การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการเลยี้ งปลาทับทิมในกระชัง
นางสาวสุภาวดี ศรีทารัตน์
นางสาวสุภาวดี องึ้ ทองคา
การจดั ทาโครงงานนเี้ ป็ นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลกั สูตร
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการบญั ชี
วทิ ยาลยั เทคนคิ พจิ ติ ร
ปี การศึกษา 2564
ใบรับรองโครงงาน
วทิ ยาลยั เทคนิคพจิ ติ ร
เรื่อง การศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
โดย 1. นางสาวสุภาวดี ศรีทารัตน์ รหสั 62202011231
2. นางสาวสุภาวดี อ้ึงทองคา รหสั 62202011235
ไดร้ ับอนุมตั ิให้นบั เป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ
สาขาวชิ าการบญั ชี
.......................................ครูผสู้ อน ......................................ครูท่ีปรึกษาโครงงาน
(นางสาวอรวลญั ช์ นอ้ ยสมวงษ)์ (นางสาววรินยพุ า บญุ มา)
......................................................หวั หนา้ แผนก
(นางสาวมณฑกาญจน์ ทศแกว้ )
.............................................รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ
(นายอิศรา อยยู่ ิ่ง)
...............................................กรรมการ ...............................................กรรมการ
(นายสรราม รอดอินทร์) (นางสาวอรปรีญา วงศช์ าลี)
............................................กรรมการและเลขานุการ
(นางสาววรินยพุ า บุญมา)
............................................ประธานกรรมการ
(นางสาวมณฑกาญจน์ ทศแกว้ )
ชื่อโครงงาน การศึกษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
ช่ือผ้รู ับผิดชอบโครงงาน นางสาวสุภาวดี ศรีทารัตน์
นางสาวสุภาวดี อ้ึงทองคา
สาขาวชิ า การบญั ชี
ครูผ้สู อน นางสาวอรวลญั ช์ นอ้ ยสมวงษ์
ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาววรินยพุ า บุญมา
ปี ทศ่ี ึกษา 2564
บทคดั ย่อ
การศึกษาคร้ังน้ีเป็นการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
มีวตั ถุประสงค์เพื่อศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทับทิมในกระชังของเกษตรกร
บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร
กลุ่มเป้าหมายท่ีใชใ้ นการศึกษาเป็นเกษตรกรผเู้ ล้ียงปลาในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4
ตาบลย่านยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร โดยพิจารณาจากเกษตรกรที่เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
ต้งั แต่ 3 ปี ข้นึ ไป จานวน 1 ครัวเรือน
เครื่องมือใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต้นทุนและ
ผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีลกั ษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ สอบถามขอ้ มูล
เก่ียวกบั เพศ อายุ ระดบั การศึกษา รายได้
ผลการศึกษา พบวา่
1. ตน้ ทุนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั 361,900 บาทตอ่ รุ่น
2. คา่ วตั ถดุ ิบท่ีใชใ้ นการเล้ียงปลาทบั ทิม 157,500 บาทต่อรุ่น และค่าใชจ้ ่ายในการผลิต
192,000 บาทตอ่ รุ่น
ก
กติ ตกิ รรมประกาศ
การจดั ทาโครงงานคร้ังน้ี สาเร็จลุล่วงได้เป็ นอย่างดีด้วยความอนุเคราะห์ และความ
กรุณาให้คาปรึกษา ต้งั แต่ตน้ จนเสร็จสมบรู ณ์ ตลอดจนให้ความรู้และประสบการณ์ที่ดีแก่ขา้ พเจา้
จากนางสาวอรวลญั ช์ น้อยสมวงษ์ ครูผูอ้ นวิชาโครงงาน ผูจ้ ดั ทาโครงงานขอขอบพระคุณเป็ น
อยา่ งสูงมา ณ โอกาสน้ี
ขอกราบขอบพระคุณ นางสาววรินยุพา บุญมา ครูท่ีปรึกษาโครงงาน ท่ีไดก้ รุณาให้
คาแนะนา และให้คาปรึกษามาตลอดจนใหค้ วามช่วยเหลือแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่าง ๆ เพื่อให้จดั ทา
โครงงานฉบับน้ีให้มีความสมบูรณ์ ผูจ้ ดั ทาโครงงานขอขอบพระคุณอาจารยท์ ุกท่านที่ได้
ประสิทธ์ิประสาทวิชา บ่มเพราะจนผศู้ ึกษาสามารถนาเอาหลกั การมาประยกุ ตใ์ ชแ้ ละอา้ งอิงในการ
จดั ทาโครงงานคร้ังน้ี อีกท้งั บิดา มารดา ญาติ พ่ีน้องและเพื่อน ๆ ของผูจ้ ดั ทาโครงงาน ซ่ึงให้
กาลงั ใจและความช่วยเหลือมาโดยตลอด
คุณค่าอนั พึงมีจากการศึกษาค้นควา้ วิจยั อิสระฉบับน้ี ขอมอบเพ่ือบูชาคุณพระบิดา
มารดา ครูอาจารย์ และผมู้ ีพระคุณทกุ ทา่ น
สุภาวดี ศรีทารัตน์
สุภาวดี อ้ึงทองคา
ข
สารบัญ หน้า
บทคดั ยอ่ ภาษาไทย ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบญั ค
สารบญั ตาราง ง
สารบญั ภาพ จ
บทที่
1. บทนา 1
2
1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหา 2
1.2 วตั ถุประสงค์ 2
1.3 ขอบเขตของการศึกษา
1.4 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 3
2. เอกสารงานวิจยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง 12
2.1 หลกั การแนวคิดเก่ียวกบั ตน้ ทุน 13
2.2 หลกั การแนวคดิ เก่ียวกบั ผลตอบแทน 15
2.3 เอกสารงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง
2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา 16
3. วิธีดาเนินการศึกษา 16
3.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษา 17
3.2 เครื่องมือท่ีใชใ้ นการศึกษา 17
3.3 วิธีดาเนินการศึกษา 18
3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 18
3.5 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
3.6 สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล
ค
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
4. ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู
4.1 ขอ้ มลู สถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 19
4.2 ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในการชงั 25
5. สรุปการศึกษา การอภิปรายและขอ้ เสนอแนะ
5.1 สรุปผลการศึกษา 30
5.2 อภิปรายผลการศึกษา 31
5.3 ขอ้ เสนอแนะ 32
บรรณานุกรม 33
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใชใ้ นการศึกษา แบบสอบถามการเล้ียง
ปลาทบั ทิมในกระชงั 35
ภาคผนวก ข แบบเสนอหวั ขอ้ และเคา้ โครง โครงงานการศึกษาตน้ ทนุ และ
ผลตอบแทนการล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั 38
ภาคผนวก ค แสดงภาพการลงพ้นื ท่ีเกี่ยวกบั การศึกษาตน้ ทุนและ
ผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั 44
ภาคผนวก ง บญั ชี การศึกษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั 49
ภาคผนวก จ แสดงภาพพบครูผสู้ อนและครูท่ีปรึกษาโครงงาน 54
ประวตั ิผจู้ ดั ทาโครงงาน 59
ค
สารบัญตาราง
ตารางท่ี หน้า
4.1.1 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม จำแนกตำมเพศ 19
4.1.2 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม จำแนกตำมอำยุ 20
4.1.3 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม จำแนกตำมระดบั 20
กำรศึกษำ
4.1.4 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม จำแนกตำมแหล่งเงินทนุ 21
4.1.5 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม จำแนกตำมภำระหน้ีสิน 21
4.1.6 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม
ตำมพ้ืนที่ท่ีใชใ้ นกำรเล้ียงปลำ 22
4.1.7 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมลกั ษณะโครงกระชงั 22
4.1.8 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมกำรซ้ือพนั ธุ์ปลำ 23
4.1.9 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม
ตำมจำนวนกระชงั ที่เล้ียงปลำ 23
4.1.10 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม
ตำมอำหำรท่ีใชใ้ นกำรเล้ียงปลำ 23
4.1.11 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมกำรใหอ้ ำหำรเสริม 24
4.1.12 แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมกำรใหอ้ ำหำรปลำ 24
4.1.13 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมกำรซ้ือพนั ธุป์ ลำ 24
4.1.14 แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถำม ตำมกำรปลอ่ ยปลำ
ลงเล้ียงในกระชงั 25
4.2.1 แสดงกำรแบ่งประเภทตน้ ทุนที่ทำกำรศึกษำ 25
4.2.2 แสดงตน้ ทนุ ค่ำวตั ถุดิบในกำรเล้ียงปลำในกระชงั เฉล่ียตอ่ รุ่น 26
4.2.3 แสดงตน้ ทุนค่ำแรงงำนในกำรล้ียงปลำในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น 26
4.2.4 แสดงขอ้ มูลคำ่ เส่ือมรำคำและอุปกรณ์ 27
4.2.5 แสดงตน้ ทุนค่ำใชจ้ ่ำยในกำรเล้ียงปลำทบั ทิมในกระชงั เฉล่ียตอ่ รุ่น 27
ง
สารบญั ตาราง(ต่อ)
ตารางที่ หน้า
4.2.6 แสดงขอ้ มูลตน้ ทุนในกำรเล้ียงปลำทบั ทิมในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น 28
4.2.7 แสดงกำไรจำกกำรเล้ียงปลำทบั ทิมในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น 28
4.2.8 แสดงกำรคำนวณหำอตั รำผลตอบแทนจำกกำรเล้ียงปลำทบั ทิมในกระชงั 29
ง
สารบญั ภาพ หน้า
ภาพท่ี 37
45
1. ผตู้ อบแบสอบถาม 45
2. การปลอ่ ยพนั ธุ์ปลาทบั ทิมลงในกระชงั 46
3. ลอกท่ีใชใ้ นการดึงลิฟทข์ ้นึ ลง 46
4. ที่สาหรับใส่อาหารปลาทบั ทิม 47
5. ยาปฏิชีวนะท่ีใชใ้ นการเล้ียงปลาทบั ทิม 47
6. การใหอ้ าหารปลาทบั ทิม 48
7. กระชงั ท่ีใชใ้ นการเล้ียงปลาทบั ทิม 48
8. การจบั ปลาทบั ทิมเพือ่ จาหน่าย 55
9. การจบั ปลาทบั ทิมเพ่ือจาหน่าย 55
10. พบครูผสู้ อนวชิ าโครงงาน วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2564 56
11. พบครูผสู้ อนวชิ าโครงงาน วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2564 56
12. พบครูที่ปรึกษาโครงงาน วนั ที่ 6 กรกฎาคม 2564 57
13. พบครูท่ีปรึกษาโครงงาน วนั ที่ 6 กรกฎาคม 2564 57
14. พบครูผสู้ อนวชิ าโครงงาน วนั ที่ 8 กนั ยายน 2564 58
15. พบครูผสู้ อนวชิ าโครงงาน วนั ท่ี 8 กนั ยายน 2564 58
16. พบครูที่ปรึกษาโครงงาน วนั ที่ 26 กนั ยายน 2564
17. พบครูท่ีปรึกษาโครงงาน วนั ท่ี 26 กนั ยายน 2564
จ
บทท่ี 1
บทนำ
1. ควำมเป็ นมำและและควำมสำคัญของปัญหำ
ถา้ พูดถึงปัจจุบนั ประเทศไทยเป็ นประเทศท่ีส่งออกสินคา้ เกษตรและอาหารที่สาคญั แต่
ผลิตผลราคาตกต่า ขณะที่ตน้ ทุนทางการผลิตมีราคาสูงจนทาให้มีการขาดทุน แต่อย่างไรก็ตาม
เกษตรกรยงั มีทางออกของเรื่องน้ี ซ่ึงการจะดารงชีวิตอยไู่ ดใ้ นสงั คมปัจจุบนั ของเกษตรกรตอ้ งอาศยั
ความพอเพยี ง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะตอ้ งมีระบบภมู ิคุม้ กนั ในตวั
ที่ดีพอสมควร ท้งั น้ีจะตอ้ งอาศยั ความรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อย่างยิ่งในการนา
ความรู้วิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและดาเนินงานเพื่อไม่ให้ผลผลิตตกต่าและขาดทุน
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงเขา้ พระราชหฤทยั ในความเป็นไปไดข้ องประเทศไทยและคนไทย
อย่างลึกซ้ึงและกวา้ งไกล จึงไดท้ รงวางรากฐานในการพฒั นาชนบทและช่วยเหลือประชาชนให้
สามารถพ่ึงพาตนเองได้มีความ “ พออยู่พอกิน ” และมีความอิสระท่ีอยู่ได้โดยไม่ยึดติดอยู่กับ
เทคโนโลยี ทรงวิเคราะห์ว่าหากประชาชนพ่ึงพาตนเองได้แลว้ ก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้าง
ประเทศสร้างความเขม้ แขง็ ในตนเองและสามารถทามาหากินใหพ้ ออยพู่ อกินไดด้ ว้ ยตนเอง
การบริหารจดั การเงินจึงเป็ นอีกอยา่ งที่สาคญั สาหรับเกษตรกรท่ีจะดารงชีวิตแบบพออยู่
พอกิน การทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย เป็ นการจดบนั ทึกรายการขอ้ มูลดา้ นการเงิน เช่น การลงทุน
การขาย ค่าใช้จ่ายและที่สาคญั ปัญหาของเกษตรกรส่วนใหญ่ คือ การบริหารเงินไม่ดีพอทาให้
ประสบปัญหาขาดทนุ คา่ ใชจ้ ่ายมากกวา่ รายไดท้ าใหเ้ กิดหน้ีสินเพมิ่ ข้ึน
จากขอ้ ความขา้ งตน้ กลุ่มของขา้ พเจา้ จึงมีแนวคิดที่จะจดั ทาโครงงานศึกษาตน้ ทุนและ
ผลตอบแทนให้แก่กระชงั ปลาหนองยาว ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร เพื่อประโยชน์
แก่เกษตรกรและผทู้ ี่สนใจจะประกอบอาชีพเล้ียงปลาในกระชงั
2
2. วตั ถุประสงค์
2.1 เพอื่ ศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ปลาของเกษตรกร
บา้ นหนองยาว หมูท่ี 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร
2.2 เพ่อื ช่วยในการวางแผนผลกาไรและควบคุมผลการลงทุนใหแ้ ก่กระชงั ปลาหนองยาว
3. ขอบเขตของกำรศึกษำ
3.1 ดา้ นตวั แปร
-
3.2 ดา้ นเน้ือหา
การวจิ ยั คร้ังน้ี เป็นการศึกษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนของกระชงั ปลาหนองยาว
ที่ผวู้ ิจยั ศึกษาและลงทนุ ไดด้ งั น้ี
3.2.1 การศึกษาและการลงทุนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั หนองยาว
3.2.2 ศึกษาความพึงพอใจของเกษตรกรท่ีมีผลต่อการเล้ียงปลาในกระชงั
3.3 ดา้ นเวลา
มิถนุ ายน - ตลุ าคม 2564
4. นิยำมคำศัพท์เฉพำะ
ตน้ ทุน หมายถึง ตน้ ทนุ ท้งั สิ้นที่ใชใ้ นการซ้ือลูกปลาทบั ทิมค่าอาหาร ค่ายา
และค่ากระชงั เพ่อื เล้ียงปลาทบั ทิม
การเล้ียงปลาในกระชงั หมายถึง การเล้ียงปลาในภาชนะกกั ขงั ต้งั แต่ลูกปลาไปจนถึง
ปลาขนาดใหญ่ น้าสามารถถา่ ยเทไดร้ อบดา้ นของภาชนะกกั ขงั
บทที่ 2
เอกสารงานวจิ ัยทเี่ กย่ี วข้อง
การศึกษาคร้ังน้ี เป็นการจดั ทาโครงงานการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลา
ทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกรผูท้ ี่เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลย่านยาว
อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร ผจู้ ดั ทาโครงงานไดศ้ ึกษาหลกั การ แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั
ท่ีเก่ียวขอ้ งดงั น้ี
2.1 หลกั การแนวคดิ เก่ียวกบั ตน้ ทนุ
2.2 หลกั การแนวคดิ เก่ียวกบั ผลตอบแทน
2.3 เอกสารงานวจิ ยั ที่เก่ียวขอ้ ง
2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา
2.1 หลกั การแนวคิดเกยี่ วกบั ต้นทุน
ตน้ ทุน (Cost) หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่สูญเสียไปเพื่อให้ไดส้ ินคา้ หรือบริการ
โดยมูลค่าน้นั จะตอ้ งสามารถวดั ได้เป็ นหน่วยเงินตรา ซ่ึงเป็ นลกั ษณะของการลดลงในสินทรัพย์
หรือเพ่ิมข้ึนในหน้ีสิน ตน้ ทุนท่ีเกิดข้ึนอาจจะให้ประโยชน์ในปัจจุบนั หรือในอนาคตก็ได้ เมื่อ
ตน้ ทนุ ใดท่ีเกิดข้ึนแลว้ และกิจการไดใ้ ชป้ ระโยชนไ์ ปท้งั สิ้นแลว้ ตน้ ทนุ น้นั ก็จะถือเป็น “ค่าใชจ้ ่าย”
(Expenses) ดังน้ัน ค่าใช้จ่ายจึงหมายถึงตน้ ทุนท่ีได้ให้ประโยชน์และกิจการได้ใช้ประโยชน์
ท้งั หมดไปแลว้ ในขณะน้นั และสาหรับตน้ ทุนที่กิจการสูญเสียไป แต่จะให้ประโยชน์แก่กิจการใน
อนาคตเรียกวา่ “สินทรัพย”์ (Assets)
ค่าใชจ้ ่าย (Expenses) คือ ตน้ ทนุ ท่ีก่อใหเ้ กิดรายได้ (Revenue) โดยปกติแลว้ ก็จะนาไป
เปรียบเทียบกบั รายไดท้ ่ีเกิดข้ึนในงวดเดียวกนั เพื่อคานวณหากาไรสุทธิ (Profit) หรือขาดทุนสุทธิ
(Loss) ซ่ึงรายได้ก็จะหมายถึง ราคาขายของสินคา้ หรือบริการคูณกับปริมาณหรือระดับของ
กิจกรรม นอกจากน้ีโดยปกติเราจะพบว่า คาว่า “ค่าใช้จ่าย” มกั จะหมายถึงรายจ่ายที่สามารถให้
ผลประโยชน์ทางภาษีไดด้ ว้ ยเหตุน้ีคาว่า “ค่าใช้จ่าย” จึงนิยมแสดงในรายงานทางการเงินท่ีเสนอ
บคุ คลภายนอก
4
ความหมายของต้นทุนมีหลายชนิดซ่ึงจะแตกต่างกันไปตามวตั ถุประสงค์ของการ
นาไปใช้ ในกระบวนการวางแผนและตดั สินใจ การเลือกใชต้ น้ ทุนท่ีเหมาะสมกบั สถานการณ์ถือ
ว่าเป็ นส่ิงท่ีสาคญั ท่ีสุด การนาตน้ ทุนไปใช้ผิดวตั ถุประสงคก์ ็อาจทาให้การตดั สินใจผิดพลาดได้
ตน้ ทนุ สามารถจาแนกไดใ้ นลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี
1.1 การจาแนกตน้ ทนุ ตามลกั ษณะส่วนประกอบของผลิตภณั ฑ์
1.2 การจาแนกตน้ ทนุ ตามความสาคญั และลกั ษณะของตน้ ทนุ การผลิต
1.3 การจาแนกตน้ ทนุ ตามความสมั พนั ธก์ บั ระดบั ของกิจกรรม
1.4 การจาแนกตน้ ทนุ ตามความสัมพนั ธ์กบั หน่วยตน้ ทุน
1.5 การจาแนกตน้ ทุนตามหนา้ ที่งานในสายการผลิต
1.6 การจาแนกตน้ ทุนตามหนา้ ท่ีงานในกิจการ
1.7 การจาแนกตน้ ทนุ ตามความสมั พนั ธก์ บั เวลา
1.8 การจาแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะของความรับผิดชอบ
1.9 การจาแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะของการวเิ คราะหป์ ัญหาเพ่อื ตดั สินใจ
ซ่ึงมีรายละเอียดของการจาแนกตน้ ทุนแต่ละลกั ษณะ ดงั ต่อไปน้ี
1.1 การจาแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะส่วนประกอบของผลิตภณั ฑ์
ส่วนประกอบของตน้ ทุนที่ใชใ้ นการผลิตสินคา้ หรือผลิตภณั ฑแ์ ต่ละชนิด (Cost of a
Manufactured Product) จะประกอบดว้ ยวตั ถุดิบทางตรง คา่ แรงงานทางตรง และคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต
ซ่ึงถา้ พจิ ารณาในดา้ นทรัพยากรท่ีเป็นส่วนประกอบของสินคา้ แลว้ ประกอบดว้ ย
1.1.1 วตั ถดุ ิบ (Materials)
วตั ถุดิบนับว่าเป็ นส่วนประกอบสาคัญของการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์
สาเร็จรูปโดยทว่ั ไป ซ่ึงตน้ ทนุ ที่เก่ียวกบั การใชว้ ตั ถดุ ิบในการผลิตสินคา้ อาจจะถกู แบง่ ออกเป็น
2 ลกั ษณะ คือ
1) วตั ถุดิบทางตรง (Direct materials) หมายถึง วตั ถุดิบหลกั ท่ีใชใ้ นการผลิต
และสามารถระบุไดอ้ ย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินคา้ ชนิดใดชนิดหน่ึงในปริมาณและตน้ ทุน
เท่าใด รวมท้งั จดั เป็ นวตั ถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินคา้ ชนิดน้นั ๆ เช่น ไมแ้ ปรรูปจดั เป็ น
วตั ถดุ ิบทางตรงของการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผา้ ที่ใชใ้ นอตุ สาหกรรมเส้ือผา้ ยางดิบท่ีใชใ้ นการผลิตยาง
รถยนต์ แร่เหลก็ ท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมถลงุ เหลก็ กระดาษท่ีใชใ้ นธุรกิจสิ่งพิมพ์ เป็นตน้
5
2) วตั ถุดิบทางออ้ ม (Indirect materials) หมายถึง วตั ถดุ ิบต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
โดยทางออ้ มกับการผลิตสินคา้ แต่ไม่ใช่วตั ถุดิบหลักหรือวตั ถุดิบส่วนใหญ่ เช่น ตะปู กาว
กระดาษทรายที่ใช้เป็ นส่วนประกอบของการทาเครื่องหนังหรือเฟอร์นิเจอร์ นามันหล่อลื่น
เคร่ืองจกั ร เส้นดา้ ยที่ใช้ในการตดั เยบ็ เส้ือผา้ เป็ นตน้ โดยปกติแลว้ วตั ถุดิบทางออ้ มอาจจะถูก
เรียกวา่ “วสั ดุโรงงาน” ซ่ึงจะถือเป็นค่าใชจ้ ่ายการผลิตชนิดหน่ึง
1.1.2 ค่าแรงงาน (Labor)
ค่าแรงงาน หมายถึง คา่ จา้ งหรือผลตอบแทนท่ีจ่ายใหแ้ ก่ลกู จา้ งหรือคนงานท่ี
ทาหน้าท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การผลิตสินคา้ โดยปกติแลว้ ค่าแรงงานจะถูกแบ่งออกเป็ น 2 ชนิด คือ
คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) และค่าแรงงานทางออ้ ม (Indirect labor)
1) คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) หมายถึง คา่ แรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายใหแ้ ก่
คนงานหรือลูกจา้ งที่ทาหนา้ ท่ีเกี่ยวกบั การผลิตสินคา้ สาเร็จรูปโดยตรง รวมท้งั เป็ นค่าแรงงานที่มี
จานวนมากเม่ือเทียบกบั ค่าแรงงานทางออ้ มในการผลิตสินคา้ หน่วยหน่ึง ๆ และจดั เป็นค่าแรงงาน
ส่วนสาคญั ในการแปรรูปวตั ถุดิบให้เป็นสินคา้ สาเร็จรูป เช่น คนงานท่ีทางานเก่ียวกบั การควบคุม
เคร่ืองจกั รท่ีใชใ้ นการผลิตก็ควรถือเป็นแรงงานทางตรง พนกั งานในสายการประกอบ เป็นตน้
2) ค่าแรงงานทางออ้ ม (Indirect labor) หมายถึง ค่าแรงงานท่ีไม่เกี่ยวขอ้ ง
กบั ค่าแรงงานทางตรงท่ีใชใ้ นการผลิตสินคา้ เช่น เงินเดือนผคู้ วบคุมโรงงาน เงินเดือนพนกั งานทา
ความสะอาดเครื่องจกั รและโรงงาน พนกั งานตรวจสอบคุณภาพ ช่างซ่อมบารุง ตลอดจนตน้ ทุนท่ี
เกี่ยวขอ้ งกบั คนงาน เช่น ค่าภาษีที่ออกใหล้ ูกจา้ ง สวสั ดิการตา่ ง ๆ เป็นตน้ ซ่ึงคา่ แรงงานทางออ้ ม
เหล่าน้ีจะถือเป็นส่วนหน่ึงของคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต
1.1.3 ค่าใชจ้ ่ายการผลิต (Manufacturing Overhead)
ค่าใชจ้ ่ายการผลิต หมายถึง แหล่งรวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั
การผลิตสินค้าซ่ึงนอกเหนือจากวตั ถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง เช่น วตั ถุดิบทางอ้อม
ค่าแรงงานทางออ้ ม ค่าใชจ้ ่ายในการผลิตทางออ้ มอ่ืน ๆ ไดแ้ ก่ ค่าน้า ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าเส่ือมราคา
คา่ ประกนั ภยั ค่าภาษี เป็นตน้ แต่อยา่ งไรก็ตามค่าใชจ้ ่ายเหล่าน้ีก็จะตอ้ งเป็นคา่ ใชจ้ ่ายท่ีเกี่ยวกบั การ
ดาเนินการผลิตในโรงงานเท่าน้นั ไมร่ วมถึงเงินเดือน ค่าเช่า คา่ ไฟฟ้า คา่ เสื่อมราคา ที่เกิดข้นึ จาก
การดาเนินงานในสานกั งาน ดงั น้นั ค่าใชจ้ ่ายการผลิตจึงถือเป็ นที่รวมของค่าใช้จ่ายในการผลิต
ทางออ้ มตา่ ง ๆ (Cost pool of indirect manufacturing costs) นอกจากน้ี ยงั จะพบวา่ ในบางกรณีก็มี
การเรียกค่าใชจ้ ่ายการผลิตในช่ืออ่ืน ๆ เช่น ค่าใชจ้ ่ายโรงงาน (Factory Overhead) โสหุย้ การผลิต
(Manufacturing Burden) ตน้ ทุนผลิตทางออ้ ม (Indirect Costs) เป็นตน้
6
ส่วนประกอบต่างๆ พอสรุปได้ ดงั ภาพ
2.1 ส่วนประกอบต่าง ๆ
1.2 การจาแนกตน้ ทุนตามความสาคญั และลกั ษณะของตน้ ทนุ การผลิต
การจาแนกตน้ ทุนตามความสาคญั และลกั ษณะของตน้ ทุนการผลิตน้นั จะมีลกั ษณะท่ี
คลา้ ยคลึงกบั การจาแนกตน้ ทุนตามส่วนประกอบของการผลิต ซ่ึงวตั ถุประสงค์ของการจาแนก
ตน้ ทุนในลกั ษณะน้ี ก็เพ่อื ใชใ้ นการวางแผนและควบคุมมากกวา่ ที่จะจาแนกเพื่อการคานวณตน้ ทุน
ของสินคา้ หรือบริการ การจาแนกต้นทุนตามความสาคัญและลักษณะของตน้ ทุนการผลิตเรา
สามารถจาแนกได้ 2 ลกั ษณะคือ
1.2.1 ตน้ ทุนข้นั ตน้ (Prime Costs) หมายถึง ตน้ ทุนรวมระหว่างวตั ถุดิบทางตรง
และคา่ แรงงานทางตรง ซ่ึงตามปกติเราจะถือว่าตน้ ทุนข้นั ตน้ จะมีความสัมพนั ธ์โดยตรงกบั การผลิต
รวมท้งั เป็ นตน้ ทุนที่มีจานวนมากเมื่อเทียบกับตน้ ทุนการผลิตท้งั หมด แต่อย่างไรก็ตามในยุค
ปัจจุบนั การผลิตในธุรกิจบางแห่งมีการใชเ้ ครื่องจกั รมากข้ึนทาให้ตน้ ทุนค่าแรงงานทางตรงลดลง
ในลกั ษณะเช่นน้ีตน้ ทุนข้นั ตน้ ก็จะมีความสาคญั ลดลงเม่ือเทียบกบั ตน้ ทนุ แปรสภาพ
1.2.2 ตน้ ทุนแปรสภาพ (Conversion costs) หมายถึง ตน้ ทุนที่เก่ียวกบั แปรสภาพ
และเปลี่ยนรูปแบบจากวัตถุดิบทางตรงให้กลายเป็ นสินค้าสาเร็จรูป ต้นทุนแปรสภาพจะ
ประกอบดว้ ย ค่าแรงงานทางตรง และค่าใชจ้ ่ายการผลิต จากที่กล่าวแลว้ ก็คือ เม่ือกิจการมีการ
ลงทุนในเคร่ืองจกั รมากข้ึน ค่าเส่ือมราคา ค่าซ่อมบารุง ซ่ึงจดั เป็นค่าใชจ้ ่ายการผลิตก็จะมีจานวน
มากข้นึ ตามไปดว้ ย ดงั น้นั ในปัจจุบนั น้ีสาหรับธุรกิจท่ีมีการใชเ้ ทคโนโลยชี ้นั สูงก็จะใหค้ วามสาคญั
กบั ตน้ ทนุ แปรสภาพมากกว่าตน้ ทนุ ข้นั ตน้
7
ความสมั พนั ธด์ งั กลา่ ว แสดงไดด้ งั ภาพ
2.2 ความสมั พนั ธ์
1.3 การจาแนกตน้ ทนุ ตามความสัมพนั ธ์กบั ระดบั ของกิจกรรม
การจาแนกตน้ ทุนความสัมพนั ธ์กบั ระดบั ของกิจกรรมน้ี บางคร้ังเราก็เรียกวา่
“การจาแนกตน้ ทุน” ตามพฤติกรรมของตน้ ทนุ (Cost Behavior) ซ่ึงมีลกั ษณะท่ีสาคญั คอื เป็นการ
วเิ คราะห์จานวนของตน้ ทุนท่ีจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต หรือระดบั ของกิจกรรม
ที่เป็ นตวั ผลกั ดนั ให้เกิดตน้ ทุน (Cost Driver) ในการผลิตท้งั ท่ีเกี่ยวกบั การวางแผน การควบคุม
การประเมิน และวดั ผลการดาเนินงาน การจาแนกตน้ ทุนตามความสัมพนั ธ์กบั ระดบั ของกิจกรรม
เราสามารถที่จะจาแนกตน้ ทุนได้ 3 ชนิด คือ ตน้ ทุนผนั แปร ตน้ ทุนคงที่ ตน้ ทุนผสม อยา่ งไรก็
ตามแนวคิดในการจาแนกตน้ ทุนใน 3 ชนิดน้ี เป็ นการจาแนกตน้ ทุนท่ีอยู่ในช่วงของตน้ ทุนท่ีมี
ความหมายต่อการตดั สินใจ (Relevant range) นน่ั ก็คือ เป็นช่วงท่ีตน้ ทุนคงที่รวมและตน้ ทุน
ผนั แปรต่อหน่วย ยงั มีลกั ษณะคงที่หรือไมเ่ ปล่ียนแปลง
1.3.1 ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) หมายถึง ต้นทุนที่จะมีต้นทุนรวม
เปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงในระดบั กิจกรรมหรือปริมาณการผลิต ในขณะที่
ตน้ ทุนต่อหน่วยจะคงท่ีเท่ากนั ทุก ๆ หน่วย โดยทว่ั ไปแลว้ ตน้ ทุนผนั แปรน้ีจะสามารถควบคุมได้
โดยแผนกหรือหน่วยงานท่ีทาใหเ้ กิดตน้ ทุนผนั แปรน้นั
1.3.2 ตน้ ทุนคงที่ (Fixed Costs) คือ ตน้ ทนุ ท่ีมีพฤติกรรมคงที่หมายถึง ตน้ ทนุ รวม
ที่มิไดเ้ ปลี่ยนแปลงไปตามระดบั ของการผลิตในช่วงของการผลิตระดบั หน่ึง แต่ตน้ ทุนคงที่ต่อ
หน่วยก็จะเปลี่ยนแปลงในทางลดลงถา้ ปริมาณการผลิตเพ่ิมมากข้ึน นอกจากน้ีตน้ ทุนคงท่ียงั แบ่ง
ออกเป็นตน้ ทุนคงท่ีอีก 2 ลกั ษณะ คือ ตน้ ทุนคงท่ีระยะยาว (Committed Fixed Cost) เป็นตน้ ทุน
คงที่ท่ีไมส่ ามารถเปลี่ยนแปลงไดใ้ นระยะส้นั เช่น สญั ญาเช่าระยะยาว คา่ เสื่อมราคา เป็นตน้ และ
ตน้ ทุนคงท่ีระยะส้ัน (Discretionary Fixed Cost) จดั เป็นตน้ ทุนคงท่ีที่เกิดข้ึนเป็นคร้ังคราวจากการ
8
ประชุมหรือตดั สินใจของผูบ้ ริหาร เช่น ค่าโฆษณา ค่าใช้จ่ายในการคน้ ควา้ และวิจยั เป็ นตน้
สาหรับในเชิงการบริหารแลว้ ตน้ ทุนคงท่ีส่วนใหญ่มกั จะควบคุมไดด้ ว้ ยผบู้ ริหารระดบั สูงเท่าน้นั
1.3.3 ตน้ ทุนผสม (Mixed Costs) หมายถึง ตน้ ทุนท่ีมีลกั ษณะของตน้ ทุนคงท่ีและ
ตน้ ทุนผนั แปรรวมอยู่ดว้ ยกนั ในช่วงของการดาเนินกิจกรรมที่มีความหมายต่อการตดั สินใจโดย
ตน้ ทุนผสมน้ีจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ตน้ ทนุ ก่ึงผนั แปรและตน้ ทนุ ก่ึงคงที่หรือตน้ ทุนเชิงข้นั
1) ตน้ ทุนก่ึงผนั แปร (Semi variable cost) หมายถึง ตน้ ทุนท่ีจะมีตน้ ทุนส่วน
หน่ึงคงที่ทุกระดบั ของกิจกรรมและมีตน้ ทุนอีกส่วนหน่ึงจะผนั แปรไปตามระดบั ของกิจกรรม เช่น
ค่าโทรศพั ท์ ค่าโทรสาร เป็นตน้ อย่างไรก็ตามในบางคร้ังก็เป็นการยากท่ีจะระบุไดว้ า่ ตน้ ทุนส่วน
ใดเป็ นต้นทุนผนั แปร ดังน้ันจึงจาเป็ นตอ้ งใช้เทคนิคในการประมาณตน้ ทุนเข้ามาช่วยในการ
วิเคราะห์ ซ่ึงเทคนิคในการประมาณตน้ ทุนจะไดศ้ ึกษาต่อไปในส่วนของการบญั ชีตน้ ทุนท่ีเก่ียวกบั
การใชข้ อ้ มูลเพ่อื การตดั สินใจ
2) ตน้ ทนุ เชิงข้นั (Step cost) หรือตน้ ทนุ ก่ึงคงท่ี (Semi fixed cost) หมายถึง
ตน้ ทุนท่ีจะมีจานวนคงท่ี ณ ระดบั กิจกรรมหน่ึงและจะเปล่ียนไปคงท่ีในอีกระดบั กิจกรรมหน่ึง
เช่น เงินเดือน ผคู้ วบคุมคนงาน คา่ เช่าบางลกั ษณะ เป็นตน้
1.4 การจาแนกตน้ ทุนตามความสมั พนั ธ์กบั หน่วยตน้ ทนุ
ในการจาแนกต้นทุนลักษณะน้ีเราสามารถที่จะจาแนกได้ 2 ชนิด คือ ต้นทุน
ทางตรง (Direct cost) และตน้ ทนุ ทางออ้ ม (Indirect cost) โดยพิจารณาตามความสามารถท่ีจะระบุ
ไดว้ า่ ตน้ ทุนใดเป็นตน้ ทุนของงานใด แผนกใด หรือเขตการขายใด เป็นตน้
1.4.1 ตน้ ทุนทางตรง (Direct cost) หมายถึง ตน้ ทุนที่ฝ่ ายบริหารสามารถท่ีจะระบุ
ไดว้ า่ ตน้ ทุนใดเป็นของหน่วยตน้ ทุน (Cost Object) ใดนนั่ เอง เช่น วตั ถดุ ิบทางตรงและค่าแรงงาน
ทางตรงท่ีใชใ้ นการผลิตงานผลิตชิ้นใดชิ้นหน่ึง หรือค่าเสื่อมราคาเคร่ืองจกั รในแผนกประกอบก็คือ
ตน้ ทุนทางตรงของแผนกประกอบนน่ั เอง
1.4.2 ตน้ ทุนทางออ้ ม (Indirect cost) หมายถึง ตน้ ทุนร่วม (Common cost)
ท่ีเกิดข้ึนโดยไม่สามารถระบุไดว้ า่ เกิดจากหน่วยตน้ ทุนใด โดยปกติแลว้ ตน้ ทุนทางออ้ มน้ีจะถกู
แบ่งสรรใหแ้ ก่หน่วยตน้ ทุนตา่ ง ๆ ดว้ ยเทคนิควิธีในการจดั สรรตน้ ทนุ (Allocation techniques)
ซ่ึงโดยทวั่ ไปตน้ ทนุ เกี่ยวกบั การผลิตน้นั ตน้ ทนุ ทางออ้ มกห็ มายถึงคา่ ใชจ้ ่ายการผลิตของสินคา้
9
1.5 การจาแนกตน้ ทนุ ตามหนา้ ท่ีงานในสายการผลิต
การดาเนินงานของธุรกิจอุตสาหกรรมต่าง ๆ มกั จะประกอบไปดว้ ยแผนกต่าง ๆ
จานวนมากในสายการผลิตสินคา้ และแต่ละแผนกก็ทาหนา้ ที่งานที่ไดร้ ับมอบหมาย สาหรับกิจการ
ท่ีทาการผลิตสินคา้ เราสามารถท่ีจะจาแนกแผนกตา่ ง ๆ ออกเป็น 2 ลกั ษณะใหญ่ ๆ คือ
1.5.1 ตน้ ทุนแผนกผลิต (Cost of production departments) หมายถึง ตน้ ทุนต่าง ๆ
ท่ีเกี่ยวกบั การทางานของเครื่องจกั ร คนงาน และค่าใชจ้ ่ายอ่ืน ๆ ที่เกิดข้ึนในแผนกผลิตสินคา้ ของ
กิจการ เช่น แผนกตดั แผนกเชื่อม แผนกประกอบ แผนกบรรจุ เป็นตน้
1.5.2 ตน้ ทุนแผนกบริการ (Cost of service departments) หมายถึง ตน้ ทุนตา่ ง ๆ
ที่ไม่เกี่ยวขอ้ งกับการผลิตโดยตรงโดยแผนกต่าง ๆ เหล่าน้ีจะทาหน้าท่ีในด้านการบริการให้แก่
แผนกอ่ืน ๆ เช่น แผนกเงินเดือนและค่าจา้ ง แผนกบุคคล แผนกซ่อมบารุง แผนกธุรการโรงงาน
เป็ นตน้ โดยปกติแลว้ ตน้ ทุนในแผนกบริการส่วนที่เกี่ยวกบั การผลิตก็จะถูกจดั สรรเขา้ แผนกผลิต
ต่าง ๆ เพื่อทาการคานวณหาตน้ ทุนผลิตท่ีเหมาะสม อย่างไรก็ตามการจดั สรรตน้ ทุนจากแผนก
บริการใหแ้ ก่แผนกผลิตกจ็ ะตอ้ งคานึงถึงการท่ีแผนกผลิตไดใ้ ชป้ ระโยชนจ์ ากแผนกบริการน้นั ๆ
1.6 การจาแนกตน้ ทุนตามหนา้ ท่ีงานในกิจการ
การจาแนกตน้ ทุนตามหนา้ ท่ีงานเป็นการพิจารณาตน้ ทุนที่เกิดข้ึนจากการดาเนินงาน
หรือปฏิบตั ิงานของหน้าที่งานต่าง ๆ โดยปกติแลว้ จะสามารถแบ่งหน้าท่ีงานในกิจการต่าง ๆ
ออกเป็น 4 หนา้ ที่การงาน คอื การผลิต การตลาด การบริหาร การเงิน ดงั น้นั ตน้ ทุนที่จะเกิดข้ึน
ในหนา้ ที่งานตา่ ง ๆ กค็ ือ
1.6.1 ต้นทุนท่ีเก่ียวกับการผลิต (Manufacturing costs) ได้แก่ ต้นทุนท่ีมี
ความสัมพนั ธก์ บั การผลิต คือ วตั ถุดิบทางตรง คา่ แรงงานทางตรง และค่าใชจ้ ่ายการผลิต
1.6.2 ต้นทุนที่เก่ียวกับการตลาด (Marketing costs) หมายถึง ต้นทุนต่าง ๆ ท่ี
เก่ียวกบั การส่งเสริมการจาหน่ายสินคา้ หรือบริการ ค่าโฆษณา ค่านายหนา้ พนกั งานขาย
1.6.2 ตน้ ทุนท่ีเก่ียวกบั การบริหาร (Administrative costs) ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนที่เกิดข้ึน
ในลกั ษณะที่เก่ียวกบั การส่ังการ การควบคุม และการดาเนินงานของกิจการ นอกจากน้ียงั รวมถึง
เงินเดือนของผบู้ ริหารและพนกั งานในแผนกต่าง ๆ ท่ีไม่เกี่ยวกบั แผนกผลิต และแผนกขาย
1.6.3 ตน้ ทนุ ทางการเงิน (Financial costs) หมายถึง ตน้ ทุนที่เกิดข้ึนอนั เน่ืองมาจาก
การจดั หาเงินทุน หรือการบริหารเงินทุนของกิจการ เช่น ค่าดอกเบ้ีย คา่ ธรรมเนียมตา่ ง ๆ เป็นตน้
10
1.7 การจาแนกตน้ ทุนตามความสัมพนั ธก์ บั เวลา
1.7.1 ตน้ ทุนในอดีต (Historical cost) หมายถึง ตน้ ทุนที่กิจการไดจ้ ่ายไปจริงตาม
หลกั ฐานอนั เท่ียงธรรมที่ปรากฏ จานวนเงินท่ีกิจการไดจ้ ่ายไปน้นั จึงถือเป็นมูลค่าหรือตน้ ทุนของ
สินค้าหรือสินทรัพยข์ องกิจการในอดีต แต่ต้นทุนในอดีตน้ีอาจจะไม่มีความเหมาะสมในการ
นามาใชเ้ พื่อการตดั สินใจของฝ่ ายบริหารในปัจจุบนั ท้งั น้ีเพราะค่าของเงินในอดีตกบั ในปัจจุบนั
ยอ่ มมีความแตกต่างอนั เนื่องมากจากภาวะเงินเฟ้อและความเจริญทางดา้ นเศรษฐกิจ
1.7.2 ตน้ ทุนทดแทน (Replacement cost) หมายถึง มูลค่าหรือราคาตลาดปัจจุบนั
ของสินทรัพยป์ ระเภทเดียวกนั กบั ที่กิจการใชอ้ ยกู่ ลา่ วอีกนยั หน่ึงก็คือสินทรัพยท์ ี่กิจการเคยซ้ือมาใน
อดีต ถา้ ตอ้ งการท่ีจะซ้ือใหม่ในขณะน้ีจะตอ้ งจ่ายเงินในจานวนเท่าไร ซ่ึงโดยปกติมูลค่าหรือราคา
ตน้ ทุนทดแทนย่อมมีมูลค่าสูงกว่าตน้ ทุนในอดีต ท้งั น้ีอาจจะเป็ นเพราะการเกิดภาวะเงินเฟ้อส่วน
หน่ึงและจากการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยขี องสินทรัพยเ์ พื่อให้มีประสิทธิภาพการทางานที่สูงข้ึน
ส่วนหน่ึง
1.7.3 ตน้ ทุนในอนาคต (Future cost) หมายถึง ตน้ ทุน หรือค่าใชจ้ ่ายท่ีกิจการคาด
ว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต จากการตดั สินใจเรื่องใดเรื่องหน่ึงของผูบ้ ริหาร ซ่ึงตน้ ทุนในอนาคตน้ัน
อาจจะได้มาจากการประมาณการหรือการพยากรณ์ก็เป็ นได้บ่อยคร้ังที่ต้นทุนในอนาคตจะถูก
นามาใชใ้ นการวางแผน ฉะน้ันการประมาณตน้ ทุนในอนาคตจึงตอ้ งทาดว้ ยความระมดั ระวงั และ
รอบคอบ
1.8 การจาแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะของความรับผดิ ชอบ
1.8.1 ตน้ ทุนท่ีควบคุมได้ (Controllable cost) หมายถึง ตน้ ทุนหรือค่าใช้จ่ายที่
สามารถระบุหรือกาหนดไดว้ า่ หน่วยงานใดหรือบุคคลใดบุคคลหน่ึงเป็นผรู้ ับผดิ ชอบโดยตรง กล่าว
อีกนยั หน่ึงก็คือมีอานาจ หนา้ ที่ หรือมีความสามารถท่ีจะทาให้ตน้ ทนุ จานวนน้นั เพิม่ ข้นึ หรือลดลง
จากการตดั สินใจของตน ซ่ึงถา้ จะพิจารณาให้มากข้ึนก็พอที่จะสรุปได้ว่าตน้ ทุนที่ควบคุมไดใ้ น
หน่วยงานหรือผูบ้ ริหารคนใดคนหน่ึงก็อาจจะเป็ นต้นทุนที่ควบคุมไม่ได้ในอีกหน่วยงานหรือ
ผบู้ ริหารอีกคนหน่ึงกไ็ ด้
1.8.2 ตน้ ทุนท่ีควบคุมไม่ได้ (Uncontrollable Cost) หมายถึงตน้ ทุนหรือค่าใชจ้ ่าย
ท่ีไม่อยู่ภายใตอ้ านาจหน้าที่ หน่วยงานหรือผูบ้ ริหารในระดบั น้ัน ๆ จะควบคุมไวไ้ ดน้ ่ัน คือไม่
สามารถที่จะกาหนดตน้ ทุนประเภทน้ีให้เพิ่มข้ึนหรือลดลงได้ โดยปกติตน้ ทุนที่ควบคุมไม่ไดข้ อง
ผบู้ ริหารระดบั ลา่ งกม็ กั จะเกิดจากการตดั สินใจของผบู้ ริหารระดบั สูง นน่ั เอง
11
1.9 การจาแนกตน้ ทนุ ตามลกั ษณะของการวิเคราะหป์ ัญหาเพื่อตดั สินใจ
ในการดาเนินธุรกิจผูบ้ ริหารมกั จะตอ้ งประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายและท่ีสาคญั ก็
คือ ผบู้ ริหารจะตอ้ งพยายามทาการตดั สินใจแกไ้ ขปัญหาหรือเลือกทางเลือกท่ีดีท่ีสุด ขอ้ มลู ทางดา้ น
ตน้ ทุนท่ีเขา้ มามีบทบาทในการตดั สินใจจึงมกั จะถกู จาแนกเป็น
1.9.1 ต้นทุนจม (Sunk Cost) หมายถึง ตน้ ทุนที่หลีกเล่ียงไม่ได้ (Unavoidable
Cost) หรือไม่สามารถท่ีจะทาการเปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าผู้บริหารจะทาการตัดสินใจอย่างไร
ดังน้ัน ต้นทุนจมจึงเป็ นตน้ ทุนที่เกิดข้ึนจากการตัดสินใจในอดีต ซ่ึงจะไม่มีผลกระทบต่อการ
ตดั สินใจในปัจจุบนั เช่น ค่าเช่าที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาว ค่าเสื่อมราคาสินทรัพยป์ ระจา เป็นตน้
ถึงแมว้ า่ ตน้ ทุนจมจะไมม่ ีผลตอ่ การตดั สินใจในปัจจุบนั แตผ่ บู้ ริหารก็ควรท่ีจะทาการตดั สินใจเลือก
ทางเลือกที่สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากตน้ ทุนจมใหไ้ ดม้ ากที่สุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้
1.9.2 ตน้ ทุนที่หลีกเลี่ยงได้ (Avoidable Cost) หมายถึง ตน้ ทุนท่ีสามารถประหยดั
ได้จากการตดั สินใจเลือกทางใดทางหน่ึง ตน้ ทุนท่ีหลีกเล่ียงได้มกั จะมีบทบาทที่สาคัญต่อการ
ตดั สินใจของผบู้ ริหารเสมอ
1.9.3 ตน้ ทุนเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนท่ี
กิจการจะไดร้ ับจากการตดั สินใจเลือกทางเลือกหน่ึงแต่กบั ตอ้ งสูญเสียไปจากการที่เลือกตดั สินใจใน
อีกทางเลือกหน่ึง เช่น ถา้ กิจการมีเงินจานวนหน่ึงและสามารถนาไปฝากธนาคารไดด้ อกเบ้ียปี ละ
20,000 บาท แต่ถา้ กิจการตอ้ งการนาเงินที่มีอยู่น้ันไปลงทุนทาธุรกิจ การท่ีกิจการเลือกลงทุนทา
ธุรกิจทาใหส้ ูญเสียดอกเบ้ียท่ีจะไดร้ ับ 20,000 บาท ถือวา่ ถา้ กิจการเลือกทาธุรกิจก็จะมีตน้ ทุนเสีย
โอกาสเกิดข้นึ 20,000 บาท โดยปกติตน้ ทนุ เสียโอกาสจะไม่มีการบนั ทึกลงบญั ชีของกิจการเพราะ
มิไดเ้ ป็นตน้ ทุนท่ีเกิดข้ึนจริง แต่เป็นตน้ ทนุ ท่ีถูกสมมติเพ่ือการตดั สินใจ
1.9.4 ต้นทุนส่วนท่ีแตกต่าง (Differential Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีเกิดการ
เปลี่ยนแปลงไปจากการตดั สินใจเลือกกระทาอย่างใดอย่างหน่ึง ซ่ึงอาจจะเปล่ียนแปลงในทาง
เพมิ่ ข้นึ หรือลดลงกไ็ ด้ (Incremental Cost or Decremental Cost) โดยปกติตน้ ทนุ ประเภทน้ีจะเกิดก็
ต่อเม่ือมีการเปล่ียนแปลงวิธีการปฏิบตั ิแบบเดิมมาเป็ นวิธีการปฏิบตั ิแบบใหม่ เช่น ถา้ ผูบ้ ริหาร
กาลงั ทาการตดั สินใจว่าควรที่จะซ้ือเคร่ืองจกั รรุ่นใหม่เขา้ มาทาการผลิตแทนเครื่องจกั รเก่าท่ีมีอยู่
หรือไม่ ท้งั น้ีเครื่องจกั รใหม่อาจจะตอ้ งลงทุนสูง แต่ก็สามารถท่ีจะประหยดั ตน้ ทุนผนั แปรต่อ
หน่วยลงไปได้ ซ่ึงผบู้ ริหารจะตอ้ งทาการตดั สินใจโดยพิจารณาจากตน้ ทุนส่วนท่ีแตกต่างรวมสุทธิ
(Net Total Differential Cost)
12
1.9.5 ตน้ ทุนเพิ่มต่อหน่วย (Marginal Cost) หมายถึง ตน้ ทุนท่ีจะเพ่ิมข้ึนจากการ
ผลิตเพ่ิมข้ึนหน่ึงหน่วย ซ่ึงมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกบั ตน้ ทุนส่วนเพ่ิม (Incremental Cost) แต่ตน้ ทุน
ส่วนเพิ่มต่อหน่วยเป็นการพิจารณาส่วนท่ีเพิ่มจากการเพิ่มของการผลิตเพียง 1 หน่วย ตามท่ีกล่าว
แลว้ ช่วยผบู้ ริหารเพ่อื การตดั สินใจไดเ้ ช่นกนั
2.2 หลกั การแนวคิดเกยี่ วกบั ผลตอบแทน
2.2.1 ผลประโยชน์หรือผลตอบแทน (Benefits) ของการลงทุน หมายถึงมูลค่าของสินคา้
หรือบริการท่ีผลิตได้จากการลงทุน ประกอบด้วย ผลตอบแทนทางตรง ผลตอบแทนทางออ้ ม
และผลตอบแทนท่ีไม่มีตวั ตน
2.2.2 ผลตอบแทนทางตรง (Direct Benefits) คือ ผลผลิตสุทธิของการลงทุน ซ่ึง
หมายถึง มูลค่าของสินคา้ และบริการที่ผลิตได้โดยตรงจากการลงทุน นอกจากน้ียงั หมายถึงการ
ประหยดั และการลดค่าใชจ้ ่ายจากท่ีเคยมีอยู่
2.2.3 ผลตอบแทนทางออ้ ม (Indirect Benefits) คอื ผลประโยชน์ตอบแทนอ่ืน ๆ
ท่ีนอกเหนือจากผลประโยชน์ตอบแทนทางตรง นอกจากน้ียงั รวมถึงผลประโยชน์ตอบแทนดา้ น
สังคมและสิ่งแวดลอ้ มตา่ ง ๆ เช่น โครงการน้นั อาจกลายเป็นแหล่งท่องเท่ียวที่สวยงามก่อใหเ้กิดการ
ขยายตวั ของการท่องเท่ียวในพ้ืนที่ท่ีโครงการต้งั อยเู่ ป็นตน้
2.2.4 ผลตอบแทนที่ไม่มีตวั ตน (Intangible Benefits) คือ ผลตอบแทนที่ไม่สามารถ
ประเมินมลู ค่าเป็นตวั เงินได้ เช่น การลงทนุ น้นั อาจมีส่วนช่วยยกระดบั คุณภาพชีวติ และการกระจาย
รายไดใ้ หม้ ีความยตุ ิธรรมมากข้ึน เป็นตน้
2.2.5 ค่าเสียโอกาสของทุน (Opportunity Cost of Capital) คอื ถา้ มีการกาหนดใหต้ ลาด
ทุน (Capital Market) ท่ีมีอยู่สามารถนาเงินตราหรือทรัพยากรไปลงทุนเพ่ือสร้างเงินตราให้มี
จานวนมากข้ึนในอนาคตแล้ว สามารถกล่าวได้ว่าค่าเสียโอกาสของการออมได้เกิดข้ึนแล้ว
ทางเลือกต่อการบริโภคในปัจจุบนั คือ การใช้เงินทุนหรือทรัพยากรไปในทางท่ีก่อให้เกิดรายได้
ในอนาคต ซ่ึงอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมีมลู ค่าเทา่ กบั เงินตราในปัจจุบนั ท่ีเกิดจากการลงทุนในรูปแบบอ่ืน
13
2.3 เอกสารงานวิจัยท่ีเกย่ี วข้อง
สุธีรา สิทธิกุล. (2547). ทาการวิจยั เรื่อง ปัจจยั ที่มีผลต่อการตดั สินใจเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั ของเกษตรกรในอาเภอเส้าไห้ จงั หวดั สระบุรี โดยใชก้ ารวิจยั เชิงสารวจและวิเคราะห์เชิง
สถิติพรรณนา ประชากรท่ีใชศ้ ึกษาคือเกษตรผูเ้ ล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ใน อาเภอเส้าไห้ จงั หวดั สระบุรี
ที่ไดร้ ับการส่งเสริมจากบริษทั เจริญโภคภณั ฑ์อาหารจากดั (มหาชน) โดยการเลือกตวั อย่างท่ีไม่ใช่
ความน่าจะเป็ น (Non-probability sampling) และใช้วิธีการสุ่มตวั อย่างแบบ เจาะจง (Purposive
sampling) คือเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายท้งั หมดจานวน 46 คน ผลการวิจยั พบว่า สามารถสรุปได้
เป็น 2 ประเด็นหลกั ดงั น้ี ประเด็นที่หน่ึงปัจจยั ภูมิหลงั ของเกษตรกร สรุปว่าส่วนใหญ่เกษตรกร
เป็ นเพศชายมีอายุอยู่ระหว่าง 40 ปี หรือต่ากว่า ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรสและเป็ น หัวหน้า
ครอบครัวในครอบครัวส่วนใหญ่จะมีสมาชิกในครัวเรือน 5 คน โดยจบการศึกษาในระดบั มธั ยม
ปลายหรือเทียบเท่า นอกจากน้นั ยงั เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เป็ นอาชีพหลกั และไม่ได้ ประกอบ
อาชีพอะไรเป็ นอาชีพรอง เกษตรกรส่วนใหญ่เป็ นคนในทอ้ งท่ีต้งั แต่เกิดลกั ษณะการถือครองที่ดิน
ส่วนใหญ่จะมีที่ดินเป็นของตวั เองและมีประสบการณ์ในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั อยู่ ในช่วง
1 – 3 ปี โดยมีรายไดจ้ ากการเล้ียงปลาทบั ทิมอยรู่ ะหวา่ ง 500,001 - 600,000 บาทต่อปี และมีรายจ่าย
จากการเล้ียงปลาทบั ทิมอยรู่ ะหวา่ ง 400,001 - 500,000 บาทต่อปี
นพกร พุทธิวิโรจน์วงศ์ และนิธิวดี บุญมาก. (2549). ทาการวิจยั เร่ืองแนวทางการ
จดั การการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั กรณีศึกษาในอาเภอห้วยและอาเภอเมือง จงั หวดั ตรัง เพื่อ
ศึกษาการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั บริเวณอาเภอหว้ ยยอดและอาเภอเมือง จงั หวดั ตรัง โดยทาการ
สมั ภาษณ์ผปู้ ระกอบการเล้ียงจานวน 16 ราย พบวา่ ทาการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เป็นอาชีพเสริม
ซ่ึงในการเล้ียงส่วนใหญ่ใช้เงินทุนส่วนตวั ร่วมกบั เงินกู้ โดยการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั น้ีมีการ
แบง่ ขนาดฟาร์มออกเป็น 3 ขนาดคอื ฟาร์มขนาดเลก็ (1 - 5 กระชงั ) ฟาร์มขนาดกลาง (6 - 10 กระชงั )
และฟาร์มขนาดใหญ่ (11 กระชงั ข้ึนไป) โดยที่ฟาร์มขนาดเลก็ และฟาร์มขนาดกลางน้นั ใชไ้ มเ้ ป็ น
โครงกระชงั ส่วนฟาร์มขนาดใหญใ่ ชเ้ หลก็ เป็นโครงกระชงั จึงมีตน้ ทุนคงท่ีในการสร้างกระชงั แต่ละ
กระชงั ท่ีแตกตา่ งกนั ดงั น้นั จึงมีตน้ ทนุ คงที่ของฟาร์มขนาดเลก็ ฟาร์มขนาดกลาง และฟาร์มขนาดใหญ่
เฉล่ีย 5,256 , 5,076 และ 6,486 บาท/กระชงั ตามลาดบั และตน้ ทุนผนั แปรในการเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั เฉล่ีย 38,637 , 37,775 และ 37,099 บาท กระชงั /รุ่น ตามลาดบั โดยไดร้ ับกาไรข้นั ตน้
จากการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เฉลี่ย 19,081 , 21,086 และ 18,291 บาท กระชงั /รุ่น ตามลาดบั
14
ผลการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์พบว่า ฟาร์มขนาดกลาง มีจุดคุม้ ทุน (BEP) 225.60 ก.ก./ปี
ระยะเวลาคืนทุน (PB) 11 เดือน 16 วนั อตั ราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ร้อยละ 87.72
มลู ค่าปัจจุบนั สุทธิ (NPV) 85,567.07 บาท ฟาร์มขนาดกลางมีความเหมาะสมต่อการเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั มากท่ีสุด และอาชีพการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เป็นอาชีพหน่ึงท่ีสามารถเสริมรายได้
ใหแ้ ก่เกษตรกรอีกทางหน่ึง ซ่ึงควรท่ีจะไดร้ ับการดูแลจากภาครัฐในเรื่อง แหล่งลูกพนั ธุ์ วิธีการเล้ียง
การตลาดปลาทบั ทิมและแหลง่ น้าท่ีใชใ้ นการเล้ียงตลอดจนการพฒั นาระบบการเล้ียงเพ่ือความยง่ั ยืน
ตลอดไป
วิทวนั เชาวลาห์. (2547). ทาการวิจยั เร่ืองการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์การผลิตปลาทบั ทิม
ในจงั หวดั ชยั นาท ปี การผลิต 2546 เพ่ือหาประสิทธิภาพของการใชป้ ัจจยั ที่เหมาะสมโดยใชส้ มการ
การผลิตแบบคอบบ์ - ดักลาสและการเลือกใช้ขนาดกระชังท่ีให้ผลตอบแทนสูงสุด สาหรับ
การศึกษาคร้ังน้ี ใช้ขอ้ มูลปฐมภูมิเป็ นหลกั ซ่ึงได้จากการสารวจเกษตรกรจานวน 52 รายใน
จงั หวดั ชัยนาท ปี การผลิต 2546 เกตรกรเหล่าน้ีได้ถูกจาแนกออกเป็ นกลุ่มตามขนาดกระชังท่ี
เลือกใชโ้ ดยกลุ่มท่ี 1 ใชก้ ระชงั 3x3x2.5 เมตรแลว้ นามาเปรียบเทียบตน้ ทนุ ผลตอบแทนจุดคุม้ ทุน
และการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการใช้ปัจจยั ผลการวิจยั พบว่าในดา้ นการพิจารณาต้นทุน
ผลตอบแทนและจุดคุ้มทุนของกลุ่มตวั อย่างท้งั สองพบว่ากลุ่มที่ 2 มีรายได้สุทธิกาไรสุทธิและ
รายได้เหนือต้นทุนท่ีเป็ นเงินสดมากกว่าเกษตรกรกลุ่มท่ี 1 โดยต้นทุนที่เป็ นเงินสดมากกว่า
เกษตรกรกลุ่มท่ี 1 โดยตน้ ทุนท่ีเป็นเงินสดของท้งั สองกลุ่มส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารปลา ส่วนตน้ ทุน
ที่ไม่เป็ นเงินสดส่วนใหญ่เป็นค่าแรงงานในการเล้ียงปลา ในดา้ นระดบั ผลผลิตคุม้ ทุนกลุ่มที่ 2 มี
ผลผลิตคุม้ ทุน 51.33 กิโลกรัมต่อตารางเมตร กลุ่มท่ี 1 มีผลผลิตคุม้ 96 ทุน 62.83 กิโลกรัมต่อ
ตารางเมตร ระดบั ราคาคุม้ ทุนอยู่ท่ี 35.70 บาทต่อกิโลกรัม ในกลุ่มที่ 2 และท่ี 48.09 บาทต่อ
กิโลกรัม ในกลุ่มที่ 1 ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพทางเทคนิคในการใช้ปัจจัยการผลิตของ
เกษตรกรท้งั สองกลุ่ม ปริมาณอาหารปลามีประสิทธิภาพทางเทคนิคสูงสุดโดยมีค่าความยืดหยุ่น
เท่ากบั 2.5799 ในกลุ่มที่ 2 เท่ากบั 0.0215 ในกลุ่มท่ี 1 ในดา้ นผลการศึกษาประสิทธิภาพทาง
เศรษฐกิจพบวา่ กลุ่มท่ี 2 มีอตั ราส่วนระหวา่ งมลู ค่าผลผลิตเพิ่มกบั ตน้ ทนุ เพมิ่ ของจานวนพนั ธุ์
ปลาทบั ทิม ปริมาณอาหาร มูลค่ายาปฏิชีวนะ มูลค่าวิตามินซีและจานวนแรงงานคนเท่ากบั -3.05
3.57 4.19 -7.24 และ 0.53 ตามลาดบั เกษตรกรจึงควรเพ่ิมปริมาณอาหารปลา มูลค่ายาปฏิชีวนะ
และลดจานวนพนั ธุ์ปลาทบั ทิม มูลค่าวิตามินซี และจานวนแรงงานคนเพื่อท่ีจะได้รับกาไรสูงสุด
ในกลุ่มที่ 1 มีอตั ราส่วนระหว่างมูลค่าผลผลิตเพิ่มกับต้นทุนเพ่ิมของจานวนพันธุ์ปลาทับทิม
ปริมาณอาหารและจานวนแรงงานคน มีค่าเท่ากบั -0.76 0.26 และ 0.05 ตามลาดบั เกษตรกรจึง
15
ควรลดจานวนพนั ธุ์ปลาทบั ทิม ปริมาณอาหารและจานวนแรงงานคน เพื่อท่ีจะได้รับกาไรสูงสุด
ดงั น้นั ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใชป้ ัจจยั ต่าง ๆ ในการผลิตปลาทบั ทิมของท้งั สอง
ขนาดกระชงั แสดงใหเ้ ห็นวา่ เกษตรกรกลุ่มที่ 2 ไดผ้ ลตอบแทนคุม้ คา่ กวา่ กลุ่มท่ี 1
2.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา
ตน้ ทนุ ตน้ ทุนตามส่วนประกอบการเล้ียงปลาในกระชงั
ผลตอบแทน 1. ค่าวตั ถุดิบ
2. ค่าแรงงาน
3. ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต
กาไร (ขาดทุน) จากการเล้ียงปลาในกระชงั
รายไดจ้ ากการจาหน่ายปลาทบั ทิม
หกั ตน้ ทุนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
กาไรข้นั ตน้
การวเิ คราะหต์ น้ ทุนและผลตอบแทน
โครงสร้างตน้ ทุนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั อตั ราผลตอบแทน
- อตั รากาไรต่อตน้ ทุน
- อตั รากาไรตอ่ ยอดขาย
บทที่ 3
วิธีดำเนินกำรศึกษำ
การดาเนินการศึกษาคร้ังน้ี เพ่ือจดั ทาโครงงานศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียง
ปลาทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกรผูเ้ ล้ียงปลาในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยานยาว
อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร ซ่ึงผจู้ ดั ทาโครงงานไดด้ าเนินการศึกษาลาดบั ข้นั ดงั น้ี
3.1 กลมุ่ เป้าหมายท่ีใชใ้ นการศึกษา
3.2 เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการศึกษา
3.3 วิธีดาเนินการศึกษา
3.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
3.5 การวิเคราะหข์ อ้ มลู
3.6 สถิติท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู
3.1 กลุ่มเป้ำหมำยทใ่ี ช้ในกำรศึกษำ
กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในโครงงานศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาในกระชงั
ไดแ้ ก่ เกษตรกรผูเ้ ล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลย่านยาว อาเภอเมือง
จงั หวดั พิจิตร จานวน 3 ครัวเรือนโดยพิจารณาจากเกษตรกรท่ีเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ต้งั แต่
3 ปี ข้ึนไป จานวน 1 ครัวเรือน
3.2 เครื่องมือทีใ่ ชในกำรศึกษำ
เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการศึกษา ไดแ้ ก่ แบบสอบถามขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตน้ ทุนและผลตอบแทน
การเล้ียงปลาทบั ทินในกระชงั
17
3.3 วิธีดำเนินกำรศึกษำ
ผจู้ ดั ทาโครงงานไดด้ าเนินการศึกษาตามข้นั ตอนตา่ ง ๆ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี
การสร้างแบบสอบถามปัญหาในการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั ของเกษตรกรบา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร ในการ
ประเมินผลและในการติดตามผล มีดงั น้ี
3.3.1 แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการเล้ียง
ปลาทบั ทิมในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร
3.3.2 แบบสอบถามน้ีใชส้ าหรับเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพ่อื การศึกษาเท่าน้นั การวิเคราะห์
ขอ้ มูลจะปรากฏเป็ นภาพรวม จะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิและสถานภาพท่านท้งั ทางตรงและ
ทางออ้ มแต่จะเป็ นประโยชน์อย่างย่ิงต่อการนาไปใช้เป็ นขอ้ มูลในการบริหารตน้ ทุนการเล้ียง
ปลาทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกร
3.3.3 แบบสอบถามฉบบั น้ีแบ่งเป็น 3 ตอน ไดแ้ ก่
ตอนท่ี 1 สอบถามสถานภาพและขอ้ มูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
ตอนท่ี 2 สอบถามขอ้ มูลเก่ียวกบั การเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกร
ตอนท่ี 3 สอบถามขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตน้ ทุนและผลตน้ ทุนและผลตอบแทนของการ
เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
3.4 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล
ผจู้ ดั ทาโครงงานไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยดาเนินตามข้นั ตอน ดงั น้ี
3.4.1 นาเสนอแบบสอบถามแจกให้กบั เกษตรกรกลุ่มผูเ้ ล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร จานวน 1 ฉบบั
18
3.5 กำรวิเครำะห์ข้อมูล
ผศู้ ึกษาไดด้ าเนินการวิเคราะหข์ อ้ มูลดงั น้ี
3.5.1 การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากแบบสอบถามมา
ตรวจสอบความสมบูรณ์ แปลงขอ้ มลู และทาการประมวลผลโดยใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์
สาเร็จรูป
3.5.2 การวิเคราะห์ขอ้ มลู เชิงคุณภาพ ในการวเิ คราะหเ์ น้ือหาประกอบดว้ ย 4 ข้นั ตอน
ไดแ้ ก่ การตีความขอ้ มูล (Interpretation Data) การเปรียบเทียบขอ้ มูล (Comparison Data)
การสงั เคราะห์ขอ้ มูล (Synthesis Data) และการสรุปผล (Conclusion)
3.6 สถติ ิทใ่ี ช้ในกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล
สถิติที่ใชอ้ ธิบายลกั ษณะขอ้ มลู ท่ีรวยรวม ไดแ้ ก่
3.6.1 ค่าความถี่ (Frequency)
3.6.2 คา่ ร้อยละ (Percentage)
บทท่ี 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การดาเนินการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกร
ผเู้ ล้ียงปลาในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร เกบ็ รวบรวม
ขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบถาม ผศู้ ึกษานาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามลาดบั ดงั น้ี
4.1 ขอ้ มูลสถานภาพทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
4.2 ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
4.1 ข้อมูลสถานภาพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
4.1.1 ขอ้ มูลสถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม
การศึกษาคร้ังน้ี ผศู้ ึกษาไดเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากกลุ่มตวั อย่างท่ีเป็นกลมุ่ เป้าหมาย
จานวน 1 ครัวเรือน ซ่ึงผูศ้ ึกษาไดน้ ามาวิเคราะห์ขอ้ มูลสถานภาพทวั่ ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม
เก่ียวกบั เพศ อายุ ระดบั การศึกษา แหล่งเงินทุน ภาระหน้ีสิน และขอ้ มูลเก่ียวกบั การเล้ียงปลา
ทบั ทิมในกระชงั ดงั ท่ีแสดงในตารางท่ี 4.1.1 – 4.1.14
ตารางท่ี 4.1.1 แสดงจานวนและคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามเพศ
รายการ จานวน ร้อยละ
ชาย 1 100
หญิง --
รวม 1 100
จากตารางที่ 4.1.1 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามเป็ นเพศชายจานวน 1 คน คิดเป็ น
ร้อยละ 100
20
ตารางที่ 4.1.2 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามอายุ
รายการ จานวน ร้อยละ
--
ต่ากวา่ 20 ปี --
21 – 30 ปี 1 100
31 – 40 ปี --
41 – 50 ปี --
51 – 60 ปี --
60 ปี ข้ึนไป 1 100
รวม
จากตารางที่ 4.1.2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมีอายุ 31 – 40 ปี มีจานวน 1 คน คิดเป็น
ร้อยละ 100
ตารางท่ี 4.1.3 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม จาแนกตามระดบั
การศึกษา
รายการ จานวน ร้อยละ
ต่ากวา่ ประถมศึกษาตอนตน้ (ป.4) --
ประถมศึกษาตอนตน้ (ป.4) --
ประถมศึกษาตอนปลาย(ป.6) --
มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.3) --
มธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.6) 1 100
รวม 1 100
จากตารางท่ี 4.1.3 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามจบระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)
จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 100
21
ตารางท่ี 4.1.4 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม จาแนกตาม
แหล่งเงินทุน
รายการ จานวน ร้อยละ
เงินทนุ ส่วนตวั 1 100
ธนาคาร / สหกรณ์ --
กองทุนหมบู่ า้ น --
นายทนุ --
ญาติพน่ี อ้ ง --
รวม 1 100
จากตารางท่ี 4.1.4 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามใช้เงินทุนส่วนตวั จานวน 1 คน คิดเป็ น
ร้อยละ 100
ตารางที่ 4.1.5 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม จาแนกตาม
ภาระหน้ีสิน
รายการ จานวน ร้อยละ
ไมม่ ีหน้ีสิน --
ต่ากวา่ 10,000 บาท 1 100
10,001 – 50,000 บาท --
50,001 – 100,000 บาท --
100,001 – 150,000 บาท --
150,001 – 200,000 บาท --
200,000 บาทข้นึ ไป --
รวม 1 100
จากตารางท่ี 4.1.5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมีภาระหน้ีสินต่ากวา่ 10,000 บาท จานวน
1 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
22
ตารางท่ี 4.1.6 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม ตามพ้ืนที่ที่ใช้
ในการเล้ียงปลา
แมน่ ้า รายการ จานวน ร้อยละ
สระน้า รวม 1 100
อา่ งเกบ็ น้า --
อ่ืน ๆ ระบุ --
--
1 100
จากตารางท่ี 4.1.6 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามใชแ้ ม่น้าเป็ นพ้ืนท่ีในการเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
ตารางที่ 4.1.7 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม ตามลกั ษณะ
โครงกระชัง
รายการ จานวน ร้อยละ
โครงเหลก็ ลว้ น 1 100
โครงเหลก็ เสริมไมไ้ ผ่ --
โครงไมไ้ ผล่ ว้ น --
รวม 1 100
จากตารางท่ี 4.1.7 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามใช้โครงเหล็กลว้ นจานวน 1 คน คิดเป็ น
ร้อยละ 100
23
ตารางที่ 4.1.8 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามการซ้ือพนั ธุ์ปลา
รายการ จานวน ร้อยละ
--
สถานีประมง 1 100
ฟาร์มทวั่ ไป --
อ่ืน ๆ 1 100
รวม
จากตารางที่ 4.1.8 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามซ้ือพนั ธุ์ปลาจากฟาร์มทว่ั ไปจานวน 1 คน
คดิ เป็นร้อยละ 100
ตารางท่ี 4.1.9 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามจานวนกระชงั
ท่ีเล้ียงปลา
รายการ จานวน ร้อยละ
1 100
30 กระชงั 1 100
รวม
จากตารางท่ี 4.1.9 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามเล้ียงปลาในกระชังจานวน 30 กระชัง
จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 100
ตารางท่ี 4.1.10 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม ตามอาหารท่ี
ใช้ในการเล้ียงปลา
รายการ จานวน ร้อยละ
อาหารสาเร็จรูป 1 100
อาหารผลิตเองหรืออาหารเสริม --
รวม 1 100
จากตารางที่ 4.1.10 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามใช้อาหารสาเร็จรูปในการเล้ียงปลาใน
กระชงั จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
24
ตารางที่ 4.1.11 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามการใหอ้ าหารเสริม
รายการ จานวน ร้อยละ
ให้ --
ไมใ่ ห้ 1 100
รวม 1 100
จากตารางที่ 4.1.11 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามไมใ่ หอ้ าหารเสริมอยา่ งอื่นในการเล้ียงปลา
ในกระชงั จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
ตารางท่ี 4.1.12 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามการให้อาหารปลา
รายการ จานวน ร้อยละ
--
1 คร้ัง --
2 คร้ัง --
3 คร้ัง 1 100
4 คร้ัง 1 100
รวม
จากตารางที่ 4.1.12 พบว่าผตู้ อบแบบสอบถามให้อาหารปลาวนั ละ 4 คร้ังจานวน 1 คน
คดิ เป็นร้อยละ 100
ตารางที่ 4.1.13 แสดงจานวนและค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามการซ้ือพนั ธุป์ ลา
รายการ จานวน ร้อยละ
4 เดือน 1 100
รวม 1 100
จากตารางท่ี 4.1.13 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามใช้ระยะเวลาในการเล้ียงปลาทบั ทิมใน
กระชงั จนจาหน่ายเป็นระยะเวลา 4 เดือน จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 100
25
ตารางท่ี 4.1.14 แสดงจานวนและคา่ ร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม ตามการปล่อยปลา
ลงเล้ียงในกระชงั
รายการ จานวน ร้อยละ
1 100
1,500 ตวั 1 100
รวม
จากตารางที่ 4.1.14 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามจะปล่อยปลาลงเล้ียงในกระชัง
จานวน 1,500 ตวั จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 100
4.2 ข้อมูลเกย่ี วกบั ต้นทนุ และผลตอบแทนการเลยี้ งปลาทบั ทิมในกระชัง
4.2.1 ตน้ ทุนเก่ียวกบั ตน้ ทนุ ในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
การศึกษาตน้ ทนุ การเล้ียงปลาในกระชงั ของกลุ่มเกษตรกร หมู่ 4 บา้ นหนองยาว
ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร ผศู้ ึกษาได้เก็บรวบรวมขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อย่างจานวน
1 ครัวเรือน ซ่ึงทาการเล้ียงปลาในกระชงั โดยพิจารณาจากเกษตรกรท่ีเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
ต้ังแต่ 3 ปี ข้ึนไปโดยต้นทุนในการเล้ียงปลาในกระชังแบ่งตามส่วนประกอบของการเล้ียง
ประกอบดว้ ย คา่ วตั ถุดิบ คา่ แรงงาน และค่าใชจ้ ่ายนการผลิต ดงั แสดงในตารางท่ี 4.2.1 – 4.2.7
ตารางที่ 4.2.1 แสดงการแบ่งประเภทต้นทนุ ท่ีทาการศึกษา
ค่าวตั ถดุ ิบ คา่ แรงงาน คา่ ใชจ้ ่ายการผลิต
1. คา่ พนั ธุป์ ลา 1. คา่ แรงงาน 1. คา่ ไฟฟ้า
2. ค่าอาหารรุ่นที่ 1
3. ค่าอาหารรุ่นที่ 2
4. ค่าอาหารรุ่นที่ 3
5. คา่ ยา
6. คา่ เสื่อมราคา
26
ตารางที่ 4.2.2 แสดงตน้ ทนุ ค่าวตั ถุดิบในการเล้ียงปลาในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น
ท่ี รายการ จานวน (หน่วย) จานวน (บาท)
157,500
1 คา่ พนั ธุ์ปลา 45,000 ตวั 157,500
ตน้ ทุนค่าวตั ถดุ ิบเฉลี่ยต่อรุ่น
จากตารางที่ 4.2.2 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลตน้ ทุนวตั ถุดิบในการเล้ียงปลาทบั ทิมใน
กระชงั เฉล่ียตอ่ รุ่น พบวา่ คา่ วตั ถดุ ิบในการผลิตเฉลี่ย 157,500 บาทตอ่ รุ่น
ตารางที่ 4.2.3 แสดงตน้ ทนุ คา่ แรงงานในการเล้ียงปลาในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น
ท่ี รายการ จานวน (เดือน) จานวน (บาท)
12,000
1 ค่าแรงงาน 4 เดือน 12,000
ตน้ ทนุ คา่ วตั ถดุ ิบเฉล่ียต่อรุ่น
หมายเหตุ กาหนดค่าแรงงานในการเล้ียงปลาในกระชงั อตั ราเกี่ยวกบั การจา้ งแรงงานในทอ้ งถิ่น
จากตารางที่ 4.2.4 แสดงผลขอ้ มูลค่าแรงงานเฉลี่ยต่อเดือนในการเล้ียงปลาในกระชัง
3,000 บาทตอ่ เดือน
27
ตารางท่ี 4.2.5 แสดงขอ้ มูลคา่ เส่ือมราคาและอุปกรณ์
ที่ รายการ อายกุ ารใชง้ าน ค่าเสื่อมราคา
1 อวน 2 ปี 2,500
2 ถงั แกลอน 10 ปี 55,000
3 เหลก็ 8 ปี 400
4 ลิฟท์ (ใชจ้ บั ปลาและใส่อาหาร) 10 ปี 5,000
62,900
ค่าเสื่อมราคารวม
จากตารางท่ี 4.2.5 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลค่าเสื่อมราคาและอุปกรณ์ พบว่าอนั ดบั
แรกคอื ถงั แกลอน อายกุ ารใชง้ าน 10 ปี คา่ เสื่อมราคา 55,000 บาท รองลงมาคอื ลิฟท์
อายกุ ารใชง้ าน 10 ปี คา่ เส่ือมราคา 5,000 บาท อวน อายกุ ารใชง้ าน 2 ปี คา่ เส่ือมราคา
2,500 บาท และเหล็ก อายุการใช้งาน 8 ปี ค่าเสื่อมราคา 400 บาท จึงทาให้ค่าเส่ือมราคามี
ตน้ ทุนเฉล่ีย 62,900 บาทต่อรุ่น
ตารางท่ี 4.2.6 แสดงตน้ ทุนคา่ ใชจ้ ่ายในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เฉล่ียตอ่ รุ่น
ท่ี รายการ จานวน (หน่วย) จานวน (บาท)
15,000
1 คา่ ไฟฟ้า 4 เดือน 6,200
9,300
2 ค่าอาหารรุ่นที่ 1 10 ลกู 24,000
75,000
3 คา่ อาหารรุ่นที่ 2 15 ลูก 62,900
192,400
4 คา่ อาหารรุ่นที่ 3 40 ลกู
5 ค่ายา 30 ลงั
6 ค่าเส่ือมราคา
ตน้ ทนุ ค่าวตั ถุดิบเฉลี่ยต่อรุ่น
จากตารางที่ 4.2.6 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลค่าใช้จ่ายการผลิต พบว่าอนั ดบั แรกคือ
ค่ายา 30 ลงั 75,000 บาท รองลงมาคือ ค่าเสื่อมราคา 62,900 บาท ค่าอาหารรุ่นท่ี 3 40 ลูก
24,000 บาท ค่าไฟฟ้า 4 เดือน 15,000 บาท ค่าอาหารรุ่นที่ 2 15 ลกู 9,300 บาท
และค่าอาหารรุ่นที่ 1 10 ลกู 6,200 บาท จึงทาใหม้ ีตน้ ทุนในการผลิตเฉลี่ย 192,400 บาทต่อรุ่น
28
ตารางท่ี 4.2.7 แสดงขอ้ มลู ตน้ ทุนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น
ท่ี รายการ จานวน (บาท) ร้อยละ
1 คา่ วตั ถุดิบ 157,500 43.52
2 คา่ แรงงาน 12,000 3.32
3 คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต 192,400 53.16
361,900 100
ตน้ ทนุ ค่าวตั ถุดิบเฉล่ียต่อรุ่น
จากตารางท่ี 4.2.7 แสดงผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลตน้ ทุนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
พบวา่ อนั ดบั แรกคือ ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต 192,400 บาท คดิ เป็นร้อยละ 53.16 รองลงมาคือ
ค่าวตั ถุดิบ 157,500 บาท คิดเป็นร้อยละ 43.52 และค่าแรงงาน 12,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.32
จึงทาใหต้ น้ ทุนในการผลิตเฉล่ีย 361,900 บาทตอ่ รุ่น
4.2.8 ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
การศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชัง ผูศ้ ึกษาได้
ทาการศึกษาจากกาไรข้นั ตน้ อตั รากาไรข้นั ตน้ และอตั รากาไรต่อยอดขาย ดงั ท่ีแสดงในตารางท่ี
4.2.8 – 4.2.9
ตารางท่ี 4.2.8 แสดงกาไรจากการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั เฉลี่ยตอ่ รุ่น
รายการ 157,500 จานวนเงิน
รายไดจ้ ากการจาหน่ายปลา 12,000 693,500
หกั ตน้ ทนุ ขาย 192,400
361,900
ค่าวตั ถุดิบ 331,600
คา่ แรงงาน
คา่ ใช่จ่ายในการผลิต
กาไรข้นั ตน้
จากตารางที่ 4.2.8 แสดงผลการวิเคราะห์กาไรจากการเล้ียงปลาทบั ทิมใกระชงั พบว่ามี
รายไดจ้ ากการจาหน่ายปลาทบั ทิม 693,500 บาทต่อรุ่น มีตน้ ทุนขาย อนั ดบั แรกคือ ค่าใชจ้ ่ายใน
การผลิต 192,400 บาท รองลงมาคือ ค่าวตั ถุดิบ 157,500 บาท และค่าแรงงาน 12,000 บาท จึง
ทาใหม้ ีกาไรข้นั ตน้ 331,600 บาทตอ่ รุ่น
29
ตารางที่ 4.2.9 แสดงการคานวณหาอตั ราผลตอบแทนจากการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
เฉล่ียต่อรุ่น
อตั ราส่วน สูตรคานวณ แทนคา่ ผลการคานวณ
1. อตั รากาไรข้นั ตน้
กาไรข้นั ตน้ 331,600 × 100 91.63%
2. อตั รากาไรต่อยอดขาย ตน้ ทนุ 361,900 47.82%
กาไรข้นั ตน้ 331,600 × 100
รายได้ 693,500
จากตารางท่ี 4.2.9 แสดงผลการวิเคราะห์อตั ราผลตอบแทนจากการเล้ียงปลาในกระชงั
เฉลี่ยตอ่ รุ่น พบวา่ มีอตั รากาไรข้นั ตน้ 91.63% และอตั รากาไรตอ่ ยอดขาย 47.82%
บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
การดาเนินการศึกษาคร้ังน้ีเป็นการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมใน
กระชงั ของเกษตรกรผูเ้ ล้ียงปลาในกระชัง บา้ นหนองยาว หมู่ 4 ตาบลย่านยาว อาเภอเมือง
จังหวดั พิจิตร มีวตั ถปุ ระสงค์
เพื่อศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชังของเกษตรกรบ้าน
หนองยาว หมู่ 4 ตาบลยา่ นยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พจิ ิตร
กลุ่มเป้าหมายที่ใชใ้ นการศึกษาเป็นเกษตรกรผเู้ ล้ียงปลาในกระชงั บา้ นหนองยาว หมู่ 4
ตาบลย่านยาว อาเภอเมือง จงั หวดั พิจิตร โดยพิจารณาจากเกษตรกรที่เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
ต้งั แต่ 3 ปี ข้นึ ไป จานวน 1 ครัวเรือน
เครื่องมือใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาตน้ ทุนและ
ผลตอบแทนการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีลกั ษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ สอบถามขอ้ มูล
เกี่ยวกบั เพศ อายุ ระดบั การศึกษา รายได้ และขอ้ มูลต้นทุนและผลตอบแทนในการเล้ียงปลา
ทบั ทิมในกระชัง
ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล ผูศ้ ึกษาไดด้ าเนินการเก็บรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยตนเอง โดยนา
แบบสอบถามท่ีสร้างเสร็จสมบูรณ์แลว้ ไปทาการเก็บขอ้ มูลด้วยตนเองจากเกษตรกรที่เล้ียงปลา
ทบั ทิมในกระชงั จานวน 1 คน รวบรวมแบบสอบถามที่ไดม้ าทาการวิเคราะห์ขอ้ มูล โดยใชส้ ถิติ
พ้ืนฐานการแจกแจงความถ่ี และค่าร้อยละ (Percentage) และวิเคราะห์ผลตอบแทนโดยใช้
อตั ราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio)
5.1 สรุปผลการศึกษา
สรุปผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล สรุปผลการศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเล้ียงปลา
ทบั ทิมในกระชงั ดงั น้ี
5.1.1 สถานภาพและขอ้ มูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบสอบถาม
จากผลการศึกษา พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามเป็ นเพศชายมีอายุ 31 – 40 ปี จบ
ระดบั มธั ยมปลาย (ม.6) ใชเ้ งินทุนส่วนตวั ภาระหน้ีสินต่ากวา่ 10,000 บาท ใชแ้ มน่ ้าเป็นพ้ืนที่ใน
31
การเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ใชโ้ ครงเหล็กลว้ น ซ้ือพนั ธุ์ปลาจากฟาร์มทวั่ ไป ไม่ไดใ้ ห้อาหาร
เสริมอยา่ งอื่น ในการเล้ียงปลาในกระชงั ใหอ้ าหารวนั ละ 4 คร้ัง ระยะเวลาในการเล้ียงปลาทบั ทิม
ในกระชงั จนจาหน่ายไดเ้ ป็นระยะเวลา 4 เดือน และการปล่อยปลาลงเล้ียงในกระชงั จานวน 1,500
ตวั
5.1.2 ตน้ ทนุ และผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
1. ตน้ ทนุ เฉลี่ยตอ่ รุ่น
จากผลการศึกษา พบว่าในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีตน้ ทุนรวมเฉล่ีย
361,900 บาทต่อรุ่น ประกอบดว้ ย ค่าวตั ถุดิบเฉล่ีย 157,500 บาทต่อรุ่น ค่าแรงงานเฉลี่ย 12,000
บาทต่อรุ่นและค่าใชจ้ ่ายในการผลิต 192,000 บาทต่อรุ่น
2. ผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั
ผลจากการศึกษา พบวา่ การเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีรายได้ 693,500 บาท
ต่อรุ่น มีกาไรข้ันตน้ เฉลี่ย 331,600 บาทต่อรุ่น อตั รากาไรต่อทุน 91.63% และอัตรากาไรต่อ
ยอดขาย 47.81%
5.2 อภปิ รายผลการศึกษา
จากสรุปผลการศึกษา มีประเดน็ สาคญั ที่ควรนามาอภิปรายผล ดงั น้ี
5.2.1 ตน้ ทนุ การเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ประกอบดว้ ย 3 ส่วนที่สาคญั ไดแ้ ก่
คา่ วตั ถดุ ิบร้อยละ 43.52 คา่ แรงงานร้อยละ 3.32 และคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตร้อยละ 53.16 เห็นไดว้ ่า
ในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีสัดส่วนของค่าใชจ้ ่ายในการผลิต เช่น ค่าอาหารและค่ายามาก
ท่ีสุด ท้งั น้ีเน่ืองจากคา่ อาหารและยาราคาสูง
5.2.2 ผลตอบแทนในการเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ใหก้ าไรข้นั ตน้ เฉล่ีย 331,600 บาท
ตอ่ รุ่น อตั รากาไรต่อยอดขาย 47.81% อตั รากาไรต่อตน้ ทนุ 91.63% จะเห็นไดว้ า่ กาไรข้นั ตน้ เฉลี่ย
ต่อรุ่นท่ีไดส้ ูง เมื่อเทียบกบั ตน้ ทุนท่ีตอ้ งจ่ายท้งั น้ีอาจเน่ืองมาจากเม่ือพิจารณาภาพรวมตน้ ทุนการ
เล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ต่ากวา่ รายได้ ในสดั ส่วนท่ีค่อนขา้ งสูง
32
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 ขอ้ เสนอแนะในโครงงานคร้ังน้ี
จากผลการศึกษา พบว่าเกษตรกรท่ีเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีค่าใช้จ่ายในการ
ผลิตท่ีสูงเกษตรกรจึงควรให้อาหารเสริมที่ทาข้นึ เองจากมูลไก่ หรือส่วนผสมท่ีมีในพ้นื ที่ใหป้ ลากิน
นอกเหนือจากอาหารสาเร็จรูป เพือ่ ลดค่าใชจ้ ่ายการผลิตลงจากเดิม
5.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการศึกษาคร้ังต่อไป
ควรศึกษาเก่ียวกับการเล้ียงปลาทับทิมต้งั แต่การอนุบาลพนั ธุ์ปลา เพ่ือที่จะได้
ทราบตน้ ทนุ การอนุบาลพนั ธุป์ ลาวา่ ตน้ ทนุ จะแตกต่างจากการเล้ียงปลาในกระชงั น้นั หรือไม่
33
บรรณานุกรม
การบญั ชีตน้ ทุน : โดยอาจารยอ์ นุรักษ์ ทองสุโขวงศ์ ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การบญั ชีตน้ ทุน
(ออนไลน์). สืบคน้ จาก : https://home.kku.ac.th/anuton/cost%20accounting/
cost%20split.htm. [12 กรกฎาคม 2564]
บทที่2 เอกสารและงานวิจยั ท่ีเก่ียวของ (ออนไลน์). สืบคน้ จาก :
http://etheses.aru.ac.th/PDF/125546912_05.PDF. [13 กรกฎาคม 2564]
สุธีรา สิทธิกุล. (2547). ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการตดั สินใจเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั ของเกษตรกรใน
อาเภอเส้าไห้ จงั หวดั สระบุรี. สารนิพนธบ์ ริหารธุรกิจมหาบณั ฑิต. (บริหารธุรกิจ).
กรุงเทพฯ : บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั เกริก. ถา่ ยเอกสาร.
นพกร พทุ ธิวโิ รจน์วงศแ์ ละนิธิวดี บุญมาก. (2549). แนวทางการจดั การการเล้ียงปลาทบั ทิมใน
กระชงั : กรณีศึกษาในอาเภอหว้ ยและอาเภอเมือง จงั หวดั ตรัง. ตรัง : คณะวทิ ยาศาสตร์
และเทคโนโลยกี ารประมง มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล วทิ ยาเขตตรัง.
วทิ วนั เชาวลาห์. (2547). การวิเคราะหเ์ ศรษฐศาสตร์การผลิตปลาทบั ทิม ในจงั หวดั ชยั นาท
ปี การผลิต 2546. วิทยานิพนธ์วทิ ยาศาสตร์มหาบณั ฑิต (เศรษฐศาสตร์เกษตร).
กรุงเทพฯ : บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ถ่ายเอกสาร.
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
เคร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษา
แบบสอบถามการเลยี้ งปลาทับทิมในกระชัง
36
แบบสอบถามฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนโดย นกั ศึกษากล่มุ โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน
การเล้ียงปลาทบั ทิมในกระชงั มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ตอ้ งการทราบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผลผลิต
ทาสแกน QR-CODE ทางด้านบนเพ่ือเข้าสู่เวบ็ ไซต์ตอบแบบสอบถาม
หรือเข้าไปทีเ่ ว็บไซต์ shorturl.asia/LDxtf
37
ภาพท่ี 1 ผตู้ อบแบสอบถาม
ภาคผนวก ข
แบบเสนอหวั ข้อและเค้าโครง โครงงานการศึกษาต้นทุนและผลตอบแทน
การเลยี้ งปลาทบั ทิมในกระชัง
39
แบบเสนอโครงงาน
๑. ชอ่ื โครงงาน (ภาษาไทย) การศกึ ษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเลีย้ งปลาทับทมิ ในกระชัง
บ้านหนองยาว อำเภอเมือง จังหวดั พจิ ิตร
ช่อื โครงงาน (ภาษาองั กฤษ) Cost and Return Study of fish farming in cages, Ban Nong Yao,
Muang district, Phichit province.
๒. ประเภทของโครงงาน
สิง่ ประดษิ ฐ/์ นวตั กรรม
ศึกษาทฤษฎแี ละหลักการ
ศกึ ษาค้นควา้ ทดลอง
สำรวจรวบรวมข้อมลู
๓. รายชือ่ ผ้จู ดั ทำโครงงาน
๓.๑ นางสาวสุภาวดี ศรีทารัตน์ รหสั นกั ศึกษา ๖๒๒๐๒๐๑๑๒๓๑
๓.๒ นางสาวสุภาวดี อ้ึงทองคำ รหัสนักศึกษา ๖๒๒๐๒๐๑๑๒๓๕
๔. ครทู ี่ปรกึ ษาโครงงาน
นางสาววรนิ ยพุ า บุญมา
๕. ความสำคัญของโครงงาน/หลกั การและเหตุผล
ถ้าพูดถึงปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญแต่ผลิตผลราคา
ตกต่ำ ขณะทตี่ ้นทุนทางการผลิตมรี าคาสูงจนทำให้มีการขาดทนุ แตอ่ ยา่ งไรก็ตามเกษตรกรยังมีทางออกของ
เรื่องนี้ ซึ่งการจะดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมปัจจุบันของเกษตรกรต้องอาศัยความพอเพียง ความพอประมาณ
ความมเี หตุผล รวมถึงความจำเปน็ ทจ่ี ะต้องมีระบบภูมิค้มุ กันในตัวที่ดีพอสมควร ทงั้ นจ้ี ะต้องอาศัยความรอบรู้
ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำความรู้วิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและ
ดำเนินงานเพื่อไม่ให้ผลผลิตตกต่ำและขาดทุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าพระราชหฤทัยในความ
เป็นไปได้ของประเทศไทยและคนไทยอย่างลึกซ้ึงและกว้างไกล จึงได้ทรงวางรากฐานในการพัฒนาชนบทและ
ช่วยเหลือประชาชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้มีความ “ พออยู่พอกิน ” และมีความอิสระทีอ่ ยู่ไดโ้ ดยไมย่ ดึ ติด
อยู่กับเทคโนโลยี ทรงวิเคราะห์ว่าหากประชาชนพึ่งพาตนเองได้แล้วก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้างประเทศ
สรา้ งความเขม็ แขง็ ในตนเองได้และสามารถทำมาหากินให้พออยู่พอกนิ ได้ด้วยตนเอง
40
การบริหารจัดการเงินจึงเป็นอีกอย่างที่สำคัญสำหรับเกษตรกรที่จะดำรงชีวิตแบบพออยู่พอกิน
การทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย เป็นการจดบันทึกรายการข้อมูลด้านการเงิน เช่น การลงทุน การขาย
ค่าใช้จ่ายและที่สำคัญปัญหาของเกษตรกรส่วนใหญ่ คือ การบริหารเงินไม่ดีพอทำให้ประสบปัญหาขาดทุน
ค่าใชจ้ า่ ยมากกวา่ รายไดท้ ำใหเ้ กิดหน้สี นิ เพิ่มขน้ึ
จากข้อความข้างต้น กลุ่มของข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดจัดทำโครงงานศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนให้แก่
กระชังปลาหนองยาว ตำบลย่านยาว อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เพื่อประโยชน์แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ
จะประกอบอาชพี การเล้ียงปลาในกระชัง
๖. วัตถุประสงคข์ องโครงงาน
๖.๑ เพือ่ ศึกษาตน้ ทุนและผลตอบแทนการเลีย้ งปลาทับทมิ ในกระชงั ปลาของเกษตรกร บา้ นหนองยาว
หมู่ ๔ ตำบลย่านยาว อำเภอเมอื ง จงั หวดั พิจติ ร
๖.๒ เพือ่ ช่วยในการวางแผนผลกำไรและควบคมุ ผลการลงทุนให้แก่ กระชังปลาหนองยาว
๗. ขอบเขตของโครงงาน
๗.๑ ด้านตวั แปร
-
๗.๒ ดา้ นเนอื้ หา
การวิจัยคร้งั นี้ เปน็ การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของกระชังปลาหนองยาว ทผ่ี ูว้ จิ ัยศึกษา
และลงทุนไดด้ งั น้ี
๗.๒.๑ การศึกษาและลงทุนการเลีย้ งปลาในกระชังปลาหนองยาว
๗.๒.๒ ศึกษาความพึงพอใจของเกษตรกรทีม่ ผี ลต่อการเลี้ยงปลาในกระชัง
๗.๓ ดา้ นเวลา
มถิ ุนายน – ตลุ าคม ๒๕๖๔
๗.๔ แบบรา่ ง (ถ้ามี)
41
๘. วธิ ีการดำเนินงาน
กิจกรรม/ขัน้ ตอน ระยะเวลาดำเนนิ งาน (สัปดาหท์ ่ี)
ดำเนนิ งาน หมายเหตุ
๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘
ขน้ั เตรยี มการ
๑.รวบรวมขอ้ มลู ของ
โครงงานทีจ่ ะนำเสนอ
๒.เสนอหวั ขอ้ และเค้า
โครงให้ครูผู้สอน
ข้นั ดำเนนิ การ
๑.จัดทำแบบเสนอ
ขออนมุ ัตโิ ครงงาน
๒.ดำเนินงานตาม
โครงงาน
ข้ันสรุปและประเมินผล
๑.สรุปผลการ
ดำเนนิ งาน
๒.จัดทำรายงานเพื่อ
นำเสนอครูผสู้ อนและ
ครทู ีป่ รึกษา
๙. รายการวสั ดุและแหล่งท่ีมาของงบประมาณในการดำเนนิ โครงงาน
๙.๑ รายการวสั ดุ
ที่ รายการ จำนวน ราคาหนว่ ย จำนวนเงนิ หมายเหตุ
ละ ๕๘๐ บาท
๒๐๐ บาท
๑ ค่าน้ำมนั เช้อื เพลิง ๒๐ ลิตร ๒๙ บาท ๖๐๐ บาท
๑,๓๘๐ บาท
๒ คา่ กระดาษ ๒๐๐ แผน่ ๑ บาท
๓ คา่ จดั ทำรูปเล่ม ๒ เลม่ ๓๐๐ บาท
รวมท้ังส้นิ
๙.๒ แหล่งทม่ี าของงบประมาณ
ทนุ สว่ นตัวนักเรยี น