โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 51 ๓) คะแนนเฉลี่ยการประเมิน ITA ของปกครองและอำเภอไม่น้อยกว่า ๙๕ คะแนน โดยการส่งเสริม คุณธรรมและความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน การพัฒนาช่องทางการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะของหน่วยงาน ส่วนกลางและภูมิภาค การพัฒนาระบบการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบของกรมการ ปกครอง การพัฒนาระบบติดตามสถานการณ์ขอรับบริการในการอนุมัติ/อนุญาต ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานของ องค์กรตามมาตรฐาน ISO 37001: 2006 ๔) บุคลากรกรมการปกครองและประชาชนได้รับการพัฒนาทักษะชีวิตจากการส่งเสริมคุณธรรม ได้แก่ การส่งเสริมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและสร้างสันติสุขชายแดนใต้ DOPA SPIRIT หรือการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมบุคลากรกรมการปกครอง และสหกรณ์ออมทรัพย์กรมการปกครองจำกัด และการพัฒนาหลักสูตร DOPA Young Anti-Corruption ใน รูปแบบ participation active learning และ e-learning ท้ายที่สุด กรมการปกครองมุ่งหวังให้บุคลากรเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ตามภาษิตที่ว่า พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา กตัญญู นำไปสู่การเป็นคนดี คนเก่ง คนคุณภาพ ๕. แผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริต และประพฤติมิชอบของกรมการปกครองระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ มี ๓ เป้าหมายหลัก ได้แก่ ๑) บุคลากรกรมการปกครองมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต ได้แก่ การบรรจุรายวิชา conflict of interests การขับเคลื่อนหลักสูตร anticorruption education การพัฒนาหลักสูตร DOPA Young Anti-Corruption ในรูปแบบ participation active learning และ e-learning การยกระดับธรรมาภิบาลภาคประชาสังคมในระดับ การปกครองท้องที่ พัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังและป้องกันการทุจริต DOPA strong จัดทำและเผยแพร่ สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมธรรมาภิบาลและรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ๒) คะแนนเฉลี่ยการประเมิน ITA ของปกครองและอำเภอไม่น้อยกว่า ๙๕ คะแนน โดยการส่งเสริม คุณธรรมและความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน การพัฒนาช่องทางการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะของ หน่วยงานส่วนกลางและภูมิภาค การพัฒนาระบบการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของกรมการปกครอง การพัฒนาระบบติดตามสถานการณ์ขอรับบริการในการอนุมัติ/อนุญาต ขับเคลื่อน การปฏิบัติงานขององค์กรตามมาตรฐาน ISO 37001: 2006 ๓) เรื่องกล่าวหาร้องเรียนการทุจริตและการประพฤติมิชอบของกรมการปกครองมีจำนวนลดลง มีการ ประเมินความเสี่ยงการทุจริตในการใช้อำนาจและตำแหน่งหน้าที่การให้บริการที่กระทบต่อความมั่นคง การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการทุจริตการทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน การตรวจสอบและติดตามผล การปฏิบัติงานด้านการเงิน การบัญชี พัสดุ และการจัดเก็บเงินรายได้แผ่นดิน การบูรณาการความร่วมมือ ในการตรวจสอบพื้นที่สาธารณะ การเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรด้านการเงิน บัญชี พัสดุ และตรวจสอบภายใน ซึ่งกรมการปกครองมีเป้าประสงค์เพื่อการปลุกและปลูกจิตสำนึกของบุคลากร ปรับฐานคิดให้แยกแยะ ประโยชน์ส่วนตนและส่วนรวม นำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรม และเปิดโอกาสให้บุคลากรร่วมกันต่อต้านทุจริต มุ่งสู่ กรมการปกครองไร้ทุจริตตามมาตรฐาน ISO 37001: 2006 “ไม่โกง โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต”
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 52 7. องค์กรที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อน SDGs (การนำแนวคิด Local สู่เลอค่า สู่การสร้างพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ) โดย นายสุทธิพงษ์ สุริยะ ผู้ออกแบบแนวคิด Local สู่เลอค่า จากพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ การบรรยายในหัวข้อองค์กรที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อน SDGs จะกล่าวถึงหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ตำบลหนองพันกา อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดกว่า ๕๐ กิโลเมตร และไม่ติดต่อกับแม่น้ำโขง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นา อยู่ห่างไกลความเจริญ ผมขออนุญาตให้พิจารณาจากบ้านของผม สำหรับผมบ้านไม่ได้แสดงถึง หน้าตาทางสังคม แต่บ้านหมายถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว ในเครือญาติ มีความทรงจำ ผมเห็นหลายๆ ครอบครัว ที่มีสถานะทางสังคม/มีฐานะที่มั่งคั่งขึ้น ก็จะมีการสร้างบ้านใหม่ ซึ่งสำหรับผมมันเป็นการทำลายคุณค่า ทำลายราก ของตนเอง ซึ่งเมื่อเราทำลายรากของตนเองแล้ว คุณค่าของชีวิตเราจะงอกงามได้อย่างไร บ้านทุกหลังคือหน้าตาของพี่น้อง ของเรา ไม่ใช่หน้าตาของสังคม ปัจจุบันทุกคนมองว่าต้องมีหน้ามีตา เป็นที่ยอมรับในสังคม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สังคมตัดสินเรา ซึ่งจะขอย้ำว่าราก(บ้าน) ของเราคือสิ่งที่จะส่งเสริมเรา ซึ่งเราสามารถจัดการราก(บ้าน)ของเราให้มีสภาพการอยู่ใช้สอยตาม ยุคสมัยได้ ตามรูป คือ ภาพปัจจุบันที่เราได้จัดองค์ประกอบให้มีความน่าสนใจ จังหวัดบึงกาฬเมื่อจะต้องดำเนินการอย่างใด อย่างหนึ่ง ต้องจำเป็นต้องพิจารณาถึงอัตลักษณ์ของจังหวัด จากภาพสีม่วง คือ สีประจำจังหวัดบึงกาฬ ส่วนสีเขียว คือ สีประจำอำเภอโซ่พิสัย เพราะฉะนั้น เวลาที่ท่านใดก็ตามเข้าไปเยี่ยมเฟสบุคเพจ ของ “พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิตจังหวัด บึงกาฬ”ก็จะเห็นว่าเรานำเสนอ ๒ สีข้างต้นออกไปด้วย จึงขอเน้นย้ำว่าเวลาจะพัฒนาพื้นที่จะต้องทราบว่า Cooperate Identity ของอำเภอ หรือจังหวัดของเราคืออะไร และต้องนำเสนอสีนั้นออกมาให้ชัดเจนที่สุด เพื่อให้ทุกคนทราบว่าสีประจำ อำเภอของท่านคือสีใด ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนสำคัญในการสื่อสารให้คนในอำเภอ ในชุมชนหรือหมู่บ้านทราบ เพื่อไม่ให้มีการใช้สีที่ไม่มีระเบียบ เลอะเทอะ และไม่สวยงาม เพราะมีสารพัดสี ยกตัวอย่างเช่น อำเภอโซพิสัย ที่มีสีเขียว เป็นสีประจำอำเภอ หน่วยงานรัฐต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการเวลามีการจัดทำป้ายโฆษณาก็ขอความร่วมมือกับ
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 53 ภาคเอกชนให้ใช้ป้ายสีเขียว ถ้าจะมีสีอื่นก็ขอให้มีสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัด เป็นต้น การปลูกพืชต่าง ๆ ต้นไม้ หรือ ไม้ดอกต่าง ๆ ก็ควรให้มีสองสีนี้ อย่างเช่น ที่บ้านของผม ผมพยายามสะท้อนให้เห็น Brand Image ของอำเภอฯ ผ่าน ต้นไม้และไม้ดอกต่าง ๆ ซึ่งการสร้างอัตลักษณ์ดังกล่าว ทุกท่านสามารถขับเคลื่อนได้ และไม่ยุ่งยากอีกด้วย ดังนั้น เมื่อมีบ้านที่งดงาม ได้รับการอนุรักษ์ จะสะท้อนให้เห็นว่าอัตลักษณ์ของชุมชนของพื้นที่เราได้รับการ ยอมรับ และส่งผลให้ดึงดูดผู้คนเข้ามาเยี่ยมชม และท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยปัจจุบันของหมู่บ้านผม กลุ่มเป้าหมายที่มา ท่องเที่ยวเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และชื่นชอบศิลปะ ชอบความร่วมสมัย เพราะฉะนั้น การพัฒนาพื้นที่ต้องเรียนรู้ว่าเมื่อคนมี เงินจำกัดในการใช้จ่าย ต้องมีการตัดสินใจ ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ชุมชนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่เข้ามาเยี่ยม ชมได้ เมื่อเราพิจารณาแล้วว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวของคนนั้น มักมาพร้อมกับการแบ่งปัน/ถ่ายทอดประสบการณ์ ให้คนรู้จักได้เข้าถึงด้วยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น การถ่ายภาพในบริเวณพื้นที่ที่มีความสวยงาม ผู้คนจะต้องการไป ถ่ายรูป ดังนั้น ผมจึงนำศิลปะร่วมสมัยมาทำให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมได้ และหลาย ๆ กลุ่มก็มาเยี่ยมชมผ่านการนำเสนอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และยังแต่งกายด้วยโทนสีเขียวและม่วง นั่นแสดงให้เห็นว่า อัตลักษณ์ของพื้นที่ที่เราพยายามนำเสนอนั้นได้เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายด้วยแล้ว นอกจากนั้น เขายังมาจับจ่ายใช้สอยใน ชุมชน ทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนอีกด้วย นี่จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะทำให้เกิดความยั่งยืน คือ ต้องทำให้พื้นที่เป็น ที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อผมทำให้ดูที่บ้านผมเป็นตัวอย่างและสามารถเกิดเป็นรายได้ขึ้นมา ผ่านมา กว่า ๖ ปี ที่ผมได้ริเริ่ม ก็มีชาวบ้านเริ่มเห็นสอดคล้องและดำเนินการเช่นเดียวกันด้วย และได้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมา จากภาพนี้นะครับ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กรุณาติดต่อผมมาให้หมู่บ้านผมเป็นหนึ่งในหมู่บ้านต้นแบบ ตามแนวคิด Sustainable Village และให้นำเสนอผ่านกิจกรรม Live action เมื่อคราวจัดงาน Sustainability Expo 2022 (SX 2022) เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา โดยจากภาพวาดจะเห็นว่าผมเองใส่เสื้อสีเขียว ซึ่งเป็นสีประจำอำเภอฯ ส่วนท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย ท่านใส่เสื้อสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดฯ ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีหลายคณะมาศึกษา ดูงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ คณะของผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี คณะของบริษัท SCG เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึง ความยั่งยืน ซึ่งผมพยายามจะบอกว่าพวกท่านสามารถไปสร้างจุดเด่นของพื้นที่ได้ เช่น พัฒนาบ้านส่วนตัว บ้านพักราชการ หรือสถานที่ทำงาน ให้สวยงามและมีกิจกรรมที่ต้องการจะสื่อสารให้ท่านแบ่งปันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน เพื่อส่งสาร ไปถึงคนอื่น ๆ ต่อไป เพื่อสร้างให้ท่านเป็นที่รู้จักในพื้นที่ และหาแนวร่วมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือกลุ่มภาคีอื่น ๆ เพื่อให้การ สื่อสารและการพัฒนามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในพื้นที่อำเภอฯ ก็มีการร่วมมือกับภาคศาสนา มีการพัฒนาพื้นที่ภายในวัด ให้เป็นสถานที่จัดตลาดนัดชุมชน ปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนา การพัฒนาก็จะเกิดขึ้น เป็นต้น ในกรณี ของอำเภอโซ่พิสัย ที่มีความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับพญานาคก็มีการออกแบบสัญลักษณ์พญานาคให้มีความร่วมสมัยด้วย สำหรับขยะหรือวัสดุที่ไม่ได้ใช้งานแล้วนั้นก็นำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ผมได้นำไหหมักปลาร้าซึ่งปัจจุบันผู้คนเลิกกิจกรรมนี้แล้ว ไปบริโภคน้ำปลาร้าขวด ทำให้มีไหเหลือทิ้งมากมาย ผมก็นำมาเจาะรูดัดแปลงเป็นกระถางต้นไม้ โดยทาสีเขียวและปลูกต้น เฟื่องฟ้าสีม่วงไปตั้งตามสถานที่ต่าง ๆผมจึงอยากเชิญชวนให้ทุก ๆ ท่านไปหาขยะภายในชุมชน ตำบล หรืออำเภอของท่าน และสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะเหล่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเลย ดังที่ผมได้ปฏิบัติมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ผมขอเน้นย้ำว่าสอดคล้องกับ SDGs ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งที่ผมทำ คือ Life Community Museum Buengkan: LCMB Local สู่ เลอค่า ซึ่งผมทำมา ๖ ปีแล้ว โดยศูนย์ของผมไม่ใช่ศูนย์การเรียนรู้
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 54 แต่เป็นศูนย์สร้างแรงบันดาลใจ เพราะว่าพื้นที่ของผมเริ่มจากติดลบ ทำให้คนที่มาเยี่ยมชมได้เห็นว่าจากพื้นที่ติดลบสามารถ นำมาสู่จุดนี้ได้ จะได้นำแรงบันดาลใจไปทำในพื้นที่ของตนเอง สำหรับ LCBM ตอบเป้าหมาย SDGs ๔ ข้อหลัก ได้แก่ (๑) เป้าหมายที่ ๑ ความยากจนต้องหมดไป (No Poverty) (๒) เป้าหมายที่ ๒ ความอดอยากต้องหมดไป (Zero Hunger) (๓) เป้าหมายที่ ๑๒ การบริโภคและผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Consumption and Production) และ (๔) เป้าหมายที่ ๑๖ สันติภาพ ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง (Peace Justice and Strong Institution) โดยเฉพาะ ข้อ ๑๒.บี การท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งหากเราทำข้อนี้ได้จะสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับเป้าหมายที่ ๑ และ ๒ ไปสู่ผลลัพธ์ ข้อ ๑๖ ได้ โดยตลอด ๒๕ ปีที่ผ่านมา ที่ผมทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครโครงการหลวง ผมได้มีประสบการณ์ในการทำ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งผมต้องการสื่อว่าในเมื่อราไม่มีงบประมาณ แต่เรารู้ว่าใครมีศักยภาพ มีความสามารถที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ หรือในระดับโลก ท่านสามารถนำเรียน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดของท่าน ให้เชิญชวนเขามาร่วมงานกันเพื่อให้ได้ผลงานที่เกิดขึ้นเป็นที่ประจักษ์ต่อไป เช่น กรณีของ ผม ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ ที่จะถึงนี้ ผมต้องเดินทางไปประเทศสวีเดนเพื่อไปรับรางวัล Gourmand Awards 2023 ใน ๓ สาขา ได้แก่ (๑)สาขา Best Food Tourism Book โดยหนังสือ Local Wisdom Chaiyaphum ซึ่งนำเสนอเกี่ยวกับ อาหารท้องถิ่นของจังหวัดชัยภูมิ โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมินายโสภณ สุวรรณรัตน์ เป็น Brand Ambassador ให้กับหนังสือเล่มนี้ด้วย ซึ่งจังหวัดอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันเพราะทุกจังหวัดก็มีอาหาร ท้องถิ่นที่ดีเช่นเดียวกัน (๒) สาขา Best Book on Spices โดยหนังสือ Soft Power, Thai Food, Herbs and Spices และเล่มที่ ๓ (๓) สาขา Best Pasty Book โดยหนังสือ Soft Power, Thai Desserts ในปีนี้ผมพา ทั้ง ๓ เล่มเข้าชิงรางวัลออสร์กาอาหารโลกตามที่กล่าว ส่วนในภาพก็เป็นหนังสือเล่มอื่น ๆ ที่ผมออกแบบ ซึ่งในโอกาสต่อไปผมจะไปสนับสนุนการออกแบบงานกาชาดจังหวัดบึงกาฬ โดยผมได้ให้สำนักงานศิลปวัฒนธรรม ร่วมสมัย เข้าไปสนับสนุนการดำเนินงานกาชาดของจังหวัดต่าง ๆ ด้วย โดยให้สัดส่วนแยกตัวออกมาให้ชัดเจนให้มี พื้นที่แสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดให้ชัดเจน ให้สื่อถึงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ประเพณี วัฒนธรรมของจังหวัด ให้ชัดเจน หนังสือทุนทางวัฒนธรรมชุมชน เล่มนี้เป็นหนังสือที่นำมาจากผลงานวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ซึ่งผมจะยื่นขอรับทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยเป็นโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ฐานราก ๓ จังหวัดริมโขง ได้แก่ จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม และจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งโครงการฯ นี้กำลังจะเกิดขึ้น เห็นจากภาพปกไหมครับ ผมยังคงเน้นเรื่องสี ซึ่งแสดงอัตลักษณ์ของชุมชน ได้แก่ สีเขียว และสีม่วง และในชุมชนของผมศิลปะเหล่านี้ก็ดึงดูดเยาวชนให้มาร่วม ทำกิจกรรมหลังเลิกเรียน พอเราสามารถดึงดูดเยาวชนได้ สุดท้ายผู้ปกครองก็จะเข้ามาร่วมกิจกรรมเช่นเดียวกัน การพัฒนาก็จะเกิดขึ้น โดยแต่เดิมในพื้นที่ชนบทนั้น ขาดวัยแรงงาน วัยหนุ่มสาว เพราะต้องไปหาโอกาสในเมือง ใหญ่ ที่บ้านเกิดไม่มีโอกาสในการทำงาน ส่งผลให้ชุมชนเหลือแต่คน ๒ วัย คือ วัยสูงอายุ และวัยเด็ก กลายเป็น ยิ่งทำให้การพัฒนาเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ท่านต้องไปเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ โดยให้คนในชุมชนภูมิใจในชุมชน ให้เขา เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อำเภอ จังหวัด สร้างให้เขามีตัวตนและเกิดความภาคภูมิใจ และให้เขาเกิดความคิดจะพัฒนา พื้นที่ชุมชน ให้เขาได้เห็นโอกาสในการพัฒนา และต่อไปเขาจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 55 ต่อไป เพราะเขามีกำลัง ตราบใดที่ท่านมีแต่งบประมาณลงไปในพื้นที่แต่ขาดคนหนุ่มสาวในการขับเคลื่อน การพัฒนาก็จะเป็นไปได้ยาก อาทิ บ้านผมตอนนี้นะครับ ได้สังเกตเห็นการปรับปรุงที่ดินหลายๆ แห่ง ซึ่งทราบว่า เกิดจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด ที่ส่งผลให้คนวัยหนุ่มสาวที่เคยทำงานในเมืองใหญ่กลับมาตั้งหลัก ที่ภูมิลำเนา และ ๒ ปีที่ผ่านมาเมื่อเขาเริ่มตั้งตัวได้ เริ่มหยั่งรากลงกับบ้านเกิด ขณะนี้แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ ระบาดฯ จะบรรเทาลงมาก แต่เมื่อเขาเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ในชุมชนบ้านเกิด เขาก็ไม่เลือกที่จะกลับมา ทำงานในเมืองใหญ่เหมือนในอดีต เพราะได้เห็นถึงรายรับที่มากขึ้นนเชิงเปรียบเทียบ รวมทั้งชั่วโมงการทำงานที่ น้อยกว่าทำงานประจำ เล่มนี้ คือ หนังสือ Thai Silk For All ที่ผมได้มีโอกาสทำให้ในคราวการจัดประชุม APEC ที่ผ่านมา โดยนำเสนอการใช้ผ้าไหมมาเป็น Home Decoration เพื่อให้ตอบโจทย์ชาวต่างชาติ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความกรุณาเขียนคำนิยมให้ด้วย โดยในเล่มจะมีการนำผ้าไหมในการแต่งบ้านในรูปแบบ ต่าง ๆ ซึ่งมากกว่าการนำมาเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เท่านั้น โดยผมอยากให้เริ่มจากการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาใส่ผ้าประจำถิ่นทุกวันศุกร์ โดยไม่ต้องซื้อของใหม่ให้ประยุกต์ใช้ของที่มีอยู่แล้วในชุมชน สำหรับข้าราชการ ก็เช่นเดียวกัน ให้ใส่อย่างเต็มใจและภูมิใจกับอัตลักษณ์ของพื้นที่นั้น ๆ ที่ท่านไปปฏิบัติงาน ใส่ด้วยความภาคภูมิใจ ช่วยเป็น Brand Ambassador ให้กับพื้นที่ของท่าน และให้เสริมโดยการหาบ้านเก่าสวยงาม กับภาคีจากพลัง เยาวชน โดยให้ริเริ่มการพัฒนาขึ้นและจะเกิดความยั่งยืน และเปิดโอกาสให้เขามานำเสนอในการประชุมอำเภอ เสนอแนวคิดไอเดีย ซึ่งสิ่งนี้คืองานนอกหน้าที่ ที่จะทำให้ประชาชน และสื่อมวลชนสนใจ เพียงแค่ให้ท่านคิดนอก กรอบและสร้างสรรค์งานพัฒนาเช่นนี้ขึ้น จากที่ผมทำให้อำเภอโซ่พิสัย จากที่คนในชุมชนไม่มีใครรู้จัก จนใน ปัจจุบันหลายคนกลายเป็นที่รู้จัก เป็น Celebrities ซึ่งเขามาจากต้นทุนติดลบเขายังทำได้ ทำไมพวกท่านจะทำ ไม่ได้ในพื้นที่ของท่าน กลับมาที่แนวคิดในการพัฒนาของผมซึ่งเป็นหลักการง่ายๆ คือ ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมดา ซึ่งผมคิด แนวคิดนี้ขึ้นใน ปี ๒๕๖๐ ในวันที่ผมยังมีแรง และตัดสินใจเลือกกลับบ้านไปสร้างสรรค์ชุมชนมีชีวิตซึ่งมีคนถามว่า ชีวิตก็ดีอยู่แล้วเหตุใดถึงตัดสินใจกลับบ้าน ผมขอบอกว่าทหลายคนต้องการความก้าวหน้า ต้องการเงิน ต้องการ การมีชื่อเสียง แต่ว่ามีบางคนที่ต้องกาสร้าง ตำนาน ให้โลกจดจำเรา พวกท่านสามารถทำได้แน่นอน ขนาดผมเป็น คนธรรมดายังสามารถทำได้ ทำให้ชุมชนของผมเป็นเป้าหมายของการเดินทางของคนจากทั่วโลก ซึ่งเมื่อผมได้ สอบถามนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคน ก็ได้ความว่าเขาตามมาจากที่แนะนำจาก GPS หรือสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดย หากเราเลือกพัฒนาเช่นเดียวกับสังคมเมือง พัฒนาห้างสรรพสินค้าก็ไม่สามาถทำให้ทัดเทียมในเมืองใหญ่ได้ ดังนั้น เราควรรักษาและพัฒนาราก (บ้าน) ของเราซึ่งเป็นต้นทุนที่เรามี ดังนั้น หากท่านต้องการจะพัฒนาพื้นที่ในความ รับผิดชอบของท่าน ท่านต้องวิเคราะห์ให้เห็น ราก ของชาวบ้านหรือชุมชน และนำมาประยุกต์ร่วมกับแนวคิด ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ก็จะทำให้ Local สู่ เลอค่า ได้ นี่คือตัวอย่างของการจัดองค์ประกอบภายในบ้านใหม่ โดย ไม่ได้มีการต่อเติมใด ๆ เลย แค่มีการทาสีและตกแต่งให้นำเสนออัตลักษณ์ผ่านสีและข้าวของเครื่องใช้ให้เด่นชัด สะท้อน ราก ของชุมชน แค่ในบ้านของผมก็มีจุดถ่ายรูปจำนวนมาก และดึงดูดให้มาเยี่ยมเยียน ให้เป็นต้นแบบและ ส่งต่อการพัฒนาไปทั่ว โดยที่ผ่านมามีทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ภาคการศึกษามาเยี่ยมชม มาทำกิจกรรมในชุมชน
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 56 โดยเริ่มจากการทำ MOU ร่วมกับสถาบันการศึกษาเพื่อช่วยพัฒนาชุมชน เช่น การวาดรูปบนบ้านเรือน การวาดรูป สะท้อนอาชีพของครัวเรือนนั้น ๆ เช่น เป็นช่างตัดผม ทอผ้า ทำเกษตรกรรม เป็นต้นโดยปัจจุบันในอำเภอโซ่พิสัย ทั้ง ในครัวเรือน สถานที่ราชการ พื้นที่สาธารณะ มีภาพวาดพญานาคกว่า ๓๐๐ รูปแล้ว โดยขอรับการสนับสนุนจากภาคี ภาคธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ และผู้วาดจากมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาต่าง ๆ เมื่อชุมชนสวยงาม ก็ดึงดูด นักท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวมากเยี่ยมเยียน ผ้าซิ่นท้องถิ่นก็ขายได้ ชาวบ้านก็มีรายได้มากขึ้น ในเมื่ออำเภอโซ่พิสัยทำได้ ทุกที่ก็สามารถทำได้ ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชนจากจังหวัดบึงกาฬได้โอกาสไปจัดแสดงในการประชุม APEC ผลิตภัณฑ์จักสาน ของชุมชน สามารถเพิ่มมูลค่าได้ อาหารพื้นบ้านก็เน้นไปที่สีประจำอำเภอ ประจำจังหวัด มีการทำบายศรีสู่ขวัญ ให้ดึงดูด นักท่องเที่ยว เป็นต้น ฉะนั้น อยากจะบอกกับทุกท่านว่า ให้คิดนอกกรอบ คิดให้แตกต่าง และให้เกิดประโยชน์แก่ชาวบ้าน ซึ่งผมเชื่อว่าทุกท่านสามารถทำได้ หลังจากนักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารมื้อเช้า ชาวบ้านจะนำดอกไม้ที่มีในพื้นที่ชุมชนมาทำบายศรี ให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนมื้อกลางวันจะมีอาหารนำเสนอเป็นอาหารอีสาน ให้มีการเสิร์ฟแบบชาวบ้าน โดยใช้ รางไม้ไผ่ซึ่งมีความสวยงามซึ่งนักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะที่มีความสวยงาม คำถามคือจะให้เป็นลูกค้า ตลอดชีวิตได้อย่างไร ง่ายมาก หากต้องการประกอบอาชีพ คือ ขายอาหารพื้นเมืองโดยใช้ระบบขนส่งสินค้าแทน และนักท่องเที่ยวจะเข้ามาท่องเที่ยวในบ้านเรือนของเราเอง โดยต้องทำบ้านให้สวย และสะอาดน่าอยู่ เช่น บ้านสะอาดไม่ควรตากผ้าหน้าบ้าน เป็นต้น นักปกครองจึงควรไปติดต่อบ้านที่สวย ๆ บางหลังเท่านั้น ไม่ต้องพูดคุยกับทุกบ้านแต่พิจารณาดูจากคนในบ้านโดยเฉพาะคนที่เป็นวัยรุ่นอาจชักชวนให้มาร่วมโครงการ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการมาร่วมโครงการ และเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมและอุดหนุนสินค้าของเราถึงบ้าน โดยไม่ต้องไปเร่ขายข้างนอกให้เสียเวลา ถือเป็นการขายตรงที่สะดวกง่ายแค่เพียงแลกไลน์กับนักท่องเที่ยว ในครั้งต่อไปจะมีการสั่งสินค้าโดยตรงเลยไม่ต้องผ่านใคร ยกตัวอย่าง ในภาพจะเห็นได้ว่า รมต.สธ. ยังได้ถ่ายรูป ปลาปิ้งจากแม่น้ำโขงที่มีการประดับตกแต่งจานที่สวยงามบนโต๊ะอาหารในงานที่บึงกาฬ ช่วงเวลาบ่าย ถือว่าเป็นเรื่องการใช้ความคิด คือ ไมซ์เพื่อชุมชน (MICE) ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการจัดประชุม อบรมสัมมนาที่จะต่อยอดธุรกิจของชุมชนให้ยั่งยืนอาจจัดให้มีการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ โดยในจังหวัด จะแบ่งการประชุม ออกเป็นสามประเภท ได้แก่ ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ โดยการจัดการประชุมเปลี่ยนมาจัด ในบ้านของชาวบ้านในพื้นที่ โดยในแต่ละอำเภออาจมีบ้านที่สามารถจัดการได้ และเวียนไปในแต่ละพื้นที่ด้วย โดยกล่าวเรื่องการจัดประชุมในพื้นที่ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น ๓ ประเภท ประกอบด้วยขนาด เล็ก กลาง และใหญ่ โดยให้เปลี่ยนมาจัดการประชุมในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ในพื้นที่ จากนั้น ทุกคนช่วยกัน ประชาสัมพันธ์ (ถ่ายรูปเผยแพร่ต่อไป) ดีกว่านำเงินไปให้นายทุนเจ้าของโรงแรมเท่านั้น แต่เอาเงินสดมาให้ชุมชน หรือชาวบ้าน และชุมชนจะมีการกระจายรายได้มากกว่าและจะมีเรื่องราวที่จะประชาสัมพันธ์ต่อไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งจะทำให้ทั้งราชการและชุมชนได้ประโยชน์ และทำให้เกิดความเจริญแบบยั่งยืนได้และราชการจะได้ผลงานที่เป็นรูปธรรม ในชุมชนของผม จะเกิดการสร้างงาน จากศรัทธาเชื่อมโยงไปสู่ Soft Power จนกลายเป็นประเพณีแห่ธง พญานาคโดยเฉพาะถือเป็นการจัดกิจกรรมประเพณีและสิ่งใหม่ร่วมสมัยของจังหวัดบึงกาฬเพื่อดึงนักท่องเที่ยว เข้าพื้นที่ในอำเภอโซ่พิสัย แม้จะมีแค่เพียง 4๕ ครัวเรือน แต่มีนักท่องเที่ยวมาร่วมเที่ยวชมงานเกือบพันคน ความร่วมสมัยจะทำให้เกิดตลาดที่มีตลาดมูลค่าสูงขึ้น ส่วนที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนจะมีมิวเซียมวิลล่าที่แปลกใหม่
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 57 และสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมวิถีชีวิตท้องถิ่นและสามารถเข้าพักได้โดยที่บ้านผมข้างบนเป็นพิพิธภัณฑ์ ข้างล่างจัดทำเป็นที่นอนโดยผมนอนฝั่งหนึ่งและนักท่องเที่ยวนอนอีกฝั่งได้ ในบ้านที่เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ มีอายุประมาณ ๗๐ ปีได้ ทำให้เกิดความเจริญที่ยั่งยืน ต่อมาขอกล่าวถึง "โซ่พิสัยโมเดล" (มีโลโก้พญานาคที่มีการออกแบบในแนวสมัยใหม่) ถือเป็นการแนวคิด การพัฒนาพื้นที่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวคิดของปลัดกระทรวงมหาดไทยโดยเปลี่ยนสถานที่ “บวร” ที่ประกอบด้วย บ้าน วัด ราชการ ให้เป็นพื้นที่ที่มีชีวิต ซึ่งเปลี่ยนสิ่งที่เป็นท้องถิ่น (Local สู่ เลอค่า) โดยโมเดลที่มี พญานาคที่ร่วมสมัย ชิค ชิค หน่อย เป็นการยกระดับกลายเป็นต้นแบบสร้างแหล่งท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ชุมชน เพื่อ ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยศิลปะร่วมสมัย Local สู่เลอค่า ซึ่งอำเภอโซ่พิสัยมีทั้งหมด ๗ ตำบล โดยผมอยู่ใน ตำบลหนองพันทา อำเภอโซ่พิสัย โดยในตำบลหนองพันทามีศิลปะร่วมสมัยจำนวน 7 แห่ง และอีกจุดหนึ่งอยู่ใน อำเภอโซ่พิสัย รวมเป็น 8 จุดท่องเที่ยวเช็คอินในการนำศิลปะร่วมสมัยมาให้เข้าชม โดยมีรถซาเล้งแต่งเป็น พญานาคสามารถจอดตรงที่ไหนจุดไหนก็ได้ เมื่อจอดก็จะทำให้มีการใช้จ่ายเงินสดให้กับชาวบ้านและชุมชน เพื่อสร้างความยั่งยืนของชุมชนด้วย โดยมีสถานที่ท่องเที่ยว ดังต่อไปนี้ สถานที่ลำดับที่ ๑ คือ บ้านของผมซึ่งกลายจุดเครือข่ายและเป็นที่รวบรวมเรื่องราวมากมาย เปรียบเทียบ เมื่อไปประเทศญี่ปุ่น ก็จะเห็นว่ามีป้ายเขียนต่าง ๆ มากมายประดับตกแต่งอยู่ ในส่วนของบ้านของผมมีการตกแต่ง ภายในของบ้าน เช่น กระด้งที่ทิ้งขว้าง หรือของเก่าที่มีนำมาทาสี ซ่อมใหม่ นำดอกไม้ปลอมมาประดับเพื่อให้ สวยงามเด่นตาและกลายเป็นจุดให้นักท่องเที่ยวมาเช็คอิน (check-in point) การจัดบ้านให้เป็นพิพิธภัณฑ์ การ ทาสีอุปกรณ์ของเก่าที่มีอยู่แล้ว โดยมีการคิดนอกกรอบ ทำให้เกิดจุดเด่น เมื่อนักท่องเที่ยวมาพบก็จะจะถ่ายรูป ประชาสัมพันธ์ต่อไป สถานที่ลำดับที่ ๒ คือ บ้านขี้เหล็กใหญ่ ซึ่งมีจุดเด่นประมาณ 40 กว่ารูป ชาวบ้านจะออกไปทำงาน ในไร่นาก่อน เมื่อเสร็จงานประจำตอนเช้าแล้ว กลับมาบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สวย และนั่งทำงานสานต่าง ๆ เพื่อรอ รับนักท่องเที่ยวให้มาถ่ายรูปและซื้อสินค้าของเรา คือ จุดเช็คอินที่เป็นภาพวาด และกราฟฟิตี้พญานาคแห่งเดียวใน โลก ถือเป็นการขายตรงที่ทำให้มีเงินสดของนักท่องเที่ยวกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนด้วย สถานที่ลำดับที่ ๓ คือ พิพิธภัณฑ์ชุมชนคล้าร่วมสมัย ที่เป็นหมู่บ้านชุมชนธรรมดา ผมถามชาวบ้านว่า ต้องการพัฒนาและมีรายได้เสริมหรือไม่ เมื่อตกลงและผมจะเข้าไปช่วยเหลือตกแต่งแบบคิดนอกกรอบ ซึ่งก็ให้นำ สิ่งของเก่ามาทำใหม่ เช่น เอาผ้าขาวม้ามาพันต้นไม้ริมถนนดูเด่นสวยงามเมื่อนักท่องเที่ยวถามก็บอกว่าเป็นดีไซน์ ให้เกิดความน่าสนใจ และทำให้เกิดการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ลงในโซเชี่ยลมีเดียต่อไป สถานที่ลำดับที่ ๔ คือ พิพิธภัณฑ์ชุมชนต้นคล้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนจากต้นคล้า เดิมเป็นบ้านเก่า หลังเดียวโดด ๆ ที่มีปลวกและไม่ได้รับการดูแล ผมจึงเสนอให้มีการพัฒนาปรับปรุงบ้านให้สวยงามขึ้น แต่เมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงขึ้นก็ทำให้ชาวบ้านหลังอื่นได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นจนเกิดเป็นแนวร่วมการพัฒนาต่อไป และเพิ่มจำนวนบ้านและคนที่ร่วมพัฒนาบ้านของตัวเองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป โดยไม่ได้ใช้เงินจำนวน มาก ว่างค่อยปรับปรุง ทาสี เมื่อมีเวลาว่างก็ค่อยสานตะกร้า ในที่สุดก็สร้างรายได้จนสามารถอยู่ได้ สถานที่ลำดับที่ ๕ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพันทา ได้กลายเป็นจุดเช็คอินธงพญานาคร่วมสมัยจาก เดิมไม่มีจุดเด่นอะไรเลย ขณะรอปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินสำรวจจนพบว่าด้านหลัง อบต. มีคลอง ป่า ต้นไผ่
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 58 บ้านลำใยซึ่งผมเห็นว่าเป็นพื้นที่ทองคำ จึงมีการปรับภูมิทัศน์ ให้สวยงาม และปัจจุบันใกล้จะกลายเป็นตลาดชุมชน และเชื่อว่าภายใน ๑ ปี จะมีงบประมาณมาลงในพื้นที่นี้ สถานที่ลำดับที่ ๖ พิพิธภัณฑ์ชุมชนสวนธรรมพันไห สำนักสงฆ์ (วัด) เมื่อก่อนเป็นป่าช้า ไม่มีคนไป ผม แนะนำให้ทำลูกชิ้นปิ้งจำหน่ายดู และผมแนะนำให้ขอบริจาคไหปลาร้า สร้างเป็นกำแพงไหปลาร้าเอาเหล็กเสียบ ที่ก้นไห มีการทาสีใหม่ กลายเป็นลานธรรม จากต้นทุนติดลบ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ มากมายแต่อย่างใด แต่มีการเปิดบริจาคไหปลาแดก โดยได้รับการบริจาคไหปลาร้ามากกว่าพันไห เนื่องจากมีการ บริโภคปลาร้าจากขวดพลาสติกแล้ว ทำให้ไหปลาร้าเดิมไม่ได้รับความนิยมและกลายเป็นที่แหล่งเพาะยุงลาย เมื่อมี การเปลี่ยนแนวคิดมาทำเป็นไหปลาร้าพันไห ทำให้ช่วยเหลือ สธ. ในการทำให้เกิดสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่เป็นแหล่งเพาะ เชื้อโรคร้าย ซากขยะ อีกต่อไป โดยมีแนวคิดที่เปลี่ยนไปว่า ซากขยะเหล่านี้ คือ ทองคำ ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดของ มท. ในการจัดการสิ่งแวดล้อมและขยะด้วย สถานที่ลำดับที่ 7 คือ พิพิธภัณฑ์ชุมชนคล้าแม่มหา เป็นจุดเช็คอินบ้านอีสานแนวร่วมสมัย ก็มีแนวคิด ปรับปรุงและพัฒนาบ้านชาวบ้านให้ดีขึ้นเช่นกัน สถานที่ลำดับที่ ๘ เป็นโรงพยาบาลโซ่พิสัยที่มีอายุ ๓๐ ปี ที่โทรมมาก และ ผอ.รพ. ได้ร่วมพัฒนา โรงพยาบาลจนในขณะนี้มีการจัดทำกราฟฟิตี้พญานาคและกลายเป็นสถานที่ดูงานจากทั่วประเทศ ทำให้ผู้บริหาร เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงขึ้นจากการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ถือว่าง่ายมากและการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวใช้เวลา เพียงสองถึงสามอาทิตย์เท่านั้น โดยใช้เพียงโทรศัพท์มือถือและโซเชี่ยลมีเดียเท่านั้นก็สามารถพลิกฟื้นสถานที่ให้มี คุณค่าได้เพราะตัวของท่านเองจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลในช่องทางโซเชี่ยลมีเดียนั่นเอง คุณสุทธิพงษ์ฯ : หัวข้อ ที่ ๕: SDGs เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอำเภอโซ่พิสัย การท่องเที่ยวชุมชนที่มนุษย์ สร้างขึ้นโดยใช้ศิลปะร่วมสมัย Soft Power ทุนวัฒนธรรมในพื้นที่ โดยส่งที่ผมทำถือเป็น Soft Power ได้เลย และผมได้ร่วมจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวติดกัน ๕ หมู่บ้านพญานาค จาก Local สู่เลอค่า โดยบอกชาวบ้านว่า ถ้าต้องการได้เงินก็มาช่วยกัน อบต.หนองพันทา ช่วยกันดูแลร่วมกับผมและชาวบ้าน โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งสร้าง ต้นแบบ ๕ หมู่บ้านท่องเที่ยวพญานาค เช่น สร้างพลังชาวบ้าน ๕ หมู่บ้านที่มีรถพ่วง (ซาเล้ง) จำนวนมากเข้าร่วม โครงการ โดยพ่นสีรถซาเล้ง มีป้ายไวนิลแปะ ทำพื้นที่จอดรถนักท่องเที่ยวและมีการแต่งรถให้มีลักษณะคล้าย พญานาค พร้อมมีการแวะตามจุดต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินสดในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนคนที่ไม่ได้ร่วมทำกับผม ส่วนใหญ่เป็นคนเกียจคร้าน รอแต่รายได้วิ่งเข้ามาเองโดยไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าราชการจึงต้องสำรวจหาคนที่มีความ ต้องการเข้าร่วมโครงการนำมาเข้าร่วมโครงการช่วยท่านข้าราชการทำงานและผมก็จะช่วยปั้นด้วย เนื่องจากจังหวัดบึงกาฬมีบริเวณที่ติดกับแม่น้ำโขงทำให้มีปัญหาเรื่องยาเสพติด (ยาบ้า) จึงต้องมีการแก้ไข ปัญหาโดยนำวัยรุ่นมาร่วมอุดมการณ์ ให้วัยรุ่นทราบว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และวัยรุ่นจะทราบว่า พื้นที่ไหนจะทำให้พวกเค้า (มัธยมปลาย) มีอนาคต เช่น ในเดือนธันวาคมของทุกปีก่อนที่จะสมัครเข้ามหาวิทยาลัย เด็กวัยรุ่นกลุ่มก็จะมาร่วมกิจกรรมการพัฒนาเพื่อจะได้มีการนำไปทำเอกสารเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย (portfolio) ทำให้เด็กกลุ่มดังกล่าวที่อยู่ในพื้นที่เมื่อมีโอกาสได้กลับมาก็จะมาพัฒนาพื้นที่ต่อไป ตัวผมตายได้แต่ พื้นที่ของผมตายไม่ได้ ผมจึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการพัฒนาเติบโตที่ยั่งยืน จึงด้วยพร้อมอาจารย์ไก่เมื่อวานนี้ เดินทางไปที่สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดาเพื่อพูดคุยเรื่อง MOU ความร่วมมือต่าง ๆ โดยผมมีหน้าที่เซลล์แมน
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 59 ขายหมู่บ้าน ซึ่งจ่าจังหวัดหรือปลัดจังหวัดท่านก็ต้องทำหน้าที่นี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ท่านเป็นทรงอิทธิพลและท่าน จะดัง และสื่อต้องการสัมภาษณ์ท่าน และท่านจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ต่อไปครับ ผมได้เดินทางไปเวทีออสการ์อาหารโลก และเวทีฮอลบาร์เวทีความยั่งยืนโลก ผมได้รางวัลมาหมดแล้ว ผมเป็นคนบ้านนอกที่ได้ไปมาหมดแล้วและผมก็ได้กลับมาบ้านนอก โดยท่านก็ควรถอดหัวโขนในการพูดคุยกับ ชาวบ้านซึ่งท่านจะได้ใจจากชาวบ้านและท่านจะได้ทุกอย่างที่เป็นเซเลบิตี้ และนี่ถือเป็นการทำเพอซันแนล แบรนดิ้ง นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวก็จะนำรูปถ่ายที่ได้มาถ่ายในพื้นที่ไปเผยแพร่ในหลากหลายภาษาต่อไปด้วย และขอให้ท่านแอดไลน์เพื่อเป็นเพื่อนกับผมและผมจะไปช่วยท่านใน 77 จังหวัดด้วยตัวเอง โดยท่านใดมีคำถาม สามารถสอบถามได้เลยครับ โดยขอให้พิมพ์ชื่อและจังหวัดด้วยครับ และผมมีประสบการณ์ในทางบวกและลบมามากมาย พิธีกร: ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุม (กลุ่มกำลังพลคุณภาพ) เพื่อแลกเปลี่ยนหรือสอบถามวิทยากรครับ คุณสุทธิพงษ์ฯ: ขอเชิญผู้แทนจากจังหวัดบึงกาฬ ผู้แทนจากจังหวัดบึงกาฬ: ด้วยบริบทที่มีความคล้ายคลึงกันกับอำเภอโซ่พิสัยจะทำอย่างไรที่จะทำให้พื้นที่ใน อำเภออื่นสามารถทำได้แบบอำเภอโซ่พิสัยได้ครับ คุณสุทธิพงษ์ฯ : ขอบคุณสำหรับคำถาม ผมเรียนว่าในเดือนนี้มีผู้ตรวจกระทรวงจาก 4 กระทรวงมาศึกษาดูงานใน อำเภอโซ่พิสัย ผมจึงขอให้แนะนำเริ่มดำเนินการจากตำบลหรือส่วนเล็ก ๆ ของอำเภอก่อนไม่ต้องเริ่มจากพื้นที่ ที่ใหญ่เกินไป โดยประสบการณ์ผมก็พบกับอุปสรรคตที่หลากหลาย เช่น ปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้นายก อบต. ทั้ง 7 ตำบลในอำเภอโซ่พิสัย มารวมกลุ่มไลน์กันเพื่อคุยกันเรื่องนี้ ในส่วนของ อบต.หนองพันทา มีงบประมาณพัฒนา พื้นที่ แต่การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องไม่ใช่การเร่ขายฝัน ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่าจะจัดการเงินงบประมาณที่อยู่ในเรื่อง การท่องเที่ยวนี้ได้อย่างไร มิใช่ฟุ้งในความคิดเกินไป ซึ่งส่วนตัวผมไม่เก่งในเรื่องการสื่อสารพูดคุยกับชุมชน คนจำนวนมาก แต่ผมจะเก่งในเรื่องของคอนเซ็ป ผมจึงขอให้ อบต. เป็นผู้พูดคุยกับคนจำนวนมากหลากหลาย ประเภทแทนตัวผม แต่สิ่งที่ควรทำควรให้ชาวบ้านรู้ว่าจะพัฒนาแล้วได้อะไร ที่สำคัญชาวบ้านต้องอิ่มท้อง ผมจึงขอ พูดในส่วนของอำเภอโซ่พิสัยว่าต้องทำให้ดีก่อนเพื่อให้มีพื้นฐานที่แน่นก่อนจนทำให้อำเภอโซ่พิสัยเป็นต้นแบบให้ อำเภออื่น ๆ ได้ จากนั้นต้องมาพูดคุยเรื่องยุทธศาสตร์จังหวัดที่ให้เห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวชุมชน โดยควร ต้องเชิญคนเก่งมาช่วยวางยุทธศาสตร์จังหวัดด้วย ไม่จำเป็นต้องเฉพาะคนในจังหวัดเท่านั้น สามารถเชิญผู้ที่มี ความสามารถมาจากนอกพื้นที่ จังหวัด หรือต่างประเทศก็ได้ให้มาเป็นอาสาสมัคร หรือมาเป็นที่ปรึกษาจะทำให้ ได้รับสิ่งที่เป็นของจริง อาจไม่ใช่ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วอาจใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี ซึ่งที่ปรึกษาดังกล่าวท่านมี ความสามารถไม่ต้องการเงินตอบแทนเพียงแค่ยกย่องให้เกียรติเค้าเพียงพอแล้ว ก็จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ ผู้แทนจังหวัดชัยภูมิ: ขอขอบคุณที่ท่านได้ทำพอคเก็ตบุ๊ครายการอาหารแจกจ่ายให้จังหวัดชัยภูมิซึ่งท่านผู้ว่าฯ ได้ รณรงค์ให้ร้านอาหารทั่วจังหวัดนำไปใช้ในการเพิ่มมูลค่าได้ เช่น เมนูอาหารหม่ำที่จะสามารถเพิ่มมูลค่ารายได้ ที่สูงขึ้น แต่อาจมีราคาที่สูงขึ้นซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลอย่างไร แต่ต้องขอบพระคุณที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาจัดทำ ให้กับจังหวัดชัยภูมิ คุณสุทธิพงษ์ฯ: ขอบคุณครับ ขอชี้แจงว่า พอคเก็ตบุ๊คดังกล่าว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิได้ให้ผมช่วยทำและ ผมยินดีทำในเรื่องงานออกแบบดีไซน์และแบรนดิ้งตามที่ผมถนัด แต่ผมสงสัยว่า ทำไมสิ่งพิมพ์ของราชการและของ มหาวิทยาลัยทำไมถึงเชยจังเลยไม่มีรสนิยม จึงมีความสนใจที่ต้องการจะทำ โดยยากในการทำ เนื่องจากในแต่ละ จังหวัดจะมีเจ้าพ่อเจ้าแม่ ซึ่งการที่ผมจะได้งานก็อาจต้องมีคนชอบผมและให้ผมทำจริง ๆ เท่านั้นผมถึงจะได้งาน
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 60 เนื่องจากผมจะไม่ไปร่วมประมูลแข่งขัน แต่คนที่ชอบผลงานของผมที่ประมูลงานได้จะมามอบให้ผมทำ แต่งานของ มท. แม้เงินเยอะมากแต่ผลงานไม่ชิคจะทำอย่างไร ให้ค้นในอินเทอร์เน็ตต่อไปใครจะทำอีบิดดิ้งขอให้มีการกำหนด ว่าขอให้คนที่ประมูลได้เชิญผู้มีรสนิยมในการทำงานมาร่วมงานเพื่อให้ได้ผลงานชิค ผมขอชมเชยท่านผู้ว่าราชการ จังหวัดชัยภูมิที่มีความคิดชิคที่สุดในขณะนี้ เพราะมีการทำงานนอกกรอบ ผมชื่นชอบท่านมาก ฝากชมท่านด้วย ครับ ขอโยนคำถามให้อีกฝั่งครับ ภาคใต้ผมไปมาแล้วครับ ขอผู้แทนจากจังหวัดปัตตานี ผู้แทนจังหวัดปัตตานี: ผมขอชื่นชมผลงานของท่านอาจารย์ที่ทำให้หมู่บ้านที่ไม่เป็นที่รู้จักให้เป็นที่รู้จัก และ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีมีผลการนำเสนอในระดับกระทรวง และจะนำสิ่งที่อาจารย์แนะนำไปปรับใช้ใน จังหวัดปัตตานีต่อไป คุณสุทธิพงษ์ฯ : จังหวัดปัตตานีมีการทำโปรเจ็คต่าง ๆ ที่เก๋มาก ผมยินดีจะร่วมมือกับท่านผู้ว่าฯ ในการพัฒนา โครงการดี ๆ ของจังหวัดแน่นอนครับ ผู้แทนจังหวัดพะเยา: ขอสอบถามแรงบันดาลใจในการทำ และการสร้างเครือข่ายในพื้นที่ ว่ามีเครือข่ายที่นำมา สนับสนุนมีเครือข่ายใดบ้าง และมีเป้าหมายใดบ้างที่ตั้งใจ คุณสุทธิพงษ์ฯ: มนุษย์ทุกคนต้องการเงิน และชื่อเสียงที่เป็นขั้นพื้นฐานของมนุษย์เท่านั้น มีมนุษย์อีกส่วน คือ ต้องการสร้างตำนาน โดยใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างสร้างตำนานนี้ โดยเราต้องภูมิใจในตัวเรา ในพื้นที่บ้านของเรา ก่อน มิใช่ไปโพสต์รูปร้านกาแฟ โดยถือเป็นเสียเงินให้คนอื่นและไปเสียเงินให้คนอื่นแต่ทำไมไม่โฆษณาตัวเอง หรือ บ้านของเรา ที่จะทำให้บ้านตัวเองได้รับการพัฒนาได้รับการยอมรับ และสปอร์ตไลท์จะหันมาที่เรา จนทำเราเกิด ออร่า และมีเดียลงทำให้ได้สิ่งที่สำคัญคือชื่อเสียงของเราอันเป็นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา มีหนังสือนกยูงที่จัดพิมพ์เป็นภาษาไทย จีนและอังกฤษ นำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ จนมีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันมีความ ต้องการจะได้จะเห็นได้ว่าไม่ว่าสิ่งที่มีคุณค่าอยู่ที่ไหนก็เป็นที่ต้องการทั้งนั้น ขอเชิญผู้แทนจากจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ผู้แทนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฯ : อาจารย์เริ่มต้นจากหน่วยงานไหนก่อน คุณสุทธิพงษ์ฯ : เริ่มต้นยากเสมอ เราต้องเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่หนีปัญหา เพราะปัญหาจะวิ่งตามเรา เมื่อคิด เช่นนี้ก็จะไม่ใช่ปัญหา แต่ถึงแม้เริ่มต้นจะยากก็ตาม แต่ก็ไม่เกินความสามารถ เริ่มแรกผมคิดว่า ผมต้องการทำบ้าน ส่วนตัว และเมื่อไปพูดกับหน่วยงานรัฐก็จะได้รับคำตอบว่า ไม่ จึงต้องเริ่มจากการใช้เงินของตัวเองก่อน ผมไปสอน ในมหาวิทยาลัย ผมก็จะขอทำความร่วมมือกับอาจารย์เพื่อขอให้สิ่งที่อยู่ในห้องเอาไปทำในพื้นที่จริงเลยดีไหม ซึ่ง ต้องใช้งบประมาณสูงพอสมควร จึงต้องไปหาทุนจากหน่วยงานต่าง ๆ เมื่อได้ทุนและจะมีการไปลงพื้นที่จริง ผมจะ ไปขอความร่วมมือจากฝ่ายปกครอง และหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมกิจกรรมในจุดเริ่มต้น และเมื่อมีชื่อเสียงก็จะต้อง มีการขยายความร่วมมือ แต่ทุกอย่างต้องผ่านผมก่อน เนื่องจากต้องผ่านผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ โดยมีการ พิจารณาคอนเซ็ปดีไซน์เพื่อป้องกันการทำซ้ำซ้อนเกิดขึ้น ดังนั้น แต่ละจังหวัดต้องมีกระบวนการการสื่อสารแบรนด์ ดีไซน์ก่อน มิเช่นนั้น อาจเกิดการสับสนได้ จังหวัดเล็ก ๆ ทุนอาจจะน้อย จึงต้องมีการทำ MOU โดยจัดหาบริษัท หรือองค์กรระดับโลกมาทำงาน หากมีการใช้มือสมัครเล่นมาทำงานก็จะทำให้ไม่ประสบความสำเร็จได้ มีท่านใด จะแบ่งปันอีกหรือไม่ครับ ผู้แทนส่วนกลาง: เนื่องจากดิฉันเป็นมุสลิม จากที่ท่านอาจารย์บรรยายจะเป็นกรณีที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมสังคมจาก พื้นที่ภาคอีสาน เรียนถามว่าหากอาจารย์ได้มีโอกาสไปทำงานในพื้นที่พหุวัฒนธรรม จะมีวิธีการอย่างไร
โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติราชการกรมการปกครอง อย่างมีชีวิตและยั่งยืน ภายใต้หลักการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) | 61 คุณสุทธิพงษ์ฯ : ผมเคยทำวิจัยเรื่องพหุวัฒนธรรมในสถาบันพระปกเกล้ามาก่อน และหากผมมีโอกาสได้ทำในพื้นที่ ดังกล่าวผมจะทำเกี่ยวกับอาหารลังกาสุกะ โดยจะทำอาหารท้องถิ่นให้มีความสวยงานและมีชาวบ้านมามีส่วนร่วม และสำหรับชาวพุทธก็จะอาหารที่มีคุณค่าอีกแบบ จากนั้นก็จะนำคนหลากหลายศาสนามารวมกันและพูดคุยกัน ในเรื่องชีวิตประจำวัน เรื่องความงามสุนทรีย และทำเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับหนึ่งวัน เช้า กลางวัน ทำอะไรในการเดินทางหนึ่งวัน โดยควรออกแบบพหุวัฒนธรรมในวันเดย์ทริปดังกล่าว และขยายผลลงในโซเชียล มีเดีย เพื่อสรุปปัญหาและสะท้อนผลการดำเนินงานในวันเดย์ทริปดังกล่าว เพื่อให้เห็นความงามของการเดินทาง มนุษย์ รวมถึงได้ทราบถึงความงดงามของความเป็นมนุษย์พหุวัฒนธรรม ที่สำคัญคือ ปากท้องต้องอิ่ม และร่วมมือกัน ก็สามารถไปในทางคำถามที่เกี่ยวข้องกับพหุวัฒนธรรมได้ครับ ขอบคุณครับ ************************************************************** จัดการสัมมนาโดย กองวิชาการและแผนงาน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดทำเอกสารรายงานผลโดย กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พฤษภาคม 2566