2) โรงเรียนเชิญเจ้าของภูมิปัญญา ได้แก่ ปราชญ์ชาวบ้าน หรือปัญญาชาวบ้าน
ช่างเทคนิคชาวบ้าน หรือช่างฝีมือชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรยี น
การสอน ในการนาภูมิปัญญาชาวบ้านไปใช้ ควรอยู่ในดุลยพินิจของโรงเรียนในด้านความเหมาะสม
ทัง้ กจิ กรรม เนื้อหาสาระ และวัยของเด็ก
ในแต่ละพ้ืนที่ของประเทศไทยมีการนาเอาภูมิปัญญาท้องถ่ินมาใช้ในการอนุรักษ์
ทรพั ยากรปา่ ไมโ้ ดยมีความเชื่อทีย่ ึดถือปฏิบัติสบื ทอดกันมา และบางความเช่อื ได้ถ่ายทอดในรูปแบบของ
พิธีกรรม การปฏิบัติต่าง ๆ เช่น การประกอบพิธีกรรมเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้ พิธีบวชต้นไม้
การสบื ชะตา ดนิ น้า ป่า (จรรยา ดาสา และคณะ, 2559: 72)
ตวั อยา่ งการจัดการเรียนร้โู ดยใชภ้ มู ิปญั ญาท้องถ่ิน (จรรยา ดาสา และคณะ, 2559: 72)
ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเพื่อให้ออกไปค้นหาภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชนจาก
ปราชญช์ ุมชน โดยทากิจกรรม ดงั น้ี นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวางแผนในการคน้ หาภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินใน
การอนรุ ักษ์ปา่ นา่ น เชน่ กาหนดผทู้ าหนา้ ท่ใี นการถาม ผทู้ าหนา้ ที่จดบันทกึ ผู้ทาหน้าท่ีนาเสนอ จากนั้น
นักเรียนลงชุมชนเพ่ือสัมภาษณ์ปราชญ์ชุมชน/ผู้รู้ ที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถ่ินในการอนุรักษ์ป่า ใน
ประเดน็ ดังน้ี ทาไมจงึ ต้องมีการอนรุ ักษ์ป่า ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ท่ใี ช้ในการอนุรักษ์ปา่ ทาอย่างไร ใครเข้ามา
มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าบ้าง ผลท่ีเกิดข้ึนจากการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นท่ีใช้ในการอนุรักษ์ป่าน้ัน
เกดิ ผลอยา่ งไรบ้าง นักเรียนนาเสนอสงิ่ ท่ไี ด้จากการสัมภาษณใ์ นรปู แบบตา่ ง ๆ อภิปรายรว่ มกัน
ในการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ต่าง ๆ ครูผู้สอนควรได้พิจารณาถึงความ
สอดคล้องต่อเนื่องกันของกิจกรรม หรือกระบวนการแต่ละรูปแบบ และควรมีการตรวจสอบ
ประสทิ ธภิ าพ และคุณภาพในการจดั การเรียนรู้ของตน โดยมแี นวทางในการพจิ ารณา ดงั นี้
๑. เป้าหมายของการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ ผู้เรียนมีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติจริง เพ่ือให้เกิด
พฤตกิ รรมตามทรี่ ะบุไว้ หรอื ไม่ เพียงใด
๒. กระบวนการเรียนรู้ท่ีจัด ควรเป็นส่ิงท่ีให้ผู้เรียนมีความพึงพอใจที่จะฝึกปฏิบัติ และ
มีความสอดคล้องสัมพันธ์กบั เปา้ หมายในการเรยี นรู้
๓. กระบวนการเรียนรู้ที่จัดต้องอยู่ในขอบข่ายความสามารถของผู้เรียน ควรมีรูปแบบ
ทหี่ ลากหลาย ซึง่ นาไปสกู่ ารบรรลุเป้าหมาย
๔. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงออกโดยไม่มีความรู้สึกว่า
กาลังถูกบังคับให้ทา เพราะการบังคับจะทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้น้อยกว่าการสนใจที่จะอยาก
เรียนรู้ด้วยตนเอง กระบวนการเรียนรู้ที่จัดต้องตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล และสอดคล้อง
กับความตอ้ งการของผเู้ รียน ชุมชน และสงั คม
๕. กระบวนการเรียนรู้ท่ีจัดขึ้นจะมีประสิทธิภาพมากข้ึน ถ้าผู้เรียนได้รับการเสริมแรง
และมองเหน็ คณุ คา่ ในส่งิ ทีเ่ รยี นรู้
๖. กระบวนการเรียนรู้ท่ีครูผู้สอนจัดจะทาให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดี เม่ือมีการกระทาซ้า ๆ
อยา่ งสม่าเสมอ และมีการนาเสนอสถานการณ์การเรียนร้ทู ่คี ลา้ ย ๆ กัน
๔. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้
ประเภทของแหลง่ การเรยี นรู้แบง่ เป็น ๕ ประเภท (สธุ รี ะ ประเสรฐิ สรรพ์, 2561: 52) ดังน้ี
๑. แหล่งเรียนรู้ประเภทบุคคล และองค์กรในชุมชน คือ บุคคล คณะบุคคล หรือตัวแทน
ขององค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยอาจจะอยู่ในชุมชนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน
ทีส่ ามารถถา่ ยทอดความรู้ แนวคิด หลกั การ และวธิ ีปฏิบัติ ให้แก่นักเรยี นได้ เชน่
- ปราชญ์ชาวบา้ น หรือภมู ิปัญญาท้องถ่นิ
- ผู้นาชุมชน คณะบุคคลจากสถาบันตา่ ง ๆ
2. แหล่งเรียนรู้ประเภททรัพยากรธรรมชาติ และ ทรัพยากรที่มนุษย์สร้างข้ึน หมายถึง
ทรัพยากร หรือสง่ิ ทเ่ี กดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ หรือทรพั ยากรท่ีมนุษย์สร้างขน้ึ เชน่
- ทรพั ยากรปา่ ไม้ ทรัพยากรน้า
- อุทยานแห่งชาติ
3. แหล่งเรียนรู้ประเภทอาคาร สถานท่ี และ ส่ิงก่อสร้าง หมายถึง อาคาร สถานท่ี หรือ
สง่ิ ก่อสรา้ งตา่ ง ๆ ทม่ี นษุ ย์สร้างข้ึน ทั้งในอดีตและปัจจุบนั เชน่
- พพิ ิธภณั ฑ์
- สถาบนั การศึกษา เช่น โรงเรยี น
- โรงงานอตุ สาหกรรม
- ศูนย์วิทยาศาสตร์
4. แหล่งเรียนรู้ประเภทสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยี หมายถึง แหล่งการเรียนรู้ท่ีเป็น
สงิ่ ประดษิ ฐ์คดิ ค้นทเี่ ปน็ ผลมาจากความเจรญิ ก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ ได้แก่
- ส่ือการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เป็นการนวัตกรรม หรือ เทคโนโลยีท่ีมีอยู่ในชุมชน เช่น
ห้องสมดุ ประชาชน
- เทคโนโลยีสนเทศ การสอนทางไกลผ่านดาวเทียม คอมพิวเตอร์ วิทยุ โทรทัศน์
หอ้ งสมุด อิเลคทรอนคิ ส์ อนิ เตอรเ์ นต็ เป็นตน้
5. แหล่งเรียนรู้ประเภทศิลปะ วัฒนธรรม และจารีตประเพณี หมายถึง แหล่งการเรียนรู้
ทางสงั คมท่แี สดงถงึ ความเปน็ อยู่ ความเชอ่ื วิถีชวี ติ ทส่ี บื ต่อกันมาต้งั แต่อดีต เชน่
- ศิลปะ หตั ถกรรมพนื้ บ้าน
- ดนตรพี ื้นเมอื ง การแสดงพ้ืนบา้ น
- วถิ ีชีวิตความปน็ อยู่ของชมุ ชน กิจกรรมชมุ ชน
แนวทางการวดั และประเมนิ ผล
การวดั และการประเมนิ ผลการเรียนของผู้เรยี นรายวิชา รักษ์ปา่ นา่ น ตามหลกั สูตร “รกั ษป์ ่า
น่าน” เป็นการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนใหป้ ระสบผลสาเรจ็ นน้ั ผู้เรียนจะต้องได้รบั การพัฒนา
และประเมินตามผลการเรียนรู้เพื่อให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร “รักษ์ป่าน่าน” ที่เน้น
การประเมินผลตามสภาพจริงที่มุ่งวัดด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) และ ด้านจิตพิสัย
(Affective Domain) มากกว่า ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) มีรายละเอียดของหลักการ/
แนวทางการวดั ประเมินผลวิธีการวัดประเมนิ ผล เครือ่ งมือ และเกณฑ์ในการวัดประเมินผล ดังน้ี
หลักการ/แนวทางการวัดประเมินผล
1. การประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้
2. เปดิ โอกาสให้ผ้เู ก่ยี วขอ้ งมีส่วนร่วมในการวดั และประเมิน
3. วดั ประเมินผลด้วยเทคนิคและวิธกี ารทหี่ ลากหลายและรอบดา้ น
๓.๑ ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) หมายถึง การเรียนรู้ทางด้านความรู้
ความคิดการแก้ปัญหาจัดเป็นพฤติกรรมด้านสมองเก่ียวกับสติปัญญาความคิดความสามารถในการคิด
เรื่องราวต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพบลูม (Benjamin S. Bloom) และคณะได้จัดพฤติกรรมทาง
พุทธิพิสยั เป็น ๖ ระดบั ดังนี้
๓.๑.๑ ความรู้ (Knowledge) หมายถึงความสามารถในการท่ีจะจดจา
(Memorization) และระลึกได้ (Recall) เป็นความสามารถในการจดจาแนกประสบการณ์ต่าง ๆ และ
ระลึกเรื่องราวนั้น ๆ ออกมาได้ถูกต้องแม่นยาเกี่ยวกับความรู้ท่ีได้รับไปแล้วอันได้แก่ ความรู้เก่ียวกับ
ข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเจาะจงหรือเป็นหลักท่ัว ๆ ไปวิธีการกระบวนการต่าง ๆ โครงสร้างสภาพของส่ิงต่าง ๆ
และสามารถถ่ายทอดออกมาโดยการพูดเขียน หรือกิริยาท่าทางแบ่งประเภทตามลาดับความซับซ้อน
จากน้อยไปหามากเป็นความรูท้ ี่ไดม้ าจากความจา
๓.๑.๒ ความเข้าใจ (Comprehension) เป็นความสามารถบ่งบอก จับใจความ
สาคัญของเร่ืองราว และสามารถแสดงออกมาในรูปของการแปลความ ตีความ คาดคะเน ขยายความ
หรือการกระทาอนื่ ๆ
๓.๑.๓ การนาความร้ไู ปใช้ (Application) เป็นความสามารถในการนาหลักการ
กฎเกณฑ์ และวิธีดาเนินการต่าง ๆ ของเรื่องที่ได้รู้มานาไปใช้แก้ปญั หาในสถานการณ์ใหม่ได้สามารถนา
วัสดวุ ิธีการทฤษฎแี นวคิดมาใชใ้ นสถานการณท์ ีแ่ ตกตา่ งจากท่ีได้เรยี นรมู้ า
๓.๑.๔ การวิเคราะห์ (Analysis) เป็นความสามารถในการแยกแยะเรื่องราว
ท่ีสมบูรณ์ให้กระจายออกเป็นส่วนย่อย ๆ ได้อย่างชัดเจนสามารถแยกจาแนกองค์ประกอบท่ี
สลบั ซบั ซอ้ นออกเป็นส่วน ๆ ใหเ้ ห็นความสมั พนั ธร์ ะหว่างส่วนย่อยตา่ ง ๆ
๓.๑.๕ การสังเคราะห์ (Synthesis) ความสามารถในการรวบรวมหรือนา
องค์ประกอบ หรือส่วนต่าง ๆ เข้ามารวมกันเพื่อให้เห็นภาพพจน์โดยสมบูรณ์เป็นกระบวนการพิจารณา
แต่ละส่วนย่อย ๆ แล้วจัดรวมกันเป็นหมวดหมู่ให้เกิดเร่ืองใหม่หรือสิ่งใหม่สามารถสร้างหลักการ
กฎเกณฑ์ขึ้นเพ่ืออธิบายส่ิงต่าง ๆ ได้ เป็นความสามารถในการผสมผสานส่วนย่อยเข้าเป็นเรื่องราว
เดียวกนั โดยปรบั ปรุงของเกา่ ใหด้ ขี น้ึ และมคี ุณภาพสงู ขนึ้
๓.๑.๖ การประเมินค่า (Evaluation) เป็นความสามารถในการวินิจฉัยหรือ
ตัดสินกระทาสิ่งหนงึ่ ส่ิงใดลงไป การประเมินเก่ียวข้องกับการใช้เกณฑ์ คือ มาตรฐานในการวดั ท่ีกาหนด
ไว้ สามารถตดั สนิ ตรี าคาคุณภาพของส่งิ ตา่ ง ๆ โดยมเี กณฑ์ หรอื มาตรฐานเป็นเคร่อื งตัดสิน
๓.๒ ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor Domain)
พฤ ติ ก ร ร ม ด้ า น ทั ก ษ ะพิ สั ย เ ป็ น พฤ ติ ก ร ร ม ท่ี บ่ ง ถึ ง ค ว า ม ส า ม า ร ใ น ก า ร
ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว ชานิชานาญ ซ่ึงแสดงออกมาได้โดยตรงโดยมีเวลา และคุณภาพของงาน
เปน็ ตวั ชร้ี ะดับของทักษะประกอบดว้ ย ๕ ขน้ั ดงั น้ี (ปรบั ปรุงโดย R. H. Dave)
๓.๒.๑ การรับรู้เลียนแบบทาตาม (Imitation) เป็นการให้ผู้เรียนได้รับรู้
หลักการปฏิบัติที่ถกู ตอ้ งหรือเป็นการเลอื กหาตวั แบบที่สนใจ
๓.๒.๒ การทาเอง/การปรับให้เหมาะสม (Manipulation) เป็นพฤติกรรม
ท่ีผู้เรียนพยายามฝึกตามแบบที่ตนสนใจ และพยายามทาซ้าเพ่ือท่ีจะให้เกิดทักษะตามแบบท่ีตนสนใจ
ใหไ้ ด้ หรือสามารถปฏบิ ัตงิ านไดต้ ามขอ้ แนะนา
๓.๒.๓ การหาความถูกต้อง (Precision) พฤติกรรมสามารถปฏิบัติได้ด้วย
ตนเองโดยไมต่ ้องอาศยั เครื่องช้แี นะเมื่อได้กระทาซา้ แลว้ ก็พยายามหาความถูกต้องในการปฏบิ ัติ
๓.๒.๔ การทาอย่างต่อเนื่อง (Articulation) หลังจากตัดสินใจเลือกรูปแบบ
ที่เป็นของตัวเองจะกระทาตามรูปแบบน้ันอย่างต่อเน่ืองจนปฏิบัติงานท่ียุ่งยากซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว
ถูกต้องคล่องแคล่ว การท่ผี ู้เรียนเกิดทักษะได้ตอ้ งอาศยั การฝึกฝน และกระทาอย่างสม่าเสมอ
๓.๒.๕ การทาได้อย่างเป็นธรรมชาติ (Naturalization) พฤติกรรมท่ีได้จาก
การฝึกอย่างต่อเนื่องจนสามารถปฏิบัติได้คล่องแคล่ว ว่องไวโดยอัตโนมัติเป็นไปอย่างธรรมชาติซ่ึงถือ
เป็นความสามารถของการปฏบิ ัตใิ นระดับสูง
๓.๓ ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) พฤติกรรมด้านจิตใจเป็นค่านิยมความรูส้ ึก
ความซาบซ้ึงทัศนคติความเชื่อความสนใจ และคุณธรรมพฤติกรรมด้านนี้อาจไม่เกิดข้ึนทันที ดังน้ัน
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และสอดแทรกส่ิงที่ดีงามอยู่
ตลอดเวลาจะทาให้พฤติกรรมของผู้เรียนเปล่ียนไปในแนวทางท่ีพึงประสงค์ได้ ประกอบด้วยพฤติกรรม
๕ ระดบั ไดแ้ ก่
๓.๓.๑ การรับรู้ (Receiving/Attending) เป็นความรู้สึกท่ีเกิดขึ้นต่อ
ปรากฏการณ์ หรือสง่ิ เร้าอย่างใดอย่างหนึ่งซ่ึงเป็นไปในลกั ษณะของการแปลความหมายของสงิ่ เร้านั้นว่า
คอื อะไรแล้วจะแสดงออกมาในรูปของความรู้สึกท่ีเกิดขน้ึ
๓.๓.๒ การตอบสนอง (Responding) เปน็ การกระทาท่ีแสดงออกมาในรปู
ของความเต็มใจ ยินยอม และพอใจต่อสิง่ เร้าน้ันซ่งึ เป็นการตอบสนองทเี่ กดิ จากการเลอื กสรรแลว้
๓.๓.๓ การเกิดค่านิยม (Valuing) การเลือกปฏิบัติในสิ่งท่ีเป็นท่ียอมรับกัน
ในสังคมการยอมรบั นับถือในคุณค่าน้นั ๆ หรอื ปฏบิ ตั ิตามในเร่ืองใดเรื่องหนง่ึ จนกลายเป็นความเช่ือแล้ว
จึงเกดิ ทัศนคติที่ดใี นสิง่ นน้ั
๓.๓.๔ การจัดระบบ (Organizing) การสร้างแนวคิดจัดระบบของค่านิยม
ท่เี กิดขึ้นโดยอาศยั ความสมั พนั ธ์ ถ้าเข้ากันไดก้ จ็ ะยดึ ถอื ต่อไป แต่ถา้ ขัดกนั อาจไมย่ อมรบั อาจจะยอมรับ
ค่านิยมใหม่โดยยกเลกิ ค่านิยมเก่า
๓.๓.๕ บุคลิกภาพ (Characterizing) การนาค่านิยมท่ียึดถือมาแสดง
พฤติกรรมท่ีเป็นนิสัยประจาตัวให้ประพฤติปฏิบัติแต่ส่ิงท่ีถูกต้อง พฤติกรรมด้านน้ีจะเกี่ยวกับความรู้สึก
และจิตใจซ่ึงจะเริ่มจากการได้รับรู้จากส่ิงแวดล้อมแล้วจึงเกิดปฏิกิริยาโต้ตอบขยายกลายเป็นความรู้สึก
ด้านต่าง ๆ จนกลายเป็นค่านิยม และยังพัฒนาต่อไปเป็นความคิดอุดมคติซึ่งจะเป็นการควบคุมทิศทาง
พฤตกิ รรมของคน คนจะรู้ดรี ู้ชั่วอยา่ งไรน้นั ก็เป็นผลของพฤตกิ รรมดา้ นน้ี
วิธีการวัดประเมินผล
ใช้วิธีการวัดและประเมินผลท่ีหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์โดยเน้น
การประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment) ใช้เทคนิควิธีการประเมินสภาพจริงท่ีหลากหลาย
ทใี่ ห้ความสาคัญกับการประเมนิ การปฏิบัติ (Performance Assessment) ดงั น้ี
1. สังเกตพฤติกรรม/การรว่ มกจิ กรรม/พัฒนาการ
2. ตรวจผลงานจากการเรียนรู้จริง (Authentic Learning)
3. สัมภาษณ์
4. ประเมินผลงานกลมุ่
5. ประเมนิ แฟม้ สะสมงาน
6. ประเมนิ โครงงาน/ช้ินงาน
7. ทดสอบ
เคร่ืองมือการวัดประเมินผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรม
2. แบบสังเกตการรว่ มกิจกรรม
3. แบบประเมินจากแฟม้ สะสมงาน
4. แบบสังเกตพัฒนาการ
5. แบบตรวจผลงาน
6. แบบสมั ภาษณ์
7. ประเมินผลงานกลุม่
8. แบบประเมินโครงงาน/ชน้ิ งาน
9. แบบทดสอบ
10. Learning log
เกณฑก์ ารวัดประเมนิ ผล
เกณฑ์การวัดประเมินผลท้ังน้ีขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดกิจกรรมของแต่ละโรงเรียน
สามารถจัดได้ ดงั น้ี
1. บูรณาการในรายวิชาพ้ืนฐาน หรอื รายวิชาเพิ่มเติม
1.1 ผ้เรียนตอ้ งมีเวลาเรยี นไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
1.2 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินตามตัวชี้วัดและผลการเรียนรู้ท่ีนา
เน้ือหาสาระตามที่หลักสูตร “รักษ์ป่าน่าน” ไปบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนวัดผลรวมอยู่ใน
รายวิชาน้ัน ๆ และมีคะแนนผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด โดยกาหนดระดับผลการเรียน 8
ระดับ ดังนี้
ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ
4 ดีเยี่ยม 80-100
3.5 ดีมาก 75-79
3 ดี 70-74
2.5 คอ่ นข้างดี 65-69
2 ปานกลาง 60-64
1.5 พอใช้ 55-59
1 50-54
0 ผ่านเกณฑ์ขน้ั ต่า 0-49
ต่ากวา่ เกณฑ์
2. รายวิชาเพ่ิมเตมิ
2.1 เวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
2.2 จัดเป็นรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ วัดผล
รายวิชาเพ่ิมเติม รักษ์ป่าน่าน ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีคะแนนผ่านเกณฑ์ตามผลการเรียนรู้
รอ้ ยละ 80 โดยกาหนดระดบั ผลการเรียน 8 ระดับ ดังนี้
ระดบั ผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ
4 ดีเยย่ี ม 80-100
3.5 ดีมาก 75-79
3 ดี 70-74
2.5 คอ่ นข้างดี 65-69
2 ปานกลาง 60-64
1.5 พอใช้ 55-59
1 50-54
0 ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ต่า 0-49
ตา่ กวา่ เกณฑ์
๓. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือบูรณาการกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือ
กจิ กรรม/โครงการ/โครงงาน/วถิ ชี ีวิตของผู้เรยี นทั้งทีบ่ ้าน โรงเรียน ในชมุ ชน หรือสถานที่อน่ื ๆ
3.1 เวลาการเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
3.2 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมีคะแนนผ่านเกณฑ์ตาม
ผลการเรียนรู้ร้อยละ 80 (เวลาเขา้ รว่ มกิจกรรมและชน้ิ งาน)
3.3 ผ้เู รยี นต้องไดร้ ะดบั ผลการประเมิน ผ่าน
2 ระดับ ช่วงคะแนนเปน็ ร้อยละ
ผ่าน 80-100
75-79
ไม่ผ่าน 70-74
65-69
60-64
55-59
50-54
0-49
๔. กิจกรรมเสรมิ หลักสูตร
4.1 เวลาการเขา้ รว่ มกจิ กรรมไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80
4.2 ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีคะแนนผ่านเกณฑ์ตามผลการ
เรยี นร้รู อ้ ยละ 80 (เวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมและชิน้ งาน)
4.3 ผู้เรยี นตอ้ งได้ระดบั ผลการประเมิน ผ่าน
2 ระดบั ช่วงคะแนนเป็นร้อยละ
ผา่ น 80 - 100
75 - 79
ไมผ่ า่ น 70 - 74
65 - 69
60 - 64
55 - 59
50 - 54
0 - 49
เอกสารอา้ งองิ
กรมป่าไม้. (2560). บทสรุปสำหรบั ผ้บู รหิ ำร โครงกำรจัดทำขอ้ มลู สภำพพนื้ ท่ีป่ำไมป้ ีพ.ศ. 2559 –
2560: ข้อมลู สภำพพน้ื ท่ีปำ่ ไมข้ องประเทศไทยปี พ.ศ. 2559-2560. ม.ป.ท.
กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๕๑). หลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน พทุ ธศักรำช ๒๕๕๑.
กรงุ เทพ: โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.
. (2552). แนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน
พุทธศกั รำช 2551. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
จากดั .
. (๒๕๕๙). แนวทำงกำรนิเทศกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นร้เู พอื่ พัฒนำ๔ H. พิมพ์ครง้ั ที่ 1.
กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผ่านศึก.
. (2560). บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหำร โครงกำรจดั ทำข้อมลู สภำพพ้นื ทีป่ ่ำไม้
ปี พ.ศ. 2559–2560: ข้อมูลสภำพพื้นท่ีปำ่ ไม้ของประเทศไทยปี พ.ศ. 2559-2560.
(ม.ป.ท.).
โครงการสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,
สานักงาน. (2556). คมู่ อื จัดกิจกรรมกำรเรียนร้เู ร่อื งกำรอนุรกั ษ์ทรัพยำกรปำ่ ไมต้ ำม
พระรำชดำรชิ นั้ ประถมศึกษำปที ี่ 5. พิมพ์คร้งั ที่ 1. กรงุ เทพฯ: พ.ี เอ.ลฟิ วิง่ จากดั .
. (255๗). “รกั ษ์ป่ำน่ำน”. พิมพ์คร้งั ท่ี 1. กรุงเทพฯ: พ.ี เอ.ลฟิ วิ่ง จากดั .
. (255๘). “รกั ษ์ปำ่ นำ่ น” คร้ังท่ี 2. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรงุ เทพฯ: พ.ี เอ.ลฟิ วง่ิ จากัด.
จรรยา ดาสา และคณะ. (2559). ชุดกจิ กรรม “ลดเวลำเรยี น เพมิ่ เวลำรู้” เรอ่ื ง ป่ำนั้นสำคัญไฉน
โครงกำรวจิ ยั เร่อื ง “กำรศึกษำและพฒั นำกำรรู้สิง่ แวดล้อมและจริยธรรมสงิ่ แวดล้อม
ในกำรอนรุ ักษท์ รัพยำกรธรรมชำติในชมุ ชน กรณีศกึ ษำปัญหำบุกรุกพ้นื ท่ีปำ่ ในจังหวดั
นำ่ น”. (ม.ป.ท.).
ชัยวัฒน์ สุทธริ ตั น์. (2552). 80 นวัตกรรมกำรจดั กำรเรียนรูท้ ี่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคญั .
กรงุ เทพมหานคร: แดเน็กซ์ อินเตอรค์ อเปอรเ์ รชั่น.
นิทรรศ เวชวินชิ . (256๑). แนวทำงกำรบรหิ ำรจดั กำรทรัพยำกรป่ำไมจ้ งั หวดั นำ่ น: สถำนกำรณ์
พืน้ ท่ีป่ำไม้จงั หวัดน่ำน. (ม.ป.ท.).
ไพโรจน์ โลกนิยม และคณะ. (2551). มำตรกำรแกไ้ ขปัญหำกำรบุกรุกทีด่ นิ ในเขตพ้นื ท่ีป่ำสงวน
แห่งชำติและพ้ืนที่ป่ำไม้. (ออนไลน)์ . สืบค้นจาก
http://landforum.trf.or.th/attachments/article/20/PDF04-01.pdf.
ยุทธภมู ิ สปุ ราการ. (2558). ชดุ บทเรียน รักษ์นำ้ รักษป์ ่ำ รกั ษ์นำ่ น: กำรเรยี นรู้ คืนสู่รำกเหง้ำ
ชำตพิ นั ธ์นำ่ นศึกษำ จำก “รักษป์ ่ำนำ่ น” ครั้งท่ี 2. (ม.ป.ท.)
โรงเรียนตาลชุมพิทยาคม. (2561). กำรสร้ำงจิตสำนึกในกำรอนุรักษ์ป่ำน่ำน ในกระบวนกำรจัด
กำรเรียนกำรสอนบรู ณำกำร. (เอกสารการสอนที่ไม่เป็นเล่ม). (ม.ป.ท.).
วิจารณ์ พานิช. (2555). วถิ ีสรา้ งการเรยี นรเู้ พ่ือศิษยใ์ นศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มลู นิธสิ ดศรี-
สฤษด์วิ งศ.์ (ม.ป.ท.).
ศศิมล ไทยเทยี นชัย และทศั นีย์ จนั ทโคตร. (2558). โครงงำนสืบสำนปัญญำอนุรักษป์ ่ำ:
โรงเรยี นบำ้ นน้ำยำว จำก “รกั ษ์ป่ำนำ่ น” ครง้ั ที่ 2. (ม.ป.ท.).
ศริ าณี อิ่มสุวรรณ์. (2559). แนวทำงกำรดำเนินงำนโครงกำรสรำ้ งปำ่ สรำ้ งรำยได้
ตำมพระรำชดำรสิ มเดจ็ พระเทพรัตนรำชสดุ ำฯสยำมบรมรำชกมุ ำรสี ำหรบั สถำนศกึ ษำ
สงั กดั สำนกั งำนกศน. (ม.ป.ท.).
ศิริพร เข่ือนอ้น. (2558). อนุรักษ์ป่ำ พัฒนำบ้ำนเกิด: โรงเรียนบ้ำนบ่อหยวก จำก รักษ์ป่ำน่ำน
ครงั้ ที่ ๒. (ม.ป.ท.).
สถาบนั ส่งเสรมิ และพฒั นากจิ กรรมปดิ ทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดาร.ิ (ม.ป.ป.). รักษ์ปำ่ น่ำน
ปลกู ปำ่ ปลูกคน. (ม.ป.ท.).
สรรเสริญ อจั จุตมานัส. (2544). ปญั หำหำกำรบกุ รุกทำลำยปำ่ กับกำรแกไ้ ขโดยวธิ กี ำรปฏริ ปู ทีด่ นิ .
ปรญิ ญานพิ นธ์นติ ศิ าสตร์มหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง. (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก
http://www.slideshare.net/SangraweeBeamss-15753307.
สานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมจังหวดั น่าน. (๒๕๖๐). สรปุ ขอ้ มูลสำหรบั ผู้บริหำร
นโยบำยสำคญั ของรฐั บำลจงั หวดั น่ำน. (ม.ป.ท.).
สธุ รี ะ ประเสรฐิ สรรพ.์ (2561). หลักกำรสร้ำงกำรเรียนรจู้ ำกโครงงำนวทิ ยำศำสตรแ์ ละสะเตม็ .
สงขลา: นาศิลป์โฆษณา จากัด.
อุกรชิ พึ่งโสภา. (๒๕๕๗). สรำ้ งเมอื งนำ่ นนำ่ อย่คู ู่ป่ำต้นนำ้ วำระจงั หวดั นำ่ น พ.ศ. 2556–2560
จำก รกั ษป์ ำ่ น่ำน. พมิ พ์คร้ังท่ี 1. กรุงเทพฯ: พ.ี เอ.ลฟี ว่ิง จากัด.
Perspective. (5 พ.ย. 60). บณั ฑูร ล่ำซำ-จำกนำยธนำคำร สู่นกั อนุรกั ษป์ ่ำนำ่ น. (ออนไลน์). สืบคน้
จาก https://www.youtube.com/watch?v=fEXmwaVed3M.
ภาคผนวก
ทป่ี รกึ ษา
๑. ผวู้ า่ ราชการจงั หวัดน่าน
2. รองผู้วา่ ราชการจงั หวัดน่าน
3. ศกึ ษาธิการจังหวดั น่าน
4. รองศึกษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
5. นายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั นา่ น
6. ผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา น่าน เขต ๑
7. ผอู้ านวยการสานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา น่าน เขต ๒
8. ผู้อานวยการสานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๗
9. ผู้อานวยการสานกั งานทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มจังหวัดนา่ น
10. รองอธกิ ารบดมี หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน
๑1. ผู้อานวยการสานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั
จังหวัดนา่ น
๑2. ผู้อานวยการวิทยาลยั ชมุ ชนนา่ น
๑3. ผ้อู านวยการศูนยเ์ ครือข่ายการเรียนรภู้ ูมภิ าค จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
๑4. ประธานคณะกรรมการประสานและสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชนจงั หวดั น่าน
๑5. ผอู้ านวยการกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผล สานกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดนา่ น
๑6. ผอู้ านวยการกลุม่ นโยบายและแผน สานกั งานศึกษาธิการจงั หวัดน่าน
17. ผอู้ านวยการกลุ่มอานวยการ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั นา่ น
วทิ ยากร
๑. วทิ ยากรถอดบทเรียนการจดั กิจกรรมอนรุ กั ษ์ป่านา่ น
นายสมเกยี รติ รตั นวิฑรู ย์ ข้าราชการบานาญ
๒. วทิ ยากรพัฒนาหลักสูตร “รักษป์ ่าน่าน” และตรวจสอบคุณภาพหลกั สูตร
รศ.ดร.ชยั วัฒน์ สุทธิรตั น์ รองคณบดฝี า่ ยพัฒนาครแู ละบริการวชิ าการ
คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร
คณะกรรมการขบั เคล่อื นโครงการอนรุ กั ษ์ป่านา่ นจากหอ้ งเรียนสชู่ ุมชนระดบั จังหวัด
๑. คณะกรรมการขบั เคล่ือนกจิ กรรมพัฒนาหลักสูตร
1.1 ศึกษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
๑.๒ รองศกึ ษาธิการจงั หวดั นา่ น
๑.๓ ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา น่าน เขต ๑
๑.๔ ผู้อานวยการสานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา นา่ น เขต ๒
๑.๕ ผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓๗
๑.๖ ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสรมิ การศกึ ษาเอกชนจงั หวดั นา่ น
๑.๗ ผอู้ านวยการกล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผล
สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั นา่ น
๑.๘ ผอู้ านวยการกลุม่ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา
สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา นา่ น เขต 1
๑.๙ ผอู้ านวยการกลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา
สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา น่าน เขต ๒
๑.๑๐ นายยทุ ธพงษ์ หาญยทุ ธ ศึกษานิเทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัดนา่ น
๑.๑๑ นางสชุ าดา ไตรจนิ ดา ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๑.๑๒ นางปยิ ะนชุ ไชยสมทิพย์ ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
๑.๑๓ นายนิพนธ์ สารถอ้ ย ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดน่าน
๑.๑๔ วา่ ท่ี ร.ต.พงษ์พณิ ติ ย์ อุทธิยา ศกึ ษานเิ ทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดน่าน
๑.๑๕ นายนภทั ร เครอื ผดุงสกลุ ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๑.๑๖ นางปาณิศา จนิ ะแปง ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๑.๑๗ นางสาวพิมพว์ ลญั ช์ ชยั ชนะ ศึกษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัดน่าน
๑.๑๘ นายภัคพงษ์ สหี ราช ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดนา่ น
๑.๑๙ นางสาวกฤติยา ขัตยิ ะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๑
๑.๒๐ นายวชั รพงค์ โนทะนะ ศึกษานิเทศก์ สพป. นา่ น เขต ๑
๑.๒๑ นางลาเนาว์ ชัยคา ศึกษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๑
๑.๒๒ นางระเบยี บ สทิ ธชิ ัย ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๒
๑.๒๓ นางสาวภญิ ญาพชั ญ์ เช้อื จนั ทรย์ อด ศึกษานิเทศก์ สพป. นา่ น เขต ๒
๑.๒๔ นางวรวรรณ แสงศริ โิ รจน์ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบา้ นดอน (ศรีเสรมิ กสกิ ร)
๑.๒๕ นายวสนั ต์ กวิ ฒั นา ผอู้ านวยการโรงเรียนสาธกุ ิจประชาสรรค์
รชั มังคลาภเิ ษก
๒. คณะกรรมการจัดทากรอบเน้อื หาสาระหลักสตู ร “รักษป์ ่านา่ น”
๒.๑ นางศรีรัตน์ บุญศรี ผูอ้ านวยการกลุม่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผล
สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๒.๒ นายมานพ ตรยั ตรากุล ผอู้ านวยการกล่มุ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผล
การจดั การศกึ ษา สพป. นา่ น เขต ๒
๒.๓ นายประยงค์ แก้วประทมุ ผู้อานวยการวทิ ยาลยั ชมุ ชนน่าน
๒.๔ นายพเิ ชษฐ ผดั ผล รองหวั หน้ากลุ่มงานจดั การพ้ืนท่นี า่ น
ศนู ย์เครอื ข่ายการเรยี นร้เู พ่อื ภูมิภาค
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
๒.๕ นายยุทธพงษ์ หาญยทุ ธ ศกึ ษานิเทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๒.๖ นางสุชาดา ไตรจินดา ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
๒.๗ นางปิยะนุช ไชยสมทพิ ย์ ศึกษานิเทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
๒.๘ นายนิพนธ์ สารถ้อย ศึกษานเิ ทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัดนา่ น
๒.๙ วา่ ท่ี ร.ต.พงษพ์ ิณติ ย์ อทุ ธิยา ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดนา่ น
๒.๑๐ นายนภทั ร เครอื ผดุงสกุล ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดน่าน
๒.๑๑ นางปาณิศา จินะแปง ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๒.๑๒ นางสาวพิมพว์ ลญั ช์ ชยั ชนะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดนา่ น
๒.๑๓ นายภัคพงษ์ สหี ราช ศึกษานิเทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัดนา่ น
๒.๑๔ นางสาวกฤติยา ขัติยะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๑
๒.๑๕ นายวชั รพงค์ โนทะนะ ศึกษานิเทศก์ สพป. นา่ น เขต ๑
๒.๑๖ นางลาเนาว์ ชยั คา ศกึ ษานิเทศก์ สพป. น่าน เขต ๑
๒.๑๗ นางระเบยี บ สทิ ธชิ ัย ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. นา่ น เขต ๒
๒.๑๘ นายจาลอง ไชยยา ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. นา่ น เขต ๒
๒.๑๙ นางสาวภญิ ญาพัชญ์ เชอื้ จันทรย์ อด ศกึ ษานิเทศก์ สพป. น่าน เขต ๒
๒.๒๐ นายประสาท ศรีสวสั ด์ิ หวั หนา้ บรหิ ารงานท่วั ไป กองการศึกษา
เทศบาลเมืองนา่ น
๒.๒๑ นางนา้ ทพิ ย์ ทะศรแี กว้ ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสรมิ
การศกึ ษาเอกชนจงั หวัดนา่ น
๒.๒๒ นางสภุ าวดี วาทิกทนิ กร ครู สานักงาน กศน.จังหวัดน่าน
๒.๒๓ นางวรวรรณ แสงศิรโิ รจน์ ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นดอน (ศรีเสริมกสิกร)
๒.๒๔ นายวสนั ต์ กวิ ฒั นา ผู้อานวยการโรงเรยี นสาธกุ ิจประชาสรรค์
รชั มังคลาภิเษก
๒.๒๕ นายอภริ ณุ คาตัน๋ ครู โรงเรียนบ้านนา้ เลยี ง
๒.๒๖ นางสาวปรัชญาดา ลาคา ครู โรงเรยี นบา้ นหว้ ยฟอง
๒.๒๗ นางปราณี อินวาทย์ ครู โรงเรยี นตาลชมุ พทิ ยาคม
๒.๒8 นางจฬุ าวรรธน์ สะสม ครู โรงเรียนตาลชมุ พทิ ยาคม
๒.๒๙ นายวโิ รจน์ ใบยา ครู โรงเรยี นพระปริยัติธรรมวัดนโิ ครธาราม
๓. คณะทางานพัฒนาหลักสตู ร “รักษ์ป่านา่ น”
๓.๑ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ - ๓
๓.๑.๑ นางวนัญญา พลธนะ ครู โรงเรียนบ้านคาเรือง
๓.๑.๒ นายสทุ นิ ทา้ วขว้าง ครู โรงเรียนศรีเวยี งสาวทิ ยาคาร
๓.๑.๓ นางวสิ า อตุ เสน ครู โรงเรียนชมุ ชนบา้ นหลวง
๓.๑.๔ นางนิศากร อินผอ่ ง ครู โรงเรียนบา้ นแม่ขะนงิ
๓.๑.๕ นางสาวจติ รานชุ สมภารวงค์ ครู โรงเรยี นบ้านปา่ สกั
๓.๑.๖ นายศิริ ไชยชอ่ ฟา้ ครู โรงเรียนแสนทองวิทยา
๓.๑.๗ นางรงุ่ อรุณ ครี ีสัตยกุล ครู โรงเรยี นไตรประชาวิทยา
๓.๑.๘ นางสุวพร อุปละ ครู โรงเรยี นไตรมิตรวิทยา
๓.๑.๙ นางผอ่ งศรี ภูคา ครู โรงเรียนชมุ ชนไตรคามราษฎร์บารุง
๓.๑.๑๐ นางสาวปรัชญาดา ลาคา ครู โรงเรยี นบ้านหว้ ยฟอง
๓.๑.๑๑ นางนยั นา องิ คสวัสดิ์ ครู โรงเรียนอนุบาลอยู่วทิ ยา
๓.๑.๑๒ นายนพดล แสนอินตะ๊ ครู สานกั งาน กศน.จงั หวดั น่าน
๓.๒ ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ - ๖
๓.๒.๑ นางสาวนวพรรณ อินตะ๊ วงศ์ ผู้อานวยการโรงเรียนดรณุ วิทยา
เทศบาลเมืองนา่ น (บ้านสวนตาล)
๓.๒.๒ นางสาวสุรีพร เสาร์วงค์ ครู โรงเรยี นราชานุบาล
๓.๒.๓ นางนภิ า อนุ่ ถา ครู โรงเรยี นบา้ นนาราบ (จุลเกษตรศึกษาคาร)
๓.๒.๔ นางสพุ ตั รา ปติ ิรัตน์ ครู โรงเรยี นบา้ นดอน (ศรเี สรมิ กสิกร)
๓.๒.๕ นางจริ าภรณ์ เชยี งจันทร์ ครู โรงเรียนบ้านดพู่ งษ์
๓.๒.๖ นางสาวดวงดาว พรมจันที ครู โรงเรยี นบา้ นพรหม
๓.๒.๗ นายจาลอง ไชยยา ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๒
๓.๒.๘ นายอภริ ุณ คาต๋นั ครู โรงเรยี นบ้านน้าเลยี ง
๓.๒.๙ นางวิภาวี สารถอ้ ย ครู โรงเรียนบ้านปรางค์
๓.๒.๑๐ นายตะวัน แกน่ เมือง ครู โรงเรยี นบ้านปางแก
๓.๒.๑๑ นางนจุ ิรา สุภา ครู โรงเรยี นปา่ กลางมิตรภาพที่ ๑๖๖
๓.๒.๑๒ นางสาวชรญั ญา อาภาวัง ครู โรงเรียนนิธวิ ิทย์
๓.๒.๑๓ นายเชงิ ชาย อุดอา้ ย ครูอาสาสมคั ร กศน.อาเภอเฉลิมพระเกยี รติ
๓.๓ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ - ๓ ครู โรงเรยี นบา้ นน้าครกใหม่
๓.๓.๑ นางสาวมนสั นนั ท์ อุดใจ ครู โรงเรียนบา้ นทา่ มงคล
๓.๓.๒ นางสาวณัฐดิ า พลังฤทธ์ิ
ครู โรงเรยี นบ้านหว้ ยมอญ
๓.๓.๓ นางสาวคนงึ นิจ ณ นา่ น ครู โรงเรยี นสมาคมพยาบาลไทย
๓.๓.๔ นางสาวอภิญญา ซอระสี ครู โรงเรียนสกาดพัฒนา
๓.๓.๕ นางดอกปน่ิ สมศรี ครู โรงเรยี นบ้านผาหลกั
๓.๓.๖ นายวิทยา ปนั โน
๓.๓.๗ นางสาวเนตรดาว ใจจนั ทร์ ครู โรงเรยี นสาธุกจิ ประชาสรรค์
รัชมังคลาภเิ ษก
๓.๓.๘ นายรงั สรรค์ ไกรสกี าจ ครู โรงเรยี นแมจ่ ริม
๓.๓.๙ นายมานติ ย์ พรมถานา ครู โรงเรยี นนนั ทบรุ วี ทิ ยา
ในพระบรมราชานุเคราะห์
๓.๓.๑๐ นายวโิ รจน์ ใบยา ครู โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรมวัดนิโครธาราม
๓.๓.๑๑ นายพิเชษฐ์ ขันทะยศ ครอู าสาสมคั ร กศน.อาเภอบ่อเกลอื
๓.๔ ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ - ๖
๓.๔.๑ พระปลัดคงศลิ ป์ ภทฺทราวุโธ ผูอ้ านวยการโรงเรียนพระปริยัตธิ รรม
วดั นิโครธาราม
๓.๔.๒ นางกณั ฐมณี สมมุติ ครู โรงเรียนมัธยมป่ากลาง
๓.๔.๓ นางจริ ภรณ์ กา๋ แก้ว ครู โรงเรยี นปวั
๓.๔.๔ นางสาวประภารตั น์ สายวงศ์ ขา้ ราชการบานาญ
๓.๔.๕ นายบุญฤทธิ์ ชาเตยี ม ครู โรงเรียนนาน้อย
๓.๔.๖ นางปทุมมาส ชมกลนิ่ เจ้า ครู โรงเรียนศรีสวัสด์ิวทิ ยาคารจงั หวดั นา่ น
๓.๔.๗ นายชลายทุ ธ์ วเิ ศษกาษ ครู โรงเรียนท่าวงั ผาพิทยาคม
๓.๔.๘ นายโพธิบรู พ์ แกว้ ทอง ครู โรงเรยี นเชยี งกลางประชาพฒั นา
๓.๔.๙ นายทรงบญั ชา บวั จนั ทร์ ครู โรงเรียนสา
๓.๔.๑๐ นายชรนิ ทร์ พิชยั วงค์ ครู โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๕๖
๓.๔.๑๑ นางปราณี อินวาทย์ ครู โรงเรียนตาลชมุ พทิ ยาคม
๓.๔.๑๒ นางจฬุ าวรรธณ์ สะสม ครู โรงเรยี นตาลชุมพทิ ยาคม
๓.๔.๑๓ นางสภุ าวดี วาทกิ ทนิ กร ครู สานักงาน กศน.จังหวดั นา่ น
๔. คณะวทิ ยากรประจากลมุ่ พฒั นาหลกั สตู ร “รกั ษป์ า่ น่าน”
๔.๑ นางศรรี ตั น์ บุญศรี ผู้อานวยการกลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล
สานักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๔.๒ นายมานพ ตรัยตรากลุ ผอู้ านวยการกลมุ่ นเิ ทศ ติดตามและประเมินผล
การจดั การศกึ ษา สพป. น่าน เขต ๒
๔.๓ นายยทุ ธพงษ์ หาญยทุ ธ ศึกษานิเทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั น่าน
๔.๔ นางสชุ าดา ไตรจนิ ดา ศกึ ษานิเทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั น่าน
๔.๕ นางปิยะนชุ ไชยสมทิพย์ ศึกษานเิ ทศก์ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั น่าน
๔.๖ นายนิพนธ์ สารถ้อย ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๔.๗ ว่าที่ ร.ต.พงษ์พณิ ิตย์ อุทธิยา ศึกษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดนา่ น
๔.๘ นายนภัทร เครอื ผดุงสกลุ ศึกษานเิ ทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๔.๙ นางปาณศิ า จินะแปง ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๔.๑๐ นางสาวพิมพว์ ลัญช์ ชยั ชนะ ศึกษานิเทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัดนา่ น
๔.๑๑ นายภัคพงษ์ สีหราช ศกึ ษานิเทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๔.๑๒ นางสาวกฤตยิ า ขัตยิ ะ ศกึ ษานิเทศก์ สพป. นา่ น เขต ๑
๔.๑๓ นางระเบยี บ สทิ ธชิ ัย
๔.๑๔ นายทวีศักดิ์ สงวนศรี ศกึ ษานิเทศก์ สพป. น่าน เขต ๒
4.15 นายอดุลยเ์ ดช กรงทอง ศึกษานเิ ทศก์ สพป. น่าน เขต ๒
4.16 นางวรวรรณ แสงศริ ิโรจน์ ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นนา้ คา
4.17 นายวสันต์ กิวฒั นา ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นดอน (ศรีเสริมกสกิ ร)
ผอู้ านวยการโรงเรียนสาธกุ ิจประชาสรรค์
4.18 นางปวรศิ า สงิ ห์อุดร รชั มงั คลาภิเษก
4.19 นางชิรญา พชิ ัยวงศ์ รองผู้อานวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56
๔.20 นางสาวภทั รวดี ศรกี วนชา ครู โรงเรียนบ้านห้วยเฮือ
ครู โรงเรียนป่าแลวหลวงวิทยา
๕. คณะกรรมการตรวจสอบความถกู ต้อง เหมาะสมของเน้อื หาหลักสูตร “รกั ษ์ปา่ น่าน”
๕.๑ พระปลดั คงศลิ ป์ ภทฺทราวโุ ธ ผอู้ านวยการโรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม
วดั นิโครธาราม
๕.๒ นายมานพ ตรยั ตรากลุ ผ้อู านวยการกล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผล
การจัดการศึกษา สพป. น่าน เขต ๒
๕.๓ นายจาลอง ไชยยา ศึกษานเิ ทศก์ สพป. นา่ น เขต ๒
๕.๔ นางสาวนวพรรณ อนิ ต๊ะวงศ์ ผอู้ านวยการโรงเรียนดรณุ วทิ ยา
เทศบาลเมืองนา่ น (บ้านสวนตาล)
๕.๕ นางรงุ่ อรณุ ครี ีสตั ยกุล ครู โรงเรียนไตรประชาวิทยา
๕.๖ นางสาวคนงึ นจิ ณ นา่ น ครู โรงเรยี นบ้านหว้ ยมอญ
๕.๗ นางนิภา อุน่ ถา ครู โรงเรียนบ้านนาราบ (จลุ เกษตรศกึ ษาคาร)
๕.๘ นางจิรภรณ์ ก๋าแกว้ ครู โรงเรียนปวั
๕.๙ นางสาวประภารัตน์ สายวงศ์ ขา้ ราชการบานาญ
๕.๑๐ นายมานติ ย์ พรมถานา ครู โรงเรียนนันทบรุ ีวทิ ยา
ในพระบรมราชานเุ คราะห์
๕.๑๑ นางจฬุ าวรรธณ์ สะสม ครู โรงเรียนตาลชุมพิทยาคม
๖. ผู้ทรงคณุ วฒุ ติ รวจสอบคุณภาพหลักสตู ร “รกั ษป์ า่ นา่ น”
๖.๑ ผอู้ านวยการสานกั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มจังหวัดนา่ น
๖.๒ ว่าที่ ร.ต. สมเดช อภิชยกุล รองนายกองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดนา่ น
๖.๓ นางสาวชรสั นนั ท์ ตาชม วทิ ยาลยั ชมุ ชนนา่ น
๖.๔ นางบวั ตอง ธรรมะ องคก์ ารบริหารส่วนตาบลเมืองจงั
๖.๕ นายวริ นั วิสุทธธิ าดา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนานา่ น
๖.๖ นายสมเกยี รติ รตั นวฑิ ูรย์ ขา้ ราชการบานาญ
๖.๗ นางศรีรัตน์ บุญศรี ผู้อานวยการกลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล
สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวัดน่าน
๖.๘ นายมานพ ตรัยตรากลุ ผู้อานวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผล
การจัดการศกึ ษา สพป. นา่ น ๒
๖.๙ นางศริ ิรตั น์ แย้มศิลป์ ศึกษานิเทศก์ สพป. น่าน ๑
๖.๑๐ นางระเบยี บ สทิ ธิชยั ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป. น่าน ๒
๖.๑๑ นายปกรณ์ ศศวิ ัจน์ไพสฐิ ผู้อานวยการโรงเรียนบา้ นสวา้
๖.๑๒ นายศริ ิ ไชยชอ่ ฟา้ ครู โรงเรียนแสนทองวทิ ยา
๖.๑3 นางเทียมจติ หาญยุทธ ครู โรงเรียนชุมชนศลิ าเพชร
๗. คณะกรรมการตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไข เรียบเรยี ง หลกั สูตร “รักษป์ ่าน่าน”
๗.๑ นางศรีรัตน์ บุญศรี ผ้อู านวยการกลุ่มนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผล
สานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั นา่ น
๗.๒ นายมานพ ตรัยตรากุล ผู้อานวยการกลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผล
การจัดการศกึ ษา สพป. นา่ น ๒
๗.๓ นายยทุ ธพงษ์ หาญยุทธ ศึกษานิเทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๗.๔ นางปยิ ะนชุ ไชยสมทพิ ย์ ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั นา่ น
๗.๕ วา่ ทร่ี .ต.พงษพ์ ณิ ิตย์ อุทธยิ า ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั นา่ น
๗.๖ นางปาณศิ า จินะแปง ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
๗.7 นางสาวพิมพว์ ลญั ช์ ชยั ชนะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สานกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั น่าน
๗.๘ นายภคั พงษ์ สีหราช ศกึ ษานิเทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจงั หวัดน่าน
ออกแบบรปู เลม่ และปก ศกึ ษานเิ ทศก์ สานักงานศึกษาธกิ ารจังหวัดนา่ น
นายภัคพงษ์ สหี ราช