ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพวิ เตอร์ เป็นเคร่ืองมือทีใ่ ช้ในงานวิจยั ในทกุ ๆ สาขาวชิ า ดงั นั้นโครงงานคอมพิวเตอรจ์ ึงมี
ความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทง้ั ในลักษณะของเนื้อหา กจิ กรรม และลกั ษณะของประโยชน์หรอื ผลงานท่ไี ด้
ซ่งึ อาจแบ่งเปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คอื
1. โครงงานพัฒนาส่อื เพื่อการศกึ ษา (Educational Media)
2. โครงงานพัฒนาเคร่ืองมอื (Tools Development)
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
1. โครงงานพัฒนาสอื่ เพ่ือการศกึ ษา
เป็นโครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพ่ือการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือ
หนว่ ยการเรียน ซ่ึงอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียน
แบบรายบคุ คลหรอื รายกลมุ่
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาข้ึนเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขา
คอมพิวเตอร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อ
ท่ีนักเรียนทั่วไปท่ีทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรม
สอนวิธกี ารใช้งาน ระบบสรุ ยิ ะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวชิ าต่าง ๆ
2.โครงงานพฒั นาเครื่องมือ
เปน็ โครงงานเพือ่ พัฒนาเครื่องมอื มาใช้ชว่ ยสร้างงานประยกุ ตต์ ่าง ๆ ซึ่งโดยสว่ นใหญ่จะเปน็ ในรูป
ซอฟตแ์ วร์ ตวั อยา่ งของเคร่อื งมอื ช่วยงาน เช่น ซอฟตแ์ วรว์ าดรปู ซอฟตแ์ วร์พมิ พง์ าน ซอฟต์แวรช์ ว่ ยการ
มองวตั ถใุ นมุมต่าง ๆ เปน็ ต้น สาหรบั ซอฟตแ์ วร์เพื่อการพิมพง์ านนั้นสร้างขนึ้ เป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา
ซึง่ จะเปน็ เครอ่ื งมือให้เราใชง้ านในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเคร่อื งคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซง่ึ รปู ทีไ่ ด้
สามารถนาไปใชง้ านต่าง ๆ ไดม้ ากมาย สาหรับซอฟตแ์ วรช์ ่วยในการมองวัตถุในมุมตา่ ง ๆ ใชส้ าหรับช่วยใน
การออกแบบส่ิงของตา่ ง ๆ เชน่ โปรแกรมประเภท 3D
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี
เปน็ โครงงานใชค้ อมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาตา่ ง ๆ เป็นโครงงานท่ีผู้ทาต้องศึกษา
รวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซ้ึงในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอ
เป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซ่ึงอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้ พร้อมท้ังนาเสนอ
วิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ
เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเร่ืองพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า
ทฤษฎีการแบ่งแยกดเี อ็นเอ เป็นต้น
4. โครงงานประเภทการประยกุ ต์ใชง้ าน(Application)
เป็นโครงงานท่ีใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพ่ือประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น
ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุ
คนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซ่ึง
อาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะน้ี
จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนา
สง่ิ ของนั้น ๆ ตอ่ จากนน้ั ตอ้ งมกี ารทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของส่ิงประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแกไ้ ขให้
มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เก่ียวกับเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และ
เคร่ืองมือต่าง ๆ ท่เี กย่ี วขอ้ ง รวมท้งั อาจใชว้ ิธีทางวศิ วกรรมฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟตแ์ วร์ในการพัฒนาด้วย
5. โครงงานพัฒนาเกม
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกม
หมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาข้ึนน้ีน่าจะเนน้ ให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพ่ือฝึก
คิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทน้ีจะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้
เล่น พร้อมท้ังให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับเกมต่าง
ๆ ท่มี อี ยูท่ ่ัวไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาข้ึนใหม่เพ่ือให้ป็นเกมท่ีแปลกใหม่ และน่าสนใจแกผ่ ู้เล่นกลุ่มต่าง
ๆ