The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นายศิรเดช บุญมาก ม.6/2 เลขที่6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-09-13 03:45:37

อารยธรรม กรีก-โรมัน

นายศิรเดช บุญมาก ม.6/2 เลขที่6

อารยธรรม

อารยธรรม
กรีก-โรมัน




นาย ศิรเดช บุญมาก ม.6/2 เลขที่6

อารยธรรม
กรีก-โรมัน

คำนำ

อีบุ๊คเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาสังคมศึกษา
ส.33101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การค้นคว้าและการ
ทำอีบุ๊คโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้อ่าน

ได้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกรีกและโรมัน

ผู้จัดทำได้เลือกเรื่องกรีกและโรมัน ในการทำอีบุ๊คเล่มนี้
เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจ และเห็นว่ากรีกและ

โรมันเป็นประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ควรค่าแก่การ
ศึกษาเพื่อให้ทราบถึงเรื่องราว

ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณ ผศ.ดร.อำพร ขุนเนียมที่ให้คำ
ปรึกษาในการจัดทำอีบุ๊คเล่มนี้และผู้จัดทำหวังว่า อีบุ๊ค

เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

สารบัญ

05 กำเนิดอารยธรรมกรีก

07 ลัทธิความเชื่อของกรีก

09 รูปแบบการปกครองของ
อารยธรรมกรีกโบราณ

12 ความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีก

13 กำเนิดอารยธรรมโรมัน

14 การปกครองโรมัน

15 มรดกสำคัญของโรมัน

17 ลักษณะของโรมันเปรียบเทียบ
กับกรีก

18 ความเสื่อมของจักรวรรดิโรมัน

ความเป็นมา

อารยธรรมกรีก

กำเนิดอารยธรรมกรีก?

อารยธรรมกรีกที่เป็นมรดกตกทอด
มาถึงปัจจุบันนี้ประกอบด้วยอารยธรรม
หลัก 2 ส่วน ได้แก่ อารยธรรมของชาวกรีก
โบราณหรืออารยธรรมเฮลเลนิก
(HELLENIC CIVILIZATON, ปี 750-336
ก่อนคริสต์ศักราช) และ อารยธรรมเฮล
เลนิสติก (HELLENISTIC CIVILIZATION,
ปี 336-31 ก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเกิดขึ้น
ในช่วงเวลาที่กรีกอยู่ภายใต้การปกครอง
ของจักรวรรดิมาซิโดเนีย(MACEDONIA)
และเป็นอารยธรรมที่ผสมผสานกับความ
เจริญที่รับจากดินแดนรอบๆ ทะเล
เมดิเตอร์เรเนียน ปัจจัยที่สำคัญที่ส่งเสริม
ให้เกิดอารยธรรมกรีกโดยรวม คือ ที่ตั้ง
ทางภูมิศาสตร์ ชาวกรีกโบราณ และระบอบ
นครรัฐกรีก

อารยธรรมกรีกเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 750 ปีก่อน
คริสต์ศักราช มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเอเธนส์ (Athens)
เมืองหลวงของประเทศกรีซในปัจจุบัน เป็นอารยธรรม
ที่เจริญรุ่งเรืองและมีอิทธิพลต่อโลกตะวันตกมาก

พื้นฐาน
อารยธรรมกรีก

1 . ก รีก เ ป็ น พ ว ก อิ น โ ด - ยู โ ร เ ปี ย น ก ลุ่ ม
ห นึ่ ง อ พ ย พ เ ข้ า สู่ ดิ น แ ด น ก รีก แ ล้ ว รับ
ค ว า ม เ จ ริญ จ า ก วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ม น ว น
(MINOAN CULTURE)บนเกาะ
ค รีต ร ว ม ทั้ ง วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง เ อ เ ชี ย
ไ ม เ น อ ร์แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม อี ยิ ป ต์ ม า ผ ส ม
ผ ส า น จ น เ ป็ น อ า ร ย ธ ร ร ม ข อ ง ต น เ อ ง

2.ชาวกรีกเรียกตัวเองว่าเฮลลีน
(Hellene)เรียกบ้านเมืองตัวเองว่า
เฮลลัส(Hellas)และเรียกอารยธรรมของ
ตนเองว่าเฮเลนิก(HellenicCivilzation)

3.อุปนิสัย โดยทั่วไปของคนกรีกคือ
อยากรู้อยากเห็นเชื่ อมั่นในเหตุผล
ชอบเสรีภาพและความเป็นปัจเจกชน
นอกจากนี้กรีกยังเป็นพวกนิยมความ
เป็นธรรมชาติ
4.กรีกมีภูมิประเทศเป็นภูเขา
ทำให้ต้องแบ่งการปกครองออก
เป็นนครรัฐแต่ละนครรัฐอิสระจากกัน
ศู น ย์ ก ล า ง น ค ร รัฐ อ ยู่ ที่ “ อ ะ โ ค ร โ ป ลิ ส ”

ลัทธิความ
เชื่อของกรีก

ชาวกรีกเชื่อว่า โลก มนุษย์เกิดจากโลกที่เรียกว่า
เคออส (Chaos) ซึ่งเป็นผู้ก่อกำเนิดสวรรค์ และทะเล
ชาวกรีกเชื่อว่ามี เทพเจ้า 12 องค์ หรือรวมเรียก
ว่าโคดีคาธีออน (dodekatheon) ที่มีรูปร่างคล้าย
มนุษย์สถิตอยู่บนภูเขาโอลิมปัส(Olypus) ดื่ มน้ำทิพย์
และเสวยอาหารแพทย์ เทพเจ้าเหล้านี้เป็นอมตะและ
อาจจะโหดร้าย พยาบาทได้ถ้าลบหลู่บางครั้งอาจทำร้าย
หรือฆ่าพวกมนุษย์ได้ด้วย

เ ท พ เ จ้ า ซุ ส ( Z E U S )

ชาวกรีกนับถือเหล่าเทพเจ้า ซึ่งปกป้องการดำเนินชีวิต
ของพวกเขากษัตริย์แห่งเทพเจ้าทั้งปวงคือ เทพเจ้าซุส
(ZEUS) ซึ่งเชื่อว่าพระองค์ทรงอำนาจมากที่สุด เพราะ
องค์ปกป้องท้องฟ้าทั้งมวลและเป็นเทพเจ้าแห่งพายุ
พระชายาของพระองค์คือ เทพีฮีรา(HERE) เป็นเทพี
แห่งชีวิตสมรสและครอบครัว ชาวกรีกบูชาเทพเจ้าโดย
การร้องเพลง

รูปแบบการปกครองของ
อารยธรรมกรีกโบราณ

เนื้อหาของบทความนี้ จะเกี่ยวข้องกับนครรัฐเอเธนส์
(ATHENS) ซึ่งเป็นนครรัฐสำคัญของอารยธรรมกรีกเท่านั้น
ไม่ได้ครอบคลุมการปกครองในนครรัฐอื่น ซึ่งจะมีราย
ละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไป

1) :ระ2บ,อ0บ0รา0ช-า8ธิป0ไ0ตย
ปี(กM่อOนคNริAสตRกCาHล)Y

ราชาธิปไตย คือระบอบการปกครองที่มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครอง
สูงสุด ถือได้ว่าเป็นระบอบการปกครองแบบแรก และมีความ
เก่าแก่มากที่สุดของอารยธรรมกรีก รวมไปถึงในประวัติศาสตร์โลก
ซึ่งในช่วงนั้น แต่ละนครรัฐของกรีก (โพลิส Polis) ก็ล้วนปกครอง

แบบราชาธิปไตยทั้งสิ้น

2) ระ:บ8อ0บค0ณ-6า5ธิ0ปไตปยีก่อ(OนคLรIิGสตAกRาCล)HY

คณาธิปไตย เป็นรูปแบบการปกครอง ที่มีกลุ่มคนหรือคณะใด
คณะหนึ่ง มีอำนาจในการปกครองแบบเบ็ดเสร็จ โดยมาจากคำว่า

"Oligos" ที่แปลว่า ส่วนน้อย กับคำว่า "Arkhein" ที่แปลว่า
ปกครอง ดังนั้นคณาธิปไตย จึงแปลว่า การปกครองโดยคนส่วน

น้อย

3) 6ระ5บ0อ-บ5ท0รร0าชปยี์ก่(อTนYคRริสAตNกNาลY)
:

ระบอบทรราชย์ เป็นรูปแบบการปกครองแบบหนึ่งของอารยธรรม
กรีกโบราณ มีที่มาจากคำว่า "Tyranos" ที่แปลว่า ผู้ที่แข็งแกร่ง

เดิมทีคำว่า ทรราชย์ ไม่ได้มีความหมายในเชิงที่ไม่ดีและเลวร้าย

เหมือนในปัจจุบัน โดยในช่วงเวลานั้น ทรราชย์จะหมายถึง บุคคลใด

บุคคลหนึ่งที่ประชาชนให้การสนับสนุน ในการโค่นล้มอำนาจของ

คณาธิปไตย ก่อนที่บุคคลผู้นั้น จะกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแต่

เพียงผู้เดียว

4) ร:ะบ5อ0บ0ปรปะีชก่าอธินปคไตริสย
ต(กDาEลMเปO็นCต้RนมAาC) Y

ระบอบประชาธิปไตย ถือกำเนิดขึ้นโดยนักปฏิรูปคนสำคัญของ
นครรัฐเอเธนส์นามว่า ไคลส์ธีนีส (Cleisthenes) ผู้ที่ได้รับสมญา

นามว่า "บิดาแห่งประชาธิปไตย" (Father of Democracy)

นักคิด
นักปรัชญา

โซเครติส (Socrates) เกิดที่นครเอเธนส์ มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 469-399
ก่อนคริสต์ศักราช เขาสอนให้คนใช้เหตุผลและสติปัญญาในการแสวงหาความ
จริงเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ วิธีสอนของเขาซึ่งเรียกว่า “Socretic method”

ไม่เน้นการท่องจำ แต่ใช้วิธีตั้งคำถามโดยไม่ต้องการคำตอบ แต่ให้ผู้ถูกถาม
ขบคิดปัญหาเพื่ อหาคำตอบด้วยตนเอง แม้โซเครติสจะสั่งสอนลูกศิษย์

มากมาย แต่ก็ไม่เคยมีผลงานเขียนของตนเอง ดังนั้นปรัชญาและทฤษฎีของ
เ ข า ที่ รู้จั ก กั น สื บ ม า จึ ง เ ป็ น ผ ล ง า น ที่ ถ่ า ย ท อ ด โ ด ย ลู ก ศิ ษ ย์ ข อ ง เ ข า

วิ ห า ร พ า ร์ เ ท น อ น ( P A R T H E N O N )

ความรุ่งเรืองของ
อารยธรรมกรีก

ด้ า น ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม ช า ว เ อ เ ธ น ส์ ไ ด้ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ง า น ด้ า น
ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม ที่ โ ด ด เ ด่ น ใ ห้ แ ก่ ช า ว โ ล ก จำ น ว น ม า ก

ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ป็ น ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง อ า ค า ร เ พื่ อ กิ จ ก ร ร ม ส า ธ า ร ณ ะ
เ ช่ น วิ ห า ร ส น า ม กี ฬ า แ ล ะ โ ร ง ล ะ ค ร ค ว า ม โ ด ด เ ด่ น ข อ ง
ง า น ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม ไ ม่ ไ ด้ ขึ้ น อ ยู่ กั บ ค ว า ม ใ ห ญ่ โ ต ข อ ง สิ่ ง
ก่ อ ส ร้ า ง แ ต่ เ ป็ น ค ว า ม ง ด ง า ม ข อ ง สั ด ส่ ว น ที่ ส ม บู ร ณ์ แ บ บ

อ า ร ย ธ ร ร ม โ ร มั น
กำ เ นิ ด อ า ร ย ธ ร ร ม โ ร มั น ?

อารยธรรมโรมันมีศูนย์กลางอยู่ที่ แหลมอิตาลี เป็นอารยธรรมของ
พวกอินโด-ยู โรเปียนเผ่าละติ น (LATIN) ซึ่งอพยพจากทางตอนเหนือ
มาตั้งถิ่นฐานในแหลมอิตาลีเมื่ อประมาณ 1000 ปีก่อนคริสต์ ศั กราช
และเรียกตั วเองว่า “โรมัน” พวกโรมันได้ ขยายอิทธพลเข้าครอบครอง
ดิ นแดนที่ เป็นศูนย์กลางความเจริญของอารยธรรมเฮลเลนิสติ ก
ซึ่งล่มสลายเมื่ อประมาณปี 146 ก่อนคริสต์ ศั กราช และดิ นแดนอื่ นๆ
ทั้งในยุ โรปและแอฟริกาเหนือ ทำให้อารยธรรมของโลกตะวันออกซึ่ง
ผสมผสานอยู่ในอารยธรรมกรีกได้ ขยายเข้าไปในทวีปยุ โรป และเป็น
รากฐานของอารยธรรมตะวันตกในปัจจุ บัน

การปกครอง

รูปสมบูรณาญาสิทธิราชสืบ
สันตติวงศ์เริ่มตั้งแต่ออกุสตุส
เป็นต้น ราชวงศ์คนที่ดูเสมือน
หนึ่งเป็นผู้ฝังระบอบกาปกครอง
คือ ออกเตเวียน ทำหน้าที่
“ออกุสตุส”ซึ่งมีความหมายว่า
“สูงสุด”




ในยุคของออกุสตุสนี้ได้รับการ
ยกย่อว่า
“ROMANSGOLDEN AGE “

และในสมัยออกุสตุสนี่เองที่ฐานะ
ของจักรพรรดิได้รับการยกย่อง
เชิดชูชึ้นเป็นเจ้าและมีสิทธิ
เลือรัชทายาทด้วยพระองค์เอง
สำหรับในรัชสมัยของพระเจ้า
ออกุสตุสนี้มีเหตุการณ์สำคัญ
อันหนึ่งเกิดขึ้นก็คือพระเยซู
คริสต์ประสูติที่นครเบธเลเฮม
ในมลฑลจูเดียของโรมัน

มรดกสำคัญของ
โรมัน

1.ถนนโรมัน โดยการนำ
หินศิลา มาทำเป็นพื้นถนน

สามารถรองรับน้ำหนัก
ของรถม้าได้

2.ท่อส่งน้ำ และประตูชัย

3.กองกำลังทหารฟาลังส์
เป็นกองทหารรบที่มี
ประสิทธิภาพสูงสุดใน

ยุโรป ทหารเมื่อออกรบ
ก็จะได้รับค่าจ้าง เมื่อ
พักรบกลับบ้านประกอบ

อาชีพดั้งเดิม

โคลอสเซียม

เ ป็ น ส น า ม กี ฬ า อั ฒ จั น ท ร์ ล้ อ ม ร อ บ เ ดิ ม ที ส ร้ า ง เ พื่ อ
เ ป็ น ก า ร พ บ ป ะ ร ะ ห ว่ า ง รั ฐ กั บ ป ร ะ ช า ช น ต่ อ ม า ก ล า ย
เ ป็ น สั ง เ วี ย น ก า ร ต่ อ สู้ ข อ ง ท า ส ห รื อ พ ว ก
ก ล า ดิ เ อ เ ต อ ร์ ( นั ก ร บ ) เ ป็ น ล า น ป ร ะ ห า ร นั ก โ ท ษ ที่ ถู ก
ตั ด สิ น ป ร ะ ห า ร ชี วิ ต โ ด ย นำ ม า สู้ กั บ สิ ง โ ต แ ล ะ ใ น
ข ณ ะ เ ดี ย ว กั น เ ป็ น ที่ แ ข่ ง ม้ า ศึ ก ด้ ว ย

ลักษณะของโรมันเปรียบ
เทียบกับกรีก

1. โรมันเข้มงวดเรื่องความยุติธรรม

การลงโทษอย่างโหดร้าย ไม่ค่อยมี
เมตตา

2. กรีก บูชาเหตุผล

แต่โรมันเคารพในอำนาจ

3. กรีก เรียกร้องความรูสึกส่วนตัว

และเสรีภาพส่วนบุคคล โรมันให้ความ
สำคัญพิเศษในเรื่องความสารถ
ควบคุมตัวเอง และความอยู่ในระเบียบ
แบบแผน

4. กรีก เป็นนักทฤษฎีและศิลปินที่

ปราดเปรื่อง ในขณะที่โรมันสนใจทาง
นิติธรรมศาสตร์และทฤษฎีรัฐศาสตร์

คจักวารมวเรสืร่
อดิมโรขมอันง

เ มื่ อ พ ร ะ จั ก ร พ ร ร ดิ ค อ น ส แ ต น ติ น
ย้ า ย เ มื อ ง ห ล ว ง จ า ก ต ะ วั น ต ก ไ ป ต ะ วั น อ อ ก
ก็ ไ ด้ ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม รู้ สึ ก แ ต ก แ ย ก ร ะ ห ว่ า ง
2 ฝั่ ง จั ก ร ว ร ร ดิ ต ะ วั น ต ก นั้ น ไ ด้ ถู ก พ ว ก
อ น า ร ย ช น เ ย อ ร มั น ( T E U T O N I C ) ล้ ม
ล้ า ง ไ ป ตั้ ง แ ต่ ปี ค . ศ . 4 7 6 ข ณ ะ ที่ จั ก ร ว ร ร ดิ
ต ะ วั น อ อ ก มี อ า ยุ ยื น ย า ว ม า จ น ถึ ง ส มั ย ที่ ถู ก
พ ว ก เ ต อ ร์ ก รุ ก ร า น ใ น ปี ค . ศ . 1 4 5 3 สำ ห รั บ

1. หลังปี ค.ศ. 180 ไม่มีกำหนดการสืบตำแหน่งไว้ใน
รัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดการแย่งอำนาจในหมู่นายพล

2. การถูกโจมตีจากศัตรูภายนอก และเกิดรัฐอิสระขึ้นตาม
ชายแดนที่ถูกคุกคาม

3. ที่ดินแทบทั้งจักรวรรดิตกอยู่ในเงื้อมมือชนชั้นสูงส่วน
น้อยเท่านั้น ชาวนาที่สิ้นเนื้อประดาตัวกลายเป็นโคโลนุส
(Colonus) ซึ่งจะได้รับที่ดินชิ้นหนึ่งจากเจ้าของที่ดิน เพื่อ
ทำการเพาะปลูกโดยเสรี แต่จะต้องชดใช้เจ้าของที่ดินด้วย
แรงงานของตน เมื่อนานวันเข้าก็เปลี่ยนสภาพเป็นกึ่งทาส

(serdom)

4. สงครามกลางเมือง ทำให้กระทบกระเทือนระบบการค้า

อ้างอิง

1.HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SIT
E/PRAWATISASTRTHIY12/XARYTHRR
M-KRIK-ROMAN

2.HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SIT
E/HISTORYNAJA63/YUKH-FUNFU-
SILP-WATHNTHRRM/YUKH-KRIK---
ROMAN

3.HTTPS://DREAMLOVELY17NOPARA
DA.WORDPRESS.COM

4.HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SIT
E/SOCIAL030/BTH-THI-2/HAWKHX-
YXY-THI-2-1

5.HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/SIT
E/XARYTHRRMSMAYBORAN/XARYTH
RRM-ROMAN


Click to View FlipBook Version