บริการความรกู้ ารจัดทาบัญชรี ายรบั – รายจ่าย กรณศี ึกษากจิ การ
ร้านเสรมิ สวยวนั ดี หมู่ 1 ตาบลหนองปลอ้ ง อาเภอวังทรายพูน จงั หวัดพจิ ติ ร
นางสาวจิดาภา จันทรล์ ี รหัสประจาตัว 62202011108
นายชาญวทิ ย์ เอ่ียมศริ ิ รหสั ประจาตัว 62202011111
นางสาวนริ ชา อินทรว์ นั รหสั ประจาตวั 62202011119
ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
สาขาวชิ า การบญั ชี สาขางาน การบัญชี หอ้ ง 1
ครทู ่ีปรึกษา
นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์
วิทยาลัยเทคนิคพิจติ ร อาชีวศกึ ษาจังหวัดพิจติ ร
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
ใบรับรองโครงงาน
รายวิชา โครงงาน รหัสวชิ า 20201-8501 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
ช่ือโครงงาน การบริการความรู้การจดั ทาบญั ชรี ายรบั - รายจ่ายกรณีศึกษากิจการรา้ นเสรมิ สวยวันดี
หมู่ 1 ตาบลหนองปล้อง อาเภอวงั ทรายพนู จังหวัดพจิ ิตร
ผู้รับผดิ ชอบโครงงาน 1. นางสาวจดิ าภา จนั ทรล์ ี รหัสประจาตวั 62202011108
2. นายชาญวทิ ย์ เอี่ยมศริ ิ รหัสประจาตัว 62202011111
3. นางสาวนิรชา อนิ ทร์วัน รหัสประจาตวั 62202011119
ครูท่ีปรึกษา นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์
ปกี ารศกึ ษา 2564
ไดร้ บั อนุมตั ใิ ห้เปน็ สว่ นหน่ึงของการศึกษารายวิชาโครงงาน สาขาวิชา การบัญชี หลกั สตู ร
ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2562
คณะกรรมการสอบโครงงาน
ลงชอ่ื ..............................................ประธาน
(นางสาวจารณุ ี จลุ บตุ ร)
ลงช่ือ..............................................กรรมการ
(นางสาวกรรตั น์ คาดา)
ลงชื่อ..............................................กรรมการและเลขานุการ
(นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์)
ลงชื่อ..............................................หวั หน้าแผนกวิชา
(นางสาวมณฑกาญจน์ ทศแกว้ )
ลงชอ่ื ..............................................รองผอู้ านวยฝา่ ยวชิ าการ
(นายอิศรา อยยู่ ิ่ง)
ลงชือ่ ..............................................ผ้อู านวยการวทิ ยาลัย
(นายชยั ณรงค์ คัชมาตย์)
ชอื่ ผลงาน : การบริการความรกู้ ารจดั ทาบัญชรี ายรับ - รายจ่าย กรณศี ึกษากิจการ
รา้ นเสรมิ สวยวนั ดี ม.1 ต.หนองปล้อง อ.วงั ทรายพนู จ.พิจิตร
ผู้จัดทา
: นางสาวจดิ าภา จนั ทร์ลี
ครทู ี่ปรึกษา นายชาญวทิ ย์ เอ่ยี มศริ ิ
สาขาวชิ า นางสาวนิรชา อนิ ทร์วัน
สาขางาน : นางสาวอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์
ปกี ารศึกษา : การบัญชี
: การบัญชี
: 2564
บทคัดยอ่
การออกให้บริการการจัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายให้กับร้านเสริมสวยโครงงานนี้มีวัตถุ
ประสงค์เพื่อ นาความรู้จากการที่ได้จากศึกษาในสถานศึกษามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในร้านเสริมสวย
การดาเนินการสอน การทาบัญชี รูปแบบการลงบัญชีท่ีเหมาะสมต้องประกอบด้วยสร้างเอกสาร
แบบฟอร์มจาเป็นต้องใช้รูปแบบและการถ่ายทอดความรู้รูปแบบการศึกษาเชิงคุณภาพมีข้ันตอน
การศึกษาคือการเตรยี มการเรอ่ื งรูปแบบการลงบญั ชีทเ่ี หมาะสม
กิตติกรรมประกาศ
โครงงานการให้ความรเู้ กยี่ วกับการทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย เร่อื ง สอนทาบัญชี รายรับ -
รายจ่าย ให้กิจการร้านเสริมสวยวันดี คณะผู้จัดทาโครงงานขอขอบพระคุณครูอรวลัญช์ น้อยสมวงษ์
ทก่ี รณุ าใหค้ วามเมตตาให้คาปรึกษาโครงงานดูแลและใหค้ าแนะนาเสนอแนะแนวทาง ตรวจสอบแก้ไข
ขอ้ พกพร่องและใหก้ าลงั ใจแก่คณะผูจ้ ัดทา
ขอขอบพระคณุ รา้ นเสริมสวยวันดี กล่มุ ตวั อยา่ งรา้ นนางชลลดา ศุภพิชย์ ท่ีให้ความร่วมมือใน
การเรียนการสอนทาบัญชีของกิจการร้านเสริมสวยวันดีทาให้โครงการในครั้งน้ีประสบความสาเร็จ
ลุลว่ งดว้ ยดี
หวงั เปน็ อย่างย่ิงวา่ โครงงานการให้ความรเู้ กี่ยวกับการทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย เรื่องสอน
ทาบัญชรี ายรบั - รายจ่าย ท่ีจัดทาข้ึนนจ้ี ะเป็นประโยชน์แก่ผู้ท่ีสนใจที่จะนาไปศึกษาต่อในประเด็นที่
ได้เสนอแนะไว้ในโครงงานฉบับนี้ หรือเป็นแนวทางในการออกไปสอนให้กิจการท่ีเกี่ยวข้องให้บรรลุ
อย่างมีประสทิ ธิภาพต่อไป
จิดาภา จนั ทรล์ ี
ชาญวทิ ย์ เอี่ยมศริ ิ
นริ ชา อินทรว์ นั
ข
สารบัญ หนา้
ก
บทคดั ย่อ ข
กิตตกิ รรมประกาศ ค
สารบัญ จ
สารบญั ตาราง ฉ
สารบัญภาพ
บทที่ 1
1. บทนา 2
2
1.1 ทมี่ าและความสาคญั ของปญั หา 2
1.2 วัตถุประสงคข์ องโครงงาน
1.3 ขอบเขตของการศึกษา 3
1.4 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ 9
2. เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง 12
2.1 หลกั การ แนวคิด เก่ยี วกับต้นทนุ 12
2.2 ความรู้เกีย่ วกับค่าใช้จ่ายในครวั เรอื น
2.3 สภาพทว่ั ไปของชุมชนหม่ทู ่ี 1 ต.หนองปลอ้ ง อ.วงั ทรายพนู จ.พจิ ิตร 14
2.4 งานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวข้อง 14
3. วิธกี ารดาเนินงาน 14
3.1 กลุม่ เปา้ หมายทีใ่ ช้ในการศกึ ษา 16
3.2 เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการศึกษา
3.3 วิธกี ารดาเนนิ การศึกษา
3.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล
ค
สารบัญ (ต่อ) หน้า
4. ผลการดาเนนิ งาน 17
4.1 ข้อมูลสภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 20
4.2 สรปุ ผลการวิเคราะห์ร้านคา้ กลุ่มตัวอยา่ ง มดี ังน้ี
24
5. สรปุ อภบิ ายผล ขอ้ เสนอแนะ 25
5.1 อภปิ รายการดาเนนิ งาน 25
5.2 ปญั หาและอปุ สรรคท่ีเกิดขึน้ 26
5.3 ขอ้ เสนอแนะ
30
บรรณานุกรม 32
ภาคผนวก 34
36
ภาคผนวก ก แบบประเมินความพงึ พอใจ 38
ภาคผนวก ข แสดงภาพสถานท่ีดาเนินงาน 40
ภาคผนวก ค แสดงภาพสอนนางชลลดา ศภุ พชิ ย์ ทาบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย 43
ภาคผนวก ง แสดงภาพตรวจสอบบญั ชีรายรับ - รายจา่ ย 52
ภาคผนวก จ แสดงภาพเกบ็ ข้อมูลแบบสอบถามความพงึ พอใจ 59
ภาคผนวก ฉ ภาพพบครูทปี รึกษาและครูสอนวิชาโครงงาน 64
ภาคผนวก ช แสดงตารางบัญชรี ายรับ - รายจา่ ย 2 เดอื น
ภาคผนวก ซ แสดงบญั ชี รายรบั - รายจ่าย
ภาคผนวก ฌ แบบเสนอขออนุมตั ิโครงงาน
ประวตั ิผูจ้ ดั ทาโครงงาน
สารบญั ตาราง หน้า
ตารางที่ 18
4.1.1. แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของสถำนะภำพท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถำม 18
4.1.2. แสดงจำนวนและคำ่ ร้อยละของอำยุผ้ตู อบแบบสอบถำม 19
4.1.3. แสดงจำนวนและค่ำร้อยละของสถำนะภำพของผูต้ อบแบบสอบถำม 19
4.1.3 แสดงคำ่ เฉลี่ยและสว่ นเบย่ี งเบนแบบมำตรฐำนควำมคิดเหน็ ของรำ้ นเสรมิ สวย 20
4.1.4 แสดงข้อมลู สินทรัพย์และค่ำเสื่อมอุปกรณ์ 22
แสดงกรำฟสรปุ เดอื นพฤศจิกำยน 22
แสดงกรำฟสรปุ เดือนธนั วำคม 23
แสดงกรำฟสรุป เปรียบเทียบระหว่ำงเดือนพฤศจิกำยนกับเดอื นธนั วำคม
จ
สารบญั ภาพ หนา้
32
ภาพที่ 34
1. ภาพสถานทีด่ าเนินงาน 36
2. ภาพสอนนางชลลดา ศภุ พชิ ย์ ทาบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย 38
3. ภาพตรวจสอบบญั ชรี ายรับ - รายจ่าย 40
4. ภาพเกบ็ ขอ้ มลู แบบสอบถามความพงึ พอใจ
5. ภาพพบครูทปี่ รึกษาและครูผูส้ อนวิชาโครงงาน
ฉ
บทท่ี 1
บทนา
1.1 ความเป็นมาและความสาคัญ
การบัญชี คือ การจดบันทึกรายการค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรายรับ – รายจ่าย และส่ิงท่ีมี
คา่ เป็นเงนิ ไวใ้ นสมดุ บัญชอี ย่างสม่าเสมอ เป็นระเบียบถูกต้องตามหลักการ และสามารถแสดงผลการ
ด่าเนินงานและฐานะการเงินของกิจการในระยะเวลาหน่ึงได้ การบัญชีเป็นตัวท่ีบ่งบอกผลก่าไร
ขาดทุนของกิจการถือเป็นตัวช้ีวัดความส่าเร็จในทางการค้า ซึ่งแสดงถึงอัตราการเติบโตและบอกว่า
แผนการด่าเนินงานขณะนั้นได้ผลและมีประสิทธิภาพหรือไม่ เพื่อจะได้วางแผนธุรกิจได้อย่างถูกต้อง
มากขึ้นโดยรายละเอียดในบัญชีจะมีทั้งงบดุล งบก่าไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด ในการ
ด่าเนินงานทางธุรกิจเจ้าของกิจการในฐานะผู้บริหารย่อมต้องการท่ีจะรับรู้ผลการด่าเนินงาน และ
ฐานะการเงินของกิจการ ดังนั้นการท่าบัญชีจึงมีส่วนส่าคัญอย่างยิ่งเน่ืองจากผู้บริหารสามารถ
น่าข้อมูลการเงินไปใช้ในการวางแผนจัดท่างบประมาณต่าง ๆ และวางแผนในการด่าเนินงานใน
อนาคตได้
การบริหารจัดการเงนิ จงึ เปน็ อีกอย่างที่ส่าคัญมาก ๆ ส่าหรับร้านเสริมสวยนั้นการท่าบัญชี
รายรับ – รายจ่าย คือการจดบันทกึ รายการข้อมลู ทเ่ี ก่ยี วข้องทางด้านการเงินไว้ว่าคงเหลือเงินหรือไม่
จา่ นวนเทา่ ไหร่ และเปรียบเทียบผลการด่าเนินกิจการว่าได้ก่าไรหรือขาดทุนเพียงไร จากการส่ารวจ
และลงพ้ืนทสี่ อบถามขอ้ มลู กับรา้ นเสรมิ สวยวนั ดี ณ ต.หนองปล้อง อ.วงั ทรายพูน จ.พิจิตร ได้ข้อมูล
ว่าทางรา้ นไม่ได้มกี ารจดั ท่าบัญชีรายรับ – รายจ่าย เนื่องจากตนเองไม่มีความรู้ทางด้านบัญชีจึงใช้วิธี
รับรู้ผลประกอบการเงินตามที่ขายได้ในแต่ละวัน ซ่ึงการรับรู้ในลักษณะนี้ท่าให้ ร้านเสริมสวยวันดี
ไม่สามารถรบั ทราบข้อมูลเกย่ี วกับรายไดท้ แ่ี ทจ้ รงิ ในแตล่ ะวันของกิจการได้
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้นข้าพเจ้าจึงมีแนวคิดที่จะท่าโครงงานการบริหารความรู้การจัดท่า
บัญชีรายรับ - รายจ่ายให้กับร้านเสริมสวยวันดี ม.1 ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร เพ่ือ
แนะน่าความส่าคัญการรับทราบถึงค่าใช้จ่าย ต้นทุนของสินค้า ผลก่าไรขาดทุนท่ีแท้ของร้านและ
กลุม่ เปา้ หมายสามารถเรียนรกู้ ารบันทึกบัญชรี ายรับ - รายจา่ ยของกจิ การไดอ้ ย่างถกู ต้อง
2
1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน
1.2.1 เพือ่ บริการความรกู้ ารจัดทา่ บัญชรี ายรบั - รายจ่ายของรา้ นเสริมสวยวันดี
1.2.2 เพ่ือศึกษารายรับ – รายจ่ายของรา้ น
1.2.3 เพอ่ื ชว่ ยในการวางแผนก่าไรและควบคุมคา่ ใช้จ่ายของรา้ นเสริมสวยวันดี
1.3 ขอบเขตของการศกึ ษา
1.3.1 ดา้ นตัวแปร
-
1.3.2 ด้านเน้อื หา
การศึกษาครงั้ นี้ เป็นการบริการความรู้การจัดทา่ บญั ชรี ายรบั – รายจ่ายของกิจการ
ร้านเสริมสวยวันดี ม.1 ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ที่ผู้ศึกษาท่าเพื่อให้รับรู้ผลการ
ด่าเนินงานการจัดท่าบัญชีตลอดจนรู้ผลของการขายว่าคงเหลือเงินเท่าไหร่และเปรียบเทียบผลการ
ด่าเนินการวา่ ไดก้ า่ ไรหรอื ไม่ ดังนี้
1) การบริการด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับการบันทึกบัญชีรายรับ – รายจ่าย
แก่รา้ นเสริมสวยวันดี
2) การศกึ ษารายรับ – รายจ่ายของกจิ การร้านเสรมิ สวยวนั ดี
1.3.3 ด้านเวลา
พฤศจิกายน 2564 - มนี าคม 2565
1.4 นิยามศัพทเ์ ฉพาะ
1.4.1 รายรบั หมายถึง เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าท่ี
ได้รับหรอื พึงไดร้ ับ ไมว่ ่าในหรอื นอกราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการประกอบกจิ การ
1.4.2 รายจ่าย หมายถึง เงินหรือสินทรัพย์ท่ีวัดมูลค่าได้ที่จ่ายออกไปเพื่อให้ได้สิ่ง
ตอบแทนกลับมา ส่งิ ตอบแทนอาจเป็นสนิ คา้ หรือบริการ เชน่ ค่าอาหาร ค่าสาธารณปู โภค
1.4.3 กจิ การ หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการโดยมีการ
ซอ้ื ขายแลกเปลย่ี นกนั และมีวัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ตอ้ งการประโยชน์หรอื ก่าไรจากการกระทา่ กจิ กรรมน้ัน
1.4.4 การจัดท่าบัญชี หมายถึง ข้ันตอนในการจดบันทึกรายการค้าท่ีเกิดขึ้นลงในสมุด
บัญชีต่าง ๆ จนถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการจดบันทึกบัญชี การปิดบัญชี ตลอดจนการ
จดั ทา่ รายงานเกี่ยวกบั ผลการดา่ เนนิ งานและฐานะการเงินของกจิ การ
บทท่ี 2
เอกสารและงานวิจัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง
การศึกษาให้บริการจัดทาบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้กับกิจการของร้านเสริมสวยวันดีผู้จัดทา
ได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลกั การตา่ ง ๆ จากเอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ยี วขอ้ งดังตอ่ ไปนี้
2.1 หลักการ แนวคดิ เกี่ยวกับการทาบัญชี
2.2 ความรู้ เก่ียวกบั รายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการ
2.3 สภาพท่วั ไปของรา้ นเสริมสวยวันดี
2.4 งานวจิ ัยท่เี กย่ี วขอ้ ง
2.1 หลักการ แนวคิด เก่ยี วกบั ต้นทนุ
ต้นทุน หมายถงึ มูลค่าของทรัพยากรทีอ่ งค์กรใช้ประโยชน์เพ่ือให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์ตาม
ท่ีได้กาหนดไว้ เช่น ตน้ ทนุ ของวัตถดุ ิบและแรงงานทเ่ี กดิ ข้ึนเพือ่ ผลิตสนิ ค้าหรือบริการและเมื่อต้นทนุ
ได้กาหนดประโยชนต์ ่อธรุ กจิ แล้วตน้ ทุนส่วนน้นั จะได้เปลี่ยนสภาพไปเปน็ ค่าใชจ้ ่ายซงึ่ จะนาไปหักจาก
รายไดใ้ นแตล่ ะงานบญั ชี
ตน้ ทนุ การผลิต คอื ต้นทุนที่ทาใหไ้ ดส้ นิ คา้ สาเร็จรูปใด ๆ ประกอบด้วย วัตถดุ ิบทางตรง
ท่เี บกิ ใช้ในการผลิต แรงงานทางตรงท่เี ก่ียวข้องกับกระบวนการผลิตและค่าใช้จา่ ยทใี่ ช้ในการผลติ เมอื่
ทั้ง 3 สว่ นประกอบ ได้เข้าสูข่ ั้นตอนตา่ ง ๆ ของการผลติ ก็จะถูกแปรสภาพเป็นสินค้าสาเรจ็ รปู
การจาแนกประเภทต้นทุนแบ่งออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่
2.1.1 การจาแนกต้นทุนตามลักษณะสว่ นประกอบของผลิตภณั ฑ์
2.1.2 การจาแนกตน้ ทุนตามสัมพันธก์ ับระดบั ของกิจกรรม
2.1.3 การจาแนกต้นทุนตามหน้าทงี่ านหรือตามแผนท่เี กิดต้นทุน
2.1.4 การจาแนกต้นทนุ ตามงวดบญั ชจี าดช่วงเวลาท่ที ากาไร
2.1.5 การจาแนกตามระยะเวลา
2.1.6 การจาแนกต้นทุนตรามลกั ษณะการวเิ คราะหป์ ัญหาเพ่อื การตัดสนิ ใจ
2.1.7 การจาแนกต้นทนุ ตามลกั ษณะของความรับผิดชอบ
4
ซ่ึงมีรายละเอียดของการจาแนกตน้ ทุนแตล่ ะประเภท ดังนี้
2.1.1 การจาแนกตน้ ทุนตามลกั ษณะส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
การจาแนกตน้ ทุนและความสาคัญและลักษณะของต้นทุนการผลิตน้ันจะมีลักษณะ
ท่ีคล้ายคลึงกับการจาแนกต้นทุนตามส่วนประกอบของการผลิต ซ่ึงวัตถุประสงค์ของการจาแนก
ต้นทุนในลักษณะนี้ ก็เพ่ือใช้ในการวางแผนและควบคุมมากกว่าที่จะจาแนกเพื่อการคานวณต้นทุน
ของสินค้าและบริการการจาแนกต้นทุนตามความสาคัญและลักษณะของต้นทุนการผลิตเราสามารถ
จาแนกได้ 3 ลักษณะ คือ
1) วัตถุดิบทางตรง (Direct materials) หมายถึง วัตถุดิบหลักท่ีใช้ในการผลิต
และสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าใช้ในการผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหน่ีงในปริมาณและต้นทุนเท่าใด
รวมท้ังจัดเป็นวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่ใช้ในการผลิตสินค้าชนิดน้ัน ๆ เช่น ไม้แปรรูปจัดเป็นวัตถุดิบ
ทางตรงของการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยางดิบท่ีใช้ในการผลิตยางรถยนต์
แรเ่ หลก็ ที่ใช้ในอตุ สาหกรรมถลุงเหลก็ กระดาษท่ใี ชใ้ นธรุ กจิ สิง่ พมิ พ์ เป็นต้น
2) คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) หมายถึง ค่าแรงงานต่าง ๆ ที่จ่ายให้แก่
คนงานหรือลูกจ้างที่ทาหน้าท่ีเก่ียวกับการผลิตสินค้าสาเร็จรูปโดยตรง รวมท้ังเป้นค่าแรงงานท่ีมี
จานวนมากเม่ือเทียบกับค่าแรงงานทางอ้อมในการผลิตสิ้นค้าหน่วยหนึ่ง ๆ และจัดเป็นค่าแรงงาน
ส่วนสาคัญในการแปรรูปวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสาเร็จรูป เช่น คนงานท่ีทางานเกี่ยวกับการควบคุม
เคร่อื งจกั รทใี่ ชใ้ นการผลติ กค็ วรถือเป็นแรงงานทางตรง พนกั งานในสายการประกอบ เปน็ ต้น
3) ค่าใช้จ่ายในการผลิต (Manufacturing Overhead) หมายถึง แหล่ง
รวบรวมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าซ่ึงนอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงาน
ทางตรง เช่น วัตถุดิบทางอ้อม ค่าแรงงานทางอ้อม ค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมอื่น ๆ ได้แก่ ค่า
นา้ ค่าไฟ ค่าเช่า คา่ เสอื่ มราคา คา่ ประกันภัย ค่าภาษี เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายเหล่านี้
ก็จะตอ้ งเป็นคา่ ใชจ้ ่ายทีเ่ ก่ยี วกบั การดาเนินการผลิตในโรงงานเท่าน้ัน ไม่รวมถึงเงินเดือน ค่าเช่า ค่า
ไฟฟ้า ค่าเส่ือมราคา ทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดาเนนิ งานในสานกั งาน ดงั น้ัน ค่าใชจ้ ่ายการผลิตจึงถือ
เป็นท่ีรวมของค่าใช้จ่ายในการผลิตทางอ้อมต่าง ๆ (Cost pool of indirect manufacturing
costs) นอกจากนีย้ งั จะพบวา่ ในบางกรณกี ม็ กี ารเรยี กค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ในชือ่ อนื่ ๆ เช่น ค่าใช้จ่าย
โรงงาน (Factory Overhead) โสหุ้ยการผลิต (Manufacturing Burden) ต้นทุนผลิตทางอ้อม
(Indirect Costs) เปน็ ตน้
5
2.1.2 การจาแนกต้นทุนตามความสมั พันธ์กบั ระดับกจิ กรรม
เป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมต้นทุนว่าผันแปรตามปริมาณกิจกรรมที่ปรับสูงขึ้นหรือ
ลดลงหรือไม่ เช่น หน่วยสินค้าท่ีผลิต จานวนช่ัวโมงเครื่องจักร เป็นต้นซึ่งสามารถจาแนกต้นทุน
ประเภทนีไ้ ดเ้ ปน็ 3 ประเภท ได้แก่
1) ต้นทนุ ผันแปร (Variable Costs) หมายถงึ เปล่ียนแปลงไปตามสัดส่วนของ
ระดับกิจกรรม กิจกรรมท่ีว่านี้ก็หมายถึงการผลิต การบริการ หรืออะไรก็ตามท่ีธุรกิจทาเพ่ือหา
รายได้ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจน้าด่ืม ต้นทุนผันแปรที่เห็นได้ชัดคือต้นทุนค่าขวด ฉลาก และน้าดื่ม
ทบ่ี รรจอุ ยขู่ ้างใน ถา้ ผลิตมากตน้ ทุนดงั กลา่ วก็จะเพ่มิ สูง
2) ต้นทุนคงที่ (Fixed costs) หมายถึง เป็นต้นทุนซึ่งจานวนรวมจะไม่
เปลี่ยนแปลงไปกับการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการผลิตภายในช่วงที่พิจารณา หรือไม่ว่าปริมาณ
กิจกรรมจะเพ่ิมขึ้นหรือลดลง ต้นทุนคงที่รวมจะไม่เปล่ียนแปลง เช่น เงินเดือนผู้ควบคุมตรวจตา
โรงงาน ค่าเส่ือมราคาเครือ่ งจกั ร ค่าประกันภยั โรงงานเคร่อื งจักร ภาษีและค่าเช่า ต้นทุนก่ึงผันแปร
คือ ต้นทุนท่ีมีลักษณะผสมท้ังที่เป็นต้นทุนคงท่ีและต้นทุนผันแปร นั้นคือ จานวนรวมของต้นทุนจะ
เปลี่ยนแปลงตามปริมาณของกิจกรรม แต่ไม่ได้แปรไปในอัตราส่วนโดยตรงกับปริมาณกิจกรรม
เช่น ค่าเบ้ียประกันภัย ค่ากาลังไฟ ค่าตรวจสอบคุณภาพสินค้า เป็นต้น ต้นทุนแผนกผลิต
แผนกผลิตเป็นแผนกท่ีทาการแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นสินค้าสาเร็จรูปโดยใช้แรงงานคนหรือ
เครื่องจักร ต้นทุนของแผนกผลิตจะถือเป็นต้นทุนของผลิตภัณฑ์เพราะเกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง
เช่น แผนกตัด แผนกประกอบ แผนกตกแตง่ เป็นต้น
3) ต้นทนุ กง่ึ ผนั แปร (Semi variable cost) หมายถงึ ตน้ ทนุ ทีจ่ ะมตี น้ ทนุ ส่วน
หน่ึงคงท่ีทุกระดับของกิจกรรม และมีต้นทุนอีกส่วนหน่ึงจะผันแปรไปตามระดับของกิจกรรม
เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์สาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งก็เป็นการยากที่จะระบุได้ว่า
ต้นทุนส่วนใดเป็นต้นทุนผันแปร ดังนั้นจึงจาเป็นต้องใช้เทคนิคในการประมาณต้นทุนเข้ามาช่วยใน
การวิเคราะห์ ซึ่งเทคนิคในการประมาณต้นทุนจะได้ส่ือสารต่อไปในส่วนของการบัญชีต้นทุนท่ี
เกี่ยวกับการใช้ขอ้ มลู เพื่อการตดั สนิ ใจ
2.1.3 การจาแนกต้นทุนตามหน้าทีง่ านหรือตามแผนกที่เกิดต้นทนุ
การจาแนกต้นทุนตามหน้าที่งานหรือตามที่เกิดต้นทุน เป็นการจาแนกโดย
พจิ ารณาต้นทุนท่ีเกิดขึ้นจากการดาเนินงานหรอื ปฏิบัตงิ านของหน้าที่งานฝ่ายต่าง ๆ ของแต่ละแผนก
ท่ีทาตามงานท่ีได้รับมอบหมาย จึงแบ่งต้นทุนส่วนประกอบท่ีเกี่ยวข้องกับต้นทุนการผลิตสินค้ากับ
ต้นทนุ ท่ไี มเ่ กยี่ วขอ้ งกบั การผลติ
6
1) ต้นทุนการผลิต (Production cost) หมายถึง ต้นทุนที่เก่ียวกับการผลิต
สนิ ค้า เพ่อื แปรสภาพวตั ถดุ ิบใหเ้ ป็นสินคา้ สาเรจ็ รูปออกมาเพ่ือจาหนา่ ยซ่งึ ก็คือต้นทุนค่าใช้จ่ายในการ
ผลิตซึง่ ผา่ นกระบวนการผลติ เพอ่ื เปน็ สนิ ค้าสาเร็จรูป หรือต้นทนุ การผลติ นัน่ เอง
2) ต้นทุนเก่ียวกับการตลาด (Marketing costs) หมายถึง ต้นทุนที่ใช้ส่งเสริม
การขาย การบริการลูกค้า เช่น ค่าน้ามันของพนักงานขาย ค่าโทรศัพท์ของพนักงานขาย ค่าจ้าง
ทาโบชัวรค์ ่าโปรโมทสินคา้ ทางส่ือตา่ ง ๆ ซ่งึ สรุปไดก้ ิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการขายการบริการ
ลูกคา้ นบั เปน็ ตน้ ทนุ ทางการตลาดเพราะเป็นกิจกรรมท่ีสนบั สนุนใหเ้ กิดการซ้ือ - ขายเกดิ ขน้ึ
3) ต้นทุนเก่ียวกับการบริหาร (Administrative costs) หมายถึง พวกธุรกิจ
โรงแรมพนักงาน call center ล้วนแล้วแต่ว่าเป็นต้นทุนทั้งน้ัน ต้นทุนพวกนี้จะถูกนาไปใช้ในการ
บรกิ ารเปน็ หลัก ลักษณะของตน้ ทุนจะไมแ่ ปรผันตามการผลิต
4) ต้นทุนทางการเงิน (Financial costs) หมายถึง ค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนท่ี
เกิดขึ้นจากการก่อหน้ีสินของกิจการ เช่น ดอกเบ้ียเงินกู้ ค่าธรรมเนียมธนาคารท่ีเกิดจากการกู้ยืม
เงินดอกเบี้ยทีเ่ กดิ จากสญั ญาเช่าการเงิน เป็นต้น
2.1.4 การจาแนกตน้ ทุนตามงวดบญั ชจี ากช่วงเวลาท่ที ากาไร
การจาแนกต้นทุนตามงวดบัญชีจากช่วงเวลาที่ทากาไร เป็นการวัดผลการ
ดาเนนิ งานสาหรับงวดบัญชีหน่ึง โดยเปรียบเทยี บรายไดค้ ่าใชจ้ ่ายของงวดบัญชีเดยี วกัน จึงต้องมีการ
พจิ ารณาวา่ ต้นทุนจานวนใดได้ประโยชน์ และหากหมดประโยชน์ต้องจัดเป็นค่าใช้จ่ายประจางวดแต่
หากจานวนใดยังไม่หมดประโยชน์ถือเป็นสินทรัพย์ยกไปงวดหน้า จาแนกเป็นต้นทุนผลิตภัณฑ์และ
ต้นทนุ ตามงวดเวลา
1) ต้นทุนผลิตภัณฑ์ (Product Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีเก่ียวข้องกับการผลิต
ผลิตภณั ฑโ์ ดยตรง เป็นต้นทุนที่ก่อประโยชน์ในอนาคต ได้แก่ วัตถุดิบทางตรง ค่าแรงทางตรงและ
ค่าใช้จ่ายในการผลิต โดยเรียกชื่อตามสถานะของผลิตภัณฑ์ ถ้าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเสร็จแต่ยังไม่ขาย
เรยี กวา่ สินคา้ สาเรจ็ รูปคงเหลอื และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตไม่เสร็จ เรียกว่า สินค้าระหว่างผลิตหรืองาน
ระหว่างทา
2) ต้นทุนตามงวดเวลา (Period Costs) หมายถึง ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ
ผลติ เป็นตน้ ทุนหรือค่าใช้จ่ายมิได้เกิดขึ้น โดยตรงทางการผลิตสินค้าเป็นต้นทุนที่ใช้แล้วหมดไปในแต่
ละงวด ต้นทุนส่วนนี้จะถือเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อนาไปหักออกจากรายได้กาไรสุทธิ เช่น เงินเดือน
พนกั งานโฆษณา คา่ นายหน้า คา่ ขนส่งสินคา้ และค่าเส่อื มราคา เปน็ ตน้
2.1.5 การจาแนกตน้ ทุนตามระยะเวลา
1) ต้นทุนในอดีต (Historical cost) ต้นทุนท่ีกิจการได้จ่ายไปจริงตามหลักฐาน
อันเที่ยงธรรมท่ีปรากฏ จานวนเงินท่ีกิจการได้จ่ายไปน้ันจงถือเป็นมูลค่าหรือต้นทุนของสินค้าหรือ
7
สินทรัพย์ของกิจการในอดีต แต่ต้นทุนในอดีตน้ีอาจจะไม่มีความเหมาะสมในการนามาใช้เพ่ือการ
ตัดสินใจของฝ่ายการบริหารในการบริการในปัจจุบัน ทั้งน้ีเพราะค่าของเงินในอดีตและในปัจจุบัน
ย่อมมคี วามแตกตา่ งกันเน่อื งมาจากภาวะเงนิ เฟ้อ และความเจรญิ ทางด้านเศรษฐกจิ
2) ต้นทุนทดแทน (Replacement costs) หมายถึง มูลค่าหรือราคาตลาด
ปัจจบุ นั ของสินทรัพย์ประเภทเดียวกันกบั ทก่ี ิจการใช้อยู่กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสินทรัพย์ท่ีกิจการเคยซ้ือ
มาในอดีตท่ีต้องการจะซ้ือใหม่ในขณะน้ีที่จะต้องจ่ายเงินในจานวนเท่าไร ซึ่งโดยปกติมูลค่าหรือราคา
ต้นทุนทดแทนย่อยมีมูลค่าสงู กวา่ ตน้ ทุนในอดีต ทั้งน้ีอาจจะเป็นเพราะการเกิดภาวะเงินเฟ้อส่วนหนึ่ง
และจากการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีของสินทรัพย์ เพ่ือให้มีประสิทธิภาพการทางานที่สูงขึ้น
ส่วนหนง่ึ
3) ต้นทุนในอนาคต (Future costs) หมายถึง ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายท่ีกิจการ
คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต จากการตัดสินใจเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงของผู้บริหาร ซ่ึงต้นทุนในอดีตนั้น
อาจจะได้มาจากการประมาณการหรือการพยากรณ์ก็เป็นได้ บ่อยคร้ังท่ีต้นทุนในอดีตจะถูกนามาใช้
ในการวางแผน ฉะน้นั การประมาณต้นทุนในอดีตจะตอ้ งทาดว้ ยความระมัดระวังและรอบคอบ
2.1.6 การจาแนกตน้ ทุนตามลักษณะการวิเคราะหป์ ัญหาเพื่อตัดสินใจ
การจาแนกต้นทุนโดยวิธีนี้ เป็นการจาแนกต้นทุนของการวิเคราะห์ต้นทุนตาม
ปญั หาที่เกิดขน้ึ เพอ่ื การตัดสินใจ ซึง่ เป็นหน้าที่ที่สาคัญอันหน่ึงของผู้บริหาร คือ การตัดสินใจในการ
ดาเนินงานของธุรกิจซึ่งบางคร้ังอาจจะต้องประสบปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งปัญหาประจาวันหรือ
ปัญหาเฉพาะหน้าผู้บริหารจาเป็นต้องใช้ข้อมูลต้นทุนเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจเลือกทางเลือกท่ีดี
ที่สุด ทาให้ธุรกิจได้รับประโยชน์สูงสุด ในบางกรณีจะต้องคาดหวังหรือต้องปรับปรุงต้นทุนท่ีเกิดข้ึน
ในอดีตมาปรับแก้ไขให้เข้ากับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และยังต้องพิจารณาต้นทุนที่ใช้ในการตัดสินใจ
หรอื ต้นทุนทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาหรือทางเลอื กท่ีผ้บู ริหารจาเป็นตอ้ งพิจารณาเพ่อื ตดั สินใจ จาแนกเป็น
ตน้ ทนุ สว่ นต่าง ตน้ ทุนเสยี โอกาสต้นทนุ ทห่ี ลีกเล่ียงได้และตน้ ทนุ จม
1) ต้นทุนส่วนต่าง หมายถึง ต้นทุนท่ีเกิดจากการเปรียบเทียบ ต้นทุนในแต่ละ
ทางเลือกซ่ึงปกติจะเป็นอย่างน้อย 2 ทางเลือก ส่วนแตกต่างที่เกิดขึ้นของต้นทุนอาจจะเพิ่มข้ึนซ่ึง
เรียกว่า ต้นทุนส่วนต่างท่ีเพิ่ม (incremental cost) หรือลดลงเรียกว่าต้นทุนส่วนต่างที่ลดลง
(decremented cost) จากการเปรยี บเทยี บเพ่อื ทจ่ี ะตัดสนิ ใจเลอื กทางเลือกในปัจจุบันหรืออนาคตที่
มีผลประโยชน์หรอื ผลตอบแทนทีด่ ีกว่าหรือดีที่สุด ต้นทุนส่วนนี้แตกต่างเป็นไปได้ท้ังผันแปรหรือคงท่ี
ในเรื่องการตัดสินใจเลือกทางเลือกใหม่ นอกจากจะดูที่ต้นทุนส่วนท่ีแตกต่างแล้วอาจจะต้องดูแลได้
สว่ นทแี่ ตกตา่ งด้วยจะเลอื กทางเลอื กทีม่ ีรายได้ ส่วนเพ่ิมที่มากต้นทุนส่วนเพิ่มเพราะจะก่อให้เกิดส่วน
ตา่ งของกาไรสุทธเิ พิ่มขึ้น
8
2) ต้นค่าเสียโอกาส หมายถึง รายได้หรือประโยชน์ที่ไม่ได้เกิดจากทางเลือก
ทางเลือกหนึ่ง และปฏิเสธทางเลือกอีกทางหนึ่ง ทาให้สูญเสียรายได้ที่ควรจะได้ท่ีควรจะได้รับจาก
ทางเลือกท่ีไม่ได้เลือก โดยปกติต้นทุนค่าเสียโอกาสจะไม่มีการบันทึกบัญชีลงบัญชีของกิจการเพราะ
ไมไ่ ดเ้ ปน็ ตน้ ทุนท่เี กิดขน้ึ จริง แต่เปน็ ตน้ ทุนทส่ี มบตั ิข้นึ เพ่อื ใหใ้ ชใ้ นการตัดสินใจ
3) ต้นทุนท่ีหลีกเล่ียงได้ หมายถึง ต้นทุนท่ีสามารถหลีกเล่ียงได้ จากการลด
ระดบั กจิ กรรมหรอื หยดุ กจิ กรรม และสามารถประหยัดไดจ้ ากการตัดสินใจเลือกทางเลือกใดทางเลือก
หน่ึงซ่ึงหากยกเลิกหรือหยุดกิจกรรมใดแล้ว สามารถยกเลิกต้นทุนนั้นได้ และต้นทุนจะเพ่ิมขึ้นเม่ือ
กจิ กรรมเพม่ิ ขึ้น
4) ต้นทุนจม หมายถึง ต้นทุนท่ีเกิดขึ้นเน่ืองมาจากผลการตัดสินใจในอดีต
ไม่มีผลต่อการตดั สนิ ใจในปจั จบุ ันและอนาคตไม่สามารถนามาพิจารณาในการตัดสินใจ ต้นทุนจมเป็น
ต้นทุนท่ีเกิดข้ึนแล้วไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร ทั้งในปัจจุบันและอนาคตส่วน
ใหญ่จะเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น บริษัทได้ตัดสินใจซ้ือเครื่องจักรเมท่อ 5 ปีก่อน
แต่หลังจากซื้อแล้วก็มาสามารถเปล่ียนแปลงได้ ค่าเครื่องจักรท่ีซื้อจะกลายเป็นต้นทุนทันทีถึงแม้ว่า
ต้นทุนจมจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจในปัจจุบัน แต่ควรตัดสินใจเลือกทางที่สามารถใช้ประโยชน์จาก
ต้นทุนได้มากทีส่ ดุ
2.1.7 การจาแนกต้นทนุ ตามลักษณะของความรับผิดชอบ
1) ต้นทุนที่ควบคุมได้ (Controllable Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีเกิดข้ึนซึ่ง
ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกหรือศูนย์มีอานาจในการตัดสินใจการเกิดขึ้นของต้นทุนน้ันได้กล่าวถึง
คอื สามารถควบคมุ ใหเ้ กดิ มากหรือเกิดน้อยได้ เช่น วัตถดุ บิ คา่ แรงทางตรง เป็นตน้
2) ต้นทุนท่ีควบคุมไม่ได้ (Uncontrollable Cost) หมายถึง ต้นทุนท่ีเกิดขึ้นซึ่ง
ผู้จัดการหรือหัวหน้าแผนกหรือศูนย์ไม่มีอานาจควบคุมหรือให้มีอิทธิพลต่อต้นทุนน้ัน ต้นทุนเหล่าน้ี
เป็นต้นทุนท่ีอยู่ในอานาจการตัดสินใจและส่ังการของผู้บริหารระดับสูงข้ึนไป หรือเป็นต้นทุนท่ีได้รับ
การปันสว่ นมาจากสว่ นกลางหรอื จะแผนกอื่น เช่น แผนกผลิตรับปันส่วนต้นทุนจากแผนกซ่อมบารุง
แต่แผนกผลิตไม่สามารถควบคุมประสิทธิภาพการทางานหรือต้นทุนท่ีเกิดขึ้นทั้งหมดในแผนกซ่อม
บารงุ ได้ดงั นั้นต้นทนุ ทีไ่ ดร้ บั ปันสว่ นมากจงึ เปน็ ต้นทนุ ทค่ี วบคุมไม่ได้
9
2.2 ความรู้เก่ียวกับค่าใช้จา่ ยในครัวเรือน
จากสภาวะสังคมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสวัตถุนิยมและความฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ
จนทาให้คนไทยหลงเดนิ ทางผิดไปตามกระแสนิยมจนกลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะปัญหาหน้ีสินท่ีไม่มี
วันจบสิ้นอย่างไรก็ตามคนไทยยังมีทางออก ซึ่งการจะดารงชีวิตให้อยู่รอดภายใต้สังคมในปัจจุบัน
แนวทางหน่ึงที่ประชาชนไทยควรยึดถือ คือการพึ่งตนเอง รู้จักความพอประมาณ และไม่ประมาท
ตามแนวปรัชญา ‘‘เศรษฐกิจพอเพียง’’ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมองเห็นถึง
ความสาคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง รู้จักความพอมีพอกิน พอมีพอใช้ คานึงถึงหลัก
เหตุผลและประมาณตนเอง พร้อมกับทรงเตือนสติประชาชนไทยไม่ให้ประมาท โดยเฉพาะการใช้
จ่ายเงินอันเปน็ ปจั จัยสาคญั ในการดาเนนิ ชวี ติ
การทาบัญชี คือ การจดบันทึก ข้อมูลเกี่ยวกับเง่ือนไขปัจจัยในการดารงชีวิตของตัวเอง
และภายในครอบครัว ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลท่ีได้จากการบันทึกจะเป็นบุตรชี้อดีตปัจจุบัน
และอนาคตของชีวิตของตัวเอง สามารถนาข้อมูลอดีตมาบอกปัจจุบัน และอนาคตได้ข้อมูลท่ีบันทึก
ไวจ้ ะเปน็ ประโยชน์ต่อการวางแผนชวี ติ และกจิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตในครอบครวั
บัญชีครัวเรือน มิได้หมายถึง การทาบัญชีหรือบันทึกรายรับรายจ่ายประจาวันเท่านั้นแต่
อาจหมายถึงการบันทึกข้อมูลด้านอ่ืน ๆ ในชีวิต ในครอบครัว เป็นต้น เช่น บัญชีทรัพย์สิน
พันธุไ์ ม้ในบา้ นเราในชมุ ชนเรา บญั ชีความร้คู วามคดิ ของเรา บัญชีผู้ทรงคณุ ผู้รู้ในชมุ ชนเรา บัญชีเด็ก
และเยาวชนของเรา บัญชีภูมิปัญญาด้านต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่าในชีวิตของเรา
เราจดบันทึกได้ทุกเร่ือง หากประชาชนทุกคนจัดบันทึกจะมีประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน
และประเทศ จะเป็นแหล่งท่ีเรียนรู้ ครอบครัวเรียนรู้ชุมชนเรียนรู้ และประเทศเรียนรู้ได้เรียนรู้เป็น
ที่มาของปัญญา ปัญญาเป็นท่ีมาของความเจริญทั้งกาย สังคม ใจ และจิตวิญญาณของมนุษย์จะ
เห็นว่า การทาบัญชีหรือการจดบันทึกน้ีสาคัญมาก บุคคลสาคัญในประเทศใดท่านเป็นตัวอย่างที่ดี
ของการจดบันทึก เช่น ท่านพุทธทาสในหลวง และสมเด็จพระเทพ ท่านเป็นนักบันทึกทั้งส้ิน
การบนั ทกึ คอื การเขียน เมอ่ื มกี ารเขียนยอ่ มมีการคดิ เมอ่ื มกี ารติดตอ่ ยอมกอ่ ปัญญา แก้ไขปัญหา
ไดโ้ ดยใชเ้ หตผุ ลวิเคราะห์พจิ ารณาได้ถูกตอ้ ง นนั้ คอื ทางเจริญของมนุษย์
การทาบัญชีครัวเรือนในด้านเศรษฐกิจ หรือการบันทึกรายรับ - รายจ่ายที่ทางราชการ
พยายามส่งเสริมให้ประชาชนได้ทากันน้ันเป็นเรื่องการบันทึกรายรับ - รายจ่ายประจาวัน
ประจาเดือนว่ามีรายรบั จากแหลง่ ใด บ้างจานวนเท่าใด มรี ายจ่ายอะไร บ้างจานวนเท่าใด ในแต่ละ
วัน สปั ดาห์ เดือนและ ปี เพือ่ จะได้เหน็ ภาพรวมวา่ ตนเองและครอบครัวมีรายรับเท่าใด รายจ่าย
เท่าใด คงเหลือเทา่ ใดหรอื ยงั ไมพ่ อใชเ้ ทา่ ใด คอื รายจ่ายมากกว่ารายรับ และสารวจว่ารายการใด
จ่ายนอ้ ยจ่ายมาก จาเปน็ นอ้ ยจาเปน็ มาก จาเปน็ นอ้ ยอาจลดลงแต่เฉพาะที่จาเป็นมากเช่นซ้ือกับข้าว
ซือ้ ยา ซอ้ื เส้อื ผา้ การศกึ ษา เป็นต้น ส่วนรายจ่ายที่ไม่จาเป็นให้ลดละเลิก เช่น ซ้ือบุหร่ี ซื้อเหล้า
10
เล่นการพนัน เป็นต้น เม่ือนารายรับ - รายจ่าย มาบวกลบกันแล้วขาดดุลเกินดุลไปเท่าใด
เม่ือเห็นตัวเลขจะทาให้เราคิดได้ว่าสิ่งท่ีไม่จาเป็นนั้นมีมากหรือน้อยสามารถลดได้หรือไม่ เลิกได้ไหม
ถ้าไม่ลดไม่เลิกจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศ หากเราวางแผนการรับการ
จ่ายเงินของตนเองได้เท่ากับว่า รู้จักความเป็นคนได้พัฒนาตนเองให้เป็นคนมีเหตุมีผลเป็นคนรู้จัก
พอประมาณเป็นคนรักตนเองรักครอบครัว รักชุมชน และรักประเทศชาติมากข้ึนจึงเห็นได้ว่า
การทาบัญชีครัวเรือนในเร่ืองบัญชีรายรับ - รายจ่าย ก็คิดวิถีแห่งการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาชีวิต
ตามปรัชญาชีวิตที่ถูกต้องเหมาะสม พอดี สอดคล้องถูกต้องตามกฎธรรมชาติท่ีมีท้ังความเป็น
เอกภาพและดุลยภาพอยเู่ สมอ
การทาบัญชีครัวเรือนเป็นการจดบันทึกรายรับ - รายจ่ายประจาวันของครัวเรือนและ
สามารถนาข้อมูลมาวางแผนใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ที่ทาให้เกิดการออมการใช้
จ่ายเงินอย่างประหยดั คุ้มคา่ ไม่ฟุ่มเฟือย ดงั นัน้ การทาบญั ชีครวั เรอื นมีความสาคญั ดงั น้ี
2.2.1 ทาให้ตนเองและครอบครัวทราบรายรับ - รายจา่ ย หน้ีสนิ และเงนิ คงเหลือในแต่
ละวัน รายรับหรือรายได้ คือเงินหรือสินทรัพย์ที่วัดมูลค่าได้ ที่ได้รับจากการประกอบอาชีพหรือ
ผลตอบแทนที่ได้รับจากการให้ผู้อื่นใช้สินทรัพย์ หรือผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ
เช่นรายได้จากค่าจ้างแรงงาน เงินเดือน ดอกเบี้ยรับจากเงินฝากธนาคาร หรือจากเงินให้กู้ยืม
รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ เปน็ ตน้ รายจา่ ยหรือค่าใช้จา่ ย คือเงินหรือสินทรัพย์ที่วัดมูลค่า
ได้ท่จี ่ายออกไปเพ่อื ให้ได้ส่งิ ตอบแทนกลับมา สิ่งตอบแทนอาจเป็นสินค้าหรือบริการ เช่น ค่าอาหาร
ค่าน้าค่าไฟ ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ามัน ค่าหนังสือตารา เป็นต้น หรือรายจ่ายอาจไม่ได้รับ
ส่งิ ตอบแทนคือสนิ ค้าหรือบริการก็ได้ เช่น เงินบริจาคเพื่อการกุศล เงินทาบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่า
เป็นตน้ หนี้สินคอื ภาระผกู พันชดใชค้ ืนในอนาคต การชดใชอ้ าจจ่ายเป็นเงินหรือของมีค่าที่ครอบครัว
หรือตนมีอยู่ หน้ีสินเป็นเงินหรือสิ่งของที่มีค่าที่ครอบครัวหรือตนเองได้รับจากบุคคลหรือแหล่งเงิน
ภายนอก เชน่ การก้ยู มื เงนิ จากเพ่อื นบา้ น การกูย้ ืมเงินจากกองทุนต่าง ๆ การซื้อสินค้าหรือบริการ
เปน็ เงินเชอ่ื การซ้ือสนิ ทรพั ยเ์ ป็นเงนิ ผ่อนชาระ หรอื การเชา่ ซ้ือ เป็นต้น เงินคงเหลือ คือ เงินหรือ
ทรัพย์สนิ ท่ีวัดมูลคา่ ได้ หลังจากนารายรบั ลบด้วยรายจ่ายแลว้ ปรากฏรายรับมากกว่ารายจ่ายจะทาให้
มีเงินคงเหลือ หรือในหลักทางบัญชีเรียกว่ากาไร แต่หากหลังจากนารายรับลบด้วยรายจ่ายแล้ว
ปรากฏวา่ รายจ่ายมากกวา่ รายรบั จะทาใหเ้ งินคงเหลอื ติดลบหรือทางบญั ชเี รียกวา่ ขาดทนุ น่นั เอง
2.2.2 นาข้อมูลการใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมาจัดเรียงลาดับความสาคัญของรายจ่าย
และวางแผนการใช้จ่ายเงิน โดยพิจารณาแต่รายการในแต่ละวันมีรายจ่ายใดท่ีมีความสาคัญมากและ
รายจ่ายใดไม่จาเป็นให้ตัดออก เพ่ือให้การใช้จ่ายภายในครอบครัวมีพอใช้และเหลือเก็บเพ่ือการออม
ทรัพย์สาหรับใช้จ่ายสิ่งที่จาเป็นในอนาคต บัญชีครัวเรือนถือเป็นส่วนสาคัญในการปฏิบัติตามแนว
เศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลัก 3 ข้อคือ การพอประมาณ ถ้ารู้รายรับ - รายจ่าย ก็จะใช้แบบ
11
พอประมาณ แต่มเี หตผุ ลร้วู ่ารายจ่ายใดจาเปน็ และเมื่อเหลือจากใช้จ่ายก็เก็บออม นั้นคือภูมิคุ้มกัน
ท่ีเอาไว้คุ้มกันตัวเราและครอบครัว บัญชีครัวเรือนสามารถจดได้หมดจึงนับว่ามีประโยชน์มาก ข้อ
ควรระวังในการจัดทาบัญชีครัวเรือน คือ ลืมบันทึกบัญชี ถ้าไม่ขาดความต่อเนื่องในการบันทึกและ
ส่งผลให้ไม่อยากบันทึกผู้จัดทาเข้าใจผิดในรายการบัญชีไม่เข้าใจรายการที่เป็นรายรับถึงไม่ได้บันทึก
บัญชีเช่นลูกส่งเงินมาให้พ่อแม่ใช้จ่ายทุกวันสิ้นเดือนแต่พ่อแม่ไม่ได้บันทึกบัญชีรายรับเนื่องจากเข้าใจ
วา่ เงนิ ทไ่ี ดร้ ับมาน้นั ไม่ไดเ้ กิดจากการประกอบอาชพี ของตนเอง หรือเข้าใจผิดรายการหนี้สินแต่บันทึก
ไว้เป็นรายรับ ทาให้ไม่ได้เก็บเงินไว้สาหรับจ่ายชาระหนี้ในอนาคต เช่น ยืมเงินจากเพื่อนบ้านมาใช้
จ่ายภายในครอบครัว ถึงแม้จะได้รับเงินมาแต่รายการดังกล่าวไม่ถือเป็นรายรับเนื่องจากตนเองมี
ภาระผูกพันท่ีชดใช้ในอนาคต ซึ่งอาจชดใช้เงินต้นพร้อมดอกเบ้ียด้วย จากสาเหตุดังกล่าวอาจทาให้
ครอบครัววางแผนการใช้เงินผิดพลาดส่วนข้อผิดพลาดอีกประการหน่ึงคือ การเขียนชื่อรายการผลิต
การบันทึกตัวเลขผิดการบวกหรือการลบจานวนเงินผิดพลาดเกิดจากการลืมจดบันทึกรายการบัญชี
หรือบันทึกรายการซ้า ๆ กันหลายรายการ ปัญหาดังกล่าวแก้ไขโดยการคานวณจานวนเงินกระทบ
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีกับยอดเงินฝากธนาคารที่ครอบครัวมีอยู่จริงหรือ ยอดเงินท่ีเก็บไว้สาหรับใช้
จ่ายจริง หากพบว่ายอดเงินเหลือในบัญชีเท่ากับยอดเงินคงเหลือในบัญชีฝากธนาคาร แสดงว่าการ
จัดทาบัญชีถูกต้อง แต่หากกระทบยอดแล้วยอดเงินทั้งสองไม่เท่ากันอาจเกิดจากการบันทึกบัญชี
ผิดพลาดหรือเงินสดของครอบครัวสูญหาย การวางแผนการใช้จ่ายงานให้เหมาะสมระหว่างรายรับ
และรายจ่ายครอบครัวต้องมีรายรับมากกว่ารายจ่าย หากพบว่ารายรับน้อยกว่ารายจ่ายต้องหา
แนวทางนาเงินมาใช้จ่ายให้เพียงพอ โดยอาจต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย แต่การกู้ยืมเงินไม่ใช่แนว
ทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพียงแค่ช่วยให้เราใช้จ่ายมีสภาพคล่องชั่วขณะเท่าน้ัน และในระยะยาว
ยงั ส่งผลให้ครอบครัวมภี าระหน้ีสินจานวนทั้งเงินต้นและเงินดอกซ่ึงจะเพ่ิมจานวนมากข้ึนระยะเวลาที่
ยาวนานในการกู้ยืมเงิน เป็นปัญหาท่ีแก้ไขได้ยากสาหรับการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องในการ
ใช้จ่ายเงนิ หรอื ปญั หารายรับไม่เพยี งพอกับการจา่ ยน้นั มีแนวทางดงั นี้
1) การตัดรายจ่ายท่ีไม่จาเป็นออก เพื่อลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครัว เช่น
รายจ่ายเกี่ยวกับการพนัน สิ่งเสพติด ของมึนเมา รายจ่ายฟุ่มเฟือย เป็นต้น เป็นการสร้างนิสัย
ไม่ใหจ้ า่ ยฟมุ่ เฟือย
2) การลดรายจ่ายท่ีจาเป็นลง เพ่ือสร้างนิสัยการประหยัด อดออม การใช้ทรัพยากรที่มี
อยจู่ ากดั อยา่ งคุ้มค่า เช่น การปลูกผัก ผลไม้ไว้รับประทานเอง เพ่ือลดค่าอาหารและค่าเดินทางไป
ตลาดอีกท้ังทาให้สุขภาพดีอีกด้วย ลดการใช้น้ามันเชื้อเพลิงและหันมาออกกาลังกายโดยการป่ัน
จกั รยานหรอื การเดนิ การวา่ งแทนการขบั จกั รยานยนตห์ รือรถยนต์ เป็นต้น
3) การเพิ่มรายรับ หารายได้เสริมนอกเวลาทางานปกติ เช่น การใช้เวลาว่างรับจ้างตัด
เยบ็ เสือ้ ผ้า การขายอาหารหลังเลกิ งาน การปลูกผัก หรอื เล้ียงสัตวไ์ ว้ขาย เปน็ ตน้
12
4) การทาความเขา้ ใจกันภายในครอบครัวเพ่ือให้ทุกคนร่วมมือกันประหยัด รู้จักออมการ
ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ลด ละ เลิก รายจ่ายหรือสิ่งท่ีไม่จาเป็น และช่วยกันสร้างรายรับให้เพียงพอ
เหมาะสมกับเศรษฐกจิ ปัจจบุ นั
2.3 สภาพทว่ั ไปของรา้ นเสรมิ สวยวันดี
ร้านเสรมิ สวยวนั ดี ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บา้ นหนองปล้อง ตาบลหนองปล้อง อาเภอวังทรายพูน
จังหวัดพิจิตร มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีลักษณะเป็นอาคารแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนท่ีหนึ่งคือเป็น
พ้ืนท่ีสาหรับกิจการร้านเสริมสวย ส่วนท่ี 2 เป็นพ้ืนที่สาหรับจัดเก็บวัตถุดิบและอุปกรณ์เสริมสวย
ต่าง ๆ ร้านเสริมสวยวันดีประกอบกิจการเก่ียวกับการ ย้อมสีผม ยืดผม ตัดผม ดัดลอน ทาเล็บ
แตง่ หนา้ ร้านเสริมสวยวันดี เร่มิ ประกอบกจิ การต้ังแต่ พ.ศ. 2558 โดยมีจุดประสงค์หลักคือสร้าง
อาชีพเกยี่ วกบั การบริการใหแ้ กต่ นเอง
2.4 งานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
อัญญเรศ ชมสวรรค์. (2554). ได้ศึกษาและจัดทาโครงการพัฒนาระบบบัญชีครัวเรือน
เพื่อส่งเสริมการบริหารทางการเงินให้แก่นักเรียนโรงเรียนแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ มีผู้เข้าร่วมโครงการ
จานวนท้ังสิ้น 20 คน โดยมุ่งให้มีความเข้าใจถึงระบบบัญชีครัวเรือนการบันทึกบัญชีครัวเรือนและ
การสรุปยอดรายรับ – รายจ่ายในสมุดรายวันผลสัมฤทธ์ิร้อยละ 7 ของผู้เข้าร่วมโครงการมีความ
เข้าใจในการบันทึกบัญชีรายรับ – รายจ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 มีระบบการจัดการด้านการเงินอย่าง
มั่นคงและมีประสิทธิภาพ ข้อเสนอแนะ ผู้เข้าร่วมโครงการมีข้อเสนอแนะให้ผู้จัดโครงการให้
คาแนะนาเก่ียวกับการวางแผนทางการเงินท่ีหลากหลายมากกว่าการจัดทาบัญชีรายรับ – รายจ่าย
และควรเพ่ิมเวลาในการให้คาแนะนาเพื่อให้ผู้ร่วมโครงการสามารถทาความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ
ได้เพิม่ มากขึ้น
สุภาวดี รัตนวิเศษ. (2555). ได้จัดทาโครงการ “คนรุ่นใหม่ใส่ใจบัญชีครัวเรือน” โดยมี
วัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ความรู้ในการจัดทาบัญชีครัวเรือน เพื่อให้เกษตรกรมีการจัดทาบัญชี
ครัวเรือนมากข้ึน โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือชาวบ้าน หมู่บ้านหนองหัวฟาน ตาบลหนองหัวฟาน
อาเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา จานวน 60 คน ผลสัมฤทธิ์เกษตรกรมีความพึงพอใจท่ี
ได้รับความรู้ในการจัดทาบัญชีครัวเรือน เนื่องจากจะทาให้ทราบว่าในแต่ละวันตนเองมีการใช้จ่าย
อย่างไรบ้างและเล็งเห็นประโยชน์ของการจัดทาบัญชีเพ่ิมมากข้ึน ข้อเสนอแนะ ผู้เข้าร่วมโครงการ
เสนอแนะให้มีการจัดทาบัญชีครัวเรือนในรูปแบบใหม่ เพื่อเพ่ิมความน่าสนใจในการจัดทาบัญชี
ครัวเรือนรวมทั้งสือ่ การใหค้ วามรู้ทเ่ี ป็นสื่อทดี่ ูงา่ ยและเข้าใจงา่ ย
13
เอกณรงค์ เรืองรัตน์. (2561). ได้ศึกษาและจัดทาผลการศึกษาแลปัจจัยท่ีส่งผลต่อ
พฤติกรรมและแนวทางการส่งเสริม การจัดทาบัญชีรายรับ – รายจ่ายในครัวเรือนของคนทางาน
เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร เพ่ือศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการจัดทาบัญชี
รายรบั - รายจ่ายในครัวเรือน ประเมินศักยภาพในการจัดทาบัญชีรายรับ – รายจ่ายในครัวเรือนเพื่อ
ศึกษาปจั จยั ทสี่ ่งผลต่อสภาพคล่องในครัวเรือนทางด้านลบและด้านบวก ต่อพฤติกรรมการจัดทาบัญชี
รายรับ – รายจ่าย เพ่ือศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการจัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายใน
ครัวเรือน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมให้คนทางาน มีการจัดทาบัญชีรายรับ – รายจ่ายอย่าง
เหมาะสม รัดกุม สร้างฐานะและวินัยทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น ในกลุ่มคนทางานเขตบางกะปิ จังหวัด
กรุงเทพมหานคร จากการศึกษาพบวา่ ในดา้ นพฤตกิ รรมการจัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายในครัวเรือน
ของคนทางาน เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ในช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมามีการจัดทาบัญชี
รายรับ – รายจ่ายในครัวเรือน ต่ากว่า 1 ปี ร้อยละ 36.3 โดยใช้เวลาในการจดบันทึก
รายรับ – รายจา่ ย เดือนละครั้ง ร้อยละ 30.3 ซ่ึงในชว่ งทจี่ ดั ทาบญั ชีรายรบั - รายจ่ายในครัวเรือน
จะขนึ้ อยูก่ บั ความสะดวก รอ้ ยละ 58.6 ในการจดั ทาบัญชรี ายรับ – รายจ่ายในครัวเรือน ตนเองจะ
เปน็ ผดู้ าเนนิ การเอง ร้อยละ 88.6 และจะใชว้ ิธบี นั ทึกในสมดุ ทั่วไปเพ่ือจัดทาบัญชีรายรับ – รายจ่าย
ในครวั เรอื น รอ้ ยละ 39.7
บทที่ 3
วิธีการดาเนินงาน
การดาเนินงานการศึกษาครั้งน้ี เพ่ือจัดทาโครงงานให้บริการความรู้จัดทาบัญชีรายรับ -
รายจ่ายให้กบั กิจการร้าน เสรมิ สวยวันดี ซ่ึงผ้จู ัดทาโครงงานไดด้ าเนินการศึกษาตามลาดบั ดงั นี้
3.1 กลุ่มเป้าหมายทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
3.2 เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา
3.3 วธิ ีดาเนินการศกึ ษา
3.4 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล
3.1 กลุ่มเป้าหมายท่ใี ช้ในการศกึ ษา
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาและบริการให้ความรู้การจัดทาบัญชี รายรับ – รายจ่าย
ให้แกร่ า้ น เสรมิ สวยวนั ดี หมทู่ ี่ 1 ตาบลหนองปล้อง อาเภอวังทรายพนู จังหวดั พจิ ิตร
3.2 เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการศึกษา
3.2.1 แบบฟอร์มสมุดบญั ชี
3.2.2 งบรายรับ-รายจ่าย
3.2.3 สรุป
3.3 วธิ กี ารดาเนินการศกึ ษา
3.3.1 ขอคาแนะนาจากครูที่ปรึกษาโครงงาน
3.3.2 คัดเลือกหัวข้อโครงงานท่ีน่าสนใจศึกษา คณะผู้จัดทาโครงงานการตัดสินใจเลือก
หัวข้อโครงงานบริการความรู้จัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายสู่กิจการร้านเสริมสวยวันดี คณะผู้จัดทา
โครงงานควรพจิ ารณาองค์ประกอบสาคญั ดังนี้
15
1) ตอ้ งมีความรู้และทักษะพืน้ ฐานอย่างเพยี งพอในหวั ข้อเร่ืองท่ีจะศึกษา
2) สามารถจัดทาแบบฟอรม์ บัญชีรายรบั - รายจ่ายและขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวขอ้ งได้
3) มแี หลง่ ความรูท้ ีจ่ ะค้นควา้ หรอื ขอคาปรึกษา
4) มีงบประมาณเพยี งพอ
5) มีทกั ษะการสอนจดั ทาบัญชีท่เี ขา้ ใจงา่ ย
3.3.3 ประชมุ กลุม่ โครงงาน (เลือกหัวหน้ากลมุ่ โครงงาน)
3.3.4 ศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหล่งเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซ่ึงรวมถึงการขอคาปรึกษาจากคณะครู
ประจา รายวิชาและครูที่ปรึกษาโครงงานจะช่วยให้ได้แนวคิดที่ใช้ในการกาหนดขอบเขตของเร่ืองท่ี
จะปรึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากย่ิงข้ึน รวมทั้งได้ความรู้เพ่ิมเติมในเร่ืองท่ีจะปรึกษาจนสามารถใช้
ออกแบบและวางแผนดาเนนิ การทาโครงงานนน้ั ได้
3.3.5 จัดทาเคา้ โครงของโครงงานท่ีจะทามรี ายละเอยี ด ดงั นี้
1) ศึกษาคน้ คว้าเอกสารอา้ งองิ และรวบรวมขอ้ มูล
2) วเิ คราะห์ข้อมูลเพอ่ื กาหนดขอบเขตและลกั ษณะของโครงงานที่จะพฒั นา
3) ทาการพัฒนาโครงงานขั้นต้น เพื่อศึกษาความเป็นไปได้เบ้ืองต้น โดยอาจจะทา
การพฒั นาส่วนยอ่ ๆ บางสว่ นตามที่ไดอ้ อกแบบ
4) เสนอเค้าโครงของโครงงานการบรกิ ารให้ความรู้การจดั ทาบัญชีรายรับ - รายจ่าย
ของกิจการรา้ นเสรมิ สวยวันดี ต่อครูที่ปรึกษาเพ่ือขอคาแนะนาและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้การวางแผน
และดาเนนิ การทาโครงงานเปน็ ไปอยา่ งเหมาะสมเป็นข้ันตอนต้งั แต่เริ่มตน้ จนสิน้ สดุ
3.3.6 การลงมือทาโครงงาน
เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากครูท่ีปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการ
จัดทาโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ข้ันตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่
วางแผนไว้ เช่น จัดเตรียมวัสดุ - อุปกรณ์ให้พร้อม รวมทั้งกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบในกลุ่มให้
ชัดเจนว่าแต่ละคนจะมีหน้าที่ทาอะไร แล้วจึงดาเนินการทาโครงงานขณะเดียวกันต้องมีการทดสอบ
ตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาโครงงานเป็นระยะ ๆ เพ่ือให้แน่ใจว่าเจ้าของกิจการเข้าใจในการ
จัดทาบัญชรี ายรับ – รายจ่ายในกจิ การแลว้
16
3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
ผู้จดั ทาโครงงานได้ดาเนินการเกบ็ รวบรวมข้อมลู โดยการดาเนนิ การตามขอ้ มูลดงั นี้
3.4.1 นาฟอรม์ ไปเก็บขอ้ มูลจากร้านเสริมสวยวันดี หมู่ที่ 1 ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน
จ.พิจติ ร
3.4.2 นาข้อมลู ท่ไี ด้มาบนั ทกึ วเิ คราะห์คดิ แบบฟอรม์ ใหเ้ หมาะสมกับกิจการ
3.4.3 ทาการบันทกึ รายรบั -รายจา่ ย
3.4.4 ติดตามการบันทึกรายรับ-รายจา่ ย
บทท่ี 4
ผลการดาเนนิ งาน
จากกรณีศึกษาคร้งั นี้ สามารถแสดงผลการวิจยั และวิเคราะห์ข้อมูล ได้ดังนี้
การประเมินความคิดเห็นผู้ตอบแบบสอบถามโครงงานการบริการความรู้การจัดทาบัญชี
รายรับ - รายจ่ายสู่ผู้บริการร้านเสริมสวยวันดีของแผนกวิชาการบัญชีวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร
คณะผจู้ ัดทาได้ดาเนินการวเิ คราะหข์ ้อมูลและนาเสนอผลการวเิ คราะห์
หลักเกณฑ์การประเมนิ โดยใหร้ ะดบั คะแนน 1 - 5 ตามเกณฑ์ดังนี้
ระดับคะแนน 4.51 - 5.00 ดีมาก
ระดับคะแนน 3.51 - 4.50 ดี
ระดับคะแนน 2.51 - 3.50 ปานกลาง
ระดบั คะแนน 1.51 - 2.50 นอ้ ย
ระดบั คะแนน 1.00 - 1.50 นอ้ ยทส่ี ดุ
4.1 ขอ้ มูลสภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
การศึกษาคร้ังนี้ ผศู้ กึ ษาได้เก็บรวบรวมขอ้ มูลจากกลุ่มตวั อยา่ งที่เป็นผู้บริการร้านเสริมสวย
ซ่ึงผูศ้ ึกษาไดน้ ามาวิเคราะห์ข้อมลู สภาพทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถามเกี่ยวกับเพศ อายุ สถานภาพ
ดงั น้ีแสดงในตารางที่ 4.1.1 - 4.1.5
18
ตารางท่ี 4.1.1 แสดงจานวนและรอ้ ยละของสถานะภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
รายการ จานวน ร้อยละ
ชาย 0 0.00
หญิง 1 100.00
1 100.00
รวม
จากตารางท่ี 4.1.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงจานวน 1 คนคิดเป็นร้อยละ
100
ตารางท่ี 4.1.2 แสดงจานวนและค่าอัตราร้อยละของอายผุ ู้ตอบแบบสอบถาม
ตา่ กว่า 20 ปี รายการ จานวน ร้อยละ
21 - 30 ปี รวม 0 0.00
31 - 40 ปี 1 100.00
40 ปขี น้ึ ไป 0 0.00
0 0.00
1 100.00
จากตารางที่ 4.1.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุ 21 – 30 ปี จานวน 1 คนคิดเปน็
รอ้ ยละ100
19
ตารางท่ี 4.1.3 แสดงจานวนและคา่ ร้อยละของสถานะภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม
รายการ จานวน รอ้ ยละ
โสด 1 100.00
สมรส 0 0.00
1 100.00
รวม
จากตารางท่ี 4.1.3 พบวา่ ผ้ตู อบแบบสอบถามมีสถานภาพโสดจานวน 1 คน คิดเป็นร้อย
ละ 100
ตารางที่ 4.1.4 แสดงคา่ เฉลยี่ และส่วนเบี่ยงเบนแบบมาตรฐานความคิดเห็นของร้านเสริม
สวยวันดี
รายการ ผลการวิเคราะห์ ระดับ
̅ S.D. ความคิดเห็น
1. รูปแบบบญั ชมี คี วามเหมาะสมบญั ชีรายรบั - รายจ่าย 5.00 5.00 มากทส่ี ดุ
2. ระยะเวลาในการให้ความรู้มคี วามเหมาะสม 5.00 5.00 มากทสี่ ุด
3. ลาดับขัน้ ตอนเนื้อหาและรูปแบบการใหบ้ ริการของ 5.00 5.00 มากท่ีสดุ
นักเรยี นนกั ศึกษา 5.00 5.00 มากท่ีสุด
4. นักศกึ ษามคี วามเป็นกันเองและใหค้ วามสนใจท่ีจะ
บรกิ าร 5.00 5.00 มากทส่ี ุด
5. ทา่ นได้ประโยชนจ์ ากการทาบัญชี 5.00 5.00 มากทีส่ ดุ
6. ความประทับใจในการทากิจกรรม 5.00 5.00 มากที่สุด
7. สามารถนามาใชป้ ระโยชน์ในการทาบัญชขี องกิจการ
รา้ นคา้ 5.00 5.00 มากที่สุด
8. การให้บริการของนักศึกษาชว่ ยในการนามาประยุกต์ใช้
ในชวี ติ ประจาวนั 5.00 5.00 มากทส่ี ุด
รวม
จากตารางที่ 4.1.4 พบว่าผ้ตู อบแบบสอบถามมีความคิดเห็นว่าการให้ความรู้บัญชีรายรับ
รายจ่าย มคี า่ เฉลย่ี สูงสุด 5 (̅ = 5.00 S.D. = 5.00)
20
ตารางท่ี 4.1.5 แสดงขอ้ มลู สนิ ทรพั ยแ์ ละค่าเส่ือมราคาอุปกรณ์
ที่ รายการ ราคา อายุการใช้ คา่ เสอ่ื มต่อปี
งาน (ป)ี
1 ไดรเ์ ป่าผม
2 เคร่อื งหนบี ผม 1,990 2 995.00
3 เครอ่ื งอบไอน้า
4 กระจก 1,590 2 795.00
5 เก้าอี้
3,500 4 875.00
คา่ เส่อื มราคาต่อปี
ค่าเส่อื มราคาสะสมตอ่ เดือน 1,000 4 250.00
1,500 4 375.00
3,290.00
274.17
จากตารางท่ี 4.1.5 แสดงขอ้ มูลทรัพย์สนิ และค่าเสื่อมราคา อันดับแรกคือเครื่องอบไอน้า
ราคา 875.00 บาทต่อปี ไดร์เป่าผมราคา 995.00 บาทต่อปี เครื่องหนีบผมราคา 795.00 บาท
ต่อปี เก้าอ้ีราคา 375.00 บาทต่อปี กระจกราคา 250.00 บาทต่อปี รวมค่าเสื่อมราคาต่อปี
3,290.00 บาท ตอ่ เดอื น 274.17 บาท
4.2 สรปุ ผลการวิเคราะห์สอบถามรา้ นค้ากลุ่มตัวอยา่ ง มีดังน้ี
จากการวิเคราะหจ์ ากแบบสอบถามของกล่มุ ร้านคา้ ตัวอย่างปรากฏวา่
4.2.1 รูปแบบการบญั ชีมีความเหมาะสม จากการตอบแบสอบถามว่ารูปแบบบัญชีมีความ
เหมาะสม อยใู่ นระดบั ค่าเฉลีย่ 5 อย่ใู นระดับดีมาก
4.2.2 มีความเข้าใจกระบวนการบันทึกบัญชีรายรับ - รายจ่ายจากการตอบแบบสอบถาม
ปรากฏว่ามีความเข้าใจกระบวนการบันทึกบัญชีรายรับ - รายจ่ายอยู่ในระดับค่าเฉล่ีย 5 อยู่ในระดับ
ดมี าก
4.2.3 ระยะเวลาในการให้ความรู้มีความเหมาะสม จากการตอบแบบสอบถามว่า
ระยะเวลาในการใหค้ วามรู้มีความเหมาะสม อย่ใู นระดบั ค่าเฉล่ีย 5 อยู่ในระดบั ดมี าก
21
4.2.4 ลาดับข้ันตอนเน้ือหาและรูปแบบการให้บริการของนักศึกษาให้ความรู้ จากการ
ตอบแบบสอบถามปรากฏว่าลาดบั ขนั้ ตอนและเน้ือหาและรูปแบบการให้บริการของนักศึกษาให้ความ
รู้อยใู่ นระดับคา่ เฉลี่ย 5 อย่ใู นระดบั ดมี าก
4.2.5 นักศึกษาท่ีมคี วามเป็นกนั เองให้ความสนใจที่จะบริการ จากการตอบแบบสอบถาม
ปรากฏวา่ นกั ศึกษาที่มคี วามเป็นกันเองให้ความสนใจท่ีจะบริการ อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย 5 อยู่ในระดับ
ดีมาก
4.2.6 ท่านได้รับผลประโยชน์จากการฝึกทาบัญชี จากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่า
ทา่ นได้รบั ผลประโยชน์ จากการฝกึ ทาบญั ชอี ยู่ในระดับค่าเฉลีย่ 5 อยูใ่ นระดบั ดีมาก
4.2.7 ความประทับใจในกาทากิจกรรมจากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่าความ
ประทบั ใจ ในการการทากิจกรรม อยู่ในระดับค่าเฉลีย่ 5 อยู่ในระดับดมี าก
4.2.8 สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการทาบัญชีของกิจการร้านเสริมสวยจากการตอบ
แบบสอบถามปรากฏว่าสามารถนามาใช้ประโยชน์ในการบัญชีของกิจการร้านเสริมสวย อยู่ในระดับ
อย่ใู นระดบั คา่ เฉลย่ี 5 อยู่ในระดบั ดมี าก
4.2.9 การให้บริการของนักศึกษาช่วยในการประยกุ ต์ในชวี ติ ประจาวนั จากการตอบแบบ
สอบถามปรากฏว่าการใหบ้ ริการของนักศึกษาช่วยในการนาไปประยุกตใ์ นชวี ิตประจาวัน อยใู่ นระดับ
ค่าเฉลี่ย 5 อยู่ในระดบั ดีมาก
เดือนพฤศจิกายน 22
กาไรสุทธิ รายได้
14% 50%
ค่าใช้จา่ ย
36%
รายได้ คา่ ใชจ้ ่าย กาไรสทุ ธิ
จากกราฟสรปุ เดือนพฤศจิกายนมีรายได้ 13,600.00 บาท ใหเ้ ปน็ 100% ค่าใช้จ่าย
9,689.17 บาท คดิ เปน็ 71.25% จงึ ทาให้มีกาไรสทุ ธิ 3,910.83 บาท คดิ เป็น 28.75%
เดือนธันวาคม
กาไรสทุ ธิ รายได้
18% 50%
คา่ ใชจ้ ่าย
32%
รายได้ ค่าใช้จา่ ย กาไรสุทธิ
จากกราฟสรปุ เดือนธันวาคมมีรายได้ 12,910.00 บาท บาท ให้เปน็ 100% คา่ ใชจ้ ่าย
8,329.17 บาท คิดเป็น 64.52% จึงทาให้มีกาไรสุทธิ 4,580.83 บาท คดิ เป็น 35.48%
23
การเปรยี บเทยี บระหว่างเดอื นพฤศจิกายนกับเดอื นธันวาคม
16,000 เดอื นธนั วาคม
14,000
12,000 รายได้ ค่าใช้จา่ ย
10,000
8,000
6,000
4,000
2,000
0
เดือนพฤศจิกกายน
ในเดอื นพฤศจิกายนจะมีรายได้มากกว่าเดือนธนั วาคม 690.00 บาท คิดเปน็ 100 %
มคี ่าใช้จา่ ยมากกวา่ เดือนธนั วาคม 1,360.00 บาท คดิ เป็น 29.70 %
บทที่ 5
สรุป อภปิ รายผล ข้อเสนอแนะ
การออกให้บริการการจัดทาบัญชีรายรับ - รายจ่ายให้กับร้านเสริมสวยวันดีโครงการนี้มี
วัตถุประสงค์เพ่ือ นาความรู้จากการที่ได้ศึกษาจากสถานศึกษามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการค้าการ
ดาเนินงานการสอนทาบัญชี รูปแบบการลงบัญชีท่ีเหมาะสมต้องประกอบด้วยสร้างเอกสาร
แบบฟอร์มจาเป็นต้องใช้รูปแบบและการถ่ายทอดความรู้รูปแบบการศึกษาเชิงคุณภาพมีข้ันตอน
การศกึ ษาคอื การเตรียมการเร่อื งรูปแบบการลงบัญชที ี่เหมาะสม
5.1 อภปิ รายผลการดาเนินงาน
5.1.1 รูปแบบบัญชีมีความเหมาะสม จากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่ารูปแบบบัญชีมี
ความเหมาะสม อยใู่ นระดบั ดมี าก
5.1.2 มีความเข้าใจกระบวนการบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่ายจากการตอบแบบสอบถาม
ปรากฏว่ามคี วามเข้าใจกระบวนการบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย อยู่ในระดับดีมาก สามารถนาความรู้
การบันทึกบญั ชีรายรบั -รายจ่ายไปใชไ้ ด้จรงิ
5.1.3 ระยะเวลาในการให้ความรู้มีความเหมาะสมจากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่า
ระยะเวลาในการให้ความรมู้ คี วามเหมาะสม อยใู่ นระดบั ดีมาก
5.1.4 ลาดับขนั้ ตอนเนือ้ หาและรูปแบบการใหบ้ ริการของนักศึกษาให้ความรู้ จากการตอบ
แบบสอบถามปรากฏว่าลาดับข้ันตอนเน้ือหาและรูปแบบการให้บริการของนักศึกษาให้ความรู้อยู่ใน
ระดบั ดมี าก
5.1.5 นักศึกษาท่ีมีความเป็นกันเองให้ความสนใจท่ีจะบริการ จากการตอบแบบสอบถาม
ปรากฏวา่ นกั ศึกษาท่มี คี วามเป็นกนั เองใหค้ วามสนใจทีจ่ ะบริการ อยู่ในระดับดมี าก
5.1.6 ท่านได้รับประโยชน์จากการฝึกทาบัญชี จากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่าท่าน
ได้รบั ประโยชน์จากการฝกึ ทาบญั ชี อยใู่ นระดบั ทดี่ มี าก
5.1.7 ความประทับใจในการทากิจกรรม จากการตอบแบบสอบถามปรากฏว่าความ
ประทับใจในการทากจิ กรรม อยู่ในระดับดีมาก
25
5.1.8 สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการบัญชีของกิจการร้านเสริมสวยวันดี จากการตอบ
แบบสอบถามปรากฏว่าสามารถนามาใช้ประโยชน์ในการบัญชีของกิจการร้านเสริมสวยวันดี อยู่ใน
ระดับดีมาก
5.1.9 การใหบ้ ริการของนกั ศึกษาช่วยในการนาไปประยุกต์ในชีวิตประจาวัน จากการตอบ
แบบสอบถามปรากฏว่าการให้บริการของนักศึกษาช่วยในการนาไปประยุกต์ในชีวิตประจาวัน อยู่ใน
ระดับดีมาก
หากวิเคราะหง์ บกาไรขาดทุนเดอื นพฤศจิกายนมีรายได้ 13,600.00 บาท ให้เป็น 100%
ค่าใช้จ่าย 9,689.17 บาท คิดเป็น 71.25% จึงทาให้มีกาไรสุทธิ 3,910.83 บาท คิดเป็น
28.75% และเดอื นธนั วาคมมรี ายได้ 12,910.00 บาท ให้เป็น 100% ค่าใช้จ่าย 8,329.17 บาท
คิดเป็น 64.52% จึงทาใหม้ กี าไรสทุ ธิ 4,580.83 บาท คิดเป็น 35.48% ผลการวิเคราะห์งบแสดง
ฐานะการเงินของร้านเสริมสวยวันดี จะเห็นได้ว่าเงินสดเท่ากับ 13,600.00 บาท คิดเป็นร้อยละ
100.00% ทุน-ร้านเสริมสวยวันดี 9,689.17 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.25% กาไรสุทธิเท่ากับ
3,910.83 บาท คิดเปน็ 28.75%
หากเปรยี บเทยี บในเดอื นพฤศจิกายนเงินสดเพิม่ ขนึ้ 690.00 บาท คิดเป็น 7.13% ทุน-
ร้านเสริมสวยวันดี เดือนธันวาคมเพ่ิมข้ึน 670 บาท คิดเป็นร้อยละ 8.05% และกาไรสุทธิลดลง
670.00 บาท คดิ เป็นร้อยละ 14.63%
5.2 ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น
5.2.1 กลมุ่ ร้านคา้ ตัวอยา่ งไม่คอ่ ยเข้าใจในเร่ืองการทาบญั ชี
5.2.2 รายรับ-รายจ่ายอาจจะไม่ตรงตามความเป็นจริงเน่ืองจากมีบางรายการท่ีไม่ได้
บนั ทึก
5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 ควรจดั ทาบญั ชรี ้านคา้ ในรปู แบบใหม่ ๆ เพ่ือความน่าสนใจ
5.3.2 ควรเพมิ่ ระยะเวลาการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพื่อท่จี ะนาเสนอข้อมูลทไี่ ด้ไปเปรียบเทียบ
กอ่ นทาบัญชีร้านค้ากับหลงั ทาบัญชรี ้านค้า
บรรณานกุ รม
นางสาวธติ ิมา ต้ังนนทพัทธ์. “งานวจิ ยั ” , [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก
https://dric.nrct.go.th/, [สืบคน้ เมอื่ 13 มกราคม 2565]
นางสาวอภิญญา วเิ ศษสิงห์, “งานวิจยั ” , [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก
http://www.elfms.ssru.ac.th/ , [สบื ค้นเม่ือ 13 มกราคม 2565]
นางสาววรกร ภูมิวิเศษ. “งานวิจยั ” , [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก
http://ird.skru.ac.th/ , [สบื ค้นเมอื่ 13 มกราคม 2565]
นางสาวสภุ าวดี รัตนวิเศษ, “งานวิจยั ” , [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก
https://www.nvc-korat.ac.th/ , [สืบค้นเม่อื 13 มกราคม 2565]
นางสาวอัญญเรศ ชมสวรรค์, “งานวิจัย” , [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก
https://www.payaptechno.ac.th/ , [สืบคน้ เมอ่ื 13 มกราคม 2565]
นายเอกณรงค์ เรืองรัตน์. “บรกิ ารความรู้จัดทาบญั ชีรายรบั - รายจา่ ย” , [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก
https://searchlib.utcc.ac.th/ , [สืบคน้ เมอื่ 13 มกราคม 2565]
ภาคผนวก
ภาคผนวก ก
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ
29
.
แบบสอบถามฉบับนี้จัดทาขึ้น โดยนักศึกษากลุ่มโครงงานการบริการความรู้การจัดทาบัญชีรายรับ-
รายจ่ายกรณีศึกษากิจการร้านเสริมสวยวันดี มีวัตถุประสงค์เพ่ือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทา
บญั ชรี ายรับ-รายจา่ ยว่ามีขอ้ ผิดพลาดหรือข้อบกพรอ่ งอะไรบา้ ง
ทาสแกน QR-CODE ทางด้านซา้ ยมอื เพ่ือเขา้ สรู่ ะบบเว็บไซตก์ รอกข้อมูล
หรอื เข้าไปทเ่ี วบ็ ไซต์ https://forms.gle/WGfG6XMZPq4F57dw7
30
ภาพที่ 1 ภาพการส่งเว็บไซต์ให้กบั เจา้ ของรา้ นตอบแบบสอบถามออนไลน์
แบบสอบถามเพื่อการวิจัย
ความพึงพอใจของเจ้าของร้านที่มีต่อการบริการความรู้การจัดทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย ร้านเสริมสวยวันดี
ม.1 ต.หนองปล้อง อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
*จำเป็ น
ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
กรุณากรอกข้อมูลตามความเป็ นจริง
1 คำนำหน้า *
ทำเครื่องหมายเพียงหนึ่งช่อง
นาย
นาง
นางสาว
2 ชื่อ - สกุล *
3 เพศ *
ทำเครื่องหมายเพียงหนึ่งช่อง
ชาย
หญิง
4 อายุ * เกณฑ์ระดับการประเมินความพึงพอใจในการบริการ
ทำเครื่องหมายเพียงหนึ่งช่อง 5 = พึงพอใจมากที่สุด
4 = พึงพอใจมาก
ต่ำกว่า 20 ปี 3 = พึงพอใจปานกลาง
21 - 30 ปี 2 = พึงพอใจน้อย
31 - 40 ปี 1 = พึงพอใจน้อยที่สุด
40 ปี ขึ้นไป
5 สถานะภาพ *
ทำเครื่องหมายเพียงหนึ่งช่อง
โสด
สมรส
ส่วนที่ 2 แบบประเมินความพึงพอใจ
6 54321
ทำเครื่องหมายแถวละหนึ่งช่องเท่านั้น
รูปแบบบัญชีมีความเหมาะสม
มีความรู้ ความเข้าใจในการบันทึกบัญชีรายรับ -
รายจ่าย
ระยะเวลาในการให้ความรู้มีความเหมาะสม
ลำดับขั้นตอนเนื้อหาและรูปแบบการให้บริการ
ของนักศึกษาที่ให้ความรู้
นักศึกษามีความเป็ นกันเองให้ความสนใจที่จะ
บริการ
ท่านได้รับประโยชน์จากการฝึ กทำบัญชี
ความประทับใจในการทำกิจกรรม
สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำบัญชีกิจการ
ร้านค้า
การให้บริการของนักศึกษาช่วยในการนำไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนที่ 3 ข้อเสนอแนะอื่นๆ
7
เนื้อหานี้มิได้ถูกสร้างขึ้นหรือรับรองโดย Google
ฟอร์ม
ประทบั เวลา คํานาํ หนา ชือ่ - สกุล เพศ อายุ สถานะภาพ [รูปแบบบัญชมี ีความเหมาะสม[]มคี วามรู ความเขาใจในการบ[รันะทยึกะบเวญั ลาชใรี นา
ชลลดา ศภุ พิชย หญิง 21 - 30 ป โสด 55
26/1/2022, 15:31:29 นางสาว
นากยราบัรใ-หรค าวยาจมารยูม]คี [ลวาํ ดมับเหขมน้ั าตะสอมน]เนอ้ื หาและรปู แบ[นบกั กศาึกรษใหามบีครวิกามรเขปอน งกนันักเศอึกงษใหา[ทคาวี่ในาหมไค สดวนราบัมใจปรูท]ระี่จโะยบชรนกิ าจรา]กการฝ[คก วทาาํ มบปญั ระชที]ับใจในการทํากิจก[สรารมา] รถนํามาใชประโยชนใ น[กกาารรใทหําบบรัญิกชารกี ขจิ อกงานรรกั าศนึกคษา า]ชว ยในการนําไปประยุกตใ ชใ นชวี ิตประจาํ วัน]
5555555
ภาคผนวก ข
แสดงสถานท่กี ารดาเนนิ งาน
32
ภาพท่ี 2 เจา้ ของกิจการรา้ นเสรมิ สวยวันดี
ภาพท่ี 3 เจ้าของกิจการรา้ นเสรมิ สวยวันดี
ภาคผนวก ค
แสดงภาพสอนเจา้ ของกิจการร้านเสริมสวยวนั ดี ทาบญั ชีรายรับ – รายจา่ ย
34
ภาพที่ 4 สอนเจ้าของกจิ การรา้ นเสริมสวยวนั ดี ทาบัญชรี ายรับ – รายจ่าย
ภาพที่ 5 สอนเจา้ ของกิจการร้านเสริมสวยวนั ดี ทาบัญชรี ายรบั – รายจา่ ย
ภาคผนวก ง
แสดงภาพตรวจสอบบญั ชรี ายรบั – รายจ่าย
36
ภาพท่ี 6 ตรวจสอบบัญชีรายรบั - รายจ่าย
ภาพท่ี 7 ตรวจสอบบัญชรี ายรบั – รายจา่ ย
ภาคผนวก จ
แสดงภาพเกบ็ ขอ้ มลู แบบสอบถามความพงึ พอใจ