แผนหลักเพื่อการจัดการเรียนรู้ ม.4-2

1

แผนหลกั เพ่อื การจัดการเรียนรู้
รหัสวชิ า อ31102 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4

จัดทาโดย
นางสาวสภุ าวดี สทิ ธริ มั ย์ ตาแหน่ง ครู

กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
โรงเรียนพทุ ไธสง อาเภอพทุ ไธสง จังหวัดบุรรี ัมย์
สานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 32

สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

2

จุดหมายหลกั สตู ร (Goals)

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มุง่ พฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ คนดี มปี ัญญา มคี วามสุข มศี กั ยภาพในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมายเพ่ือให้
เกิดกบั ผเู้ รียน เมอ่ื จบการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน ดงั น้ี

1. มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมที่พงึ ประสงค์ เหน็ คณุ ค่าของตนเอง มีวนิ ัยและปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยึดหลกั ปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง

2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคดิ การแกป้ ัญหา การใช้เทคโนโลยี และมที กั ษะชีวิต
3. มสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ดี ี มีสุขนิสัย รักการออกกาลังกาย
4. มีความรกั ชาติ มจี ิตสานกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยึดม่ันในวถิ ชี ีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ
5. มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย และการอนุรกั ษแ์ ละพัฒนาสิ่งแวดล้อม มีจิตสาธารณะท่ีมุ่งทาประโยชน์และสร้างส่ิงท่ีดีงามในสังคม และอยู่
ร่วมกนั ในสงั คมอย่างมีความสขุ

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Desired Characteristics)
หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน มุ่งพฒั นาผ้เู รียนให้มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพือ่ ใหส้ ามารถอยรู่ ว่ มกับผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะ
เป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ (Love of nation, religion and the King)
2. ซื่อสตั ยส์ จุ ริต (Honesty and integrity)
3. มีวินัย (Self-discipline)
4. ใฝเ่ รียนรู้ (Avidity for learning)
5. อยู่อย่างพอเพียง (Observance principles of Sufficiency Economy Philosophy in one’s of life)
6. มุง่ มัน่ ในการทางาน (Dedication and commitment to work)
7. รักความเปน็ ไทย (Cherishing Thai nationalism)
8. มีจิตสาธารณะ (Public - mindedness)

3

คณุ ภาพผู้เรยี น (Learners Quality) เม่ือเรยี นจบชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
• ปฏบิ ัติตามคาแนะนาในคูม่ อื การใช้งานตา่ งๆ คาช้ีแจง คาอธบิ าย และคาบรรยายทฟ่ี ังและอา่ น อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบท
ละครสนั้ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น อธบิ ายและเขียนประโยคและขอ้ ความสมั พนั ธ์กับสื่อทีไ่ มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบตา่ งๆ ทีอ่ า่ น รวมทัง้ ระบุและเขียนส่ือทไ่ี มใ่ ชค่ วามเรียงรปู แบบ
ตา่ งๆ สัมพันธ์กับประโยคและข้อความทฟ่ี ังหรืออ่าน จบั ใจความสาคัญ วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ และแสดงความคดิ เห็นจากการฟังและอ่านเร่ือง ที่เป็นสารคดแี ละ
บันเทิงคดี พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ
• สนทนาและเขียนโตต้ อบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ ประเด็นทอี่ ยใู่ นความสนใจและสอื่ สารอย่างตอ่ เนือ่ ง
และเหมาะสม เลอื กและใชค้ าขอรอ้ ง คาชแ้ี จง คาอธบิ าย และใหค้ าแนะนา พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ
ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จาลองหรอื สถานการณ์จรงิ อยา่ งเหมาะสม พูดและเขยี นเพอื่ ขอและให้ข้อมลู บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เรือ่ ง/
ประเด็น/ขา่ ว/เหตุการณ์ท่ีฟังและอา่ นอยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายความรูส้ ึกและแสดงความคดิ เหน็ ของตนเองเกีย่ วกบั เรื่องตา่ งๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณอ์ ย่างมีเหตุผล
• พูดและเขียนนาเสนอขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเอง/ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ต่างๆ ตามความสนใจ พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาระทีไ่ ด้จาก
การวิเคราะห์เร่ือง กิจกรรม ข่าว เหตกุ ารณ์ และสถานการณต์ ามความสนใจ พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับกจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทง้ั ในทอ้ งถิ่น สังคม
และโลก พร้อมท้ังให้เหตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ
• เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกิรยิ าท่าทางเหมาะกบั ระดบั ของบคุ คล เวลา โอกาสและสถานท่ตี ามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา อธบิ าย/อภปิ รายวถิ ี
ชีวิต ความคดิ ความเชอื่ และท่มี าของขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา เข้าร่วม แนะนา และจดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม
• อธบิ าย/เปรยี บเทียบความแตกต่างระหวา่ งโครงสรา้ งประโยค ข้อความ สานวน คาพังเพย สภุ าษิต และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย วิเคราะห์/
อภิปรายความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างวถิ ชี ีวติ ความเชอื่ และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย และนาไปใช้อย่างมีเหตุผล
• คน้ ควา้ /สบื คน้ บันทกึ สรปุ และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ขอ้ มูลที่เกย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื จากแหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขยี น
•ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
• ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วเิ คราะห์ และสรปุ ความรู/้ ข้อมลู ต่างๆ จากสอื่ และแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี
เผยแพร/่ ประชาสมั พันธ์ ข้อมูล ข่าวสาร ของโรงเรยี น ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ
• มีทักษะการใชภ้ าษาต่างประเทศ (เน้นการฟงั -พูด-อ่าน-เขียน) สอ่ื สารตามหวั เรอ่ื งเก่ยี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งด่มื ความสัมพนั ธ์
ระหวา่ งบคุ คล เวลาว่างและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซือ้ -ขาย ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชีพ การเดินทางทอ่ งเท่ยี ว การบริการ สถานที่ ภาษา และ
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภายในวงคาศัพท์ประมาณ ๓,๖๐๐-๓,๗๕๐ คา (คาศพั ท์ทมี่ ีระดับการใชแ้ ตกต่างกัน)

4

• ใช้ประโยคผสมและประโยคซับซอ้ นสือ่ ความหมายตามบรบิ ทต่างๆ ในการสนทนา ท้ังที่เป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางกา

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน (Learners’ key Competencies)
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ซ่ึงการพัฒนาผูเ้ รียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกาหนดนั้น จะช่วยให้
ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังน้ี
1. ความสามารถในการสอื่ สาร (Communication Capacity) เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ
ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด
ปญั หาความขัดแยง้ ต่างๆ การเลอื กรบั หรือไมร่ ับข้อมลู ข่าวสารนั้นด้วยหลักเหตุผลและความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่
มีตอ่ ตนและสงั คม
2. ความสามารถในการคิด (Thinking Capacity) เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดเป็นระบบ เพ่ือ
นาไป สู่การสร้างองคค์ วามร้หู รอื สารสนเทศเพ่อื การตัดสินใจเกีย่ วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา (Problem – solving capacity) เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐาน
ของหลกั เหตผุ ล คณุ ธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและ
แก้ไขปญั หาและมกี ารตัดสินใจทม่ี ปี ระสิทธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบทีเ่ กิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต (Capacity for Applying Life skills) เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆไปใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนรู้
ด้วยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง การทางานและการอยูร่ ว่ มกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อย่าง
เหมาะสม การปรับตัวใหท้ นั กบั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรูจ้ ักหลกี เลีย่ งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู น่ื
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี (Capacity for Technological Application) เปน็ ความสามารถในการเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีด้านต่างๆและมีทักษะกระบวนการ
เทคโนโลยี เพอื่ การพัฒนาตนเองและสงั คม ในดา้ นการเรยี นรู้ การสอื่ สาร การทางาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม

5

ตารางที่ 1 ตารางวิเคราะหม์ าตรฐาน ตัวช้วี ัดหรือผลการเรยี นรกู้ ับพุทธพิ สิ ัย ทักษะพิสัย และจิตพิสยั รายวิชา ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหสั วชิ า อ 31101

สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรือ่ งทฟ่ี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตุผล

พทุ ธิพิสยั Cognitive Domain)/ ทกั ษะพสิ ัย จติ พสิ ยั
(Effective
ความรู้/มิตขิ องกระบวนการทางสตปิ ัญญา(Cognitive Proceses (Psychomo Domain)

มาตรฐาน (Standard) และตวั ช้ีวัด(Indicator) หรือ คาสาคัญ Dimensions)ตามแนวคิดของบลูมฉบบั ปรบั ปรงุ ใหม่(Revised Bloom’s tor ด้านคุณลกั ษณะ
(Attribute)
ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) (Key Word) Taxonomy) Domain)
√
การจา การเข้าใจ การ การวเิ คราะห์ การประเมนิ ค่า การสรา้ งสรรค์ ทักษะ
(Remembering) (Understanding) (Analyzing) (Evaluating ) (Creating) กระบวนการ √
ประยกุ ต์ใช้ (Process skill) √
(Applying) √

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอา่ นจากสอ่ื -ตีความ √ √ √ √

ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตผุ ล -แสดงความ

คดิ เห็น

ม.4-6/1 ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาในคมู่ ือการใช้งานตา่ งๆ คาช้ีแจง - ปฏบิ ัติ √ √ √

คาอธบิ าย และคาบรรยายทฟ่ี งั และอา่ น

ม.4-6/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ย - อ่านออก √ √ √

กรอง และบทละครสนั้ (skit) ถูกต้องตามหลักการอ่าน เสียง

ม.4-6/3 อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สมั พนั ธ์กับ -อธิบาย √ √ √
ส่ือทไี่ มใ่ ช่ความเรยี งรปู แบบต่างๆ ทอี่ า่ น รวมท้ังระบุและเขยี น -เขยี น

ส่อื ทีไ่ ม่ใช่ความเรียงรปู แบบต่างๆ ให้สมั พันธก์ บั ประโยค และ

ขอ้ ความทีฟ่ งั หรืออ่าน

ม.4-6/4 จบั ใจความสาคัญ วิเคราะหค์ วามสรุปความ ตคี วาม -จบั ใจความ √ √ √
และแสดงความคิดเหน็ จากการฟังและอา่ นเรือ่ งที่เปน็ สารคดี -วิเคราะห์

และบันเทงิ คดี พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลและยกตวั อย่างประกอบ -สรปุ ความ

-ใหเ้ หตุผล

-ยกตัวอย่าง

6

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสือ่ สารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และแสดงความคดิ อย่างมีประสทิ ธิภาพ

มาตรฐาน (Standard) และตัวชี้วดั (Indicator) หรือ คาสาคัญ พุทธิพิสยั Cognitive Domain)/ ทักษะพสิ ัย จิตพิสัย
(Effective
ผลการเรยี นรู้ (Learning Outcome) (Key Word) ความรู้/มติ ขิ องกระบวนการทางสตปิ ัญญา(Cognitive Proceses Dimensions) (Psychomotor Domain)

ตามแนวคดิ ของบลมู ฉบบั ปรับปรงุ ใหม่(Revised Bloom’s Taxonomy) Domain) ดา้ นคุณลักษณะ

การจา การเขา้ ใจ การ การวเิ คราะห์ การประเมินค่า การสรา้ งสรรค์ ทักษะ (Attribute)
(Rememb (Understanding) ประยกุ ตใ์ ช้ ( Analyzing) (Evaluating ) (Creating) กระบวนการ
(Process skill) √
ering) (Applying)
√
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการ -แสดงความรู้สึก √ √ √
√
แลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และแสดง -แสดงความคดิ √

ความคิดอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ √

ม.4-6/1 สนทนาและเขยี นโต้ตอบขอ้ มูลเกยี่ วกบั ตนเองและ -สนทนา √√ √ √

เรอื่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว / -เขยี นโต้ตอบ

เหตุการณ์ ประเด็นทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม และ -สอื่ สาร

ส่ือสาร อย่างต่อเนื่องและเหมาะสม

ม.4-6/2 เลือกและใช้คาขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้แี จง -ใชค้ าขอร้อง √ √ √ √

คาอธิบายอย่างคล่องแคล่ว -ให้คาแนะนา

ม.4-6/3 พูดและเขยี นแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับ -พูดและเขียน √ √ √

และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณจ์ าลองหรอื -ตอบรบั

สถานการณ์จริงอยา่ งเหมาะสม -ปฏิเสธ

ม.4-6/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูล บรรยาย -พดู และเขียน √ √ √√ √

อธิบาย เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับเร่อื ง/ -อธบิ าย
-เปรยี บเทยี บ
ประเด็น/ข่าว/เหตกุ ารณท์ ่ีฟังและอ่านอย่างเหมาะสม -แสดงความ

คิดเหน็

ม.4-6/5 พูดและเขียนบรรยายความร้สู ึกและแสดงความคดิ เห็นของ -พูดและเขียน √ √ √
ตนเองเกีย่ วกับ เรอื่ งตา่ งๆ กจิ กรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/ บรรยาย

เหตุการณอ์ ย่างมเี หตุผล -ใหเ้ หตผุ ล

7

สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดย การพดู และการเขียน

พุทธิพสิ ยั Cognitive Domain)/ ทักษะพิสยั จิตพสิ ัย
(Effective
ความรู้/มติ ิของกระบวนการทางสตปิ ญั ญา(Cognitive Proceses Dimensions) (Psychomotor Domain)
มาตรฐาน (Standard) และตัวช้ีวดั (Indicator) หรอื คาสาคญั Domain)
ตามแนวคิดของบลมู ฉบบั ปรับปรงุ ใหม(่ Revised Bloom’s Taxonomy) ด้านคุณลกั ษณะ

ผลการเรยี นรู้ (Learning Outcome) (Key Word) การจา การเขา้ ใจ การ การวิเคราะห์ การประเมินคา่ การสร้างสรรค์ ทักษะ (Attribute)
( Analyzing) (Evaluating ) (Creating)
(Rememberi (Understandi ประยุกต์ใช้ กระบวนการ √
ng) ng) (Applying)
(Process skill) √

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ -นาเสนอข้อมูล √ √√ √ √

รวบยอด และความคิดเห็นในเรอ่ื งต่างๆ โดย การ √

พูด และการเขียน

ม.4-6/1 พูดและเขียนนาเสนอข้อมูลเกยี่ วกับตนเอง -พูดและเขยี น √√ √

ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เรือ่ งและประเด็น -บรรยาย

ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม

ม.4-6/2 พูดและเขียนนาเสนอข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง -พูดและเขยี น √√ √

ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เร่อื งและประเดน็ -สรปุ

ต่างๆ ตามความสนใจของสงั คม

ม.4-6/3 พดู และเขียนแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกบั -พดู และเขยี น √ √√ √

กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ พร้อมทั้ง ให้ -แสดงความคดิ เหน็

เหตุผลประกอบ -ให้เหตุผล

8

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ

มาตรฐาน (Standard) และตัวชี้วดั (Indicator) หรอื คาสาคญั พุทธิพสิ ยั Cognitive Domain)/ ทกั ษะพิสัย จิตพสิ ัย
(Effective
ผลการเรยี นรู้ (Learning Outcome) (Key Word) ความรู้/มติ ิของกระบวนการทางสตปิ ญั ญา(Cognitive Proceses Dimensions) (Psychomotor Domain)

ตามแนวคดิ ของบลมู ฉบบั ปรับปรุงใหม่(Revised Bloom’s Taxonomy) Domain) ดา้ นคุณลกั ษณะ

การจา การเข้าใจ การ การวเิ คราะห์ การประเมินค่า การ ทักษะ (Attribute)
(Rememb (Understan ประยกุ ต์ใช้ ( Analyzing) (Evaluating ) สรา้ งสรรค์ กระบวนการ
(Applying) (Creating) (Process skill) √
ering) ding)
√
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธ์ระหวา่ งภาษา นาไปใช้ √√ √
√
กับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
√
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ

ม.4-6/1 เลือกใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ าท่าทาง -เลอื กใช้ √√ √

เหมาะกบั ระดับของบคุ คล โอกาส และสถานท่ี

ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

ม.4-6/2 อธบิ าย/อภปิ รายวถิ ชี ีวติ ความคิด อธิบาย √√ √

ความเช่อื และที่มาของขนบธรรมเนยี ม และประเพณี

ของเจา้ ของภาษา

ม.4-6/3 เข้าร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษาและ -เข้ารว่ ม √√ √

วัฒนธรรมตามความสนใจ -จดั กิจกรรม

9

สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถกู ต้องและเหมาะสม

พทุ ธิพิสัยCognitive Domain)/ ทักษะพิสัย จิตพสิ ัย

ความรู้/มิติของกระบวนการทางสติปญั ญา(Cognitive Proceses Dimensions) (Psychomotor (Effective
มาตรฐาน (Standard) และตัวชี้วัด(Indicator) หรอื คาสาคัญ Domain) Domain)
ตามแนวคดิ ของบลูมฉบบั ปรับปรงุ ใหม(่ Revised Bloom’s Taxonomy)

ผลการเรียนรู้ (Learning Outcome) (Key Word) การจา การเข้าใจ การ การวิเคราะห์ การประเมนิ ค่า การ ทกั ษะ ด้านคุณลกั ษณะ
(Rememb (Understan ประยุกตใ์ ช้ ( Analyzing) (Evaluating ) สรา้ งสรรค์ กระบวนการ
(Applying) (Creating) (Process skill) (Attribute)
ering) ding)

ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่าง นามาใช้ √√ √ √√

ภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ ภาษากับภาษา

และวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถูกต้องและ

เหมาะสม

ม.4-6/1 อธบิ าย/เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหว่าง - เปรยี บเทยี บ √√ √√

โครงสร้างประโยค ข้อความ สานวน คาพงั เพย - อธิบาย

สุภาษิต และบทกลอนของภาษาต่างประเทศและ

ภาษาไทย

ม.4-6/2 วิเคราะห์/อภปิ ราย ความเหมือนและความ - เปรยี บเทียบ √√ √ √ √√

แตกตา่ งระหวา่ งวิถีชีวติ ความเช่ือและวัฒนธรรม - อธบิ าย

ของเจ้าของภาษากับของไทยและนาไปใช้อย่างมี - นาไปใช้

เหตผุ ล

10

สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พันธ์กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่

มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อน่ื และเปน็ พน้ื ฐานในการพฒั นาแสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศนข์ องตน

พทุ ธพิ ิสัยCognitive Domain)/ ทกั ษะพิสัย จติ พิสัย
(Effective
ความรู้/มิติของกระบวนการทางสติปญั ญา(Cognitive Proceses Dimensions) (Psychomotor Domain)
มาตรฐาน (Standard) และตัวชี้วัด(Indicator) หรือ คาสาคญั Domain)
ตามแนวคิดของบลูมฉบบั ปรับปรงุ ใหม(่ Revised Bloom’s Taxonomy) ด้านคุณลักษณะ

ผลการเรยี นรู้ (Learning Outcome) (Key Word) การจา การเขา้ ใจ การ การวิเคราะห์ การประเมนิ คา่ การ ทักษะ (Attribute)
(Rememb (Understan ประยกุ ต์ใช้ ( Analyzing) (Evaluating ) สร้างสรรค์ กระบวนการ
(Applying) (Creating) (Process skill) √
ering) ding)
√
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการ -ใช้ภาษาต่างประเทศ √ √ √ √

เชือ่ มโยงความร้กู ับกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ นื่ และเปน็ -เชอ่ื มโยงความรู้

พื้นฐานในการพฒั นาแสวงหาความรู้ และเปิดโลก

ทศั น์ของตน

ม.4-6/1 คน้ ควา้ /สืบค้น บนั ทกึ สรปุ และแสดง -ค้นควา้ √√ √ √

ความคิดเหน็ เก่ียวกบั ขอ้ มูลที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ -รวบรวม

การเรยี นร้อู นื่ จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ และนาเสนอ -สรุปขอ้ มูล

ด้วยการพดู และการเขยี น -นาเสนอ

11

สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ืน่

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้ังในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครอ่ื งมือพน้ื ฐานในการศกึ ษาต่อ การประกอบอาชพี และการแลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ ับสงั คมโลก

มาตรฐาน (Standard) และตวั ช้ีวัด(Indicator) หรอื คาสาคัญ พุทธิพิสยั Cognitive Domain)/ ทกั ษะพสิ ัย จิตพิสัย
(Psychomotor (Effective
ผลการเรยี นรู้ (Learning Outcome) (Key Word) ความรู้/มิติของกระบวนการทางสตปิ ญั ญา(Cognitive Proceses Dimensions) Domain)
Domain)
ตามแนวคดิ ของบลูมฉบบั ปรบั ปรุงใหม(่ Revised Bloom’s Taxonomy) ทักษะ ด้านคณุ ลกั ษณะ
กระบวนการ
การจา การเขา้ ใจ การ การวิเคราะห์ การประเมินค่า การ (Process skill) (Attribute)

(Rememb (Understan ประยกุ ต์ใช้ ( Analyzing) (Evaluating ) สร้างสรรค์ √ √
√
ering) ding) (Applying) (Creating) √
√
ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ทั้ง ใชภ้ าษาต่างประเทศ √ √ √ √
√
ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม √
√
ม.4-6/1 ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ / -ใช้ภาษา √√ √

สถานการณ์จาลองท่เี กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี น สถานศกึ ษา -สอื่ สาร

ชุมชน และสงั คม

ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครื่องมอื พืน้ ฐานใน -ใช้ภาษาตา่ งประเทศ √ √ √

การศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ

แลกเปล่ียนเรียนรกู้ บั สงั คมโลก

ม.4-6/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า -ใช้ภาษาตา่ งประเทศ √ √ √

รวบรวม และสรุปความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จาก สอ่ื และ -สืบค้น/คน้ ควา้

แหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบ รวบรวม

อาชีพ -สรุปความร/ู้ ขอ้ มลู

ม.4-6/2 เผยแพร/่ ประชาสมั พันธข์ อ้ มูล ข่าวสารของ -เผยแพร/่ √√

โรงเรียน ชมุ ชน และท้องถิ่น เปน็ ภาษาต่างประเทศ ประชาสัมพันธข์ อ้ มลู

12

ตารางที่ 2 ตารางวิเคราะห์ความเชอ่ื มโยงของมาตรฐานและตวั ช้ีวัดหรอื ผลการเรยี นรู้ กับพฤติกรรมการเรยี นรู้

มาตรฐาน (Standard) พฤตกิ รรมการการเรียนรู้
และตัวช้วี ัด(Indicator)
หรอื ผลการเรยี นรู้ (Learning ด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ด้านสมรรถนะตามหลักสตู ร
(Knowledge) ( K) กระบวนการ ประสงค์ (Attribute) ( (Competencies) (C)
Outcome) สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง /สาระการเรยี นรู้ (Process) (P) (เกิดสมรรถนะใด)
ต 1.1 ม.4-6/1 A)
- ความสามารถในการคิด
ต 1.1 ม.4-6/2 (รอู้ ะไร) คาสาคัญ (เปน็ คนอยา่ งไร) - ความสามารถในการใช้
(ทาอะไร) ทักษะชีวติ
ต 1.1 ม.4-6/3
คาแนะนา คาชีแ้ จง คาอธบิ าย คาบรรยาย เช่น ประกาศเตอื นภัยต่างๆ ยาและการใช้ยา ปฏิบตั ิ ใผ่เรยี นรู้ - ความสามารถในการคดิ
การใชอ้ ปุ กรณ์และสงิ่ ของ การสบื คน้ ขอ้ มลู ทางอนิ เทอร์เนต็ ม่งุ ม่นั ในการทางาน - ความสามารถในการสือ่ สาร

- Modal verb : should/ ought to/ need/ have to/ must+ verb ที่เปน็ infinitive - ความสามารถในการคิด
without to เชน่ You should have it after meal. (Active Voice)/The doses must - ความสามารถในการสือ่ สาร
be divided. (Passive Voice)
- Direct/Indirect Speech
- คาสันธาน (conjunction) and/ but/ or/ so/ not only…but also/ both…and/ as

well as/ after/ because etc.
- ตวั เช่อื ม (connective words) เชน่ First,… Second,… Third,… Fourth,… Next,…
Then,… Finally,… etc.

ขอ้ ความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง และ บทละครสนั้ การใชพ้ จนานุกรม อ่านออกเสยี ง ใผ่เรียนรู้
หลกั การอา่ นออกเสยี ง เชน่ มุ่งม่ันในการทางาน
- การออกเสยี งพยัญชนะต้นคาและพยัญชนะทา้ ยคา สระเสียงส้นั สระเสียงยาว สระ
ประสม

- การออกเสยี งเน้นหนัก-เบา ในคาและกลุม่ คา

- การออกเสียงตามระดับเสียงสูง-ต่า ในประโยค

- การออกเสียงเชอื่ มโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน
- การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ

ประโยคและขอ้ ความการตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มูลให้สัมพันธก์ บั สือ่ ทไ่ี ม่ใช่ความเรยี ง เชน่ ภาพ -ระบุ ใผเ่ รียนรู้
แผนผัง กราฟ แผนภมู ิ ตาราง อักษรย่อ จากกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ นื่ ด้วยการพูดและการ -เขียน มุ่งมน่ั ในการทางาน

13

เขยี นอธิบาย โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although,

however, in spite of…/ Logical connectives เช่น caused by/ followed by/

consist of. etc.

ต 1.1 ม.4-6/4 เรอ่ื งทเ่ี ปน็ สารคดแี ละบนั เทงิ คดี -เลอื ก ใผเ่ รยี นรู้ - ความสามารถในการคดิ
มงุ่ ม่ันในการทางาน - ความสามารถในการส่ือสาร
ต1.2 ม.4-6/1 การจับใจความสาคัญ การสรปุ ความ การวิเคราะห์ความการตคี วาม -ระบุ
ต1.2 ม.4-6/2 ใผ่เรยี นรู้ - ความสามารถในการคิด
การใช้ skimming/scanning/guessing/context clue -แสดงความคดิ เห็น รกั ความเปน็ ไทย - ความสามารถในการส่อื สาร
(อยา่ งต่อเน่อื งและ - ความสามารถในการคดิ
ประโยคท่ใี ชใ้ นการแสดงความคิดเหน็ การให้เหตุผลและการยกตัวอย่าง เช่น I believe…/ I -ให้เหตุผล เหมาะสม) - ความสามารถในการส่อื สาร
ใผเ่ รยี นรู้
agree with… but…/ Well, I must say…/ What do you think of /about…?/I -ยกตวั อยา่ ง (อยา่ งเหมาะสม)

think/don’t think…?/ What’s your opinion about…?/ In my opinion…/
- if clauses
- so…that/such…that

- too to…/enough to…
- on the other hand,…
- other (s)/another/the other (s)
- คาสันธาน (conjunctions) because/and/so/but/

however/because of/due to/owing to etc.

- Infinitive pronouns : some, any, someone, anyone, everyone, one, ones

etc.

- Tenses : present simple/present continuous/

present perfect/past simple/future tense etc.
- Simple sentence/Compound sentence/Complex sentence

ภาษาทีใ่ ช้ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล เช่น การทักทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย -สนทนา

การพูดแทรกอย่างสุภาพ การชกั ชวน การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกยี่ วกบั ตนเอง เรอ่ื งใกลต้ ัว -เขียนโต้ตอบ
สถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวัน การสนทนา/เขียนขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเองและบคุ คลใกลต้ วั -สอื่ สาร

ประสบการณ์ สถานการณ์ต่างๆ ข่าวเหตกุ ารณ์ ประเด็นท่ีอยูใ่ นความสนใจของสังคม

คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง คาอธบิ าย ทมี่ ขี ัน้ ตอนซับซอ้ น -ใช้คาขอร้อง
-ให้คาแนะนา

14

ต1.2 ม.4-6/3 ภาษาทใี่ ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ -พดู และเขียน ใผเ่ รียนรู้ - ความสามารถในการคิด
มุง่ มน่ั ในการทางาน - ความสามารถในการสื่อสาร
ต1.2 ม.4-6/4 ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ เชน่ -ตอบรับ (อยา่ งเหมาะสม) - ความสามารถในการใช้
ต1.2 ม.4-6/5 ทักษะชีวติ
Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ May/Can/Could…?/Would you -ปฏิเสธ ใผ่เรยี นรู้
ต1.3 ม.4-6/1 มุ่งมั่นในการทางาน - ความสามารถในการคิด
ต1.3 ม.4-6/2 please…?Yes,../ Please do. /Certainly./ Yes, of course./Sure./ Need some help?/ (อยา่ งเหมาะสม) - ความสามารถในการสอ่ื สาร
ต1.3 ม.4-6/3 ใผเ่ รยี นรู้
What can I do to help?/ Would you like any help?/ If you like I could…/ What มงุ่ ม่นั ในการทางาน - ความสามารถในการคดิ
(อย่างเหมาะสม) - ความสามารถในการสือ่ สาร
can I do to help?/ Would you like any help?/ Would you like me to help - ความสามารถในการใช้
ใผ่เรยี นรู้ ทักษะชีวติ
you?/ If you need anything, please…/ Is there anything I can do?/ I’ll do it for มงุ่ ม่นั ในการทางาน
- ความสามารถในการคดิ
you./ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ใผ่เรียนรู้ - ความสามารถในการส่อื สาร
มุ่งมั่นในการทางาน
คาศัพท์ สานวน ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย อธิบาย -พูดและเขียน ใผ่เรยี นรู้ - ความสามารถในการคิด
มงุ่ มน่ั ในการทางาน - ความสามารถในการสอ่ื สาร
เปรยี บเทียบ และแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ประเด็น/ข่าว/เหตกุ ารณท์ ฟ่ี งั และอา่ น -อธิบาย - ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการส่ือสาร
-เปรียบเทยี บ

-แสดงความคิดเหน็

ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรู้สกึ ความคิดเหน็ และใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ -พูดและเขียน

เสยี ใจ มคี วามสขุ เศร้า หวิ รสชาติ สวย น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ บรรยาย

สถานการณ์ ในชวี ิตประจาวนั เช่น -ให้เหตผุ ล

Nice./Very nice./Well done!/Congratulations on…

I like… because…/ I love… because…/

I feel… because…/I think…/I believe…/

I agree/disagree…/ I’m afraid I don’t like…/

I don’t believe…/I have no idea…/ Oh no! etc.

การนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เร่อื งและประเด็นท่ีอยใู่ น -นาเสนอ

ความสนใจของสังคม เชน่ การเดินทาง การรับประทานอาหาร การเลน่ กีฬา/ดนตรี การดู

ภาพยนตร์ การฟังเพลง การเลี้ยงสตั ว์การอ่านหนังสอื การทอ่ งเท่ียว การศึกษา สภาพสังคม

เศรษฐกิจ

การจบั ใจความสาคญั /แกน่ สาระ การวิเคราะหเ์ รอื่ ง กจิ กรรม ข่าว เหตกุ ารณ์ และ -จบั ใจความ

สถานการณต์ ามความสนใจ

การแสดงความคดิ เหน็ การให้เหตุผลประกอบและยกตัวอยา่ งเกย่ี วกับกจิ กรรม -แสดงความคดิ เหน็
ประสบการณ์ และเหตกุ ารณใ์ นทอ้ งถ่ิน สงั คม และโลก -ใหเ้ หตผุ ล

15

ต 2.1 ม.4-6/1 การเลือกใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางในการสนทนา ระดับของภาษา มารยาทสังคม -เลือกใช้ ใผเ่ รยี นรู้ - ความสามารถในการคดิ
และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ ีหนา้ ท่าทาง อธบิ าย ใผเ่ รียนรู้ - ความสามารถในการสื่อสาร
ต 2.1 ม.4-6/2 ประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสัมผสั มอื การโบกมอื การแสดงความ รสู้ ึกชอบ/ไม่ - ความสามารถในการใช้
ต 2.1 ม.4-6/3 ชอบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏเิ สธ ทกั ษะชีวิต
- ความสามารถในการคดิ
ต 2.2 ม.4-6/1 วถิ ีชีวิต ความคดิ ความเช่ือ และทมี่ าของขนบธรรมเนียม และประเพณขี องเจา้ ของภาษา - ความสามารถในการสอ่ื สาร
ต 2.2 ม.4-6/2 - ความสามารถในการคิด
ต 3.1 ม.4-6/1 กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การรอ้ งเพลง การเล่านิทาน/เรื่องจาก -เข้าร่วม รักความเป็นไทย - ความสามารถในการใช้
ภาพยนตร์ บทบาทสมมุติ ละครสัน้ วันขอบคณุ พระเจา้ วันครสิ ต์มาส วนั ข้นึ ปใี หม่ -จดั กจิ กรรม ใผเ่ รียนรู้ ทกั ษะชวี ติ
ต 4.1 ม.4-6/1 วันวาเลนไทน์ จิตสาธารณะ
ต4.2 ม.4-6/1 - เปรยี บเทียบ ม่งุ มั่นในการทางาน - ความสามารถในการคดิ
การอธิบาย/การเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งโครงสรา้ งประโยค ขอ้ ความ สานวน คา - อธิบาย -รักความเปน็ ไทย - ความสามารถในการสอื่ สาร
ต4.2 ม.4-6/2 พังเพย สภุ าษติ และบทกลอนของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ใผ่เรยี นรู้
- เปรยี บเทยี บ มุ่งมั่นในการทางาน - ความสามารถในการคิด
การวิเคราะห/์ การอภิปรายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งวถิ ชี ีวติ ความเชือ่ และ - อธิบาย -รักความเป็นไทย - ความสามารถในการสือ่ สาร
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากบั ของไทย การนาวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาไปใช้ - นาไปใช้ ใผ่เรยี นรู้ - ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
-คน้ ควา้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน
การค้นควา้ /การสืบคน้ การบันทึก การสรปุ การแสดงความคดิ เห็น และนาเสนอข้อมลู ท่ี -รวบรวม ใผ่เรียนรู้ - ความสามารถในการคดิ
เกีย่ วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้อนื่ จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ -สรปุ ขอ้ มูล มงุ่ มั่นในการทางาน - ความสามารถในการสอ่ื สาร
-นาเสนอ - ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
การใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จาลองเสมอื นจรงิ ทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรียน -ใชภ้ าษา ใผเ่ รียนรู้
สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม -ส่อื สาร มงุ่ ม่นั ในการทางาน - ความสามารถในการคิด
การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /การค้นควา้ ความร/ู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสอื่ และแหล่งการ - ความสามารถในการสอ่ื สาร
เรยี นรูต้ ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี -ใชภ้ าษา ใผเ่ รียนรู้
-สบื คน้ /ค้นควา้ มุง่ มั่นในการทางาน - ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
การใช้ภาษาอังกฤษในการเผยแพร/่ ประชาสัมพนั ธข์ ้อมลู ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และ รวบรวม -ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ท้องถิน่ /ประเทศชาติ เชน่ การทาหนังสือเล่มเล็กแนะนาโรงเรียน ชมุ ชน ท้องถ่ิน/ -สรุปความรู้/ข้อมลู รกั ความเปน็ ไทย
-เผยแพร่/ ใผ่เรยี นรู้ - ความสามารถในการคดิ
ประชาสัมพันธ์ - ความสามารถในการสอ่ื สาร

16

ประเทศชาติ การทาแผ่นปลิว ปา้ ยคาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนาโรงเรยี น สถานทีส่ าคญั ใน ข้อมลู มงุ่ มนั่ ในการทางาน
ชมุ ชนและทอ้ งถิน่ /ประเทศชาติ การนาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสารในโรงเรียน ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ /
ประเทศชาติเปน็ ภาษาองั กฤษ

17

คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหัสวิชา อ31102 รายวิชา ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ

..................................................................................................................................................................

ศกึ ษาความรเู้ ก่ียวกบั คาขอร้อง คาแนะนา คาชี้แจง คาอธิบาย หลักการอา่ นออกเสียงส่อื ท่ีไม่ใช่ความเรียง การจับใจความสาคัญ การแสดงความคิดเห็น การให้เหตุผล

และยกตัวอย่างประกอบ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เร่ืองต่างๆใกล้ตัว ความต้องการ การเสนอการตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ การขอและ ให้ข้อมูล การอธิบาย

เปรียบเทยี บ การแสดงความรสู้ กึ การบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง ประสบการณ์ การจบั ใจความสาคญั การวเิ คราะหเ์ ร่อื ง เหตุการณ์และสถานท่ีอยู่ในความสนใจ ศึกษาเปรียบเทียบ

เกี่ยวกับภาษา น้าเสียง กิริยาท่าทาง ชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความเหมือนความแตกต่างการออก เสียงประโยคการลาดับ

คาถามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ศึกษาค้นคว้า การรวบรวม การสรุปและการนาเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน

ศึกษาการใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ สถานการณจ์ าลอง การสืบค้น การค้นควา้ การเผยแพรป่ ระชาสมั พันธ์ข่าวสารของโรงเรยี น ชุมชนและสังคม

โดยใช้กระบวนการทางภาษา คอื ฟัง พูด อา่ นและเขยี น การสื่อสาร การสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มูล การฝกึ ปฏบิ ัติตามสถานการณต์ ่างๆ

เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ สื่อสาร เหน็ คุณคา่ และประโยชน์ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันอย่างเหมาะสม ตลอดจนมีความ

รักชาติ ศาสนา กษัตรยิ ์รักความเป็นไทย ซอื่ สตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งมัน่ ในการทางาน

รหัสตวั ชวี้ ัด
ต 1.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 , ม.4-6/4
ต1.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 , ม.4-6/4 , ม.4-6/5

ต1.3 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3
ต 2.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3

ต 2.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1

ต4.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2
รวม 21 ตวั ช้ี วัด

18

ตารางที่ 3 กาหนดหน่วยการเรียนรู้ (Unit)

วิชา (Courses)ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน รหสั วชิ า (Courses Code) อ31102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4

ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั (Indicator) สาระการเรียนรู้ (Content) จานวน
(Unit ) ชั่วโมง
ต 1.1 ม.4-6/2 ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วามชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ตา่ งๆ
Can You ต 1.1 ม.4-6/4 เชน่ May/Can/Could…?/Would you please…? Would you like any help/What can I do to help?/ Would you 7
Help Me?
ต 1.2 ม.4-6/2 like any help?/ Would you like me to help you?/ Is there anything I can do?/ I’ll do it for you./ I’m afraid…/
ต 1.2 ม.4-6/3
ต 1.2 ม.4-6/5 I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.
ต 2.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1 - คาศพั ท์

Borrowing and lending something
- หน้าที่ภาษา

- To make requests

- To offer to do things

- To ask for permission
- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

- Will you …?

- Can / Could you …?

- Would you …?

- I’ll … (for offer)

- May I …?

Satisfaction ต 1.1 ม.4-6/2 การสรปุ ความ ตคี วาม เก่ียวกบั โฆษณาและเลอื กในส่งิ ที่เหมาะสมกับตนเอง การฝึกใช้คาศัพทไ์ ดถ้ ูกต้อง เหมาะสมกับ 19
Guaranteed ต 1.1 ม.4-6/4 สถานการณ์ และการสนทนาส่ือสารและเขียนนาเสนอขอ้ มลู โดยใชโ้ ครงสร้างทางภาษา คาศัพท์ และสานวนได้เหมาะสมตาม
ต 1.3 ม.4-6/1 วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาประสบการณ์ฝกึ ภาษาจากบทเรยี น ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ 7
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1 คาศพั ท์
ต 4.2 ม.4-6/1
Advertisements

หน้าท่ีภาษา

- To talk about possible situation and conditions

- To give warning or make threats

- To talk about ads

โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

- First conditional: I’ll… if…

Have You Seen It ต 1.1 ม.4-6/2 การนาเสนอขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งและประเดน็ ท่อี ยูใ่ นความสนใจของสงั คม เช่น การเดินทาง 7
Yet? ต 1.1 ม.4-6/4 การรบั ประทานอาหาร การเล่นกีฬา/ดนตรี การดภู าพยนตร์ การฟงั เพลง การเลีย้ งสัตวก์ ารอา่ นหนังสอื การท่องเท่ียว
ต 1.3 ม.4-6/1 การศึกษา สภาพสงั คม เศรษฐกจิ การใชค้ าศัพท์ได้ถกู ต้อง เหมาะสมกับสถานการณ์ และการสนทนาสอ่ื สารและเขียนนาเสนอ
ต 2.1 ม.4-6/1 ขอ้ มลู โดยใช้โครงสร้างทางภาษา คาศัพท์ และสานวนไดเ้ หมาะสมตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาประสบการณ์ฝกึ ภาษา
ต 3.1 ม.4-6/1 จากบทเรียน ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้

ต 4.1 ม.4-6/1 คาศัพท์
ต 4.2 ม.4-6/1 Experience

หนา้ ที่ภาษา
- To talk about things you expect to happen
- To describe things that have happened, often sooner than expected
-To talk about things that have just happened

โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
Present Perfect with already, yet, just

20

For How Long? ต 1.1 ม.4-6/2 ประโยคไวยากรณท์ ่ีใชร้ ะบุช่วงเวลาทไี่ ดท้ าส่งิ ต่าง ๆ การสัมภาษณส์ ้นั ๆ ทถี่ ามเก่ียวกบั ช่วงเวลาของการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ และ 6
ต 1.1 ม.4-6/4 บทความทใี่ ห้ขอ้ มลู เกย่ี วกับประวตั ิความเปน็ มาของการเลน่ วา่ วตลอดจนการใชป้ ระโยชน์จากว่าว การฝกึ ใช้คาศพั ทไ์ ด้ถูกต้อง 7
ต 1.3 ม.4-6/1 เหมาะสม
ต 2.1 ม.4-6/1 กับสถานการณ์ และการสนทนาส่ือสารและเขียนนาเสนอขอ้ มูลโดยใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา คาศัพท์ และสานวนไดเ้ หมาะสมตาม
ต 2.2 ม.4-6/1 วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาประสบการณ์ฝึกภาษาจากบทเรยี นไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้
ต 3.1 ม.4-6/1 คาศัพท์
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1 - Free Time Activities
หนา้ ท่ภี าษา
What Would You ต 1.1 ม.4-6/4
Do? ต 1.3 ม.4-6/1 To talk about the length of time one has done something โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
ต 1.3 ม.4-6/3 Present Perfect with for and since
ต 2.2 ม.4-6/1
ต 3.1 ม.4-6/1 การส่ือสารเกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์สมมติ ข้อความเก่ยี วกบั สง่ิ ท่ีบคุ คลตา่ ง ๆ จะทา ประสบการณท์ ่ีนักเรยี นเคยทาและส่ิงทผี่ อู้ ่นื ทา คาศพั ท์
สานวนต่าง ๆ เกีย่ วกบั เงิน รวมทั้งหนา้ ทท่ี างภาษา โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ท่เี ปน็ พื้นฐานของกิจกรรม การฟัง พดู อ่าน เขยี น
ต 4.1 ม.4-6/1 เกีย่ วกับเหตุการณ์สมมติ
ต 4.2 ม.4-6/1 คาศัพท์

- Hypothetical Situations
- หนา้ ทีภ่ าษา

- To take about improbable situations and conditions

- To talk about time travel
- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์

- Second conditional: I’d …. if + past tense

Where Is It Made? ต 1.1 ม.4-6/4 การสื่อสารเก่ยี วกับการผลติ สงิ่ ต่าง ๆ ข้นึ มา ข้อความบรรยายแหลง่ ทม่ี าของสิ่งตา่ ง ๆ ขอ้ ความบรรยายการผลิตผา้ ฝ้าย พดู เกี่ยวกบั สิ่ง 21
ต 1.2 ม.4-6/1 ต่าง ๆ ทีผ่ ลติ ในประเทศไทย และเขยี นบรรยายวสั ดทุ ่ใี ช้ในการแตง่ กาย คาศพั ท์ต่าง ๆ เก่ยี วกับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหนา้ ท่ที างภาษา
ต 1.3 ม.4-6/1 โครงสร้างประโยคไวยากรณท์ ่ีเปน็ พ้นื ฐานของกจิ กรรม การฟงั พดู อ่าน 6
ต 2.1 ม.4-6/1 คาศัพท์
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1 - Products
ต 4.2 ม.4-6/1 - หน้าที่ภาษา

- To say what things are made of
- To discuss where and how things are produced
โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Passive Form: present and past

22

ตารางที่ 4 การออกแบบ/การวางแผนการวดั และประเมินผลการเรียนร(ู้ Learning Assessment Plan) รายวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน (อ31102)

หน่วยท่ี ตวั ชี้วดั หลกั ฐานการเรยี นร(ู้ Evidence of learning) แนวทางการประเมนิ วธิ ีการและเคร่อื งมอื การวดั และประเมนิ ผล

(Indicator) คาสาคญั (Learning Assessment)
(Key Word) หลกั ฐานการเรียนรู้/แนวทางการวัด วิธกี ารและเครอ่ื งมือการ
พฤตกิ รรมการเรียนรู้

ประเมนิ ผล วัดประเมนิ ผล

Can You ต 1.1 ม.4-6/2 การฟงั : ระบุ ด้านความรู้ K - การอ่านออกเสียงบทสนทนา แนวทางการวัด
Help Me? ต 1.1 ม.4-6/4 - บทสนทนาเกีย่ วกับการ การพูดเสนอให้
ใจความสาคัญ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความ ความช่วยเหลอื ผ้อู ่นื การขออนุญาต ประเมนิ ผล
ต 1.2 ม.4-6/2 รายละเอยี ด ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน -แบบฝึกระบุรายละเอยี ดเกย่ี วกบั - ประเมนิ การทา
การพดู : สนทน สถานการณ์ต่างๆ แบบฝกึ หดั
ต 1.2 ม.4-6/3 บทสนทนาทีฟ่ ังและอ่าน
ต 1.2 ม.4-6/5 โตต้ อบ แสดงความ ด้านทักษะกระบวนการ P -งานเขียน เก่ียวกับคาแนะนา เก่ียวกบั - สงั เกตพฤติกรรมการ
ต 2.1 ม.4-6/1 คิดเห็น ขอรอ้ ง ระบุใจความสาคัญ รายละเอียด การใหผ้ ู้อนื่ ยืมเงิน เรยี นรูใ้ นชว่ งการทา
ต 4.2 ม.4-6/1
เสนอให้ความ สนทนาโตต้ อบ แสดงความคดิ เหน็ แสดงบทบาสมมตุ ิ กิจกรรม
ชว่ ยเหลือ ขอรอ้ งให้ผอู้ ืน่ ทาอะไรให้ พูดเสนอให้ความช่วยเหลือผู้อื่น - ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั
การอา่ น : ระบุ พูดขออนุญาต และการตอบรับ/ปฏิเสธอยา่ งสภุ าพ พงึ ประสงค์

ใจความสาคัญ เขยี นคาแนะนา เก่ียวกบั การใหผ้ ู้อนื่ ยืมเงนิ - ประเมนิ ช้ินงาน/ภาระ
การเขียน : เขยี น ดา้ นสมรรถนะ C งาน

คาแนะนา แสดง - ความสามารถในการสื่อสาร
ความคิดเห็น - ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ A

 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
 ใผเ่ รยี นรู้
 รักความเปน็ ไทย

23

หนว่ ยที่ ตวั ชว้ี ัด คาสาคญั หลกั ฐานการเรียนร้(ู Evidence of learning) แนวทางการประเมนิ วธิ กี ารและเคร่ืองมือการวัดและประเมนิ ผล
(Indicator) (Key Word) (Learning Assessment)

การฟงั : การจบั พฤตกิ รรมการเรียนรู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ แนวทางการวัด วธิ กี ารและเคร่อื งมือการ
ใจความสาคญั
การพดู : การพูดแสดง ประเมินผล วดั ประเมนิ ผล
ความคิดเห็น
Satisfacti ต 1.1 ม.4-6/2 การอา่ น : จบั ใจความ ดา้ นความรู้ (K) - การอา่ นออกเสยี งบทสนทนา แนวทางการวัด
on ต 1.1 ม.4-6/4 สาคัญ การวิเคราะห์
ต 1.3 ม.4-6/1 ความ การสรปุ ความ การสรปุ ความ ตคี วาม เกี่ยวกับโฆษณาและเลอื กในสิง่ ท่ีเหมาะสมกบั - บทสนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มลู เก่ียวกับ ประเมนิ ผล
ต 3.1 ม.4-6/1 การตคี วาม ตนเอง การฝกึ ใชค้ าศพั ท์ได้ถกู ตอ้ ง เหมาะสมกบั สถานการณ์ และการ งานบ้านที่จาเปน็ ต้องทา
Guarante ต 4.1 ม.4-6/1 การเขียน : เขยี น สนทนาส่ือสารและเขียนนาเสนอข้อมูลโดยใชโ้ ครงสรา้ งทาง - ประเมนิ การทา
ed เรยี งความเกีย่ วกับ
สถานทีท่ อ่ี ยากไป ภาษา คาศัพท์ และสานวนได้เหมาะสมตามวัฒนธรรมของเจ้าของ -แบบฝกึ ระบุรายละเอียดเกย่ี วกบั แบบฝกึ หัด
ภาษา และนาประสบการณ์ฝึกภาษาจากบทเรยี น ไปปรบั ใชใ้ น
ต 4.2 ม.4-6/1 ชีวติ ประจาวนั ได้ บทสนทนาที่ฟงั และอ่าน - สงั เกตพฤตกิ รรมการ

-งานเขยี นบรรยายภาพเกย่ี วกับงานบ้านที่ เรียนร้ใู นช่วงการทา
กจิ กรรม
ดา้ นทักษะกระบวนการ P ต้องทา
- ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั
การฟัง : การจับใจความสาคญั
พงึ ประสงค์
การพดู : การพูดแสดงความคิดเหน็
- ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระ
การอา่ น : จับใจความสาคญั การวเิ คราะห์ความ การสรุป
งาน
ความ การตคี วาม

การเขยี น : เขียนเรยี งความเก่ียวกับสถานท่ีทอี่ ยากไปด้าน

สมรรถนะ C

- ความสามารถในการสอื่ สาร

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี

ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ A

 มุง่ มัน่ ในการทางาน

 ใผเ่ รียนรู้
 รกั ความเปน็ ไทย

24

หน่วยที่ ตัวช้ีวัด คาสาคญั หลกั ฐานการเรยี นร้(ู Evidence of learning) แนวทางการประเมิน วธิ กี ารและเครื่องมอื การวัดและประเมนิ ผล
(Indicator) (Key Word) (Learning Assessment)

การฟัง : จบั ใจความ พฤติกรรมการเรียนรู้ หลกั ฐานการเรียนรู้/แนวทางการวัด วิธกี ารและเคร่อื งมือการ
สาคัญ
การพดู : พูดใหข้ ้อมลู ประเมินผล วดั ประเมนิ ผล
การอ่าน : จบั ใจความ
Have You ต 1.1 ม.4-6/2 สาคัญ วิเคราะห์ความ ดา้ นความรู้ (K) แนวทางการวัด
Seen It ต 1.1 ม.4-6/4 สรปุ ความ ตคี วาม การถาม-ตอบท่พี บบ่อยและบทความเกยี่ วกับ ประเมนิ ผล
ต 1.3 ม.4-6/1 การเขยี น : เขยี น - การอา่ นออกเสียงบทสนทนา
Yet? ต 2.1 ม.4-6/1 เกีย่ วกับการแสดง Generation Z การใช้คาศพั ท์ได้ถกู ต้อง เหมาะสมกับ - บทสนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูลถาม-ตอบ - ประเมนิ การทา
ดนตรี สถานการณ์ และการสนทนาส่อื สารและเขยี นนาเสนอขอ้ มลู -แบบฝกึ ระบุรายละเอยี ดเกย่ี วกับ แบบฝกึ หัด
ต 3.1 ม.4-6/1 โดยใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษา คาศพั ท์ และสานวนได้เหมาะสม - สงั เกตพฤตกิ รรมการ
บทสนทนาที่ฟงั และอา่ น
ต 4.1 ม.4-6/1 ตามวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนาประสบการณ์ฝกึ -งานเขยี นบรรยายภาพ เรยี นร้ใู นช่วงการทา
ภาษาจากบทเรียน ไปปรับใช้ในชีวติ ประจาวันได้ กจิ กรรม
ต 4.2 ม.4-6/1
ด้านทกั ษะกระบวนการ P - ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั
พงึ ประสงค์
การฟงั : จบั ใจความสาคญั - ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระ
การพูด : พูดใหข้ ้อมูล
การอา่ น : จับใจความสาคญั วเิ คราะห์ความ สรปุ ความ ตีความ งาน
การเขยี น : เขียนเก่ยี วกับการแสดงดนตรี

ด้านสมรรถนะ C

- ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ A

 มงุ่ มน่ั ในการทางาน
 ใผ่เรยี นรู้
 รกั ความเปน็ ไทย

25

หน่วยที่ ตวั ชวี้ ัด หลกั ฐานการเรยี นร(ู้ Evidence of learning) แนวทางการประเมิน วธิ กี ารและเครอ่ื งมอื การวดั และประเมนิ ผล

(Indicator) คาสาคญั (Learning Assessment)
(Key Word)
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ หลักฐานการเรยี นร/ู้ แนวทางการวดั วิธกี ารและเคร่อื งมือการ

ประเมินผล วดั ประเมนิ ผล

For How ต 1.1 ม.4-6/2 การฟงั : จบั ใจความ ด้านความรู้ (K) - การอ่านออกเสยี งบทสนทนา แนวทางการวัด
Long? ต 1.1 ม.4-6/4 สาคญั ประโยคที่ใชร้ ะบชุ ่วงเวลาทไ่ี ด้ทาสิ่งต่าง ๆ การสมั ภาษณส์ น้ั -แบบฝึกระบุรายละเอียดเกย่ี วกบั ประเมนิ ผล
ต 1.3 ม.4-6/1
ต 2.1 ม.4-6/1 การพูด : พดู ให้ ๆ ที่ถามเกี่ยวกบั ช่วงเวลาของการทากิจกรรมต่าง ๆ และ บทสนทนาที่ฟงั และอ่าน - ประเมนิ การทา
ต 2.2 ม.4-6/1 ขอ้ มูล บทความท่ใี ห้ขอ้ มูลเก่ียวกบั ประวตั คิ วามเปน็ มาของการเล่น -งานเขยี นบรรยายและแสดงความคิดเห็น แบบฝกึ หัด
ต 3.1 ม.4-6/1 การอา่ น : จบั วา่ วตลอดจนการใชป้ ระโยชนจ์ ากวา่ ว คาศัพทก์ ับ - สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ต 4.1 ม.4-6/1
ใจความสาคญั การ สถานการณ์ และการสนทนาสอื่ สารและเขยี นนาเสนอขอ้ มูล เรียนร้ใู นช่วงการทา
ต 4.2 ม.4-6/1 วเิ คราะหค์ วาม การ โดยใช้โครงสรา้ งทางภาษา คาศัพท์ และสานวนได้ กจิ กรรม

สรุปความ ด้านทักษะกระบวนการ P - ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั
การตคี วาม ระบุรายละเอยี ด จับใจความสาคัญ ตีความเรอื่ งทีอ่ ่าน พงึ ประสงค์
การเขยี น : เขยี น พูดบรรยายขอ้ มูลสว่ นตวั - ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระ

เกย่ี วกับกีฬาและ แสดงบทบาทสมมติจากบทสนทนาทฟ่ี ังและอ่าน งาน
งานอดเิ รก เขียนบรรยายและแสดงความคิดเห็น

ดา้ นสมรรถนะ C
- ความสามารถในการส่ือสาร
- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ A
 มงุ่ มัน่ ในการทางาน
 ใผเ่ รียนรู้
 รกั ความเป็นไทย

26

หน่วยที่ ตวั ช้วี ัด หลกั ฐานการเรียนรู้(Evidence of learning) แนวทางการประเมิน วิธกี ารและเคร่อื งมอื การวัดและประเมนิ ผล

(Indicator) คาสาคญั (Learning Assessment)
(Key Word)
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ แนวทางการวัด วิธกี ารและเคร่อื งมือการ

ประเมินผล วดั ประเมนิ ผล

What ต 1.1 ม.4-6/4 การฟัง : ระบุ ด้านความรู้ (K) - การอ่านออกเสียงบทสนทนา แนวทางการวัด
Would ต 1.3 ม.4-6/1 ประเมนิ ผล
ต 1.3 ม.4-6/3 รายละเอยี ด การส่ือสารเกย่ี วกับเหตุการณส์ มมติ การเขยี นเกยี่ วกับ - บทสนทนากจิ กรรมท่ีตอ้ งการทาและ
You Do? ต 2.2 ม.4-6/1 - ประเมนิ การทา
ต 3.1 ม.4-6/1 การพดู : ถาม-ตอบ ประสบการณ์ท่ีนกั เรยี นเคยทาและสงิ่ ท่ีผ้อู น่ื ทา คาศัพท์ การวางแผนอาชีพในอนาคต แบบฝกึ หัด
ต 4.1 ม.4-6/1 - สงั เกตพฤตกิ รรมการ
ต 4.2 ม.4-6/1 เก่ยี วกบั เหตกุ ารณ์ สานวนตา่ ง ๆ เกย่ี วกบั เงนิ รวมทัง้ หน้าท่ีทางภาษา -แบบฝึกระบรุ ายละเอยี ดเกย่ี วกับ
เรยี นร้ใู นช่วงการทา
สมมติ โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณท์ ่ีเป็นพ้นื ฐานของกจิ กรรม การ บทสนทนาท่ีฟงั และอ่าน กิจกรรม
การอา่ น : จบั ฟัง พูด อ่าน และเขียนในหน่วยการเรียนร้นู ้ี
-งานเขยี น เกีย่ วกบั เหตุการณ์ที่เคยทา - ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั
ใจความสาคญั ระบุ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ P พึงประสงค์
- ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระ
รายละเอยี ด ระบใุ จความสาคัญ บอกรายละเอียดเกย่ี วกบั เรอ่ื งทีอ่ ่าน
งาน
การเขยี น : เขยี นเล่า อา่ นออกเสยี งข้อความถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน

เหตกุ ารณ์ท่ีเคยทา พูดสนทนาเกีย่ วกบั เหตกุ ารณ์สมมติ

เขียนสน้ั ๆ เกี่ยวกบั เหตุการณท์ ี่เคยทา

ดา้ นสมรรถนะ C

- ความสามารถในการสือ่ สาร

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ A

 มงุ่ มัน่ ในการทางาน

 ใผ่เรียนรู้
 รกั ความเป็นไทย

27

หนว่ ยท่ี ตวั ช้ีวัด หลักฐานการเรยี นรู้(Evidence of learning) แนวทางการประเมิน วธิ กี ารและเครอื่ งมอื การวดั และประเมนิ ผล

(Indicator) คาสาคัญ (Learning Assessment)
(Key Word)
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ หลักฐานการเรยี นร้/ู แนวทางการวัด วิธกี ารและเคร่อื งมือการ

ประเมินผล วดั ประเมนิ ผล

Where Is ต 1.1 ม.4-6/4 การฟัง : ระบุ ด้านความรู้ K - การอา่ นออกเสียงบทสนทนา แนวทางการวัด
It Made? ต 1.2 ม.4-6/1 รายละเอียด การสื่อสารเกีย่ วกับการผลติ ส่ิงตา่ ง ๆ ขึน้ มา ขอ้ ความ
ต 1.3 ม.4-6/1 - บทสนทนาถาม-ตอบเกย่ี วกับการผลิตสิ่ง ประเมนิ ผล
ต 2.1 ม.4-6/1 การพดู : ถาม-ตอบ บรรยายแหลง่ ทมี่ าของสิง่ ตา่ ง ๆ ฟงั พดู เกี่ยวกบั สง่ิ ต่าง ๆ ที่
ต 3.1 ม.4-6/1 เกีย่ วกับการผลิตส่ิง ผลติ ในประเทศไทย และเขียนบรรยายวัสดทุ ี่ใช้ในการแต่ง ต่าง ๆ - ประเมนิ การทา
ต 4.1 ม.4-6/1 ตา่ ง ๆ กาย คาศพั ท์ต่าง ๆ เกี่ยวกบั ผลิตภัณฑ์ รวมทง้ั หนา้ ท่ีทาง
ต 4.2 ม.4-6/1 -แบบฝึกระบรุ ายละเอยี ดเกย่ี วกับ แบบฝกึ หัด
การอา่ น : จับ ภาษา โครงสรา้ งประโยคไวยากรณ์
ใจความสาคญั ระบุ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ P บทสนทนาทฟ่ี ังและอา่ น - สงั เกตพฤตกิ รรมการ

รายละเอียด การฟงั : ระบุรายละเอยี ด -เขียนบรรยายวสั ดเุ ครอื่ งแตง่ กาย เรียนร้ใู นช่วงการทา
การเขียน : เขยี น การพดู : ถาม-ตอบเกี่ยวกับการผลติ ส่ิงต่าง ๆ
บรรยายวัสดุเครือ่ ง การอา่ น : จับใจความสาคัญ ระบรุ ายละเอยี ด กิจกรรม

แตง่ กาย การเขียน : เขียนบรรยายวัสดุเคร่ืองแตง่ กาย - ประเมินคณุ ลักษณะอนั
ดา้ นสมรรถนะ C
พงึ ประสงค์
- ความสามารถในการสอื่ สาร
- ความสามารถในการคิด - ประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระ
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
งาน
- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี
ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ A

 มงุ่ ม่นั ในการทางาน
 ใผเ่ รียนรู้
 รักความเปน็ ไทย

ตารางที่ 5 ตารางกาหนดนา้ หนักคะแนนการวดั และประเมินผล รายวชิ าภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน (อ311102) 28

หนว่ ย รหัสตัวชวี้ ัด/ตวั ชวี้ ัด/ผลการ น้าหนกั คะแนน คะแนนตามชว่ งเวลาการวัดและประเมินผล รวม
ที่
เรียนรู้ คะแนน ตามพิสยั ระหวา่ งเรียน กลางภาค ปลายภาค 20
Can You 20
Help Me? (F) 50 (S1)20 (S2 )30 15
20
Satisfaction KPA K P A K K
Guaranteed
ต 1.1 ม.4-6/2
Have You Seen It
Yet? ต 1.1 ม.4-6/4

For How Long? ต 1.2 ม.4-6/2 20 13 5 2 3 5 2 5 5
ต 1.2 ม.4-6/3

ต 1.2 ม.4-6/5

ต 2.1 ม.4-6/1

ต 4.2 ม.4-6/1

ต 1.1 ม.4-6/2

ต 1.1 ม.4-6/4

ต 1.3 ม.4-6/1 20 15 3 2 5 3 2 5 5
ต 3.1 ม.4-6/1

ต 4.1 ม.4-6/1

ต 4.2 ม.4-6/1

ต 1.1 ม.4-6/2

ต 1.1 ม.4-6/4

ต 1.3 ม.4-6/1 15 12 3 0 2 3 0 5 5
ต 2.1 ม.4-6/1

ต 3.1 ม.4-6/1

ต 4.1 ม.4-6/1

ต 4.2 ม.4-6/1

ต 1.1 ม.4-6/2

ต 1.1 ม.4-6/4 20 15 5 0 5 5 0 5 5
ต 1.3 ม.4-6/1

ต 2.1 ม.4-6/1

29

คะแนน คะแนนตามชว่ งเวลาการวัดแลประเมนิ ผล
ตามพสิ ยั
หน่วย รหสั ตวั ช้ีวัด/ตัวช้วี ัด/ผลการ นา้ หนกั ระหว่างเรยี น กลางภาค ปลายภาค
ท่ี เรียนรู้ คะแนน
(F) 50 (S1)20 (S2 )30 รวม

K PAK P A KK 15
10
What Would You ต 2.2 ม.4-6/1
Do? ต 3.1 ม.4-6/1 100
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1 15 9 4 2 4 4 2 0 5

ต 1.1 ม.4-6/4
ต 1.3 ม.4-6/1
ต 1.3 ม.4-6/3
ต 2.2 ม.4-6/1
ต 3.1 ม.4-6/1
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1

Where Is It Made? ต 1.1 ม.4-6/4

ต 1.2 ม.4-6/1

ต 1.3 ม.4-6/1 10 8 2 0 3 2 0 0 5

ต 2.1 ม.4-6/1

ต 3.1 ม.4-6/1

ต 4.1 ม.4-6/1

ต 4.2 ม.4-6/1

คะแนนรวม 100 72 22 6 22 22 6 20 30

50

หมายเหตุ การวัดและประเมนิ ผลแบง่ ออกเปน็ 2 ส่วนคอื วัดและประเมินผลเพอ่ื พัฒนาผ้เู รยี นเปน็ การประเมนิ ผลย่อย((Formative Assessment)(F)และวัดและ

ประเมนิ ผลเพอ่ื สรปุ ผลการเรยี นรู(้ Summative Assessment)(S) โรงเรยี นเราแบง่ เปน็ 2 คร้งั คอื กลางภาค(S1)และปลายภาค(S2)

30

ตารางท่ี 6 โครงสร้างข้อสอบระหวา่ งเรียน(Formative Assessment) (F)

จานวนข้อสอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนขอ้ สอบ
จานวน จาแนกตามรูปแบบขอ้ สอบ
หนว่ ยท่ี รหัสตัวชีว้ ัด// คาสาคัญ คะแนน ดา้ นความร้(ู K)และด้านทักษะกระบวนการคิด ข้อสอบ MC MS CM Rr rr er รวม
Can You ผลการเรยี นรู้ (Key Word)
Help Me? ระหว่างเรยี น จา เข้าใจ ประยกุ ต์ใช้ วิเคราะห์ ประเมนิ สรา้ ง 10 5 5 10
ต 1.1 ม.4-6/2 - อ่านออกเสียง คา่ สรรค์
Satisfaction ต 1.1 ม.4-6/4 - จับใจความ 10 5 5 10
Guaranteed ต 1.2 ม.4-6/2 สาคญั - 10 3 5 2
ต 1.2 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ความ
ต 1.2 ม.4-6/5 - สรุปความ 10 3 3 4
ต 2.1 ม.4-6/1 -ตคี วาม
ต 4.2 ม.4-6/1 - แสดงความ
คดิ เห็น
ต 1.1 ม.4-6/2 - สนทนา
ต 1.1 ม.4-6/4 - เขียน
ต 1.3 ม.4-6/1 - เลอื กใชภ้ าษา
ต 3.1 ม.4-6/1 - เปรียบเทยี บ
ต 4.1 ม.4-6/1 - อธบิ ายและ
ต 4.2 ม.4-6/1 เขยี น
- จบั ใจความ
สาคัญ
- สรุปความ
-ตคี วาม
- แสดงความ
คิดเหน็
- สนทนาและ
เขยี นโต้ตอบ
- ค้นควา้ /สบื ค้น

31

จานวนข้อสอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนข้อสอบ
จานวน จาแนกตามรปู แบบข้อสอบ
หนว่ ยท่ี รหัสตวั ช้วี ดั // คาสาคัญ คะแนน ดา้ นความรู้(K)และดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ ข้อสอบ MC MS CM Rr rr er รวม
ผลการเรยี นรู้ (Key Word) ระหว่างเรียน
จา เข้าใจ ประยุกต์ใช้ วิเคราะห์ ประเมิน สรา้ ง 55
ค่า สรรค์

Have You ต 1.1 ม.4-6/2 - อธบิ าย
Seen It Yet? ต 1.1 ม.4-6/4 - เขยี น
ต 1.3 ม.4-6/1 - จับใจความ
5 32
ต 2.1 ม.4-6/1 สาคญั - 10
ต 3.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ความ
ต 4.1 ม.4-6/1 - สรุปความ
ต 4.2 ม.4-6/1 -ตีความ
- แสดงความ
For How ต 1.1 ม.4-6/2 คิดเหน็
Long? ต 1.1 ม.4-6/4 - สนทนา
ต 1.3 ม.4-6/1 - เขียนโต้ตอบ
ต 2.1 ม.4-6/1 - นาเสนอ 44 2 10 5 5 10
ต 2.2 ม.4-6/1
ต 3.1 ม.4-6/1 - อธบิ าย
- เขียน
ต 4.1 ม.4-6/1 - จับใจความ
ต 4.2 ม.4-6/1 สาคญั
- สรุปความ
-ตคี วาม

- แสดงความ
คดิ เห็น
- เลือกและใช้
- พูด
- เขียนโต้ตอบ
- คน้ คว้า/สืบค้น

32

จานวนขอ้ สอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนขอ้ สอบ

หนว่ ยท่ี รหัสตัวชีว้ ดั // คาสาคญั คะแนน ด้านความรู้(K)และดา้ นทักษะกระบวนการคดิ จานวน จาแนกตามรูปแบบขอ้ สอบ
ผลการเรียนรู้ (Key Word) ระหวา่ งเรยี น ขอ้ สอบ MC MS CM Rr rr er รวม
เขา้ ใจ ประยกุ ต์ใช้ วเิ คราะห์ ประเมนิ สร้าง
จา คา่ สรรค์

What Would ต 1.1 ม.4-6/4 - อา่ นออกเสยี ง
You Do? ต 1.3 ม.4-6/1 - จับใจความ

ต 1.3 ม.4-6/3 สาคญั

ต 2.2 ม.4-6/1 - สรุปความ

ต 3.1 ม.4-6/1 -ตีความ

ต 4.1 ม.4-6/1 - แสดงความ 10 4 4 2 10 5 5 10
ต 4.2 ม.4-6/1 คดิ เหน็

- สนทนา

- เลือกใชภ้ าษา

- วิเคราะห์

- คน้ คว้า

- ใช้ภาษา

Where Is It ต 1.1 ม.4-6/4 - อา่ นออกเสยี ง
Made? ต 1.2 ม.4-6/1 - จบั ใจความ

ต 1.3 ม.4-6/1 สาคญั

ต 2.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ความ 5 32 55 5

ต 3.1 ม.4-6/1 - สรปุ ความ

ต 4.1 ม.4-6/1 - แสดงความ

ต 4.2 ม.4-6/1 คดิ เห็น

- เลอื ก ใช้ภาษา

- เขียน

รวมคะแนนและจานวนขอ้ สอบ 50 20 20 10 50 30 20 50

หมายเหตุ ตวั ชวี้ ัดใดจะออกขอ้ สอบ วัด จา /ใจ/ใช/้ ว/ิ ประ/สรา้ ง ใหด้ ู ผลการวิเคราะห์เชอ่ื มโยงของตาราง 1 ตาราง 4 และตาราง 5 และจะวดั ด้วยขอ้ สอบแบบใด(MC=แบบคาตอบเดยี ว/

MS=แบบหลายคาตอบ/ CM=แบบเชิงซ้อน/Rr=แบบกลมุ่ คาสมั พนั ธ/์ rr=แบบจากดั คาตอบ/er=แบบขยายคาตอบหรือไม่จากดั คาตอบ)แบบละก่ีขอ้ ในแตล่ ะตวั ชี้วดั หรอื ผลการเรยี นรู้

33

ตารางที่ 7 โครงสรา้ งข้อสอบกลางภาค(Summative Assessment)(S1)

จานวนขอ้ สอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปัญญา รวม จานวนข้อสอบ
จานวน จาแนกตามรูปแบบขอ้ สอบ
หนว่ ยที่ รหัสตัวชวี้ ัด// คาสาคัญ คะแนนกลาง ด้านความรู้(K)และดา้ นทักษะกระบวนการคิด ข้อสอบ MC MS CM Rr rr er รวม
ผลการเรยี นรู้ (Key Word)
ภาค จา เขา้ ใจ ประยุกต์ใช้ วิเคราะห์ ประเมนิ สร้าง
- อ่านออกเสยี ง คา่ สรรค์
- สนทนา
Can You ต 1.1 ม.4-6/4 - เขียน 32 5
Help Me? ต 1.2 ม.4-6/1 - เลอื กใช้ภาษา
ต 1.3 ม.4-6/2 - เปรียบเทียบ 14 3 14 3 14
Satisfactio ต 2.1 ม.4-6/1 21 3 13
n ต 1.1 ม.4-6/2 - อ่านออกเสียง 13
- อธบิ าย 3 3
Guarantee ต 1.1 ม.4-6/3 - สนทนา
d ต 1.2 ม.4-6/1 52 5
ต 1.1 ม.4-6/3 -อธิบายและ 13 3 13 3
Have You ต 1.2 ม.4-6/1 เขยี น
Seen It ต 2.1 ม.4-6/1 -สนทนา 3 1
Yet? ต 4.1 ม.4-6/1 -เลอื กใชภ้ าษา 2 2
-ใชภ้ าษา 3 3
13 3 2 13 5

3 3

รวมคะแนนและจานวนข้อสอบ 40 40

หมายเหตุ ตัวช้วี ดั ใดจะออกข้อสอบ วดั จา /ใจ/ใช้/ว/ิ ประ/สรา้ ง ให้ดู ผลการวิเคราะห์เชอ่ื มโยงของตาราง 1 ตาราง 4 และตาราง 5 และจะวัดดว้ ยข้อสอบแบบใด(MC=แบบคาตอบเดยี ว/
MS=แบบหลายคาตอบ/ CM=แบบเชงิ ซอ้ น/Rr=แบบกลุ่มคาสัมพนั ธ์/rr=แบบจากัดคาตอบ/er=แบบขยายคาตอบหรือไม่จากัดคาตอบ)แบบละกี่ขอ้ ในแต่ละตัวชีว้ ัดหรือผลการเรียนรู้

34

ตารางท่ี 8 โครงสร้างข้อสอบปลายภาค(Summative Assessment)(S2)

จานวนขอ้ สอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนข้อสอบ
จานวน จาแนกตามรปู แบบขอ้ สอบ
หน่วยท่ี รหัสตวั ชีว้ ัด// คาสาคญั คะแนน ด้านความรู้(K)และดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ ข้อสอบ MC MS CM Rr rr er รวม
ผลการเรยี นรู้ (Key Word)
ระหวา่ งเรยี น จา เข้าใจ ประยกุ ตใ์ ช้ วิเคราะห์ ประเมนิ สรา้ ง 5 5 10
ค่า สรรค์
5 5 10
Can You ต 1.1 ม.4-6/2 - อ่านออกเสียง
Help Me? ต 1.1 ม.4-6/4 - จบั ใจความ
ต 1.2 ม.4-6/2 สาคัญ -
ต 1.2 ม.4-6/3 วเิ คราะหค์ วาม 10 3 5 2 10
ต 1.2 ม.4-6/5 - สรุปความ

ต 2.1 ม.4-6/1 -ตคี วาม
ต 4.2 ม.4-6/1 - แสดงความ
คิดเห็น
Satisfaction ต 1.1 ม.4-6/2 - สนทนา
Guaranteed ต 1.1 ม.4-6/4 - เขยี น
ต 1.3 ม.4-6/1 - เลอื กใชภ้ าษา
ต 3.1 ม.4-6/1 - เปรยี บเทยี บ 10 3 3 4 10
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1 - อธิบายและ
เขียน
- จับใจความ
สาคัญ
- สรปุ ความ
-ตคี วาม
- แสดงความ
คดิ เหน็

- สนทนาและ
เขยี นโต้ตอบ

35

จานวนข้อสอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนข้อสอบ
จานวน จาแนกตามรปู แบบข้อสอบ
หนว่ ยท่ี รหัสตวั ช้วี ดั // คาสาคัญ คะแนน ดา้ นความรู้(K)และดา้ นทกั ษะกระบวนการคดิ ข้อสอบ
ผลการเรยี นรู้ (Key Word) ระหว่างเรียน MC MS CM Rr rr er รวม
จา เข้าใจ ประยุกต์ใช้ วิเคราะห์ ประเมิน สรา้ ง
ค่า สรรค์

Have You ต 1.1 ม.4-6/2 - อธบิ าย
Seen It Yet? ต 1.1 ม.4-6/4 - เขยี น
ต 1.3 ม.4-6/1 - จับใจความ
ต 2.1 ม.4-6/1 สาคญั - 5 32 55
ต 3.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ความ 10
ต 4.1 ม.4-6/1 - สรุปความ
ต 4.2 ม.4-6/1 -ตีความ
- แสดงความ
For How ต 1.1 ม.4-6/2
Long? คิดเหน็
ต 1.1 ม.4-6/4 - สนทนา
ต 1.3 ม.4-6/1 - เขียนโต้ตอบ 44 2 10 5 5 10
ต 2.1 ม.4-6/1 - นาเสนอ
ต 2.2 ม.4-6/1
ต 3.1 ม.4-6/1 - อธบิ าย
ต 4.1 ม.4-6/1
ต 4.2 ม.4-6/1 - เขียน
- จับใจความ
สาคญั
- สรุปความ
-ตคี วาม
- แสดงความ
คดิ เหน็
- เลือกและใช้
- พูด
- เขียนโต้ตอบ

- คน้ คว้า/สืบค้น

36

จานวนข้อสอบจาแนกตามกระบวนการทางสติปญั ญา รวม จานวนขอ้ สอบ

หนว่ ยท่ี รหัสตวั ชี้วดั // คาสาคัญ คะแนน ด้านความร(ู้ K)และดา้ นทักษะกระบวนการคิด จานวน จาแนกตามรูปแบบขอ้ สอบ
ผลการเรยี นรู้ (Key Word) ระหวา่ งเรยี น จา
เขา้ ใจ ประยกุ ตใ์ ช้ วิเคราะห์ ประเมิน สร้าง ขอ้ สอบ MC MS CM Rr rr er รวม
ค่า สรรค์

What Would ต 1.1 ม.4-6/4 - อ่านออกเสียง
You Do? ต 1.3 ม.4-6/1 - จับใจความ

ต 1.3 ม.4-6/3 สาคัญ

ต 2.2 ม.4-6/1 - สรปุ ความ

ต 3.1 ม.4-6/1 -ตีความ

ต 4.1 ม.4-6/1 - แสดงความ 10 4 4 2 10 5 5 10
ต 4.2 ม.4-6/1 คิดเห็น

- สนทนา

- เลอื กใช้ภาษา

- วเิ คราะห์

- ค้นคว้า

- ใชภ้ าษา

Where Is It ต 1.1 ม.4-6/4 - อ่านออกเสียง
Made? ต 1.2 ม.4-6/1 - จบั ใจความ

ต 1.3 ม.4-6/1 สาคัญ

ต 2.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหค์ วาม 5 32 55 5

ต 3.1 ม.4-6/1 - สรปุ ความ

ต 4.1 ม.4-6/1 - แสดงความ

ต 4.2 ม.4-6/1 คดิ เหน็

- เลอื ก ใชภ้ าษา

- เขยี น

รวมคะแนนและจานวนขอ้ สอบ 50 20 20 10 50 30 20 50

หมายเหตุ ตวั ช้วี ดั ใดจะออกขอ้ สอบ วดั จา /ใจ/ใช้/ว/ิ ประ/สร้าง ให้ดู ผลการวิเคราะหเ์ ชอื่ มโยงของตาราง 1 ตาราง 4 และตาราง 5 และจะวัดดว้ ยข้อสอบแบบใด(MC=แบบคาตอบเดยี ว/

MS=แบบหลายคาตอบ/ CM=แบบเชิงซอ้ น/Rr=แบบกลุ่มคาสัมพนั ธ์/rr=แบบจากัดคาตอบ/er=แบบขยายคาตอบหรือไมจ่ ากัดคาตอบ)แบบละก่ีขอ้ ในแตล่ ะตัวชวี้ ัดหรือผลการเรียนรู้

37

ตารางที่ 9 การออกแบบ/การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร(ู้ Learning Management Plan)

แผน ี่ท ช่ือหน่วย ตัวชี้วัด คาสาคญั กระบวนการจัดการเรียนรแู้ ละ สอื่ / จานวน
สัปดา ์ห ี่ท (Indicator) /ผล (Key Word) แนวทางการกิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมง
นวตั กรรม/
การเรยี นรู้ หลกั ฐานการเรียนรู/้ แนวทางการวดั ประเมนิ ผล ทรพั ยากร

(Learning
Outcome)

1-7 1-3 ต 1.1 ม.4-6/2 - อา่ นออกเสียง - การอ่านออกเสยี งบทสนทนา - อ่านออกเสยี ง นักเรียนเรียนรกู้ ารใชส้ านวนภาษาในการพูดขอ - หนงั สือเรยี น 7

ต 1.1 ม.4-6/4 - จบั ใจความ - บทสนทนาเกีย่ วกบั การ การพูดเสนอให้ความ - จับใจความ ความชว่ ยเหลือจากผอู้ นื่ และการตอบรบั /ปฏเิ สธ New world 4

ต 1.2 ม.4-6/2 สาคญั - ชว่ ยเหลือ สาคัญ อย่างสภุ าพ ภาษาในการใชภ้ าษาในสถานการณ์ - ใบความรู้

ต 1.2 ม.4-6/3 วิเคราะหค์ วาม -แบบฝกึ ระบรุ ายละเอยี ดเกี่ยวกับ - วเิ คราะหค์ วาม ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดฝ้ กึ แสดงบทบาท - ใบงาน

ต 1.2 ม.4-6/5 - สรุปความ บทสนทนาที่ฟังและอา่ น - สรปุ ความ สมมตสิ นทนาเพอื่ การสอ่ื สารไดอ้ ย่างในชีวติ จรงิ - บตั รคา

ต 2.1 ม.4-6/1 -ตคี วาม -งานเขียน เก่ยี วกับคาแนะนา -ตคี วาม ฝึกทักษะการดาเนินชวี ิตในสงั คมดา้ นการมี - Power point

ต 4.2 ม.4-6/1 - แสดงความ แนวทางการวัด ประเมินผล - แสดงความ กาลเทศะ การมีน้าใจให้ความชว่ ยเหลือแก่ผอู้ น่ื - อินเทอรเ์ น็ต

คดิ เห็น - ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด คดิ เห็น รจู้ ักการใหเ้ หตุผล การฝกึ ฟังข้อมูลที่มคี วาม

- สนทนา - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นช่วงการทากจิ กรรม - สนทนา ซบั ซอ้ น พร้อมการเขียนนาเสนอบทสนทนา

- เขียน - ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - เขียน เขียนจดหมายใหค้ าแนะนา

- เลอื กใชภ้ าษา - ประเมินช้นิ งาน/ภาระงาน - เลือกใชภ้ าษา

- เปรียบเทยี บ - เปรียบเทยี บ

8-14 4-6 ต 1.1 ม.4-6/2 - อธิบายและ - การอา่ นออกเสยี งบทสนทนา - ปฏบิ ัติตาม นักเรยี นอา่ นเนอ้ื หาของโฆษณาเปน็ ส่ิงจาเปน็ ท่ี - หนังสือเรียน 7

ต 1.1 ม.4-6/4 เขยี น - สอ่ื สารและเขยี นนาเสนอขอ้ มลู - อา่ นออกเสยี ง ต้องปลกู ฝังใหผ้ ูเ้ รยี นรจู้ กั สรปุ ความ ตีความ New world 4

ต 1.3 ม.4-6/1 - จบั ใจความ -แบบฝกึ ระบรุ ายละเอียดเกยี่ วกบั โฆษณาและเลอื กใน -เลอื ก เก่ียวกับโฆษณาและเลอื กในส่งิ ทเ่ี หมาะสมกบั - ใบความรู้

ต 3.1 ม.4-6/1 สาคัญ สิง่ ที่เหมาะสมกับตนเอง -ระบุ ตนเอง การฝกึ ใช้คาศัพท์ได้ถกู ต้อง เหมาะสมกับ - ใบงาน

ต 4.1 ม.4-6/1 - สรุปความ บทสนทนาท่ีฟงั และอา่ น -แสดงความ สถานการณ์ และการสนทนาสอื่ สารและเขยี น - บัตรคา

ต 4.2 ม.4-6/1 -ตีความ -งานเขียนบรรยายภาพเกย่ี วกับสถานทท่ี ี่อยากไป คิดเห็น นาเสนอข้อมลู โดยใช้โครงสรา้ งทางภาษา คาศัพท์ - Power point

- แสดงความ แนวทางการวดั ประเมินผล -ให้เหตุผล และสานวนได้เหมาะสมตามวัฒนธรรมของ -อนิ เทอร์เน็ต

คิดเห็น - ประเมินการทาแบบฝึกหดั -ยกตวั อย่าง เจา้ ของภาษา และนาประสบการณฝ์ กึ ภาษาจาก

- สนทนาและ - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนร้ใู นช่วงการทากิจกรรม -สนทนา บทเรียน ไปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

เขยี นโต้ตอบ - ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ -เขียนโต้ตอบ

- ประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน

38

แผน ี่ท ชอื่ หน่วย ตัวช้ีวดั หลกั ฐานการเรยี นรู้/แนวทางการวัด ประเมินผล คาสาคัญ กระบวนการจดั การเรยี นรูแ้ ละ สอ่ื / จานวน
สัปดา ์ห ี่ท (Indicator) /ผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ นวัตกรรม/ ชว่ั โมง
ทรัพยากร
การเรยี นรู้
(Learning

Outcome)

15-20 7-9 Have ต 1.1 ม.4-6/2 การฟงั : จบั ใจความสาคญั - อา่ น นกั เรยี นอา่ นการถาม-ตอบทพ่ี บบ่อยและ - หนังสอื เรยี น 6

You ต 1.1 ม.4-6/4 การพูด : พูดให้ขอ้ มลู - เขียน บทความเก่ยี วกับ Generation Z นอกจากนี้ New world 4
ต 1.3 ม.4-6/1 การอ่าน : จบั ใจความสาคัญ วเิ คราะหค์ วาม สรุปความ - จบั ใจความ นักเรยี นยังฝกึ ใชค้ าศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมกับ - ใบความรู้
Seen It ต 2.1 ม.4-6/1 ตคี วาม สาคัญ สถานการณ์ และการสนทนาสอื่ สารและเขยี น - ใบงาน
Yet? ต 3.1 ม.4-6/1 การเขยี น : เขียนเก่ยี วกับการแสดงดนตรี - วิเคราะห์ความ นาเสนอข้อมูลโดยใช้โครงสรา้ งทางภาษา คาศัพท์ - บัตรคา

ต 4.1 ม.4-6/1 - สรุปความ และสานวนได้เหมาะสมตามวัฒนธรรม - Power point

ต 4.2 ม.4-6/1 แนวทางการวัด ประเมนิ ผล -ตีความ ของเจา้ ของภาษา และนาประสบการณ์ฝกึ ภาษา - อินเทอรเ์ น็ต

- ประเมินการทาแบบฝึกหดั - แสดงความ จากบทเรียน ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวันได้

- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นชว่ งการทากิจกรรม คดิ เห็น

- ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สนทนา

- ประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน - เขยี นโต้ตอบ

- นาเสนอ

21-27 10-13 For How ต 1.1 ม.4-6/2 - การอ่านออกเสียงบทสนทนา - อธบิ าย นกั เรยี นอา่ นประโยคไวยากรณ์ทีใ่ ชร้ ะบุชว่ งเวลา - หนงั สือเรยี น 7

Long? ต 1.1 ม.4-6/4 -แบบฝึกระบุรายละเอยี ดเก่ียวกบั - จบั ใจความ ทไี่ ด้ทาสง่ิ ตา่ ง ๆ นักเรียนจะได้ New world 4
สาคัญ
ต 1.3 ม.4-6/1 บทสนทนาทีฟ่ งั และอ่าน อ่านการสัมภาษณ์ส้นั ๆ ที่ถามเก่ยี วกับช่วงเวลา - ใบความรู้

ต 2.1 ม.4-6/1 -งานเขียนเขียนเกยี่ วกบั กีฬาและงานอดิเรก - สรปุ ความ ของการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ และบทความท่ีให้ - ใบงาน

ต 2.2 ม.4-6/1 แนวทางการวดั ประเมินผล -ตคี วาม ขอ้ มลู เกย่ี วกับประวัติ - บตั รคา

ต 3.1 ม.4-6/1 - ประเมินการทาแบบฝกึ หัด - แสดงความ ความเปน็ มาของการเลน่ ว่าวตลอดจนการใช้ - Power point

ต 4.1 ม.4-6/1 - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรใู้ นชว่ งการทากิจกรรม คดิ เห็น ประโยชน์จากวา่ ว ยงั ฝึกใชค้ าศัพทไ์ ด้ถูกต้อง -อินเทอร์เน็ต

ต 4.2 ม.4-6/1 - ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - พดู เหมาะสมกบั สถานการณ์ และการสนทนาสือ่ สาร

- ประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน - เขียนโตต้ อบ และเขยี นนาเสนอข้อมูลโดยใช้โครงสรา้ งทาง

- คน้ คว้า/สบื คน้ ภาษา คาศพั ท์ และสานวนไดเ้ หมาะสม

-เปรยี บเทยี บ

39

ตัวชว้ี ัด สือ่ /
นวัตกรรม/
แผน ี่ท ชอ่ื หน่วย (Indicator) /ผล หลกั ฐานการเรยี นรู/้ แนวทางการวดั ประเมนิ ผล คาสาคญั กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละ ทรัพยากร จานวน
สัปดาห์ ี่ท การเรียนรู้ (Key Word) แนวทางการกิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมง
- หนังสือเรยี น
(Learning นักเรยี นอ่านและฟังข้อความเกีย่ วกับสิง่ ทีบ่ ุคคล New world 4 7
ตา่ ง ๆ จะทา ถ้าหากพวกเขามีเงินและทรัพย์ - ใบความรู้
Outcome) สมบตั ิจานวนมาก เขยี นเก่ียวกับประสบการณท์ ี่ - ใบงาน
นกั เรยี นเคยทาและส่งิ ทผี่ ู้อ่นื ทา นอกจากนี้ - บัตรคา
28-34 14-17 What ต 1.1 ม.4-6/4 - การอา่ นออกเสียงบทสนทนา - อา่ นออกเสยี ง นกั เรียนยังได้เรียนรู้คาศัพท์ สานวนต่าง ๆ - Power point
เกีย่ วกบั เงนิ รวมทั้งหน้าที่ทางภาษา โครงสรา้ ง - อนิ เทอร์เน็ต
Would ต 1.3 ม.4-6/1 - บทสนทนากจิ กรรมทตี่ ้องการทาและการวางแผนอาชีพ -เลือก ประโยค/ไวยากรณท์ เี่ ป็นพืน้ ฐานของกิจกรรม
ต 1.3 ม.4-6/3 ในอนาคต -ระบุ การฟงั พดู อา่ น และเขียน
You Do? ต 2.2 ม.4-6/1 -แบบฝึกระบุรายละเอียดเกย่ี วกบั -แสดงความ

ต 3.1 ม.4-6/1 บทสนทนาทฟ่ี งั และอา่ น คิดเห็นใหเ้ หตผุ ล

ต 4.1 ม.4-6/1 -งานเขยี น เก่ยี วกับเหตุการณ์ทีเ่ คยทา -พดู และเขียน

ต 4.2 ม.4-6/1 แนวทางการวดั ประเมินผล -ตอบรับ

- ประเมนิ การทาแบบฝกึ หดั -ปฏิเสธ

- สังเกตพฤติกรรมการเรียนรใู้ นช่วงการทากิจกรรม -พดู และเขียน

- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ -อธิบาย

- ประเมินชิน้ งาน/ภาระงาน -เปรียบเทยี บ

35-40 18-20 Where Is ต 1.1 ม.4-6/4 - การอา่ นออกเสียงบทสนทนา - อ่านออกเสียง นักเรียนเรยี นประโยค Passive Form เพ่ือใชใ้ น - หนงั สอื เรยี น 6
40
It Made? ต 1.2 ม.4-6/1 - บทสนทนาเกี่ยวกับการผลติ ส่ิงต่าง ๆ - จับใจความ การสื่อสารเกยี่ วกับการผลติ สงิ่ New world 4
สาคัญ
ต 1.3 ม.4-6/1 -แบบฝึกระบรุ ายละเอยี ดเกี่ยวกับ ตา่ ง ๆ ข้นึ มา อ่านข้อความบรรยายแหล่งท่มี า - ใบความรู้

ต 2.1 ม.4-6/1 บทสนทนาที่ฟงั และอ่าน - สรปุ ความ ของสงิ่ ต่าง ๆ ฟังข้อความบรรยายการผลิตผา้ ฝ้าย - ใบงาน

ต 3.1 ม.4-6/1 -งานเขยี นบรรยายวัสดุเครอ่ื งแต่งกาย -ตคี วาม พูดเกีย่ วกับส่งิ ตา่ ง ๆ ท่ผี ลิตในประเทศไทย และ - บตั รคา

ต 4.1 ม.4-6/1 แนวทางการวดั ประเมินผล - แสดงความ เขยี นบรรยายวสั ดุทใ่ี ช้ในการแตง่ กาย นอกจากนี้ - Power point

ต 4.2 ม.4-6/1 - ประเมินการทาแบบฝกึ หดั คิดเหน็ นกั เรยี นยังได้เรยี นรคู้ าศพั ทต์ ่าง ๆ -อินเทอรเ์ น็ต

- สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรูใ้ นชว่ งการทากิจกรรม - เลือกใช้ภาษา เกยี่ วกับผลติ ภณั ฑ์ รวมทงั้ หน้าท่ีทางภาษา

- ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - พูด โครงสรา้ งประโยคไวยากรณท์ เ่ี ป็นพื้นฐานของ

- ประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน - เขยี น กิจกรรม การฟงั พูด อา่ น และเขียน

รวม จานวนแผนการจดั การเรยี นรู้,จานวนสัปดาห์,จานวนหน่วย,จานวนตัวชีว้ ัดและจานวนชว่ั โมง

สรุป การวดั และประเมินผล วิชา ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน ชัน้ ม.4
1.เป้าหมายการจัดการเรียนรู้

1.1. ผู้เรยี นมีผลการเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 70
1.2. มีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลย่ี 3.00
2. การใหค้ ะแนน 100 คะแนน
2.1 อตั ราส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = ....70.. : …30..
2.2 คะแนนระหว่างเรยี น

2.2.1 ประเมินวดั ความร้.ู ...................20...............................คะแนน
2.2.2 ประเมินด้านทักษะ.......................20.....…………………….............คะแนน
2.2.3 ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์………………10……………..คะแนน
2.3 สอบกลางภาค ..........................................20......................................คะแนน
2.4 สอบปลายภาค ............................................30....................................คะแนน
3. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงคท์ ี่ประเมินคือ
 มุ่งมั่นในการทางาน
 มวี นิ ยั
 ใฝ่เรยี นรู้
 รักความเป็นไทย

4. สมรรถนะที่ไดร้ บั การพฒั นาจากการเรยี นรรู้ ายวิชานี้คอื ..
- ความสามารถในการสื่อสาร
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- ความสมารถในการใช้เทคโนโลยี