ก | ห น ้ า ค ำน ำ เอกสารเล่มนี้จัดท าขึ้นเพื่อใช้ประกอบการน าเสนอผลงานการสร้างและพัฒนาเครือข่ายสถานศึกษา กับสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ระดับเงิน ประเภทสถานศึกษาขนาดเล็ก ปีการศึกษา 2565 ซึ่งโรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้น าเสนอข้อมูล สถานศึกษา ผลการด าเนินงานตามหลักเกณฑ์การประเมินผลการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ตาม ตัวชี้วัดทั้งเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ ประกอบเอกสาร หลักฐาน ที่ใช้อ้างอิง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาของ คณะกรรมการ การน าเสนอได้ครอบคลุมทุกงานที่ปฏิบัติ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ได้แก่ คณะครู บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน ท้องถิ่น หน่วยงานต่างๆ และภาคีเครือข่าย ข้อมูลที่น าเสนอเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานของโรงเรียนวนาสงเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวทางในการด าเนินงาน ป้องกันปัญหายาเสพติด และอบายมุข เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาทักษะชีวิตและสร้างภูมิคุ้มกันปัญหา พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนต่อไป โรงเรียนวนาสงเคราะห์ อ าเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ขอขอบคุณคณะครู บุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร และขอขอบใจนักเรียนโรงเรียน วนาสงเคราะห์ ที่ให้ความร่วมมือในการด าเนินงานและขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด และอบายมุข จนประสบผลส าเร็จตามวัตถุประสงค์เป็นอย่างดี ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย โรงเรียนวนาสงเคราะห์ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สระแก้ว เขต 1
ข | ห น ้ า สำรบัญ เรื่อง หน้ำ ค ำน ำ............................................................................................................................. .....................ก สำรบัญ............................................................................................................................. .................ข ใบสมัคร......................................................................................................... ....................................ค บทที่ 1 บทน ำ ข้อมูลสถำนศึกษำ…………………………………………………………………………………………1 บทที่ 2 สถำนกำรณ์ยำเสพติด……………………………………………………………………………………………...6 บทที่ 3 ผลกำรด ำเนินงำนตำมยุทธศำสตร์ 5 ด้ำน…………………………………………………………………9 มาตรการด้านการป้องกัน………………………………………………………………….…………….…………9 มาตรการด้านการค้นหา……………………………………………………………………………….…….……13 มาตรการด้านการรักษา………………………………………………………………………………….…..……16 มาตรการด้านการเฝ้าระวัง……………………………………………………………………………..…..……18 มาตรการด้านการบริหารจัดการ………………………………………………………………..………...……19 บทที่ 4 กิจกรรมห้องเรียนสีขำว / แผนกวิชำสีขำว……………………………………………………..……..…24 ค าสั่งคณะท างานกิจกรรมห้องเรียนสีขาวของทุกห้องเรียน……………………………………………24 แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว……………………………………………………………………….....…30 ส าเนาสมุดบันทึกการปฏิบัติงานแกนน า ๔ ฝ่าย………………………………………………………..…33 โครงงานห้องเรียนสีขาว…………………………………………………………………………………….…..…85 แบบประเมินผลการด าเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว………………………………………………109 บทที่ 5 ภำพรำงวัล ผลงำนดีเด่น…………………………………………………………………………………….…121
บทที่ ๑ บทน ำ ข้อมูลสถำนศึกษำ ๑.บทน ำ หลักกำรและเหตุผล ยาเสพติดเป็นปัญหาส าคัญระดับชาติที่รัฐบาลถือเป็นนโยบายที่ต้องเร่งด าเนินการแก้ไขอย่าง จริงจัง ทั้งนี้เพราะเพราะปัญหายาเสพติด ที่มีการแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ได้ทวีความ รุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ทางด้านการเมือง และความมั่นคงของประเทศพฤติกรรม ที่ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มเยาวชน ดื่มสุรา สูบ บุหรี่ เที่ยวกลางคืน การพนัน การทะเลาะวิวาท ติดเกม สื่อลามลามกอนาจาร ฟุ่มเฟือย และวัตถุนิยม เกินฐานะ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่สังคมไม่ยอมรับ การ ป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นสิ่งส าคัญประการหนึ่ง ของการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ทางโรงเรียนได้บูรณาการจัดท าแผนปฏิบัติการการร่วมกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดท าโครงการ ห้องเรียนสีขาว/แผนกสีขาว ในสถานศึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ครูอาจารย์ที่ปรึกษา และนักเรียน ที่ เป็นแกนน าเป็นผู้ให้ความรู้ ความเข้าใจในการให้ค าปรึกษา ตักเตือนเพื่อน กระตุ้นเพื่อน ปลูกฝังค่านิยม ที่ถูกต้องดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้เยาวชนของประเทศไทยเป็นเยาวชนที่มีความรู้ ควบคู่ด้วย คุณธรรม ไม่ฝักใฝ่อบายมุข และสร้างปัญหาให้กับสังคม สามารถด ารงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เป็นพลเมืองที่มีคุณภาพพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ที่มีปัญหาต้องการความช่วยเหลือได้รับค าปรึกษา ค าแนะน าที่ถูกต้อง เหมาะสมจากผู้ที่เป็นแกนน า และครูอาจารย์ที่ปรึกษา ครูแนะแนว ๒. เพื่อให้มีนักเรียน นักศึกษาแกนน าในห้องเรียนดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตักเตือน แนะน าเพื่อนใน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาอบายมุขและปัญหาอื่น ๆ ที่เป็นสิ่งมัวเมาทั้งหลาย ๓. ผู้บริหารสถานศึกษาส่งเสริมและสนับสนุนให้มีนักเรียน แกนน าประจ าห้อง และครูอาจารย์ที่ปรึกษา ครูแนะแนว และเพื่อนที่ปรึกษาให้ค าปรึกษาแนะน าและให้การช่วยเหลือ การบริหารจัดการการอบรม การสนับสนุนกิจกรรม และติดตามประเมินผลโดยร่วมมือกันทุกฝ่าย ๔. เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวังพฤติกรรมเสี่ยง ด้วยกระบวนการสร้างเครือข่ายนักเรียน นักศึกษาแกนน า เพื่อให้เกิดกระบวนการพัฒนาให้มีความเข้มแข็ง ต่อเนื่องและยั่งยืน เป้ำหมำย ๑ ด้ำนปริมำณ - โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสีขาว/แผนกสีขาว และรับการ ประเมินผลการด าเนินงานประจ าปี เพื่อประกาศให้เป็นห้องเรียนสีขาว - ผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษาแกนน าและ ผู้ปกครองให้การสนับสนุนส่งเสริมการด าเนินโครงการห้องเรียนสีขาว ๒ ด้ำนคุณภำพ - นักเรียน นักศึกษา มีจิตสาธารณะรู้จักเสียสละดูแลช่วยเหลือกัน มีภาวการณ์เป็นผู้น าและผู้ ตามที่ดีมีความรู้คู่คุณธรรม
๒ | ห น ้ า - การมีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือระหว่างบ้านและสถานศึกษา มีผู้ปกครอง ครู อาจารย์ที่ ปรึกษา และครูประจ าชั้นติดตามพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และร่วมกันแก้ไข ผู้รับผิดชอบโครงกำร ๑. ฝ่ายบริหารทั่วไป ๒. ครูที่ปรึกษา ตัวชี้วัดควำมส ำเร็จ - เชิงปริมาณร้อยละ ๘๐ ผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสีขาว/แผนกสีขาวมีความพึงพอใจ - เชิงคุณภาพ ร้อยละ ๘๐ นักเรียน มั่นใจในกระบวนการด าเนินงานโครงการห้องเรียนสีขาว ที่ มีผลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่พึงประสงค์เป็นแบบอย่างที่ดีงามของสังคม กำรประเมินผลโครงกำร ๑. ห้องเรียนประเมินตนเอง และรายงานผลการประเมินให้โรงเรียนทราบของทุกภาคเรียน ๒. สถานศึกษารายงานศูนย์อ านวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงศึกษาธิการ ทุกภาคเรียน ผลที่คำดว่ำจะได้รับ ๑. นักเรียน นักศึกษา มีความรู้คู่คุณธรรม เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ไปข้องเกี่ยวกับยา เสพติดและอบายมุข ๒. ความร่วมมือระหว่างบ้านกับสถานศึกษามีความเข้มแข็งช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาให้มี พฤติกรรมพึงประสงค์ เป็นเยาวชนที่ดีของประเทศไทย ๓. การด าเนินงานโครงการห้องเรียนสีขาว มีคุณภาพน าไปสู่ โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอด ยาเสพติดและอบายมุข ๒.ข้อมูลสถำนศึกษำ ๒.๑. ข้อมูลทั่วไป ชื่อ โรงเรียนวนาสงเคราะห์ที่ตั้งหมู่ที่ 12 บ้านคลองเขาเทียน ต าบลเขาโคกปี่ฆ้อง อ าเภอ เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว สังกัดส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต ๑ โทร 087 904 3855 e-mail [email protected] website https://sites.google.com/ sk1edu.go.th/wanasongkrohschool เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เขต พื้นที่บริการ หมู่ 12 บ้านคลองเขาเทียน หมู่5 บ้านหนองเต่า ประวัติโรงเรียนโดยย่อ โรงเรียนวนาสงเคราะห์ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 12 บ้าน คลองเขาเทียน ต าบลโคกปี่ฆ้อง อ าเภอ เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ได้ท าพิธีเปิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2520 โดยนายอมร อนันตชัย นายอ าเภอเมืองสระแก้ว เป็นประธานในพิธี โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้รับความ ร่วมมือจากนายเวียน มากมี หัวหน้าสวนป่าท่าแยกเป็นคนช่วยเหลือจัดตั้งและนายทองอุ น้ าใจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 พร้อมด้วย ประชาชนในหมู่บ้านคลองเขาเทียน ช่วยเหลือในการก่อสร้างโรงเรียนวนาสงเคราะห์ โรงเรียนนี้แรกเปิดท าการสอนตั้งแต่ ป. 1 – 4 โดยมีนายทวีศักดิ์ ศรีสุขขะ มารักษาการ ต าแหน่ง ครูใหญ่ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2521 โดย นายสมโชค เคลือบคลาย ได้มารับหน้าที่
๓ | ห น ้ า ครูใหญ่แทน เมื่อปีพ.ศ. 2524 นายเวียง ค้ าชู ได้มารับหน้าที่ผู้อ านวย การสถานศึกษาแทน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 นายธรรมนูญ บ ารุงธรรม ได้มารับหน้าที่ผู้อ านวยการ สถานศึกษาแทน และ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 นายล าพอง ภาษาเวส ได้มาด ารงต าแหน่งผู้อ านวยการ สถานศึกษาอยู่ จนถึงปัจจุบัน สภาพชุมชนรอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะเป็น ชุมชนชนบท มีประชากรประมาณ 450 คนบริเวณใกล้ เคียงโดยรอบโรงเรียน ได้แก่ หมู่บ้านหมู่ที่ 12 อาชีพหลัก ของชุมชน คือ เกษตรกรรม เนื่องจากเป็นอาชีพ ที่ได้รับ การถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ และส่วนใหญ่ นับถือ ศาสนาพุทธ ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ จบการศึกษาระดับ ประถมศึกษาอาชีพหลัก คือ เกษตรกรรม ฐานะทาง เศรษฐกิจ/ รายได้ โดยเฉลี่ยต่อครอบครัว ต่อปี 3,000 บาท จ านวนคนเฉลี่ยต่อครอบครัว 4 คน แผนที่โรงเรียน ๒.๒ ข้อมูลผู้บริหำร (ชื่อผู้อ านวยการทุกคนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน) ๑) นายสมโชค เคลือบคลาย ครูใหญ่ พ.ศ.๒๕๒1 – ๒๕๒4 ๒) นายสันธยา ก าปั่นทอง ครูใหญ่ พ.ศ.๒๕๒5 – ๒๕28 ๓) นายสมโชค เคลือบคลาย ครูใหญ่ พ.ศ.๒๕28 – ๒๕๓3 ๔) นายธนูเทพ เจริญวัฒนธรรม ครูใหญ่ พ.ศ.๒๕๓3 - ๒๕๓๖ ๕) นายเวียง ค้ าชู ครูใหญ่ พ.ศ.๒๕๓๖ – ๒๕51 ๖) นายธรรมนูญ บ ารุงธรรม ผู้อ านวยการ พ.ศ.๒๕51 – ๒๕58 ๗) นายล าพอง ภาษาเวส ผู้อ านวยการ พ.ศ.๒๕59 – ปัจจุบัน
๔ | ห น ้ า รายชื่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปีการศึกษา ๒๕๖5) ๑. นางสมจินต์ ปิ่นแก้ว ประธานกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิ) ๒. นายมานพ หินจีน รองประธาน (ผู้แทนองค์กรชุมชน) ๓. นางสาวลภัสรดา มุ่งดี กรรมการ (ผู้แทนครู) ๔. นายประหยัด ศรีวิเศษ กรรมการ (ผู้แทนผู้ปกครอง) ๕. นายวัลลพ หินจีน กรรมการ (ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ๖. นายสมเดช อารักษ์ กรรมการ (ผู้แทนศิษย์เก่า) ๗. พระวิมาล กรรมการ (ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์) ๘. นายทองแดง เจริญพร กรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิ) ๙. นายล าพอง ภาษาเวส กรรมการและเลขานุการ (ผู้อ านวยการโรงเรียน) ข้อมูลผู้บริหำร (ปัจจุบัน) ๑) ผู้อ านวยการโรงเรียน ชื่อ-สกุล นายล าพอง ภาษาเวส โทรศัพท์ 087 904 3855 วุฒิการศึกษาสูงสุด การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา ด ารงต าแหน่งที่โรงเรียนนี้ตั้งแต่ 23 ธันวาคม ๒๕๕๙ จนถึงปัจจุบัน ๒) รองผู้อ านวยการ – คน ๒.๓ ข้อมูลนักเรียน (ณ วันที่ 30 ม.ค ๒๕๖6 ปีการศึกษา ๒๕๖5) ๑) จ านวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการทั้งสิ้น 47 คน ๒) จ านวนนักเรียนในโรงเรียนทั้งสิ้น 47 คน จ าแนกตามระดับชั้นที่เปิดสอน ระดับชั้นเรียน จ ำนวนห้อง เพศ รวม เฉลี่ย ชำย หญิง ต่อห้อง อนุบาล 2 ๑ 2 0 2 2 อนุบาล 3 ๑ 3 0 3 3 รวม อนุบำล 2 5 0 5 3 ป.1 1 3 1 4 4 ป.2 1 3 5 8 8 ป.3 1 1 5 6 6 ป.4 1 5 6 11 11 ป.5 1 2 1 3 3 ป.6 1 9 1 10 10 รวม ม.ปลำย 6 ๒3 19 42 7 รวมทั้งหมด 8 28 19 57 6
๕ | ห น ้ า ๒.๔ ข้อมูลอำคำรสถำนที่ อาคารเรียนจ านวน ๒ หลัง ส้วม 1 หลัง สนามเด็กเล่น 1 สนาม สนามฟุตบอล ๑ สนาม ส่วนที่ ๒ ข้อมูลด้ำนกำรปฏิบัติงำน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งด้านการสื่อสารเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่ง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้คนในเชิงบวก ในเชิงลบก็มีปรากฏการณ์เช่นกัน เป็นต้นว่า ปัญหาทาง เศรษฐกิจ ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด ปัญหาการแข่งขันในรูปแบบต่างๆ ปัญหาครอบครัวที่ เกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล ความเครียด มีการปรับตัวที่ไม่เหมาะสม หรืออื่นๆ ภาพความส าเร็จที่ เกิดขึ้นจากการพัฒนานักเรียน นักศึกษา ให้เป็นไปตามความมุ่งหวังนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่ เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกคน โดยเฉพาะบุคลากรทางการศึกษาทุกคนในสถานศึกษา ซึ่งมีครู อาจารย์เป็น หลักส าคัญในการด าเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน ให้เติบโตงดงามและเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ของสังคม การพัฒนานักเรียน นักศึกษา ให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มี ความรู้ความสามารถและมีคุณธรรมจริยธรรม ด าเนินวิถีชีวิตที่เป็นสุขตามที่สังคมมุ่งหวัง โดยผ่าน กระบวนการทางการศึกษาที่สถานศึกษาทุกแห่งต้องด าเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของ กระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้เป็นคนเก่ง คนดีมีความสุข นอกจากด าเนินการส่งเสริมและสนับสนุน ให้นักเรียน นักศึกษา ได้รับกระบวนการเรียนรู้แล้ว การป้องกันและการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆที่ เกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงรอบสถานศึกษาที่มีพฤติกรรมไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ร้านเกมส์ การพนัน หนี เรียน ทะเลาะวิวาท ก่ออาชญากรรม เป็นปัญหาสังคมที่ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ต้องเข้าไปช่วยเหลือและ แก้ไขไม่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยง การด าเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข ได้ด าเนินการ เป็นปีการศึกษาแรก 2565 โดยสถานศึกษาได้ก าหนดให้มีมาตรการป้องกันและการป้องปรามติดตามผู้ จ าหน่ายและผู้เสพและมาตรการความปลอดภัย การเพิ่มความมั่นใจให้กับคณะกรรมการสถานศึกษาสี ขาวในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดและแหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษา ดังนั้นเพื่อให้สถานศึกษามีระบบ การป้องกันที่เข้มแข็งและยั่งยืนจึงให้มีการด าเนินงาน ๕ มาตรการ ได้แก่ มาตรการป้องกัน มาตรการค้นหา มาตรการรักษา มาตรการเฝ้าระวัง มาตรการบริหารจัดการ และกลยุทธ์ ๔ ต้อง ๒ ไม่ คือ ต้องมี ยุทธศาสตร์ ต้องมีแผนงาน ต้องมีระบบข้อมูล ต้องมีเครือข่าย และ ๒ ไม่ คือ ไม่ปกปิดข้อมูล ไม่ไล่ออก เป็นแนวทางการด าเนินงาน การบริหารข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาส่งเสริมและสนับสนุน การด าเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว / แผนกสีขาวโดยเฉพาะแกนน า 4 ฝ่ายได้แก่ มาตรฐานด้านฝ่าย การเรียน มาตรฐานด้านฝ่ายการงาน มาตรฐานด้านฝ่ายสารวัตรนักเรียน และมาตรฐานด้านฝ่าย กิจกรรมนักเรียน ผู้บริหารสถานศึกษาจัดท ามาตรการเสริมแรงให้แก่ผู้ที่รับผิดชอบด้วยการยกย่อง ชมเชย มอบเกียรติบัตร ก ากับ ติดตามและแต่งตั้งคณะกรรมการนิเทศประเมินผล และสรุปรายงาน ประเมินตนเอง เพื่อรายงานต้นสังกัดต่อไป
๖ | ห น ้ า บทที่ ๒ สถานการณ์ยาเสพติด ยาเสพติดในสังคมไทยมีมาช้านาน ซึ่งปัจจุบันก าลังแพร่ระบาดและขยายไปทั่วประเทศมากขึ้น และ ก่อให้เกิดปัญหาสังคมขึ้นมามากมาย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกายและ สุขภาพจิตส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ บั่นทอนความเจริญของประเทศชาติ โดยมากผู้ติดยามักเริ่มจากด้วยความอยากรู้ ความอยากลอง และความคึกคะนองเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้ง สภาพแวดล้อม สังคม และค่านิยมในกลุ่มเป็นแรงผลักดันอีกชั้นหนึ่ง ประกอบกับการหาซื้อได้ง่ายท าให้ จ านวนผู้ติดยาเพิ่มมากขึ้นถึงแม้จะถูกบรรจุลงในวาระแห่งชาติก็ตามแต่ก็ยังมีข่าวออกมาให้เห็นกันอยู่ตลอด ซึ่งล้วนก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล้นชิงหรืออาชญากรรม ล้วนน ามาซึ่งความ สูญเสีย กลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ ยาเสพติดก าลังแพร่ ระบาดสู่เด็กนักเรียน ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะเกิดจากถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุส าคัญอีกประการหนึ่งคือการขาดความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ ปัญหาพ่อแม่หย่า ร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยหันไปหายา เสพติดหรือเป็นเป้าล่อให้กับผู้ไม่ปรารถนาดี โรงเรียนวนาสงเคราะห์ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 บ้านคลองเขาเทียน ต าบลโคกปี่ฆ้อง อ าเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว เป็นหมู่บ้านที่มีประชาชนกระจายตัวอยู่เป็นกลุ่ม ๆ ตามแนวถนนจนกลายเป็นหมู่บ้าน ประชาชนในหมู่บ้านไม่ใช่คนในพื้นที่ทั้งหมด บางกลุ่มอพยพมาอาศัยอยู่มาจับจองเป็นที่ท ากิน ในสมัยก่อน ประชาชนประกอบอาชีพท านาเป็นหลักและมีอาชีพท าไร่มันส าประหลังบ้างประปราย และเมื่อบุตรหลานโตก็ จะสืบทอดอาชีพดังกล่าวกับพ่อ แม่ และเมื่อเขามีลูกลูกก็จะสืบทอดอาชีพท านา ท าไร่ หมุนเวียนเป็นวัฏจักร ของการด ารงชีพด้วยความสุจริตบนที่ดินของตนเอง ซึ่งแตกต่างไปจากปัจจุบันที่ที่ดินส่วนใหญ่เปลี่ยนมือ เจ้าของเป็นนายทุนของคนต่างจังหวัดและข้าราชการในพื้นที่ ความส าคัญของการเข้ารับการศึกษาและเรียนให้ จบการศึกษาภาคบังคับจึงเป็นเรื่องใหญ่ในบางครอบครัว แต่คนชุมชนส่วนใหญ่ก็สามารถหารายได้จุนเจือ ครอบครัวได้ ประกอบกับความเป็นพี่เป็นน้องช่วยเหลือแบ่งปันของคนชุมชนจึงอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อีก ทั้งคนในสมัยก่อนให้ความส าคัญกับสถาบันทางศาสนา เช่นวัด กิจกรรมวันส าคัญทางศาสนา เป็นต้น โดยใช้วัด เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจช่วยกันท านุบ ารุงศาสนาและน าค าสั่งสอนของพระพุทธศาสนามาใช้ท าให้เกิดความเกรง กลัวต่อบาป และการประพฤติผิดศีลต่าง ๆ จึงยากที่จะมียาเสพติดและอบายมุขจะเข้าถึง
๗ | ห น ้ า แต่ปัจจุบันความเป็นชุมชนค่อย ๆ จางลงเป็นการด ารงชีพแบบตัวใครตัวมัน เนื่องจากบริบททางสังคม และการประกอบอาชีพที่เปลี่ยนจากเจ้าของที่ดินมาเป็นเพียงผู้เช่าทีดินท ากินเป็นรายปีไป หลายครอบครัวพ่อ แม่ หรือแม้แต่เด็กวัยรุ่นที่จบการศึกษาภาคบังคับต้องเข้าไปท างานในกรุงเทพมหานคร ท าให้แต่ละครอบครัว ขาดความอบอุ่น พ่อแม่หาเช้ากินค่ าไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนให้การดูแลและเอาใจใส่สภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ของลูก ซึ่งก็คือนักเรียนโรงเรียนบ้านวนาสงเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ที่ก าลังประสบปัญหานี้ โดยเด็กส่วนใหญ่จะ อยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นผู้เลี้ยงดูท าให้สถาบันครอบครัวเปราะบาง มีความเสี่ยงสูงที่จะเสพยา เสพติดและอบายมุขหากเด็กคนนั้นไร้ภูมิคุ้มกันตัวเองเนื่องจากไม่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด จึงเกิดค่านิยมใหม่ที่ มองว่าอาชีพสุจริตเป็นอาชีพที่ล าบาก รายได้น้อยไม่เพียงพอต่อการด ารงชีพ บางคนจึงหันไปท าอาชีพที่ผิด กฎหมาย เช่นค้ายาเสพติด เล่นการพนัน ขายหวยใต้ดินซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่ล าบาก เหนื่อยน้อยและได้เงินไวใช้ จ่ายอย่างสบาย อาชีพนี้ยังมีอยู่ในชุมชน จะสังเกตเห็นคนที่เสพยา ค้ายา เล่นการพนันอบายมุข ตลอดจนขาย หวยใต้ดินและอื่น ๆ ไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองเมื่อจับได้ก็เข้าคุก เข้าตาราง หรือประกันตัว ออกมา เมื่อพ้นโทษออกมาหรือได้เป็นอิสรภาพก็กลับมาท าอีกเหมือนเดิม ซึ่งหากคนเป็นพ่อ แม่ ญาติพี่น้องคน บางส่วนในชุมชนเป็นเช่นนี้ เด็กนักเรียนที่เป็นลูก เป็นญาติพี่น้องก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะท าอาชีพนี้ จึงเป็นการ อยากมากที่เด็กเหล่านี้จะโตขึ้นไปแล้วประกอบอาชีพที่สุจริต จากสภาพสังคมสังคมที่เปลี่ยนไปดังที่กล่าวมาข้างต้นที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้นอีกส่วน หนึ่งมาจากการสื่อสารและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและง่ายต่อการเข้าถึง ส่งผลกระทบต่อประชาชนคนในชุมชน รวมถึงนักเรียนในด้านเชิงบวกและลบซึ่งปรากฏให้เห็นมากมายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดและอบายมุขเข้ามาสู่สถานศึกษา อันน ามาซึ่งปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัว ปัญหาตนเองที่เกิดความทุกข์ ความวิตกกังวล ความเครียด ความรุนแรง การล่วงละเมิดทาง เพศ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว และพฤติกรรมเชิงลบต่าง ๆ เหล่านี้จะเข้าไปครอบง าชีวิตและความเป็นอยู่ของ นักเรียนในโอกาสที่เขาจะต้องเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติ เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะ ได้ประกาศสงครามกับยาเสพติดแล้วก็ตามก็ยังแพร่ระบาดลงไปถึงระดับหมู่บ้าน ชุมชน โดยผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว นั้นส่วนใหญ่เป็นเยาวชนมีทั้งที่ก าลังเรียนอยู่และไม่เรียน ส่วนในกลุ่มโรงเรียนวนาสงเคราะห์ที่ผ่านมา มีนักเรียนบางคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการเสพยาเสพติดและอบายมุข คือบุหรี่และเล่นการพนันคนเหล่านี้ ดูดบุหรี่เนื่องจากอยากทดลองเห็นคนอื่นดูดบุหรี่คิดว่าเท่ หล่อ ดูดีมีเสน่ห์ มากกว่าสาเหตุอื่น ซึ่งเป็นลักษณะ ทั่วไปที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่อยากรู้อยากทดลอง รองลงมาก็คือถูกเพื่อนชักชวนให้ดูดบุหรี่ โดยเฉพาะใน กลุ่มเด็กที่อยู่กับ ปู่ ย่า ตา ยาย ขาดภูมิคุ้มกันจากพ่อ แม่จึงท าให้เด็กกลุ่มนี้ชักจูงได้ง่าย นอกจากนี้มีสาเหตุมา
๘ | ห น ้ า จากด้านอื่น ๆ เช่นมีเรื่องไม่สบายใจมาจากครอบครัว ปัญหาทางด้านการเรียน ปัญหาการเข้าสังคมหรือปัญหา เข้ากับเพื่อนไม่ได้ เป็นต้น จากการที่น าเสนอภาพรวมของสังคม ชุมชน สถานศึกษาที่กล่าวมาข้างต้นทางโรงเรียนให้ความส าคัญ กับนักเรียนและเยาวชนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ มีคุณธรรมและ จริยธรรมในการด ารงชีวิตจึงเกิดขึ้นภายใต้นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มอบหมายนโยบายโครงการ สถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข และกิจกรรมห้องเรียนสีขาว / แผนกสีขาวให้ทุกโรงเรียนต้อง ด าเนินการ ลดพฤติกรรมเสี่ยงและพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงใน ชุมชนรอบ ๆ สถานศึกษา ตลอดจนการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดซ้ าอีกในระยะยาว โดยความส าเร็จ ที่จะเกิดขึ้นนี้ เป็นความส าเร็จในการพัฒนานักเรียนที่จะเป็นก าลังส าคัญของประเทศในอนาคตจึงจ าเป็นอย่าง ยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน ผู้น าชุมชน ตลอดจนคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานต้องเป็น หลักส าคัญในการด าเนินการที่จะพัฒนานักเรียน ให้เป็นคนที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญามี ความสุข
บทที่ 3 ผลการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้ด าเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข โดย ด าเนินงานตามยุทธศาสตร์โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข 5 มาตรการ 16 ตัวบ่งชี้ ประกอบด้วย 1. มาตรการด้านการป้องกัน ( 3 ตัวบ่งชี้ ) 2. มาตรการด้านค้นหา ( 4 ตัวบ่งชี้ ) 3. มาตรการด้านรักษา ( 2 ตัวบ่งชี้ ) 4. มาตรการด้านเฝ้าระวัง ( 2 ตัวบ่งชี้ ) 5. มาตรฐานด้านการบริหารจัดการ ( 5 ตัวบ่งชี้ ) ผลการด าเนินงานตามยุทธศาสตร์โครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุข 5 มาตรการ 16 ตัวบ่งชี้ มีรายละเอียดดังนี้ ๑. มาตรการด้านการป้องกัน โรงเรียนวนาสงเคราะห์เห็นถึงความส าคัญด้านการป้องกันความเสียงจากอบายมุขโดยได้ด าเนินการจัด กิจกรรมต่างๆ ดังนี้ 1.1 สถานศึกษาด าเนินการกิจกรรมห้องเรียนสีขาว โรงเรียนโดยด าเนินการตามโครงการสถานศึกษาสีขาว กิจกรรมห้องเรียนสีขาว มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้โรงเรียนปลอดยาเสพติดทุกชนิด คณะกรรมการด าเนินงานแต่ละห้องจะแบงออกเป็นฝ่ายต่างๆ 4 ฝ่าย งาน ดังนี้ 1) ฝ่ายการเรียน มีหน้าที่ช่วยเหลือในด้านวิชาการเกี่ยวกับการเรียน การบ้าน โครงงาน หรือ ปัญหาการเรียนในห้องเรียน ต้องรับผิดชอบแก้ไขช่วยเหลือ และให้ค าแนะน า ค าอธิบาย ชี้แนะ แหล่งเรียนรู้ และ น าเสนอครูที่ปรึกษา 2) ฝ่ายการงาน มีหน้าที่ดูแลความสะอาดเรียบร้อยในห้องเรียน รักษาของมีค่าและทรัพย์ สมบัติของห้องเรียน วัสดุอุปกรณ์ที่ช ารุด ป้องกันอุบัติเหตุภายในห้องเรียน จัดสภาพสิ่งแวดล้อมในห้องเรียนให้ น่าเรียน และป้องกันไม่ให้มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในห้องเรียน 3) ฝ่ายกิจกรรม มีหน้าที่จัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ทั้งในห้องเรียน และกิจกรรมในทุก ระดับชั้น เช่น การเล่นดนตรี กีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม และจัดกิจกรรมในกลุ่มสนใจของเพื่อน ๆเพื่อใช้เวลาว่างให้ เป็น ประโยชน์ ไม่ไปมั่วสุมหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม 4) ฝ่ายสารวัตรนักเรียน สอดส่องดูแลความเรียบร้อยทั้งในห้องเรียนและมุมอับ เช่น ห้องน้ า หรือที่บริเวณอาคาร แหล่งที่ไปมั่วสุมสูบบุหรี่ ดูแลเพื่อน หากมีพฤติกรรมที่ไปเกี ่ยวข้องกับยาเสพติด หรือ พฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งปัญหาส่วนตัวในด้านต่าง ๆ ให้คณะกรรมการห้องเรียนแก้ไข แต่หากไม่สามารถ แก้ไขได้ ให้นักเรียน บอกครูที่ปรึกษาเพื่อแก้ไขต่อไป
๑๐ | ห น ้ า ภาพกิจกรรมห้องเรียนสีขาว ภาพกิจกรรมห้องเรียนสีขาว 1.2 สถานศึกษาจัดประกาศผลงานห้องเรียนสีขาวดีเด่นทุกภาคเรียนและมอบรางวัลหรือเกียรติบัตร กระทรวงศึกษาธิการหน้าเสาธง โรงเรียนมีการประเมินผลการด าเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาวทุกห้อง ภาคเรียนละ 1 ครั้ง และมีการประกาศผลงานห้องเรียนสีขาวดีเด่นทุกภาคเรียนและมีการมอบรางวัลแก่ห้องเรียนสีขาวดีเด่น
๑๑ | ห น ้ า 1.3 สถานศึกษามีการด าเนินงานโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ โรงเรียนมีการด าเนินโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ โดยด าเนินงานภายใต้7 มาตรการ เพื่อ โรงเรียนปลอดบุหรี่ดังนี้ มาตรการที่ 1 นโยบาย “โรงเรียนปลอดบุหรี่”ของโรงเรียน มาตรการที่ 2 การบริหารจัดการในโรงเรียน มาตรการที่ 3 การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อ “โรงเรียนปลอดบุหรี่” มาตรการที่ 4 การสอดแทรกในการเรียนการสอนและกิจกรรมนอกหลักสูตร มาตรการที่ 5 การมีส่วนร่วมของนักเรียน มาตรการที่ 6 การดูแลช่วยเหลือนักเรียนไม่ให้สูบบุหรี่ มาตรการที่ 7 กิจกรรมร่วมระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ๑.๔ สถานศึกษาจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อป้องกันยาเสพติด โรงเรียนด าเนินการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อป้องกันยาเสพติด โดยการส่งเสริมด้าน คุณธรรมจริยธรรม เห็นโทษของยาเสพติด และใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ โดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ 1) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารีจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกสัปดาห์และมีการบูรณาการ เรื่อง โทษและพิษภัยจากยาเสพติด และให้แสดงละครเรื่องโทษของยาเสพติด 2) มีการบูรณาการการเรียนการสอนเรื่องยาเสพติดทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้โรงเรียนได้จัดท า แผนการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการ เรื่องยาเสพติดในทุกกลุ่ม สาระวิชา เช่น การจัดป้ายนิเทศ การเขียน เรียงความ วาดภาพระบายสีการเขียนค าขวัญ 3) โรงเรียนได้ด าเนินกิจกรรมต่อต้านยาเสพติด โดยผ่านกิจกรรมสภานักเรียนให้ คณะกรรมการสภานักเรียนด าเนินกิจกรรมตามโครงการที่สภานักเรียน ได้แก่ การจัดป้ายนิเทศวันงดสูบบุหรี่ โลก การเดินรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด การแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด ภาพเข้าค่ายปฏิบัติธรรมสู่เยาวชนต้านยาเสพติ ภาพการอบรมครู D.A.R.E. ภาพกิจกรรมโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่
๑๒ | ห น ้ า 4) โรงเรียนได้ด าเนินการเสริมสร้างทักษะชีวิตสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน กิจกรรมวันส าคัญ เช่น วันส าคัญทางพระพุทธศาสนา วันไหว้ครูวันพ่อ แห่งชาติวันแม่แห่งชาติวันภาษาไทยและวันสุนทรภู่ โครงการค่ายคุณธรรม กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมสภา นักเรียน กิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 5) กิจกรรมเยียมบ้านนักเรียน ด าเนินการออกการเยี่ยมบ้านนักเรียนทุกคน ภาคเรียนละ 1 ครั้ง 6) กิจกรรมสอนซ่อมเสริม กิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมแนะแนว 7) กิจกรรมด้านศิลปะ ได้จัดกิจกรรม การแข่งขันวาดภาพระบายสีวันต่อต้านยาเสพติด วันงด สูบบุหรี่โลก 8) กิจกรรมด้านดนตรีกีฬา เพื่อให้นักเรียนเกิดความสามัคคีพัฒนาร่างกายและจิตใจ และใช้ เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 9) กิจกรรมค่ายคุณธรรม โรงเรียนได้ด าเนินการจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนทุก เพื่อให้นักเรียน ได้รับความรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด โรคเอดส์ การป้องกันอุบัติภัยต่างๆ และพระคุณของพ่อแม่ 10) กิจกรรมจิตอาสา การท าความสะอาดวัด โรงเรียน หมู่บ้าน ปลูกต้นไม้ในชุมชน ช่วยงาน ในชุมชน เช่น งานศพ งานบวช งานบุญประเพณีในท้องถิ่น 11) จัดกิจกรรม แห่เทียนพรรษา เวียนเทียน วันวิสาขบูชา 12) จัดกิจกรรมบันทึกความดีลงในสมุดทุกคน เช่น การเก็บของได้คืนเจ้าของ การช่วยเหลือ เพื่อน พี่ช่วยน้อง การช่วยเหลืองานบ้าน – งานครูการช่วยเหลืองานบุญประเพณีในชุมชน การดูแลผู้สูงอายุ 13) จัดแหล่งเรียนรู้การค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด และ บริเวณรอบ ๆ ภาพการจัดกฐินเข้าพรรษา ภาพการท ากิจกรรมส่งเสริมอาชีพ เพาะปลูกบอนสี ภาพกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อป้องกันยาเสพติด
๑๓ | ห น ้ า 2. มาตรการด้านการค้นหา โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้ด าเนินการตามมาตรการด้านการค้นหาเพื่อท าการคัดกรองนักเรียน เป็น รายบุคคล ตามระบบการด าเนินงานดูแลช่วยเหลือ เพื่อคัดกรองนักเรียน และแยกกลุ่มนักเรียนเพื่อให้สะดวก ในการดูแล ป้องกัน ช่วยเหลือ แก้ไข เข้าถึงนักเรียนทุกคนและด าเนินการผ่านโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน 2.1สถานศึกษามีการด าเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน งานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนวนาสงเคราะห์ ได้มีการจัดระบบการบริหารงานให้ สอดคล้องและสนองตอบต่อ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553 (มาตรา 6) ก าหนดให้การจัด การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ทั้งทาง ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และ คุณธรรมมีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการด ารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับ ภาพการส่งเสริมการปลูกต้นไม้ทดแทน ภาพ การอบรมครู D.A.R.E. ภาพกิจกรรมวันส าคัญ วันไหว้ครู ภาพ การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาในการ จัดท ากิจกรรมของโรงเรียน
๑๔ | ห น ้ า ผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และจัดการ ศึกษาที่ให้ความส าคัญแก่ผู้เรียนทุกคนโดยยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ตาม ธรรมชาติและเต็มศักยภาพ (มาตรา 22) ทั้งนี้การจัดกระบวนการเรียนการ สอน ยังค านึงถึงความแตกต่าง ระหว่างบุคคล มีการบูรณาการในด้านความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ ให้ผู้เรียนรู้จักการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ 1) ในการบริหารงานโรงเรียนได้ก าหนดบุคลากรและบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน เพื่อ การท างานที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้ 1. คณะกรรมการอ านวยการ (ทีมน า) ประกอบด้วยผู้อ านวยการ และหัวหน้าบริหารงาน ทั้ง 4 ฝ่ายซึ่งจะ ให้ค าปรึกษา และสนับสนุนด้านงบประมาณที่ใช้ในการด าเนินงาน นิเทศติดตามผลงานหรือร่วม กิจกรรมตาม ความเหมาะสมอย่างสม่ าเสมอ 2. คณะกรรมการประสานงาน (ทีมประสาน) ประกอบด้วย หัวหน้างานระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียน หัวหน้างานแนะแนว และหัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ช่วยประสานงานให้ค าแนะน า ชี้แนะแนวทาง การปฏิบัติงานและ ช่วยเหลือแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับครูที่ปรึกษาทุกท่าน 3. คณะกรรมการปฏิบัติงาน (ทีมท า) ซึ่งถือได้ว่ามีความส าคัญมากที่สุดเพราะผลงานจะดีได้ต้อง อาศัย ความร่วมมือร่วมใจของคณะครูที่ปรึกษาทุกท่านที่ทุ่มเท ก าลังกาย ก าลังใจด้วยความรักและเมตตา นักเรียนซึ่ง ครูที่ปรึกษาจะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสร้างศรัทธาเพื่อให้เกิดความไว้วางใจพร้อมที่จะดูแล ช่วยเหลือ และให้ค าปรึกษากับนักเรียนทุกคน จะเห็นได้จากขั้นตอนการท างาน คือ 3.1 การรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลซึ่งในการท างานครู 1 คนจะมีนักเรียนที่อยู่ในความดูแล ประมาณ 4 – 11 คน ท าให้มีการดูแลได้อย่างทั่วถึงโดยที่ครูที่ปรึกษาจะรู้จักนักเรียนจากการสัมภาษณ์ในคาบ กิจกรรม โฮมรูมหรือเวลาพักตามความเหมาะสม 3.2 การคัดกรองนักเรียนจะได้ข้อมูลจากการประเมินตนเอง (SDQ) ของนักเรียนหากครูที่ ปรึกษามีข้อ สงสัยจากการประเมินตนเองของนักเรียน ครูที่ปรึกษาก็จะท าแบบประเมินร่วมด้วยหรือให้ ผู้ปกครอง ท าแบบประเมินนักเรียนในสมุดระเบียนสะสม บางครั้งอาจจะใช้วิธีการสังเกต การสัมภาษณ์ นักเรียน การสอบถามเพื่อนในกลุ่มด้วยก็ได้ 3.3 การจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ความสามารถและทักษะด้านต่าง ๆหลังจากการคัดกรอง นักเรียน แล้วงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้ร่วมกับหัวหน้างานแนะแนว หัวหน้างานกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน สร้างกิจกรรมที่หลากหลายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับนักเรียนทั้งหมดตาม ความสามารถ เช่น กิจกรรมวิชาการของทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้านดนตรีด้านกีฬา กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย กิจกรรมค่ายคุณธรรม-จริยธรรม 3.4 การจัดกิจกรรมจิตอาสา ทางโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย และเปิด โอกาสให้นักเรียนสามารถจัดกลุ่มกิจกรรมที่นักเรียนสนใจ เช่น เพื่อนช่วยเพื่อน การท าเวรสถานที่ กิจกรรมการอ่านเสริม การเล่นเกมกระดาน เพื่อลดปัญหาการมั่วสุมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะมีครู ที่ ปรึกษากิจกรรมและครูแนะแนวคอยดูแลให้ค าแนะน าในการท ากิจกรรมต่าง ๆ 3.5 การส่งต่อ จากผลการด าเนินงานการจัดกิจกรรมค่ายคุณธรรม-จริยธรรม การจัดกิจกรรม เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาสารเสพติดมีการอบรมกลุ่มแกนน า การแสดงดนตรีต้านยาเสพติด กิจกรรมกีฬา กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยและ สร้างภาวะผู้น า ฯลฯ เหล่านี้ช่วยให้นักเรียนทุกคน สามารถปรับตัวและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ดังนั้น ส่วนใหญ่การส่งต่อจึงเป็นการส่งต่อภายใน เนื่องจาก ไม่มีกรณีร้ายแรงโดยจะมีครูที่ปรึกษา และหัวหน้าระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนร่วมกับหัวหน้างานแนะแนว ตลอดจนคณะกรรมการฝ่ายบริหาร ของโรงเรียนร่วมกันแก้ปัญหาตามความเหมาะสม
๑๕ | ห น ้ า 2) การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน งาน ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้มีการจัดประชุมผู้ปกครองเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ครูกับ ผู้ปกครอง ผู้ปกครองกับผู้ปกครอง และมีการจัดตั้งคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองระดับโรงเรียน เพื่อช่วย ประสานงานดูแลนักเรียนและส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนที่จัดให้กับนักเรียน การประสานความ ร่วมมือในการดูแลนักเรียนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลต าบลโคกปี่ฆ้อง อ าเภอเมืองสระแก้ว สถานี ต ารวจภูธรปางสีดา และหน่วยงานเอกชนในท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือดูแลนักเรียนในด้านต่าง ๆ ทั้งทุนการศึกษา การอบรมให้ความรู้ด้านต่างๆ การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ด้านการศึกษา 2.2สถานศึกษามีการสุ่มตรวจหาอุปกรณ์การใช้ยาเสพติด โรงเรียนวนาสงเคราะห์มีการสุ่มตรวจอุปกรณ์การใช้ยาเสพติด ภาคเรียนละ 1 ครั้ง อย่างสม่ าเสมอ โดยการสุ่มตรวจค้นกระเป๋านักเรียน ชั้น ป.1 – 6 ทุกคน ซึ่งจากผลการตรวจพบว่า ยังไม่มีนักเรียนที่มีความ เสี่ยง และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2.3สถานศึกษามีการคัดกรองส ารวจสภาพการใช้ยาเสพติด จ าแนกกลุ่มปลอด/กลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเสพ/ กลุ่มติด/กลุ่มค้า โรงเรียนวนาสงเคราะห์มีการจัดระบบงาน และกิจกรรมที่ส่งเสริมความประพฤติให้เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยให้กับนักเรียน น าระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมาพัฒนา คุณภาพชีวิตของนักเรียน โดยการน ากระบวนการของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน ได้แก่ การรู้จัก นักเรียนเป็นรายบุคคล การคัดกรองนักเรียน การส่งเสริมนักเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหา และการส่งต่อ เพื่อน าไปใช้ในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสมและนักเรียนได้รับการคุ้มครองและดูแล โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษาเป็นแบบอย่างที่ดีในการด าเนินชีวิต 2.4สถานศึกษามีระบบการค้นหาโดยให้นักเรียน ด าเนินการส ารวจนักเรียน เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดในตัวนักเรียน โดยนักเรียนชั้น ป.1 – 6 ทุกคน ท าให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันตลอดเวลา โดยด าเนินการคัดกรองส ารวจสภาพการใช้ยาเสพติด CATAS ภาคเรียนละ 1 ครั้ง ภาคเรียนที่1 ภายในวันที่ 30 มิถุนายน ภาคเรียนที่ 2 ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนของปีการศึกษา เมื่อพบสภาพร่างกายหรือพฤติกรรมีที่ส่อไปในทางเสี่ยงต่อยาเสพติด ให้มีการ รายงานต่อผู้บริหารทันทีสถานศึกษาได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ สาธารณสุขของโรงพยาบาลคลองน้ าใส ในการตรวจสุขภาพของนักเรียนโดยการประสานงานขอความร่วมมือในการตรวจสุขภาพนักเรียนทุกคน เป็น ประจ าทุกภาคเรียน เมื่อพบความผิดปกติของร่างกายที่ส่งผลมาจากยาเสพติด จะแจ้งข้อมูลไปยังโรงเรียนซึ่ง จากการตรวจสุขภาพนักเรียนโดยครูประจ าชั้น และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ยังไม่มีการรายงานข้อมูลนักเรียนที่มี ความเสี่ยง และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
๑๖ | ห น ้ า 3. มาตรการด้านการรักษา โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้ด าเนินงานตามมาตรการด้านการรักษา โดยมีการก าหนดนโยบาย แต่งตั้ง คณะกรรมการด าเนินงาน สร้างเครือข่ายในการบ าบัดและรักษา และจัดตั้งคลินิกเสมารักษ์ ซึ่งทางสถานศึกษา ได้ด าเนินการคัดกรองนักเรียนรายบุคคล พบว่า มีการรายงานข้อมูลนักเรียนที่มีความเสี่ยงและเกี่ยวข้องกับยา เสพติด ร้อยละ 0 ได้เตรียมการรองรับเพื่อให้เกิดความพร้อมในการให้ค าแนะน า และการช่วยเหลือนักเรียน กลุ่มเสี่ยง ซึ่งสถานศึกษาได้มีการวางแผนงานตามมาตรการรักษา เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นใน อนาคต ดังนี้ 3.1 สถานศึกษามีนโยบายในการบ าบัดรักษาและส่งต่อหน่วยงานสังกัดสาธารณสุข หรือ หน่วยงานอื่น สถานศึกษามีการก าหนดนโยบายของสถานศึกษา เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการบ าบัดรักษา ช่วยเหลือเหลือนักเรียน อีกทั้งสถานศึกษาได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินงานบ าบัดรักษา มาช่วยในการ ตรวจสอบ ให้ค าแนะน าเพื่อให้การด าเนินงานบ าบัดรักษาออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้มีการ ก าหนดขั้นตอนการด าเนินงานบ าบัดรักษาอย่างเป็นระบบ สะดวกต่อการปฏิบัติการในการบ าบัด จากนั้น สถานศึกษาจัดให้เกิดการจัดระบบการส่งต่อกลุ่มเสพ กลุ่มติดเพื่อการเข้าสู่การบ าบัดรักษาตามระบบด้วยความ กิจกรรมตามมาตรการค้นหา
๑๗ | ห น ้ า สมัครใจในหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานอื่นๆ โดยจัดท าสารสนเทศหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะส่งต่อนักเรียนไปยังหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น เจ้าหน้าที่ต ารวจ สถานบ าบัดผู้ติดยา เสพติดส าหรับนักเรียนที่ตรวจพบว่าปัสสาวะมีสารเสพติด ถือเป็นกลุ่มเป้าหมาย น าเข้าสู่กระบวนการบ าบัด ฟื้นฟูเพื่อปรับ เปลี่ยนพฤติกรรม และมีการติดตามพฤติกรรมตรวจปัสสาวะอีกเป็นระยะ ๆ ซึ่งทางโรงเรียนได้ ด าเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้ความรู้และแนวทางการด าเนินชีวิตที่ถูกต้อง มีพฤติกรรมที่ไม่ เสียงในเรื่องยาเสพติด ความปลอดภัยในการใช้ถนน ด้านเพศศึกษา ได้แก่ การจัดป้ายนิเทศในชั้นเรียนและป้าย นิเทศนอกห้องเรียน จัดกิจกรรมเสียงตามสาย อบรมนักเรียนหน้าเสาธง บูรณาการทั้งในหลักสูตรและนอก หลักสูตร มีการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดในวันต่อต้านยาเสพติดสากล ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและโทษของยา เสพติดผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Facebook , line , Website ประจ าโรงเรียน ให้ความรู้แก่ผู้ปกครองและ นักเรียนในวันปฐมนิเทศผู้ปกครองนักเรียนก่อนเปิดภาคเรียนอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติดแก่ นักเรียนชั้น ป.1 – ป.6 ทุกคน ตลอดจนด าเนินการตามโครงการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมส าหรับนักเรียน ในกิจกรรมเข้าค่ายคุณธรรม ชมรมดนตรีชมรมศิลปะ ชมรมกีฬา การรวมกลุ่มของนักเรียนในการด าเนินการ ตามกิจกรรมสภานักเรียน เพื่อให้เห็นความส าคัญของวิถีประชาธิปไตย และท าให้นักเรียนมีการใช้เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์อีกทั้งยังเป็นการช่วยสอดส่องดูแลความประพฤติของนักเรียนได้มากยิ่งขึ้น 3.2 สถานศึกษามี “คลินิกเสมารักษ์” (จิตสังคมบ าบัดในสถานศึกษา) โดยสถานศึกษามีขั้นตอน การด าเนินงาน คือ การจัดตั้ง “คลินิกเสมารักษ์” เป็นสถานที่หนึ่งที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาเป็นการย่อขนาด สถานที่ให้ง่าย และสะดวกต่อนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่จะสามารถเข้ามารับการให้ค าปรึกษาอย่างเต็มใจ และเพื่อให้ การประสานงานและการขับเคลื่อนการท างานส่งเสริมความประพฤตินักเรียน มีประสิทธิภาพ และสนอง เจตนารมณ์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.๒๕๔๖ จึงจัดตั้งคลินิกเสมารักษ์ เป็นหน่วยงานภายใน งานอนามัย โรงเรียนและกิจการนักเรียน เพื่อเป็นศูนย์กลางดูแลแก้ไขปัญหาความประพฤตินักเรียนโดยให้มีอ านาจหน้าที่ ดังนี้ เฝ้าระวังสถานการณ์ปัญหาความประพฤตินักเรียน โดยรับแจ้งเหตุและด าเนินการแก้ไข ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานสถานศึกษา ในการป้องกันแก้ไขปัญหาความประพฤติ และคุ้มครองสิทธิของ นักเรียน ร่วมกับองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เครือข่ายองค์กรภาครัฐและเอกชน และหน่วยงานอื่นที่ เกี่ยวข้อง ประสาน ติดตาม จัดท ากรณีศึกษาและบริการให้ค าปรึกษาแก่นักเรียนและนักศึกษา ประสาน ตรวจสอบ ดูแลช่วยเหลือ นักเรียน สถานศึกษา ที่ประสบเหตุภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งก าหนดให้มีศูนย์วิทยุสื่อสารเสมารักษ์ กระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงจัดระบบและบริหารจัดการให้เป็น ศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายการส่งเสริมความประพฤตินักเรียน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยแต่งตั้ง คณะกรรมการด าเนินงาน “คลินิกเสมารักษ์” และก าหนดขั้นตอนการด าเนินงาน “คลินิกเสมารักษ์” เพื่อการ ท างานที่เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนสุดท้ายของการด าเนินงานบ าบัดในสถานศึกษานั้นต้องมีการ รายงานผลการด าเนินงานอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งการด าเนินการด้านจิตสังคมบ าบัดในสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งร่างกาย อารมณ์และสังคมให้แก่ผู้เรียนโดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เป็น การปรับสภาพจิต ไม่ให้มีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดและอบายมุข 3.2.1. ด้านสุขภาพอนามัย โรงเรียนได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัย ได้แก่ จัดให้มีลาน กีฬา ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์โดยการเล่นกีฬา ตรวจสุขภาพนักเรียนโดยคณะกรรมการสภา นักเรียนฝ่ายอนามัย จัดกิจกรรมตามโครงการมาตรฐานต้านสิ่งเสพติด (TRC. VB. Harm Prevention) และครู ร่วมดูแลทุกวันด าเนินการตามโครงการบริการและส่งเสริมสุขภาพนักเรียน โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ คลองน้ าใส
๑๘ | ห น ้ า 3.2.2 ด้านจริยธรรม โรงเรียนได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมส าหรับนักเรียน ได้แก่ กิจกรรมเข้าค่ายคุณธรรม การสวดมนต์ทุกวันศุกร์ กิจกรรมนั่งสมาธิก่อนเข้าเรียน รวมถึงสอดแทรก จริยธรรมในการเรียนทุกกลุ่มสาระวิชา 3.2.3 ด้านสังคม โรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคม ได้แก่กิจกรรมสภา นักเรียน เพื่อให้เห็นความส าคัญของวิถีประชาธิปไตย กิจกรรมผู้ใหญ่บ้านเป็นการฝึกให้นักเรียนรู้จักบทบาท หน้าที่ของตนเองใน การอยู่ร่วมกัน กิจกรรมจิตอาสา เพื่อให้รู้จักการเสียสละและช่วยเหลือสังคม 3.2.4 ฝึกอาชีพ โรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมอาชีพ ได้แก่ การเพาะปลูกบอนสี การท าอาหาร คาว/หวาน เป็นต้น สถานศึกษาได้จัด โครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนเห็นถึงพิษภัยของสาร เสพติด การปฏิบัติตัวไม่ให้เสี่ยงในเรื่องของสารเสพติด ตลอดจนข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด จัดบริการแนะแนว กิจกรรมโฮมรูมกิจกรรม 4. มาตรการด้านการเฝ้าระวัง โรงเรียนวนาสงเคราะห์ด าเนินการตามมาตรการด้านการเฝ้าระวัง โดยมีการรับเรื่องราวร้องทุกข์ เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดและอบายมุข โดยมีตู้เสมารักษ์ แต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินงาน มีเครือข่ายในการเฝ้า ระวังทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอก เพื่อด าเนินการรับเรื่องราวปัญหายาเสพติดและอบายมุข ผ่านตู้ เสมารักษ์ และรับให้ค าปรึกษา ตลอดจนรายงานผลการด าเนินงาน 4.1 สถานศึกษามีตู้แดงเสมารักษ์รับเรื่องปัญหายาเสพติดและอบายมุข อบายมุขนับว่าเป็นปัญหา สังคมอย่างหนึ่งที่กัดกร่อนสังคมไทยมาโดยตลอด และยิ่งถ้าอบายมุขแพร่เข้าไปในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานอบรม บ่มนิสัยอันดีงามแก่เยาวชนด้วยแล้ว นักเรียนซึ่งเป็นก าลังส าคัญระดับมันสมองของชาติในอนาคต ถ้าตกเป็น เหยื่อของอบายมุขก็ไม่อาจเป็นความหวังของชาติในอนาคตได้ ตรงกันข้ามกลับเป็นการเพิ่มภาระให้แก่สังคมอีก ด้วย ดังนั้น โรงเรียนในฐานะที่เป็นสถาบันพัฒนาบุคคลของชาติจึงมีหน้าที่โดยตรงต่อการพิจารณาและสกัดกั้น ปัญหาอบายมุขมิให้เข้ามากล้ ากรายนักเรียนและในสถานศึกษาได้ สถานศึกษาจึงจัดให้มีตู้เสมารักษ์เพื่อรับร้องทุกข์เกี่ยวปัญหาเรื่องยาเสพติดและอบายมุข โดยแต่งตั้ง คณะกรรมการด าเนินงาน มีเครือข่ายในการเฝ้าระวังทั้งจากหน่วยงานภายในและภายนอก เพื่อสร้างเครือข่าย การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดและอบายมุขให้กับนักเรียน จึงด าเนินการรับเรื่องราวปัญหายาเสพติดและ อบายมุข และรับให้ค าปรึกษา ด าเนินการแก้ไข ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงานสถานศึกษา ศึกษา วิเคราะห์ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ตรวจสอบ ให้ความช่วยเหลือ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาความประพฤติ นักเรียน และคุ้มครองสิทธิของนักเรียน ร่วมกับองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ เครือข่ายองค์กรภาครัฐ และเอกชน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ประสาน ติดตาม จัดท ากรณีศึกษาและบริการให้ค าปรึกษาแก่ นักเรียน ดังนั้นการจัดตั้งตู้เสมารักษ์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนนั้น ดี เก่ง และมีสุข เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย และจิตใจให้ประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัยที่ดีของสังคม 4.2 สถานศึกษาด าเนินการจัดตั้งชมรม /ชุมนุม เสมารักษ์ป้องกันยาเสพติด โดยด าเนินการดังนี้ 4.2.1 ด าเนินการจัดตั้งชุมนุม 4.2.2 รับสมัครนักเรียน 4.2.3 ด าเนินกิจกรรมของชุมนุม 4.2.4 สรุปการจัดกิจกรรม
๑๙ | ห น ้ า 5. มาตรการด้านการบริหารจัดการ โรงเรียนวนาสงเคราะห์ได้ด าเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ปลอดยาเสพติดอย่างเข้มแข็งและ ยั่งยืนโดยด าเนินงานด้วยระบบบริหารจัดการ ดังนี้ 5.1 สถานศึกษามีนโยบายยุทธศาสตร์และแผนงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติด และอบายมุข โดยก าหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการเอาชนะยาเสพติด ตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยมุ่งการด าเนินยุทธศาสตร์ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายใน โรงเรียน โดยไม่เกิดผลกระทบในทางลบ เพื่อเป็นรากฐานการน าไปสู่ความยั่งยืนของการแก้ไขปัญหา ได้ด าเนินการวางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษา ด าเนินงานตามนโยบายและ ยุทธศาสตร์ และก าหนดระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล แผนปฏิบัติการของ กระทรวงศึกษา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นกรอบทิศทาง ก าหนด วิสัยทัศน์ พันธกิจและเป้าประสงค์ในการด าเนินงานที่ชัดเจน ซึ่งสถานศึกษาได้จัดท าแผนปฏิบัติการทั้งระยะ กลางและแผนปฏิบัติการประจ าปีเพื่อเป็นแนวทางในการด าเนินงาน 5.2 สถานศึกษามีคณะกรรมการด าเนินงานและมีห้องปฏิบัติงานโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอด ยาเสพติดและอบายมุข โดยได้ด าเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการในการด าเนินงาน จัดท าโครงการ/กิจกรรม เพื่อเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดไม่ให้เข้าสู่โรงเรียน มีห้องปฏิบัติกิจกรรมที่ด าเนินการโดยสภานักเรียน ครูและ นักเรียนแกนน าเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้นในหมู่นักเรียน สร้างเครือข่าย สร้างความเข้มแข็งให้โรงเรียน และ ผู้ปกครอง มีการขับเคลื่อน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยด าเนินการตามแผนปฏิบัติ การประจ าปีในทุกปีและมีโครงการกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนห่างไกลยาเสพติด ได้แก่ โครงการสถานศึกษาสีขาว โครงการห้องเรียนสีขาว โครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์โครงการระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยให้คณะครูที่รับผิดชอบในแต่ละกลุ่มงานด าเนินการให้สอดคล้องนโยบายของรัฐ และแผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา (แผนระยะกลาง) ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์พันธกิจ และเป้าประสงค์ 5.3 สถานศึกษามีการจัดท าบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับภาคีเครือข่าย โรงเรียนเน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน มีการท าบันทึกข้อตกลง (MOU) กับโรงเรียนข้างเคียง ได้แก่ โรงเรียนคลองน้ าใส โรงเรียนหนองขี้เห็น และโรงเรียนบ้านบะขมิ้น(วัชระอนุสรณ์) 5.4 สถานศึกษามีการด าเนินกิจกรรมร่วมกับภาคีเครือข่ายที่ท า MOU โรงเรียนวนาสงเคราะห์ร่วมกับภาคีเครือข่าย มีการด าเนินกิจกรรมร่วมกัน เช่น การเข้าค่ายคุณธรรม การเข้าค่ายลูกเสือ เป็นต้น เพื่อร่วมกันปลูกจิตส านึกนักเรียนตามแนวทางการด าเนินการในโครงการ สถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่องและยังยืน ร่วมกันสนับสนุนและ ส่งเสริมการด าเนินการโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุขตามมาตรการด้านการป้องกัน การค้นหาการรักษาและการเฝ้าระวังนักเรียนกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ร่วมสร้างและพัฒนาเครือข่าย โรงเรียนในโครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขอย่างต่อเนื่อง ร่วมกันติดตามตรวจสอบสนับสนุน ช่วยเหลือการด าเนินการโครงการสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุขให้ด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ 5.5 สถานศึกษามีการก ากับ ติดตามประเมินผล และรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสถานศึกษา มีขั้นตอนการด าเนินงาน คือ สถานศึกษามีการแต่งตั้งคณะกรรมการก ากับติดตาม ดูแล อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มี การด าเนินการ อีกทั้งยังช่วยให้ปริมาณของนักเรียนกลุ่มเสี่ยงลดจ านวนลง สถานศึกษามีการก าหนดปฏิทิน การก ากับติดตาม ประเมินผล อย่างชัดเจนเพื่อสะดวกในการนัดวัน เวลา ในการจัดกิจกรรมให้ค าปรึกษา จากนั้นคณะกรรมการด าเนินงานหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรมีการจัดท าบันทึกการก ากับติดตาม และรายงาน ผลการด าเนินงานให้หน่วยงานต้นสังกัดทราบ
๒๐ | ห น ้ า ในการด าเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจ าปีจะมีการก ากับติดตามประเมินผลทุกระยะโดยรายงาน ผลตอนประชุมคณะครูทุกเดือน และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาด าเนินงานตามแผนก็ให้จัดท าสรุปรายงานผล เพื่อ เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปรายงานผลโครงการสถานศึกษาสีขาว ภาคเรียนละ 1 ครั้ง สรุปประเมินผล โครงการห้องเรียนสีขาว ภาคเรียนละ 1 ครั้ง จากการด าเนินการในปีการศึกษาที่ผ่านมา โรงเรียนด าเนินงานโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมของ ทุก ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคณะครูนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กรท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท าให้โรงเรียน วนาสงเคราะห์เป็นโรงเรียนสีขาว ปลอดสารเสพติด และมีความปลอดภัยในชีวิต MOU ร่วมกันของโรงเรียนเครือข่าย
๒๑ | ห น ้ า กลยุทธ์ 4 ต้อง 2 ไม่ กลยุทธ์ 4 ต้อง คือ 1. สถานศึกษาต้องมียุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่สอดคล้องกับสภาพของปัญหา และสถานการณ์ในพื้นที่ โรงเรียนได้มีการก าหนดยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดไว้ในแผน ยุทธศาสตร์ของโรงเรียนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล 2. สถานศึกษาต้องมีแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในสถานศึกษาตลอดปีการศึกษา ในการด าเนินโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติดและอบายมุขเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ เป็นการบูรณาการท างานระหว่างนักเรียน ครู ผู้ปกครอง ชุมชน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อ ร่วมกันป้องกันเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียน และชุมชน 3. สถานศึกษาต้องมีระบบข้อมูลการด าเนินงาน 4 ด้าน ได้แก่ ระบบด้านการป้องกัน ระบบด้านการ เฝ้าระวัง ระบบด้านการดูแลช่วยเหลือ และระบบด้านการบริหารจัดการ 3.1 ระบบด้านการป้องกัน โรงเรียนได้จัดกิจกรรม ดังนี้ 3.1.1 โครงการห้องเรียนสีขาว 3.1.2 โครงการค่ายคุณธรรมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 3.1.4 กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ต้านยาเสพติด 3.1.5 กิจกรรมครูแดร์ 3.2 ระบบด้านการเฝ้าระวัง โรงเรียนได้จัดกิจกรรม ดังนี้ 3.2.1 การป้องปราม 3.2.2 มีนักเรียนแกนน าหรือจิตอาสาในการด าเนินงานต้านยาเสพติด 3.3 ระบบด้านการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนได้จัดกิจกรรม จัดให้นักเรียนแกนน าดูแลช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน ตอบสนองปัญหา พฤติกรรมนักเรียน ช่วยเหลือด้านการเรียนและให้ค าปรึกษา แนะน า ช่วยเหลือ หากไม่สามารถแก้ไขได้ให้รายงานครูที่ปรึกษา 3.4 ระบบด้านการบริหารจัดการ โรงเรียนได้จัดกิจกรรม ดังนี้ 3.4.1 วางแผนพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับแผนพัฒนา การศึกษาแห่งชาติ 3.4.2 โรงเรียนด าเนินการจัดท าแผนปฏิบัติการประจ าปีและมีโครงการกิจกรรมที่ส่งเสริม และสนับสนุนให้นักเรียนห่างไกลยาเสพติด 3.4.3 แต่งตั้งคณะกรรมการด าเนินงานด้านยาเสพติด 3.4.4 เน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วมกับภาคเครือข่ายทุกภาคส่วน 3.4.5 มีการก ากับติดตามประเมินผลการด าเนินงานทุกระยะ 4. สถานศึกษาต้องมีเครือข่ายการท างานระว่างนักเรียนครูผู้ปกครองและชุมชน โรงเรียนได้จัด กิจกรรมสร้างเครือข่ายการท างานระหว่างนักเรียน ครูผู้ปกครองและชุมชน 4.1 กิจกรรมห้องเรียนสีขาว 4.2 คณะกรรมการผู้ปกครองเครือข่ายประจ าห้องเรียน 4.3 บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างโรงเรียนภาคีเครือข่าย กลยุทธ์2 ไม่ คือ 1. สถานศึกษาไม่ปกปิดข้อมูล กลุ่มเสพ กลุ่มติดยา กลุ่มค้ายา โดยโรงเรียนได้ท าบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) กับทุกฝ่ายในการที่จะไม่ปกปิดข้อมูล กลุ่มเสพ กลุ่มติดยาและกลุ่มค้ายา
๒๒ | ห น ้ า 2. สถานศึกษาไม่ผลักปัญหา ไม่ไล่นักเรียนออกจากสถานศึกษาแต่ต้องน านักเรียนไปบ าบัดรักษาและ ให้กลับมาเรียนใหม่ โดยโรงเรียนมีแนวทางน านักเรียนไปรักษาและบ าบัดตามนโยบายมาตรการด้านการรักษา เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ปัญหาอุปสรรคด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดในสถานศึกษา จากการด าเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พบว่า 1. ในบางพื้นที่หรือบริเวณพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษา เมื่อด าเนินการอย่างจริงจังในสถานศึกษา ประสบปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างผู้ปกครองนักเรียน และเกิดความกลัวผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิต ของตนเองและครอบครัว 2. การรณรงค์ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา ควรมีการขยายผลไปทุกสถานศึกษา ซึ่งปัจจุบันในบาง สถานศึกษา ท าได้ตามบทบาทหน้าที่การเรียนการสอนเท่านั้น ในการเชื่อมโยงสู่ชุมชน จะต้องอาศัยบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ผู้มีหน้าที่ด้านบ าบัด โดยตรงซึ่งต้องใช้งบประมาณในการด าเนินการใน สถานศึกษา เพราะการด าเนินการด้านการป้องกันยาเสพติดเป็นเรื่องที่ต้องด าเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถ ก าหนดระยะเวลาสิ้นสุดได้ ภายใต้ความหลากหลายในการแพร่ระบาด โดยเฉพาะเยาวชน ในสถานศึกษายัง เป็นเป้าหมายหลักของผู้ค้ายาเสพติดในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด หน่วยงานต่าง ๆ เช่น องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ควรเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริม สนับสนุนอย่างจริงจัง 3. สถานศึกษาค่อนข้างจะสับสน เกี่ยวกับแบบการรายงานต่าง ๆ ซึ่งมีมากมายมีการระบุข้อมูลมาก เกินความจ าเป็น 4. บุคลากรในสถานศึกษามีภารกิจหลักในการจัดการเรียนการสอน และรับผิดชอบรับภาระงานหลาย อย่าง ท าให้การรายงานข้อมูลล่าช้า หรือไม่รายงานลักษณะการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดของส านักงานเขต พื้นที่การศึกษา ซึ่งมีโรงเรียนในสังกัดเป็นจ านวนมาก การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ซึ่งมีความ ซับซ้อน ยุ่งยาก ต่อการขับเคลื่อนและแก้ปัญหา 5. นโยบายบางอย่าง เช่น การขจัดพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษา ไม่สามารถด าเนินการได้อย่างจริงจัง เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษา ได้แก่ ร้านจ าหน่าย บุหรี่ สุรา หรือร้านเกม ร้าน อินเตอร์เน็ต สถานศึกษาหรือส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่มีอ านาจหน้าที่ในการด าเนินการตามกฎหมายกับ ร้านค้า ร้านเกมที่ไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายแต่อย่างใด จึงท าได้เพียงป้องกัน เฝ้าระวัง หรือ ติดตามเด็กเท่านั้น แนวทางแก้ไข ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีความจริงจัง ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน สรุปผลการด าเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านยาเสพติดในสถานศึกษาโดยภาพรวม การด าเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษามีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ทุกฝ่าย มีส่วนร่วม โดยการระดมทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทุกคน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ผู้น าชุมชน หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ต ารวจ แพทย์ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เยาวชน นักเรียน ได้รับรู้และรับทราบถึงปัญหาและพิษภัยของยาเสพติด เป็นการสร้างผู้น าเยาวชนใน การต่อต้านและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในสถานศึกษาและชุมชน การให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในการด าเนินกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จะเป็น แนวทางให้เกิดการยอมรับและยึดถือปฏิบัติตาม อีกทั้งเป็นแนวร่วมในการด าเนินงาน นักเรียนทุกคนสามารถ
๒๓ | ห น ้ า เข้ามามีส่วนร่วมในการด าเนินงานได้แก่การจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันยาเสพติดต่าง ๆ กิจกรรมเพื่อนที่ปรึกษา การเข้าค่ายคุณธรรม การจัดกิจกรรมชมรมต่อต้านยาเสพติดในโรงเรียน และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ต่างๆ โดย กิจกรรมเหล่านี้มีครูอาจารย์เป็นที่ปรึกษาคอยให้ค าแนะน าต่อนักเรียนด้วยการที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้มี โอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมอันเป็นประโยชน์เช่นนี้เป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ ความเป็นผู้น าและทักษะ ทางสังคมให้แก่นักเรียนที่มีส่วนร่วมอีกด้วย
๒๔ | ห น ้ า บทที่ ๔ กิจกรรมห้องเรียนสีขาว / แผนกวิชาสีขาว ค าสั่งคณะท างานกิจกรรมห้องเรียนสีขาวของทุกห้องเรียน เพื่อให้การด าเนินงานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว/แผนกสีขาว บรรลุเป้าหมายเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ลด ปัญหาได้ในทุกระดับ โรงเรียนจึงต้องมีกระบวนการในการด าเนินงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งต่อเนื่องและ ยั่งยืน โดยบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม ตลอดจนมีความรู้ความเข้าใจในระบบตามกระบวนการด าเนินงาน ห้องเรียนสีขาวของโรงเรียนวนาสงเคราะห์จึงได้แต่งตั้งค าสั่งคณะท างานกิจกรรมห้องเรียนสีขาว ดังนี้ ค าสั่งแต่งตั้งคณะท างานห้องเรียนสีขาว ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๒๕ | ห น ้ า
๒๖ | ห น ้ า
๒๗ | ห น ้ า
๒๘ | ห น ้ า
๒๙ | ห น ้ า
๓๐ | ห น ้ า แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
๓๑ | ห น ้ า แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
๓๒ | ห น ้ า แผนผังคณะท างานห้องเรียนสีขาว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕-๖
๓๓ | ห น ้ า ส าเนาสมุดบันทึกการปฏิบัติงานแกนน า ๔ ฝ่าย บทบาทและหน้าที่นักเรียนแกนน า ๔ ฝ่าย ๑. หัวหน้าห้องเรียนปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ๑.๑ อ านวยการก ากับดูแลสั่งการการด าเนินงานของทุกฝ่าย ๑.๒ ประสานงานรายงานบันทึกและสรุปผลการด าเนินงานของทุกฝ่าย ๑.๓ ช่วยดูแลแก้ไขให้ค าปรึกษาข้อปัญหาของเพื่อนๆและน้องๆที่ถูกต้อง ๑.๔ รายงานปัญหาอุปสรรคความต้องการช่วยเหลือให้ครูที่ปรึกษาเพื่อทราบและแก้ไขปัญหา ๑.๕ ตรวจสอบสมุดบันทึกการปฏิบัติงานและงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย ๒. รองหัวหน้าฝ่ายการเรียนปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ๒.๑ รับผิดชอบการดูแลช่วยเหลือการบ้านช่วยสอนและอธิบายโครงงานและงานด้านวิชาการ ๒.๒ รับผิดชอบการดูแลและร่วมมือให้ผลสัมฤทธิ์การเรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ ๒.๓ รับผิดชอบงานด้านวิชาการทุกกลุ่มสาระวิชาที่ได้รับมอบหมาย ๒.๔ รับผิดชอบจัดแหล่งเรียนรู้ภายในห้องเรียน ๒.๕ บันทึกผลการปฏิบัติงานทุกวันและงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย ๓. รองหัวหน้าฝ่ายการงานปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ๓.๑ รับผิดชอบความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในห้องเรียน ๓.๒ รับผิดชอบของมีค่าวัสดุ-อุปกรณ์ภายในห้องเรียนและความปลอดภัยภายในห้องเรียน ๓.๓ ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าประตูหน้าต่างหากช ารุดแจ้งงานอาคารสถานที่ ๓.๔ ตรวจสอบจุดเสี่ยงและมาตรการป้องกันอัคคีภัยอุบัติเหตุทั้งภายในและนอกอาคารสถานที่ ๓.๕ บันทึกผลการปฏิบัติงานทุกวันและงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย ๓.๖ การด าเนินโครงงานป้องกันยาเสพติด ๔. รองหัวหน้าฝ่ายสารวัตรนักเรียนปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ๔.๑ รับผิดชอบตรวจสอบการนาสารเสพติดยาเสพติดอาวุธเข้ามาภายในสถานศึกษา ๔.๒ รับผิดชอบเฝ้าระวังไม่ให้มีการสูบบุหรี่พฤติกรรมไม่พึงประสงค์การแต่งกายในกลุ่มเพื่อน ๔.๓ การให้ค าแนะน าค าปรึกษาปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงให้มีทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง ๔.๔ การรายงานพฤติกรรมที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ให้ครูที่ปรึกษาเฝ้าระวังและช่วยแก้ไข ปัญหาพฤติกรรมที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ๔.๕ บันทึกผลการปฏิบัติงานทุกวันและงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย
๓๔ | ห น ้ า ๕. รองหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ๕.๑ รับผิดชอบงานกิจกรรมต่างๆเช่นวันส าคัญกีฬาวิชาการประสานงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ๕.๒ รับผิดชอบงานกิจกรรมในห้องเรียนที่ได้รับมอบหมาย ๕.๓ รับผิดชอบกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในห้องเรียนในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา ๕.๔ ประสานงานระหว่างครูผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนในการจัดกิจกรรม ๕.๕ บันทึกผลการปฏิบัติงานทุกวันและงานอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย โรงเรียนได้ด าเนินการให้นักเรียนแกนน าทั้ง ๔ ฝ่ายซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายการเรียน ฝ่ายการงาน ฝ่ายสารวัตร นักเรียนและฝ่ายกิจกรรมของแต่ละห้องเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา ๑ – ๖ จัดท าแบบบันทึกการปฏิบัติงาน ห้องเรียนสีขาว โดยบันทึกเป็นรายวัน ในแต่ละเดือน ดังภาพ
๓๕ | ห น ้ า แบบบันทึกการปฏิบัติงานของนักเรียนแกนน า ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๓๖ | ห น ้ า
๓๗ | ห น ้ า
๓๘ | ห น ้ า
๓๙ | ห น ้ า
๔๐ | ห น ้ า
๔๑ | ห น ้ า แบบบันทึกการปฏิบัติงานของนักเรียนแกนน า ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๔๒ | ห น ้ า
๔๓ | ห น ้ า
๔๔ | ห น ้ า
๔๕ | ห น ้ า แบบบันทึกการปฏิบัติงานของนักเรียนแกนน า ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๔๖ | ห น ้ า
๔๗ | ห น ้ า