หน่วยที่ 1 โปรแกรมประมวลผลคำ 1.โปรแกรมประมวลผลคำ 2.โปรแกรม Microsoft Word 3.การติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word 2016 4.การกำหนดภาษาของโปรแกรม 5.ส่วนประกอบของโปรแกรม 6.แถบเครื่องมือในโปรแกรม 7.การปรับแต่งก่อนใช้งานโปรแกรม โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) คือ โปรแกรมที่ใช้สร้างงานเอกสาร แทนเครื่องพิมพ์ดีด และมี คุณสมบัติพิเศษ เช่น พิมพ์ตัวอักษรได้หลายรูปแบบ แทรกตาราง และรูปภาพลงในเอกสารได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถใน การตัดคำ ตรวจคำผิด รวมทั้งเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างเอกสารต่าง ๆ จึงทำให้เราสามารถสร้างเอกสารได้อย่างคุณภาพ สำหรับโปรแกรมประมวลผลคำที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ได้แก่ Microsoft Word สาระสำคัญ สาระการเรียนรู้ 1.แสดงความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมประมวลผลคำ 2.บอกรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Word 3.บอกขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม Microsoft Wordได้ 4.บอกวิธีการกำหนดภาษาของโปรแกรมได้ 5.เรียกชื่อส่วนประกอบของโปรแกรมได้ถูกต้อง 6.บอกชื่อแถบริบบอนในโปรแกรมได้ 7.สามารถปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรมได้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม แสดงความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมประมวลผลค า และ Microsoft Word แ
1. โปรแกรมประมวลผลคำ โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เวิร์ด (Word) คือ โปรแกรมประยุกต์ (Application) ที่ใช้สร้างเอกสารแทนเครื่องพิมพ์ดีด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ พิเศษที่ช่วยในการสร้างเอกสารอีกหลายประการ เช่น สามารถพิมพ์ตัวอักษรทั้งภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษในรูปแบบอักษรต่าง 1 สามารถแทรกตารางและรูปภาพลงในเอกสารได้ นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการตัดคำ และตรวจคำผิด รวมทั้งมีเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างเอกสารแบบ ต่างๆจึงช่วยให้สร้างเอกสารได้อย่างมีคุณภาพ และสะดวกรวดเร็วกว่าการใช้เครื่องพิมพ์ดีด โปรแกรมประมวลผลคำในยุคก่อน ได้แก่ โปรแกรม Word Star ซึ่งพิมพ์ได้เฉพาะภาษาอังกฤษ โปรแกรม เวิร์ดราชวิถี และเวิร์ดจุฬา ซึ่งพัฒาโดยคนไทย เพื่อพิมพ์งานเอกสารทั้งภาษาไทยและ อังกฤษ โดยทำงานบนระบบปฏิบัติการดอส (DOS) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการแบบเก่าสั่งงานโดยใช้ แป้นพิมพ์เป็นหลัก และมีความสามารถเพียงการพิมพ์ตัวอักษรในลักษณะต่าง ๆ และการแทรก ตารางแต่หลังจากบริษัทไมโครชอฟต์ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการแบบใหม่ คือ ไมโครซอฟต์วินโดวส์ (Microsoft Windows ) ซึ่งใช้การติดต่อแบบระบบกราฟิก (GUI : Graphic User Interface ) ผ่านเมาส์ โปรแกรมประมวลผลคำจึงได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการพิมพ์เอกสารด้วยแบบอักษรที่หลากหลาย การแทรกรูปภาพ การตรวจคำผิด ฯลฯ และทางบริษัทไมโครชอฟต์เอง ก็ได้พัฒนาโปรแกรมประมวลผลคำขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า ไมโครซอฟต์เวิร์ด (Microsoft Word) ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยม และมีการพัฒนามา อย่างต่อเนื่อง 2. โปรแกรม Microsoft Word โปรแกรม Microsoft Word (อ่านว่า ไมโครชอฟต์เวิร์ด) จัดเป็นโปรแกรมประมวลผลคำที่ได้รับ ความนิยม และใช้งานกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่จะผลิตขายรวมอยู่ในชุด โปรแกรม ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ (Microsoft Office) ซึ่งผลิตออกมาหลายเวอร์ชัน ตั้งแต่เวอร์ชัน 4.3เวอร์ชัน 2000 และ 2003 จนมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ใน เวอร์ชัน 2007 จนถึงปัจจุบัน โดย โปรแกรมไมโครชอฟต์เวิร์ดรุ่นแรก ๆ คือ ตั้งแต่เวอร์ชั่น 2003 ลงมา จะใช้รายการเมนู (Menu) เป็นส่วนหลักในการใช้งาน โดยจะมีปุ่มเครื่องมือเพียงชุดเดียว แตในตั้งแต่เวอร์ชัน Ofice 2007 ไมโครซอฟต์ได้เปลี่ยนการใช้งานจากเมนู เป็นแถบเครื่องมือ ที่เรียกว่าริบบอน (Ribbon) หรือ แท็บ (โab) เพื่อให้มีปุ่มเครื่องมือได้มากขึ้นแทนการใช้เมนูซึ่งมีข้อจำกัดในการใช้งาน นอกจากนี้ยัง เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งรูปภาพ และเพิ่มกราฟิกพิเศษที่ เรียกว่า สมาร์ตอาร์ต (Smart A/rt) ขึ้นมา รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดเก็บไฟล์งานให้มีขนาดเล็กกว่าเดิมโดยจัดเก็บ ในรูปแบบไฟล์ XMLจึงใช้ส่วนขยายไฟล์เป็น do*x แทนรูปแบบเดิมซึ่งใช้เป็น .doc โดยตัว
โปรแกรมยังสามารถอ่าน และแก้ไขไฟล์ในเวอร์ชันก่อนได้ นอกจากนี้ไมโครชอฟต์ยังได้พัฒนา Microsoft Office 365 ซึ่งใช้งานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมไว้ภายในเครื่ อง และสามารถใช้งานได้ทุกะบบปฏิบัติการ โดยใช้งานผ่านทางโปรแกรมเว็บบราว์เซอร์ (Web Browser) และยังให้พื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า One Drive (ซึ่งฃ่วยให้ สามารถใช้งานได้กับทุกเครื่อง เละทุกสถานที่อย่างไรก็ดีบริษัทไมโครซอฟต์ยังผลิตโปรแกรมใน ลักษณะติดตั้งเฉพราะเครื่องโดยใฃ้งานบนระบบปฎิบัติการวินโดวส์ ซึ่งเวอร์ชันปัจจุบัน คือ Microsoft Office 2016 แม้ว่าโปรแกรมไมโครซอฟต์จะมีด้วยกันหลายเวอร์ชัน โดยแต่ละเวอร์ชันอาจมีรูปแบบสีสัน และปุ่มเครื่องมือที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมจะมีวิธีใช้ และขั้นตอนในการสร้างงานที่คล้ายกัน ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเวอร์ชันที่ใช้งานมากนัก เพราะเมื่อเรียนรู้การใช้งานใน เวอร์ชันใด เวอร์ชันหนึ่งแล้วก็สามารถปรับสภาพการใช้งานในเวอร์ชันใหม่ได้ไม่ยาก 3. การติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word 2016 ในการใช้งาน Microsoft Word 2016 ทำได้ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word 2016 ได้ตาม ขั้นตอนดังนี้ 1) ถอนโปรแกรม Microsoft Office ตัวเดิม ถ้าไม่ต้องการใช้งานอีกต่อไป 2) ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ Setup ดังรูปที่1.1 เพื่อติดตั้งโปรแกรม รูปที่ 1.1 แสดงไฟล์ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word 2016 3) โปรแกรมจะเช้าสู่หน้าจอการติดตั้งดังรูปที่ 1.2 สาระน่ารู้ 1. ไฟล์เอกสารรุ่นใหม่ที่สร้างโดยโปรแกรม Microsoft Word 2003 หรือรุ่นก่อนหน้า จะมีส่วน ขยายหรือนามสกุลขแงไฟล์เป็น .doc 2. ไฟล์เอกสารรุ่นใหม่ที่สร้างด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2007 ขึ้นไป จะมีส่วนชยายหรือ นามสกุลของไฟล์เป็น .docx ซึ้งจะมีขนานไฟล์ที่เล็กกว่า แต่ไม่สามารถอ่านด้วยโปรแกรมในเวอร์ชัน ก่อนหน้าได้ 3. การให้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด รุ่นเก่าสามารถอ่านไฟล์ที่สร้างด้วย Microsoft Word รุ่นใหม่ได้ จะต้องใช้ เมนูบันทึกเป็น(Save as) แล้วเลือกรายการ Word97-2003 Document (*doc) เพื่อให้บันทึกเป็นรูปแบบไฟล์ รุ่นเก่า
รูปที่ 1.2 แสดงหน้าจอที่ติดตั้งโปรแกรม Microsoft Word 2016 4) จากนั้นจะแสดงหน้าต่างแสดงว่าติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังรูปที่ 1.3 รูปที่ 1.3 หน้าต่างแสดงว่าติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อย 5) ให้กดปุ่ม close เพื่อปิดหน้าต่าง หลังจากติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ในกรณีต้องารใช้งานเมนูภาษาไทย หรือต้องการ ความสามารถในการตรวจคำผิดในระบบภาษาไทย จะต้องติดตั้งชุดภาษาไทยเพิ่มเติม (Setup Language Accessory Pack For MS Office 2016 โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ของ ไมโครซอฟต์ ซึ่งจะมีให้เลือกใช้มั้งแบบ 32 บิต (x86) และ 64 บิต (x64) โดยมีขั้นตอนการติดตั้ง ดังนี้ 1) เลือกไฟล์ชุดติดตั้งตามระบบปฏิบัติการ แล้วดับเบิลคลิกที่ไฟล์ดังกล่าว จะปรากฏ หน้าต่างแจ้งเตือนการติดตั้ง ดังรูปที่ 1.4 ให้กดปุ่ม Yes เพื่อติดตั้งโปรแกรม รูปที่ 1.4 แสดงการติดตั้งชุดภาษาไทย 2) เนื่องจากไฟล์ติดตั้งเป็นแบบ Online Setup ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อดาวน์โหลดส่วนการติดตั้งจสกเว็บไซต์ หายไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะมีหน้าต่าง ๆแจ้งเตือน ดัง รูปที่ 1.5 แสดงหน้าต่างแจ้งเตือนในกรณีไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 3) เมื่อเชื่อมต่อเครื่องกันอินเตอร์เน็ต และติดตั้งชุดภาษาไทย โปรแกรมจะมีการติดตั้ง โปรแกรม Office 2016 ภาษาไทย ดังรูปที่ 1.6 รูปที่ 1.6 แสดงการติดตั้งโปรแกรม Office ชุดภาษาไทย
4.การกำหนดภาษาของโปรแกรม หลังจากติดตั้งซอฟต์แวร์ชุดภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องกำหนดตัวเลือก Office เพื่อ กำหนดลักษณะของภาษาไทย ดังนี้ 1) เปิดโปรแกรม Word คลิกริบบอน File จากนั้นเลือกที่รายการ Options ดังรูปที่ 1.7 รูปที่ 1.7 แสดงการปรับแต่งตัวเลือกการใช้งาน 2) จะปรากฏหน้าต่าง ตัวเลือก ให้เลือกที่รายการ Language เพื่อปรับแต่งภาษา ดังรูปที่ 1.8 รูปที่ 1.8 แสดงการกำหนดภาษาในการใช้งาน 3) จากรูป จะเห็นว่าส่วนของการปรับแต่งภาษา จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นส่วนการกำหนดการพิมพ์งาน และตรวจสอบภาษา ซึ่งจะเห็นว่าถูกกำหนด เป็น ภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ 2 เป็นส่วนการกำหนดการใช้งานเมนู ซึ่งจะถูกกำหนดเป็นเมนู ซึ่งจะถูกกำหนดเป็นเมนู ภาษาอังกฤษ ส่วนที่ 3 เป็นส่วนการแสดงข้อความช่วยเหลือ(Help) ซึ่งถูกกำหนดเป็นภาษาอังกฤษ 4) ในกรณีต้องการเปลี่ยนมาใช้เมนูภาษาไทย ให้ดำเนินการดังรูปที่ 1.9 คือ (1) คลิกที่รายการ Thai [ไทย]ในส่วนของ Display Language (2) จากนั้นคลิกที่ปุ่ม [Set as Default] (3) แล้วกอปุ่ม [KO] เป็นการปรับเปลี่ยนเมนูให้เป็น ภาษาไทย รูปที่ 1.9 แสดงการเปลี่ยนเมนูใช้งานของ Word เป็นภาษาไทย 5) จากนั้นให้ปิด โปรแกรม แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นใหม่อีกครั้ง จะได้เป็นเมนูใช้งานเป็น ภาษาไทย สาระน่ารู้ การปรับแต่งตัวเลือกภาษาในโปรแกรม Microsoft Word จะเป็นการปรับเปลี่ยนภาษาชองชุดโปรแกรม Microsoft Office 2016 ทั้งหมด
5.ส่วนประกอบของโปรแกรม ส่วนประกอบของโปรแกรม Office Word 2016 จะมีลักษณะ ดังรูปที่ 1.10 รูปที่ 1.10 แสดงหน้าจอของโปรแกรม Microsoft Word 2016 โดยประกอบด้วย ... 1) ชื่อเรื่อง (Title Bar) เป็นส่วนแสดงชื่อโปรแกรม และชื่อไฟล์งานที่เปิดใช้ 2)แถบเครื่องมือด่วน (Quick Access Tool Bar) ใช้กำหนดปุ่มเครื่องมือซึ่งใช้งานบ่อย 3) แถบเครื่องมือ (Ribbon) คือ ชุดเครื่องมือที่แยกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน 4)ปุ่มเครื่องมือ (Button) คือ ปุ่มที่ใช้สั่งงานซึ่งจะแตกต่างกันไปตามริบบอนที่เลือกใช้ 5) ไม้บรรทัด (Ruler Bar) คือ ส่วนที่ใช้กำหนดขอบกระดาษและระยะย่อหน้า 6) พื้นที่สร้างงาน (Working Area) เป็นส่วนหน้ากระดาษที่ใช้ในการพิมพ์งานเอกสาร 7) ตัวแทรก (Insert Cursor) คือ ส่วนกำหนดตำแหน่งการพิมพ์งาน 8) แถบสถานะ (Status Bar) คือ ส่วนที่ใช้แสดงสถานะการทำงาน และหน้ากระดาษ 9) มุมมองเอกสาร (Document View) คือ ส่วนที่ใช้ย่อ/ขยาย และกำหนดมุมมองเอกสาร 10) ส่วนขยายหน้าจอภาพ (Zoom Control) คือ ส่วนที่ใช้ขยายหน้าจอเอกสาร 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1
6. แถบเครื่องมือในโปรแกรม ในโปรแกรม Microsoft Word จะกำหนดแถบเครื่องมือ หรือที่เรียกว่าริบบอน (Ribbon) หรือแท็บ (Tab) เพื่อแยกปุ่มลักษณะการใช้งาน โดยในแถบเครื่องมือหลักทั่วไปจะมีดังนี้ 6.1 แฟ้ม (File) เป็นแถบที่ใช้แสดงรายการหลักต่าง ๆ ดังรูป 1.11 รูปที่ 1.11 แสดงแถบริบบอน แฟ้ม 6.2 หน้าแรก (Home) เป็นแถบที่แสดงเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้งานบ่อย เช่น การปรับแต่งรูปแบบอักษร การปรับแต่งสี ตัวอักษร และการจัดตำแหน่ง ดังรูป 1.12 รูปที่ 1.12 แสดงแถบริบบอน หน้าแรก 6.3 แทรก (Insert) เป็นแถบเครื่องมือที่ใช้แทรกองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น แทรกตาราง แทรกรูปภาพ ภาพตัด ปะ และรูปร่างต่าง ๆ รวมทั้งกล่องข้อความ อักษรศิลป์ สมการ และลักษณ์ต่าง ๆ ดังรูปที่ 1.13 รูปที่ 1.13 แสดงริบบอน แทรก
6.4 ออกแบบ ( Design) คือ แถบเครื่องมือที่ใช้กำหนดลักษณะโครงสร้างรูปแบบเอกสาร สีสัน ลายน้ำ รวมทั้ง กำหนด สีชองหน้า และเส้นชอบ ดังรูป 1.14 รูปที่ 1.14 แสดงแถบริบบอน ออกแบบ 6.5 เค้าโครง (Layout) คือ แถบเครื่องมือที่ใช้กำหนดเค้าโครงหน้ากระดาษ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าหน้ากระดาษ การ กำหนดพื้นหลังของเอกสาร การกำหนดชุดรูปแบบ และการจัดเรียง ดังรูปที่ 1.15 รูปที่ 1.15 แสดงแถบริบบอน เค้าโครง 6.6 การอ้างอิง (Reference) เป็นแถบริบบอนที่ใช้ในการกำหนดตำแหน่งอ้างอิง การสร้างสารบัญ การกำหนดเชิงอรรถและ การสร้างดัชนี ดังรูป 1.16 ดังรูป 1.16 แสดงแถบริบบอน การอ้างอิง 6.7 การส่งจดหมาย (Mail) เป็นแถบริบบอนที่ใช้ในการพิมพ์ซองจดหมาย และป้านผนึก รวมทั้งการสร้างจดหมายเวียน ดัง รูปที่ 1.17 รูปที่ 1.17 แสดงแถบริบบอน การส่งจดหมาย
6.8 ตรวจทาน หรือ รีวิวเอกสาร (Review) เป็นแถบเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจการสะกดและไวยากรณ์ การแปลภาษาผ่านอินเตอร์เน็ต และ การเปรียบเทียบเอกสาร ดังรูปที่ 1.18 รูปที่ 1.18 แสดงแถบริบบอน การตรวจทาน (รีวิว) 6.9 มุมมอง (View ) เป็นแถบเครื่องมือที่ใช้ในการกำหนดมุมมองเอกสาร การแสดง ไม้บรรทัด เส้นตาราง การย่อ/ ขยายเอกสาร และการจัดเรียงหน้าต่างเอกสาร ดังรูปที่ 1.19 รูปที่ 1.19 แสดงแถบริบบอน มุมมอง นอกจากแถบริบบอนหลังดังกล่าว ยังมีแถบริบบอนพิเศษ ที่จะเพิ่มเข้ามาในขณะใช้งาน เช่นเมื่อคลิกที่รูปภาพจะปรากฎแถบเครื่องมือปรับแต่งรูปแบบของภาพ ดังรูปที่ 1.20 หรือเมื่อ คลิกที่ตาราง จะมีแถบเครื่องมือสำหรับการออกแบบ และปรับแต่งเค้าโครงของตาราง ดังรูปที่ 1.21 และ 1.22 รูปที่ 1.20 แสดงแถบริบบอน ปรับแต่งรูปแบบภาพ รูปที่ 1.21 แสดงแถบริบบอนอ ออกแบบตาราง รูปที่ 1.22 แสดงแถบริบบอน ปรับแต่งเค้าโครงตาราง
7.การปรับแต่งก่อนใช้งานโปรแกรม เราสามารถปรับแต่งโปรแกรม Microsoft Word 2016 เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ดังนี้ 7.1 เพิ่มเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วน ในแถบเครื่องมือด่วน โดยทั่วจะมีปุ่มเครื่องมือเพียง 3 ปุ่ม คือ บันทึก เลิกทำและทำซ้ำ โดยสามารถเพิ่มหรือนำเข้าปุ่มเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วนได้ โดย .... (1) คลิกที่ปุ่มลูกศรทางด้านขวาของแถบเครื่องมือด่วน (2) จะปรากฏรายการปุ่มเครื่องมือ ดังรูป 1.23 รูปที่ 1.23 แสดงการรายการปุ่มเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วน สำหรับปุ่มเครื่องมือที่ควรเพิ่มเข้ามาในแถบเครื่องมือด่วน ได้แก่ ปุ่มสร้างงานใหม่ ปุ่มเปิด งาน เอกสาร ปุ่มพิมพ์งานด่วน และปุ่มแสดงตัวอย่างก่อนพิมพ์ ซึ่งทำได้โดยคลิกที่รายการเครื่องมือที่ ต้องการนำเข้าดังรูปที่ 1.24 รูปที่ 1.24 แสดงรายการปุ่มเครื่องมือที่นิยมเพิ่มเข้ามาในแถบเครื่องมือด่วน 2 1
ในกรณีต้องการจัดลำดับ หรือเพิ่มปุ่มเครื่องมือนอกเหนือจากรายการที่แสดง ให้เลือก คลิกที่รายการ คำสั่งเพิ่มเติม....จะมีหน้าต่างแสดงปุ่มเครื่องมือให้เลือกเพิ่มเติม ดังรูปที่ 1.25 ซึ่งเราสามารถเพิ่มรายการเครื่องมือ โดย (1) เลือกรายการเครื่องมือที่ต้องการ (2) กดปุ่ม [ เพิ่ม >>] จะปรากฏรายการเครื่องมือทางด้านขวามือ (3) คลิกที่รายการเครื่องมือที่ต้องการเลื่อนจัดลำดับ (4) กดปุ่มลูกศรด้านข้าง เพื่อเลื่อนรายการขึ้นหรือลง (5) กดปุ่ม [ตกลง] รูปที่ 1.25 แสดงหน้าต่างการเพิ่มและจัดลำดับปุ่มเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วน ซึ่งจะได้ปุ่มเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วนที่ถูกจัดลำดับใหม่ ดังรูปที่ 1.26 รูปที่ 1.26 แสดงเครื่องมือในแถบเครื่องมือด่วนที่ถูกจัดลำดับใหม่ 5 3 4 2 1
7.2 เพิ่มแถบไม้บรรทัด ในกรณีหน้าจอการใช้งานไม่มีแถบไม้บรรทัด เราสามารถเพิ่มแถบไม้บรรทัด ได้โดยคลิกที่ช่อง รายการ ไม้บรรทัด ในริบบอน มุมมอง ดังรูปที่ 1.27 รูปที่ 1.27 แสดงการเพิ่มแถบไม้บรรทัดในหน้าต่างเอกสาร 7.3 กำหนดการเปลี่ยนหน่วยวัดขนาด การเปลี่ยนหน่วยวัดทำได้โดยคลิกที่ ริบบอน แฟ้ม แล้วคลิกที่รายการ ตัวเลือก ดังรูปที่ 1.28 รูปที่ 1.28 แสดงรายการ ตัวเลือก ในริบบอน แฟ้ม จากนั้นดำเนินการ ดังรูปที่ 1.29 คือ (1) คลิกที่รายการ ขั้นสูง (2) เลือกรายการ การแสดงหน่วยการวัด ตามค่าที่ต้องการ
รูปที่ 1.29 แสดงการปรับเปลี่ยนหน่วยวัดขนาด 7.4 การเปลี่ยนแบบอักษรเริ่มต้น ส่วนใหญ่เมื่อสร้างเอกสารใหม่เพื่อใช้งาน โปรแกรม Microsoft Word จะกำหนดแบบ อักษร (Font) เริ่มต้นในการพิมพ์งานไว้ให้ โดยใน Word 2016 จะใช้ฟอนต์ Calibri ขนาด 11pt. เป็นฟอนต์ เริ่มต้นในการพิมพ์ตัวอักษรภาษาอังกฤษ และใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาด 14 pt. เป็นฟอนต์เริ่มต้นในการพิมพ์ภาษาไทย ดังนั้นในกรณีต้องใช้แบบอักษรอื่น จึงจำเป็นต้องเปลี่ยน แบบอักษรใหม่ทุกครั้งสำหรับการเปลี่ยนแบบอักษรเริ่มต้นของโปรแกรม Microsoft Word ทำได้ โดย คลิกที่ปุ่มซึ่งอยู่ตรงมุมล่างด้านขวาของชุดเครื่องมือปรับแต่งฟอนต์ ดังรูปที่ 1.30 รูปที่ 1.30 แสดงการกดปุ่มปรับแบบอักษร จะปรากฏหน้าต่างสำหรับการปรับแต่งฟอนต์ โดยจุดที่ต้องปรับแต่งจะมี 2 ตำแหน่ง คือ (1) แบบอักษรสำหรับการพิมพ์ภาษาไทย (2) แบบอักษรในกรณีพิมพ์ฟอนต์ภาษาอังกฤษ ดังรูปที่ 1.31 2 1
รูปที่ 1.31 แสดงแบบอักษรเริ่มต้นของ Microsoft Word กรณีต้องการกำหนดให้การพิมพ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษใช้ฟอนต์ TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. ทั้งคู่ ให้แก้ไข (1) ภาษาที่ซับซ้อน เป็นฟอนต์TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. (2) ข้อความละติน เป็นฟอนต์TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. (3) กดปุ่ม [ตั้งเป็นค่าเริ่มต้น] ดังรูปที่ 1.32 2 1
(3) รูปที่ 1.32 แสดงการกำหนดแบบอักษรให้เป็นฟอนต์ TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. จะปรากฏหน้าจอโต้ตอบดำเนินการดังรูปที่ 1.33 คือ (1) เลือกใช้กับเอกสารทั้งหมด (2) กดปุ่ม[ตกลง] รูปที่ 1.33 กำหนดให้เป็นการตั้งค่าเริ่มต้นของเอกสารทั้งหมด (1) ทำให้เมื่อสร้างเอกสร้างใหม่ แบบอักษรเริ่มต้นจะเป็น TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. เสมอโดยไม่ต้องมาปรับแต่งอีกต่อไป 3 2 1 1 2