The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รอบรู้เรื่องราว รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตามรอยสุนทรภู๋

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wasin Phurahong, 2020-02-05 03:48:16

รอบรู้เรื่องราว รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตามรอยสุนทรภู๋

รอบรู้เรื่องราว รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตามรอยสุนทรภู๋

จ่ึงเอื้อมอา้ งนางสวรรค์ตามฝันเหน็ 46
ไมร่ ักใครในแผ่นดินถน่ิ สุธา
ใหอ้ ่านเลน่ เปน็ เล่หเ์ สนห่ า
๏ ได้ครวญครา่ ร่าเรอ่ื งเปน็ เครือ่ งสงู รกั แตเ่ ทพธิดาสรุ าลัยฯ
ทง้ั สาวแก่แม่ลกู อ่อนลาวมอญไทย พอพะยงุ ยกย่องใหผ้ อ่ งใส
พระภู่[28]แตง่ แกล้งกล่าวสาวสาวเอย๋ เดก็ ผ้ใู หญ่อย่าเฉลียวว่าเกยี้ วพาน
นกั เลงกลอนนอนฝนั เป็นสนั ดาน อย่าถือเลยเคยเจนเหมือนเหลนหลาน
จะฝากดีฝีปากจะฝากรกั เคยเขียนอา่ นอดใจมใิ คร่ฟัง
ไวอ้ าลยั ใหล้ ะหอ้ ยจะคอยฟัง ดว้ ยจวนจกั จากถิน่ ถวิลหวัง
จะร่าส่ังสิ้นสุดอยธุ ยาฯ
๏ โอ้ยามนีป้ ีขาลสงสารวัด เคยโสมนัสในอารามสามวัสสา
สิน้ กุศลผลบุญการุณา จะจาลาเลยลับไปนบั นาน
เคยเดนิ เลน่ เย็นลมเลียบชมรอบ รมิ แขวงขอบเขตทเี่ จดยี ฐ์ าน
พระปรางคม์ สี ีท่ ศิ พสิ ดาร โบสถว์ หิ ารการเปรียญลว้ นเขยี นทอง
ทห่ี นา้ บนั ป้ันอย่างเมืองกวางตงุ้ ดูเรอื งรุ่งรปู นกผกผยอง
กระเบือ้ งเคลือบเหลือบสลับเหล่ียมรบั รอง ศาลาสองหน้ารอบขอบกาแพง
สิงโตจนี ตนี ตวั หน้ากลัวกลอก ขยับขยอกแยกเขย้ี วเสยี วแสยง
ท่ตี ึกก่อช่อฟ้าใบระกาแดง ริมกาแพงตะพานขวางเคียงข้างคลอง
เปน็ พลบั พลาพาไลข้างในเสด็จ เดือนสิบเบ็ดเคยประทานงานฉลอง
เล่นโขนหนงั ฟงั ปพี่ าทย์ระนาดฆ้อง ละคอนรอ้ งเร่ืองแขกฟงั แปลกไทย
ประทานรางวัลน้ันไม่ขาดคนดาษดืน่ ทัง้ วนั คืนครื้นครนั่ เสียงหว่นั ไหว
จะวายเห็นเยน็ เยยี บเหงาเงียบใจ โออ้ าลัยแลเหลยี วเปลยี่ ววญิ ญาณฯ์
เปน็ ตกึ ตอ่ ตา่ งกาแพงฝากแฝงฝา
๏ เคยอยกู่ ินถิน่ ท่กี ระฎีกอ่ ขา้ งโบสถ์บาเรยี นเรียงเคียงเคียงกัน
เป็นสองฝ่ายทา้ ยวัดวปิ สั สนา มสี ระขุดเขอื่ นลงพระสงฆ์ฉนั
เปน็ สี่แถวแนวทางเดินหวา่ งกุฎิ์ มพี ระคันธกฎุ ที ีบ่ าเพ็ง
ขา้ งทิศใตใ้ นจงกรมพรหมจรรย์ ประดบั ประดิษฐ์ดดู ีเป็นท่ีเกง๋
ศาลากลางทางเดินแลเพลินจิต ยงิ่ พศิ เพ่งพาสลดกาสรดทรวงฯ
จะเรดิ รา้ งห่างแหสุดแลเลง็

47

[ภำพผลชมพู่ในวดั ทีม่ ีอำยยุ นื ยำวต้ังแต่สมัยท่ีสุนทรภยู่ งั มีชวี ิตอยจู่ นถงึ สมยั ปัจจบุ ัน]

๏ หอระฆังดัง่ ทานองหอกลองใหญ่ ทั้งหอไตรแตรทองเป็นของหลวง
ปลูกไมร้ อบขอบนอกเปน็ ดอกดวง บา้ งโรยร่วงรสรน่ื ทกุ คนื วัน
ชมพูแ่ ลแต่ละตน้ มผี ลลกู ดูดงั่ ผูกพวงระย้านึกน่าฉัน
ทรงบาดาลบานดอกรบี ออกทนั เกบ็ ทกุ วันเชา้ เย็นไมเ่ ว้นวายฯ
สะอนื้ โอ้อาลยั จิตใจหาย
๏ เหน็ ทบั ทิมรมิ กระฎดี อกย่โี ถ เคยแก้อายหลายครัง้ ประทังทน
เหน็ ตน้ ชาหน้ากระไดใจเสียดาย ด้วยยามอดอัตคัดแสนขดั สน
ไดเ้ ก็บฉนั วนั ละนอ้ ยอรอ่ ยรส จะจากตน้ ชาใหอ้ าลยั ชาฯ
จะซ้ือหาชาจนี ทรพั ยส์ นิ จน เหมอื นนกพรากพลดั รังไร้ฝ่ังฝา
ไว้คอยลาเหล่านกั เลงฟงั เพลงยาว
๏ โอช้ าตนิ ี้มกี รรมเหลือลาบาก มาหาสูด่ ูแลทั้งแก่สาว
โอก้ ระฎีท่จี ะจากฝากนา้ ตา โอเ้ ป็นคราวเคราะห์แลว้ จาแคล้วกันฯ
เคยเยีย่ มเยือนเพอ่ื นเกา่ เม่อื เราอยู่
ยมื หนงั สือลอื เลอ่ื งถามเรื่องราว

[ภำพคณะนักศึกษำกับภำพสม่ี ติ ิของพระปรำงค]์

48

๏ ระดูร้อนกอ่ นเก่าทาเขา้ แช่ นา่ ชมแตเ่ ครือ่ งกบั สารับฉัน
ช่างทาเปน็ เช่นดอกจอกเป็นดอกจันทน์ งามจนชั้นกระชายทาเหมือนจาปา
มะมว่ งดิบหยบิ ดจู ่ึงรจู้ ัก ทานา่ รักรปู สตั ว์เหมอื นมัจฉา
จะแลลับกลับกลายสดุ สายตา เคยไปมามไิ ดเ้ ห็นจะเวน้ วายฯ
ระรืน่ รสราเชนพมุ เสนกระสาย
๏ ตรษุ สงกรานต์ทา่ นแต่งเครอ่ื งแปง้ สด ถึงเคราะหร์ า้ ยหายหอมให้ตรอมทรวง
น้ากหุ ลาบอาบอรุ ะแสนสบาย จนมชี ่ือลอื เล่อื งทงั้ เมืองหลวง
เหมือนแสนโงโ่ อเ้ สยี แรงแต่งหนงั สือ ตอ้ งเหงางว่ งทรวงเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจ
มามดื เหมอื นเดือนแรมไมแ่ จม่ ดวง ตอ้ งระหกระเหินหาทอ่ี าศยั
จาจากเพ่อื นเหมือนจะพานา้ ตาตก เจบ็ เจ็บใจไม่รหู้ ายซงั ตายทนฯ
โอแ้ สนอายปลายอ้อยเลอื่ นลอยไป ได้เหน็ พักตร์พบปะปีละหน
ถวายตน้ ไม้กระถางต่างต่างกัน
๏ ท่ีอารีมีคุณการญุ รัก ลกู ดอกแฝงแกลง้ ประดิษฐค์ วามคดิ ขยัน
เข้าวสั สามาทั่วทุกตัวตน ตน้ แก้วกรรณิการ์มสี ารพัด
ดกู ง่ิ ใบไม้แซมติดแตม้ แต่ง กินนรเหมือนนางกินนรแขนอ่อนหยัด
พมุ่ สผี งึ้ ถงึ ดีล้นิ จ่ีจนั ทน์ หน้าเหมอื นผัดผอ่ งผวิ กรดี นิว้ นาง
ทารูปพราหมณ์งามพร้ิมแยม้ ยิม้ เยือ้ น บ้างจบั ไซ้ขนพลกิ พลิ้วปีกหาง
ดนู างน่งั ปล่ังเปลง่ ดเู คร่งครัด รูปเสอื กวางกบกระตา่ ยมีหลายพนั
รปู นกหกผกผินกินลูกไม้ หนา้ หวัวเราะรูปร่างคว้ิ คางขัน
นกยางเจ่าเซาจกเหมือนนกยาง ล้วนรปู ปั้นตา่ งตา่ งเหมอื นอยา่ งเปน็
ทาแปลกแปลกแขกฝาหร่งั ท้งั เจา้ เงาะ ทช่ี อบพอเพ่ือนสาราญจะนานเห็น
สกุ รแกะแพะโผนเผน่ โดนกัน จงอยเู่ ปน็ สขุ สขุ ทุกทกุ คน
จะแลลบั นับปีครงั้ นีห้ นอ ให้บริบรู ณ์พนู สมบัตพิ ิพัฒน์ผล
ด้วยโศกสุมรุมรอ้ นไมห่ ย่อนเย็น เจริญพ้นภยั พานสาราญเริงฯ
ขอแบง่ บุญสุนทรถาวรสวัสดิ์ เคยมาลวงหลงเชอ่ื จนเหลอื เหลิง
เกดิ กองทองกองนากอย่ายากจน เชิญบันเทิงเถิดนะหลานปากหวานดี
ล้วนหลานแก้วหลอกนา้ ต้องล่าหนี
๏ โอ้สงสารหลานสาวเหล่าข้าหลวง อยจู่ งดไี ด้เปน็ หม่อมใหพ้ ร้อมเพรยี งฯ
ไมร่ ู้เทา่ เจา้ ท้ังนน้ั เสยี ช้ันเชงิ ใส่เรือพว่ งพวกแห่เซง็ แซเ่ สยี ง
ได้ฉันลมชมลนิ้ เสยี ส้นิ แลว้ เรอื รายเรียงร้องขับตที ับโทน
จะนับเดอื นเลือนลับไปนบั ปี

๏ โอ้เดอื นอา้ ยไมข่ าดกระจาดหลวง
อกึ กระทึกครกึ โครมคบโคมเคียง

บา้ งเขียนหน้าทาดายนื ราเตน้ 49
พวกขี้เมาเหลา่ ประสกตลกโลน
ลว้ นเรือใหญ่ใสก่ ระจาดย่ามบาตรพรอ้ ม ลางลาเลน่ ง้ิวหนงั มีทงั้ โขน
ท้งั ขุนนางต่างมาด้วยบารมี ร้องโย้นโหยนโย้นฉบั รับชาตรี
ของขนมส้มสกู ทงั้ ลกู ไม้ ของคณุ หม่อมจอมมารดาเจ้าภาษี
พรา้ วออ่ นด้วยกล้วยออ้ ยนับรอ้ ยเครอื ปพ่ี าทยต์ ีเตน้ ราทุกลาเรือ
แลว้ เราได้ไตรดแี พรสแี สด หมเู ปด็ ไกก่ งุ้ แหง้ แตงมะเขือ
โอแ้ ตน่ ี้มไิ ด้เห็นเหมอื นเช่นนัน้ จนล้นเหลอื เกลือปลาร้าสารพนั
เหลอื อาลัยใจเอ่ยจะเลยลบั สบงแปดคืบจัดเปน็ สตั ตขนั ธ์
ให้เขนิ ขวยดว้ ยวา่ วาสนานอ้ ย นบั คืนวันปเี ดอื นจะเล่อื นลอย
ออกวัสสาผ้าสบงกระทงเข้า เหลืออาภัพพูดยากเหมือนปากหอย
ไมแ่ หงนเงยเลยกลัวเจ้าขรัวนาย ตอ้ งหน้าจอ๋ ยน้อยหน้าระอาอาย
สวดมนตจ์ บหลบออกขา้ งนอกเล่า พระองคเ์ จ้าจบพระหตั ถจ์ ัดถวาย
สู้หลับตามาจนสุดถึงกุฎี สารวมกายกม้ หน้าเกรงบารมี
ปะแต่เหลา่ สาวแซ่ห่มแพรสี
๏ ตง้ั แตน่ ้มี ไิ ดห้ ลบไม่พบแล้ว เหมือนไม่มตี าตวั ด้วยกลัวตายฯ
จะเงยี บเหงาเชา้ เยน็ จะเว้นวาย จงผ่องแผ้วพักตรเ์ หมอื นดง่ั เดือนหงาย
เหมอื นใบศรมี ีงานทา่ นสนอม โอใ้ จหายหมายมาดเคลื่อนคลาดคลา
พอเสร็จการทา่ นเอาลงท้ิงคงคา เจมิ แปง้ หอมนา้ มนั จนั ทน์ใหห้ รรษา
เหมือนตัวเราเล่ากพ็ ลอยเลอื่ นลอยลบั ตอ้ งลอยมาลอยไปเปน็ ใบตอง
โอ้ทองหยบิ ลิบลอยทั้งฝอยทอง มิได้รับไทยทานดูงานฉลอง
มไิ ดค้ รองไตรแพรเหมือนแตเ่ ดมิ ฯ
๏ พระสงิ หะพระอภยั พระทยั จดื ไม่ยาวยืดยกยอชะลอเฉลมิ
เมอื่ กระนน้ั จนั ทน์และกระแจะเจิม ไดพ้ ูนเพม่ิ เหิมฮกึ อยู่ตกึ ราม
ครั้นเหนิ ห่างรา้ งเรดิ กเ็ กดิ ทุกข์ ไพรีรุกบกุ เบียฬเปน็ เส้ียนหนาม
สตู้ ่าตอ้ ยน้อยตัวเกรงกลวั ความ ดว้ ยเป็นยามยากจนจาทนทานฯ
เจา้ ไกรลาสโลกามหาสถาน
๏ ขอเดชะพระสยมบรมนาถ ถอื พดั ตาลตาไฟประลยั กลั ป์
ทรงงัวเผือกเงอื กหงอนสังวรสงั วาล ใหต้ ายเกดิ สน้ิ สดุ มนษุ ย์สวรรค์
ประกาศติ อิทธิเวทวิเศษประเสรฐิ พระโปรดฉันเชญิ ช่วยอานวยพร
ตรัสอยา่ งไรไปเป็นเหมือนเชน่ นนั้ ใหส้ มหวงั ดงั จานงประสงค์สมร
เผอื่ ว่าจกั รักใคร่ท่ไี หนมัง่ เจรญิ พรภิญโญเดโชชยั
ทรงเวทมนตร์ดลประสิทธฤ์ิ ทธิรอน

ที่หวังช่นื กลืนกลัน้ กระสันสวาท 50
มติ รจติ ขอให้มิตรใจไป
อย่าแคล้วคลาดเคลือบแคลงแหนงไฉน
๏ ขอเดชะพระนารายณ์อยู่สายสมุทร ทมี่ ืดไม่เห็นห้องชว่ ยส่องเทียนฯ
มงั กรกอดสอดประสานสงั วาลเวียน พระโพกภุชงคเ์ ฉลิมเสริมพระเศียร
ทรงจักรสงั ขท์ งั้ คทาเทพาวุธ สถติ เสถียรแทน่ มหาวาสกุ รี
ขอมหาอานุภาพปราบไพรี เหยียบบา่ ครุฑเทีย่ วทวาทศราศี
ท่ีคนคิดริษยานนิ ทาโทษ อยา่ ใหม้ มี ารขวางระคางระคาย
ศตั รเู งียบเรียบรอ้ ยจะลอยชาย พระเปล้ืองโปรดปราบประยูรให้สญู หาย
ไปเชยสายสดุ สวาทไมข่ าดวันฯ
๏ ขอเดชะพระมหาวายุพัด พมิ านอศั วราชเผน่ ผาดผัน
ทรงสเี หลอื งเครื่องไฟประลัยกัลป์ กุมพระขรรคก์ รดกระหวดั พดั โพยม
ขอเดชาวายุเวกจะเศกเวท พอหลับเนตรพรบิ หน่ึงไปถงึ โฉม
จะสอพลอฉอเลาะปะเหลาะประโลม เหมอื นกนิ โสมโศกสรา่ งสว่างทรวง
สุมามาลยบ์ านแบง่ แมลงภู่ ขอสิงสู่สมสงวนไมค่ วรหวง
จะเหอื ดสนิ้ กล่ินอายเสียดายดวง จะหลน่ รว่ งโรยรสตอ้ งอดออมฯ
เชยทแ่ี ย้มยิ้มพรายไมห่ ายหอม
๏ โอ้อกเอย๋ เชยอ่ืนไม่ช่นื แชม่ ยงั แปลงปลอมเปล้ืองปลิดไพจติ รา
แตห่ สั นยั น์ตรัยตรึงสท์ า่ นถึงจอม สบื ประยรู อยู่ถึงดาวดงึ สา
ไดบ้ ตุ รที ีร่ กั ยักษอ์ สรู เหมอื นอนิ ทราตรงึ สต์ รยั เป็นไรมฯี
เราเปน็ มนุษย์สดุ รกั ตอ้ งลักพา ประสงค์ซง่ึ เสนห่ าสรอ้ ยสาหรี
ดวงใดดมี กี ลน่ิ รวยรินรส
๏ อย่าประมาทชาติหมู่แมงภูผ่ ง้ึ ฟบุ แฝงเฝา้ เฟน้ ฟอนเกสรสด
ดดู อกไมใ้ นจงั หวดั ปฐั พี ถา้ กลิน่ ใกล้ได้รสเหลอื อดออม
พอบานกลีบรีบถงึ ลงคลึงเคลา้ สรอ้ ยสาหรรี าเพยระเหยหอม
สัจจงั จรงิ ม่งิ ขวญั อยา่ รันทด ต้องอดออมอกตรมระทมทวี
อันโกสุมพุ่มพวงดอกดวงน้ี เม่ือผดิ ชอบผ่ายหน้าจะพาหนี
ภมรมาดปรารถนาจึง่ มาตอม แต่เพยี งพนี่ กี้ ไ็ ดด้ ว้ ยงา่ ยดาย
แมน้ รับรักหักวา่ เมตตาตอบ เขายังลกั ไปเสียได้ดัง่ ใจหมาย
เหมือนอเิ หนาเขากร็ ู้ไม่สูด้ ี รู้จักฝ่ายฟา้ ดินชินชานาญ
อยา่ หลบหลดู่ ูถกู แตล่ ูกยักษ์ ป้อมกาแพงแหลง่ ล้อมพรอ้ มทหาร
เหมือนตวั พนี่ ี้ก็ลือวา่ ช่ือชาย ช่วยบันดาลได้สมอารมณ์ปองฯ
ถึงนทั สี ขี เรศขอบเขตแขวง
เดชะฤทธ์วิ ทิ ยาปรีชาชาญ

๏ จรงิ จริงนะจะไปอ้มุ เน้ือนุม่ นว่ ม 51
อยูท่ า้ ยพระจะไดเ้ รยี งเคียงประคอง
พอลมดพี ่ีจะให้ใช้ใบแล่น ลงนั่งรว่ มเรอื กลพยนต์ผยอง
แสนสบายสายสมุทรสุดสายตา ครรไลล่องลอยชะเลเหมอื นเภตรา
ในสาชลวนลกึ โครมครึกคลนื่ ไปตามแผนทป่ี ระเทศเพศภาษา
เห็นฝงู ปลานาคินสน้ิ ทง้ั ปวง เหน็ แต่ฟา้ นา้ เขียวเปลา่ เปลีย่ วทรวง
แขกฝาหร่ังมงั ค่าพวกพาณชิ สุดจะฝืนฝ่าชะเลหลวง
เขา้ ประเทศเขตแดนเลยี บแล่นเล็ม เกดิ ในหว้ งหอ้ งมหาคงคาเคม็
ถา้ แม้นว่าปลาวาฬผุดผา่ นหน้า สังเกตทศิ ถ่นิ ทางตอ้ งวางเขม็
แนวชลานา่ ชมแมน้ ลมดี เขาไปเต็มไปตามทางกลางนัที
เยน็ ระรน่ื คล่นื เรียบเงียบสงบ เรอื ไม่กลา้ ใกล้เคียงหลกี เลี่ยงหนี
แมน้ ควันคลุ้มกลุ่มกลมเป็นลมแดง ดเู ร็วรีเ่ รือเร่อื ยไม่เหนอื่ ยแรง
บดั เดยี๋ วคล่ืนครื้นครกึ สะทกึ โถม มหรณพพลบิ เนตรในเขตแขวง
เสียงฮอื ฮอื อือ้ องึ ตูมตึงตงั เปน็ สายแสงเสียงลัน่ สน่นั ดัง
ข้นึ สาดโทรมดาดฟ้าคงคาขัง
ด้วยกาลงั ลมกล้าสลาตนั ฯ

[ภำพคณะนักศกึ ษำกบั ภำพสีม่ ิต]ิ

๏ แต่เรือเราเบาฟอ่ งถงึ ต้องคลืน่ ก็ฝ่าฝนื ฟสู บายแล่นผายผนั
แมเ่ หน็ คล่นื คร้นื เครงจะเกรงครัน จะรบั ขวัญอมุ้ นอ้ งประคองเคียง
จะเขยี นธงลงยันต์ปักกนั คล่ืน ให้หายร่ืนราบเรียบเงยี บเซียบเสยี ง
จะแย้มสรวลชวนน่ังท่ีตัง่ เตียง ใหเ้ อนเอยี งแอบอ่นุ ละมนุ ทรวง
จะแสนช่ืนรน่ื รสแปง้ สดหอม เห็นจะยอมหยอ่ นตามไม่ห้ามหวง
เหมอื นไดแ้ ก้วแววฟ้าจนิ ดาดวง ไว้แนบทรวงสมคะเนทกุ เวลาฯ

๏ ออกลกึ ซง้ึ ถงึ ที่ช่ือสะดือสมทุ ร 52
ดูพลงุ่ พลุง่ วุ้งวงหว่างคงคา
เรือลูกคา้ พาณิชไม่ชิดเฉยี ด เหน็ นา้ สดุ สงู ฟมู ดั่งภมู ผา
แลชะเลเภตราบา้ งมาไป สูดนาวาเวียนวนไม่พน้ ไป
แมน้ พรายน้าทาฤทธิ์นมิ ติ รูป แล่นกา้ วเสียดหลีกลาตามนา้ ไหล
ตอ้ งสมุ ไฟใส่ประโคมให้โหมฮอื เห็นไรไรร้วิ ริว้ เทา่ นว้ิ มอื
สวา่ งวูบวงแดงดง่ั แสงกระสือ
๏ แตต่ ัวพีม่ ีอุบายแก้พรายผุด พัดกระพอื เผาหนงั แกร้ ังควานฯ
ทิง้ พรายน้าทาลายวอดวายปราณ เศกเพลงิ ชดุ เช่นกบั ไฟประลัยผลาญ
ดูปลาใหญ่ในสมุทรผุดพน่ น้า มิให้พานพกั ตรน์ ้องอยา่ หมองมัว
พุ่งทะล่ึงถงึ ฟา้ ดูน่ากลัว มืดเหมือนคลา้ คลมุ้ บดสลดสลัว
จะหยอกเย้าเฝา้ ย่วั ให้หวัวเราะ แตล่ ะตัวแตล่ ะโขดนับโยชนย์ าว
สาคเรศเขตแคว้นทกุ แดนดาว ชวนชมเกาะกะเปาะกลมชื่อนมสาว
เรอื สลดั ตัดระการ้อยลาหวาย ดูเรือชาวเมอื งใช้ใบไปมา
น้าวกระเชยี งเสียงเฮสุเรสุรา ทาเรอื คา่ ยรายแลน่ ลว้ นแน่นหนา
เหมอื นเรือเปล่าเสากระโดงลดลงซอ่ น ใสเ่ สอื้ ผ้าโพกนน้ั ลงยนั ตร์ าย
ตัวคนได้ไมล่ ้างให้วางวาย ปลอมเรอื จรจบั บรรดาลูกค้าขาย
เจาะตนี หวายร้อยสน้ ทกุ คนไปฯ
๏ โดยหากว่าถ้าไปปะเรือสลดั ศรีสวสั ดิแ์ ววจะพรั่นประหวัน่ ไหว
จะอมุ้ วางกลางตักสะพกั ไว้ โบกธงชัยใหจ้ งั งงั กาบังตา
แลว้ จะใชใ้ บเยื้องไปเมอื งเทศ ชมประเภทพวกแขกแปลกภาษา
ทั้งหนมุ่ สาวเกล้ามวยสวยโสภา แตง่ กายาอย่างพราหมณง์ ามงามดี
ล้วนน่งุ หม่ โขมพสั ตรถ์ อื สจั ศิล ใส่เพชรนิลแนมประดับสลับสี
แลพิลึกตึกตั้งล้วนมั่งมี ชาวบุรีขี่รถบทจรฯ
จดั ซอื้ แหวนเพชรรตั น์ประภัสสร
๏ จะเชญิ แกว้ แววเนตรขึ้นเขตแควน้ สวา่ งร้อนรับขวัญทกุ วันคนื
ให้สร่างทรวงดวงสุดาสถาวร ให้ใช้สอยสารพดั ไมข่ ัดขนื
จะระวงั น่งั ประคองเคียงนอ้ งนอ้ ย ให้แช่มช่นื ชมชะเลทุกเวลาฯ
กลืนไวไ้ ด้ในอุระก็จะกลืน ให้ชมเพลินเนินมะงมุ มะงาหรา
วงศอ์ สญั แดหวาน่าหวัวเราะ
๏ แล้วจะชวนนวลละอองตระกองอมุ้ ไมเ่ หมือนกล่าวราวเรื่องหูเหืองเจาะ
ไปเกาะทอี่ เิ หนาชาวชะวา ไมม่ ีเหมาะหมดจดไม่งดงาม
จมกู โด่งโงง้ งุ้มทง้ั หน่มุ สาว
ไมเ่ พรศิ พร้ิงหญิงชายคล้ายคลา้ ยเงาะ

53

ไมแ่ งง่ อนอ้อนแอน้ แขนไม่อ่อน ไมเ่ หมือนสมรเสมอภาษาสยาม
รูปก็งามนามก็เพราะเสนาะนาม จะพาขา้ มเขา้ ละเมาะเกาะมาลากา
เดิมของแขกแตกฝาหรั่งไปต้ังตึก แลพิลึกครกึ ครื้นขายปนื ผา
เม่ือครงั้ น้ันปันหยีอมุ้ วียะดา ชช้ี มสัตวม์ จั ฉาในสาครฯ
จะชว่ ยชช้ี มตลง่ิ เหลา่ สงิ ขร
๏ แม้นเหมอื นหมายสายสุดใจไปดว้ ยพี่ รอ้ งละคอนอิเหนาเข้ามาลากา
ประคองเคียงเอียงเอกเขนกนอน ไปชมละเมาะเกาะวังกัลพังหา
แล้วจะใชใ้ บบากออกจากฝง่ั เหมือนรุกขาขนึ้ สล้างหวา่ งคีรนิ
เกิดในนา้ ดานิลด่งั ศิลา เวลาน้าขนึ้ กระเพอ่ื มถึงเง้อื มหิน
ชะเลรอบขอบเขาเปน็ เงางา้ ขึ้นมากินเกยนอนชะอ้อนเนนิ
เห็นหุบห้องปล่องชลาฝูงนาคิน เป็นเขตขอบเทพเจ้าจอมเขาเขิน
ภเู ขาน้นั วันหนง่ึ แล่นจง่ึ รอบ เลียบเหลย่ี มเนนิ เพลินชมพนมนลิ
จะชน่ื ชวนนวลละอองประคองเดิน เมด็ มกุ ดาคลืน่ สาดกลางหาดหนิ
จริงนะจ๊ะจะเกบ็ ท้ังกัลพงั หา ระรน่ื กลิ่นไมห้ อมมีพร้อมเพรียง
เบ้ยี อ้ีแกแ้ ลรอบขอบคีริน ศลิ าลาดลดหลนั่ ชน้ั เฉลยี ง
สะพรัง่ ตน้ ผลดอกออกไมข่ าด เปน็ พีเ่ ลีย้ งเพียงพีร่ ว่ มชวี า
จะคอ่ ยเลียบเหยยี บย่องประคองเคียง กา้ แฝฝ่ ิ่นสินธตุ ้นบุหงา
จาปาดะองนุ่ หอมกรุ่นกลิน่ แตน่ กกาก็มไิ ด้ไปใกล้กรายฯ
ด้วยเกาะนี้ทีท่ าเลเทวดา ท่าคล่ืนซดั ซ้ึงวนชลสาย
แตม้ ผา้ ลายกะลาสพี วกตพี มิ พ์
๏ แล้วจะใช้ใบไปดเู มอื งสุหรดั ฉกี วิลาศลายลายองเขียนทองจิ้ม
ตัง้ ตกึ รามตามตล่ิงแขกหญงิ ชาย เรยี บเรียงริมฝง่ั สมทุ รแลสุดตา
พ้ืนมว่ งตองทองชา้ ย่ามะหวาด ชมประเภทพราหมณแ์ ขกแปลกภาษา
ทาท่ีอย่ดู พู ิลกึ ลว้ นตึกทิม ไปมงั กล่าฝาหรงั่ ระวงั ตระเวน
จะตามใจให้เพลินเจริญเนตร ตลบเลี้ยวแลวิ่งดั่งจ้งิ เหลน
ได้แยม้ สรวลชวนใชใ้ บลีลา เวียนตระเวนไปมาท้ังตาปฯี
กาปน่ั ไฟใหญ่นอ้ ยออกลอยเที่ยว พวกเจก๊ แทรกแปลกหนา้ ทาภาษี
ถว้ นเดอื นหนึง่ จึงจะผลัดพวกหัศเกน ตกึ เศรษฐมี ที รพั ย์ประดบั ประดา
ประตหู นา้ ตา่ งติดเครือ่ งรอบเฝอื งฝา
๏ เมืองมังกล่าฝาหรั่งอย่ทู ง้ั แขก วางไว้หนา้ ตึกรา้ นใส่จานราย
แลพลิ กึ ตึกรามงามงามดี
ดูวาวแววแกว้ กระหนกกระจกกระจา่ ง
ล้วนขายเพชรเจ็ดสมี ีราคา

แลว้ ตวั ไปไม่นัง่ ระวงั ของ 54
ด้วยไมม่ ีตีโบยขโมยขมาย
นอกกาแพงแขวงเขตประเทศถ่นิ คนซอ้ื ร้องเรียกหาจึ่งมาขาย
รองอา่ งไว้ใชท้ าแทนน้าตาล ทัง้ หญงิ ชายเชา้ คา่ เขาสาราญ
ถงึ ขวบปมี ีจ่ันทาขวัญตน้ เป็นสวนอนิ ทผาลมั ทบั นา้ หวาน
แมน้ ถึงปมี ีลกู ใครปลูกท้งิ ตอ้ งแตง่ งานขนั หมากเหลือหลากจริง
บ้านตลาดกวาดเล่ยี นเตยี นตะล่ง แตง่ เหมอื นคนขอสู่นางผหู้ ญิง
ไปชมเล่นเช่นฉันว่าประสาสบาย ไมอ่ อกจริงจนั่ หล่นลาต้นตาย
ถึงของหลงลืมไวก้ ็ไม่หาย
๏ จะพาไปให้สร้างทางกศุ ล บา้ นเมอื งรายหลายประเทศตา่ งเพศพนั ธุ์ฯ
ไหวเ้ จดียท์ ท่ี าเลเวฬวุ นั ขนึ้ สิงหลเห็นจะได้ไปสวรรค์
พระรากขวัญอนั เปน็ ยงิ่ เขาสงิ คดุ ร์ฯ
๏ คิดจะใชใ้ บข้ามไปตามเขม็ เขียนมาเต็มเลม่ แลว้ จะสิ้นสมดุ
เหมือนหมายทางต่างทวปี เรอื รีบรุด พอส้นิ สดุ สายมหาอารณพ
เหมือนเรื่องรกั จักประเวศประเทศถนิ่ มทิ นั ส้ินสุดคากจ็ าจบ
แม้นขืนเคืองเปลอื้ งปลิดไม่คิดคบ จะเศร้าซบโศกสะอื้นทกุ คนื วนั
เหมือนยกั ษีทสี่ ิงขรต้องศรกก ปักตรงึ อกอานภุ าพซ้าสาปสรร
อยนู่ พบุรที ี่ตรงหว่างเขานางประจัน เสยี งไกข่ นั ขึ้นนนทรคี อยตซี า้
แสนวิตกอกพญาอุณาราช สุดหมายมาดไม่มีที่อุปถมั ภ์
ศรสะเทอื นเหมือนอรุ ะจะระยา ต้องตซี ้าชา้ ในฤๅทัยระทมฯ
ขอเห็นรกั สกั เท่าซีกกระผีกผม
๏ ถงึ กระไรไดอ้ ุตสา่ ห์อาสาสมคั ร เหมือนนิยมสมคะเนเถดิ เทวญั
พอช่ืนใจไดส้ ว่างสร่างอารมณ์ ให้แจม่ แจ้งแต่งตามเร่อื งความฝนั
ถวลิ หวงั สงั วาสสวาทแสวง ชอื่ ราพนั พิลาปลา้ กาพยก์ ลอน
ฝากฝีปากฝากคาที่สาคัญ สาเนียงเหเ่ ทวญั รมิ บรรจถรณ์
เปรยี บเหมอื นกับขับกล่อมสนอมเสนห่ ์ วานฟงั กลอนกลอยแกเ่ ถิดแม่เอยฯ
เสวยสวัสด์ิวัฒนาสถาวร

[ภำพคณะนกั ศกึ ษำกบั สุนทรภ่]ู

55

เหน็ ทับทิมรมิ กระฎีดอกยโี่ ถ สะอน้ื โออ้ าลยั จิตใจหาย
เห็นตน้ ชาหน้ากระไดใจเสียดาย เคยแก้อายหลายคร้งั ประทงั ทน
ไดเ้ ก็บฉันวันละน้อยอรอ่ ยรส ดว้ ยยามอดอตั คัดแสนขดั สน
จะซ้ือหาชาจีนทรพั ย์สนิ จน จะจากตน้ ชาใหอ้ าลัยชาฯ

นิรำศเมืองแกลง

๏ ถึงหย่อมย่านบ้านระกาดตอ้ งลงถ่อ ค่อยลอยรอเรียงลาตามนา้ ไหล

จนลว่ งเข้าหัวป่าพนาลยั ล้วนเงาไมม้ ือคล้าในลาคลอง

ระวงั ตวั กลวั ตอตะเคียนขวาง เป็นเยี่ยงอยา่ งผูเ้ ฒา่ เล่าสนอง

วา่ ผีสางสองนางตะเคียนคะนอง ใครถกู ตอ้ งแตกตายลงหลายลา

พอบอกกนั ยังมทิ ันจะขาดปาก เห็นเรือจากแจวตรงหลงถลา

กระทบผางตอนางตะเคยี นดา ก็โคลงคว่าล่มลงในคงคา

พวกเรอื พีส่ ี่คนขนสยอง ก็เลยลอ่ งหลีกทางไปขา้ งขวา

พ้นระวางนางรุกขฉายา ต่างระอาเหน็ ฤทธป์ิ ระสิทธิ์จรงิ

ขอนางไมไ้ พรพฤกษเ์ ทพารกั ษ์ ขอฝากภัคนนี ้อยแม่นอ้ งหญิง

ใครสามารถชาตชิ ายจะหมายชงิ ใหต้ ายกลิ้งลงเหมือนตอทีคาเรือ

จนล่วงล่องมาถงึ คลองที่คับแคบ ไมอ่ าจแอบชดิ ฝ่ังระวังเสือ

ดว้ ยคร้ึมครึกพฤกษาลัดดาเครือ คอ่ ยรอเรือเรยี งลอ่ งมานองเนอื ง

ลาพรู ายพรายพรอ้ มหิง่ หอ้ ยจบั สวา่ งวับแวววามอรา่ มเหลอื ง

เสมอเม็ดเพชรรตั น์จารัสเรอื ง คอ่ ยประเทืองทุกข์ทศั นาชม

ถงึ บางสมคั รเหมือนพร่ี ักสมคั รสมาด มาแคลว้ คลาดมไิ ดอ้ ย่กู ับคู่สม

ถึงยามนอนนอนเดีย่ วเปลย่ี วอารมณ์ จะแลชมอน่ื อน่ื ไม่ช่ืนใจ

แสนกันดารบ้านเมืองไมแ่ ลเห็น ยะเยือกเยน็ หย่อมหญ้าพฤกษาไสว

โอค้ ลองเปล่ียวพ่กี เ็ ปล่าเศรา้ ฤทยั จะถึงไหนกไ็ มแ่ จ้งแหง่ สาคญั

ประจวบจนถงึ ตาบลบ้านมะพร้าว พอฟา้ ขาวขอบไพรเสยี งไกข่ ัน

เปน็ ทีก่ ุมภาพาลชาญฉกรรจ์ ใหห้ วาดหว่ันรีบมาในสายชล

ถงึ บางววั เหน็ แตศ่ าลตระหงา่ นน้า ละอองน้าค้างน้อยเปน็ ฝอยฝน

ดาวเดอื นดับลับเมฆเปน็ หมอกใน สุริยนเยีย่ มฟ้าพนาลยั

พอเรอื ออกนอกชะวากปากตะครอง ค่อยลอยลอ่ งตามลาแม่นา้ ไหล

ดูกว้างขวางวา้ งเวิง้ วเิ วกใจ เป็นพงไพรฝูงนกวหิ คบนิ ฯ

๏ ถงึ หย่อมย่านบ้านบางมังกงนนั้ 56
แตล่ ว้ นบา้ นตากปลารมิ วาริน
เห็นศาลเจ้าเหลา่ เจก๊ อยเู่ ซ็งแซ่ ดูเรยี งรันเรอื นเรียบชลาสินธ์ุ
เกเลเอ๋ยเคยข้ามคงคาลัย เหม็นแตก่ ลิ่นเนา่ อบตลบไป
พอพ้นบา้ นลานแลดูปากชอ่ ง ปนู ทะก๋งองค์แก่ขา้ งเพศไสย
แลทะเลเลยี่ นลาดล้วนหาดทราย ชว่ ยคุ้มภยั ปากอ่าวเถดิ เจ้านาย
ไปตามชอ่ งลอ่ งออกไปนอกรั้ว เห็นทิวทอ้ งสมทุ รไทน่าใจหาย
สกั ประเด๋ียวเหลียวดูลาพูเอน ทัง้ สามนายจดั แจงโจงกระเบน
ปา่ แสมแลเห็นอยรู่ ว้ิ ร้วิ เหน็ เมฆมัวลมแดงดังแสงเสน
จะหลบหลีกเขา้ ฝั่งกย็ งั ไกล ยอดระเนนนาบน้าอยรู่ าไร
สงสารแสงแขง็ ขอ้ จนขาสั่น ใหห้ ววิ หววิ วาบวบั ฤทยั ไหว
น้าจะพัดปัดตไี ปสชี งั คลน่ื ก็ใหญ่โยนเรอื เหลอื กาลงั
ปลอบเจ้าพุ่มพิมพาวา่ กรรมแล้ว เห็นเรือหันโกรธบน่ เอาคนหลัง
สงสารนอ้ ยหน้าจอ๋ ยน่ังจัดแจง แล้วคุ้มคลงั่ เงีย่ นยาทาตาแดง
พ่แี ข็งขนื ฝืนภาวนานิ่ง อตุ ส่าหแ์ จวเข้าเถิดพอ่ ใหข้ ้อแขง็
เห็นเกินรอยบางปลาสร้อยอยทู่ า้ ยเรอื คิดจะแต่งตวั ตายไม่พายเรือ
เห็นจวนจนบนเจา้ เขาสามกุ แลตลงิ่ ไรไรยังไกลเหลอื
พอขาดคาน้าขน้ึ ท้ังคล่ืนคลาย คล่ืนก็เฝือฟูมฟองคะนองพราย
หยดุ ตะพานยา่ นกลางบางปลาสรอ้ ย จงช่วยทกุ ขถ์ งึ ท่ีจะทาถวาย
นายแสงหายคลายโทโสทีโ่ กรธา ทัง้ สามนายนา่ ช่นื คอ่ ยเฉ่ือยมา
แลว้ หุงหาอาหารสาราญรน่ื พุ่มกับน้อยสรวลสันต์ตา่ งหรรษา
ฟงั เสียงคลืน่ ครนื้ ครน่ั สนั่นไป ชกั กัญชาน่งั กรมิ่ ย้มิ ละไม
พเ่ี ล็งแลดกู ระแสสายสมทุ ร จนเทย่ี งคนื ขนึ้ ศาลาได้อาศัย
เปน็ ฟองฟงุ้ ร่งุ เรืองอยูร่ างราง ดูมอื ในเมฆานภาภางค์
เห็นคลา้ ยคล้ายปลาวา่ ยเฉวยี นฉวัด ละลิ่วสุดสายตาเห็นฟ้าขวาง
ฝงู ปลาใหญไ่ ลโ่ ลดกระโดดลอย ประเด็นพร่างพรายพราวราวกับพลอย
ระลอกซัดสาดกระเซน็ ขนึ้ เต้นหยอย
๏ จนอทุ ยั ไตรตรสั จารัสตา น้าก็พลอยพร่างพร่างกลางคงคาฯ
ดเู รือแพแต่ละลาล้วนโปะโหละ เหน็ เคหาเรียงรายรมิ ชายทะเล
บ้างลยุ เลนล้วงปูดโู ซเซ พวกเจ๊กจีนกนิ โต๊ะเสียงโหลเหล
อันนารที ่ียงั สาวพวกชาวบา้ น สมคะเนใส่ขอ้ งเที่ยวมองคอย
ดแู คล่วคล่องลอ่ งแล่นแฉลบลอย ถีบกระดานถอื ตะกรา้ เท่ียวหาหอย
อันพวกเขาชาวประมงไม่โหยง่ หยิบ เอาขาหอ้ ยทาเป็นหางไปกลางเลน
จะได้กินข้าวเชา้ ก็ราวเพล ล้วนตนี ถีบปากกดั ขัดเขมร
ดูจัดเจนโลดโผนในโคลนตม

จึงมัง่ คัง่ ตง้ั บ้านในการบาป 57
จะปลูกเรอื นกม็ ไิ ด้ใส่ป้นั ลม
โอ้ดเู รอื นเหมอื นอกเราไร้คู่ แต่ต้องสาปเคหาใหส้ าสม
หรอื ต้องสาปบาปหลงั ยังตดิ ตาม ใครขนื ทาก็ระทมด้วยเพลิงลาม
จะรักใครเขากไ็ มเ่ มตตาตอบ ผูใ้ ดดูจงึ ไม่ออกเอีย่ มสนาม
เอ็นดเู ขาเฝา้ นึกนยิ มเชย ผู้หญิงงามจงึ ไม่มีปรานีเลย
พลางราพงึ ถงึ ทางที่กลางเถอ่ื น สมประกอบได้แตส่ อดกอดเขนย
มีมิตรชายทา้ ยย่านเป็นบ้านไทย โอ้ใจเอ๋ยจะเป็นกรรมนน้ั ร่าไป
จึงคลอ้ ยเคลอื่ นนาวาเข้าอาศยั
๏ ใครพบพักตร์เขาก็ทักว่าทรงซูบ สานักในคูหาขุนจ่าเมอื งฯ
ซงั ตายชน่ื ฝนื ฤทยั ใหป้ ระเทอื ง จะดรู ปู ตวั เองกผ็ อมเหลอื ง
เปน็ สองแถวแนวถนนคนสะพรง่ั เทย่ี วชาเลืองแลชมตลาดเรยี ง
ดรู ูปรา่ งนางบรรดาแม่คา้ เคยี ง บ้างยนื บา้ งนั่งร้านประสานเสยี ง
ขายหอยแครงแมงภู่กับปมู า้ เห็นเกล้ียงเกลีย้ งกลอ้ งแกลง้ เปน็ อย่างกลาง
พวกเจก๊ จีนสินค้าเอามาวาง หมกึ แมงดาหอยดองรองกระถาง
ทชี่ ายผ้าหน้าถงั ก็เปดิ โถง มะเขือคางแพะเผือกผกั กาดดอง
สกั ยี่สบิ หยบิ ออกเปน็ กอบกอง ลว้ นเบยี้ โปง่ หญงิ ชายมาจ่ายของ
ดูกง็ ามตามประสาพนาเวศ พี่เทีย่ วทอ่ งทัศนาจนสายัณห์
แตแ่ รมค้างบางปลาสร้อยได้สามวัน ไม่นวลเนตรเหมือนหน่ึงในไอศวรรย์
พอฟา้ ขาวดาวเดอื นกเ็ ล่ือนลด กช็ วนกันเลยลาขนุ จ่าเมอื ง
จากเคหาชลนาพี่นองเนอื ง อรา่ มรถสุริยาเวหาเหลือง
พอพน้ บ้านลานแลล้วนทุ่งเลย่ี น ขึน้ ประเทืองปลา้ ทุกข์มาตามทาง
ดกู รวดทรายพรายงามเหมือนเงนิ ราง หนทางเตยี นตดั เขา้ ภูเขาขวาง
ดสู ขี าวราวกับนา้ ตาลโตนด หยาดน้าค้างขอ้ หลมุ ที่ขุมควาย
รมิ ทางเถอ่ื นเรือนเหย้ามีรายราย ทหี่ ว่างโขดขอบผาศิลาฉลาย
ถงึ หมองมนมตี าบลชอื่ บา้ นไร่ เห็นฝงู ควายปล่อยเกลอ่ื นอยู่กลางแปลง
ตอ้ งเดินเฉยี งเล่ยี งลัดตัดทแยง เขาถากไมท้ ุกประเทศทุกเขตแขวง
กาดดั แดดแผดร้อนทกุ ขมุ ขน ตามนายแสงนาทางไปกลางไพร
ล้วนละแวกแฝกคาป่าราไร ไมม่ ีตน้ พฤกษาจะอาศยั
ตะวันคล้อยหนอ่ ยหน่งึ จนสุดไร่เลยี บรมิ ทะเลมา
พอพบเรอื นเพ่ือนชายชอื่ นายมา ถงึ บางพระดรู ะยะบ้านนนั้ ก็แน่นหนา
เขาโอภาตอ้ นรับใหห้ ลับนอนฯ

นิรำศพระบำท 58

๏ ถึงเกาะเกดิ เกิดเกาะขึน้ กลางนา้ เหมอื นเกดิ กรรมเกิดราชการหลวง
จึงเกดิ โศกขัดขวางข้นึ กลางทรวง จะตักตวงไว้ก็เติบกวา่ เกาะดนิ
ราพึงพายตามสายกระแสเชีย่ ว ย่ิงแสนเปลีย่ วเปล่าในฤทัยถวิล
สกั ครู่หนึง่ ก็มาถงึ บางเกาะอนิ กระแสสินธส์ุ ายชลเปน็ วนวัง
อันเท็จจรงิ สิ่งนี้ไม่รแู้ น่ ได้ยนิ แต่ยบุ ลแตห่ นหลัง
วา่ ทเ่ี กาะบางอออินเป็นถิ่นวัง กษตั ริย์คร้งั ครองศรอี ยธุ ยา
พาสนมออกมาชมคณานก ก็เรอ้ื รกร้งั รา้ งเป็นทางป่า
อนั คาแจ้งกับเราแกลง้ สงั เกตตา ก็เหน็ นา่ ทจี่ ะแน่กระแสความ
แต่เดย๋ี วนี้มไี ม้กต็ ายโกรน๋ ท้ังเกดิ โจรจระเข้ให้คนขาม
โอฉ้ ะน้แี ก้วพีเ่ จา้ มาตาม จะวอนถามย่านน้าพ่ีร่าไปฯ
ถงึ เกาะพระทีร่ ะยะสาเภาลม่ เภตราจมอยูใ่ นแควกระแสไหล
ถึงเกาะเรยี นโอ้เรียมยงิ่ เกรียมใจ ทีเ่ พ่อื นไปเขาก็โจษกนั กลางเรือ
วา่ คงุ้ หนา้ ท่าเสือข้ามกระแส พ่แี ลแลหาเสือไม่เห็นเสือ
ถ้ามจี ริงก็จะว่ิงลงจากเรอื อทุ ิศเนือ้ ให้เป็นภักษ์พยคั ฆา
ไม่เคยตายเขาบา่ ยนาวาลอ่ ง เข้าในคลองตะเคียนให้โหยหา
ระยะยา่ นบ้านชอ่ งในคลองมา ลว้ นภาษาพวกแขกตะนีอึง
ดูหนา้ ตากไ็ มน่ ่าจะชมช่ืน พี่แขง็ ขืนอารมณท์ ากม้ ขงึ
ท่เี พื่อนเรารอ้ งหยอกมนั ออกองึ จนเรือถงึ ปากชอ่ งคลองตะเคยี นฯ
เหน็ วัดวาอารามตามตล่งิ ออกแจง้ จรงิ เหลือจะจาในคาเขียน
พระเจดยี ด์ กู ลาดดาษเดยี ร การเปรยี ญโบสถก์ ุฏ์ิชารุดพัง
ถงึ วดั ธารมาใหมใ่ จระย่อ ของพระหน่อสุริยว์ งศพ์ ระวังหลัง
อตุ ส่าห์ทรงศรัทธามาประทงั อารามรงั้ หรอื มางามอรา่ มทอง
สงั เวชวัดธารมาทอ่ี าศัย ถงึ สรา้ งใหม่ชือ่ ยังธาระมาหมอง
เหมอื นทุกข์พี่ถึงจะมจี ินดาครอง มงกฎุ ทองสรอ้ ยสะอ้ิงมาใสก่ าย
อนั ตวั งามยามนี้ก็ตรอมอก แสนวิตกมาตามแควกระแสสาย
ถงึ คลองสระปทมุ านาวาราย น่าใจหายเหน็ ศรีอยุธยา
ทัง้ วงั หลวงวังหลงั กร็ ง้ั รก เห็นนกหกซอ้ แซ้บนพฤกษา
ดูปราสาทราชวังเป็นรงั กา ดังปา่ ชา้ พงชฏั สงดั คนฯ
เหงาสงัดเงียบไปดงั ไพรสณฑ์
๏ อนิจจาธานนิ สนิ้ กษัตริย์ จะสับสนแซ่เสียงท้งั เวยี งวัง
แมก้ รงุ ยงั พรั่งพร้อมประชาชน จะโครมครึกเซง็ แซ่ดว้ ยแตรสังข์
มโหรปี ่กี ลองจะกอ้ งกกึ

ดูพารานา่ คิดอนจิ จัง 59
ทั้งสองฝง่ั แฝกแขมแอร่มรก
แต่ปู่ย่ายายเราทา่ นเล่ามา ยังไดฟ้ งั แตเ่ สยี งสกณุ า
กษัตริยส์ ืบสุริยว์ งศ์ดารงโลก ชะตาตกสญู ส้ินพระชันษา
เราเหน็ ยบั ยงั แตร่ อยกพ็ ลอยเพลนิ เม่อื แรกศรีอยธุ ยายงั เจรญิ
กาแพงรอบขอบคูก็ดูลกึ ระงับโศกสุขสุดจะสรรเสรญิ
ยงั ใหม้ ันข้ามเขา้ เอาเวียงชัย เสียดายเกิดมาเม่อื เกนิ น่าน้อยใจ
หรอื ธานินสน้ิ เกณฑจ์ งึ เกิดยุค ไมน่ า่ ศึกอ้ายพมา่ จะมาได้
เหมอื นทกุ วันแลว้ ไม่คัณนาตาย โออ้ ยา่ งไรเหมอื นบุรไี มม่ ชี าย
พี่ดูใจค่ายนอกออกหนกั แน่น ไพรรี ุกรบไดด้ ังใจหมาย
ไม่เห็นจริงใจนางในกลางทรวง ให้ใจหายหวั่นหวน่ั ถึงจนั ทร์ดวงฯ
ขอเทเวศรเ์ ขตสวรรค์ช้นั ดุสติ ดงั เขตแคว้นคูขอบนครหลวง
ใหเ้ หมอื นกรุงเราทกุ วันไม่พรนั่ ใคร ชายทะลวงเขา้ มาบา้ งจะอย่างไร
สรุ ิยนเย็นสนธยายา่ ดลใจมิตรอยา่ ให้เหมือนกบั กรงุ ใหญ่
เขาเรยี กวดั แม่นางปลื้มลมื ราคาญ น่ันแลใจเห็นจะครองกับน้องนานฯ
ช่างแปลงโศกให้เราปลม้ื พอลืมรกั ประทบั ลาเรอื เรยี งเคยี งขนาน
พลพายนายไพร่บรรดามา ใครขนานชอ่ื หนอได้ตอ่ มา
พต่ี นั อกตกยากจากสถาน จะรู้จักคุณจรงิ ไม่แกลง้ วา่
ค่อยขนื เคยี้ วข้าวคาสักกามือ หงุ ข้าวหาฟืนใส่กอ่ ไฟฮอื
จะเจือน้าซ้าแสบในทรวงเสียว เห็นอาหารหวนทอดใจใหญห่ ือ
กินประทับแตพ่ อรบั กบั โรคลม พอกลืนครอื คอแค้นดงั ขวากคม
กแ็ รมรอนนอนวัดแมน่ างปลืม้ มเี คม็ เปร้ยี วกล้ากลืนกข็ ่นื ขม
ทงั้ ไพรน่ ายนอนกลาดบนหาดทราย ครั้นคา่ พรมนา้ ค้างอยูพ่ ร่างพราย
บรรทมเรอื พระทีน่ งั่ บงั วสิ ตู ร พ่ไี ม่ลมื อาลัยใหใ้ จหาย
ครัน้ รุ่งเชา้ ราวโมงหนึ่งนานนาน พงศ์นารายณ์นรนิ ทร์วงศท์ ท่ี รงญาณ
เขารวบรูดรอบดที ้งั สี่ด้าน
๏ เข้าลาคลองหวั รอตอระดะ จดั แจงม่านให้เคลอ่ื นนาวาคลาฯ
เหน็ รอหกั เหมือนหนึง่ รักพีร่ อรา ดเู กะกะรอร้างทางพมา่
พอเลย้ี วแหลมถึงทา่ ศาลาเกวียน แตร่ อทา่ ร้งั ทกุ ขม์ าตามทาง
พีต่ ั้งตาหาเกวียนสองขา้ งทาง ตล่งิ เตียนแลโลง่ ดังคนถาง
แตท่ ุกขร์ ักก็เหน็ หนักถนัดอก หมายจะจา้ งบรรทุกไปท่าเรือ
แตโ่ ศกรกั มาจนหนักในลาเรอื ถงึ สักหกเจด็ เกวียนกเ็ จยี นเหลือ
ถึงบ่อโพงถ้ามโี พงจะผาสกุ เฝา้ เติมเจือไปทกุ คงุ้ ราคาญครันฯ
น่แี ลแลก็เห็นแตต่ ลง่ิ ชนั จะโพงทุกข์เสียให้ส้นิ ท่ีโศกศัลย์
ถึงปากจ่นั ตละเตอื นใหต้ รอมใจ

โอ้นามนอ้ งหรอื มาพ้องกับช่อื บ้าน 60
ถงึ บางระกาโอก้ รรมระยาใจ
ระกากายมาถงึ ทา้ ยระกาบา้ น ลืมราคาญแล้วมานึกราลกึ ได้
โอค้ นผเู้ ขาช่างอย่อู ยา่ งไรเลย เคราะหก์ ระไรจึงมาร้ายไมว่ ายเลย
ถงึ คงุ้ แคว้นแดนพระนครหลวง ระกายา่ นน่กี ็ยาวนะอกเอ๋ย
โออ้ กเอย๋ ยงั จะไปอีกหลายคืน หรอื อยู่เคยความระกาทุกค่าคืนฯ
ถึงแม่ลาเม่อื เรามาก็ลาแม่ ยงิ่ โศกทรวงเสียใจให้สะอ้นื
จะถามขา่ วเช้าเยน็ ไม่เวน้ วาย กว่าจะชน่ื แทบช้าระกากาย
ถงึ อรัญญกิ ยามแดดแผดพยับ แม่จะแลแลหาไมเ่ หน็ หาย
ถงึ ตะเคียนดว้ นดว่ นรบี นาวามา แตเ่ จา้ สายสดุ ใจมไิ ดม้ า
เงื้อมตลงิ่ ง้วิ งามตระหง่านยอด เสโทซบั ซาบโทรมท้ังนาสา
พยยุ วบกิ่งเยือกเขย้ือนใบ ถึงศาลาลอยแลลงิ โลดใจ
ถงึ บา้ นขวางที่ทางนาวาจอด ระกะกอดเกะกะกงิ่ ไสว
ถึงท่าเรือเรือยดั กันอดั แอ ถึงวังตะไลเหน็ บา้ นละลานแล
ท่ีหน้าทา่ รารบั ประทบั หยดุ เรือตลอดแลหลามตามกระแส
เสบียงใครใครน่ังระวงั คุม ดูจอแจจอดริมตลง่ิ ชุม
ฝา่ ยพระหน่อสุริยว์ งศท์ รงสิกขา อุตลุดขนของขนึ้ กองสมุ
ข้างพวกเราเฮฮาลงวารี พร้อมชุมนมุ แนน่ หนา้ ศาลารีฯ
อุระเรยี มเกรยี มตรมอารมณร์ ้อน ขึน้ ศาลาโสรจสรงวารศี รี
แลตลงิ่ วิงหน้านัยน์ตาพราย แต่โดยดใี จตนดว้ ยพ้นพาย
ไดพ้ งึ่ เพอ่ื นเหมือนญาติเมอ่ื ยามเขญ็ ระอาอ่านอกใจมใิ ครห่ าย
พระอาทติ ยม์ ดื มดิ เขา้ เมฆมวั หัวไหล่ตายตงึ ยอกตลอดตัว
กองคเชนทร์เกณฑ์ชา้ งย่สี ิบเชอื ก เขานวดเคลน้ ใหบ้ า้ งก็ยงั ชัว่
ทเ่ี ดินดขี ่กี ูบไม่แกว่งไกว ฟา้ สลัวแดดดบั พยับไพร
แลว้ ผ่อนเกณฑ์กองช้างไว้กลางทุ่ง มาจัดเลือกกองหมอขึ้นคอไส
ที่ส่ีเวรเกณฑก์ นั ไวล้ ้อมวง วิสูตรใส่สองขา้ งเป็นช้างทรง
เวลารงุ่ จะเสดจ็ ขึ้นไพรระหง
พระจอมพงศอ์ ิศยมบรรทมพลนั ฯ

นริ ำศวดั เจำ้ ฟ้ำ 61

เป็นเร่ืองความตามติดทา่ นบิดร ๏ เณรหนพู ัดหัดประดิษฐ์คดิ อกั ษร
พอออกเรอื เมอ่ื ตะวนั สายณั ห์ยา่ กาจดั จรจากนิเวศเชตุพน
ตะลงึ เหลียวเปล่ยี วเปล่าเม่ือคราวจน ละอองนา้ คา้ งย้อยเป็นฝอยฝน
โอ้ธานศี รีอยุธย์มนษุ ย์แนน่ ไมม่ ีคนเกือ้ หนุนกรุณา
จะหารกั สกั คนพอปนยา นบั โกฏิแสนสาวแก่แซภ่ าษา
เสียแรงมพี ป่ี า้ หมอ่ มน้าสาว ไม่เห็นหนา้ นึกสะอื้นฝืนฤทยั
มายามยดื จดื เปร้ียวไปเจียวใจ ล้วนขาวขาวคาหวานนา้ ตาลใส
เหลืออาลยั ลมปากจะจากจรฯ
๏ ถงึ วัดระฆังบงั คมบรมธาตุ แทบพระบาทบุษบงองค์อปั สร
ไม่ทนั ลบั กปั กัลปพ์ ทุ ธนั ดร พระด่วนจรสูส่ วรรคครรไล
ละสมบตั ิขัตตยิ าทง้ั ขา้ บาท โออ้ นาถนึกนา่ น้าตาไหล
เปน็ สญู ลับนับปีแต่นไี้ ป เหลอื อาลยั แลว้ ท่พี ระมีคณุ
ถึงจนยากบากมาเปน็ ขา้ บาท ไม่ขดั ขาดขา้ วเกลือชว่ ยเก้ือหนนุ
ทรงศรัทธากลา้ หาญในการบญุ โอพ้ ระคณุ ขาดยศทง้ั งดงาม
แม้นตกยากพรากพลดั ไปขัดข้อง พัดกบั นอ้ งหนตู าบจะหาบหาม
น่จี นใจในป่าชา้ พนาราม สุดจะตามเสด็จได้ดงั ใจจง
ขออย่บู วชกรวดน้าสรุ ามฤต อวยอทุ ศิ ผลผลาอานิสงส์
สนองคุณพูนสวสั ดิข์ ัตตยิ ว์ งศ์ เป็นรถทรงสูส่ ถานวิมานแมน
มสี รุ างคน์ างขับสาหรับกลอ่ ม ลว้ นเนอื้ หอมนอ้ มเกล้าอยู่เฝ้าแหน
เสวยรมยโ์ สมนสั ไมข่ ัดแคลน เปน็ ของแทนทานาฝา่ ละออง
พระคณุ เอ๋ยเคยทานอุ ุปถัมภ์ ได้อิม่ หนาค่าเชา้ ไม่เศร้าหมอง
แม้นทลู ลามากระนท้ี ้งั พีน่ ้อง ไหนจะต้องตกยากลาบากกาย
น่สี ิน้ บุญทลู กระหม่อมจงึ ตรอมอก ต้องระหกระเหนิ ไปน่าใจหาย
เหน็ ท่ีปลงทรงสญู ยังมูลทราย แสนเสยี ดายดงั จะดิ้นสิน้ ชวี นั
ทง้ั หนูตาบกราบไหวร้ ้องไห้ว่า จะคมลาลับไปในไพรสัณฑ์
เคยเวียนเฝ้าเกล้าจุกให้ทุกวัน สารพนั พ่ึงพาไม่อนาทรฯ
ยิง่ เศร้าสรอ้ ยทรวงนอ้ งดงั ตอ้ งศร
๏ ถงึ ปากง่ามนามบอกบางกอกนอ้ ย ไปแรมรอนราวไพรใจรญั จวน
เหมือนนอ้ ยทรพั ยล์ บั หน้านริ าจร ไปชมแถวทุ่งนาล้วนปา่ สวน
เคยชมเมอื งเรืองระยบั จะลบั แลว้ จะว่างเว้นเหน็ ลว้ นแต่มอมแมม
เคยดูดพี ่ปี ้าหนา้ นวลนวล จะชมหาดเหน็ แต่จอกกบั ดอกแขม
เคยชมชนื่ ร่นื รสแปง้ สดสะอาด ไม่เย้ือนแยม้ กลบี กลิ่นให้ด้ินโดย
โอ้ใจจืดมืดเหมือนเมือ่ เดือนแรม

62

เสียดายดวงพวงผกามณฑาทิพย์ เหน็ ลิบลบิ แลชวนให้หวนโหย

เพราะห่วงพุ่มภมุ รนิ ไมบ่ ินโบย จะร่วงโรยรสส้ินกล่นิ ผกาฯ

๏ จะร่วงโรยรสสน้ิ กล่ินผกาฯ คนรูจ้ กั แจง้ จติ ทุกทิศา

ทกุ วนั นีม้ ีมนุษย์อยุธยา เป็นร้อยหน้าพันหนา้ ยิ่งกวา่ พรหม

โอค้ ิดไปใจหายเสยี ดายรกั เหมอื นเกรียกจักแจกซีกกระผกี ผม

จึงเจ็บอกฟกช้าระกาตรม เพราะลน้ิ ลมล่อลวงจะช่วงใชฯ้

๏ ถึงบางจากน้องไม่มีท่ีจะจาก โอว้ ิบากกรรมสร้างแตป่ างไหน

เผอิญหญิงชงิ ชงั น่าคล่ังใจ จะรักใครเ่ ขาไม่มีปรานีเลย

ถึงบางพลูพลใู บใส่กระบะ ถวายพระเพราะกาพร้านิจจาเอย๋

แมน้ มใี ครใจบญุ ท่ีคุ้นเคย จะไดเ้ ชยพลูจีบหมากดิบเจยี น

นีจ่ นใจไดแ้ ต่ลมมาชมเลน่ เปรียบเหมอื นเช่นฉากฉายพอหายเหียน

แม้นเหน็ รักจักไดต้ ามดว้ ยความเพยี ร ฉีกทุเรียนหนามหนักดูสักคราวฯ

๏ ถึงบางอ้อคดิ จะใคร่ไดไ้ มอ้ อ้ ทาแพนซอเสียงแจ้วเท่ยี วแอ่วสาว

แตย่ ังไมเ่ คยเชยโฉมประโลมลาว สุดจะกลา่ วกล่อมปลอบใหช้ อบใจ

ถงึ บางซอ่ นซ่อนเง่อื นไมเ่ ย้อื นแย้ม ถึงหนามแหลมเหลอื จะบง่ ที่ตรงไหน

โอบ้ างเขนเวรสรา้ งไว้ปางใด จงึ เขญ็ ใจจนไม่มที ่จี ะรัก

เมอ่ื ชาตหิ น้ามาเกดิ ในเลศิ โลก ประสิทธโิ ชคชอบฤทยั ทงั้ ไตรจักร

กระจ้อยรอ่ ยกลอยใจวไิ ลลักษณ์ ให้สาวรักสาวกอดตลอดไปฯ

๏ ตลาดแกว้ แล้วแต่ล้วนสวนสลา้ ง เป็นชอื่ อ้างออกนามตามวสิ ัย

แมน้ ขายแกว้ แววฟ้าท่อี าลยั จะซอ้ื ใส่บนสาลปี ระชีรอง

ประดบั เรือนเหมือนหนึ่งเพชรสาเร็จแลว้ ถนอมแก้วกลอยใจมิให้หมอง

ไม่เหมือนนกึ ตรกึ ตรานา้ ตานอง เห็นแตน่ ้องหนูแนบแอบอุราฯ

๏ถึงวดั ต้งั ฝ่งั สมทุ รพระพทุ ธสร้าง วา่ ทา่ นวางไวใ้ หค้ ิดปรศิ นา

แมน้ แก้ไขไมอ่ อกเอาท่ีตอกตา นึกก็น่าใครห่ วั เราะจาเพาะเป็น

จะคิดม่ังยังคาที่ร่าบอก จะไปตอกทตี่ รงไหนกไ็ ม่เหน็

ดลู ึกซึง้ ถงึ จะคิดก็มดิ เมน้ พอยามเยน็ ยอแสงแฝงโพยมฯ

๏ ถึงวัดเขียนเหมือนหนึ่งเพยี รเขยี นอักษร กลกลอนกลา่ วกลอ่ มถนอมโฉม

เดชะชักรักลกั ลอบปลอบประโลม ขอใหโ้ น้มนอ้ มจติ สนิทใน

ถงึ คลองขวางบางศรที องมองเขมน้ ไม่แลเห็นศรีทองทผ่ี ่องใส

แมน้ ทองคาธรรมดาจะพาไป นม่ี ิใชศ่ รที องเปน็ คลองบาง

พอลมโบกโศกสวนมาหวนหอม เหมือนโศกตรอมตรกึ ตรองมาหมองหมาง

ถึงบางแพรกแยกคลองเปน็ สองทาง เหมือนจดื จางใจแยกไปแตกกัน

ตลาดขวญั ขวญั ฉันนี้ขวญั หาย ใครเขาขายขวญั หรอื จะซือ้ ขวญั

แม้นขวญั ฟ้าหน้าออ่ นเหมือนท่อนจันทน์ 63
ถงึ บางขวางขวางอนื่ สักหม่นื แสน
จะตามไปให้ถึงหอ้ งประคองคาง จะรับขวัญเชา้ เยน็ ไมเ่ วน้ วาง
เห็นสวาทขาดทงิ้ ก่งิ สนัด ถึงตา่ งแดนดงดอนสิงขรขวาง
สวาทพีน่ ก้ี ข็ าดสวาทวาย แต่ขัดขวางขวัญความขามระคาย
เหน็ รกั นา้ พรา่ ออกทงั้ ดอกผล เปน็ รอยตดั ตน้ สวาทใหข้ าดสาย
เปน็ รักเปลา่ เศร้าหมองเหมอื นน้องน้อย แสนเสียดายสายสวาททข่ี าดลอย
ไม่มีคนรักรกั มาหกั สอย
๏ ถึงบา้ นบางธรณีแล้วพีจ่ ๋า เท่ียวล่องลอยเรือรักจนหนกั เรือฯ
เขากินหมหู นพู ัดจะกดั เกลือ แผน่ สธุ ากไ็ ม่ไร้ไม้มะเขือ
ถึงปากเกรด็ เตร็ดเตร่มาเรร่ ่อน ไมถ่ อ่ เรอื แหหาปลาตาแบ
มาถึงเกร็ดเขตมอญสลอนแล เทยี่ วสัญจรตามระลอกเหมอื นจอกแหน
ดูเรือนไหนไม่เวน้ เหน็ ลกู อ่อน ลูกอ่อนแออ้ ้มุ จงู พะรงุ พะรงั
ไม่ยงิ่ ยอดปลอดเปล่าเหมือนชาววงั ไม่หยดุ หย่อนอยู่ไฟจนไหมห้ ลัง
ล้วนเปล่งปลัง่ ปล้มื ใจมาไกลตาฯ
๏ พอออกคลองลอ่ งลาแมน่ า้ วก เหน็ นกหกเหินรอ่ นว่อนเวหา
กระทุงทองล่องเล่ือนคอ่ ยเคล่อื นคลา ดาษดาดอกบวั ขาวคลัวเคลีย
นกกาน้าดาปลากระสาสูง เป็นฝูงฝูงเข้าใกล้มนั ไปเสยี
นกยางขาวเหลา่ นกยางมีหางเปีย ล้วนตัวเมียหมดสิน้ ท้ังดนิ แดน
ถึงเดือนไขไ่ ปลบั แลเมอื งแมม่ า่ ย ขนึ้ ไขช่ ายเขาโขดนับโกฏแิ สน
พอบนิ ได้ไปประเทศทุกเขตแคว้น คนท้งั แผน่ ดินมไิ ด้ไข่นกยาง
โอน้ ึกหวงั สังเวชประเภทสัตว์ ตอ้ งขาดขดั คคู่ รองจงึ หมองหมาง
เหมือนอกชายหมายมิตรคิดระคาง มาอ้างว้างอาทะวาเอกากายฯ
ล้วนหูยานอย่างบ่วงเหมอื นห่วงหวาย
๏ถึงบ้านลาวเหน็ แต่ลาวพวกชาวบา้ น ล้วนกรดี กรายหยิบหยง่ ทรงสาอาง
ไม่เหมอื นลาวชาวกรงุ ทีน่ ุ่งลาย มแี ต่ปดเปน็ อันมากเขาถากถาง
ถึงบางพดู พดู มากคนปากหมด เหมอื นหญิงชา่ งฉอเลาะปะเหลาะชายฯ
พ่ีพูดนอ้ ยค่อยประค่นิ ล้ินลูกคาง

นริ ำศภเู ขำทอง 64

รับกฐนิ ภญิ โญโมทนา ๏ เดอื นสิบเอ็ดเสรจ็ ธุระพระวสา
ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส ชลุ ีลาลงเรอื เหลืออาศัย
สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย เมอื่ ตรุษสารทพระวสาได้อาศัย
อาวาสราชบุรณะพระวิหาร มาจาไกลอารามเมอ่ื ยามเยน็
เหลือราลึกนกึ นา่ น้าตากระเด็น แต่นน้ี านนับทิวาจะมาเหน็
จะยกหยบิ ธบิ ดเี ปน็ ที่ตงั้ เพราะขุกเขญ็ คนพาลมารานทาง
จึง่ จาลาอาวาสนริ าศรา้ ง ก็ใชถ้ ังแทนสัดเห็นขัดขวาง
มาอา้ งวา้ งวิญญาณในสาครฯ
๏ ถงึ หนา้ วังดังหนง่ึ ใจจะขาด คิดถึงบาทบพิตรอดิศร
โอ้ผา่ นเกลา้ เจา้ ประคุณของสนุ ทร แตป่ างกอ่ นเคยเฝ้าทกุ เชา้ เยน็
พระนพิ พานปานประหนงึ่ ศรี ษะขาด ดว้ ยไร้ญาติยากแค้นถึงแสนเข็ญ
ทั้งโรคซ้ากรรมซดั วิบัติเปน็ ไม่ลมื เห็นพซี่ ง่ึ จะพง่ึ พา
จะสรา้ งพรตอตสา่ ห์สง่ สว่ นบุญถวาย ประพฤตฝิ า่ ยสมถะท้งั วสา
เปน็ สง่ิ ของฉลองคุณมุลิกา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาตไิ ปฯ
คิดถึงครง้ั กอ่ นมานา้ ตาไหล
๏ ถงึ หนา้ แพแลเห็นเรือที่น่งั แลว้ ลงในเรือท่นี ั่งบัลลังกท์ อง
เคยหมอบรับกับพระจมน่ื ไวย เคยรับราชโองการการอา่ นฉลอง
เคยทรงแตง่ แปลงบทพจนารถ มิไดค้ ลอ่ งเคืองขัดหัทยา
จนกฐนิ สน้ิ แมน่ า้ แลลาคลอง ละอองอบรสรืน่ ชืน่ นาสา
เคยหมอบใกล้ไดก้ ลนิ่ สุคนธต์ ลบ วาสนาเรากส็ น้ิ เหมอื นกล่นิ สุคนธ์ฯ
สิ้นแผ่นดินส้ินรสสุคนธา ตง้ั สติเติมถวายฝ่ายกุศล
ให้ผ่องพน้ ภัยสาราญผา่ นบุรินทร์ฯ
๏ ดูในวังยังเห็นหอพระอัฐิ ไม่เห็นหลกั ลือเล่าว่าเสาหิน
ทง้ั ป่ินเกลา้ เจ้าพภิ พจบสกล มิรู้สนิ้ สดุ ชอ่ื ท่ีลือชา
แมน้ มอดม้วยกลับชาตวิ าสนา
๏ ถงึ อารามนามวัดประโคนปัก อยู่คู่ฟ้าดนิ ได้ดงั ใจปอง
เป็นสาคญั ปันแดนในแผน่ ดิน แพประจาจอดรายเขาขายของ
ขอเดชะพระพทุ ธคณุ ชว่ ย ท้งั สิ่งของขาวเหลืองเคร่อื งสำเภาฯ
อายุยนื หมืน่ เท่าเสาศลิ า มีคนั โพงผูกสายไวป้ ลายเสา
ไปพน้ วัดทัศนารมิ ท่านา้ ใหม้ วั เมาเหมอื นหนง่ึ บา้ เปน็ น่าอาย
มแี พรผา้ สารพดั สมี ว่ งตอง สรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย
ไมใ่ กล้กรายแกลง้ เมินกเ็ กนิ ไป
๏ ถึงโรงเหลา้ เตากล่ันควันโขมง
โอ้บาปกรรมน้านรกเจยี วอกเรา
ทาบญุ บวชกรวดนา้ ขอสาเรจ็
ถึงสุราพารอดไมว่ อดวาย

ไมเ่ มาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก 65
ถงึ เมาเหล้าเช้าสายกห็ ายไป
สุดจะหกั หา้ มจติ คิดไฉน
๏ ถงึ บางจากจากวัดพลัดพีน่ อ้ ง แต่เมาใจนีป้ ระจาทกุ ค่าคนื ฯ
เพราะรกั ใคร่ใจจดื ไมย่ ืดยืน มามัวหมองมว้ นหน้าไม่ฝ่าฝนื
ถงึ บางพลูคดิ ถงึ คเู่ มอื่ อยู่ครอง จึงตอ้ งเขินในภาคมาจากเมอื ง
ถงึ บางพลดั เหมอื นพพ่ี ลัดมาขดั เคอื ง เคยใส่ซองส่งใหล้ ว้ นใบเหลือง
ถงึ บางโพธ์ิโอพ้ ระศรีมหาโพธิ์ ท้ังพลัดเมอื งพลัดสมรมาร้อนรน
ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ร่มนิโรธรกุ ขมลู ใหพ้ นู ผล
ใหผ้ อ่ งพ้นภยั พาลสาราญกายฯ
๏ ถึงบ้านญวนล้วนแต่โรงแลสะพรงั่ มขี อ้ งขงั กุ้งปลาไวค้ ้าขาย
ตรงหน้าโรงโพงพางเขาบางราย หญงิ ชายพร้อมเพียงมาเมยี งมอง
จะเลย้ี วกลับรบั เขตประเทศสถาน ทรมานหม่นไหมฤ้ ทัยหมอง
ถงึ เขมาอารามอร่ามทอง พ่งึ ฉลองเลกิ งานเม่อื วานซนื ฯ
มาผกู โบสถก์ ็ได้มาบชู าชืน่
๏ โอป้ างหลังครั้งสมเด็จพระบรมโกศ ทั้งแปดหมืน่ สีพ่ นั ได้วันทา
ชมพระพมิ พร์ มิ ผนงั ยงั ยงั่ ยนื เพราะตัวต้องตกประดาษวาสนา
กค็ รั้งนีม้ ไิ ด้เหน็ เล่นฉลอง พอนาวาติดชลก็วนเวียน
เป็นบญุ นอ้ ยพลอยนกึ โมทนา กลบั กระฉอกฉาดฉนั ฉวดั เฉวยี น
ดูน้าว่ิงกลง้ิ เชีย่ วเป็นเกลยี วกลอก ดูเปลี่ยนเปล่ยี นคว้างควา้ งเป็นหวา่ งวน
บ้างพลุ่งพลงุ่ ว้งุ วงเหมือนกงเกวียน ครรไลลว่ งเลยทางมากลางหน
ท้งั หัวท้ายกรายแจวกระชากจ้วง ใจยงั วนหวังสวาทไม่คลาดคลาฯ
โอเ้ รือพน้ วนมาในสาชล สองฟากฝ่งั ก็แตล่ ้วนสวนพฤกษา
เหมือนกลน่ิ ผา้ แพรดาร่ามะเกลือ
๏ ตลาดแกว้ แล้วไม่เห็นตลาดต้ัง ทั้งรกั แซงแซมสวาทประหลาดเหลือ
โอร้ นิ รินกลิน่ ดอกไม้ใกลค้ งคง เพราะรกั เรอื้ แรมสวาทมาคลาดคลาย
เหน็ โศกใหญใ่ กลน้ ้าระกาแฝง มพี ่วงแพแพรพรรณเขาคา้ ขาย
เหมือนโศกพ่ีท่รี ะกากช็ ้าเจือ พวกหญงิ ชายชมุ กนั ทกุ วนั คนื ฯ
ถึงแขวงนนทช์ ลมารคตลาดขวัญ ยามวิโยคยากใจใหส้ ะอน้ื
ทง้ั ของสวนล้วนแต่เรอื เรียงราย ถึงสีห่ มืน่ สองแสนท้งั แดนไตร
ไมม่ ีทีพ่ สธุ าจะอาศัย
๏ มาถึงบางธรณีทวีโศก เหมอื นนกไรร้ งั เรอ่ ยู่เอกาฯ
โอ้สุธาหนาแนน่ เปน็ แผ่นพ้ืน ผ้หู ญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
เมื่อเคราะห์รา้ ยกายเรากเ็ ท่าน้ี ทัง้ ผดั หนา้ จบั เขมา่ เหมอื นชาวไทย
ล้วนหนามเหนบ็ เจบ็ แสบคับแคบใจ เหมือนอย่างเย่ยี งชายหญงิ ทิ้งวิสัย

๏ ถงึ เกร็ดย่านบา้ นมอญแตก่ ่อนเกา่
เดย๋ี วนีม้ อญถอนไรจุกเหมือนตุก๊ ตา
โอส้ ามัญผันแปรไม่แทเ้ ทย่ี ง

น่ีหรือจิตคดิ หมายมีหลายใจ 66
๏ ถึงบางพูดพดู ดเี ปน็ ศรศี กั ด์ิ
ทจี่ ติ ใครจะเป็นหนึ่งอย่าเพ่งิ คิดฯ
แมน้ พูดชั่วตัวตายทาลายมติ ร มคี นรักรสถ้อยอรอ่ ยจิต
๏ ถงึ บา้ นใหมใ่ จจิตก็คิดอา่ น จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพดู จาฯ
จะหาบ้านใหม่มาดเหมือนปรารถนา
ขอใหส้ มคะเนเถิดเทวา จะได้พาสุขสวัสดิจ์ ากดั ภยั
ถงึ บางเดื่อโอม้ ะเด่อื เหลอื ประหลาด บงั เกดิ ชาติแมลงหว่มี ใี นไส้
เหมอื นคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน อุปไมยเหมอื นมะเดื่อเหลอื ระอา
ถึงบางหลวงเชงิ รากเหมือนจากรัก สเู้ สียศกั ด์สิ ังวาสพระศาสนา
เป็นลว่ งพน้ รนราคราคา ถึงนางฟา้ จะมาให้ไมใ่ หญ่ดีฯ
พระพทุ ธเจา้ หลวงบารุงซงึ่ กรงุ ศรี
๏ ถงึ สามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า ช่อื ปทมุ ธานเี พราะมีบวั
ประทานนามสามโคกเปน็ เมืองตรี แต่ชอื่ ต้ังก็ยงั อยเู่ ขารทู้ ่ัว
โอ้พระคณุ สญู ลับไมก่ ลับหลงั ไมร่ อดชว่ั เชน่ สามโคกย่ิงโศกใจ
โอเ้ ราน้ีท่สี นุ ทรประทานตัว ต้องเทย่ี วเตร็ดเตร่หาที่อาศยั
สน้ิ แผ่นดนิ ส้นิ นามตามเสด็จ ขอให้ได้เปน็ ขา้ ฝ่าธลุ ี
แมน้ กาเนิดเกดิ ชาติใดใด อยา่ รรู้ า้ งบงกชบทศรี
สิ้นแผ่นดินขอใหส้ ิน้ ชีวิตบ้าง ทกุ วนั นี้ก็ซงั ตายทรงกายมาฯ
เหลอื อาลยั ใจตรมระทมทวี

นริ ำศเมอื งเพชร 67

ทอ้ งฟา้ ครามน้าค้างลงพร่างพราย ๏ โอร้ อนรอนอ่อนแสงพระสุริย์ฉาย
อนาถหนาวคราวอาสาเสด็จ พระพายชายชน่ื เชยราเพยพาน
ลงนาวาหนา้ วดั นมสั การ ไปเมืองเพชรบุรีท่ีถนิ่ สถาน
ช่วยชุบเล้ียงเพียงชนกท่ีปกเกศ อธิษฐานถึงคุณกรณุ า
จึงจดหมายรายทางกลางคงคา ถงึ ต่างเขตของประสงค์คงอาสา
แตน่ าวาเล้ยี วล่องเข้าคลองนอ้ ยฯ
๏ ได้เหน็ แต่แพแขกทแ่ี ปลกเพศ ขายเคร่อื งเทศเคร่อื งไทยไดใ้ ชส้ อย
ถงึ วดั หงษเ์ ห็นแต่หงษเ์ สาธงลอย เป็นหงส์ห้อยหว่ งธงใชห่ งษ์ทอง
ถึงวัดพลับลบั ล้เี ป็นที่สงดั เห็นแตว่ ดั สงั ขก์ ระจายไมว่ ายหมอง
เหมือนกระจายพรายพัดกาจดั นอ้ ง มาถงึ คลองบางลาเจียงสาเหนียกนาม
ลาเจียกเอ๋ยเคยช่ืนระรน่ื รส ตอ้ งจาอดออมระอาด้วยหนาหนาม
ถึงคลองเตยเตยแตกใบแฉกงาม คดิ ถึงยามปลกู รกั มักเป็นเตย
จนไมม่ ีทร่ี กั เปน็ หลักแหลง่ ตอ้ งควา้ งเคว้งคว้าหานจิ จาเอย๋
โอเ้ ปลีย่ วใจไรร้ กั ทจี่ ักเชย ชมแต่เตยแตกหนาเม่ือยามโซ
ถึงบางหลวงลว่ งล่องเขา้ คลองเลก็ ล้วนบา้ นเจก๊ ขายหมอู ยอู่ ักโข
เมยี ขาวขาวสาวสวยล้วนรายโป หวั อกก็อายใจมใิ ช่เล็ก
ไทยเหมือนกนั ครัน้ ว่าขอเอาหอห้อง ตอ้ งขัดข้องแข็งกระด้างเหมอื นอย่างเหล็ก
มเี งนิ งัดขดั งาช้างเหมอื นอย่างเจก๊ ถงึ ลวดเหล็กลนร้อนออ่ นละไมฯ
ไม่เห็นองคน์ างชีอยู่ท่ีไหน
๏ ถงึ วดั บางนางชีมแี ตส่ งฆ์ คิดจะใคร่แวะหาปรึกษาชี
หรอื หลวงชมี ีบ้างเปน็ อยา่ งไร เลยลีลาศลว่ งทางกลางวิถี
ก็มืดคา่ อาลาทิพาวาส มาถงึ ท่ีกจ็ ะตอ้ งนอนนา้ ตา
ถงึ วัดบางนางน้องแมนนอ้ งมี แต่เศรา้ ทรวงสดุ หวงั ทฝ่ี ั่งฝา
ตัวคนเดียวเทีย่ วเลน่ ไม่เปน็ หว่ ง ก็รอบรกั ลกั ลาคิดอาลัย
ทเ่ี หน็ เห็นเป็นแต่ปะได้ประดา มะม่วงพรวนหมากมะพร้าวสาวสาวไสว
จะแลเหลียวเปล่ียวเนตรเป็นเขตสวน หอมดอกไม้กลิ่นกลบอบละอองฯ
พฤกษาออกดอกลกู เขาปลกู ไว้ เคยถนอมนวลปรางมาหมางหมอง
ดเู รืองรองรงุ่ โรจนท์ โี่ บสถร์ าม
๏ โอ้ร่ืนร่นื ชื่นเชยเช่นเคยหอม เป็นเยี่ยงอย่างไว้ในภาษาสยาม
ถงึ บางหว้าอารามนามจอมทอง โอรสราชอารามงามเจรญิ
สาธสุ าธพุ ระองคม์ าทรงสรา้ ง กุฏติ กึ เก๋งกุฏสิ์ ดุ สรรเสรญิ
ในพระโกศโปรดปรานประทานนาม จนเรือเดนิ มาถงึ ทางบางขุนเทยี น
มเี ขอื่ นรอบขอบคดู พู ิลึก
ที่รมิ นา้ ทาศาลาไว้หนา้ เพลิน

68

โอเ้ ทียนเอย๋ เคยแจง้ แสงสวา่ ง มามองหมามดื มิดตะขวิดตะเขวียน
เหมอื นมืดในใจจนต้องวนเวยี น ไม่สอ่ งเทยี นใหส้ ว่างหนทางเลยฯ
พอปอ้ งปิดเปน็ หลังคานจิ จาเอ๋ย
๏ บางประทุนเหมือนประทุนได้อนุ่ จิต ได้พิงเขนยนอนอ่นุ ประทนุ บังฯ
หนาวน้าค้างพร่างพรมลมราเพย ใครหนอมาแนะแหนกนั แต่หลงั
ให้มงั่ แล้วกเ็ หน็ จะเป็นการฯ
๏ ถงึ คลองขวางบางระแนะแวะขา้ งขวา เปน็ เชิงซุ้มสาขาพฤกษาศาล
ทุกวันนี้วิตกเพียงอกพัง ช่วยอุ้มฉานไปเช่นพระอนิรธุ
พออนุ่ อุ่นแลว้ ก็ดเี ป็นที่สดุ
๏ ถึงวดั ไทรไทรใหญ่ใบชอมุ่ เทพบตุ รจะไดช้ ่ืนทุกคนื วนั ฯ
ขอเดชะพระไทรซ่ึงชัยชาญ เขาเลอื่ งลือบอนข้างบางยขี่ นั
ได้รว่ มเตยี งเคยี งนอนแนบหมอนหนนุ แตป่ ากคาแก้ไขมใิ คร่ฟงั ฯ
จะสังเวยหมแู นมแกม้ มนษุ ย์ เปน็ รอยรายปนื พมา่ ท่ฝี าผนงั
แต่โบสถ์ยงั ทนปนื อยยู่ นื นาน
๏ ถงึ บางบอนบอนทนี่ ่ีมีแตช่ ่ือ ให้เรืองรองรงุ่ โรจน์โบสถว์ ิหาร
อนั บอนตน้ บอนน้าตาลย่อมหวานมนั ไดเ้ บกิ บานประตปู า่ พนาลัยฯ
กาดดั ดกึ นึกน่านา้ ตาไหล
๏ ถงึ วดั กกรกรา้ งอยู่ขา้ งซ้าย กจ็ นใจดว้ ยไม่มไี มตรีตรงึ
ถกู ทะลุปรไุ ปแต่ไมพ่ ัง ใครแลดูเรากน็ ึกราลึกถงึ
แมน้ ม่ังมมี ใี ห้รา้ งจะสร้างฉลอง เปน็ ทพ่ี ึ่งพาสนาพอพาใจ
ด้วยที่นีท่ เี่ คยตั้งโขลนทวาร เห็นแตก่ กกอปลงเปน็ พงไสว
เรไรไพเราะร้องช้องสาเนียง
๏ อกเอย๋ เลยออกประตปู ่า เหมือนกรับเกรยี้ วกรอดกรดี วะหวีดเสียง
จะเล้ียวหลงั ส่ังสาลาสุดาใด แซส่ าเนียงหนาวในใจราจวน
ช่างเป็นไรไพร่ผดู้ กี ็มริ ู้ ทั้งสองฟากฟ ังใหอ้ าลยั หวน
จะปรับไหมไดห้ รือไมอ่ ื้อองึ เมอ่ื โอดครวญฟงั ให้วังเวงฯ
กน็ กึ นึกดึกเงียบยะเยียบอก ระยะยา่ นยงุ ชมุ รมุ ขม่ เหง
ลดาวลั ยพ์ นั พมุ่ ชอุ่มใบ ให้วงั เวงวิญญาณ์เอกากาย
เสยี งกรอดเกรียดเขียดกบเขา้ ขบเขีย้ ว เหมอื นมาเดยี วแดนไพรน่าใจหาย
หร่งิ หริง่ แรแ่ มม่ ่ายลองไนเรียง ขา้ งฝ่งั ซา้ ยแสมดาเขาทาฟืน
เหมือนดนตรปี ่ีปา่ ประสายาก โคกมะขามดอกมิใช่อะไรอืน่
ดังขับขานหวานเสียงสาเนียงนวล ย่งิ หนาวชืน้ ช้าใจมาในเรอื
ใจมนษุ ยเ์ หมอื นกระนแ้ี ลว้ ดเี หลอื
๏ ถงึ ศรีษะกระบอื เป็นชอ่ื บา้ น
ท้งั กุมภากล้าหาญเขาพานเกรง
ถงึ ศิษยห์ ามาตามเม่อื ยามเปล่ยี ว
ถงึ ศีรษะละหานเปน็ ย่านร้าย
ถึงโคกขามคร้ามใจได้ไตถ่ าม
ไมเ่ ห็นแจง้ แคลงทางเปน็ กลางคืน
ถงึ ยา่ นซื่อสมช่อื ดว้ ยซื่อสดุ

เปน็ ปา่ ปรงพงพุ่มดูครุมเครอื 69
ถึงบ้านขอมรอมฟนื ดูด่ืนดาษ
ออกชะวากปากชลามมหาชยั เหมือนซุ้มเสือซ่อนร้ายไวภ้ ายใน
มีอาวาสวัดวาท่อี าศัย
๏ ขา้ มฝงั่ ซ้ายชายทะเลเปน็ ลมครน่ึ อโณทยั แย้มเยย่ี มเหลี่ยมพระเมรุฯ
แมน่ า้ กวา้ งว้างเวิง้ เป็นเชิงเลน นภางคพ์ ้นื เผือดแดงดงั แสงเสน
หยุดประทบั ยับยัง้ อยฝู่ ั่งซ้าย ลาพเู อนออ่ นทอดยอดระย้า
บรรดาเรอื เหนอื ใต้ทั้งไปมา แสนสบายบงั ลมรม่ รกุ ขา
บา้ นหงุ ตม้ งมงายทงั้ ชายหญงิ คอยคงคาเกลอื่ นกลาดไมข่ าดคราว
เสยี งแต่ตาน้าพรกิ อยู่กับกรกิ กราว บา้ งแกงปิ้งปากเรียกกันเพรียกฉาว
เหมอื นเสยี งส้าวเกราะโกรง่ ทีโ่ รงงานฯ
๏ เห็นฝงู ลงิ วิ่งตามกนั สอสอ มาคอยขอโภชนากระยาหาร
คนท้ังหลายชายหญงิ ทง้ิ ให้ทาน ตา่ งลนลานล้วงไดเ้ อาไพล่พล้ิว
เวทนาวานรออ่ นนอ้ ยนอ้ ย กระจ้อยรอ่ ยกระจริ ดิ จดิ จีดจิ๋ว
บ้างเกาะแมแ่ ลโลดกระโดดปลิว ดูหอบหิ้วมิให้ถกู ตัวลูกเลยฯ
เพราะแสนสุดเสน่หานจิ จาเอย๋
๏ โอ้พอ่ แมแ่ ตช่ ัน้ ลิงไมท่ ง้ิ บตุ ร กระไรเลยแลเหน็ นา่ เอ็นดู
ทล่ี กู อ่อนป้อนนมนั่งชมเชย จนชาวเรือเมินหมดด้วยอดสู
แตล่ ิงใหญ่อ้ายทโมนมนั โลนเหลือ ใครแลดูมันนักมนั ยกั คิว้
ทัง้ ลงิ เผือกเทอื กเถามันเจ้าชู้ ได้สมานยอดแสมพอแกห้ วิ
บ้างกระโดดโลดหาแตอ่ าหาร ชี้นวิ้ ใหด้ ูอดสูตาฯ
เขาโห่เกรยี วประเดี๋ยวใจก็ไพล่พลว้ิ

70

นริ ำศพระประธม ประสานซอ้ งแซด่ ังแตรสงั ข์
๏ พอจนรงุ่ ฝูงนกวหิ คร้อง เหมอื นชาวหวดี เสียงสาเนยี งนวล
กระเหว่าหวานขานเสยี งสาเนยี งดงั กระจ่างแจ้งแจม่ ฟา้ พฤกษาสวน
อโณทยั ไตรตรัสจารัสแสง เหมือนกลิ่นนวลน้ากุหลาบซงึ่ ทราบทรวง
หอมดอกไม้หลายพรรณให้รญั จวน คร้ันรุง่ รบี บานงามไม่หา้ มหวง
โอ้บปุ ผาสารพดั ทกี่ ลัดกลบี ไดซ้ าบทรวงเสวารสไมอ่ ดออม
ใหช้ น่ื ชมุ่ ภมุ รนิ สิง้ ท้ังปวง มิหล่นเลยละใหห้ ้ม่แู มงภู่สนอม
แตด่ อกฟ้าส่าหรีเจา้ พเ่ี อ๋ย จนหายหอมแลกลอกเหมือนดอกกลอยฯ
จะกลัดกลิ่นสนิ้ รสเพราะมดตอม สูงกว่าฝงู เขาเหินเห็นเกินสอย
๏ ถึงวัดสักเหมือนพึง่ รักที่ศกั ดส์ิ ูง จะได้คอยเคยี งรบั ประคับประคอง
แมนดอกฟา้ คลาเคล่อื นหล่นเลือ่ นลอย ว่าเดิมบางช่อื ถนนเขาขนของ
บางขนุนขุนกองมีคลองกวา้ ง แตค่ นรอ้ งเรียกเฟอื นไมเ่ หมอื นเดิม
เปน็ เรื่องหลงั ครงั้ คราวท้าวอ่ทู อง เหมือนมณีนพรัตน์ฉัตรเฉลิม
สุดาใดได้เพ่อื นอย่าเฟอื นพี่ ใหพ้ นู เพิ่มพศิ วาสอย่าคลาดคลาย
อนั นา้ ในใจรกั ชว่ ยตักเติม ชื่อจึงมมี าทกุ วนั เหมือนมัน่ หมาย
นางนายไกรไกรทองอยคู่ ลองน้ี เปน็ ยอดชายเชยี่ วชาญการวชิ า
ไปเขน็ ฆา่ ชาละวนั ใหท้ ันตาย สมสนิทนางตะเขเ้ สน่หา
ไดค้ รอบครองสองสาวชาวพจิ ติ ร จะเกื้อหน้าพางามข้ึนครามครนั
เหมือนตวั พ่นี ไ้ี ดท้ องแตน่ อ้ งยา แมน้ ปีกมีเหมือนหนงึ่ นกจะผกผนั
ถงึ คลองขวางบางระนกโอ้อกพี่ มาดว้ ยกันกบั ทั้งคทู่ อ่ี ยูร่ มิ
ไปอมุ่ แกว้ แววตาพาจรลั จากคอยชอ้ นโฉมอุ้มไมห่ ยุมหยิม
คงรว่ มเรอื เมื่อวา่ ตืน่ สะอื้นอ้อน กวา่ จะอิม่ อกแอบแนบนิทรา
ใหแ้ ย้มสรวลชวนเสบยเฝา้ เชยชมิ เปน็ จงั หวดั เวียงสวนลว้ นพฤกษา
บางคูเวียงเสียงเงยี บเซยี บสงดั ไมเ่ หมือนหน้านางนง่ั ในวงั เวยี ง
ดูรูปนางบางคูเวยี งเหมอื นเหนยี งนา มคี นต้อนควายตวาดไมข่ าดเสยี ง
เห็นโรงหบี ออ้ ยเขาคอยป้อน โอผ้ ดิ เพยี งชลนาพ่ีจาบลั ย์
เหน็ น้าอ้อยย้อยรางท่อี ่างเรียง น้าออ้ ยตกเหมือนน้าตาพกี่ ว่าขัน
อันลาอ้อยยอ่ ยยบั เหมือนกบั อก เหมอื นอน้ อัน้ อกกลุ้มรมุ ระกา
เขาหอมไฟในโรงโขมงควนั ขา้ งปลายกร่อยชดื ชิมไม่อิ่มหนา
โอ้น้าใจในคนเหมอื นต้นอ้อย น่ันแลนา้ จงึ จะหวานเพราะจานเจือฯ
ต้องหนั หีบหนบี แตกใหแ้ หลกลา ต้องจากทรวงเสียใจอาลยั เหลือ
๏ ถงึ บางมว่ งง่วงจิตคิดถึงง่วง มริ ู้เบ่ือบางม่วงเหมือนดวงใจ
มะม่วงงอมหอมหวนเหมอื นนวลเน้อื

71

เหน็ ต้นรกั หักโค่นต้นสนดั เป็นรอยตดั รักขาดให้หวาดไหว
เหมอื นตดั รักหกั สวาทขาดอาลยั ดว้ ยเหน็ ใจเจ้าเสยี แล้วเจ้าแกว้ ตาฯ
เข้าเทยี บกับกิง่ รักไมพ่ ักหา
๏ ถึงบางใหญ่ใหจ้ อดทอดประทับ จมิ้ ปลาร้าลองดูดว้ ยอยรู่ ิม
เม่ือกนิ ข้าวเขาก็หักใบรักมา เปรียบเหมอื นนางเนือ้ นุ่มท่ีหยมุ หยิม
อร่อยนักรักออ่ นปลาชอ่ นยา่ ง ชอบแบบจรงิ ปลารา้ เปน็ พารวย
อยากรจู้ ักรักใครพ่ ่งึ ได้ชมิ ไม่หักได้เดด็ รกั ไม่พกั ฉวย
ก็รักต้นคนรักเขาหักให้ ใครไม่ช่วยชักนาให้กลนั้ กลนื ฯ
แตร่ ักนอ้ งต้องประสงคจ์ งึ งงงวย ลว้ นของฝากเฟื่องฟคู ่อยชูชื่น
ของอ่ืนอืน่ อักโขล้วนโอชา
๏ เสพอาหารหวานคาวเมือ่ คราวยาก แชอ่ ม่ิ พลับผลชิดเป็นปริศนา
แตม่ ะแป้นแกนในจะไปคืน เหมือนแก้วตาตามตดิ มาชดิ เชอ้ื
เห็นสิ่งของน้องรกั ฟกั จนั อับ แตล่ ะชิ้นชใู จอาลัยเหลือ
พ่จี รจากฝากชิดสนิทมา เพราะน้องเนอ้ื นพคุณกรณุ าฯ
แผน่ ขนนุ วุ้นแห้งของแหง้ สิน้ ไปตามคลองเคลอื่ นคลอ้ ยละหอ้ ยหา
นายชน่ื ชิมอมิ่ หนาท้งั ลาเรอื สะอ้ืนอาลยั ถึงคะนึงนวล
จะยนิ ดดี ว้ ยดอกไม้ทีใ่ นสวน
๏ แล้วเขา้ ทางบางใหญ่ครรไลลอ่ ง ชมลาดวนดอกสม้ ต้นนมนาง
เหน็ สิ่งไรในจงั หวัดรัถยา เอายอดรกั ใหน้ อ้ งเม่ือหมองหมาง
แมน้ แกว้ ตามาเหน็ เหมอื นเช่นน้ี อ้างว้างวิญญาณ์ในสาครฯ
ไม่แจ้งนางถามพี่จะชี้ชวน แตส่ งสารสัตว์นาฝงู กาสอน
ท่ีริมน้างา้ เงอ้ื มจะเออื้ มหกั เหมือนจะร้อนรนร่าทกุ คา่ คนื
ไมเ่ หมอื นหมายสายสวาทมาขาดกลาง ถึงฝนสกั แสนหา่ ไม่ฝา่ ฝืน
จะชชู น่ื ใจพด่ี ้วยปรดี ์เิ ปรม
๏ บางกระบือเห็นกระบือเหมอื นชือ่ บ้าน จะเลอื่ นลอยลงสรงกบั หงส์เหม
ลงปลักเปลือกเกลือกเลนระเนนนอง แสนเกษมสุดสวาทไมค่ ลาดคลายฯ
อกพีน่ กี้ ็รอ้ นเพราะศรรัก เหมือนขี้ขา้ นอกเจ้าเฉาฉงาย
แม้นเหมอื นรสพจมานเมื่อวานซืน ใครใกลร้ ายเกลยี ดกลัวทุกตวั คนฯ
โอเ้ ปรยี บชายคล้ายวิหคน้อย สะอ้ืนโอ้อ้างว้างมากลางหน
ไดใ้ กลเ้ คยี งเรยี งริมจะอ่มิ เอม บ้างรว่ งหล่นแลงามเมือ่ ยามโซ
เบาจรงิ จรงิ เจยี วใจเหมอื นไม้โสน
๏ ถึงคลองยา่ นบ้านบางสุนัขบา้ ถึงแสนโซส้ินคดิ ไม่ติดตาม
เป็นบ้าจิตคดิ แคน้ ดว้ ยแสนรา้ ย ขึน้ พน้ พาดเพ่งพศิ ให้คดิ ขาม

๏ ถึงลาคลองช่องกว้างชื่อบางโสน
โสนออกดอกระยา้ ริมสาชล
แต่ต้นเบาเขาไม่ใช้เช่นใจหญิง
เห็นตะโกโอแ้ สนแค้นตะโก
พอสดุ สวนลว้ นแตเ่ หล่าเถาสวาด

ชือ่ สวาดพาดเพราะเสนาะนาม 72
สวาดตน้ คนต้องแล้วรอ้ งอ่ยุ
จนชัน้ ลูกถูกต้องเป็นกองกลาง แต่วา่ หนามรกระชะกะกาง
รมิ ลาคลองท้องทุ่งดูว้งุ เว้ิง ดว้ ยรกุ รยุ รกเรอื้ รงั ดูหนังเสือสาง
ดอกบวั เผ่ือนเกล่ือนกลาดดาษดา เปรยี บเหมอื นอยา่ งลูกสวาทศรียาตรา
ด้วยนา้ เจง่ิ จอกผักขนึ้ หนกั หนา
๏ ถึงบา้ นใหม่ธงทองริมคลองลัด สันตะวาสายต่ิงตน้ ลินจงฯ
ขอความรักหนกั แนน่ ใหแ้ สนตรง ทหี่ นา้ วัดเหน็ เขาปักเสาหงส์
ไดช้ มวัดศรทั ธาสาธสุ ะ เหมอื นคนั ธงแทเ้ ที่ยงอยา่ เอยี งเอน
นาวาลอ่ งคล่องแคล่วเขาแจวเจน ไหวท้ ้งั พระปฏมิ ามหาเถร
ดชู าวบ้านพรานปลาทาลามก เฟือยระเนนน้าพรา่ งกระจา่ งกระจาย
เปน็ ทุ่งนาป่าไมร้ าไรราย เท่ยี วดกั นกยงิ เนือ้ มาเถอื ขาย
พวกหญิงชายชาวเทือนอยู่เรอื นโรงฯ
๏ ทรี่ มิ คลองสองฝั่งเขาต้งั บ้าน หนา้ สาราญเรียงรันควนั โขมง
ถึงจะชะวากปากช่องชอ่ื คลองโยง เป็นทงุ่ โลง่ ลิบลวิ่ หวิวหวิวใจ
มีบา้ นช่องสองฝง่ั ช่ือบางเชอื ก ลว้ นตมเปอื กเปอะปะสวะไสว
ที่เรือนอ้ ยลอยลอ่ งค่อยคลอ่ งไป ทเี่ รอื ใหญโ่ ป้งโลง้ ต้องโยงควาย
เวทนากาสรสู้ถอนถีบ เขาตีรีบเร่งไปน่าใจหาย
ถงึ แสนชาติจะมาเกิดกาเนดิ กาย อยา่ เป็นควายรบั จ้างท่ีทางโยงฯ

73

นริ ำศสพุ รรณ ดาดาว
๏ เดือนชว่ งดาวเดน่ ฟ้า พรา่ งพร้อย
จรูญจรัดรศั มพี ราว เขนยแนบ แอบเอย
ยามดกึ นึกหนาวหนาว เยอื กฟ้าพาหนาวฯ
เย็นฉา่ นา้ ค้างยอ้ ย คุ้งคลอง
๏ มหานากฉวากวุ้ง ฝัง่ นา้
ชมุ่ ชื่นรื่นรกุ ขสี อง สจั สวาดิ ขาดเอย
คุกคดิ มศิ หมายครอง โศกทงั้ หมางสมรฯ
กล้าตกรกเร้อื ซา้ สรุ ธร
๏ ขอฝากซากสวาดิสร้อย เขตนี้
ไว้ท่ที ่าสาคร พ่ฝี าก มากเอย
ศาลาน่าวดั ภร พ่ีใหอ้ ไภยเจรญิ ฯ
ใครทพี่ ่ีเปน็ ผ้ี นา่ สวน
๏ จารา้ งห่างนอ้ งนกึ ยว่ั เยา้
สองฝ่ายชายหญงิ ยวน ชนื่ เชน่ เหนเอย
หวังชายฝ่ายหญิงชวน เสพเผอ้ื นเฟือนเกษมฯ
กลเชน่ เลน่ ซกั เสร้า คมลา
๏ เลีย้ วลัดวัดษเกษกม้ เกดิ เกลา้
กฏุ ศพนบมานดา พ้นโลก โอกฆเอย
เดชะพระกศุ ลภา ช่องชนั้ สวรรยางคฯ
เสวยศุกทุกค่าเช้า หลักเรือ
๏ เชงิ เลนเปนตลาดสร้าง เกลอื่ นกลุ้ม
โอ่งอ่างบ้างอดิ เกลือ ลาบาก ยากแฮ
หลีกลอ่ งชอ่ งเลก็ เหลือ ถีฆ่ อ้ งสองยามฯ
ออกแม่นา้ ยา่ ถมุ้ กงั สดาน
๏ แซเ่ สียงเวียงราชกอ้ ง แขง่ ฆอ้ ง
หง่งั หงง่ั ระฆงั ขาน สังขดี ดีดเอย
สังแตรแซเ่ สยี งประสาร ป่ีแกว้ แจ้วเสยี งฯ
ยามดกึ ครึกครื้นกอ้ ง อาราม
๏ วดั เลียบเงียบสงัดหนา้ แย่งน้อง
ขุกคดิ เคยพญายาม สรวดรว่ ง ทรวงเอย
รวยรนิ กลน่ิ สไบทราม เพราะเจา้ เบาใจฯ
สรู กลนิ่ สรน้ิ กลอนพรอ้ ง

74

๏ เจรญิ บญุ สุรธรไว้ ใหส้ มร
สบื สวัสสัฐาภร ผ่องแผ้ว
เชญิ ทราบกาพกลกลอน กลา่ วกลิน่ ถวินเอย
จาขาดชาตินแี้ ลว้ คลาดน้องของสงวนฯ
เตยี งนอน
๏ วดั แจง้ แตง่ ตึกต้ัง ค่พู รอ้ ง
เคยปกนกน้อยคอน สมานสมคั ร รกั เอย
เคยลอบตอบสารสมร นกนอ้ ยลอยลมฯ
จาจากพรากนชุ น้อง มคี ณุ
ราชรู้
๏ สาวแก่แม่ม้ายแม้น แบง่ ฝาก มากเอย
ขอเดชะพระวรณุ คดิ พรอ้ งสนองเพลงฯ
ยามดึกนึกสง่ บุญ เนตรนอง
วัดช่วยอวยสวสั ดขิ ู้ ทเ่ี ฝา้
เสด็จสนดิ ชดิ เอย
๏ ยนฉนวนหวนนกึ นา้ กลับรา้ งห่างฉนวนฯ
พระธนิ งั่ บนั ลังทอง ชณิ วง
ชาระพระนพิ นสนอง ผอ่ งแผ้ว
สรน้ิ แผ่นดินปกเกล้า สารภเิ ศศ เสวตรเอย
กจิ ร้ายหายสูรฯ
๏ แบ่งบญุ สุรธรเชือ้ เขากรุง
สบื ซ่างทางพุทพง รอบแคว้น
ถวายพระหรริ ักทรง พเดชเฟอื่ ง กเดือ่ งเอย
ลุโลกโมฆเมืองแก้ว ขจัดผ้ายวายเขนฯ
แหล่งสถาน
๏ อีกองมงกุฎเิ กล้า ทใ่ี ห้
สบื กษตั รขัตยิ บารงุ รว่ มเย่า เจ้าเอย
ถวายพระอนสิ งพดงุ ภบนอ้ งครองสงวนฯ
สิ่งโศกโรคเร่ืองแค้น เจา้ เอย
ค่าเช้า
๏ ทา่ ช้างหว่างค่ายล้อม ลืมภัก พแ่ี ฮ
คร้ังพระโกฏโปรฐประทาน คลาศแคลว้ แลว้ หนอฯ
เคยอยูค่ ู่สาราน
เหนแตท่ ีห่ มไี ด้

๏ วงั หลงั คร้งั หนุม่ เหน้า
เคยอยู่ชูช่นื เชย
ยามนท้ี ี่เคยเลย
ตา่ งชืน่ อ่ืนแอบเคล้า

75

๏ คดิ คาลาฦกไว้ ใคร่เตอื น
เคยรกั เคยร่วมเรอื น ร่วมรู้
อยา่ เคืองเรอื่ งเราเยอื น ยามแก่ แม่เอย
ใครทมี่ ีชู้ชู้ ชว่ ยช้าคาโคลงฯ
ลอยแล
๏ เลย้ี วทางบางกอกน้อย พวกพอ้ ง
บา้ นเก่าเย่าเรอื นแพ ดแู ปลก แรกเอย
เงยี บเหงาเปลา่ อกแด เรียกน้องในใจฯ
ลาฦกนึกรกั รอ้ ง อมุ้ สนอม
กลอ่ มให้
๏ สาวเอยเคยออ่ นหนุ้ม ออมตรึก รฦกเอย
ออมสนทิ ชดิ กลน่ิ หอม ใครห่ ว้าหนา้ สวนฯ
ไกลห่างว่างอกตรอม ตขี ัน
เลยอน่ื ขึ้นครองไว้ แจม่ ฟ้า
กินซกี ฉลกี แฮ
๏ ยนย่านบ้านบุตง้ั นชุ ปลม้ื ลมื เดนิ ฯ
ขุกคิดเคยชมจรร อาวรณ์
ยามยากหากปันกัน กบั นอ้ ง
มีคู่ชชู ืน่ หนา้ เสมอชพี เรียมเอย
แตกฟ้าผา่ สลายฯ
๏ เสยี ดายสายสวาดโอ้ ห้องนอน
รกั พม่ี โี ทษกร คอ่ นหว้า
จาจากพรากพลัดสมร หอ่ นจาก
เสียนชุ ดดุ ุจทรวงตอ้ ง ล่าน้องหมองหมางฯ
สรุ ิยง
๏ เคราะกาจาหา่ งนอ้ ง ส่องฟ้า
หวนนึกดึกเคยวอน คนื ขน้ึ อีกเอย
คิดไวไ้ ม่ห่างจร นับสร้ินกินสวรรฯ
หากจิตรมิศหลายหน้า เรยี นเขยี น
เดอื นตกนกร้องเรง่ สมทุ น้อย
เย่ียมยอดยุคนุ ททรง หวา่ งวดั ปขาวเอย
เดือนดับลบั โลกคง สวาดิหา้ งกลางสวน
จนั พ่ีนลี้ ับหน้า

๏ วดั ปขาวคราวรนุ่ รู้
ทาสรุ ทสอนเสมยี น
เดนิ รวางรวงั เวียน
เคยช่ืนกลนื กลนิ่ สร้อย

76

๏ เห็นเรือนเพ่อื นรักร้าง แรมโรย
โออ้ กอาดรู โดย ทเวดดว้ ย
ดสู วรป่วนจิตรโหย หาดอก สร้อยเอย
แลลบั กลับชาตมิ ้วย ไม่ไดใ้ กล้กลายฯ
กานดา
๏ บางบารุงบารงุ แก้ว รา่ งแลว้
แกว้ เนตรเชษฐาชรา ภพชาติ อ่นื เอย
ถือบวดตรวดนา้ ภา คลาศค้างหา่ งสมรฯ
ชาตนิ พ้ี ี่แคล้ว คราวงาน
พยกั หน้า
๏ บางรมาดม่ิงมิดคร้ัง แทนฮอ่ ง หอเอย
บอกบทบุญยังพยาน พอ่ี ้างรางวนั ฯ
ประทนุ ประดิศถาน นองชล
แหวนประดบั กบั ผา้ เฟา่ น้อง
จาจาก แจ่มเอย
๏ สงสารสายเนตรนอ้ ง พยกุ ล้าสลาตนั ฯ
ลเนตรพ่เี พียงฝอยฝน พฤกษา
จวนร่งุ ร่าสอืน้ จน เมื่อน้อย
คราวเคราะเพราะนอ้ งตอ้ ง ตอ้ งอยู่ โยงเอย
ซ่อนซมุ้ คลุมโปงฯ
๏ สวรหลวงแลสลา้ งล้วน กลอยใจ
เคยเสด็จวงั หลงั มา ไสเ่ หลน้
ขา้ หลวงเลน่ ปดิ ตา เหมอื นแน่ และเอย
เห็นแต่พลบั กบั สร้อย นวดฟั้นทา่ นครฯู
แขวงนน
๏ วัดพกิ นุ กรุน่ กลิ่นเกลี้ยง พรรไม้
แรกรนุ่ รวยมาไล แป้งประ ปรางเอย
เรียบรอ้ ยคอ่ ยสอดไหม กลนิ่ เน้อื เจอื จรรฯ
ร้อยคลอ่ งตอ้ งน่งั เนน้
คลา้ ไคล
๏ บางขวางขา้ งเขตแควน้ บิดพลิ้ว
สองฟากหมากมพร้าวสด กลัวรัก นักเอย
หอมรน่ื ชืน่ เชน่ ปน หนดิ เนอื้ เหลอื ดนั ฯ
เคลมิ้ จติ คิดวา่ ใกล้

๏ เชงิ สวรล้วนรกั น้า
ลูกดกรกเรอ้ื ไป
รักร้ายฝา่ ยตนไกล
เดจลูกถกู ยางนิ้ว

77

๏ บางกรวยตรวดน้าแบ่ง บุญทาน
ส่งนิ่มนุชนิพพาน ผอ่ งแผว้
จาจากพรากพลัดสถาน ทงิ้ พี่ หนีเอย
เห็นแตค่ ลองนอ้ งแคล้ว คลาศเลอ่ื นเดอื นปีฯ
เจา้ คลอง
๏ บางศรที องคลองบา้ นเกา่ ถิ่นนี้
สเี พชผัวสที อง สาเหนียก นามเอย
เล่ืองฦาชื่อเสียงสนอง เชน่ ไสรไ้ สทองฯ
คลองคดลดเล้ียวช้ี ริมชลา
สลับสล้าง
๏ ล่วงทางบา้ งบ้านเรยี ด ดกดาษ กลาดเอย
สองฝง่ั พร่ังพฤกษา ขอบคุง้ ฟงุ้ ขจรฯ
ไม้ปลูกลกู ดอกดา โลดโผน
ทรงกล่ินรนิ รนื่ ข้าง จบั ไม้
ท่องเทย่ี ว เหยีย่ วเอย
๏ รอกแตแลลอดเลยี้ ว ดว่ นขน้ึ กลืนกนิ ฯ
นกหกจกจินโจน เขตคลอง
ยางเจา่ เหล่ายางโทน ก่อสร้าง
โฉบฉาบคาบปลาได้ ขายน่า ท่าเอย
บกนา้ ลาเรอื ฯ
๏ บางกรา่ งขา้ งคงุ้ คา่ ม แอดเสียง
บางขนุนขุนกอง รับนา้
ของสวนส่วนเจา้ ของ คูว่ ่ิง เวียรเอย
สาวแกแ่ มม่ า่ ยบ้าง เช่นออ้ ยยอ่ ยรยาฯ
กระลาการ
๏ โรงหบิ หนิบอ้อยออด ห่อนเว้น
สองขา้ งรางรองเรยี ง เอาผิด พอ่ เอย
อ้อยไส่ไล่ควายเคยี ง นึกช้านา้ ใจฯ
อกพนี่ ้ีชอกช้า สวนไสว
ทา่ นตง้ั
๏ หบี หนั นัน้ และเหล้ กลับรฦก นึกเอย
ข่ขู ่มเหงหักหาร ถ่นิ ปลืม้ ลืมกเษมฯ
เข้าพวกคดิ อา่ นพาล
กลหบี หนิบนิดเน้น

๏ บางคเู วียงเสยี งสงดั ล้วน
เวยี งช่ือศรที า้ วไท
เวยี งราชคลาดแคล้วไกล
ยามยากจากเมืองทั้ง

78

๏ บางมว่ งทรวงเศรา้ คิด เคยชวน
มว่ งเกบมม่วงสวน ศุกรย้า
มว่ งอ่ืนรนื่ รันจวน จติ ไม่ ใคร่แฮ
มว่ งหมอ่ มหอมหว่ นหน้า เสน่เน้อื เจือจรรฯ
ดา่ นคอย
๏ ล่วงทางบางใหญ่บ้าน เล่อื นช้า
เลีย้ วล่องคลองเลก็ ลอย เพลนิ ชื่น ชมเอย
สองฝงั่ พร่งั พฤกษพลอย เสนห่ น์ ้องคลองสนอมฯ
แลเหล่าชาวสวนหน้า หลกั ตอ
รอ่ งน้า
๏ คลองคดลดเลี้ยวล้วน พายถ่อ พ่อเอย
เกะกะรเรอื รอ กว่านา้ ลาคลองฯ
คดคลองชอ่ งแคบพอ เรือนโรง
คนาคดลดเล้ยี วลา้ หยอ่ มไม้
ทีต่ ดิ ต้ืนแฮ
๏ ล่วงย่านบ้านวัดรา้ ง เคลือ่ นคลอ้ ยลอยเลนฯ
ตกทุ่งถึงคลองโยง รนั ควาย
วดั ใหมธ่ งทองโถง โกง่ โก้
ควายลากฝากเชือกไขว้ แหงนเบงิ่ เบือนแฮ
สอกึ เต้นเผ่นโผนฯ
๏ คนขีต่ ีตอ้ นเร่ง ล้าเหลือ
ถอนถีบกบี กอมตกาย รบั จา้ ง
เหนื่อยนกั ชกั เชือกหงาย เจ่งิ ชุ่ม ชลเอย
คนหวดปวดปว่ นโอ้ เฆย่ี นเรา้ เอาเงินฯ
ศฤงคาร
๏ ทุกข์ใดในโลกลน้ โศกเศรา้
ไมเ่ ท่าควายลากเรอื ทั่วสตั ว์ สวสั ด์ิเอย
หอบฮักจกั ขเุ จือ ชาติพ้นชมมานฯ
มนษุ ย์ดุจตดิ ค้าง เฟอื ยแขม
ซบั ซอ้ น
๏ สังเวชเหตุด้วยทรัพย์ กอยา่ รยา้ แฮ
พาสตั วว์ ตั นสงสาร วิง่ เต้นเผ่นโผนฯ
ตรวดน้ารา่ ศลี ทาน
จงสุขทกุ ค่าเช้า

๏ ขา้ งคลองสองฝัง่ เฟ้อื ย
คาแฝกแซกเซียดแซม
ในพุม่ กมุ่ กกแกม
นกหกวกเวียนหว้อน

79

๏ นกกรมุ กลุม้ เกลือ่ นทอ้ ง ทุง่ นา
คุ่มคุม่ สุ่มสบั ปลา ปากโงง้
ขยอกขยอกกลอกเหนยี งพา เพื่อนเทยี่ ว เกรยี วแฮ
ศีรษะกระกรมุ โลง้ เลล่ ้านบ้านเราฯ

นิรำศอเิ หนำ 80

ปางอิเหนาเศรา้ สุดถึงบุษบา ๏ นิราศรา้ งหา่ งเหเสน่หา
ตะลงึ เหลยี วเปลี่ยวเปล่าใหเ้ หงาหงิม พระพายพาพดั นอ้ งเทย่ี วลอ่ งลอย
โอ้เย็นค่าน้าคา้ งลงพร่างพรอ้ ย สุชลปร่มิ เปย่ี มเหยาะเผาะเผาะผอย
หรอื เทวัญช้ันฟ้ามาพานอ้ ง นอ้ งจะลอยลมบนไปหนใด
แมน้ นอ้ งนอ้ ยลอยถึงชน้ั ตรึงส์ตรัย ไปไว้ห้องชอ่ งสวรรค์ทช่ี ั้นไหน
หรือไปปะพระอาทติ ยพ์ ิศวาส สหัสนยั น์จะชว่ ยรับประคับประคอง
หรอื เมขลาพาชวนนวลละออง ไปรว่ มอาสน์เวชยนั ตผ์ ันผยอง
หรือไปรมิ หมิ พานต์ชานไกรลาส เทย่ี วลอยล่องเลียบฟา้ ชมสาคร
โอ้ลมแดงแสงแดดจะแผดสอ่ ง บริเวณเมรุมาศราชสิงขร
จะดน้ั หมอกออกเมฆวิเวกใจ จะมัวหมองม่ิงขวญั จะหว่ันไหว
นีเ่ วรใดเด็ดสวาทให้คลาดคลาฯ
๏ พระผันแปรแลรอบขอบทวีป เหน็ แต่กลับเมฆเคลือ่ นเกลือ่ นเวหา
จะแลดสู ุริยนกส็ นธยา จะดฟู า้ ฟา้ คลา้ ใหร้ าจวน
ฝืนวิโยคโศกเศรา้ เข้าในห้อง เหน็ แท่นทองทป่ี ระทมภิรมย์สงวน
ไม่เห็นนุชสดุ จะทรงพระองคช์ วน ละหอ้ ยหวนหิวโหยด้วยโรยแรง
ยลย่ภี ู่ปูเปลา่ เศร้าสลด ระทวยทดทอดทบซบกนั แสง
โอส้ ุดแสนแคน้ อารมณ์ด้วยลมแดง ดเู หมอื นแกลง้ พดั ไปให้ไกลทรวง
เสียดายเอย๋ เคยแอบแนบสนทิ ถึงชวี ติ วอดวายไม่หายห่วง
โอ้นอ้ งนชุ บุษบาสดุ าดวง พี่เปล่าทรวงทรวงดังจะพงั โทรมฯ
เคยเขา้ ทพ่ี ่ีเคยไดเ้ ชยโฉม
๏ โอ้โพล้เพลเ้ วลาปานฉะนี้ ยามประโลมมริ ้ลู ืมเจ้าปลม้ื ใจ
เหน็ แตห่ อ้ งนอ้ งน้อยลอยโพยม แต่น้องน้อยลอยร่อนไปนอนไหน
โอเ้ ขนยเคยหนนุ ยงั อุ่นออ่ น วนั นีไ้ กลกลอยสวาทอนาถนอน
ยภ่ี ู่เอ๋ยเคยชิดสนิทใน เคยถนอมแนบทรวงดวงสมร
โอ้รินรินกลิ่นนวลยงั หวนหอม สะอนื้ ออ้ นอ่อนอารมณร์ ะทมทวี
ยังร่นื รน่ื ชืน่ ใจอาลัยวอน ยิ่งเศร้าซึมโศกาถึงยาหยี
จนฆอ้ งค่ายา่ หง่ึ หง่ึ กระหมึ เคยพาทีทอดประทบั ใจกับทรวงฯ
โอย้ ามอยู่คหู าเวลานี้ เคยโอบอ้อมออ่ นตามไมห่ า้ มหวง
เคยแนบทรวงไสยาสนไ์ ม่คลาดคลาย
๏ โอ้อกเอ๋ยเคยอนุ่ ละมนุ ละมอ่ ม ถนอมอุ่นแอบประโลมว่าโฉมฉาย
ยังเคลิม้ เคล้นเชน่ ปทมุ กระพุ่มพวง แสนเสยี ดายสุดจะดิ้นสิ้นชวี ัน
จนเคลมิ้ องค์หลงเชยเขนยหนุน
ครั้งรูส้ กึ ดึกด่ืนสะอื้นอาย

เหน็ สิ่งของนอ้ งนชุ ย่ิงสุดเศร้า 81
ยิ่งราลึกตรกึ ตราย่ิงจาบัลย์
พระทยั เฝ้าเคลิ้มไคลด้ งั ใฝ่ฝนั
๏ พินิจจันทรว์ นั เพ็งขึ้นเปลง่ แสง สุดจะกล้นั รีบออกนอกบรรพตฯ
สี่พีเ่ ล้ียงเคียงพรอ้ มนอ้ มประณต กระจา่ งแจ้งแจม่ วงทั้งทรงกลด
ดเู กง๋ กอ่ ต่อเตาเหน็ เงาคล้าย พระเลีย้ วลดแลแสวงดูแสงเดือน
เห็นเงาไม้ไหวหว่ันใหฟ้ นั่ เฟอื น เขมน้ หมายมงุ่ ไปกไ็ มเ่ หมือน
เห็นสระศรที ่ีเคยมาประพาส จนเดือนเคล่ือนคล้อยฟา้ ให้อาวรณ์
ลมราเพยเชยชายกระจายจร ระดะดาษดอกดวงบวั หลวงสลอน
หอมเกสรเสาวคนธ์ท่ีหล่นโรยฯ
๏ ไอร้ ินรนิ กลิ่นบหุ งาสะตาหมัน เหมือนกล่นิ จนั ทน์เจือนวลใหห้ วนโหย
หอมย่หี ุบสกุ รมดอกยมโดย พระพายโชยเฉอื่ ยชนื่ ยนื ตะลึง
โอ้ท่นี ่ศี ีลาเคยมานั่ง เห็นบังลังก์แล้วยิ่งนกึ ราลกึ ถงึ
ดูเงอ้ื มเขาเงาไม้พระไทรซงึ้ เสียงหง่ึ หึ่งผง้ึ รวงเฝ้าหวงรงั
จงั หรดี หร่ิงก่ิงไทรเรไรร้อง แวว่ วา่ น้องนกึ เสยี วพระเหลยี วหลงั
เห็นนา้ พุดดุ ้นั ตรงบลั ลงั ก์ เคยมานั่งสรงชลท่ีบนเตียง
เจา้ สรงด้วยชว่ ยพ่ีสีขนอง แตน่ า้ ตอ้ งถกู นิดกห็ วดี เสียง
โอร้ ่นื รนื่ ชนื่ เชยทเ่ี คยเคียง พระทรวงเพียงเผา่ รอ้ นถอนฤทัย
ทุกเงอื้ มเขาเหงาเงียบเซยี บสงดั ใบไม้กวัดแกว่งกิง่ ประวิงไหว
ยะเยอื กเย็นเสน้ หญ้าพนาลยั ย่งิ เยือนในทรวงช้าระยาเย็น
เทีย่ วรอบสระปทุมาสะตาหมนั เคยเหน็ ขวญั เนตรที่ไหนก็ไมเ่ ห็น
ชลนัยน์ไหลชกตกกระเซน็ ยง่ิ เยือกเยน็ หยุดยืนกลืนนา้ ตา
จนดึกดน่ื รื่นรินกลิ่นกหุ ลาบ ตะลงึ เหลียวเสยี วซาบอาบนาสา
เหมือนปรางทองนอ้ งนุชบุษบา หรือกลับมายืนแฝงอยแู่ หง่ ใด
เทย่ี วดูดาวเปลา่ เปลีย่ วเสียวสะดุง้ จนจวนร่งุ รางรางสว่างไสว
หนาวนา้ ค้างพรา่ งพรมพนมไพร ดวงดอกไมบ้ านแบ่งรับแสงทอง
หอมมณฑาสารภีดอกยห่ี บุ บ้างรว่ งหรบุ ถูกอรุ ะพระขนอง
ภุมรินบนิ วอ่ นมารอ่ นรา้ ง อาบละอองเกสรขจรจายฯ
ถอนสะอื้นอาลยั พระทยั หาย
๏ จนแจม่ แจ้งแสงสว่างนภางค์พ้ืน ไมพ่ าสายสวาทคืนมาชื่นใจ
ดเู วหาว่าแสนแค้นพระพาย เผ่ือจะพลัดตกลงทต่ี รงไหน
จาจะตามทรามชมทางลมพดั ใหเ้ ตรยี มพลสกลไกรจะไคลคลา
ดารพิ ลางทางสะทอ้ นถอนฤทยั จะเท่ยี วเตรด็ เตร่ในไพรพฤกษา
จึงแปลงนามตามกนั เปน็ ปันจเุ หร็จ ข้ึนรถแก้วแววฟ้าแล้วพาไปฯ
พลางอมุ้ องค์ยาหยีวยิ ะดา

82

๏ พระเหลยี วดูภูผาสะตาหมนั ท่สี าคญั คูหาเคยอาศยั
จะแลลบั นบั ปีแตน่ ้ีไป จะมิได้มาเหน็ เหมอื นเชน่ เคย
เสยี แรงแตง่ แปลงสร้างจะรา้ งเริด ค่อยอยเู่ ถิดแผน่ ผาคหู าเอย๋
โอ้มิ่งไมไ้ พรพนมเคยชมเชย จะแลเลยลบั แลว้ ทกุ แนวเนนิ ฯ

8ค3

บรรณำนกุ รม

เจนจบ ย่งิ สมุ ล. ตำมรอยสุนทรภู.่ กรงุ เทพฯ: พระพฆิ เนศ, 2550.
ประชาชืน่ (2559). ชีวประวัติสุนทรภู่. สบื คน้ วนั ท่ี 29 มกราคม 2563, ที่มา http://www.siamnt.net/sunthonphu.
ประชาชนื่ (2559). วดั บพิตรพิมุขวรวิหำร. สบื คน้ วันที่ 29 มกราคม 2563.แหล่งทม่ี า : http://watbopitpimuk.com.
ประชาช่ืน (2559). วัดสระเกศ. แหลง่ ท่ีมา : http://www.resource.lib.su.ac.th. สืบคน้ วันที่ 29 มกราคม 2563.
ประชาชืน่ (2559). สุนทรภู่ อย่วู ังหลัง บำงกอกน้อย ธนบรุ ี รัฐรำชกำรไทย “อำนำจนยิ ม” ไม่เขำ้ ใจ. สืบค้น

วนั ท่ี 30 มกราคม 2563, สบื คน้ จาก https://www.matichon.co.th.
พรพิไล เลิศวชิ า, บรรณาธิการ. นิรำศสุนทรภู่. กรุงเทพฯ: ธารปัญญา, 2543.
วดั เทพธดิ าราม วรวหิ าร. (2560). รำพันพิลำป ของ สุนทรภู่. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์วัฒนาพานิช.
สกู๊ปประชาช่ืน. (2560). “สนุ ทรภู่” เคยอยูท่ ี่นี่ วังหลงั ธนบุรี “ศิริรำชพมิ ุขสถำน” สืบค้นวันท่ี 30 มกราคม

2563, สืบคน้ จาก https://www.matichon.co.th.

84

85


Click to View FlipBook Version