The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
รายวิชาภาษาอังกฤษ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนบ้านซับเจริญสุข

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thadsanee Thawpayung, 2021-12-02 11:52:07

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
รายวิชาภาษาอังกฤษ
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนบ้านซับเจริญสุข

ป.3

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชา ภาษาอังกฤษ
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4

ครผู ู้สอน
นางสาวทศั นยี ์ ท้าวพยงุ

ตาแหน่ง ครูผู้ชว่ ย

โรงเรยี นบ้านซับเจรญิ สุข อาเภอซบั ใหญ่ จงั หวดั ชัยภูมิ
สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชัยภมู ิ เขต 3

คำอธบิ ำยรำยวิชำภำษำองั กฤษ

ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เวลำ 40 ชัว่ โมง

เข้าใจคาสั่งและคาขอร้องที่ฟังหรืออ่าน อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลุ่มคา ประโยคและบทพูด
เข้าจังหวะง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน เข้าใจคา กลุ่มคา ประโยคเดี่ยว สัญลักษณ์ และความหมาย
เก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล้อมใกล้ตวั อาหาร เครื่องด่ืม เวลาว่าง และนันทนาการ เข้าใจ
ประโยค บทสนทนา บทอ่านเกี่ยวกับเรื่องใกล้ตัว หรือนิทานง่าย ๆ คาศัพท์เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
เข้าใจประโยค บทสนทนาท่ีใชใ้ นการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยค/ข้อความท่ีใช้แนะนาตนเอง
คาศัพท์ สานวนและประโยคที่ใช้บอกความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ใกล้ตัว หรือเกี่ยวกับกิจกรรม
ตา่ ง ๆ ตามแบบท่ีฟัง เพื่อใช้ขอและให้ข้อมูลง่าย ๆ เกี่ยวกับตนเอง และเร่ืองใกล้ตัว เข้าใจภาษาท่าทางในการ
สื่อสารของเจ้าของภาษา บอกความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คา กลุ่มคา ประโยค และข้อความของ
ภาษาอังกฤษและภาษาไทยโดยใช้กระบวนการสอนภาษา และกระบวนการกลุ่มในการฝึกออกเสียง ฟัง/พูด
ถาม-ตอบ และสนทนาโต้ตอบ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ สนใจเข้า
ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงการรวบรวมความรู้และแสวงหาความเพลิดเพลิน
จากภาษาองั กฤษ

ตวั ชีว้ ดั
มฐ.ต 1.1 (1-4)
มฐ.ต 1.2 (1-4)
มฐ.ต 1.3 (1-2)
มฐ.ต 2.1 (1-3)
มฐ.ต 2.2 (1)
มฐ.ต 3.1 (1)
มฐ.ต 4.1 (1)

1

โครงสร้ำงรำยวิชำภำษำอังกฤษ

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วย มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนัก
0 กำร เรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน
Welcome มฐ.ต 1.1 (1, 3-4), การทบทวนคาศัพท์ และ
มฐ.ต1.2 (1) โครงสรา้ งประโยคท่ีเคยเรียน 2
back! มาแล้ว เป็นการเตรยี ม
ความพร้อมในการเรียน

1 School มฐ.ต 1.1 (1-2), การพูดเก่ยี วกับกิจวัตร 6
again มฐ.ต 1.2 (1-4), ประจาวนั เป็นข้อมูลทีท่ าให้ 6
มฐ.ต 1.3 (1), ผ้เู รยี นสามารถสือ่ สารได้
มฐ.ต 2.1 (1,3), มากขน้ึ
มฐ.ต 2.2 (1),
มฐ.ต 3.1 (1),
มฐ.ต 4.1 (1)

2 Me and มฐ.ต 1.1 (1-4), การนาคาศัพท์ ประโยค และ
my friends มฐ.ต 1.2 (1-4), สานวนตา่ งๆ ทไ่ี ดเ้ รียนมาแล้ว
มฐ.ต 1.3 (1), มาเรียนรู้ในหวั ข้อใหม่ ได้แก่
มฐ.ต 2.1 (1-2), ตนเอง หรอื เพื่อนบา้ น และ
มฐ.ต 2.2 (1), กจิ วตั รประจาวนั ทาให้เกิด
มฐ.ต 3.1 (1), การเรยี นรซู้ ้า ผเู้ รยี นจึง
มฐ.ต 4.2 (1) สามารถใช้ภาษาได้ดขี ึ้น
และเกิดความจาท่ีคงทน

3 Family and มฐ.ต 1.1 (1-4), การพดู คยุ เพื่อขอและให้ 6
pets มฐ.ต 1.2 (1-4), ข้อมลู เกี่ยวกับบคุ คล
มฐ.ต 1.3 (1), ครอบครัว และ
มฐ.ต 2.1 (1-2), สัตว์เลย้ี ง เป็นหวั ข้อในการ
มฐ.ต 2.2 (1), สื่อสารทีน่ าไปใช้ในการ

2

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วย มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก
กำร เรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด (ชั่วโมง) คะแนน
มฐ.ต 3.1 (1), สนทนาตามสถานการณจ์ รงิ
มฐ.ต 4.2 (1) ในชีวิตประจาวัน 6
การฟัง พูด อา่ น และเขยี น
4 Around มฐ.ต 1.1 (1-4), บรรยายเก่ียวกับสถานท่ี 6
town มฐ.ต 1.2 (1-4), เป็นทกั ษะการส่อื สารท่ี
มฐ.ต 1.3 (1-2), นาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั 6
มฐ.ต.2.1 (1, 3)
มฐ.ต 2.2 (1), การพูดคุยเกี่ยวกบั ความชอบ 2
มฐ.ต 3.1 (1), อาหาร และเคร่ืองดื่ม
มฐ.ต 4.1 (1) เปน็ หวั ขอ้ ในการสอ่ื สารที่
นาไปใช้ ในการสนทนาตาม
5 Yummy มฐ.ต 1.1 (1-4), สถานการณจ์ รงิ ใน
food มฐ.ต 1.2 (1-4), ชวี ิตประจาวัน
มฐ.ต 1.3 (1),
มฐ.ต 2.1 (1-2), การฟงั พูด อา่ น และเขยี น
มฐ.ต 2.2 (1), เก่ยี วกับกจิ กรรมที่กาลงั ทา
มฐ.ต 3.1 (1), ของตนเองและผูอ้ ่นื เปน็
มฐ.ต 4.1 (1) ทักษะการส่ือสารท่นี าไปใช้
ในชวี ติ ประจาวนั
6 Hobbies มฐ.ต 1.1 (1-4),
and games มฐ.ต 1.2 (1-4), การทบทวนคาศัพท์ ประโยค
มฐ.ต 1.3 (1-2), และสานวนตา่ ง ๆ ทไ่ี ดเ้ รียน
มฐ.ต 2.1 (1,3), มาแลว้ ทาใหผ้ ู้เรียนได้นาสง่ิ ท่ี
มฐ.ต 2.2 (1), เรียนมาใช้ซ้า ทาให้สามารถ
มฐ.ต 3.1 (1), ใชภ้ าษาได้ดขี ้ึน และเกดิ
มฐ.ต 4.1 (1) ความจาทคี่ งทน
Festivals มฐ.ต 1.1 (1-3),
มฐ.ต 1.2 (1-2),
มฐ.ต 1.3 (1),
มฐ.ต 2.1 (1-3),
มฐ.ต 2.2 (1),
มฐ.ต 3.1 (1),
มฐ.ต 4.1(1)

3

4

แผนการจดั การเรียนรู้

Unit 4: Around town

รายวิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน อ13101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ

ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลาเรยี น 6 ชว่ั โมง ภาคเรยี นที่ 2/2564

ผสู้ อน นางสาวทัศนยี ์ ท้าวพยุง ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย โรงเรียนบา้ นซบั เจริญสขุ

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเร่อื งที่ฟังและอา่ นจากส่ือประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็

อยา่ งมเี หตผุ ล
ตวั ชีว้ ดั ต 1.1 ป.3/1 ปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ และคาขอร้องทีฟ่ งั หรืออ่าน

ต 1.1 ป.3/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคา อา่ นกลุ่มคา ประโยค และบทพดู เขา้ จังหวะ
(chant) ง่าย ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.3/3 เลือก/ระบุภาพ หรอื สัญลักษณต์ รงตามความหมายของกลุ่มคาและ
ประโยคท่ีฟัง
ต 1.1 ป.3/4 ตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ย ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึกและความ
คิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตวั ชี้วดั ต 1.2 ป.3/1 พดู โต้ตอบด้วยคาส้ัน ๆ งา่ ย ๆ ในการส่อื สารตามแบบท่ีฟงั
ต 1.2 ป.3/2 ใชค้ าสั่งและคาขอร้องง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟัง
ต 1.2 ป.3/4 พูดขอและให้ข้อมลู ง่าย ๆ เกยี่ วกบั ตนเอง และเพื่อนตามแบบท่ฟี งั
มาตรฐาน ต 1.3นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวัด ต 1.3 ป.3/1 พดู ให้ข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
ต 1.3 ป.3/2 จัดหมวดหมคู่ าตามประเภทของบคุ คล สตั ว์ และส่ิงของ ตามทฟี่ ังหรืออ่าน

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตัวช้ีวัด ต 2.1 ป.3/1 พดู และทาทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

ต 2.1 ป.3/3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเี่ หมาะกบั วัย
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับ

ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตัวชีว้ ัด ต 2.2 ป.3/1 บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กลมุ่ คา และประโยคงา่ ย ๆ

ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชมุ ชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตัวชีว้ ัด ต 4.1 ป.3/1 ฟัง/พูดในสถานการณ์งา่ ย ๆ ทเ่ี กิดขึ้นในหอ้ งเรียน
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาตา่ งประเทศเปน็ เคร่อื งมอื พน้ื ฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปล่ยี นเรียนรูก้ บั สงั คมโลก
ตัวช้วี ดั ต 4.2 ป.3/1 ใชภ้ าษาต่างประเทศเพอื่ รวบรวมคาศัพทท์ ี่เก่ียวขอ้ งใกลต้ ัว

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเรียนรู้คาศัพทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ี ยานพาหนะ และคาบพุ บทบอกตาแหน่ง รวมถึงการใชป้ ระโยค
ในการถามและตอบเกย่ี วกับท่ีตั้งของสถานท่ี การถามและตอบเก่ยี วกบั วธิ กี ารเดนิ ทางไปยงั สถานที่ตา่ ง ๆ
เป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพือ่ นาไปใช้ส่ือสารแลกเปลย่ี นข้อมูลในชวี ิตประจาวัน

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- การอ่านออกเสียงคาศัพท์ท่ีมี s ประกอบ
- คา กลุ่มคา และประโยคทีม่ ีความหมายเกย่ี วกับสถานท่ีและยานพาหนะ
- พดู โต้ตอบดว้ ยคาสน้ั ๆ งา่ ยๆ ในการส่อื สารระหวา่ งบคุ คล เช่น Excuse me. Thank you.
- ประโยคคาสั่ง
- ประโยคถามและตอบเกย่ี วกบั ท่ีตั้งของสถานท่ี
A: Where’s the (สถานที่)?
B: It’s (คาบุพบทบอกตาแหน่ง) (สถานที่).

- ประโยคถามและตอบเกยี่ วกบั วธิ ีการเดินทางไปยังสถานท่ตี ่าง ๆ
A: Does he/she go to (สถานท)ี่ by (ยานพาหนะ)?
B: Yes, he/she does./No, he/she doesn’t.

- กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้องเพลง
- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษาในการฟงั /พูดในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่เี กดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี น
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องใกล้ตวั จากส่อื ต่าง ๆ
3.2 สาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ
-

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการส่ือสาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการคดิ อย่างสร้างสรรค์

5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

- ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. ชิน้ งาน/ภาระงาน

- การพดู ถาม-ตอบเก่ียวกับทต่ี ้งั ของสถานท่ี
- การทาช้ินงานโปสเตอร์คาศัพท์เกี่ยวกบั สถานท่ี
- การพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับวิธีการเดนิ ทางไปยังสถานท่ีตา่ ง ๆ
- แผน่ ป้ายกฎการใชร้ ถไฟฟ้า BTS
- การประดิษฐช์ ิน้ งานเมอื งจาลอง
- การรวบรวมคาศัพท์ในสมุดคาศัพท์ Your word book

7. การวัดและประเมนิ ผล

7.1 การประเมินกอ่ นเรียน
- ประเมนิ การทาแบบทดสอบ

7.2 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด
- สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นร้ใู นช่วงการทากจิ กรรม

7.3 การประเมินหลงั การเรียน
- ประเมินการทาแบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การพูดถาม-ตอบเกย่ี วกบั ท่ีต้งั ของสถานที่
- ประเมนิ การทาชนิ้ งานโปสเตอรค์ าศัพทเ์ ก่ียวกบั สถานที่
- ประเมินการพูดถาม-ตอบเก่ียวกับวธิ กี ารเดินทางไปยงั สถานทต่ี ่างๆ
- ประเมนิ แผน่ ป้ายกฎการใช้รถไฟฟา้ BTS
- ประเมินการประดิษฐ์ชิน้ งานเมืองจาลอง
- ประเมินการรวบรวมคาศัพท์ในสมดุ คาศัพท์ Your word book

8. กิจกรรมการเรยี นรู้

- กจิ กรรมนาสู่การเรยี น ดงั แนบมาพรอ้ มน้ี
- กิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด
9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

1. หนงั สือเรยี น Smile ป. 3
2. แบบฝกึ หัด Smile ป. 3
3. Audio CD Smile ป. 3
4. พจนานุกรม
5. ตุ๊กตาสัตว์ 1 ตัว และกล่องกระดาษ
6. บัตรภาพยานพาหนะ
7. กล่อง 2-3 กล่อง
8. อุปกรณป์ ระดิษฐ์ชนิ้ งานเมอื งจาลองและแผน่ ปา้ ย
9. อินเทอร์เน็ต

แผนการจัดการเรียนรู้
Unit 4: Around town (Lesson 1)

ช่ัวโมงท่ี 1-2

1. สาระสาคญั

การเรยี นรู้คาศัพทเ์ กีย่ วกับสถานท่แี ละคาบุพบทบอกตาแหน่ง รวมถึงการใช้ประโยคในการถามและตอบ
เก่ียวกับทต่ี ั้งของสถานที่ เป็นการเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษเพื่อนาไปใช้สื่อสารแลกเปล่ียนขอ้ มูลในชวี ิตประจาวนั

2. ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

- อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศัพทเ์ กีย่ วกับสถานที่และคาศัพท์ท่ีมี
s ประกอบได้
- ระบภุ าพได้ตรงตามความหมายของคาและประโยคที่ฟงั
- ถามและตอบคาถามเกี่ยวกับที่ต้งั ของสถานที่ต่าง ๆ ได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การอา่ นออกเสียงคาศัพท์ท่ีมี s ประกอบ
- คา กลมุ่ คา และประโยคทม่ี ีความหมายเกีย่ วกับสถานที่
- พูดโตต้ อบด้วยคาสัน้ ๆ ง่ายๆ ในการส่อื สารระหว่างบคุ คล เช่น Excuse me. Thank you.
- ประโยคถามและตอบเกีย่ วกับทีต่ ้ังของสถานท่ี
A: Where’s the (สถานท)่ี ?
B: It’s (คาบุพบทบอกตาแหน่ง) (สถานที่).
- ความแตกต่างของเสยี งตัวอกั ษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษาในการฟงั /พดู ในสถานการณ์ง่าย ๆ ทเี่ กิดข้ึนในห้องเรยี น
- การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศพั ท์ทเ่ี ก่ยี วข้องใกล้ตวั จากสอื่ ตา่ ง ๆ

3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่
-

4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
- ใฝเ่ รียนรู้
- มงุ่ มั่นในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

6.1 ชั่วโมงที่ 1-2

 กิจกรรมนำสกู่ ำรเรยี น
1. ครทู ักทายนกั เรยี นดว้ ยคาถาม How are you? เม่อื นักเรียนท้ังหอ้ งทักทายตอบแล้ว ครูทกั ทาย
นกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล 4-5 คน โดยใหน้ กั เรยี นพูดตอบ โดยใช้สานวนอน่ื เช่น I’m OK/great/happy.
เป็นต้น
2. ครูนาบตั รภาพสถานทีต่ ่างๆ ซ่ึงมคี นอยใู่ นสถานทเี่ หลา่ นี้ด้วย จากนั้นครูถามนักเรียนด้วยคาถาม เชน่
Where is he? Where is she? หรอื Where are they? ถา้ มนี กั เรียนคนใดตอบถูก ครูนาคาตอบ
ของนักเรยี นมาพดู ใหเ้ ป็นประโยค และใหน้ ักเรียนทง้ั ชัน้ พดู ตามครู
Teacher: Where are they? (ภาพคน 2 คน อยทู่ ี่ supermarket)
Student: At the supermarket.
Teacher: That’s right. They are at the supermarket.
Repeat after me.
Students: They are at the supermarket.

Background Information
ครสู ามารถ download บตั รภาพ (flashcards)ไดท้ ี่
http://bogglesworldesl.com/kids_worksheets/cityplaces.htm
(Flashcard Set: Places in a City)
http://www.kids-pages.com/flashcards.htm (places)
http://www.mes-english.com/flashcards/places.php

3. นกั เรยี นดูภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 46 ขอ้ 1 Look at the picture. What can you see?
แล้วบอกครวู า่ เห็นอะไรในภาพบา้ ง
Teacher: What can you see in the picture?
Students: A supermarket, a shop, a school, a zoo, cars, men,
women, trees, etc.
Teacher: Excellent!

4. นักเรยี นอ่านคาศัพท์ในหนังสือเรยี น หนำ้ 46 ข้อ 2 Read, look and find. ตามครูพรอ้ ม ๆ กัน
แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกความหมาย จากนนั้ ใหน้ ักเรียนหาภาพในข้อ 1 ที่มีความหมายตรงกับ
คาศัพท์เหลา่ นี้ เมื่อพบแลว้ ชที้ ภ่ี าพ แลว้ พูดคาศัพทด์ ัง ๆ

5. ใหน้ กั เรยี นเดาวา่ ใน Lesson 1 น้ี นกั เรยี นจะไดเ้ รียนเกย่ี วกับเร่ืองอะไร ให้นักเรียนเปดิ ดเู นือ้ หา
ในหนังสอื เรียนครา่ ว ๆ และช่วยกนั ตอบครู

 กิจกรรมพฒั นำกำรเรียนรู้
1. นกั เรียนดภู าพสถานทท่ี ั้ง 6 ภาพ ในหนังสอื เรียน หน้ำ 47 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
แลว้ ใหช้ ่วยกันบอกครวู า่ สถานทเ่ี หลา่ นี้ในภาษาไทย เรียกว่าอะไร จากนนั้ ครูถามนักเรียนวา่ ชอ่ื เรยี ก
ของสถานท่ีเปน็ ชนิดใด จนได้คาตอบว่าคานาม จากนน้ั ครูเปิด CD/Track 30 ให้นักเรียนฟังและช้ีภาพ
ตามทีละภาพ

bank supermarket hospital

zoo shop swimming pool

แล้วครูเปิด CD อกี 2-3 ครัง้ เพื่อให้นักเรียนฝกึ ออกเสียงตามพรอ้ มๆ กนั ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสยี ง
เนน้ หนกั ในคาให้ถูกต้อง โดยคาว่า supermarket, hospital และ swimming pool เน้นที่พยางค์
แรกสุดของคา

Background Information

คาว่า swim เป็นเสยี ง 1 พยางค์ เพราะ sw เป็นเสยี งพยัญชนะประสม 2 พยางค์
ส่วนคาพยางคเ์ ดียวท่ีมกี ารเติม suffix เช่น swim – swimming คา suffix ท่ีเติม
มาส่วนใหญ่แลว้ จะไมเ่ นน้ เสยี งหนกั ดงั น้นั swimming จงึ เน้นเสียงหนกั ทพ่ี ยางค์-
แรกเหมือนเดิม

2. ครูเปดิ CD/Track 31 ให้นกั เรียนฟงั 2 ครั้ง แล้วเขียนหมายเลข 1-6 ลงในช่อง  ในแตล่ ะภาพ
ในหนงั สือเรียน หนำ้ 47 ข้อ 2 Listen and write the numbers. ตามท่ีฟงั ใหถ้ ูกต้อง

Narrator: Look and find the supermarket.
Write number one in the box.

Look and find the bank.
Write number two in the box.

Look and find the zoo.
Write number three in the box.

Look and find the hospital.
Write number four in the box.

Look and find the shop.
Write number five in the box.

Look and find the swimming pool.
Write number six in the box.

เมื่อนักเรียนเตมิ หมายเลขเสร็จแลว้ ครเู ปดิ CD ใหน้ ักเรยี นฟังอีกคร้ังเพ่ือเฉลยคาตอบ โดยครูหยุด CD
เมอ่ื จบแตล่ ะสถานท่ี

a. 1 b. 5 c. 4 d. 2 e. 3 f. 6

3. ครูให้นกั เรยี นดูภาพในหนังสือเรยี น หน้า 48 ข้อ 3 แล้วให้นักเรยี นชว่ ยกนั บอกว่า คาบุพบทแตล่ ะคา
มีความหมายวา่ อย่างไร
next to (อย่ตู ิดกับ, ถดั จาก)
behind (ข้างหลงั )
in front of (ข้างหนา้ )
จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นสงั เกตภาพธนาคารในหนังสือเรยี น หน้ำ 48 ข้อ 3 Look, listen and say.
ครูช้ี ให้เห็นวา่ ในแต่ละภาพ ธนาคารต้ังอย่ใู นตาแหน่งทต่ี ่างกัน จากนัน้ ครูเปิด CD/Track 32
ให้นักเรียนฟัง 1 คร้ัง

next to behind in front of

ครเู ปิด CD อกี 2 ครั้ง ให้นักเรยี นฝึกพูดตาม
4. ครอู ธิบายการใช้คาบุพบท (prepositions) เพิ่มเติมวา่ ใช้บอกตาแหน่งทตี่ ง้ั ของสิง่ ต่าง ๆ แลว้ ครู

นาเสนอคาบุพบทคาอ่นื ๆ นอกเหนือจากทเ่ี รยี นในหนงั สือเรยี นเพม่ิ เติมแก่นักเรียน โดยครนู าตกุ๊ ตาสตั ว์
1 ตัว และกลอ่ งกระดาษ 1 กล่อง เขา้ มาในชน้ั เรียน และเปล่ียนตาแหน่งของตุก๊ ตาไปเรื่อย ๆ
เพอื่ นาเสนอคาบุพบท เชน่

A cat is in the box.

จากนนั้ ครเู ขยี นคาบุพบท in บนกระดาน และให้นักเรยี นชว่ ยกันบอกความหมายในภาษาไทย และครู
เขียนภาษาไทยขา้ ง ๆ คาศัพท์ภาษาองั กฤษบนกระดาน ครทู ากิจกรรมเช่นเดียวกนั น้ีกับคาบุพบทคา
อ่นื ๆ อกี เช่น on, under, above, opposite รวมทั้งฝกึ ซ้าคาว่า next to, behind และ
in front of ตอ่ มาครสู มุ่ เรียกนกั เรียนทีละ 2 คน ให้ออกมาที่หนา้ ช้นั ให้คนหนง่ึ เป็นคนพูดประโยค
บอกตาแหน่งของตุ๊กตา สว่ นอีกคนตอ้ งหยบิ ตกุ๊ ตามาวางอยู่ในตาแหน่งตามที่เพอ่ื นพูด และทวน
ประโยคซา้ เชน่

Student 1: A cat is next to the box.
Student 2: หยบิ ตุ๊กตาไปไว้ท่ีตาแหนง่ ข้างๆ กลอ่ ง และพดู วา่ A cat is next

to the box.

ครูนาต๊กุ ตากับกล่องมาฝึกซ้ากับนกั เรียนอกี คร้ัง โดยวางตาแหน่งของตกุ๊ ตาไวท้ ต่ี าแหน่งต่าง ๆ
ของกล่อง แลว้ ถามคาถามนักเรียน โดยใช้โครงสร้าง Where is the …? สว่ นในการตอบใหน้ ักเรยี น
ใชโ้ ครงสร้าง It’s … . เช่น

Teacher: Where is the cat?
Students: It’s behind the box.
ครทู ากจิ กรรมเช่นนีไ้ ปเรื่อยๆ จนนกั เรยี นสามารถพูดบอกตาแหนง่ ได้คลอ่ ง

5. ครเู ขียนคาวา่ Excuse me. บนกระดาน ตวั ใหญ่ๆ และให้นักเรยี นฝกึ ออกเสยี งตามครู 3-4 คร้ัง
ครสู ุม่ เรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน ใหอ้ อกเสียง เมื่อนกั เรียนออกเสียงได้คล่องแล้ว ครสู มมติสถานการณ์
วา่ ครูเปน็ ครูใหม่ท่ีมาทางานทีโ่ รงเรยี น ยงั ไม่ร้จู กั ทางในโรงเรียนดี ครูเจอกบั นักเรียนที่นอกห้องเรียน
จากนั้นครูเดนิ ไปสะกดิ นกั เรยี น 1 คน พรอ้ มกับแสดงทา่ ทางเกรงใจ และพดู ถามว่า Excuse me,
where is the bathroom? จากน้ันครูไปสะกิดนกั เรยี นอีกคนหน่ึง และพูดถามวา่ Excuse me,
where is the library? เสร็จแลว้ ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั เดาความหมายของคาวา่ Excuse me.
ต่อมาครอู ธิบายว่า เราใชส้ านวน Excuse me. เมื่อจะไปขัดจงั หวะผ้อู ่ืน เชน่ เพื่อถามทาง เป็นต้น

Background Information
การออกเสยี งคาวา่ excuse ให้เน้นเสยี งหนักในคาทพ่ี ยางค์หลัง และเสียงทา้ ย
พยางค์ของคาจะเปน็ เสยี ง /z/

Excuse me. มคี วามหมายวา่ ขอโทษในภาษาไทย แต่ใช้เมื่อเราจะไปขดั จังหวะ
หรือรบกวนผ้อู ื่น โดยเฉพาะกับคนแปลกหนา้ ซึ่งจะตา่ งจากคาว่า sorry ที่เป็น
การขอโทษเม่ือเราไปทาให้ผู้อ่ืนเดอื ดรอ้ น

6. ครูเขยี นคาวา่ please บนกระดานตัวใหญ่ ๆ และใหน้ กั เรียนออกเสยี งตามครูหลาย ๆ ครั้ง
โดยใหน้ กั เรียนออกเสียงทา้ ยคาเป็นเสยี ง /z/ ครูอธิบายว่า คาวา่ please เปน็ คาท่มี ีความสาคัญมาก
ในภาษาอังกฤษ จากนั้นครูยกตัวอย่างด้วยการพูดสั่งนักเรียนว่า Stand up. ด้วยเสียงเข้ม ๆ และ
ท่าทาง ขึงขังจรงิ จัง และพูดวา่ Please sit down. ดว้ ยเสยี งท่ีนุม่ นวล ครเู ขยี นประโยคบนกระดาน
และขีดเสน้ ใต้ที่คาว่า please ครถู ามนกั เรยี นว่า นักเรียนอยากใหค้ รูพูดแบบไหนกับนักเรยี น เมื่อได้
คาตอบว่า Please sit down. ครอู ธิบายวา่ please จะชว่ ยทาให้ประโยคท่นี กั เรยี นพดู สภุ าพมากขึน้
โดยเฉพาะในประโยคคาส่งั และขอร้อง ตัวอย่างเชน่
Excuse me. Can you help me?
นักเรียนสามารถพดู ให้สภุ าพมากขึน้ ด้วยการเตมิ คาว่า please ไปท่ีท้ายประโยค
Excuse me. Can you help me, please?
จากน้นั ครใู หน้ ักเรียนฝกึ พูดประโยค Stand up. และ Please sit down. โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรยี นฝกึ
พดู โดยใชภ้ าษา นา้ เสียง และทา่ ทางใหเ้ หมาะสมกับประโยคท่พี ูด

7. ครูถามนักเรยี นวา่ เม่ือเราไปขอร้องหรือขัดจังหวะผู้อ่ืนเพ่ือถามบางสิง่ บางอยา่ ง เช่น ถามทาง เมื่อเรา
ไดค้ าตอบแล้ว เราควรทาเช่นไร จนได้คาตอบว่า พูดวา่ Thank you.
ครเู ขยี นคาว่า Thank you. บนกระดานตัวใหญๆ่ และใหน้ ักเรียนออกเสียงตามครูหลาย ๆ ครง้ั

Thank you

ครลู ากเสน้ ทต่ี วั อักษร k ทา้ ยคาว่า thank ไปที่เสยี งตน้ คาว่า you จากนนั้ ครูอ่านออกเสียงคาวา่
Thank กบั you แบบแยกทีละคา และออกเสยี ง thank you แบบทม่ี กี ารเชือ่ มคา เพ่ือให้นักเรียน
สงั เกตการออกเสยี งท่ีแตกตา่ งกนั จากการเชือ่ มคา ครูอาจยกตวั อย่างเพิม่ เติมคาว่า come on
8. ครใู หน้ ักเรียน 1 คู่ อา่ นบทสนทนาระหว่างตารวจและเด็กในหนงั สือเรยี น หน้ำ 48 ข้อ 4 Work in
pairs. Take turns to ask and answer about the places. และอธบิ ายวา่ บทสนทนานี้เป็น
การถาม-ตอบทตี่ ั้งของสถานที่ จากน้นั ใหน้ ักเรียนดูแผนผงั แลว้ ครถู ามว่า นักเรยี นเห็นสถานท่ีใดบา้ ง

Teacher: What can you see in the picture?
Students: A hospital, a bank, a swimming pool, a zoo, a shop,

a supermarket.
Teacher: Well done!
แล้วครใู หน้ ักเรยี นจับคู่กับเพ่ือน ฝึกพดู สนทนาถาม-ตอบท่ตี ั้งของสถานท่ใี นแผนผัง ใหน้ กั เรยี น
ผลัดกนั ถามและตอบคาถามโดยดรู ปู แบบบทสนทนาจากตัวอย่าง ครเู ตือนใหน้ ักเรียนใชค้ าบุพบท
ทเ่ี รยี นไป ได้แก่ next to, behind, in front of และเดนิ สังเกตขณะนักเรียนทากิจกรรม เพอ่ื ดูวา่
นักเรียนใช้คาบุพบทและตอบคาถามได้ถูกต้องหรือไม่ จากนั้นสุ่มเรียกนกั เรยี น 3 คู่ ออกมาพูดสนทนา
หน้าชน้ั เรยี น
A: Excuse me. Where’s the shop, please?
B: It’s next to the hospital.
A: Thank you.
9. นักเรยี นดูภาพสมาชกิ ในครอบครัวท่อี ยดู่ ้านซ้ายของแผนผังในหนงั สือเรียน หนำ้ 49 ข้อ 5 Look
and write T (true) or F (false). แล้วดูแผนผัง และสังเกตว่าแต่ละคนอยู่ตรงไหนบ้าง จากนัน้ ครู
ใหน้ ักเรียนอา่ นประโยคที่กาหนดใหพ้ รอ้ มกัน แลว้ บอกวา่ ประโยคในแตล่ ะข้อถูกหรอื ผิด ถา้ ถูกเขยี น
T ในชอ่ ง  ถ้าไม่ถูกเขยี น F ในช่อง 
เมือ่ นักเรยี นทาเสร็จแลว้ ให้ช่วยกนั เฉลยคาตอบ โดยครอู ่านประโยค ใหน้ ักเรียนตอบวา่ True
หรือ False ถา้ นกั เรียนตอบ False ใหแ้ กไ้ ขประโยคให้ถูกต้องด้วย

1. T
2. F (My dad is in front of the bank.)
3. T
4. F (My sister is in front of the school.)
5. F (My uncle is behind the swimming pool.)

10. ครูเขยี นตวั อักษร s บนกระดานตวั ใหญ่ ๆ และออกเสยี ง /s/ ให้นักเรยี นฟัง จากนัน้ ครเู ขียนคาศัพท์

ตอ่ ไปนีบ้ นกระดาน

sad set sit son

ครใู หน้ ักเรียนฝกึ อา่ นออกเสียง /s/ ที่ตน้ พยางค์ตามครู ครูบอกนักเรียนวา่ ตัวอักษร s เม่ืออยู่

ตน้ พยางค์อาจจะไม่ใชป่ ัญหาสาหรับนกั เรยี นสกั เทา่ ไร แตเ่ มอ่ื มตี ัวอักษร s อย่ทู ีท่ ้ายพยางค์

ใหน้ ักเรยี นระมดั ระวงั ให้ดี เพราะถึงแม้จะเขียนดว้ ยตวั อักษรตวั เดียวกนั แตอ่ อกเสียงต่างกนั ได้ เชน่

/s/ /z/

house has

horse beds

bus cars

class yes

mouse pens

gas Hans

จากน้ันครูให้นักเรียนฝกึ ออกเสียงคาศัพท์เหล่านตี้ ามครูหลาย ๆ ครั้ง โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสยี ง /s/
และ /z/ ใหถ้ กู ต้อง ครูใหข้ ้อสังเกตว่า เสียง /z/ จะออกเสียงหนักและเส้นเสียงสั่น โดยให้นกั เรยี นจบั
ท่ีลาคอของตนเอง ส่วนเสยี ง /s/ จะฟังนุ่มนวลกว่า และเส้นเสยี งไมส่ ่นั
เสรจ็ แลว้ ครใู หน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสียงคาศัพทบ์ นกระดานหลาย ๆ ครง้ั และสุ่มเรียกนักเรยี นออกเสียงที
ละคน ครสู งั เกตการออกเสียงของนักเรียนและคอยใหค้ วามช่วยเหลอื เชน่ ไปฝึกกบั ครูนอกเวลาเรียน

Background Information

เสียง /s/ และ /z/
เป็นเสยี งเสียดแทรก ภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีความแตกต่างกนั เรื่องเสียงเสยี ด-
แทรกมาก ทง้ั นีเ้ พราะวา่ ภาษาไทยมเี สียงเสยี ดแทรกน้อย คือมีเฉพาะหน่วยเสยี ง
อโฆษะ /f, s, h/ และทงั้ สามหนว่ ยเสียงนีเ้ กดิ เฉพาะตาแหนง่ ตน้ พยางคเ์ ท่านั้น ไม่มี
ปรากฏในตาแหน่งทา้ ยพยางค์ สว่ นในระบบเสยี งภาษาอังกฤษน้นั มีเสยี งเสียดแทรก
มาก และเกดิ ท้ังในตาแหน่งต้นและทา้ ยพยางค์
โดยเสยี ง /s/ และ /z/ ท้ังสองเสยี งออกเสยี งโดยการยกปลายสดุ ลนิ้ หรอื ล้นิ ส่วนปลาย
ไปใกลๆ้ กับป่มุ เหงือก แล้วเคลื่อนกระแสลมใหเ้ สยี ดแทรกออกมา
เสยี ง /s/ และ /z/ มคี วามแตกต่างกนั ของการเปล่งเสียง คือ การออกเสยี ง /s/ เสน้
เสยี งไมส่ ่นั เป็นเสียงไมก่ ้อง ส่วนการออกเสยี ง /z/ เสน้ เสียงจะสัน่ เปน็ เสียงก้อง
ท่ีมา: นันทนา รณเกยี รติ. (2556). สทั ศาสตร์ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ. กรุงเทพฯ:

สานกั พมิ พม์ หาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์

กิจกรรมเพม่ิ เติม
ครเู ขียนตวั อักษร H, h บนกระดาน และสอนใหน้ กั เรยี นออกเสยี งตวั อักษรนีใ้ หถ้ ูกต้อง เพราะเด็กไทย
มักจะออกเสียงตวั อกั ษรนี้ผดิ เปน็ เสยี ง ฮ ในภาษาไทย

จากน้นั ครเู ขียนตวั อักษร S, s เพมิ่ บนกระดาน และออกเสียง เพ่อื ใหน้ กั เรียนสังเกตความแตกตา่ ง
ของการออกเสยี งตัวอกั ษร H และ S แล้วครูอธบิ ายว่า

ตัวอกั ษร H จะออกเสียงเหมือนกบั เสียงท้ายพยางค์คาวา่ fish, dish
ตวั อกั ษร S จะออกเสยี งเหมือนกบั เสยี งท้ายพยางค์คาว่า horse, house
ครใู ห้นักเรยี นฝกึ ออกเสียงตามครูหลาย ๆ ครง้ั เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนกั เรียนมายืนทีห่ น้าชัน้ เรยี น
ครงั้ ละ 5 คน และฟังเสียงท่คี รูพูดและเขียนตวั อักษรท่ีตนเองได้ยินบนกระดาน
11. ครเู ปิด CD/Track 33 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 ครัง้ คร้งั แรกให้นักเรียนฟงั เพยี งอย่างเดียว ครัง้ ที่ 2
ให้นกั เรียนฟงั แล้วพดู ตาม โดยดูประโยคในหนังสือเรียน หน้ำ 49 ข้อ 6 Listen and say.
ตามไปด้วย

Hans has a horse in a house.

ใหน้ ักเรยี นฝกึ พูดประโยคน้ีซา้ หลาย ๆ ครง้ั แล้วใหน้ กั เรยี นบอกวา่ คาศัพทแ์ ต่ละคาที่มีเสียง s
ประกอบในประโยคนนั้ ออกเสยี งเป็นเสียง /s/ หรือ /z/

/s/ - horse, house
/z/ - Hans, has

 กิจกรรมรวบยอด
1. นกั เรียนอา่ นคาศัพท์เกยี่ วกบั สถานที่ทก่ี าหนดให้ในแบบฝึกหดั หนำ้ 34 ขอ้ 1 Look and match.
แล้วโยงเสน้ จบั คู่คาศัพทก์ ับภาพ เสรจ็ แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกันเฉลยคาตอบ

1. c 2. d 3. a 4. e 5. f 6. b

2. นกั เรยี นหาคาศัพท์เกีย่ วกับสถานท่ีในวงปริศนาในแบบฝึกหดั หน้ำ 35 ขอ้ 1 Find and circle
the words. โดยให้หาคาศัพท์ตามที่กาหนด เมื่อหาคาศพั ทค์ รบแลว้ ครใู หช้ ่วยกันเฉลยคาตอบ

supermarket zoo swimming pool
hospital shop bank

3. นกั เรยี นดูภาพสถานท่ที ่ีกาหนดใหใ้ นแบบฝกึ หดั หนำ้ 35 ขอ้ 2 Look and write the words.
จากนน้ั เขียนคาศัพท์ใหม้ ีความหมายตรงกับภาพ เม่ือทาเสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบ

2. shop 3. supermarket 4. swimming pool
5. zoo 6. bank

4. ใหน้ ักเรียนอ่านประโยคข้อ 1-5 ในแบบฝกึ หดั หน้ำ 36 ขอ้ 3 Look, read and write T (true)
or F (false). พร้อมกัน จากนั้นดภู าพ แล้วเติม T หรอื F เมือ่ ทาเสรจ็ แลว้ ครสู ุม่ เรียกนักเรยี น 5 คน
เฉลยคาตอบ ให้นักเรยี นทีเ่ หลือช่วยกนั ตรวจความถกู ต้อง

2. T 3. T 4. T 5. F

5. ครใู ห้นักเรยี นวาดภาพตามคาสง่ั ลงในกรอบในแบบฝึกหัด หน้ำ 37 ข้อ 4 Read and draw a
town. พร้อมกับระบายสีใหส้ วยงาม โดยครใู หน้ กั เรยี นอ่านประโยคข้อ 1-5 และวาดภาพตามประโยค
ท่ีอา่ น เมื่อนกั เรยี นทาเสร็จแล้วให้แลกเปล่ียนกบั เพ่ือนขา้ งเคียงเพื่อผลัดกนั ตรวจ โดยครูส่มุ เรยี ก
นกั เรียนออกมาวาดภาพเพอ่ื เฉลยคาตอบบนกระดาน และใหน้ ักเรียนท่ีเหลอื ช่วยกนั ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง

1. วาดภาพธนาคารอยู่ข้างหน้าโรงพยาบาล
2. วาดภาพสระว่ายนา้ อยู่ข้างหลังสวนสัตว์
3. วาดภาพร้านค้าอยู่ถดั จากธนาคาร
4. วาดภาพซุปเปอร์มารเ์ ก็ตอยูถ่ ัดจากโรงพยาบาล
5. วาดภาพตัวนกั เรียนเองยนื อยู่หนา้ สวนสัตว์

6. นักเรียนดูแผนผงั ที่ตงั้ ของสถานท่ีตา่ งๆ ในแบบฝกึ หดั หนำ้ 38 ขอ้ 5 Look, read and write
the words. แล้วอ่านคาถาม 3 คาถาม พรอ้ มกนั แลว้ หาที่ตั้งของสถานทจี่ ากคาถามในภาพ
จากน้ันให้นักเรียนเติมประโยคใหส้ มบรู ณ์ด้วยคาบุพบททกี่ าหนด เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบโดยอ่าน
คาถาม แลว้ ส่มุ เรียกนกั เรียน 3 คน อ่านประโยคคาตอบคนละ 1 ข้อ

1. next to 2. behind 3. in front of

7. ครใู หน้ กั เรียนท่องคาศัพทใ์ หม่ท่เี รยี นไปใน Lesson 1 และบอกนักเรยี นว่า ในชวั่ โมงหนา้ ครจู ะทดสอบ
คาศัพท์

8. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ ทาโปสเตอร์คาศัพทเ์ กยี่ วกบั สถานท่ี โดยให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มหาคาศัพท์เพิม่
จากท่ีเรยี นกลมุ่ ละ 10 คา

9. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนไปอา่ นคาศัพท์ในหนังสือเรียน หน้า 50 มาก่อนล่วงหน้า และถา้ คาใดไม่รู้
ใหน้ ักเรยี นเปดิ พจนานุกรมเพ่ือหาคาศพั ทม์ าก่อน

7. การวัดและประเมนิ ผล

7.1 การประเมินก่อนเรียน
- ประเมินการทาแบบทดสอบ

7.2 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ประเมินการทาแบบฝึกหดั
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นชว่ งการทากจิ กรรม

7.3 การประเมินหลังการเรียน
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

7.4 การประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบเกย่ี วกบั ที่ต้ังของสถานที่
- ประเมินการทาชิ้นงานโปสเตอรค์ าศัพท์เก่ยี วกับสถานท่ี

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี น Smile ป. 3
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 3
3. Audio CD Smile ป. 3
4. พจนานุกรม
5. ตุก๊ ตาสตั ว์ 1 ตวั และกล่องกระดาษ
6. อนิ เทอรเ์ นต็

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการจดั การเรยี นการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..................................................................
(นางสาวทัศนีย์ ทา้ วพยุง)
ผสู้ อนและผบู้ ันทกึ

ขอ้ คดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ..................................................................
(นายอภิชยั สรุ เสน)

ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านซบั เจรญิ สุข

แผนการจดั การเรยี นรู้
Unit 4: Around town (Lesson 2)

ช่ัวโมงที่ 3-4

1. สาระสาคญั

การเรยี นร้คู าศัพท์เกีย่ วกบั ยานพาหนะ และการใชป้ ระโยคในการถามและตอบเกยี่ วกบั วิธกี ารเดินทางไป
สถานท่ตี ่าง ๆ เป็นการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษเพื่อนาไปใชส้ ือ่ สารแลกเปล่ยี นข้อมลู ในชวี ิตประจาวัน

2. ตวั ชวี้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- อา่ นออกเสียงและบอกความหมายคาศพั ท์เกย่ี วกับยานพาหนะได้
- ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านได้
- ถามและตอบเกี่ยวกบั วิธีการเดินทางไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ ได้
- ใชป้ ระโยคคาส่งั ได้
- ร้องเพลงและเลน่ เกมตามท่ีกาหนดได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คาศัพท์เก่ียวกับยานพาหนะ
- พูดโต้ตอบด้วยคาสน้ั ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบที่ฟงั เชน่ Excuse me.
Thank you.
- ประโยคคาสัง่ เชน่ Don’t drink.
- ประโยคถามและตอบเกย่ี วกับวธิ ีการเดินทางไปยังสถานท่ตี ่าง ๆ
A: Does he/she go to (สถานท่ี) by (ยานพาหนะ)?
B: Yes, he/she does./No, he/she doesn’t.
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่าย ๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องใกลต้ ัวจากสือ่ ต่าง ๆ

4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
- ทักษะการคิดอย่างสรา้ งสรรค์

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งม่ันในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

6.1 ชวั่ โมงท่ี 3-4

 กิจกรรมนำสูก่ ำรเรียน
1. ครใู หน้ ักเรียนช่วยกันทบทวนประโยคคาสัง่ ขอร้อง และขออนญุ าต ที่ใช้ในห้องเรยี นบ่อย ๆ
2. ครสู มุ่ ถามนักเรียน 3 คน ถึงวธิ ีการเดินทางมาโรงเรยี น ให้นกั เรยี นตอบคาถามเป็นภาษาไทย จากน้นั
ครูบอกนักเรยี นวา่ ในชวั่ โมงน้นี กั เรียนจะได้เรยี นรู้คาศพั ท์เกยี่ วกับยานพาหนะ การบอกวิธีการเดินทาง
ไปยังสถานท่ีต่าง ๆ

 กจิ กรรมพัฒนำกำรเรยี นรู้
1. นักเรยี นดภู าพยานพาหนะต่าง ๆ ในหนังสือเรยี น หนำ้ 50 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
แล้วบอกครวู ่าเห็นภาพยานพาหนะอะไรบ้าง แลว้ ครูถามนักเรียนว่า ช่อื เรียกของสง่ิ ตา่ ง ๆ เปน็ คาชนิด
ใด
จนไดค้ าตอบว่าคานาม
Teacher: What can you see in these pictures?
Students: A boat, a train, a bike, a plane, a bus, a car.
Teacher: Good!
ครเู น้นใหน้ กั เรียนออกเสยี ง /s/ ทา้ ยคาวา่ bus
จากน้นั ครเู ปิด CD/Track 34 ให้นกั เรียนฟังและชภ้ี าพตามไปดว้ ย แล้วครเู ปิด CD อกี 2-3 คร้ัง
ใหน้ ักเรยี นฝึกออกเสยี งตามจนคลอ่ ง

boat train bike
plane bus car

ครแู สดงบัตรภาพยานพาหนะใหน้ กั เรียนดทู ลี ะภาพ โดยไม่เรียงลาดับตาม CD แลว้ ใหน้ กั เรยี นพดู ระบุ
คาศัพทใ์ หถ้ ูกต้อง โดยครูสามารถ download บัตรภาพได้ที่
http://www.eslgamesplus.com/transportation-flashcards/
2. นกั เรียนดูภาพเหตุการณท์ ั้ง 3 ภาพ ในหนงั สือเรยี น หน้ำ 50 ขอ้ 2 Listen, read and write T
(true) or F (false). แล้วครเู ปิด CD/Track 35 ให้ฟัง 1 ครงั้ พร้อมทั้งดูประโยคในหนังสือเรยี นตาม
ไปดว้ ย

Harry: This is Tom. He goes to school by car.
This is Jim. He goes to school by bus.
This is Ken. He goes to school by train.
I go to school by bike.

ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันเดาความหมายของประโยค โดยดจู ากภาพประกอบ แล้วครเู ปิด CD ใหน้ กั เรียน
ฟงั อีก 2 ครั้ง และฝกึ อ่านออกเสียงตามพรอ้ มกนั แลว้ สุม่ เรียกนักเรียน 3 คน อา่ นประโยคบรรยายคน
ละ 1 ภาพ จากน้นั ให้นักเรยี นอา่ นประโยคข้อ 1-3 พรอ้ มกัน แล้วตอบว่าประโยคดงั กล่าวถูกหรือผิด
ถ้าถูกให้เขยี น T ถา้ ผิดใหเ้ ขยี น F ครใู ห้เวลาคดิ คาตอบ เสร็จแลว้ ช่วยกันเฉลย

1. F 2. T 3. F

3. ครูสอนประโยคบอกวิธกี ารเดินทางดว้ ยยานพาหนะตา่ งๆ โดยเขยี นโครงสร้างและตัวอย่างบนกระดาน
ดังน้ี

Subject + go/goes + to + (สถานท)่ี + by + (ยานพาหนะ).

เช่น - I go to Bangkok by bus.
- They go to school by train.
- He goes to the supermarket by car.

ครบู อกนักเรยี นว่า เม่ือเราพูดถงึ สิ่งทีท่ าเป็นประจา เชน่ กจิ วตั รประจาวนั ถา้ ประธานเป็น
เอกพจน์ เชน่ He, She นักเรียนอยา่ ลืมเติม s หรอื es ทา้ ยคากริยาดว้ ย
หมายเหตุ: ถา้ เราเดินทางดว้ ยการเดินให้ใช้ ‘on foot’ เชน่ She goes to the market on foot.
จากนั้นใหน้ ักเรียนอ่านตวั อย่างประโยคในหนังสือเรยี น หน้ำ 51 ข้อ 3 Match and say. พร้อมกนั
แลว้ ให้นกั เรียนดูภาพแสดงการเดินทางด้วยยานพาหนะตา่ ง ๆ ของตวั ละคร ครูถามนกั เรียนว่า
ถ้าตวั ละครเหลา่ นจ้ี ะเดนิ ทางจากบา้ นไปโรงเรียนของพวกเขา พวกเขาจะเดินทางกันโดยใช้
ยานพาหนะอะไร ใหน้ ักเรียนลากเส้นจากตัวละครไปยงั ยานพาหนะ จากนนั้ แต่งประโยคบอกวธิ กี าร
เดินทางไปโรงเรยี นของตัวละครแต่ละตัวลงในสมุด เมื่อทาเสร็จแล้วครสู ุ่มเรยี กนกั เรยี น 5 คน
อา่ นประโยคใหเ้ พ่ือนฟัง

May goes to school by bike.
Betty goes to school by bus.
Ben goes to school by car.
Anna goes to school by train.
Harry goes to school by boat.

4. ให้นกั เรียนอ่านประโยคคาถามและคาตอบเกีย่ วกบั การเดนิ ทางไปโรงเรยี นในหนังสือเรยี น หนา้ 51
กรอบ Remember! แล้วช่วยกันบอกโครงสรา้ งประโยคคาถามและคาตอบ แลว้ ครูเขียนโครงสรา้ ง
ประโยคให้นักเรยี นดูบนกระดาน ดงั น้ี

คาถาม: Does + (ประธานเอกพจน)์ + v.1?
คาตอบ: Yes, + he/she + does. / No, + he/she + doesn’t.

ครูเน้นย้าวา่ Does ใช้กบั ประธานทเ่ี ปน็ เอกพจนเ์ ท่านนั้ ประธานพหูพจน์ เชน่ you, they จะใช้ Do
เช่น Do they go to school by bus? Yes, they do./No, they don’t.
แล้วให้นักเรยี นอ่านตัวอยา่ งการถามและตอบในหนังสอื เรียน หนำ้ 51 ข้อ 4 Ask and answer.
จากนน้ั ให้นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพ่ือนพูดถาม-ตอบเกย่ี วกับการเดินทางไปโรงเรยี นของตวั ละครในขอ้ 3
ครยู ้ากบั นกั เรยี นวา่ คาถามขึน้ ตน้ ดว้ ย Does นกั เรยี นตอ้ งตอบ does และถ้าตอบปฏิเสธตอ้ งมี
not หลัง does เสมอ ครูให้นักเรยี นผลดั กันพูดถาม-ตอบจนครบทกุ ตัวละคร โดยครเู ดนิ สงั เกตการทา
กิจกรรม เพือ่ ดูว่านักเรยี นใช้โครงสรา้ งประโยคถกู ต้องหรือไม่ จากนน้ั ครูถามคาถาม ให้นักเรียน
ชว่ ยกนั ตอบ เช่น

Teacher: Does Betty go to school by bus?
Students: Yes, she does.
Teacher: Does Ben go to school by bike?
Students: No, he doesn’t.
แล้วครสู ุม่ เรยี กนกั เรียน 5 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบหนา้ ชนั้ เรยี น
5. นกั เรยี นอา่ นประโยคคาถามและคาตอบในหนงั สือเรียน หน้า 52 กรอบ Remember! เพ่อื ทบทวน
ประโยคคาถามเก่ยี วกับการเดินทางไปโรงเรียน ต่อมาครูให้นกั เรียนอ่านคาศัพทย์ านพาหนะ
ทก่ี าหนดให้ในหนังสือเรียน หน้ำ 52 ข้อ 5 Read, ask and answer. แล้วให้นักเรยี นอา่ นบท
สนทนาทใี่ หม้ า ครูถามนักเรยี นวา่ ตัวละครเหล่านอี้ ยู่ที่โรงเรียนหรอื เปลา่ และรู้ไดอ้ ย่างไร จากนั้นครู
บอกนักเรยี นว่า คาว่า go ในภาษาองั กฤษ กเ็ หมือนกับคาว่า ไป ในภาษาไทย ดงั นั้นถ้า Ben พูดถาม
เพอื่ นๆ วา่ Do you go to school by car? แสดงวา่ พวกเขาไม่ได้อยู่ท่ีโรงเรียนในขณะท่ีพดู กนั
แต่ตอนนน้ี ักเรยี นอยู่ท่โี รงเรยี น เวลาจะถามนกั เรยี นจะถามวา่ อยา่ งไรคะ (เธอมาโรงเรยี นอยา่ งไร)
ครถู ามนักเรียนวา่ มา ในภาษาอังกฤษ คือคาว่าอะไร จนได้คาตอบว่า come
เสรจ็ แล้วครูให้นักเรยี นฝกึ พูดถามและตอบกนั โดยเปลีย่ นจากคาว่า go เปน็ come เช่น
Sak: Do you come to school by car?
Wit: No, I don’t.
Sak: Do you come to school by bus?
Wit: Yes, I do.
6. นักเรียนคัดลอกตารางในหนังสือเรยี น หนำ้ 52 ข้อ 6 Ask your friends and tick the box.
ลงในสมดุ แล้วครูให้นกั เรยี นสารวจเพ่ือนร่วมชนั้ 4 คน ว่าโดยปกตแิ ลว้ พวกเขาเดินทางมาโรงเรยี น
ด้วยวิธใี ด ครยู า้ ใหน้ กั เรยี นใชค้ ากริยา come แทนคาวา่ go เพราะวา่ นักเรียนอยทู่ ่โี รงเรียนอยู่แล้ว
เสรจ็ แลว้ ให้นกั เรียนบนั ทกึ ผลสารวจลงในตาราง และเขยี นรายงานสรปุ ผลการสารวจ ครูสมุ่ เรียก
นักเรยี น 2-3 คน ยนื ข้ึนอ่านผลการสารวจของตนเอง

ตัวอย่าง
Suda comes to school by bus.
Malinee comes to school by car.
Wanlapa and Wattana come to school by bike.

7. นกั เรยี นอา่ นประโยคในกรอบสกรนี แลว้ เลอื กภาพท่ีมคี วามหมายตรงกบั ข้อความท่ีอา่ น โดยวงรอบ
ตัวอักษรใตภ้ าพท่ีกาหนดในหนังสือเรยี น หน้ำ 53 ข้อ 7 Read and match. เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรียก
นกั เรียน 1 คน พดู เฉลยคาตอบทถี่ ูกต้องใหเ้ พื่อนฟัง

a

8. ครใู ห้นักเรยี นทบทวนประโยคบอกตาแหน่งทตี่ ั้งของสถานท่ี และวธิ กี ารเดนิ ทางไปยังสถานท่ีนัน้ ใน
หนังสือเรียน หน้ำ 53 ขอ้ 8 Look at the picture and write about your school.
โดยให้นักเรยี นดูภาพและเขียนประโยค เมือ่ นักเรยี นทาเสร็จแลว้ ครูส่มุ เรยี กนักเรยี น 3-4 คน
ออกมาพูดประโยค เพ่ือเฉลยคาตอบใหเ้ พ่ือนฟัง

ตัวอยา่ ง
Hi! My name’s Aranya. This is my school. It is behind the cinema.
I come to school by bus.

9. ครูนาบตั รภาพรถไฟ มาแสดงใหน้ ักเรียนดู และพดู วา่ This is a train. ให้นักเรยี นออกเสียงตามครู
จากน้นั ครูหาภาพรถไฟฟ้า มาแสดงและพูดว่า This is also a train but we call it a BTS Sky
Train. Do you know how to use the BTS Sky Train? จากนนั้ ครนู าแผ่นปา้ ยกฎการใชร้ ถไฟฟา้
BTS มาติดให้นักเรียนดูบนกระดาน
DO’s and DON’Ts for Riding the BTS
1. Don’t drink.
2. Don’t eat.
3. Don’t smoke.
4. Don’t litter.
5. Don’t bring animals with you.
6. Don’t skateboard.
7. Don’t ride a bike.
8. Don’t make a loud noise.
9. Stand behind the yellow line (on the platform).

ครูให้นักเรยี นชว่ ยกันอธบิ ายความหมายของกฎการใชเ้ หล่าน้ี และช่วยกันบอกว่าประโยค
เหล่าน้ีเปน็ ประโยคชนดิ ใด (ประโยคคาสงั่ ) ครขู ีดเส้นใต้ทีค่ าแรกของประโยค และถามนักเรยี นวา่
ประโยคคาสั่งมีโครงสร้างประโยคเชน่ ใด (แบบบอกเลา่ ขึ้นต้นคากรยิ าชอ่ งท่ี 1 หรอื base form
แตถ่ า้ เป็นปฏเิ สธขน้ึ ต้นดว้ ย Don’t + คากรยิ าช่องที่ 1 หรือ base form) ในกรณที ่ีต้องการทาให้
ประโยคคาสั่งสุภาพขึ้น สามารถใช้ Please นาหน้าประโยคได้ ครูใหน้ กั เรยี นอ่านประโยคคาสงั่ บน
กระดานตามครู 1-2 ครง้ั จากนนั้ ให้นักเรยี นทางานคู่ คนหนึ่งเปน็ คนแสดงทา่ ทางทผี่ ดิ กฎการใช้
รถไฟฟ้า อีกคนพูดเตือนคนท่ีพดู เตือน ใหใ้ ชค้ าว่า please นาหน้าประโยคคาส่งั ดว้ ย เช่น

Student 1: (ทาทา่ น่ังกนิ อยูบ่ นรถไฟฟา้ )
Student 2: Please don’t eat.
ครูใหน้ กั เรียนผลดั กนั เป็นคนพูดและคนแสดงท่าทาง เสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรียกนกั เรียน 8-9 คู่ ออกมา
แสดงใหเ้ พ่ือนดทู ่ีหน้าช้ัน

 กิจกรรมรวบยอด
1. ครูนาแผน่ ป้าย (signs) ท่ตี ิดในสถานที่ต่าง ๆ มาใหน้ กั เรียนดู จากนัน้ ใหน้ ักเรียนเลือกประโยคคาส่ัง
ท่เี รียนมาคนละ 1 ประโยค และออกแบบแผน่ ปา้ ยมาคนละ 1 แผ่น
2. นกั เรยี นรวบรวมคาศัพทท์ ่ีเรยี นมาใน Unit 4 แลว้ เขยี นไวใ้ นสมดุ คาศัพท์ Your word book
โดยบันทกึ คาศัพทแ์ ยกตามหวั ข้อ ได้แก่ สถานที่และยานพาหนะ เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นวาด
ภาพประกอบคาศัพท์ และระบายสใี หส้ วยงาม และใหน้ ักเรียนหาคาศัพทเ์ ก่ียวกบั ยานพาหนะ
และสถานท่ีมาเพม่ิ หวั ขอ้ ละ 5 คา ครยู า้ ใหน้ ักเรยี นทอ่ งคาศัพท์อยา่ งสมา่ เสมอ
3. ใหน้ ักเรยี นดภู าพยานพาหนะในแบบฝกึ หัด หนำ้ 39 ข้อ 1 Look at the pictures and write
the words. แลว้ เขยี นคาศัพทท์ ่มี ีความหมายตรงกับภาพท่ีกาหนด เมื่อทาแบบฝึกหดั เสร็จแลว้
ครใู ห้นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ โดยครูสุม่ เรยี กนักเรยี นพูดเฉลยคาตอบคนละ 1 ข้อ หรือครอู าจ
ให้นักเรียนทาแบบฝกึ หัดนเ้ี ป็นการบา้ น

1. boat 2. bike 3. train
4. car 5. plane 6. bus

4. นักเรียนอา่ นคาศัพท์เกีย่ วกบั ยานพาหนะทีก่ าหนดใหใ้ นแบบฝึกหดั หน้ำ 39 ข้อ 2 Read and
match. แล้วโยงเส้นจับคคู่ าศพั ท์ให้สมั พนั ธก์ ับภาพ เสร็จแล้วครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบ
หรอื ครอู าจให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หัดนเ้ี ป็นการบ้าน

1. boat 2. bike 3. Car
4. bus 5. plane 6. train

5. ครูชีภ้ าพตวั ละครในแบบฝกึ หัด หนำ้ 40 ขอ้ 3 Follow the lines. Then complete
the sentences. ทลี ะภาพ แล้วใหน้ กั เรียนบอกครวู ่า เป็นใครบ้าง จากน้ันให้นักเรยี นลากเสน้ จากตัว
ละครไปตามเส้นทาง เพื่อหาวา่ พวกเขาไปที่ไหน และเดนิ ทางไปอย่างไร แลว้ ให้นักเรียนเติมประโยค
ให้สมบูรณ์ เสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ เรียกนักเรยี น 4 คน อ่านประโยคคนละ 1 ข้อ แลว้ ครูเขยี นเฉลยบน
กระดาน หรือครูอาจใหน้ กั เรียนทาแบบฝกึ หดั น้ีเป็นการบ้าน

1. Ben goes to the hospital by boat.
2. Anna goes to the zoo by bike.
3. Mark goes to the shop by bus.
4. Betty goes to the swimming pool by car.

6. นกั เรยี นอา่ นประโยคข้อ 1-4 ในแบบฝึกหัด หน้ำ 41 ขอ้ 4 Look at the pictures. Then read
the sentences and write the names. พรอ้ มกัน จากนัน้ ดภู าพ แลว้ พิจารณาว่า แตล่ ะประโยค
นา่ จะเปน็ คาพูดของใคร ครใู ห้นักเรยี นทางานคู่กบั เพ่ือนเพื่อช่วยกนั คดิ เสรจ็ แล้วครเู ฉลยคาตอบโดย
สมุ่ เรียกนกั เรยี น 4 คู่ ให้อ่านประโยค พร้อมบอกคาตอบ

1. Tim 2. Tony 3. Jane 4. Mary

7. ครใู หน้ ักเรยี นอา่ นประโยคในแบบฝกึ หัด หน้า 41 ขอ้ 4 โดยเปลยี่ น I เปน็ ชื่อบคุ คล และเปล่ยี น
คากรยิ าจาก go เปน็ goes ตามประธาน
Students: Tim goes to school by bus.
Tony goes to the supermarket by bike.
Jane goes to the hospital by car.
Mary goes to the zoo by train.
ในทา้ ยช่ัวโมงครใู หห้ วั หนา้ หอ้ งรวบรวมแบบฝึกหดั สง่ ครเู พื่อนาไปตรวจ และยา้ ให้นกั เรยี นไปท่อง
คาศัพทท์ เี่ รยี นไปแล้ว

7. การวัดและประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
- ประเมินการทาแบบทดสอบ

7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
- ประเมินการทาแบบฝึกหัด
- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรูใ้ นชว่ งการทากจิ กรรม

7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

7.4 การประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ แผ่นป้ายกฎการใช้รถไฟฟ้า BTS
- ประเมินการประดิษฐ์ชน้ิ งานเมอื งจาลอง

8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Smile ป. 3
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 3
3. Audio CD Smile ป. 3
4. พจนานกุ รม
5. ตกุ๊ ตาสตั ว์ 1 ตัว และกล่องกระดาษ
6. อนิ เทอร์เน็ต

บนั ทึกหลงั การสอน

ผลการจดั การเรยี นการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..................................................................
(นางสาวทัศนยี ์ ท้าวพยุง)
ผู้สอนและผบู้ นั ทึก

ขอ้ คดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ..................................................................
(นายอภชิ ัย สรุ เสน)

ผู้อานวยการโรงเรียนบ้านซับเจริญสขุ

แผนการจดั การเรยี นรู้
Unit 4: Around town (Lesson 2)

ช่ัวโมงที่ 5-6

1. สาระสาคญั

การเรยี นร้คู าศัพท์เกีย่ วกบั ยานพาหนะ และการใชป้ ระโยคในการถามและตอบเกยี่ วกบั วิธกี ารเดินทางไป
สถานท่ตี ่าง ๆ เป็นการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษเพื่อนาไปใชส้ ือ่ สารแลกเปลยี่ นข้อมูลในชวี ิตประจาวัน

2. ตวั ชวี้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- อา่ นออกเสียงและบอกความหมายคาศพั ท์เกย่ี วกบั ยานพาหนะได้
- ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านได้
- ถามและตอบเกี่ยวกบั วิธีการเดินทางไปยังสถานที่ตา่ ง ๆ ได้
- ใชป้ ระโยคคาส่งั ได้
- รอ้ งเพลงและเลน่ เกมตามท่ีกาหนดได้

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คาศัพท์เก่ียวกับยานพาหนะ
- พูดโต้ตอบด้วยคาสน้ั ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบุคคลตามแบบที่ฟงั เชน่ Excuse me.
Thank you.
- ประโยคคาสัง่ เชน่ Don’t drink.
- ประโยคถามและตอบเกีย่ วกับวธิ ีการเดินทางไปยังสถานทตี่ ่าง ๆ
A: Does he/she go to (สถานท่ี) by (ยานพาหนะ)?
B: Yes, he/she does./No, he/she doesn’t.
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเล่นเกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่าย ๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในห้องเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ท่เี ก่ยี วข้องใกล้ตัวจากสือ่ ต่าง ๆ

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทักษะการคดิ อย่างสร้างสรรค์

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์

- ใฝ่เรยี นรู้
- มงุ่ มัน่ ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

6.2 ชวั่ โมงที่ 5-6

 กจิ กรรมนำส่กู ำรเรยี น
1. ครทู ดสอบคาศัพท์เกีย่ วกบั ยานพาหนะท่ีนักเรียนได้เรียนมาแลว้ ใน Lesson 2 โดยแจกแบบทดสอบ
English Test (ดูที่ทา้ ยแผนฯ) ใหน้ ักเรียนคนละ 1 แผ่น ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบด้วยตนเอง
(self-assessment) โดยเขียนคาศัพทจ์ ากภาพให้ถูกต้อง เมือ่ นกั เรยี นทาเสร็จแลว้ ครูเขียนคาตอบ
บนกระดาน ใหน้ ักเรยี นตรวจแบบทดสอบของตนเองดว้ ยความซ่อื สัตย์ นักเรียนทที่ าถูก 3 ข้อขึ้นไป
ถอื วา่ ผา่ น

1. bus 2. plane 3. boat
4. bike 5. car 6. train

2. ครบู อกนักเรยี นว่า ในชว่ั โมงนี้จะเป็นการทบทวนสิง่ ที่นักเรียนได้เรยี นมาใน Lesson 1 และ Lesson 2
นอกจากน้นี ักเรยี นจะไดป้ ระดิษฐช์ ้นิ งานเมืองจาลอง รอ้ งเพลง และเล่นเกม

 กจิ กรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้
1. นักเรียนดูแผนผงั ท่ตี ้ังของสถานทต่ี ่างๆ ในหนังสือเรียน หน้ำ 54 ขอ้ 1 Look, ask and answer
with your friends. แลว้ อา่ นคาบุพบท 3 คา ที่กาหนดให้พรอ้ มกนั จากนัน้ ครนู ากล่องมา 2 ใบ
ใบหนงึ่ ติดปา้ ยวา่ supermarket อกี ใบหนึ่งติดป้ายวา่ bank จากน้นั ครูสุ่มเรยี กนักเรียนใหอ้ อกมาวาง
กลอ่ งตามตาแหนง่ ท่คี รูพูด เชน่ The supermarket is behind the bank. ครูสมุ่ เรียกนักเรียนอีก

หลายๆ คน มาทากจิ กรรมเช่นเดยี วกันโดยเปลี่ยนคาบพุ บท เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนจับคู่กันพดู ถาม-ตอบ
เกี่ยวกับทต่ี งั้ ของสถานทีต่ ่าง ๆ ในแผนผัง ซง่ึ ครูสนทนากบั นักเรยี น 1 คน เพื่อเปน็ ตวั อย่างโดยใชบ้ ท
สนทนาในหนงั สือเรยี น แลว้ ให้นักเรยี นผลัดกันพดู ถาม-ตอบ ครูเดนิ สังเกตการทากจิ กรรมและคอย
ชว่ ยเหลือนักเรียน แลว้ สุ่มเรียกนักเรียน 3 คู่ ออกมาพดู สนทนาหน้าชั้นเรียน เช่น

Jaran: Excuse me. Where’s the bank, please?
Metta: It’s next to the zoo.
Jaran: Thank you.
ครูย้ากบั นกั เรียนวา่ เมอื่ เราขอความช่วยเหลอื จากผู้อ่ืน ต้องไมล่ ืมพดู ขอบคุณ “Thank you.”
2. นกั เรยี นสงั เกตที่ตั้งของสถานทตี่ ่างๆ ในแผนผงั ในหนังสือเรยี น หน้ำ 55 ข้อ 2 Look, read and
mark or . แลว้ อา่ นประโยคข้อ 1-5 พร้อมกัน จากน้ันตอบว่าประโยคดังกลา่ วถูกหรือผิด
โดยทาเครอื่ งหมาย  ในชอ่ ง  ถา้ ประโยคถูก และทาเครื่องหมาย  ถ้าประโยคผิด เมื่อทาเสร็จ
แล้วครูเฉลยคาตอบ โดยครูอ่านประโยคทีละข้อ ให้นักเรยี นตอบวา่ True หรอื False

1.  2.  3.  4.  5. 

3. ครใู ห้นักเรียนดภู าพตัวละครและสถานท่ีในหนงั สือเรียน หน้ำ 56 ขอ้ 3 Listen and circle
the correct answer. แลว้ ครูถามว่า มีใครบา้ ง และพวกเขาจะไปท่ีไหน
Teacher: Who are they?
Students: Harry, Betty and May.
Teacher: Where do they go?
Students: (นักเรยี นดภู าพในหนังสือเรยี นและตอบ)
Harry goes to school.
Betty goes to the supermarket.
May goes to the swimming pool.
Teacher: Very Good!
จากน้นั ครบู อกว่า จะให้นักเรียนฟังวา่ พวกเขาเดนิ ทางไปสถานทดี่ งั กลา่ วอย่างไร แล้วครูเปดิ
CD/Track 36 ให้นกั เรียนฟัง 2 ครง้ั เพื่อวงคาตอบให้ถูกต้องตามท่ีได้ยนิ

Woman: Hi! Harry. How do you go to school?
Harry: Well, I go to school by car.

Woman: Hello, Betty. How do you go to the supermarket?
Betty: Umm, I go to the supermarket by boat.

Woman: Hello, May. How do you go to the swimming pool?
May: I go to the swimming pool by bike.

เสร็จแลว้ ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคาตอบโดยพดู เปน็ ประโยค เชน่
Students: Harry goes to school by car.

1. a 2. b 3. c

4. ให้นกั เรียนลากเสน้ ตามเสน้ ทางในหนังสอื เรยี น หนำ้ 56 ข้อ 4 Follow the lines. Then ask
and answer. เพื่อหาว่าตัวละครแต่ละตัวไปที่ไหน ด้วยวิธีใด เมื่อรแู้ ลว้ พดู บอกครเู ปน็ ประโยค ดังนี้
Students: Mark goes to the swimming pool by car.
Anna goes to the hospital by boat.
Ben goes to the shop by bus.
Betty goes to the zoo by bike.
จากนนั้ ให้นกั เรียนจบั คูก่ ับเพื่อน พูดถาม-ตอบเกย่ี วกบั การเดนิ ทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ของตัวละครแต่
ละตวั โดยใชร้ ปู แบบคาถามและคาตอบในหนังสือเรยี น หรือครูเขียนโครงสรา้ งให้นกั เรียนดบู น
กระดาน

A: Does + (ชื่อ) + go + to + the (สถานที่) + by + (ยานพาหนะ)?
B: Yes, he/she does./No, he/she doesn’t.

ครูบอกนักเรยี นว่า ใหเ้ ปล่ยี นคาถามเพื่อใหต้ อบท้ัง Yes และ No แล้วครเู ดินสังเกตขณะนักเรยี นทา

กจิ กรรม ครูสุ่มเรียกนักเรียน 4 คู่ ออกมาพูดถาม-ตอบหน้าชัน้ เรียน เชน่

. Danai: Does Anna go to the hospital by boat?

Patcha: Yes, she does.

 กจิ กรรมรวบยอด
1. ครูให้นักเรียนประดิษฐ์ชิน้ งานเมอื งจาลองในหนงั สือเรียน หนำ้ 57 Project time - Make a
town. โดยใหน้ ักเรียนเตรยี มอุปกรณ์มาจากบ้าน ได้แก่ กล่องกระดาษขนาดกลาง 1 กล่อง ดนิ สอ
ดินสอสี กาว กรรไกร แล้วครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 8 คน ใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่มประดษิ ฐ์
สถานท่ี จากกล่องกระดาษท่เี ตรียมมาคนละ 1 แหง่ ไมใ่ ห้ซา้ กนั โดยครอู ธิบายวธิ กี ารทา ดงั นี้
1) ตัดกล่องให้เปน็ รปู ทรงของสถานท่ตี ่าง ๆ เช่น รา้ นคา้ โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นตน้
ครูเพ่มิ เติมสถานท่ีให้นกั เรยี นนอกเหนือจากทเี่ รยี นมา เช่น pizza shop, restaurant
2) วาดส่วนประกอบของสถานท่ีตา่ ง ๆ เช่น หนา้ ต่าง ประตู หลงั คา และปา้ ยบอกสถานทีล่ งใน
กระดาษ A4 ที่ครูแจกให้ พร้อมระบายสีให้สวยงาม
3) ตดั สว่ นประกอบและปา้ ยบอกสถานที่ที่วาดและระบายสเี รียบร้อยแลว้ ออกมา ทากาว
แลว้ นาไปติดท่ีกลอ่ งทเี่ ตรียมไว้ และตกแตง่ ใหส้ วยงาม
4) ให้สมาชิกในกลุ่มนาผลงานมาจัดวางรวมกนั บนโต๊ะโดยสมมตใิ ห้เป็นเมอื ง 1 เมือง
จากน้นั ให้นกั เรยี นฝึกพดู สนทนาถาม-ตอบเก่ยี วกับทีต่ ั้งของสถานทตี่ า่ ง ๆ ภายในกลมุ่ โดยครู
กาหนดให้นักเรยี นตอ้ งถามและตอบคาถามอย่างนอ้ ยคนละ 1 คาถาม เชน่
Preeda: Look here! Where’s the hospital?
Pensri: It’s behind the shop.
2. ครูให้นักเรยี นจับคู่กันพดู ประโยคถาม-ตอบเพ่ือทบทวนเก่ยี วกับวิธกี ารเดนิ ทางไปยงั สถานทตี่ า่ ง ๆ
โดยครูบอกว่านักเรียนสามารถจินตนาการวธิ กี ารเดนิ ทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เหลา่ นั้น ใหต้ า่ งจากท่ีเปน็
จรงิ กไ็ ด้ เพ่ือเพ่มิ ความสนุกสนานในการทากิจกรรม และเพือ่ ให้นักเรยี นจดจาโครงสรา้ งประโยคได้
แมน่ ยาขึ้น ครูใหน้ กั เรยี น 1 คน พดู ถาม-ตอบกับครูเป็นตวั อย่าง เช่น
Teacher: Do you go to the hospital by helicopter?
Sama: Yes, I do.
Do you go to Japan on foot?
Teacher: No, I don’t.
ครูเดินสังเกตรอบๆ ชน้ั เรียนขณะนกั เรยี นทากจิ กรรม
3. ครูสอนนกั เรียนร้องเพลง I go to school by… ในหนังสือเรียน หนำ้ 58 ขอ้ 1 Sing along.
โดยครเู ปิด CD/Track 37 ให้นักเรียนฟงั 1 ครง้ั และดูเน้ือเพลงตามไปด้วย

I go to school by …
Do you go to school by car?
Yes, I do. I go to school by car, beep, beep, beep, beep.

Do you go to school by train?
No, I don’t. I go to school by bike, ding, ding, ding, ding.

Do you go to school by boat?
Yes, I do. I go to school by boat, toot, toot, toot, toot.

Do you go to school by bike?
Yes, I do. I go to school by bike, ding, ding, ding, ding.

Do you go to school by plane?
No, I don’t. I go to school by train, chug, chug, chug, chug.

WOW!
We all go to school.

ครเู ปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 ครงั้ และฝกึ ร้องเพลงตาม ให้นกั เรียนฝกึ ร้องเพลงจนร้องได้คล่อง
แล้วครสู อนนกั เรียนทาท่าประกอบ เชน่ รอ้ งท่อนท่ีมีคาว่า car ใหท้ าท่าขับรถ รอ้ งทอ่ นที่มคี าวา่ train
ใหต้ อ่ แถวกัน เปน็ ต้น สดุ ทา้ ยครูให้นกั เรยี นร้องเพลงและทาทา่ ประกอบดว้ ย
4. นกั เรยี นเลน่ เกมในหนังสือเรียน หน้ำ 59 Smile time ข้อ 2 Play the game. โดยครเู ตรยี ม
ลูกเตา๋ ให้นกั เรียน สว่ นกระดานทใี่ ช้เล่นเกมให้นักเรยี นใชใ้ นหนังสอื เรียน จากนน้ั ครูอธิบายวธิ กี ารเล่น
ดงั น้ี

1) กาหนดให้มีผเู้ ล่น 2-3 คน ต่อ 1 เกม ใหแ้ ต่ละคนใช้ตวั เดนิ ท่มี ีสแี ตกต่างกนั
2) ให้ผเู้ ล่นโยนลูกเตา๋ แล้วเดินไปตามชอ่ งเท่าจานวนบนลูกเต๋า ถา้ ไปหยุดที่ช่องใด ให้พูด

ประโยคบอกวิธกี ารเดินทางไปยังสถานทที่ ่เี ขียนไวใ้ นช่องน้ันตามภาพท่ีระบุ
3) ผ้ทู ่ีเดินไปถึงเส้นชัยเปน็ คนแรก เป็นผู้ชนะ
5. ครใู ห้นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียน หนำ้ 92 Language focus ใหน้ ักเรยี นดแู ละบอกครูว่าประโยคใด
เป็นประโยคท่นี ักเรยี นไดเ้ รียนในหน่วยที่ 4 ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบ

Where’s the zoo in your town? It’s behind the supermarket.
Do you go to school by car? Yes, I do./No, I don’t.
จากนนั้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ออกมาพดู ถาม-ตอบตามโครงสร้างประโยค ดงั กล่าว

6. ให้นักเรียนเรียงตวั อักษรที่กาหนดใหใ้ นแบบฝกึ หดั หน้ำ 42 ขอ้ 1 Unscramble the words.
Then write. ให้เปน็ คาศัพท์ทีถ่ ูกต้อง เมื่อทาเสรจ็ แลว้ ครูสุ่มเรยี กนักเรยี น 6 คน ออกมาเขยี นคาศพั ท์
บนกระดาน และครตู รวจทานอีกคร้ัง จากนั้นใหน้ ักเรยี นอา่ นคาศัพทพ์ ร้อมกนั เพ่ือเฉลยคาตอบ หรือ
ครูอาจใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัดนเ้ี ป็นการบา้ น

1. bus 2. car 3. boat
4. bike 5. plane 6. train

7. ใหน้ กั เรียนดูภาพในแบบฝกึ หัด หนำ้ 42 ขอ้ 2 Look, read and write. แลว้ บอกครูว่าเหน็ อะไร
ในภาพบ้าง
Teacher: What can you see in exercise 2?
Students: A zoo, a bank, a shop, a hospital and a car.
Teacher: Well done!
จากน้ันให้นกั เรยี นอ่านประโยคขอ้ 1-3 ในใจ แลว้ เติมคาลงในประโยคให้ถูกต้อง เมื่อทาเสร็จแลว้
ครสู มุ่ เรยี กนกั เรียน 3 คน อ่านประโยคคนละ 1 ขอ้ และออกมาเฉลยคาตอบบนกระดาน ครตู รวจสอบ
ความถูกตอ้ ง แลว้ ให้นักเรยี นอา่ นประโยคพร้อมกนั หรือครูอาจให้นกั เรยี นทาแบบฝึกหดั น้เี ปน็
การบา้ น

1. shop 2. hospital 3. bank

8. ให้นักเรียนทากิจกรรมในแบบฝกึ หัด หนำ้ 43 ข้อ 3 Follow the lines and write

the answers. โดยใชด้ ินสอลากตามเส้นประจากตัวละครมาหาชื่อ เพ่ือหาว่าแต่ละคนใชย้ านพาหนะ

ใดในการเดินทาง แล้วให้นกั เรียนพูดบอกครู ดังนี้

Ben - bike Betty - train Mark - bus

Anna - boat Harry - car

จากนั้นให้นกั เรียนอ่านคาถามและตวั อยา่ งคาตอบในข้อ 1 พรอ้ มกัน แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบคาถาม

ข้อทเ่ี หลือ เสร็จแล้วครอู า่ นคาถาม และสุ่มเรียกนักเรียน 4 คน ให้พดู เฉลยคาตอบ หรือครอู าจให้

นักเรยี นทาแบบฝึกหัดน้ีเปน็ การบา้ น

2. No, she doesn’t. 3. No, he doesn’t.
4. Yes, she does. 5. No, he doesn’t.

9. ครมู อบหมายให้นักเรยี นไปอา่ นคาศัพทใ์ นหนังสือเรยี น หน้า 61 มาก่อนล่วงหน้า และถา้ คาใดไมร่ ู้
ให้นกั เรยี นเปิดพจนานุกรมเพ่ือหาคาศพั ทม์ าก่อน

7. การวัดและประเมินผล

7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- ประเมินการทาแบบทดสอบ

7.2 การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาแบบฝึกหัด
- สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ในช่วงการทากิจกรรม

7.3 การประเมินหลังการเรยี น
- ประเมนิ การทาแบบทดสอบ
- ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

7.4 การประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมนิ การพูดถาม-ตอบเก่ียวกับวธิ ีการเดนิ ทางไปยงั สถานทีต่ ่าง ๆ
- ประเมินแผ่นป้ายกฎการใชร้ ถไฟฟา้ BTS
- ประเมนิ การประดิษฐช์ ้นิ งานเมืองจาลอง
- ประเมินการรวบรวมคาศัพท์ในสมดุ คาศัพท์ Your word book

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สอื เรียน Smile ป. 3
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 3
3. Audio CD Smile ป. 3
4. พจนานกุ รม
5. บตั รภาพยานพาหนะ
6. กล่อง 2-3 กลอ่ ง
7. อปุ กรณป์ ระดษิ ฐช์ ้นิ งานเมอื งจาลองและแผ่นป้าย

บันทกึ หลงั การสอน

ผลการจดั การเรยี นการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปญั หาและอปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ..................................................................
(นางสาวทศั นีย์ ท้าวพยงุ )
ผ้สู อนและผ้บู ันทกึ

ขอ้ คดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ..................................................................
(นายอภชิ ยั สรุ เสน)

ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านซบั เจริญสขุ

English Test

Write the words.

1.
2.

3.

4.

5.
6.

English Pre-Test

Choose the correct answer.

1. This is a .

a. bank b. zoo c. hospital d. swimming pool

2. Children go to the __________ to see animals.

a. school b. shop c. zoo d. supermarket

3. My house is __________ the hospital.

a. in b. next to c. in front of d. under

4. A: ________’s the bank? B: It’s behind the school.

a. What b. Where c. When d. Why

5. I go to school by .

a. car b. train c. boat d. bus

6. ________ me. Where’s the zoo?

a. Hello b. Help c. Please d. Excuse

7. Anne and May go to the swimming pool by .

a. train b. car c. plane d. bike

8. A: ________ you go to the supermarket by car? B: Yes, _____ do.

a. Do, I b. Are, I c. Do, you d. Did, you

9. A: Does Jane go to the bank by bus? B: ________

a. Yes, you do. b. Yes, I do. c. Yes, he does. d. Yes, she does.

10. A:______ Mike go to the shop by boat? B: Yes, ________ does.

a. Does, she b. Do, we c. Do, you d. Does, he

English Post-Test

Choose the correct answer.

1. ________________ Where is the bank, please?

a. Thank you. b. How are you? c. Nice to meet you.d. Excuse me.

2. Max and Mike go to China by .

a. plane b. boat c. bus d. train

3. The car is __________ the house.

a. in b. next to c. in front of d. under

4. My mother goes to the __________ to buy food.

a. zoo b. bank c. hospital d. supermarket

5. A: Where’s the bank? B: It’s ________ the hospital.

a. on b. next to c. in front of d. under

6. I ________ to the bank by car.

a. goes b. go c. going d. walk

7. My house is in front of the school. The school is _____ my house.

a. next to b. behind c. opposite d. under

8. Tina goes to Bangkok by .

a. bus b. train c. plane d. bike

9. A: ______ Mark go to the bank by boat? B: Yes, ________ does.

a. Does, she b. Do, we c. Do, you d. Does, he

10. A: Do you go to the shop by bike? B: ________

a. No, you don’t.b. No, we don’t. c. No, I don’t. d. No, he doesn’t.

แบบประเมินทักษะทางภาษา

วชิ าภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3

Lesson ………………………………….. กิจกรรม …………………………………..

คาชีแ้ จง ใหผ้ สู้ อนสงั เกตการใช้ทกั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขยี นระดับคะแนนลงใน

ตารางให้ตรงกับความสามารถของผเู้ รียน

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรงุ

เลข ชอ่ื -สกลุ ออกเสียง สะกดคา และบอกความหมาย สรปุ ผล
ท่ี ของคา ัศพ ์ท ่ีทเ ีรยนไ ้ด การประเมนิ
พูดสนทนาถาม-ตอบเ ่ีกยว ี่ทต้ังของ
สถาน ี่ทไ ้ด รวม
ใช้คา ุบพบท (prepositions) บอก คะแนน
ตาแห ่นง ่ีทตั้งในการพูดและเ ีขยนได้
ูพดสนทนาถาม-ตอบเกี่ยว ักบ ิว ีธการ ผ่าน ไมผ่ า่ น
เดินทางด้วย Yes-No questions ไ ้ด
ป ิฏ ับติตามคา ่ัสงไ ้ด ูถกต้อง

ลงช่ือ …………….…………………….. ผู้ประเมิน
การประเมิน: นกั เรียนท่ไี ดค้ ะแนน 10 คะแนนขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเตม็ 20)

แบบประเมินชิ้นงาน
คาช้ีแจง ใหผ้ สู้ อนตรวจช้ินงานของนักเรยี น โดยเขยี นระดับคะแนนลงในตารางให้ตรงกับ

ความสามารถของผู้เรียน
เกณฑ์การใหค้ ะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง

เลขที่ ชื่อ-สกลุ การนาเสนอผลงาน (ในภาพรวม) รวม สรปุ ผล
การเตรียมความพร้อมก่อนนาเสนอ คะแนน การประเมิน
(หรือความสา ัมค ีคในการทางาน)
ความ ูถก ้ตองของ ิ้ชนงาน ผ่าน ไมผ่ า่ น
ความเ ีรยบร้อยสวยงาม
ความ ิคดริเร่ิมสร้างสรร ์ค

ลงช่ือ ………….…………………….. ผ้ปู ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรยี นทไี่ ด้คะแนน 10 คะแนนขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ (คะแนนเตม็ 20)

คาชีแ้ จง ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ด้าน

ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด  ลงในชอ่ งว่าง

ใหต้ รงกับระดับคะแนน และตามความเป็นจริง โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนน ดงั น้ี
4 = พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนมาก และบ่อยคร้งั สมา่ เสมอ
3 = พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ
2 = พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบ่อยคร้งั
1 = พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั บิ างครง้ั

คณุ ลกั ษณะอัน รายการประเมนิ ระดับคะแนน
พงึ ประสงคด์ ้าน 4 32 1

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรัก และภูมใิ จในความเปน็ ชาติ

กษัตรยิ ์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมของศาสนา

1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภักดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์

2. ซ่ือสตั ยส์ จุ ริต 2.1 ปฏบิ ัติตามระเบียบการสอน และไมล่ อกการบา้ น

2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจริงตอ่ ตนเอง

2.3 ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงตอ่ ความเปน็ จรงิ ตอ่ ผอู้ น่ื

3. มวี นิ ัย 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา

3.2 แตง่ กายเรียบร้อยเหมาะสมกบั กาลเทศะ

3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของห้อง

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นร้ตู ่างๆ

4.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ

4.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตผุ ล

5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ และส่งิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

พอเพียง 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คณุ คา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน

6. ม่งุ มน่ั ในการ 6.1 มีความตัง้ ใจ และพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ทางาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรค เพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็

7. รักความเปน็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

ไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย

8. มจี ติ 8.1 รู้จกั การให้เพ่อื ส่วนรวม และเพ่อื ผู้อืน่

สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมีน้าใจหรือการให้ความชว่ ยเหลอื ผูอ้ นื่

8.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมบาเพ็ญตนเพอ่ื สว่ นรวมเม่ือมโี อกาส

โรงเรยี นบ้านซับเจรญิ สุข อาเภอซบั ใหญ่ จงั หวดั ชัยภมู ิ
สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชยั ภูมิ เขต 3

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ


Click to View FlipBook Version