The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wanasongkroh, 2022-06-08 21:24:09

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวนาสงเคราะห์

หลักสูตร

หลกั สูตรสถานศึกษา

(ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๒)
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

โรงเรยี นวนาสงเคราะห์
สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสระแก้ว เขต ๑

สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

ประกาศโรงเรยี นวนาสงเคราะห์
เร่ือง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนวนาสงเคราะห์ (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒)

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
-----------------------------

โรงเรียนวนาสงเคราะห์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาสระแกว้ เขต ๑ ไดด้ ำเนินการ
พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวนาสงเคราะห์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และเอกสารประกอบหลักสูตรขึ้น เพื่อกำหนดใช้
เปน็ กรอบและทิศทางในการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียนวนาสงเคราะห์

โดยโรงเรียนได้จัดทำและพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน คือ กำหนดมาตรฐาน
การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนด
ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความสมดุลท้ังด้านร่างกาย ความรู้
คุณธรรม มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาต่อ
การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเช่ือว่า ทุกคน
สามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ

ทัง้ น้ี หลักสูตรโรงเรียนได้รับความเหน็ ชอบจาก คณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน เมื่อวนั ที่ ๑๖
เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ จงึ ประกาศให้ใช้ หลกั สูตรโรงเรยี นตั้งแตบ่ ดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๖ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

( นางสมจินต์ ป่นิ แก้ว ) (นายลำพอง ภาษาเวส)
ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นวนาสงเคราะห์
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
โรงเรียนวนาสงเคราะห์

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๒) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ก

คำนำ
กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคำส่งั กระทรวงศึกษาธิการ

ที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคำสัง่ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการ
เรยี นรูค้ ณิตศาสตรแ์ ละวิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมคี ำส่งั ใหโ้ รงเรียนดำเนินการใชห้ ลักสูตร

ในปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ โดยเรมิ่ ใชห้ ลักสตู รดงั กล่าวกับนักเรียนระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ชั้นประถมศึกษา
ปีที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศึกษา
ปีที่ ๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ และทุกระดับชั้นในปีการศึกษา
๒๕๖๓ ให้เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมาย

และกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคุณภาพผู้เรยี นมพี ัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคณุ ภาพและมที ักษะการเรียนรู้
ในศตวรรษท่ี ๒๑ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบายและเปา้ หมายของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน

โรงเรียนวนาสงเคราะห์ จึงได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระ
ภูมิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เพือ่ นำไปใชป้ ระโยชน์และเปน็ กรอบ ใน

การวางแผนและพัฒนาหลักสูตรของสถานศึกษาและจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา
คณุ ภาพผเู้ รยี น ให้มกี ระบวนการนำหลักสตู รไปสู่การปฏิบัติ โดยมกี ารกำหนดวสิ ัยทศั น์ จดุ หมาย สมรรถนะ

สำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด โครงสร้างเวลาเรียน
ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมินผลใหม้ ีความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ เปิดโอกาสใหโ้ รงเรียนสามารถ
กำหนดทศิ ทางในการจัดทำหลกั สตู รการเรียนการสอนในแต่ละระดับตามความพรอ้ มและจดุ เน้น โดยมกี รอบ

แกนกลางเป็นแนวทางที่ชัดเจนเพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวสู่สังคม
คุณภาพ มีความรอู้ ย่างแทจ้ รงิ และมที กั ษะในศตวรรษที่ ๒๑

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทำใหห้ น่วยงานท่เี กยี่ วข้อง ในทุกระดับ
เห็นผลคาดหวังที่ต้องการในการพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถช่วยให้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับท้องถิ่นและสถานศึกษาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรได้อย่างมั่นใจ ทำให้การจัดทำ

หลักสูตรในระดับสถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพยิง่ ขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชัดเจนเรื่อง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแก้ปัญหาการเทียบโอนระหว่างสถานศึกษา ดังนั้นในการพัฒนา

หลกั สตู รในทกุ ระดับต้ังแตร่ ะดับชาติจนกระทงั่ ถงึ สถานศกึ ษา จะตอ้ งสะทอ้ นคณุ ภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้
และตวั ชี้วัดทกี่ ำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน รวมทั้งเป็นกรอบทศิ ทางในการจัดการศึกษา
ทุกรูปแบบ และครอบคลมุ ผู้เรียนทกุ กลุ่มเป้าหมายในระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน

การจัดหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่าย
ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลต้องร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกันทำงานอย่างเป็นระบบ

และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อพัฒนา
เยาวชนของชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้

งานวิชาการ

โรงเรียนวนาสงเคราะห์

หลักสตู รสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๒) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ข

สารบญั

เรอ่ื ง หนา้

ประกาศโรงเรียน ก
คำนำ ข
สารบัญ ค
ส่วนที่ ๑ ความนำ ๑

วิสัยทัศนห์ ลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒) ๑
เปา้ ประสงค์หลกั สตู ร ๑
วิสัยทัศนโ์ รงเรยี น ๑
พันธกจิ โรงเรยี น ๒
เป้าประสงค์โรงเรยี น ๒
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๓
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๔
สว่ นที่ ๒ โครงสร้างหลักสูตรและตัวชวี้ ัดชน้ั ปี ๔
โครงสรา้ งหลักสูตร ๑๑
รายวิชาของโรงเรียนวนาสงเคราะห์ ๑๔
ตวั ชี้วัดชนั้ ปี ๑๕
ส่วนที่ ๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๒๐
ส่วนท่ี ๔ คำอธบิ ายรายวิชา ๒๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ๒๘
กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ๓๕
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ๔๔
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕๑
กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ประวตั ิศาสตร์) ๕๘
กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๖๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ๗๗
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๘๔
กลุม่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ๙๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ภาษาองั กฤษเพ่อื การสอ่ื สาร (รายวิชาเพม่ิ เตมิ ) ๙๘
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑๐๖
๑๐๗
- กิจกรรมแนะแนว ๑๑๓
- กิจกรรมลูกเสอื -เนตรนารี ๑๒๑
- กิจกรรมชมุ นุม ๑๒๒
- กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๒๙
ส่วนที่ ๕ เกณฑ์การจบการศกึ ษา
ภาคผนวก หนา้ ค

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์

ส่วนท่ี ๑
ความนำ

วิสยั ทัศน์หลกั สตู รสถานศึกษา ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒

หลกั สูตรโรงเรยี นวนาสงเคราะห์ ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา
ข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เปน็ หลักสูตรที่มุง่ พัฒนาผู้เรยี นทกุ คนเปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้ส่มู าตรฐานสากล
และเปน็ มนุษย์ที่มคี วามสมดุลทงั้ รา่ งกาย ความรู้คูค่ ณุ ธรรม มีความเปน็ ผู้นำของสังคมมีจิตสำนกึ ในความเปน็
พลเมอื งไทยและเป็นพลโลกโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งยึดม่ันในการปกครองตามระบอบ
ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์เป็นประมขุ มคี วามรูแ้ ละทักษะพ้ืนฐานสามารถใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยี
รวมทัง้ เจตคตทิ ่ีจำเปน็ ตอ่ การศกึ ษาในการประกอบอาชีพและการศกึ ษาตลอดชวี ติ โดยมุ่งเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ
บนพ้นื ฐานความเชือ่ วา่ ทุกคนสามารถเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ

เป้าประสงค์หลกั สตู ร (Corporate objective)
๑. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนทุกคนไดร้ บั การปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม มคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ มกี ารพัฒนา

เต็มตามศกั ยภาพ มีทักษะชวี ติ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาเป็นแนว
ทางการดำเนินชวี ิต เปน็ ผู้นำที่ดีของสงั คมและมคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยีเพือ่ การเรียนรูแ้ ละการสอื่ สาร
อย่างหลากหลาย ผู้เรียนมศี ักยภาพเปน็ พลโลก (World Citizen)

๒. เพือ่ ให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจดั การศกึ ษาดว้ ยระบบคุณภาพ (Quality System
Management) เพอื่ รองรบั การกระจายอำนาจอยา่ งทว่ั ถงึ

๓. เพ่อื ให้บุคลากรทุกคนมีทักษะวิชาชีพในการพฒั นาการเรียนการสอนและใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี
ท่ที นั สมยั ยกระดับการจดั การเรยี นการสอนเทียบเคยี งมาตรฐานสากล (World Class standard)

๔. เพ่อื ให้การใช้งบประมาณและทรัพยากรของทุกหนว่ ยงานเป็นไปตามเปา้ หมายได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลสงู สดุ

วิสยั ทัศน์โรงเรยี น

ผเู้ รียนมคี วามเป็นเลิศทางวชิ าการ ผา่ นกระบวนการคิด มจี ิตสำนกึ คุณธรรม สืบสานภูมิปญั ญาร่วมกับ
ชุมชน ก้าวทันเทคโนโลยี มพี ลานามยั สมบรู ณ์

พันธกจิ

๑. พัฒนาผ้เู รียนให้มีคณุ ธรรมตามหลกั ศาสนาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

๒. พัฒนาผู้เรยี นให้เตม็ ศักยภาพและมคี วามร้ตู ามมาตรฐานการศึกษา เพ่อื พัฒนาสู่ความเปน็ เลิศ

๓. พัฒนาระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในการจดั กระบวนการเรยี นรู้

๔. พัฒนาคุณภาพชวี ิตของผู้เรียนใหม้ ีพลานามัยสมบูรณ์ สง่ เสริมศลิ ปะ ดนตรี กีฬาและพฒั นาระบบดแู ล
ชว่ ยเหลอื นกั เรียนใหม้ ปี ระสิทธิภาพ

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๑

๕. ส่งเสรมิ การมสี ่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษาบุคลากรภายในโรงเรียน ชมุ ชน และทกุ ภาคสว่ น
ให้มีสว่ นรว่ มในการบริหารจดั การศึกษา

เปา้ ประสงค์
๑. นกั เรียนไดร้ ับบรกิ ารทางการศึกษาอยา่ งท่วั ถงึ และมคี ณุ ภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน
๒. โรงเรยี นมีหลักสตู รสถานศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพได้มาตรฐาน
๓. นกั เรียนมคี วามสามารถในการนำเทคโนโลยีไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั
๔. บคุ ลากรไดร้ บั การพฒั นาสมู่ าตรฐานวิชาชีพ
๕. โรงเรียนมภี มู ทิ ศั น์สวยงามและแหลง่ เรียนรู้ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงอย่าง
หลากหลาย
๖. โรงเรียนไดร้ บั ความร่วมมอื จากชุมชนในการจดั การศกึ ษา

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนวนาสงเคราะห์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.

๒๕๖๒) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพ
ตามมาตรฐานท่ีกำหนด ซึง่ จะช่วยให้ผ้เู รียนเกิดสมรรถนะสำคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั น้ี
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

หลักสูตรโรงเรียนวนาสงเคราะห์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒) มุ่งให้ผู้เรียน

เกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดงั นี้
๑. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา

ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลัก
เหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใช้วธิ กี ารสอ่ื สาร ท่มี ีประสิทธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเอง
และสงั คม

๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด

อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็น ระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ

สารสนเทศเพอ่ื การตดั สินใจเกยี่ วกับตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ

ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ

การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข

ปัญหา และมกี าตัดสนิ ใจท่มี ปี ระสิทธิภาพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ ต่อตนเอง สงั คมและสิง่ แวดล้อม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน

ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ

สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัว

ให้ทันกับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์

ทีส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผูอ้ ื่น

หลักสตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ
มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน
การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมคี ุณธรรม

คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์
หลักสูตรโรงเรียนวนาสงเคราะห์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒) ตามหลักสูตร

แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้
สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อืน่ ในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดังนี้

๑. รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซือ่ สัตย์สจุ ริต
๓. มีวนิ ยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มุง่ มนั่ ในการทำงาน
๗. รักความเปน็ ไทย
๘. มีจิตเป็นสาธารณะ

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๓

ส่วนที่ ๒
โครงสร้างหลกั สตู รและตัวชี้วัดชัน้ ปี
โครงสรา้ งหลกั สูตร
โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวนาสงเคราะห์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ประกอบด้วยโครงสร้างเวลาเรียนและโครงสรา้ ง
หลกั สูตรชนั้ ปี ดังนี้
๑. โครงสร้างเวลาเรียน เปน็ โครงสร้างที่แสดงรายละเอียดในภาพรวม เวลาเรียนของแต่ละกลุม่ สาระ
การเรยี นรู้ ๘ กลุ่มสาระ ท่ีเป็นเวลาเรียนพื้นฐาน เวลาเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม และเวลาในการจัดกิจกรรมพัฒนา
ผเู้ รยี น จำแนกแต่ละชน้ั ปใี นระดบั ประถมศกึ ษา ดังนี้

โครงสรา้ งเวลาเรยี น
หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนวนาสงเคราะห์

กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม เวลาเรียน(ชัว่ โมง/ปี)
ระดบั ประถมศึกษา
 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖

ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐
สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ประวัติศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
ศิลปะ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐
ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐
รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐
 รายวิชาเพิ่มเติม
ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
รวมเวลาเรยี น (เพิม่ เตมิ ) ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมนักเรยี น
- กิจกรรมลูกเสอื /เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
- ชุมนุม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
รวมเวลาเรียนทัง้ หมด ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐

๑,๐๔๐ ช่ัวโมง/ปี ๑,๐๐๐ ชั่วโมง/ปี

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๔

โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พเิ ศษเพอ่ื เพิม่ ศักยภาพนักเรียน ชั้น ป. ๑ - ๓ จำนวน ๒ ช่ัวโมง/ สัปดาห์

๑. วิชา ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จำนวน ๑ ชว่ั โมง

๒. วิชา คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑ ช่ัวโมง

โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ เิ ศษเพอ่ื เพ่มิ ศกั ยภาพนักเรียน ชั้น ป. ๔ - ๖ จำนวน ๓ ชวั่ โมง/ สัปดาห์

๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จำนวน ๒ ช่ัวโมง

๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จำนวน ๑ ชว่ั โมง

หมายเหตุ: ไมน่ ำคะแนนและระดับผลการเรยี น ในรายวิชาสอนเสรมิ ไปคิดรวมและตดั สนิ การเลือ่ นช้ัน

ของนักเรียน

๒. โครงสรา้ งหลกั สูตรชนั้ ปี เปน็ โครงสร้างที่แสดงรายละเอียดเวลาเรยี นของรายวชิ าพืน้ ฐาน รายวชิ ากิจกรรม/

เพมิ่ เติม และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียนจำแนกแตล่ ะชั้นปี ดงั นี้

โครงสรา้ งหลกั สตู รชั้นปี ระดับประถมศกึ ษา
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๑

รหัส กล่มุ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพื้นฐาน (๘๔๐)
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๒๐๐
ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ ๘๐
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑ ๔๐
ส ๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ ๔๐
พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๑ ๔๐
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ ๘๐
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ ๔๐
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๑๒๐
รายวชิ าเพม่ิ เติม ๘๐
อ ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร ๑ ๘๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น (๑๒๐)
แนะแนว ๔๐
กิจกรรมนักเรยี น
๓๐
• ลูกเสือ เนตรนารี ๔๐

• ชมุ นุม

กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพอ่ื เพม่ิ ศกั ยภาพนกั เรยี น ชัน้ ป. ๑ - ๓ จำนวน ๒ ช่วั โมง/ สัปดาห์

๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จำนวน ๑ ชั่วโมง

๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จำนวน ๑ ชั่วโมง

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๕

โครงสรา้ งหลกั สตู รชน้ั ปี ระดบั ประถมศึกษา เวลาเรยี น
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๒ (ชม./ปี)
(๘๔๐)
รหัส กลุ่มสาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม ๒๐๐
๒๐๐
ท ๑๒๑๐๑ รายวชิ าพนื้ ฐาน
ค ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๘๐
ว ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ ๔๐
ส ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๔๐
ส ๑๒๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๔๐
พ ๑๒๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๒ ๘๐
ศ ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๒ ๔๐
ง ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒ ๑๒๐
อ ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒ ๘๐
ภาษาองั กฤษ ๒ ๘๐
อ ๑๒๒๐๑ (๑๒๐)
รายวชิ าเพมิ่ เติม ๔๐
ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร ๒
๓๐
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๔๐
แนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น

• ลูกเสอื เนตรนารี

• ชมุ นุม

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสรมิ ประสบการณพ์ เิ ศษเพอ่ื เพ่ิมศกั ยภาพนกั เรยี น ชัน้ ป. ๑ - ๓ จำนวน ๒ ชวั่ โมง/ สัปดาห์

๑. วิชา ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จำนวน ๑ ชวั่ โมง

๒. วิชา คณิตศาสตร์ จำนวน ๑ ช่วั โมง

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๖

โครงสรา้ งหลกั สตู รชน้ั ปี ระดับประถมศึกษา เวลาเรยี น
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๓ (ชม./ปี)
(๘๔๐)
รหสั กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม ๒๐๐
๒๐๐
ท ๑๓๑๐๑ รายวชิ าพ้ืนฐาน
ค ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๘๐
ว ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๔๐
ส ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๔๐
ส ๑๓๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๓ ๔๐
พ ๑๓๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๘๐
ศ ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๓ ๔๐
ง ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๑๒๐
อ ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ ๘๐
ภาษาองั กฤษ ๓ ๘๐
อ ๑๓๒๐๑ (๑๒๐)
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ๔๐
ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสาร ๓
๓๐
กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๔๐
แนะแนว
กิจกรรมนกั เรยี น

• ลูกเสอื เนตรนารี

• ชมุ นุม

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ เิ ศษเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพนกั เรียน ช้ัน ป. ๑ - ๓ จำนวน ๒ ชวั่ โมง/ สปั ดาห์

๑. วิชา ภาษาไทยคิดวิเคราะห์ จำนวน ๑ ชวั่ โมง

๒. วิชา คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑ ช่วั โมง

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๗

โครงสรา้ งหลกั สตู รช้นั ปี ระดับประถมศกึ ษา เวลาเรียน
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ชม./ปี)
(๘๔๐)
รหัส กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ๑๖๐
๑๖๐
ท ๑๔๑๐๑ รายวิชาพ้นื ฐาน ๑๒๐
ค ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔
ว ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ ๘๐
ส ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ๔๐
ส ๑๔๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔ ๘๐
พ ๑๔๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๔ ๘๐
ศ ๑๔๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔ ๔๐
ง ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๔ ๘๐
อ ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๔ ๔๐
อ ๑๔๒๐๑ (๑๒๐)
รายวชิ าเพ่ิมเติม ๔๐
ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร ๔
๓๐
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ๔๐
แนะแนว
กิจกรรมนักเรยี น

• ลูกเสือ เนตรนารี

• ชมุ นุม

กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพอ่ื เพ่มิ ศักยภาพนักเรยี น ชน้ั ป. ๔ - ๖ จำนวน ๓ ชวั่ โมง/ สปั ดาห์

๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จำนวน ๒ ชว่ั โมง

๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑ ช่ัวโมง

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๘

โครงสรา้ งหลกั สตู รช้นั ปี ระดับประถมศึกษา เวลาเรียน
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๕ (ชม./ปี)
(๘๔๐)
รหัส กล่มุ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ๑๖๐
๑๖๐
ท ๑๕๑๐๑ รายวิชาพ้นื ฐาน ๑๒๐
ค ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕
ว ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ ๘๐
ส ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕ ๔๐
ส ๑๕๑๐๒ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ๘๐
พ ๑๕๑๐๑ ประวัตศิ าสตร์ ๕ ๘๐
ศ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๕ ๔๐
ง ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๘๐
อ ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๔ ๔๐
อ ๑๕๒๐๑ (๑๒๐)
รายวชิ าเพ่ิมเติม ๔๐
ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร ๕
๓๐
กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ๔๐
แนะแนว
กิจกรรมนักเรยี น

• ลูกเสือ เนตรนารี

• ชมุ นุม

กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพอ่ื เพ่มิ ศักยภาพนักเรยี น ชน้ั ป. ๔ - ๖ จำนวน ๓ ชว่ั โมง/ สปั ดาห์

๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จำนวน ๒ ชว่ั โมง

๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑ ชั่วโมง

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๙

โครงสร้างหลักสตู รชัน้ ปี ระดับประถมศกึ ษา เวลาเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ (ชม./ปี)
(๘๔๐)
รหัส กลุม่ สาระการเรียนรู้/กิจกรรม ๑๖๐
๑๖๐
ท ๑๖๑๐๑ รายวชิ าพ้ืนฐาน ๑๒๐
ค ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖
ว ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ๘๐
ส ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖ ๔๐
ส ๑๖๑๐๒ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๖ ๘๐
พ ๑๖๑๐๑ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๘๐
ศ ๑๖๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๖ ๔๐
ง ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๖ ๘๐
อ ๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ ๔๐
ภาษาองั กฤษ ๖ ๔๐
อ ๑๖๒๐๑ (๑๒๐)
รายวิชาเพ่มิ เตมิ ๔๐
ภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร ๖
๓๐
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๔๐
แนะแนว
กจิ กรรมนกั เรียน

• ลูกเสอื เนตรนารี

• ชุมนุม

กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๑ ๑๐

โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพอื่ เพ่ิมศกั ยภาพนกั เรยี น ชนั้ ป. ๔ - ๖ จำนวน ๓ ชว่ั โมง/ สัปดาห์

๑. วชิ า ภาษาไทยคิดวเิ คราะห์ จำนวน ๒ ชั่วโมง

๒. วิชา คณติ ศาสตร์ จำนวน ๑ ช่ัวโมง

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๑๐

รายวชิ าของโรงเรียนวนาสงเคราะห์ จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
จำนวน ๒๐๐ ช่วั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย จำนวน ๒๐๐ ชั่วโมง
รายวิชาพน้ื ฐาน จำนวน ๑๖๐ ช่ัวโมง
จำนวน ๑๖๐ ชวั่ โมง
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จำนวน ๑๖๐ ชัว่ โมง
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จำนวน ๒๐๐ ชัว่ โมง
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ จำนวน ๒๐๐ ช่วั โมง
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จำนวน ๒๐๐ ชวั่ โมง
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จำนวน ๑๖๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๑๖๐ ชั่วโมง
**************** จำนวน ๑๖๐ ช่วั โมง

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
รายวิชาพ้นื ฐาน จำนวน ๘๐ ช่วั โมง
จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ จำนวน ๑๒๐ ช่วั โมง
จำนวน ๑๒๐ ชั่วโมง
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓

ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔
ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕
ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๖

****************

กลมุ่ สาระการเรยี นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รายวชิ าพนื้ ฐาน

ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑

ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓

ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔
ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖

***************

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม จำนวน ๔๐ ชั่วโมง

รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
ส ๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๑ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง
จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
ส ๑๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๒
ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๓ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๔ จำนวน ๘๐ ช่ัวโมง

ส ๑๕๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๕
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๖

ส ๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
ส ๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง

ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๓ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง

ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๕ จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
ส ๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๖ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง

****************

กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
รายวชิ าพน้ื ฐาน
พ ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๑ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง
พ ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๒ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง

พ ๑๓๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๓ จำนวน ๘๐ ช่วั โมง
พ ๑๔๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๔ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง

พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๕
พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๖

****************

กลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ จำนวน ๘๐ ช่วั โมง
จำนวน ๘๐ ชั่วโมง
รายวิชาพ้นื ฐาน
ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง

ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ จำนวน ๘๐ ชัว่ โมง
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ จำนวน ๘๐ ชั่วโมง

ศ ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕
ศ ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖

****************

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๒

กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ ๔ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๑๒๐ ช่ัวโมง
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ จำนวน ๑๒๐ ชว่ั โมง
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ๖ จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง
จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
**************** จำนวน ๘๐ ชวั่ โมง

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (องั กฤษ) จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน ๘๐ ชว่ั โมง
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ จำนวน ๔๐ ชั่วโมง
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔

อ ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖

****************
รายวิชาเพ่ิมเตมิ

อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร ๑

อ ๑๒๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร ๒
อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอื่ สาร ๓

อ ๑๔๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร ๔
อ ๑๕๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสาร ๕
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๖

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๓

ตวั ชี้วัดชนั้ ปี/ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ตัวชวี้ ัดชนั้ ปี/ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ตวั ชีว้ ัดช้ันปี รวม
กล่มุ สาระการเรยี นรู้

สาระ มาตรฐาน ป.๑ ป. ๒ ป. ๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖

๑. ภาษาไทย ๕ ๕ ๒๒ ๒๗ ๓๑ ๓๓ ๓๓ ๓๔ ๑๘๐

๒. คณติ ศาสตร์ ๓ ๕ ๑๐ ๑๖ ๒๘ ๒๒ ๑๙ ๒๑ ๑๑๖

๓. วิทยาศาสตร์ ๔ ๑๐ ๑๕ ๑๖ ๒๕ ๒๑ ๓๒ ๓๐ ๑๓๙

๔. สงั คมศึกษา ฯ ๔ ๘ ๒๔ ๒๘ ๓๑ ๓๐ ๒๘ ๓๑ ๑๗๒

๕. ประวัติศาสตร์ ๑ ๓ ๘ ๖ ๘ ๘ ๙ ๘ ๔๗

๖. สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๕ ๖ ๑๕ ๒๑ ๑๘ ๑๙ ๒๕ ๒๒ ๑๒๐

๗. ศลิ ปะ ๓ ๖ ๑๘ ๒๕ ๒๙ ๒๙ ๒๖ ๒๗ ๑๕๔

๘. การงานอาชีพฯ 2 2 3 3 ๘ 5 6 ๑๓ ๓๘

๙. ภาษาตา่ งประเทศ ๔ ๘ ๑๖ ๑๖ ๑๘ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๑๑๐
รวม ๓๑ ๕๓ ๑๓๑ ๑๕๘ ๑๙๖ ๑๘๗ ๑๙๘ ๒๐๖ ๑,๐๗๖

หลักสตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๑๔

สว่ นที่ ๓
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการเรียนรแู้ ละคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ซ่งึ กำหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดบั การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานจำเปน็ ตอ้ งเรยี นรู้ โดยแบง่ เป็น 8 กล่มุ สาระการเรียนรู้

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

สาระท่ี ๑ การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หา

ในการดำเนนิ ชวี ิต
สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว

ในรปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และ

ความรู้ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

สาระท่ี ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา และ

พลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น

คณุ ค่า และนำมาประยุกตใ์ ช้ชวี ิตจรงิ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

สาระท่ี ๑ จำนวนและพชี คณติ
มาตรฐาน ค. ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของจำนวน

ผลท่ีเกดิ ข้นึ จากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
มาตรฐาน ค. ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสัมพันธ์ ฟงั กช์ นั ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้
มาตรฐาน ค. ๑.๓ ใชน้ พิ จน์ สมการ และอสมการ อธบิ ายความสัมพันธ์ หรือชว่ ยแกป้ ญั หา

ที่กำหนดให้
สาระท่ี ๒ การวดั และเรขาคณิต

มาตรฐาน ค. ๒.๑ เข้าใจพ้ืนฐานเกยี่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทตี่ อ้ งการวัด และนำไปใช้
มาตรฐาน ค. ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณิต

และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนำไปใช้

สาระท่ี ๓ สถิตแิ ละความน่าจะเปน็
มาตรฐาน ค. ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถิตใิ นการแกป้ ัญหา

มาตรฐาน ค. ๓.๒ เขา้ ใจหลกั การนบั เบอื้ งตน้ ความน่าจะเป็น และนำไปใช้

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๑๕

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ ไม่มีชีวิต กบั ส่งิ มีชีวิต

และความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่ิงมชี ีวิตกับสง่ิ มีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ

แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของส่งิ มีชีวิต หน่วยพน้ื ฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจาก

เซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ย์ท่ีทำงาน
สมั พันธ์กัน ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ี ของอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ทท่ี ำงานสัมพนั ธ์
กัน รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธกุ รรม
การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธกุ รรมทม่ี ีผลตอ่ สิ่งมีชวี ติ ความหลากหลาย ทางชวี ภาพและววิ ฒั นาการ

ของส่ิงมีชวี ิต รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบัติของ สสารกับ

โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปลย่ี นแปลง
สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏกิ ริ ิยาเคมี

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลกั ษณะ การเคลอื่ นที่
แบบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธ์

ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของ คลืน่ ปรากฏการณ์ท่ี
เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาว

ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทง้ั ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่สง่ ผลต่อส่ิงมชี ีวติ และการ

ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง ภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศและภูมิอากาศโลก
รวมทง้ั ผลต่อส่ิงมชี วี ิตและสงิ่ แวดล้อม
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมทมี่ กี ารเปล่ียนแปลง อย่างรวดเร็ว
ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพ่ือแก้ปัญหา

หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิง่ แวดล้อม

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๖

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขนั้ ตอนและ
เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ
แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตน

นับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดม่นั และปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม เพือ่ อย่รู ่วมกัน
อย่างสนั ติสุข
มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาทตี่ นนบั ถือ
สาระที่ ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสงั คม
มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามหน้าท่ขี องการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมท่ดี งี าม และ
ธำรงรกั ษาประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอย่รู ว่ มกนั ในสงั คมไทย และ สังคมโลก
อยา่ งสันตสิ ุข
มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธำรงรักษาไว้ซ่ึงการ
ปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ
สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส.๓.๑ เข้าใจและสามารถบรหิ ารจดั การทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ทรพั ยากรท่ี
มอี ย่จู ำกัดได้อย่างมีประสิทธภิ าพและค้มุ ค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง
เพอื่ การดำรงชีวติ อย่างมดี ลุ ยภาพ
มาตรฐาน ส.๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธท์ างเศรษฐกจิ
และความจำเป็นของการรว่ มมอื กันทางเศรษฐกจิ ในสงั คมโลก
สาระท่ี ๔ ประวตั ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้วธิ ีการทาง
ประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ
มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธแ์ ละการ
เปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างตอ่ เนือ่ ง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรกั
ความภูมใิ จและธำรงความเป็นไทย
สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์
มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสมั พันธข์ องสรรพสิ่งซงึ่ มผี ล ตอ่ กนั ใชแ้ ผนท่ี
และเครอื่ งมือทางภูมศิ าสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ และสรุป ขอ้ มลู ตามกระบวนการทาง
ภมู ิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภมู ิสารสนเทศอย่างมีประสทิ ธิภาพ

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๗

มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างมนุษยก์ ับสภาพแวดล้อมทางกายภาพทก่ี อ่ ให้เกิดการ

สร้างสรรคว์ ถิ กี ารดำเนนิ ชีวิต มีจติ สำนกึ และมีสว่ นรว่ มในการจดั การ ทรัพยากรและ

ส่ิงแวดล้อมเพือ่ การพัฒนาท่ยี ั่งยืน

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา

สาระที่ ๑ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์

มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์

สาระที่ ๒ ชีวิตและครอบครวั

มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมีทักษะในการดำเนนิ ชีวิต

สาระท่ี ๓ การเคล่อื นไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา

มาตรฐาน พ ๓.๒ รกั การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ มวี ินัย

เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสุนทรียภาพ

ของการกฬี า

สาระท่ี ๔ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค

มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณคา่ และมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การปอ้ งกนั โรคและการ

สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพื่อสุขภาพ

สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ในชีวิต

มาตรฐาน พ ๕.๑ ปอ้ งกันและหลกี เลี่ยงปัจจยั เส่ียง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด

และความรนุ แรง

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

สาระท่ี ๑ ทัศนศลิ ป์

มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วิเคราะห์

วิพากษ์ วิเคราะห์คุณคา่ งานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความร้ศู ึก ความคิดต่อ

งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน

มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งทศั นศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่า

งานทศั นศิลป์ทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล

สาระที่ ๒ ดนตรี

มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณ์

คณุ ค่าทางดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ ตอ่ ดนตรีอย่างอสิ ระ ช่นื ชม

และประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั

มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คา่

ของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ภมู ิปญั ญาไทยและ

สากล

สาระท่ี ๓ นาฏศิลป์

มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์

คุณคา่ นาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ ดนตรีอย่างอิสระ ชนื่ ชม

และในชีวิตประจำวนั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๑๘

มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตรแ์ ละวฒั นธรรม เหน็ คุณค่า
ของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถนิ่ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี
สาระที่ ๑ การดำรงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทำงาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทำงาน ทักษะการ

จดั การทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการ
แสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม และลกั ษณะนสิ ยั ในการทำงาน มีจติ สำนกึ ในการใช้พลงั งาน
ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม เพ่อื การดำรงชวี ติ และครอบครวั
สาระที่ ๒ การอาชพี
มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจ มที ักษะที่จำเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นา
อาชีพ มีคณุ ธรรม และมีเจตนคตทิ ด่ี ีต่ออาชีพ

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
สาระที่ ๑ ภาษาเพ่อื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรอื่ งท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความ คิดเหน็ อย่าง

มีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สกึ และความ

คิดเห็นอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพูดและ

การเขยี น
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อยา่ ง

เหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา

และวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ย่างถูกต้องและเหมาะสม
สาระที่ ๓ ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับกล่มุ สาระการเรยี นรูอ้ ่นื
มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ

พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน
สาระที่ ๔ ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศเป็นเครอ่ื งมือพ้ืนฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ

และการแลกเปลีย่ นเรียนรูก้ บั สังคมโลก

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๑๙

สว่ นที่ ๔

คำอธิบายรายวิชา
หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวนาสงเคราะห์ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๒) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ไดก้ ำหนดคำอธิบายรายวชิ าของวิชาต่าง ๆ ท่ีสอนในแต่ละปี

การศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย ช่ือรหัสวิชา ชื่อรายวิชา จำนวนชั่วโมงต่อปี ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง และสาระการ
เรยี นรรู้ ายปี

คำอธิบายรายวิชาจะช่วยให้ผู้สอนจัดหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละชั้นปี ได้สอดคล้องกับมาตรฐานการ
เรยี นรู้ เนื่องจากคำอธบิ ายรายวิชาจะรวมสาระการเรียนรู้ทีผ่ ู้เรียนต้องเรียนรู้ตลอดท้ังปี กลุ่มของสาระการเรยี นรู้
ตลอดปจี ะมจี ำนวนมาก ดังนั้น การจดั เปน็ หน่วยการเรียนรู้หลาย ๆ หน่วย จะช่วยให้กลุ่มของสาระการเรยี นรูม้ ขี นาด

เล็กลง และบูรณาการได้หลากหลายมากขึ้น
โรงเรียนวนาสงเคราะห์ ได้กำหนดรายละเอียดของคำอธบิ ายรายวชิ าเรียงตามลำดับไว้ ดงั นี้

๑. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ถึงชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖
๒. คำอธิบายรายวิชากล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ถึงชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖
๓. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑

ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
๔. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษา

ปีท่ี ๑ ถงึ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖
๕. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ ถึงชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖

๖. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
ถึงชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖

๗. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถงึ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖
๘. คำอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ถึงชั้นประถมศึกษาปีท่ี๖
๙. คำอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ ๑ ถงึ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖
๑๐. คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษเพ่อื การ

สื่อสาร ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ถงึ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖
๑๑. คำอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถงึ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒๐

คำอธิบายรายวชิ า
กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๒๑

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธิบายรายวิชา

ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง และข้อความส้ันๆ บอกความหมายของคำและข้อความ ตอบคำถาม

เล่าเร่ืองย่อ คาดคะเนเหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอ นำเสนอเร่ืองที่อ่าน บอก

ความหมายของเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์สำคัญท่ีมักพบเห็นในชีวิตประจำวัน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัด

ลายมือดว้ ยตวั บรรจงเตม็ บรรทดั เขียนสอื่ สารด้วยคำและประโยคงา่ ยๆ มมี ารยาทในการเขียน

ฝกึ ทักษะในการฟัง ฟังคำแนะนำ คำส่ังงา่ ยๆและปฏบิ ัติตาม ตอบคำถาม เล่าเรื่อง พดู แสดงความคิดเห็น

และความรสู้ ึกจากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดู พดู สอ่ื สารได้ตามวัตถปุ ระสงค์ เน้นมารยาทในการฟัง การดูและการพดู

ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ

เรียบเรยี งคำเปน็ ประโยคงา่ ยๆ ตอ่ คำคล้องจองง่ายๆ

บอกข้อคิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก ฝึกท่องจำบท

อาขยานตามท่กี ำหนดและบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ

แสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด การฝึกปฏิบัติ อธบิ าย บันทึก การต้ังคำถาม ตอบคำถาม ใช้

ทักษะการฟงั การดูและการพดู พดู แสดงความคดิ เห็น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ

อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับชวี ติ ประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตัวช้ีวัด

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๒๒

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๒ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธบิ ายรายวิชา

ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคำและ

ข้อความท่ีอ่าน ต้ังคำถาม ตอบคำถาม ระบุใจความสำคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเห็นและคาดคะเน

เหตุการณ์ เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรื่องท่ีอ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย

และปฏบิ ัติตามคำสง่ั หรือขอ้ แนะนำ มมี ารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องส้ันๆ เก่ียวกับประสบการณ์ เขียนเร่ืองส้ันๆ ตาม

จนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง ฟังคำแนะนำ คำสง่ั ท่ซี ับซ้อนและปฏิบตั ิตาม เล่าเรอื่ ง บอกสาระสำคัญของเร่ือง ตั้ง

คำถาม ตอบคำถาม พูดแสดงความคดิ เห็น ความรู้สึก พดู สือ่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทใน

การฟงั การดแู ละการพดู

ฝกึ ทักษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ

เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการส่ือสาร บอกลักษณะคำคล้องจอง เลือกใช้ภาษาไทย

มาตรฐานและภาษาถนิ่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ

ฝึกจับใจความสำคัญจากเรื่อง ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็ก เพ่ือ

นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ร้องบทร้องเล่นสำหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย

กรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ

อธิบาย บันทึก การต้ังคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น

กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ

อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี งและสามารถนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชวี ิตประจำวันได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓

รวม ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตัวช้ีวดั

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๒๓

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ กล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธบิ ายรายวชิ า

ฝึกอ่านออกเสียงคำ ข้อความ เรื่องสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคำและ

ข้อความท่ีอ่าน ต้ังคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ ข้อคิด

จากเรอื่ งที่อ่าน เพอ่ื นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั เลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรือ่ งที่

อ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำ อธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ

แผนท่ี และแผนภูมิ มมี ารยาทในการอ่าน

ฝกึ คัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย เขียนบนั ทึกประจำวัน เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ

มมี ารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสำคัญ ต้ังคำถาม ตอบคำถาม พูด

แสดงความคิดเหน็ ความรู้สกึ พูดสอ่ื สารไดช้ ดั เจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดูและการพูด

ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำ ระบุชนิด หน้าท่ีของคำ ใช้

พจนานกุ รมค้นหาความหมายของคำ แตง่ ประโยคงา่ ยๆ แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ เลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐาน

และภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ

ระบขุ ้อคดิ ท่ีได้จากการอ่านวรรณกรรม เพอื่ นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั รู้จกั เพลงพ้ืนบ้าน เพลงกล่อมเด็ก

เพื่อปลูกฝังความชื่นชมวฒั นธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวรรณคดที ่ีอ่าน ท่องจำบทอาขยานตามท่ี

กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการ

แสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการแกป้ ญั หา การฝึก

ปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น

กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ

อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี งและสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวติ ประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙

ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๑ ตวั ช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๒๔

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธบิ ายรายวิชา

ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและสำนวนจากเรือ่ งที่

อา่ น อา่ นเรื่องสั้น ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเรื่องท่อี ่าน แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่

อา่ น คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน เพ่ือ

นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เลือกอ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความคิดเห็น

เก่ียวกับเรื่องที่อ่าน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสาร

โดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขียน

เขียนย่อความจากเร่ืองส้ัน ๆ เขียนจดหมายถึงเพื่อนและมารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษา

คน้ ควา้ เขยี นเร่อื งตามจนิ ตนาการ มมี ารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง การดแู ละการพดู จำแนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็นเรื่องทฟี่ ังและดู พดู สรปุ จากการฟัง

และดู พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกเกย่ี วกบั เรอื่ งทฟี่ ังและดู ตง้ั คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล

จากเรือ่ งที่ฟังและดู พูดรายงานเรอื่ งหรือประเดน็ ทีศ่ กึ ษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดูและการสนทนา มมี ารยาทใน

การฟงั การดูและการพูด ฝกึ เขยี นตามหลักการเขียน เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทต่าง ๆ

ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคำในประโยค ใช้พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคำ แต่งประโยคไดถ้ กู ต้องตามหลัก

ภาษา แต่งบทรอ้ ยกรองและคำขวญั บอกความหมายของสำนวน เปรยี บเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ได้

ระบุข้อคิดจากนิทานพ้ืนบ้านหรือนิทานคติธรรมอธิบายข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริงร้อง

เพลงพ้นื บา้ นท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอ่าน

กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ

กระบวนการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปญั หา การฝึกปฏิบัตอิ ธิบาย บันทึก

การตั้งคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูดพูดแสดงความคิดเห็นกระบวนการสร้างความคิด

รวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรกั ษภ์ าษาไทยและตวั เลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใชว้ ิธีการของเศรษฐกจิ พอเพียง

และสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔

รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตวั ชี้วดั

หลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒๕

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธิบายรายวิชา

ฝึกอา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความทเ่ี ป็น

การบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัย แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น วิเคราะห์ แสดงความ

คิดเหน็ อา่ นงานเขยี นเชิงอธบิ าย คำสั่ง ขอ้ แนะนำ และปฏบิ ตั ติ าม เลือกอ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ

มีมารยาทในการอา่ น

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพโครงเร่ือง

แผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขยี นแสดงความรู้สกึ และความคิดเห็น

กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ตั้งคำถาม

ตอบคำถาม วเิ คราะห์ความ พดู รายงาน มีมารยาทในการฟัง การดูและการพูด

ระบุชนิดและหน้าท่ีของคำในประโยค จำแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทย

มาตรฐานและภาษาถ่ิน ใชค้ ำราชาศพั ท์ บอกคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย แตง่ บท

รอ้ ยกรอง ใชส้ ำนวนไดถ้ กู ต้อง

สรุปเร่ืองจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่าน ระบุความรู้ ข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม

ทสี่ ามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและ

บทร้อยกรองท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ กระบวนการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ กระบวนการสื่อ

ความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง

การดแู ละการพดู พูดแสดงความคดิ เห็น กระบวนการสรา้ งความคดิ รวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจ

พอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙

ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗

ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒๖

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธิบายรายวิชา

ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความท่ีเป็น

โวหาร อ่านเรื่องส้ัน ๆอย่างหลากหลาย แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอ่ี ่าน วิเคราะห์และแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องท่ีอ่านเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต อ่านงานเขียน เชิงอธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำและปฏิบัติ

ตาม อธิบายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟ เลือกอ่านหนังสือตามความ

สนใจและอธบิ ายคุณค่าทไี่ ดร้ บั มมี ารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน

และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใชพ้ ฒั นางานเขียน เขยี นเรียงความ เขยี นย่อ

ความจากเรื่องอ่าน เขียนจดส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเร่ืองตามจินตนาการและสร้างสรรค์

มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟังและดู

ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตผุ ลจากเร่อื งท่ีฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเร่ืองทีฟ่ ังและดสู ื่อโฆษณา

อย่างมีเหตุผล พูดรายงานเรอื่ งหรอื ประเด็นท่ีศกึ ษาค้นควา้ จากการฟัง การดูและการสนทนา พูดโนม้ น้าวอยา่ ง

มเี หตผุ ลและน่าเชอ่ื ถอื มีมารยาทในการฟงั การดแู ละการพูด

ฝกึ วิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคำในประโยค ใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล รวบรวมและ

บอกความหมายของคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อยกรอง

วิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บสำนวนที่เป็นคำพงั เพยและสุภาษิต

ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่าน เล่านิทานพื้นบ้านท้องถ่ินตนเองและนิทาน

พ้ืนบ้านของท้องถ่นิ อ่ืน อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่านและนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง ท่องจำ

บทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้

กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรปุ ความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการส่ือ

ความ กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสังเกต กระบวนกรแยกข้อเทจ็ จรงิ กระบวนการค้นควา้ กระบวนการ

ใช้เทคโนโลยีในการสื่อสาร กระบวนการใช้ทักษะทางภาษา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม

ตอบคำถาม ใชท้ ักษะการฟงั การดูและการพูด พดู แสดงความคิดเหน็ กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ

อนุรกั ษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วธิ ีการของเศรษฐกิจพอเพียง

และสามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖

ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวม ๕ มาตรฐาน ๓๔ ตวั ช้ีวัด

หลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒๗

คำอธิบายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๒๘

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวิชา

ศึกษา ฝกึ ทักษะการคิดคำนวณและฝึกแก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถงึ ๑๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจำนวนส่ิง

ตา่ ง ๆ ตามจำนวนทก่ี ำหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลกั ค่าของเลขโดดใน

แต่ละหลัก และเขียนแสดงจำนวนในรูปกระจาย เปรยี บเทียบจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้เครอ่ื งหมาย

= ≠ > < เรียงลำดบั จำนวนต้ังแต่ ๓ ถงึ ๕ จำนวน และหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการ

บวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ความยาวและน้ำหนัก

สร้างโจทย์ปญั หาพร้อมท้ังแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ของจำนวนนับไมเ่ กิน ๑๐๐ และ

๐ ระบจุ ำนวนท่ีหายไปในแบบรูปของจำนวนที่เพ่มิ ขึ้นหรอื ลดลงทีละ๑ ทีละ ๑๐ รูปที่หายไปในแบบรูปซ้ำของ

รูปเรขาคณิตและรูปอนื่ ๆ ท่สี มาชิกใน แต่ละชุดท่ีซ้ำมี ๒ รปู วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็น

เมตร น้ำหนักเป็นกิโลกรัมเป็นขีด และใช้หน่วยท่ีไม่ใช่หน่วยมาตรฐาน จำแนกรูปสามเหล่ียม รูปส่ีเหลี่ยม วงกลม

วงรี ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของ

โจทยป์ ัญหา เมือ่ กำหนดรปู ๑ รปู แทน ๑ หน่วย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑

ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑

ค ๓.๑ ป.๑/๑
รวม ๕ มาตรฐาน ๑๐ ตัวช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๒๙

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธบิ ายรายวชิ า

ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกแก้ปัญหา จำนวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดง

จำนวนส่ิงต่าง ๆ ตามจำนวนที่กำหนด อ่านและเขยี นตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย การบอกอนั ดับที่หลัก ค่าของ

เลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจำนวนในรปู กระจาย เปรยี บเทียบจำนวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้

เคร่ืองหมาย = ≠ > < เรยี งลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน และหาคา่ ของตัว

ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก การลบ การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบของจำนวนนับไม่

เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน ๑ หลักกบั จำนวน

ไมเ่ กนิ ๒ หลัก และประโยคสัญลักษณแ์ สดงการหารที่ตวั ตงั้ ไม่เกนิ ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยท่ีผลหารมี ๑ หลัก

ทัง้ หารลงตวั และหารไม่ลงตัว หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคนของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดง

วธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา ๒ ขั้นตอนของจำนวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหา

เกี่ยวกับเวลาที่มีหน่วยเด่ียวและเปน็ หน่วยเดยี ว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมทั้ง

แสดงวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและ

เปรียบเทียบน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด พร้อมท้ังแสดงวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการ

บวกการลบเก่ียวกับน้ำหนักที่มีหน่วยเปน็ กโิ ลกรัมและกรมั กโิ ลกรัมและขีด วดั และเปรียบเทียบปริมาตรและความ

จุเป็นลิตร จำแนกและบอกลักษณะของรปู หลายเหลีย่ มและวงกลม ใช้ข้อมลู จากแผนภูมริ ูปภาพในการหาคำตอบ

ของโจทย์ปญั หา เมอื่ กำหนดรปู ๑ รูปแทน ๒ หนว่ ย ๕ หน่วยหรือ ๑๐ หนว่ ย

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด

ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑

ค ๓.๑ ป.๒/๑
รวม ๔ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศึกษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๐

คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวิชา

อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐

เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่านและเขียน

เศษส่วนท่ีแสดงปริมาณสิ่งตา่ ง ๆ และแสดงส่งิ ต่าง ๆ ตามเศษส่วนทก่ี ำหนด เปรียบเทียบเศษสว่ นท่ีตัวเศษเท่ากัน

โดยทต่ี ัวเศษน้อยกว่าหรือเท่ากับตัวส่วน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและการลบ

ของจำนวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน

๑ หลักกับจำนวนไม่เกิน ๔ หลักและจำนวน ๒ หลักกับจำนวน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค

สัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน ๔ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก และหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนและ

แสดงวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขน้ั ตอนของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาผลบวกและแสดง

วิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนท่ีมตี ัวส่วนเท่ากนั และผลบวกไม่เกิน ๑ และหาผลลบพร้อมท้ัง

แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการลบของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน ระบุจำนวนที่หายไปในแบบรูปของ

จำนวนท่ีเพ่ิมข้ึนหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเงิน เวลาและระยะเวลา

เลอื กใชเ้ ครื่องมอื ความยาวทเ่ี หมาะสม วัดและบอกความยาวของสิง่ ต่าง ๆ เปน็ เซนติเมตรและมิลลเิ มตร เมตรและ

เซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็นเซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวและแสดงวิธีหาคำตอบของ

โจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ระหวา่ งเซนติเมตรกับมลิ ลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กโิ ลเมตรกับเมตร จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ

เลือกใช้เครื่องชั่งที่เหมาะสม วัดและบอกน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด กิโลกรัมและกรัม คาดคะเนน้ำหนัก

เป็นกิโลกรัมและเป็นขีด เปรียบเทียบน้ำหนักและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับน้ำหนักที่มีหน่วย

เป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จากสถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เคร่ืองตวงท่ีเหมาะสม วัดและ

เปรียบเทียบปริมาตร ความจุเป็นลิตรและมิลลิลิตร คาดคะเนและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ

ปริมาตรและความจุเป็นลิตรและมิลลิเมตร ระบุรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีมีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร

เขียนแผนภูมิรูปภาพและใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา เขียนตารางทางเดียว

จากข้อมลู ทเี่ ป็นจำนวนนับและใช้ขอ้ มลู จากตารางทางเดยี วในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ , ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑

ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑,
ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓

ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๘ ตัวช้ีวัด

หลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๑

คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวิชา

ศึกษา ฝึกทักษะการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับที่

มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ พร้อมท้งั เปรยี บเทยี บและเรียงลำดับจำนวนนับท่ีมากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง

ๆ บอก อา่ นและเขียนเศษส่วน จำนวนคละแสดงปรมิ าณส่ิงต่าง ๆ และแสดงสิ่งตา่ ง ๆ ตามเศษสว่ น จำนวนคละท่ี

กำหนด เปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษส่วนและจำนวนคละทต่ี วั สว่ นตวั หน่ึงเปน็ พหูคณู ของอีกตัวหน่งึ อ่านและเขียน

ทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตำแหนง่ แสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ ตามทศนิยมท่ีกำหนด เปรยี บเทียบและเรยี งลำดับทศนยิ ม

ไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง และประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบการคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อย่าง

สมเหตุสมผล หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก การลบของจำนวนนับที่มากกว่า

๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ แสดงการคูณของจำนวนหลายหลกั ๒ จำนวน ที่มผี ลคูณไม่เกนิ ๖ หลัก และแสดงการหารท่ี

ตวั ตัง้ ไม่เกนิ ๖ หลกั ตวั หารไม่เกิน ๒ หลกั หาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ ๐ แสดงวิธี

หาคำตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของจำนวนนับท่ีมากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอน

ของจำนวนนับ และ ๐ พร้อมทั้งหาคำตอบ หาคำตอบและแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ

ของเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหูคูณของอีกตัวหน่ึง หาผลบวก ผลลบของทศนิยมไม่เกิน

๓ ตำแหน่ง และแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ ๒ ขัน้ ตอนของทศนิยมไม่เกนิ ๓ ตำแหน่ง

แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหา

คำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับความยาวรอบรูปและพ้ืนทขี่ องรูปสี่เหลี่ยมมมุ ฉาก จำแนกชนดิ ของมุม บอกช่ือมุม

ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉากเมื่อกำหนดความยาวของด้าน และ

ใชข้ อ้ มลู จากแผนภูมแิ ทง่ ตารางสองทางในการหาคำตอบของโจทย์ปัญหา

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑,

ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖
ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓

ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑
รวม ๔ มาตรฐาน ๒๒ ตัวช้ีวัด

หลักสตู รสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๒

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ค ๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธิบายรายวชิ า

เขียนเศษส่วนท่ีมีตัวส่วนเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธีหา

คำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและจำนวนคละ

แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ขั้นตอน หาผลคูณของทศนิยม

ที่ผลคูณเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง หาผลหารท่ีตัวต้ังเป็นจำนวนนับหรือทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง

และตัวหารเป็นจำนวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก

การลบ การคณู การหารทศนิยม ๒ ขนั้ ตอน และแสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาร้อยละไม่เกิน ๒ ขน้ั ตอน

แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาว น้ำหนัก ที่มีการเปลี่ยนหน่วยและเขียนในรูป

ทศนิยม แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับปรมิ าตรของทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉากและความจุของภาชนะทรง

สี่เหลี่ยมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหล่ียมและพื้นที่ของรปู ส่ีเหล่ียมด้านขนานและรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียก

ปูน สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงที่กำหนดให้ จำแนกรูปสี่เหลี่ยม

โดยพจิ ารณาจากสมบัติของรปู สร้างรูปส่ีเหล่ียมชนิดต่าง ๆ เม่ือกำหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมุมหรือ

เมอื่ กำหนดความยาวของเสน้ ทแยงมุม และบอกลักษณะของปรซิ ึม

ใชข้ ้อมลู จากกราฟเส้นในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา และเขียนแผนภมู ิแท่งจากขอ้ มลู ทเี่ ปน็ จำนวนนบั

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด

ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
รวม ๔ มาตรฐาน ๑๙ ตัวช้ีวดั

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๓

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

.........................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวชิ า

เปรียบเทียบ เรียงลำดับ เศษส่วนและจำนวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ

เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยท่ีปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจำนวนนับ

หาอัตราส่วนทเี่ ท่ากับอัตราส่วนที่กำหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจำนวนนับไมเ่ กิน ๓ จำนวน แสดงวิธีหา

คำตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เกี่ยวกบั ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คณู หารระคนของ

เศษส่วนและจำนวนคละ แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเศษส่วนและจำนวนคละ ๒ – ๓ ขั้นตอน หาผลหาร

ของทศนิยมที่ตวั หารและผลหารเป็นทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตำแหน่ง แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การ

ลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ขั้นตอน แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาอัตราส่วน ปัญหาร้อยละ ๒ – ๓

ข้ันตอน แสดงวิธคี ดิ และหาคำตอบของปญั หาเก่ียวกบั แบบรูป

แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับปริมาตรของรูปเรขาคณติ สามมิตทิ ีป่ ระกอบด้วยทรงสี่เหลีย่ มมุม

ฉาก และแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปหลายเหลี่ยม ความยาว

รอบรปู และพื้นท่ีของวงกลม จำแนกรูปสามเหลยี่ มโดยพิจารณาจากสมบัตขิ องรูป สร้างรูปสามเหล่ียมเมอ่ื กำหนด

ความยาวของด้านและขนาดของมุม บอกลักษณะของรปู เรขาคณิตสามมิติชนดิ ตา่ ง ๆ ระบุรูปเรขาคณิตสามมิติที่

ประกอบจากรูปคลแี่ ละระบรุ ูปคลขี่ องรปู เรขาคณิตสามมติ ิ

ใชข้ อ้ มลู จากแผนภมู ิรปู วงกลมในการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐, ป.๖/๑๑ ,

ป.๖/๑๒
ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓

ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑

รวม ๕ มาตรฐาน ๒๑ ตวั ชี้วดั

หลักสตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๔

คำอธิบายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๓๕

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ว ๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวชิ า

ระบุช่ือพืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณต่างๆ จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บอกสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสม

กบั การดำรงชีวิตของสัตว์ในบริเวณท่ีอาศัยอยู่ในท้องถ่ินจงั หวัดสระแก้ว ระบุชอ่ื บรรยายลกั ษณะและบอกหน้าท่ี

ของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์และพืช การทำหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทำ

กิจกรรมต่างๆ จากข้อมูลท่รี วบรวมได้ ตระหนกั ถึงความสำคัญของสว่ นต่างๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดูแลส่วน

ต่างๆ อยา่ งถูกต้องให้ปลอดภัยและรกั ษาความสะอาดอยู่เสมอ อธิบายสมบตั ทิ ่ีสงั เกตได้ของวัสดุท่ีใชท้ ำวตั ถุซงึ่ ทำ

จากวัสดุชนดิ เดียวหรือหลายชนิดประกอบกันโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุชนิดของวัสดุและจัดกลุ่มวสั ดุตาม

สมบัติที่สังเกตได้บรรยายการเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียงจากหลักฐานเชิ งประจักษ์ระบุดาว

ท่ปี รากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวนั และกลางคืนจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ อธิบายสาเหตทุ ี่มองไม่เห็นดาวสว่ นใหญ่

ในเวลากลางวันจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธบิ ายลักษณะภายนอกของหนิ จากลกั ษณะ เฉพาะตวั ทสี่ งั เกตได้จาก

หินในท้องถ่ินของจังหวัดสระแก้ว แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบแสดงลำดับ

ข้ันตอนการทำงานหรอื การแก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรอื ขอ้ ความเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้

ซอฟต์แวร์ หรือสื่อใช้เทคโนโลยีในการสร้างจัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

อย่างปลอดภัยปฏิบัติ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแล รักษาอุปกรณ์เบื้องต้นใช้งานอย่าง

เหมาะสม

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ สืบค้นขอ้ มลู บันทึก

จัดกลุ่มข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้

มคี วามสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์

มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั

ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑
ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๓.๒ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
รวม ๗ มาตรฐาน ๑๕ ตัวช้ีวดั

หลักสูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หน้า ๓๖

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธบิ ายรายวิชา

ระบุว่าพืชต้องการแสงและนำ้ เพื่อการเจริญเติบโต โดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ ตระหนักถึง

ความจำเป็นที่พืชต้องได้รับน้ำและแสงเพื่อการเจริญเติบโตโดยดูแลพืชให้ได้รับสิ่งดังกล่าวอย่างเหมาะสมสร้าง

แบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของ พืชดอก เปรียบเทียบลักษณะของสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต จากข้อมูล

ท่ีรวบรวมได้ เปรียบเทียบสมบัติการดูดซับน้ำของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และระบุการนำสมบัติ

การดูดซับน้ำของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวันอธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่เกิดจาก

การนำวัสดุมาผสมกันโดยใช้หลักฐานเชิงประจกั ษ์ เปรียบเทียบสมบัติที่สงั เกตได้ของวัสดุ เพ่ือนำมาทำเป็นวัตถุใน

การใช้งานตามวัตถุประสงค์และอธิบายการนำวัสดุที่ใชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ตระหนัก

ถึงประโยชน์ของการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ โดยการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ บรรยายแนว

การเคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกำเนิดแสงและอธิบายการมองเห็นวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ตระหนัก

ในคุณค่าของความรู้ของการมองเหน็ โดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอันตรายจากการมองวัตถุที่อยู่ในบริเวณ

ทมี่ ีแสงสวา่ งไม่เหมาะสม ระบุส่วนประกอบของดิน และจำแนกชนิดของดินโดยใช้ลักษณะเน้ือดนิ และการจบั ตัว

เปน็ เกณฑ์อธิบายการใช้ประโยชน์จากดินจากข้อมูลที่รวบรวมไดแ้ สดงลำดับขนั้ ตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหา

อย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือส่ือและตรวจหา

ข้อผิดพลาดของโปรแกรมใช้เทคโนโลยีในการสร้างจัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแล รักษาอุปกรณ์

เบ้อื งต้นใช้งานอยา่ งเหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล

บนั ทึก จัดกลุ่มขอ้ มูลและการอภิปราย เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอ ส่ือสารสิ่งที่

เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิต

วิทยาศาสตร์ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านิยมท่ีเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั

ว ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒

ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
รวม ๖ มาตรฐาน ๑๖ ตัวช้ีวดั

หลกั สตู รสถานศึกษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๓๗

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

...................................................................................................................................................................................

คำอธบิ ายรายวิชา

บรรยายส่ิงท่ีจำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตโดยใช้ข้อมูลจากท่ีรวบรวมได้ ตระหนักถึง

ประโยชน์ของอาหาร น้ำและอากาศโดยการดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับสิ่งเหล่าน้ีอย่างเหมาะสม สร้าง

แบบจำลองท่ีบรรยายวัฏจักรชวี ิตของสตั ว์และเปรยี บเทียบวัฏจักรชีวติ ของสัตว์บางชนิดคณุ ค่าของชวี ิตสตั ว์โดยไม่

ทำให้วัฏจักรชีวติ ของสัตว์เปลยี่ นแปลง อธิบายว่าวัตถุประกอบกันเป็นวตั ถุชนิ้ ใหมไ่ ด้โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์

อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเม่ือทำให้ร้อนข้ึนหรือทำให้เย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ระบุผลของแรง

เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เปรียบเทยี บและยกตัวอย่างแรงสัมผสั และแรงสัมผัส

ที่มีผลต่อการเคล่ือนท่ีการจำแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็นเกณฑ์ระบุข้ัวแม่เหล็กและพยากรณ์ผลที่

เกิดข้ึนระหว่างข้ัวแม่เหล็กเมื่อนำมาเข้าใกล้กันจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ยกตัวอย่างการเปลี่ยนพลังงานหน่ึงไป

เป็นอีกพลังงานหน่ึง การทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าประโยชน์ของ

ไฟฟา้ โดยการนำเสนอวธิ ีการใชอ้ ยา่ งประหยัดและปลอดภยั

อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขนึ้ ละตกของดวงอาทิตย์การเกิดกลางวนั กลางคืนและการกำหนดทศิ โดยใช้

แบบจำลองตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของดวงอาทติ ย์ประโยชนข์ องดวงอาทติ ย์ตอ่ ส่งิ มีชวี ิต

รหัสตวั ช้ีวดั
ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

ว ๔.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕
รวม ๗ มาตรฐาน ๒๕ ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๓๘

คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ว ๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๒๐ ช่วั โมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธิบายรายวิชา

บรรยายหน้าที่ของราก ลำต้น ใบ และดอก ของพืชดอก โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จำแนกสิ่งมีชีวติ โดย

ใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมชี ีวติ ออกเป็นกล่มุ พชื กล่มุ สัตวแ์ ละกลุม่ ท่ีไม่ใช่พชื และสัตว์

จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จำแนกสัตว์

ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังโดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูล

ทร่ี วบรวมไดบ้ รรยายลักษณะเฉพาะท่สี งั เกตได้ของสัตว์มีกระดกู สันหลงั ในกลุม่ ปลา กลุ่มสัตวส์ ะเทินนำ้ สะเทนิ บก

กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กล่มุ นก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมและยกตัวอย่างสิ่งมีชีวติ ในแต่ละกลุ่ม เปรียบเทียบ

สมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยดื หยุ่น การนำความรอ้ นและการนำไฟฟา้ ของวัสดุโดยใช้หลักฐาน

เชงิ ประจักษ์จากการทดลองและระบุการนำสมบตั ิเร่ืองความแขง็ สภาพยดื หยุน่ การนำความรอ้ นและการนำไฟฟา้

ของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการออกแบบช้ินงานแลกเปล่ียนความคิดกับผู้อ่ืน โดยการอภิปราย

เก่ียวกับสมบัติทางกายภาพของวัสดุอย่างมีเหตุผลจากการทดลองเปรยี บเทียบสมบตั ิของสสาร ทั้ง ๓ สถานะ

จากข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตมวลการต้องการท่ีอยู่ รูปร่างและปริมาตรของสสาร ใช้เครื่องมือเพ่ือวัดมวลและ

ปริมาตรของสสารทั้ง ๓ สถานะ ระบุผลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ใช้เคร่ืองช่ังสปริง

ในการวัดน้ำหนกั ของวัตถุบรรยายมวลของวตั ถทุ ่ีมีผลตอ่ การเปล่ียนแปลง การเคลอื่ นท่ีของวัตถุจากหลักฐานเชิง

ประจักษ์ จำแนกวตั ถุเป็นตัวกลางโปรง่ ใส ตัวกลางโปร่งแสงและวัตถุทึบแสง จากลักษณะการมองเห็นสิ่งต่างๆ

ผ่านวัตถุน้ันเป็นเกณฑ์โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของดวงจันทร์ โดยใช้

หลักฐานเชิงประจักษ์ สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายแบบรูปการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของ ดวงจันทร์และ

พยากรณร์ ูปรา่ งปรากฏของดวงจันทร์สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุรยิ ะและอธิบายเปรยี บเทียบ

คาบการโคจรของดาวเคราะหต์ ่างๆ จากแบบจำลองใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การอธิบาย การทำงาน

การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างงา่ ย ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่ือและ

ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้และประเมินความน่าเช่ือถือ ของข้อมูลรวบรวม

ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ท่ีหลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชี วิตประจำวัน

ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจ สิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เก่ียวข้อง

เมอ่ื พบข้อมลู หรอื บคุ คลทไี่ มเ่ หมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล

บนั ทึก จัดกลุ่มข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนำเสนอ ส่ือสารส่ิง

ท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรมจริยธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๓๙

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ว 1.2 ป.4/1
ว 1.3 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4
ว 2.1 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4
ว 2.2 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3
ว 2.3 ป.4/1
ว 3.1 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3
ว 4.2 ป.4/1,ป.4/2,ป.4/3,ป.4/4,ป.4/5

รวม ๗ มาตรฐาน 21 ตัวชว้ี ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๔๐

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๒๐ ชวั่ โมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธิบายรายวิชา

บรรยายโครงสร้างและลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวติ ที่เหมาะสมกบั การดำรงชวี ิต ซง่ึ เปน็ ผลมาจากการปรับตวั ของ

สงิ่ มีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ิตกับส่ิงมีชีวติ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต

กับส่ิงไม่มีชีวติ เพ่ือประโยชน์ต่อการดำรงชวี ิต เขียนโซอ่ าหารและระบุบทบาทหน้าท่ขี องสงิ่ มชี วี ิตที่เปน็ ผู้ผลิตและ

ผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดล้อมที่มีต่อการ ดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการ

ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อม อธิบายลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอด จากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์และมนุษย์

แสดงความอยากรอู้ ยากเหน็ โดยการถามคำถาม เก่ียวกบั ลกั ษณะท่ีคล้ายคลงึ กนั ของตนเองกับ พอ่ แม่ อธบิ ายการ

เปลี่ยนสถานะของสสาร เม่ือทำให้สสารรอ้ นขึ้นหรอื เย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธบิ ายการละลายของ

สารในน้ำโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงของสารเม่ือเกิดการ เปลี่ยนแปลงทางเคมี

โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลีย่ นแปลงที่ผนั กลบั ได้ และการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้

อธิบายวิธีการหาแรงลัพธข์ องแรงหลายแรงในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุในกรณีที่วัตถุอยู่นิ่ง จากหลักฐานเชิง

ประจักษ์ เขยี นแผนภาพแสดงแรงท่กี ระทำตอ่ วัตถุทอี่ ยใู่ น แนวเดียวกันและแรงลพั ธท์ ก่ี ระทำต่อวัตถุ ใช้เครื่องช่ัง

สปริงในการวัดแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ระบุผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุจาก

หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงที่อยู่ในแนวเดียวกันที่กระทำต่อวัตถุ อธิบายการ

ได้ยินเสียงผ่านตัวกลางจากหลักฐาน เชิงประจักษ์ ระบุตัวแปร ทดลองและอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงสูง

เสยี งต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและการเกดิ เสียงดัง เสียงค่อย วดั ระดับเสยี งโดยใช้เครอ่ื งมือวัด

ระดับเสยี ง ตระหนักในคุณค่าของความร้เู ร่ืองระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเลีย่ งและลดมลพิษทาง

เสียง เปรียบเทียบความแตกต่างของดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง ใช้แผนท่ีดาวระบุตำแหน่งและ

เส้นทางการขน้ึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า และอธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์

บนทอ้ งฟา้ ในรอบปี เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแตล่ ะแหล่งและระบุ ปรมิ าณน้ำที่มนุษยส์ ามารถนำมาใช้ประโยชน์

ได้ จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ตระหนกั ถงึ คุณค่าของน้ำโดยนำเสนอแนวทางการใช้นำ้ อยา่ งประหยดั และการอนุรักษ์

นำ้ สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการหมุนเวียนของน้ำในวัฎจักรน้ำ เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดเมฆหมอกนำ้ ค้างและ

น้ำค้างแข็งจากแบบจำลองเปรียบเทียบกระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเห็บ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ใช้เหตุผล

เชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหาการอธิบาย การทำงาน การคาดการณผ์ ลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ งงา่ ยออกแบบและเขยี น

โปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่ายตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล

ติดต่อส่ือสาร และทำงานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูลรวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ

สารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการ บนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาใน

ชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาทเข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตนเคารพในสิทธิของ

ผู้อนื่ แจ้งผูเ้ กย่ี วข้องเมอ่ื พบข้อมลู หรอื บคุ คล ทีไ่ ม่เหมาะสม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มูล

บันทึก จัดกลมุ่ ข้อมูลและการอภิปราย เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนำเสนอ สื่อสารส่งิ ที่

เรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ เห็นคุณค่าของการนำความรไู้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน

มจี ิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๔๑

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒

ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕

รวม ๘ มาตรฐาน ๓๒ ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๔๒

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

........................................................................................................................ .................................................

คำอธิบายรายวชิ า

ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ีตนเองรับประทานบอก

แนวทางในการเลือกรับประทานอาหารให้ไดส้ ารอาหารครบถว้ นในสัดสว่ นทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวัย รวมท้งั ความ

ปลอดภัยต่อสุขภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหาร

ครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกบั เพศและวยั รวมทง้ั ความปลอดภัยต่อสุขภาพ สรา้ งแบบจำลองระบบยอ่ ยอาหาร

และบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้งอธิบายการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร

ตระหนักถึงความสำคัญของระบบย่อยอาหาร โดยการบอก แนวทางในการดแู ลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหาร

ให้ทำงานเป็นปกติ อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด

การรินออก การกรอง และการตกตะกอน โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์ รวมทั้งระบุวิธีแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวัน

เกี่ยวกับการแยกสาร อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซึ่งเกิดจากวัตถุท่ีผ่านการขัดถูโดยใช้หลักฐานเชิง

ประจักษ์ ระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ีของแตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจากหลักฐานเชิง

ประจักษ์ เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย ออกแบบการทดลองด้วยวิธที ี่เหมาะสมในการอธิบายวิธีการ

และผลของการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรม ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รมโดย

บอกประโยชน์และการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ีเหมาะสมในการ

อธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อไฟฟ้าแบบ

อนุกรม แบบขนาน อธิบายการเกิดเงามืดเงามัวจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการ

เกิดเงามืดเงามัว สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายการเกิดและเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและจันทรุปราคา

อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันจากข้อมูลที่รวบรวมได้

เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สร้างแบบจำลองทอี่ ธิบายการเกิดซากดกึ ดำบรรพ์

และคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ การเกิดลมบก ลมทะเล มรสุมรวมทั้งอธิบายผลท่ีมีต่อ

สิง่ มีชีวิตและสงิ่ แวดลอ้ มจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสมุ ต่อการเกิดฤดขู องประเทศไทย จากขอ้ มลู ทร่ี วบรวม

บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกดั เซาะชายฝ่ังดินถล่ม แผ่นดนิ ไหว ตระหนกั ถึงผลกระทบของ

ภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ

และธรณีพิบัติภัย ท่ีอาจเกิดในท้องถ่ิน อธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของปรากฏการณ์เรือน

กระจกต่อสิ่งมชี ีวิต ตระหนักถึงผลกระทบองปรากฏการณ์เรือนกระจกโดยนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนเพอ่ื ลด

กจิ กรรมท่กี อ่ ให้เกิดแก็สเรือนกระจก

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั

ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ , ว ๒.๑ ป.๖/๑ , ว ๒.๒ ป.๖/๑

ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘

ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒

ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวม ๗ มาตรฐาน ๓๐ ตัวช้ีวดั

หลักสูตรสถานศึกษา (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หน้า ๔๓

คำอธบิ ายรายวชิ า
กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา

ศาสนาและวฒั นธรรม

หลกั สตู รสถานศกึ ษา (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓) โรงเรียนวนาสงเคราะห์ หนา้ ๔๔

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาฯ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาฯ

ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง

............................................................................................................................. ............................................

คำอธิบายรายวิชา

สงั เกต ศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูล อภิปราย ความหมาย ความสำคัญ องค์ประกอบเบื้องต้นของศาสนา

ประโยชน์ ประวตั ิ ศาสดาของศาสนา สรุปใจความสำคัญของคมั ภรี ์ ความคิดหลักของศาสนา สรปุ หลักจริยธรรม

การบำเพ็ญประโยชน์ วิธีปฏิบัติ การใช้ภาษาเกี่ยวกับศาสนพิธี พิธีกรรมในวันสำคัญ ฝึกปฏิบัติการบริหาร

จติ การเจรญิ ปัญญาเบื้องตน้ เปรยี บเทียบ การทำความดี ปฏิบตั ิตนตามคำแนะนำ รวบรวมข้ันตอน ของศาสนพธิ ี

คุณลักษณะของการเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยมีความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ

ความเสียสละ การเคารพสิทธิและหน้าท่ี วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ การแก้ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว

กฎ กติกา ความหมาย ความสำคัญของรัฐธรรมนูญ ประโยชน์ของรายรับ-รายจ่าย ต้นทุนผลประโยชน์ท่ีได้รับ

ทรัพยากรในท้องถ่ิน ระบบเศรษฐกิจพอเพียง อาชีพของครอบครัวและชุมชน การซ้ือขายแลกเปลี่ยนสินค้าและ

บริการ ในชีวิตประจำวัน ลักษณะทางกายภาพของบ้าน โรงเรียน และชุมชน องค์ประกอบของ แผนผัง การ

เขียนแผนท่ีเบื้องต้นอย่างง่าย ทรัพยากรธรรมชาติ การพ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและกัน ผลเสียการทำลาย

ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ มทางสงั คม การสร้างสรรค์ ส่ิงแวดล้อม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

และทางสงั คม โดยใช้กระบวนการทางสังคม กระบวนการสืบคน้ กระบวนการกลุ่มและกระบวนการแกป้ ัญหา

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม

มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดำเนินชีวิตอย่างสนั ตสิ ุขในสงั คมไทย และสังคมโลก สามารถนำความรไู้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์

โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้กับชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั
ส ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓

ส ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓

ส ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕

ส ๕.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
รวม ๘ มาตรฐาน ๒๔ ตวั ช้วี ดั

หลักสตู รสถานศึกษา (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓) โรงเรยี นวนาสงเคราะห์ หนา้ ๔๕


Click to View FlipBook Version