โครงสร้างและแผนการจัดการเรียนรู้ลูกเสือ ป.3 เทอม 1

กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น (ลกู เสือ)

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3

แผนกประถมศึกษา
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

สปั ดาหท์ ี่ 1

โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ช่อื ผูส้ อน .....................................................................
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ลกู เสือสารอง ช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นที่ 1 เรือ่ ง คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ

1. สาระสาคญั

คาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือมคี วามจาเปน็ ต่อลูกเสือเพราะเปน็ สิ่งทีใ่ ช้สอนลูกเสอื ใหเ้ ป็นคนดี และปฏบิ ตั ิแต่
สง่ิ ท่ีดี ดี

2. ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง
1. บอกความหมายความสาคญั ของคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื ได้
2. ปฏบิ ัติตนตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ได้
3. รักและเหน็ คุณคา่ ของตนเอง

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. สามารถบอกความหมายความสาคญั ของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือได้
2. สามารถปฏบิ ตั ติ นตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือได้
3. มีความรักและเห็นคุณคา่ ของตนเอง

4. สาระการเรยี นรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรยี นการสอน
1 1.ผูเ้ รียนเขา้ รว่ มพิธีเปดิ ประชุมกอง ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผูก้ ากับลูกเสือเป่านกหวีดเรยี กพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผูเ้ รียนจดั แถวตามสญั ญาณมอื ของผูก้ ากับลกู เสือ
4. ผูก้ ากบั ให้ลูกเสือแตล่ ะหมู่ฝกึ ทอ่ งคาปฏิญาณและกฎของลกู เสือ
5. ผู้กากับทดสอบการท่องคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ
6. ผูก้ ากับลกู เสอื ให้ลกู เสือแต่ละหมู่ออกมาท่องคาปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ
7.ผกู้ ากับลูกเสือและลูกเสือร่วมกนั สรุปความหมายความสาคญั ของคาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือ
8. ผู้กากับเรยี กลกู เสือเพอื่ ทาการปดิ ประชมุ กอง ( เลา่ เรอ่ื งส้นั นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลิก )

5. การวัดและประเมนิ ผล ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทักษะและ
ดา้ นความรู้(K) และค่านิยม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกล่มุ
คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือ ซือ่ สตั ย์ มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่ันใน
การทางาน
มีจติ สาธารณะ

6. ส่อื / อปุ กรณ์ / แหล่งการเรียนรู้
1. ชาร์จคาปฏิญาณและกฎของลกู เสือ

7. ชน้ิ งานที่แสดงผลการเรยี นรู้
- การท่องคาปฏิญาณและกฎของลกู เสอื

ลงช่อื ............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 2 – 5

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ชอ่ื ผ้สู อน …………………………………………..
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ลูกเสอื สารอง ช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 3 จานวน 4 คาบ
หน่วยการเรยี นท่ี 2 เรอื่ ง การปฐมพยาบาล

1. สาระสาคัญ
การปฐมพยาบาลเป็นวิธีการช่วยเหลือผปู้ ่วยก่อนนาส่งโรงพยาบาล และจะต้องศึกษาขั้นตอนวิธกี ารปฐม

พยาบาลให้ถูกต้องเปน็ อยา่ งดีก่อนทาการชว่ ยเหลือผู้ปว่ ย

2. ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั
1. บอกขั้นตอนวธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยที่มีเลอื ดออกภายนอกได้
2. ปฏบิ ตั ิการปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยท่มี เี ลอื ดออกภายนอกไดถ้ กู ต้อง
3. มีความเสียสละเหน็ แก่ประโยชน์ส่วนรวม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สามารถบอกขนั้ ตอนวิธีการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยทีม่ เี ลือดออกภายนอกได้
2. สามารถปฏิบตั ิการปฐมพยาบาลผูป้ ่วยที่มีเลือดออกภายนอกได้ถกู ต้อง
3. มีความเสียสละเหน็ แก่ประโยชน์สว่ นรวม

4. สาระการเรยี นรู้

คาบที่ กจิ กรรมการเรียนการสอน
1 1. ผู้เรยี นเข้ารว่ มพิธเี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากบั ลูกเสือเป่านกหวดี เรยี กพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผ้เู รียนจัดแถวตามสัญญาณมือของผกู้ ากบั ลูกเสือ
4.ผู้กากบั ให้ลกู เสือแต่ละหม่ไู ปศึกษาค้นคว้าขั้นตอนวิธีการปฐมพยาบาลผู้ป่วยทม่ี เี ลือดออกภายนอก
5. ลูกเสอื ศกึ ษาคน้ ควา้ ในแหลง่ การเรียนรู้ (ห้องสมดุ )
6. ผ้กู ากบั ลกู เสือให้ลกู เสือแต่ละหมอู่ อกมานาเสนอผลการศกึ ษาค้นคว้า
7.ผ้กู ากับลูกเสือและลูกเสือร่วมกนั สรปุ ข้ันตอนวิธีการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยทม่ี ีเลอื ดออกภายนอก
8. ผูก้ ากบั เรียกลูกเสือเพื่อทาการปดิ ประชุมกอง ( เลา่ เรอ่ื งสนั้ นดั หมาย ตรวจเครื่องแตง่ กาย ธงลง เลิก )

2 1. ผ้เู รียนเขา้ รว่ มพิธเี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผกู้ ากับลูกเสือเป่านกหวดี เรียกพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรียนจัดแถวตามสัญญาณมอื ของผู้กากับลกู เสือ
4.ผกู้ ากับใหล้ ูกเสือแตล่ ะหมูอ่ อกมาสาธิตการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยท่มี เี ลอื ดออกภายนอกทีละหมู่
5. ผู้กากบั แนะนาเพ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั วธิ ีการปฐมพยาบาลผ้ปู ว่ ยที่มีเลอื ดออกภายนอก
6.ผู้กากับลูกเสือและลูกเสือร่วมกนั สรปุ การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยที่มเี ลอื ดออกภายนอก
7. ผู้กากบั เรียกลกู เสือเพ่อื ทาการปดิ ประชุมกอง ( เล่าเรื่องสั้น นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลิก )

3 1. ผเู้ รียนเข้าร่วมพธิ เี ปิดประชมุ กอง ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผกู้ ากบั ลกู เสอื เปา่ นกหวีดเรียกพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสัญญาณมอื ของผู้กากบั ลูกเสือ
4.ผู้กากบั ใหล้ กู เสือแต่ละหม่ไู ปศกึ ษาค้นควา้ ข้ันตอนวิธกี ารปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยทีม่ ีอาการช็อก
5. ลกู เสือศกึ ษาคน้ ควา้ ในแหลง่ การเรยี นรู้ ( ห้องสมดุ )
6. ผกู้ ากับลกู เสือใหล้ กู เสือแต่ละหมู่ออกมานาเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
7.ผกู้ ากับลูกเสือและลูกเสือร่วมกนั สรุปขน้ั ตอนวธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยท่ีมีอาการช็อก
8. ผ้กู ากบั เรยี กลูกเสือเพอื่ ทาการปดิ ประชมุ กอง ( เลา่ เร่ืองสน้ั นดั หมาย ตรวจเครื่องแตง่ กายธงลง เลกิ )

4 1. ผ้เู รียนเขา้ ร่วมพิธีเปดิ ประชุมกอง ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผ้กู ากบั ลกู เสือเป่านกหวีดเรียกพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผ้เู รยี นจดั แถวตามสัญญาณมอื ของผกู้ ากบั ลกู เสือ
4.ผูก้ ากับให้ลูกเสือแต่ละหมอู่ อกมาสาธติ การปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยทีม่ ีอาการชอ็ กทีละหมู่
5. ผกู้ ากับแนะนาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวธิ กี ารปฐมพยาบาลผปู้ ่วยท่มี อี าการช็อก
6.ผ้กู ากับลูกเสือและลูกเสือรว่ มกันสรุปการปฐมพยาบาลผู้ป่วยท่ีมอี าการชอ็ ก
7. ผูก้ ากบั เรยี กลูกเสือเพื่อทาการปดิ ประชุมกอง ( เล่าเร่ืองสัน้ นดั หมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลิก )

5. การวดั และประเมินผล

ดา้ นความร(ู้ K) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ด้านทักษะและ
การปฐมพยาบาล และค่านิยม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกลมุ่
ซอ่ื สตั ย์ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มั่นใน
การทางาน
มีจติ สาธารณะ

6. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้
1. แผน่ ภาพประกอบการศึกษา เรื่อง การปฐมพยาบาล

7. ชิ้นงานที่แสดงผลการเรยี นรู้
- แผน่ ภาพการปฐมพยาบาล

ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 6 – 7

โรงเรยี นขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ชื่อผู้สอน …………………………………………..
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ลกู เสือ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรยี นท่ี 3 เร่อื ง การผกู เงื่อน

1. สาระสาคญั
การผูกเงื่อนเปน็ การผูกเชือกทม่ี ขี นั้ ตอนและวิธกี ารทแ่ี ตกต่างกนั ไปตามชนดิ ของเง่ือน และมกี ารนาไปใช้

ประโยชนท์ ่ีต่างออกไป

2. ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั
1. อธบิ ายความหมายความสาคัญของการผกู เง่ือนได้ถูกต้อง
2. ผกู เงอื่ นแตล่ ะชนดิ ได้อย่างถูกต้อง
3. มคี วามกระตือรือร้นใฝร่ ู้ มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถอธิบายความหมายความสาคญั ของการผกู เงื่อนได้ถูกต้อง
2. สามารถผูกเง่ือนแตล่ ะชนิดได้อยา่ งถูกต้อง
3. มีความกระตือรอื รน้ ใฝร่ ู้ มคี วามคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์

4. สาระการเรียนรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรยี นการสอน
1 1. ผ้เู รียนเขา้ รว่ มพธิ ีเปิดประชุมกอง ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผูก้ ากับลูกเสือเปา่ นกหวดี เรียกพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรยี นจัดแถวตามสญั ญาณมอื ของผกู้ ากับลกู เสือ
4. ผกู้ ากับใหล้ ูกเสือแตล่ ะหมู่ไปศึกษาคน้ ควา้ ขน้ั ตอนวิธีการผกู เง่อื นแต่ละชนิดทีแ่ ตล่ ะกลมุ่ ตอ้ งการเรียน
5. ลูกเสอื ศึกษาค้นควา้ ในแหลง่ การเรียนรู้ (หอ้ งสมดุ )
6. ผกู้ ากับลูกเสอื ใหล้ ูกเสอื แตล่ ะหมู่ออกมานาเสนอผลการศึกษาคน้ ควา้
7. ผูก้ ากับลูกเสอื และลกู เสือรว่ มกันสรุปข้นั ตอนวธิ กี ารผูกเงอื่ นท่แี ต่ละคนเลือกเรยี น
8. ผู้กากบั เรียกลูกเสือเพ่ือทาการปดิ ประชุมกอง ( เล่าเรอื่ งสั้น นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลกิ )

2 1.ผเู้ รียนเขา้ ร่วมพธิ เี ปดิ ประชุมกอง ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากับลกู เสอื เปา่ นกหวดี เรียกพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสญั ญาณมอื ของผูก้ ากับลูกเสือ
4.ผูก้ ากบั ใหล้ กู เสือแต่ละหมู่ออกมาสาธติ การผูกเง่ือนที่แต่ละกล่มุ ไดศ้ ึกษามา
5. ผู้กากบั สอนเพ่มิ เติมเกยี่ วกับการผกู เง่ือนของแตล่ ะหมู่
6. ผกู้ ากับลกู เสอื และลกู เสือร่วมกันสรุปผลการฝึกผูกเง่ือนของแต่ละหมู่
7. ผู้กากบั เรียกลูกเสือเพือ่ ทาการปดิ ประชมุ กอง ( เล่าเรื่องสนั้ นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแตง่ กาย ธงลง เลกิ )

5. การวัดและประเมนิ ผล

ด้านความรู้(K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะและ
การผูกเง่ือน และค่านยิ ม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกลมุ่
ซื่อสัตย์ มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่นั ใน
การทางาน
มจี ิตสาธารณะ

6. สื่อ / อปุ กรณ์ / แหล่งการเรียนรู้
1. เชอื กลูกเสือ
2. สื่อการสอนการผูกเงื่อนแบบตา่ งๆ

7. ช้นิ งานทแ่ี สดงผลการเรียนรู้
- เงื่อน

ลงชื่อ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ท่ี 8 – 9

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรยี นที่ 1/………………….. ช่อื ผ้สู อน ........................................................................
กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ลูกเสือสารอง ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรียนท่ี 4 เรื่อง การสารวจบริเวณโรงเรยี นและชมุ ชน

1. สาระสาคญั
การสารวจเปน็ กจิ กรรมที่ดแี ละมปี ระโยชนท์ าให้เราทราบถึงสง่ิ ตา่ ง ๆ ที่อยบู่ ริเวณภายในโรงเรยี นว่ามีส่งิ

ใดบา้ งทม่ี ีประโยชน์ตอ่ ลกู เสือจึงจาเป็นอย่างยิ่งทจ่ี ะต้อง สารวจบริเวณโรงเรียน

2. ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั
1. บอกความหมายความสาคญั ของการสารวจบริเวณโรงเรียนได้ดี
2. วางแผนการสารวจบริเวณโรงเรยี นไดเ้ หมาะสม
3. มกี ารพึ่งตนเองอุตสาหะรักการทางาน

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. สามารถบอกความหมายความสาคัญของการสารวจบรเิ วณโรงเรยี นและชุมชนได้
2. สามารถวางแผนการสารวจบริเวณโรงเรยี นและชมุ ชนได้เหมาะสม
3. สามารถพ่ึงตนเองอุตสาหะรักการทางาน

4. สาระการเรยี นรู้

คาบที่ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1 1. ผู้เรียนเข้ารว่ มพิธเี ปดิ ประชมุ กอง ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผกู้ ากบั ลูกเสือเปา่ นกหวดี เรยี กพร้อมทาสญั ญาณมอื ในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผเู้ รยี นจดั แถวตามสญั ญาณมือของผกู้ ากับลูกเสอื
4. ผกู้ ากบั ใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่ไปกาหนดแผนสารวจบรเิ วณโรงเรียนทน่ี กั เรยี นสนใจ
5. ผู้กากับลูกเสือให้ลูกเสอื แต่ละหมู่ออกมานาเสนอผลการศึกษาค้นควา้
6. ผกู้ ากบั ลูกเสอื และลูกเสือร่วมกันสรปุ การกาหนดแผนการสารวจบริเวณโรงเรียน
7. ผู้กากับเรยี กลูกเสือเพื่อทาการปดิ ประชุมกอง ( เลา่ เรอ่ื งสัน้ นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแต่งกาย ธงลง เลิก )
1. ผ้เู รยี นเข้ารว่ มพธิ เี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผูก้ ากบั ลูกเสือเป่านกหวีดเรยี กพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสญั ญาณมือของผูก้ ากับลูกเสือ

4. ผกู้ ากบั ใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่เตรียมอุปกรณใ์ นการสารวจบรเิ วณโรงเรยี นใหพ้ รอ้ ม
5. ผกู้ ากบั นาลูกเสอื ออกสารวจบริเวณโรงเรียน
6. ผู้กากับลูกเสือและลูกเสือรว่ มกนั สรปุ ผลการสารวจบรเิ วณโรงเรียน
7. ผกู้ ากับเรียกลกู เสือเพื่อทาการปิดประชมุ กอง ( เลา่ เร่อื งสั้น นัดหมาย ตรวจเครอื่ งแตง่ กาย ธงลง เลกิ )
2 1. ผเู้ รยี นเข้าร่วมพิธเี ปิดประชมุ กอง ( ธงข้นึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากับลูกเสอื เปา่ นกหวีดเรียกพร้อมทาสัญญาณมอื ในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผเู้ รียนจัดแถวตามสญั ญาณมือของผกู้ ากับลกู เสือ
4. ผู้กากบั ใหล้ กู เสือแตล่ ะหมู่ไปกาหนดแผนสารวจบริเวณชมุ ชนขา้ งโรงเรียน
5. ผกู้ ากับลูกเสือให้ลูกเสอื แต่ละหม่อู อกมานาเสนอผลการศึกษาคน้ คว้า
6. ผู้กากับลูกเสอื และลกู เสือร่วมกนั สรปุ การกาหนดแผนการสารวจบริเวณชุมชนขา้ งโรงเรยี น
7. ผกู้ ากบั เรยี กลูกเสือเพ่ือทาการปิดประชมุ กอง ( เลา่ เรอื่ งสัน้ นัดหมาย ตรวจเครื่องแตง่ กาย ธงลง เลิก )
1. ผเู้ รียนเข้าร่วมพิธเี ปดิ ประชมุ กอง ( ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผกู้ ากบั ลูกเสือเป่านกหวดี เรยี กพร้อมทาสัญญาณมอื ในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสญั ญาณมือของผกู้ ากับลูกเสอื
4. ผู้กากับให้ลูกเสือแตล่ ะหมู่เตรยี มอุปกรณใ์ นการสารวจบริเวณชมุ ชนขา้ งโรงเรยี นใหพ้ ร้อม
5. ผกู้ ากับนาลกู เสอื ออกสารวจบรเิ วณชุมชนขา้ งโรงเรยี น
6. ผกู้ ากับลูกเสือและลกู เสือรว่ มกันสรปุ ผลการสารวจบริเวณชมุ ชนขา้ งโรงเรยี น
7. ผูก้ ากับเรียกลกู เสือเพ่ือทาการปดิ ประชมุ กอง ( เลา่ เร่ืองส้นั นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแตง่ กาย ธงลง เลิก )

5. การวดั และประเมินผล

ดา้ นความร้(ู K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ดา้ นทกั ษะและ
การสารวจบรเิ วณโรงเรียนและชมุ ชน และคา่ นิยม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกลมุ่
ซอื่ สัตย์ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ ม่นั ใน
การทางาน
มจี ติ สาธารณะ

6. สื่อ / อปุ กรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้
1. อุปกรณ์ในการสารวจ
2. แบบสรปุ ผลการสารวจ

7. ช้ินงานท่ีแสดงผลการเรียนรู้
- สรปุ ผลการสารวจ
- แผนท่กี ารสารวจ

ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชือ่ ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 11 – 13

โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ช่อื ผู้สอน …………………………………………….
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ลูกเสือ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 จานวน 3 คาบ
หนว่ ยการเรียนท่ี 5 เรือ่ ง การบุกเบกิ

1. สาระสาคัญ
การบกุ เบิก เปน็ กิจกรรมท่ฝี ึกใหล้ ูกเสอื มคี วามเข็มแข็ง มีความมานะบากบัน่ และมีการช่วยเหลอื ซึง่ กันและใน

หมู่คณะเปน็ การฝึกการใช้ระบบหมู่

2. ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
1. อธิบายความหมายความสาคัญ ของกจิ กรรมบุกเบิกได้
2. เข้าร่วมกิจกรรมบกุ เบิกได้อยา่ งปลอดภยั
3. มีการพึ่งตนเองอุตสาหะรักการทางาน

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถอธิบายความหมายความสาคญั ของกิจกรรมบกุ เบกิ ได้
2. สามารถเข้ารว่ มกจิ กรรมบุกเบกิ ไดอ้ ย่างปลอดภัย
3. สามารถพึ่งตนเองอุตสาหะรักการทางาน

4. สาระการเรยี นรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน
1 1. ผเู้ รยี นเข้ารว่ มพธิ เี ปดิ ประชุมกอง ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากบั ลูกเสือเป่านกหวดี เรียกพร้อมทาสัญญาณมอื ในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสัญญาณมือของผู้กากับลกู เสือ
4. ผู้กากับใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่ไปศึกษาคน้ คว้าขัน้ ตอนวิธีการจัดกจิ กรรมบุกเบกิ วา่ มีกจิ กรรมใด
5. ลกู เสอื ศกึ ษาคน้ ควา้ ในแหล่งการเรยี นรู้ (หอ้ งสมุด)
6. ผู้กากบั ลูกเสือให้ลูกเสือแต่ละหมอู่ อกมานาเสนอผลการศึกษาค้นคว้า
7. ผู้กากับลูกเสือและลกู เสือร่วมกันสรุปขัน้ ตอนวิธีการกจิ กรรมบกุ เบิก
8. ผู้กากับเรียกลูกเสือเพื่อทาการปดิ ประชมุ กอง ( เลา่ เร่อื งสน้ั นดั หมาย ตรวจเครื่องแต่งกาย ธงลง เลกิ )
2-3 1. ผเู้ รยี นเข้าร่วมพิธเี ปิดประชุมกอง ( ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากับลูกเสือเป่านกหวดี เรียกพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ

3. ผู้เรียนจัดแถวตามสญั ญาณมือของผู้กากับลูกเสอื
4. ผกู้ ากับใหล้ กู เสือแต่ละหมู่ออกมาสาธิตกิจกรรมบุกเบกิ ท่แี ต่งละหม่ไู ดเ้ ลือกเอาไว้
5. ผูก้ ากบั ลูกเสือและลกู เสือร่วมกันสรุปข้ันตอนวิธีการกิจกรรมบกุ เบิก
6. ผกู้ ากับเรยี กลกู เสือเพ่ือทาการปิดประชมุ กอง ( เลา่ เรอื่ งสั้น นดั หมาย ตรวจเคร่อื งแต่งกาย ธงลง เลกิ )

5. การวดั และประเมินผล ด้านคุณธรรม จริยธรรม ดา้ นทกั ษะและ
ดา้ นความร(ู้ K) และค่านยิ ม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกล่มุ
การบกุ เบิก ซอื่ สตั ย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มนั่ ใน
การทางาน
มีจติ สาธารณะ

6. สื่อ / อปุ กรณ์ / แหลง่ การเรยี นรู้
- ใบความรูเ้ ร่ืองการบุกเบิก
- เชือก
- ไม้ขนาดตา่ งๆ

7. ชิน้ งานทแี่ สดงผลการเรียนรู้
- โมเดลการสรา้ งงานบุกเบกิ

ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)

สปั ดาหท์ ี่ 14 -15

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ชื่อผสู้ อน........................................................................
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรยี นท่ี 6 เร่ือง การเดนิ สวนสนาม

1. สาระสาคญั
พิธีเดนิ สวนสนามเปน็ พธิ กี ารท่ีแสดงให้เหน็ ถึงความเป็นระเบียบวนิ ัยของลูกเสือแตล่ ะกอง และเปน็ การแสดง

ให้เหน็ ถงึ ความพร้อมเพรียงของลกู เสือ

2. ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั
1. สามารถอธิบายวิธีการข้นั ตอนการเดนิ สวนสนาม
2. สามารถดนิ สวนสนามไดถ้ ูกต้องและพร้อมเพรยี งกัน
3. มคี วามสขุ ในการศึกษาค้นคว้ากิจกรรมเดินสวนสนาม

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ผเู้ รยี นสามารถอธยิ าบขนั้ ตอนวิธีรการเดินสวนสนามได้
2. ผู้เรียนเดนิ สวนสนามได้ถูกตอ้ งและพร้อมเพรยี งกันได้
3. ผเู้ รยี นมคี วามสขุ ในการศึกษาค้นควา้ กิจกรรมเดนิ สวนสนาม

4. สาระการเรียนรู้

คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1 1. ผู้เรียนเขา้ รว่ มพิธเี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขึน้ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง )
2. ผกู้ ากบั ลูกเสอื เปา่ นกหวดี เรยี กพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผเู้ รยี นจัดแถวตามสญั ญาณมือของผู้กากับลกู เสอื
4. ผกู้ ากับใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่สาธติ การเดินสวนสนามตามท่ีได้ศึกษาค้นควา้ มา
5. ผกู้ ากับอธิบายและสาธิตถึงการต้งั รปู ขบวนในการเดนิ สวนสนามแลว้ ให้ลูกเสือฝึกปฏิบตั ิ
6. ผกู้ ากบั ลูกเสอื ใหน้ ายหมลู่ ูกเสือแตล่ ะหม่ทู าการฝึกภายในหมู่ของตนเองเพื่อความพร้อม
7. ผกู้ ากบั ลูกเสอื และลูกเสือร่วมกนั สรปุ ผลการฝึกการเดินสวนสนาม
8. ผู้กากบั เรียกลกู เสือเพ่ือทาการปิดประชุมกอง ( เลา่ เร่อื งสนั้ นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง เลกิ )
2 1. ผเู้ รยี นเขา้ รว่ มพธิ เี ปิดประชุมกอง ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ เกมและเพลง
2. ผู้กากบั ลูกเสอื เปา่ นกหวีดเรยี กพร้อมทาสญั ญาณมอื ในรูปแถวตอนปิดระยะ

3. ผู้เรยี นจัดแถวตามสญั ญาณมือของผ้กู ากับลกู เสอื
4. ผกู้ ากบั ใหล้ กู เสอื แตล่ ะหมู่สาธิตการเดินสวนสนามตามที่ไดศ้ ึกษาค้นควา้ มา
5. ผกู้ ากบั อธิบายและสาธติ ถึงการตั้งรปู ขบวนในการเดินสวนสนามแล้วให้ลูกเสือฝึกปฏิบัติ
6. ผกู้ ากับลูกเสือให้นายหมู่ลูกเสือแตล่ ะหมู่ทาการฝึกภายในหมูข่ องตนเองเพื่อความพรอ้ ม
7. ผกู้ ากับลูกเสอื และลกู เสือรว่ มกนั สรุปผลการฝกึ การเดนิ สวนสนาม
8. ผกู้ ากับเรยี กลกู เสือเพ่ือทาการปิดประชมุ กอง ( เล่าเร่ืองส้ัน นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแตง่ กาย ธงลง เลิก )

5. การวัดและประเมนิ ผล ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทกั ษะและ
ด้านความรู้(K) และคา่ นยิ ม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกล่มุ
การเดนิ สวนสนาม ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ ม่ันใน
การทางาน
มจี ติ สาธารณะ

6. สื่อ / อุปกรณ์ / แหล่งการเรียนรู้
- รูปแบบการเดนิ สวนสนาม

7. ช้นิ งานท่ีแสดงผลการเรยี นรู้
- การเดนิ สวนสนาม

ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผบู้ ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 16

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ช่ือผู้สอน ..............................................................
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ลูกเสอื สารอง ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 3 จานวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนที่ 7 เรอ่ื ง การบาเพญ็ ประโยชน์

1. สาระสาคญั
การบาเพ็ญประโยชนเ์ ป็นการสรา้ งคุณงามความดีเพราะฉะน้นั ลกู เสือทุกคนควรจาเป็นทีต่ ้องปฏิบตั ิและ

เปน็ แบบอยา่ งท่คี นอ่นื ต่อไป

2. ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวัง
1. สามารถอธิบายความหมายความสาคญั ของการบาเพ็ญประโยชน์
2. บาเพ็ญประโยชนไ์ ดต้ ามที่ต้องการ

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. สามารถอธิบายความหมายความสาคญั ของการบาเพ็ญประโยชน์
2. สามารถบาเพ็ญประโยชน์ได้ตามที่ตอ้ งการ

4. สาระการเรียนรู้

คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1 1. ผเู้ รยี นเข้าร่วมพธิ เี ปิดประชมุ กอง ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผูก้ ากบั ลูกเสอื เป่านกหวดี เรยี กพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผู้เรียนจดั แถวตามสัญญาณมือของผกู้ ากับลูกเสือ
4. ผกู้ ากับให้ลูกเสือแตล่ ะหมู่ไปศกึ ษาคน้ คว้าขั้นตอนวิธีการทาพธิ ีถวายบังคมและวางพวงมาลาของ
แต่ละหมู่
5. ลูกเสอื ศึกษาคน้ คว้าในแหล่งการเรียนรู้ (ห้องสมดุ )
6. ผกู้ ากับลูกเสือใหล้ ูกเสอื แต่ละหมู่ออกมานาเสนอผลการศึกษาค้นควา้
7. ผู้กากับลูกเสือและลูกเสือรว่ มกนั สรปุ ขัน้ ตอนวธิ ีการทาพิธีถวายบงั คมและวางพวงมาลา
8. ผูก้ ากับเรียกลูกเสือเพ่ือทาการปิดประชมุ กอง ( เล่าเร่ืองส้ัน นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง เลกิ )
1. ผเู้ รียนเข้าร่วมพิธเี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ เกมและเพลง แยก)
2. ผู้กากับลกู เสือเป่านกหวีดเรยี กพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผูเ้ รียนจดั แถวตามสญั ญาณมอื ของผกู้ ากับลกู เสือ

4.ผ้กู ากบั สาธิตขนั้ ตอนวธิ กี ารทาพธิ ีการถวายบงั คมและวางพวงมาลา
5. ลูกเสือฝึกการทาพธิ ถี วายบังคมและวางพวงมาลาในแต่ละหมู่
6. ผู้กากับลกู เสอื ใหล้ กู เสือแต่ละหมู่ออกมานาเสนอผลการฝึกซ้อม
7. ผ้กู ากับลกู เสอื และลกู เสือร่วมกนั สรปุ ขน้ั ตอนวิธกี ารทาพิธีถวายบงั คมและวางพวงมาลา
8. ผู้กากับเรียกลูกเสือเพอ่ื ทาการปดิ ประชมุ กอง ( เล่าเรื่องสน้ั นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง เลกิ )

5. การวดั และประเมินผล ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ด้านทักษะและ
ดา้ นความรู้(K) และคา่ นิยม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกลุ่ม
การบาเพ็ญประโยชน์ ซอ่ื สตั ย์ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ใน
การทางาน
มีจติ สาธารณะ

6. สอ่ื / อปุ กรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้
- ใบความรู้ เรื่อง การบาเพ็ญประโยชน์

7. ชิน้ งานท่ีแสดงผลการเรียนรู้
- ขั้นตอนวธิ กี ารการบาเพ็ญประโยชน์

ลงชื่อ............................................ครูผูส้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ที่ 17 – 18

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนที่ 1/………………….. ช่ือผูส้ อน........................................................................
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ลกู เสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวน 2 คาบ
หนว่ ยการเรียนท่ี 8 เรือ่ ง การปรุงอาหารแบบชาวปา่

1. สาระสาคัญ
การปรงุ อาหารเป็นส่งิ ท่ีสาคญั ของวิชาลูกเสือและเปน็ ส่งิ ที่ลกู เสอื ต้องศึกษาคน้ คว้าเพือ่ จะนาไปใชจ้ ริงเม่อื มี

กจิ กรรมเขา้ คา่ ยพกั แรมและวิธีการปรุงอาหารทน่ี ิยมทากนั ในกจิ กรรมเข้าค่ายพักแรมคือการปรงุ อาหารแบบชาวป่า

2. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั
1. อธบิ ายขน้ั ตอนวิธกี าร ของการปรุงอาหารแบบชาวป่าไดถ้ ูกต้อง
2. ปรงุ อาหารแบบชาวป่าได้อย่างสรา้ งสรรค์
3. มคี วามประหยดั ในการประกอบอาหารแบบชาวป่า

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. สามารถอธิบายขน้ั ตอนวิธีการ ของการปรุงอาหารแบบชาวป่าไดถ้ กู ต้อง
2. สามารถปรุงอาหารแบบชาวป่าได้อย่างสร้างสรรค์
3. มคี วามประหยดั ในการประกอบอาหารแบบชาวป่า

4. สาระการเรยี นรู้

คาบที่ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
1 – 2 1. ผเู้ รียนเขา้ ร่วมพธิ เี ปดิ ประชุมกอง ( ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ เกมและเพลง แยก)

2. ผู้กากบั ลกู เสือเป่านกหวีดเรียกพร้อมทาสัญญาณมือในรูปแถวตอนปิดระยะ
3. ผเู้ รยี นจดั แถวตามสญั ญาณมอื ของผูก้ ากบั ลูกเสือ
4.ผู้กากับให้ลกู เสือแตล่ ะหมู่เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ในการปรุงอาหารแบบชาวป่า
5. ผกู้ ากับให้ลูกเสือแตล่ ะหมู่ลงมือปฏบิ ัตกิ ารปรุงอาหารแบบชาวปา่ ตามท่ีศึกษาคน้ คว้า
6. ผู้กากบั ลกู เสือและลกู เสือร่วมกันสรปุ ผลการประกอบอาหารแบบชาวปา่ ของแต่ละหมู่
7. ผู้กากับเรียกลกู เสือเพ่ือทาการปดิ ประชมุ กอง ( เล่าเรอ่ื งสั้น นัดหมาย ตรวจเครือ่ งแต่งกาย ธงลง เลกิ )

5. การวดั และประเมินผล

ด้านความร้(ู K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะและ
การปรุงอาหารแบบชาวป่า และค่านยิ ม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกล่มุ
ซอื่ สตั ย์ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน
การทางาน
มจี ิตสาธารณะ

6. ส่ือ / อปุ กรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้
- วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการปรุงอาหารแบบชาวปา่

7. ชนิ้ งานที่แสดงผลการเรยี นรู้
- อาหารแบบชาวปา่

ลงชื่อ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอื่ ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

สปั ดาห์ท่ี 19

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี 1/………………….. ชอ่ื ผู้สอน ..............................................................
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ลกู เสอื ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นที่ 9 เรื่อง การสรา้ งท่พี กั ช่วั คราว

1. สาระสาคญั
การสร้างท่ีพักเปน็ สง่ิ ท่สี าคญั อีกอย่างหนึง่ ของการอยคู่ ่ายพักแรม เพราะเป็นที่ท่ีลกู เสอื ใชพ้ กั ผอ่ นและลกู เสือ

กต็ อ้ งไดร้ ับความปลอดภยั จงึ จาเป็นทจ่ี ะต้องสรา้ งที่พักใหเ้ หมาะสม

2. ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวัง
1. อธิบายข้ันตอนวธิ กี าร ของการสรา้ งที่พกั ชั่วคราวได้ถกู ต้อง
2. สรา้ งที่พักแบบช่วั คราวไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์
3. มคี วามกระตอื รือร้นในการใฝ่รมู้ ีความคิดสรา้ งสรรค์

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. สามารถอธิบายขัน้ ตอนวิธีการ ของการสรา้ งทพ่ี ักช่วั คราวไดถ้ กู ต้อง
2. มีความกระตือรือรน้ ในการใฝ่ร้มู ีความคดิ สร้างสรรค์

4. สาระการเรียนรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน
1 1. ผ้เู รยี นเขา้ ร่วมพิธเี ปิดประชุมกอง ( ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ เกมและเพลง แยก )
2. ผู้กากับลูกเสือเป่านกหวดี เรยี กพร้อมทาสญั ญาณมือในรูปแถวตอนปดิ ระยะ
3. ผู้เรยี นจดั แถวตามสัญญาณมอื ของผกู้ ากับลูกเสือ
4. ผ้กู ากับให้ลูกเสอื แต่ละหมู่ไปศกึ ษาคน้ คว้าข้ันตอนวธิ กี ารสรา้ งทีพ่ กั ช่ัวคราว
5. ลกู เสอื ศกึ ษาค้นคว้าในแหลง่ การเรียนรู้ (หอ้ งสมุด)
6. ผกู้ ากับลูกเสอื ให้ลูกเสอื แตล่ ะหมู่ออกมานาเสนอผลการศึกษาค้นควา้
7. ผ้กู ากบั ลูกเสอื และลกู เสือร่วมกันสรุปขั้นตอนวิธีการสร้างทีพ่ ักชวั่ คราวท่ีแตล่ ะหมู่เลือก
8. ผู้กากบั เรียกลกู เสือเพื่อทาการปดิ ประชมุ กอง ( เลา่ เร่อื งสน้ั นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแต่งกาย ธงลง เลกิ )

5. การวดั และประเมนิ ผล

ด้านความร(ู้ K) ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ด้านทักษะและ
การสรา้ งท่ีพักช่วั คราว และคา่ นิยม(A) กระบวนการ(P)
กระบวนการทางานกลุม่
ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมน่ั ใน
การทางาน
มจี ติ สาธารณะ

6. ส่อื / อุปกรณ์ / แหลง่ การเรียนรู้
- หนงั สอื

7. ชิ้นงานท่ีแสดงผลการเรยี นรู้
- สรปุ ขัน้ ตอนวธิ กี ารสรา้ งท่พี กั ชวั่ คราว

ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ

(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)

โครงสรา้ งการสอน กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา……………..จานวน 18 ช่วั โมง

สปั ดาหท์ ี่ เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา เกณฑก์ าร
(ชว่ั โมง) ประเมนิ
1 -คาปฏญิ าณและกฎของ 1.สามารถบอกความหมาย คาปฏญิ าณและกฎของ
ลูกเสือ 1 ผ / มผ
ความสาคญั ของคา ลกู เสอื มคี วามจาเป็นต่อ
4 ผ / มผ
ปฏิญาณและกฎของ ลกู เสือเพราะเป็นส่ิงทีใ่ ช้
2 ผ / มผ
ลกู เสอื ได้ สอนลกู เสือให้เป็นคนดี

2.สามารถปฏบิ ตั ติ นตาม และปฏิบัติแตส่ ่ิงที่ดี ดี

คาปฏิญาณและกฎของ

ลูกเสอื ได้

3.มคี วามรักและเหน็

คุณค่าของตนเอง

2-5 -การปฐมพยาบาล 1.สามารถบอกขั้นตอน การปฐมพยาบาลเปน็

วธิ ีการปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ย วธิ ีการชว่ ยเหลอื ผ้ปู ่วย

ที่มเี ลอื ดออกภายนอกได้ กอ่ นนาสง่ โรงพยาบาล

2.สามารถปฏบิ ัตกิ ารปฐม และจะต้องศกึ ษาข้ันตอน

พยาบาลผู้ป่วยทม่ี ี วธิ กี ารปฐมพยาบาลให้

เลือดออกภายนอกได้ ถกู ต้องเปน็ อย่างดีกอ่ นทา

ถูกต้อง การชว่ ยเหลือผูป้ ว่ ย

3.มีความเสยี สละเหน็ แก่

ประโยชน์ส่วนรวม

6-7 -การผกู เงื่อน 1.สามารถอธิบาย การผูกเง่ือนเป็นการผูก

ความหมายความสาคญั เชือกทม่ี ีขน้ั ตอนและ

ของการผกู เง่ือนได้ถกู ต้อง วธิ กี ารทแ่ี ตกตา่ งกันไป

2.สามารถผูกเง่ือนแต่ละ ตามชนดิ ของเงอื่ น และมี

ชนดิ ไดอ้ ย่างถูกต้อง การนาไปใช้ประโยชน์ที่

ตา่ งออกไป

โครงสรา้ งการสอน กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา…………………จานวน 18 ชว่ั โมง

สัปดาห์ท่ี เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา เกณฑ์การ
(ชว่ั โมง) ประเมิน

8-9 -การสารวจบริเวณ 1.สามารถบอกความหมาย การสารวจเป็นกจิ กรรมทีด่ ี 2 ผ / มผ
โรงเรียนและชุมชน
ความสาคัญของการ และมปี ระโยชนท์ าให้เรา

สารวจบรเิ วณโรงเรียนและ ทราบถึงส่ิงตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่

ชมุ ชนได้ บริเวณภายในโรงเรียนวา่ มี

2.สามารถวางแผนการ สงิ่ ใดบ้างที่มีประโยชนต์ อ่

สารวจบริเวณโรงเรยี นและ ลูกเสือจงึ จาเป็นอย่างยงิ่ ท่ี

ชุมชนไดเ้ หมาะสม จะต้อง สารวจบรเิ วณ

3.สามารถพ่ึงตนเอง โรงเรยี น

อตุ สาหะรักการทางาน

สัปดาหท์ ่ี 10 สอบระหวา่ งภาคเรียนที่ 1 / 2563

11-13 -การบุกเบิก 1.สามารถอธิบาย การบุกเบิก เป็นกจิ กรรม 3 ผ / มผ

ความหมายความสาคญั ทีฝ่ ึกให้ลูกเสือมีความเข็ม

ของกจิ กรรมบุกเบกิ ได้ แข็ง มคี วามมานะบากบน่ั

2.สามารถเข้าร่วมกจิ กรรม และมกี ารชว่ ยเหลือซง่ึ กนั

บกุ เบกิ ไดอ้ ย่างปลอดภัย และในหมู่คณะเป็นการฝึก

3.สามารถพงึ่ ตนเอง การใช้ระบบหมู่

อตุ สาหะรักการทางาน

14-15 -การเดินสวนสนาม 1.ผูเ้ รียนสามารถอธิยาบ พธิ ีเดินสวนสนามเป็นพิธี 2 ผ / มผ
ข้ันตอนวธิ ีรการเดนิ สวน การทแี่ สดงให้เห็นถงึ ความ
สนามได้ เป็นระเบียบวินัยของ
2.ผเู้ รยี นเดินสวนสนามได้ ลูกเสือแต่ละกอง และเป็น
ถูกต้องและพร้อมเพรียง การแสดงให้เห็นถงึ ความ
กนั ได้ พร้อมเพรียงของลูกเสือ

โครงสรา้ งการสอน กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา ………………..จานวน 18 ช่ัวโมง

สัปดาห์ที่ เรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา เกณฑ์การ
(ช่วั โมง) ประเมิน

16 -การบาเพญ็ ประโยชน์ 1.สามารถอธิบาย การบาเพ็ญประโยชนเ์ ปน็ 1 ผ / มผ

ความหมายความสาคญั การสรา้ งคณุ งามความดี

ของการบาเพญ็ ประโยชน์ เพราะฉะน้ันลกู เสอื ทุกคน

2.สามารถบาเพ็ญ ควรจาเปน็ ทต่ี ้องปฏิบัติ

ประโยชนไ์ ดต้ ามทตี่ อ้ งการ และเป็นแบบอยา่ งท่ีคนอ่ืน

ต่อไป

ดี

17-18 -การปฐมพยาบาล 1.สามารถอธิบายข้ันตอน การปรงุ อาหารเป็นสิ่งท่ี 2 ผ / มผ

วธิ ีการของการปรุงอาหาร สาคัญของวิชาลูกเสือและ

แบบชาวปา่ ไดถ้ ูกต้อง เปน็ สิง่ ท่ลี ูกเสอื ต้องศกึ ษา

2.สามารถปรงุ อาหารแบบ ค้นควา้ เพ่ือจะนาไปใช้จริง

ชาวป่าได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ เมือ่ มีกิจกรรมเขา้ ค่ายพัก

3.มคี วามประหยดั ในการ แรมและวิธีการปรุงอาหาร

ประกอบอาหารแบบชาว ทนี่ ยิ มทากนั ในกจิ กรรม
ป่า เขา้ คา่ ยพกั แรมคือการปรุง

อาหารแบบชาวปา่

19 -การสรา้ งทพ่ี ักช่ัวคราว 1.สามารถอธบิ ายขัน้ ตอน การสร้างที่พกั เปน็ ส่งิ ที่ 1 ผ / มผ

วิธีการ ของการสรา้ งท่ีพกั สาคญั อีกอย่างหน่งึ ของ

ช่ัวคราวไดถ้ ูกต้อง การอยู่ค่ายพักแรม

2.มคี วามกระตอื รือร้นใน เพราะเปน็ ที่ทลี่ ูกเสือใช้

การใฝ่รมู้ คี วามคดิ พกั ผ่อนและลูกเสือก็ต้อง

สรา้ งสรรค์ ไดร้ บั ความปลอดภยั

สปั ดาหท์ ี่ 20 สอบปลายภาคเรียนท่ี 1 / …………….. 19
ภาคเรยี นท่ี 1 / ………….