The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by fierce hh, 2019-12-05 04:59:46

ebook-first1

ebook-first1

สูตร Excel

นางสาวชัญญกร กมลประสิทธิสุข
ม.5/1 เลขท่ี 36



สารบัญ

1. Excel คืออะไร
2. ขอ้ มลู และสญั ลักษณใ์ นการ

คานวณ
3. การคานวณโดยสูตร
4. การคานวณโดยใชฟ้ งั กช์ นั่

1

Excel คืออะไร

สาระสาคัญ

Microsoft Excel ใช้สาหรับเก็บข้อมูลในลักษณะของตาราง ท่ีมี
ความสามารถในการคานวณและสร้างกราฟจากข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันได้พัฒนามาถึงรุ่นที่มีชื่อเรียกว่า Microsoft Excel 2010 ที่
พัฒนารปู ลักษณ์ของหน้าตาและการใช้งานโปรแกรมให้ดูง่าย โดยมีส่วน
ติดต่อผู้ใช้ท่ีมีการรวบรวมไว้เป็นหมวดหมู่ให้สามารถใช้งานได้ง่ายและ
เปน็ ระบบมากข้ึน

Excel คืออะไร

Excel เป็นโปรแกรมประเภท สเปรดชีต (Speadsheet) หรือ
โปรแกรมตารางงาน ซ่ึงจะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ลงบนแผ่นตารางงาน คล้าย
กับการเขียนข้อมูลลงไปในสมุดท่ีมีการตีช่องตารางทั้งแนวนอนและ
แนวต้ัง ซ่ึงช่องตารางแต่ละช่องจะมีช่ือประจาแต่ละช่อง ทาให้ง่ายต่อ
การป้อนข้อมูล การแก้ไขข้อมูล สะดวกต่อการคานวณและการนาข้อมูล
ไปประยุกต์ใช้ สามารถจัดข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างเป็นหมวดหมู่และเป็น
ระเบียบมากยง่ิ ขนึ้

คณุ สมบตั ทิ ี่สาคัญในโปรแกรม Excel

1. ความสามารถด้านการคานวณ Excel สามารถป้อนสูตรการ
คานวณทางคณิตศาสตร์ เช่น บวก ลบ คูณ หาร เป็นต้น รวมท้ังสูตร
คานวณด้านอ่ืน ๆ และจุดเด่นของการคานวณคือผลลัพธ์ของการคานวณ
จะเปล่ยี นแปลงตาม เม่อื อนิ พตุ ที่นามาเปล่ียนค่า ทาให้เราไม่ต้องเสียเวลา
เปลยี่ นแปลงค่าผลการคานวณใหม่

2. ความสามารถด้านการใช้ฟังก์ช่ัน นอกจากการป้อนสูตรคูณทาง
คณิตศาสตร์แล้ว Excel ยังสามารถป้อนฟังก์ชั่นอืน่ ๆ ได้อกี เช่น ฟังก์ชั่น
เกยี่ วกับตัวอักษร ตวั เลข วนั ที่ ฟังก์ชน่ั เกี่ยวกับการเงินหรอื การตัดสินใจ

3. ความสามารถในการสร้างกราฟ Excel สามารถนาข้อมูลที่ป้อน
ลงในตารางมาสร้างเป็นกราฟได้ทันที มีรูปกราฟให้เลือกใช้งานหลาย
รูปแบบตามความเหมาะสม เช่น กราฟแท่ง แสดงยอดขายแต่ละเดือด
กราฟวงกลม แสดงสว่ นแบง่ การตลาด เป็นตน้

4. ความสามารถในการตกแต่งตารางข้อมูล Excel สามารถตกแต่ง
ตารางข้อมูลหรือกราฟข้อมูลด้วยภาพสีและรูปแบบตัวอักษรต่าง ๆ
เพ่ือใหเ้ กดิ ความสวยงามและแยกแยะข้อมูลได้ง่ายข้นึ

5. ความสามารถในการจัดเรียงลาดับ Excel สามารถคดั เลอื กเฉพาะ
ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการมาวิเคราะห์ได้
6. ความสามารถในการพมิ พ์งานออกทางเครื่องพมิ พ์ Excel สามารถ
พมิ พ์งานทงั้ ขอ้ มูลและรปู ภาพหรือกราฟออกทางเครือ่ งพิมพไ์ ดท้ นั ที ซ่งึ
ทาให้ง่ายต่อการสร้างรายงาน
7. ความสามารถในการแปลงขอ้ มลู ในตารางใหเ้ ป็นเวบ็ เพจเพื่อนามา
แสดงในโฮมเพจ

2

ข้อมูลและ

สัญลกั ษณ์ในการคานวณ

จากภาพ จะเห็นได้ว่าสัญลักษณ์เหล่าน้ีคือสัญลักษณ์ในการคานวณ
ของโปรแกรม Microsoft Excel 2010 ท่ีใช้คานวณเพ่ือหาผลลัพธ์
ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้มักจะใช้ในการ
คานวณในรูปแบบท่ีเป็นการใช้สูตรในการคานวณ

จากภาพท่ี 2 จะเห็นได้ว่า รูปแบบในการคานวณในแต่ละอย่าง
มกั จะมีเท่ากับ (=) อยูด่ า้ นหนา้ เสมอ ซ่ึงนั่นก็หมายความว่า ในการคิด
คานวณแต่ละครั้งจะต้องมีเท่ากับนาหน้าหรืออยู่ด้านหน้าเสมอถึงจะ
ทาให้การคานวณน้ันมีความสมบูรณ์ใช้งานได้ และในภาพที่ 2 นี้จะ
เห็นว่ามีสตู รการคานวณเพิ่มข้ึนมา ในรูปแบบภาษาอังกฤษ คือ sum,
max, min, avgerage และ stedv เป็นต้น ซึ่งรปู แบบจาพวกนี้จะใช้
คานวณในรูปแบบทเี่ ปน็ ฟังกช์ ่ันในการคานวณ ดงั ภาพ

3

การคานวณโดยสตู ร

จากท่ีกล่าวมาก่อนหน้าน้ี ในการคานวณแต่ละอย่างของสูตร
ฟังกช์ น่ั จะต้องมีเทา่ กับนาหนา้ เสมอเพอ่ื ที่จะให้การคานวณนั้นคานวณได้
ถูกต้อง โดยการคานวณแบบใช้สูตรจะเป็นรูปแบบ บวก ลบ คูณ หาร
และเลขยกกาลัง เป็นต้น และเพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจมากยิ่งข้ึน จึงมี
ภาพตัวอย่างใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ ึกษา

การบวกโดยใชส้ ตู ร

การบวกโดยใชส้ ูตรคอื การบวกโดยการหาผลลพั ธ์ค่ามาก ซึง่ ใน
การบวกโดยใช้สูตรจะมีรปู แบบดงั ภาพตวั อยา่ ง

จากภาพตัวอย่างการบวกโดยใช้สูตร จะเห็นได้ว่า หากต้องการ
คานวณหาผลรวมของวันจันทรแ์ ละวันพธุ จะต้องนาเมาส์มาคลิกในช่องว่าง
เพอ่ื ท่จี ะหาผลลพั ธ์นั้น แล้วเร่ิมด้วย เท่ากับ และก็ตามไปด้วยช่องท่ีต้องการ
จะหาผลรวมคือ วันจันทร์ท่ีช่อง C3 จากนั้นจึงใส่เครื่องหมายบวก + แล้วก็
ตามไปด้วยวันพุธท่ีช่อง E3 แล้วจึงกด Enter ท่ีแป้นพิมพ์ ผลลัพธ์ก็จะ
ปรากฎออกมาดงั ภาพถดั มา

การลบโดยใชส้ ตู ร
การลบโดยใชส้ ูตรคือการลบโดยการหาผลลัพธ์คา่ นอ้ ย ซ่ึงใน

การลบโดยใชส้ ูตรจะมีรูปแบบดงั ภาพตัวอยา่ ง

จากภาพตัวอย่างการลบโดยใช้สูตร จะเห็นได้ว่า หากต้องการ
คานวณหาผลลบของวันศุกร์และวันอังคาร จะต้องนาเมาส์มาคลิกใน
ช่องว่างเพ่ือที่จะหาผลลัพธ์น้ัน แล้วเร่ิมด้วย เท่ากับ และก็ตามไปด้วยช่อง
ท่ีต้องการจะหาผลลัพธ์คือ วันศุกร์ท่ีช่อง G3 จากน้ันจงึ ใส่เคร่ืองหมายลบ
- แล้วก็ตามไปด้วยวันอังคารท่ีช่อง D3 แล้วจึงกด Enter ที่แป้นพิมพ์
ผลลัพธ์ก็จะปรากฎออกมาดังภาพถัดมา

การคณู โดยใชส้ ตู ร

การคูณโดยใชส้ ตู รคอื การคูณโดยการหาผลลัพธ์คา่ มาก ซ่งึ ใน
การคูณโดยใช้สตู รจะมีรปู แบบดงั ภาพตัวอยา่ ง

จากภาพตัวอย่างการคูณโดยใช้สูตร จะเห็นได้ว่า หากต้องการ
คานวณหาผลคูณของวันจันทร์ อังคาร และวันพุธ จะต้องนาเมาส์มา
คลิกในช่องว่างเพ่ือที่จะหาผลลัพธ์น้ัน แล้วเร่ิมด้วย เท่ากับ และก็ตาม
ไปด้วยช่องที่ต้องการจะหาผลลัพธ์คือ วันจันทร์ท่ีช่อง C3 จากน้ันจึงใส่
เคร่ืองหมายคูณ * แล้วก็ตามไปด้วยวันอังคารที่ช่อง D3 จากนั้นจึงใส่
เคร่ืองหมายคูณ * แล้วก็ตามด้วยตัวสุดท้ายคือวันพุธที่ช่อง E3 แล้วจึง
กด Enter ที่แป้นพิมพ์ ผลลพั ธ์กจ็ ะปรากฎออกมาดงั ภาพถัดมา

การหารโดยใชส้ ตู ร
การหารโดยใช้สตู รคือการหารโดยการหาผลลพั ธค์ ่านอ้ ย ซง่ึ ใน

การหารโดยใช้สตู รจะมีรูปแบบดงั ภาพตวั อยา่ ง

จากภาพตัวอย่างการหารโดยใช้สูตร จะเห็นได้ว่า หากต้องการ
คานวณหาผลหารของวันศุกร์และวันจันทร์ จะต้องนาเมาส์มาคลิกใน
ช่องว่างเพื่อท่ีจะหาผลลัพธ์นั้น แล้วเร่มิ ด้วย เท่ากับ และก็ตามไปด้วยช่อง
ท่ตี ้องการจะหาผลลัพธ์คือ วันศุกรท์ ี่ช่อง G3 จากน้ันจงึ ใส่เคร่อื งหมายหาร
/ แล้วก็ตามไปด้วยวันจันทร์ท่ีช่อง C3 แล้วจึงกด Enter ท่ีแป้นพิมพ์
ผลลพั ธ์กจ็ ะปรากฎออกมาดังภาพถดั มา

การยกกาลังโดยใชส้ ตู ร

การยกกาลังโดยใช้สูตรคือ การเพิ่มค่าด้วยตัวเลขตัวเดิมในรปู แบบ
ลกั ษณะของการคูณ เช่น

- 2^2 อา่ นว่า สองยกกาลังสอง เกิดจากการเอาสองมาคูณกันสองครั้ง
คือ 2x2=4

- 5^2 อ่านว่า ห้ายกกาลังสอง เกิดจากการเอาหา้ มาคูณกันสองครงั้ คือ
5x5=25

- 2^3 อ่านว่า สองยกกาลังสาม เกิดจากการเอาสองมาคูณกันสามครั้ง
คอื 2x2x2=8

จากภาพตัวอย่างการยกกาลังโดยใช้สูตร จะเห็นได้ว่า หาก
ต้องการคานวณหาเลขยกกาลังของวันวนั จนั ทร์ จะต้องนาเมาส์มาคลิก
ในช่องว่างเพื่อที่จะหาผลลัพธ์น้ัน แล้วเร่ิมด้วย เท่ากับ และก็ตามไป
ด้วยช่องท่ีต้องการจะหาผลลัพธ์คือ วันจันทร์ท่ีช่อง C3 จากน้ันจึงใส่
เครอ่ื งหมายยกกาลัง ^ แล้วก็ตามไปด้วยเลขที่จะยกกาลังคือ2 แล้วจึง
กด Enter ที่แปน้ พิมพ์ ผลลพั ธ์ก็จะปรากฎออกมาดงั ภาพถดั มา

4

การคานวณโดยใช้

ฟังกช์ นั่

การใช้ฟังก์ชันในการคานวณคือการคานวณในรูปแบบที่เป็นตัว
ช่วยในการคานวณของโปรแกรม Microsoft office Excel ของทุก
เวอร์ชัน โดยทุกเวอร์ชั่นของ Microsoft office Excel จะมีฟังก์ชัน
เสริมเพื่อช่วยในความสะดวกต่อการคานวณและใช้งานมากยิ่งขึ้น ซ่ึง
ฟังกช์ น่ั ท่ีจะใชเ้ รียนในบทเรยี นนี้ ได้แก่

1. SUM หมายถึง การหาผลรวม

2. MAX หมายถงึ การหาค่าสูงสดุ

3. MIN หมายถงึ การหาค่าตา่ สุด

4. AVERAGE หมายถงึ การหาคา่ เฉลี่ย

5. IF หมายถึง การหาขอ้ มลู ในรูปแบบที่เปน็ เง่ือนไข

1. SUM (ซมั )

sum หมายถงึ การหาผลรวมในรปู แบบหลายจานวนและ
แต่ละจานวนจะมีค่ามากหรือน้อยก็ข้ึนอยู่กับข้อมูลเหล่าน้ัน โดย
การคานวนหาผลรวมในรูปแบบฟังก์ชันน้ี จะเขียนสูตรได้ดังน้ี
=sum จากน้ันตามด้วยวงเล็บเปิดและจากนั้นเลือกข้อมูลท่ีจะ
คานวณแลว้ วงเล็บปดิ แล้วกด Enter ดังตวั อยา่ ง

ตวั อยา่ งที่ 1

=sum(a1:e1) หมายถึง ต้องการหาผลรวมจาก a1 ถึง
e1 ซึ่งหมายความว่า ข้อมูลท่ีอยู่ในช่วง a1,b1,c1,d1 และ e1
จะต้องนามาหาผลรวมท้ังหมด แต่ในรูปแบบการคานวณแบบ
ฟังก์ช่ัน จะเขียนอย่างน้ีแทน ซ่ึงจะแตกต่างจากการใช้สูตรท่ัวไป
และเขียนไดส้ ้ันกว่า อย่างเชน่

ความแตกต่างระหว่างการคานวณแบบใช้สูตรและการคานวณ
แบบฟงั ก์ชั่น

1. a1+b1+c1+d1+e1 (แบบใชส้ ูตร)

2. =sum(a1:e1) (แบบใช้ฟงั ก์ชน่ั )

จากภาพตัวอย่างการคานวณด้วยฟังก์ช่ัน sum จะเห็นได้ว่า หาก
ต้องการคานวณหาผลรวมโดยใช้ฟังก์ช่ัน sum ให้นาเมาส์ไปคลิกท่ีช่องที่
ต้องการจะหาผลลัพธ์น้ัน จากน้ันก็เริ่มต้นด้วยการพิมพ์สูตรฟังก์ช่ันของ
ผลรวมคือ =sun ตามด้วยวงเล็บเปิด แล้วเลือกข้อมูลท้ังหมดที่ต้องการจะ
หาผลรวมจากนน้ั ก็ใส่วงเล็บปิดและ Enter กจ็ ะได้ผลรวมดงั ภาพถัดมา

2. MAX (แมซ็ )

max คือการหาผลลัพธ์ท่ีมีค่าสูงสุดของข้อมูลเหล่าน้ัน เมื่อ
ข้อมูลมีจานวนหลายชุด และแต่ละชุดจะมีค่าท่ีต่างกันออกไป และหาก
ต้องการทราบค่าท่ีมากหรือสูงที่สดุ นน้ั จงึ จาเป็นต้องใช้ฟังก์ชั่น max เข้า
มาช่วยในการหาผลลัพธ์ เช่น หากข้อมูลมีจานวน 5 ชุด ปรากฏดังน้ี 12
14 11 15 และ 9 ค่าท่ีมีค่ามากหรือสูงที่สุดก็คือ 15 แน่นอนว่ามอง
ด้วยตาเปล่าก็สามารถตอบได้ แต่ถ้าหากข้อมูลมีมากหลายชุดล่ะ ก็จะทา
ให้การมองด้วยตามีการผิดพลาดได้ ฉะน้ัน ฟังก์ชั่น max สามารถ
แกป้ ญั หาได้ และมีความแมน่ ยาและถกู ตอ้ งด้วย ดังภาพตัวอย่าง

3. MIN (มิน)

การหาคา่ min นน้ั จะตรงข้ามกับค่า max กล่าวคือ min คือการ
หาผลลัพธ์ท่ีมีค่าต่าสุดของข้อมูลเหล่าน้ัน เม่ือข้อมูลมีจานวนหลายชุด
และแต่ละชุดจะมีค่าท่ีต่างกันออกไป และหากต้องการทราบค่าท่ีน้อย
หรอื ต่าท่ีสุดน้ัน จึงจาเป็นต้องใช้ฟังก์ชั่น min เข้ามาช่วยในการหาผลลัพธ์
เช่น หากข้อมูลมีจานวน 5 ชุด ปรากฏดังน้ี 12 14 11 15 และ 9 ค่าท่ี
มีค่าน้อยหรือต่าท่ีสุดก็คือ 9 แน่นอนว่ามองด้วยตาเปล่าก็สามารถตอบได้
แต่ถ้าหากข้อมูลมีมากหลายชุดล่ะ ก็จะทาให้การมองด้วยตามีการ
ผดิ พลาดได้ ฉะนนั้ ฟังกช์ น่ั min สามารถแกป้ ัญหาได้ และมีความแม่นยา
และถูกตอ้ งด้วย ดังภาพตวั อยา่ ง

4. AVERAGE (เอฟเวอเรก)

average คือการหาผลลัพธ์ในรูปแบบของค่าเฉล่ีย โดย
ผลลพั ธท์ ่อี อกมาน้นั จะอยู่ในรปู แบบเลขทศนยมิ หรอื ไม่ใช่เลขทศนิยมก็
ได้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลท่ีจะนามาคานวณ โดยวิธีคิดว่าเฉล่ียก็คือ หากมี
ข้อมูลมา 5 ชุด ได้แก่ 14 17 11 15 และ 12 ใหน้ าข้อมูลท้ังหมดนี้
มาบวกกัน เมื่อได้ผลลัพธ์จากการที่นามารวมกันแล้วจากน้ันจึงหาร
ด้วย 5 นั้นคือจานวนชุดของข้อมูล ซ่ึงในรูปแบบค่าเฉลี่ยของฟังก์ชั่น
จะเขียนได้ดังน้ี =average ตามด้วยวงเล็บเปิด แล้วเลือกข้อมูล
ทั้งหมดที่ต้องการจะหาผลลัพธ์จากนั้นก็ใส่วงเล็บปิดและ Enter ก็จะ
ได้ผลลัพธ์ดงั ภาพตัวอยา่ ง

5.1 IF

if คือการหาผลลัพธ์แบบเงื่อนไข โดยลักษณะการเขียนสูตรของ
ฟังก์ชั่น if ในท่ีน้ี จะเขียนได้ว่า =if ตามด้วยวงเล็บเปิด จากนั้นก็ทา
การใส่ข้อมูลและเงื่อนไขท่ีต้องการจะใช้แล้วจึงใส่วงเล็บปิดและกด
Enter ตัวอย่างเช่น หากมีการสอบเก็บคะแนนโดยมีคะแนนเต็มคือ
20 และเกณฑ์การสอบผ่านคือ 10 หากไม่ถึง 10 คือไม่ผ่าน จะเขียน
สูตรฟงั กช์ ั่นไดด้ งั นี้ =if(ชอ่ งคะแนนทไ่ี ด้>=10,"ผา่ น","ไม่ผ่าน")

ดงั ภาพตัวอยา่ ง


Click to View FlipBook Version