The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanat.pho, 2023-03-04 06:49:42

รวมมิตร

รวมมิตร

สารบัญ 04 05 06 CONTENTS 11 14 18 ORGANIZING TEAM UNIVERSITY HISTORY SCIUS KU CLASS คณะผู้จัดทำ ประวัติมหาวิทยาลัย แนะนำ โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ในโรงเรียน โดยการกำ กับดูแลของ มหาวิทยาลัย (วมว.) สารบัญ บั เนื้อ นื้ หา นำ สู่เสู่ นื้อ นื้ หา CREATIVE DIRECTOR ผู้อำ นวยการสร้าง FROM THE EDITOR จากบรรณาธิการ SCHOOL HISTORY ประวัติโรงเรียน 1


สารบัญ 22 25 29 CONTENTS 32 35 36 ตลาดในระบบเศรษฐกิจ การกำ หนดราคาในระบบเศรษฐกิจ สารบัญ บั เนื้อ นื้ หา เนื้อ นื้ หาหลัก หลักเศรษฐศาสตร์ การกำ หนดราคา และค่าจ้างในระบบเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจ ราคาดุลยภาพ 2 42 38 การกำ หนดราคาเชิงกลยุทธ์ ตลาดแรงงาน หน่วยงานที่กำ หนดค่าจ้าง


สารบัญ 45 50 58 CONTENTS 76 90 99 สัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก คาเฟ่ดังในกาญจนบุรี โปเกม่อน & ชีววิทยา สารบัญ บั เนื้อ นื้ หา เนื้อ นื้ หาพิเพิศษ บทพูดดีๆจากภาพยนตร์ LGBTQIA+ Newjeans 68 Flowers world : Rose Queen of Flower 106 Little Safari 114 สัตว์เลี้ยงสุดแปลก 3


NAtthiya CREATIVE DIRECTOR ผผศศ..ณัณั ณั ฐณั ฐฐิฐิฐิญฐิญาา จิจิจิตจิตรรฉ่ำฉ่ำ ฉ่ำฉ่ำ อาจารย์ปย์ระจำ วิชวิาเศรษฐศาสตร์ โรงเรียรีนสาธิตธิแห่ง ห่ มหาวิทวิยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทวิยาเขตกำ แพงแสน ศูนย์วิย์จัวิยจัและพัฒพันาการศึกษา 4


Palm THE EDITOR นนาายยณณภัภั ภั ทภั ทรร เเลี้ลี้ ลี้ ยลี้ ยงงปปรระะไไพพพพรรรรณณ มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่11 คอลัมน์ สัตสัว์มีว์พิมีษพิที่อันตรายที่สุด สุ ในโลก 5


Boss ORGANIZING TEAM Prince นนาายยธธณณกกรร ววริริรินรินททร์ร์ ร์ร์ มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่ 22 คอลัมน์ ข้อ ข้ คิดดีๆดีจากภาพยนตร์ นนาายยธีธี ธี รธี รภัภั ภั ทภั ทรร ศศรีรี รี บุ รี บุบุญบุญรรออดด มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่ 44 คอลัมน์ LGBTQIA+ 6


Phone ORGANIZING TEAM Mynam e นน..สส..กกฤฤตตชชญญาา วิวิวิรุวิรุรุ ณ รุ ณาารัรั รั กรั กษ์ษ์ ษ์ษ์ มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่1155 คอลัมน์ คาเฟ่ดั ฟ่ งดัในกาญจนบุรี นนาายยธธนันั นั ฐนั ฐ โโพพธิ์ธิ์ธิ์ศธิ์ศรีรี รีรี มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่1188 คอลัมน์ NEWJEANS 7


nuea ORGANIZING TEAM tonwan นนาายยธีธี ธี ธัธี ธั ธั ชธั ช บุบุบุญบุญพพรรมมอ่อ่ อ่ ออ่ อนน มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่1199 คอลัมน์ โปเกม่อ ม่ น & ชีวชีวิทวิยา นน..สส..ปปวิวิวิตวิตรราา ปปริริริญริญญญาาปุปุปุ ณ ปุ ณโโณณ มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่ 2200 คอลัมน์ FLOWERS WORLD 8


Ori ORGANIZING TEAM นน..สส..พิพิพิมพิมพ์พ์ พ์ มพ์ มาาดดาา ธธรรรรมมโโชชติติติติ มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่ 2244 คอลัมน์ LITTLE SAFARI นนาายยววรรภภพพ จิจิจิรจิรศศาานนต์ต์ ต์ ชัต์ ชั ชั ยชั ย มม..55//66 เเลลขขที่ที่ ที่ที่ 2277 คอลัมน์ สัตสัว์เว์ลี้ยงสุด สุ แปลก Don 9


KASETSART KASETSART มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน 1 1


Kamphaeng Saen Campus สร้า ร้ งสรรค์ศาสตร์ แห่ง ห่ แผ่น ผ่ ดิน สู่สสู่ ากลเพื่อพื่พัฒพันา ประเทศอย่า ย่ งยั่งยั่ยืนยื Kasetsart University วิทวิยาเขตกำ แพงแสนของมหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อกำ เนิดนิเมื่อมื่วันวัที่ 2 กุมกุภาพันพัธ์ พ.ศ. 2486 โดยกำ เนิดนิเบื้อบื้งต้น จากความพยายามของ มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ ในอันที่จะสนองนโยบายของ รัฐรับาลในด้าด้นการพัฒพันา การเกษตรของประเทศ ในทุกทุ ๆ สาขา ตามแผนพัฒพันา เศรษฐกิจและ สังสัคมแห่งห่ชาติ 12


Q U E E N ' S F L O W E R พระอินทร์ผู้ร์ ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ มีอิทธิฤทธิ์มาก ช่วยคุ้มครองศัตรูหรือรืภัยอันตรายทั้งทั้ปวง ดอกไม้ประจำ โรงเรียน ดอกอินทนิล 13


การจัดจัการเรียรีนการสอนตามสมรรถฐาน ปฏิบัติบั ติการวิจัวิยจัก้าวนำ ไกลด้านวิชาวิการ SLOGAN เป็นป็สถาบันบัการศึกษาเพื่อพื่จัดจัการเรียรีนรู้ มุ่งมุ่สู่รสู่ ะดับอุดมศึกษา และฝึกประสบการณ์วิณ์ชวิาชีพชีครู IDENTITY โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำ แพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา KUSK 14


ในปี พ.ศ.2523 ทางมหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์มีร์นมี โยบายที่จะเปิดปิดำ เนินนิการ โรงเรียรีนสาธิตธิแห่งห่มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทวิยาเขตกำ แพงแสน เพื่อพื่จะได้สด้อดคล้องกับ แผนพัฒพันามหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์แร์ละเป็นป็การส่งส่เสริมริขยายงานทางด้าด้นการศึกษาระดับดั ประถมศึกษาและมัธมัยมศึกษาในชุมชนด้วด้ย ฉะนั้นนั้มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์จึร์งจึได้อด้นุมันุติมั ติให้ เปิดปิ โรงเรียรีนสาธิตธิแห่งห่มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ขึ้ร์ขึ้นขึ้ณ วิทวิยาเขตกำ แพงแสน ตั้งตั้แต่วันวัที่ 15 กรกฎาคม 2523 โดยให้คห้ณะศึกษาศาสตร์เร์ป็นป็ ฝ่ายรับรัผิดผิชอบในการจัดจัดำ เนินนิการเรียรีนการ สอน ดังดันั้นนั้คณะศึกษาศาสตร์จึร์งจึวางเป้าป้หมายที่จะให้โห้รงเรียรีนสาธิตธิเกษตรฯ วิทวิยาเขต กำ แพงแสนเป็นป็ศูนย์วิย์จัวิยจัและพัฒพันาการศึกษาที่จะทำ การวิจัวิยจัการศึกษาในระดับดั ประถมศึกษา และมัธมัยมศึกษาในเขตชนบทไปพร้อร้มกับการทดลองจัดจัการเรียรีนการสอนแบบสมรรถฐานและ การบริกริารทางวิชวิาการแก่ชุมชนด้วด้ย Kasetsart University Laboratory School Kamphaeng Saen Campus Educational Research and Development center 15


Objective Meeting Topic: Attendees: Kasetsart University Laboratory School Kamphaeng Saen Campus Educational Research and Development center Performance improvement search ปี พ.ศ.2523 โรงเรียรีนได้เด้ปิดปิดำ เนินนิ การจัดจัการเรียรีนการสอนในระดับดั ประถมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-3 มีนัมีกนัเรียรีน 12 คน โดยวางวัตวัถุปถุระสงค์ของโรงเรียรีน ดังดันี้ เพื่อพื่พัฒพันาการศึกษา วิจัวิยจัและทดลองทฤษฎีทางการศึกษา และจิตจิวิทวิยาการศึกษาที่เหมาะสมสำ หรับรัเขตพื้นพื้ที่ชนบท เพื่อพื่ การพัฒพันาการศึกษาชนบท เพื่อพื่การทดลอง วิจัวิยจัเกี่ยวกับหลักสูตสูรในระดับดั ประถมศึกษา และมัธมัยมศึกษาในการพัฒพันาอาชีพชีแขนงต่าง ๆ ให้ สอดคล้องกับพื้นพื้ภูมิภูปมิระเทศ เพื่อพื่เป็นป็แหล่งสาธิตธิและเผยแพร่ผร่ลงานการศึกษา เพื่อพื่การ พัฒพันาการศึกษาชนบทให้มีห้ ปมีระสิทสิธิภธิาพและจะเป็นป็ โรงเรียรีนที่ เป็นป็พี่เพี่ลี้ยงสำ หรับรัโรงเรียรีนในชนบทในพื้นพื้ที่ใกล้เคียง เพื่อพื่เป็นป็สถานที่สำ หรับรั ฝึกปฏิบัติบั ติงานของนิสินิตสิคณะศึกษา ศาสตร์ใร์นการฝึกปฏิบัติบั ติงานครู ฝึกหัดหัการสอนทดลองวิจัวิยจั เกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติบั ติการเรียรีนการสอนตามหลักวิชวิา เพื่อพื่เป็นป็สถานที่สำ หรับรักุลกุบุตร กุลกุธิดธิา ในท้องที่ชนบทที่จะ ศึกษาเลา่ เรียรีนตามระดับดัความสามารถทางสติปัญญา ความ ถนัดนัและความสนใจ ซึ่งซึ่จะเป็นป็การพัฒพันาบุคคลในชนบทให้ เป็นป็พลเมือมืงที่มีคุมีณคุภาพ พร้อร้มที่จะนำ ความรู้ ความคิด ความเข้าข้ใจในการแก้ปัญหา เพื่อพื่เสริมริสร้าร้งชีวิชีตวิและสังสัคมให้ ดีขึ้ดีขึ้นขึ้อันเป็นป็รากฐานของพลเมือมืงดี 16


TIMELINE ปี พ.ศ. 2532 โรงเรียรีนมีนัมี นักเรียรีนตั้งตั้แต่ชั้นชั้ ประถมศึกษาปีที่ 1-6 และชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ 1-6 ปี พ.ศ. 2534 ทางโรงเรียรีนได้รับรัอนุมัติมั ติจากสภามหาวิทวิยาลัย เกษตรศาสตร์ ให้จัห้ดจัการเรียรีนการสอนระดับอนุบาลศึกษาเพิ่มพิ่ขึ้นขึ้ ปี พ.ศ. 2546 มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ไร์ด้อนุมัติมั ติให้เห้ปลี่ยนชื่อชื่ โรงเรียรีนจากเดิมมาเป็นโรงเรียรีนสาธิตธิแห่งห่มหาวิทวิยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทวิยาเขตกำ แพงแสน ศูนย์วิย์จัวิยจัและพัฒพันาการ ศึกษา (Kasetsart University Laboratory School, Kamphaeng Saen Campus, Educational Research and Development Center) โดยมีฐมีานะเทียบเท่าภาควิชวิาใน คณะศึกษาศาสตร์ ปี พ.ศ. 2554 โรงเรียรีนได้รับรัอนุมัติมั ติจากกระทรวงวิทวิยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ให้ดำห้ ดำเนินการจัดจัการเรียรีนการสอนหลักสูตสูร ห้อห้งเรียรีนวิทวิยาศาสตร์ใร์นโรงเรียรีน ในระดับชั้นชั้มัธมัยมศึกษาตอน ปลาย โดยการสนับสนุนของกระทรวงวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี ในการกำ กับดูแดูลของมหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทวิยาเขต กำ แพงแสน ปี พ.ศ. 2555 มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อนุมัติมั ติให้โห้รงเรียรีน ดำ เนินงานโครงการจัดจัการเรียรีนการสอนตามหลักสูตสูรกระทรวง ศึกษาธิกธิารเป็นภาษาอังกฤษ (English Program) ปัจจุบันบั โรงเรียรีนสาธิตธิแห่งห่มหาวิทวิยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทวิยาเขต กำ แพงแสน จึงจึมีกมีารจัดจัการเรียรีนการสอนตั้งตั้แต่ชั้นชั้อนุบาลศึกษา ปีที่ 1 ถึงชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ 6 จำ นวน 52 ห้อห้งเรียรีน 17


กระทรวงวิทยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีและกระทรวงศึกษาธิกธิารได้ร่วร่มมือ กันในการดำ เนินงานโครงการสนับสนุนการจัดตั้งตั้ห้อห้งเรียรีนวิทยาศาสตร์ใร์น โรงเรียรีน โดยการกำ กับดูแลของมหาวิทยาลัย เป็นการสนับสนุนการจัดทำ หลักสูตรห้อห้งเรียรีนวิทยาศาสตร์สำร์สำหรับรันักเรียรีนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มี ความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีของโรงเรียรีนที่มีศักยภาพ และความพร้อร้ม โดยมีมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำ กับดูแลหลักสูตร การจัดการ เรียรีนการสอนของห้อห้งเรียรีนวิทยาศาสตร์ และให้กห้ารสนับสนุนการจัดการ ศึกษา กระทรวงวิทยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี จึงได้กำ หนดเลือกมหาวิทยาลัยที่ มีคณะและภาควิชาทางวิทยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี ซึ่งซึ่มีศักยภาพและความ พร้อร้มเพื่อเป็นมหาวิทยาลัยนำ ร่อร่งดำ เนินการในเรื่อรื่งนี้ ตั้งตั้แต่ปีการศึกษา 2551 โครงการสนับสนุนและจัดตั้งห้องเรียน วิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำ กับ ดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ความเป็น ป็ มา SCIUS 18


สนับนัสนุนนุการสร้าร้งฐานกำ ลังคนทางวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีที่ยี ที่ มี ศักยภาพตั้งตั้แต่ระดับดัมัธมัยมศึกษาตอนปลาย โดยร่วร่มมือมืกับโรงเรียรีนและ มหาวิทวิยาลัย สนับนัสนุนนุการจัดจัการศึกษาสำ หรับรัผู้เผู้รียรีนที่มีคมีวามสามารถพิเพิศษทาง วิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี และขยายฐานการศึกษาออกไปในวงกว้าว้ง ทางเครือรืข่าข่ยความร่วร่มมือมืระหว่าว่งหน่วน่ยงานที่เกี่ยวข้อข้งกับการพัฒพันา กำ ลังคนด้าด้นวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยี นักนัเรียรีนใหม่รม่ะดับดัมัธมัยมศึกษาตอนปลายที่ได้รัด้บรัการส่งส่เสริมริอัจฉริยริภาพ ด้าด้นวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีอยีย่าย่งถูกถูทางและเหมาะสม เพื่อพื่เป็นป็ฐาน กำ ลังคนที่จะพัฒพันาไปเป็นป็นักนัวิจัวิยจั ในอนาคต ขยายฐานการศึกษาสำ หรับรันักนัเรียรีนระดับดัมัธมัยมศึกษาตอนปลายที่มีคมีวาม สามารถพิเพิศษทางวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีอยีอกไปในวงกว้าว้ง และนำ ไปสู่ ระบบการผลิตกำ ลังคนทางวิทวิยาศาสตร์แร์ละเทคโนโลยีที่ยี ที่ มีคมีวามเข้มข้แข็งข็ เกิดเครือรืข่าข่ยความร่วร่มมือมื ในการส่งส่เสริมริการศึกษาด้าด้นวิทวิยาศาสตร์แร์ละ เทคโนโลยีสำยีสำหรับรัผู้มีผู้ คมีวามสามารถพิเพิศษฯ ระหว่าว่งกระทรวงวิทวิยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรียรีน และมหาวิทวิยาลัย OBJECTIVE ผลที่คาดว่าว่จะได้รับรั 19


โครงการวมว.เป็นป็ โครงการทุนทุสำ หรับรันักนัเรียรีนที่สนใจในด้าด้นของ วิทวิยาศาสตร์แร์ละการวิจัวิยจัทางด้าด้นของวมว.มก.นั้นนั้ก็จะเน้นน้ ไปใน ทางด้าด้นวิทวิยาศาสตร์กร์ารเกษตรและวิทวิยาศาสตร์กร์ารอาหารเป็นป็ด้าด้น เฉพาะของทางเกษตรศาสตร์ #เด็กด็ทุนทุ 20 January, 2023 From นักนัเรียรีนโครงการวมว. MyName With Love S C IUS KU เนื่อนื่งจากเด็กด็ โครงการวมว.ขึ้นขึ้ชื่อชื่ว่าว่เป็นป็เด็กด็ทุนทุที่ต้องเรียรีนหนักนั มีคมีวามกดดันดัมาก และทางโครงการนั้นนั้ ไม่ไม่ด้ผูด้กผูมัดมัอนาคตของเด็กด็ ไว้ใว้นสัญสัญา จึงจึมีเมีงื่อนไขในด้าด้นการเรียรีนที่ต้องทำ เกรดเฉลี่ยให้ มากกว่าว่เกณฑ์ คนส่วส่นใหญ่ชญ่อบมองว่าว่เด็กด็ทุนทุนั้นนั้มีโมีอกาสที่มากกว่าว่คนอื่น ได้ เรียรีนฟรีมีรีสมีวัสวัดิกดิารพร้อร้ม ทำ ให้คห้นส่วส่นมากนั้นนั้มองมาในแง่ลบ แต่ พี่ๆ พี่ เพื่อพื่นๆและน้อน้งๆที่อยู่ร่ยู่วร่มกันในโครงการนั้นนั้มีคมีวามสัมสัพันพัธ์ที่ธ์ ที่ แน่นน่แฟ้นฟ้เปรียรีบเสมือมืนครอบครัวรัช่วช่ยเหลือกันในทุกทุ ๆด้าด้น จึงจึ ทำ ให้กห้ารเป็นป็เด็กด็นักนัเรียรีนโครงการวมว.นั้นนั้เปรียรีบเสมือมืนได้มีด้ที่มี ที่ พักพั ใจ อีกแห่งห่หนึ่งนึ่ 20


หลักเศรษฐศาสตร์ การกำ หนดราคา และค่าจ้า จ้ ง ในระบบ เศรษฐกิจ money cost ห น่ ว ย ก า ร เ รี ย รี น รู้ ที่ 1 22


ทรัพยากรที่มี อยู่จำ กัด ความขาดแคลนทรัพยากร (Scarcity) ปัญหา ความต้อต้งการของ มนุษนุย์ที่ย์มีที่ ไมีม่จำม่จำกัดกั เศรษฐศาสตร์ หาทางออก เกิดกิภาวะไม่สม่มดุลดุ ทรัพรัยากรมีจำมีจำกัดกัเมื่อมื่เทียทีบกับกัความต้อต้งการของมนุษนุย์ที่ย์มีที่ ไมีร้ขีร้ดขีจำ กัดกั ระบบเศรษฐกิจกิกับ กั การจัด จั สรร ทรัพ รั ยากรในประเทศ ‘ ’ ทรัพรัยากรซึ่งซึ่เป็นป็สิ่งที่มีที่อมียู่ใยู่ นโลกและเป็นป็สิ่งที่มที่นุษนุย์ต้ย์อต้งนำ มาใช้เช้พื่อพื่บำ บัดบัความ ต้อต้งการนั้นนั้มีขีมีดขีจำ กัดกัดังดันั้นนั้แต่ลต่ะประเทศที่มีที่ ปมีระชาชนในประเทศเป็นป็เจ้าจ้ของ ทรัพรัยากรของประเทศร่วร่มกันกัต่าต่งต้อต้งการที่จที่ะนำ ทรัพรัยากรมาตอบสนอง ความต้อต้งการของตนให้ไห้ด้มด้ากที่สุที่สุด โดยมีกมีารเลือลืกใช้รช้ะบบเศรษฐกิจกิ เกิดกิขึ้น ขึ้ มาเพื่อพื่หาวิธีวิกธีารในการ จัดจัสรรหรือรืบริหริารจัดจัการ ทรัพรัยากรที่มีที่จำมีจำกัดกั ให้เห้กิดกิ ประโยชน์ คุ้มค่า และสนอง ความต้อต้งการของมนุษนุย์ใย์ห้ไห้ด้ มากที่สุที่สุด ซึ่งซึ่ก็คื ก็อการเสนอ แนวทางออกของปัญปัหาความ ขาดแคลนทรัพรัยากร เศรษฐศาสตร์ : การนำ ทรัพรัยากรธรรมชาติมติาใช้เช้พื่อพื่ สนองความต้อต้งการของมนุษนุย์ที่ย์ ไที่ม่ จำ กัดกั 23


ECONOMY ผลจากทรัพรัยากรที่มีที่จำมีจำกัดกัทำ ให้มห้นุษนุย์ไย์ม่สม่ามารถเลือลืกใช้ทช้รัพรัยากรได้ทั้ด้งทั้หมด การตัดตัสินใจเลือลืกจึงจึจำ เป็นป็ต้อต้งเกิดกิขึ้น ขึ้ และการตัดตัสินใจเลือลืกก็จำก็จำเป็นป็ต้อต้งเลือลืก เพียพีงหนทางเดียดีวที่มีที่คมีวามคุ้มคุ้ ค่าค่ที่สุที่สุด หรือรืเรียรีกว่าว่เกิดกิ "ประสิทธิภธิาพ" จึงจึ ทำ ให้มห้นุษนุย์ต้ย์อต้งเสียทางเลือลืกอื่นอื่ โดยเฉพาะทางเลือลืกที่มีที่ ปมีระสิทธิภธิาพมาก แต่ จำ เป็นป็ต้อต้งละทิ้งทิ้ ไป ซึ่งซึ่ในทางเศรษฐศาสตร์จร์ะเรียรีกว่าว่ "ต้นต้ทุนทุค่าค่เสียโอกาส" (Opportunity Cost) ดังดันั้นนั้ทั้งทั้ ในระดับดับุคบุคลและระดับดั ประเทศจึงจึจำ เป็นป็ต้อต้งคิดคิ หาวิธีวิกธีารที่จที่ะทำ ให้ตห้นเกิดกิต้นต้ทุนทุค่าค่เสียโอกาสต่ำ ที่สุที่สุด 24


ระบบเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจ EECCOONNOOMMYY 25


ระบบเศรษฐกิจกิแบบทุน ทุ นิยนิม ระบบเศรษฐกิจกินี้มี นี้ พัมีฒพันาการมาจากแนวคิดคิลัทลัธิเธิสรีนิรียนิมของบิดบิา วิชวิาเศรษฐศาสตร์ คือคือดัมดัสมิธมิซึ่งซึ่เสนอว่าว่ ในระบบเศรษฐกิจกิควร ลดบทบาทของรัฐรับาลให้น้ห้อน้ยที่สุที่สุด ต้อต้งการให้ภห้าคเอกชนมีบมีทบาทมากที่สุที่สุด ระบบเศรษฐกิจกิแบบสังคมนิยนิม ต้องการให้ภห้าคเอกชนมีบมีทบาทอยู่ แต่ รัฐรับาลควบคุมคุและแทรกแซงอยู่มยู่ าก การที่รัที่ฐรับาลเข้าไปแทรกแซงมากน้อน้ยขึ้นอยู่ กับระบอบการปกครอง ระบบเศรษฐกิจกิแบบผสม ต้องการให้ภห้าคเอกชนมีบมีทบาทมากโดยที่ รัฐรับาลสามารถเข้าไปแทรกแซงได้เด้ป็นป็บาง ครั้งรั้ ระบบเศรษฐกิจกิแบบผสมมา เพื่อดึงข้อดีของ ระบบเศรษฐกิจกิทั้งทั้ 2 ระบบนี้มาผสมให้เกิดกิ เป็นป็ระบบเศรษฐกิจกิที่คิดว่าว่ดีที่ดี ที่สุดกับกั ประเทศ ระบอบประชาธิปธิ ไตย รัฐรับาลเปิดปิ โอกาสให้ เอกชนได้มีด้ส่มี ส่วนเป็นป็เจ้าจ้ของปัจจัยจัการผลิตลิ ระบอบคอมิวนิสต์ รัฐรับาลเป็นป็เจ้าจ้ของ ปัจปัจัยจัการผลิตลิทั้งทั้หมด เอกชนไม่มี กรรมสิทธิ์ใธิ์นทรัพรัย์สิย์ สิน 1. 2. 26


THE MAIN COMPONENTS หน่วน่ยครัวรัเรือรืน หน่วน่ยธุรกิจ หน่วน่ยเศรษฐกิจที่เป็นป็ภาคเอกชน ผู้บผู้ ริโริภคสินสิค้า-บริกริารที่หน่วน่ย ธุรกิจผลิตขึ้นขึ้ โดยมีเมีป้าป้หมายเพื่อพื่ แสวงหาความพอใจสูงสูสุดสุจากการ บริโริภคสินสิค้า-บริกริาร ภายใต้งบ ประมาณที่มีจำมีจำกัด เจ้าจ้ของปัจจัยจัการผลิต จะเป็นผู้ เสนอขายปัจจัยจัการผลิตดังดักล่าวให้กัห้ กับ หน่วน่ยธุรกิจ โดยมีเมีป้าป้หมายเพื่อพื่ แสวงหาผลตอบแทนจากปัจจัยจัการ ผลิตที่มีใมีห้สูห้งสูสุดสุ ผู้ผผู้ ลิตสินสิค้า-บริกริารต่าง ๆ เพื่อพื่ จำ หน่าน่ยให้แห้ก่หน่วน่ยครัวรัเรือรืน โดยมีเมีป้าป้ หมายเพื่อพื่แสวงหากำ ไรสูงสูสุดสุ เจ้าจ้ของสินสิค้า-บริกริารที่ผลิตขึ้นขึ้ จากการซื้อซื้ปัจจัยจัการผลิตจากหน่วน่ย ครัวรัเรือรืนผู้เผู้ป็นเจ้าจ้ของปัจจัยจัการผลิต หน่วน่ยเศรษฐกิจที่เป็นป็ภาครัฐรับาล ทุกทุประเทศมีกมีารปกครองและมี รัฐรับาล ดังดันั้นนั้ทุกทุระบบเศรษฐกิจจึงจึมี หน่วน่ยเศรษฐกิจที่เป็นภาครัฐรับาล ซึ่งซึ่จะ เป็นผู้กำผู้ กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจ และเลือกใช้รช้ะบบเศรษฐกิจเพื่อพื่ดูแดูล และจัดจัสรรบทบาทของหน่วน่ยเศรษฐกิจ ที่เป็นภาคเอกชน ให้ดำห้ดำเนินนิ ไปอย่าย่งมี ประสิทสิธิภธิาพและเป็นธรรม 27


ระบบเศรษฐกิจแบบทุนทุนิยม เอกชน จะแก้ปัญหาโดยใช้กช้ลไกราคา การแก้ ปัญ ปั หา พื้น พื้ ฐาน 28 ระบบเศรษฐกิจแบบสังสัคมนิยม ประชาธิปธิ ไตย รัฐรับาลจะแก้ปัญหา มากกว่าว่เอกชนโดยใช้กช้ารวางแผน จากส่วส่นกลางและกลไกราคา เช่นช่ ประเทศอังกฤษ นอร์เร์วย์ สวีเวีดน ฟินฟิแลนด์ ระบบเศรษฐกิจแบบสังสัคมนิยม คอมมิวมินิสต์ รัฐรับาลจะแก้ปัญหาโดย ใช้กช้ารวางแผนจากส่วส่นกลาง เช่นช่ ประเทศจีนจีเกาหลีเหนือ คิวบา ระบบเศรษฐกิจแบบผสม รัฐรับาลและ เอกชนจะแก้ปัญหา ส่วส่นใหญ่เอกชนมี บทบาทมากกว่าว่ โดยใช้กช้ารวางแผน จากส่วส่นกลางและกลไกราคา เช่นช่ ประเทศไทย สหรัฐรัอเมริกริา ญี่ปุ่นปุ่


จำ แนกตามผลผลิต จำ แนกตามลักษณะการซื้อ ซื้ ขาย จำ แนกตามลักษณะการแข่งข่ขันขั ในทางเศรษฐศาสตร์ คำ ว่าว่ตลาด มีคมีวามหมายกว้าว้งกว่าว่นั้นนั้ กล่าล่วคือ ตลาดเป็นป็ขอบเขต การขายสินค้าค้ชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่งนึ่ที่ ผู้ซื้ผู้ อ ซื้ และผู้ขผู้ ายสามารถติดติต่อต่และทำ ความตกลงในการซื้อ ซื้ ขายแลกเปลี่ยลี่นกันกั ได้ ดังดันั้นนั้ตลาดในความหมายทาง เศรษฐศาสตร์จึร์งจึไม่ไม่ด้เด้น้นน้ถึงถึสถานที่ที่ที่ทำที่ทำการซื้อ ซื้ ขายกันกั ตลาดปัจปัจัยจัการผลิตลิ ตลาดสินค้า ตลาดการเงินงิ 1. 2. 3. ตลาดกลาง ตลาดค้าส่ง ตลาดค้าปลีกลี ตลาดซื้อ ซื้ ขายผ่าผ่นระบบอิเอิล็กล็ทรอนิกนิส์ 1. 2. 3. 4. 1.ตลาดแข่งข่ขีนขีสมบูรบูณ์ 2.ตลาดแข่งข่ขันขั ไม่สม่มบูรบูณ์ ซื้อซื้ขายปัจปัจัยจัการผลิตลิ ซื้อซื้ขายสินค้าค้ที่ผู้ที่ซื้ผู้ อซื้นำ ไปอุปอุโภคโดยตรง ซื้อซื้ขายทรัพรัย์สิย์ สินทางการเงินงิ ซื้อซื้ขายสินค้าค้ชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่งนึ่ โดยเฉพาะ ซื้อซื้ขายสินค้าค้ที่ผู้ที่ซื้ผู้ อซื้จะนำ ไปขายต่อต่ ในตลาดค้าค้ ปลีซื้กลีอซื้ขายสินค้าค้ที่ผู้ที่ซื้ผู้ อซื้นำ ไปอุปอุโภคโดยตรง ซื้อซื้ขายสินค้าค้ที่ส่ที่ ส่งข้อข้มูลมู โดยสื่ออิเอิล็กล็ทรอนิกนิส์ ตลาดที่มีที่กมีารแข่งข่ขีนขีกันกัอย่าย่งเต็มต็ที่ ระหว่าว่งผู้ซื้ผู้ อซื้และผู้ขผู้ าย ผู้ขผู้ ายหรือรืผู้ซื้ผู้ อซื้มีอิมีทอิธิพธิลในการกำ หนด ราคา,ปริมริาณการซื้อซื้ขายสินค้าค้ 29


ผู้ซื้ผู้ อ ซื้ และผู้ขผู้ ายจำ นวนมาก ไม่มีม่ มีmarket power ทุกทุคนคือคืprice taker homogeneous product perfect knowledge Free entry and perfect mobility 7 (อุดมคติ) ผู้ขผู้ ายและผู้ซื้ผู้ อ ซื้ ในตลาดจะต้องซื้อ ซื้ ขายสินค้าค้ ในราคาตลาด (Market Price) ซึ่ง ซึ่ เป็นป็ราคาดุลยภาพตลาด หรือรื ปฏิบัฏิติบัตติามราคาตลาด (Price taker) สินค้าที่มี ที่ ลัมีกลัษณะใกล้เล้คียงคือ สินค้าเกษตร ผู้ขผู้ ายมีจำมีจำนวนไม่มม่าก ลักลัษณะสินค้าไม่เม่หมือมืนกันกัทุกทุประการ สินค้าค้มีลัมีกลัษณะคล้าล้ยกันกัแต่ไต่ม่ เหมือมืนกันกั การเข้าข้หรือรืออกจากการผลิตลิทำ ได้ยด้าก ความรู้ใรู้นเรื่อ รื่ งการตลาดไม่สม่มบูรบูณ์ ทั้งทั้ผู้ซื้ผู้ อ ซื้ และผู้ขผู้ ายไม่มีม่คมีวามรู้เรู้รื่อ รื่ ง การตลาดหรือรืข้อข้มูลมูการตลาดอย่าย่งสมบูรบูณ์ทำณ์ทำให้รห้าคาแตกต่าต่งกันกั ตลาดแข่งข่ขันขั ไม่สม่มบูรบูณ์แณ์บ่งบ่ออกได้ 3 ตลาดคือคืตลาดผูกผูขาดแท้จท้ริงริตลาด ผู้ขผู้ ายน้อน้ยราย และตลาดกึ่ง กึ่ แข่งข่ขันขักึ่ง กึ่ ผูกผูขาด ตลาดผูกผูขาดอย่างแท้จท้ริงริ (Pure Monopoly Market) มีลัมีกลัษณะ สำ คัญคัของตลาด คือคืมีผู้มีผผู้ ลิตลิหรือรืผู้ขผู้ ายเพียพีงรายเดียดีว เรียรีกว่าว่ผู้ ผูกผูขาด (Monopolist), สินค้าค้ ไม่สม่ามารถหาสินค้าค้อื่น อื่ ใช้ทช้ดแทนได้ และผู้ ผลิตลิสามารถกีดกีกันกั ไม่ใม่ห้ผู้ห้อื่ผู้ น อื่ เข้าข้มาผลิตลิแข่งข่ขันขั ได้ จากลักลัษณะของ ตลาดที่ก ที่ ล่าล่วมาจะเห็นห็ ได้ว่ด้าว่ผู้ผูผู้ กผูขาดมีอำมีอำนาจในการกำ หนดราคา สินค้าค้ (Price Maker) หรือรืกำ หนดปริมริาณขาย (Price Searcher) อย่าย่ง ใดอย่าย่งหนึ่ง นึ่ ได้ตด้ามต้อต้งการ ตลาดผู้ขผู้ ายน้อน้ยราย (Oligopoly Market) หมายถึงถึตลาดที่ปที่ ระกอบ ด้วด้ยผู้ผผู้ ลิตลิหรือรืผู้ขผู้ ายตั้งตั้แต่ 2 รายขึ้น ขึ้ ไป แต่ไต่ม่ว่ม่าว่จำ นวนผู้ผผู้ ลิตลิหรือรืผู้ ขายในตลาดมีกี่มีร กี่ ายเมื่อ มื่ ใด เมื่อ มื่ ผู้ผผู้ ลิตลิรายใดรายหนึ่ง นึ่ ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกผูขาด (Monopolistic Competition Market) มี ลักลัษณะคือคืมีจำมีจำนวนผู้ขผู้ ายมาก ปราศจากสิ่งกีดกีขวางผู้ผผู้ ลิตลิรายใหม่ที่ม่ ที่ จะเข้าข้มาทำ การผลิตลิ, ไม่มีม่กมีารรวมตัวตักันกัของผู้ซื้ผู้ อ ซื้ หรือรืผู้ขผู้ าย และสินค้าค้ ของผู้ผผู้ ลิตลิแต่ลต่ะคนแตกต่าต่งกันกั 30


31


ภายใต้ระบบเศรษฐกิจกิแบบเสรีนิรียนิมหรือรืทุนทุนิยนิมกลไกราคาจะ เป็นป็เครื่อ รื่ งมือมืสำ คัญ ในการแก้ไก้ขปัญปัหาพื้น พื้ ฐานทางเศรษฐกิจกิ กล่าล่วคือ ราคาของสินค้าและบริกริาร จะเป็นป็เครื่อ รื่ งชี้ใชี้ ห้หห้น่วน่ย ธุรธุกิจกิตัดสินใจว่าว่จะผลิตลิสินค้าและบริกริารอะไรบ้าบ้ง อย่าย่งไร และ จำ นวนมากน้อน้ยเพียพีงใด ซึ่ง ซึ่ ในทางเศรษฐศาสตร์แร์ล้วล้ราคาจะ ถูกถูกำ หนดมาจากอุปอุสงค์และอุปอุทานของตลาด 32 ประเทศไทยใช้รช้ะบบเศรษฐกิจกิแบบผสม ทำ ให้ผู้ห้มีผู้ บมีทบาทหลักลั ในการกำ หนดราคามา จากทั้งทั้เอกชนและรัฐรั โดยรัฐรัเข้าข้แทรกแซงเพื่อ พื่ ความเป็นป็ธรรมต่อต่ทั้งทั้ผู้ผผู้ ลิตลิและผู้ บริโริภค ความต้อต้งการซื้อ ซื้ (wants) ลำ ดับดัแรกผู้บผู้ ริโริภคจะต้อต้งมีคมีวามอยากได้ใด้นสินค้าค้หรือรื บริกริารเหล่าล่นั้นนั้ก่อก่น ความเต็มต็ ใจที่จ ที่ ะจ่าจ่ย (willingness to pay) คือคืการที่ผู้ ที่ บผู้ ริโริภคมีคมีวามยินยิดีที่ดีจ ที่ ะยอม เสียสละเงินงิหรือรืทรัพรัย์สิย์ สินที่ต ที่ นมีอมียู่เยู่ พื่อ พื่ แลกเปลี่ย ลี่ นกับกัสินค้าค้หรือรืบริกริาร ความสามารถที่จ ที่ ะซื้อ ซื้ (purchasing power or ability to pay) ถือถืว่าว่เป็นป็องค์ ประกอบที่มี ที่ คมีวามสำ คัญคัถ้าถ้ ปราศจากความสามารถที่จ ที่ ะซื้อ ซื้ หรือรืจัดจัหามาแล้วล้การ ซื้อ ซื้ ขายจริงริๆจะไม่เม่กิดกิขึ้น ขึ้ นั่นนั่คือคืจะเป็นป็แต่เต่พียพีงความต้อต้งการที่มี ที่ แมีนวโน้มน้จะซื้อ ซื้ (potential demand) เท่าท่นั้นนั้ อุปสงค์ (DEMAND) หมายถึงถึ ปริมริาณความต้อต้งการซื้อ ซื้ สินค้าค้หรือรืบริกริารชนิดนิ ใด ชนิดนิหนึ่ง นึ่ ที่ผู้ ที่ บผู้ ริโริภคมีคมีวามเต็มต็ ใจที่จ ที่ ะซื้อ ซื้ และสามารถซื้อ ซื้ หามาได้ใด้นขณะใดขณะหนึ่ง นึ่ ณ ระดับดัราคาต่าต่งๆที่ต ที่ ลาดกำ หนดมาให้ การจะเกิดอุปอุสงค์ได้นั้ด้นนั้ ประกอบด้วด้ย 3 ส่วนที่สำที่สำคัญ คือ


DEMAND 33 ภายใต้ข้ต้อข้สมมติว่ติาว่ ปัจปัจัยจัตัวตัอื่น อื่ ๆที่มี ที่ ผมีลต่อต่อุปอุสงค์มีค์ค่มีาค่คงที่ (OTHER-THINGS BEING EQUAL) ปริมริาณอุปอุสงค์ขค์องสินค้าค้ชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่ง นึ่ จะมีคมีวามสัมพันพัธ์ ในทิศทิทางตรงกันกัข้าข้ม (ผกผันผั ) กับกัระดับดัราคาของสินค้าค้ชนิดนินั้นนั้ (INVERSE RELATION) กล่าล่วคือคืเมื่อ มื่ ราคาลดลงปริมริาณอุปอุสงค์จค์ะเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ และเมื่อ มื่ ราคา สูงขึ้น ขึ้ ปริมริาณอุปอุสงค์จค์ะลดลง ราคาสินค้าชนิดนิอื่นอื่ซึ่ง ซึ่ ขึ้น ขึ้ อยู่กัยู่ บกัว่าว่เป็นป็สินค้าค้ที่ใที่ ช้ปช้ระกอบกันกัหรือรื ใช้ทช้ดแทนกันกัเช่นช่ กาแฟกับกัน้ำ ตาลซึ่ง ซึ่ เป็นป็สินค้าค้ที่ใที่ ช้ปช้ระกอบกันกั (COMPLEMENTARY GOODS) เมื่อ มื่ ราคาของสินค้าค้ชนิดนิหนึ่ง นึ่ เพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ -ลดลง จะทำ ให้ปห้ริมริาณความต้อต้งการซื้อ ซื้ หรือรื อุปอุสงค์ใค์นสินค้าค้อีกอีชนิดนิหนึ่ง นึ่ ลดลง-เพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ ตามลำ ดับดัแต่ถ้ต่าถ้เป็นป็สินค้าค้ที่ใที่ ช้ทช้ดแทน กันกั (SUBSTITUTION GOODS) เช่นช่เนื้อ นื้ ไก่กัก่บกัเนื้อ นื้ หมู เมื่อ มื่ ราคาของสินค้าค้ชนิดนิหนึ่ง นึ่ เพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ -ลดลง จะทำ ให้ปห้ริมริาณความต้อต้งการซื้อ ซื้ หรือรือุปอุสงค์ใค์นสินค้าค้อีกอีชนิดนิหนึ่ง นึ่ เพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ -ลดลง ตามลำ ดับดั จำ นวนของประชากร เมื่อ มื่ ประชากรเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ -ลดลง ความต้อต้งการในสินค้าค้และ บริกริารต่าต่งๆก็จก็ะเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ -ลดลงตาม รสนิยนิมของผู้บผู้ ริโริภค ปริมริาณความต้อต้งการซื้อ ซื้ หรือรือุปอุสงค์ใค์นสินค้าค้ ใดๆขึ้น ขึ้ อยู่กัยู่ บกั กาลเวลา แฟชั่นชั่วัยวัเพศ ระดับดัการศึกษา ความชอบ ฯลฯ ซึ่ง ซึ่ เป็นป็รสนิยนิมของแต่ลต่ะ บุคบุคล ฤดูกดูาล เช่นช่ ในฤดูร้ดูอร้น อุปอุสงค์ใค์นผ้าผ้ห่มห่จะมีน้มีอน้ยลง ส่วนอุปอุสงค์ใค์นเครื่อ รื่ งปรับรั อากาศและ พัดพัลมจะมีเมีพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ วัฒวันธรรม ประเพณี เช่นช่ผู้บผู้ ริโริภคที่นั ที่ บนัถือถืศาสนาอิสอิลามจะไม่มีม่อุมี ปอุสงค์ใค์นเนื้อ นื้ หมู เลย การคาดคะเนราคาในอนาคตของผู้บผู้ ริโริภค กล่าล่วคือคืถ้าถ้ผู้บผู้ ริโริภคคาดว่าว่ ในอนาคต ราคาสินค้าค้จะสูงขึ้น ขึ้ ผู้บผู้ ริโริภคก็จก็ะมีอุมี ปอุสงค์ใค์นสินค้าค้เหล่าล่นั้นนั้ ในปัจปัจุบัจุนบัเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้


34 SUPPLY ริมริาณอุปอุทานของสินค้าค้ชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่ง นึ่ จะเปลี่ย ลี่ นแปลงไปในทิศทิทางเดียดีวกันกั กับกัราคาของสินค้าค้ชนิดนินั้นนั้กล่าล่วคือคืเมื่อ มื่ ราคาสินค้าค้สูงขึ้น ขึ้ ปริมริาณอุปอุทานจะ เพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ ราคาสินค้าค้และบริกริารในขณะนั้นนั้ๆ (กฎของอุปอุทาน) ต้นต้ทุนทุการผลิตลิที่เ ที่ ปลี่ย ลี่ นแปลง (วัตวัถุดิถุบดิ ) เทคโนโลยีกยีารผลิตลิที่นำ ที่ นำมาใช้ ฤดูกดูาล สภาวะของตลาดและภาวะเศรษฐกิจกิในขณะนั้นนั้ การคาดคะเนการขึ้น ขึ้ ลงของราคาสินค้าค้และบริกริารของผู้ผผู้ ลิตลิ (การเกิดกิกำ ไร) จำ นวนผู้ผผู้ ลิตลิที่เ ที่ ป็นป็คู่แคู่ ข่งข่ (ราคาสินค้าค้และบริกริารชนิดนิเดียดีวกันกัที่มี ที่ กมีารแข่งข่ขันขักันกั ) อุปอุทาน (SUPPLY) หมายถึงถึปริมริาณความต้อต้งการเสนอขายสินค้าค้หรือรืบริกริารชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่งนึ่ที่ผู้ที่ผผู้ ลิตลิหรือรืผู้ปผู้ ระกอบการมีคมีวามเต็มต็ ใจที่จที่ะเสนอขาย และสามารถจัดจัหา มาขายหรือรื ให้บห้ริกริารได้ใด้นขณะใดขณะหนึ่งนึ่ณ ระดับดัราคาต่าต่งๆที่ตที่ลาดกำ หนดมาให้


7 equilibrium price ราคาดุลยภาพ 35 ราคาดุลดุยภาพ หมายถึงถึระดับดัราคาสินค้าค้ที่ผู้ ที่ ซื้ผู้ อ ซื้ และผู้ขผู้ าย มีคมีวามพอใจตรงกันกัเป็นป็ราคาที่ทำ ที่ ทำให้จำห้จำนวนเสนอซื้อ ซื้ (อุปอุสงค์)ค์เท่าท่กับกัจำ นวนเสนอขาย (อุปอุทาน) ปริมริาณดุลดุยภาพ หมายถึงถึ ปริมริาณของความต้อต้งการ ขายสินค้าค้และปริมริาณความต้อต้งการซื้อ ซื้ สินค้าค้ของผู้ผผู้ ลิตลิ และบริโริภคตรงกันกัทำ ให้สิห้ สินค้าค้หมดพอดี อุปอุสงค์ = อุปอุทาน อุปอุสงค์ส่ค์ ส่วนเกินกิและอุปอุทานส่วนเกินกิมีค่มีาค่เป็นป็ 0 อุปอุสงค์ส่วนเกิน หมายถึงถึภาวะที่ อุปอุสงค์มค์ากกว่าว่อุปอุทาน ทำ ให้สิห้ สินค้าค้ขาด ตลาด สามารถปรับรัตัวตัเข้าข้สู่ดุลดุยภาพ โดยทำ ให้รห้าคาเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ แล้วล้อุปอุสงค์จค์ะลด ลง อุปอุทานจะเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ จนเข้าข้สู่จุดจุดุลดุยภาพ อุปอุสงค์ส่วนเกิน หมายถึงถึภาวะที่ อุปอุสงค์มค์ากกว่าว่อุปอุทาน ทำ ให้สิห้ สินค้าค้ขาด ตลาด สามารถปรับรัตัวตัเข้าข้สู่ดุลดุยภาพ โดยทำ ให้รห้าคาเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ แล้วล้อุปอุสงค์จค์ะลด ลง อุปอุทานจะเพิ่มพิ่ขึ้น ขึ้ จนเข้าข้สู่จุดจุดุลดุยภาพ


ผู้ผผู้ ลิตลิผู้บผู้ ริโริภค ผลดี ช่วช่ยกระตุ้นยอดขาย ขยายตลาด สร้าร้งทางเลิอกให้ผู้บริโริภค ได้สินค้าที่พอใจสูงสุด ผลเสีย อาจทำ ลายภาพลักษณ์สินค้า การบริโริภคที่มากเกินจำ เป็น กลยุทยุธ์รธ์าคาเลขคี่ (Odding Pricing) กลยุทยุธ์สธ์ร้าร้งระดับดัราคา (Price Lining) กลยุทยุธ์ตั้ธ์งตั้ราคาแบบยอมขาดทุนทุ(Loss Leader Pricing) กลยุทยุธ์ตั้ธ์งตั้ราคาตามกลุ่มลุ่ ผู้บผู้ ริโริภค (Pricing by Type of Customer) กลยุทยุธ์ตั้ธ์งตั้ราคาตามช่วช่งเวลา (Time Pricing) กลยุทยุธ์ตั้ธ์งตั้ราคาตามทำ เลที่ตั้ที่งตั้ (Location Pricing) กลยุทยุธ์ตั้ธ์งตั้ราคาชุดชุผลิตลิภัณ์ภั ณ์(Produce Set Pricing) กลยุทยุธ์ทุ่ธ์มทุ่ ตลาด (Dumping Pricing) กลยุทยุธ์เธ์จาะตลาด (Penetration Pricing) การกำ หนดราคาเชิง ชิ กลยุทธ์ โดยเอกชน ผู้ขผู้ าย ราคา 1) เป้าหมาย ขายสินค้าค้ ให้ไห้ด้มด้ากที่สุที่สุด -> กำ ไรมาก ให้สิห้ สินค้าค้เป็นป็ที่ติที่ดติตลาด -> ชิงชิส่วนแบ่งบ่การตลาด สามารถชิงชิส่วนแบ่งบ่การตลาดได้มด้ากที่สุที่สุด ผู้บผู้ ริโริภคเชื่อชื่มั่นมั่ ในยี่ห้ยี่อห้นั้นนั้มากที่สุที่สุด ครองตลาด ราคาของสินค้าค้อาจไม่จำม่จำเป็นป็ต้อต้งอยู่ใยู่ นระดับดัดุลดุยภาพเสมอไปผู้ขผู้ ายจะใช้กช้ลยุทยุธ์รธ์าคาต่าต่งๆเพื่อพื่เพิ่มพิ่อำ นาจ ในการกำ หนดราคาตามต้อต้งการ 2) ปัจปัจัยจั ต้นต้ทุนทุการผลิตลิ หากมีต้มีนต้ทุนทุการผลิตลิสูงขึ้นขึ้ผู้ขผู้ ายมักมัจำ เป็นป็ ต้อต้งกำ หนดราคาสูงขึ้นขึ้แต่หต่ากยังยั ไม่ขม่าดทุนทุผู้ ขายส่วนใหญ่มัญ่กมัคงระดับดัราคาไว้ ราคาสินค้าค้ ในตลาด การแข่งข่ขันขั ภาวะตลาดของสินค้าค้ที่จที่ะขาย 36 3) กลยุทยุธ์รธ์าคา 4) ผลกระทบ


บทบาทของรัฐ รัในการแทรกแซงราคา และการควบคุม คุ ราคา 37 หากราคาดุลดุยภาพที่เที่ ป็นป็อยู่นั้ยู่ นนั้สูงเกินกิ ไปจนทำ ให้ผู้ห้บผู้ ริโริภคได้รัด้บรัความเดือดืดร้อร้น เพราะเป็นป็ สินค้าค้ที่จำที่จำเป็นป็สำ หรับรัผู้บผู้ ริโริภค รัฐรัจะแทรกแซงด้วด้ยการกำ หนดราคาเพดานไว้โว้ดยเป็นป็ราคาที่ ต่ำ กว่าว่ราคาดุลดุยภาพเพื่อพื่ช่วช่ยให้ผู้ห้บผู้ ริโริภคสามารถซื้อซื้สินค้าค้ ได้ใด้นราคาที่ถูที่กถูลง หากรัฐรั ไม่ แทรกแซงอาจนำ ไปสู่ภาวะ เงินงิเฟ้อฟ้อย่าย่งรุนรุแรงได้ เกิดกิภาวะอุปอุสงค์ส่ค์ ส่วนเกินกิซึ่งซึ่ส่งผลให้สิห้ สินค้าค้ขาดตลาดในที่สุที่สุด ผู้บผู้ ริโริภคก็จก็ะเดือดืดร้อร้น จากภาวะที่ขที่าดแคลนสินค้าค้ ในการบริโริภค รัฐรับาลจึงจึต้อต้งมีมมีาตรการแก้ปัก้ญปัหาด้วด้ยการ “ปันปัส่วน สินค้าค้ ” (RATIONING) คือคืการที่รัที่ฐรัจัดจัสรรสินค้าค้ ให้ปห้ระชาชนซื้อซื้ ไปบริโริภคตาม ความจำ เป็นป็ ได้อด้ย่าย่งทั่วทั่ถึงถึ เกิดกิภาวะตลาดมืดมื (BLACK MARKET) เมื่อมื่รัฐรับาลไม่สม่ามารถควบคุมคุการปันปัส่วนสินค้าค้ ได้ ทำ ให้เห้กิดกิการลักลัลอบขายสินค้าค้กันกั ในราคาที่สูที่สูงกว่าว่ราคาขั้นขั้สูงที่รัที่ฐรับาลกำ หนด ซึ่งซึ่ เกิดกิจากการตกลงกันกัระหว่าว่งผู้ซื้ผู้ อซื้และผู้ขผู้ าย แต่รต่าคาที่ซื้ที่อซื้ขายกันกั ในตลาดมืดมืก็มัก็กมัจะต่ำ กว่าว่ราคาดุลดุยภาพ หากราคาดุลดุยภาพที่เที่ ป็นป็อยู่นั้ยู่ นนั้เกินกิ ไปจนทำ ให้ผู้ห้ผผู้ ลิตลิเดือดืดร้อร้นเนื่อนื่งมาจากปริมริาณ ผลผลิตลิมีมมีากกว่าว่ความต้อต้งการของตลาด ทำ ให้รห้าคาผลผลิตลิตกต่ำ โดยเฉพาะผลผลิตลิ ทางการเกษตร รัฐรับาลจึงจึต้อต้งเข้าข้แทรกแซงด้วด้ยการกำ หนดราคาที่สูที่สูงกว่าว่ราคาดุลดุยภาพ เดิมดิเพื่อพื่ช่วช่ยเหลือลืผู้ผผู้ ลิตลิ ไม่ใม่ห้ไห้ด้รัด้บรัผลกระทบจากราคาที่ตที่กต่ำ มากจนเกินกิ ไป เกิดกิภาวะอุปอุทานส่วนเกินกิซึ่งซึ่ส่งผลให้สิห้ สินค้าค้ที่ผที่ลิตลิออกมาเหลือลืล้นล้ตลาด รัฐรับาลจึงจึต้อต้ง รับรัซื้อซื้ผลผลิตลิส่วนเกินกิทั้งทั้หมดในราคาประกันกัเรียรีกว่าว่การพยุงยุราคา (PRICE SUPPORT) ทำ ให้รัห้ฐรับาลต้อต้ง รับรัภาระเป็นป็อย่าย่งมาก โดยเฉพาะเรื่อรื่งงบประมาณที่รัที่ฐรั ต้อต้งช่วช่ยเป็นป็จำ นวนมาก เพื่อพื่รับรัซื้อซื้ผลผลิตลิส่วนเกินกินอกจากนี้รันี้ฐรัยังยัต้อต้งมีโมีกดังดัยุ้งยุ้ ฉาง หรือรื ไซโล เพื่อพื่เก็บก็รักรัษาพืชพืผลไว้ใว้นระยะหนึ่งนึ่ก่อก่นนำ ออกขาย รัฐรับาลอาจต้อต้งใช้มช้าตรการให้เห้งินงิอุดอุหนุนนุ (PRICE SUBSIDY) โดยรัฐรัจะปล่อล่ยให้ผู้ห้ผผู้ ลิตลิ ขายสินค้าค้ที่ผที่ลิตลิ ในราคาที่จที่ะทำ ให้ขห้ายสินค้าค้ ได้ทั้ด้งทั้หมด แต่รัต่ฐรัจะจ่าจ่ยเงินงิชดเชยให้กัห้บกัผู้ ผลิตลิที่ขที่ายไปเท่าท่กับกัส่วนต่าต่งของราคาที่ขที่ายไปกับกัราคาที่รัที่ฐรั ประกันกั ไว้


ตลาดแรงงาน 38 ตลาดแรงงานเป็นป็ตลาดปัจจัยจัการผลิตหนึ่งที่สำ คัญมาก เพราะการผลิต ทุกประเภทจำ เป็นป็ต้องใช้แช้รงงาน แต่จะมากน้อยต่างกันไป ดังนั้นแรงงานจึงจึ ถือว่าเป็นป็เรื่อรื่งจักจัร ที่สำ คัญประการหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้ ดำ เนินไปได้ ในตลาดแรงงานจะมีกลไกไปในทำ นอง เดียวกับตลาดสินค้าและ บริกริารต่างกันที่ในตลาดสินค้า และบริกริารจะมี “ราคา” เป็นป็ตัวกำ หนดปริมริาณ เสนอ ซื้อ ซื้ ขายสินค้าในตลาด แต่ในตลาดแรงงานจะมี “ค่าจ้าจ้ง” เป็นป็ตัวกำ หนด ปริมริาณซื้อ ซื้ ขายแรงงาน ดังนั้น การทำ งานของตลาดแรงงานจึงจึมี “กลไก ตลาด เข้ามาเช่นช่เดียวกับกลไกราคาในตลาดสินค้าและบริกริาร ตลาดแรงงาน ค่าค่จ้าจ้ง อุปอุสงค์แค์รงงาน อุปอุทานแรงงาน ความต้องการเสนอ เป็นป็แรงงาน ความต้องการเจ้าจ้ง แรงงาน ค่าจ้าจ้งที่ทั้งนายจ้าจ้งและลูกจ้าจ้งพอใจ ค่าจ้าจ้งดุลยภาพ ต้อต้งการให้เห้กิดกิ


การแทรกแซงกลไกตลาด ในตลาดแรงงาน 39 การกำ หนดอัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ คือคืการที่รัที่ฐรักำ หนดค่าค่จ้าจ้งใหม่ที่ม่สูที่สูงกว่าว่ค่าค่จ้าจ้งดุลดุยภาพเดิมดิซึ่งซึ่ผู้ผผู้ ลิตลิจะ ว่าว่จ้าจ้งแรงงานโดยให้อัห้ตอัราค่าค่จ้าจ้งต่ำ กว่าว่อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ นี้ไนี้ม่ไม่ด้ เพราะมีผมีลบังบัคับคั ใช้ตช้ามกฎหมาย รัฐรัแทรกแซงด้วด้ยการกำ หนดอัตอัราค่าจ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ จากแผนภาพจะเห็นห็ ได้ว่ด้าว่อัตอัราค่าค่จ้าจ้งดุลดุยภาพอยู่ ที่ P0 ซึ่งซึ่รัฐรัเห็นห็ว่าว่ต่ำ เกินกิ ไปเมื่อมื่เทียทีบกับกัภาวะค่าค่ครอง ชีพชี ในขณะนั้นนั้รัฐรัจึงจึต้อต้งกำ หนดอัตอัราค่าค่จ้าจ้งใหม่ที่ม่สูที่สูง กว่าว่ค่าค่จ้าจ้งดุลดุยภาพเดิมดิเท่าท่กับกั P1 ซึ่งซึ่อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ ต่ำ ทำ ให้อุห้ ปอุสงค์แค์รงงานเท่าท่กับกั Q1 แต่อุต่ ปอุทานแรงงาน อยู่ที่ยู่ ที่Q2 จึงจึทำ ให้เห้กิดกิภาวะอุปอุทานแรงงาน ส่วนเกินกิ เท่าท่กับกั AB นั่นนั่หมายความว่าว่มีปมีริมริาณเสนอขาย แรงงานมากกว่าว่ ปริมริาณจ้าจ้งแรงงาน จึงจึก่อก่ ให้เห้กิดกิ ปัญปัหาว่าว่งงานตามมาเท่าท่กับกั Q1 Q2 รัฐรัจึงจึจำ เป็นป็ ต้อต้งหามาตรการแก้ไก้ขปัญปัหาการว่าว่งงานอีกอีต่อต่ ไป การแทรกแซงจากสหภาพแรงงาน (Trade Union) สหภาพแรงงาน คือคืสมาคมซึ่งซึ่ลูกลูจ้าจ้งคนงานที่มีที่รมีะดับดัต่ำ กว่าว่ระดับดับริหริารร่วร่มกันกัจัดจัตั้งตั้ขึ้นขึ้เพื่อพื่ แสวงหาและคุ้มคุ้ ครองผลประโยชน์ที่น์เที่กี่ยกี่วกับกัสภาพการจ้าจ้งงาน นอกจากนี้ยันี้งยัเน้นน้การส่งเสริมริ “แรงงานสัมพันพัธ์”ธ์คือคืความสัมพันพัธ์อัธ์นอัดีรดีะหว่าว่งนายจ้าจ้งกับกัลูกลูจ้าจ้ง และลูกลูจ้าจ้งด้วด้ยกันกัเอง เมื่อมื่สหภาพแรงงานเป็นป็ตัวตัแทนของแรงงานที่ไที่ด้รัด้บรัผลกระทบจากระดับดัค่าค่จ้าจ้งดุลดุยภาพ ทำ ให้ สหภาพแรงงานอาจต่อต่รองค่าค่จ้าจ้งกับกันายจ้าจ้งได้มด้ากขึ้นขึ้ซึ่งซึ่วิธีวิที่ธีนิที่ยนิมใช้ เช่นช่การเรียรีกร้อร้งให้ขึ้ห้นขึ้ค่าค่จ้าจ้ง เพียพีงอย่าย่งเดียดีว ซึ่งซึ่กรณีนี้ณีจนี้ะก่อก่ ให้เห้กิดกิการว่าว่งงาน การเรียรีกร้อร้งให้ขึ้ห้นขึ้ค่าค่จ้าจ้งและให้ว่ห้าว่จ้าจ้งแรงงาน เท่าท่เดิมดิเพื่อพื่ ประกันกัการว่าว่งงาน หรือรืการจำ กัดกัจำ นวนคนงานในตลาดแรงงานเพื่อพื่ ให้เห้กิดกิการขาดแคลน แรงงานในตลาดแรงงาน ส่งผลให้นห้ายจ้าจ้งยอมขึ้นขึ้ค่าค่จ้าจ้งให้กัห้บกัแรงงาน


ค่าจ้า จ้ ง & ค่าจ้า จ้ งขั้น ขั้ ต่ำ ค่าจ้าจ้ง ค่าค่จ้าจ้ง คือคืเงินงิที่นที่ายจ้าจ้งและลูกลูจ้าจ้งตกลงกันกั โดยจ่าจ่ยเป็นป็ค่าค่ตอบแทนในการทำ งานตาม สัญญา จ้าจ้งสำ หรับรัระยะเวลาทำ งานปกติเติป็นป็รายชั่วชั่ โมง รายวันวัรายสัปดาห์ รายเดือดืน หรือรืระยะเวลาอื่นอื่หรือรื จ่าจ่ยให้โห้ดยคำ นวณตามผลงานที่ลูที่กลูจ้าจ้งทำ ได้ใด้นเวลาทำ งานปกติขติองวันวัทำ งาน ค่าจ้าจ้งขั้นขั้ต้ำ องค์ประกอบของค่าจ้าจ้ง ค่าค่จ้าจ้งนั้นนั้ทำ ให้แห้รงงานมีรมีายได้เด้พียพีงพอในการเลี้ยลี้งตนและครอบครัวรัหรือรื ไม่ ภาวะค่าค่ครองชีพชี (Cost of Living) ของปีนั้ปีนนั้ๆ ว่าว่เป็นป็อย่าย่งไร หากค่าค่ครองชีพชี ปรับรัเพิ่มพิ่ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ ต่ำ ก็จำก็จำเป็นป็ต้อต้งปรับรัเพิ่มพิ่ตามไปเท่าท่นั้นนั้เรียรีกว่าว่เป็นป็การ “ปรับรัเพิ่มพิ่ตามภาวะ ค่าค่ครองชีพชี ” (Cost of Living Adjustment) เพื่อพื่ ให้ลูห้กลูจ้าจ้งได้มีด้รมีายได้เด้พียพีงพอกับกัภาวะค่าค่ ใช้จ่ช้าจ่ยที่เที่พิ่มพิ่ขึ้นขึ้แต่ไต่ม่ไม่ด้ หมายความว่าว่ลูกลูจ้าจ้งจะมีรมีายได้ที่ด้เที่พิ่มพิ่สูงขึ้นขึ้กว่าว่เดิมดิเสมอไป นอกจากนี้ ยังยัอาจต้อต้งพิจพิารณาจากอัตอัราเงินงิเฟ้อฟ้ (ระดับดัราคาสินค้าค้ ในตลาด) มาตรฐานการครอง ชีพชีต้นต้ทุนทุการผลิตลิความสามารถในการขยายธุรธุกิจกิจากสภาพทางเศรษฐกิจกิความสามารถในการ ผลิตลิ (ผลิตลิภาพ) ของแรงงาน ผลิตลิภัณภัฑ์มฑ์วลรวมภายในประเทศหรือรืจีดีจีพีดี พีความต้อต้งการแรงงาน และปริมริาณคนว่าว่งงานในตลาดแรงงาน เพราะเศรษฐกิจกิที่มีที่กมีารผลิตลิมากมักมัจะมี ความต้อต้งการ แรงงานที่เที่พิ่มพิ่มากขึ้นขึ้ทำ ให้อัห้ตอัราค่าค่จ้าจ้งอาจปรับรัตัวตัสูงขึ้นขึ้ ตามมาตรฐานแรงงานสากลจากองค์กค์ารแรงงานระหว่าว่งประเทศ (ILO : International Labour Organization) อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ คือคือัตอัราค่าค่จ้าจ้งที่นที่ายจ้าจ้งต้อต้งจ่าจ่ยให้ลูห้กลูจ้าจ้งซึ่งซึ่เป็นป็แรงงานไร้ฝีร้มืฝีอมื เมื่อมื่แรกเข้าข้ทำ งาน เพื่อพื่ ให้ไห้ด้มีด้รมีายได้เด้พียพีงพอต่อต่การเลี้ยลี้งดูตดูนเองและครอบครัวรั ดังดันั้นนั้การกำ หนดค่าค่จ้าจ้งหรือรืค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ที่ดีที่นั้ดีนนั้ควรพิจพิารณาว่าว่ เป็นป็ตัวตัเงินงิ นายจ้าจ้งเป็นป็ผู้จ่ผู้ าจ่ยให้แห้ก่ ลูกลูจ้าจ้ง เพื่อพื่ตอบแทนการทำ งานของ ลูกลูจ้าจ้งในวันวัและเวลาทำ งาน ปกติ และยังยัรวมถึงถึเงินงิที่ นายจ้าจ้งจ่าจ่ยให้ให้นวันวัหยุดยุและ วันวัลาที่ลูที่กลูจ้าจ้งไม่ไม่ด้ทำด้ทำงาน ด้วด้ย 40


ช่วช่งระยะเวลา การกำ หนดอัตอัรค่าจ้าจ้งในสังคมไทย พ.ศ.2516-2521 อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ตามกฎหมายต่ำ กว่าว่ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ที่ เหมาะสมที่ลูที่กลูจ้าจ้งควร จะได้รัด้บรัเพราะกฎหมายในช่วช่งแรก นี้ถูนี้กถูกำ หนดจากฐานเริ่มริ่ต้นต้ซึ่งซึ่ต่ำ กว่าว่ความเป็นป็จริงริ พ.ศ.2522-2532 อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ตามกฎหมายสูงกว่าว่ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ที่ เหมาะสมที่ลูที่กลูจ้าจ้งควร จะได้รัด้บรัเพราะบทบาทของ ขบวนการแรงงานหรือรืสหภาพแรงงานที่ไที่ด้ เรียรีกร้อร้ง เคลื่อลื่นไหว พ.ศ.2533-2540 อัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ตามกฎหมายต่ำ กว่าว่ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ที่ เหมาะสมที่ลูที่กลูจ้าจ้งควร จะได้รัด้บรัทั้งทั้ๆ ที่มีที่ค่มีาค่ครองชีพชีสูงขึ้นขึ้ แต่เต่นื่อนื่งจากบทบาทของขบวนการแรงงานหรือรื สหภาพแรงงานอ่ออ่นลงอันอัเนื่อนื่งมาจากการแยกตัวตัของ แรงงาน รัฐรัวิสวิาหกิจกิตามพระราชบัญบัญัติญัพตินักนังาน รัฐรัวิสวิาหกิจกิสัมพันพัธ์ พ.ศ. 2534 ทำ ให้แห้รงงานภาคเอกชนที่ เหลือลืขาดผู้นำผู้ นำที่เที่ข้มข้แข็งข็ ในการเรียรีกร้อร้ง และคนในสังคม เริ่มริ่ ให้กห้ารยอมรับรัที่น้ที่อน้ยลง พ.ศ.2541-2543 ประกาศใช้พช้ระราชบัญบัญัติญัคุ้ติมคุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งซึ่มีมมีาตรการ กำ หนดกรอบและบทบาทหน้าน้ที่ขที่องคณะ กรรมการค่าค่จ้าจ้งอย่าย่งชัดชัเจน รวมทั้งทั้ ให้อำห้อำนาจคณะ กรรมการค่าค่จ้าจ้งแต่งต่ตั้งตั้คณะอนุกนุรรมการ เพื่อพื่ทำ หน้าน้ที่ ให้คห้วามเห็นห็ ในเรื่อรื่งค่าค่จ้าจ้งได้ตด้ามความเหมาะสม พ.ศ.2544-2554 ได้มีด้กมีารปรับรัระบบอัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ใหม่ โดยแต่งต่ตั้งตั้คณะ อนุกนุรรมการ ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ จังจัหวัดวัเพื่อพื่พิจพิารณาอัตอัราค่าค่ จ้าจ้งในจังจัหวัดวัของตน โดย นำ ปัจปัจัยจัเกี่ยกี่วกับกัสภาวะ เศรษฐกิจกิและสังคมของแต่ลต่ะจังจัหวัดวัเข้าข้มาพิจพิารณา พัฒ พั นาการอัตราค่าจ้า จ้ งขั้น ขั้ ต่ำ ในสังคมไทย 41


หน่วน่ยงานหลักลัที่ทำที่ทำหน้าน้ที่กำที่กำหนดค่าค่จ้าจ้งใน สังคมไทย คือคืคณะกรรมการค่าค่จ้าจ้ง ซึ่งซึ่เป็นป็ องค์กค์รไตรภาคี ประกอบด้วด้ยผู้แผู้ ทนจาก 3 ฝ่าฝ่ย ฝ่าฝ่ยละ 5 คน มีหมีน้าน้ที่ใที่นการกำ หนดค่า จ้าจ้งและแนวทาง ในการพิจพิารณาปรับรัค่าค่จ้าจ้ง ของนายจ้าจ้งตามภาวะเศรษฐกิจกิและสังคม เพื่อพื่ ให้สห้ถานประกอบการที่มีที่ มีผลกำ ไรใช้เช้ป็นป็ แนวทางปรับรัค่าค่จ้าจ้งให้แห้ก่ลูก่กลูจ้าจ้งที่มีที่ ฝีมีมืฝีอมืและ ถึงถึฝีมืฝีอมืที่ทำที่ทำงานเกินกิ 1 ปี หน่ว น่ ยงานที่กำ หนดค่าจ้า จ้ ง 01 หน่วน่ยงานที่กำ ที่ กำหนดค่าค่จ้าจ้ง 02 ขั้นขั้ตอนการกำ หนด ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ และขั้น ขั้ ตอนการกำ หนดค่า ค่ จ้า จ้ ง 42 ไตรภาคี ผู้แผู้ ทนฝ่าฝ่ยรัฐรับาล ผู้แผู้ ทนฝ่าฝ่ยนายจ้าจ้ง แรงงานสัมพัธ์พั ธ์ผู้แผู้ ทนฝ่าฝ่ยลูกลูจ้าจ้ง คณะกรรมการ ค่าค่จ้าจ้ง คณะกรรมการ ค่าค่จ้าจ้ง คณะอนุกนุรรมการค่าค่จ้าจ้งจังจัหวัดวั พิจพิารณาอัตอัราค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ จากอัตอัราเงินงิเฟ้อฟ้และค่าค่ครองชีพชีจังจัหวัดวั เสนอตัวตัเลขที่ขที่อขึ้นขึ้ ผู้แผู้ ทนจากธนาคารแห่งห่ ประเทศไทย กระทรวงพาณิชณิย์ สำ นักนังานคณะ กรรมการการพัฒพันาเศรษฐกิจกิและ สังคม แห่งห่ชาติ นายจ้าจ้ง ลูกลูจ้าจ้ง หน้าน้ที่กที่ลั่นลั่กรองดูตัดูวตัเลขดรรชนีกนีาร บริโริภคตามแต่ลต่ะ จังจัหวัดวั อนุกนุรรมการวิชวิาการและกลั่นลั่กรองค่าค่จ้าจ้ง มอบหมาย พิจพิารณา ว่าว่เหมาะสม ประกาศเป็นป็ค่าค่จ้าจ้งขั้นขั้ต่ำ ตัดตัสินใจ ครั้งรั้สุดท้าท้ย


43


10 สัตว์มีพิษที่อันตรายที่สุดในโลก 10.ปลาปัก ปั เป้า ป้ ปลาปักเป้า คือสัตว์มีว์ มีพิษที่มีคนนิยม บริโริภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศ ญี่ปุ่นปุ่ (เรียรีกว่าว่ ฟูกุฟู กุ) และเกาหลี(เรียรีกว่าว่ บ๊อค ฮัง) โดนเนื้อปลาปักเป้านั้น จริงริๆ แล้ว ไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวก ผิวหนังและเครื่อรื่งในของปลาปักเป้า แต่ พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าต้องมีใบอนุ ญาติกันเลย ถ้าหากกินพิษของปลา ปักเป้าไป อาจจะทำ ให้เสียชีวิตวิได้ในทันที 9.กบลูกดอก กบลูกดอกสีน้ำ เงินนั้นเป็นสัตว์ที่ว์ ที่อยู่ในป่า ฝนในทวีปวีอเมริกริากลางและอเมริกริาใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมัน ร้ายแรงมาก พิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถคนได้ถึง 10 คนและพิษของมัน เพียง 5 ไมโครกรัม (เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เว์ลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีขนาดใหญ่ๆได้ พิษของมันถูกนำ มา ใช้ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียรีกว่าว่กบลูกดอก 8.งูไทปัน ปั โพ้นทะเล งูไทปันถูกพบได้มากในทวีปวีออสเตรเลีย เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก พิษที่มันปล่อย ออกมาจากการกัดหนึ่งครั้ง สามารถฆ่า คนได้ถึง 100 คน พิษของมันสามารถ ฆ่าคนได้ภายใน 45 นาที แต่งูไทปันเป็น งูที่ค่อนข้างขี้อาย ไม่เคยมีการบันทึกว่าว่มี คนตายจากพิษของมัน 45


7.แมงมุมบราซิล แมงมุมบราซิลหรือรืแมงมุมกล้วย ได้รับ การบันทึกลงในกินเนสเวิลวิด์เรคคอรด์ว่าว่ เป็นแมงมุมที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก พิษของมันมีพิษทำ ลายประสาท พวกมัน อันตรายอย่างมากเพราะนิสัยของมันที่ ชอบแอบอยู่ตามรองเท้า ตู้เสื้อผ้า แม้ กระทั่งในรถยนต์ พิษของมันถ้าโดนกัด นอกจากจะทำ ให้เจ็บปวดอย่างมากแล้ว มันจะทำ ให้อวัยวัวะเพศของเราควบคุมไม่ ได้ ถ้ารอดตายจากการโดนมันกัด มันจะ ทำ ให้เราเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ 6.ปลาหิน ในเรื่อรื่งของความสวยงาม ปลาหินจะแพ้ อย่างขาดลอย แต่เรื่อรื่งความรุนแรงของ พิษ ปลาหินไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มันได้ชื่อว่าว่เป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ในโลก พิษของปลาหินนี้จะอยู่ในหนาม ของตัวมันเอง มีคนบอกว่าว่ถ้าคุณโดน มันแทงเข้าละก็ คุณจะได้ลิ้มรสความเจ็บ ปวดเท่าที่มนุษย์จะเจ็บได้เลยทีเดียว นอกจากจะเจ็บสุดๆแล้ว มันจะทำ ให้คุณ เป็นอัมพาต แล้วก็ตายได้ในที่สุด 5.แมงป่อ ป่ งเดธท์ สตอล์คเกอร์ แมงป่องโดยทั่วไป ถึงจะโดนกัดพิษของมันก็ไม่ สามารถที่จะทำ อะไรมนุษย์ได้มากนัก อาจจะ เจ็บปวดนิดหน่อย แต่มันไม่ใช่สำ หรับแมงป่อง พันธุ์เดธท์ สตอล์คเกอร์เพราะพิษของมัน สามารถทำ ลายระบบ ประสาทได้ ถ้าโดนมันกัด จะปวดอย่างมหาศาล จากนั้นจะตามมาด้วย อาการไข้ขึ้น เป็นอัมพาต และตายในที่สุด แต่ ถึงแม้พิษมันจะร้ายแรงมาก แต่มันก็ไม่สามารถ ฆ่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ได้ แต่ว่าว่มันจะเป็น อันตรายต่อ เด็ก ทารก คนแก่ อย่างมาก ถึง แม้ว่าว่มันไม่สามารถที่จะฆ่าผู้ใหญ่ได้ แต่มันก็ ทำ ให้เป็นอัมพาตได้ 46


4.ปลาหมึกแหวนน้ำ เงิน ปลาหมึกแหวนน้ำ เงินมีขนาดที่เล็กมาก ขนาดประมาณลูกกอลฟ์ แต่ขนาดไม่ใช่ ปัญหาสำ หรับความรุนแรงของพิษมัน เพราะพิษมันสามารถฆ่าคนได้ภายในไม่กี่ นาที และที่สำ คัญ มันยังไม่มียาแก้พิษ ถ้าโดนปลาหมึกแหวนน้ำ เงินกัดละก็ คุณ จะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมาก แต่ว่าว่พิษมัน จะเริ่มริ่ทำ ลายระบบประสาทของคุณ หลัง จากนั้นคุณจะรู้สึกอ่อนแอและคุณก็จะเริ่มริ่ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ระบบการหายใจจะ เริ่มริ่ล้มเหลว หลังจากนั้น ก็ตายในที่สุด 3.หอยเต้าปูน ปู ลายหินอ่อน หอยเต้าปูนปูตัวเล็กๆ สีสันสวยงาม แต่ พิษของมันเพียงแค่หยดเดียว สามารถ ฆ่าคนได้ถึง 20 คน ถ้าคุณเล่นน้ำ ที่ทะเล ที่มันค่อนข้างอุ่นๆแล้วเห็นเจ้าตัวนี้อยู่ อย่าคิดที่จะหยิบมันมาเล่น แค่ดูมันอยู่ ห่างๆก็พอแล้ว เพราะถ้าคุณโดนพิษมัน เล่นงานละก็ คุณจะปวด หลังจากนั้นก็ จะเริ่มริ่บวม ระบบการหายใจเริ่มริ่ล้มเหลว ร่างกายจะคันหยุกหยิก เป็นอัมพาต แล้วก็ตายในที่สุด 2.งูจงอาง งูจงอาง เป็นงูพิษที่มีลำ ตัวยาวที่สุดในโลก ด้วยขนาดโตสุดที่ 5.6 เมตร งูจงอางนั้น กินสัตว์ตว์ระกูลเดียวกัน ก็คือ งู และเพียง แค่โดนมันกัดเพียงครั้งเดียว ก็ทำ ให้คน ตายได้อย่างง่ายๆ และพิษของมันนั้น สามารถฆ่าช้างที่โตเต็มวัยวั ได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง ในส่วนประกอบของมันแตกต่าง กับพิษงูโดยทั่วไป ที่สำ คัญมันพบได้ทั่วไป ในทวีปวีเอเซียตะวันวัออกเฉียงใต้ และใน ประเทศไทย 47


1.แมงกระพรุนกล่อง แมงกระพรุนกล่อง เป็นสัตว์ที่ว์ ที่มีพิษร้าย แรงที่สุดในโลก รายงานว่าว่มันฆ่าคนไป แล้ว 5,567 คน พิษของมันนั้นจะไป ทำ ลาย หัวใจ ระบบประสาท ผิวหนัง และที่สำ คัญ ถ้าโดนพิษมันจะเจ็บปวด อย่างที่สุด ส่วนใหญ่คนที่โดนพิษมันนั้น จะช็อค และหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะกลับ เข้าถึงฝั่ง แต่ถ้าคุณโดนพิษมันก็ยังมี โอกาสที่จะรอดอยู่นั่นคือ ต้องรีบรีเอา น้ำ ส้มสายชู มาล้างอย่างน้อย 30 วินวิาที เพราะมันจะทำ ลายพิษของแมงกระพรุน กล่องก่อนที่มันจะเข้าไปสู่กระแสเลือด 00.กบพิษสีทอง กบพิษสีทอง จัดว่าว่เป็นกบพิษร้ายแรง ที่สุดในบรรดากบพิษทั้งหมด มีลำ ตัวสี เหลืองยาวประมาณ 4.7 เซนติเมตร หนักประมาณ 8 กรัม พบเฉพาะ ในเขต ป่าฝนของประเทศโคลอมเบีย ถึงแม้สี ของมันจะสวยสดใส แต่ตรงกันข้ามกับ พิษในตัวของกบสีทองเพราะพิษของมัน สามารถสังหารมนุษย์ได้ราว 15-20 คน กบพิษชนิดนี้ถูกจัดเป็นสัตว์ใว์กล้สูญพันธุ์ เพราะว่าว่พื้นที่อาศัยของมันถูกบุกรุกและ ทำ ลายไปเป็นส่วนใหญ่ พบได้มากในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูฝน แมลงชนิดนี้ ต้องการความชื้นเพื่อการขยายพันธุ์ แมลงก้น กระดกชนิดที่พบบ่อยในประเทศไทยนั้นส่วน ท้องมักมีสีส้ม สารพิษของแมลงชนิดนี้ คือ เพเดอรินริ (Pederin) ซึ่งมีลักษณะเป็นกรดที่ ก่อให้เกิดการระคายเคือง เมื่อถูกผิวหนังจะ ทำ ให้เป็นผื่นคันหรือรืแผลพุพอง ผิวหนังไหม้ แดง ปวดแสบปวดร้อน มีไข้ และถ้าถูกพิษ บริเริวณดวงตา อาจทำ ให้ตาบอดได้! 00.แมลงก้นกระดก 48


บทพูดดีๆ จากภาพยนตร์ 49


Click to View FlipBook Version