแต่ละคนออกมาโชว์ผลงานจากการบันทึกแบบสำรวจธรรมชาติใน
โรงเรียน พร้อมทั้งเล่าเรื่องราว ที่เด็กสนใจมากที่สุดจากการออกไปสำรวจธรรมชาติ
ในโรงเรียน เพื่อเป็นการเลือกหัวเรื่องที่จะศึกษาต่อไป