The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม หน่วยที่ 6 การจัดและตกแต่งโต๊ะอาหาร เรื่องการพับผ้าเช็ดปาก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattanawadee.bird, 2022-03-23 00:12:26

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม หน่วยที่ 6 การจัดและตกแต่งโต๊ะอาหาร เรื่องการพับผ้าเช็ดปาก

แผนการจดั การเรียนรู้

วชิ า การบรกิ ารอาหารและเครื่องด่มื
(Food and Beverage Service)
รหัสวิชา 20701-2005

จัดทาโดย
นางสาวหฤษฎี ศรวี ลิ า
เลขประจาตัวสอบ 7020078

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562
ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว สาขาวชิ าการโรงแรม
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ

ชื่อวิชา การบริการอาหารและเครือ่ งดม่ื รหสั วิชา ๒๐๗๐๑-๒๐๐๕
ทฤษฎี ๒ ปฏบิ ตั ิ ๒ หนว่ ยกติ ๓

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช ๒๕๖๒
ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรมทอ่ งเทีย่ ว สาขาวิชาการโรงแรม

จดั ทาโดย
นางสาวหฤษฎี ศรวี ลิ า

สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธิการ



คานา

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าการบรกิ ารอาหารและเคร่ืองด่ืม รหสั วิชา 20701-2005 จัดอยู่ในหมวด
วิชาสมรรถนะวิชาชพี กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สาขาวิชาการโรงแรม
ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
กระทรวงศกึ ษาธิการ ผู้จดั ทาได้แบง่ สาระการเรียนรเู้ ปน็ 10 หน่วยการเรยี นรู้ ไดจ้ ัดทาแผนการจัดการเรียนรู้/
แผนการสอนที่มุ่งเน้นฐานสมรรถนะ (Competency Based) และการบูรณาการ (Integrated) ตรงตาม
จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า ในแต่ละบทเรยี นมุ่งให้ความสาคัญสว่ นท่ีเป็นความรู้
ทฤษฎี หลกั การ กระบวนการ ตวั อยา่ ง แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ และคาถามเพอื่ การทบทวน เพื่อฝกึ ทกั ษะประสบการณ์
เรง่ พัฒนาบทบาทของผูเ้ รียนเปน็ ผู้จัดการแสวงหาความรู้ (Explorer) เป็นผู้สอนตนเองได้ สร้างองค์ความรู้ใหม่
และบทบาทของผู้สอนเปล่ียนจากผู้ให้ความรู้ มาเป็นผู้จัดการช้ีแนะ (Teacher Roles) จัดส่ิงแวดล้อม
เอ้ืออานวยต่อความสนใจเรียนรู้ และเป็นผู้ร่วมเรียนรู้ (Co-investigator) จัดห้องเรียนเป็นสถานท่ีทางาน
ร่วมกนั (Learning Context) จัดกลุ่มเรยี นรู้ให้รู้จักทางานรว่ มกนั (Grouping) ฝึกความใจกว้าง มุง่ สรา้ งสรรค์
คนรุ่นใหม่ สอนความสามารถท่ีนาไปทางานได้ (Competency) สอนความรักความเมตตา (Compassion)
ความเช่อื มัน่ ความซอื่ สัตย์ (Trust) เปา้ หมายอาชีพอนั ยังประโยชน์ (Productive Career) และชวี ติ ท่มี ีศักดิศ์ รี
(Noble Life) เหนอื สิ่งอ่ืนใดเปน็ คนดี ท้ังกาย วาจา ใจ มคี ณุ ธรรมจรรยาบรรณทางธรุ กจิ วิชาชพี

ส่งเสริมสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคุณวุฒิวิชาชีพ (Vocational Qualification System)
สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ (Occupational Standard) สร้างภูมิคุ้มกัน เพ่ิมขีดความสามารถในการ
แข่งขันของประเทศ กาลังแรงงาน การพัฒนามาตรฐานการปฏบิ ัติงานระดับชาติ (National Benchmarking)
และการวิเคราะห์หน้าที่การงาน (Functional Analysis) เพื่อให้เกิดผลสาเร็จในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมทุก
สาขาอาชพี เป็นการเตรียมความพรอ้ มเข้าสู่ประชาคมอาเซยี น

ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู-อาจารย์ผู้สอน
ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ที่สอดรับกับอุดมการณ์ และหลักการในการจัดการเรียนการสอนของ
อาชวี ศกึ ษา ขอขอบพระคุณ คณะครูอาจารย์ คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่ ทใ่ี ห้การสนบั สนุน
และอนเุ คราะห์ในเร่ืองตา่ งๆ มา ณ โอกาสนี้

นางสาวหฤษฎี ศรวี ลิ า
ผูจ้ ดั ทา

สารบญั ค

คานา หน้า
สารบัญ ก
มาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ ข
หลักสูตรรายวิชา 1
การวเิ คราะห์หนว่ ยการเรยี นรู้ และสมรรถนะรายวิชา 2
ตารางวิเคราะห์หนว่ ยการเรยี นรแู้ ละเวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั การเรียนรู้ 3
แผนการจดั การเรยี นรู้รายหน่วย 4
ภาคผนวก 6
17
-ส่ือการสอน Power Point 17
-ใบความรู้ 19
-แบบทดสอบก่อนเรียน 23
-แบบทดสอบหลังเรยี น 24
-แบบประเมนิ ผลงาน 26
-แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรยี น 28

มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชีพ ๑

วชิ า การบริการอาหารและเครอื่ งด่ืม (Food and Beverage Service) รหัสวิชา 20701-2005
รวม 72 คาบ/ภาคเรียน
หน่วยกติ 2-2-3 4 คาบ/สปั ดาห์

คุณภาพของผู้สาเร็จการศึกษาระดับคุณวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชา
อตุ สาหกรรมทอ่ งเทยี่ ว สาขาวิชาการโรงแรม ประกอบด้วย

1.ดา้ นคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์
1.1 คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้แก่ ความเสียสละ ความซ่ือสัตย์สุจริต ความ

กตัญญูกตเวที ความอดกลั้น การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน การมีจิตสานึกและเจตคติท่ีดีต่อวิชาชีพและ
สังคม เปน็ ตน้

1.2 พฤติกรรมลักษณะนิสัย ได้แก่ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความมีมนุษย์สัมพันธ์ ความ
เช่ือม่นั ในตนเอง ความรักสามคั คี ความขยัน ประหยดั อดทน การพ่ึงตนเอง เป็นต้น

1.3 ทักษะทางปัญญา ได้แก่ ความรู้ในหลักทฤษฎี ความสนใจใฝ่รู้ ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์
ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ เปน็ ต้น

2.ดา้ นสมรรถนะหลักและสมรรถนะทั่วไป
2.1 สื่อสารโดยใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในชวี ติ ประจาวันและในงานอาชพี
2.2 แกไ้ ขปญั หาในงานอาชพี โดยใชห้ ลักการและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์
2.3 ปฏิบัติตนตามหลักศาสนา วัฒนธรรม ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมทางสังคมและสิทธิหน้าที่

พลเมอื ง
2.4 พฒั นาบคุ ลกิ ภาพและสุขอนามัยโดยใชห้ ลักการและกระบวนการด้านสุขศึกษาและพลศกึ ษา

3.ด้านสมรรถนะวิชาชพี
3.1 วางแผน ดาเนินงาน จัดการงานอาชีพตามหลักการและกระบวนการ โดยคานึงถึงการ

บรหิ ารงานคุณภาพ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม หลักอาชวี อนามยั และความปลอดภยั
3.2 ใชค้ อมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี
3.3 ปฏบิ ัตงิ านพื้นฐานอาชีพตามหลักและกระบวนการ
3.4 ใช้หลักการและกระบวนการของการเปน็ ผ้บู รกิ ารในงานโรงแรม
3.5 ประยกุ ตค์ วามรู้ดา้ นศลิ ปวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมของนักท่องเทีย่ วในงานโรงแรม
3.6 ปฏิบัติงานตามมาตรฐานงานส่วนหน้าโรงแรม งานแม่บ้านโรงแรม งานครัวโรงแรม และงาน

บรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดื่ม
3.7 ติดตามความก้าวหน้าทางวิชาชีพและเทคโนโลยี และนามาพัฒนางานโรง แรมให้มี

ประสทิ ธิภาพและทนั สมัย
3.8 ส่อื สารดว้ ยภาษาตา่ งประเทศในการบรกิ ารงานโรงแรม



หลักสูตรรายวิชา

ชื่อวิชา การบรกิ ารอาหารและเคร่ืองดม่ื รหสั วชิ า 20701-2005
ทฤษฎี 2 ปฏบิ ตั ิ 2 หนว่ ยกิต 3

หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช 2562
ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว สาขาวิชาการโรงแรม

จุดประสงคร์ ายวิชา เพอ่ื ให้
1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลกั การการบรกิ ารอาหารและเครื่องด่ืม
2. ปฏิบัติงานการบรกิ ารอาหารและเครอื่ งดม่ื
3. ตระหนกั ในหนา้ ทค่ี วามรับผดิ ชอบงานบรกิ ารอาหารและเครื่องดื่ม
4. เจตคติและกจิ นสิ ยั ที่ดใี นการทางาน

สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลกั การบรกิ ารอาหารและเครื่องดม่ื ในธรุ กิจโรงแรม
2. แสดงความรู้เกีย่ วกบั รายการอาหารและเคร่อื งดื่มของแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่ม
3. จัดเตรยี มอุปกรณ์ เคร่อื งมือเครอ่ื งใชใ้ นงานบริการอาหารและเคร่ืองดมื่
4. จดั โตะ๊ อาหาร บรกิ ารอาหารและเครื่องดม่ื ตามรปู แบบการบริการ

คาอธบิ ายรายวิชา
ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกับการบรกิ ารอาหารและเครื่องด่ืม ประเภท รูปแบบของการบริการอาหารและ

เครื่องดื่ม หน้าท่ีความรับผิดชอบ คุณสมบัติ เจตคติที่ดีในงานบริการ จรรยาบรรณของฝ่ายบริการอาหารและ
เครื่องดื่ม ความรู้ เกี่ยวกับรายการอาหารและเครื่องดื่ม อุปกรณ์ เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ในงานบริการอาหารและ
เคร่ืองดื่ม การจัดเตรียมบริการ มารยาทการรับประทานอาหาร และฝึกปฏิบัติ การจัดโต๊ะอาหาร การบริการ
อาหารและเคร่อื งด่มื



การวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้ และสมรรถนะรายวชิ า

วชิ า การบริการอาหารและเครอ่ื งด่ืม (Food and Beverage Service) รหัสวชิ า 20701-2005
รวม 72 คาบ/ภาคเรียน
หน่วยกิต 2-2-3 4 คาบ/สปั ดาห์

หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะรายวิชา
การเรยี นรู้ท่ี
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับธรุ กิจบริการอาหาและ
1 ธรุ กจิ บรกิ ารอาหารและเครื่องดม่ื เครื่องด่ืม

2 การแบ่งสายานความรับผิดชอบในงานบริการ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกับการแบ่งสายงานความ
อาหารและเครอ่ื งดม่ื รบั ผิดชอบและจรรยาบรรณของพนักงาน
บรกิ ารอาหารและเคร่ืองด่ืม
3 ชนดิ และลักษณะของการบรกิ าร
3. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ชนดิ และลักษณะของ
4 ความรเู้ กี่ยวกบั อาหารและรายการอาหาร การบริการ

5 เครื่องมอื เครือ่ งใช้และอปุ กรณ์ในการบริการ 4. เตรียมเคร่ืองมือเครื่องใช้ และอุปกรณใ์ น
อาหารและเคร่อื งด่มื การบริการอาหารและเคร่ืองด่ืม

6 การจดั และตกแต่งโต๊ะอาหาร 5. แสดงความรูเ้ ก่ียวกับอาหารและรายการ
อาหาร
7 หลักการบรกิ ารอาหารและเคร่อื งด่มื
6. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลักการบรกิ ารอาหาร
และเคร่ืองด่ืม

7. ปฏบิ ตั กิ ารจัดและตกแต่งโตะ๊ อาหาร

8. สามารถนาความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในการเป็น
ผปู้ ระกอบการได้อย่างมคี ุณธรรมจริยธรรม

9.ตระหนักในหนา้ ท่ีความรบั ผิดชอบงานบริการ
อาหารและเคร่อื งดม่ื

10. นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไป
ใชใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน



ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรแู้ ละเวลาทใี่ ชใ้ นการจดั การเรียนรู้

วชิ า การบรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดืม่ (Food and Beverage Service) รหสั วิชา 20701-2005
รวม 72 คาบ/ภาคเรยี น
หนว่ ยกติ 2-2-3 4 คาบ/สปั ดาห์

ระดบั พฤติกรรมที่พงึ ประสงค์ เวลา

ที่ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ พุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย จติ พสิ ัย (ชม.) ลาดบั
ความ
1. ความ ู้ร จา สาคญั

12. ความเ ้ขาใจ

3. การประ ุยกต์ใ ้ช
4. ิวเคราะ ์ห
5. ประเมิน ่คา
6. ิคดส ้รางสรร ์ค
1. เ ีลยนแบบ ทาตาม
2. ป ิฏ ับติตามคา ั่สง
3. ป ิฏ ับติ ูถกต้อง
4. ป ิฏ ับติได้ต่อเ ่ืนอง
5. ทาเ ็ปนธรรมชาติ
1. การ ัรบ ้รู
2. ตอบสนอง
3. เ ็หน ุคณ ่คา
4. ัจดระบบตนเอง
5. ส ้ราง ุบค ิลกภพ

1 ธรุ กจิ บรกิ ารอาหารและ    4 4
เครือ่ งดม่ื 3
3
การแบง่ สายงานความ   4 3
2 รับผดิ ชอบในงานบรกิ ารอาหาร   
2
และเคร่ืองดื่ม 1
1
3 ชนิดและลักษณะของการ    8
บรกิ าร

4 ความร้เู กีย่ วกับอาหารและ    16
รายการอาหาร

สอบกลางภาค 4

เคร่อื งมือเครอ่ื งใช้และอปุ กรณ์  8
5 ในการบรกิ ารอาหารและ
 

เครอ่ื งด่ืม

6 การจัดและตกแต่งโตะ๊ อาหาร              16

7 หลักการบริการอาหารและ    8
เครอ่ื งดม่ื
4
สอบปลายภาค 72

รวมชั่วโมง

การวัดและประเมินผล

อตั ราสว่ นคะแนน 70:30 คะแนน

เวลาเรียน 5 คะแนน

ความสนใจ 10 คะแนน

งานที่มอบหมาย 15 คะแนน

ทดสอบ 20 คะแนน

สอบกลางภาค 20 คะแนน

สอบปลายภาค 30 คะแนน

รวม 100 คะแนน



ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรยี นรู้และเวลาท่ใี ช้ในการจัดการเรียนรู้

วิชา การบริการอาหารและเคร่ืองดืม่ (Food and Beverage Service) รหัสวชิ า 20701-2005

หน่วยกติ 2-2-3 4 คาบ/สัปดาห์ รวม 72 คาบ/ภาคเรยี น

หน่วยท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นร้แู ละรายการสอน สัปดาหท์ ี่ ชั่วโมงที่
1 1 4
ธรุ กจิ บรกิ ารอาหารและเครอื่ งด่ืม
2 1.1 ปจั จยั ทคี่ วรพิจารณาในการดาเนินธรุ กจิ บรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดมื่ 2 4
3 1.2 ประเภทของการจัดบริการอาหารและเครอ่ื งด่มื 3-4 8
4 1.3 ประเภทห้องอาหาร
1.4 องค์ประกอบแหง่ ความสาเรจ็ ของธุรกิจบริการอาหารและเครอื่ งดืม่ 5-8 16
5 การแบ่งสายงานความรับผิดชอบในงานบรกิ ารอาหารและเคร่อื งดืม่
6 ชนิดและลกั ษณะของการบริการ 9 4
3.1 ชนิดและลักษณะของการบรกิ าร 10-11 8
7 3.2 การบรกิ ารที่โตะ๊ อาหาร
3.3 กาบรกิ ารในหอ้ งแขก 12-15 16
ความรู้เก่ียวกับอาหารและรายการอาหาร
4.1 ความรู้เกยี่ วกบั อาหารและเมนอู าหาร 16-17 8
4.2 ประเภทของรายการอาหาร 18 4
4.3 ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั อาหารตะวันตก
4.4 ลักษณะของรายการอาหารทดี่ ี

สอบกลางภาค
เคร่ืองมือเคร่อื งใช้และอุปกรณ์ในการบรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดมื่
5.1 ความสาคญั ของเครอ่ื งมือเครอื่ งใช้ในการบริการอาหารและเครอื่ งดมื่
5.2 เคร่ืองมอื เครอ่ื งใชใ้ นการรบั ประทานอาหาร และการบริการอาหารและเครอ่ื งดม่ื
5.3 การทาความสะอาดและบารงุ รกั ษาเครอื่ งมือเครื่องใชอ้ ปุ กรณใ์ นการบรกิ าร
อาหารและเครอ่ื งดม่ื
การจดั และตกแต่งโต๊ะอาหาร
6.1 การจัดเก้าอ้ีในหอ้ งอาหาร
6.2 การจัดและตกแตง่ เครื่องใชป้ ระเภทผา้
6.3 ผา้ ปูโตะ๊
6.4 การพับผ้าเชด็ ปากรปู แบบต่างๆ
6.5 การจับจบี ผ้ากระโปรงโต๊ะ
6.6 การจัดวางเครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์บนโตะ๊ อาหาร
6.7 การจดั และตกแตง่ โตะ๊ อาหารแบบตา่ งๆ
หลกั การบรกิ ารอาหารและเครอื่ งด่ืม

สอบปลายภาค



แผนการจัดการเรียนรู้รายหนว่ ย หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6

ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ การจดั และตกแต่งโต๊ะอาหาร สอนคร้งั ที่ 12-15
ชัว่ โมงรวม 16

เรอ่ื ง 6.4 การพบั ผ้าเชด็ ปาก จานวน 4 ช่วั โมง/สัปดาห์

1. สาระสาคญั

การจัดและตกแต่งโต๊ะอาหารก่อให้เกิดบรรยากาศท่ีดีในห้องอาหาร เพ่ือให้เกิดความสะดวกสบายแก่

ลกู ค้าท้ังกายและจิตใจ การตกแตง่ จะสวยงามเพยี งใดขึ้นอยู่กับระดบั และรสนยิ มของโรงแรม โต๊ะ เกา้ อ้ีสาหรับ

การบริการอาหารต้องได้รับการจัดและตกแต่งอย่างพิถีพิถัน สะอาด สวยงาม เพราะนอกจากอาหารท่ีรสชาติ

อร่อยแล้ว ยังมุ่งขายสถานท่ีและบรรยากาศที่ดีอีกด้วย พนักงานบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม จะต้องมี

ความรู้ในการจัดโต๊ะอาหาร การจัดวางเครื่องมือเครื่องใช้สาหรับรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหาร

ตะวันตก เพราะจะช่วยบอกลูกค้าได้ว่ามีอาหารอะไรบ้างต้ังแต่จานแรกจนถึงจานสุดท้าย หลักในการจัดโต๊ะ

อาหาร มีขั้นตอนดังน้ีคือ จัดโต๊ะและเก้าอี้ให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ ปูผ้าปูโต๊ะ จัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร

ตามรายการอาหาร รวมถงึ จดั ตกแต่งโตะ๊ ใหด้ สู วยงามน่าน่งั รับประทานอาหาร

ผ้าเช็ดปาก (Napkin) เป็นสิ่งที่จะต้องจัดวางบนโต๊ะอาหาร เพื่อให้แขกใช้ในการเช็ดปากและยังใช้เป็น

ส่ิงประดับโต๊ะเพื่อเพ่ิมความสวยงามให้กับโต๊ะได้ด้วย โดยการนาผ้าเช็ดปากมาพับเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น

พัด (Oriental fan), ดอกบัว (Lotus), กล้วย (Banana), นกสวรรค์ (Bird of paradise), หมวกอาร์คบิชิป

(Archbishop’ hat)

การพับผ้าเช็ดปากเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งของศิลปะการจัดตกแต่งบนโต๊ะอาหาร ผ้าเช็ดปากช่วยเพิ่ม

บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ให้มีความรู้สึกท่ีครบถ้วนสมบูรณ์และช่วยในการส่งผ่านความรู้สึกนั้นมายังผู้รับ

ประทานอาหารโดยเฉพาะการจัดบริการอาหารแบบเป็นทางการ (แบบเต็มรูปแบบ) และเป็นเสมือนเกราะ

ปอ้ งกันบุคลิกภาพของผู้รบั ประทานอาหาร ผ้าเชด็ ปากจึงเป็นสิ่งจาเป็นท่ผี ู้จดั บริการอาหารจะตอ้ งคานึงถึง

2. สมรรถนะประจาหน่วย
2.1 อธบิ ายข้นั ตอนการจัดโต๊ะได้
2.2 จดั และตกแต่งเครอื่ งใชป้ ระเภทผา้ ได้
2.3 อธบิ ายหลกั การจัดวางเคร่อื งมอื อุปกรณท์ ุกชนดิ ได้
2.4 จัดโต๊ะอาหารแบบตา่ งๆ ได้
2.5 ปฏิบัตงิ านถกู ต้องตามข้ันตอนและเสร็จตามเวลาที่กาหนด
2.6 ใชว้ สั ดุอปุ กรณ์และเหมาะสมกับงาน
6.7 เกิดทกั ษะและพัฒนางานการบริการอาหารและเคร่ืองดืม่
6.8 ตะหนักในหนา้ ทค่ี วามรบั ผิดชอบการบรกิ ารอาหารและเครื่องด่ืม

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ด้านความรู้ (K)
3.1.1 มีความรูเ้ กย่ี วกับหลกั การจัดและตกแตง่ โต๊ะอาหาร
3.1.2 อธบิ ายหลกั การจดั วางเครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ุกชนิดบนโต๊ะอาหารได้
3.1.3 จาแนกรปู แบบและเลอื กอปุ กรณ์ในการใหบ้ ริการอาหารและเครื่องด่มื ได้



แผนการจดั การเรยี นรู้รายหน่วย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ การจดั และตกแต่งโตะ๊ อาหาร สอนครัง้ ท่ี 12-15
ชัว่ โมงรวม 16

เรือ่ ง 6.4 การพบั ผ้าเช็ดปาก จานวนชว่ั โมง 4/สัปดาห์

3.1.4 มีความรู้เกย่ี วกบั การจดั โต๊ะอาหารแบบตา่ งๆ ได้
3.1.4 อธบิ ายข้ันตอนการพับผา้ แต่ละแบบได้
3.1.5 บอกชอื่ รูปแบบการพับผ้าแบบต่างๆ ได้
3.1.6 สามารถประยกุ ตก์ ารพบั ผ้าโดยใชว้ สั ดอุ ื่นได้
3.2 ด้านทักษะ (P)
3.2.1 จดั วางอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารไดอ้ ย่างถูกต้องตามรายการอาหาร

3.2.2 ใช้วัสดุอปุ กรณ์ถกู ตอ้ งและเหมาะสมกับงาน

3.2.3 ปฏิบัตกิ ารพับผา้ เช็ดปากไดถ้ กู ต้องตามขั้นตอนและรูปแบบท่ีกาหนดได้

3.2.4 ปฏบิ ัติงานถูกตอ้ งตามข้ันตอนและเสรจ็ ตามเวลาท่ีกาหนด
3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ (A)

3.3.1 ปฏบิ ัตงิ านตามที่ไดร้ ับมอบหมายถูกตอ้ งและเสร็จภายในเวลาทก่ี าหนด

4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้
4.1 การพับผา้ เขด็ ปากรูปแบบต่างๆ
- กลว้ ย (Banana)
- พัด (Oriental fan)
- Cutlery
- ดอกบวั (Lotus)
- นกสวรรค์ (Bird of paradise)
- เทียนคู่ (Candle)
ความหมายและลกั ษณะของผ้าเช็ดปากท่ีดี
ผา้ เชด็ ปาก (Napkin) คือผ้าที่ใชส้ าหรับทาความสะอาดบรเิ วณมุมปาก ซ่งึ นิยมวางไวบ้ ริเวณระหว่าง

อุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร (ระหว่างช้อนกับส้อม) บนโต๊ะอาหาร นิยมพับเป็นรูปต่าง ๆ ซ่ึงโดยมากมัก
นิยมผา้ สีขาวขนาดใหญซ่ ึง่ จะมีขนาดมาตรฐานสากล 3 ขนาด คือ

ขนาด 18 x 18 ซม.
ขนาด 20 x 20 ซม.
ขนาด 22 x 22 ซม.

การเลือกชนิดของผ้าในการทาผ้าเช็ดปาก โดยปกติแล้วสามารถแบ่งชนิดของเส้นใยที่นามาใช้ใน
การผลิตผา้ ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ เส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสงั เคราะห์และเส้นใยกึง่ สังเคราะห์ ซึง่
เสน้ ใย 2 ประเภทนกี้ ็มชี นดิ ประเภทและท่มี าทแี่ ตกต่างกันออกไป

1. ผ้าที่ทามาจากเส้นใยประเภทเส้นใยธรรมชาติ หมายถึง ผ้าที่ผลิตจากการสกัด ลอก สาว หรือนา
สว่ นของพชื หรอื สัตวม์ าทาให้เกดิ เปน็ เส้นใยและนามาถักทอเป็นผืน ได้แก่



แผนการจดั การเรยี นร้รู ายหน่วย หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ การจัดและตกแต่งโตะ๊ อาหาร สอนครง้ั ท่ี 12-15
ชัว่ โมงรวม 16

เรอ่ื ง 6.4 การพบั ผา้ เช็ดปาก จานวนช่ัวโมง 4/สปั ดาห์

1.1 ผ้าฝ้าย (cotton) เป็นผ้าที่ได้จากการนาเมล็ดฝ้ายมาตีให้แตกและนาเข้าเครื่องรีดให้มี

ลักษณะเป็นเส้นและนาไปทอเป็นผืน ข้อดีของผ้าฝ้าย คือ ราคาถูก เหนียวทน ดูดซึมน้าง่ายทนต่อความร้อน

กรดด่าง ซักรอยเปอ้ื นตา่ ง ๆ ออกได้งา่ ย

1.2 ผา้ ลนิ นิ เป็นผ้าทีท่ าจากตน้ แฟลกซ์ (Flax) โดยมากมกั ไม่นิยมนามาใช้ทาผ้าเชด็ ปากเพราะมี

ราคาแพง แต่มีคุณสมบัติในเร่ืองความทนทาน ดูดซึมน้าได้เร็วและเบากว่าผ้าฝ้ายมาก ทาให้เม่ือพับข้ึนเป็น

รปู ทรงต่างๆ จะสวยงามมากกว่าผา้ ฝ้ายเพราะมีกลบี ทีค่ มมากกว่า

1.3 ผ้าไหม (Silk) เป็นเส้นใยที่ได้จากสัตว์ (ตัวไหม) มีลักษณะเงางาม ไม่ขึ้นราง่าย ทนต่อกรด

และด่าง มีความนุ่มนวล ไม่ค่อยนิยมนามาทาผ้าเช็ดปาก เพราะซักทาความสะอาดยาก เพราะถ้าทาไม่ถูกวิธี

ผ้าไหมจะเสยี ความเงางามไปได้ แตใ่ หค้ วามรู้สกึ หรหู รากับโตะ๊ อาหารมาก

ตัวอยา่ งผ้าฝา้ ย ตวั อยา่ งผา้ ลินนิ ตัวอย่างผ้าไหม

2. ผ้าท่ีทาจากเส้นใยประเภทใยสังเคราะห์และก่ึงสังเคราะห์ หมายถึง ผ้าท่ีได้จากการถักทอเส้นใย

ที่มนุษย์ประดิษฐ์ข้ึนทั้งหมด หรือผสมเส้นใยธรรมชาติกับเสน้ ใยท่มี นุษย์ผลติ ขึ้น ซ่ึงมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่

ละชนิดมคี ุณลักษณะและคณุ สมบตั แิ ตกตา่ งกันออกไป ได้แก่

2.1 ผ้าไนลอน (Nylon) เป็นผ้าท่ีผลติ จากเส้นใยสงั เคราะห์ 100 เปอรเ์ ซ็นต์มีคณุ สมบตั ใิ นเรื่อง

ความคงทน ไมห่ ดยดื ทนตอ่ กรดและด่าง และตัวแมลงกัดกินได้ดี ข้อเสยี ของเส้นใยประเภทนี้คือ ไมซ่ บั นา้ จงึ

ไม่นิยมนามาใช้ทาผ้าเช็ดปากเทา่ ไรนกั แต่มักนาเสน้ ใยมาเป็นสว่ นผสมเพือ่ เพิม่ คณุ สมบตั ิของผ้า

2.2 ผ้าเรยอน (Rayon) เป็นผ้าประเภทเส้นใยผสม หรือกึ่งสังเคราะห์ มีน้าหนักต้ังแต่เบาถึง

หนาหนัก เพราะขึ้นอยู่กับปริมาณส่วนผสมของเน้ือผ้าท่ีใช้ผสมกันในเนื้อผ้าน้ัน ๆ ผ้าประเภทนี้นิยมใช้ใน

อุตสาหกรรมโรงแรม และเหมาะกับการนามาทาผ้าเช็ดปาก แต่ควรเลือกน้าหนักเน้ือผ้าท่ีเหมาะสม ไม่บาง

หรอื หนาจนเกินไป

การเลือกผ้าที่จะนามาทาผ้าเช็ดปากจงมีความจาเป็นและมีส่วนสาคัญที่จะทาให้ผ้าเช็ดปากท่ี

ต้งั อยบู่ นโต๊ะมีความสวยงามและเหมาะสมกับการใชบ้ ริการของเจ้าของกิจการจนถึงแม่บ้านที่ต้องเลือกผ้าที่จะ

นามาทาผา้ เชด็ ปาก ดังนนั้ จึงจาเป็นจะต้องคานงึ ถงึ คณุ สมบตั ิตา่ ง ๆ เหลา่ น้ีด้วย

หลักและเทคนคิ ในการเลือกซอ้ื ผา้ เช็ดปาก

1. ตอ้ งเปน็ ผ้าท่ีสามารถทาความสะอาดได้ง่าย ทนตอ่ การซกั และทนต่อน้ายาสารเคมที ี่ใช้ในการซักได้

ดี เพราะบางครงั้ ผ้าตอ้ งสัมผัสคราบสกปรกตา่ งๆ ตลอดเวลา เวลาซักจงึ ตอ้ งใชน้ า้ ยาท่ีเขม้ ขน้ มากกว่าปกติ

2. ต้องเป็นเน้ือผ้าที่ดูดซับน้าได้ดี เนื่องจากรอยคราบท่ีเลอะมักเป็นสว่ นผสมของของเหลว น้า น้ามัน

ครีมต่าง ๆ ผ้าท่ีดูดซับน้าได้ดีจะไม่ทาให้คราบต่าง ๆ เหล่านั้นขยายวงกว้างมากขึ้น และในบางครั้งถ้ามีน้าหก

ไหลเลอะ ผา้ เช็ดปากนก้ี ็สามารถชว่ ยแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้



แผนการจดั การเรียนรู้รายหนว่ ย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ การจัดและตกแต่งโตะ๊ อาหาร สอนครงั้ ท่ี 12-15
ชวั่ โมงรวม 16

เร่อื ง 6.4 การพบั ผา้ เช็ดปาก จานวนชั่วโมง 4/สปั ดาห์

3. รดี ให้เรยี บไดง้ า่ ย และไมย่ ับง่ายเมอื่ นามาใช้

4. ราคา ผา้ บางชนิดมีราคาแพงจะทาใหต้ น้ ทนุ ค่าใชจ้ า่ ยในร้านสงู มากขน้ึ กวา่ ปกติ

5. สีสัน โดยมากแล้วตามธรรมเนียมการเลือกผ้าเช็ดปากมักนิยมสีขาว หรือสีพื้นมากกว่าผ้าท่ีมี

ลวดลายจะทาให้เข้ากับบรรยากาศต่างๆ ได้ยากและให้ความรู้สึกไม่เป็นทางการ แต่สาหรับงานเล้ียงเล็กท่ีมี

ความเป็นส่วนตัวสามารถเลือกใช้ผ้าลายต่างๆ เพ่ือความรู้สึกสนุกสนานเป็นกันเอง นอกจากน้ีสีต่างๆ ในการ

เลือกใช้ผ้ายังให้ความรู้สึกและความถูกต้องที่แตกต่างกัน จึงมีหลักในการเลือกสีของผ้าเช็ดปากที่น่าสนใจ

ดังน้ี

5.1 สถานท่ีจัดงาน ต้องดูว่าสถานที่ ๆ เลือกใช้ในการจัดงานคือท่ีใด มีรูปลักษณะใด โทนสีของ

สถานท่จี ัดงานเลี้ยงนัน้ เป็นโทนสีใด ถ้าห้องที่ใช้เป็นห้องทึบเข้มก็ควรเลือกใชผ้ า้ เช็ดปากเปน็ สใี นโทนอ่อน ส่วน

ห้องทีส่ ีโทนอ่อนก็สามารถเลอื กใช้ผา้ สโี ทนอ่อนได้เช่นกัน

5.2 ฤดกู าล เป็นสง่ิ ที่สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการเลือกสผี ้าเช็ดปากได้ เช่น ถ้าจดั งานในฤดูร้อน

สามารถเลือกสีสันสดใส หรือสีแนวพาสเทลนุ่มๆ เพ่ือให้เข้ากับบรรยากาศในช่วงนั้น สาหรับผู้จัดงานเล้ียง

กลางแจ้งปาร์ต้ีในสวนสวย การเลือกใช้ผ้าสีท่ีเน้นแนวผ้าฝ้ายดิบ จะทาให้เพิ่มบรรยากาศดสู ดใส สดชื่น แต่ถ้า

เป็นฤดูหนาวหรอื การจัดเล้ียงในห้องจดั เล้ยี ง การใช้สเี งินทอง ขาว แดง และผ้าทมี่ ีความมนั วาว เชน่ ผ้าไหมผา้

ผสมไนล่อน จะดูเหมาะสมกวา่ เพราะจะให้ความหรหู ราสงา่ งาม

5.3 ดอกไม้ท่ีใชใ้ นงานก็เป็นอีกปัจจยั หน่ึงในการเลือกใช้ผ้าสี เพราะบนโตะ๊ อาหารสว่ นใหญ่มักจะ

ตกแต่งด้วยดอกไม้ เพอ่ื เพิม่ ความน่าสนใจบนโต๊ะอาหาร ดังนนั้ ควรเลอื กใชผ้ า้ เช็ดปากท่มี ีสสี อดคล้องกับสีของ

ดอกไมเ้ พอ่ื ความกลมกลืนและความร้สู ึกร่นื ไหล

5.4 แสงสี นอกจากสขี องผ้าเช็ดปากแล้ว ยงั สามารถเอาแสงไฟมาช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติก

ให้กับโตะ๊ อาหาร โดยเฉพาะแสงสวา่ งจากเทียนไข ฉะนน้ั แสงเทยี นทีไ่ ดจ้ ะออกมาในโทนสีส้ม ซ่งึ จะมีผลต่อการ

เลือกใชผ้ ้าในโทนสีเขยี วและสนี า้ เงนิ มาก

5.5 ความหมาย สาหรับความหมายของสสี ัน เป็นสง่ิ ที่ควรทราบ เพ่อื ทจ่ี ะเลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกับ

กาลเทศและลักษณะของงาน ตวั อย่างความหมายของสตี ่าง ๆ มดี ังน้ี

· สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ความเช่ือถือ และความหวัง จึงมักเลือกใช้ในงานท่ีเป็น

ทางการเปน็ ส่วนใหญ่

· สีชมพู หมายถึง ความรัก และเพศหญิง

· สีเขียว หมายถึง ความปรองดอง ความเอาใจใส่ ความสมดุลและครอบครัว

· สีแดง หมายถึง ความหลงใหล ความสนุกสนานและความเจรญิ งอกงาม เจรญิ รงุ่ เรือง

การเลือกสีผ้าที่จะนามาใช้น้ัน จึงไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่าสีใดผิด หรือสีใดถูก ข้ึนอยู่กับผู้จัดงาน

จะตอ้ งเลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณข์ องงานน้นั ๆ

5.6 โอกาสและเทศกาล ในบางครั้งสามารถเลือกสีผ้าตามความเหมาะสมของโอกาสได้ อาทิ ถ้า

เป็นงานพิธกี ารมากๆ จาเปน็ จะตอ้ งใชผ้ า้ สขี าวเทา่ นนั้

๑๐

แผนการจดั การเรียนร้รู ายหน่วย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6

ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ การจัดและตกแต่งโตะ๊ อาหาร สอนครัง้ ที่ 12-15
ช่ัวโมงรวม 16

เร่ือง 6.4 การพับผา้ เชด็ ปาก จานวนช่วั โมง 4/สปั ดาห์

มารยาทในการใช้ผ้าเชด็ ปาก

ผ้าเช็ดปากเป็นหนง่ึ ในอุปกรณใ์ นการรับประทานอาหาร ดังนนั้ การใชผ้ ้าเช็ดปากท่ีถกู วธิ ีมคี วามจาเป็น

อย่างย่ิงโดยเฉพาะเม่ือต้องเข้าสังคมงานเลี้ยงต่าง ๆ ท้ังแบบพิธีการและก่ึงพิธีการ ผู้มาในงานจะมีการจับจ้อง

ในพฤติกรรมต่าง ๆ การปฏิบัติตนให้ถูกต้องจึงมีความจาเป็นและมีความสาคัญยิ่ง เพราะการใช้ผ้าเช็ดปากใน

ลักษณะต่าง ๆ เปน็ เสมือนการส่งสญั ญาณบอกบรกิ ร หลักการใชผ้ ้าเชด็ ปากทส่ี าคญั ดงั น้ี เท่านั้น

1. เมื่อพร้อมจะรับประทานอาหาร เมื่อทุกคนนั่งพร้อมประจาที่ เป็นมารยาทท่ีจะต้องคลี่ผ้าเช็ดปาก

วางบนตกั ทนั ที เพ่ือบรกิ รจะได้ทราบวา่ แขกมาครบแลว้ และเร่ิมเสิร์ฟอาหารได้ การคลี่ออกและพับวางไว้ท่ีตัก

น้ันโดยมากมักพับเปน็ สามเหล่ยี มเปน็ แบบมาตรฐานนิยม แตถ่ ้าเคยชินกบั การพับเปน็ สี่เหล่ยี มผืนผ้าก็ไม่ถือว่า

ผดิ นัก

2. เมื่อต้องการไปทาธุระอื่นๆ ช่ัวขณะ หรือต้องลุกออกจากที่น่ังโดยจะต้องกลับมาน่ังรับประทา

อาหารต่อ เช่น การลุกไปตักอาหาร หรือเข้าห้องน้า ให้วางผ้าเช็ดปากไว้บนเก้าอ้ี หรือพาดไว้กับที่วางแขน

(กรณีท่มี ที ว่ี างแขน) เพื่อเป็นการบอกให้บริกรวา่ กรณุ าอย่าเก็บของบนโต๊ะอาหาร และทา่ นอ่นื ทจ่ี ะมาร่วมโต๊ะ

จะได้ทราบดว้ ยว่าทีน่ ง่ั มคี นน่ังอยู่

เมื่อทานเสร็จแล้วและต้องการลุกไปโดยจะไม่กลับมานั่งรับประทานอีก หรือต้องการให้บริกรช่วยเกบ็

โต๊ะหลังจากรับประทานเสร็จสิ้น ให้นาผ้าเช็ดปากวางไว้ทางซ้ายมือหรอื ถ้าบริกรเก็บจานไปแล้วใหว้ างบริเวณ

ด้านหนา้

การพับผ้าเช็ดปากแบบ Banana

การพับผา้ เช็ดปากแบบ Banana โดยมวี ิธกี ารพับ ดังตอ่ ไปน้ี

1. วางผ้าเชด็ ปากลงดา้ นหนา้

2. พบั ผา้ ให้เป็นสามเหลย่ี ม

3. จบั มมุ แหลมท้งั สองดา้ นของสามเหล่ยี มทบขึน้

4. พับครึง่ ขน้ึ มา ให้ไดส้ องในสามสว่ นของผา้ และพบั ทบลงมาอีกคร้ังหน่งึ

5. พลิกผา้ และจับมมุ ผา้ ทั้งสองดา้ นเข้าหากนั จะเห็นลกั ษณะของผา้ เป็นรปู ทรงหา้ เหลีย่ ม

6. เกบ็ ชายผา้ สอดเข้าไป

7. จับมมุ แหลมท้ัง 2 ดา้ น กางผา้ ออกมา ลกั ษณะคลา้ ยๆ ปอกเปลือกกลว้ ย

8. จะไดผ้ า้ เชด็ ปากแบบสาเร็จตามรปู

๑๑

แผนการจดั การเรยี นรู้รายหนว่ ย หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การจดั และตกแต่งโต๊ะอาหาร สอนคร้ังท่ี 12-15
ช่วั โมงรวม 16

เร่ือง 6.4 การพับผา้ เชด็ ปาก จานวนช่วั โมง 4/สปั ดาห์

การพับผ้าเช็ดปากแบบ Oriental fan

การพับผ้าเช็ดปากแบบ Oriental fan โดยมากใช้ในห้องอาหารหรือตามงานเลี้ยงที่หรูหรา ให้

ความรู้สกึ ที่พเิ ศษและเปน็ ทางการ โดยมี ข้นั ตอนการพับ ดังต่อไปน้ี

1. พบั ริมผา้ เข้าหากนั ตรงเส้นกงึ่ กลาง แล้วพับอกี คร้งั หน่ึง

2. พบั ผา้ เปน็ จีบพัดสลบั กนั ตามยาว

3. จบั ผ้าด้านทมี่ สี องสนั ทบขึ้น

4. พับมุมลงมาให้เปน็ มมุ แหลมตามแนวสันทบดา้ นหนึง่

5. พบั มุมลงมาให้เปน็ มุมแหลมตามแนวสันทบอกี ด้านหนงึ่

6. กางออกใหฐ้ านชิดติดกนั

7. ต้ังจับเป็นรปู พบั

การพบั ผ้าเช็ดปาก Cutlery
การพับแบบ Cutlery เป็นการพับสาหรับใส่อุปกรณ์เครื่องเงิน ช้อน ส้อม หรือมีด โดยมีวิธีการพับ

ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. วางผ้าเช็ดปากลงด้านหน้า (ตะเข็บคว่า)
2. พบั คร่ึงกง่ึ กลางผ้า ใชม้ ือรีดเพือ่ ให้เห็นรอยพบั ครึ่งหนง่ึ
3. แล้วพบั ครึง่ หนึง่ ให้เปน็ ส่ีเหล่ยี มจัตุรัส
4. นามมุ ผ้าที่มีมุมผ้าทง้ั สด่ี ้านขนึ้ ขา้ งบน
5. เปดิ ผ้าชัน้ บนสุดพับทบลงมากว้างประมาณ 1 น้ิว พบั ทบไปมาจนถึงจดุ กึ่งกลางของผ้า
6. เปิดผ้าช้นั ท่ี 2 พับทบลงมากวา้ งประมาณ 1 นวิ้ วางเรียงกบั ผืนบนสดุ
7. นาผา้ ที่ปลายปดิ หันเข้าหาตัว
8. พลิกผ้ากลบั ด้าน และเก็บชายผา้ โดยพบั ผา้ ท้งั สองด้านแลว้ สอดเก็บผา้
9. จะไดผ้ ้าเช็ดปากแบบสาเรจ็ ตามรปู

๑๒

แผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 6

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ การจัดและตกแต่งโต๊ะอาหาร สอนคร้งั ที่ 12-15
ชั่วโมงรวม 16

เร่ือง 6.4 การพบั ผ้าเช็ดปาก จานวนชั่วโมง 4/สัปดาห์

การพับผา้ เชด็ ปาก Lotus

วิธีพับผ้าเช็ดปากเป็นรูปดอกบัวผ้าเช็ดปากท่ีวางบนโต๊ะอาหาร โดยมากใช้ในห้องอาหารหรือตามงานเล้ียง

ที่หรหู รา เพ่ือเพม่ิ ความสวยงามบนโต๊ะอาหาร โดยมีขั้นตอนการพบั ดังต่อไปนี้

1. วางผา้ เช็ดปากลงด้านหน้า

2. พบั มมุ ทง้ั 4 ดา้ นเขา้ หาจดุ ก่งึ กลางผ้า 3 ครง้ั

3. พลกิ ผ้า

4. พบั มุมเขา้ หาจุดก่ึงกลางอกี ครง้ั หนงึ่

5. กดกลีบดา้ นบนไว้ อีกมอื ดึงกลบี ด้านลา่ งของทกุ มมุ ขึน้

6. ดึงกลีบด้านลา่ งระหว่างกลีบบวั ทั้ง 4 ข้นึ มาเป็นกลีบซ้อน

7. จะได้ผ้าเชด็ ปากตามรปู แบบ

การพับผ้าเชด็ ปาก Bird of Paradise
การพบั ผ้าเช็ดปาก Bird of Paradise มีขนั้ ตอนการพับ ดงั ตอ่ ไปนี้
1. พบั ผ้าเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าแลว้ พับอกี คร้ังใหเ้ ปน็ รูส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส
2. หลังจากพับผ้าอีกทบหนึ่งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แล้วแบ่งคร่ึงตามเส้นทแยงมุมให้เป็นรูปสามเหล่ียม

โดยผา้ ท่ีมมุ แหลมตอ้ งเปดิ ได้ทุกชน้ั ไวด้ ้านบน
3. กดปลายผา้ ด้านแหลมไว้ แล้วจบั มุมผา้ พบั ครึ่งหนงึ่ เขา้ หาจดุ กึ่งกลางทาทง้ั สองข้าง
4. พลกิ ผา้ กลับดา้ น แล้วพบั สามเหลี่ยมเล็กทั้งสองลง
5. พับครงึ่ เขา้ หากนั โดยให้ขอบผา้ อยู่ดา้ นในแล้วจบั ให้แน่น
6. ดงึ กลบั ออกมา ทงั้ หมด 4 คร้ัง แล้วจัดให้สวยงาม
7. จะไดผ้ ้าเชด็ ปากตามรปู แบบ

การพบั ผา้ เช็ดปากแบบ
1. พับผ้าท้ังสองดา้ นเข้าหาจุดก่ึงกลางของผ้า กรีดรอยพบั ให้เรยี บรอ้ ย
2. พับมุดด้านล่างขวาในลักษณะเฉยี งออกจากก่งึ กลางจนสุดมุมของผ้าแล้วกรีดรอยพับใหเ้ รียบร้อย
3. ทาซา้ กับขนั้ ตอนที่ 4 ให้ครบทั้งสด่ี า้ น
4.จดั วางผา้ ใหเ้ ป็นแนวตงั้ กับตวั เราแล้วพบั ผา้ จากดา้ นล่างขึ้นมาประมาณ1 นิ้ว
5. พับทบไปมาจนถงึ จุดกงึ่ กลางของผ้าแล้วกรีดผา้ ให้เป็นรอย
6. คอ่ ยๆม้วนผา้ อีกด้านหนง่ึ ลงไปใหม้ าบรรจบกบั ผา้ ท่พี บั ไว้
7. พับครง่ึ โดยให้ด้านม้วนอยดู่ ้านในบีบรอยพับใหแ้ น่นแล้วคลผ่ี า้ ทท่ี บออกใหส้ วยงาม

๑๓

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายหนว่ ย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ การจดั โต๊ะอาหาร สอนครั้งท่ี 12-15
ชว่ั โมงรวม 16

เรอื่ ง 6.4 การพบั ผ้าเชด็ ปาก จานวนช่ัวโมง 4/สปั ดาห์

4.5 การจับจบี ผ้ากระโปรงโตะ๊

4.6 หลักการจัดวางเครอื่ งมือและอุปกรณ์บนโตะ๊ อาหาร

-การวางจาน ช้อน ส้อม มีด แกว้

-การวางแก้วตา่ งๆ

-การวางเคร่ืองประดับบนโตะ๊

4.7 การจดั โต๊ะแบบต่างๆ

-การจดั โต๊ะอาหารเช้า กลางวนั เย็น

-การจัดตะอาหารวา่ ง

-การจัดโตะ๊ วางอาหารแบบบุฟเฟต์

-การจัดโตะ๊ อาหารแบบคอ็ กเทลปารต์ ี้

-การจัดโต๊ะอาหารงานเลยี้ งจานวนมาก

-ปฏบิ ัติการจดั โตะ๊

การจัดวางอุปกรณบ์ นโตะ๊ อาหาร

1. จานเนยวางด้านซา้ ยของแขกระยะปลายสอ้ ม มเี นยหันคมเข้าหาตัว

2. แก้วนา้ วางดา้ นขวาปลายมดี

3. ผ้าเชด็ มือวางด้านซ้ายพบั เปดิ มมุ

4. มดี ช้อน ส้อม จาน Entrée วางห่างจากขอบโต๊ะ 1 นวิ้ มดี และชอ้ นวางขวามือหันคมเข้าด้านในช้อนซุปวาง

นอกสดุ วางหงาย ส้อมวางซา้ ย

5. เนื้อท่ีต่อ 1 คน หรอื 1 Cover ใช้เนือ้ ท่ีกว้าง 18 น้วิ

6. ของทใ่ี ชก้ อ่ นวางนอกสดุ

7. การวางแกว้ เหล้า วางตามลาดับต่อจากแก้วนาลงมา แกว้ ที่ใช้ก่อนวางนอกสดุ ในการวางต้องให้หา่ งเท่าๆ กัน

เช่น แกว้ น้า ไวน์แดง ไวน์ขาว แก้วตอ้ งใสสะอาด

8. ถว้ ยกาแฟวางดา้ นขวา วางหูของถ้วยกาแฟเปน็ รปู 5 นาฬกิ า เพ่อื ใหแ้ ขกหยิบไดส้ ะดวก

9. การเก็บโต๊ะ อาหารคาวทุกชนิดเวลาเข้าเสิร์ฟเข้าด้านซ้ายของแขก เสิร์ฟโดยใช้มือซ้ายยกเว้นเคร่ืองด่ืมเข้า

ดา้ นขวา ใชม้ ือขวาเสริ ์ฟ การถอนจานเขา้ ทางดา้ นซ้ายของแขก ถอนด้วยมอื ซ้ายแลว้ ส่งให้มือขวา

๑๔

แผนการจัดการเรยี นรู้รายหน่วย หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การจัดโตะ๊ อาหาร สอนครั้งท่ี 12-15
ชัว่ โมงรวม 16

เรือ่ ง 6.4 การพบั ผ้าเช็ดปาก จานวนชั่วโมง 4/สปั ดาห์

5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 การนาเข้าสบู่ ทเรียน (Motivation)
- ผสู้ อนช้ีแจงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ในหนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ืองการพบั ผ้าเช็ดปาก
- ผสู้ อนให้ผเู้ รียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นจานวน 5 ขอ้
- ผู้สอนทบทวนความรเู้ กีย่ วกับเน้อื หาท่เี รยี นไปก่อนหน้า เชือ่ มโยงเขา้ สู่เน้อื หาเรอ่ื งการพับผ้าเชด็ ปาก
- ผู้สอนนาผ้าเช็ดปากของจริงใหผ้ ู้เรียนช่วยกันบอกถึงหน้าที่ของผ้าเช็ดปาก และรูปแบบของผ้าเช็ดปากที่

ผเู้ รียนเคยเห็น

5.2 การเรียนรู้

ขัน้ ศึกษาขอ้ มูล (Information)

1. ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนโดยการพูดคุยซักถามผู้เรียนเกี่ยวกับการใช้ผ้าเช็ดปากในชีวิตประจาวันของ

ผเู้ รียน, ประสบการณ์เกย่ี วกับการรบั ประทานอาหารในภตั ตาคาร ฯลฯ

2. ผู้สอนบรรยายนาเข้าส่เู นอ้ื หาโดยใช้ Power point บรรยายเร่ือง การพบั ผา้ เช็ดปาก

2.1 ความสาคัญ ความหมายและลกั ษณะของผา้ เช็ดปากทด่ี ี

2.2 การเลือกชนิดของผ้าในการทาผา้ เช็ดปาก หลกั และเทคนคิ ในการเลอื กซ้ือผ้าเช็ดปาก

2.3 มารยาทในการใชผ้ า้ เช็ดปาก

2.4 ผสู้ อนทบทวนเนือ้ หากบั ผเู้ รยี นโดยใช้วิธกี ารสุ่มถาม

3. ผู้สอนแจกผา้ เชด็ ปาก (กรณีไม่มผี า้ ใชก้ ระดาษพรูฟแทน หรอื วัสดุอืน่ แทน)

4. ผู้สอนสาธิตการพบั ผา้ เช็ดปาก 6 แบบ โดยใหผ้ ้เู รียนปฏิบตั ิตามทลี ะขนั้ ตอน

-แบบ Banana -แบบ Oriental fan

-แบบ Cutlery -แบบ Lotus ดอกบวั

-แบบ Bird of Paradise -แบบ Candle

5. จดั กิจกรรมให้ผู้เรียนจับคู่กัน ฝึกปฏบิ ตั ิพับผา้ เชด็ ปากแบบต่างๆ ด้วยกนั (เพื่อนชว่ ยเพ่ือน) โดยใหเ้ วลา
ฝกึ ปฏบิ ัติ 20 นาที

6. ผู้สอนสังเกตการณก์ ารทากิจกรรมของผู้เรยี นและผูส้ อนคอยให้คาแนะนาระหว่างฝกึ ปฏบิ ัติ

ข้นั พยายาม (Application)

1. ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นแตล่ ะคนปฏิบัตวิ ธิ กี ารพบั ผ้าเชด็ ปาก (Napkin) คนละ 5 รูปแบบ ภายในเวลา 10 นาที

(มี 2 รูปแบบท่บี ังคับคอื Banana, Candle)

5.3 การสรปุ

ขั้นสาเร็จผล (Progress)

1. ผู้สอนให้คะแนนการปฏิบัตขิ องผ้เู รยี นทป่ี ฏบิ ตั ิได้ถกู ต้องตามขัน้ ตอนและเสร็จตามเวลาที่กาหนด

2. ผู้สอนพิจารณาให้คะแนนคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคเ์ ปน็ รายบุคคล
3. ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี นจานวน 10 ขอ้
4. ผสู้ อนและผูเ้ รียนสรุปความรูร้ ่วมกัน

๑๕

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายหน่วย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ การจดั โต๊ะอาหาร สอนครั้งท่ี 12-15
ชั่วโมงรวม 16

เรอื่ ง การพับผา้ เช็ดปาก จานวนชัว่ โมง 4/สัปดาห์

ขน้ั ประเมินผล
1. ผู้สอนสงั เกตการณ์การปฏบิ ตั งิ าน การทากจิ กรรม
2. ทาแบบทดสอบหลังเรียน
3. ผู้สอนต้ังคาถามใหผ้ เู้ รยี นตอบและแสดงความคิดเหน็ หลังปฏบิ ัตพิ ับผา้ ดงั น้ี

คาถามที่ 1 แบบ Candle สามารถนาไปจดั โตะ๊ แบบใดได้บ้าง (แนวคาตอบ แบบดนิ เนอร์, เซ็ทเมนู)
คาถามท่ี 2 วธิ ีการคลผ่ี ้า แบบ Banana มีวธิ ีอย่างไร (ผ้เู รยี นแสดงวธิ )ี

6. สอ่ื การเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้

6.1 สอื่ การสอน Power Point เรือ่ งการจัดโตะ๊ อาหาร

6.2 หนงั สือเรียนรายวชิ า เครือ่ งดืม่ และการผสมเคร่ืองดืม่ (ทรงสมร กิตติวฒุ เิ วช, วังอักษร, 2562)

6.3 เอกสารประกอบการสอนรายวิชาการบรกิ ารอาหารและเครื่องดม่ื (อ.ชุตมิ า จกั รจรสั )

6.4 อปุ กรณใ์ นการฝึกปฏิบัติการจดั และตกแต่งโต๊ะอาหาร
6.5 วีดโี อ YouTube การพบั ผ้าแบบตา่ งๆ https://www.youtube.com/watch?v=cAenZ9vvDuc
6.6 Google Forms (แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน)
7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้
7.1 แบบประเมินกระบวนการทางานกลุ่ม
7.2 แบบประเมนิ ผลงาน
7.3 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น
8. การบรู ณาการ/ความสัมพันธก์ บั วิชาอื่น
8.1 บรู ณาการรว่ มกับวิชาการพฒั นาบคุ ลกิ ภาพเก่ียวกับบคุ ลิกภาพในการทางานร่วมกบั ผู้อนื่
8.2 บูรณาการร่วมกับวิชาศิลปะการให้บริการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีกิจนิสัย มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ
ซ่อื สตั ย์ มีวนิ ัยตรงต่อเวลา และมีเจตคติทีด่ ีต่อวชิ าชพี
8.3 บูรณาการร่วมกับวิชาหน้าท่ีพลเมืองและศีลธรรมเก่ียวกับการวางแผนการทางานตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง
9. การวัดและประเมนิ ผล
9.1 วิธกี ารประเมนิ

9.1.1 สงั เกตการณ์รับฟังความคิดเห็นของผู้อน่ื การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัตงิ านปฏิบัติตนถูกต้องตาม
กฎระเบียบของช้ันเรียนและสถานศึกษา ทางานท่ีได้รับมอบหมายถูกต้องเสร็จภายในเวลาท่ีกาหนดและมีความ
สวยงาม แล้วบนั ทึกใหค้ ะแนนลงในแบบสังเกตพฤตกิ รรม

9.1.2 สงั เกตการณป์ ฏบิ ัติ โดยใช้แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม, แบบประเมินผลงานรายบคุ คล
9.1.3 ผสู้ อนตั้งคาถามผเู้ รยี นหลงั จากปฏบิ ตั ิพับผา้ เสร็จ
9.1.4 แบบทดสอบหลังการเรยี นรู้

๑๖

แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายหนว่ ย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ การจัดโตะ๊ อาหาร สอนครั้งท่ี 12-15
ช่วั โมงรวม 16

เรื่อง การพบั ผ้าเช็ดปาก จานวนช่ัวโมง 4/สัปดาห์

9.2 เคร่ืองมือประเมนิ
9.2.1 แบบประเมนิ ผลงาน
9.2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียน

9.3 เกณฑก์ ารประเมนิ

9.3.1 แบบประเมินผลการเรยี นรู้มีเกณฑผ์ า่ น 60%

9.3.2 เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล คือ พอใช้ (12 คะแนน ขน้ึ ไป)
9.4 หลกั ฐานความรู้

9.4.1 ผลการทดสอบประจาหน่วยการเรียนรู้
9.4.2 แบบสรุปบทเรยี นประจาหน่วยการเรียนรู้
9.5 หลกั ฐานการปฏิบัตงิ าน
9.5.1 การปฏิบตั ิงาน
9.5.2 บันทกึ การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม
9.5.3 ตอบคาถามและแสดงความคิดเหน็ เพ่อื การทบทวน
10. บนั ทกึ หลังสอน
10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้

.............................................................................................................................. ..............................
.............................................................................................................................. ..............................
.................................................................................. ..........................................................................

10.2 ผลการเรียนรู้ของนกั เรียน นักศึกษา

.............................................................................................................................. ..............................

.................................................................................. ..........................................................................

.............................................................................................................................. ..............................

10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้

.............................................................................................................................. ..............................

............................................................................................................................................................

................................................................................................................. ...........................................

๑๗

ภาคผนวก

สอ่ื การสอน Power Point

๑๘

ใบความรู้

ชอ่ื วชิ า การบริการอาหารและเคร่อื งดมื่ รหสั วิชา 20701-2005
ทฤษฎี 2 ปฏิบตั ิ 2 หนว่ ยกติ 3

หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศกั ราช 2562
ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมท่องเทย่ี ว สาขาวิชาการโรงแรม

ใบความรู้เรอื่ ง การพบั ผา้ เช็ดปาก

ดาเนนิ การสอนโดย
นางสาวหฤษฎี ศรวี ิลา



ใบความรูเ้ ร่อื งการพับผ้าเชด็ ปาก

ความหมายและลกั ษณะของผ้าเชด็ ปากท่ีดี

ผา้ เชด็ ปาก (Napkin) คอื ผา้ ทีใ่ ช้สาหรับทาความสะอาดบรเิ วณมุมปาก ซง่ึ นยิ มวางไว้บรเิ วณระหวา่ งอปุ กรณ์ใน
การรับประทานอาหาร (ระหว่างช้อนกับส้อม) บนโต๊ะอาหาร นิยมพับเป็นรูปต่าง ๆ ซึ่งโดยมากมักนิยมผ้าสีขาวขนาด
ใหญซ่ ง่ึ จะมขี นาดมาตรฐานสากล 3 ขนาด คอื

ขนาด 18 x 18 ซม.
ขนาด 20 x 20 ซม.
ขนาด 22 x 22 ซม.

การเลือกชนิดของผ้าในการทาผ้าเช็ดปาก โดยปกติแล้วสามารถแบ่งชนิดของเส้นใยที่นามาใช้ในการผลิตผ้า
ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื เส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะหแ์ ละเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ ซึ่งเสน้ ใย 2 ประเภทน้ีก็
มชี นดิ ประเภทและท่มี าท่แี ตกต่างกันออกไป

1. ผ้าท่ีทามาจากเส้นใยประเภทเส้นใยธรรมชาติ หมายถึง ผ้าท่ีผลิตจากการสกัด ลอก สาว หรือนาส่วนของพืชหรอื
สัตว์มาทาใหเ้ กดิ เปน็ เส้นใยและนามาถกั ทอเปน็ ผนื ได้แก่

1.1 ผ้าฝ้าย (cotton) เป็นผ้าท่ีได้จากการนาเมล็ดฝ้ายมาตีให้แตกและนาเข้าเคร่ืองรีดให้มีลักษณะเป็น
เส้นและนาไปทอเปน็ ผืน ข้อดีของผ้าฝ้าย คือ ราคาถูก เหนียวทน ดูดซึมน้าง่ายทนต่อความร้อน กรดด่าง ซักรอยเปอ้ื น
ตา่ ง ๆ ออกได้งา่ ย

1.2 ผ้าลินิน เป็นผ้าที่ทาจากต้นแฟลกซ์ (Flax) โดยมากมักไมน่ ิยมนามาใช้ทาผ้าเชด็ ปากเพราะมีราคาแพง
แตม่ คี ุณสมบัติในเร่อื งความทนทาน ดูดซึมนา้ ไดเ้ ร็วและเบากวา่ ผา้ ฝ้ายมาก ทาใหเ้ มือ่ พบั ข้นึ เปน็ รปู ทรงต่างๆ จะสวยงาม
มากกว่าผ้าฝ้ายเพราะมีกลีบท่ีคมมากกว่า

1.3 ผ้าไหม (Silk) เป็นเส้นใยท่ีได้จากสัตว์ (ตัวไหม) มีลักษณะเงางาม ไม่ขึ้นราง่าย ทนต่อกรดและด่าง มี
ความนุ่มนวล ไมค่ ่อยนิยมนามาทาผา้ เชด็ ปาก เพราะซักทาความสะอาดยาก เพราะถ้าทาไม่ถกู วิธผี ้าไหมจะเสยี ความเงา
งามไปได้ แตใ่ ห้ความรู้สกึ หรหู รากบั โตะ๊ อาหารมาก

ตวั อยา่ งผ้าฝา้ ย ตวั อยา่ งผา้ ลนิ ิน ตัวอยา่ งผ้าไหม

2. ผ้าท่ีทาจากเส้นใยประเภทใยสังเคราะห์และกึ่งสังเคราะห์ หมายถึง ผ้าที่ได้จากการถักทอเส้นใยที่มนุษย์
ประดิษฐ์ขึ้นทั้งหมด หรือผสมเส้นใยธรรมชาติกับเส้นใยที่มนุษย์ผลิตข้ึน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดมี
คุณลักษณะและคุณสมบตั แิ ตกต่างกันออกไป ไดแ้ ก่

2.1 ผ้าไนลอน (Nylon) เป็นผ้าที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ 100 เปอร์เซ็นต์มีคุณสมบัติในเรื่องความ
คงทน ไม่หดยืด ทนตอ่ กรดและด่าง และตวั แมลงกัดกนิ ได้ดี ขอ้ เสยี ของเส้นใยประเภทน้ีคือ ไม่ซบั นา้ จึงไม่นิยมนามาใช้
ทาผา้ เชด็ ปากเท่าไรนกั แตม่ ักนาเส้นใยมาเปน็ สว่ นผสมเพอื่ เพิม่ คณุ สมบตั ิของผ้า

2.2 ผ้าเรยอน (Rayon) เป็นผ้าประเภทเส้นใยผสม หรือก่ึงสังเคราะห์ มีน้าหนักตั้งแต่เบาถึงหนาหนัก
เพราะขนึ้ อยกู่ บั ปริมาณส่วนผสมของเน้อื ผา้ ทใ่ี ชผ้ สมกนั ในเนอื้ ผ้าน้ัน ๆ ผา้ ประเภทนนี้ ิยมใช้ในอตุ สาหกรรมโรงแรม และ
เหมาะกับการนามาทาผ้าเช็ดปาก แต่ควรเลอื กน้าหนกั เนื้อผา้ ท่เี หมาะสม ไม่บางหรอื หนาจนเกนิ ไป

การเลอื กผา้ ทจ่ี ะนามาทาผ้าเชด็ ปากจงมีความจาเป็นและมีสว่ นสาคญั ท่ีจะทาให้ผ้าเช็ดปากที่ตง้ั อยู่บนโต๊ะมี
ความสวยงามและเหมาะสมกับการใช้บริการของเจ้าของกิจการจนถึงแม่บ้านท่ีต้องเลือกผ้าที่จะนามาทาผ้าเช็ ดปาก
ดงั น้นั จงึ จาเปน็ จะต้องคานงึ ถงึ คุณสมบตั ิต่าง ๆ เหล่าน้ีดว้ ย

หลักและเทคนคิ ในการเลอื กซือ้ ผ้าเช็ดปาก
1. ต้องเป็นผ้าท่ีสามารถทาความสะอาดได้ง่าย ทนต่อการซักและทนต่อน้ายาสารเคมีที่ใช้ในการซักได้ดี เพราะ
บางคร้ังผ้าตอ้ งสมั ผัสคราบสกปรกต่างๆ ตลอดเวลา เวลาซักจงึ ต้องใช้น้ายาทเี่ ขม้ ข้นมากกว่าปกติ
2. ต้องเป็นเน้ือผ้าที่ดูดซับน้าได้ดี เน่ืองจากรอยคราบที่เลอะมกั เปน็ ส่วนผสมของของเหลว น้า น้ามัน ครีมต่าง
ๆ ผา้ ทด่ี ูดซับนา้ ไดด้ ีจะไม่ทาใหค้ ราบต่าง ๆ เหล่านน้ั ขยายวงกว้างมากข้ึน และในบางคร้ังถ้ามนี า้ หกไหลเลอะ ผา้ เช็ดปาก
นี้ก็สามารถชว่ ยแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้าได้3. รดี ใหเ้ รยี บได้ง่าย และไมย่ ับง่ายเมือ่ นามาใช้
4. ราคา ผ้าบางชนิดมรี าคาแพงจะทาใหต้ น้ ทนุ ค่าใช้จ่ายในรา้ นสงู มากขนึ้ กวา่ ปกติ
5. สสี นั โดยมากแลว้ ตามธรรมเนยี มการเลือกผา้ เช็ดปากมกั นยิ มสีขาว หรือสีพ้นื มากกวา่ ผ้าท่ีมีลวดลายจะทาให้
เข้ากับบรรยากาศต่างๆ ได้ยากและให้ความรู้สึกไม่เป็นทางการ แต่สาหรับงานเลี้ยงเล็กที่มีความเป็นส่วนตัวสามารถ
เลือกใช้ผ้าลายต่างๆ เพ่ือความรู้สึกสนุกสนานเป็นกันเอง นอกจากน้ีสีตา่ งๆ ในการเลือกใช้ผา้ ยงั ใหค้ วามรู้สึกและความ
ถกู ตอ้ งทีแ่ ตกตา่ งกัน จงึ มีหลักในการเลือกสขี องผา้ เช็ดปากที่น่าสนใจ ดังนี้

5.1 สถานที่จัดงาน ต้องดูว่าสถานท่ี ๆ เลือกใช้ในการจัดงานคือท่ีใด มีรูปลักษณะใด โทนสีของสถานท่จี ดั
งานเลี้ยงน้ันเป็นโทนสีใด ถ้าห้องท่ีใช้เป็นห้องทึบเข้มก็ควรเลือกใช้ผ้าเช็ดปากเป็นสีในโทนอ่อน ส่วนห้องท่ีสีโทนอ่อนก็
สามารถเลอื กใช้ผา้ สีโทนออ่ นได้เช่นกนั

5.2 ฤดูกาล เป็นส่ิงที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกสีผ้าเช็ดปากได้ เช่น ถ้าจัดงานในฤดูร้อนสามารถ
เลอื กสสี นั สดใส หรอื สแี นวพาสเทลนมุ่ ๆ เพ่ือให้เข้ากับบรรยากาศในชว่ งนั้น สาหรับผจู้ ัดงานเลยี้ งกลางแจง้ ปาร์ตใ้ี นสวน
สวย การเลือกใช้ผ้าสีทเี่ น้นแนวผ้าฝ้ายดบิ จะทาให้เพิ่มบรรยากาศดูสดใส สดชื่น แต่ถ้าเปน็ ฤดูหนาวหรือการจัดเลี้ยงใน



ห้องจัดเล้ียง การใช้สีเงินทอง ขาว แดง และผ้าท่ีมีความมันวาว เช่น ผ้าไหมผ้าผสมไนลอ่ น จะดูเหมาะสมกวา่ เพราะจะ
ให้ความหรูหราสงา่ งาม

5.3 ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกใช้ผ้าสี เพราะบนโต๊ะอาหารส่วนใหญ่มักจะตกแต่ง
ดว้ ยดอกไม้ เพือ่ เพิม่ ความนา่ สนใจบนโต๊ะอาหาร ดังนั้นควรเลือกใช้ผ้าเช็ดปากท่มี ีสีสอดคล้องกับสีของดอกไม้เพ่ือความ
กลมกลืนและความรสู้ ึกรน่ื ไหล

5.4 แสงสี นอกจากสขี องผา้ เชด็ ปากแล้ว ยงั สามารถเอาแสงไฟมาช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนตกิ ให้กบั โต๊ะ
อาหาร โดยเฉพาะแสงสวา่ งจากเทียนไข ฉะน้นั แสงเทยี นท่ไี ดจ้ ะออกมาในโทนสีส้ม ซงึ่ จะมีผลต่อการเลอื กใช้ผ้าในโทนสี
เขียวและสีน้าเงนิ มาก

5.5 ความหมาย สาหรับความหมายของสีสัน เป็นสิ่งท่ีควรทราบ เพ่ือที่จะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศ
และลกั ษณะของงาน ตวั อย่างความหมายของสีตา่ ง ๆ มดี ังนี้

· สีขาว หมายถงึ ความบรสิ ทุ ธ์ิ ความเชอ่ื ถอื และความหวัง จงึ มกั เลือกใชใ้ นงานทีเ่ ปน็ ทางการเป็นส่วนใหญ่
· สชี มพู หมายถงึ ความรัก และเพศหญงิ
· สเี ขยี ว หมายถึง ความปรองดอง ความเอาใจใส่ ความสมดลุ และครอบครวั
· สแี ดง หมายถงึ ความหลงใหล ความสนุกสนานและความเจรญิ งอกงาม เจริญรงุ่ เรือง

การเลือกสีผ้าท่ีจะนามาใช้น้ัน จึงไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวว่าสีใดผิด หรือสีใดถูก ขึ้นอยู่กับผู้จัดงานจะต้อง
เลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั สถานการณ์ของงานนนั้ ๆ

5.6 โอกาสและเทศกาล ในบางคร้ังสามารถเลือกสผี ้าตามความเหมาะสมของโอกาสได้ อาทิ ถา้ เปน็ งานพธิ ี
การมากๆ จาเปน็ จะตอ้ งใชผ้ า้ สขี าวเทา่ น้ัน

มารยาทในการใชผ้ ้าเชด็ ปาก
ผ้าเช็ดปากเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร ดังน้ันการใช้ผ้าเช็ดปากที่ถูกวิธมี ีความจาเป็นอย่างยงิ่
โดยเฉพาะเม่อื ต้องเขา้ สงั คมงานเล้ยี งตา่ ง ๆ ทั้งแบบพธิ ีการและกึ่งพิธีการ ผ้มู าในงานจะมีการจับจอ้ งในพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ
การปฏิบัติตนให้ถูกต้องจึงมีความจาเป็นและมีความสาคัญยง่ิ เพราะการใช้ผ้าเชด็ ปากในลักษณะต่าง ๆ เป็นเสมือนการ
ส่งสญั ญาณบอกบรกิ ร หลักการใช้ผา้ เชด็ ปากท่ีสาคญั ดังนี้ เทา่ นน้ั
1. เมื่อพร้อมจะรับประทานอาหาร เมื่อทุกคนนั่งพร้อมประจาท่ี เป็นมารยาทที่จะตอ้ งคล่ีผ้าเช็ดปากวางบนตัก
ทันที เพ่ือบริกรจะได้ทราบว่าแขกมาครบแล้วและเริ่มเสิร์ฟอาหารได้ การคล่ีออกและพับวางไว้ที่ตักนั้นโดยมากมกั พับ
เปน็ สามเหลยี่ มเปน็ แบบมาตรฐานนยิ ม แตถ่ า้ เคยชนิ กับการพับเปน็ ส่ีเหลยี่ มผนื ผา้ กไ็ มถ่ อื วา่ ผิดนัก

2. เม่ือต้องการไปทาธุระอน่ื ๆ ชั่วขณะ หรือต้องลุกออกจากท่ีนั่งโดยจะต้องกลับมานั่งรับประทาอาหารต่อ เช่น
การลุกไปตกั อาหาร หรอื เข้าหอ้ งน้า ใหว้ างผ้าเช็ดปากไว้บนเกา้ อี้ หรอื พาดไว้กับท่ีวางแขน (กรณที มี่ ที วี่ างแขน) เพอื่ เปน็
การบอกให้บรกิ รว่ากรณุ าอย่าเกบ็ ของบนโตะ๊ อาหาร และทา่ นอ่นื ทจี่ ะมารว่ มโต๊ะจะไดท้ ราบด้วยวา่ ท่นี งั่ มคี นนัง่ อยู่

เม่ือทานเสร็จแล้วและต้องการลุกไปโดยจะไม่กลับมานั่งรับประทานอีก หรือต้องการให้บริกรช่วยเก็บโต๊ะ
หลงั จากรับประทานเสรจ็ ส้นิ ให้นาผ้าเชด็ ปากวางไวท้ างซา้ ยมือหรือถ้าบรกิ รเก็บจานไปแล้วใหว้ างบรเิ วณดา้ นหนา้

การพับผา้ เชด็ ปากแบบ Banana

การพับผ้าเชด็ ปากแบบ Banana โดยมีวิธกี ารพับ ดงั ต่อไปนี้
1. วางผา้ เช็ดปากลงด้านหนา้
2. พบั ผา้ ใหเ้ ป็นสามเหลย่ี ม
3. จับมุมแหลมทง้ั สองดา้ นของสามเหลยี่ มทบขึน้
4. พบั คร่งึ ข้นึ มา ให้ไดส้ องในสามส่วนของผา้ และพบั ทบลงมาอีกครั้งหนง่ึ
5. พลกิ ผ้าและจบั มมุ ผ้าทัง้ สองด้านเขา้ หากนั จะเห็นลักษณะของผ้าเป็นรูปทรงหา้ เหลีย่ ม
6. เกบ็ ชายผา้ สอดเขา้ ไป
7. จับมมุ แหลมท้งั 2 ดา้ น กางผา้ ออกมา ลกั ษณะคล้ายๆ ปอกเปลอื กกล้วย
8. จะไดผ้ า้ เช็ดปากแบบสาเร็จตามรปู

การพับผ้าเชด็ ปากแบบ Oriental fan
การพับผ้าเช็ดปากแบบ Oriental fan โดยมากใช้ในห้องอาหารหรือตามงานเล้ยี งท่ีหรูหรา ใหค้ วามรู้สึกท่พี ิเศษ

และเป็นทางการ โดยมี ขั้นตอนการพบั ดังต่อไปนี้
1. พบั ริมผ้าเขา้ หากนั ตรงเส้นกึ่งกลาง แลว้ พบั อกี ครั้งหนึ่ง
2. พับผ้าเปน็ จบี พัดสลับกันตามยาว
3. จบั ผา้ ด้านทีม่ ีสองสนั ทบข้นึ
4. พับมุมลงมาใหเ้ ป็นมุมแหลมตามแนวสนั ทบด้านหนึง่
5. พบั มมุ ลงมาให้เป็นมุมแหลมตามแนวสนั ทบอกี ดา้ นหนึง่
6. กางออกใหฐ้ านชดิ ตดิ กนั
7. ต้งั จบั เป็นรูปพบั

การพบั ผ้าเช็ดปาก Cutlery
การพับแบบ Cutlery เป็นการพบั สาหรับใส่อปุ กรณ์เคร่ืองเงิน ช้อน สอ้ ม หรอื มดี โดยมวี ิธีการพบั ดังตอ่ ไปน้ี
1. วางผ้าเชด็ ปากลงดา้ นหนา้ (ตะเข็บควา่ )
2. พบั คร่งึ กึ่งกลางผา้ ใช้มือรีดเพือ่ ให้เห็นรอยพับคร่ึงหนงึ่



3. แลว้ พับคร่ึงหน่งึ ให้เปน็ สเ่ี หลี่ยมจัตุรสั
4. นามมุ ผ้าท่ีมีมมุ ผ้าท้ังสี่ด้านข้นึ ข้างบน
5. เปิดผา้ ชั้นบนสดุ พับทบลงมากวา้ งประมาณ 1 นิว้
พบั ทบไปมาจนถึงจุดก่ึงกลางของผา้
6. เปิดผา้ ชน้ั ท่ี 2 พบั ทบลงมากวา้ งประมาณ 1 นว้ิ
วางเรียงกบั ผนื บนสดุ
7. นาผ้าท่ีปลายปดิ หันเข้าหาตัว
8. พลิกผา้ กลบั ดา้ น และเกบ็ ชายผ้า โดยพับผา้ ท้ังสองดา้ นแลว้ สอดเกบ็ ผา้
9. จะไดผ้ ้าเชด็ ปากแบบสาเร็จตามรปู

การพบั ผา้ เชด็ ปาก Lotus
วิธีพับผ้าเช็ดปากเป็นรูปดอกบัวผ้าเช็ดปากที่วางบนโต๊ะอาหาร โดยมากใช้ในห้องอาหารหรือตามงานเลี้ยงท่ี

หรูหรา เพอ่ื เพมิ่ ความสวยงามบนโต๊ะอาหาร โดยมขี ้นั ตอนการพบั ดังตอ่ ไปนี้
1. วางผ้าเช็ดปากลงดา้ นหนา้
2. พับมุมทง้ั 4 ด้านเข้าหาจุดกึ่งกลางผา้ 3 ครั้ง
3. พลิกผ้า
4. พับมุมเข้าหาจุดก่ึงกลางอกี ครั้งหนึง่
5. กดกลีบดา้ นบนไว้ อกี มือดึงกลีบดา้ นลา่ งของทุกมมุ ขน้ึ
6. ดึงกลีบดา้ นล่างระหวา่ งกลีบบัวทงั้ 4 ข้นึ มาเป็นกลีบซอ้ น
7. จะได้ผ้าเช็ดปากตามรูปแบบ

การพับผา้ เช็ดปาก Bird of Paradise
มีขัน้ ตอนการพับ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. พับผ้าเป็นรปู สี่เหลีย่ มผืนผา้ แลว้ พบั อกี คร้งั ให้เปน็ รสู ีเ่ หลย่ี มจตั ุรัส
2. หลงั จากพบั ผ้าอกี ทบหนง่ึ ให้เป็นรูปสเี่ หลยี่ มจัตุรัส แล้วแบง่ คร่งึ ตามเส้นทแยงมุมใหเ้ ป็นรปู สามเหลีย่ ม โดยผา้

ทม่ี ุมแหลมต้องเปิดได้ทกุ ชัน้ ไวด้ ้านบน
3. กดปลายผ้าดา้ นแหลมไว้ แลว้ จับมุมผา้ พบั ครึ่งหนึง่ เข้าหาจดุ ก่ึงกลางทาทัง้ สองข้าง
4. พลกิ ผา้ กลบั ดา้ น แล้วพบั สามเหลี่ยมเลก็ ท้งั สองลง
5. พบั ครง่ึ เขา้ หากนั โดยใหข้ อบผา้ อยดู่ า้ นในแล้วจับให้แน่น
6. ดึงกลบั ออกมา ทง้ั หมด 4 คร้ัง แลว้ จัดใหส้ วยงาม
7. จะไดผ้ า้ เชด็ ปากตามรปู แบบ

การพบั ผ้าเช็ดปากแบบ
1. พับผา้ ท้ังสองดา้ นเขา้ หาจดุ กง่ึ กลางของผา้ กรีดรอยพับใหเ้ รียบรอ้ ย
2. พับมดุ ด้านลา่ งขวาในลักษณะเฉยี งออกจากกึง่ กลางจนสดุ มุมของผ้าแล้วกรดี รอยพบั ใหเ้ รยี บรอ้ ย
3. ทาซ้ากบั ขนั้ ตอนที่ 4 ให้ครบทั้งสีด่ า้ น
4.จัดวางผ้าให้เป็นแนวต้งั กบั ตัวเราแล้วพบั ผ้าจากดา้ นล่างข้ึนมาประมาณ1 นิว้
5. พบั ทบไปมาจนถึงจดุ กึ่งกลางของผ้าแลว้ กรีดผา้ ให้เปน็ รอย
6. คอ่ ยๆมว้ นผา้ อกี ดา้ นหนึ่งลงไปใหม้ าบรรจบกับผ้าทีพ่ บั ไว้
7. พบั ครง่ึ โดยให้ด้านมว้ นอย่ดู ้านในบบี รอยพบั ใหแ้ นน่ แลว้ คลผ่ี ้าที่ทบออกให้สวยงาม





Pre-test แบบทดสอบก่อนเรียน
หนว่ ยที่ 6 การจดั และตกแต่งโตะ๊ อาหาร เรอื่ ง การพบั ผ้าเชด็ ปาก)
คาช้ีแจง ใหน้ ักศกึ ษาเลือกคาตอบท่ดี ที ่ีสุดในการตอบคาถามต่อไปนี้ (5 คะแนน)

1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ความหมายของผา้ เชด็ ปาก (Napkin) ไม่ถูกต้อง SCAN ME
ก. ผ้าเช็ดปากนิยมใช้ผา้ สขี าว Pre-test แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ข. ผา้ เช็ดปากนิยมพบั เป็นรปู ตา่ งๆ
ค. ผา้ ที่ใช้สาหรับเชด็ ปาก เม่ือใช้เสร็จแล้วทง้ิ
ง. ผา้ ทใ่ี ช้สาหรับทาความสะอาดบรเิ วณมุมปาก

2. ผา้ เชด็ ปาก นยิ มวางไว้บริเวณใด
ก. วางไวใ้ นแกว้
ข. วางไวบ้ นเก้าอี้
ค. วางไวบ้ ริเวณใต้อปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหาร
ง. วางไวบ้ รเิ วณระหว่างอุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร

3. การพับผา้ เชด็ ปากสาหรบั ตกแตง่ แก้ว ที่ใชส้ าหรับแกว้ ไวน์ ควรพบั ผา้ เชด็ ปากใหเ้ ป็นรูปใดทีเ่ หมาะสมที่สุด
ก. แบบ Bird of Paradise (นกสวรรค)์
ข. แบบ Oriental Fan (พัด)
ค. แบบ Banana (กลว้ ย)
ง. แบบ Lotus (ดอกบวั )

4. ขอ้ ใดคือเทคนคิ ในการเลือกซือ้ ผา้ เช็ดปาก
ก. ตอ้ งเปน็ เนื้อผ้าทด่ี ดู ซบั อาหารได้ดี
ข. รีดได้ยาก และยบั งา่ ยเมื่อนามาใช้งาน
ค. ตอ้ งเปน็ ผ้าท่ีสามารถทาความสะอาดได้งา่ ย
ง. สาหรับสีของผา้ เชด็ ปากทน่ี ามาใชค้ วรมสี ีขาวเทา่ น้ัน

5. ขณะรับประทานอาหารเมื่อมเี หตจุ าเปน็ ต้องลุกจากโต๊ะรับประทานอาหารควรวางผา้ เช็ดปากไวท้ ี่ใด
ก. วางทเ่ี กา้ อี้
ข. วางบนโตะ๊ อาหาร
ค. วางใต้จานอาหาร
ง. นาตดิ ตวั ไปดว้ ย

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
1. ค 2. ง 3. ก 4. ค 5. ก



Post-test แบบทดสอบหลงั เรยี น
หน่วยที่ 6 การจัดและตกแตง่ โต๊ะอาหาร เร่ือง การพับผ้าเช็ดปาก)
คาชแ้ี จง ให้นกั ศึกษาเลอื กคาตอบท่ดี ที ี่สดุ ในการตอบคาถามต่อไปนี้ (10 คะแนน)

1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ความหมายของผา้ เช็ดปาก (Napkin) ไม่ถกู ตอ้ ง SCAN ME
ก. ผ้าเช็ดปากนยิ มใช้ผ้าสขี าว Post-test แบบทดสอบหลังเรยี น
ข. ผ้าเช็ดปากนิยมพบั เปน็ รูปต่างๆ
ค. ผ้าท่ใี ชส้ าหรบั เช็ดปาก เมอ่ื ใช้เสรจ็ แลว้ ทิ้ง
ง. ผา้ ท่ีใชส้ าหรับทาความสะอาดบริเวณมุมปาก

2. ผา้ เช็ดปาก นิยมวางไว้บรเิ วณใด
ก. วางไวใ้ นแกว้
ข. วางไว้บนเกา้ อ้ี
ค. วางไว้บริเวณใต้อุปกรณใ์ นการรับประทานอาหาร
ง. วางไวบ้ รเิ วณระหว่างอปุ กรณ์ในการรบั ประทานอาหาร

3. การพับผา้ เชด็ ปากสาหรับตกแต่งแก้ว ท่ีใชส้ าหรบั แกว้ ไวน์ ควรพับผ้าเช็ดปากให้เป็นรูปใดท่เี หมาะสมท่ีสุด
ก. แบบ Bird of Paradise (นกสวรรค)์
ข. แบบ Oriental Fan (พดั )
ค. แบบ Banana (กลว้ ย)
ง. แบบ Lotus (ดอกบวั )

4. ขอ้ ใดคือเทคนคิ ในการเลือกซ้ือผ้าเชด็ ปาก
ก. ตอ้ งเป็นเนือ้ ผ้าทีด่ ดู ซับอาหารไดด้ ี
ข. รีดไดย้ าก และยบั ง่ายเม่อื นามาใชง้ าน
ค. ตอ้ งเป็นผ้าทสี่ ามารถทาความสะอาดไดง้ ่าย
ง. สาหรบั สีของผา้ เช็ดปากทนี่ ามาใชค้ วรมสี ขี าวเท่านั้น

5. ขณะรบั ประทานอาหารเม่อื มีเหตุจาเปน็ ตอ้ งลุกจากโตะ๊ รบั ประทานอาหารควรวางผ้าเชด็ ปากไว้ท่ใี ด
ก. วางท่ีเกา้ อ้ี
ข. วางบนโตะ๊ อาหาร
ค. วางใต้จานอาหาร
ง. นาติดตัวไปด้วย

6. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ลักษณะทดี่ ีของผา้ เช็ดปาก
ก. รูปสเ่ี หล่ียมผืนผา้
ข. เนอ้ื ผา้ ซับนา้ ได้ดี
ค. ตอ้ งลงแป้งใหแ้ ขง็ พอสมควร
ง. ขนาดประมาณ 22 – 26 นิ้ว



7. ขณะรบั ประทานอาหารควรวางผ้าเช็ดปากไว้ทใ่ี ด

ก. วางบนตกั ข. วางบนโต๊ะ

ค. พนั ไว้ท่ีคอเสื้อ ง. พาดไวท้ ี่เกา้ อี้

8. ถ้าจัดงานในฤดูหนาวหรอื การจัดงานเลี้ยงในห้องจดั เลย้ี ง ควรใช้ผา้ เช็ดปากสีใดจงึ จะเหมาะสม

ก. สีแดง สสี ม้ ข. สที อง สขี าว

ค. สเี ขยี ว สีพาสเทล ง. ผา้ ที่มลี วดลาย

9. การพับผ้ารปู แบบใด นิยมใช้ในหอ้ งอาหารหรอื ตามงานเล้ยี งทีห่ รหู รา ใหค้ วามรูส้ ึกทีพ่ ิเศษและเปน็ ทางการ
ก. แบบ Banana
ข. แบบ Cutlery
ค. แบบ Oriental Fan
ง. แบบ Bird of Paradise

10. เม่ือรับประทานอาหารเสร็จแล้วจะลุกไปโดยจะไม่กลับมาน่ังรับประทานอาหารอีก หรือ ต้องการให้บริกรช่วยเก็บโต๊ะ ควร
ปฏบิ ัตขิ ้อใด
ก. ให้นาผ้าเชด็ ปากวางไวท้ ีเ่ กา้ อ้ี
ข. ใหน้ าผ้าเชด็ ปากวางไวท้ ตี่ กั
ค. ให้นาผ้าเชด็ ปากพาดไวก้ บั ทว่ี างแขน
ง. ใหน้ าผา้ เช็ดปากวางไวท้ างซา้ ยมอื

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
1. ค 2. ง 3. ก 4. ค 5. ก
6. ง 7. ก 8. ข 9. ค 10. ง



แบบประเมินผลงาน

จุดประสงคท์ ี่ ……………............................................................………………………………………...………………………
ชอื่ -นามสกลุ ............................................................................…………………………………. ชั้น ……………………....
ผลงาน 1. ………..................................................................................………………………………………………..……

2.………...................................................................................………………………………….……………….…
3. ……….....................................................................................…………………………….……………….……
4.………...................................................................................………………………………….……………….…
5.……….....................................................................................…………………………….……………..………

ข้อที่ รายการประเมนิ คะแนน
321
1 ความถกู ตอ้ งของขนั้ ตอน
2 ความประณตี สวยงาม รูปทรงถูกต้อง
3 ปฏิบัตงิ านเสร็จภายในเวลาทก่ี าหนด

รวม

ผู้ประเมิน……………………………….
วันที่……….เดอื น………………….. พ.ศ. …………



เกณฑก์ ารประเมนิ

1. ความถูกตอ้ งของขน้ั ตอน
3 คะแนน = ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนครบถว้ น ภายในครั้งเดยี ว
2 คะแนน = ปฏิบัติตามขั้นตอนครบถ้วน แก้ไข 1 ครง้ั
1 คะแนน = ปฏิบตั ติ ามขั้นตอนครบถ้วน แกไ้ ขมากกว่า 1 ครง้ั

2. ความประณตี สวยงาม รูปทรงถกู ต้อง
3 คะแนน = ช้ินงานมีความสวยงาม รปู ทรงถูกตอ้ ง ตามท่ีกาหนด
2 คะแนน = ชิ้นงานมคี วามสวยงาม รูปทรงบดิ เบี้ยว
1 คะแนน = ชน้ิ งานมีรปู ทรงบิดเบีย้ ว และไมส่ ามารถวางตั้งได้

3. ปฏบิ ตั งิ านเสรจ็ ภายในเวลาทีก่ าหนด
3 คะแนน = ปฏบิ ตั ิงานเสรจ็ ภายในเวลาที่กาหนด ภายใน 10 นาที
2 คะแนน = ปฏบิ ตั ิงานเสร็จเกนิ เวลาที่กาหนด 2 นาที
1 คะแนน = ปฏิบัติงานเสร็จเกินเวลาทีก่ าหนด 5 นาที



แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียน

พฤตกิ รรม เกณฑ์การประเมนิ
ประจา (2) บางครั้ง (1) ไมเ่ คย (0)
1. การเรยี นรู้และปฏบิ ัตงิ าน
1.1 ตง้ั ใจฟงั
1.2 ยอมรบั ฟังคาแนะนาของเพอ่ื น
1.3 รับฟังคาวิจารณข์ องเพื่อน
1.4 ขอคาแนะนาจากผ้สู อนหรือผู้รอู้ ่นื ๆ
1.5 ต้ังคาถามในชั้นเรียน
1.6 ให้คาแนะนาเพ่ือน
1.7 อาสาหรือร่วมมือปฏบิ ตั งิ าน

2. การต้งั ใจทางานจนสาเรจ็
2.1 ทางานเสร็จทนั ตามเวลา
2.2 มีการปรบั ปรงุ งาน
2.3 มีความพยายามทางานใหบ้ งั เกดิ ผลดที ส่ี ุด
2.4 ผลงานสาเร็จตามจุดประสงค์
2.5 สง่ งานครบถว้ น

เกณฑก์ ารประเมิน
2 หมายถึง ปฏบิ ัติประจา
1 หมายถงึ ปฏบิ ัติเป็นบางครัง้
0 หมายถึง ไมเ่ คยปฏบิ ัติ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ระดับคะแนน
ช่วงคะแนน ดมี าก
22-24 ดี
17-21 พอใช้
12-16 ปรบั ปรงุ
นอ้ ยกว่า 12



รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้

ควรอนญุ าตให้ใช้ในการสอนได้
ควรปรับปรงุ เก่ยี วกบั
............................................................................................................................. .............................................................................
............................................................................................................................................................... ...........................................
..........................................................................................................................................................................................................

.............................................................
ลงช่ือ (..................................................)
หวั หนา้ หมวด/แผนกวิชา

............./.........................../...............

เห็นควรอนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
ควรปรบั ปรงุ ดังเสนอ
อ่นื ๆ
............................................................................................................................. .............................................................................
..........................................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................................

.............................................................
ลงช่อื (..................................................)
รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ

............./.........................../...............

อนญุ าตให้ใชใ้ นการสอนได้
อนื่ ๆ....................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................... ........................................................................................ .............

.............................................................
ลงช่ือ (..................................................)
ผอู้ านวยการวทิ ยาลัย

............./.........................../...............

สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำ
กระทรวงศกึ ษำธิกำร

จัดทำโดย
นำงสำวหฤษฎี ศรีวลิ ำ
เลขประจำตัวสอบ 7020078

เอกสำรประกอบกำรสัมภำษณต์ ำแหน่งครผู ูช้ ่วย สำขำกำรโรงแรม


Click to View FlipBook Version