The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คำนำ สารบัญ คำถาม เนื้อหา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 19102กมลวรรณ พิกุล, 2024-03-13 10:25:49

ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต

คำนำ สารบัญ คำถาม เนื้อหา

ความหลากหลาย ของสิ่งมีชีวิต


คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) จัดทำ ขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิต เช่นสัตว์บก สัตว์น้ำ และสัตว์ปีกอย่างเข้าใจเพื่อเป็นปะ โยชน์กับผู้อ่านในการนำ ไปเรียนหรือศึกษา คณะผู้จัดทำ หวังว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book) เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ สำ หรับผู้ที่ต้องการศึกษาหรือสนใจใน เรื่อง ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และจะได้ รับประโยชน์ ความรู้ จากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) เล่มนี้ไม่มากก็น้อย ก


สารบัญ คำ นำ สารบัญ แบบทดสอบก่อนเรียน ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต -ความหลากหลายทางพันธุกรรม -ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ -ความหลากหลายในระดับนิเวศ การจัดจำ แนก การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต ลักษณะที่ใช้ในการจำ แนกสิ่งมีชีวิต การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต หลักการในการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต ความสำ คัญของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และสถานการณ์ปัจจุบัน แบบทดสอบหลังเรียน หน้า ก ข 1-10 11 12 13 14-15 16 17-18 19 20 21-22 23-24 25-33 ข


1 แบบทดสอบก่อนเรียน 1.ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตคือ? ก.สัตว์หลายๆตัวรวมกัน ข.คำ จำ กัดความของการมีสิ่งมีชีวิตนานาชนิดบนโลกใบนี้ ค.พืชหลายชนิด ง.คำ จำ กัดความของสิ่งมีชีวิตบางชนิดบนโลกนี้ 2. ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิตแบ่งออกได้กี่แบบ ก.1 ข.2 ค.3 ง.5 3. ความหลากหลายทางพันธุกรรมหมายถึง ก.ความแปรผันทางชนิดพันธุ์ ข.สัตว์ต่างสายพันธ์ุ ค.ความแปรผันทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นภายในประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิด เดียวกัน ง.การดำ รงอยู่ของระบบนิเวศแต่ละประเภทบนโลก


2 4. ข้อใดไม่ใช่ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิต ก.ความหลากหลายทางพันธุกรรม ข.ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ ค.ความหลากหลายทางธรรมชาติ ง.ความหลากหลายทางระบบนิเวศ 5.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตแบ่งได้กี่ส่วน ก.1 ข.4 ค.3 ง.5 6. Identification หมายถึง ก.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัยหลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ข.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต


3 7. สิ่งมีชีวิตซึ่งมีเซลล์เป็นองค์ประกอบออกเป็นกี่อาณาจักร ก.1 ข.3 ค.5 ง.7 8.ใครคือบิดาแห่งวิชาอนุกรมวิธาน ก.กาลิเลโอ กาลิเลอี ข.คาโรลัส ลินเนียส ค.หลุยส์ ปาสเตอร์ ง.เซอร์ ไอแซก นิวตัน 9. Nomenclatureหมายถึง ก.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ข.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัยหลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต


4 10. Classification หมายถึง ก.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ข.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัย หลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต 11.ซากดึกดำ บรรพ์ ซึ่งอาศัยหลักใด ก.สิ่งมีชีวิตใดมีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกันย่อมมีซากดึกดำ บรรพ์ที่พบ ในชั้นหินต่าง ๆ ข.ลักษณะทางพันธุกรรม ค.แบบแผนการเจริญเติบโต ง.โครงสร้างภายในของร่างกาย 12. ชื่อของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกได้กี่ระบบ ก.2 ข.3 ค.6 ง.9


5 13. ข้อใดหมายถึงชื่อวิทยาศาสตร์ ก.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ข.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ค.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน 14. หลักการในการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตแบ่งได้กี่ข้อ ก.4 ข.6 ค.9 ง.5 15.ชื่อวิทยาสตร์ใช้ภาษาใดนการตั้ง ก.ภาษาไทย ข.ภาษาอังกฤษ ค.ภาษาละติน ง.ภาษาฝรั่งเศส


6 16. การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ทำ ได้กี่แบบ ก.2 ข.5 ค.7 ง.8 17. ชื่อของจีนัสพยัญชนะตัวแรกเป็นตัวพิมพ์อะไร ก.ใหญ่ ข.เล็ก ค.แบบไหนก็ได้ ง.ไม่มีข้อถูก 18. ถ้าทราบชื่อผู้ที่ตั้งชื่อจะต้องลงชื่อของผู้ตั้งชื่อด้วยตัวพิมพ์อะไร ก.ใหญ่ ข.เล็ก ค.แบบไหนก็ได้ ง.ไม่มีข้อถูก


7 19. ชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตจำ นวนมากอาจจะมีการบอกลักษณะอะไร ก.แหล่งที่พบ ข.ตั้งให้เป็นเกียรติกับบุคคลอื่น ค.ข้อ1กับข้อ2ถูก ง.ไม่มีข้อถูก 21. ชื่อสามัญหมายถึข้อใด ก.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ข.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ค.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน ง.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 20.ชื่อที่ถูกต้องของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆจะมีได้เพียงชื่อเดียวหากตั้งซ้ำ ที่เหลือ ชื่อจะเรียกว่า ก.ชื่อพ้อง ข.ชื่อสอง ค.ชื่อซ้ำ ง.ถูกทุกข้อ


8 22. ชื่อพื้นเมืองหมายถึงข้อใด ก.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ข.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน ค.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ง.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 24. Evolutionary classification คือข้อใด ก.เป็นวิธีที่ใช้กันมานานก่อนวิธีแรก บางครั้งเรียกว่า traditional classification ข.เป็นการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยพิจารณาจากแบบแผนของการแยก กันทางสายวิวัฒนาการ ค.เป็นหลัก โดยจะสร้างแผนภาพวิวัฒนาการแยกจากกันของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า cladograms ง.ถูกทุกข้อ 23. ทำ ให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจตรงกันได้คือชื่อใด ก.ชื่อวิทยาศาสตร์ ข.ชื่อทั่วไป ค.ชื่อพื้นเมือง ง.ไม่มีข้อถูก


9 25. ลินเนียสยังได้ศึกษาอะไร ก.พืช ข.เกสรตัวผู้ ค.ใช้เกสรตัวผู้ในการแบ่งชนิดของ พืชดอก ง.ถูกทุกข้อ 27. Kingdom Fungi คือ ก.อาณาจักรสัตว์ ข.อาณาจักรโปรติสตา ค.อาณาจักรเห็ดรา ง.อาณาจักรโมเนอรา 26. ลินเนียสเป็นคนแรกที่ใช้ชื่อ ภาษาลาติน 2 ชื่อ มาใช้เรียกสิ่งมีชีวิตชื่อว่า ก.binomial nomenclature ข.generic name ค.specific name ง.Corolus Linnaeus


23 25. ลินเนียสยังได้ศึกษาอะไร ก.พืช ข.เกสรตัวผู้ ค.ใช้เกสรตัวผู้ในการแบ่งชนิดของ พืชดอก ง.ถูกทุกข้อ 27. Kingdom Fungi คือ ก.อาณาจักรสัตว์ ข.อาณาจักรโปรติสตา ค.อาณาจักรเห็ดรา ง.อาณาจักรโมเนอรา 26. ลินเนียสเป็นคนแรกที่ใช้ชื่อ ภาษาลาติน 2 ชื่อ มาใช้เรียกสิ่งมีชีวิตชื่อว่า ก.binomial nomenclature ข.generic name ค.specific name ง.Corolus Linnaeus


10 28. Kingdom Plantae คือ ก.อาณาจักรสัตว์ ข.อาณาจักรเห็ดรา ค.อาณาจักรโมเนอรา ง.อาณาจักรพืช 30. ชื่อแรกเป็นชื่อของจีนัส (generic name) ส่วนชื่อหลังเป็นชื่อระบุถึง อะไร ก.ชนิด ข.ลักษณะ ค.ความเป็นมา ง.ไม่มีข้อถูก 29. ระบบนิเวศในน้ำ คือ ก.ป่าชายเลน ข.ป่าหญ้า ค.ภูเขา ง.ภูมิประเทศ


ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิต (Biodiversity) คือ คำ จำ กัดความของการมีสิ่งมีชีวิตนานา ชนิดบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำ รงอยู่ของพืช สัตว์ แบคทีเรีย เชื้อรา หรือมนุษย์ ต่าง ล้วนอาศัยอยู่ในถิ่นฐานเฉพาะของตนตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ดำ เนินชีวิตอยู่ภายใน ระบบนิเวศที่มีสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย จากการสะสม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ตลอดจนถึงการวิวัฒนาการ เพื่อความอยู่รอดตลอดระยะเวลาหลาย ล้านปีที่ผ่านมา ทำ ให้การคงอยู่ของความแตกต่างในสิ่งมีชีวิตแต่ละสายพันธุ์และความหลาก หลายภายในชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น กลายเป็นองค์ประกอบและพื้นฐานสำ คัญของ ธรรมชาติและระบบนิเวศของโลก 11


-ความหลากหลายทางพันธุกรรม (Genetic Diversity) หมายถึง ความแปรผัน ทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นภายในประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เป็นความแตก ต่างของสารพันธุกรรมภายในสิ่งมีชีวิตแต่ละชีวิตที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ ผ่านทางหน่วยพันธุกรรมหรือ “ ยีน ” (Gene) ซึ่งส่งผลให้เกิดความเป็น เอกลักษณ์ ลักษณะเด่น หรือความแตกต่างขึ้นภายในประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิด นั้น ๆ เช่น การมีสีสันและลวดลายที่หลากหลายของหอยทาก “โกลฟว์ สเนล ” (Grove Snail) รวมถึงการมีสีของเส้นผม สีของผิวหนัง และสีของนัยน์ตาแตกต่าง กันออกไปในประชากรของมนุษย์ ความหลากหลายทางพันธุกรรม (Genetic Diversity) 12


-ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ (Species Diversity) หมายถึง ความแปรผันทางชนิดพันธุ์ (Species) ที่เกิดขึ้นในระดับกลุ่มของสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความหลากหลายทางพันธุกรรมที่ผ่านการสะสมและการวิวัฒนาการ มาอย่างยาวนาน ซึ่งความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ถือเป็นผลจากกระบวนการคัดเลือก โดยธรรมชาติ (Natural Selection) ที่ทำ ให้เกิดทั้งการสูญพันธุ์และการก่อกำ เนิด ของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดท่ามกลางสภาพ แวดล้อมที่เปลี่ยนไปของโลก ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ (Species Diversity) 13


-ความหลากหลายทางระบบนิเวศ (Ecological Diversity) หมายถึง การดำ รงอยู่ของระบบนิเวศแต่ละประเภทบนโลก ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศ บนบก (Terrestrial Ecosystems) และระบบนิเวศในน้ำ (Aquatic Ecosystems) เช่น ป่าดงดิบ ทุ่งหญ้า ป่าชายเลน ทะเลสาบ หรือ ชายหาดและแนว ปะการัง ตลอดจนระบบนิเวศเมือง (Urban Ecosystems) ที่มนุษย์สร้างขึ้น ซึ่ง ความหลากหลายทางระบบนิเวศนั้น เป็นผลจากความแตกต่างทางสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ของโลก อีกทั้ง ยังนับเป็นตัวแปรสำ คัญ ที่ทำ ให้เกิดเอกลักษณ์และลักษณะเด่นของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด ซึ่งภายในระบบ นิเวศแต่ละประเภท ล้วนมีสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันออกไปอาศัยอยู่ ความหลากหลายทางระบบนิเวศ (Ecological Diversity) 14


นอกจากสิ่งมีชีวิตที่ถูกค้นพบแล้วราวสองล้านชนิด ทุกวันนี้ยังมีการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิด ใหม่ๆ อยู่เสมอ ฉะนั้น ในการศึกษาสิ่งมีชีวิตจึงต้องมีการจำ แนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อความสะดวกในการศึกษา ซึ่งการศึกษา ลักษณะนี้เรียกว่า วิชาอนุกรมวิธาน (Taxonomy) โดยจะหมายถึง กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1.Classification หมายถึง กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็น หมวดหมู่ โดยอาศัยพื้นฐานความรู้ที่เป็น หลักฐานความเกี่ยวทาง วิวัฒนาการ 2.Identification หมายถึง การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อ วิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัยหลักฐานที่ มีท้ามาก่อน อาจ เป็นการท้าโดยอาศัยความรู้ความช้านาญที่มีมาก่อน 3.Nomenclature หมายถึง กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ตามที่ได้จ้าแนกเอาไว้แล้ว ซึ่งต้องมี หลักและวิธีการซึ่งเป็นสากล 15


อาณาจักรโมเนอรา (Kingdom Monera) อาณาจักรโปรติสตา (Kingdom Protista) อาณาจักรเห็ดรา (Kingdom Fungi) อาณาจักรพืช (Kingdom Plantae) อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia) การจัดจำ แนกที่นำ เสนอโดย Whittaker ในปี 1969 ซึ่งแบ่ง สิ่งมีชีวิตซึ่งมีเซลล์เป็นองค์ประกอบออกเป็น 5 อาณาจักรได้แก่ 16


คาโรลัส ลินเนียส (Corolus Linnaeus) ปี ค.ศ. 1707-1778 นักชีววิทยาชาวสวีเดน ผู้วาง รากฐานการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตและได้รับยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งการจำ แนกยุคใหม่ หรือ บิดาแห่งวิชาอนุกรมวิธาน (Father of Modern Classification) โดยลินเนียสเป็นคน แรกที่ใช้ชื่อ ภาษาลาติน 2 ชื่อ มาใช้เรียกสิ่งมีชีวิต ซึ่งเรียกว่า binomial nomenclature โดยชื่อแรกเป็นชื่อสกุล หรือ จีนัส (generic name) และชื่อหลังเป็นชื่อตัวหรือชื่อสปีชีส์ (specific name) และวิธีนี้ยังใช้กันอยู่ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ลินเนียสยังได้ศึกษาพืชและ เกสรตัวผู้ และใช้เกสรตัวผู้ในการแบ่งชนิดของ พืชดอก ปัจจุบันหลักเกณฑ์ต่าง ๆของลิน เนียสยังคงใช้กันอยู่ การจัดหมวดหมู่ของ สิ่งมีชีวิต 17


1.Phenetics เป็นลักษณะการจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตโดยอาศัยความคล้ายคลึง และความ แตกต่างเปรียบเทียบได้ในเชิงปริมาณของลักษณะต่าง ๆ (characters) เป็นหลัก โดยไม่ให้ ความสำ คัญต่อความสัมพันธ์ทางสาย วิวัฒนาการ (phylogeny) 2.Cladistics (phylogenetic systematics) เป็นการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมี ชีวิตโดยพิจารณาจากแบบแผนของการแยกกันทางสายวิวัฒนาการ (branching pattern of phylogeny) เป็นหลัก โดยจะสร้างแผนภาพ วิวัฒนาการแยกจากกันของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า cladograms จากนั้นจะพิจารณา ว่าสิ่งมีชีวิตกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็น monophyletic group หรือ polyphyletic group 3.Evolutionary classification เป็นวิธีที่ใช้กันมานานก่อนวิธีแรก บาง ครั้งเรียกว่า traditional classification หรือ classical classification วิธีนี้ใช้พิจารณาจากความคล้ายคลึงและ ความแตกต่างทั้งหลายระหว่างกลุ่ม สิ่งมีชีวิตประกอบกับความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการ และยังใช้ ความรู้ด้านอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนั้นช่วยในการจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีวิธีการจัดหมวดหมู่ของ Linnaeus แต่ก็ยังไม่ถือว่าดีที่สุด ปัจจุบันการจัด หมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกเป็นหลายแนวทางที่ สำ คัญ คือ 18


-ลักษณะภายนอก และโครงสร้างภายในของร่างกาย -แบบแผนการเจริญเติบโต และโครงสร้างที่เกิดขึ้นในระยะที่เป็นตัวอ่อน -ซากดึกดำ บรรพ์ ซึ่งอาศัยหลักที่ว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตใดมี ...ความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกันย่อมมีซากดึกดำ บรรพ์ที่พบในชั้นหินต่าง ๆ คล้ายคลึงกัน -โครงสร้างของเซลล์และออร์แกเนล -สรีรวิทยาและการสังเคราะห์สารเคมี -ลักษณะทางพันธุกรรม ลักษณะที่ใช้ในการจำ แนกสิ่งมีชีวิต 19


การตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต (nomenclature) ชื่อของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกได้เป็น 3 ระบบหลัก คือ ชื่อของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกได้ 1.ชื่อพื้นเมือง (vernacular name) – ชื่อที่ใช้ภาษา ท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 2.ชื่อสามัญ (common name) – ชื่อภาษาอังกฤษของ สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 3.ชื่อวิทยาศาสตร์ (scientific name) – ชื่อสากลที่ ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสน จากชื่อพื้นเมืองและชื่อสามัญ ทำ ให้นักวิทยาศาสตร์ สามารถเข้าใจตรงกันได้ 20


1.ใช้เป็นภาษาละตินเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นภาษาอื่นจะต้องทำ ให้เป็น ภาษาละตินก่อน 2.ชื่อแรกเป็นชื่อของจีนัส (generic name) ส่วนชื่อหลังเป็นชื่อระบุชนิด (specific epithat) ตามหลัก binomial nomenclature ของลินเนียส 3.ชื่อของจีนัส (generic name) พยัญชนะตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ชื่อระบุ ชนิด (specific epithat) จะใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กทั้งหมด 4.การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ทำ ได้ 2 แบบคือเขียนโดยใช้การขีดเส้นใต้ชื่อ วิทยาศาสตร์ทั้งสองส่วนโดยที่เส้นทั้งสองไม่ติดกัน เช่น Homo sapiens หรือ ใช้ตัวเอียง (italic) แทนได้ เช่นHomo sapiens 5.ชื่อที่ถูกต้องของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆ (correct name) จะมีได้เพียงชื่อเดียว หากตั้งซ้ำ ที่เหลือชื่อจะเรียกว่า ชื่อพ้อง (synonym) 6.ถ้าทราบชื่อผู้ที่ตั้งชื่อ (author name) จะต้องลงชื่อของผู้ตั้งชื่อ ด้วยตัวพิมพ์ ธรรมดาขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ แต่ไม่ต้องเอียงหรือขีดเส้นใต้ และใส่ปีที่มีการ ตีพิมพ์ผลงานการค้นพบท้ายชื่อ คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค หลักการในการตั้งชื่อ วิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตสรุป ได้ดังนี้ 21


ชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตจำ นวนมากอาจจะมีการบอกลักษณะ แหล่งที่ พบ หรือตั้งให้เป็นเกียรติกับบุคคลอื่น ตัวอย่างเช่น ปูเจ้าพ่อหลวง Potamon bhumibol bhummibol ตั้งให้เป็นเกียติกับ พระเจ้าอยู่หัว หอยทากสยาม Cryptozona siamensis siamensis เป็นการบ่งบอก แหล่งที่อยู่ในไทย การระบุชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิต (Identification) ไดโคโตมัสคีย์ (dichotomous key) เป็นเครื่องมือที่นักอนุกรมวิธานใช้ ในการตรวจสอบชื่อวิทยาศาสตร์หรือกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่กำ ลังศึกษา โดย ทั่วไปไดโคโตมัสคีย์จะประกอบด้วย 2 ทางเลือกโดยจะพิจารณาจา กลัษณะที่เห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในบางครั้งนักอนุกรมวิธานจะ ใช้เป็นรูปภาพแทนในการจัดจำ แนกก็ได้ (pictorial key) 22


ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตจึงเป็นปัจจัยสำ คัญที่ทำ ให้สิ่งมีชีวิตสามารถดำ รงอยู่ ได้ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมโลกในทุกยุคทุกสมัย ถึงแม้โลก จะเผชิญกับความแห้งแล้ง ความหนาวเย็น หรือโรคระบาด ความหลากหลายทาง ชีวภาพถือเป็นเครื่องการันตีความอยู่รอดของทุกชีวิต อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำ คัญ ของระบบนิเวศที่ให้กำ เนิด “ นิเวศบริการ” (Ecological Services) ซึ่งสร้าง ทรัพยากรและคุณประโยชน์มากมายต่อทุกชีวิต ความสำ คัญของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ในปัจจุบันนี้ ทุกๆ ปี มีสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ราว 10,000 ชนิดทั่วโลก ซึ่งถือเป็นอัตรา ที่รวดเร็วเกิดกว่าการสูญพันธุ์ในยุคก่อนที่มนุษย์ถือกำ เนิดขึ้นหลายร้อยเท่า แม้ว่าการ สูญพันธุ์จะเป็นหนึ่งในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แต่การอัตราการสูญเสียที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ปัจจัยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของประชากรและการพัฒนาของสังคมเมืองที่นำ ไป สู่การทำ ลายถิ่นฐานที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ การรุกรานเพื่อแสวงหา ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ รวมไปถึงปลดปล่อยของเสียและมลพิษ ซึ่งนำ ไปสู่ การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโลกครั้งยิ่งใหญ่ 23


นอกเหนือจากการสูญพันธุ์ไปของสิ่งมีชีวิตบางชนิด การเสื่อมโทรมลงของระบบนิเวศ เป็นผลกระทบที่ไม่อาจลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน ซึ่งหากสถานการณ์ในปัจจุบันยังคง ดำ เนินต่อไปโดยปราศจากการเปลี่ยนแปลงใด ๆ สิ่งมีชีวิตกว่าร้อยละ 20 ชนิดทั่วโลก อาจจะสูญเสียพันธุ์ไปอย่างถาวรภายในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีความ สำ คัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Hotspot) ที่มีชนิดพันธุ์ ของสิ่งมีชีวิตซึ่งเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Endangered Species) และมี “ สิ่งมีชีวิตเฉพาะ ถิ่น ” (Endemic Species) อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ถึงแม้พื้นที่ซึ่งมีความสำ คัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพเหล่านี้ จะคิดเป็นเพียง ร้อยละ 2.3 ของพื้นผิวโลกทั้งหมด แต่กว่าร้อยละ 44 ของพืชพรรณในโลกล้วนดำ รงอยู่ ในพื้นที่เฉพาะเหล่านี้ ซึ่งในอีกความหมายหนึ่ง คือพืชเหล่านี้เป็นชนิดพันธุ์ที่ไม่ สามารถพบเห็นได้ในพื้นที่อื่นๆ ของโลก เช่น สิ่งมีชีวิตบนเกาะนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็น พื้นที่ซึ่งมีความสำ คัญทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพของโลก โดยกว่าร้อยละ 90 ของชนิดพันธุ์แมลงและกว่าร้อยละ 80 ของชนิดพันธุ์พืชที่มีท่อลำ เลียง (Vascular Plants) ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นที่ไม่ปรากฏบนส่วนไหนของโลกใบนี้อีกแล้ว และ การสูญเสียสิ่งมีชีวิตบนเกาะแห่งนี้ หมายถึงการสูญพันธุ์จากโลกไปอย่างถาวร 24


25 แบบทดสอบหลังเรียน 1.ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตคือ? ก.สัตว์หลายๆตัวรวมกัน ข.คำ จำ กัดความของการมีสิ่งมีชีวิตนานาชนิดบนโลกใบนี้ ค.พืชหลายชนิด ง.คำ จำ กัดความของสิ่งมีชีวิตบางชนิดบนโลกนี้ 2. ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิตแบ่งออกได้กี่แบบ ก.1 ข.2 ค.3 ง.5 3. ความหลากหลายทางพันธุกรรมหมายถึง ก.ความแปรผันทางชนิดพันธุ์ ข.สัตว์ต่างสายพันธ์ุ ค.ความแปรผันทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นภายในประชากรของสิ่งมีชีวิตชนิด เดียวกัน ง.การดำ รงอยู่ของระบบนิเวศแต่ละประเภทบนโลก


26 4. ข้อใดไม่ใช่ความหลากหลายของสิ่งมีขีวิต ก.ความหลากหลายทางพันธุกรรม ข.ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ ค.ความหลากหลายทางธรรมชาติ ง.ความหลากหลายทางระบบนิเวศ 5.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตแบ่งได้กี่ส่วน ก.1 ข.4 ค.3 ง.5 6. Identification หมายถึง ก.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัยหลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ข.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต


27 7. สิ่งมีชีวิตซึ่งมีเซลล์เป็นองค์ประกอบออกเป็นกี่อาณาจักร ก.1 ข.3 ค.5 ง.7 8.ใครคือบิดาแห่งวิชาอนุกรมวิธาน ก.กาลิเลโอ กาลิเลอี ข.คาโรลัส ลินเนียส ค.หลุยส์ ปาสเตอร์ ง.เซอร์ ไอแซก นิวตัน 9. Nomenclatureหมายถึง ก.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ข.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัยหลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต


28 10. Classification หมายถึง ก.กฎเกณฑ์การจัดสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ข.การค้นหาตรวจสอบเพื่อให้ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ประจ้ากลุ่มโดยอาศัย หลักฐานที่ มีท้ามาก่อน ค.กฎเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ ง.กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิต 11.ซากดึกดำ บรรพ์ ซึ่งอาศัยหลักใด ก.สิ่งมีชีวิตใดมีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกันย่อมมีซากดึกดำ บรรพ์ที่พบ ในชั้นหินต่าง ๆ ข.ลักษณะทางพันธุกรรม ค.แบบแผนการเจริญเติบโต ง.โครงสร้างภายในของร่างกาย 12. ชื่อของสิ่งมีชีวิตแบ่งออกได้กี่ระบบ ก.2 ข.3 ค.6 ง.9


29 13. ข้อใดหมายถึงชื่อวิทยาศาสตร์ ก.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ข.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ค.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ง.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน 14. หลักการในการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตแบ่งได้กี่ข้อ ก.4 ข.6 ค.9 ง.5 15.ชื่อวิทยาสตร์ใช้ภาษาใดนการตั้ง ก.ภาษาไทย ข.ภาษาอังกฤษ ค.ภาษาละติน ง.ภาษาฝรั่งเศส


30 16. การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์ทำ ได้กี่แบบ ก.2 ข.5 ค.7 ง.8 17. ชื่อของจีนัสพยัญชนะตัวแรกเป็นตัวพิมพ์อะไร ก.ใหญ่ ข.เล็ก ค.แบบไหนก็ได้ ง.ไม่มีข้อถูก 18. ถ้าทราบชื่อผู้ที่ตั้งชื่อจะต้องลงชื่อของผู้ตั้งชื่อด้วยตัวพิมพ์อะไร ก.ใหญ่ ข.เล็ก ค.แบบไหนก็ได้ ง.ไม่มีข้อถูก


31 19. ชื่อวิทยาศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตจำ นวนมากอาจจะมีการบอกลักษณะอะไร ก.แหล่งที่พบ ข.ตั้งให้เป็นเกียรติกับบุคคลอื่น ค.ข้อ1กับข้อ2ถูก ง.ไม่มีข้อถูก 21. ชื่อสามัญหมายถึข้อใด ก.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ข.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ค.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน ง.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 20.ชื่อที่ถูกต้องของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งๆจะมีได้เพียงชื่อเดียวหากตั้งซ้ำ ที่เหลือ ชื่อจะเรียกว่า ก.ชื่อพ้อง ข.ชื่อสอง ค.ชื่อซ้ำ ง.ถูกทุกข้อ


32 22. ชื่อพื้นเมืองหมายถึงข้อใด ก.ชื่อภาษาอังกฤษของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ข.ชื่อต่างๆที่ใช้เรียกกัน ค.ชื่อสากลที่ใช้ในการเรียกชื่อของสิ่งมีชีวิตเพื่อแก้ปัญหาการสับสนจากชื่อ พื้นเมืองและชื่อสามัญ ง.ชื่อที่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการเรียกสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ 24. Evolutionary classification คือข้อใด ก.เป็นวิธีที่ใช้กันมานานก่อนวิธีแรก บางครั้งเรียกว่า traditional classification ข.เป็นการจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตโดยพิจารณาจากแบบแผนของการแยก กันทางสายวิวัฒนาการ ค.เป็นหลัก โดยจะสร้างแผนภาพวิวัฒนาการแยกจากกันของสิ่งมีชีวิตเรียกว่า cladograms ง.ถูกทุกข้อ 23. ทำ ให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจตรงกันได้คือชื่อใด ก.ชื่อวิทยาศาสตร์ ข.ชื่อทั่วไป ค.ชื่อพื้นเมือง ง.ไม่มีข้อถูก


33 28. Kingdom Plantae คือ ก.อาณาจักรสัตว์ ข.อาณาจักรเห็ดรา ค.อาณาจักรโมเนอรา ง.อาณาจักรพืช 30. ชื่อแรกเป็นชื่อของจีนัส (generic name) ส่วนชื่อหลังเป็นชื่อระบุถึง อะไร ก.ชนิด ข.ลักษณะ ค.ความเป็นมา ง.ไม่มีข้อถูก 29. ระบบนิเวศในน้ำ คือ ก.ป่าชายเลน ข.ป่าหญ้า ค.ภูเขา ง.ภูมิประเทศ


Click to View FlipBook Version