กฎจราจรเบื้องต้น
และมารยาทการขับขี่ในชีวิตประจําวัน
ผู้จัดทำ
นางสาวพิมพ์พลอย วงสมัย
ก
คำนำ
รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาภาษาเพื่อการ
สื่อสารและเทคโนโลยีดิจิทัลมีจุประสงค์เพื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยว
กับการสื่อสารทางเทคโนโลยีทางสังคมศาสตร์เพื่อเป็นแนวทาง
การศึกษา การเรียนรู้และศึกษาอย่างเข้าใจในการเรียน ทั้งนี้ใน
รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาสาระที่สำคัญในเรื่องกฎหมายจราจร
โอกาสนี้ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานเล่มนี้จะให้
ประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ที่สนใจ จะศึกษา เป็นอย่างมาก ถ้าหาก ผิด
พลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะนำไปปรับปรุงใน
โอกาสต่อไป
พิมพ์พลอย วงสมัย
สารบัญ ข
เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทนำ 1
กฎจราจรเบื้องต้น และ มารยาท
การขับขี่ในชีวิตประจําวัน 2
ข้อคิด 16
ป้ายจราจรน่ารู้ 17
อ้างอิง 23
ประวัติผู้จัดทำ 24
1
กฎจราจรเบื้องต้น
และ มารยาทการขับขี่ในชีวิตประจําวัน
อุบัติเหตุส่วนมากที่เกิดขึ้นบนท้องถนนล้วนมี
สาเหตุมาจากผู้ขับขี่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ไม่
ปฏิบัติตามกฎจราจร รวมถึงละเลยหรืออาจเป็น
เพราะความเคยชินที่ทำจนเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น
เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนมีความปลอดภัย เรา
จึงได้รวบรวม กฎจราจรเบื้องต้น ที่ควรรู้ในชีวิต
ประจําวัน และมารยาทในการขับขี่ต่าง ๆ ที่หลาย
คนอาจมองข้าม และเผลอทำผิดจนก่อให้เกิด
อุบัติเหตุมาแนะนำกัน ดังนี้
2
1. คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
ก่อนจะสตาร์ตรถทุกครั้งอย่างแรกที่ควรปฏิบัติคือการคาด
เข็มขัดนิรภัย เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุหรือสิ่งที่ไม่คาดติดขึ้น
มาขณะขับขี่ การคาดเข็มขัดนิรภัยจะเป็นตัวคอยเซฟและ
ช่วยบรรเทาจากหนักให้เป็นเบาได้ รวมถึงพระราชบัญญัติ
จราจรทางบกระบุไว้ว่า ผู้ขับรถรวมทั้งผู้โดยสารจะต้องรัด
เข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับรถตลอดเวลา หากฝ่าฝืน
จะถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษปรับคนขับ 500 บาท
และผู้โดยสารอีก 500 บาท
3
2. ทางม้าลายต้องหยุดให้คนข้าม
เมื่อเราขับรถบนท้องถนน หากเห็นคนกำลังรอข้ามถนน
บริเวณทางม้าลาย ตามกฎหมายนั้นผู้ใช้รถจะต้องหยุดให้คน
ข้ามทางม้าลายก่อน โดยเมื่อเห็นทางม้าลายควรต้องชะลอ
ความเร็ว ไม่ควรเร่งความเร็ว และห้ามแซงในระยะ 30 เมตร
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 46
และ มาตรา 70 และหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ซึ่งหากไม่
หยุดรถจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.
2522 มาตรา 21 มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท
4
3. ห้ามจอดรถทับทางม้าลาย
ทางม้าลาย เป็นสัญลักษณ์หรือเส้นทางที่มีไว้เพื่อให้คนเดิน
ข้ามถนน ผู้ใช้รถจะหยุดรถทับทางม้าลายไม่ได้ ถือว่ามี
ความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
ควบคุมผู้ขับขี่รถยนต์และจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการ
ใช้ทางข้าม ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่จอดรถในทางข้ามหรือ
ในระยะ 3 เมตร จากทางข้าม (มาตรา 57) ผู้ฝ่าฝืนมีโทษ
ปรับ 500 บาท
5
4.สำเนาภาพคู่มือจดทะเบียนรถ
ควรมีติดรถไว้
ผู้ขับขี่ควรจะต้องพกหรือมีเล่มทะเบียนรถหรือสำเนา
เล่มทะเบียนติดรถไว้ เพราะตามกฎหมายผู้ขับรถต้อง
พบใบอนุญาตขับรถหรือใบขับขี่ และสำเนาคู่มือจด
ทะเบียนรถ ในขณะขับขี่ และสามารถแสดงต่อเจ้า
หน้าที่เมื่อมีการเรียกตรวจดู หากไม่พกจะมีความผิด
ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยมีโทษ
ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
6
5. ใบอนุญาตขับขี่ต้องมีติดตัว
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการขับรถ ควรต้องพกใบขับขี่ไว้กับตัว
ตลอดเวลา เพราะถือว่าเป็นเอกสารทางราชการที่ใช้ยืนยันตัวตนว่า
บุคคลนี้มีความสามารถรวมถึงความรู้ในการขับขี่ยานพาหนะแต่ละ
ประเภท และเมื่อขับขี่ยานพาหนะไปบนท้องถนน จำเป็นต้องพกใบ
ขับขี่ตัวจริงติดตัวไปด้วยทุกครั้ง โดยถ้าหากขับรถแล้วไม่มีใบขับขี่
จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 64
ความว่า ผู้ใดขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษจำ
คุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ในปัจจุบันสามารถใช้ใบขับขี่รถยนต์อิเล็กทรอนิกส์ แสดงแทนใบ
ขับขี่ตัวจริง ให้แก่เจ้าหน้าที่เมื่อถูกขอดูและตรวจสอบแทนได้
7
6. เลี้ยวรถต้องเปิดสัญญาณไฟ
เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา
ผู้ใช้รถขณะที่จะเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางจราจร
จะต้องเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวก่อนทุกครั้ง ซึ่งตาม
กฎหมายกำหนดว่าควรเปิดก่อนเลี้ยว 30 เมตร
และให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร
เพื่อให้รถคันหลังที่ตามมาได้รู้ ไม่ควรเลี้ยวหรือ
เปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน เพราะอาจทำให้เกิด
อุบัติเหตุขึ้นมาได้
8
7. ขับรถในความเร็วที่กฎหมายกำหนด
ผู้ใช้รถบนถนนจะต้องขับรถตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยความเร็วการ
ใช้รถยนต์ของประเทศไทยยึดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก และ
พระราชบัญญัติจราจรทางหลวง โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ถ้าขับรถบนถนนในกรุงเทพมหานคร, เมืองพัทยา และเทศบาลทุก
จังหวัด จะสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.
ถ้าขับรถอยู่บนทางหลวงระหว่างจังหวัดจะสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้
ไม่เกิน 90 กม./ชม.
ส่วนบนทางมอเตอร์เวย์ และวงแหวนกาญจนาภิเษก จะใช้ความเร็ว
สูงสุดได้ไม่เกิน 120 กม./ชม.
โดยถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎ นอกจากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงเกิด
อุบัติเหตุแล้ว ยังจะโดนโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท
9
8. ไม่จอดในที่ห้ามจอด
ทุกวันนี้ในขณะที่เราขับรถอยู่บนท้องถนนนั้น สิ่งที่เราจะ
เห็นได้บ่อยอย่างหนึ่งคือ มักจะมีรถจอดอยู่ในบริเวณที่
ห้ามจอด เช่น บริเวณทางร่วมทางแยก, จอดรถด้านขวา
ของทางเดินรถ, จอดรถบนทางเท้า หรือจอดรถกีดขวาง
การจราจร เป็นต้น ซึ่งการจอดในลักษณะแบบนี้ถือว่า
เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่ใช้
ถนนร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีความผิดตามพระราช
บัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 57 โดยจะมี
โทษปรับไม่เกิน 500 บาท อีกด้วย
9. แซงเส้นทึบ 10
ขณะขับขี่อยู่บนท้องถนนเราจะเห็นเส้นปะและเส้นทึบที่แบ่ง
ช่องจราจร โดยถ้าเป็นเส้นปะ เราจะสามารถปรับเปลี่ยนเส้น
ทางจราจรเพื่อทำการแซงรถได้ แต่ก็ควรใช้ความระมัดระวัง
แต่ถ้าจะแซงบริเวณเส้นทึบ ซึ่งจะเห็นและพบได้บ่อยแทบจะ
เกิดขึ้นทุกที่บนท้องถนน โดยการทำลักษณะเช่นนี้นอกจาก
จะเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อรถเพื่อนร่วมทางที่ขับสวนทางมา
ยังถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทาง
บก พ.ศ. 2522 โดยได้ระบุโทษในข้อหาแซงในเส้นทึบ โดยมี
อัตราโทษปรับไม่เกิน 400-1,000 บาท ทางที่ดีควรหลีก
เลี่ยงในการขับขี่เร่งแซงในเส้นทึบเพื่อความปลอดภัย
11
10. ให้รถในวงเวียนไปก่อน
เมื่อเราขับรถมาถึงบริเวณที่เป็นวงเวียน อย่างแรกควรที่จะชะลอ
ความเร็วของรถลง และตามมารยาทควรให้รถที่อยู่ในวงเวียนด้านขวา
ขับผ่านไปก่อน ซึ่งถ้าว่ากันตามกฎหมายแล้วก็มีข้อบังคับถูกกำหนด
ไว้ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 70 และ
มาตรา 71 เมื่อผู้ขับขี่ซึ่งขับรถเข้าใกล้ทางร่วมทางแยก ทางข้าม เส้น
ให้รถหยุด หรือวงเวียน ต้องลดความเร็วของรถ รวมทั้งถ้ามีรถอื่นอยู่
ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถในทางร่วมทางแยกนั้นผ่านไป
ก่อน ซึ่งถ้าฝ่าฝืนมีความผิดและมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
12
11. เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
การขับรถในทุกวันนี้หลายคนอาจจะเคยชินและละเลยกฎ
จราจร อย่างเช่นการขับรถเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เมื่อผู้
ขับขี่พบเครื่องหมาย "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" ควรหยุดรอ
ให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไป
ก่อน แล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป แต่ถ้าไม่มีป้ายติดไว้แล้ว
เลี้ยวผ่านไปจะถือว่าผิดกฎจราจร เพราะการเลี้ยวทาง
แยกต่าง ๆ ต้องรอสัญญาณไฟเขียวเท่านั้นถึงจะเลี้ยว
ซ้ายได้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ตามพระ
ราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
13
12. ฝ่าไฟเหลือง
การฝ่าไฟสัญญาณจราจร โดยเฉพาะไฟเหลือง เป็น
เหตุการณ์ที่พบได้บ่อยบนท้องถนน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย
และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงได้ จากตัวบทกฎหมาย
หากผู้ขับขี่เห็นสัญญาณไฟเหลือง ควรแตะเบรกเตรียม
หยุดรถ แต่หากเป็นลักษณะคาบเกี่ยวรถเลยเส้นให้หยุดไป
แล้ว และสัญญาณไฟเหลืองเพิ่งแสดงขึ้นมา ก็ให้เลยไปได้
อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าไฟเหลือง
เหยียบคันเร่งเมื่อเห็นไฟสัญญาณ ก็จะเป็นดุลยพินิจของ
เจ้าพนักงานว่าจะต้องรับโทษปรับตามกฎหมายหรือไม่
โดยโทษของการฝ่าไฟเหลืองจะผิดตามพระราชบัญญัติ
จราจรทางบก มาตรา 22 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
14
13. ไม่ขับรถยนต์แช่ขวา
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะพบบ่อยมากบนท้องถนน ก็
คือการขับรถแช่ช่องจราจรด้านขวา ซึ่งถือเป็นการ
กระทำความผิดในข้อหาขับรถกีดขวางจราจร เพราะ
ไม่ว่าคุณจะขับรถเร็วหรือช้าอย่างไรก็ไม่ควรขับรถใน
ช่องทางขวา เพราะเลนขวามีไว้สำหรับแซงเท่านั้น
หากมีรถที่ขับเร็วกว่าต้องหลบให้แซงขึ้นไป โดยผู้ที่ขับ
แช่เลนขวาจะโดนปรับไม่เกิน 1,000 บาท
15
14. ไฟตัดหมอกเปิดใช้เมื่อจำเป็น
ไฟตัดหมอกจะสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะ
เปิดอย่างพร่ำเพรื่อได้ โดยกฎหมายระบุไว้ชัดเจนตาม
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 11 ว่า
ไฟตัดหมอกสามารถใช้ได้ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาพอากาศ
ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น หมอก ควัน ฝุ่นละออง ฝนตกหนัก
รวมถึงมีสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการเดินทาง นอกเหนือจาก
นี้หากเปิดใช้โดยเจ้าหน้าที่พบเห็นอาจมีความผิด โดย
ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
16
ข้อคิด
ทั้งหมดนี้เป็นกฎจราจรเบื้องต้นบางส่วนจากข้อกฎหมาย
ทั้งหมดที่ควรรู้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันบนท้องถนน
รวมถึงมารยาทในการขับขี่ต่าง ๆ โดยถ้าผู้ใช้รถทุกคน
ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิด
อุบัติเหตุได้ และที่สำคัญยังจะช่วยประหยัดเงินจากการ
เสียค่าปรับในการขับรถผิดกฎจราจรได้อีกด้วย
ป้ายจราจรน่ารู้
18
ป้ายบังคับหยุด
ป้ายพื้นที่
สำหรับจักรยาน
19
ป้ายรถไฟ
ป้ายบังคับ
ห้ามเลี้ยวขวา
20
ที่จอดเฮลิคอปเตอร์
พื้นที่สำหรับจักรยาน
และ คนเดิน
21
ป้ายวงเวียน
ป้ายห้ามจอด
22
ป้ายระวงถนนลื่น
ป้ายเตือนทางคดเคี้ยว
23
อ้างอิง
kapook. (2565).กฎจราจรเบื้องต้น และมารยาท
การขับขี่ในชีวิตประจําวัน(ออนไลน์). สืบค้นจาก
https://car.kapook.com/view2
52936.html
ประวัติผู้จัดทำ 24
นางสาวพิมพ์พลอย วงสมัย
รหัสนักศึกษา 64054000312
หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต
สาขา สังคมศึกษา
คณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
THANK YOU