The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ข้อมูลและตัวแปรในภาษาPython

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by asree0452, 2021-08-30 10:12:35

ข้อมูลและตัวแปรในภาษาPython

ข้อมูลและตัวแปรในภาษาPython

เร่อื ง ขอ้ มูลและตวั แปรในภาษาPython

รายวชิ า การเขยี นโปรแกรม
ว322296

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จงั หวดั ยะลา

นายมฮู ามดั อัสรี ยโุ ซะ ครฝู กึ ประสบการณว์ ิชาชพี

เร่ือง ข้อมลู และตัวแปรในภาษาPython

1.ข้อมลู Data

คอื ข้อเทจ็ จรงิ หรอื เรอ่ื งราวทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั สงิ่ ตา่ ง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ เปน็ ตน้
โดยอยใู่ นรูปแบบทเี่ หมาะสมต่อการสอ่ื สาร การแปลความหมายและการประมวลผล

ซง่ึ ขอ้ มูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมลู เป็นได้ทัง้ ข้อมลู ตัวเลขหรือ
สญั ลักษณใ์ ด ๆ ทส่ี าคัญจะต้องมคี วามเปน็ จรงิ และตอ่ เนือ่ ง ตัวอย่างของขอ้ มลู เชน่ คะแนนสอบ ช่ือนักเรียน
เพศ อายุ เปน็ ต้น

1.ขอ้ มลู Data (ตอ่ )
1.1ชนดิ ของข้อมูล ข้อมลู ทค่ี อมพิวเตอร์สามารถเกบ็ บันทึกได้น้นั อาจจาแนกไดห้ ลายรูปแบบท่สี าคัญๆ ไดแ้ ก่

ขอ้ มลู ทีเ่ ป็นตวั อักขระ ข้อมูลรหสั ข้อมลู ภาพ ข้อมูลเสยี ง
หรอื ข้อความ (code data) (image data) (voice data)

(character data หรอื text) 3. 5. 7.

1.

2. 4. 6.

ขอ้ มลู เชิงจานวน ขอ้ มูลวันที่ ข้อมลู ภาพเคล่อื นไหว
(numerical data) (date data) (moving data)

1.1ชนดิ ของขอ้ มูล ข้อมลู ที่คอมพวิ เตอร์สามารถเกบ็ บันทึกไดน้ ้ันอาจจาแนกได้หลายรปู แบบทีส่ าคญั ๆ ได้แก่

1.1.1ข้อมูลทเี่ ป็นตวั อักขระหรอื ข้อความ (character data หรือ text) ขอ้ มลู ที่เป็นตัวอักขระหรือข้อความหรือ เป็นข้อมูลที่
อาจเปน็ ตวั อกั ษร ตัวเลขและสญั ลักษณ์ โดยขอ้ มูลทเี่ ป็นตัวเลขจะไมส่ ามารถนาไปคานวณไดแ้ ต่สามารถนาไปจดั เรยี งตามลาดับตวั อกั ขระ
เปลี่ยนแปลงแกไ้ ขไดแ้ ละเปรียบเทียบได้ว่าเหมอื นกบั ขอ้ มูลอ่ืนหรือไม่

1.1.2ข้อมลู เชิงจานวน (numerical data) มีลกั ษณะเปน็ ตัวเลขซ่ึงคอมพิวเตอรส์ ามารถนาไปคานวณไดต้ ัวอยา่ ง เชน่
เงินเดือน คะแนน และยอดขาย เปน็ ต้น โดยข้อมลู ท่ีเป็นตวั เลขอาจจาแนกได้ 2 รูปแบบ คอื 1. ขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ เลขจานวนเต็ม Integer
Number เชน่ 3, 5 และ-7 เป็นต้น และ 2.ขอ้ มูลท่ีเป็นเลขทศนิยม เช่น 20.5, 125.75 และ -0.001เป็นต้น

1.1.3ข้อมลู รหัส (code data) อาจเป็นตวั อักขระหรือข้อมูลเชิงจานวนกไ็ ด้ซง่ึ มักจะมีการกาหนดขนาดความยาวไว้
จากัด เช่น รหสั ท่ใี ชร้ ะบุเพศอาจเปน็ ตวั เลขหน่งึ ตัวหรือตวั อักขระหน่ึงตวั ไดแ้ ก่ 1 แทนด้วยเพศชาย และ 2 แทนด้วยเพศหญงิ หรอื เลข
ประจัวตวั นกั เรยี น เปน็ ต้นซึ่งข้อมูลรหสั น้ันไม่ไดน้ าไปใชเ้ พือ่ การคานวณแต่ใชเ้ พื่อการเปรยี บเทยี บนับหรอื จัดกลมุ่ ข้อมูลที่มีรหสั ตรงกบั ท่ี
กาหนด

1.1.4ข้อมลู วนั ท่ี (date data) เป็นขอ้ มูลซ่ึงกาหนดข้นึ เปน็ พเิ ศษเพอื่ ให้สามารถแสดง วัน เดือน ปี ทกี่ าหนดไว้เป็น
มาตรฐานไดซ้ ่ึงขอ้ มูลวนั ทจ่ี ะมีประโยชนม์ ากในการคานวณอายหุ รอื หาช่วงเวลาระหว่างวันท่ีหนงึ่ ไปยังอีกวนั ท่ีหน่งึ

1.1.5ข้อมลู ภาพ (image data) เปน็ ขอ้ มูลภาพเชน่ ภาพถา่ ย หรอื ภาพท่จี ัดเก็บไวใ้ นระบบคอมพวิ เตอร์เป็นข้อมลู ที่
แสดงความเขม้ และสขี องรูปภาพหรือเอกสารที่เปน็ ผลจากการใช้เครื่องสแกนเนอร์บันทกึ ขอ้ มูลไวใ้ นคอมพวิ เตอร์โดยขอ้ มลู ภาพจะมี
ลักษณะเปน็ จดุ ภาพ สามารถนามาแสดงทางจอภาพ ย่อ ขยายหรือตดั ตอ่ ได้ และมกั เกบ็ ไว้ใชเ้ พ่อื การอา้ งอิงเท่านนั้

1.1.6ข้อมลู ภาพเคลือ่ นไหว (moving data) เป็นภาพที่เกดิ จากการนาภาพนง่ิ หลาย ๆภาพแสดง
ต่อเนื่องกันโดยเร็ว ทาใหผ้ ้ชู มเหน็ เป็นภาพเคลือ่ นไหว

1.1.7ข้อมูลเสียง (voice data) เป็นขอ้ มลู ทน่ี ยิ มนามาใชใ้ นงานประมวลผลภาษาธรรมชาติ
( natural language processing) ซง่ึ ชว่ ยให้คอมพวิ เตอรส์ ามารถแยกเสยี งทีไ่ ดร้ บั ออกวา่ มีความหมายอะไรเพอ่ื ให้
คอมพิวเตอร์สามารถทางานตามท่ีมนษุ ยบ์ อกหรือออก

1.2 ชนดิ ของขอ้ มูลในภาษาไพทอน
มอี ยหู่ ลายชนดิ ด้วยกัน โดยอาจแบง่ ใหญ่ ๆ ออกเปน็ ๒ กลุ่ม คอื

ขอ้ มลู แบบเด่ียว ข้อมลู แบบกลมุ่

ขอ้ มูลทีเ่ ป็นค่าตัวเลขตา่ ง ๆ ข้อมูลทีเ่ ปน็ สายอักขระ (str) และข้อมูล
ชนดิ ทีเ่ ปน็ รายการของขอ้ มลู ชนิดอ่ืนอีกที
ได้แก่
จานวนเตม็ (int), จานวนจรงิ ได้แก่
(float) และจานวนเชงิ ซอ้ น ลสิ ต์ (list), ทเู พลิ (tuple),
(complex) ดกิ ชันนารี (dict), เซต็ (set),
เรนจ์ (range) เป็นต้น

ชนิดของข้อมลู ความหมาย ตวั อย่าง
ตารางสรุปชนิดของข้อมลู หลกั ๆ จานวนเต็ม 12345
จานวนจริง 123.45
ชอื่ ย่อ จานวนเชิงซ้อน 123+45j
int บูล True
float สายอักขระ '12345'
complex ลิสต์ [1,2,3,4,5]
bool ทเู พลิ (1,2,3,4,5)
str เซต็ {1,2,3,4,5}
list ดิกชนั นารี {'ก':1,'ข':2,'ค':3,'ง':4,'จ':5}
tuple เรนจ์ range(1,6)
set
dict
range

พื้นฐานในภาษาไพทอน 4 ชนดิ หลักได้แก่ int , float , str , bool เปน็ ตน้

1. จานวนเตม็ int

คือ ขอ้ มูลที่เป็นตัวเลขทไ่ี มม่ ีจุดทศนยิ ม เชน่

1
300
32549

**จานวนเตม็ ในบางภาษาอาจมีจานวนหลกั ได้จากัด แต่ว่าในภาษาไพทอนสามารถมจี านวนหลกั ได้ไมจ่ ากัด
ขน้ึ กับหนว่ ยความจาของเครื่อง

2. จานวนจรงิ float

คอื ข้อมูลที่เปน็ ตัวเลขที่ประกอบดว้ ยจดุ ทศนยิ ม เช่น

129.3
6.61

ต่อให้ตวั เลขหลังจดุ ทศนยิ มเป็น 0 ซง่ึ ในทางคณติ ศาสตรแ์ ลว้ ถอื เป็นจานวนเตม็ แตห่ ากเขียนจุดทศนยิ มไปด้วยกถ็ อื
เป็นข้อมูลชนดิ จานวนจริง เชน่ 4.00

3. สายอักขระ str

คอื ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นตัวอกั ษรหลายๆตัวมาต่อเรียงกัน วธิ กี ารเขียนสายอักขระจะตอ้ งคร่อมด้วยเครอ่ื งหมายคาพดู
โดยจะใชข้ ีดเดย่ี ว ' หรอื ขดี คู่ " กไ็ ด้ เช่น

'ฉันเป็นนักเรยี น'
"I am a student"

แมว้ า่ จะเป็นตัวเลข แต่หากถกู ครอ่ มดว้ ยเครือ่ งหมายคาพูดกจ็ ะถอื ว่าเปน็ สายอักขระ
'2021'
"2556"

4. บลู bool

ขอ้ มลู ชนดิ บลู คอื ข้อมูลที่มีคา่ เป็นเพียง ๒ แบบ คือจรงิ กับเท็จเทา่ นั้น ซ่งึ เขยี นแทนดว้ ย

True
False

**โดยให้ระวงั วา่ จาเปน็ ตอ้ งขน้ึ ตน้ ดว้ ยตวั พิมพ์ใหญเ่ ท่านน้ั

#ตัวอย่างข้อมูลชนดิ Boolean
a = True
b = False
c = 1>2
d = 5 == 3

การตรวจสอบชนิดของข้อมูล

ค่าของข้อมูล (value) แบง่ ออกได้เป็นหลายชนดิ (data type) หรอื หลายคลาส (Class)
เชน่ 16 เปน็ ชนดิ จานวนเตม็ (integer) และ “Hello” เปน็ สตรงิ ในไพทอนมีฟงั ก์ชัน type() ท่ี
จะสามารถบอกคลาสของค่าข้อมลู ได้

ตวั อย่าง การตรวจสอบชนิดของข้อมูล 12.53 ‘165’ True

125 “Hello”

คา่ ของข้อมูลทใี่ ช้ในการประมวลผลมีหลายคลาส เช่น จานวนเต็ม (int), สตริง (str), จานวนจรงิ (float),
และบูล (bool)

ชนดิ สามารถนามาคานวณร่วมกันได้ เชน่ คลาส int สามารถนามาคานวณร่วมกับคลาส float และผลท่ไี ด้จะ
เป็นคลาส float เชน่

2 + 3.5 = 5.5

แตต่ ัวเลขหรือนพิ จนท์ อี่ ยภู่ ายในเครอ่ื งหมายคาพูดไมส่ ามารถนามาใช้คานวณได้ เพราะถือเป็นคลาส str เชน่

‘2’+2

ส่วนคา่ ของ ขอ้ มลู ในคลาส bool จะมีค่าเปน็ จรงิ (true) หรือ เทจ็ (false) เทา่ น้นั

2. ตัวแปร(variable)

คือ ส่ิงทใ่ี ช้เกบ็ คา่ ของข้อมลู ชนดิ ต่าง ๆ น่นั เพราะเวลาที่เรามีข้อมูลก็จาเป็นต้องมีท่ีจัดเก็บข้อมูล ซึ่งท่ีจัดเก็บ
ข้อมูลน้ันก็คือตัวแปรนั่นเอง ตัวอย่าง เช่น เพศ แปรได้เป็น 2 ค่าคือ เพศชาย และเพศหญิง อายุ แปรได้ตั้งแต่อายุ
แรกเกิด 1, 2, ....จนถึงอายสุ งู สดุ ของกล่มุ ตวั อย่างท่ีทาการศกึ ษา ระดบั การศกึ ษาแปรไดห้ ลายค่าตามแต่ระดบั
ของการศกึ ษาท่ีผวู้ ิจยั กาหนดไว้ เชน่ ระดบั ประถม ระดบั มธั ยม จนถึงปรญิ ญาเอก เป็นตน้

2.1 การประกาศตัวแปร

ในไพทอนผู้เขียนโปรแกรมสามารถสร้างตวั แปร (Variable) ชื่อที่ตงั้ ข้นึ มา เพอื่ อ้างอิงถงึ ตาแหนง่ หนว่ ยความจาท่ใี ชจ้ ดั เก็บ
ขอ้ มูล และสามารถเรียกค่าขอ้ มูลทเี่ ก็บอยู่ออกมาใช้ กระบวนการสร้างตัวแปร เรียกวา่ การประกาศตวั แปร

ทาไดโ้ ดยการใชเ้ ครอ่ื งหมายเท่ากับ = โดยใส่ชอ่ื ตัวแปรทต่ี ้องการไวท้ างซา้ ย แล้วใสค่ ่าท่ีต้องการปอ้ นใหไ้ วท้ างขวา

ชือ่ ตวั แปร = ส่ิงท่ีจะเก็บไว้ในตวั แปร

ตวั อยา่ งเชน่

สังเกตว่าในคาสง่ั กาหนดคา่ จะมีองค์ประกอบของคาสงั่ คอื มีช่ือตวั แปรอยู่ทางซ้ายของ เครอ่ื งหมายกาหนดคา่
(เคร่อื งหมายเท่ากับ) และนพิ จนท์ ต่ี อ้ งการกาหนดให้กับตัวแปรอยทู่ างขวา ซ่งึ ในตัวอยา่ งข้างต้นคาว่า Asree จะเก็บ
ในตวั แปรทช่ี อ่ื วา่ name

การตั้งชอ่ื ตัวแปรในภาษาไพทอน

1.ขึ้นตน้ ดว้ ยตวั อักษรภาษาอังกฤษ แลว้ ตามดว้ ยตัวอักษรหรือตวั เลขใด ๆก็ ได้
2.หา้ มเวน้ ชอ่ งว่าง และห้ามใชส้ ัญลกั ษณ์พิเศษนอกเหนอื จาก underscore “_” เทา่ น้ัน
3.ตัวอักษรของชื่อจะคานึงถึงความแตกตา่ งระหวา่ งอักษรตัวพมิ พใ์ หญ่กับตัวพมิ พ์เลก็
4.การต้ังชอื่ มขี อ้ พึงระวังวา่ จะต้องไม่ซา้ กับคาสงวน (Reserved word, Keyword)
5.ควรจะต้ังชื่อโดยให้ช่ือนัน้ มีสอื่ ความหมายใหเ้ ข้ากับขอ้ มูล สามารถอ่านและเข้าใจได้
6.หา้ มใชเ้ ครือ่ งหมายตอ่ ไปนใ้ี นการต้ังชื่อตวั แปร !,@, #, $, %, ^, &, *, (, ), -, =, \, |, +, ~
7.ตัวแปรท่มี พี มิ พ์ใหญ่และตัวพมิ พ์เล็กผสมกันจะมีความหมายต่างกนั กับตวั พิมพ์เล็กเพียงอยา่ งเดียว

การต้งั ชื่อตวั แปรในภาษาไพทอน (ตอ่ )

ผู้เขียนโปรแกรมควรเลือกแนวทางการต้ังช่ือตัวแปรให้เป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการทาความ
เข้าใจกับโปรแกรม และควรตั้งชื่อตัวแปรให้เหมาะสม เพราะเมื่อเขียนโปรแกรมขนาด ใหญ่ต้องใช้ตัวแปร
จานวนมาก การตั้งช่ือตัวแปรที่มีความหมายจะทาให้เข้าใจโปรแกรมได้รวดเร็ว และลดความผิดพลาดในการ
เรียกใช้ตัวแปรได้ ดังนั้น ช่ือตัวแปรควรสื่อถึงวัตถุประสงค์ของข้อมูล ที่เก็บด้วย เช่น ตัวแปรท่ีช้ีไปยังค่า
เงินเดอื นอาจต้ังชื่อเป็น salary ตวั แปรท่ีชีไ้ ปยงั อายอุ าจตงั้ ช่ือ เป็น age เป็นตน้

การตง้ั ชอ่ื ตัวแปรในภาษาไพทอน (ต่อ)

ชื่อตัวแปรที่กาหนดขึ้น ตอ้ งไมซ่ า้ กบั คาหลัก (keyword) ท่ีไพทอนใชเ้ ป็นคาส่งั เน่ืองจากไพทอนจะไม่
สามารถแยกไดว้ า่ คาใดเป็นคา่ ท่ีผเู้ ขียนโปรแกรม ตอ้ งการใหเ้ ป็นตวั แปรหรอื คาใดตอ้ งการใหเ้ ป็นคาส่งั คาหลกั ใน
ไพทอนมี ดงั นี้

THANK YOU


Click to View FlipBook Version