แผนการจัดการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
วิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอื่ สาร
รหสั วิชา อ2๑๒0๓
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑
ภาคเรยี นท่ี ๒
ปีการศกึ ษา 2563
นางสาวอามยี ะ หนิหมะ
ตาแหน่ง ครู
โรงเรียนคเู ตา่ วทิ ยา
อาเภอหาดใหญ่ จงั หวัดสงขลา
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 1๖
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง Vocabulary in Use
รหสั วิชา อ21203 ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษเพื่อการสอื่ สาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 คะแนน 30 คะแนน เวลา 10 ช่ัวโมง
1. ผลการเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ คาขอร้อง คาแนะนา และคาช้ีแจงท่ฟี งั และอ่านได้
2. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสยี งขอ้ ความไดถ้ ูกต้องตามหลักการอา่ น
3. นักเรียนสามารถใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
4. นกั เรยี นสามารถจดจาคาศัพท์ทใี่ ช้ในชีวิตประจาวันได้
2. สาระสาคญั
หนว่ ยการเรยี นร้นู ้ีมีจุดมุ่งหมายใหน้ ักเรียน สามารถจดจาคาศพั ท์ท่ใี ชใ้ นชีวิตประจาวนั อาทิเชน่ คาศพั ท์
เก่ียวกับฟอ้ งเรียน โรงเรยี น อาหาร กิจกรรมในชีวิตประจาวนั กฬี า อาชพี สี รปู ร่าง และอ่ืน ๆ
3. สาระการเรยี นรู้
- ความรู้
• คาสัง่ คาขอร้อง คาแนะนา และคาชแี้ จงงา่ ย ๆ
• หลักการอา่ นออกเสียง คาศพั ท์ ขอ้ ความ
• คาศพั ท์พ้นื ฐานในชีวติ ประจาวัน
- ทกั ษะ/กระบวนการ
• ทกั ษะการอ่านออกเสยี งคาศัพท์ ขอ้ ความ
- คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
• ใฝ่เรยี นรู้
• มงุ่ มัน่ ในการทางาน
4. สมรรถนะสาคญั
• ความสามารถในการส่อื สาร
• ความสามารถในการคดิ
5. ทักษะในศตวรรษท่ี 21
• 3R
- Reading (อ่านออก)
- Writing (เขยี นได้)
- Arithmetic (มที กั ษะในการคานวณ)
• 8C (ยึดจากตัวชี้วัด)
- Critical Thinking and Problem Solving : มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ
และแก้ไขปัญหาได้
- Creativity and Innovation : คิดอยา่ งสร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม
- Collaboration Teamwork and Leadership : ความรว่ มมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า
- Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่ือสาร และการร้เู ทา่ ทนั ส่ือ
- Cross-cultural Understanding : ความเข้าใจความแตกต่างทางวฒั นธรรม กระบวนการคิดขา้ ม
วัฒนธรรม
- Computing and ICT Literacy : ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และการรู้เทา่ ทันเทคโนโลยี ซึ่งเยาวชนใน
ยคุ ปัจจุบันมคี วามสามารถด้านคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งมากหรือเปน็ Native Digital ส่วนคนรุ่น
เก่าหรอื ผู้สงู อายุเปรยี บเสมือนเป็น Immigrant Digital แต่เราต้องไม่อายที่จะเรียนรู้แม้วา่ จะสูงอายุแล้ว
ก็ตาม
- Career and Learning Skills : ทักษะทางอาชพี และการเรยี นรู้
- Compassion : มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นคุณลักษณะพื้นฐานสาคัญของ
ทกั ษะขัน้ ตน้ ทงั้ หมด และเปน็ คณุ ลักษณะท่ีเดก็ ไทยจาเปน็ ต้องมี
6. การบรู ณาการคุณธรรมอตั ลักษณโ์ รงเรียนคุณธรรม
วนิ ัย สุภาพ ซ่ือสัตย์ จติ อาสา
7. ชิน้ งานภาระงานรวบยอด
• สมุด Pop-up รวบรวมคาศัพท์
8. การประเมนิ ระหวา่ งจัดกจิ กรรม
การวดั ผล สิ่งทปี่ ระเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ าร
ประเมินผล -แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ประเมนิ
1. ดา้ นความรู้ - การทา - ตรวจแบบทดสอบ -แบบทดสอบหลงั เรยี น ผ่านเกณฑร์ ้อย
(K) แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรียน -แบบประเมนิ การให้ ละ 60
2. ดา้ นทกั ษะ/ เรียน - ตรวจแบบ คะแนนช้นิ งาน Pop-up
กระบวนการ - การทา แบบทดสอบหลงั เรียน คาศัพท์ ผา่ นเกณฑร์ ้อย
(P) แบบทดสอบหลัง - ตรวจชน้ิ งาน Pop- ละ 60
เรียน up คาศัพท์ 1.แบบประเมนิ การ
- การทาชนิ้ งาน สนทนา
Pop-up คาศัพท์ 2.แบบประเมินการเขยี น
1.ประเมินการ 1. สงั เกตจากการฟงั 3. แบบประเมนิ การอา่ น
สนทนา บทสนทนา
2.ประเมินการ 2. ประเมนิ โดยใช้
เกณฑ์การประเมินการ
เขยี น เขยี น
3. ประเมนิ การ 3. ประเมินจากการ
อ่าน
การวดั ผล ส่ิงท่ปี ระเมิน วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ าร
ประเมนิ ผล ประเมิน
ตอบคาถามจากบท
อ่าน
3. ดา้ น -ความสามารถใน สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ไดค้ ะแนนใน
สมรรถนะ (C) การส่อื สาร แสดงออกในชัน้ เรียน ของผเู้ รียน ระดบั พอใช้
-ความสามารถใน
4. ด้าน การคดิ
- ใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤติกรรม -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ไดค้ ะแนนใน
คณุ ลกั ษณะ (A) - มุ่งมนั่ ในการ คุณลักษณะอันพงึ
อันพงึ ประสงค์ ระดับพอใช้
ทางาน ประสงค์
9. กิจกรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงที่ 1 (สอบก่อนเรยี น)
ขัน้ ท่ี 1 Warm up
1. ครทู กั ทายนกั เรยี น ดังนี้
Teacher: Hello. How are you today?
ขน้ั ท่ี 2 Presentation
2. ครสู อนนกั เรียนเกย่ี วกบั Classroom Language
3. นักเรียนเล่นเกม Simon says โดยมวี ิธีการเล่น คือ ใหน้ ักเรียนปฏิบัติตามคาสั่งครู ทุกคร้ังท่ีพูด Simon says
กอ่ นออกคาสัง่ และไม่ต้องปฏิบตั ิตามถ้าครสู ่ังโดยไมพ่ ูดคาว่า Simon says ก่อน เช่น ครูสงั่ Simon says stand
up = นักเรยี นยนื ขึน้ ครสู ั่ง stand up (ไมม่ ี Simon says) = นกั เรียนไม่ต้องยืนขน้ึ
5. ครูให้นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน จานวน 30 ขอ้ เวลา 30 นาที
ขน้ั ที่ 3 Wrap up
6. นักเรยี นช่วยกนั บอกคาศัพท์เกย่ี วกับคาสัง่ ต่าง ๆ ในชัน้ เรียน (Classroom Language)
ช่วั โมงที่ 2 (คาศพั ท์ชดุ Classroom Equipment and stationary)
(จุดประสงค์รายคาบ: นักเรียนรู้จักชื่อและสามารถเรียกอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องเรียนและอุปกรณ์การเรียนเป็น
ภาษาองั กฤษได้)
ขน้ั ท่ี 1 Lead-in (นาเข้าส่บู ทเรียน)
1. นกั เรยี นทากิจกรรม What is it? โดยการดูรปู ภาพอุปกรณ์ท่จี ะมีแผ่นปา้ ยมาปดิ บังไว้ และครจู ะเปิดแผ่นป้าย
ทีละช้ิน จนกว่าจะมีนักเรียนตอบถูกว่าคือแผ่นป้ายอะไร โดยมีทั้งหมด 5 รูปภาพดังน้ี Pen Pencil Eraser
Ruler Chair เมื่อจบเกม ครูมอบรางวัลแกน่ กั เรยี นทีท่ าคะแนนไดส้ ูงสุด
2. ถามคาถามนกั เรยี นว่ารูปภาพเหล่าน้ัน คืออปุ กรณป์ ระเภทใด (Classroom Equipment and Stationary)
3. นกั เรยี นบอกคาศัพทท์ ่ีรจู้ กั เกยี่ วกบั Classroom Equipment and Stationary
ขน้ั ที่ 2 Presentation
4. นาเสนอคาศพั ท์ Classroom Equipment and Stationary เพิ่มเติม โดยใชส้ ื่อ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นักเรียนฝึกอ่านคาศพั ท์และสะกดคาศัพท์
6. สุ่มให้นักเรยี นอา่ น โดยใช้ไมไ้ อตมิ ในการหยิบสุม่ ช่ือนักเรียน
ข้นั ที่ 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรียน โดยใช้อุปกรณจ์ ริงทอ่ี ยูใ่ นช้ันเรียน โดยใช้โครงสร้างประโยค ดงั นี้
A: What is this/that?
B: It is a chair.
8. นักเรียนเล่นเกม Matching Words โดยครูเตรียมชุดบัตรรูปภาพและบัตรคา แล้วให้นักเรยี นเล่นจับคู่รูปภาพ
กับคาให้ถูกต้อง นักเรียนคนใดสามารถจับคู่ได้ถูกต้องมากท่ีสุดจะเป็นผู้ชนะ โดยครูเน้นย้าในเร่ืองของความ
ซ่อื สัตย์ตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่นวา่ ห้ามแอบดคู าศัพทใ์ นสมดุ จด (คุณธรรมอตั ลกั ษณ์ ความซื่อสัตย์)
ข้ันที่ 4 Production
9. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ คาศัพทท์ ่ไี ด้จากกจิ กรรมทผ่ี ่านมา
ชวั่ โมงที่ 3 (คาศัพท์ชดุ Rooms in School)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นักเรียนรู้จักช่ือและสามารถเรียกชื่อสถานทต่ี า่ ง ๆ ในโรงเรียนเป็นภาษาองั กฤษได)้
ขน้ั ที่ 1 Lead-in (นาเขา้ สบู่ ทเรยี น)
1. นักเรียนทากิจกรรม Where is it? ครูจะมกี จิ กรรม Riddle ให้นกั เรยี นเล่นเพ่ือทายช่ือสถานท่ี
เชน่ 1. A place that every student wants to go.
2. A place that you can go at noon.
3. A place that you can have lunch.
Teacher: Where is it?
Students: It’s canteen.
2. ครูเฉลยรูปภาพสถานท่ี (เล่นกิจกรรมประมาณ 3 ขอ้ ) และครูถามคาถามนกั เรียนวา่ สถานท่เี หล่านี้ อยู่ท่ีไหน
3. นักเรยี นบอกคาศัพทท์ ่ีรจู้ กั เกีย่ วกบั Rooms in School
ขั้นที่ 2 Presentation
4. นาเสนอคาศพั ท์ Rooms in School เพ่มิ เติม โดยใช้สือ่ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นักเรยี นฝกึ อ่านคาศพั ทแ์ ละสะกดคาศัพท์
6. สุ่มใหน้ กั เรยี นอ่าน โดยใช้ไมไ้ อตมิ ในการหยิบสุม่ ช่อื นกั เรยี น
ขน้ั ที่ 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรยี น โดยใช้โครงสร้างประโยค ดังน้ี
A: Where is this?
B: This is __________
8. นักเรียนเลน่ เกม Matching Words โดยครเู ตรียมชุดบัตรรูปภาพและบัตรคา แล้วให้นักเรียนเล่นจับคู่รูปภาพ
กับคาให้ถูกต้อง นักเรียนคนใดสามารถจับคู่ได้ถูกต้องมากท่ีสุดจะเป็นผู้ชนะ โดยครูเน้นย้าในเร่ืองของความ
ซ่อื สัตยต์ อ่ ตนเองและผอู้ ่ืนว่าห้ามแอบดคู าศัพท์ในสมุดจด (คณุ ธรรมอัตลักษณ์ ความซือ่ สตั ย์)
ข้ันที่ 4 Production
9. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ คาศพั ทท์ ี่ไดจ้ ากกจิ กรรมที่ผ่านมา
ชว่ั โมงท่ี 4 (คาศัพทช์ ดุ Verbs in Daily Life)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นักเรยี นรจู้ กั คากริยาทีใ่ ช้ชีวิตประจาวนั ได้)
ข้นั ท่ี 1 Lead-in (นาเข้าสบู่ ทเรยี น)
1. นักเรียนทากิจกรรม What am I drawing? โดยครูจะวาดรูปภาพคนกาลังแสดงกิริยาต่าง ๆ เช่น กิน นอน
เดนิ ว่ิง เปน็ ตน้ และใหน้ ักเรียนบอกว่าคนกาลังทาอะไร
2. ครูชแ้ี จงจดุ ประสงคข์ องคาศัพท์ในคาบน้ี
3. นักเรยี นบอกคาศัพทท์ ี่ร้จู กั เก่ยี วกับ Verbs in Daily Life
ขน้ั ท่ี 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ Verbs in Daily Life เพ่มิ เตมิ โดยใช้สอ่ื PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นกั เรียนฝกึ อ่านคาศพั ท์และสะกดคาศัพท์
6. สุ่มใหน้ ักเรยี นอา่ นพรอ้ มทาท่างประกอบ โดยใช้ไมไ้ อติมในการหยิบสมุ่ ช่ือนกั เรยี น
ขน้ั ท่ี 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรยี นจากรปู โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ดังน้ี
A: What is she/he doing?
B: This is __________
8. นักเรียนเล่นเกม Draw and Answer โดยครูเตรียมชุดอุปกรณ์สาหรับวาดภาพใบ้ท่างทาง แล้วให้นักเรียน
แบ่ง ๆ ละ 8 คน ใหน้ ักเรยี นสลบั กันออกมาวาดรูปแล้วใหเ้ พ่ือทาย ถา้ ทายถกู ได้ 2 คะแนน หา้ มแอบดูคาศัพทใ์ น
สมดุ จด (คณุ ธรรมอตั ลักษณ์ ความซ่ือสตั ย์)
ขน้ั ที่ 4 Production
9. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปคาศัพท์ทไี่ ด้จากกิจกรรมท่ีผา่ นมา
ชว่ั โมงที่ 5 (คาศพั ทช์ ดุ Food, Drinks, Fruits and Vegetables)
(จุดประสงค์รายคาบ: นักเรียนรู้จักคาศัพท์เก่ียวกับอาหาร เครื่องด่ืม ผักและผลไม้ และสามารถเรียกชื่ออาหาร
เครื่องดื่ม ผักและผลไม้เป็นภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง)
ข้ันท่ี 1 Lead-in (นาเข้าสบู่ ทเรียน)
1. นักเรียนทากิจกรรม Do you like to eat……? โดยครูจะมีรูปภาพอาหาร เคร่ืองดื่ม ผักและไม้มาให้ และ
ถามคาถามนักเรยี น
2. ถามคาถามนักเรยี นวา่ สง่ิ เหลา่ น้ีเรียกว่าอะไร
3. นกั เรียนบอกคาศพั ทท์ ่ีรูจ้ กั เกี่ยวกับ Food, Drinks, Fruits and Vegetables
ข้นั ที่ 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ Food, Drinks, Fruits and Vegetables เพิ่มเติม โดยใช้ส่ือ PowerPoint ในการ
นาเสนอ
5. นกั เรียนฝกึ อา่ นคาศพั ท์และสะกดคาศัพท์
6. สุ่มให้นักเรียนอา่ นและสะกดคา โดยใชไ้ ม้ไอติมในการหยิบสุ่มชื่อนกั เรยี น
ขั้นท่ี 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรียน โดยใช้โครงสรา้ งประโยค ดงั นี้
A: Do you like to eat……?
B: Yes, I do. / No, I don’t.
8. นักเรียนเล่นเกม “Magic Bag” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม และครูเตรียมถุงผ้า 1 ใบ พร้อมสื่อชุด
บัตรรูปภาพ Food, Drinks, Fruits and Vegetables แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนมาหยิบบัตรรูปภาพ
ภายในถุง เม่ือหยิบขึ้นมาได้แล้ว ให้บอกชื่อสิ่งที่หยิบข้ึนมา ถ้าตอบถูกให้เก็บบัตรนั้นไว้ แต่ถ้าตอบผิดให้คืนบัตร
ลงไปในถุง โดยเพอื่ นทอี่ ยขู่ ้างใน หา้ มบอกเพอื่ นทีอ่ อกมา (คณุ ธรรมอัตลักษณ์ ความซอื่ สัตย)์
ข้ันที่ 4 Production
9. นักเรยี นร่วมกนั สรุปคาศัพทท์ ไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมทีผ่ ่านมา
ชัว่ โมงที่ 6 (คาศัพท์ชดุ Sports)
(จุดประสงค์รายคาบ: นกั เรยี นรจู้ กั ช่อื กฬี าชนดิ ตา่ ง ๆ และสามารถเขียนช่ือกฬี าเป็นภาษาองั กฤษได)้
ขั้นท่ี 1 Lead-in (นาเข้าสบู่ ทเรยี น)
1. ขอนกั เรียนจิตอาสา 6 คน ออกมาทากจิ กรรมหน้าชน้ั เรยี น (คุณธรรมอัตลักษณ์ จติ อาสา)
ให้นกั เรยี น 3 คน ถือบตั รคา และนักเรียนอกี 3 คน ถือรปู ภาพ
2. ให้นักเรียนท่ีน่ังอยู่ จับคู่คากับรูปภาพที่เพื่อนถือ เม่ือตอบถูกหมด ถามคาถามนักเรียนว่ารูปภาพเหล่าน้ีคือ
อะไร
3. นกั เรียนบอกคาศพั ท์ท่ีรจู้ ักเกย่ี วกบั sports
ขั้นที่ 2 Presentation
4. นาเสนอคาศพั ท์ sports เพม่ิ เติม โดยใช้สื่อ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นักเรียนฝกึ อา่ นคาศัพท์และสะกดคาศัพท์
6. ส่มุ ให้นักเรียนอ่านและสะกดคา โดยใชไ้ ม้ไอติมในการหยิบสุ่มช่อื นักเรียน
ขัน้ ท่ี 3 Practice
7. ถามคาถามนักเรียน โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค ดงั น้ี
A: Do you like to play………………?
B: Yes, I do. / No, I don’t.
8. นักเรียนเล่นเกม “Pictionary” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมา
วาดภาพบนกระดาน โดยดจู ากบัตรคาท่ีครูเปิดให้ดู แล้วให้เพ่ือนท่ีอยูข่ ้างในตอบว่าคือรูปภาพกีฬาชนิดใด ทีมใด
ตอบได้มากท่สี ดุ เป็นผ้ชู นะ
ข้นั ที่ 4 Production
9. นักเรียนร่วมกนั สรุปคาศพั ทท์ ไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมทผ่ี า่ นมา
ชั่วโมงที่ 7 (คาศัพท์ชดุ Subjects)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นักเรียนรจู้ ักชือ่ วิชาต่าง ๆ และสามารถเขยี นชื่อวิชาเปน็ ภาษาอังกฤษได้)
ขั้นที่ 1 Lead-in (นาเขา้ สบู่ ทเรียน)
1. ให้นักเรยี นดูรปู ภาพคุณครูในโรงเรยี น แลว้ ถามคาถามนกั เรียนว่า What subject does he/she teach?
2. เม่อื นกั เรียนตอบครบทกุ ภาพแล้ว ชีแ้ จงนกั เรยี นว่าวันนจ้ี ะเรียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั Subjects
3. นักเรยี นบอกคาศัพทท์ ี่ร้จู ักเก่ยี วกับ Subjects
ขั้นท่ี 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ Subjects เพ่มิ เตมิ โดยใชส้ อื่ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นกั เรยี นฝกึ อ่านคาศัพทแ์ ละสะกดคาศัพท์
6. สมุ่ ให้นกั เรียนอ่านและสะกดคา โดยใช้ไม้ไอติมในการหยบิ สุ่มชอ่ื นกั เรียน
ขั้นที่ 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรยี น โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค ดังน้ี
A: What subject does teacher ___________teach?
B: Teacher ____________teaches ______________
8. นักเรียนเล่นเกม “Pictionary” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมา
วาดภาพบนกระดาน โดยดูจากบัตรคาที่ครูเปิดให้ดู แล้วให้เพ่ือนท่ีอยู่ข้างในตอบว่าคือรูปภาพวิชาอะไร ทีมใด
ตอบได้มากทสี่ ดุ เปน็ ผู้ชนะ
ขน้ั ที่ 4 Production
9. นกั เรียนร่วมกันสรปุ คาศพั ทท์ ่ีได้จากกิจกรรมท่ผี า่ นมา
ชว่ั โมงที่ 8 (คาศัพทช์ ุด Jobs / Occupations)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นักเรียนร้จู กั ชื่ออาชีพต่าง ๆ และสามารถเขยี นชอ่ื อาชีพเป็นภาษาองั กฤษได้)
ขั้นที่ 1 Lead-in (นาเข้าสู่บทเรยี น)
1. ใหน้ กั เรียนดูรูปภาพอาชีพ แล้วถามคาถามนกั เรยี นวา่ What does he/she do?
2. เมอ่ื นกั เรยี นตอบครบทุกภาพแลว้ ชีแ้ จงนกั เรยี นวา่ วันนีจ้ ะเรียนคาศัพทเ์ ก่ียวกบั Jobs / Occupations
3. นกั เรียนบอกคาศัพทท์ ่รี ูจ้ กั เกีย่ วกบั Jobs / Occupations
ขน้ั ที่ 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ Jobs / Occupations เพิ่มเตมิ โดยใชส้ ่ือ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นกั เรียนฝึกอา่ นคาศัพท์และสะกดคาศัพท์
6. สุ่มให้นกั เรียนอา่ นและสะกดคา โดยใช้ไม้ไอติมในการหยิบสมุ่ ช่ือนกั เรียน
ขนั้ ท่ี 3 Practice
7. ถามคาถามนกั เรยี น โดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยค ดังนี้
A: What does he/she do?
B: He/she is _____________
8. นักเรียนเล่นเกม “Pictionary” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมา
วาดภาพบนกระดาน โดยดูจากบัตรคาท่ีครูเปิดให้ดู แล้วให้เพ่ือนท่ีอยู่ข้างในตอบว่าคือรูปภาพอาชีพอะไร ทีมใด
ตอบได้มากทสี่ ุด เปน็ ผ้ชู นะ
ขนั้ ท่ี 4 Production
9. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ คาศพั ท์ทไี่ ด้จากกิจกรรมทผ่ี า่ นมา
ชั่วโมงท่ี 9 (คาศพั ทช์ ุด Colors and Shapes)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นักเรยี นรู้จักชอ่ื สีและรูปรา่ ง และสามารถเขียนสีและรปู ร่างเป็นภาษาอังกฤษได้)
ขน้ั ที่ 1 Lead-in (นาเข้าสบู่ ทเรยี น)
1. ใหน้ ักเรียนดูรูปภาพรปู ร่างสีเ่ หลีย่ มที่มสี ีตา่ ง ๆ แลว้ ครูถามคาถามนกั เรียนวา่ What color is the square?
2. เมอื่ นักเรยี นตอบครบทุกภาพแลว้ ชแี้ จงนกั เรียนว่าวันนจ้ี ะเรียนคาศัพท์เก่ียวกับ Colors and Shapes
3. นกั เรียนบอกคาศพั ท์ทรี่ ้จู กั เก่ยี วกับ Colors and Shapes
ขั้นท่ี 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ Colors and Shapes เพม่ิ เตมิ โดยใชส้ ื่อ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นกั เรยี นฝกึ อา่ นคาศพั ท์และสะกดคาศัพท์
6. สมุ่ ให้นักเรยี นอา่ นและสะกดคา โดยใชไ้ มไ้ อตมิ ในการหยิบสมุ่ ชือ่ นักเรียน
ขั้นท่ี 3 Practice
7. ถามคาถามนักเรียน โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั นี้
A: What is this shape?
B: It is a rectangle.
A: What color is this rectangle?
B: It is a blue rectangle.
8. นักเรียนเล่นเกม “Memory” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาดู
คาศัพท์ท่ีครู แล้วเอาไปบอกต่อเพ่ือน ๆ จนถึงคนสุดท้าย ให้คนสุดท้ายวาดออกมาเป็นรูปพร้อมระบายสี พร้อม
บอกเป็นภาษาองั กฤษว่าคอื อะไร ถ้าวาดถูกต้อง ก็ไดค้ ะแนน 2 คะแนน เลน่ จนได้รับผู้ชนะ
ขั้นที่ 4 Production
9. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ คาศพั ทท์ ี่ได้จากกจิ กรรมทีผ่ า่ นมา
ช่ัวโมงท่ี 10 (คาศัพทช์ ุด House and Rooms)
(จุดประสงค์รายคาบ: นักเรียนรู้จักชื่อห้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้าน แ และสามารถเขียนช่ือห้องและอุปกรณ์
ตา่ ง ๆ เป็นภาษาองั กฤษได้)
ขั้นที่ 1 Lead-in (นาเข้าส่บู ทเรียน)
1. ให้นกั เรยี นดูรปู ภาพห้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วถามคาถามนักเรียนวา่ What is it?
2. เม่อื นักเรยี นตอบครบทุกภาพแลว้ ช้แี จงนกั เรียนวา่ วันนีจ้ ะเรยี นคาศัพท์เก่ยี วกบั House and Rooms
3. นักเรียนบอกคาศพั ท์ทร่ี ้จู กั เก่ยี วกบั House and Rooms
ขน้ั ท่ี 2 Presentation
4. นาเสนอคาศัพท์ House and Rooms เพิม่ เตมิ โดยใชส้ อื่ PowerPoint ในการนาเสนอ
5. นักเรยี นฝึกอ่านคาศพั ท์และสะกดคาศัพท์
6. สุ่มให้นักเรียนอ่านและสะกดคา โดยใช้ไมไ้ อตมิ ในการหยบิ ส่มุ ชื่อนักเรยี น
ขนั้ ที่ 3 Practice
7. ถามคาถามนักเรยี น โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั นี้
A: What is this?
B: It’s is _____________
8. นักเรียนเล่นเกม “Pictionary” โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมา
วาดภาพบนกระดาน โดยดูจากบัตรคาที่ครเู ปิดให้ดู แล้วให้เพ่อื นที่อยู่ขา้ งในตอบว่าคือรูปภาพอะไร ทมี ใดตอบได้
มากที่สุด เปน็ ผ้ชู นะ
ขนั้ ที่ 4 Production
9. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น
12. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
12.1 สือ่ การเรียนรู้
1. Flash Cards คาศัพทต์ า่ ง ๆ
2. Power Point นาเสนอคาศัพท์
12.2 แหลง่ การเรียนรู้
-
ลงชอ่ื .................................................. (ครูผสู้ อน)
(นางสาวอามียะ หนหิ มะ)
1 ธันวาคม พ.ศ.2563
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง My Personal Information
รหัสวิชา อ21203 ช่ือวชิ า ภาษาอังกฤษเพื่อการสอ่ื สาร กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 คะแนน 30 คะแนน เวลา 10 ช่ัวโมง
1. ผลการเรียนรู้
1. นักเรยี นสามารถปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจงท่ีฟังและอ่านได้
2. นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสียงขอ้ ความได้ถูกต้องตามหลักการอา่ น
3. นักเรยี นสามารถใชภ้ าษา นา้ เสียง และกริ ยิ าท่าทางสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
4. นกั เรียนสามารถสนทนาแนะนาเพื่อให้ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเองได้
2. สาระสาคัญ
การพูดสนทนาแนะนาเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง โดยใช้ คาศัพท์ สานวน และโครงสร้างภาษาท่ี
ถกู ต้องและเหมาะสมกับบุคคลและสอดคล้องกับสถานการณ์เป็นการฝึกทักษะการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารใน
ชีวติ ประจาวันท่ีจาเป็นเพื่อสร้างและเช่อื มโยงความสัมพันธ์ทีด่ ีระหว่างบุคคล
3. สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
- ความรู้ (Knowledge)
Vocabulary
introduce (v.) close friend (n.) best friend (n.) school (n.)
canteen (n.) favorite (adj.) get up (phr.)
wake up (phr.) have to (v.)
Greetings and Expressions:
Hello. Hi.
Fine./ I’m fine./ I’m OK.
Not bad. See you then/later. Nice to meet you. How do you do?
How’s it going? How wonderful!
Pronunciation
Hi. Hello.
My name is / My name’s / I’m / You’re / They’re
Function
Greeting and Introducing people, Saying Goodbye, Talking about oneself and others.
Grammar
Present simple tense
Verb: be (is, am, are)
Possessive adjectives: her, his, your, my, their, our
My name is…..….
My name / address / telephone number is…..….
Where are you from?
I am or I’m from………………
Questions word; When, What, How old
When do you have breakfast? I have breakfast in the morning.
What day is today? It’s Sunday. (It’s = it + is)
When is your birthday? It’s in June. / It’s (on) June 10th.
How old are you/they? I’m fifteen. / They’re sixth months old.
ทักษะ/กระบวนการ
1. ทักษะการฟัง การพูด การอา่ น การเขยี น
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
5. ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
Reading (อ่านออก) Writing (เขยี นได)้ Arithmetic (มีทกั ษะในการคานวณ)
8C
Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
และแก้ไขปัญหาได้
Creativity and Innovation: คิดอยา่ งสรา้ งสรรค์ คดิ เชงิ นวตั กรรม
Collaboration Teamwork and Leadership: ความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา
Communication Information and Media Literacy: ทักษะในการสื่อสาร และการร้เู ท่าทันส่ือ
Cross-cultural Understanding: ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคดิ ข้าม
วัฒนธรรม
Computing and ICT Literacy: ทกั ษะการใช้คอมพวิ เตอร์และการรเู้ ทา่ ทนั เทคโนโลยี ซ่งึ เยาวชนใน
ยุคปจั จบุ นั มคี วามสามารถด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอยา่ งมากหรือเป็น Native Digital ส่วนคนรุ่น
เกา่ หรือผ้สู ูงอายเุ ปรียบเสมือนเปน็ Immigrant Digital แต่เราต้องไม่อายท่จี ะเรยี นรู้แม้วา่ จะสูงอายุแล้วก็
ตาม
Career and Learning Skills: ทกั ษะทางอาชพี และการเรยี นรู้
Compassion: มีคุณธรรม มีเมตตา กรณุ า มรี ะเบียบวินัย ซึ่งเปน็ คณุ ลักษณะพืน้ ฐานสาคัญของ
ทักษะขัน้ ต้นทง้ั หมด และเปน็ คณุ ลักษณะทเ่ี ด็กไทยจาเป็นต้องมี
6. โรงเรียนคณุ ธรรม
วินัย สุภาพ ซ่ือสตั ย์ จิตอาสา
7. ช้ินงาน/ภาระงาน
- จดั ทาสมุดแนะนาตนเองและสมาชกิ ในครอบครัว
8. การประเมินระหว่างจดั กิจกรรม วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน
การวัดผล สิ่งทีป่ ระเมนิ
ประเมินผล
1. ด้านความรู้ -ประเมินคะแนนการทา -ตรวจใบงาน -เกณฑ์การตรวจใบ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
(K) ใบงาน งาน
-ชน้ิ งานสมุดแนะนา -ตรวจชิ้นงานสมุด -แบบประเมนิ การให้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
ตนเองและครอบครวั แนะนาตนเองและ คะแนนชิน้ งานสมุด
ครอบครวั แนะนาตนเองและ
ครอบครัว
2. ด้านทกั ษะ/ - การพดู สนทนา สงั เกตจากการแสดง แบบบนั ทกึ การ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60
กระบวนการ แลกเปล่ยี นข้อมลู บทบาทสมมติ ประเมนิ การพูด
(P)
3. ดา้ น -ความสามารถในการ สังเกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ ไดค้ ะแนนในระดบั
สมรรถนะ (C) ส่ือสาร แสดงออกในชั้นเรยี น สมรรถนะของผ้เู รียน พอใช้
-ความสามารถในการคดิ
4. ดา้ น - ใฝ่เรียนรู้ สังเกตพฤติกรรม -แบบประเมนิ ไดค้ ะแนนในระดับ
คุณลักษณะ (A) คณุ ลกั ษณะอนั พึง คุณลกั ษณะอันพงึ พอใช้
- มุ่งมั่นในการทางาน ประสงค์ ประสงค์
9. กิจกรรมการเรียนรู้
เทคนิคการสอน การสอนคาศัพท์ และโครงสรา้ งทางไวยกรณใ์ ช้ขน้ั ตอนการสอนภาษาแบบ PPP (Warm
up/Presentation/ Practice/Production)
(ชวั่ โมงท่ี ๑)
(จดุ ประสงคร์ ายคาบ: นกั เรยี นรู้คาศพั ท์ สานวน เก่ยี วกับการกล่าวทักทาย และสามารถกลา่ วทักทายได้ )
ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน (Warm up)
1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียน
Teacher: Hello. How are you?
2. นักเรียนจบั กลุ่มโดยใช้การหยิบไม้ไอตมิ โดยครูจะใชภ้ าษาองั กฤษ (Target Language) ในการสื่อสารกบั
นกั เรียน
Teacher: I will divide you into ๖ groups. You have to pick the ice-cream stick. If you got the
same color, you will be in the same group.
๓. เมอ่ื นกั เรยี นนง่ั เปน็ กลมุ่ ตามที่แบง่ แลว้ ครเู ปิดวดี โี อเพลง Greeting Song ใหน้ กั เรยี นฟงั 2 ครง้ั (ท่ีมาของเพลง
https://mapleleaflearning.com/songs/sing-and-learn-orange/the-greetings-song/)
๔. นักเรยี นรว่ มร้องเพลง Greeting Song พร้อมคิดทา่ ทางประกอบเพลง
ขน้ั นาเสนอเนอ้ื หา (Presentation)
๕. ครูต้ังคาถามนักเรยี นเกย่ี วกบั วีดีโอเพลง Greeting Song วา่ มีการทักทายกลา่ วสวัสดใี นเวลาใดบา้ ง มีการบอก
ลา ถามไถ่สารทุกขส์ ุกดบิ หรือไม่ และให้นักเรียนบอกคาศัพทท์ ไ่ี ดย้ นิ จากเพลง
๖. นักเรยี นดวู ดี โี อ Good morning. How are you? (ทม่ี า https://youtu.be/AA5hOCxlRaI)
๗. นกั เรยี นช่วยสรปุ เก่ียวกับวดี ีโอทไี่ ด้ดูว่า การกลา่ วทักมาย ถามทุกขส์ ขุ แนะนาตวั กล่าวลา ต้องกลา่ วว่าอยา่ งไร
๘. ครูเปิด PowerPoint อธบิ ายสานวนท่ีใชใ้ นการทักทาย (Greeting) โดยมีการสอดแทรกคณุ ธรรมอตั ลักษณ์ใน
เรือ่ งของความสุภาพ (Politeness) ซึ่งเป็นสง่ิ ที่เจ้าของภาษาไดใ้ ห้ความสาคัญเป็นอย่างยิง่
ข้ันฝึก (Practice)
๙. นกั เรยี นฝึกพูดบทสนทนาตามครู ๒ คร้งั
Student A: Hi, B.
Student B: Hi, A.
Student A: How’s it going?
Student B: Fine, Thanks. And you?
Student A: I’m OK. Thanks.
๑๐. นกั เรียนฝึกพดู โตต้ อบกับครู 2 ครง้ั
๑๑. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสลับกนั ถามตอบระหว่างกลุม่
๑๒. ใหน้ ักเรยี นจับคูเ่ พื่อฝกึ บทสนทนาถามตอบ
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
๑๓. นกั เรียนอาสาสมคั ร 5 คู่ (เกิดคุณธรรมอัตลักษณ์ ด้านจติ อาสา) ออกมาแสดงบทบาทสมมติพูดหน้าช้ันเรยี น
ตามสถานการณ์ท่ีครกู าหนดให้ เช่น สถานการณ์เจอกนั คร้ังแรกท่ีโรงเรียนเรยี น สถานการณ์เจอกันที่
หา้ งสรรพสนิ คา้ ในตอนเย็น เป็นตน้
ขั้นสรปุ (Wrap up)
๑๔. นกั เรียนร่วมกันสรุปคาศัพท์ และประโยคที่ได้ในคาบนี้
(ชว่ั โมงที่ ๒)
(จุดประสงคร์ ายคาบ: นกั เรยี นรคู้ าศพั ท์ สานวน เกยี่ วกบั การกลา่ วแนะนาตนเอง และสามารถแนะนาตนเองได้ )
ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรยี น (Warm up)
1. ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน โดยใช้ความรเู้ ดมิ จากคาบทแี่ ล้ว
Teacher: Good Morning. How are you?
2. นกั เรียนฟงั เพลง What’s your name? (ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=zMdq9jSaNLg)
และร้องตาม
ขั้นนาเสนอเนือ้ หา (Presentation)
๓. ครพู ูดแนะนาตนเอง “My name is Amiyah.” จานวน ๒ คร้ัง หลงั จากนัน้ ถามคาถามนักเรยี น “What is
your name?”
4. นกั เรียนตอบคาถามครวู ่า “My name is _______________” (สุม่ ถามคาถามนักเรียน)
5. ครพู ูดแนะนานามสกลุ ตนเอง “My surname is Nima.”
6. ถามคาถามนักเรียนว่า “What is your surname?” และใหน้ ักเรียนถามคาถามกับครู
7. นกั เรยี นตอบคาถาม “What is your surname?” (สมุ่ ถามคาถามนักเรียน)
8. ครุแนะนาชอ่ื เล่น “My nickname is Mah.” และถามคาถามนักเรียน “What is your nickname?”
9. นักเรียนตอบคาถาม “What is your nickname?” (สมุ่ ถามคาถามนกั เรยี น)
ขั้นฝกึ (Practice)
๑0. นักเรยี นถามคาถามโดยให้ครเู ป็นผตู้ อบ และถามสลบั กันไปมา
“What is your name?”
“What is your surname?”
“What is your nickname?”
๑1. นักเรยี นอาสาสมคั ร (Volunteer) จานวน 6 คน ออกมาสาธติ การถามตอบ
๑2. นกั เรยี นจับคแู่ ละฝกึ สนทนา
ข้ันนาไปใช้ (Production)
๑3. สมมติสถานการณจ์ าลองการเปดิ เรียนวันแรก และทกุ คนยงั ไม่รู้จักกัน ให้นักเรียนซักถามขอ้ มูลเบ้ืองต้นของ
เพื่อน ๆ
ข้ันสรุป (Wrap up)
๑4. นกั เรียนทาบตั รแนะนาตนเอง
(ช่ัวโมงท่ี 3)
(จุดประสงคร์ ายคาบ: นกั เรียนร้คู าศพั ท์ สานวน เกีย่ วกบั การกลา่ วทกั ทาย สอบถามสารทุกขส์ ุกดิบพน้ื ฐาน และ
สามารถกลา่ วทักทายข้นั พื้นฐานได้)
ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น (Warm up)
1. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นักเรยี นจับกล่มุ โดยใชก้ ารหยบิ ไมไ้ อติม โดยครูจะใชภ้ าษาอังกฤษ (Target Language) ในการสอ่ื สารกบั
นักเรียน
Teacher: I will divide you into ๓ groups. You have to pick the ice-cream stick. If you got the
same color, you will be in the same group.
๓. นกั เรยี นฟงั บทสนาการแนะนาผอู้ ่นื (https://www.youtube.com/watch?v=eedQT12sj_8)
ขัน้ นาเสนอเนอ้ื หา (Presentation)
๔. หลงั จากนักเรียนฟงั บทสนทนา ครถู ามคาถามนกั เรยี นว่าบทสนานั้นเกี่ยวกบั อะไร เกิดขึ้นในสถานการณ์ไหน
๕. นกั เรยี นออกเสียงบทสนทนาตามครู
Anna: Good morning Grace?
Grace: Good morning Anna. How are you today?
Anna: I’m great. Thanks. How are you doing?
Grace: I’m doing fine. Thanks. Anna, this is Petro. Petro, this is Anna.
Anna: Sorry, what’s your name again please?
Petro: My name’s Petro.
Anna: Ahh, Please to meet you, Petro.
Petro: Please to meet you too, Anna.
ขน้ั ฝกึ (Practice)
๖. ให้นกั เรยี นฝกึ พดู สนทนา ๒ ครง้ั โดยกล่มุ ที่ 1 เปน็ Grace กลุ่มที่ 2 เป็น Anna กลุม่ ที่ 3 เปน็ Petro
๗. นักเรยี นจับกล่มุ สามคน และฝึกพูดตามบทสนทนา
ข้นั นาไปใช้ (Production)
๘. ให้นักเรียนจบั กลมุ่ สามคนเพ่อื สนทนาตามสถานการณ์จาลองการแนะนาผู้อ่นื
ขัน้ สรปุ (Wrap up)
๙. นักเรียนร่วมกันสรปุ บทเรยี นท่ีได้ และทบทวนประโยคในการพูดแนะนาผู้อื่น
(ชั่วโมงท่ี 4)
(จดุ ประสงคร์ ายคาบ: นกั เรยี นรู้จกั Subject Pronoun และสามารถใช้ได้อย่างถูกตอ้ ง)
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up)
1. ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นักเรียนดูภาพบุคคลที่มชี อื่ เสียง แลว้ ตอบคาถาม “What is her/his name?”
๓. ครูเฉลยคาตอบว่า “His name is Messi.” “Her name is Lisa.”
ขน้ั นาเสนอเนือ้ หา (Presentation)
๔. ครูพูดประโยคแนะนาตนเอง My name is Amiyah. และครชู ีไ้ ปทรี่ ปู ภาพบคุ คลทมี่ ีชอื่ เสยี ง “Her name is
Lisa. She is a singer.” “His name is Messi. He is a football player.”
๕. ถามคาถามนกั เรยี นถึงความแตกตา่ งของประโยคแนะนาทค่ี รไู ด้พดู ไป
๖. อธิบายนักเรยี นเพม่ิ เติมเร่ือง Subject Pronoun และ Possessive Adjective
ขั้นฝึก (Practice)
7. นกั เรยี นดภู าพของบุคคลต่าง ๆ และตอบคาถามวา่ “What is her/his name?”
8. ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่ และมารับรูปภาพบุคคลต่าง ๆ ทคี่ รเู ตรียมไว้ แล้วใหน้ ักเรียนสลับกนั ฝึกถาม-ตอบแนะนา
บุคคลในภาพ
ขั้นนาไปใช้ (Production)
9. ใหน้ ักเรยี นจับคสู่ นทนาแนะนาบุคคลอืน่ โดยใช้ Possessive Adjective นาเสนอหน้าชั้นเรียน
ขน้ั สรปุ (Wrap up)
๑๐. นกั เรียนทาใบงานท่ี 1 (Exercise 1)
(ชวั่ โมงที่ 5)
(จุดประสงค์รายคาบ: นักเรยี นรูค้ าศพั ท์ สานวน เกี่ยวกับการกลา่ วสอบถามอายุ และสามารถสอบถามอายไุ ด้)
ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up)
1. ครูกล่าวทกั ทายนักเรียน
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นักเรียนดูวีดโี อเพลง How old are you? (https://www.youtube.com/watch?v=-2to7NkYMPk)
๓. ครทู บทวนตัวเลข โดยให้นกั เรยี นช่วยกันตอบตวั เลขท่ถี ูกตอ้ งในเกมจบั คู่
(https://www.learningchocolate.com/content/numbers-teen-ty)
ขนั้ นาเสนอเนือ้ หา (Presentation)
๔. ครอู ธิบายเกีย่ วกับการถามอายุของบุคคลอื่น โดยใชป้ ระโยค
A: How old are you? B: I am twenty-seven years old.
A: How old is she? B: She is thirteen years old.
A: How old is he? B: He is thirteen years old.
๕. สุ่มถามอายุนักเรียน 5-6 คน
ขน้ั ฝกึ (Practice)
๖. ครูนารปู ภาพบคุ คลพร้อมตวั เลขบอกอายุมา ๕ รปู ใหน้ ักเรยี นฝกึ ถาม-ตอบ โดยให้นักเรียนจบั คกู่ ันฝึกใหค้ รบ
ทกุ รูป (เกิดคุณธรรมอัตลกั ษณ์ “ความซื่อสตั ย์ต่อตนเองและผ้อู ่ืน” เพราะครไู ม่สามารถเช็คไดค้ รบทกุ คน ให้
นักเรียนสร้างคณุ ธรรมใหเ้ กิดข้ึนด้วยตนเอง)
ขั้นนาไปใช้ (Production)
9. ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรม Mingle ถามอายุเพ่ือนตามใบงานท่ี 2
ขน้ั สรปุ (Wrap up)
๑๐. นักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรียนเก่ยี วกับการถามอายุเป็นภาษาอังกฤษ
(ชว่ั โมงที่ ๖)
(จดุ ประสงคร์ ายคาบ: นกั เรียนรู้คาศัพท์ สานวน เกยี่ วกบั การบอกวนั เกิดและสามารถบอกวนั เกดิ ได้)
ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นกั เรยี นดูวีดโี อเพลง Days of the Week (https://www.youtube.com/watch?v=LIQsyHoLudQ) และ
เพลง Months of the Year (https://www.youtube.com/watch?v=lPeAo1hz8GA)
๓. ครูทบทวนเรอื่ งวนั และเดือน
ข้ันนาเสนอเนอื้ หา (Presentation)
๔. ครแู สดงบตั รคา “Sunday” และพูดว่า “My birthday is on Sunday.” และให้นกั เรยี นพูดตาม
๕. ครูถามคาถามนักเรยี น “When is your birthday?” และโชวบ์ ัตรคาวันตา่ ง ๆ ทง้ั เจ็ดวนั ให้นักเรียนตอบ
๖. ครูถามนกั เรยี น 4-5 คน โดยใช้คาถามเดมิ
๗. ครพู ดู คาวา่ “My birthday is in July.” และให้นกั เรยี นพูดตาม ๒ ครั้ง
๘. ครูถามคาถามนักเรียน “When is your birthday?” และใหน้ ักเรยี นตอบตามบตั รคาท่คี รชู ีจ้ นครบ 12 เดอื น
๙. ครพู ดู ประโยค “My birthday is on fourth, July” และใหน้ กั เรยี นฝึกพูดตาม
ข้ันฝกึ (Practice)
๑๐. ครชู ท้ี ีเ่ ดือนมกราคมและวนั อาทิตย์ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชายถามคาถาม และใหน้ ักเรยี นหญิงตอบคาถาม และถาม
สลบั กนั ไปเรื่อย ๆ จนครบ 12 เดอื น และ ๗ วัน
๑๑. นักเรยี นฝกึ พดู ประโยคการตอบคาถามวนั เกิดทีป่ ระกอบดว้ ยวันท่ี เดอื น เชน่ 5 มกราคม, ๑๐ กุมภาพนั ธ์
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
9. ให้นกั เรยี นทากจิ กรรม Mingle ถามวนั เกดิ ของเพื่อนรว่ มช้นั
ข้นั สรปุ (Wrap up)
๑๐. นักเรยี นรว่ มกันสรุปบทเรยี นเกยี่ วกบั การบอกวันเกดิ
(ชั่วโมงท่ี ๗)
(จดุ ประสงคร์ ายคาบ: นักเรียนรคู้ าศัพท์ สานวน เกย่ี วกบั การบอกเวลา และสามรถบอกเวลาได้)
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน (Warm up)
1. ครกู ล่าวทกั ทายนักเรยี น
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นกั เรียนดรู ปู ภาพ การตน่ื นอน การไปโรงเรียน และตอบคาถาม What time do you get up? What time
do you go to school?
ขัน้ นาเสนอเนอ้ื หา (Presentation)
3. นักเรยี นดวู ีดีโอ What time is it? (https://www.youtube.com/watch?v=cs81UdOc9TU)
๔. นักเรยี นตอบคาถามเก่ียวกับวีดีโอท่ดี ู และให้บอกคาศัพทเ์ ก่ียวกับกิจวตั รประจาวัน Daily Routine
๕. ครูเล่ากจิ วัตรประจาวัน ดังน้ี
I get up at 5 o’clock. I brush my teeth and take a shower at 6 o’clock. I go to school at
7 o’clock. I eat lunch at 12 o’clock.
๖. ครถู ามนกั เรยี น
(1) What time do you get up?
(2) What time do you go to school?
(3) What time do you eat lunch?
๗. ครูนาเสนอเวลา/นาฬกิ า แลว้ ถามคาถามนักเรียน
5 o’clock: What do you do at 5 o’clock?
ขน้ั ฝกึ (Practice)
๗. นกั เรียนฝกึ ถามคาถาม และให้ครตู อบ
๘. นักเรียนจับคกู่ ันถามคาถาม ตามบัตรคากจิ วัตรประจาวัน สลับกันถาม
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
๙. นกั เรยี นทาแบบฝึกหัดเกย่ี วกับกิจวตั รประจาวันในใบงานท่ี 3
ข้นั สรุป (Wrap up)
๑๐. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรียนเก่ยี วกบั การบอกเวลาและกิจวตั รประจาวัน
(ชวั่ โมงท่ี 8)
(จุดประสงคร์ ายคาบ: นกั เรยี นรู้คาศัพท์ สานวน เกีย่ วกับครอบครวั และสามารถพูดแนะนาระบรุ ายละเอียด
เกยี่ วกับสมาชกิ ในครอบครัวได้)
ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. นกั เรียนดรู ูปภาพปรศิ นาจิ๊กซอว์ และทายว่าเปน็ รูปภาพเกี่ยวกบั อะไร เมอ่ื นักเรียนถ่ายถกู วา่ เป็นรปู ภาพ
เกีย่ วกับครอบครวั กส็ ุ่มถามคาถามนกั เรยี นว่า
Teacher: How many people in your family?
Students: There are ______people in my family.
Teacher: Who are they
Students: My father, my mother, my sister…..
ขน้ั นาเสนอเน้ือหา (Presentation)
3. นกั เรยี นดูแผนผงั ครอบครัว และครูแนะนาสมาชกิ ในครอบครวั ว่ามีใครบ้าง ในภาษาอังกฤษเรียกวา่ อะไร
๔. เมอื่ นักเรยี นร้จู ักสมาชิกในครอบครัวหมดแลว้ สมุ่ ถามคาถามนกั เรยี น ถึงลาดบั ความสัมพันธ์เครอื ญาติ
Teacher: Who is mother’s father?
Students: Grandfather
Teacher: Who is son’s daughter?
Students: Granddaughter
ขั้นฝกึ (Practice)
๗. นกั เรียนเล่นเกม “Who is?”
- แบง่ นกั เรียนออกเปน็ 6 กลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน
- ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนมาหยิบฉลากเพื่อตอบคาถาม ถ้าตัวแทนกล่มุ ตอบถูก ไดค้ ะแนนขอ้ ละ 2
คะแนน
- ให้แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาเรื่อย ๆ จนครบทุกคาถาม โดยกลมุ่ ไหนตอบถูกมากท่สี ดุ จะเปน็ ผชู้ นะ
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
๙. นกั เรียนทาแผนผงั Family Chart
ขน้ั สรปุ (Wrap up)
๑๐. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ บทเรียนเก่ียวกบั ลาดบั เครือญาติ และจัดทาสมุดเลม่ เลก็ My Family Members
(ชั่วโมงท่ี 9)
(จุดประสงค์รายคาบ: นกั เรียนรู้คาศพั ท์ สานวน เก่ียวกับการเขียนบรรยายสัตวเ์ ลี้ยงและสามารถเขียนบรรยาย
สตั วเ์ ล้ียงของตนเองได้)
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น (Warm up)
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น
Teacher: Good Morning. How are you?
๒. ครูทบทวนคาศัพทเ์ กีย่ วกับสตั ว์โดยให้บอกคาศัพท์ท่ขี ึ้นต้นด้วยพยญั ชนะ ดังน้ี R, D, E, M, L, C, G นักเรยี น
สามารถตอบได้มากกว่า 1 คาศพั ท์ต่อ 1 พยัญชนะ เมื่อนักเรยี นตอบให้ครูวงกลมคาศัพท์ทตี่ รงตามคาท่ีกาหนดให้
หรือถา้ นกั เรียนตอบได้ไมค่ รบ ครูเขียนคาศพั ท์เพิ่มเตมิ เช่น rabbit , dog , elephant, mouse, lion,
crocodile, goldfish
3. ให้นกั เรียนอา่ นคาศพั ท์พร้อมกันทั้งช้นั เรียน 1 ครงั้ จากน้นั ครูเขียนคาว่า Pet และ Wild animal บนกระดาน
ให้นกั เรยี นอา่ นคาศัพท์อกี รอบพร้อมทง้ั ระบุคาศัพท์ดังกล่าวตรงกับประเภทของสตั ว์ Wild animal หรือ Pet
1. wild animal: lion, crocodile, elephant
2. pet: dog, gold fish, rabbit, hamster
4. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเหตผุ ลว่า สตั ว์เลยี้ งและสตั ว์ป่ามีความแตกตา่ งกันอย่างไรบ้าง นกั เรยี นสามารถ
อภปิ รายเป็นภาษาไทย โดยครอู าจเสริมการบอกคาศัพท์น้ัน ๆ เป็นภาษาองั กฤษ
Teacher: How different between pet and wild animal? (เชน รปู รางลกั ษณะ personality and
characteristic, ลกั ษณะนิสยั habit, ความเปนอยู living style เปนตน)
ข้ันกอ่ นอา่ น (Pre-Reading)
5. กอนเริม่ การอาน ครูถามนักเรียนวาทบ่ี านของตนมสี ัตวเลี้ยงหรอื ไม Do you have a pet? ถามีเปนสตั วชนิด
ใด What is it?
6. ครูเขียนคาศัพทใหมบนกระดาน: beige, neighborhood, doghouse, intelligent ครอู านนาใหนักเรยี นอ่าน
ตามท่ีละคา จากนั้นให้นักเรยี นเดาความหมายโดยการใบค้ า
(beige) : type of color, similar to white and cream
(neighborhood) : friends who live near your house
(doghouse) : a small house for pet
(intelligent) : smart and clever
7. ครูแจงนักเรยี นกอนเร่ิมอานวา จะตองตอบคาถาม What is Mate? จากการอานเน้ือเรอ่ื งท้ังหมด ครเู นนคาวา
What ในกรณนี ้ีอาจอธิบายเพิ่มเติมวา What เปน Wh-question ทคี่ าตอบควรเป็นคานาม เชน่ คน สตั ว์ หรือ
ส่งิ ของ สวนคาวา mate ใหเช่ือมโยงความหมายจากคาอื่น ๆ ทนี่ ักเรยี นรูจกั เชน classmate, roommate,
soulmate
ขน้ั ระหวา่ งอ่าน (While-Reading)
8. ครจู ับเวลา 3-5 นาที ใหนักเรียนอานเน้ือเร่ือง My Mate และตอบคาถาม What is mate? (Mate is a dog)
จากน้นั ครถู ามเพ่ิมเติมถงึ ลกั ษณะของ Mate เชน age, size, height,characteristic and personality
9. ใหนกั เรียนอานอีกครั้ง จากน้นั ใหขดี เสนใตประโยคท่ีบอกขอมูล เชน age (He’s two years old.), size
(Labradors are big dogs.), characteristic and personality
10. ครสู ุ่มถามใหนกั เรยี นอานประโยคท่ีตนเลือกขีดเสนใต และสอบถามเพม่ิ เตมิ วานักเรียนคนใดมีคาตอบท่ี
แตกต่างหรือไม พยายามเปดโอกาสใหนักเรียนไดตอบมากที่สดุ วาคาตอบที่ตนเลอื กสมั พันธกบั คาที่ครูกาหนดอยาง
ไร ในขณะเดียวกันนักเรยี นปลายทางก็ตองอภิปรายคาตอบของตนกับครูและเพอ่ื นรวมช้ันเรียนดวย
11. ครูใหนกั เรียนตอบคาถามจากการอภปิ รายในใบงานท่ี 4 Read the passage again and answer true or
false.
ขัน้ หลงั การอาน (Post – Reading)
12. ครูใหนักเรียนอานตารางในใบงานท่ี 4 โดยครูเนนใหสังเกตคอลมั นที่ 1 และ 2 วามีความสมั พันธกันอยางไร
สวนในคอลัมนที่เวนวางไวใหนกั เรียนตอบโดยใชขอมูลจากบทอาน My Mate เชน
Pet’s name – Mate บอกชื่อสตั วเล้ียง
Type of pet – dog บอกประเภทของสตั วเล้ียง
Breed – Labrador พนั ธุของสตั ว
Size – big, big head, big feet ขนาด
Characteristics – intelligent, friendly ลกั ษณะ
Colour – brown, beige, black สขี องสตั วเลย้ี ง
13. จากนน้ั ครูถามนักเรียนวา Do you have a pet? Please tell me about your pet or the pet you
love. ครสู ุมใหนกั เรยี น 3-4 คนตอบโดยวาจา
14. ครใู หนกั เรยี นเติมขอมูลสัตวเล้ียงของตนเองลงในตารางกอน ครตู รวจสอบความถูกตองโดยภาพรวม จากนัน้
มอบหมายเปนการบานใหนกั เรยี นนาขอมลู น้นั มาเขยี น โดยใชตัวอยางจากประโยคในบทอาน My mate ในใบงาน
4 ขอ้ ที่ 4
(ช่วั โมงท่ี 10)
(จดุ ประสงค์รายคาบ: นกั เรยี นร้คู าศพั ท์ สานวน เกยี่ วกับการทากิจกรรมยามว่าง สง่ิ ที่นักเรยี นช่ืนชอบ และ
สามารถบอกข้อมูลของตนเองได้)
ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น (Warm up)
1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น
Teacher: Good Morning. How are you?
2. ครูถามนักเรียนวา What do you like to do in your free time? ใหนกั เรียนรวมกันตอบคาถามประมาณ
4-5 คาตอบ จากนั้นครเู ขยี นคาศัพทลงบนกระดาน Sport, Food, Movie star, Singer ใหนกั เรียนอานออกเสียง
พรอมกนั 1-2 ครั้ง
3. ครใู หนักเรียนชวยกนั ยกตัวอยางกีฬา อาหาร ภาพยนตร นกั รอง ตามกลุมคาศัพทประเภทตาง ๆ จากน้ันให
นกั เรยี นอาสาออกมาเขยี นคาศพั ทตามหวั ขอคนละ 1 คา
Sport Food Movie Singer
Badminton pizza Harry Potter Justin Bieber
ขัน้ นาเสนอเนอ้ื หา (Presentation)
๔. ครถู ามคาถามเกีย่ วกบั ความชอบของนกั เรียนและเขยี นประโยคคาถาม คาตอบบนกระดาน
Teacher: Do you like (badminton/pizza/etc.)?
Students: Yes, I do. / No, I don’t.
5. ครูถามคาถาม Yes/No questions อนื่ ๆ เพือ่ ใหน้ กั เรียนเกิดความคุ้นเคย
6. ถามคาถามเพ่ิมเตมิ
T: What is your favorite ………………?
Ss: I like…………………..
7. ครูใหนักเรยี นถามครแู ละครูตอบเพื่อเปนตัวอยางใหกบั นักเรียน ฝกฝนซ้า ๆ จนเกิดความชานาญ
ข้ันฝึก (Practice)
8. ครสู าธิตการทากจิ กรรมในใบงานที่ 5 "Favorites Questionnaire” โดยครูอานตวั อยางคาถามใหนกั เรยี นตอบ
T : Ok Toey, what is your favorite food?
Toey : It’s pizza.
ขน้ั นาไปใช้ (Production)
9. ใหนกั เรียนทากิจกรรมในใบงานที่ 5 โดยนักเรียนเปนผูถามเพอื่ นอีก 5 คน และบันทึกคาตอบลงในตาราง
10. เมือ่ นกั เรยี นถามเสรจ็ ครเู รียกถามนักเรยี นใหรายงานขอมูลท่ีไดจากการสัมภาษณเพื่อน 5 คน
ขั้นสรปุ (Wrap up)
11. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ บทเรียน
12. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
12.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1. ใบงาน
2. PowerPoint
3. เพลงจาก Youtube
12.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-
ลงชอื่ .................................................. (ครผู ู้สอน)
(นางสาวอามียะ หนิหมะ)
1 ธนั วาคม พ.ศ.2563