42 คูม่ อื แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แม่และเดก็ เขตสุขภาพท่ี 7
3.5 ข้นั ตอนการทบทวนสาเหตุการตายมารดา มดี ังน้ี
ขัน้ ตอนที่ 1 การระบุการตาย และการแจ้งเหตุ (Identify deaths)
เม่อื เกิดมารดาตายจากสถานพยาบาลทกุ แห่งทัง้ ของรฐั และเอกชน คลินิก หรอื นอกสถานพยาบาล
ผู้รับผิดชอบเข้าตรวจสอบข้อมูลเบ้ืองต้น โดยใช้เกณฑ์ท่ีก�ำหนดตามค�ำนิยาม เพ่ือระบุว่าเป็น “มารดาตาย”
และแจ้งเหตุไปยังศูนย์เฝ้าระวังมารดาตาย แหล่งข้อมูลท่ีได้มาจากเวชระเบียนผู้ป่วย ทะเบียนการตาย
ทะเบียนหอ้ งฉกุ เฉนิ หรอื ข่าวสารทางสงั คม เป็นตน้
ขั้นที่ 2 การรวบรวมขอ้ มลู (Collecting information)
การเก็บข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เวชระเบียน บันทึกการผ่าตัด บันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก
บันทึกการคลอดจากห้องคลอด รายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจทางรังสี รวมถึงการ
สัมภาษณ์ ผู้ท�ำการรักษาพยาบาลและผู้อยู่ในสถานการณ์ จากนั้นรวบรวมข้อมูลทั้งหมด น�ำมาตรวจสอบ
ความถูกต้องครบถ้วน และจำ� แนกขอ้ มูลดังนี้
1. ข้อมูลท่วั ไป ได้แก่ อายุ เช้ือชาติ การศึกษา เศรษฐานะ
2. ระยะก่อนไปคลอด ได้แก่ ประวัติทางสูติกรรม การวางแผนตั้งครรภ์ โรคทางอายุรกรรมการ
ฝากครรภ์
3. ระยะคลอด ได้แก่ วันเวลาที่เร่ิมเจ็บครรภ์ เวลาที่ถุงน้�ำแตก เวลาคลอด วิธีคลอด ผู้ท�ำคลอด
ภาวะแทรกซอ้ นขณะคลอด สภาพของทารกขณะคลอด Apgar Score
4. ระยะหลงั คลอด ไดแ้ ก่ ภาวะแทรกซอ้ นต่าง ๆ เช่น ภาวะตกเลือดหลงั คลอด เป็นตน้
ข้อแนะน�ำ : ควรด�ำเนินการรวบรวมขอ้ มลู ให้แล้วเสรจ็ ภายใน 1 สัปดาห์ หลังมารดาตาย
ข้นั ที่ 3 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล (Analyzing the information)
เป็นการน�ำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาวิเคราะห์และอภิปราย โดยคณะท�ำงานทบทวนและวิเคราะห์สาเหตุ
การตายมารดา โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือหาสาเหตุและปัจจัยที่ส่งผลให้มารดาตาย แล้วน�ำไปปรับเปล่ียน
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้�ำรอยเดิม ซ่ึงปัจจัยเหล่านี้อาจเกิดจาก บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ ครุภัณฑ์
ระบบการทำ� งาน การบรหิ ารจัดการ หรือสภาพแวดลอ้ ม ตาม Three Delay Model มีดังน้ี
3.1 ความล่าชา้ ในการตดั สนิ ใจรบั บรกิ าร (Delay in decision to seek care) เชน่
- ความล้มเหลวในการรับรู้สญั ญาณอนั ตราย
- ขาดเงินทีจ่ ะจ่ายสำ� หรบั คา่ ใช้จา่ ยทางการแพทย์ /การเดนิ ทาง
- ความกลวั ของการรกั ษาทีเ่ ลวรา้ ยในสถานบรกิ ารสุขภาพ
- ความไม่เต็มใจของหญิงต้ังครรภ์หรือคนในครอบครัวที่จะแสวงหาการดูแลเน่ืองจากข้อจ�ำกัด
ทางวฒั นธรรม
- ขาดอำ� นาจการตัดสินใจดว้ ยตนเอง เพอ่ื เข้าส่กู ารรกั ษา
- ขาดแรงสนับสนุนจากครอบครวั และชุมชนในการดูแลตนเอง
3.2 ความล่าชา้ ในการเดินทาง/เขา้ ถงึ บรกิ าร (Delay in reaching care) เช่น
- ระยะทางการเดินทางไปสถานบริการ
- ถนนขาด สภาพของถนนทีแ่ ย่ หรอื การจราจรติดขัด
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
ค่มู อื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามัยแมแ่ ละเดก็ เขตสุขภาพที่ 7 43
- ขาดการส่งตอ่ ฉุกเฉนิ ไม่วา่ จะเปน็ ทางบกหรอื ทางนำ้�
- การขาดการสนับสนนุ จากชุมชน
3.3 ความลา่ ช้าในการไดร้ บั บริการทถี่ กู ตอ้ ง/มีคณุ ภาพ (Delay in receiving care) เช่น
- ขาดบุคลากรดา้ นการดูแลสุขภาพ
- การขาดแคลนยาฉกุ เฉินหรือเลือด
- ขาดอปุ กรณ์ในการดูแลสตู ิศาสตร์ฉุกเฉนิ (Emergency Obstetric Care)
- การขาดทักษะของผู้ใหบ้ ริการดา้ นการดูแลสตู ศิ าสตร์ฉกุ เฉิน (Emergency Obstetric Care)
- ระบบการสง่ ต่อไม่ครอบคลมุ (รวมถึงการขนสง่ และการส่อื สาร)
ข้ันตอนท่ี 4 การออกข้อแนะนำ� (Recommending Solution)
หลังจากทบทวนและวิเคราะห์สาเหตุการตายมารดาเสร็จส้ินแล้ว จะต้องได้ข้อสรุปและค้นพบปัจจัย
ที่ส่งผลให้เกิดการตายมารดา น�ำเอาปัจจัยเหล่านั้นมาปรับเปลี่ยนและก�ำหนดเป็นข้อแนะน�ำ เพ่ือใช้เป็น
แนวทางปฏิบตั ิ โดยข้อแนะนำ� นี้ อาจเช่อื มโยงไปยงั ชมุ ชน หรือสถานพยาบาลใกลเ้ คยี ง สอ่ื สารใหแ้ ก่ผบู้ ริหาร
และผู้ก�ำหนดนโยบาย มีการออกรายงานเป็นระยะ การออกแบบข้อแนะน�ำ (Recommendation) ควรมี
องค์ประกอบ “SMART” ดงั น้ี
Specific สามารถแกป้ ัญหาไดต้ รงจุด
Measurable สามารถตรวจสอบและวดั ผลได้
Action-oriented อธบิ ายข้อปฏบิ ตั ิเป็นขนั้ ตอนชดั เจน
Realistic สามารถท�ำได้ มคี วามเป็นไปได้ท่จี ะทำ� สำ� เร็จ
Time-Bound มีการก�ำหนดระยะเวลาชดั เจน
ขั้นตอนที่ 5 ด�ำเนนิ การตามข้อแนะนำ� (Implementing changes)
เป็นการน�ำเอาข้อแนะน�ำท่ีปรับเปลี่ยนใหม่ไปใช้ มีการก�ำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นผู้ปฏิบัติตาม
ขอ้ แนะนำ� กำ� หนดผลลพั ธท์ ตี่ อ้ งการ บางครง้ั อาจตอ้ งมารบรหิ ารจดั การทรพั ยากร (คน เงนิ ของ) ดงั นนั้ ผบู้ รหิ าร
ระดบั สูงสุดของหนว่ ยงาน ควรเป็นผสู้ ัง่ ด�ำเนนิ การและมกี ารกำ� หนดผ้รู บั ผดิ ชอบในการรายงานผลเปน็ ระยะ
ขั้นตอนท่ี 6 การประเมนิ ผล (Evaluating and Refining)
การก�ำกับติดตามประเมินผลการปรับเปลี่ยนตามข้อแนะน�ำ หากไม่บรรลุเป้าหมายก็น�ำมาวิเคราะห์
Gap ตามกระบวนการคณุ ภาพ (Plan Do Study Action: PDSA) เปน็ ระยะ ๆ
3.6 การสรปุ สาเหตกุ ารตายของมารดา (WHO, 2013) จำ� แนกออกเปน็ 2 กลุ่ม คือ
1. Direct maternal deaths หมายถงึ การตายทมี่ สี าเหตจุ ากภาวะแทรกซอ้ นทางสตู กิ รรม หรอื
จากการดูแลรักษาในขณะต้ังครรภ์ คลอดและหลงั คลอดทีไ่ ม่เหมาะสม
2. Indirect maternal deaths หมายถงึ การตายทม่ี สี าเหตจุ ากโรคหรอื ภาวะทมี่ มี ากอ่ นตงั้ ครรภ์
หรือโรคท่ีเกิดข้ึนในขณะต้ังครรภ์แต่มิใช่โรคทางสูติกรรม หรือโรคท่ีเป็นผลกระทบจากการเปล่ียนแปลง
ในขณะตงั้ ครรภ์
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
40
44 คู่มอื แนวทางการด�ำ เนนิ งาน อนามยั แม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
3.7 ก ำรร3ำ.ย7งกำนารกรำารยตงำายนมกำราดรำตาเมยอื่มมาารรดดาาตเมายอื่ มใหาร้ดดาาเนตินายกาใรหดด้งั น�ำเ้ี นนิ การดงั น้ี
องคก์ ารอนามัยโลก สำนักงำนปลัดกระทรวงสำธำรณสุข
ผ้บู ริหำรกรมอนำมยั
สำนกั ส่งเสริมสขุ ภำพ กรมอนำมยั
ศูนย์อนำมยั ท่ี 7 ขอนแก่น
7 วัน สำนักงำนสำธำรณสขุ จังหวัด 30 วนั
24 ่ชัวโมง 15 วนั
โรงพยำบำลรัฐ/โรงพยำบำลเอกชน
การแจ้งข้อมูล (Information)
(CE Report)
รูปท่ีร3ูป3ทก่ี า3ร3รากยางรารนากยางราตนากยามราตราดยามารดา
ทีม่ าท:ี่มสาำ� :นสกั าสน่งเักสสร่งมิ เสสขุ รภมิ าสพุขภการพมอกนรามมอัยนการมะยัทรกวรงะสทาธราวรงณสสาธขุ าพรณ.ศส.2ขุ 56พ2.ศ.2562
11.. โโรรงงพพยยาาบบาาลลททีม่ีม่ ีมีมาารรดดาาตตาายย(โ(รโงรพงพยายบาาบลาตลน้ ตทน้ าทงแางลแะลปะลปายลทาายงท) า ง)
- แจง้ -ขแ้อจมงู้ลขมอ้ ามรดูลามตาารยดเบาตือ้ างตยน้เบแ้ือกงผ่ ตู้อ้น�ำนแกวยผ่ กอู้ าารนโรวงยพกยาารบโรางลพนยาายบแาพลทนยาส์ ยาธแาพรทณยสส์ ขุ าจธังาหรวณดั สแุขลจะงั หวดั
เแเ ปบบลรือ้ ะ้ือะงปงธ ตตาร้น้นนะ 2ธค.าณ นะ-สค ก�ำดณรน�ำรกัะเมน-กงกิานดรานกรารสมาเแนารกมธตนิ า่แาากรรลมแาณะกรมเสรดต่แุขะ็กาลจบรมะังะวกเหดนดรวบัก็กะดั จาบรรงัะวหบดนวรับกดัิหจาภางัรราหบจยวรัดในัดิหกภาา2รรา4จคยชดัวในา่วักมโาม2เรสง4คี่ยวชงาัว่ ม(โRเมสisงยี่kงM(RainskagMemaneangte) mแลeะnแt)ก้ปแลัญะหแาก้ปัญหา
2. ส- าแนจัก้งงขา้อนมสูลามธาารรดณาสตขุายจเังบหื้อวงดั ต้นแก่กลุ่มพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น
ภายใน 24 ช่ัวโมง- แจ้งขอ้ มูลมารดาตายเบอื้ งต้นแก่กลมุ่ พัฒนาอนามยั แม่และเด็ก ศนู ย์อนามยั ที่ 7 ขอนแก่น
ภายใน 24 ชวั่ โมง
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
ค่มู ือ แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแมแ่ ละเดก็ เขตสุขภาพที่ 7 45
3. คณะกรรมการอนามัยแมแ่ ละเด็กระดับจังหวดั
- เกบ็ รวบรวมมารดาตายทั้งหมด เพอื่ ใชท้ บทวนและวิเคราะห์สาเหตุการตายมารดา
4. กลุ่มพฒั นาอนามัยแมแ่ ละเด็ก ศนู ย์อนามยั ท่ี 7 ขอนแก่น
- ส่งรายงานการตายเบื้องต้น ผ่าน http://savemom.anamai.moph.go.th ให้กรมอนามัย
ภายใน 24 ชว่ั โมง
- ประสานกับคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็กระดับจังหวัดเพ่ือรวบรวบข้อมลู มารดาตาย
- จัดประชมุ ทบทวนและวิเคราะห์สาเหตุการตายมารดา
- ส่งแบบฟอร์มรายงานการตายมารดา (CE2) ผ่านhttp://savemom.anamai.moph.go.th
ให้กรมอนามัยภายใน 24 ช่วั โมง
5. สำ� นกั ส่งเสรมิ สุขภาพ กรมอนามยั
- วิเคราะห์ข้อมูลมารดาตายในภาพรวม และรายงานแก่คณะอนุกรรมการมารดาและทารก
ปริกำ� เนิด ทุก 3 เดอื น
- จดั ท�ำรายงานประจำ� ปี และข้อเสนอแนะเชงิ นโยบายต่อผ้บู ริหารระดับสงู
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
33..88 TTeemmpplalatteeททบบททววนนDDeeadadCCasaese
หญงิ ไทยอาย.ุ ......................................................ปี
G……..P………..A……..….L......................................
ANC ท.่ี .................................................................
วินิจฉัย..................................................................
46 คู่มอื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสขุ ภาพที่ 7
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
วันที่ วนั ท่ี Time 1 TEviemnte 1 Time 2 TimTimee23 รบั Refer TTimime 4e 3 รบั Refer Time 4
Time Time
Event
แรกรับ Refer Event
วนั ท.่ี ....(เวลา.....) แรกรบั Refer Event
อาการ................ รายละเอยี ด
รายงานผล............. รายละเอียด
วันท่.ี ....(เวลา.....) รายงานผล.............
อาการ................
Admit โรงพยาบาล..............................วันท่ี.........................D/C วันท่.ี ...........................
Admit โรงพยาบาล .............................. วันที่ ......................... D/C วันที่ ............................
รปู ท่ี 34 Template ทบทวน Dead Case
ทมี่ า: ข้อสงั่ การมาตรการป้องกันและแก้ไขมารรปู ดทาี่ ต3า4ยTeเขmตpสlขุaภteาพททบ่ีท7วนปีงDบeปaรdะCมaาsณe 2563
ท่ีมา: ขอ้ สัง่ การมาตรการป้องกันและแกไ้ ขมารดาตาย เขตสุขภาพที่ 7 ปงี บประมาณ 2563
คมู่ ือ แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7 47
ส่วนที่ 2 แนวทางการด�ำเนนิ งานดา้ นเดก็ ปฐมวยั
แนวทางการด�ำเนนิ งานดา้ นเด็กปฐมวยั
การเฝา้ ระวังและสง่ เสริม แนวทางการเฝ้าระวังส่งเสรมิ และคัดกรองพฒั นาการเดก็ ปฐมวัย
พฒั นาการเด็กปฐมวัย (หน้า 49)
ระบบการกำ� กบั ติดตามข้อมูลการด�ำเนนิ งาน
การเฝ้าระวังและคัดกรองพฒั นาการเดก็ ปฐมวยั (หน้า 52)
ข้นั ตอนการคดั กรองและบนั ทึกข้อมลู พัฒนาการตามชว่ งวยั
ของเดก็ ปฐมวัยโปรแกรม Special pp. (หน้า 53)
การเฝา้ ระวังและส่งเสรมิ แนวทางการเฝ้าระวงั และสง่ เสริมโภชนาการเด็กปฐมวยั
พัฒนาการเด็กปฐมวัย โดยเจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ และ อสม. (หน้า 55)
แนวทางการปอ้ งกันภาวะโลหติ จางจากการขาดธาตุเหล็ก
สำ� หรบั เดก็ อายุ 6 เดือน ถึง 5 ปี (หน้า 61)
ทันตสขุ ภาพเด็กปฐมวยั แนวทางการดูแลสุขภาพช่องปากเดก็ ปฐมวยั (หน้า 64)
การจัดระบบบรกิ าร การจดั ระบบบริการคลินกิ เด็กสขุ ภาพดี (หนา้ 65)
เดก็ ปฐมวยั แบบปกตใิ หม่ ค�ำแนะน�ำส�ำหรับผบู้ รหิ าร เจ้าของสถานพฒั นาเด็กปฐมวัย
(New Normal) (หน้า 68)
ค�ำแนะนำ� ครู และผ้ดู ูแลเด็กดี (หนา้ 69)
ค�ำแนะน�ำผู้ปกครองในการดแู ลบุตรหลาน (หนา้ 70)
รปู ท่ี 35 แนวทางการด�ำเนินงานด้านเด็กปฐมวัย
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
48 คู่มอื แนวทางการดำ�เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
1. การเฝา้ ระวงั และสง่ เสริมพฒั นาการเด็กปฐมวัย
คํานยิ าม
เดก็ ปฐมวยั หมายถึง เด็กอายแุ รกเกิดจนถงึ อายุ 5 ปี 11 เดือน 29 วัน
พัฒนาการสมวัย หมายถึง เด็กทุกคนได้รับตรวจคัดกรองพัฒนาการโดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและ
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) แล้วผลการตรวจคัดกรองผ่านครบ 5 ด้านในการตรวจคัดกรอง
พฒั นาการครงั้ แรก รวมกบั เดก็ ทพ่ี บพฒั นาการสงสยั ลา่ ชา้ และไดร้ บั การตดิ ตามใหไ้ ดร้ บั การกระตนุ้ พฒั นาการ
และประเมนิ ซ�้ำแลว้ ผลการประเมนิ ผ่านครบ 5 ด้านภายใน 30 วัน (1B260)
การคัดกรองพัฒนาการ หมายถึง ความครอบคลุมของการคัดกรองเด็กอายุ 9, 18, 30, 42 และ
60 เดือน ณ ช่วงเวลาที่มีการคัดกรองโดยเป็นเด็กในพื้นท่ี (Type1: มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตัวจริงและ
Type3 : ท่ีอาศัยอยใู่ นเขตแตท่ ะเบยี นบ้านอยู่บ้านนอก)
พัฒนาการสงสัยล่าช้า หมายถึง เด็กท่ีได้รับตรวจคัดกรองพัฒนาการโดยใช้คู่มือเฝ้าระววังและ
สง่ เสริมพัฒนาการเด็กปฐมวยั (DSPM) และผลการตรวจคดั กรอง พฒั นาการตามอายุของเด็กในการประเมนิ
พัฒนาการ ครั้งแรกผ่านไม่ครบ 5 ด้าน ทั้งเด็กท่ีต้องแนะนําให้พ่อแม่ผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการตามวัย
ภายใน 30 วัน (1B261) รวมกับเด็กทสี่ งสยั ล่าช้าสง่ ต่อทันที (1B262 : เด็กท่ีพฒั นาการล่าช้า/ ความผิดปกติ
อยา่ งชัดเจน)
พัฒนาการสงสัยล่าช้าไดร้ บั การติดตาม หมายถงึ เด็กทไ่ี ดร้ ับการตรวจคัดกรอง พัฒนาการตามอายุ
ของเด็กในการประเมินพัฒนาการครัง้ แรกผ่านไม่ครบ 5 ดา้ น เฉพาะกลมุ่ ทแ่ี นะน�ำให้พอ่ แม่ผู้ปกครองส่งเสริม
พฒั นาการตามวยั ภายใน 30 วนั (1B261)
เด็กพัฒนาการล่าช้า หมายถึง เด็กท่ีได้รับตรวจคัดกรองพัฒนาการโดยใช้คู่มือเฝ้าระวังและ
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) แล้วผลการตรวจคัดกรองไม่ผ่านครบ 5 ด้าน ในการตรวจคัดกรอง
พัฒนาการ คร้ังแรกและครง้ั ที่ 2 (1B202, 1B212, 1B222, 1B232, 1B242)
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
1.1 แนวทางการเฝา้ ระวงั ส่งเสริมและคัดกรองพฒั นาการเด็กปฐมวัย 2 ระบบคัดกรอง
1.1.1 คำ� อธิบายแนวทางการเฝ้าระวงั ส่งเสรมิ และคัดกรองพฒั นาการเด็กปฐมวยั
คมู่ อื แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แมแ่ ละเด็ก เขตสุขภาพท่ี 7 49จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.)
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7 คดั กรองพฒั นาการ 5 ช่วงวยั (9,18,30,42,60 เดือน)
โดยใช้ DSPM (*ครูศพด./อนบุ าล อสม. คัดกรองได้ภายใต้การดูแลของ จนท.)
1 ระบบเฝ้าระวงั ในชุมชน 3 สมวยั 4 สงสยั ล่าช้า 5 ลา่ ชา้ สง่ ตอ่ ทนั ที
รับคมู่ ือ DSPM ท่ี LR PP
(ไม่ได้รบั ให้รบั ท่ี WCC / รพ.สต.) 6 แนะนำ�กระตุ้นและฝกึ ทักษะพ่อแม่
ผ้ปู กครอง อสม. ครู ศพด./อนุบาล ผ้ดู แู ล อสม. ครศู พด. ครูอนุบาล
สง่ เสรมิ กระตนุ้ และประเมนิ พฒั นาการเดก็ อายุ 0-78 เดอื น ส่งเสรมิ พัฒนาการเดก็
โดยใช้ DSPM/DAIM 7 จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) คัดกรองซ�ำ้
(*ครศู พด./อนบุ าล อสม. คัดกรองไดภ้ ายใตก้ ารดแู ลของ จนท.)
ภายใน 15-30 วนั
8 สมวัย 9 สงสัยลา่ ช้า
10 จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.)
ผู้ผา่ นการอบรม TEDA4I คัดกรองซ้�ำโดยใช้ DSPM
11 สมวยั 12 สงสัยล่าชา้
17 เด็กเข้าสูร่ ะบบ 15 สมวยั 14 จนท. คดั กรอง 13 จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผู้ผ่านการอบรม TEDA4I
การดแู ลรกั ษา 16 ลา่ ชา้ ซ้ำ� โดยใช้ กระตนุ้ ดว้ ย TEDA4I ทันที และนัดคดั กรองอย่างนอ้ ยเดือนละ 1 ครงั้
(TEDA4I)
(ตลอดระยะเวลา 3 เดือน)
รูปที่ 36 แนวทางการเฝ้าระวงั สง่ เสริมและคัดกรองพฒั นาการเด็กปฐมวยั
50 ค่มู อื แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแมแ่ ละเด็ก เขตสุขภาพท่ี 7
1.1 แนวทางการเฝ้าระวงั ส่งเสรมิ และคัดกรองพฒั นาการเด็กปฐมวัย
1.1.1 คำ� อธิบายแนวทางการเฝ้าระวงั ส่งเสริมและคดั กรองพัฒนาการเดก็ ปฐมวยั
หมายเลข 1 ระบบเฝา้ ระวงั ในชมุ ชน
- รับคู่มือ DSPM/DAIM จากห้องคลอด (LR) ห้องหลังคลอด (PP) (กรณีไม่ได้รับคู่มือให้รับท่ี
ห้องตรวจสขุ ภาพเด็กเล็ก (WCC/รพ.สต.) ผา่ นกระบวนการโรงเรียนพ่อแม่
- ผู้ปกครอง/ครู/อสม./ชุมชน ใช้คู่มือ DSPM/DAIM ประเมินพัฒนาการทุกช่วงอายุ (เด็กอายุ
0-78 เดือน) หากพบว่าพัฒนาการไม่ผ่านตามวัยให้ปรึกษาเจ้าหน้าท่ี) หมายเลข 2, 3,4 และ
5 ระบบคดั กรองทกุ ระดบั
- เจ้าหน้าที่ (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ตรวจสอบรายชื่อเด็ก 5 ช่วงวัย (9, 18, 30, 42
และ 60 เดอื น) จากระบบทุกเดือน
- ส�ำรวจ ตรวจสอบเด็กที่อยู่ในพื้นท่ี (เด็กไม่อยู่ในพ้ืนที่ประสานให้อสม. และผู้ปกครองพาเด็ก
ไปตรวจในสถานบริการใกลบ้ า้ น)
- นัดเดก็ มาตรวจคัดกรองพัฒนาการตามชว่ งอายุ และบันทกึ ข้อมูลใน Special pp.
- เด็กพัฒนาการสมวัย สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการตามวัยผ่านโรงเรียนพ่อแม่
และนัดมาตรวจคัดกรองตามช่วงอายุ
- เด็กพัฒนาการสงสัยล่าช้า สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริม กระตุ้นพัฒนาการตามวัยผ่าน
โรงเรียนพ่อแม่ และนดั มาตรวจซ้ำ� ภายใน 15-30 วัน
หมายเลข 6, 7 และ 8 เจ้าหน้าทีต่ ิดตามคดั กรองเดก็ ทม่ี ีพัฒนาการสงสัยลา่ ช้า ภายใน 15-30 วัน
- ส�ำรวจ ตรวจสอบรายชื่อเด็ก (เด็กไม่อยู่ในพื้นที่ประสานประสานให้อสม.และผู้ปกครอง
พาเด็กตรวจในสถานบริการใกล้บา้ น)
- ตดิ ตามนัดเด็กมาตรวจคดั กรองพฒั นาการ และบนั ทกึ ขอ้ มลู ใน Special pp.
- เด็กพัฒนาการสมวัย สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการตามวัยผ่านโรงเรียนพ่อแม่และ
นดั มาตรวจคดั กรองตามช่วงอายุ
- เด็กพัฒนาการล่าช้า สอนและฝกึ ผู้ปกครองสง่ เสรมิ กระตนุ้ พัฒนาการตามวัยผ่านโรงเรยี นพ่อแม่
และส่งต่อเข้ารับการตรวจประเมินด้วย TEDA4I ที่ รพช./รพท./รพศ./สถาบันพัฒนาการเด็ก
และวยั ร่นุ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
หมายเลข 9, 10 11 และ 12 ระบบการส่งตอ่ กระตุ้นพฒั นาการ
- ประสานเจา้ หนา้ ที่ผู้ผ่านการอบรม TEDA4I และ PG ท่ี รพช./รพท./รพศ./สถาบันพฒั นาการเดก็
และวัยรุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งต่อข้อมูลเด็กพร้อมใบส่งตัว ติดตามตรวจสอบให้
เดก็ ทุกคนได้รบั การกระตุน้ พัฒนาการดว้ ย TEDA4I และจัดทำ� ทะเบยี นรายช่ือ
- ผ้ผู ่านการอบรม TEDA4I และ PG คดั กรองซำ�้ โดยใชค้ มู่ ือ DSPM
- เด็กพัฒนาการสมวัย สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการตามวัยผ่านโรงเรียนพ่อแม่
และนัดมาตรวจคัดกรองตามชว่ งอายุ และบนั ทกึ ข้อมลู ใน Special pp.
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คู่มือ แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7 51
- เดก็ พฒั นาการสงสัยล่าชา้ สอนและฝึกผ้ปู กครองสง่ เสริมพัฒนาการ กระตุ้นดว้ ย TEDA4I ทนั ที
บันทึกข้อมูลใน Special pp. และนัดกระตุ้นสม่�ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
(ตลอดระยะเวลา 3 เดือน) (ตดิ ตามผู้ปกครองให้กระตุ้นพัฒนาการอยา่ งสม่�ำเสมอ)
- หากเด็กยังมีพัฒนาการสงสัยล่าช้า ส่งต่อเข้ารับการดูแลรักษากับแพทย์ผู้เช่ียวชาญ จนท.
(รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผู้ผ่านการอบรม TDSI และ PG ท่ี รพช./รพท./รพศ./สถาบัน
พฒั นาการเด็กและวยั รนุ่ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
หมายเลข 13, 14 และ 15 ระบบการสง่ ต่อ และการดูแลรกั ษา
- เจ้าหน้าท่ีประสานแพทย์ผู้เช่ียวชาญ เจ้าหน้าท่ี (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผู้ผ่านการอบรม
TDSI และ PG ที่ รพช./รพท./รพศ./สถาบนั พฒั นาการเดก็ และวยั รุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่งต่อข้อมูลเด็กพร้อมใบส่งตัว ติดตามตรวจสอบให้เด็กทุกคนได้รับการดูแลรักษาตามแนวทาง
และจัดทำ� ทะเบยี นรายชอื่
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าท่ี (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผู้ผ่านการอบรม TDSI และ PG
คัดกรองซำ�้ โดยใช้ TEDA4I
- เด็กพัฒนาการสมวัย สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการตามวัยผ่านโรงเรียนพ่อแม่
และนดั มาตรวจคัดกรองตามชว่ งอายุ และบนั ทึกขอ้ มลู ใน Special pp.
- เด็กพัฒนาการล่าช้า สอนและฝึกผู้ปกครองส่งเสริมพัฒนาการ เข้ากระบวนการดูแลรักษาทันที
และนัดกระตุ้นตามแนวทางการดูแลในกระบวนการรักษาของแพทย์ หรือเจ้าหน้าท่ีผู้เช่ียวชาญ
(ติดตามผู้ปกครองให้กระตนุ้ พฒั นาการอย่างสม�่ำเสมอ)
ทมี่ า: ข้อส่ังการมาตรการการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เขตสุขภาพที่ 7 ปี พ.ศ.2561
ปรับปรงุ ปี พ.ศ. 2563
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
1.2 ระบบการกำ� กบั ตดิ ตามขอ้ มลู การดำ� เนนิ งานเฝา้ ระวงั และคดั กรองพฒั นาการเดก็ ปฐมวยั
MCH B. เขต กำ�กับตดิ ตาม ระบบการดำ�เนนิ งานเฝา้ ระวัง/คัดกรอง
52 คู่มอื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสขุ ภาพที่ 7
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7MCH.B ทุกระดับ ขบั เคลอ่ื น กำ�กับตดิ ตาม รายงานขอ้ มลู 2 ครง้ั /ปี
CPM ทกุ ระดบั เยย่ี มเสรมิ พลงั และกำ�กบั ตดิ ตาม (ก.พ., ก.ค.)
ระบบเฝา้ ระวงั ในชมุ ชน รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) คดั กรองพฒั นาการ 5 ชว่ งวยั โดยใช้ DSPM/DAIM
รบั คมู่ ือ DSPM ที่ LR/ PP สมวยั สงสัยล่าช้า บันทึกขอ้ มูลในระบบ
(ไม่ได้รับใหร้ ับที่ wcc / รพ.สต.) แนะนำ�กระตุ้นและฝึกทกั ษะพอ่ แม่ ผูด้ แู ล อสม. Special pp. และ TCDIP
ผ้ปู กครอง อสม. ครู ศพด./อนุบาล ครศู พด. ครูอนบุ าล ส่งเสรมิ พัฒนาการเด็ก
ส่งเสรมิ กระตนุ้ และประเมินพฒั นาการ
เด็กอายุ 0 - 78 เดอื น โดยใช้ DSPM/DAIM จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) คดั กรองซำ�้
(*ครศู พด./อนบุ าล อสม. คดั กรองไดภ้ ายใตก้ ารดแู ลของ จนท.) ภายใน 15-30 วนั
สมวัย สงสยั ลา่ ชา้
จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.)
ผู้ผ่านการอบรม TEDA4I คดั กรองซ้�ำโดยใช้ DSPM
สมวยั สมวยั สงสยั ล่าช้า สมวยั
ลา่ ชา้ ลา่ ชา้
เดก็ เขา้ สรู่ ะบบ จนท. คดั กรองซำ้� จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผู้ผ่านการอบรม TEDA4I
การดแู ลรกั ษา โดยใช้ TEDA4I กระตนุ้ ดว้ ย TEDA4I ทนั ที และนดั คดั กรองอยา่ งนอ้ ยเดอื นละ 1 ครง้ั (ตลอด 3 เดอื น)
รปู ที่ 37 ระบบการกำ� กับตดิ ตามข้อมลู การด�ำเนินงานเฝา้ ระวังและคดั กรองพัฒนาการเดก็ ปฐมวัย
ท่มี า: ขอ้ สงั่ การมาตรการการเฝา้ ระวงั และสง่ เสรมิ พัฒนาการเดก็ ปฐมวัย เขตสขุ ภาพท่ี 7 ปี พ.ศ.2561 ปรับปรุง ปี พ.ศ. 2563
1.3 ข้นั ตอนการคัดกรองและบันทึกข้อมูลพัฒนาการตามชว่ งวัยของเด็กปฐมวยั โปรแกรม Special pp.
ตดิ ตามเฝา้ ระวงั ดว้ ย DSPM เดก็ 0-5 ปี คดั กรองดว้ ย DSPM สมวยั (1B260)
(5 ชว่ งวยั ) สงสยั ลา่ ชา้ (1B261) +
คมู่ อื แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แมแ่ ละเด็ก เขตสุขภาพท่ี 7 53
ดา้ นการเคลอ่ื นไหว (1B203–1B207)Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7ลา่ ชา้ สง่ ตอ่ ทนั ที (1B262)
ดา้ นกลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ และสตปิ ญั ญา(1B213–1B217)
ดา้ นการเขา้ ใจภาษา (1B223 – 1B227) จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ดา้ นการเคลอื่ นไหว (1B202) ดา้ นการเคลอื่ นไหว (1B201)
ดา้ นการใชภ้ าษา (1B233 – 1B237) ผผู้ า่ นการอบรม TEDA4I คดั กรองซำ้� ดา้ นกลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ฯ (1B212) ดา้ นกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ ฯ (1B211)
ดา้ นการชว่ ยเหลอื ตวั เองและสงั คม (1B243 – 1B247) ดา้ นความเขา้ ใจภาษา (1B222) ดา้ นความเขา้ ใจภาษา (1B222)
โดยใช้ DSPM
จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผผู้ า่ นการอบรม TEDA4I ดา้ นการใชภ้ าษา (1B232) ดา้ นการใชภ้ าษา (1B231)
กระตนุ้ ดว้ ย TEDA4I อยา่ งนอ้ ยเดอื นละ 1 ครง้ั ลา่ ชา้ สมวยั ดา้ นกสางัรคชมว่ ย(เ1หBล2อื 4ต2น)เอง / ดา้ นกสางัรคชมว่ ย(เ1หBล2อื 4ต1น)เอง /
(ตลอด 3 เดอื น) (1B260)
แนะนำ� กระตนุ้ และฝกึ ทกั ษะพอ่ แม่
สมวยั (1B270) ลา่ ชา้ ผดู้ แู ล อสม. ครศู พด. ครอู นบุ าล
ดา้ นการเคลอื่ นไหว (1B271) จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.) ผผู้ า่ นการอบรม สงสยั ลา่ ชา้ สง่ เสรมิ พฒั นาการเดก็
ดา้ นกลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ฯ (1B272) TEDA4I ประเมนิ ซำ้� ดว้ ย TEDA4I เมอ่ื ครบ 3 เดอื น
ดา้ นความเขา้ ใจภาษา (1B273) จนท. (รพ.สต./รพช./รพท./รพศ.)
พฒั นาการไมด่ ขี น้ึ คดั กรองซำ้�
ดา้ นการใชภ้ าษา (1B274)
ดา้ นการชว่ ยเหลอื ตนเอง/สงั คม (1B275) สง่ ตอ่ เพอื่ สมวยั (1B260)
เขา้ ระบบรกั ษา
**กำ� กบั ตดิ ตามขอ้ มลู พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั
ในระบบ HDC ทกุ วนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั ไป
รูปที่ 38 ขั้นตอนการคดั กรองและบนั ทกึ ขอ้ มลู พฒั นาการตามชว่ งวยั ของเด็กปฐมวยั โปรแกรม Special pp.
ทม่ี า: ขอ้ สั่งการมาตรการการเฝา้ ระวงั และสง่ เสรมิ พัฒนาการเด็กปฐมวยั เขตสขุ ภาพท่ี 7 ปี พ.ศ.2561 ปรบั ปรงุ ปี พ.ศ. 2563
54 คมู่ ือ แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามัยแมแ่ ละเด็ก เขตสุขภาพท่ี 7
2. การเฝ้าระวงั และสง่ เสรมิ ภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย
คำ� นิยาม
เดก็ อายุ 0-5 ปี หมายถงึ เดก็ แรกเกดิ จนถึงอายุ 5 ปี 11 เดอื น 29 วัน
ภาวะโภชนาการ หมายถึง ประเมินจากการช่ังน�้ำหนักและการวัดส่วนสูง น�ำค่าไปเปรียบเทียบ
กับกราฟการเจริญเติบโตและภาวะโภชนาการ เปรียบเทียบกับกราฟการเจริญเติบโต กรมอนามัย ชุดใหม่
ปี พ.ศ. 2558 (ส�ำนกั โภชนาการ กรมอนามัย, 2558)
สูงดี หมายถึง เด็กท่ีมีความยาวหรือส่วนสูงกับเกณฑ์อายุ อยู่ในระดับสูงตามเกณฑ์ขึ้นไป
แสดงวา่ เด็กเจริญเติบโตไดด้ ี
สมส่วน หมายถึง เดก็ ทมี่ นี ้�ำหนกั ตามเกณฑส์ ว่ นสูง อย่ใู นระดบั สมส่วน แสดงวา่ เดก็ มีภาวะโภชนาการ
ที่เหมาะสม
สูงดีสมส่วน หมายถึง เด็กที่มีความยาวหรือส่วนสูงอยู่ในระดับสูงตามเกณฑ์ขึ้นไปและมีน้�ำหนัก
อยู่ในระดบั สมสว่ น (ในคนเดียวกนั )
ภาวะน�้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ หมายถึง น้�ำหนักเด็กอยู่ในภาวะขาดสารอาหาร แสดงว่าเด็กได้รับ
สารอาหารไมเ่ พยี งพอ
ภาวะน�้ำหนักค่อนข้างน้อย หมายถึง น้�ำหนักเด็กอยู่ในภาวะเส่ียงขาดสารอาหาร เป็นการเตือน
ให้ระวัง หากไมด่ แู ลเดก็ จะมนี ้ำ� หนกั น้อยกวา่ เกณฑไ์ ด้
ภาวะน�้ำหนักค่อนข้างมากและมากกว่าเกณฑ์ หมายถึง น�้ำหนักเด็กอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการ
มีน�้ำหนักมากเกินไป อาจเกิดมาจากเด็กอาจมีภาวะอ้วน หรืออาจมีส่วนสูงสูงกว่าเด็กในช่วงอายุเดียวกัน
จงึ ทำ� ให้มีน�ำ้ หนกั ค่อนขา้ งมาก จึงต้องพิจารณากราฟน�้ำหนกั ตามเกณฑ์สว่ นสูงประกอบกัน
ภาวะเต้ีย หมายถึง เด็กมีส่วนสูงน้อยกว่ามาตรฐาน แสดงว่าเด็กเติบโตไม่ดีอาจเน่ืองมาจากมีการ
ขาดอาหารเร้ือรงั หรอื มกี ารเจบ็ ปว่ ยบอ่ ย ๆ
ภาวะค่อนข้างเต้ีย หมายถึง ส่วนสูงเด็กอยู่ในเกณฑ์เส่ียงต่อการขาดอาหารแบบเร้ือรัง หากไม่ได้รับ
การดูแล อาจจะสง่ ผลให้เด็กเตย้ี ในอนาคตได้
ภาวะผอม หมายถึง น�้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ขาดสารอาหาร หากไม่ได้รับการดูแลอาจส่งผลให้การ
เจรญิ เติบโตหยุดชะงักได้ แสดงวา่ เด็กได้รับสารอาหารไมเ่ พียงพอ
ภาวะทว้ ม หมายถึง น้ำ� หนกั เดก็ เส่ยี งต่อภาวะอ้วน เปน็ การเตือนใหร้ ะวงั หากไมด่ แู ลนำ้� หนักอาจจะ
เพ่มิ ข้นึ เปน็ ภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนได้
ภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน หมายถึง เด็กมีน้�ำหนักมากกว่าเด็กท่ีมีส่วนสูงเท่ากัน หากไม่ได้รับการแก้ไข
จะกลายเปน็ ผู้ใหญ่อว้ น และเสีย่ งต่อโรคแทรกซอ้ นในอนาคต
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คู่มือ แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแมแ่ ละเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7 5551
2. 12แ .1นว ทแสาานงธวกาาทรรณาเฝงสา้ กรขุ ะาวรแงั เลแฝละ้าะอสรง่ะสเวสมรัง.มิ แภลาะวะสโ่งภเชสนราิกมาภรเาดวก็ ะปโฐภมวชัยนโดาย5กเ1จา้ารหเนด้า็กทป่สี าฐธมารวณัยสขุ โดแยละเจอ้าสหม.น้าท่ี
เฝา้ ระวงั และสง่ เสริมภาวะโชภ่ังชนน้าาหกนารกั เดวก็ ดั ปคฐวมาวมัยยโดาวย/เจส้า่วหนนส้าูงทตส่ี าาธมาทระณเสบขุียนแรลาะยอชสือ่ มท.ุก 3 เดอื น (ม.ค. เม.ย. ก.ค. ต.ค.)
ดความยาว/ส่วนสงู ตามทะปเบระยี เนมรนิ าภยาชว่ือะทโภุกช3นาเดกอื านรแ(ลมะ.คแ.จเง้ มผ.ลยภ. กาว.คะ.โภตช.คน.)าการผู้ปกครองทุกรายในวนั ประเมนิ
วะโภชนาการและแจ้งผลภาวะโภชนาการกผาู้ปรตกดิคตราอมงแทลุกะรใาหย้คใวนาวมนัรดู้ปา้ รนะโเภมชินนาการพ่อแม/่ ผูด้ ูแลเดก็
การตดิ ตามและใหเ้คตวียาเมผดอร็กู้ดมนา้า้ แนหลโนะภักกชนลน้อมุ่ ายเกสา่ยี รงพอ่ แม่/ผู้ดแู ลเดก็ เด็กอ้วน เด็กสงู ดี สมสว่ น
เด็กอ้วน และเส่ยี งน้าหนกั เกนิ
ท1.ุกตเดดิ อื ตนาแมลนะา้ เหสนย่ี ักงแนล้าะหสน่วักนเสกงู นิ 1. ตดิ ตามน้าหนกั และสว่ นสูง
สี่ยง 12. ตปดิระตเามมนิ นพ้าฤหตนกิ กั รแรลมะกสาว่ รนบสรงูโิ ทภกุคเดอื น 1. ติดตามเนด้า็กหสนงู ักดแี สละมสส่วว่ นนสงู ทกุ เดือน ทุก 3 เดือน
ง 2อ.าหปารระเพม่อืนิ คพ้นฤหตาิกปรรัญมหกาารบริโภค 31ทอ2โ23อ4อร....า..าาุกงหหหตปใกปใเหห3รดิาา้าารร้คยีค้รกรระะตเเนวเหดวเบัเาดพมมาาอืวมต็กแือ่มนิมินานนิดลครพนรพท้าตู้ผะู้ผ้นฤฤหุกามทู้ปูป้ หตตมนนั บ่ีก6กาิกิกกักคปา้ครรแาเแนรดรรญัรรลลออมมอืบะหะงงกกนรงสราาาิโดเาว่ ภรรรอยน่ือบบคากสงรรอหลกูงิโิโาาภุ่มภาหรรเคคจารลรือุ่กดใงจนิก 2. ประเมินพฤตกิ รรมการบรโิ ภค
อ3.าหใหา้ครเวพา่อืมครู้ผนู้ปหกาปครัญอหงาเรื่องการเพม่ิ โ5ภ. ชเพน่ิมากกาจิ รกเรดร็กมกทรกุ ะ6โดเดดโอื ลนดเตน้ อาหารเด็ก ทกุ 6 เดอื น
ริโภค 3อ.าหก้ากรใับหต้คิดรตบาม5กหามรบู่ ใรนิโกภลคุ่มอทาีใ่หหา้รใน 3. ใหค้ วามรู้ผู้ปกครองรายกล่มุ เร่อื ง
โรปงรเตรยีนนแแลละะแทคลบ่ี เา้ ซนยี ม โภชนาการเด็ก ทกุ 6 เดอื น
การเพม่ิ 4. ใกหร้คณวีทาี่เมดรก็ ผู้ ขู้ปากดคแรคอลงนเอรา่ือหงการารลด
ทใี่ ห้
ตมมามเราสียตมว่ดวพราน้รัยตีขยั .เุนส่อึนหตแเตน.รแุแงอื่นลงะผะนอ3แ้ามนเผรดวู้ปุนอื6ห5อท5กอนหรแกแนา...ปนรรา้รายครหเนอืเแณเงือทวพพดงงรกากอลโอ.าิม่ีมมิ่)อ็กรนิจาน้วว้นห6กกงีภพร้มในผ.จิิจวหแราบกรลแากกรกเ้วาแนุใหนทมรร้ไะหรพแรมรขทรแเมห้มมรกจทา่ีตทันกงะกนรยอ้ รสว่รริญอเ์งหแกะยะมพอนลเรโโงซตต่ืออตดะดือาา้อิบกคงานดดตมดนมกโ้นโโริดตตลลอา้ตัฐหตาเดลดไาาตามม(าหังเมเรสตียตมวก่ดาวพ้นาัย้นราตรีขัย.เุน*ยสจ่อนึหุกตแเตนจ.รแุแิกง่อืนลงะผะนอ3แ้ามนเผรดวู้ปนุือห6เเเเ*เกแดดดดดน.รคครก็็กก็ก็็กนอืแวงรอออกอลร13อจิาาานว้น--งยยยก26ใอหุุุร634นปปรเ้ ห--มใีี51เมหนนทด2า้หออเีต่อื ดะเอ้นนนลสดอื งับมอืนอ11นสตน10ออนนา--กน11มนอิทก43ตอนา้1กาลน4ชชอ่ม1ัง-ั่ว่ัวนวก121โโยัสา-72มม1*ย-างงแช15มน5วั่ ทชโวชมัวุ่่มโโว่ันงมโ้มมงเงจรเเเเเ*ญิ ดดดดดคเก็็กกก็็ก็ วตอออรบิ31าาาน--โยยย62ตอุุุ ไ463นปปม--ใีีด่51เหนนด2ี ห้ออเอื ดเนนนลดอื ับอืน11นสน01อนน--น11นอิทแ34อน1กนน4ชช่อว1-วั่ั่วนโ211โโนส-72มม1ม้ -างงช51เมจ5ั่วทชรโชม่ัวญิุ่มโว่ังเมโตมงบิ งโตดี
แนวโน้มเจริญเตบิ โตไม่ดี แนวโนม้ เจริญเตบิ โตดี
นดั หมาย เดอื นละ 1 ครง้ั นัดหมาย 3 เดือน
นดั หมาย เดอื นละ 1 ครงั้ สง่ ข้อมนูลดัใหห้ มราพย.ส3ต.เดกือ่อนน วันที่ 15 ของทุกเดือน
ขอ้ มลู ภาวะโภชนาการเดก็ ปฐมวยั จะถูกตัดรอบไตรมาส ภายในวันที่ 15 ของเดือนแรกในไตรมาสต่อไป
ส่งข้อมลู ให้ รพ.สต. ก่อน วันท่ี 15 ของทกุ เดือน
ข้อมลู ภาวะโรภูปชทนา่ี ก3าร9รูปเแดทน็กี่ 3ปว9ฐทมาแวงนยั กวจาทะรถาเูกงฝกต้าัดารรระอเวฝบงั้าไแรตละรมวะาังสสแ่งลภเสะารสยิมใ่งนเภสวานัรวทิมะ่ีภ1โา5ภวชขะอนโงภาเดชกือนานราแเกดราก็กรใปเนดไฐ็กตมปรวมฐยัามสโวดตัย่อยโไเดปจยา้ เหจน้าหา้ ทนา้ีส่ ทา่ีสธาารธณารสณุขสุขแลแะละอสอมส.ม.
วทางการเฝา้ ระวังและส่งเสริมภOาวpะeโrภaชt iนoาnกaาlรเดGก็ uปi dฐeมlวi ัยn eโดsยเfจoา้ rหนM้าทa tี่สeาrธnาaรlณสa nุขdแลCะh อi lสdม.H e a l t h i n H e a l t h A r e a 7
56 คู่มอื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามยั แม่และเด็ก เขตสขุ ภาพที่ 7
2.1.1 วิธีการประเมินการเจรญิ เติบโตเด็กปฐมวยั
2.1.1.1 การชัง่ น้ำ� หนัก
เคร่อื งช่งั นำ�้ หนัก
รปู ที่ 40 เคร่อื งชง่ั น้ำ� หนกั
• หนว่ ยวัดละเอียด 0.1 กโิ ลกรมั หรอื 1 ขดี
• วางบนพ้ืนราบ ไมเ่ อียง
• ควรใช้เครื่องเดิมทุกครั้งในการติดตามการเจริญเตบิ โต
• ตรวจสอบความเท่ียงตรงด้วยตุ้มน�้ำหนัก หรือสิ่งของที่รู้น้�ำหนักจริง อย่างน้อย 5 กิโลกรัม
ทุกคร้งั กอ่ นใช้งาน
• ควรมกี ารสอบเทียบความเทย่ี งตรงเครอ่ื งชั่งน�้ำหนักทกุ ปี
วธิ กี ารช่งั น�้ำหนัก
รปู ท่ี 41 วิธกี ารชัง่ นำ้� หนัก
• ควรชง่ั นำ�้ หนักในช่วงเวลาเดยี วกันทกุ ครัง้
• ถอดรองเทา้ ถงุ เทา้ เสอื้ ผา้ เหลอื เทา่ ทจ่ี �ำเปน็ รวมถงึ ผา้ ออ้ มส�ำเรจ็ รปู และของเลน่ ออกจากตวั เดก็
• อา่ นคา่ ละเอยี ดถึงจุดทศนิยม เช่น 10.2 กโิ ลกรัม
• จดบันทึกน�้ำหนักให้เสรจ็ ก่อนเดก็ ลงจากเคร่ืองชงั่ นำ�้ หนกั
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คูม่ อื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามยั แม่และเด็ก เขตสุขภาพท่ี 7 57
2.1.1.2 การวัดความยาว/สว่ นสูง
เคร่ืองวัดความยาว (แบบนอน) / วดั สว่ นสงู (แบบยนื )
รปู ที่ 42 เครือ่ งวัดความยาว (แบบนอน)/ วัดส่วนสงู (แบบยนื )
• เครอื่ งวัดความยาว/ส่วนสงู มีตวั เลขชัดเจนเรียงตอ่ กนั
• หน่วยวัดความละเอียด 0.1 เซนติเมตร
• มีไม้ฉากสำ� หรับวัดความยาว/วดั ส่วนสูง
• เครอื่ งวดั สว่ นสงู (แบบยนื ) วางตงั้ ฉากบนพืน้ ราบ
• ดา้ นหลังแนบสนิทกบั ผนงั หรือเสา ยดึ ให้แนน่ ไมเ่ อยี ง ไมโ่ ยกเยก
การวดั ความยาว หรอื วัดท่านอน ( สำ� หรับเด็กอายุต่ำ� กว่า 2 ปี )
รูปที่ 43 การวดั ความยาว หรอื วดั ท่านอน
• ถอดหมวก ก๊บิ รองเทา้ และถงุ เท้า
• ควรมผี ูว้ ัด 2 คน คนหน่งึ จบั ศีรษะและลำ� ตัวตรง จับเข่าเหยยี ดตรง
• เลือ่ นไม้ฉากเขา้ จนชดิ ส้นเท้าและปลายเทา้
• อา่ น และจดคา่ ละเอียดถงึ 0.1 เซนติเมตร เช่น 70.7 เซนติเมตร
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
58 คูม่ ือ แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
การวัดสว่ นสงู หรอื วัดท่ายืน (สำ� หรบั เด็กอายมุ ากกว่า 2 ปี)
รปู ท่ี 44 การวดั สว่ นสงู หรือวัดท่ายนื
• ถอดหมวก กบ๊ิ ทค่ี าดผม หรือยางมดั ผม
• ถอดถุงเทา้ รองเท้า เสอื้ กนั หนาว
• ยนื ตวั ตรง ไม่งอเข่า สน้ เทา้ และปลายเทา้ ชิดกัน
• สน้ เทา้ ก้น หลัง ไหล่ และศรี ษะติดไม้วัด
• ผู้วดั ประคองหน้าเด็กใหม้ องตรง ไมเ่ อียง ก้ม หรือเงยหน้า
• เลอ่ื นไมฉ้ ากแตะศรี ษะ อา่ นค่าระดับสายตาผู้วัด บนั ทกึ ค่าละเอียด 0.1 เซนติเมตร
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คู่มือ แนวทางการดำ�เนินงาน อนามยั แม่และเด็ก เขตสขุ ภาพที่ 7 59
2.1.2 การแปลผลการเจรญิ เตบิ โต และแนวทางการดูแลภาวะโภชนาการเดก็ ปฐมวยั
เด็กสูงดีสมส่วน
เดก็ ที่มีการเจรญิ เติบโตดี กิน อาหารครบทง้ั 3 ม้ือ ให้ครบ 5 หมู่ทุกวัน
และมีน�้ำหนักท่เี หมาะสม โดด กระโดดโลดเต้น ว่ิงเล่น ปีนป่าย ให้ได้
ส่งผลถงึ สขุ ภาพท่แี ข็งแรง 3 ชวั่ โมงตอ่ วัน
นม ด่ืมนมจืดวันละ 2-3 แก้ว / กล่อง
นอน นอนหลับกอ่ นสามทมุ่ ทุกวัน
เล่ยี ง/ลด ขนมกรุบกรอบ น้�ำหวาน เพราะไขมัน
น�ำ้ ตาล เกลือสงู
เด็กค่อนข้างเตีย้ และเตีย้ กนิ ถา้ ผอม/กนิ นอ้ ย...เพ่ิมปริมาณอาหาร ท้งั 5 หมู่
เกดิ จากการไดร้ ับอาหาร และเพ่ิมม้อื ว่างระหวา่ งม้ือ
ไม่เพยี งพอเปน็ เวลานาน
หรือเจบ็ ป่วยบอ่ ย จนเปน็ ถ้าเร่ิมอ้วน/อ้วน...ลดอาหารที่มีไขมัน น�้ำตาล
อุปสรรคตอ่ การเจริญเตบิ โต กนิ เน้ือสตั ว์ไมต่ ิดมนั ด่ืมนมพร่องมนั เนย
โดด วิง่ เล่น กระโดดโลดเต้น ชว่ ยเสริมความสงู
นม ดื่มนมจืดวนั ละ 3 แกว้ /กลอ่ ง
นอน นอนกอ่ นสามทมุ่ นอนดกึ ท�ำใหเ้ ดก็ โตช้า
เดก็ คอ่ นข้างผอม และผอม กิน เพ่ิมปริมาณอาหารทั้ง 5 หมู่ กินอาหาร
เกิดจากเดก็ ได้รับอาหาร กลมุ่ เนือ้ สัตวใ์ ห้มากขึน้ เพิ่มมือ้ วา่ งระหวา่ งวัน
ไมเ่ พียงพอ โดด การวิ่งเล่นช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้
หรอื มกี ารเจบ็ ปว่ ย กินอาหาร และนอนหลับไดด้ ขี นึ้
นม ดื่มนมจดื วนั ละ 3 แก้ว/กล่อง
นอน นอนให้ได้ 10-12 ชั่วโมงท้ังกลางวันและ
กลางคนื
เลี่ยง ด่ืมนมมากเกินไปท�ำให้กินมื้อหลักได้น้อยลง
เสีย่ งผอมมากข้นึ
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
60 ค่มู อื แนวทางการด�ำ เนนิ งาน อนามัยแมแ่ ละเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7
เดก็ ทว้ ม เริ่มอ้วน และอ้วน กนิ เพิ่มผัก ผลไม้ไม่หวาน ลดอาหารน้�ำตาล
เกิดจากการได้รบั อาหารทีม่ ี ไขมนั สงู
พลังงานสูงเกินความตอ้ งการ โดด ลดกิจกรรมเนือยนิ่ง ชวนท�ำกิจกรรมท่ี
หากไม่ควบคมุ น�้ำหนักจะสง่ ผล ต้องเคลอ่ื นไหวอย่างน้อยวันละ 3 ช่ัวโม
ใหเ้ ปน็ ผูใ้ หญอ่ ว้ นในอนาคต นม ด่ืมนมจดื พร่องมนั เนย 2-3 แก้ว/กลอ่ ง
นอน นอนอย่างน้อยวันละ 10 ชั่วโมง ทั้งกลางวัน
และกลางคืน
ลด อาหารกลุ่มไขมัน และนำ�้ ตาลสงู
เล่ยี ง นมหวานเพราะน้ำ� ตาลสงู
หา้ มอดอาหาร เพราะเด็กอยู่ในวัยเจรญิ เติบโต
รปู ที่ 45 การแปลผลการเจริญเติบโต และแนวทางการดแู ลภาวะโภชนาการเดก็ ปฐมวยั
2.2 แนวทางการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กส�ำหรับเด็กอายุ
6 เดือน – 5 ปี
ค�ำนิยาม
เด็กอายุ 6 เดอื น-5 ปี หมายถึง เด็กทมี่ อี ายุต้งั แต่ 6 เดือน จนถงึ อายุ 5 ปเี ต็ม
การคดั กรองภาวะโลหติ จาง หมายถงึ การตรวจคดั กรองเดก็ ทม่ี ภี าวะโลหติ จางครง้ั ทหี่ นงึ่ ในเดก็ ทวั่ ไป
ทกุ รายในชว่ งอายุ 6-12 เดอื น และตรวจซำ�้ เมอื่ ชว่ งอายุ 3-6 ปี โดยไมม่ คี า่ ใชจ้ า่ ยตามทรี่ ะบใุ นชดุ สทิ ธปิ ระโยชน์
ภาวะโลหิตจาง หมายถึง ความเข้มข้นของฮีโมโกลบินในเด็กอายุ 6-60 เดือน น้อยกว่า 11 กรัม
ต่อเดซลิ ติ ร หรอื มคี ่าฮีมาโตคริต นอ้ ยกวา่ 33 เปอร์เซ็นต์ และเดก็ อายุ 5-11 ปี ความเขม้ ข้นของฮีโมโกลบิน
นอ้ ยกว่า 11.5 กรัมต่อเดซลิ ติ ร หรือมคี า่ ฮมี าโตครติ น้อยกว่า 34 เปอรเ์ ซน็ ต์
ยาน�้ำเสริมธาตเุ หล็ก หมายถงึ ยาน้ำ� ท่มี สี ว่ นประกอบธาตุเหลก็ ของ elemental Iron 12.5 มิลลิกรมั
ส�ำหรับเดก็
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
ค่มู ือ แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7 61
แนวทางการปอ้ งกนั ภาวะโลหติ จาง
จากการขาดธาตุเหลก็ ในสถานบรกิ ารสาธารณสขุ
เด็กอายุ 6 เดอื น ถึง 2 ปีเต็ม เดก็ อายตุ ้ังแต่ 2 ปี ถึง 5 ปเี ตม็
ปริมาณธาตุเหล็ก 12.5 mg สัปดาหล์ ะครง้ั ปรมิ าณธาตเุ หลก็ 25 mg สัปดาหล์ ะครั้ง
เฟอร์โรคดิ (Ferrokid)1 2.5 ซีซี (ครึ่งช้อนชา) เฟอร์โรคิด (Ferrokid)1 5 ซซี ี (หนึ่งช้อนชา)
เฟอรเ์ ดค (Ferdek)1 0.6 ซีซี (1 Drop) เฟอรเ์ ดค (Ferdek) 1 1 ซซี ี (2 Drops)
เพดริ อน (Pediron)1 0.6 ซีซี (1 Drop) เพดริ อน (Pediron)1 1 ซีซี (2 Drops)
คิดไอรอน (Kidiron)2 คดิ ไอรอน (Kidiron)2 7 ซซี ี
(ยูโรเฟอร-์ ไอรอน) Eurofer-iron3 4 ซีซี (ยโู รเฟอร์-ไอรอน) Eurofer-iron3 2.5 ซซี ี
1.5 ซซี ี
ส่วนประกอบของธาตเุ หลก็ 1. Ferrous fumarate 2. Dried Ferrous fumarate 3. Ferric hydroxide polymaltose complex
จ่ายยาน้�ำเสรมิ ธาตุเหล็กทุกรอบการฉีดวคั ซนี และนัดรบั ต่อเน่ืองทุก 3 เดือน
6 เดือน 9 - 12 เดือน 18 เดอื น จา่ ยยาน้�ำเสริมธาตเุ หลก็ ตอ่ เนอื่ งจนครบ 5 ปเี ตม็
ใหค้ วามรู้เรอื่ งอาหาร 1. คัดกรองภาวะโลหิตจาง ตดิ ตามการกนิ ยา 1. คดั กรองครง้ั ที่สองในชว่ งอายุ 3-4 ปี
ทารกตามวัยที่มี 2. แจง้ ผลภาวะโลหิตจาง น้ำ� เสริมธาตุเหล็ก 2. ตดิ ตามการกนิ ยาน�ำ้ เสริมธาตุเหล็ก
ธาตุเหลก็ สงู 3. ติดตามการกนิ ยาน้ำ� ทกุ รอบการจ่ายยา
เสรมิ ธาตุเหลก็
กรณีมีภาวะโลหิตจาง
ฮโี มโกลบิน ต่�ำกวา่ 11 กรมั ต่อเดซลิ ิตร หรอื ฮมี าโตครติ ต่�ำกวา่ 33 เปอรเ์ ซ็นต์
ส่งปรกึ ษาด้านโภชนาการ
ส่งพบแพทย์
ให้ยาน้�ำเสรมิ ธาตเุ หล็กขนาดรกั ษา
ยาน้�ำขนาด 4-6 มก./กก./วนั แบง่ ให้ 2-3 ครง้ั ต่อวนั นาน 30 วนั
ฮีโมโกลบินสงู ข้นึ > 1 กรมั /ดล. ฮโี มโกลบินไม่เพ่มิ ข้นึ หรอื เพ่ิมข้ึน > 1 กรมั /ดล.
โลหติ จางจากการขาดธาตุเหล็ก ธาลสั ซีเมีย/โลหิตจางจากสาเหตอุ ่นื
ใหย้ าน้�ำเสรมิ ธาตุเหลก็ ขนาดรกั ษา ระมัดระวงั การเสริมธาตเุ หล็ก
จนกว่าฮโี มโกลบินจะปกติ และเม่ือปกติให้ยาตอ่ อกี 60 วัน
ใหย้ าน้ำ� เสรมิ ธาตุเหลก็ เชิ งป้ องกัน ตรวจหาสาเหตภุ าวะโลหิตจาง เช่ น Hb typing
สปั ดาห์ละ 1 ครัง้ ตามข้อแนะนำ� และเขา้ ระบบการดแู ล รักษาในโรงพยาบาล
รูปที่ 46 แนวทางการปอ้ งกนั ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหลก็ ในสถานบรกิ ารสาธารณสุข
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
62 คูม่ อื แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7
2.2.1 สาระความรู้เรือ่ งโลหติ จาง และแนวทางปอ้ งกนั ภาวะโลหติ จางจากการขาดธาตุเหลก็
ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก คือ ภาวะที่ร่างกายมีจ�ำนวนเม็ดเลือดแดงต่�ำกว่าปกติ
เน่ืองมาจากรา่ งกายมธี าตเุ หลก็ ไม่เพียงพอทีจ่ ะใชส้ ร้างเม็ดเลือดแดง
ผลเสียของการขาดธาตุเหล็กในเดก็ ปฐมวัยและเดก็ วัยเรียน
ด้านพัฒนาการทางสมอง การขาดธาตุเหล็กต้ังแต่แรกเกิดจนอายุสองปี จะส่งผลเสียต่อศักยภาพ
การเรยี นรอู้ ยา่ งถาวร ถงึ แมจ้ ะรักษาด้วยธาตุเหลก็ แล้วไมอ่ าจทำ� ใหพ้ ฒั นาการกลบั มาปกติ
ดา้ นการเจริญเตบิ โต การขาดธาตุเหลก็ ท�ำให้การเจรญิ เตบิ โตของเซลล์ต่างๆ ไมด่ ี
พัฒนาการ หงุ ดหงิด เซ่ืองซึม ไอคิวไม่ดี
ล่าช้า ตกใจงา่ ย ไมร่ ่าเรงิ
1+1=11
ซีด เหน่ือยงา่ ย ป่ วยงา่ ย โตช้า
รูปท่ี 47 ผลเสยี ตอ่ การขาดธาตุเหลก็ ในเดก็ ปฐมวยั และเดก็ วัยเรยี น
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
ค่มู อื แนวทางการด�ำ เนนิ งาน อนามยั แม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7 63
2.2.2 แนวทางการป้องกนั ภาวะโลหติ จางจากการขาดธาตุเหลก็
แนวทางการป้ องกนั ภาวะโลหติ จางจากการขาดธาตุเหลก็
กนิ อาหารใหค้ รบทัง้ 5 หมู่ กินยาเสริมธาตุเหล็กทุกสปั ดาห์
โดยเน้นกลุ่มเนอื้ สตั ว์ เคร่ืองใน ช่วยป้องกันการการขาดธาตเุ หลก็
เลือด ปลา กุง้ หมึก หอย ในเดก็ 6 เดอื น – 5 ปี
เป็นประจำ� รับได้ทีส่ ถานบริการของรัฐทกุ แหง่
รหู้ รอื ไม่?
ใครเปน็ พระเอก ใครเป็นตัวร้าย
กินพร้อมอาหารท่มี ีธาตเุ หลก็ เป็นตัวช่ วยให้ดดู ซึมดีขึ้น จอมขดั ขวางการดูดซึมธาตเุ หล็กไมค่ วรกินพรอ้ มกัน
ผลไม้รสเปรย้ี ว เนอื้ สตั ว์ ชา กาแฟ
แคลเซียม ธญั พชื
นมววั ขม้นิ
ไขมัน น้�ำมนั นมแม่ กระถิน ขเ้ี หลก็
ยาน้�ำเสริมธาตุเหล็กอาจมีกล่ินคล้ายสนิมท�ำให้เด็กกินยาก อาจผสมกับน้�ำผลไม้ หรือเตรียมผลไม้
รสเปรี้ยวให้เด็กกินล้างปากได้ เล่ียงป้ อนด้วยภาชนะโลหะเพราะท�ำให้กล่ินแรงขึ้น และไม่ป้ อนพร้อมกับ
นมวัวเพราะจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก หรือควรกนิ ห่างกันประมาณ 1 ช่ัวโมง
รูปท่ี 48 แนวทางการป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหลก็
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
64 คูม่ ือ แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7 พัฒนาการสมวยั ใสใ่ จสุขภาพฟัน
3. ทนั ตสขุ ภาพเด็กปฐมวัย
3.1 แนวทางการดแู ลสุขภาพชอ่ งปากเดก็ ปฐมวัย
เด็กดี ฟันดี สุขภาพดี
แรกเกดิ - 1 เดอื น คลินิกทนั ตกรรม
คลนิ ิก 2 เดอื น 0-6 เดือน • ฝกึ เช็ดเหงือกและกระพงุ้ แกม้
เด็กดี 4 เดอื น 6-8 เดอื น • ฝึกผู้ปกครองแปรงฟนั ให้เดก็ ดว้ ย
รบั 6 เดอื น 9-12 เดอื น
วัคซนี 9 เดอื น 1-1 ปี 6 เดือน ยาสีฟันฟลอู อไรด์
1 ปี 1 ปี 6 เดอื น – 2 ปี
1 ปี 6 เดอื น 2-4 ปี • ฝึกเลิกดูดขวดนม หัดดม่ื จากถว้ ย
2 ปี 6 เดอื น
4 ปี • เลกิ ขวดนมถาวร ดื่มจากถ้วยหรอื
ดดู หลอดจากกล่อง
• ฝึกเด็กกินผกั ผลไม้
• ฝกึ เดก็ แปรงฟนั พอ่ แมแ่ ปรงซา้
• พบหมอฟันเปน็ ประจา้ ทุก 3 เดือน
หมายเหตุ : ตรวจและรบั ค้าแนะนา้ การดูแลสขุ ภาพชอ่ งปากทุกครังที่มารับวัคซีน
รปู ที่ 49 แนวทางการดูแลสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวยั
ทีม่ า: ดร.ทพญ.ศรญิ ทิพย์ ชาลเี ครอื 2563
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คู่มอื แนวทางการดำ�เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเด็ก เขตสขุ ภาพท่ี 7 65
4. การจดั ระบบบริการเด็กปฐมวยั แบบปกติใหม่ (New Normal)
4.1 การจัดระบบบรกิ ารคลนิ ิกสขุ ภาพเดก็ ดี
เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยมีการขยายไปในวงกว้าง
ท้ังกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัด รัฐบาลได้ประกาศ พระราชก�ำหนดการบริหารราชการ
ในสถานการณฉ์ ุกเฉิน มีผลบงั คับใชต้ ั้งแตว่ ันท่ี 26 มีนาคม 2563 ไดร้ ะบุในข้อ 8 มาตรการพึงปฏิบัติส�ำหรับ
บุคคลบางประเภท “ให้กลุ่มคนท่ีมีความเส่ียงสูงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ได้ง่าย ซ่ึงรวมกลุ่มเด็กเล็กที่มี
อายุต�ำ่ กวา่ 5 ปีลงมา ใหอ้ ย่ใู นเคหะสถานหรือบริเวณสถานท่ีพ�ำนกั ของตน เพ่อื ปอ้ งกนั ตนเองจากการติดเช้ือ
จากสภาพแวดล้อมภายนอก ท้ังน้ีเว้นแต่บุคคลดังกล่าวมีความจ�ำเป็นเพ่ือการพบแพทย์ การรักษาพยาบาล
การปฏิบัติหน้าท่ีแพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์” แม้ว่าการหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กมาท่ีสถาน
พยาบาล จะช่วยป้องกันการติดเช้ือจากสภาพแวดล้อมภายนอก แต่หากพิจารณาถึงความจ�ำเป็นในด้านการ
สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กเล็กก็ถือเป็นส่ิงจ�ำเป็นอย่างยิ่ง กรมอนามัยจึงแนะน�ำแนวทางการจัดบริการ
คลนิ ิกสุขภาพเด็กดีภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของ COVID-19
คำ� แนะน�ำส�ำหรบั ผเู้ ลย้ี งดูเดก็
1. เดก็ และผู้เลย้ี งดตู อ้ งใส่หน้ากากอนามัยและเขา้ สรู่ ะบบคดั กรองของหนว่ ยบริการ
2. ผู้เลี้ยงดูเด็กไม่ปกปิดประวัติของตนเองและเด็ก เช่น อยู่ในครอบครัวหรือเดินทางจากประเทศ
กลุม่ เส่ยี ง สัมผสั ใกล้ชิดผู้ปว่ ย COVID-19 มีอาการไข้ ไอ หายใจเหน่ือยหอบ
3. ผู้เล้ยี งดูเดก็ ที่นำ� เด็กมารบั บรกิ ารไมค่ วรเป็นผู้สูงอายหุ รือผู้ท่ีมโี รคเรอ้ื รงั
4. ระหว่างการน�ำเด็กเข้ารับบริการ ควรดูแลเด็กให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ และ
ปฏิบัตติ ามคำ� แนะนำ� ของเจ้าหนา้ ท่ีอยา่ งเคร่งครัด (Social Distancing)
5. ยดึ หลัก 3ล. ในการดูแล ปอ้ งกัน COVID-19 ดังนี้
- ลด : ลดความเสยี่ งจากการสัมผัส ด้วยการลา้ งมอื สวมใส่หน้ากากอนามัย
- เล่ยี ง : การเขา้ ไปในพ้นื ทกี่ ารระบาดของโรค/พ้ืนทีท่ ่ีมีความแออดั เช่น สนามเดก็ เล่น
- ดูแล : ดูแลสขุ ภาพตนเองและเดก็ กินร้อน ใชช้ อ้ นกลางสว่ นตัว พกั ผ่อนให้เพียงพอ
6. เฝา้ ระวังและสง่ เสริมพฒั นาการเด็กตามค่มู อื DSPM อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและสม่�ำเสมอ
แนวทางการจดั การบริการคลินิกเด็กสขุ ภาพดี
1. เด็กและผเู้ ลีย้ งดูตอ้ งใส่หน้ากากอนามัยและเข้าสูร่ ะบบคดั กรองของหนว่ ยบรกิ าร
2. บุคลากรมีการปอ้ งกนั ตนเอง ใสห่ น้ากากอนามยั ลา้ งมือกอ่ นและหลังใหบ้ ริการ
3. ทำ� ความสะอาดสถานที่ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ ตามเกณฑม์ าตรฐาน
4. จดั สถานทีน่ งั่ รอตรวจให้มีระยะห่างอยา่ งน้อย 1 เมตร
5. การนดั หมายมารบั บรกิ ารเปน็ ชว่ งเวลาและจำ� กดั จำ� นวนผพู้ าเดก็ มาไมเ่ กนิ 1 คนเพอ่ื ลดความแออดั
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
66 คูม่ อื แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
6. ลดการมารับบริการของเด็กท่ีโรงพยาบาลโดยพิจารณาปรับกิจกรรมการให้บริการรายบุคคล
ให้ครบภายในครั้งเดียวเช่น การตรวจพัฒนาการ/การตรวจพิเศษต่างๆ พร้อมกับการเสริมสร้าง
ภมู คิ ้มุ กันโรค
7. ใหบ้ ริการแบบ ONE STOP SERVICE
8. ใหบ้ รกิ ารตามผงั การจดั ระบบบรกิ ารคลนิ กิ เดก็ สขุ ภาพดี กรณเี ดก็ กลมุ่ เสยี่ ง เชน่ คลอดกอ่ นกำ� หนด,
ภาวะทพุ โภชนาการ, พฒั นาการสงสยั ลา่ ชา้ หรอื ลา่ ชา้ ใหป้ ระเมนิ การเจรญิ เตบิ โต และพฒั นาการ
ตามช่วงวยั ก่อนรับวคั ซีน
9. จดั ท�ำทะเบียนเด็กและผู้เลี้ยงดพู ร้อมชอ่ งทางการตดิ ตอ่
10. กรณีเด็กเป็นผู้สัมผัสเส่ียงสูงต่อการติดเช้ือ COVID-19 ควรเล่ือนนัดคลินิกเด็กสุขภาพดีไปก่อน
จนกว่าจะพ้นช่วงก�ำหนดเวลากักตวั (Isolation) โดยใหอ้ ยภู่ ายในทีพ่ ักอาศัยเปน็ เวลาอย่างน้อย
14 วัน และติดตามเดก็ เพ่ือนัดหมายใหม้ ารบั บริการครบถ้วนตามเกณฑ์
11. กรณสี ถานการณร์ นุ แรงมากเขา้ ขน้ั วกิ ฤต หนว่ ยบรกิ ารไมส่ ามารถใหบ้ รกิ ารคลนิ กิ เดก็ สขุ ภาพดไี ด้
หรือผู้เล้ียงดูไม่น�ำเด็กมารับบริการ ให้เจ้าหน้าท่ีติดตามเด็กกลุ่มดังกล่าวเข้ามารับบริการใน
วนั เวลา และสถานที่ทเี่ หมาะสม
ที่มา: สำ� นกั ส่งเสรมิ สุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คมู่ ือ แนวทางการดำ�เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสขุ ภาพท่ี 7 67
ผผงั กงั การาจรจัดดัระรบะบบบรกิรกิาราครคลลินินกิกเดเด็กก็สสขุ ขุภภาพาพดดี ี
ภภายาใยตใต้สส้ถถานานกการาณรณก์ ก์าราแรแพพร่ระร่ บะบาดาดขขอองงCCOOVVIDID-1-919
เดเเก็ดดปก็ก็ ฐปปมฐฐวมมัยววัย0ยั-05-0ป5-ี ป5แี ลแปะลผี ะแู้เผลลู้เยี ละงีย้ผดงู้เูดลู ้ียงดู
คดั คคกัดัดรกกอรรงออCงง OCCOVOIVVDII-DD1--911(99ซ(ักซ(ซปักกั รปะปรวระัตะว,ิ วตั วัต,ิัดว,ิ ไัดขวไ้)ัดข้ไ)ข้)
ผู้สผผัมู้สูส้ผัมัมสัผผคัสสัวคาควมวาเมาสมเี่ยสเง่ียสง่ยี ง ผคผลดั คลผกกัดกลารกากรอรรคางอรัดงกรอง ไมไ่มไมีค่มม่วีคาคี วมวาเมาสมเี่ยสเงี่ยสงยี่ ง
-----เแพตใเถเพฝลหเ-----แ----- ่ือพ้าิดทตเใถเื่อ้พา้ฝลใมคปตเเเถใหรตื่อน้ลฝพยหาิดหทื่อ้าด้าาิีอ้ะ้อมาคป์ทอ่ืน้ารตแค้ือ่ม้ยมมวาตงาีอ้ะรนอนากำนั�์ปดักทงัเนาีอแามฝวาะงแะอนพมทกนนัก้อาันดักรังวเ้านนาฝาดัเกาสะองไีบทกนกังัCฝรร้ะขาานกาากัองาใแสตาไี้OนกC้หรรรเันาขาาไกสพาังาใำไ�ตVอO้ร1บกมต้หรงเัขไกตทCาใ4IเาหหรอVอ้1บมต้หกDายOวริากไ4าลIหหรอมตก้บ-อท์นัยDาV1วักิาก1อหาลรใรัน9ก-รันยจIาห4า31ักลกิDารททให9การจลดาั3-วีบ่ีอาทยห1.รลนัรใ3บ้าใ9่ีบอน.ทนจลใบใ้ากบนี่วหห.นาใดัใา้ก้อมรวหนนไาดบดัา้ขมรกวพแูได้าทาดัขลบพแูรไกุเ้ทดลขดบวกุเ็กท้แูดันวลกุก็ ันวเดนั ก็ ปกปปตกกิตติ ิ
ซักซซปัักกรปปะรวระัตะวิ วตั ิัติ มมปี มัญีปปี แญััญหลแแาะหหลกลพาะาากะัฒรพกาพเฒัาจนรฒัเรราจนิญเกนรจาาิญเการรตากญิเิบรตาโบิเตรตโติบโต
- -ว--วปลปปลปัดัดง---วรรงรสรปลปบะสดัะบะ่ะวงเรเสร่วนัเมมเมันนบะ่ะมวนทเนิินสนิทเมนันินมสึกูกงกพกึสินทพูงิน,าาูงกวแัฒกึ,รแฒรพั,าดัเปปวจวเรแนฒัรจนรดััดเลลปจอาริญารนผรผรลบกญิกออิลญเาลผศาตาบกเบรรลเีรบใิตศตาใหตษตศโรบิหีรบใิต้ะาคารีหตษโโค้มษมา(ต้ตะาคช�ำแชมชะา(ั่งแน่ช(วแ)ชว่นชนั่งงะน่วง้านง่ัวนะวหงะนยัน้าวานัยนหำ�้ ัย�ำากัหน,นกั ,กั ,
-
-
-เ-ข-พใรจหอเ-ข-----่ือพั่บาใง้รจคหอยปปวใรเจป่ือั่บางาย้พคห้รอคัยบัปแา่ปวราะายงซนนื่อ้คย้รวะอคัแเกาทะะีปนง�ำยเ้าซนคันนัทเเนกศแสทตา้อะีซนา้ นไัศCาเรนนนาศงสตทนีตมิไมOไกC้�ำาะรายาทตแทตธมเมนินัVมO/ผสสายายาแหธ�ำIมตนV/มังรผ/DสCาลตหเุเงสIมิตนแกหั-งDOักาา1ลตังเธุเผงนลกห9ม-3กัเVาอ1าก็นตสกนลหล9าต3IรองกDต็กส.ล้ลุเาาใารอห-นกง.กัรน้1าเใาาสกลนง3ร9สก3าเ0ร็กสกร3ราลิมนา0รดา้รรภ.าิมนแูงดทใมูลภ3ภาูแนีทเิค0มูดลูมก้ีุมเคิก็คิดนาก้มุ้มุ็กรานั กดกทโันรูแันี โคลโรรคเดคก็ของ
นัดนหดั นมหดัามยหาคยมรคา้ังรยต้ังค่อตรไ่อ้ังปไตปอ่ ไป
หมหามยาเหยเตหุ ตุ
วัควซคั นี ซทีนาทงเาลงือเลกือใกหให้ หน้ห่วนยว่บยรบกิ รากิราพรจิ พาจิราณราณตาตมาคมวคาวมาเหมมเหามะาสะมสหมาหกามกคี มวคีาวมาจมำจเปำน็เปต็นอ้ ตงอ้เลงอ่ืเลนอ่ื หนรหอื รงอืดงใดหใ้บหรบ้ กิ รากิราหรนหว่ นยว่บยรบิกราิกรพารจิ พาิจรณาราณตาตมาคมวคาวมาเหมมเหามะาสะมสม
เอกเอสกาส1ร.าอ1ร้า.อง้าอรกสงิ บืรปูอกสมคงิ บืรทกน้ มคาเ่ีกรม้น5แาอ่ืเรมพ0แ2อื่ทพ1ย2กท.์ม1(ยา2ีน.์ม0(รา2ีนคจ0าม2)คดั.0แ2ม)ร0น.แ2วะท0นทบ2วม่ีาจ0ทงบาาเาจกวง:บาชhเ กวปt รชthฏสpปtกิ บิtsำ�ฏp:ตัา/ิบนs/กิ ร:dัต/าัก/คdิกรdาวcสลdริน.m่งวcจิินนิ.เoฉmจสิิกยpั oฉhรสดยpั .gมิแูhุขดoล.สgแู.ภรtoลกhัุข.ารษ/tกhัvภพาiษ/rvาแaเาilลดrพpแaะnl็กลป peะ ้อnดuปกงem้อีกuรภงันomกมกnานัoาiอaยกรn/าตนiใfaริดiตl/ตาeเfชิดi/ส้มlอื้egเชuถใ/ัยนอื้gidาu ใโนeร iนdงlกโiพeรnกงรlยeiพnาาะsยe/บรทGาsาณ/บ2ลGรnา2กลวก์enรwงกาณe3รสwรโีณรา3แคีโธรตพคิดาตรเรชิด่รอื้ณเชะไวอื้ สบรไวสั ขุารโคสัดโรคขนโรอานง2า021C09O1. 9.VID-19
2. 2. กอกงอโรงคโรปค้อปง้อกงันกวันัควซัคีนซีนกรกมรคมวคบวคบุมคโุมรคโร.(ค2.0(22002).0)ค.ำคแำนแะนนะำนกำากราใหรใ้บหร้บิกราิกราสรรส้ารง้าเสงเรสิมรภิมูมภิคูมุ้มิคกุ้มันกโันรคโรรคะรหะวห่าวง่าเกงิเดกกิดากรารระรบะาบดาขดอขงอโรงคโรโคโวคิดว1ิด91.9.
กรกมรคมวคบวคบมุ คโุมรคโรค
3. 3. (20(202).0C)O.CVOIDV-ID19-1a9nadnCdhCilhdirlednre.สnืบ.สคืบ้นคเม้นื่อเม2อ่ื 72ม7ี.คม.ี2ค0.202จ0าจกาhกtthpttsp:/s/:w//wwww.wcd.cd.gco.gvo/cvo/cronroanvairvuisru/2s0/21091-n9c-nocvo/fva/qfa.hqt.mhtlm?Cl?DCCD_C_
AAA_Are_frVeafVl=ahl=tthpttsp%s3%A3%A2%F2%F2%F2wFwwww.wcd.cd.gco.gvo%v2%F2cFocronroanvairvuisru%s2%F2F021091-n9c-nocvo%v2%F2pFreppreaprea%re2%F2cFhcilhdirlednre-fna-qfa.hqt.mhtlml
ขอ้ขมอ้ ลูมลู ณณวนั วทัน่ีท3่ี 3เมเษมาษยานยน25265363
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
68 คู่มือ แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แมแ่ ละเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
4.2 ค�ำแนะนำ� สำ� หรับผ้บู รหิ าร เจ้าของสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย
ชแ้ี จง ท�ำความเข้าใจกับเจา้ หนา้ ทแ่ี ละผปู้ กครองดา้ นมาตรฐานการดำ� เนนิ งาน
การเปิดสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19
ควบคุม กำ� กบั ดูแล ครู เจ้าหนา้ ที่ และผ้ปู ฏบิ ัตงิ านในสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั
ใหป้ ฏบิ ตั ิตามคำ� แนะน�ำของกระทรวงสาธารณสุข
จดั ให้มชี ่องทางการติดตอ่ สือ่ สารแก่ผปู้ กครองในการเตรียมตวั
ก่อนน�ำเดก็ เข้าสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยและระหว่างอย่ใู นสถานเด็กปฐมวัย
กรณีพบผู้สงสัตดิ เชอื้ โรคโควดิ 19 ใหผ้ ูบ้ ริหารแจ้งหน่วยงานทางการแพทย์
ในพ้ืนที่ทนั ที เพ่ือรบั ทราบคำ� แนะน�ำการดำ� เนนิ การต่อไป
กำ� หนดจดุ รับ-ส่ง จดุ คดั กรอง จดั เตรียมอุปกรณ์ล้างมอื บริเวณทางเข้า
สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
กอ่ นการเปดิ ใหบ้ รกิ าร จัดใหม้ กี ารดแู ลทำ� ความสะอาดอาคารสถานท่ี ส่งิ ของเครอื่ งใช้
บรเิ วณจุดสัมผัส ระบบระบายอากศ และยานพาหนะ ด้วยผลิตภัณฑท์ ำ� ความสะอาด
และผลิตภัณฑฆ์ ่าเช้อื ตามค�ำแนะน�ำของกระทรวงสาธารณสุข และทำ� อย่างสม�ำ่ เสมอ
จดั ให้มีการกำ� กับดแู ลผสู้ มั ผัสอาหาร สถานที่ปรงุ ประกอบอาหาร และควบคุมขน้ั ตอน
การปรงุ อาหารใหถ้ กู สุขลกั ษณะ
จดั ใหม้ ีการดูแลท�ำความสะอาดหอ้ งนำ�้ หอ้ งสว้ ม บรเิ วณจดุ สัมผสั
ดว้ ยผลติ ภณั ฑ์ท�ำความสะอาดและผลิตภัณฑ์ฆา่ เชอ้ื อยา่ งน้อยวนั ละ 2 ครัง้
จดั ใหม้ มี าตรการเวน้ ระยะหา่ งระหวา่ งบคุ คลในการทำ� กจิ กรรมตา่ งๆ อยา่ งนอ้ ย 1-2 เมตร
รูปท่ี 51 คำ� แนะนำ� สำ� หรบั ผูบ้ ริหาร เจ้าของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ทมี่ า: ส�ำนักสง่ เสรมิ สุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คมู่ อื แนวทางการดำ�เนนิ งาน อนามยั แม่และเด็ก เขตสุขภาพที่ 7 69
4.3 ค�ำแนะน�ำครู และผู้ดูแลเด็ก
เมอ่ื พบวา่ ตนเองหรอื คนใกลช้ ดิ มอี าการ ไข้ ไอ จาม เหนอ่ื ยหอบ หรอื กลบั จากพน้ื ทเี่ สย่ี ง
(ตามประกาศพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ) ให้หยุดงานทันทีและปฏิบัติตาม
ค�ำแนะน�ำของเจา้ หนา้ ทสี่ าธารณสขุ อยา่ งเคร่งครัด
ก่อนการปฏิบัติงานควรเปลี่ยนชุด ล้างมืออย่างถูกวิธีด้วยน้�ำและสบู่ หรือใช้
เจลแอลกอฮอล์ ใส่หน้ากากผ้าขณะปฏิบัติงานและให้ความรู้แก่เด็กที่มีอายุมากกว่า
2 ปี ในการใส่การถอดและการเกบ็ หน้ากากผ้าอยา่ งถูกสขุ ลกั ษณะ
สอนเดก็ ไม่ให้ใช้ของใช้ส่วนตัวรว่ มกับผอู้ ื่น และเก็บรกั ษาอย่างถูกตอ้ ง
ใหค้ วามรู้ คำ� แนะน�ำเก่ียวกบั การแพร่กระจายของโรคโควิด 19
ให้แกผ่ ้ปู กครอง และเดก็
ส่งเสริมให้เดก็ ผปู้ กครอง ลา้ งมอื อยา่ งถกู วิธดี ว้ ยน้�ำและสบู่ หรอื เจลแอลกอฮอล์
จดั กจิ กรรมส�ำหรับเด็กเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มยอ่ ย (จ�ำนวนไมเ่ กิน 6 คน)
และใหม้ กี ารเว้นระยะหา่ งระหว่างกลมุ่
ดูแลให้เดก็ รบั ประทานอาหารตามหลกั โภชนาการท่ปี รุงสกุ ใหม่และสะอาด
ขณะรบั ประทานอาหารใหเ้ ว้นระยะห่างอยา่ งน้อย 1-2 เมตร
หรือมีฉากก้นั ระหวา่ งบคุ คล
รูปที่ 52 ค�ำแนะนำ� ครู และผู้ดูแลเดก็
ท่มี า: ส�ำนกั ส่งเสรมิ สุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
70 คูม่ ือ แนวทางการด�ำ เนินงาน อนามัยแม่และเดก็ เขตสุขภาพที่ 7
4.4 คำ� แนะนำ� ผ้ปู กครองในการดแู ลบุตรหลาน
หากเด็กมอี าการเจ็บปวย เช่น มีไข้ ไอ จาม มนี ำ�้ มกู หรอื เหนอ่ื ยหอบ ใหห้ ยดุ เรียน
และพบแพทย์ กรณมี คี นในครอบครวั ปว่ ยดว้ ยโรคโควดิ 19 หรอื กลบั จากพนื้ ทเ่ี สยี่ ง
(ตามประกาศพระราชบัญญตั ิควบคมุ โรคติดต่อ) และอยู่ในชว่ งกกั ตัว
ใหป้ ฏบิ ตั ิตัวตามคำ� แนะนำ� ของเจ้าหนา้ ทสี่ าธารณสุขอย่างเคร่งครัด
เตรยี มอาหารทถ่ี กู ตอ้ งตามหลักโภชนาการ อาหารต้องปรุงสกุ ใหม่
จดั ให้มกี ารออกก�ำลงั กายทกุ วนั รวมถงึ การดูแลดา้ นการแปรงฟัน
และให้เดก็ พกั ผ่อนด้วยการนอนหลบั วนั ละ 9-11 ชว่ั โมงต่อวัน
หลงั กลบั เขา้ บ้านทกุ คร้ังควรลา้ งมอื อย่างถกู วิธดี ว้ ยน�้ำและสบู่
หรืออาบนำ�้ ท�ำความสะอาดร่างกาย และเปล่ียนเส้ือผา้ ชุดใหม่
เตรยี มอปุ กรณข์ องใช้ส่วนตัวแบบรายวนั ที่จำ� เป็น เช่น เสอ้ื ผา้
หนา้ กากผา้ เป็นต้น เพ่อื ให้เดก็ นำ� ไปใชแ้ ละเปลยี่ นในสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั
ไมพ่ าเด็กไปสถานท่แี ออัดหรอื มีคนจำ� นวนมาก
หากมคี วามจำ� เปน็ ต้องใสห่ น้ากากผ้าและเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร
รปู ท่ี 53 ค�ำแนะน�ำผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน
ทม่ี า: สำ� นกั สง่ เสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
คู่มอื แนวทางการด�ำ เนนิ งาน อนามยั แม่และเดก็ เขตสขุ ภาพที่ 7 71
เอกสารอา้ งอิง
กฤษณ์ ถิรพันธุ์เมธี. บทความเผยแผร่ความรู้สู่ประชาชน น�้ำยาฆ่าเชื้อกับโควิด-19 โคโรน่าไวรัส. ภาควิชา
จุลชวี วิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล. [เขา้ ถึงเม่ือ 20 พฤษภาคม 2563]. เขา้ ถงึ ได้จาก
http://pharmacy. mahidol.ac.th/th/knowledge/article/483/โควดิ -19 นำ้� ยาฆ่าเช้ือ/
กลุ่มพัฒนาอนามัยแม่และเด็ก ส�ำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย. (2561). สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก
ปี 2561. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์องคก์ ารสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ .
กรมการแพทย์. (2663). แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเช้ือในโรงพยาบาล
กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019. [เข้าถึงเม่ือ 20 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก http://llddc.
moph.go.th/viralpneamonia/file/guidelnes/G2new3.
กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค. แนวทางการดูแลหญิงตั้งครรภ์และทารก เพื่อป้องกันการ
ถ่ายทอดไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก. [เข้าถึงเม่ือ 5 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก
http://dvpd.ddc. moph.go.th/viel/48.
กองป้องกันโรคด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค. แนวทางปฏิบัติการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในหญิงตั้งครรภ์.
[เข้าถึงเมอ่ื 13 มนี าคม 2563]. เขา้ ถึงได้จาก http://dvpd.ddc.moph.go.th/storage/content
/5ac4945c02fb9.pdf.
กองโรคป้องกันวัคซีน กรมควบคุมโรค. (2563). ค�ำแนะน�ำการให้บริการส่งเสริมและภูมิคุ้มกันโรค ระหว่าง
เกิดการระบาดของโรคโควดิ -19. กรมควมคมุ โรค
คณะกรรมการควบคุมและป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก. (2557). คู่มือแนวทางการควบคุมและ
ป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (พิมพ์คร้ังที่ 1). นนทบุรี. ส�ำนักโภชนาการ กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข.
คู่มือมาตรการและแนวทางในการดูแลด้านอนามัยส่ิงแวดล้อมในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือ
ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVTD-19). กรมอนามัย. 21 มนี าคม 2563
ณัฐวรรณ เชาวน์ลิลิตกุล, สุพจน์ ร่ืนเริงกล่ิน และลักษณิน รุ่งตระกูล. (2558). คู่มือการใช้มาตรฐานการ
เจริญเติบโตขององค์การอนามัยโลก ปี ค.ศ. 2006 ในเด็กแรกเกิด – 5 ปี. (พิมพ์ครั้งท่ี 1).
กรุงเทพฯ: โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.
ณัฐวรรณ เชาวน์ลิลิตกุล. (2558). คู่มือการพัฒนาสู่องค์กรส่งเสริมเด็กไทยเติบโตเต็มศักยภาพ.
(พิมพค์ รัง้ ท่ี 3). กรงุ เทพฯ: สำ� นักงานกจิ การโรงพมิ พอ์ งค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศกึ .
แนวทางเวชปฏิบัติของวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย. (2563). การดูแลรักษาสตรีตั้งครรค์
ที่ตดิ เช้ืิอโควดิ -19 Version 2, 20 เมษายน 2563.
แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเช้ือ
ไวรสั โคโรนา่ 2019, 8 เมษายน 2563.
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
72 ค่มู อื แนวทางการดำ�เนินงาน อนามยั แมแ่ ละเด็ก เขตสุขภาพที่ 7
ศูนย์วิจัยทางคลินิก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. คู่มือทางห้องปฏิบัติการการตรวจวินิจฉัยธาลัสซีเมีย
และฮีโมโกลบินผดิ ปกติ. (2553). กรุงเทพมหานคร: บริษัท หมัดเดด็ จ�ำกัด.
ส�ำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย. คู่มือส�ำหรับผู้ใช้งานแอพพลิเคช่ันคัดกรองความเสี่ยงหญิงต้ังครรภ์.
(2562). กรงุ เทพมหานคร: บริษทั ลาภา ซิสเต็มส์ จ�ำกดั ; 2562.
ส�ำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2560) แนวทางการตรวจรักษา
และป้องกันการติดเช้ือเอชไอวี ปี 2560. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร
แห่งประเทศไทยจำ� กัด.
ส�ำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค. (2557). แนวทางระดับชาติ
เรื่องการกำ� จัดโรคซฟิ ลิ สิ ในประเทศไทย พ.ศ. 2558. กรุงเทพมหานคร: สำ� นักพิมพ์อกั ษรกราฟฟคิ
แอนดด์ ีไซน.์
ส�ำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย. (2563). แนวทางการด�ำเนินงานระบบเฝ้าระวังมารดาตายส�ำหรับ
ประเทศ (พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1).นนทบุร.ี
World Health Organization. (2013). Maternal Death Surveillance and Response (MDSR)
technical guide in 2013. Retrieved 25 March 2020 from http://www.who.int/
maternal_child_adolescent/documents/maternal_death_surveillance/en/.
World Health Organization. (2012). The WHO application of ICD-10 todeaths during
pregnancy, childbirth and the puerperium: ICD-MM. 2012. Retrieved 25 March 2020
from https://www.who.int/reproductivehealth/publications/monitoring/
9789241548458/en/.
Operational Guidelines for Maternal and Child Health in Health Area 7
ภาคผนวก
แบบรายงานการตายของมารดา Confidential Enquiries-CE
ชอื่ สถานบรกิ าร..................................................................ตำ� บล.................................................อำ� เภอ....................................
จงั หวดั .................................................. วนั ทรี่ ายงาน.....................เดอื น.................................. พ.ศ. ........................................
1. ข้อมลู ทัว่ ไป
ชอ่ื .....................................................................นามสกลุ ............................................................อายุ ............................. ปี
สญั ชาติ ไทย (เปน็ คนไทย หรือคนทมี่ เี ลข 13 หลัก แตไ่ มร่ ะบุสญั ชาต)ิ
ต่างดา้ ว (ลาว พม่า กัมพชู า)
อนื่ ๆ ..........................................................................
อาชพี .......................................................................เลขประจำ� ตวั ประชาชน.........................................................................
เลขทผี่ ปู้ ่วยนอก..................................................... เลขทีผ่ ูป้ ว่ ยใน......................................................................................
วันทเ่ี สยี ชวี ติ .......................................................... อายคุ รรภข์ ณะมารดาเสยี ชวี ติ ...............................................................
2. ข้อมลู การฝากครรภ์ ฝากครรภ์ ไมฝ่ ากครรภ์
ตั้งครรภค์ ร้ังท่.ี .......................................................เคยคลอด.............................................. คร้งั เคยแท้ง..................ครง้ั
วนั ทม่ี าฝากครรภค์ รง้ั แรก..........................................สปั ดาห ์ จำ� นวนครงั้ ของการฝากครรภต์ ามเกณฑ.์ ......................ครง้ั
นำ้� หนกั ของมารดาเมอื่ ฝากครรภค์ รง้ั แรก.....................................กโิ ลกรมั สว่ นสงู ..........................................เซนตเิ มตร
นำ้� หนกั ของมารดาเมอ่ื กอ่ นคลอด.........................กโิ ลกรมั Hb/Hct ครงั้ ที่ 1 ........................Hb/Hct ครง้ั ที่ 2 ......................
Anti-HIV ครั้งท่ี 1........................ Anti-HIV ครง้ั ท่ี 2 ........................ก�ำหนดคลอด..........................................................
3. ภาวะเสี่ยงขณะตัง้ ครรภ์
• ประวตั ิความผิดปกติของครรภ์นี้
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
• ประวตั ภิ าวะเสย่ี งของการต้งั ครรภค์ รัง้ นี้
มี ไมม่ ี
ความดันโลหิตสูง ไข่ขาวในปสั สาวะ
น�้ำตาลในปสั สาวะ ซดี
เดก็ ทา่ ผดิ ปกติ Previous C/S
อ่ืน ๆ ระบ.ุ .....................................................................................................................................
• ประวตั ิการได้รับยาขณะต้ังครรภแ์ ละขอ้ สรปุ ส�ำคัญในระยะต้ังครรภ์
............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
4. การรับเขา้ รักษาในสถานบรกิ าร
• วนั /เดอื น/ป ี เขา้ รบั การรกั ษา วนั ท.่ี ................เดอื น......................................พ.ศ........................เวลา..................น.
• สถานภาพทม่ี าถึงสถานบริการ
แท้ง ท้องนอกมดลูก ฝากครรภ์
เจ็บครรภ/์ นำ�้ เดนิ หลงั คลอด ตกเลือดก่อนคลอด
• สถานภาพผู้ปว่ ยเมือ่ ถงึ สถานบรกิ าร
อาการคงที่ (stable) อาการหนกั
เสยี ชีวติ ก่อนถึงสถานบรกิ าร อน่ื ๆ ระบ.ุ ..........................................................................
• Case Refer มาเอง
5. ข้อมลู การคลอดหรือการแท้ง
A ความก้าวหน้าของการคลอด
• มกี ารใช้ Partograph หรือไม่ ใช้ ไมใ่ ช้
- ระยะท่ี 1 .................................. ชม. .................................. นาท ี
- ระยะที่ 2 .................................. ชม. .................................. นาท ี
- ระยะท่ี 3 .................................. ชม. .................................. นาท ี
นำ�้ คร่�ำแตกเวลา ................................................................... สีน้ำ� คร่�ำ ...................................................................
B ขอ้ มลู การคลอดหรอื การแท้ง
• วนั ทค่ี ลอดหรอื แทง้ ......................................................................................เวลา............................................น.
• กรณีแทง้ แทง้ เอง ทำ� แท้ง
• กรณีคลอด
วิธคี ลอด ปกติ C/S F/E V/E
BBA คลอดท่ากน้ ทางช่องคลอด อน่ื ๆ...............................................................
• ผ้ทู �ำคลอด สตู ิแพทย ์ พยาบาล
ผดุงครรภ์ ผดบ.
แพทย์ใชท้ ุน บคุ ลากรอืน่ ๆ ที่ผา่ นการอบรม
อนื่ ๆ............................................................
• น้ำ� หนกั ทารกแรกเกดิ ........................................................ กรมั
C ลักษณะเด็กเมื่อแรกคลอด
………………………………………………………………………………………………………………....................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........................
................................................................................................................................................................................................
Apgar score ที่ 1 นาที = ............................................................... ท ี่ 5 นาที = .............................................................
• ลักษณะของรกและน้ำ� หนัก
............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
• อาการของมารดาเม่อื หลังคลอด
............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
6. ส66.ร. ุปสสรรสุปุปาเสหาตเุสหาตคสุ ัญ�ำาคทัญท่ี าทใที่หา�ำ้มใาหร้มดาารเสดียาเชสีวียติ ชีว(วกิติตา(เ(คกการาอื่เเคคงรหรื่อื่อมงงาหหยมมาายย ลงใลลนงงในได้เไพไดดยีเ้ เ้พงพยี 1ียงงข11้อ)ขข้อ้อ))
GrouGpronuapmneame PotePnottieanl tciaalusceasusoefsdoefadtheath HydHatyiddaiftoidrmifomrmolme ole
1. P1re.gPnraengncyanwciythwaitbhoartbivoertive EctoEpcitcoppircegpnraengncyancy
outcooumtceome FaileFdailaetdteamttpetmedptaebdoartbioonrtion
ComCpolmicaptliiocantioofnaobfoartbioonrti(oGnen(Giteanl ittraalcttraacntdapnedlvpicelivnifceicntfioecnt,ioEnx,ceEsxscievesshiveemhoermrhoargreh,age,
EmbEomlibsmol,isRme,nRael nfaaillufraeil,uMree,tMabeotalibcodliicsodrdiseorrsd,eDrsa,mDaagmeatgoepteolvpicelovircgaonrsg)ans)
2. H2y.pHeyrtpeenrstievnesdiviesodrdiseorrsdeinrs in PregPnraengncyanincyduincdeudcheydpheyrtpeenrstieonnsion EclaEmclpasmiapsia
pregpnraengncya,ncchy,ildchbiilrdthb,irathn,dand GesGtaetsiotantaiol nhaylpheyrtpeenrstieonnsion
the tphueeprpueerripuemrium
3. O3b.sOtebtsritcethreicmhoermrhoargrehage PlacPelnactaenatdahaedrehnesrens PlacPelnactaenptraevpiarevia
AbruApbtriuopptiloacpelnactaeentae AnteApnatertpuamrtuhmemhoermrhoargrehage
IntraInptarartpuamrtuhmemhoermrhoargrehage
PostPpoasrttpuamrtuhmemhoermrhoargreha(gReet(aRienteadinpeldacpelnactae,nUtat,eUrinteerianteonayto, nPye,riPneerainl elaaclelraacteiorant)ion)
ObsOtebtsritcettrriacutmraaum(Raup(Rtuurpetuorfeuotef ruutse,ruLsa,ceLraacteiorantioofncoefrvcixe,rvHixig,hHvigahgivnaaglinlaaclelraacteiorant)ion)
4. P4re.gPnraengncya-nrceyla-rteeldated ChoCrihooarmionaimonnitioisnitis PuePrpueerrapleirnafleicntfieocntion
infeicntfioecntion InfeIcntfieocntsioonfsgoefnigteonuirtionuarriynatrraycttract
5. O5t.hOerthoebrstoebtsritcetric VenVoeunsocuosmcpolmicaptliiocantsi:oDnsV:TDVT LiveLrivdeisrodrdiseorrsd:eArcs:uAtecufatettyfaltitvyerliver
comcpolmicaptliiocantsions PostPpoasrttpuamrtucmardciaormdiyoompyaothpyathy InteInnttieonntaiol nseallfs-ehlfa-rmharm
ObsOtebtsritcetermic beomlibsmolis(Amm(nAimotnicioftliucidflueimd beomlibsmol,isPmu,lmPuolnmaorynaermy beomlibsmol)ism)
6. U6n.aUnntiacniptaictiepdated ComCpolmicaptliiocantsioonfsaonfeastnheesstihae(sAiasp(Airasptioirantiponnepunmeounmitoisn,iBtirsa,iBnraainnoaxniao,xHiaig,hHsigphinsaplinbalol cbkl,ock,
comcpolmicaptliiocantsions FaileFdailoerddoifrfidcuiflfticiunlttuibnatutiboant)ion)
of moafnmagaenmageenmtent ComCpolmicaptliiocantsioonfssoufrgseurryge(Uryn(inUtneinnttieonntaiol ncault,cPuut,nPcutunrcet,uPree,rfPoerarftoiorant,ion,
ForeFiognrebigondbyoadcyciadcecnidtaelnlytallelyft)left)
ComCpolmicaptliiocantsioonfsmoef dmiceadliccaalreca(rMeis(mMaistmchaetcdhbeldoobdlouosdedusiendtrianntsrfaunssiofuns,ioEnx,ceEsxscievessive
amoaumnotuonftfloufidflutriadntsrfaunssiofuns,ioFna,iluFraeiluinredionsadgoes,agAen,aApnhayplahxyisladxuisedtuoedtrougd,ruNgo,nNaodnmaidnmistirnaitsitorantion
of noefcnesescaersysadrryugd,rsuugb, sstuabnsctean) ce)
7. N7o.nN-oobns-otebtsritcetric HeaHrtevaartscvualsacrudlaisredaisseesases CereCberraelbhraelmhoermrhoargrehage
comcpolmicaptliiocantsions PnePunmeounmiaonia NeoNpelaospmlasm
AIDSAIDS AutoAiumtomimunmeudniesedaisseesases
MalMignaalingncyancy EndEoncdrionecridniesedaisseesases
InfeIcntfieocntsiotnhsatthaaret anroetnaodtiaredctirerecsturletsoufltporef gpnraengncyancy
8. U8n.kUnnokwnno/wunnd/uentedremteinrmedined TheTuhneduenrldyeinrglycinagusceauisseuniskunnokwnnowornwoarswnaostndoettedremteinrmedined
9. C9o.inCcoidinecnidtaelnctaalusceasuses ExteErxntaelrncaalusceasuseexsceepxcteinptteinnttieonntaiol nseallf-shealfr-mhar(Amcc(iAdcecnidtaeln, tAasls,aAuslsta)ult)
DiseDaisseesasneostnaogtgraagvgartaevdatbeydtbhyetphreegpnraengncyancy
7.7.ส สรปุรปุสสาเาหเหตุทตีทุ่ าที่ ใำ� หใ้มหา้มราดราดเสาเียสชียวี ชิตวี เมิตื่อเมว่ือเิ ควริเคาะรหาะ์ 3ห์ D3eDlaeylsay(เsล(ือเกลไอื ดกม้ ไาดกม้ กาวกา่ ก1วา่ ข1้อ)ข้อ)
Delays หวั ขอ้ ใช่ ไม่ใช่ เหตุผล…./
โปรดระบุ
1. หญิงตัง้ ครรภ์/ครอบครัว (การตัดสินใจ) ความชกั ช้าในการตดั สินใจเขา้ สถานพยาบาล
2. ระบบสง่ ต่อและการส่อื สาร (การเขา้ ถงึ )
การปฏเิ สธการรกั ษาหรือเข้ารบั การรักษา
3. บุคลากรและสถานพยาบาล (คณุ ภาพบรกิ าร) ขาดยานพาหนะจากบ้านไปสถานพยาบาล
ขาดยานพาหนะระหวา่ งสถานพยาบาล
การส่ือสารระหวา่ งสถานบรกิ ารล้มเหลว
ขาดวสั ดุอปุ กรณ์ทางการแพทย์, ยา, คลงั เลอื ด
บุคลากรไมเ่ พียงพอ
ขาดทกั ษะ ความชานาญ
ความลา่ ชา้ ในการรักษาและตดั สนิ ใจ เปล่ยี นวิธกี ารรักษาตาม
CPG
8.8ก. ากราผรา่ ผชา่ ันชสันูตสรูตศรพศพ ไม ่ไดไ้ทมา่ไดท้ �ำ
ไดท้ าไดท้ ำ� ผ ล ก า ผรชลันกาสรูตชรนัศสพตู รศพ
.........................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
9.9ส. รสปุ รโุปดโยดยย่อยเกอ่ ่ยีเกว่ยีกวับกปับจั ปจจัยจหัยรอืหเรหอื ตเหุกาตรกุ ณารส์ ณาคส์ ัญ�ำคทัญี่เกทย่ี ี่เวกกี่ยับวกกาับรกตายรตาย
.........................................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................. .................................................................................. ....
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
101.0.กกาารตรตายายคครงั้รนง้ั นี้สาี้สมาามราถรปถอ้ปงอ้ กงันกไนั ดไห้ ดรห้ ือรไือมไ่ ม่
ไดได้ ้ ไไมม่ไไ่ดด้ ้
111.1ข. ้อขเ้อสเนสอนแอนแะนเพะเอื่ พกอื่ ากรพารัฒพนฒั านา
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
12. คณะกรรมการ MCH รพ............................................................. จงั หวดั ......................................................................
(ช่ือ-สกุล)........................................................................................ว นั ท.่ี .........................................................................
13. ผู้ตรวจสอบความสมบูรณข์ องรายงาน
(ชอ่ื -สกุล)........................................................................................ว นั ท.ี่ .........................................................................
14. ผ้สู ง่ รายงานเข้ากรมอนามัย
(ช่ือ-สกลุ )........................................................................................ว นั ท.ี่ .........................................................................
หนังสอื แสดงความยินยอม/เจตนาเข้ารว่ มโครงการปอ้ งกนั และควบคุมกลมุ่ อาการดาวน์
เขียนท…ี่ ………………………………………....................
วนั ท่…ี …..…เดือน...........................................พ.ศ.....................
ข้าพเจ้า……………………………….……...................อายุ……….ปี เลขท่ีบัตรประชาชน..........................................
ในฐานะเปน็ สตรตี ง้ั ครรภ ์ ผมู้ คี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วขอ้ งใกลช้ ดิ ทางเครอื ญาต/ิ คสู่ มรสในฐานะ................................ของ
ช่ือด.ญ./นาง/นางสาว................................................................................(กรณีท่ีหญิงตั้งครรภ์ไม่สามารถให้ความยินยอม
ไดด้ ้วยตนเอง เชน่ อายตุ �ำ่ กว่า 18 ปี ยังไม่บรรลนุ ิตภิ าวะ หรือมคี วามบกพรอ่ งทางจติ ให้ผู้ปกครองลงนามยนิ ยอมแทน)
ชอ่ื สถานพยาบาล..........................................................................................รหสั สถานพยาบาล................................................
ซง่ึ เขา้ รับการตรวจกรองกล่มุ อาการดาวน์ด้วยการเลอื ด ได้รบั ทราบค่าอธิบายดงั ตอ่ ไปนี้
1. กลุ่มอาการดาวน์ เป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ท�ำให้ทารกเกิดภาวะบกพร่อง
ทางสติปัญญา และมคี วามผดิ ปกติอยา่ งอืน่ ร่วมด้วย ได้มโี อกาสเกดิ ขนึ้ ได้ในมารดาทุกรายไม่ว่าอายุมากหรือน้อย แตโ่ อกาส
เกิดจะมากน้อยแตกต่างกันออกไป
2. การตรวจเลอื ดมารดา เพื่อตรวจกรองความเสีย่ งของการเกิดกลุ่มอาการดาวน์ ไม่กอ่ ให้เกดิ อนั ตรายใด ๆ ตอ่
ทารกในครรภ์และมารดา ผลการตรวจเลือดเพ่ือคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์นี้ บอกได้ว่ามีความเส่ียงสูงหรือเส่ียงต�่ำเท่านั้น
ไมใ่ ชก่ ารยนื ยันว่าทารกในครรภ์เปน็ หรือไมเ่ ปน็ กล่มุ อาการดาวน์
3. ขา้ พเจา้ ได้สอบถามเจา้ หนา้ ทผ่ี ู้เกย่ี วข้อง และได้อา่ นเอกสารท้งั หมดท่ีเกี่ยวกับการตรวจกรองกลมุ่ อาการดาวน์
กอ่ น คลอดโดยการตรวจเลอื ดแลว้ โดยปราศจากขอ้ สงสยั ขา้ พเจา้ มคี วามเขา้ ใจเปน็ อยา่ งดี จงึ ไดแ้ สดงความยนิ ยอม/ เจตนา
เข้าร่วมโครงการปอ้ งกันและควบคมุ กลุ่มอาการดาวน์ จงั หวดั ขอนแก่น และยนิ ยอมใหต้ รวจเลือด
ลงชอื่ ……………………....……....……………..ผ้ยู นิ ยอม
(…………………………………….……..…)
สตรีตั้งครรภ์ ผู้มีอ�ำนาจกระท�ำการแทน
ลงชอ่ื …………………………............………….ผใู้ หก้ ารปรึกษา
(……………………………………...………)
วนั ท่ี…..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
ลงชอ่ื ……………………………............……….พยาน ลงชอื่ …………………………………….............พยาน
(……………………………………........….) (………………………………………………)
วนั ท่ี…..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น. วนั ที่…..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
หนังสือแสดงความยินยอม/เจตนาเขา้ รบั การตรวจวนิ จิ ฉัยก่อนคลอดโดยการเจาะน้ำ� ครำ่� (Amniocentesis)
เขียนที่……………………………...........….…
วนั ที่……..…เดือน.........................พ.ศ………..........…
ข้าพเจ้า……………………………….……...................อายุ……….ปี เลขท่ีบัตรประชาชน..........................................
ในฐานะเปน็ สตรตี ง้ั ครรภ ์ ผมู้ คี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วขอ้ งใกลช้ ดิ ทางเครอื ญาต/ิ คสู่ มรสในฐานะ................................ของ
ชอ่ื ด.ญ./นาง/นางสาว............................................................... (กรณที ห่ี ญงิ ตงั้ ครรภไ์ มส่ ามารถใหค้ วามยนิ ยอมได้ ดว้ ยตนเอง
เชน่ อายตุ �่ำกว่า 18 ปี ยังไม่บรรลุนิตภิ าวะ หรอื มคี วามบกพร่องทางจติ ใหม้ ผี ปู้ กครองลงนามยินยอมแทน)
ชอื่ สถานพยาบาล...........................................................................รหสั สถานพยาบาล...........................................................
ซง่ึ เข้ารับการตรวจวนิ จิ ฉัยกอ่ นคลอดโดยการเจาะน�้ำคร่ำ� (Amniocentesis) ด้วยขอ้ บ่งชค้ี อื ………………..............................
ไดร้ ับทราบคำ� อธิบายดังตอ่ ไปน้ี
1. การเจาะน�้ำคร่�ำเป็นวิธีการเจาะเข้าไปในถุงน�้ำท่ีห่อหุ้มตัวทารก และดูดน�้ำคร�่ำน�ำมาตรวจหาความผิดปกติ
ทางพันธกุ รรม เชน่ กลุ่มอาการดาวน์ โรคทีถ่ ่ายทอดทางพันธกุ รรม เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซเี มีย เป็นต้น
2. วิธีตรวจท่าโดยใช้เข็มขนาดเล็กเจาะผ่านหน้าท้องของสตรีต้ังครรภ์และดูดน้�ำคร่�ำ (รายละเอียดตามเอกสาร
ความร้เู รอื่ งการเจาะน้ำ� ครำ่� )
3. ประโยชน์ของการตรวจเพื่อตรวจโครโมโซมของทารกในครรภ์หรือโรคทางพันธุกรรมบางโรค (เฉพาะในกรณี
ทีเ่ ป็นขอ้ บ่งชขี้ องการตรวจ)
4. ข้อจำ� กัดของการตรวจ
- บางครั้งไม่สามารถดูดน�้ำคร่�ำมาตรวจได้หรือการเพาะเล้ียงเซลล์ในน้�ำคร�่ำอาจไม่ประสบความส�ำเร็จท�ำให้
ไมส่ ามารถทราบผลตรวจ
- แม้วา่ ผลการตรวจจะเปน็ “ปกติ” แตท่ ารกอาจมคี วามพกิ ารแตก่ �ำเนิดหรอื มีพฒั นาการชา้ จากสาเหตอุ ื่น
5. ภาวะแทรกซ้อน โดยทั่วไปการเจาะน้�ำคร�่ำเป็นวิธีการตรวจท่ีมีความเสี่ยงน้อย ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย
คือ ปวดเกร็งท้องน้อยเล็กน้อยหลังการเจาะ แต่บางคร้ังอาจเกิดการติดเช้ือในถุงน้�ำคร�่ำ การแท้ง หรือเจ็บครรภ์
คลอดก่อนก�ำหนดได้ 1 ราย จากการตรวจ 200 ราย การตรวจอาจท�ำให้เกิดการสร้างภูมิต้านทานในผู้ที่มีกลุ่มเลือด
Rh negative ซึง่ ป้องกันไดโ้ ดยการฉีด Anti-D immunoglobulin ในผู้ทไี่ มม่ ีโรคประจำ� ตวั ไดร้ ับยาบางชนดิ การตัง้ ครรภ์
ทผ่ี ิดปกติ เชน่ ครรภแ์ ฝด อาจมโี อกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนเพมิ่ ขึน้
6. ข้าพเจ้าได้สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและได้อ่านเอกสารท้ังหมดที่เก่ียวกับการวินิจฉัยก่อนคลอด
โดยการเจาะน�้ำคร�่ำแล้ว โดยปราศจากข้อสงสัย ข้าพเจ้าเข้าใจเป็นอย่างดี จึงได้แสดงความยินยอม/เจตนาเข้ารับการ
ตรวจวินิจฉยั กอ่ นคลอดโดยการเจาะนำ้� ครำ�่
ลงชอื่ ……………………....……....……………..ผู้ยนิ ยอม
(…………………………………….……..…)
สตรีตั้งครรภ์ ผู้มีอ�ำนาจกระท�ำการแทน
ลงชือ่ …………………………............………….ผ้ใู ห้การปรกึ ษา
(……………………………………...………)
วนั ที่…..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
ลงชือ่ ………………………………............…….พยาน ลงช่อื …………………………………….............พยาน
(……………………………………........….) (………………………………………………)
วนั ท่…ี ..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น. วันท่…ี ..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
หนงั สอื แสดงความยินยอม/เจตนาเข้ารบั การตรวจดว้ ยคลื่นเสียงความถี่สูง (อัลตราซาวน)์ ทางสตู กิ รรม
เขียนท่ี……………………………...........….…
วนั ท่…ี …..…เดอื น.........................พ.ศ………..........…
ข้าพเจ้า……………………………….……...................อายุ……….ปี เลขท่ีบัตรประชาชน..........................................
ในฐานะเปน็ สตรตี ง้ั ครรภ ์ ผมู้ คี วามสมั พนั ธเ์ กย่ี วขอ้ งใกลช้ ดิ ทางเครอื ญาต/ิ คสู่ มรสในฐานะ................................ของ
ชอื่ ด.ญ./นาง/นางสาว................................................................ (กรณที ห่ี ญงิ ตงั้ ครรภไ์ มส่ ามารถใหค้ วามยนิ ยอม ไดด้ ว้ ยตนเอง
เชน่ อายุต�ำ่ กว่า 18 ปี ยังไม่บรรลนุ ิตภิ าวะ หรือมีความบกพร่องทางจิต ใหม้ ผี ูป้ กครองลงนามยินยอมแทน)
ชอ่ื สถานพยาบาล..............................................................รหสั สถานพยาบาล............................................................................
ซง่ึ เข้ารับการตรวจคลื่นความเส่ยี งความถ่สี ูง (อัลตราซาวน์) ไดร้ บั ทราบค�ำอธบิ ายดงั ตอ่ ไปนี้
1. ปจั จบุ นั ยงั ไมม่ รี ายงานถงึ ผลเสยี หรอื อนั ตรายของการตรวจคลน่ื เสยี งความถสี่ งู ตอ่ สตรตี ง้ั ครรภแ์ ละทารกในครรภ์
2. การตรวจด้วยคลืน่ เสียงความถ่ีสูงน้ัน แพทยผ์ ตู้ รวจจำ� ท�ำการตรวจและรายงานขอ้ มลู ที่ส�ำคัญดังต่อไปน้ี
2.1 การมีชีวิตของทารกในครรภ์
2.2 อายคุ รรภโ์ ดยประมาณการ
2.3 จำ� นวนทารกในครรภ์
2.4 ท�ำหรอื สว่ นนำ� ของทารกในครรภ์
2.5 ต�ำแหนง่ รก
2.6 ปรมิ าณนำ้� คร่ำ�
2.7 ความผิดปกตบิ างชนดิ ของทารกในครรภท์ ่อี าจตรวจพบ
3. ขา้ พเจา้ รบั ทราบวา่ กรณที แ่ี พทยไ์ ดท้ ำ� การตรวจตามแนวทางปฏบิ ตั ทิ เี่ หมาะสมและรายงานผลการตรวจคลน่ื เสยี ง
ความถส่ี งู ทางสตู กิ รรมวา่ ไมพ่ บความผดิ ปกตนิ น้ั ไมไ่ ดเ้ ปน็ การยนื ยนั วา่ ทารกในครรภม์ คี วามสมบรู ณแ์ ขง็ แรงรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์
หรอื ไมม่ ีความผดิ ปกติใด ๆ ของทกุ อวัยวะ เนือ่ งจากความพิการแตก่ �ำเนิดบางชนดิ ไมส่ ามารถวนิ จิ ฉยั ได้ก่อนคลอดหรอื อาจ
จะเกิดข้นึ ภายหลังการตรวจในครง้ั น้นั
4. การตรวจดว้ ยคลน่ื เสยี งความถส่ี งู เปน็ เพยี งเครอ่ื งมอื ชว่ ยในการวนิ จิ ฉยั สภาพและภาวะของทารกในครรภเ์ ทา่ นนั้
5. ข้าพเจ้าได้สอบถามเจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องเก่ียวกับการตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงโดยปราศจากข้อสงสัย
เอกสารทั้งหมดแล้วซ่ึงข้าพเจ้ามีความเข้าใจเป็นอย่างดี จึงได้แสดงความยินยอม/เจตนาเข้ารับการตรวจทารกในครรภ์
ดว้ ยคล่นื เสยี งความถี่สูง
ลงชื่อ……………………....……....……………..ผยู้ ินยอม
(…………………………………….……..…)
สตรีต้ังครรภ์ ผู้มีอ�ำนาจกระท�ำการแทน
ลงชือ่ …………………………............………….ผใู้ ห้การปรกึ ษา
(……………………………………...………)
วนั ท…ี่ ..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
ลงช่ือ………………………............…………….พยาน ลงช่อื …………………………………….............พยาน
(……………………………………........….) (………………………………………………)
วนั ท…ี่ ..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น. วนั ท…ี่ ..…./…………………./…….....…เวลา……..……..น.
การสง่ ตรวจตัวอย่างโครงการป้องกนั และควบคุมกลุ่มอาการดาวน์ จังหวัดขอนแก่น
- กรอกขอ้ มลู ในใบส่งตรวจใหค้ รบถว้ น พรอ้ มชื่อแพทยแ์ ละหมายเลขโทรศพั ทท์ ี่สามารถติดต่อได้
- เก็บตัวอย่างเลอื ดในหลอดสุญญากาศ ชนิดมเี จล (ฝาสเี หลอื ง) ปริมาตร 4 มิลลิลิตร (Clotted blood with gel)
(เบิกไดท้ ่ี รพ.ศรนี ครนิ ทร์ หรอื ศนู ยป์ ระสานงานโครงการฯ)
- รอให้เลอื ดแข็งตวั อย่างสมบูรณ์ (อยา่ งนอ้ ย 15 นาท)ี ปนั่ แยกซีร่ัม 2,800 รอบ/นาที นาน 10 นาที
- กรณสี ามารถสง่ ในวันที่เจาะเลือด ใหเ้ ก็บที่ตเู้ ยน็ (2-8°C) และน�ำสง่ ในกลอ่ งทีม่ ีน้�ำแขง็ (แช่เย็น)
- กรณีท่ีไมส่ ามารถสง่ ในวันที่เจาะเลือด ให้เกบ็ ท่ชี อ่ งแช่แขง็ (-20°C) และนำ� สง่ ในกลอ่ งที่มีน�้ำแขง็ (แชเ่ ย็น)
- ส่งตัวอยา่ งเลอื ดทีง่ านห้องปฏบิ ตั กิ ารเวชศาสตร์ชนั สตู ร รพ.ศรีนครินทร์ ที่หอ้ งรบั ส่งิ สง่ ตรวจ ชัน้ 5 อาคาร สว.1 (เปดิ 24 ช่วั โมง)
- งานห้องปฏบิ ตั ิการฯ จะท�ำการตรวจ Lab 3 ครัง้ /สปั ดาห์
- ผลการตรวจจะสง่ กลบั ภายใน 2 สปั ดาห์ ไปที่ศนู ย์ประสานโครงการและโรงพยาบาลตน้ สังกดั
ทาง E-mail และ ใบ Report (ส่งผลพร้อมกบั รถน�ำสง่ ตัวอยา่ ง)
Tests (AutoDELFIA) Specimen Stability
PAPP-A, 96 Serum 6 Day (2-8 °C)
1 Day (RT)
Free hCGb, 96 Serum 2 Wks (2-8 °C) หมายเลขโทรศัพท์
หอ้ งรับส่งตัวอย่าง 043-366983
hAFP Serum/Amniotic 3 Wks (2-8 °C) นายสนุ ทร กณั หาสรุ ะ 081-7173500
5 Day (2-8 °C) นายประจวบ ชยั มณี 086-8508855
Uncojugated Estriol (uE3) Serum 1 Day (RT) นางธนดิ า พงษศ์ รีทศั น์ 081-3201167 หัวหน้าทีม
Inhibin-A, 96 Serum/Heparin blood 3 Days (2-8 °C)
Srinagarind Hospital Routine transport
Network Hospital Cooled box 2-8 °C
ศาลเจ้าพ่อมอดนิ แดง ไปอุดรฯ ทศิ เหนอื
ไฟจราจร
แผนท่ไี ปตกึ สว.1
ตึกอธิการฯ สนามกีฬา ม.ขอนแกน่ รพ.ศรนี ครนิ ทร์ ถนนมิตรภาพ
คณะเทคนคิ การแพทย์ บ.ข.ส.เก่า
ถนนประชาสโมสร
สว.1 ศูนยห์ วั ใจสริ ิกิติ์
รพศ.ขอนแกน่
ศูนย์ประชุม ฯ ไฟจราจร ไปกาฬสนิ ธ์ุ
รพ.กรงุ เทพ ไฟจราจร
เซนทรัล
ไปชมุ แพ ไฟจราจร ถนนมะลิวลั ย์ ไฟจราจร
รพ.ขอนแก่นราม
ถนนศรจี ันทร์
ไปบา้ นไผ่
คู่มือ
แนวทางการด�ำเนินงาน
อนามัยแม่และเด็ก
ปีงบประมาณ 2563
ที่ปรึกษา
1. นายแพทยช์ าตรี เมธาธราธิป
2. นางทศั นยี ์ รอดชมภู
3. ดร. ทนั ตแพทย์หญงิ ศรญิ ทพิ ย์ ชาลีเครอื
4. นายแพทยน์ ฤชิต ทกั ษ์โม้
บรรณาธกิ าร/ ผูจ้ ดั ท�ำ
1. นายแพทยช์ นัตถ์ มาลัยกนก
2. ดร.ธโิ สภญิ ทองไทย
3. ดร.สพุ ัตรา บญุ เจียม
4. นางสาวจันทยิ า เนตวิ ิภชั ธรรม
5. นายปยิ ะ ปรุ ิโส
6. นางสาวลดั ดา ดีอันกอง
7. นางสาวธนศิ รา นามบุญเรือง
8. นางสาวกญั ญาภัทร คำ� โสม
กลมุ่ พฒั นาอนามัยแม่และเด็ก
ศูนยอ์ นามัยท่ี 7 ขอนแก่น