โครงงานกระเป๋ าผ้ามดั ย้อม
โดย
นางสาว รจนา ภูทองพนั ธ์ เลขที่ 28
นางสาว รัชฎาภรณ์ สีเขยี ว เลขที่ 29
นางสาว วรรณญารัตน์ ลาพงษ์ เลขท่ี 30
นางสาว อารียา จนั ทะพาหะ เลขที่ 44
นางสาว ไอศวรรยา ขนุ ราช เลขท่ี 45
ครูท่ีปรึกษา
คุณครู วนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์
โรงเรียนสตรีราชินูทศิ
1
โครงงานกระเป๋ าผ้ามดั ย้อม
โดย
นางสาว รจนา ภูทองพนั ธ์ เลขที่ 28
นางสาว รัชฎาภรณ์ สีเขยี ว เลขที่ 29
นางสาว วรรณญารัตน์ ลาพงษ์ เลขท่ี 30
นางสาว อารียา จนั ทะพาหะ เลขท่ี 44
นางสาว ไอศวรรยา ขนุ ราช เลขท่ี 45
ครูท่ีปรึกษา
คุณครู วนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ
2
ช่ือโครงงาน โครงงานผา้ มดั ยอ้ ม
ผู้จัดทา น.ส.รจนา ภูทองพนั ธ์ เลขท่ี 28
น.ส.รัชฎาภรณ์ สีเขียว เลขที่ 29
น.ส.วรรณญารัตน์ ลาพงษ์ เลขที่ 30
น.ส.อารียา จนั ทะพาหะ เลขที่ 44
น.ส.ไอศวรรยา ขนุ ราช เลขท่ี 45
ระดบั มธั ยมศึกษาปี ที่ 9/5
ประเภท สิ่งประดิษฐ์
ครูทปี่ รึกษา คุณครู วนิดา บุญพิเชฐวงศ์
โรงเรียน สตรีราชินูทิศ จงั หวดั อุดรธานี
บทคดั ย่อ
โครงงานการงานอาชีพ ประเภทส่ิงประดิษฐ์ โครงงานผา้ มดั ยอ้ มวตั ถุประสงคใ์ นการจดั ทาโครงงานน้ีทา
ข้ึนเพอื่ นาภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินส่งออกสู่สังคมไทยการประดิษฐค์ ิดคน้ การทากระเป๋ าผา้ ที่มีลวดลายทนั สมยั และ
ตามแฟชน่ั ในยคุ โลกาภิวตั น์ โดยวธิ ีการทาคือการนาสีที่ตอ้ งการยอ้ มเทลงไปในกะละมงั และเทน้าลงไป
ตามอตั ราส่วนท่ีกาหนดในเน้ือหาโครงงานขา้ งใน หลงั จากน้นั แช่ผา้ นาน 9 – 12 ชม. กจ็ ะไดส้ ีตามตอ้ งการ
โดยความเขม้ ของสีจะแปรผนั ตรงกบั การแช่ผา้ หากตอ้ งการสีเขม้ ควรแช่ผา้ นาน 12 ชม. เพียงเทา่ น้ีกจ็ ะได้
กระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มซ่ึงช่วยลดภาวะโลกร้อน ไม่หนกั มือ และยงั สามารถนาไปพฒั นาต่อเพื่อหารายไดใ้ นช่วง
โควดิ หรืออื่นๆตามตอ้ งการ ตน้ ทุนต่า ราคาสูง ประโยชน์มากมาย
3
กติ ติกรรมประกาศ
โครงงานการงานอาชีพ ประเภทส่ิงประดิษฐ์ ผา้ มดั ยอ้ ม ประสบความสาเร็จไดต้ อ้ งขอขอบพระคุณ
ผปู้ กครองและผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งในโครงงาน คือ คุณครู วนิดา บุญพิเชฐวงศ์ คุณครูท่ีปรึกษาโครงงานและ
เพ่ือนๆท้งั ในคณะที่ใหค้ วามร่วมมือเป็นอยา่ งดี
ท้งั น้ี คณะผจู้ ดั ทาไดค้ าดหวงั วา่ โครงงานผา้ มดั ยอ้ มจะเป็นประโยชนใ์ หแ้ ก่ผทู้ ่ีมาศึกษาในภายหลงั หากมี
ขอ้ ผดิ พลาดประการใด คณะผจู้ ดั ทา ขออภยั มา ณ ทีน้ี
คณะผจู้ ดั ทาโครงงาน
สารบัญ 4
ชื่อเรื่อง หนา้
บทคดั ยอ่ 2
กิตติกรรมประกาศ 3
สารบญั 4
บทท่ี 1 บทนา 5
บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง 7
บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน 18
บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน 22
บทที่ 5 สรุป อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 23
บรรณานุกรม 24
ภาคผนวก 25
5
บทท1ี่
บทนา
ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน
จากช่วงท่ีมีการแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19 และมีคาส่งั จากรัฐบาลใหม้ ีการกกั ตวั นานถึง14วนั และ
ยาวนานไปถึง 3 เดือน ทาใหร้ ายไดห้ ายไป หลายท่ีจา้ งพนกั งานออก และหลงั จากที่มีการเลิกกกั ตวั
เศรษฐกิจในประเทศกาลงั ตอ้ งการการถูกกระตุน้ และมีการลดการใชถ้ ุงพลาสติก จากปัญหาขา้ งตน้ พวก
เราจึงคิดหาวธิ ีท่ีจะสร้างรายไดช้ ่วยครอบครัวและเป็นการลดภาวะโลกร้อนตามมาตรการจึงอยากประยกุ ต์
การใชภ้ ูมิปัญญาของทอ้ งถิ่นและยคุ สมยั ใหมม่ าผสมกนั สามารถทาข้ึนมาเองไดเ้ ป็นประโยชน์และใชซ้ ้าได้
โครงงาน ของพวกเราเป็ นประเภทสิ่งประดิษฐ์ ดงั น้นั เราจึงเลือกทา กระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มสีธรรมชาติโดยจะมี
ผลงานภาพวาดของสมาชิกเขา้ ไปอยดู่ ว้ ย เพือ่ เป็นการใชเ้ วลาวา่ งให้ เกิดประโยชน์ สร้างรายได้ และ
เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ อนุรักษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่ินและเป็นมิตรตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม
จุดประสงค์ของโครงงาน
1. เพือ่ ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์
2. เพอ่ื อนุรักษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
3. เพื่อลดภาวะโลกร้อน
4. เพอ่ื สร้างรายไดใ้ หค้ รอบครัว
ปัญหา
เราจะสามารถประยกุ ตภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถิ่นซ่ึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ มและใชป้ ระโยชน์ไดจ้ ริงส่งออกสู่
สังคมไดอ้ ยา่ งไร
สมมติฐาน
กระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มที่ใชส้ ีธรรมชาติ สามารถลดภาวะโลกร้อนไดแ้ ละยงั เป็นท่ีนิยมในสงั คม
6
ขอบเขตการศึกษา
ทากระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มแลว้ นาไปใชไ้ ดจ้ ริง
ประโยชน์และคุณค่าของโครงงาน
1. ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
2. ไดอ้ นุรักษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
3. ไดส้ ร้างรายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครัว
4. ไดช้ ่วยเป็นส่วนหน่ึงในการลดภาวะโลกร้อน
ระยะเวลาในการดาเนินการ
วนั ท่ี14 สิงหาคม – วนั ท่ี 30 กนั ยายน 2563
7
บทที่ 2
เอกสารที่เกยี่ วข้อง
โครงงานการงานอาชีพ เรื่อง กระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ ม เน้ือหาท่ีขา้ พเจา้ จะนาเสนอทฤษฎีที่เก่ียวขอ้ งมีดงั น้ี
ความหมายของผา้
ประโยชนข์ องผา้
ประเภทของผา้
ลกั ษณะผา้ ดิบ
กระเป๋ าผา้ ดิบมีประโยชน์
วธิ ีการทาเส้ือมดั ยอ้ ม
ประโยชน์ของผา้ มดั ยอ้ ม
ความหมายของผา้
ผา้ คือ สิ่งที่ไดจ้ ากการนาวสั ดุธรรมชาติหรือวสั ดุท่ีสงั เคราะห์ข้ึนมาสานหรือที่ทอดว้ ยเส้นใยใชเ้ ป็น
เคร่ืองนุ่งห่ม เพราะฉะน้นั เส้ือผา้ เครื่องแต่งกายจึง หมายถึง การทอจนเป็นเน้ือเดียวกนั เช่น ฝ้าย ใยไหม
ไนลอน เป็นตน้ มาผลิตเป็นรูปแบบต่างๆตามความตอ้ งการ
ประโยชนข์ องผา้
ประโยชนข์ องผา้ คือ การนามาตดั เยบ็ เป็ นเครื่องนุ่มห่ม เคร่ืองใชป้ ระเภทต่างๆและในดา้ นอื่นๆ เช่น
การตกแตง่ สถานที่ เป็ นตน้ วสั ดุหลกั ท่ีใชใ้ นการผลิตผา้ ไดแ้ ก่ วสั ดุจากสัตว์ วสั ดุจากพืช แร่ธรรมชาติ และ
จากการสงั เคราะห์เคมี
ประเภทของผ้าแบ่งเป็ น 3 ประเภท ดังนี้
ประเภทผ้าทอ (weaving fabric) กรรมวธิ ีการนาเส้นดา้ ยมาขดั กนั มีเส้นใยดา้ ย คือ เส้นดา้ ยยนื (Warp
yarn) และเส้นดา้ ยพงุ่ (Weft yarn)
ประเภทผ้าถัก (Knitted fabric) การนาเส้นดา้ ยต่อกนั เป็นห่วง (Interlock loops) มีเส้นใยดา้ ย คือ เส้นดา้ ย
แนวต้งั (Wales) และเส้นดา้ ยแนวนอน (Course)
8
ประเภทผ้าไม่ถักไม่ทอ หรือผ้า นอนวูฟเวน (Non woven fabric) มีลกั ษณะโครงสร้างเป็นแผน่ ผา้ ที่เกิดจาก
การสานไปมาของเส้นใย (fibrous web) มีการยดึ กนั ดว้ ยการ ที่เส้นใยพนั กนั ไปมา (mechanical
entaglement) หรือโดยการ ใชค้ วามร้อน เรซิน หรือสารเคมีในการทาให้ เกิดการยดึ กนั ระหวา่ งเส้นใย
โดยส่วนใหญ่แลว้ ผา้ ที่นิยมนามาทาผา้ มา่ น และผา้ บุเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญจ่ ะเป็นประเภท ผา้ ทอ (weaving
fabric) และมีบางส่วนที่เป็นผา้ ถกั ซ่ึงจะปรากฎในผา้ ม่านโปร่ง และผา้ ที่เป็ นลกั ษณะทอแบบ ผา้ Velvet
หรือผา้ กามะหยี่ ส่วนผา้ นอนวฟู เวน ไม่เป็ นท่ีนิยม และแถบจะไมค่ อ่ ยปรากฎเป็นผา้ มา่ นและผา้ บุ
เฟอร์นิเจอร์ เพราะการควบคุมความสม่าเสมอของผา้ ทาไดย้ าก ไม่สามารถทอหรือถกั เป็นลวดลายได้
นอกจากมีกระบวนการพิมพเ์ พิม่ เติม และความคงทนต่อแรงขดั ถู มีนอ้ ยกวา่ ผา้ ท้งั สองประเภทขา้ งตน้
เส้ นใยจากธรรมชาติ เส้ นใยจากมนุษย์ทาขึน้
เส้นใยจาก เส้นใยจาก เมลด็ เส้ นใยจากพืช ลาต้น สังเคราะห์ สังเคราะห์
แร่ สัตว์ ใบ จาก จากกลุ่ม
ธรรมชาติ ปิ โตรเลียม
แร่ใยหิน ไหม, ขน ฝ้าย, สับปะรด, ลนิ ิน, ป่ าน, เรยอน พอลเิ อสเตอร์
สัตว์ มะพร้าว ป่ าน ปอ, กญั ชง , เซลลโู ลส , ไนลอน,
แอซีเตด อะคริลกิ
ศรนารายณ์
, สแปนเดก็ ซ์
จากตาราง จะเห็นว่าเส้นใยมีความหลากหลายของทีม่ าเป็ นอย่างมาก แต่ในส่วนของวงการผ้าเพื่อการตกแต่ง
ทอี่ ย่อู าศัย แล้วกใ็ ช้เส้นใยหลักๆ ตามตวั อกั ษรสีแดง
โดยเส้นใยทนี่ ามาทาผ้ามี 3 ชนิด ดังต่อไปนี้
1. เส้นใยทที่ าจากธรรมชาติ 100% (Natural fiber) แบ่งได้เป็ นประเภท ดงั ต่อไปนี้
เส้นใยไหม (Silk) ใยไหมเป็นโปรตีนของรังไหม นามาป่ันจนไดเ้ ป็นเส้นดา้ ย และนามาทอ หรือถกั
เป็นผนื ผา้ คุณสมบตั ิของผา้ ไหม คือมีความนุ่มมือ เงางามจบั ตา ไม่ยบั ง่าย หรือไม่ยบั เลย คงสภาพของผา้ ได้
ดี ดูดความช้ืนไดด้ ีพอสมควร ใส่สบาย และสามารถปรับอุณหภูมิได้ หากใส่ในฤดูหนาวจะรู้สึกอบอุน่
นอกจากน้นั ยงั สามารถติดไฟได้ เวลาผา้ ไหมจ้ ะหด และไหมเ้ ป็นข้ีเถา้ การทาความสะอาดตอ้ งซกั ดว้ ยสบู่ที่มี
ฤทธ์ิออ่ นเทา่ น้นั เพราะผงซกั ฟอกท่ีมีกรดแรงจะทาลายเน้ือผา้ การรีดตอ้ งนามาฝ้ายมารองก่อนรีด
9
เส้นใยลนิ ิน (Linen) ผลิตจากเส้นใยของตน้ ลินิน หรือตน้ แฟล็กซ์ (flax) แลว้ นามาปั่น จนไดเ้ ป็น
เส้นดา้ ย จากน้นั นามาทอ หรือถกั จนเกิดเป็นผนื ผา้ ลินินเป็นเส้นใยธรรมชาติท่ีมีความคงทน และแขง็ แรง
ท่ีสุด โดยคุณสมบตั ิของผา้ ลินินจะยบั ง่าย ซกั ได้ สามารถ รีดไดท้ ่ีอุณหภูมิสูง ลกั ษณะของผา้ จะมีความมนั เงา
สวยงาม ผวิ เรียบแขง็ ดูดซึมน้าไดด้ ี และติดไฟได้ เวลาไหมจ้ ะเหมือนกระดาษ หากจะพบั ผา้ ลินินตอ้ งใชก้ าร
มว้ นเท่าน้นั เพราะหากพบั เส้นดา้ ยอาจหกั หรือเสียทรงได้
เส้นใยฝ้าย (Cotton) ไดม้ าจากการนาเส้นใยของปุยฝ้า มาปั่นจนเกิดเป็นเส้นดา้ ย แลว้ แลว้ นามาทอ
หรือถกั ใหเ้ ป็ นผนื ผา้ คุณสมบตั ิของผา้ ฝ้าย หรือผา้ คอตตอน (Cotton) คือยบั ง่าย รีดยาก หด และยว้ ย แตบ่ าง
เบา หากผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม จะใส่สบาย โดยปัจจุบนั มีกระบวนการในการผลิตเส้นดา้ ยท่ีมีประสิทธิภาพ
ทาใหค้ ุณภาพของฝ้ายดีข้ึน ทาใหเ้ ป็นที่นิยมกนั อยา่ งแพร่หลาย ผา้ ฝ้ายสามารถซกั ไดท้ ้งั เครื่องซกั ผา้ และซกั
มือ รีดในอุณหภูมิท่ีสูงได้ ไม่ไหม้ หรือเกิดการหดตวั ข้ึนราไดง้ ่ายเน่ืองจากเป็นใยฝ้าย นอกจากน้นั ยงั ติดไฟ
ได้ เวลาไหมล้ กั ษณะจะเหมือนกระดาษไหม้ ไมม่ ียางเหนียว เป็นข้ีเถา้
เส้นใยขนสัตว์ (Wool) ผา้ ขนสตั วค์ ือการนาขนสัตวน์ ามาปั่น จนเกิดเป็ นเส้นดา้ ย จากน้นั ทอ หรือถกั
เป็นผนื ผา้ โดยขนสัตวท์ ่ีนิยมมาใชท้ าเป็นผา้ ท่ีสุด คือขนแกะ คุณสมบตั ิของขนสัตวค์ ือ ดูดความร้อน และ
ถ่ายเทความช้ืนไดด้ ี เวลาสวมใส่จึงใหค้ วามอบอุ่น และไม่เหนอะหนะร่างกายขณะสวมใส่ ผา้ ขนสตั วจ์ ะหด
ตวั มากเวลาเปี ยก จึงควรซกั แหง้ เทา่ น้นั และหลงั จากซกั แหง้ ควรเกบ็ ใส่ถุงพลาสติกเพอื่ ป้องกนั มอด
2. เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี (Chemical Synthetic fiber)
ไนลอน (Nylon) ไดม้ าจากกระบวนการรวมตวั ของปิ โตรเคมี จาพวกเบนซิน ฟี นอล ไฮโดรเจน หรือ
แอมโมเนีย โดยนามาผา่ นกรรมวธิ ีทางเคมี ผลิตเป็นเส้นดา้ ยดว้ ยการถกั หรือทอ คุณลกั ษณะของผา้ ไนลอน
คือ ความทนทานสูง รูปร่างของผา้ ทรงตวั ไดด้ ี สามารถซกั ผงซกั ฟอกได้ ทนตอ่ เช้ือราและแมลง ทนตอ่ การ
ขดั สี แตข่ ณะใส่จะไมค่ อ่ ยสบายตวั มกั ผลิตข้ึนมาใชเ้ ป็นเส้ือผา้ ที่มีราคาไม่สูง
โพลเี อสเตอร์ (Polyester) ไดม้ าจากกระบวนการรวมตวั ตวั ของปิ โตรเคมี จาพวกเอทานอล ผา่ น
กรรมวธิ ีทางเคมี จนเกิดเส้นดา้ ย จากน้นั จึงผา่ นกระบวนการถกั หรือทอเป็ นผนื ผา้ โพลีเอสเตอร์เป็นเส้นใยท่ี
ผลิตข้ึนมาเพื่อใหม้ ีคุณสมบตั ิคลา้ ยฝ้าย ลกั ษณะ เป็นเส้นใยยาวนุ่ม เงามนั ดูดความช้ืนไดน้ อ้ ย ผา้ มีความเบา
บาง ยบั ยาก และจบั จีบได้ แต่เม่ือใส่ไประยะหน่ึง ผา้ จะเกิดขยุ
3. เส้นใยสังเคราะห์จากวสั ดุธรรมชาติ (Natural Synthetic fiber)
10
เรยอน (Rayon) ไดม้ าจากการนาเปลือกไมใ้ นธรรมชาติ มาผา่ นกรรมวธิ ีทางเคมี จนเป็นเส้นดา้ ย
จากน้นั จึงผา่ นกรรมวธิ ีดว้ ยการถกั หรือทอ ผลิตข้ึนมาเพ่ือใหม้ ีคุณสมบตั ิเหมือนกบั ผา้ ฝ้าย คือมีความนุ่ม มนั
เงา สามารถระบายความร้อน และดูดความช้ืนได้ แต่ก็ไม่สามารถเป็นผา้ ที่ดีกวา่ ฝ้ายได้ ราคาคอ่ นขา้ งถูกนิยม
นามาทดแทนผา้ ฝ้าย
ผ้าดบิ คือ ผา้ ที่ถูกทอข้ึนจากเมด็ ฝ้าย ลินิน รวมไปถึงการใส่โพลีเอสเตอร์ผสมลงไปในบจั จุบนั แต่ผา้ ดิบจะ
ไม่ผา่ นกระบวนการการฟอกสีใดๆ
ลกั ษณะผ้าดิบ
ผา้ ดิบท่ีแทจ้ ริงจะตอ้ งมีสีเหลืองนวล เน้ือผา้ จะมีลกั ษณะแขง็ ๆ ไม่ล่ืนไม่มนั ใหค้ วามรู้สึกเป็นธรรมชาติ ตาม
ชื่อคือมาแบบดิบๆ
จากการทารีเสิร์ชยงั ไมพ่ บแน่ชดั วา่ ผา้ ดิบมีตน้ กาเนิดมาจากท่ีใดและต้งั แตเ่ มื่อใด แต่ตวั ผา้ น้นั มีมานานแลว้
ต้งั แต่ก่อนคริสตศ์ กั ราช โดยจากการสารวจพบผา้ ลินินในถ้าท่ีจอร์เจียเม่ือกวา่ 34,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช ซ่ึง
นบั เป็นหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ชิ้นนึงท่ีเกี่ยวกบั ผา้ ซ่ึงสมยั น้นั แน่นอนวา่ ยงั ไม่มีการฟอกสีผา้
อีกอนั ท่ีเห็นไดช้ ดั คือผา้ ดิบท่ีทาจากลินินถูกใชห้ ่อหุม้ ร่างของคนตายหรือมี่เราเรียกวา่ มมั ม่ีในสมยั อียปิ ต์
โบราณหรือ 3,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช หรือจะเป็ นในยคุ ท่ีศิลปะเฟื่ องฟูในอดีตก็ใชผ้ า้ ดิบหรือที่เราเรียกวา่
แคนวาสมาใชใ้ นการสร้างงานจิตรกรรม สีน้ามนั สีอะคริลิค ที่โด่งดงั ไปทว่ั โลกคงสภาพไดอ้ ยา่ งดีและยงั ใช้
กนั เร่ือยมาจนถึงปัจจุบนั
ทุกวนั น้ีผา้ ดิบถูกทอข้ึนในลกั ษณะแตกต่างกนั ไปแลว้ แต่วธิ ีการทอหรือส่วนผสมท่ีนามาทอ เป็นที่รู้จกั และ
ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายมากข้ึนในหลายๆ รูปแบบ อยา่ งเช่นในวงการแฟชน่ั ผา้ ดิบเปรียบเสมือนส่ิงท่ีนามา
เเทนคา่ ซ่ึงเรียกวา่ ตวั อยา่ งหรือ prototype ใชข้ ้ึนรูปเส้ือผา้ กบั หุ่นก่อนนาผา้ จริงมาเยบ็ , ร้านสปาหรือร้านนวด
ใชผ้ า้ ดิบเป็นถุงใส่สมุนไพรหรือทาลูกประคบ, ร้านดอกไมก้ ็ใชผ้ า้ ดิบห่อดอกไม,้ ร้านเครื่องด่ืมโบราณใช้
ผา้ ดิบตดั เยบ็ ทาถุงโอเล้ียง ชาเยน็ , ถุงบรรจุหรียญของธนาคารและโรงกษาปณ์ และการทากระเป๋ าหรือถุงใช้
ในชีวติ ประจาวนั เพ่ือความสวยงามและช่วยลดภาวะโลกร้อน
ยงิ่ เม่ือมีการรณรงคก์ ารลดการใชถ้ ุงพลาสติกมากข้ึนเมื่อประมาณ 10 ปี ที่ผา่ นมา ทาใหค้ นเร่ิมตื่นตวั และหนั
มานิยมใชก้ ระเป๋ าผา้ กนั มากข้ึน
ผ้าดิบท่ีเอามาทาเป็นกระเป๋ ามกั มีราคาไม่แพงมากแตส่ ามารถนามาทาไดห้ ลายแบบ ตดั เยบ็ ไดต้ ามความ
ตอ้ งการ สามารถยอมสีใหเ้ ป็ นงานอาร์ท ทาผา้ มดั ยอ้ มและอีกหลากหลายไอเดีย ท่ีเราจะสรรสร้างข้ึน
สามารถเพ่ิมมูลค่าของผา้ ดิบใหส้ ูงข้ึนได้
11
จะเห็นไดว้ า่ ผ้าดบิ น้นั มีประโยชน์และสามารถนามาใชไ้ ดใ้ นหลายอุตสาหกรรม ถา้ ใครมีคาถามหรือสนใจ
เกี่ยวกบั ผา้ ดิบสามารถติดตอ่ ทางเราไดท้ างอีเมลหรือสายตรงมาไดเ้ ลยคะ่
ถุงผ้าดิบและกระเป๋ าผ้าดบิ มีประโยชน์อย่างไร
ถา้ ประชากรไทยใช้ ถุงผา้ ดิบ ทุกวนั 1คน จะลดการใชถ้ ุงพลาสติกวนั ละ 5 ใบ
ประเทศไทยสามารถลดการใชถ้ ุงพลาสติก ได้ วนั ละ 5 ลา้ นถุง ในทุก ๆ วนั
1 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบซกั ทาความสะอาดไดโ้ ดยง่าย
2 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบใชท้ ดแทนถุงพลาสติก ถุงกระดาษ ไดด้ ี ผา้ มีเน้ือนุ่มสบายไมแ่ ขง็
3 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบทนทาน แขง็ แรก สาารถใชไ้ ดห้ ลายคร้ัง อายกุ ารใชง้ านยาวนาน
4 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบผลิตจากใยฝ้าย ยอ่ ยสลายได้ ไม่ตกคา้ งจนเป็ นปัญหาในสิ่งแวดลอ้ ม
5 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบไมม่ ีสารปรอทตกคา้ งผใู้ ชม้ ีความปลอดภยั
6 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอย ลดมลพิษ และสารพษิ ไม่ทาใหเ้ กิดกา๊ ซเรือน
กระจก
7 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบตอบโจทยแ์ ละเป็นแนวทางหน่ึงช่วยลดปัญหาโลกร้อน
8 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบสร้างความรับผดิ ชอบของแต่ละบุคคลตอ่ สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม
9 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบพกเดินทางไป ช็อปปิ้ งท่ีตา่ งๆไดค้ ล่องตวั
10 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบพิมพต์ ราโลโกเป็นสื่อรณรงคเ์ สริมสร้างความเขา้ ใจและความตระหนกั ใน
ส่ิงแวดลอ้ ม
11 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบลดการใชส้ ารเคมีท่ีเป็ นพษิ หากโรงงานผลิตถุงพลาสติก ที่เป็นพษิ นอ้ ยลง
12 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบ มีราคาไมแ่ พงหาซ้ือไดง้ ่ายและสะดวก
13 ถุงผา้ ดิบหรือกระเป๋ าผา้ ดิบ ส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวไดด้ ี เป็นสินคา้ พลีเม่ียม ที่เป็นมิตรตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม
( เริ่มใช้ ถุงผา้ ดิบ , กระเป๋ าผา้ ดิบ ต้งั แต่วนั น้ี เพือ่ สังคมของเรา เพื่อประเทศเรา เพอ่ื โลกของเรา
วธิ ีการทาเสื้อมดั ย้อม
เรียกไดว้ า่ เทรนด์ เส้ือมดั ยอ้ ม กลายเป็นหน่ึงในแฟชนั่ ท่ีกาลงั มาแรงมาก ๆ ในช่วงน้ี ไปไหนมาไหนก็
เห็นคนใส่เส้ือมดั ยอ้ มลวดลายตา่ ง ๆ ใหล้ ่ึม และในเม่ือมนั ฮิตขนาดน้ีแลว้ กระปุกดอทคอมกไ็ ปหาวธิ ีทาเส้ือ
12
มดั ยอ้ มเอง ใหห้ นุ่ม ๆ ไดล้ องกลบั ไปทาที่บา้ นดูดว้ ย ขอบอกเลยวา่ แต่ละลายสวยมากกกก แถมทาง่ายอีก
ดว้ ย วา่ แลว้ เราไปชมข้นั ตอนการทาเส้ือมดั ยอ้ มกนั ดีกวา่ ครับ
เตรียมอปุ กรณ์ให้พร้อม
- สิ่งท่ีขาดไปไมไ่ ดใ้ นการทาเส้ือมดั ยอ้ มกค็ ือ เส้ือยดื สีขาว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ไม่วา่ จะเป็น
สีท่ีตอ้ งการ ขวดใส่สี ถุงพลาสติก หนงั ยาง ถุงมือ และกระดาษรองพ้นื กนั เลอะ (ใชก้ ระดาษหนงั สือพมิ พก์ ็
ได)้ รวมถึงถงั น้าสาหรับชุบสี เมื่อเตรียมของพร้อมแลว้ กล็ งมือยอ้ มเส้ือไดเ้ ลย
1. เสื้อมดั ย้อมลายก้นหอย
13
ภาพจาก Flickr Wendy Copley
เร่ิมกนั ที่ลายยอดฮิตอยา่ ง ลายกน้ หอย อนั ดบั แรกให้กางเส้ือออก แลว้ มว้ นจากจุดก่ึงกลาง มว้ นไปเรื่อย
ๆ จนทุกดา้ นของเส้ือเขา้ หากนั เป็นวงกลม จากน้นั ใชห้ นงั ยางรัดไวต้ ามภาพ แลว้ ลงสีตามใจชอบ ต่อมานา
ใส่ถุงพลาสติกทิง้ ไวป้ ระมาณ 1 วนั ก่อนลา้ งออกดว้ ยน้าเปล่าแลว้ ตากใหแ้ หง้ ก็จะไดเ้ ส้ือมดั ยอ้ มลายกน้ หอย
สวย ๆ ไปใส่แลว้
2. เสื้อมดั ย้อมลายริ้วแนวนอน
14
ภาพจาก Flickr Wendy Copley
วธิ ีทาเส้ือมดั ยอ้ มลายริ้วแนวนอน เร่ิมจากพบั ชายเส้ือดา้ นล่างข้ึนไปจนสุด ใชห้ นงั ยางรัดใหเ้ ป็นปลอ้ ง
ๆ แลว้ ลงสีตามตอ้ งการ นาไปใส่ถุงพลาสติกและทิ้งไว้ 1 วนั จากน้นั ใชน้ ้าเปล่าลา้ งออกเหมือนเดิม ส่วนถา้
ใครอยากไดล้ ายริ้วแนวต้งั ก็ใหพ้ บั เส้ือจากดา้ นขา้ งแทน
15
3. เสื้อมัดย้อมลายจุด
ภาพจาก Flickr Judy Merrill-Smith
สาหรับการทาเส้ือมดั ยอ้ มลายจุดน้นั ง่ายมาก ๆ เพยี งจบั เส้ือข้ึนมาแลว้ ใชห้ นงั ยางมดั เป็นปมเหมือน
ตวั อยา่ งในคลิป ตอ้ งการจุดมากเทา่ ไร กม็ ดั ไปเท่าน้นั ต่อมาใหผ้ สมสีกบั น้าเปล่าลงถงั ใหเ้ รียบร้อย เม่ือ
กาหนดจุดเสร็จแลว้ กช็ ุบเส้ือลงถงั สีและแช่ไวส้ กั ครู่ เอาไปใส่ถุงพลาสติกสกั 1 วนั ก่อนจะใชน้ ้าเปล่าลา้ ง
ออก ตากใหแ้ หง้ กเ็ ป็นอนั วา่ เสร็จ
4. เสื้อมัดย้อมลาย Crumpled
16
ภาพจาก favecrafts.com
เร่ิมดว้ ยการขยมุ้ เส้ือจนเป็นกอ้ น แลว้ ละเลงสีลงไปตามใจชอบท้งั 2 ดา้ น โดยให้เหลือพ้นื ที่สีขาวบน
เส้ือเลก็ นอ้ ย นาเส้ือไปใส่ถุงพลาสติกใหเ้ รียบร้อย แลว้ ปล่อยทิง้ ไว้ 1 วนั จากน้นั ลา้ งดว้ ยน้าเปล่า ตากใหแ้ หง้
กพ็ ร้อมใส่แลว้
5. เสื้อมดั ย้อมลาย Peace
17
ภาพจาก dharmatrading.com
ปิ ดทา้ ยกบั ลาย Peace ที่ดูเหมือนจะทายาก แตบ่ อกเลยวา่ ง่ายไม่แพล้ ายอื่นเลยล่ะ เริ่มจากวาดรูป
สัญลกั ษณ์ Peace ลงบนตวั เส้ือแบบคร่าว ๆ พบั เส้ือตามรอยเส้นท่ีขีดไว้ จากน้นั พบั เส้ือเป็นกลีบเล็ก ๆ และ
รัดหนงั ยางตามภาพตวั อยา่ ง แลว้ ลงสีที่ตอ้ งการใหท้ ว่ั ปล่อยทิง้ ไวใ้ นถุงพลาสติกประมาณ 1 วนั ก่อนลา้ ง
ออกและตากใหแ้ หง้ คุณกจ็ ะไดเ้ ส้ือมดั ยอ้ มเท่ ๆ ไปใส่แลว้
ประโยชน์ของผ้ามัดย้อม จากสีธรรมชาติ
-เพอื่ เป็นการอนุรักษว์ ธิ ีการทาผา้ มดั ยอ้ ม
- สร้างความสามคั คีและสร้างปฏิสัมพนั ธ์ใหก้ บั คนในชุมชน
-เสริมสร้างรายไดใ้ หก้ บั คนในชุนชน
- เกิดความคิดสร้างสรรคใ์ นคิดลวดลายของผา้ มดั ยอ้ ม ทาใหเ้ กิดลวดลายท่ีใหมๆ่ ข้ึน
- เป็นท่ีเผยแพร่ความรู้ใหก้ บั ผทู้ ่ีสนใจ
18
บทท3ี่
วธิ ีการดาเนินงาน
3.1 อปุ กรณ์
1) เขม็ 10 และ 12
2) ผา้ ดา้ ยดิบ 1 เมตร
3) สีสงั เคราะห์
4) สายกระเป๋ า
5) สีไม้
6) กระดาษร้อยปอนด์
7) กะละมงั
8) น้าเปล่า
9) ส้อม
10) แกว้ 3ใบ
11) เกลือแกง 500 กรัม
3.2 วธิ ีการดาเนินงาน
1) เตรียมอุปกรณ์เยบ็ กระเป๋ าตามทรงท่ีตอ้ งการ
19
2) หลงั จากน้นั เตรียมอุปกรณ์สาหรับผสมสี
3) นาน้าเปล่าท่ีเตรียมเทลงในกะละมงั ¼ นาผา้ ที่เตรียมไวแ้ ช่ลงไปในน้าเปล่า
4) นาส้อมจิ้มลงไปและหมุน
5) นาผงสีที่เตรียมเทลงไปอยา่ งระมดั ระวงั
20
6) หลงั จากน้นั สวมถุงมือและหยบิ ข้ึนมาห่อ
7) ถุงพลาสติกห่อทิ้งไว้ 9 ชม. หากอยากไดส้ ีที่เขม้ ใหแ้ ช่ไวน้ าน 12ชม.
21
8) กระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มสุดเก๋และที่คนั่ หนงั สือประดิษฐเ์ อง
บทที่ 4 22
ผลการดาเนินงาน
ลกั ษณะสีทปี่ รากฎ
จากการทาโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐก์ ระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มผลเป็นดงั น้ี สีระดับอ่อน
ตารางท่ี 1 การแสดงอตั ราส่วนในการผสมสี
เวลาในการแช่ผ้า ปริมาณของสีสังเคราะห์ในแต่ละคร้ัง ปริมาณนา้
7-9ชม. 5 g 600ml
จากการทาการทดลองผสมสีพบวา่ อตั ราส่วนของปริมาณน้าต่อสีสงั เคราะห์เป็น 120:1 จะทาใหล้ กั ษณะของ
สีที่ปรากฏตอนทาการทดลองอยใู่ นระดบั ปานกลางถึงเขม้ แต่เมื่อแช่ผา้ นานถึง 9 ชม. สีท่ีไดก้ ลบั เป็นสีระดบั
อ่อน ดงั น้นั จึงสรุปไดว้ า่ สีของกระเป๋ าข้ึนอยกู่ บั ระยะเวลาในการแช่ผา้ และปริมาณสีในการสังเคราะห์ในแต่
ละคร้ัง
ภาพ แสดงผลติ ภัณฑ์
23
บทที่ 5
สรุป อภปิ รายผลการดาเนินงาน
สรุปผลการดาเนินการ
จากการดาเนินงานโครงงานกระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มสรุปผลการทดลองตามจุดมุ่งหมายไดด้ งั น้ี
1. ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
2. ไดอ้ นุรักษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
3. ไดช้ ่วยเป็นส่วนหน่ึงในการลดภาวะโลกร้อน
อภปิ รายผลการดาเนินการ
จากการประดิษฐก์ ระเป๋ าผา้ มดั ยอ้ มเกิดจากจุดประสงคข์ องความตอ้ งการนาภูมิปัญญษทอ้ งถ่ินสู่สงั คมไทย
โดยการผสมสีมดั ยอ้ มตามโทนสีท่ีตอ้ งการ ใส่น้าลงไป 600มิลลิลิตร แช่ผา้ นาน 9-12 ชม.หลงั จากน้นั ทาการ
ตากใหแ้ หง้ ซ่ึงกระเป๋ าท่ีไดส้ ามารถนาไปใชซ้ ้ือของหรือสะพายไปขา้ งนอกใหด้ ูตามแฟชนั่ และยงั ช่วยลด
ภาวะโลกร้อนอีกดว้ ย
ข้อเสนอแนะ
1. ระมดั ระวงั ในการใชส้ ี
2. ในการเยบ็ ควรมีผใู้ หญ่อยดู่ ว้ ย
3. ความเขม้ ของสีข้ึนอยกู่ บั การแช่ผา้
ประโยชน์ทไี่ ด้รับ
1. ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
2. ไดอ้ นุรักษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน
3. ไดส้ ร้างรายไดใ้ หแ้ ก่ครอบครัว
4. ไดช้ ่วยเป็นส่วนหน่ึงในการลดภาวะโลกร้อน
24
บรรณานุกรม
การใชป้ ระโยชนจ์ ากกระเป๋ าผา้ (ออนไลน์) แหล่งท่ีมา: http://online.anyflip.com/cory/uoqa/mobile/index.html
วนั ท่ีสืบคน้ 25 กนั ยายน 2563
การใชป้ ระโยชน์ขจากผา้ ดา้ ยดิบ(ออนไลน)์ แหลง่ ที่มา: https://www.mizlinshop.com.html
วนั ท่ีสืบคน้ 30 กนั ยายน 2563
การใชป้ ระโยชน์จากผา้ มดั ยอ้ ม(ออนไลน์) แหล่งที่มา: http://nuch56.blogspot.com/2013/09/blog-post.htm
วนั ท่ีสืบคน้ 30 กนั ยายน 2563
25
ภาคผนวก
26
ภาพแสดงวธิ ีการทา
27
ภาพแสดงผลติ ภณั ฑ์
28