เ สื้ อ ผ้ า มื อ 2
( วิ น เ ท จ )
สารบัญ เ สื้ อ ผ้ า มื อ 2 วิ น เ ท จ
หน้า
คำนำ
สารบัญ
ความเป็นมาของเสื้อ
- เอกลักษณ์ของเสื้อผ้าวินเทจ
- จุดกำเนิดเสื้อผ้าวินเทจ
เสื้อผ้าวินเทจเเต่ละประเภท
- เสื้อฮาวาย
- เสื้อวง
- เสื้อเเขนยาวคอกลม
- เสื้อวินเทจยุค 90
สารบัญ เ สื้ อ ผ้ า มื อ 2 วิ น เ ท จ
หน้า
การดูเเสื้อมือ 2
- การซักเสื้อผ้าวินเทจ
วิธีดูเสื้อวินเทจ
ยุค 70’S
ยุค 80’S
ยุค 90’S
คำนำ 1
เสื้อผ้าวินเทจ โครงงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา
โครงงาน จุดประสงค์เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากการ
ศึกษาเรื่องราวเสื้อผ้าวิจเทจ ซึ่งโครงงานเรื่องนี้มีเนื้อหา
เกี่ยวกับสิ่งของโบราณ เสื้อผ้าเเละเครื่องเเต่งกาย ความ
เป็นเอกลักษณ์ทำให้นึกถึงการเก็บของเก่าให้ผ่านช่วระยะ
เวลาระยะหนึ่ง พอคุณหยิบออกมาใช้อีกที คุณจะได้รับถึง
ความรู้สึกที่คลาสสิค ไม่เหมือนใคร มีเสน่ห์ ไม่ซ้ำใคร ใน
แบบฉบับของตัวคุณเอง แสดงถึงความเป็นตัวตนของ
คุณ
ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อในการทำโครงงานเรื่องนี้เนื่อง
มาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทำให้นึกถึงเรื่องราวของสมัย
ก่อน เสน่ห์ของเสื้อผ้ายุควินเทจคือ มีชิ้นเดียว ตัวเดียว มี
ความทรงจำ มีประวัติ มีเรื่องราวมากมาย ทำให้รู้สึกถึง
ความหลังวันวาน อบอุ่น มีการตัดเย็บที่ปราณีต ผู้จัดทำ
จะต้องขอขอบคุณ อาจารย์ฮูมัยดี้ เบญจสมิท เเละ
อาจารย์วารีส ยีซัน ผู้ให้ความรู้เเละเเนวทางการศึกษา ผู้
จัดทำหวังว่าโครงงานเรื่องนี้จะให้ความรู้เเละเป็นปรโชน์
เเก้ผู้อ่านทุกๆท่าน
นาย อนุชา ฐิตะปุระ
ผู้จัดทำ
2
เอกลักษณ์ของเสื้อยืด
เเนววินเทจ
เอกลักษณ์ของเสื้อยืดเเนววินเทจ
เสื้อผ้าวินเทจโดยเฉพาะเสื้อยืดแนววินเทจกลายเป็น
แฟชั่นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่เสื้อผ้าวิน
เทจคืออะไรและอะไรทำให้พวกเขาพิเศษและเป็นที่นิยม?
เสื้อผ้าสไตล์วินเทจเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อ
อ้างถึงการออกแบบใดๆ ที่ชวนให้นึกถึงอดีต เสื้อยืดวิน
เทจมีความพิเศษเนื่องจากช่วยส่งต่อความคิดถึงและ
สนับสนุนแนวคิดของเสื้อยืดในฐานะกลไกการเล่าเรื่อง
โดยปกติจะเป็นธีมย้อนยุคหรือมาจากยุคเก่าที่โรแมนติก
ตั้งแต่ยุค 80, 70, 60 และยุค 50 ซึ่งแฟชั่นทำหน้าที่เป็น
เส้นทางแห่งความทรงจำและเตือนความทรงจำของตัว
เรา
ยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบเสื้อยืดวินเทจยังใช้สีที่
โดดเด่นตัวอักษรที่สร้างแรงบันดาลใจ รูปภาพ รูป
ร่างและองค์ประกอบอื่นๆ ที่ดึงดูดผู้ชมและถ่ายทอด
ข้อความแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ แฟชั่น ดีไซน์
และสีแนววิทนเทจนั้นมีให้เลือกมากมายแลบทความ
นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเสื้อยืดสไตล์วิน
เทจมากขึ้น
แม่สี
เสื้อยืดสไตล์วินเทจมักจะเป็นสีโทนอบอุ่น ส่วนใหญ่
ผู้คนคาดหวังที่จะเห็นเสื้อยืดแนวนี้เป็นสีครีมมากกว่าสี
ขาว และ สีเทาหม่นๆ มากกว่าสีดำ ซึ่งแม่สีสำหรับพิมพ์
เสื้อนั้นก็ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าใดนัก
นอกจากนี้เสื้อยืดสีวินเทจยังพิมพ์ด้วยแม่สีที่มี
สีสันสดใสน้อยกว่าแล้ว หากคุณต้องการใช้สีหลัก
ารสามารถใช้ได้ทุกสีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสีแดง
สีเหลือง และสีฟ้าเหมือนเสื้อยืดรุ่นเก่าๆ นั่นเอง
รูปแบบของเสื้อยืด
เสื้อยืดแบบ ringer ปรากฏเป็นประจำในฉากของเสื้อ
ยืดย้อนยุคและเสื้อยืด Adidas ดั้งเดิมย้อนยุคสุดคลาส
สิกในฤดูใบไม้ผลิ เสื้อผ้าสไตล์วินเทจมีให้เลือก
มากมายทั้งแบบเสื้อครอป เสื้อยืดคอวีจากเสื้อยืดรูป
ตัววีคุณสามารถเลือกได้ตามสไตล์และรูปแบบ
มากมายตามที่คุณต้องการ
การออกแบบตัวอักษร
การออกแบบตัวอักษรมีส่วนสำคัญในการสร้างเสื้อ
ยืดสไตล์วินเทจ หากคุณไม่ใส่ใจกับแบบอักษรที่คุณใช้
เสื้อยืดแนววินเทจในธีมยุค 50 ของคุณสามารถมอง
จากยุค 50 ไปสู่อนาคตได้ ตัวอย่างเช่น เสื้อยืดดีไซน์หัว
กะโหลก
นี่คือการออกแบบสไตล์วินเทจที่ใช้บ่อยโดยมีองค์
ประกอบตามปกติ เช่น กะโหลก ไม้กางเขน และมงกุฎ ใน
ตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่ารูปแบบตัวอักษรคลาสสิกช่วย
เพิ่มความมหัศจรรย์ของอดีต เราขอแนะนำให้คุณ
วิเคราะห์และเลือกอย่างรอบคอบสำหรับตัวอักษรที่คุณ
จะใช้ในการออกแบบเสื้อยืดแนววินเทจที่สร้างแรง
บันดาลใจให้กับคุณ
แรงบันดาลใจ
เพื่อแสดงให้คุณเห็นรูปลักษณ์ที่เป็นไปได้ทั้งหมดของ
เสื้อยืดวินเทจ เราได้รวบรวมแบบบางส่วนที่อาจใช้เป็น
แรงบันดาลใจในการออกแบบของคุณเอง นี่เป็นเพียง
ตัวอย่างบางส่วนและยังมีแรงบันดาลใจอีกมากมายที่
คุณสามารถมองหาได้
แหล่งที่มา
https://blog.printsome.com/vintage-t-shirts-look/
https://www.designhill.com/design-blog/vintage-t-shirt-design-
inspirations/
https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/how-to-buy-
vintage-online-shop-clothing-accessories-813632/
จุดกำเนิดเสื้อ
จุดกำเนิดเสื้อ
ประวัติและที่มาของเสื้อมือสองนั้นได้รับความ
นิยมมาอย่างยาวนาน และมีประวัติและความทรง
จำมากมายที่หลายๆคนคงยังไม่รู้และหลายๆคนคง
สงสัยว่า พวกเสื้อมือสองเหล่านี้มาจากไหนและมี
ที่มาที่ไปอย่างไร
1/หลายสิบปีที่ผ่านมา เสื้อผ้ามือสองพวกนี้ก็มาจาก
ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นส่วนใหญ่เพราะสาเหตุเกิด
มาจากสงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชา
ระหว่างฝ่ายเขมรสามฝ่ายบวกกับกองกำลัง จาก
สหรัฐอเมริกาที่สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในช่าวงเวลา
นั้น และได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อที่จะยุติ
สงครามกลางเมืองที่เกิดขั้นในช่วงปี 2518-2521
และในช่วงนั้นก็มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนกัมพูชาที่ถูก
ฆ่าเป็นล้านๆคน หรือที่เรียก
เหตุการณ์นี้ว่า “Killing Field”(คิลลิ่ง ฟิลด์) ซึ่งเกิด
ขึ้นที่เมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือได้
ว่าเป็นโศกนาถกรรมที่ช๊อคโลกเป็นอย่างมาก และนับ
ได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนจะโหดร้ายและโศกเศร้าของ
ชาวกัมพูชาและคนทั้งโลกก็ว่าได้
ภาพจากเหตุการณ์ Killing Field ในกัมพูชา 2518-2521
และภายหลังเหตุการณ์ก็มีภาพที่ออกมาให้คนทั้ง
โลกได้เห็นก็คือ ชาวกัมพูชามีความลำบากยากแค้น
ไม่มีเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องนุ่งห่มและต้องอพยพหนี
ภัยสงคราม จึงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าของเหล่านั้นมา
จากไหน…..
ก็มาจากคนทั้งโลกที่ส่งข้าวของและเครื่องใช้
อุปโภคบริโภค เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวกัมพูชา ซึ่ง
เสื้อผ้าที่ส่งมานั้นก็จะมาจากประเทศฝั่งตะวันตกและ
ประเทศฝั่งตะวันออก แต่พูดถึงเรื่องสรีระที่แตกต่าง
กันมากระหว่างคนเอเชียกับคนยุโรป ซึ่งสิ่งของที่เก็บ
ไว้ใช้ได้ ประชาชนก็จะเก็บเอาไว้ใช้แต่สิ่งที่ใหญ่โตเกิน
ไป จึงได้นำมาขายเพื่อนำเงินไปใช้ในสิ่งที่จำเป็น และ
นี่คือการเริ่มต้นของเสื้อผ้ามือสองระหว่างชายแดน
ไทย-กัมพูชา และต่อมาจนเวลาผ่านไปหลายสิบปี
เสื้อผ้ามือสองพวกนี้ไม่ใช่ของบริจากอีกต่อไปแล้ว
กระสอบเสื้อยืด
ต่อมาจนเวลาผ่านไปหลายสิบปีเสื้อผ้ามือสอง
พวกนี้ไม่ใช่ของบริจากอีกต่อไปแล้ว เพราะพ่อค้านั้น
ก็ได้ติดต่อและหาเสื้อมือสองสภาพดีได้ โดยสิ้นค้ามา
จากสองทางด้วยกันคือ เสื้อผ้ามือสองจากฝั่งยุโรป-
อเมริกาและตะวันออกกลาง และเสื้อผ้ามือสองฝั่ง
เอเชียก็จะมาจากญี่ปุ่น-เกาหลีและจีน เป็นส่วนใหญ่
และถ้าพูดถึงเรื่องของเสื้อวงดนตรีมือสองนั้น ก็มี
วัฒนธรรมการใส่เสื้อวงดนตรีมาอย่างยาวนาน คาด
กันว่าตั้งแต่ปลายยุค 50s โดยบรรดาเหล่าแฟนคลับ
ของ Elvis Presley (เอลวิส เพรสลีย์) ซึ่งแฟนคลับ
ทำเสื้อขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ของศิลปิน
คนโปรด แต่ในช่วงยุค 70s ถือได้ว่าเป็นยุคของเสื้อ
วงดนตรี
Elvis Presley Fan Club T-Shirt
โดยทางวงดนตรีก็ได้เริ่มผลิตเสื้อออกมาจำหน่าย
เช่น Grateful Dead Pink Floyd Ramones Sex
Pistols The Beatles Rolling Stones และต่อ
เนื่องมาจนถึงยุค 80s และได้ก้าวเข้าสู่ยุคอัลเท
อร์เนทีฟครองโลกในยุค 90s และเรามีโอกาสได้
เห็นเสื้อวงดนตรีมากมาย ที่คนไทยพอจะคุ้นเคย
กันเช่น Nirvana Gun N’ Roses Radiohead
Kiss Metallica และวงอื่นๆอีกมากมาย
เสื้อผ้าวินเทจเเต่ละประเภท
วินเทจ (Vintage) ตามรากศัพท์เดิมหมายถึงการ
หมักไวน์ และยังหมายถึงอะไรที่เน้นคุณภาพสูงด้วย
ถ้าเป็นเสื้อผ้าก็จะดูที่ลายผ้า แบบ และการตัดเย็บ
วินเทจจึงเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นของเก่า สามารถย้อน
ไปถึงยุคซินเดอเรลล่าใส่กระโปรงบาน ยุควิคตอเรีย
นที่เน้นลายดอกกุหลาบ ผ้าลูกไม้ วินเทจจึงเป็นกระ
แสแฟชั่นที่ย้อนยุคของการออกแบบในทุกแขนงไม่
ว่าเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ก็ได้
ขอให้มีลักษณะที่ดูเก่าก็ใช้ได้
แฟชั่นสไตล์วินเทจ
ถ้าจะกล่าวถึง แฟชั่นสไตล์วินเทจ อาจเริ่มในช่วงปี
1900 จะเป็นเสื้อผ้าแนววิคตอเรียน ที่มีจุดเด่นที่เสื้อ
แขนพองเย็บจีบต้นแขน คอตั้ง ในช่วงปี 1930 ก็จะ
นิยมสวมใส่กางเกงขาบานเอวสูง เดรสลายแขนสาม
ส่วน มาในช่วงปี 1940 ซึ่งเป็นยุคสงครามโลก นิยมใส่
เสื้อเจ็กเก็ทตัวสั้น
ชุดว่ายน้ำ 2 ชิ้นเอวสูง เสื้อแขนยาวผูกโบว์ ต่อด้วย
ช่วงปี 1950 เป็นช่วงที่ชุดเดรสคล้องคอกระโปรงบาน
เป็นที่นิยม เราจะคุ้นเคยกับที่ดาราสาวนามว่า มาลิ
ลิน มอนโร สวมใส่ชุดสีขาวแล้วลมพัดกระโปรงพลิ้ว
คงพอจะนึกออกกันนะคะ ในช่วงปี 1960-1970 นิยม
ทำทรงผมพองฟูสวมแว่นตาทรงโต รวมทั้งการแต่ง
กายแบบยิปซี เสื้อผ้าลายหลวมๆ กางเกงขาม้าหรือ
ขาบานก็เป็นที่นิยม
การแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ
ส่วนการแต่งบ้านนั้น เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจนั้น
เน้นความละเอียดของการแกะสลักหรือรูปปั้น รูป
ทรงตึกแหลมๆ สูง เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจนั้นมี
เอกลักษณ์ที่โด่ดเด่นด้วยการแกะสลักที่ตัวไม้ จะพบ
ได้ในเกือบทุกส่วนของเฟอร์นิเจอร์ เช่น หัวเตียง ขา
โต๊ะขอบเตียง ที่วางแขน โทนสีที่ใช้จะเป็นสีไม้ย้อม
เข้มและขัดเงา สีทองสีเบจ สีแดง สีน้ำเงิน ผ้าบุ
เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้มักมีการปักดิ้นทองด้วยมือหรือเดิน
ลายดอกไม้ที่สีจัดและเด่น หรือประดับลวดลายดวย
เส้นสายของศิลปะยุโรป
ซึ่งเฟอร์นิเจอร์แบบนี้มักใช้ในกลุ่มคนที่มีฐานะ บ่ง
บอกถึงยศศักดิ์ เงินทอง ซึ่งเป็นสไตล์ที่หลายคนนิยม
และมักใช้คำว่า “สไตล์หลุยส์” แต่เมื่อยุคสมัยหลังๆ
ความหวือหวา ความอลังการได้ถูกลดทอนลงอย่าง
มาก การแกะสลักก็ลดน้อยลงหรืออาจจะไม่มีเลย
ก็ได้ จึงหันมาทำผ้าสำหรับคลุมโซฟาแทนนิยมลาย
ดอกกุหลาบและดอกไม้นานาชนิด ส่วนผ้าที่ใช้บุโซฟา
ก็เป็นลายดอกไม้หวานๆ สีอ่อนๆ แทน การตกแต่ง
ผนังกำแพงก็ยังคงตกแต่งด้วยบัวและคิ้วเหมือนเช่น
เดิม แต่ลดน้อยลงรวมถึงลวดลายถึงแม้จะยังคงเป็น
ศิลปะยุโรปเช่นเดิม แต่เส้นสายจะถูกทอนลงให้เหลือ
น้อยลง ง่านต่อการแกะสลักและไม่ดูยุ่งยากจนเกิดน
ไป ส่วนการแต่งผนังด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายก็จะ
เน้นธรรมชาติ ลายขนาดเล็ก เช่น ลายดอกไม้พันกัน
หรืออาจแต่งผนังกำแพงด้วยจานเซรามิคเพ้นท์ลาย
วิวทิวทัศน์ อาคารบ้านเรือนในยุคสมัยนั้น สีที่ใช้ก็จะ
เป็นสีโทนอ่อนหรือสีพลาสเทล เช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน สี
เขียวอ่อน สีเหลือง เป็นต้น ทำให้ดูสบายตามาก
ขึ้นและค่าใช้จ่ายไม่สูงด้วยคะ หน้าต่างและบาน
ประตูเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างภายในกับภายนอก
นิยมใส่เหล็กดัดลายเถาวัลย์ (Wrought Iron) ซึ่งมี
ต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี
อาจจะกล่าวได้ว่าวินเทจก็คือสิ่งต่างๆ ที่เป็นของ
เก่า เป็นของย้อนยุค ที่มีจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ มนต์
เสน่ห์ของศิลปะในสมัยก่อนดึงดูดให้คนในยุคปัจจุบัน
หันกลับไปหามัน หันกลับไปชื่นชอบความสวยงามของ
วันวาน แล้วนำมันกลับมาใช้ในยุคสมัยปัจจุบัน ไม่ว่า
จะเป็นแฟชั่น การแต่งตัว การแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์
รูปแบบบ้าน ซึ่งอาจจะนำมาประยุกต์เพื่อให้มีกลิ่นไอ
ของวินเทจอยู่บ้างก็แล้วแต่ความชื่นชอบคะ ของเก่า
ของพ้นยุคใครว่าล้าสมัย ใครว่าเชย คงไม่ใช่อย่างที่
คิดแล้วนะคะ รสนิยมคือความชื่นชอบที่ต่างกัน ไม่มี
ใครผิดที่ชอบไม่เหมือนคนอื่น
เสื้อฮาวาย
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลายคนคงจะสังเกตเห็น
เหมือนกันว่า ทุกคนเริ่มหันมาใส่เสื้อฮาวาย อันที่จริง
แล้วเสื้อฮาวายวนเวียนอยู่คู่กับ scene แฟชั่นบ้าน
เรามานานหลายสิบปี เพียงแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นี้ เสื้อฮาวายได้กลายเป็นอีกหนึ่ง basic piece ที่ทุก
คนมีติดตู้เสื้อผ้า และสามารถนำมาสวมใส่ได้ในชีวิต
ประจำวันปกติ
เสื้อฮาวายมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในช่วงปี 1930 แต่
เป็นปี 1935 ที่เสื้อฮาวายเริ่มมีการผลิตและจัด
จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นจาก Mr.
Kiochiro Miyamoto เจ้าของห้องเสื้อ Musa-
Shiya the Shirtmaker เริ่มตัดเย็บเสื้อฮาวายใน
แบบ tailor made เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวบนเกาะ
ฮาวาย โดยได้พิมพ์ลายและตัดเย็บด้วยผ้ากิโมโน
สีสันสดใสตามแบบฉบับของญี่ปุ่น แต่มีคัตติ้งที่สวม
ใส่สบายแบบชาวตะวันตก กระนั้นความต้องการของ
ตลาดก็มีไม่เพียงพอ
เสื้อฮาวายมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในช่วงปี 1930 แต่
เป็นปี 1935 ที่เสื้อฮาวายเริ่มมีการผลิตและจัด
จำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นจาก Mr.
Kiochiro Miyamoto เจ้าของห้องเสื้อ Musa-
Shiya the Shirtmaker เริ่มตัดเย็บเสื้อฮาวายใน
แบบ tailor made เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวบนเกาะ
ฮาวาย โดยได้พิมพ์ลายและตัดเย็บด้วยผ้ากิโมโน
สีสันสดใสตามแบบฉบับของญี่ปุ่น แต่มีคัตติ้งที่สวม
ใส่สบายแบบชาวตะวันตก กระนั้นความต้องการของ
ตลาดก็มีไม่เพียงพอ
จนกระทั่งในปี 1936 นักธุรกิจนาม Ellery Chun ได้
ร่วมกับบริษัท King-Smith Clothiers จดทะเบียน
การค้าเสื้อฮาวาย ภายใต้ชื่อ Aloha Shirt อย่างเป็น
ทางการ และถึงแม้ว่าจะมีผู้จำหน่ายรายย่อยอื่นๆ ใน
ตลาด แต่เสื้อฮาวายภายใต้แบรนด์ยี่ห้อ Aloha
Shirt ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่และขายดีที่สุดใน
ยุคนั้น
ในขณะที่เวลาผ่านไป เสื้อฮาวายก็ค่อยๆ ถูกปรับ
เปลี่ยนวิธีการผลิตและวัตถุดิบตามยุคตามสมัย จาก
ผ้ากิโมโนสู่ผ้าไหมไปจนถึงผ้าเรยอน จากกระดุมเงิน
สู่กระดุมเปลือกมะพร้าวมาจนถึงกระดุมหอยมุกใน
ปัจจุบันเสื้อฮาวายได้รับความนิยมที่เกาะฮาวายมาก
จนถึงขนาดในปี 1947 มีการประกาศให้ทุกวันศุกร์
เป็นวันรณรงค์ใส่เสื้อฮาวาย หรือที่เรียกกันว่า
Aloha Friday
เสื้อฮาวายได้ขยายความนิยมเข้าสู่อเมริกาอย่าง
เป็นทางการในปี 1953 เมื่อ Montgomery Clift
ปรากฏตัวพร้อมเสื้อฮาวายในภาพยนตร์เรื่อง From
Here To Eternity แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับในปี 1961 ที่
Elvis Presley ปรากฏตัวพร้อมกับเสื้อฮาวายและอูคู
เลเล่คู่ใจในภาพยตร์เรื่อง Blue Hawaii หลังจากนั้น
ไม่ว่าจะเป็น Frank Sinatra , Bing Crosby หรือ
แม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีอย่าง Dwight D.
Eisenhower และ Harry S. Truman ก็ต่าง
พร้อมใจกันใส่เสื้อฮาวายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ในช่วงปี 1960 นอกเหนือจาก Elvis Presley ใน
Blue Hawaii แล้ว เสื้อฮาวายก็ยังไปปรากฏอยู่ตาม
สื่ออื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์อย่าง Hawaii
Five-O, วง The Beach Boys ลามไปถึงช่วงช่วงปี
70 จากซีรีส์ Magnum หรือแม้กระทั่งกลุ่มชาวฮิปปี้
บางส่วนที่เลือกที่จะสวมใส่เสื้อฮาวาย
ในปัจจุบันคงไม่ต้องบอกถึงความนิยมของเสื้อ
ฮาวายว่ามีมากขนาดไหน โดยเฉพาะประเทศใน
แถบทวีปเอเชียอย่างเราที่มีอุณหภูมิและสภาพภูมิ
อากาศใกล้เคียงกับที่ฮาวาย กระทั่งว่าญี่ปุ่นได้
กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอิทธิพลต่อวงการเสื้อ
ฮาวาย ไม่ว่าจะในแง่ของความนิยมรวมไปถึง
หลายๆ แบรนด์ของญี่ปุ่นเลือกที่จะผลิตเสื้อฮาวาย
ออกมาจำหน่าย
เสื้อสไตล์สาวฮิปทั้งหลายที่ใส่แล้วไม่แก่ ไม่เหวอ
เพราะมีแต่ชิคกับชิค เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสไตล์ลายดอก
ลายฮาวาย ที่ไม่จำเป็นต้องไปทะเล หรือไม่จำเป็น
ต้องเป็นสงกรานต์เท่านั้นนะที่จะใส่ได้ เพราะตอนนี้
เหล่าสาวฮิปก็หันมาใส่กันกันเยอะมากช่วงนี้ ใส่แล้ว
สวย เลิศเว่อ แบบว่าเห็นสาว ๆ เหล่านี้ใส่แล้วอยาก
หามาใส่เลยทีเดียว หูยยยย ใครที่ใส่แล้วสวยบ้าง ไป
ดูกันเลย
มาเอาใจ สาว ๆ ที่ชอบแนวนี้กับไอเดียแฟชั่น "เสื้อ
ฮาวาย" สุดชิคที่ฮิตไม่หยุุดจริง ๆ กับแฟชั่นนี้เพราะ
ด้วยหลากสไตล์ของลายเสื้อและความวินเทจของ
แฟชั่นนี้ที่ทำให้สาว ๆ หลายคนอดใจไม่ไหวต้องหยิบ
มาใส่ และสำหรับใครที่ยังไม่เคยลองกับแฟชั่นนี้หล่ะ
ก็ถ้าดูไอเดียการแต่งตัวที่นำมาฝากแล้วหล่ะเชื่อว่า
ต้องลองไปหยิบมามิกซ์กับกางเกง ชิค ๆ ...
สาวๆ คงคุ้นหูกับคำว่าวินเทจ สักช่วงระยะเวลา
ใหญ่ๆ ที่ผ่านมากันแล้ว เนื่องจากแฟชั่นสไตล์นี้ได้
กลับมาฮิตและเป็นที่นิยมสำหรับสาวๆ อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการแต่งตัวสไตล์วินเทจก็คือการนำเอา
เสื้อผ้าย้อนยุคหรือเสื้อผ้าที่มีรูปแบบของลายผ้า เนื้อ
ผ้า หรือการตัดเย็บในสมัยก่อนมาใช้ในการแต่งตัวใน
ยุคนี้ ...
เสื้อวง
เสื้อวงปีเก่าและเสื้อวงปีใหม่นั้นมีอยู่มากมายหลาก
หลายทั้งในอดีตและปัจจุบันจนนับไม่ถ้วน และ หลา
คนอาจจะยังไม่เข้าใจระหว่างเสื้อปีเก่ากับเสื้อปีใหม่
ต่างกันอย่างไร…แบ่งง่ายๆก็คือเสื้อวงปีเก่าจะแบ่ง
เป็นยุค ตั้งแต่ยุค 70s 80s 90s และเสื้อวงปีใหม่นั้น
ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป
เรามาทำความนรู้จักกับเสื้อวงปีเก่ากันก่อนเลยดี
กว่าครับ เสื้อวงปีเก่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมผลิต
เป็นผ้าฝ้าย 100% (100%Cotton) และเสื้อปีเก่าส่วน
มากนั้นจะเป็นเนื้อผ้าผสม 2 เนื้อคือผ้าผสมระหว่าง
ผ้าฝ้าย50%และผ้าโพลีเอสเตอร์50% (50%Cotton-
50%Polyester) หรือเป็นผ้าผสม 3 เนื้อคือ ผ้าผสม
ระหว่างผ้าฝ้าย+ผ้าโพลีเอสเตอร์+ผ้าเร
ยอน(Cotton+Polyester+Rayon) เช่น
50%Cotton+37%Polyester+13%Rayon หรือ
50%Cotton+35%Polyester+15%Rayon เป็นต้น
ผ้าเก่าตะเข็บสอยเดี่ยว
ผ้าเก่า คอไม่ต่อ
ผ้าเก่า2เนื้อ cotton50+polyester50 ผ้าเก่า3เนื้อ cotton50%+polyester
ผ้าเก่า cotton 100%
แต่ละบริษัทผู้ผลิตจะมีสัดส่วนในการผลิตเนื้อผ้า
ผสมที่ไม่เท่ากัน และอีกปัจจัยนึงที่มีความสำคัญกับ
เสื้อวงในสมัยนั้นก่อนผลิตออกมาเกือบทุกตัว จะมี
ตะเข็บด้ายที่เย็บสอยตะเข็บเป็นเส้นด้ายเดี่ยวทั้งชาย
เสื้อด้านล่างและตรงปลายแขนทั้งสองข้าง และคอที่
ไม่มีรอยต่อของตะเข็บ ลักษณะก็คือ เป็นคอชิ้นเดียว
ผลิตขึ้นมาตาขนาดของเสื้อ(ถ้าเสื้อตัวใหญ่ก็จะมีคอ
เสื้อที่กว้าง) แล้วค่อยนำคอมาเย็บต่อกับเสื้อ เพราะ
ในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยพอ และการ
สกรีนที่เป็นเอกลักษณ์ก็คือการสกรีนจนเนื้อผ้า และ
นี่ถือเป็นเสน่ห์ของผ้าเก่าที่ใครหลายๆคนชื่นชอบ
มัน…… ต่อมาเป็นในส่วนของเสื้อวงปีใหม่ และเสื้อวง
ปีใหม่จะนิยมผลิตด้วยผ้าฝ้าย100%(100%Cotton)
ส่วนใหญ่ในการผลิตเสื้อวงปีใหม่นั้นจะไม่ค่อยนิยม
ผลิตเสื้อที่มีผ้าผสมของผ้าใยสังเคราะห์(Polyester)
เพราะว่ามันมีต้นทุนที่สูงมากและส่วนใหญ่ในสมัยนี้
เทคโนโลยี
เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การสานทอให้
ผ้าฝ้ายให้บางลงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยใช้ผ้า
ฝ้าย100%(100%Cotton) เพื่อลดต้นทุนการผลิตและ
สวมใส่สบาย เหมาะกับอากาศในปัจจุบันนี้มาก และ
ต่อมาเรื่องตะเข็บในสมัยนั้นจะเป็นแบบสอยเดี่ยวแต่
เสื้อวงปีใหม่นั้นได้มีการเย็บตะเข็บแบบคู่ โดยใช้เนค
โนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตทำให้ตะเข็บของเสื้อ มี
ความแข็งแรง,คงทนและไม่ทำให้ชายเสื้อหรือตะเข็บ
เสื้อขาดได้ง่าย
ผ้าใหม่ cotton100% ผ้าใหม่ ตะเข็บเย็บคู่
ทั้งนี้เสื้อวงดนตรีทั้งปีใหม่และปีเก่าก็ยังมีการผลิต
ออกมาอยู่เรื่อยๆๆ และวงที่ผลิตออกมาเรื่อยๆเช่น
metallica album “and justice for all” เป็นต้น
album “and justice for all”
ตอกปีที่ผลิตเมื่อปี1988 ตอกปีที่ผลิตเมื่อปี1994 ตอกปีที่ผลิตเมื่อปี2007
และในปัจจุบันนี้ยังมีอีกหลายบริษัทชื่อดังได้หันมา
ผลิตสื้อวงดนตรีมือ1 เป็นการซื้อลิขสิทธิ์โดยตรงจาก
ต่างประเทศมาผลิตเองโดยที่อยู่ภายใต้แบรนด์ของ
ตัวเองเช่น uniqlo แบรนด์ดังในประเทศญี่ปุ่น
เสื้อเเขนยาวคอกลม
1. เสื้อแขนยาวคอกลมผู้ชาย
หน้าหนาวมาทั้งที จากที่เคยใส่เสื้อยืดแขนสั้น
ธรรมดา ลองเปลี่ยนมาหยิบเสื้อแขนยาวคอกลม ไซซ์
พอดีตัว มาใส่ดูสิครับ จะเลือกเป็นโทนสีเรียบง่าย
สไตล์มินิมอลก็ได้ หรือใครชอบลายกราฟิกก็ตาม
สะดวก ใส่ตัวเดียวกับยีนส์ก็เอาอยู่ หรือจับมาแมตช์
เป็นเสื้อตัวในแล้วสวมสูททับก็ได้ลุคทำงานเท่ ๆ แล้ว
2. เสื้อเชิ้ตแขนยาว
ถ้าอยากได้ลุคที่ดูสุภาพขึ้นมาอีกนิด เสื้อเชิ้ตแขน
ยาวเป็นอะไรที่ลงตัว แต่หนุ่ม ๆ ไม่จำเป็นต้องใส่ให้
เนี้ยบกริบหรอกครับ ลองพับแขนขึ้นมาสักหน่อย
แมตช์กับกางเกงขาเต่อ หรือใส่กับเสื้อกั๊กสีสันสนุก ๆ
แค่นี้ก็เหมาะกับอากาศบ้านเราแล้ว
3. เสื้อแขนยาวคอตั้ง
เสื้อแขนยาวสุดเท่ที่ใส่แล้วเหมือนอยู่เมืองนอกขึ้น
มาทันที แถมแมตช์ได้หลายลุค จะใส่ตัวเดียวคู่กับ
กางเกงขายาวตัวโปรดก็เหมาะ หรือถ้าอยากได้ลุคที่
ดูสุภาพสำหรับวันทำงาน อาจหาเบลเซอร์มาใส่คลุม
อีกสักตัว หล่อสมาร์ตสุด ๆ
4. เสื้อแขนยาวโปโล
เสื้อแบบนี้มีความวินเทจอยู่ในตัว และพอมาถึงปีนี้
เสื้อแขนยาวโปโล มีปก ก็กลับมาฮิตอีกครั้งในโทนสีที่
หลากหลาย สามารถหยิบมาสวมใส่ไปทำงานก็ได้ ไป
เที่ยวก็ดี ทำให้หนุ่ม ๆ ดูมีคลาสขึ้นแบบไม่ต้องเติม
แต่งเยอะ
5. เสื้อแจ็กเก็ตแขนยาว
คิดอะไรไม่ออก บอกแจ็กเก็ตเลย เพียงมีติดตู้เอาไว้
ไม่ว่าฤดูไหนก็ใส่ได้ชัวร์ โดยเฉพาะช่วงอากาศหนาว
แบบนี้ เทรนด์ดับเบิลยีนกำลังฮิต ลองหาแจ็กเก็ตยีน
เท่ ๆ มาแมตช์กับกางเกงยีนส์สีเดียวกันดูสิ เรียบ
ง่าย แต่คูลมาก
6. เสื้อแขนยาว ไหมพรม
วันไหนที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูน่ากอดเป็นพิเศษ
แนะนำให้หยิบเสื้อแขนยาวไหมพรม หรือเสื้อสเวต
เตอร์ ออกมาจากตู้ แล้วมาใส่กับกางเกงพอดีตัว
หรือจะใส่แบบสองเลเยอร์ สวมทับเสื้อเชิ้ตคอปกก็ดูดี
ไม่น้อยนะ
7. เสื้อแขนยาวมีฮู้ด
สำหรับหนุ่มสายสตรีต เสื้อฮู้ดดี้แขนยาวคือสิ่งที่
ขาดไม่ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีเข้มหรือสีสด ๆ ก็สา
มารถแมตช์กับยีนส์ทรงสกินนี่ได้ เพิ่มดีเทลด้วยสนีก
เกอร์ทรงใหญ่ ๆ สักคู่ คอมพลีตเลย !
8. เสื้อแขนยาว แจ็กเก็ตเบสบอล
ไอเทมที่น่าจับตาอีกหนึ่งชิ้นในปีนี้ นอกจากเสื้อกั๊ก
ไหมพรมแล้ว ก็เห็นจะเป็น Varsity Jacket หรือเสื้อ
แจ็กเก็ตเบสบอลที่หลายคนคุ้นตาจากซีรีส์อเมริกันนี่
แหละ หนุ่ม ๆ วัยมหาวิทยาลัยจะต้องมีติดตัวเสมอ
ดังนั้นถ้าอยากแต่งตัวให้ดูโดดเด่นละก็ หยิบเสื้อแขน
ยาวสไตล์นี้มาสวม รับรองไม่ผิดหวัง
9. เสื้อคาร์ดิแกนแขนยาว
วันไหนอยากดูสบาย ๆ ชิล ๆ แต่ยังคงเสน่ห์อบอุ่น หา
เสื้อกันหนาวคาร์ดิแกนแบบบาง ๆ สักตัวมาใส่คลุม
เสื้อยืด จะฉีกลุคหนุ่มจืดให้ดูน่ามองขึ้นทีเดียวล่ะ
วิธีซักและทำความสะอาดเสื้อผ้ามือสอง ก่อนนำมาใส่
หลายคนนิยมซื้อหาเสื้อผ้ามือสองมาใช้ เพราะบาง
ครั้งนอกจากจะได้ของแท้ ที่มีแบบสวยๆ ถูกใจแล้ว
ก็ยังได้มาในราคาถูกอีกด้วย โดยสามารถซื้อมาใส่ได้
แบบไม่ต้องเสียดายเงิน มากเท่ากับเสื้อผ้าใหม่ๆ
แต่การจะซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใส่นั้น ก็มีข้อที่ควรจะ
ต้องระวัง ไม่ใช่ซื้อมาแล้วจะเอามาใส่ได้ทันที
นั่นก็เพราะว่า เสื้อผ้ามือสองนั้น กว่าที่จะเดินทางมา
จนถึงแหล่งที่ให้เราเลือกซื้อหรือนำมาใส่
ต้องผ่านการเก็บในโกดังรวมๆ กันมาเป็นเวลานาน
ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้
ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา หรือเชื้อโรคอย่างอื่น อีกหลาย
ชนิดด้วยกัน หากนำมาใส่โดยทำความสะอาดได้ไม่ดี
พอร่างกายก็จะได้รับเชื้อโรคที่ว่านี้ตามไปด้วย โดย
เฉพาะกับกางเกงยีนส์ หรือเสื้อกันหนาว ดูจะเป็นที่
นิยมกันมาก
- ใส่ผ้าปิดจมูก
แล้วปัดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามเสื้อผ้าออกให้หมด
- นำกะละมังใส่น้ำ
เติมน้ำยาซักผ้าลงไป จากนั้นเอาเสื้อผ้าลงไปแช่ทิ้ง
ไว้ ประมาณ 20-30 นาที
- เมื่อได้เวลาแล้ว
ให้เทน้ำที่แช่ครั้งแรกทิ้งไป แล้วทำการเปลี่ยนน้ำใหม่
- นำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคลงไปแช่เสื้อผ้าอีกครั้ง
หรือจะนำเสื้อผ้าใส่หม้อต้มในน้ำเดือดๆ ประมาณ 15
นาที ก็ได้เช่นกัน
เพราะเชื้อโรคบางชนิดนั้น ไม่สามารถฆ่าโดยให้น้ำยา
ซักผ้าธรรมดาๆ ได้
หรือถ้าใครที่มี ทีทรีออยล์ (Tea Tree Oil) ก็สามารถ
ใช้หยดลงไปในน้ำที่ใช้ซักผ้าหรือล้างผ้าเพื่อช่วยฆ่า
เชื้อโรค ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นที่สดชื่น ไม่เหม็นอับและ
ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เช่นกันครับ
- นำเสื้อผ้าออกไปตากแดด ในช่วงที่แดดจัดๆ
ทำแบบนี้สัก 2-3 รอบ เพื่อให้ความร้อนจากแสงแดด
ช่วยฆ่าเชื้อโรคอีกทีแต่ถ้าหากกลัวว่าเนื้อผ้าจะเสีย
หาย ก็อาจใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยปกป้องการ
ทำลายผ้าจากแสงแดด แช่ผ้าก่อนนำไปตากก็ได้
ด้วยวิธีการต่างๆเหล่านี้ ตามที่ได้กล่าวมา
แม้ว่าอาจจะดูมีหลายขั้นตอน และค่อนข้างจะยุ่งยาก
หน่อยแต่ก็เป็นวิธีการที่ดีที่สุด ในการที่จะช่วยให้เรา
ใส่เสื้อผ้ามือสองได้อย่างสะอาด ปลอดภัย และไม่
ต้องห่วงเรื่องเชื้อโรคอีกเพราะถ้าเราทำความสะอาด
ได้ไม่ดีพอ อาจจะทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมา
ในภายหลังได้นั่นเองค่ะ
วิธีดูเสื้อวินเทจ
เสื้อยืดวินเทจ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมผลิตเป็นผ้า
ฝ้าย 100% ( 100% cotton) จิ๊กโก๋ยุคนั้น จุกว่า (เกิด
ไม่ทัน) คงชอบสวมใส่ผ้าผสมกันนะครับ อิอิ อากาศ
มันคงร้อน ผ้าเนื้อผสมน่าจะตอบโจทย์ได้ดีเพราะใส่
สบาย ใส่แล้วเย็น ผ้าไม่หนามาก เสื้อยืดวินเทจจะมี
เนื้อผ้าผสม 2 เนื้อ คือ ผ้าผสมระหว่างผ้าฝ้าย 50% +
ผ้าโพลีเอสเตอร์ 50% (50% cotton – 50%
Polyester) หรือเนื้อผ้าผสมแบบ 3 เนื้อ คือ ผ้าผสม
ระหว่างผ้าฝ้าย-ผ้าโพลีเอสเตอร์-ผ้าเรยอน
(Cotton+Polyester+Rayon) แบ่งตามสัดส่วนแล้ว
แต่โรงงานจะผลิต สุดท้ายก็มีเสื้อยืดที่ผลิตจากผ้า
cotton 100% ครับ
ข้อมูลจาก https://www.somjook.com
** แต่ก็มีเสื้อยืดบางประเภทที่ผสมเนื้อผ้าชนิดอื่นๆ
เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน เช่น เสื้อยืดทหาร ก็จะผสม
เนื้อผ้าระหว่าง Nylon/Cotton เป็นต้นครับ **
อีกปัจจัยนึงที่สำคัญที่เสื้อยืดสมัยก่อนนั้นผลิตออก
มา(เกือบ)ทุกตัวจะมีตะเข็บด้ายที่เย็บ สอยตะเข็บเป็น
เส้นด้ายเดี่ยวทั้งชายเสื้อด้านล่างหรือชายตรงปลาย
แขนทั้ง 2 ข้าง ส่วนตัวของ จุก เองคิดว่ามาจาก
ความสามารถหรือเทคโนโลยีของเครื่องจักรสมัยนั้น
ยังไม่ทันสมัยพอที่จะเย็บให้ตะเข็บเป็นเส้นคู่ (ในครั้ง
เดียว)ได้ แต่สมัยยุค 90’s เครื่องจักรหรือจักรเย็บผ้า
สามารถเย็บตะเข็บเป็นด้ายคู่ถัก เพื่อเพิ่มความแข็ง
แรง แน่นหนา ที่ไม่ทำให้ชายเสื้อลุ่ยได้ง่ายครับ
ยุค 70’S
ยุคนี้ จุดสังเกตแรกที่เด่นชัดที่สุดคือ ป้ายที่คอเสื้อ
จะไม่มียี่ห้อครับ ป้ายที่คอจะบอกเฉพาะคุณสมบัติของ
เนื้อผ้า + ผลิตจากประเทศไหน + ขนาด จุก ว่ายุคนั้น
สมัยนั้น คงยังไม่มีนายทุนมั๊ง 5555 แต่ในบทความ
เค้าบอกมาว่ายุคปลายๆ ของปี 70’s นั้นก็เริ่มจะมี
ป้ายคอที่แสดงยี่ห้อหรือโรงงานที่ผลิตเสื้อออกมา
บ้างเหมือนกันครับ ส่วนใหญ่ถ้าเราไปพบเจอ สภาพ
ป้ายก็จะลุ่ยจนมองไม่เห็นรายละเอียดแล้วละครับ (ก็
ผ่านมากี่ปีแล้วละ เหอๆ)