ว PA ปีงบประมาณ 2565 จักรินทร์

PA 1/ส

แบบขอ ตกลงในการพัฒนางาน (PA)
สําหรับขาราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตาํ แหนง ครู (ไมมวี ิทยฐานะ)

(ทกุ สังกัด)
ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2565
ระหวา งวันที่ 1 เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. 2564 ถึงวนั ที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565

ผูจ ดั ทาํ ขอ ตกลง
ชอ่ื นายจักรินทร นามสกลุ กล่ันหอม ตาํ แหนง ครู (ไมมวี ทิ ยฐานะ) .

สถานศกึ ษา โรงเรียนชมุ ชนวัดสวุ รรณรงั สรรค สังกดั สาํ นักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาระยองเขต 1

รับเงินเดอื นในอนั ดับ คศ.1 อัตราเงนิ เดือน 18,780 บาท

ประเภทหอ งเรยี นทีจ่ ดั การเรียนรู (สามารถระบไุ ดมากกวา 1 ประเภทหอ งเรยี น ตามสภาพการจดั
การเรยี นรูจริง)

 หอ งเรยี นวชิ าสามญั หรือวชิ าพนื้ ฐาน
 หองเรียนปฐมวยั
 หอ งเรยี นการศกึ ษาพเิ ศษ
 หอ งเรียนสายวชิ าชีพ
 หอ งเรยี นการศกึ ษานอกระบบ / ตามอัธยาศัย

ขาพเจาขอแสดงเจตจาํ นงในการจดั ทําขอ ตกลงในการพฒั นางานตาํ แหงครู (ไมมีวทิ ยฐานะ) ซ่งึ เปน

ตาํ แหนง ทด่ี ํารงอยใู นปจจุบันกบั ผอู าํ นวยการสถานศกึ ษา ไวด งั ตอ ไปนี้

สว นท่ี 1 ขอ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตําแหนง

ภาคเรียนท่ี 2 ปก ารศึกษา 2564

1. ภาระงาน จะมีภาระงานเปน ไปตามทก่ี .ค.ศ. กําหนด

1.1 ช่ัวโมงสอนตามตารางสอน รวมจาํ นวน 23 ชวั่ โมง/สัปดาหดงั นี้

กลุมสาระการเรียนรูว ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

รายวชิ าวิทยาศษสตร ชัน้ มัธยมศึกษาปท ี่ 1/1 จํานวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

รายวิชาวทิ ยาศษสตร ชัน้ มธั ยมศึกษาปที่ 1/2 จํานวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห

รายวชิ าวทิ ยาศษสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปท่ี 2/1 จาํ นวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห

รายวชิ าวทิ ยาศษสตร ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 2/2 จาํ นวน 2 ช่วั โมง/สัปดาห

รายวชิ าวทิ ยาศษสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3/1 จํานวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห

รายวิชาวทิ ยาศษสตร ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 3/2 จํานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห

รายวชิ าวทิ ยาศาสตรส่งิ แวดลอ ม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 1/1 จาํ นวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห

รายวชิ าวทิ ยาศาสตรสง่ิ แวดลอ ม ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 1/2 จํานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห

รายวชิ าวิทยาศาสตรสิง่ แวดลอม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี 2/1 จํานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสิง่ แวดลอม ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 2/2 จาํ นวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสง่ิ แวดลอม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3/1 จาํ นวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห

รายวิชาวทิ ยาศาสตรสง่ิ แวดลอม ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3/2 จาํ นวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห

กลมุ สาระการเรยี นรสู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

รายวิชาประวตั ิศาสตรช น้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3/1 จาํ นวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห

รายวชิ าประวตั ศิ าสตรช ั้นมัธยมศึกษาปท่ี 3/2 จํานวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห

กิจกรรมพฒั นาผเู รยี น

กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี จํานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห

กจิ กรรมชมุ นุมภาษานารู จาํ นวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห

กจิ กรรมสงเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม บาํ เพญ็ ประโยชน จาํ นวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห

1.2 งานสง เสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การเรยี นรู จํานวน 10 ชัว่ โมง/สปั ดาห

- การจัดทาํ แผนการจัดการเรยี นรู จาํ นวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห

- แผนการจัดการเรยี นรูเ ฉพาะบุคคล (IIP) จํานวน 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห

- การวดั และประเมินผลการเรียนรู การประเมินพฒั นาเดก็ จาํ นวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห

- การสรางและพัฒนาสอ่ื การเรยี นการสอน จํานวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห

- การมีสว นรวมในชมุ ชนการเรยี นรูทางวิชาชีพ (PLC) จาํ นวน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห

1.3 งานพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา จาํ นวน 7 ช่วั โมง/สปั ดาห

- หวั หนากลุมสาระการเรยี นรูวทิ ยาศาสตร จํานวน 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห

- ผรู ับผดิ ชอบโครงการ/กิจกรรม จาํ นวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห

(กจิ กรรมจดั ซื้อส่อื และอปุ กรณก ารเรยี นกลุม สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร,

กิจกรรมสวมสขุ สันต, กิจกรรมลดเวลาเรียน, กิจกรรมพฒั นางานวิชาการสําหรับ

การเรียนการสอน, และกจิ กรรมลูกเสือ/เนตรนาร)ี

- คณะกรรมการทํางานวชิ าการ จํานวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห

1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน จํานวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห

- คณะทํางาน/กรรมการ/ผูปฏบิ ัติงาน จํานวน 2 ช่ัวโมง/สัปดาห

โครงการ/กิจกรรมงานตอบสนองนโยบาย และจุดเนน

(การอานออกเขยี นไดภาษาไทย ภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร คณติ คดิ เร็ว

คุณธรรมและจริยธรรม การอนรุ ักษส่งิ แวดลอ มเทคโนโลยี

มาตรการปอ งกนั ความปลอดภยั )

ภาคเรยี นที่ 1 ปก ารศึกษา 2565

1. ภาระงาน จะมภี าระงานเปนไปตามที่ก.ค.ศ. กําหนด

1.1 ชัว่ โมงสอนตามตารางสอน รวมจํานวน 23 ชัว่ โมง/สัปดาหด ังน้ี

กลมุ สาระการเรียนรวู ิทยาศาสตรและเทคโนโลยี

รายวชิ าวทิ ยาศษสตร ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 1/1 จาํ นวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห

รายวชิ าวิทยาศษสตร ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 1/2 จาํ นวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห

รายวิชาวิทยาศษสตร ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 2/1 จาํ นวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห

รายวชิ าวิทยาศษสตร ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 2/2 จํานวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

รายวชิ าวทิ ยาศษสตร ชั้นมัธยมศกึ ษาปที่ 3/1 จํานวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห

รายวิชาวทิ ยาศษสตร ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ 3/2 จํานวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสง่ิ แวดลอ ม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที่ 1/1 จาํ นวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที่ 1/2 จาํ นวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห

รายวชิ าวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอ ม ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 2/1 จํานวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห

รายวชิ าวทิ ยาศาสตรสิ่งแวดลอม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 2/2 จํานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสิ่งแวดลอ ม ชน้ั มธั ยมศึกษาปท่ี 3/1 จํานวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห

รายวิชาวิทยาศาสตรสงิ่ แวดลอ ม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3/2 จาํ นวน 1 ช่ัวโมง/สัปดาห

กจิ กรรมพัฒนาผูเรยี น

กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี จาํ นวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห

กิจกรรมชุมนุมภาษานา รู จํานวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห

กจิ กรรมสงเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม บําเพ็ญประโยชน จํานวน 1 ช่วั โมง/สปั ดาห

กิจกรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู จํานวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

1.2 งานสงเสรมิ และสนบั สนุนการจัดการเรียนรู จํานวน 10 ชว่ั โมง/สปั ดาห

- การจดั ทาํ แผนการจัดการเรียนรู จํานวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห

- แผนการจดั การเรียนรูเฉพาะบุคคล (IIP) จํานวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห

- การวัดและประเมินผลการเรียนรู การประเมนิ พฒั นาเด็ก จํานวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

- การสรา งและพฒั นาส่อื การเรียนการสอน จาํ นวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

- การมสี ว นรวมในชมุ ชนการเรยี นรทู างวชิ าชพี (PLC) จํานวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห

1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา จํานวน 7 ช่ัวโมง/สปั ดาห

- หวั หนา กลมุ สาระการเรยี นรูวิทยาศาสตร จาํ นวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห

- ผรู ับผดิ ชอบโครงการ/กจิ กรรม จาํ นวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห

(โครงการบริหารงานท่วั ไป, กจิ กรรมสวมสขุ สันต, กิจกรรมลดเวลาเรยี น,

กิจกรรมพัฒนางานวิชาการสาํ หรับการเรียนการสอน,

และกจิ กรรมลกู เสือ/เนตรนาร)ี

- คณะกรรมการทาํ งานวิชาการ จํานวน 2 ช่วั โมง/สปั ดาห

1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน จาํ นวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห

- คณะทาํ งาน/กรรมการ/ผูป ฏบิ ัตงิ าน จาํ นวน 2 ชัว่ โมง/สปั ดาห

โครงการ/กิจกรรมงานตอบสนองนโยบาย และจุดเนน

(การอานออกเขยี นไดภ าษาไทย ภาษาองั กฤษเพื่อการส่อื สาร คณิตคดิ เร็ว

คุณธรรมและจริยธรรม การอนุรกั ษส ิ่งแวดลอมเทคโนโลยี

มาตรการปองกันความปลอดภัย)

2. งานท่ีจะปฏบิ ตั ิตามมาตรฐานตาํ แหนง ครู (ไมม ีวิทยฐานะ) (ใหระบุรายละเอยี ดของงานท่ี
จะปฏบิ ัตใิ นแตละดานวาจะดาํ เนนิ การอยา งไร โดยอาจระบรุ ะยะเวลาทใ่ี ชในการดําเนนิ การดว ยกไ็ ด)

ลักษณะงานทป่ี ฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตวั ชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตําแหนง ที่จะดําเนนิ การพฒั นา ของงานตามขอ ตกลง ทจี่ ะเกิดขึ้นกบั ผูเรยี นท่ี
แสดงใหเ หน็ ถงึ การ
ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ท่คี าดหวังใหเ กดิ ข้นึ
เปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดี
การประเมิน กบั ผูเรยี น
ขน้ึ หรอื มีการพฒั นามากข้นึ

หรือผลสมั ฤทธิส์ งู ขึน้

1. ดา นการจดั การเรยี นรู การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน 1) ผเู รยี นมีผลสมั ฤทธ์ิ 1) ผูเรยี นไมน อ ยกวารอยละ

ลักษณะงานทเี่ สนอให รายวิชาวิทยาศาสตร เร่ือง โครงสราง ทางการเรยี นตามคา 75 มผี ลสัมฤทธ์ิทางการ

ครอบคลมุ ถึงการสรางและ ของเซลล ดวยเทคนคิ Group of เปาหมายของ เรยี นผานเกณฑตามคา

หรอื พัฒนาหลักสตู ร การ Four ของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปท่ี สถานศึกษา เปาหมายของสถานศกึ ษา

ออกแบบการจัดการเรยี นรู 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปก ารศึกษา 2565 2) ผูเรยี นมีทกั ษะตาม 2) ผูเรียนไมน อ ยกวา รอ ยละ

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู 1.1 สรา งและหรือพฒั นาหลักสูตร คา เปาหมายของ 75 มที ักษะตามคา เปาหมาย

การสรางและหรือพฒั นา จดั ทําหลกั สูตรและหนวยการเรยี นรู สถานศกึ ษา ของสถานศึกษา
สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี กลมุ สาระการเรยี นรวู ทิ ยาศาสตรและ 3) ผูเรยี นมีคณุ ลกั ษณะ 3) ผเู รยี นไมนอ ยกวา รอ ยละ
เทคโนโลยี ใหสอดคลองกับมาตรฐาน
และแหลงเรยี นรูการวัด การเรยี นรู และตัวชี้วดั หรอื ผลการเรยี นรู อนั พงึ ประสงคต ามคา 80 ผานคุณลกั ษณะอนั พงึ
และประเมนิ ผลการจัดการ ตามหลักสตู รเพ่อื ใหผูเรยี นไดพ ฒั นา เปา หมายของ ประสงคตามคาเปา หมาย
เรียนรูก ารศกึ ษา วเิ คราะห สมรรถนะและการเรียนรู เต็มตาม สถานศึกษา ของสถานศกึ ษา
สงั เคราะห เพ่ือแกป ญ หา ศกั ยภาพ โดยมีการปรบั ประยุกตใ ห 4) ผูเรยี นมีสมรรถนะ 4) ผูเ รียนไมน อ ยกวารอ ยละ

หรือพฒั นาการเรยี นรู สอดคลองกบั บรบิ ทของสถานศกึ ษา ตามคาเปาหมายของ 80 มสี มรรถนะตามคา
การจัดบรรยากาศท่ี ผเู รยี น และทอ งถนิ่ สถานศกึ ษา เปาหมายของสถานศกึ ษา
มกี ระบวนการในการดาํ เนินการดงั น้ี
สง เสริมและพัฒนาผูเรยี น 1.1.1 วิเคราะหห ลกั สตู ร 5) เขยี นผลลพั ธ 5) นกั เรยี นรอยละ 75 มี
และ การอบรมและ
พฒั นาคุณลกั ษณะที่ดีของ มาตรฐานการเรยี นรแู ละตวั ช้ีวดั จัดทาํ (Outcomes) ตาม ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน
ผเู รยี น หลกั สูตรกลุม สาระการเรียนรู
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ประเดน็ ทา ทาย รายวชิ า วิทยาศาสตร เร่ือง

1.1.2 จัดทํารายวชิ าและหนว ยการ นักเรยี นสามารถพัฒนา โครงสรางของเซลล ดว ย
เรียนรใู หสอดคลองกับมาตรฐานการ
เรียนรู และตวั ชี้วัดตามหลักสตู ร เพอ่ื ให ผลสัมฤทธิท์ างการ เทคนิค Group of Four
ผูเรยี นไดพ ฒั นาสมรรถนะและการ
เรียนรเู ต็มตามศกั ยภาพ โดยมกี ารปรับ เรียนรายวชิ า
ประยกุ ตใหส อดคลองกับบรบิ ทของ
วทิ ยาศาสตร เร่ือง

โครงสรา งของเซลล

ดวยเทคนคิ Group of

Four ได

ลักษณะงานท่ีปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตวั ช้ีวัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตําแหนง ท่จี ะดําเนนิ การพฒั นา ของงานตามขอตกลง ท่ีจะเกิดขึน้ กับผเู รียนท่ี

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ทคี่ าดหวงั ใหเ กิดข้นึ แสดงใหเ ห็นถงึ การ
การประเมิน กบั ผูเรียน
เปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดี

ข้นึ หรือมีการพัฒนามากข้นึ

หรอื ผลสัมฤทธิ์สงู ขนึ้

สถานศึกษา ผเู รียน ทองถิน่ และ

สามารถนาํ สกู ารปฏบิ ัติได

1.1.3 รว มประเมินผลการใช

หลักสตู รกลมุ สาระการเรียนรู

วทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู 1. ผเู รยี นมีความรู ตาม 1. ผูเ รียนรอ ยละ 75

ออกแบบหนวยการเรียนรู รายวิชา มาตรฐานการเรียนรู มคี วามรูต ามมาตรฐานการ
วิทยาศาสตร โดยเนน ผเู รียนเปนสําคญั และตวั ชี้วัด ตาม เรยี นรูและตัวช้ีวดั ท่ีตองรู
เพ่อื ใหผูเรยี นมคี วามรู ทกั ษะ ธรรมชาตขิ องวชิ า และควรรู
คณุ ลกั ษณะประจําวชิ า คณุ ลกั ษณะอนั วทิ ยาศาสตร 2. ผูเรียนรอยละ 80 มี
พึงประสงค และสมรรถนะที่สําคญั ตาม 2. ผเู รยี นไดรับการ สมรรถนะ และคุณลักษณะ
หลักสตู ร โดยมกี ารปรบั ประยกุ ตให พัฒนาคณุ ลักษณะ อันพึงประสงคตามกําหนด
สอดคลองกับบริบทของสถานศกึ ษา อันพงึ ประสงคและ
ผเู รยี น และทอ งถิน่ สมรรถนะสําคญั
มีกระบวนการในการดําเนนิ การดงั นี้ ตามหลักสูตร
มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม
1.2.1 วิเคราะหผเู รยี นรายบุคคล สามารถใชชีวิตอยู
1.2.2 ออกแบบการจดั การเรียนรูท่ี ในสังคมไดอ ยา งมี
เนน ผูเรยี นเปนสําคญั จาํ นวน 7 หนว ย ความสุข
การเรียนรู ในการพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิ
ทางการเรยี นรายวิชาวทิ ยาศาสตร เรอ่ื ง
โครงสรา งของเซลล ดวยเทคนคิ Group

of Four ของนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี

1 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศึกษา 2565

เพ่อื ใหผเู รียนมคี วามรู ทกั ษะ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค และ

สมรรถนะที่สาํ คัญตามหลักสูตรกลมุ

สาระการเรียนรูวทิ ยาศาสตรและ

เทคโนโลยี โดยมกี ารปรับประยกุ ตการ

ลักษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ (Outcomes) ตัวชว้ี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ทีจ่ ะดําเนนิ การพฒั นา ของงานตามขอตกลง ท่จี ะเกดิ ขน้ึ กับผเู รยี นที่

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ทคี่ าดหวังใหเ กิดขึน้ แสดงใหเ หน็ ถึงการ
การประเมิน กบั ผเู รียน
เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

ข้นึ หรือมกี ารพัฒนามากขึน้

หรอื ผลสมั ฤทธสิ์ ูงข้นึ

จดั การเรียนรูใหส อดคลองกบั บรบิ ท
สถานศกึ ษา ผเู รยี น และทอ งถน่ิ โดย
จดั ทําแผนการจดั การเรียนรรู ายวชิ า
วทิ ยาศาสตรพ ้ืนฐานทเี่ นน ผูเรยี นเปน
สาํ คญั สอดคลองกับการออกแบบหนวย
การเรียนรทู ม่ี ีองคป ระกอบครบถว น
ตามรปู แบบทีส่ ถานศึกษาทกี่ ําหนด และ
สามารถนําไปปฏบิ ตั ิไดจริง

1.2.3 ออกแบบการจดั การเรียนรทู ี่
เนนผเู รยี นเปน สําคญั ในการพัฒนา
ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรายวิชา
วิทยาศาสตร เรอื่ ง โครงสรา งของเซลล
ดวยเทคนคิ Group of Four ของ
นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 ภาคเรียน
ที่ 1 ปการศึกษา 2565 เพอื่ ใหผ เู รยี นมี
ความรูท ักษะ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค
และสมรรถนะทีส่ าํ คัญหลักสตู รกลุม
สาระการเรยี นรูว ิทยาศาสตรแ ละ
เทคโนโลยีโดยมีการปรบั ประยกุ ตก าร
จัดการเรยี นรใู หสอดคลองกับบรบิ ท
สถานศึกษา ผเู รยี น และทองถนิ่ โดย
จดั ทาํ แผนการจัดการเรียนรูรายวิชา
รายวิชาวทิ ยาศาสตรพ้ืนฐานท่ีเนน
ผูเรยี นเปน สําคญั สอดคลองกบั การ
ออกแบบหนวยการเรยี นรูท่มี ี
องคป ระกอบครบถว น ตามรูปแบบท่ี

ลักษณะงานทีป่ ฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตวั ช้ีวัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ท่ีจะดาํ เนินการพัฒนา ของงานตามขอตกลง ท่ีจะเกดิ ขนึ้ กับผูเ รยี นที่

ตามขอตกลงใน 1 รอบ ท่คี าดหวงั ใหเ กดิ ข้นึ แสดงใหเ ห็นถึงการ
การประเมนิ กบั ผูเรียน
เปลยี่ นแปลงไปในทางที่ดี

ขึ้นหรือมีการพฒั นามากขน้ึ

หรอื ผลสมั ฤทธ์สิ งู ขึ้น

สถานศกึ ษาท่ีกาํ หนด และสามารถนําไป

ปฏบิ ตั ไิ ดจริง

1.2.4 ออกแบบหนวยการจดั การ

เรียนรู แผนการจดั การเรยี นรรู ายวิชา

วทิ ยาศาสตรพ้ืนฐาน โดยเนน ผเู รียนเปน

สาํ คญั ทําใหผเู รยี นเกดิ กระบวนการคิด

วเิ คราะหแ ละคนพบองคค วามรดู วย

ตนเอง สรา งลักษณะนิสัยใหเ ปน

นักวิทยาศาสตรท่ดี ี

1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู 1. ผเู รียนรอ ยละ 80 1. นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษา

อาํ นวยความสะดวกในการเรียนรู พงึ พอใจในรูปแบบการ ศกึ ปที่ 1 รอ ยละ 75 มี
และสงเสริมผเู รียนไดพ ฒั นาเตม็ ตาม จัดกิจกรรมการเรยี นรู ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น
ศักยภาพ เรียนรูและทาํ งานรวมกัน โดย
มีการปรับประยกุ ตใหสอดคลองกับ 2. ผเู รียนไดร บั การ รายวชิ า วิทยาศาสตร เรือ่ ง
ความแตกตา งของผเู รียน จดั กิจกรรม พฒั นาเต็มตาม โครงสรางของเซลล ดว ย
การเรยี นรดู ว ยเทคนคิ Group of Four ศกั ยภาพและความ เทคนิค Group of Four
เรอ่ื ง โครงสรางของเซลล รายวชิ า แตกตาง ของแตบุคคล 2. นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาป
วิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 1 ภาค 3. ผูเรยี นมีนสิ ยั ท่ี 1 ผานเกณฑก ารประเมนิ
เรียนท่ี 1 ปการศึกษา 2565 โดยใช ใฝเรียนรู มงุ มนั่ ในการ รอ ยละ 75
รปู แบบการจดั การเรยี นรูแบบสืบ ทาํ งานและสามารถ

เสาะหาความรู 5 ข้นั ตอน (5Es) ทาํ งานรวมกบั ผูอ ่นื
1.3.1 มกี ารอํานวยความสะดวกใน ไดเ ปนอยา งดี
4. ผูเรยี นไดรับการ
การจดั การเรียนรูและสง เสรมิ ผูเรยี นได พัฒนาท้งั ดา นเนอื้ หา
พฒั นาเต็มตามศักยภาพของผูเรยี น เกดิ วิชาการและทักษะ
กระบวนการเรียนรูและสามารถทํางาน กระบวนการทาง
รวมกนั โดยมกี ารจดั กจิ รรมการเรยี นรใู น วทิ ยาศาสตรเพ่ือเปน
หนวยการเรียนรูวิชาวิทยาศาสตรเ พ่อื

ลักษณะงานทปี่ ฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวชีว้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ทจ่ี ะดําเนินการพฒั นา ของงานตามขอตกลง ท่จี ะเกดิ ขนึ้ กับผเู รียนที่
ตามขอตกลงใน 1 รอบ ท่คี าดหวงั ใหเ กดิ ขึ้น
แสดงใหเ ห็นถงึ การ
การประเมนิ กับผูเ รยี น
เปลยี่ นแปลงไปในทางที่ดี
พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นและ นักวทิ ยาศาสตรที่มี
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร คุณภาพ ขึ้นหรือมีการพัฒนามากข้ึน
เพ่ือใหผเู รยี นเกิดกระบวนการคดิ
วิเคราะหแ ละคน พบองคความรูด ว ย หรอื ผลสัมฤทธิ์สูงข้ึน
ตนเอง สรางลกั ษณะนิสัยใหเปน
นกั วทิ ยาศาสตร เกดิ แรงจงู ใจและแรง
บนั ดาลใจในการเรียนวชิ าวิทยาศาสตร

1.3.2 จดั กิจกรรมการเรียนรูท่เี นน
ใหผ เู รยี นไดฝก กระบวนการคิด
วิเคราะหแ ละฝก ทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยาศาสตร รวมถึงลักษณะของ
นกั วทิ ยาศาสตร โดยใชเทคนิค Group
of Four ในการพฒั นาผเู รียน
โดยมกี ารปรับประยกุ ตกจิ กรรมการ
จัดการ เรยี นรใู หสอดคลองกับความ
ตองการและความแตกตา งของผเู รียน

1.3.3 วดั และประเมินผลระหวา ง
เรียน ดวยการประเมินการเรียนรูตาม
สภาพจรงิ โดยวธิ กี ารทีห่ ลากหลายมี
ความเหมาะสม ตามพฒั นาการของ
ผเู รียน และสอดคลอ งกับการพฒั นา
ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนและทักษะ
กระบวนการทางวิทยาศาสตร

1.3.4 บันทกึ ผลการจดั กจิ กรรมการ
เรียนรู

ลักษณะงานที่ปฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวช้ีวัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ท่ีจะดําเนนิ การพฒั นา ของงานตามขอ ตกลง ทีจ่ ะเกดิ ข้ึนกับผูเรยี นท่ี

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ทีค่ าดหวงั ใหเ กดิ ข้นึ แสดงใหเห็นถงึ การ
การประเมิน กับผเู รียน
เปล่ียนแปลงไปในทางที่ดี

ขน้ึ หรือมีการพฒั นามากขึ้น

หรอื ผลสัมฤทธ์สิ งู ขึน้

1.4 การสรา งและหรือพัฒนาสื่อ 1. ผเู รยี นไดรับความรู - ผูเรียนรอยละ 75 มี

นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหลงเรยี นรู และทกั ษะ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น

สรา งและหรอื พัฒนาสอ่ื นวัตกรรม กระบวนการทาง รายวชิ า วิทยาศาสตร เรื่อง
เทคโนโลยีและแหลงเรียนรสู อดคลอ งกับ วทิ ยาศาสตร โดยใช โครงสรางของเซลล ท่ีสงู ข้นึ
กิจกรรมการเรียนรู โดยมีการปรับ
ประยกุ ตใ หสอดคลองกบั ความแตกตา ง ดวยเทคนิค Group of
ของผูเรยี นดวยเวบ็ ไซต Canva, สอื่ การ Four
สอนทํามือ และใบกจิ กรรมการทดลอง 2. ผเู รยี นไดใ ชส่อื อยาง
หลากหลายเพ่ือสราง
สอดคลองกับเนอ้ื หาและกิจกรรมการ ความเขา ใจในการเรียน
วชิ าวิทยาศาสตร
เรยี นรู โดยใชเ ทคนคิ Group of Four

อยางเหมาะสม และสามารถแกป ญหา

ในการเรยี นรูและทกั ษะกระบวนการทาง

วทิ ยาศาสตรของผเู รยี นได

1.5 วัดและประเมนิ ผลการเรียนรู - ผูเรยี นไดรับการวัด - ผูเรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการ

วัดและประเมินผลการเรยี นรูด วย ประเมินผลการเรียนรู เรียน ผานเกณฑก าร
วิธีการท่หี ลากหลาย เหมาะสม และ
สอดคลองกบั มาตรฐานการเรยี นรู ให อยางหลากหลายจนทาํ ประเมนิ คิดเปน รอ ยละ 75
ผูเรียนพัฒนาการเรียนรูอยา งตอเนอ่ื ง
ดังน้ี ใหม ีผลสมั ฤทธทิ์ างการ ของจํานวนผูเรยี นท้งั หมด

1.5.1 มีการวดั และประเมินผล เรยี นสูงขนึ้ และผา น - ผูเรียนรอ ยละ 80 มี
การเรยี นรูด ว ยวิธกี ารท่ีหลากหลาย
เกณฑท ี่กาํ หนด คะแนนคณุ ลกั ษณะอันพึง

ประสงค ตัง้ แตระดับดขี นึ้ ไป

เหมาะสมและสอดคลองกับมาตรฐาน

การเรยี นรตู ามกลุม สาระการเรียนรู

วทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยี

1.5.2 มีการวัดและประเมินผล

ผูเรยี นพฒั นาการเรียนรูอยางตอเน่อื ง

1.5.3 มกี ารประเมินผลการเรียนรู

ตามสภาพจริงดวยการทดสอบ

ลักษณะงานทีป่ ฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลพั ธ (Outcomes) ตวั ช้วี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ทีจ่ ะดําเนนิ การพฒั นา ของงานตามขอ ตกลง ท่ีจะเกิดขึ้นกับผูเรียนท่ี
ตามขอตกลงใน 1 รอบ
ท่ีคาดหวังใหเกดิ ขึน้ แสดงใหเห็นถงึ การ
การประเมิน กับผเู รยี น
เปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดี
แบบทดสอบกอนเรยี น-หลงั เรียน ใบ
กิจกรรมการทดลอง แบบประเมิน ข้ึนหรอื มกี ารพัฒนามากข้ึน
คุณลักษณะอันพึงประสงค โดยมีความ
สอดคลองกับมาตรฐานการเรยี นรูตาม หรือผลสัมฤทธ์สิ ูงข้นึ
กลมุ สาระการเรยี นรูว ทิ ยาศาสตรและ
เทคโนโลยี - ผูเรยี นที่มีผลการ - ผูเ รียนรอยละ 75 ในกลุม
เรยี นรไู มผานเกณฑ ท่ีมีผลการเรียนรไู มผา น
1.5.4 มีการนาํ ผลการวัดและ ไดรับการซอ มเสริม เกณฑไดรบั การซอ มเสรมิ
ประเมนิ ผลการเรียนรูมาใชแกไขปญ หา แกไ ข ปรับปรงุ และ แกไ ข ปรบั ปรุงและพฒั นา
การจดั การเรยี นรูเ ปนไปตามคา พฒั นาจนมีผลการ จนมีผลการเรยี นรผู าน
เปา หมายท่สี ถานศึกษากาํ หนด เรียนรผู า นเกณฑท่ี เกณฑการประเมิน
1.6 ศกึ ษา วิเคราะห และสังเคราะห กาํ หนด ดว ย
เพ่ือแกไ ขปญหาหรือพัฒนาการเรยี นรู กระบวนการวิจัยในชนั้
เรียน
ศกึ ษา วเิ คราะห และสงั เคราะห
ขอ มูลท่ีสง ผลตอคุณภาพผูเ รียนและ
จัดทาํ วิจยั ในชัน้ เรยี น ดงั น้ี

1.6.1 ศึกษาและวิเคราะหป ญหา
ในการจัดการเรียนรูแ ละสงั เคราะหอ งค
ความรเู พ่ือแกป ญ หาและการพัฒนา
ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนรายวชิ า
วทิ ยาศาสตร เร่ือง โครงสรา งของเซลล
ดว ยเทคนิค Group of Four ของ
นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 1 ภาคเรยี น
ท่ี 1 ปก ารศกึ ษา 2565 ท่ีสง ผลตอ
คณุ ภาพผูเรียน

1.6.2 ศกึ ษารปู แบบการจดั ทาํ
Model โครงสรางของ Cell

ลักษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ (Outcomes) ตัวช้วี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ท่ีจะดาํ เนินการพฒั นา ของงานตามขอ ตกลง ท่จี ะเกดิ ข้นึ กบั ผเู รียนที่

ตามขอตกลงใน 1 รอบ ที่คาดหวังใหเ กิดขึ้น แสดงใหเ หน็ ถึงการ
การประเมนิ กับผเู รียน
เปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดี

ข้ึนหรอื มีการพฒั นามากข้นึ

หรอื ผลสัมฤทธส์ิ งู ข้ึน

1.6.3 ศึกษาเทคนิคการจดั การ

เรียนรูและทักษะกระบวนการ

วิทยาศาสตร

1.6.4 นาํ ผลการศึกษา วเิ คราะห

และสังเคราะห มาใชแ กไขปญหาและ

พัฒนาการจัดการเรียนรแู ละทักษะ

กระบวนการวทิ ยาศาสตร

1.7 จดั บรรยากาศท่ีสงเสรมิ และพัฒนา - ผูเรียนมีความสขุ ใน - ผเู รยี นรอยละ 80 มี

ผเู รียน การเรียนวิชา ความพึงพอใจเก่ยี วกับ

มกี ารจัดบรรยากาศในหองเรยี นที่ วิทยาศาสตร และมี บรรยากาศและ

เหมาะสม สอดคลองกับความแตกตาง ความคิดเหน็ ใน สภาพแวดลอมในหอ งเรยี น

ของผเู รียนเปนรายบุคคล สามารถแกไข ทางบวกกบั การจดั ในการการจดั การเรียนการ

ปญ หาการเรยี นรู สรา งแรงบันดาลใจ บรรยากาศในชั้นเรียน สอนวชิ าวิทยาศาสตรของครู

สง เสรมิ และพัฒนาผูเรยี นใหเ กดิ อยใู นระดับมาก (3.00) ขึน้

กระบวนการคิด ทักษะชวี ิต ทักษะการ ไป

ทํางานทักษะการเรยี นรูและนวตั กรรม

ทักษะดานสารสนเทศ สอ่ื และ

เทคโนโลยที ่ีเกีย่ วขอ งกบั ทักษะ

กระบวนการวทิ ยาศาสตร จัดบรรยากาศ

หองเรียนใหไ ดมาตรฐานหองเรียน

คุณภาพ (Onsite) เชน มุมผลงาน

นักเรยี น มุมความรู มมุ สอ่ื การเรียนรู

และมมุ ขา วสารทางวทิ ยาศาสตร

ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตําแหนง ทจ่ี ะดาํ เนินการพฒั นา ของงานตามขอตกลง ทจี่ ะเกิดขนึ้ กบั ผเู รยี นที่

ตามขอตกลงใน 1 รอบ ที่คาดหวังใหเกิดข้นึ แสดงใหเ ห็นถงึ การ
การประเมิน กับผเู รียน
เปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดี

ข้นึ หรือมีการพฒั นามากข้ึน

หรอื ผลสมั ฤทธสิ์ ูงขนึ้

1.8 อบรมและพัฒนาคณุ ลกั ษณะที่ดี - ผเู รยี นเปนผมู ี - ผเู รียนรอยละ 80 เปนผูมี

ของผูเรียน คณุ ธรรมจริยธรรมและ คุณธรรมจริยธรรมและ

อบรมบม นิสยั ใหผูเรยี นมีคุณธรรม คุณลักษณะอันพึง คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค
จรยิ ธรรม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค ประสงคและทํางาน
และคา นยิ มความเปนไทยทีด่ ีงาม ยอกรบั ฟงความคิดเหน็ ของ
1.8.1 มกี ารอบรมบม นิสัยใหผเู รียน รวมกบั ผอู ื่นได ผอู น่ื และแสดงความคิดเหน็
ในเชงิ บวก
มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมคุณลักษณะอนั พึง

ประสงค และคา นิยมความเปน ไทยท่ดี ี

งามโดยคํานงึ ถงึ ความแตกตางของ

ผูเรียนเปนรายบคุ คลและสามารถ แกไ ข

ปญ หาผเู รยี นได มีทกั ษะในการแสวงหา

ความรู ตลอดจนมที ักษะในการทาํ งาน

รวมกันกับผอู ื่นดว ยกิจกรรมการเรยี น

การสอนวิทยาศาสตร

1.8.2 มกี ารดาํ เนินกจิ กรรมที่

สง เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คุณลกั ษณะ

อันพึงประสงค เชน โรงเรยี นคุณธรรม ,

หองเรยี นสีขาว ,โรงเรยี นวิถพี ทุ ธ เปนตน

ลักษณะงานที่ปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวชี้วัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ที่จะดาํ เนินการพัฒนา ของงานตามขอ ตกลง ท่ีจะเกิดขึน้ กบั ผเู รยี นที่

ตามขอตกลงใน 1 รอบ ท่ีคาดหวงั ใหเกิดขนึ้ แสดงใหเห็นถึงการ
การประเมนิ กบั ผเู รยี น
เปล่ยี นแปลงไปในทางท่ีดี

ขึ้นหรือมกี ารพฒั นามากขึ้น

หรือผลสัมฤทธ์ิสูงข้ึน

2. ดา นการสงเสริมและ 2.1 จัดทําขอ มูลสารสนเทศของผูเ รียน 1. ผูเรียนไดรบั การ 1. ผเู รยี นทกุ คนมีความพึง

สนับสนนุ การจัดการ และรายวิชา วเิ คราะหขอมลู พอใจ ในรปู แบบการจดั

เรียนรู จัดทําขอมูลสารสนเทศของผูเรยี น นักเรยี นรายบคุ คล กจิ กรรมการเรียนรู โดยใช
ลักษณะงานที่เสนอให และรายวิชาเพอื่ ใชในการสงเสริม
สนับสนนุ การเรียนรู และพัฒนาคณุ ภาพ 2. ผูเ รยี นไดร ับทราบ เทคนคิ Group of Four
ผูเรยี นดังน้ี
ครอบคลุมถงึ การจดั ทํา เกยี่ วกบั ปญ หาและสิง่ 2. ผูเรียนทุกคนสามารถนํา
ขอมลู สารสนเทศของ 2.1.1 มีการจัดทําขอมลู สารสนเทศ ท่ตี องพฒั นาของ ขอมูลสารสนเทศที่ครูจําทํา
ผเู รยี นและรายวชิ า การ ของผูเรยี นเปน รายบคุ คล โดยมีขอ มูล ตนเอง ข้ึ น ไ ป ใ ช พั ฒ น า ต น เ อ ง ไ ด
ดําเนินการตามระบบ ดแู ล เปน ปจจุบนั 3. ผเู รียนไดรับทาบถึง อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ชว ยเหลอื ผูเ รียน การ 2.1.2 มกี ารจัดทําขอมูลสารสนเทศ วิธกี ารแกไขปญ หาและ
ปฏบิ ตั งิ านวิชาการและ รายวิชาวทิ ยาศาสตรเ พือ่ ใชในการ
สง เสรมิ สนบั สนนุ การเรียนรู แกไ ขปญ หา ส่งิ ที่ตอ งพัฒนาตนเอง
และพฒั นาคุณภาพของผเู รยี น ช้ัน
งานอื่น ๆ ของสถานศกึ ษา มธั ยมศึกษาปที่ 1 โดยมขี อมูลเปน สําหรับผูเรียนทีไ่ มผาน
และการประสานความ ปจจบุ ัน เกณฑก ารประเมิน
รวมมือกบั ผูปกครอง ภาคี 4. ผปู กครองมีสว นรวม
เครอื ขา ย และหรือสถาน 2.1.3 ใชขอมูลสารสนเทศเกย่ี วกับ ในการพฒั นาผูเรยี นให

ประกอบการ ผูเรียนรายบุคคลเพ่ือแกไ ขปญ หาและ เติมเต็มความสามารถ

พัฒนาคุณภาพผเู รยี น ท้งั ดานวิชาการและ

ทกั ษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร

2.2 ดาํ เนนิ การตามระบบดแู ล 1. ผูเ รียนไดร ับการ - ผเู รียนรอยละ 100 มี

ชวยเหลือผูเ รยี น สนบั สนุนชวยเหลอื ขอ มูลในระบบสารสนเทศ

ใชขอมูลสารสนเทศเก่ียวกับผูเรียน ดแู ลท้ังดานวิชาการ ครบถวนในทุกดานในระบบ
รายบุคคล และประสานความรวมมือกับ ลกั ษณะนิสยั อนั พึง และรายบคุ คล
ผมู สี วนเกี่ยวขอ งเพอื่ พัฒนาและ
แกปญหาผเู รียน ดงั น้ี ประสงค สมรรถนะ
สาํ คัญของผูเ รียน
2.2.1 ดาํ เนนิ การขั้นตอนตามระบบ 2. ผูเ รยี นไดร ับการ
ดแู ลชว ยเหลือนกั เรยี น 5 ขัน้ ตอนและ แกไ ขหรอื พฒั นาทง้ั
5T&๕s
ดา นวิชาการ ลกั ษณะ

ลักษณะงานที่ปฏิบตั ิ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ท่ีจะดาํ เนนิ การพฒั นา ของงานตามขอตกลง ที่จะเกิดข้นึ กับผเู รียนที่

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ที่คาดหวังใหเ กดิ ขนึ้ แสดงใหเ หน็ ถึงการ
การประเมิน กบั ผเู รยี น
เปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดี

ขึน้ หรอื มกี ารพัฒนามากข้นึ

หรอื ผลสมั ฤทธิ์สงู ขนึ้

2.2.2 วิเคราะหผ ูเรียนดา นทกั ษะ นิสยั อันพงึ ประสงค
กระบวนการทางวิทยาศาสตร โดย รวมทงั้ สมรรถนะ
จาํ แนกออกเปนระดับ เกง ปานกลาง
และออ น เพอ่ื ดาํ เนนิ การดูแลชวยเหลือ สาํ คญั
นกั เรียนในการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ทางการ ของผูเรยี น

เรียนใหบ รรลุผลตามเปาหมายตอไป
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่น ๆ - ผูเ รยี นเกิดทักษะ - ผเู รียนรอยละ 100 ไดร บั

ของสถานศึกษา ความรูตามมาตรฐาน การพัฒนา มสี วนรวมใน

รว มปฏบิ ัตงิ านทางวชิ าการและงาน และตัวช้ีวดั หลงั จาก กิจกรรมทางวชิ าการที่

อนื่ ๆ ของสถานศึกษาเพ่อื ยกระดบั ไดรบั การสนับสนุน โรงเรียนจัดขนึ้ เกดิ

คุณภาพการจดั การศึกษาของ จากการจัดกจิ กรรม ประโยชนส งู สดุ แกผูเ รยี น

สถานศกึ ษา ดงั นี้ การเรียนการสอน และ

- แผนยกระดับผลสัมฤทธท์ิ างการ กิจกรรมทางวิชาการ

เรียนตามกลุมสาระการเรยี นรู ตา งๆ ทดี่ ีขึน้ โดยผเู รยี น

- โครงการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการ ไดรบั การเรียนรูและ

เรยี น เขารว มกจิ กรรมตาม

- กิจกรรมนิเทศภายใน โครงการและกจิ กรรม

- การพัฒนาส่ือการเรียนการสอนและ ทโี่ รงเรียนกําหนดขน้ึ

งานวจิ ัยในชั้นเรยี น พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ ตลอดปก ารศกึ ษา

ทางการเรยี น รายวชิ าวทิ ยาศาสตร

- ผูชวยผูอาํ นวยการบรหิ ารท่วั ไป

2.4 ประสานความรวมมือกับ - ผเู รยี นไดรบั การ 1. ผูเรียนรอยละ 100 ไดรบั

ผูปกครอง ภาคีเครอื ขา ยและหรอื สนับสนุน ชว ยเหลอื การดแู ลเอาใจใส ทําใหเปน

สถานประกอบการ ทง้ั ดา นวิชาการ ผูมีคณุ ภาพชวี ิตที่ดขี ึ้น และ

2.4.1 ประสานความรวมมือกบั คณุ ลกั ษณะอนั พึง ทาํ ใหมีผลสมั ฤทธิท์ างการ

ผปู กครอง ภาคีเครอื ขายและหรอื สถาน ประสงครวมทั้ง เรียนท่สี งู ขึ้น

ประกอบการ เพือ่ รวมกนั ชนื่ ชมผลงาน สมรรถนะสาํ คญั จาก 2. ครแู ละผูป กครอง

ของผูเ รยี นโดยการประชมุ ผปู กครองภาค มีความสมั พันธที่ดี

ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตัวช้วี ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตําแหนง ทีจ่ ะดาํ เนนิ การพฒั นา ของงานตามขอตกลง ทจ่ี ะเกิดข้ึนกับผเู รยี นที่

ตามขอตกลงใน 1 รอบ ท่คี าดหวังใหเ กดิ ขน้ึ แสดงใหเ ห็นถงึ การ
การประเมนิ กบั ผเู รยี น
เปล่ยี นแปลงไปในทางท่ีดี

ขนึ้ หรอื มกี ารพัฒนามากขึ้น

หรือผลสัมฤทธ์ิสูงข้นึ

เรียนละ 1 ครั้ง ผานชอ งทางออนไลน ผปู กครอง และสถาน ไดรว มมอื กันมากข้ึน

เชน Line meeting , Google Meet ประกอบการอ่นื ๆ ในการดแู ลผูเรยี น

2.4.2 ชองทางการติดตอ ผปู กครอง

ผา นกลมุ line เพ่อื ใชต ิดตอ ส่อื สารกับ

ผปู กครองเพอื่ รวมกนั แกไขปญ หาและ

พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นรายวชิ า

วทิ ยาศาสตร เรอ่ื ง โครงสรา งของเซลล

ดวยเทคนคิ Group of Four ของ

นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 1 ภาคเรยี น

ที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2565

ลักษณะงานทีป่ ฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตวั ชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตําแหนง ทจ่ี ะดาํ เนินการพฒั นา ของงานตามขอตกลง ทจี่ ะเกดิ ข้นึ กบั ผเู รียนท่ี

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ท่คี าดหวงั ใหเ กดิ ข้นึ แสดงใหเ หน็ ถึงการ
การประเมิน กบั ผเู รยี น
เปลย่ี นแปลงไปในทางท่ีดี

ขน้ึ หรือมกี ารพัฒนามากข้ึน

หรือผลสมั ฤทธสิ์ ูงข้นึ

3. ดานการพฒั นาตนเอง 3.1 พัฒนาตนเองอยางเปนระบบและ - ครูไดร บั การพัฒนา - ครไู ดรับการพฒั นา

และวิชาชพี ตอ เนือ่ ง ความรู ความสามารถ ความรู ความสามารถ

ลักษณะงานท่ีเสนอให 3.1.1 เขารับการพัฒนาตนเอง ทกั ษะ โดยเฉพาะอยา ง ทกั ษะ โดยเฉพาะอยา งยิง่

ครอบคลุมถึงการพัฒนา อยางเปนระบบและตอเนือ่ งในเรือ่ ง การ ยงิ่ เร่อื ง การพัฒนา เรือ่ ง การพัฒนาระบบการ

ตนเองอยา งเปน ระบบและ พัฒนาระบบการนิเทศภายในและระบบ ระบบการนิเทศภายใน นิเทศภายในและระบบ

ตอเน่ือง การมีสวนรวมใน ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาเพ่ือ และระบบประกนั ประกนั คณุ ภาพภายใน

การแลกเปล่ียนเรียนรูทาง พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของ คุณภาพภายใน สถานศกึ ษาเพ่อื พฒั นา

วิชาชีพเพ่ือพัฒนาการ สถานศกึ ษา, การใช Google สถานศกึ ษา, การใช คณุ ภาพการศกึ ษาของ

จัดการเรียนรูและการนํา Workspace For Education เพ่อื เปน Google Workspace สถานศึกษา, การใช

คว า ม รู ค ว าม ส า ม า ร ถ เครอื่ งมอื ในการบริหารจัดการ For Education และ Google Workspace For

ทักษะที่ไดจากการพัฒนา สถานศึกษา , เขา รับการอบรมในการ พัฒนาความรู ทกั ษะ Education เพื่อเปน

ตนเองและวิชาชีพมาใชใน พัฒนาทกั ษะกระบวนการทาง กระบวนการทาง เครอื่ งมอื ในการบรหิ าร

การ พัฒ นาการ จัดการ วิทยาศาสตร เทคนคิ การจัดการเรียนรู วิทยาศาสตร ในการ จดั การสถานศกึ ษา และ

เรียนรู การพฒั นาคุณภาพ เชน Group of Four, คําตอบ หลกั ฐาน จัดการเรยี นรูได พัฒนาความรู ทักษะ

ผูเรียน และการพัฒนา เหตุผล (Claim Evidence Reasoning อยางมีประสทิ ธิภาพ กระบวนการทาง

น วั ต ก ร ร มก า ร จัด ก า ร : CER) กบั มลู นธิ ไิ อวแี อล และมลู วทิ ยาศาสตร เพอ่ื พัฒนา

เรยี นรู นธิ คนี นั แหง เอเชีย ประกอบดวย คณุ ภาพผูเรียนอยา งเต็ม

แผนพฒั นารายบุคคล (ID Plan) ศักยภาพ

3.1.2 มกี ารนาํ ความรทู ไี่ ดจ ากการ

พัฒนาตนเอง เพอ่ื พฒั นาความรู

ความสามารถในการใชทกั ษะ

กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ ละ

เทคนิคการจัดการเรียนรู Group of

Four โดยเฉพาะอยางยง่ิ การใช

ภาษาไทยและภาษาองั กฤษเพือ่ การ

ส่ือสาร และการใช เทคโนโลยีดจิ ิทัล

ลักษณะงานท่ปี ฏบิ ตั ิ งาน (Tasks) ผลลพั ธ (Outcomes) ตัวชี้วัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ที่จะดําเนินการพฒั นา ของงานตามขอ ตกลง ที่จะเกดิ ขน้ึ กับผูเรียนที่

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ทคี่ าดหวังใหเ กดิ ขน้ึ แสดงใหเห็นถึงการ
การประเมิน กับผูเรียน
เปล่ียนแปลงไปในทางท่ีดี

ขึ้นหรอื มีการพฒั นามากขึน้

หรอื ผลสมั ฤทธิ์สงู ขึ้น

เพ่ือการศึกษาสมรรถนะวิชาชีพครแู ละ

ความรอบรูใ นเนื้อหาวิชาและวิธกี ารสอน

3.1.3 มกี ารนาํ ผลการพฒั นาตนเอง

และพัฒนาวิชาชีพมาใช ในการ

จดั การเรยี นรทู ีม่ ีผลตอคุณภาพผูเรยี น

3.2 มสี ว นรวมในการแลกเปล่ยี น - ผูเ รยี นไดรับการแกไข - ผูเรียนรอยละ 75 ไดร ับ

เรียนรทู างวิชาชพี เพ่ือแกไ ขปญหาและ ปญหาผลสมั ฤทธิ์ การแกไ ขปญหาทางการ

พัฒนาการจัดการเรียนรู ทางการเรยี นรายวิชา เรยี นรแู ละปญ หาอน่ื ๆที่พบ

3.2.1 มีสวนรว มในการแลกเปลี่ยน วิทยาศาสต เรือ่ ง เห็นอยางตอ เน่อื งเปน ระบบ

เรียนรทู างวิชาชพี (PLC) ในสถานศกึ ษา โครงสรางของเซลล สง ผลใหมีผลสมั ฤทธ์ิทางการ

เพอ่ื แกไขปญหาและพัฒนาการเรยี นการ ดว ยเทคนิค Group of เรียนสงู ขนึ้ พรอ มท้งั ได

สอน Four ไดอ ยา ง พัฒนาการเรียนอยา ง

3.2.2 เขา รว มชุมชนแหง การเรยี นรู เหมาะสมตามความ ตอเน่อื ง

ทางวชิ าชพี (PLC) กลุมสาระการเรียนรู แตกตางระหวา งบคุ คล

วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี เรอื่ ง การ ดว ยสอื่ นวตั กรรม

พฒั นาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นรายวิชา และรปู แบบการจดั

วิทยาศาสตร เรื่อง โครงสรา งของเซลล กิจกรรมการเรียนรูท่ี

ดว ยเทคนิค Group of Four ของ เอ้อื ตอการเรยี นรทู ําให

นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปท ี่ 1 ภาคเรยี น เกดิ ทักษะความรูตาม

ที่ 1 ปการศกึ ษา 2565 หลกั สูตร มีผล การ

เรยี นดีขึ้น

3.3 นําความรู ความสามารถ ทกั ษะที่ - ผเู รยี นไดรับการ - ผเู รยี นรอยละ 75 ไดรับ
ไดจ ากการพฒั นาตนเองและวิชาชพี มา พฒั นาทักษะ
การพฒั นาผลสัมฤทธิ์

ใชใ นการพฒั นาการจัดการเรยี นรู การ กระบวนการทาง ทางการเรยี นรายวิชา

พฒั นาคณุ ภาพผูเรยี น และการพัฒนา วทิ ยาศาสตร เรอ่ื ง วิทยาศาสตร เรื่อง

นวัตกรรมการจัดการเรยี นรู โครงสรางของเซลล โครงสรา งของเซลล ดวย

ดว ยเทคนิค Group of เทคนิค Group of Four

ลักษณะงานที่ปฏบิ ัติ งาน (Tasks) ผลลัพธ (Outcomes) ตวั ชวี้ ัด (Indicators)
ตามมาตรฐานตาํ แหนง ทจ่ี ะดําเนินการพัฒนา ของงานตามขอ ตกลง ท่จี ะเกดิ ข้นึ กบั ผเู รยี นที่

ตามขอ ตกลงใน 1 รอบ ที่คาดหวังใหเกิดขึน้ แสดงใหเห็นถงึ การ
การประเมนิ กบั ผูเรยี น
เปล่ยี นแปลงไปในทางที่ดี

ขึน้ หรอื มกี ารพัฒนามากขน้ึ

หรอื ผลสมั ฤทธ์สิ งู ข้ึน

นําผลจากอบรมและการเขารวม Four ในการจัดการ และผานเกณฑใ นการจัดการ

ชมุ ชนการเรียนรทู างวิชาชพี (PLC) มา เรียนรไู ดอ ยางมี เรยี นรไู ดอยา งมี

ใชใน การพฒั นาความรู ความสามารถ ประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธิภาพ

ทกั ษะ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู

พฒั นาสอ่ื การเรียนรู การวัดและ

ประเมินผลผูเรยี นในรายวิชา

วิทยาศาสตร โดยเฉพาะอยา งย่ิงเรอ่ื ง

การพฒั นาระบบการนเิ ทศภายในและ

ระบบประกนั คณุ ภาพภานใน

สถานศกึ ษา, การใช Google

Workspace For Education และ

พฒั นาความรู ทกั ษะกระบวนการทาง

วิทยาศาสตร เทคนคิ การสอน Group of

Four ในการจดั การเรียนรูไดอยา งมี

ประสิทธิภาพ

หมายเหตุ
1. รูปแบบการจัดทําขอตกลงในการพฒั นา ตามแบบ PA 1 ใหเ ปน ไปตามบริบท และสภาพการ

จัดการเรียนรขู องแตละสถานศกึ ษา โดยความเหน็ ชอบรว มกนั ระหวา งผอู ํานวยการสถานศกึ ษา และขาราชการ
ครูผูจัดทําขอ ตกลง

2. งาน (Tasks) ท่เี สนอเปน ขอตกลงในการพัฒนางานตอ งเปน งานในหนาท่คี วามรบั ผิดชอบหลัก ท่ี
สง ผลโดยตรงตอ ผลลพั ธก ารเรยี นรขู องผูเ รียน และใหน าํ เสนอรายวิชาหลกั ท่ที ําการสอน โดยเสนอในภาพรวม
ของรายวิชาหลักที่ทาํ การสอนทุกระดับชัน้ ในกรณที ีส่ อนหลายรายวชิ า สามารถเลือกรายวชิ าใดวิชาหน่ึงได
โดยจะตอ งแสดงใหเ หน็ ถึงการปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐานตาํ แหนง และคณะกรรมการประเมินผลการพฒั นางาน
ตามขอตกลงสามารถประเมินไดตามแบบการประเมิน PA 2

3. การพัฒนางานตามขอตกลง ตามแบบ PA 1 ใหความสําคัญกับผลลัพธการเรยี นรู ของผูเรยี น
(Outcomes) และตวั ช้ีวัด (Indicators) ท่เี ปน รปู ธรรม และการประเมนิ ของคณะกรรมการประเมนิ ผลการ
พัฒนางานตามขอ ตกลง ใหค ณะกรรมการดาํ เนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบตั ิงานจรงิ สภาพ
การจดั การเรียนรูในบรบิ ทของแตล ะสถานศึกษา และผลลัพธการเรยี นรขู องผูเรียนทีเ่ กดิ จากการพัฒนางาน
ตามขอ ตกลงเปนสําคญั โดยไมเ นน การประเมินจากเอกสาร

สวนท่ี 2 ขอตกลงในการพัฒนางานที่เปนประเดน็ ทาทายในการพัฒนาผลลัพธการเรยี นรูของผูเรียน
ประเด็นทีท่ า ทายในการพฒั นาผลลัพธการเรียนรูของผเู รียนของผจู ัดทาํ ขอตกลง ซึ่งปจจุบัน

ดาํ รงตาํ แหนงครู (ไมมวี ิทยฐานะ) ตอ งแสดงใหเห็นถงึ ระดบั การปฏบิ ัติทีค่ าดหวัง คือ การปรบั ประยกุ ต การ
จัดการเรยี นรแู ละการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรขู องผเู รยี น ใหเ กิดการเปลยี่ นแปลงไปในทางทดี่ ีขนึ้ หรือมกี าร

พฒั นามากขึ้น (ทัง้ นี้ประเดน็ ทา ทายอาจจะแสดงใหเห็นถงึ ระดับการปฏบิ ัติท่ีคาดหวังที่สงู กวา ได)
ประเดน็ ทา ทาย เร่ือง การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นรายวชิ าวทิ ยาศาสตร เรอื่ ง โครงสราง

ของเซลล ดวยเทคนคิ Group of Four ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ปการศกึ ษา
2565
1. สภาพปญ หาของผเู รียนและการจัดการเรียนรู

ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู รอื่ ง โครงสรา งของเซลล ผเู รยี นมันสบั สนเก่ียวกับโครงสรา งและ

หนาทีต่ า งๆภายในเซลล ผูเรียนไมส ามารถเช่ือมโครงหนา ท่จี ัดระเบียบความคิด ความเขา ใจ ตางๆของออร

แกเนลลได เนือ่ งจากโครงสรา งของเซลลมอี อรแกเนลลหลากหลาย เขาใจและจนิ ตนาการไดย าก ดงั น้ัน

ครูผสู อนจึงจัดทาํ ขอ ตกลงในการพฒั นางานประเดน็ ทาทาย โดยใช เทคนิคการสอนแบบ Group of Four ที่
แฝงไปดว ยทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร ชวยฝกทักษะการเรียนรู การทาํ งานเปนทีม การแบงหนาที่

ภายในกลมุ การสรางภาวะผูนาํ การจัดระเบียบความคดิ ของผูเรยี น เพือ่ แกไ ขปญ หาผลสมั ฤทธ์ิและพฒั นา

ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรข องผเู รียน ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปการศกึ ษา 2565 ใหดขี นึ้
2. วธิ กี ารดําเนนิ การใหบ รรลผุ ล

2.1 วิเคราะหหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และมาตรฐานการเรียนรู
และตวั ช้ีวัด (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนชุมชนวดั สวุ รรณรังสรรค จดั ทาํ

โครงสรางรายวชิ า หนว ยการเรียนรู และแผนการจกั การเรยี นรู เร่อื ง โครงสรา งของเซลล

2.2 ศกึ ษาเนือ้ หา เรือ่ ง โครงสรางของเซลล และวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู ดงั นี้

- วเิ คราะหผลการเรยี นรขู องผเู รยี นเร่อื ง โครงสรางของเซลล

- ศึกษาเนื้อหา เรอื่ ง โครงสรา งของเซลล จากแหลงขอ มลู ตา งๆ
- ศกึ ษาเทคนิค เรื่อง รูปรางของเซลล จากแหลง ขอมูลตา งๆ

- จัดทาํ และพัฒนาแผนการจดั การเรยี นรู จดั กิจกรรมการเรยี นรูแบบสบื เสาะท่ีเหมาะสมกบั

ผูเ รยี น โดยใชเทคนิค Group of Four แลว นําเขาสกู ระบวนการชุมชนแหง การเรียนรทู างวชิ าชพี

(Professional Learning Community : PLC) เพอ่ื พฒั นา ปรบั ปรงุ และแกไ ขปญหาทเ่ี กดิ ขึน้ จากครูในกลมุ

สาระ การเรียนรูว ิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี ผูเชียวชาญ หัวหนาวิชาการและฝายบรหิ าร
- ประเมินผลการพฒั นาของผูเ รียนโดยใช แบบทดสอบกอ นเรียน และ แบบทดสอบหลงั เรียน

- บนั ทึกผลการเรยี นรูสรุปเปน สารสนเทศ แจงใหผูเรียนทราบ

2.3 จัดกิจกรรมการเรียนรแู บบ Active Learning เรอื่ ง โครงสรา งของเซลล โดยใชร ูปแบบการจัดการ

เรียนรแู บบสืบเสาะหาความรู (5Es) และ ใชเ ทคนคิ การเรยี นรู Group of Four ในการจัดกจิ กรรมดังน้ี

1) ข้นั สรา งความสนใจ (Engagement) 10 นาที
- ครูใหน ักเรยี นรว มกิจกรรมถามตอบเพอ่ื กระตนุ ความสนใจและตรวจสอบความรูเ ดิม

1) นกั เรยี นรว มกนั รองเพลง “เซลล” ตามวีดิทศั นที่ครเู ปด
2) หลงั จากรอ งเพลงเสร็จแลว ครใู ชคําถามเพ่อื กระตนุ ความสนใจของผเู รยี น

- จากเพลงท่นี ักเรียนไดร อ งไปเม่ือสักครู นกั เรียนไมรจู ักและไมเขา ใจคําศพั ทค าํ ใดบาง

- ใหน ักเรยี นเขียนคาํ ศพั ทท น่ี กั เรยี นไมรูจักและไมเ ขาใจลงในกระดาษ

- ใหน กั เรียนจับคูแ ลกเปลยี่ นความรแู ละอภปิ รายคาํ ศัพททีไ่ มเ ขาใจใหเ พอ่ื นฟง

- ครแู ละนกั เรยี นรว มกันสรปุ และอภิปรายคําตอบของนักเรียนเพมิ่ เตมิ
- จากนัน้ ครูจงึ ดําเนนิ กิจกรรมการเรยี นการสอนตอไป

2) ขน้ั สาํ รวจและคนหา (Exploration) 20 นาที
- ครใู หนกั เรียนแบง กลมุ กลมุ ละ 4 คน โดยมหี นาท่ีดงั น้ี

สมาชกิ คนที่ 1 เปนคณุ วางแผน มีหนา ที่ วางแผนและบรหิ ารภายในกลมุ

สมาชิกคนที่ 2 เปนคณุ เลขา มหี นา ที่ บันทกึ กิจกรรมตา ง ๆ ภายในกลุม
สมาชิกคนท่ี 3 เปน คุณนาํ เสนอ มหี นาที่ รายงานผลกิจกรรมของกลมุ

สมาชิกคนที่ 4 เปนคุณอํานวย มหี นาท่ี อาํ นวยความสะดวกใหสมาชกิ ในกลมุ

- ครูนาํ ปญ หาจากการอภิปรายในข้นั นาํ เขา สูบทเรียน เรื่อง โครงสรางของเซลล ใชในการดาํ เนิน

กจิ กรรม

- ครแู นะนํากจิ กรรม เร่ือง โครงสรางของเซลล ใหนกั เรียน
- ครใู หนกั เรยี นศกึ ษาใบกิจกรรมและออกแบบ Model Cell โดยใชแ ผนภาพ (E-Engineering)
- ครใู หนกั เรยี นแตล ะกลมุ นําเสนอแผนภาพการออกแบบ Model Cell

- ครใู หนกั เรยี นมารับอุปกรณและลงมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
3) ขั้นอธบิ ายและลงขอ สรปุ (Explanation) 10 นาที

- ครใู หน ักเรยี นแตล ะกลมุ นาํ เสนอผลงานนกั เรยี น
- ครแู ละนักเรียนรว มกนั อภิปรายโครงสรา งและหนาท่ขี องออรแ กเนลลภ ายในดซลล

- ครอู ธบิ ายและสรุปกิจกรรม
4) ขั้นขยายความรู (Elaboration) 10 นาที

- ครแู นะนํากิจกรรมสถานการณ เรือ่ งรปู รา งของเซลล เพ่อื ใหน ักเรยี นมีความรูลึกท่ีซึง้ ขยายกรอบ

ความคดิ ใหก วา งขน้ึ สามารถเชื่อมโยงความรูเดิมสูความรูใหม เพ่อื นาํ ไปสกู ารศกึ ษาคน ควา และทดลอง เพม่ิ ขึ้น
5) ข้ันประเมนิ (Evaluation) 10 นาที

- ครใู หนกั เรียนทําแบบทดสอบหลงั เรียน
3. ผลลัพธก ารพฒั นาที่คาดหวงั

3.1 เชิงปรมิ าณ

- ผูเรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปท่ี 1 จาํ นวน 2 หอง จาํ นวนนกั เรยี น 43 คน ไดร บั การ
พัฒนาและแกไขปญหา เรือ่ ง โครงสรา งของเซลล ดงั นี้
1. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) เรอ่ื ง โครงสรา งของเซลล ผูเรียนรอ ยละ 75 ของ

ผูเรียนทั้งหมดผานเกณฑการประเมนิ
2. ผเู รียนรอยละ 80 ของจํานวนผูเรียนทง้ั หมด พึ่งพอใจในรปู แบบการจัดกิจกรรมการ

เรยี นรู โดยใชเทคนิค Group of Four
3.2 เชิงคณุ ภาพ

- ผเู รียนระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปท ี่ 1 สามารถอธบิ ายและเปรียบเทยี บโครงสรา งของ
เซลลสตั วแ ละเซลลพชื ได

ลงชอ่ื .................................................................
(นายจกั รินทร กลัน่ หอม)

ตาํ แหนง ครโู รงเรียนชุมชนวัดสวุ รรณรงั สรรค
ผูจัดทาํ ขอ ตกลงในการพฒั นางาน
วันที่ 1 ตลุ าคม พ.ศ. 2564

ความเห็นของผูอํานวยการสถานศกึ ษา
(  ) เห็นชอบใหเปนขอ ตกลงในการพัฒนางาน
( ) ไมเห็นชอบใหเปนขอตกลงในการพัฒนางาน โดยมีขอเสนอแนะเพื่อนําไปแกไข และเสนอเพื่อ

พิจารณาอีกครง้ั ดังนี้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................................
(นางพัณณช ติ า กนกพงษเสถยี ร)

ตาํ แหนงผอู าํ นวยการโรงเรยี นชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564