The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by vaio.vaiau Knot, 2020-07-02 22:24:28

QC 7 Tool

QC 7 Tool

1

เครอ่ื งมอื สำคญั 7 อยำ่ ง
ในกำรทำ QCC

BY: BKC QC Comm2 ittee

แบบฟอร์มการทา QCC (ขนาด A3)

เหตผุ ลที่เลอื กหัวข้อ กาหนดการกิจกรรม ผลลัพธ์
สภาพการณ์ปัจจุบนั วเิ คราะห์สาเหตุ
กาหนดมาตรฐาน /
การควบคุมการปฏิบตั ิ

มาตรการแกไ้ ขและดาเนินการ

กาหนดเป้าหมาย การยกระดับการพฒั นากิจกรรม
แผนการในอนาคต

3

กำรแปรผนั

ในการควบคุมคุณภาพ ต้องอาศัยการควบคุมกระบวนการผลติ โดยใช้ กลวธิ ที างสถิติ
(Statistical Process Control : SPC) เป็นเคร่ืองมอื ที่ใช้แก้ปญั หาอยา่ งต่อเน่ือง ให้กระบวน
การผลติ ไมเ่ ปลีย่ นแปลงและมสี มรรถภาพสงู ข้นึ

การแปรผนั (Variation) ในกระบวนการผลิตมีปัจจัยสาคญั 6 อยา่ ง คอื
1.ความบกพร่องทเ่ี กดิ จากการกระทาของบุคคล (Man-Made Error)
2.เครอ่ื งจักรกล (Machinery)
3.วิธกี ารทางาน (Method of Work)
4.วตั ถดุ บิ (Material)
5.เครอ่ื งมอื วดั (Measurements)
6.สภาพสงิ่ แวดลอ้ มในกระบวนการผลติ (Environment)

ซง่ึ มเี ครอื่ งมือท่ีจะชว่ ยในการควบคมุ คณุ ภาพอยู่ 7 อยา่ ง นนั่ ก็คือ

( 7 QC Tools ) 4

QC 7 Tools : เครอ่ื งมือควบคมุ คุณภำพ 7 แบบ

1. ใบตรวจสอบ (Check Sheet) เรำมำรจู้ กั QC 7 Tools กนั !!
2. แผนภาพพาเรโต (Pareto Chart)
3. แผนผงั ก้างปลา (Fish one Diagram)
4. แผนภูมคิ วบคมุ (Control Chart)
5. แผนภาพการกระจาย (Scatter Diagram)
6. ฮิสโตแกรม (Histogram)
7. กราฟ (Graph)

5

สรุปหน้ำทีข่ อง 7 QC Tools
เครือ่ งมือควบคมุ คุณภำพไดด้ งั นี้

ขั้นตอนการนา 7 QC Tools ทัง้ 7 อย่าง และการดาเนนิ การ จะต้องคาถงึ ลกั ษณะและชนิดของขอ้ มูล
ท่ไี ด้ รวมถงึ ความเหมาะสมกับสภาถะการณ์ที่เกิดข้นึ จริง เพ่ือให้การวิเคราะห์ทไี่ ดใ้ กลเ้ คียงกบั ความ

จริง และเกดิ ความถูกตอ้ งมากทีส่ ุด

1 ใช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 1) ใบตรวจสอบ (Check Sheet)
2 ใช้ในการแสดงผลของข้อมลู
2) แผนภาพพาเรโต (Pareto Chart)
3) แผนผังก้างปลา (Fish one Diagram)
4) แผนภมู คิ วบคุม (Control Chart)
5) แผนภาพการกระจาย (Scatter Diagram)
6) ฮสิ โตแกรม (Histogram)

3 ใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู 6) ฮสิ โตแกรม (Histogram)
7) กราฟ (Graph)
6

1ใบตรวจสอบ (Check Sheet)

❑ ใบตรวจสอบ (Check Sheet) เป็นแผ่นงานทไี่ ดอ้ อกแบบมาอย่าง
เฉพาะเจาะจงตอ่ งานนน้ั ๆ โดยมีจุดประสงคท์ ่ีจะเกบ็ ข้อมลู สาคัญ ๆ ไดง้ า่ ยและ
เป็นระบบ

❑ สามารถใชเ้ กบ็ ข้อมูลได้งา่ ย ตรงจุดประสงค์ เพอื่ จะนาขอ้ มลู ไปวเิ คราะห์และ
ตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิผลสงู สดุ และเพ่อื ควบคมุ , ตดิ ตามดูผลการทางาน,

หาสาเหตขุ องความผดิ ปกติ, เพื่อการตรวจเช็คทั่วไป

ตัวอยา่ ง
Check Sheet

7

พำเรโต (Pareto Diagram) 2

หลกั การของพาเรโต คือ ในปัญหาใด ๆ กต็ ามย่อมเกดิ ขึน้ ยอ่ มเกิดข้นึ จากสาเหตุ
หลายๆ อย่างและในบรรดาสาเหตทุ ั้งหมดน้จี ะมสี าเหตุหลักเพียงไมก่ ีอ่ ยา่ งทม่ี บี ทบาทสาคัญ
ตอ่ ปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้ ดงั นัน้ ถ้าแก้ไขให้สาเร็จลุล่วงอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพจึงจาเป็นต้องแก้ไขสาเหตุ
หลักเสยี กอ่ น

การนาแผนภูมพิ าเรโตเปน็ เคร่อื งมือ 7 QC Tool ที่ใชล้ าดบั สาคญั ของสาเหตุ โดย
ประยุกต์กราฟแท่งทีแ่ สดงการเรยี งลาดับคา่ ของข้อมลู ที่มีคา่ สงู สดุ ไวท้ างซ้าย แล้วเรียงลาดบั
ค่าของขอ้ มูลทล่ี ดลงมาทางขวาของกราฟ เพื่อใชเ้ ปรียบเทียบให้เหน็ ถึงการลาดบั ความสาคญั
ของขอ้ มูล พรอ้ มกบั ระบุขนาดหรือปรมิ าณของความสาคัญทีเ่ สนอน้ัน ๆแผนภาพพาเรโต
(Pareto Diagram) มลี กั ษณะเปน็ กราฟแท่งท่แี บง่ แยกขอ้ มลู เปน็ ช่วงๆ จากมากไปนอ้ ย
และจากซ้ายไปขวา โดยแกน y มี 2 แกนคอื แกนซ้ายมอื แทนความถ่ี และแกนขวามือ
แทนเปอรเ์ ซ็นต์ แกน x แทนสาเหตุ แผนภมู พิ าเรโตต่างจากฮสิ โทแกรมท่ีแกนนอนของ
แผนภมู พิ าเรโตเปน็ ประเภทของข้อมูล แตแ่ กนนอนของฮสิ โทแกรมเปน็ ตัวเลข

8

พำเรโต (Pareto Diagram) 2

❑ Pareto ชือ่ แผนภูมินีม้ ที ี่มาจากช่อื 9
ของผู้คดิ คน้ ซง่ึ เปน็ นกั เศรษฐศาสตร์
ชาวอติ าเลียนชือ่ Vilfredo
Federico Damaso Pareto

❑ แผนภูมชิ นดิ น้มี กั ถกู นามาใชใ้ นการ
แสดงให้เหน็ ขนาดของปัญหาและ
เพอ่ื จัดลาดบั ความสาคัญของปัญหา

พำเรโต (Pareto Diagram) 2

❑ หลักการของพาเรโตน้นั ใชห้ ลัก 20/80
คอื เน้นในแง่ความสาคญั และผลกระทบของปญั หา

20 ❑ สว่ นน้อย 20 % จะเปน็ สว่ นสาคญั
80 ❑ 80 % จะเปน็ สว่ นไมค่ อ่ ยสาคญั
เชน่ มีปัญหาอยู่ 20 % เทา่ นนั้ ที่สร้างความ
เสียหาย ส่วนใหญ่ใหก้ บั กจิ การ จงึ ตอ้ งแก้
ตรงนน้ั กอ่ น

จัดเรียงชนดิ ของปญั หาทีม่ จี านวนของเสยี เกดิ ขน้ึ มากทสี่ ดุ
จากซ้ายไปขวา เป็นการจดั ลาดบั ความสาคัญเพ่ือแกไ้ ขสิง่ ที่

สาคญั กว่าก่อนเพือ่ ลดผลกระทบได้มากทสี่ ดุ

10

3แผนผังกำ้ งปลำ (Fish-bone Diagram)

แผนผงั ก้างปลา (Fish-bone Diagram) หรอื เรียกว่าแผนผงั อชิ กิ า
วา (Ishikawa Diagram) หรือแผนผงั แสดงเหตุและผล (Cause-and-Effect
Diagram)
มปี ระโยชนใ์ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล โดยการพจิ ารณาสาเหตุ (Causes) ท่มี ี
ผล (Effect) โดยตรงกับลักษณะคุณภาพ (Quality Characteristic) ของ
ปญั หาทสี่ นใจศกึ ษา (จานวนแผนผงั ก้างปลาจะเท่ากบั จานวนลกั ษณะ
คณุ ภาพท่ีศึกษา)

11

3แผนผังก้ำงปลำ (Fish-bone Diagram)

❑ ต้ังขึ้นตามช่อื ของผู้คิดค้นชาวญ่ีปนุ่ คอื Dr.Kaoru Ishikawa
ศาสตราจารยด์ า้ นวศิ วกรรมแหง่ มหาวิทยาลยั โตเกยี ว ผู้รเิ รม่ิ ใน
การนาผังนี้มาใช้ในวงการอุตสาหกรรม ต้งั แตป่ ี ค.ศ. 1953

❑ เปน็ แผนผงั ทแ่ี สดง
ความสมั พันธร์ ะหว่าง
คุณลักษณะ ทางคณุ ภาพกับ
ปจั จยั ตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วข้อง

12

4แผนภูมคิ วบคุม (Control Chart)

แผนภูมิควบคมุ (Control Chart) แผนภมู คิ วบคมุ คณุ ภาพอยา่ งหนง่ึ ท่ีใช้ใน
การเฝ้าติดตามกระบวนการการผลิตที่กาลังดาเนินการผลิตอยู่

แผนภูมิ หรือ แผน่ กราฟ ท่เี ขียนข้ึนโดยอาศัยขอ้ มลู จากข้อกาหนดคณุ ภาพท่ี
ต้องการควบคุม เพอื่ เปน็ แนวทาง ในการตดิ ตามผลการปฏิบตั งิ าน ในขน้ั ตอนใด

ข้ันตอนหนึง่

13

5แผนภำพกำรกระจำย (Scatter Diagram)

แผนภาพการกระจาย (Scatter Diagram) เครื่องมอื ท่ีใช้ในการหาความสมั พันธท์ ่ีแท้จรงิ
ระหวา่ งตวั แปรทง้ั 2ได้ หรอื ผังทใ่ี ช้แสดงคา่ ขอ้ มูลทเี่ กดิ ขึน้ จากความสัมพนั ธ์ของตัวแปร 2

ตัวที่มีแนวโน้มไปในทางใด เพอ่ื หาความสมั พันธ์ทแี่ ทจ้ รงิ

จะเลือกใช้ในสาเหตุตา่ งๆ ดงั น้ี

1. เม่อื ตอ้ งการจะบ่งชี้ สาเหตทุ แ่ี ทจ้ ริงของปญั หา

2. เมื่อตอ้ งการจะตัดสินใจว่า ผลกระทบ 2 ตัว ซ่งึ มคี วามสัมพนั ธก์ ันอยู่

3.เมือ่ ตอ้ งการใชเ้ ปน็ แนวทางตัดสนิ ใจวา่ ในผงั ก้างปลาทีไ่ ดจ้ ากการระดมสมองน้ัน มี

สาเหตใุ ด (ก้างปลาใด) ทีม่ ีความสัมพันธ์ตอ่ ผลกระทบ (หัวปลา

4. เมื่อต้องการใชห้ าความสัมพนั ธ์ระหวา่ งข้อมลู หรอื ตัวแปร 2 ตวั ท่เี ราสนใจศกึ ษาวา่

จะมีความสัมพนั ธ์กันหรือไม่ อย่างไร 14

ฮสิ โตแกรม (Histogram) 6

ฮสิ โตแกรม (Histogram) คือ กราฟแทง่ แบบเฉพาะ โดยแกนตั้งจะเป็นตัวเลข
แสดง “ ความถ่ี ” และมีแกนนอนเปน็ ขอ้ มลู ของคณุ สมบตั ิของส่งิ ทเี่ ราสนใจ โดย
เรยี งลาดบั จากนอ้ ย ที่ใชด้ คู วามแปรปรวนของกระบวนการ โดยการสังเกตรูปรา่ ง
ของฮสิ โตแกรมท่ีสร้างขึ้นจากขอ้ มูลทไี่ ด้มาโดยการสมุ่ ตวั อยา่ ง

ความถ่ี ❑ จากภาพ เป็นกราฟฮสิ โตแกรมทมี่ คี วามปกติ คือ
❑ ขอ้ มูลท่ีเกิดบ่อยครงั้ จะสะสมกันอยตู่ รงกลาง แลว้
คอ่ ยๆลดลงไปตามด้านข้างท้ังซา้ ยและขวา
❑ เม่ือลากเส้นต่อจดุ แลว้ จะออกมาเป็นกราฟที่
เรียกว่า Normal Curve หรือเสน้ โคง้ ปกติ ทีท่ ุก
กระบวนการตอ้ งการ

ค่าท่วี ัดได้

15

ฮิสโตแกรม (Histogram) 6

เมอ่ื ไรจึงจะใช้แผนภาพฮิสโตแกรม
1. เมื่อต้องการตรวจสอบความผิดปกติ โดยดกู ารกระจายของกระบวนการทางาน
2. เมอื่ ต้องการเปรยี บเทียบข้อมูลกับเกณฑ์ทก่ี าหนด หรอื าสูงสดุ -ต่าสดุ
3. เม่อื ตอ้ งการตรวจสอบสมรรถนะของกระบวนการทางาน (Process -

Capability)
4. เม่ือต้องการวเิ คราะห์หาสาเหตุรากเหง้าของปัญหา (Root Cause)
5. เมอ่ื ตอ้ งการตดิ ตามการเปลย่ี นแปลงของกระบวนการในระยะยาว
6. เมื่อขอ้ มลู มีจานวนมากๆ

16

กรำฟ (Graph) 7

กราฟ (Graph) เป็นสว่ นหน่ึงของรายงานตา่ งๆ ท่ีใชส้ าหรบั นาเสนอ
ข้อมลู ทส่ี ามารถทาใหผ้ ูอ้ า่ นเขา้ ใจข้อมูลต่างๆ ได้ดี สะดวกต่อการแปร
ความหมาย และสามารถให้รายละเอียดของการเปรยี บเทียบได้ดีกวา่ การนาเสนอ
ขอ้ มลู ดว้ ยวิธอี น่ื ทัง้ นเี้ พราะกราฟทาให้เห็นลักษณะของขอ้ มลู ตา่ งๆ ได้ทนั ทจี าก
เส้น รูปภาพ แทง่ เหลีย่ ม และวงกลม โดยกราฟมคี ณุ ลักษณะทจ่ี าเป็นคือ ทาให้
เขา้ ใจเนอ้ื หาได้ง่าย อ่านไดอ้ ย่างรวดเรว็ หรือสามารถเปรียบเทยี บ
ข้อมลู แตล่ ะข้อได้ชดั เจน

17

กรำฟ (Graph) 7

ใช้วเิ คราะหข์ ้อมูล แสดงความหมายของตวั เลขออกมา และสามารถ กราฟแท่ง
ชี้ใหเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริง จงึ มีประโยชน์มากในการวิเคราะหข์ ้อมลู ทง้ั ใน
อดตี และปจั จบุ ัน เพอ่ื ขดุ คน้ สาเหตแุ ละมาตรการในการแกไ้ ขปรบั ปรุง

ใช้อธบิ าย หรอื ช้แี จงเร่อื งราวหรอื เหตกุ ารณ์ใหแ้ ก่ผอู้ ่นื เขา้ ใจได้ง่าย กราฟวงกลม
ดกี วา่ การอธบิ ายโดยใช้ขอ้ มลู หรอื ตวั เลขโดยตรง

ใชค้ วบคุม กราฟทเี่ ขียนแสดงอตั ราการหยุดงาน หรอื ของเสยี ตาม กราฟเส้น
เวลาท่เี ปลี่ยนแปลง ซ่งึ กราฟเปน็ อปุ กรณส์ าคญั ที่จะทาให้ทราบวา่
อะไรทจ่ี ะต้องควบคุม

ใชบ้ ันทึก ข้อมูลท่ไี ด้จดั เก็บสามารถบนั ทกึ เปน็ กราฟได้ กราฟท่นี ยิ ม กราฟเรดาร์
ใชก้ นั อยา่ งแพรห่ ลายมอี ยู่ 3 ประเภทคอื กราฟเสน้ กราฟแทง่
และกราฟ

18

BY: BKC QC Comm1i9ttee


Click to View FlipBook Version