The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้-การเป็นผู้ประกอบการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sawairad1976, 2021-03-21 00:06:57

แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้-การเป็นผู้ประกอบการ

แบบฝึกหัดหน่วยการเรียนรู้-การเป็นผู้ประกอบการ

หนว่ ยท่ี 1
หลักการวางแผนเปา้ หมายในชีวิต
คาถามทา้ ยหนว่ ย
ตอนท่ี 1 จงเตมิ คำตอบลงในชอ่ งวำ่ งให้ถกู ต้อง

1. กำรวำงแผนเป้ำหมำยชวี ิต คือ ....................................................................................................

2. กำรวำงแผนเป้ำหมำยชีวิตของบุคคลแบง่ ได้ 3 ระดบั คอื ..........................................................

................................................................................................. .................................................

3. ..................................................................... เป็นกำรวำงแผนต้ังเป้ำหมำยของชีวติ โดยมงุ่ มน่ั ฝึกฝน
ตนเองใหบ้ รรลุเปำ้ หมำยของชวี ิต

4. กำรวำงแผนเป้ำหมำยชวี ติ ขน้ั กลำง คอื ............................................................................................

......................................................................................................................................................

5. ................................................................................................... มลู ของกำรเกิดศำสนำ

6. กำรกำหนดวิสัยทศั น์ของชีวติ สำมำรถกำหนดได้ 2 ลักษณะ คอื .......................................................

........................................................................................................ ..............................................

7. กำรกำหนดปจั จัยสคู่ วำมสำเรจ็ หมำยถึง ..........................................................................................

........................................................................................................................................................

8. กำรประกอบอำชพี หมำยถงึ ..........................................................................................................
......................................................................................................................................................
.

9. อำชพี ทจี่ ำเป็นต้องมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถเฉพำะด้ำนเรยี กว่ำ ........................................................

10. อำชพี ทีถ่ กู กฎหมำยและศลี ธรรม เรยี กว่ำ......................................................................................

ตอนที่ 2 จงแสดงความคดิ เหน็ ตามแนวคิดของนักเรียน (ทาลงในสมดุ )
1. เทคนคิ กำรวำงแผนเป้ำหมำยสู่ควำมสำเรจ็ มอี ะไรบำ้ ง จงอธิบำย
2. ลกั ษณะของอำชีพแบ่งออกได้ก่ีประเภท อะไรบ้ำง
3. จงอธบิ ำยถงึ แนวทำงกำรเลอื กอำชีพ มำพอเข้ำใจ
4. อำชพี มีประโยชน์ด้ำนใดบำ้ ง จงอธิบำย
5. ขั้นตอนกำรเลอื กอำชีพเปลีย่ นอำชพี ควรมีขั้นตอนอยำ่ งไรบ้ำง



เฉลยหน่วยที่ 2
ความรู้เกยี่ วกับธุรกจิ และการเป็ นผ้ปู ระกอบการ

คาถามท้ายหน่วย
ตอนท่ี 1 จงเติมคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

1. ธุรกิจ (Business) หมายถึง ...............................................................................................................
ในดา้ นการผลิตการซ้ือขายแลกเปลี่ยนเก่ียวกบั สินคา้ และบริการ

2. ................................................................ หมายถึง การนาเอาส่ิงตา่ งๆ มาประกอบกนั ข้นึ มาใหม่ซ่ึง
รวมถึงการแกไ้ ข ดดั แปลง และการแปรสภาพของวตั ถุดิบมาเป็ นสินคา้ สาเร็จรูป

3. การพาณิชย์ (Commerce) หมายถึง ....................................................................................................
4. .............................................................. หมายถึง การดาเนินการดา้ นการผลิตสินคา้ ออกจาหน่าย
5. ...................................................... เป็นสินคา้ ทใี่ ชส้ าหรบั ผบู้ ริโภคคนสุดทา้ ย ใชส้ ินคา้ เพอ่ื

ตอบสนองความพอใจของตนเองเป็นคนสุดทา้ ย
6. .......................................... เป็ นสินคา้ ที่ตอ้ งนาไปเป็ นวตั ถุดิบในการผลิตสินคา้ สาเร็จรูปอีกตอ่ หน่ึง
7. .................................................... หมายถึง ธุรกิจทีน่ าทรพั ยากรธรรมชาตมิ าใชเ้ ป็นวตั ถุดิบในการ

ผลิตสินคา้
8. .......................................................... หมายถึง อุตสาหกรรมท่นี าเอาวตั ถุดิบอยา่ งเดียวมาใชเ้ พอื่ ผลิต

สินคา้ หลายๆประเภท
9. การบริการ (Services) หมายถึง ...........................................................................................................

.............................................................................................................................................................
10. หลกั ยดึ เหนี่ยวท่ีผปู้ ระกอบการตอ้ งมี คือ ............................................................................................

ตอนท่ี 2 จงแสดงความคดิ เห็นตามแนวคดิ ของนักเรียน (ทาลงในสมุด)

1. สรุปความหมายของคาวา่ “ธุรกิจ” ตามท่นี กั เรียนเขา้ ใจ
2. จงอธิบายถึงความสาคญั ของธุรกิจทมี่ ีตอ่ สงั คมโดยส่วนรวมมาโดยสงั เขป
3. จงบอกถึงคุณสมบตั ิท่ีดีของผปู้ ระกอบการท่ปี ระสบความสาเร็จมา 5 ขอ้
4. องคก์ รธุรกิจมีหนา้ ที่อะไรบา้ ง จงอธิบาย
5. การมีความรู้ของผปู้ ระกอบการมีผลอยา่ งไรตอ่ การดาเนินธุรกิจ จงอธิบาย

เฉลยหน่วยท่ี 3

องค์กรและการบริหารงานภายในองค์กร

คาถามท้ายหน่วย

ตอนที่ 1 จงเตมิ คำตอบลงในช่องวำ่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

1. หน้ำท่ีกำรจดั องคก์ รเป็นหน้ำที่ของ ............................................................. จะตอ้ งทำหนำ้ ท่ีในกำร
วำงแผนกำลงั คน และทรพั ยำกรตำ่ ง ๆ ภำยในองคก์ ร

2. องคก์ รรูปนยั (Formal organization) เป็นกำรจดั โครงสรำ้ งองคก์ รตำม ..............................................
ในกำรปฏบิ ตั ิภำยในองคก์ ำร

3. กำรจดั องคก์ ำรแบบ ..............................................เป็ นกำรตดิ ต่อและกำรส่ือสำรอยำ่ งไม่เป็นทำงกำร
4. .......................................... คือแบบแผนทกี่ ำหนดขอบเขตของงำนและควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งบุคคล

ในองคก์ รในรูปของอำนำจหนำ้ ทแี่ ละสำยกำรบงั คบั บญั ชำ
5. .................................................. เป็ นโครงสร้ำงขององค์กรขนำดใหญ่ที่มีสำยกำรบังคบั บญั ชำ

ลดหลน่ั กนั ลงไปตำมลำดบั ช้นั อยำ่ งสลบั ซบั ซอ้ นมำกมำย
6. ................................................................................ เป็ นโครงสร้ำงองค์กรที่ก่อต้งั ใหม่ หรือเป็ น

องคก์ รขนำดเล็กที่มีตำแหน่งงำนไม่สลบั ซบั ซอ้ น
7. Functional Departmentalization หมำยถึง .........................................................................................
8. ........................................................................... กำรแบ่งกลุ่มงำนแบบน้ีมกั จะใชก้ บั องคก์ รหรือ

บริษทั ที่มีขนำดใหญแ่ ละมีสำขำตำมพ้นื ที่ตำ่ ง ๆ กระจำยกนั ไป
9. ................................................................... เป็ นกำรแบ่งกลุ่มงำนของบริษทั ขนำดใหญท่ ี่มีผลิตภณั ฑ์

หลำกหลำยชนิดจำหน่ำย
10. กำรแบ่งกลุ่มงำนตำม ................................................................................ ทำให้บริษทั หรือองคก์ ร

สำมำรถให้บริกำรลูกคำ้ ไดอ้ ยำ่ งทว่ั ถึง และช่วยใหล้ ูกคำ้ แต่ละกลุ่มมีควำมพึงพอใจต่อสินคำ้ หรือ
บริกำรไดง้ ำ่ ย

ตอนท่ี 2 จงแสดงความคดิ เห็นตามแนวคดิ ของนักเรียน (ทาลงในสมดุ )

1. จงอธิบำยถึงควำมหมำยของกำรจดั องคก์ ร
2. จงบอกถึงควำมสำคญั และควำมจำเป็นทต่ี อ้ งมีกำรจดั องคก์ ร
3. หลกั กำรจดั องคก์ รทด่ี ีควรมีลกั ษณะอยำ่ งไร
4. องคก์ รแบบเป็นทำงกำร คอื
5. องคก์ รแบบไม่เป็นทำงกำร คอื

เฉลยหน่วยท่ี 4
การจดั การทรัพยากรมนุษย์

คาถามท้ายหน่วย
ตอนที่ 1 จงเติมคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง

1. แนวคดิ แบบ .......................................................... มีจดุ เนน้ ทางความคดิ อยทู่ ีเ่ ร่ืองของการ
สื่อสารในองคก์ ร การสรา้ งทีมงาน และการใชค้ วามสามารถของแตล่ ะบคุ คล ใหเ้ กิดประโยชน์
สูงสุด

2. ......................................................................... คือ กลุ่มนกั คดิ ที่เนน้ น้าหนกั ความสาคญั ไปท่ี
คนมากกวา่ การบริหารจดั การ

3. .......................................................................... คือ กลุ่มนกั คดิ ที่เนน้ น้าหนกั ความสาคญั ไปท่ี
เรื่องของการบริหารจดั การมากกวา่ เร่ืองของคน

4. .......................................................................... ประกอบไปดว้ ยกิจกรรมทีจ่ ะตอ้ งมีการวางแผน
การจูงใจ พฒั นาและรกั ษาไวซ้ ่ึงทีมงานทม่ี ีประสิทธิผล

5. การสรรหา (Recruitment) เป็ นข้นั ตอนในการ ...........................................................................
ตามท่อี งคก์ ารตอ้ งการสาหรับตาแหน่งงานทอ่ี งคก์ ารเปิ ดรับ

6. การสรรหาจากแหล่งภายนอก (External Recruiting) คอื ..........................................................

......................................................................................................................................................

7. .............................................................................. ไดแ้ ก่ ใบสมคั ร (Application Forms) ประวตั ิ
ส่วนตวั (Resumes) และหนงั สืออา้ งอิง (Reference)

8. .......................................................... เป็ นเทคนิคการคดั เลือกบคุ ลากรที่มีการใชก้ นั อยา่ ง
แพร่หลายอาจอยใู่ นรูปของการเผชิญหนา้ (Face to Face)

9. การทดสอบการปฏิบตั ิงาน (Performance Tests) ใชว้ ดั ...............................................................

10. ข้นั ตอนแรกของกระบวนการฝึกอบรม คอื .................................................................................

ตอนท่ี 2 จงแสดงความคดิ เห็นตามแนวคดิ ของนักเรียน (ทาลงในสมดุ )

1. จงอธิบายความหมายการจดั การทรัพยากรมนุษย์
2. จงอธิบายความสาคญั ของการจดั การทรัพยากรมนุษย์
3. ขอบเขตของการจดั การทรัพยากรมนุษยม์ ีอะไรบา้ ง จงอธิบาย
4. การฝึกอบรมและการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ มีความสาคญั อยา่ งไรต่อองคก์ ร
5. กระบวนการในการฝึกอบรมมกี ี่ข้นั ตอน อะไรบา้ ง จงอธิบาย

เฉลยหน่วยท่ี 5
การบริหารเงนิ ทุน
คาถามท้ายหน่วย
ตอนที่ 1 จงเติมคาตอบลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง
1. เงนิ ทนุ (Capital) หมายถงึ ............................................................................................................
2. ...................................................................... เป็นเงินทเ่ี กดิ จากการออมของผู้ประกอบการเอง
รวมถงึ วงเงินจากบตั รเครดิตและเงินท่ขี อยมื มาจากญาติ พน่ี ้องโดยใช้ความสมั พันธ์ส่วนตัว
3. การเบิกเงินเกนิ บญั ชจี ากธนาคาร คอื .............................................................................................
............................................................................................... ......................................................
.....................................................................................................................................................
4. การระดมทุนจากการขายหุ้น .........................................................................................................
.....................................................................................................................................................
5. แหล่งเงินกรู้ ะยะส้นั ได้แก่ .............................................................................................................
.....................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................
6. ตลาดเงนิ ทีไ่ มเ่ ป็นทางการ หมายถึง .........................................................................................
................................................................................... .........................................................
7. เงินทุนระยะยาว หมายถึง ............................................................................................................
.......................................................................................................................................................
..
8. ......................................................................................... เปน็ เงินท่ใี ช้ในการเริม่ ธรุ กิจ ซ่งึ ไดแ้ ก่
เงนิ ทต่ี อ้ งใชใ้ นการซือ้ สินทรพั ย์ทจี่ าเป็นในการผลิต หรอื เรม่ิ ดาเนนิ การ
9. เงินทนุ หมนุ เวยี น (Working Capital) .............................................................................................
........................................................................................................................... ............................
10. ........................................................................... เปน็ เงินท่ีสารองเผ่ือไวใ้ ชใ้ นกรณฉี กุ เฉนิ เชน่ หาก
วัตถุดิบหมดเรว็ กว่าทคี่ าดการณ์ไว้ หรือหากสนิ ค้าขายไดช้ า้ กวา่ ท่ีคิด

ตอนท่ี 2 จงแสดงความคดิ เหน็ ตามแนวคดิ ของนักเรยี น (ทาลงในสมดุ )
1. จงอธบิ ายถงึ แหลง่ เงินทนุ ระยะสน้ั พร้อมยกตัวอยา่ งประกอบ
2. จงอธิบายถงึ ประโยชน์ของเงินทุนระยะสน้ั มาพอเข้าใจ
3. จงอธบิ ายถงึ แหล่งเงนิ ทนุ ระยะยาว พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
4. จงอธิบายถงึ ประโยชน์ของเงินทนุ ระยะยาวมาพอเข้าใจ
5. จงอธบิ ายถึงเงนิ ทุนหมุนเวียนมาพอเขา้ ใจ

เฉลยหนว่ ยท่ี 6

การจัดทาแผนธุรกจิ

คาถามท้ายหนว่ ย

ตอนที่ 1 จงเตมิ คาตอบลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง

1. ........................................................... คือ แผนการดาเนนิ งานของธรุ กจิ หรือโครงการหน่ึง ๆ

ทจ่ี ัดทาข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางในการดาเนินธรุ กิจท้งั ระยะส้นั 1 – 3 ปี และระยะยาว 3 – 5 ปี

2 บทสรุปผบู้ ริหารเปน็ การสรุป ..................................................................................................
................................................................................... หรือหวั ขอ้ เฉพาะส่วนเนือ้ หาทีส่ าคญั

3 ประวัติความเป็นมา หรอื แนวคดิ ในการจัดต้ังธรุ กิจ เปน็ การแสดง .......................................
................................................................................. ได้แก่ ช่ือกิจการเร่ิมต้น ผู้เริ่มก่อต้ัง ปี
พ.ศ. ทีเ่ ร่ิมกอ่ ตงั้ แนวความคิดหรอื เหตุผลในการกอ่ ตั้งกิจการ

4 การวเิ คราะห์ปจั จยั ภายใน เปน็ การวิเคราะห์ จดุ แข็ง ...............................................................
เพอื่ ค้นหาปจั จัยภายใน ธรุ กจิ ที่ทาให้กจิ การมคี วามได้เปรียบ หรือเสียเปรยี บในการแข่งขนั

5. .............................................................................. เป็นการแสดงให้เห็นถึงวิธีการกาหนด
ลักษณะผลิตภณั ฑห์ รือสินคา้ ทต่ี อบสนองต่อกลุ่มลกู คา้ เปา้ หมาย

6. ข้อมลู ในการขายสินค้า แสดงรายละเอียดเก่ียวกบั ....................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
....................................................................................................................................................

7. ประมาณการในการลงทุนเปน็ การแสดงรายละเอยี ดเก่ียวกบั ....................................................
............................................ ซึ่งอาจแสดงรายการการลงทนุ ทีม่ ีมาก่อนหน้าและการลงทุนใหม่

8. ประมาณการตน้ ทุนสนิ ค้าซอ้ื มาเพอื่ การขาย เปน็ การแสดงถึงประมาณการของตน้ ทุนสินค้าซือ้ มา
เพื่อการขายหรือการดาเนินการของธุรกจิ โดยคานวณจาก ....................................................

9. สภาวะอุตสาหกรรมและสภาวะตลาด เป็นการแสดงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การ ............................
............................................................................................... และสภาพโดยรวมของตลาดท่ี
ธุรกจิ ดาเนินการวา่ อยู่ในสภาพเชน่ ใด

10. ประมาณการค่าใช้จา่ ยในการบรหิ ารและการขาย เป็นการแสดงรายการ .................................
............................................................................................................................. ...........
เท่านั้น

ตอนที่ 2 จงแสดงความคดิ เหน็ ตามแนวคิดของนกั เรยี น (ทาลงมสดุ )

1. จงอธิบายถึงความสาคญั ของการจดั ทาแผนธุรกจิ ของผู้ประกอบการ

2. ลกั ษณะของแผนธรุ กจิ ท่ีดี มีอะไรบ้าง
3. องคป์ ระกอบที่สาคญั ของแผนธรุ กิจ มีอะไรบา้ ง
4. จงอธบิ ายเก่ียวกับบทสรปุ สาหรับผูบ้ ริหาร
5. จงอธิบายเก่ยี วกับการวิเคราะห์ SWOT

เฉลยหน่วยท่ี 7 การบรหิ ารงานคณุ ภาพ

คาถามทา้ ยหนว่ ย
ตอนท่ี 1 จงเตมิ คาตอบลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ต้อง

1. คุณภาพ หมายถงึ ..........................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

2. กจิ กรรม 5 ส คอื ...........................................................................................................................
......................................................................................................................................................

3. ความหมายของกจิ กรรมกลุ่มคุณภาพ คอื .......................................................................................
......................................................................................................................................................

4. .............................................. คือ แบบฟอร์มท่ีมีการออกแบบชอ่ งว่างต่าง ๆ ไว้เพอื่ ใช้บนั ทกึ ข้อมูล
ได้งา่ ยและสะดวก

5. ...................................................... เป็นกราฟแท่งที่ใช้สรุปการอนุมาน ข้อมูล เพ่ือที่จะใช้สรุป
สถานภาพของกลมุ่ ขอ้ มูลนัน้

6. แผนภูมกิ ารจดั กลุ่มความคดิ คือ .....................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

7. ........................................................... เปน็ เคร่อื งมอื ทีใ่ ชส้ าหรับแก้ไขเรื่องยุ่งยากโดยการคลี่คลาย
การเช่อื มโยงกันอยา่ งมเี หตุผล ระหว่างสาเหตแุ ละผลที่เกิดข้นึ ซึง่ เก่ยี วขอ้ งกัน

8. .......................................................... เป็นการวางแผนงานท่ีมีการกาหนดกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ
ระยะเวลาและลาดบั กอ่ นหลงั ของแตล่ ะกจิ กรรมวา่ กิจกรรมใดควรทาก่อน หลัง

9. แผนภูมิเมตริกซ์ คอื ........................................................................................................................
......................................................................................................................................................

10. Tree Diagram คอื .......................................................................................................................
............................................................................................................................................................

ตอนที่ 2 จงแสดงความคดิ เห็นตามแนวคิดของนกั เรยี น (ทาลงในสมุด)

1. การบรหิ ารงานคณุ ภาพหมายถงึ อะไร
2. จงอธิบายถงึ กิจกรรมคณุ ภาพมาพอเขา้ ใจ
3. เคร่ืองมอื คณุ ภาพใหม่ 7 อยา่ ง มีความสาคญั อยา่ งไร
4. การปรบั ปรงุ งานอย่างตอ่ เน่ืองคอื อะไร ทาไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
5. การบรหิ ารงานอยา่ งเป็นระบบ หมายถงึ อะไร ทาไดอ้ ย่างไร

เฉลยหนว่ ยท่ี 8
การเพมิ่ ผลผลติ
แบบฝกึ หัดท้ายบทเรยี น
ตอนที่ 1 จงเตมิ คาตอบลงในช่องว่างใหถ้ กู ต้อง

1. การผลติ เป็นหนา้ ท่ีงานเกีย่ วกบั การจัดหาปัจจยั การผลิต อันไดแ้ ก่ ................................................
.............................................................................................................................................

2. แนวคิด ................................................... ตามแนวคิดนี้ การเพ่ิมผลผลิตสามารถวัดค่าได้ทั้งทาง
กายภาพ คอื วัดเป็นจา้ นวนชิน้ นา้ หนกั ความยาว ฯลฯ

3. การเพิ่มผลผลิตตามแนวคิดทางเศรษฐกิจสังคม หมายถึง ................................................................
..............................................................................................................................................

4. ................................................. เป็นการบันทึกและวิเคราะหว์ ิธีท้างานโดยมงุ่ ท่ีจะก้าจัด รวม สลับ
ล้าดับ หรือลดงานในขั้นตอนตา่ ง ๆ

5. .................................................. เวลา เป็นขน้ั ตอนที่มักจะตามหลงั การศกึ ษาวิธีการทา้ งาน
6. ............................................... เป็นองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการปรับสภาพการท้างานให้เข้ากับ

สมรรถนะการท้างานของมนุษยท์ ้งั ทางด้านรา่ งกายและจติ ใจ
7. ระบบ CAD คอื ..................................................................................................................
8. .......................................... เป็นอุปกรณ์ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ให้ท้างานต่าง ๆ ตามล้าดับ

ขั้นตอนตามแต่จะกา้ หนดโปรแกรมไว้
9. กลมุ่ ควบคมุ คณุ ภาพ หมายถงึ .......................................................................................................
10. ระบบทันเวลาพอดี หรือ JIT หมายถงึ .........................................................................................

.....................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ตอนท่ี 2 จงแสดงความคิดเห็นตามแนวคิดของนักเรียน (ทาลงในสมดุ )

1. จงอธบิ ายความหมายการเพ่มิ ผลผลิตมาพอเขา้ ใจ
2. จงอธบิ ายเทคนคิ การเพิ่มผลผลิตแบบเน้นพนกั งาน พร้อมยกตวั อย่างประกอบ
3. ระบบ MRP หมายถงึ อะไร ท้างานโดยใช้ขอ้ มลู ใดบ้าง
4. จงอธิบายการใชเ้ ครอื่ งจักรอยา่ งมีประสิทธิภาพและปลอดภยั มีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง
5. การปรบั ปรุงสภาพการทา้ งาน หมายถงึ อะไร มสี ่งิ ท่ตี ้องตรวจสอบแกไ้ ขอะไรบา้ ง

เฉลยหน่วยท่ี 9
ความปลอดภัยในการทางาน
คาถามท้ายหนว่ ย
ตอนท่ี 1 จงเตมิ คาตอบลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

1. ความสญู เสียทางตรง (Direct Loss) หมายถึง ........................................................... อันเกีย่ วเนือ่ ง
กบั ผู้ได้รับบาดเจบ็ โดยตรงจากการเกิดอบุ ัติเหตุ

2. ความสูญเสียทางอ้อม (Indirect Loss) หมายถึง ........................................................................
สาหรบั การเกดิ อบุ ตั ิเหตใุ นแตล่ ะครงั้

3. ต้นแหล่งการบาดเจ็บ (Source of Injury) ให้ระบุ ............................................. ซึ่งผลโดยตรงต่อ
การบาดเจบ็

4. ระบบการจดั การสิ่งแวดลอ้ ม (EMS) คอื ........................................................................................
......................................................................................................................... ..............................

5. ECO-Design คอื ............................................................................................................................
....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................

6. การวเิ คราะห์อุบัติเหตุอยา่ งเป็นระบบจะทาให้ .....................................................................
............................................................ มากท่สี ดุ

7. การวิคราะห์อุบัติเหตุสามารถดาเนิ น ก าร โดยใช้แน วทางก ารวิเคราะห์ อุบั ติเห ตุขอ ง
....................................................................................................

8. ตามหลักนิเวศวิทยาคาวา่ “สง่ิ แวดลอ้ ม” หมายถึง .........................................................................
......................................................................................................................................................

9. ........................................................ โดยทั่วไปจะหมายถึง สิ่งต่างๆ ที่อยู่ล้อมรอบตัวผู้ประกอบ
อาชพี หรอื คนงานในขณะทางาน อันอาจจะรวมถงึ เครื่องจกั รกล อุปกรณ์ เครอื่ งมือ ฯลฯ

10.............................................................. หมายถึง ส่ิงแวดล้อมท่ีเกี่ยวข้องกับลักษณะทางสังคม
ข น บ ธ ร ร ม เ นี ย ม ป ร ะ เ พ ณี ค ว า ม เ ชื่ อ ถื อ ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร ใ น ชุ ม ช น

ตอนที่ 2 จงแสดงความคิดเห็นตามแนวคิดของนักเรียน (ทาลงในสมดุ )

1. องค์ประกอบสาคญั ท่ที าใหเ้ กิดอบุ ัติเหตมุ อี ะไรบ้าง จงอธิบาย
2. จงอธิบายถึงหลักการวเิ คราะหอ์ บุ ัตเิ หตุ พร้อมยกตัวอยา่ ง
3. สง่ิ แวดล้อมในการทางานหมายถงึ อะไร จงอธิบาย พร้อมยกตัวอยา่ ง
4. ระบบการจดั การส่ิงแวดล้อมหมายถงึ อะไร มคี วามสาคญั อยา่ งไร
5. ปญั หาของการดาเนนิ การระบบการจัดการส่งิ แวดล้อมในประเทศไทยมีอะไรบ้าง


Click to View FlipBook Version