The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เซปักตะกร้อ_ฟ้าประทาน_สุยะทา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narittaya Thawornprom, 2023-10-05 05:46:23

เซปักตะกร้อ_ฟ้าประทาน_สุยะทา

เซปักตะกร้อ_ฟ้าประทาน_สุยะทา

วิชาเซปักตะกร้อ เสนอ นางสาวดวงพร อินทร์กุล จัด จั ทำ โดย ด.ช.ฟ้าประทาน สุยะทาFaprathan SuyathaE-Book


หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็นหนึ่งของวิชาเซปัก ตะกร้อ(พ๒๓๑๐๔)เพื่อให้นักเรียนศึกษาได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมาของเซปักตะกร้อของทั้งในประเทศเเละต่สง ประเทศ เเละยังรวมไปถึงทักษะการเล่นกีฬาตะกร้อ กฏกติกา มารยาท เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ทักษะในการเล่นตะกร้อ ฯลฯ ผู้จัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะมี ประโยชน์ต่อผู้อ่าน ที่กำ ลังศึกษาหาความรู้ในเรื่องกีฬาตะกร้ออยู่ ข้อมูลในเรื่องนี้ หากมีข้อเสนอเเนะ หรือ ข้อมูลผิดพลาดประการ ใด ผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้เเะลขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย คำ นำ ผู้จัดทำ ด.ช.ฟ้าประทาน สุยะทา


สารบัญ ประวัติความเป็นมาของกีฬาเซปักตะกร้อ ประวัติกีฬาตะกร้อ ประวัติประวัติในประเทศไทย ประวัติสมาคมตะกร้อเเห่งไทย ทักษะพื้นฐานของกีฬาเซปักตะกร้อ การเล่นลูกตะกร้อด้วยหลังเท้า การเล่นลูกตะกร้อด้วยเข่า การเล่นลูกตะกร้อด้วยศีรษะ กติกาเซปักตะกร้อ ข้อที่1. สนามเเข่งขัน ข้อที่2. เสา ข้อที่3. ตาข่าย ข้อที่4. ลูกตะกร้อ ข้อที่5. ผู้เล่น ข้อที่6. เครื่องเเต่งกายของผู้เล่น ข้อที่7. การเปลี่ยนตัวผู้เล่น ข้อที่8. เจ้าหน้าที่ ข้อ9. การเสี่ยงเเละการอบอุ่นร่างกาย ข้อที่10. ตำ เเหน่งของผู้เล่นระหว่างส่งลูก ข้อที่11. การเริ่มเล่นเเละการส่งลูก ข้อที่12. การผิดกติกา ข้อที่13. การนับคะเเนน ข้อที่14. การขอเวลานอก ข้อที่15. อุบัติเหตุเเละหยุดการเเข่งขัน ข้อที่16. วินัยเเละมารยาทในการเเข่งขัน ข้อที่17. ความผิดเเล้วบทลงโทษ ข้อที่18. ความผิดของเจ้าหน้าที่ทีม ข้อที่19. บททั่วไป มารยาทในการเล่นตะกร้อ


ประวัติเซปักตะกร้อ การแข่ง ขันตะกร้อตะกร้อ เป็นการละเล่นของไทยมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานแน่นอนว่ามีมา ตั้งแต่สมัยใด แต่คาดว่าราว ๆ ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศอื่นที่ใกล้เคียงก็มีการเล่นตะกร้อ คนเล่น ไม่จำ กัดจำ นวน เล่นเป็นหมู่หรือเดี่ยวก็ได้ ตามลานที่กว้างพอสมควร ตะกร้อที่ใช้เดิมใช่หวายถักเป็น ลูกตะกร้อ ปัจจุบัน นิยมใช้ลูกตะกร้อพลาสติก การเตะตะกร้อ เป็นการเล่นที่ผู้เล่นได้ออก กำ ลังกายทุกสัดส่วน ฝึกความว่องไว ความสังเกต มีไหว พริบ ทำ ให้มีบุคลิกภาพดี มีความสง่างาม และการเล่นตะกร้อนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่าง หนึ่ง ในการค้นคว้าหาหลักฐานเกี่ยวกับแหล่ง กำ เนิดการกีฬาตะกร้อในอดีตนั้น ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อย่างชัดเจนว่ากีฬาตะกร้อนั้นกำ เนิดจากที่ใด จากการสันนิษฐานคงจะได้หลายเหตุผลดังนี้ ประเทศพม่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2310 พม่ามาตั้งค่ายอยู่ที่โพธิ์สามต้น ก็เลยเล่นกีฬาตะกร้อกัน ซึ่ง ทางพม่าเรียกว่า “ชิงลง” ทางมาเลเซียก็ประกาศว่า ตะกร้อเป็นกีฬาของประเทศมาลายูเดิมเรียกว่า ซีปักรากา (Sepak Raga) คำ ว่า Raga หมายถึง ตะกร้า ทางฟิลิปปินส์ ก็นิยมเล่นกันมานานแล้วแต่เรียกว่า Sipak ทางประเทศจีนก็มีกีฬาที่คล้ายกีฬาตะกร้อแต่เป็นการเตะตะกร้อชนิดที่เป็นลูก หนังปักขนไก่ ซึ่งจะ ศึกษาจากภาพเขียนและพงศาวดารจีน ชาวจีนกวางตุ้งที่เดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกาได้นำ การเล่น ตะกร้อขนไก่นี้ไป เผยแพร่ แต่เรียกว่าเตกโก (Tek K’au) ซึ่งหมายถึงการเตะลูกขนไก่ ประเทศเกาหลี ก็มีลักษณะคล้ายกับของจีน แต่ลักษณะของลูกตะกร้อแตกต่างไป คือใช้ดินเหนียวห่อ ด้วยผ้าสำ ลีเอาหางไก่ฟ้าปัก ประกาศไทยก็นิยมเล่นกีฬาตะกร้อมายาวนาน และประยุกต์จนเข้ากับประเพณีของชนชาติไทยอย่าง กลมกลืนและสวยงามทั้งด้าน ทักษะและความคิด ประวัติกีฬาตะกร้อ ประวัติความเป็นมาของ กีฬาเซปักตะกร้อ 1


ในสมัยโบราณนั้นประเทศไทยเรามีกฎหมายและวิธีการลงโทษผู้กระทำ ความผิด โดยการนำ เอานักโทษใส่ลงไปในสิ่งกลมๆที่สานด้วยหวายให้ช้างเตะ แต่สิ่งที่ช่วย สนับสนุนประวัติของตะกร้อได้ดี คือ ในพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของรัชกาลที่ 2 ในเรื่องมีบางตอนที่กล่าวถึงการเล่นตะกร้อ และที่ระเบียงพระอุโบสถวัดพระ ศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเขียนเรื่องรามเกียรติ์ ก็มีภาพการเล่นตะกร้อแสดงไว้ให้ อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้ โดยภูมิศาสตร์ของไทยเองก็ส่งเสริมสนับ สนุนให้เราได้ทราบประวัติของตะกร้อ คือประเทศของเราอุดมไปด้วยไม้ไผ่ หวายคนไทยนิยมนำ เอาหวายมาสานเป็น สิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านด้วย อีกทั้งประเภทของกีฬาตะกร้อใน ประเทศไทยก็มีหลายประเภท เช่น ตะกร้อวง ตะกร้อลอดห่วง ตะกร้อชิงธงและการ แสดงตะกร้อพลิกแพลงต่างๆ ซึ่งการเล่นตะกร้อของประเทศอื่นๆนั้นมีการเล่นไม่ หลายแบบหลายวิธีเช่นของไทย เรา การเล่นตะกร้อมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมา ตามลำ ดับทั้งด้านรูปแบบและวัตถุ ดิบในการทำ จากสมัยแรกเป็นผ้า , หนังสัตว์ , หวาย , จนถึงประเภทสังเคราะห์ ( พลาสติก ) ความหมาย คำ ว่าตะกร้อ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ . ศ . 2525 ได้ ให้คำ จำ กัดความเอาไว้ว่า ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นตา สำ หรับเตะ ประวัติกีฬาตะกร้อในประเทศไทย 2


เป็นองค์กรปกครองระดับชาติสำ หรับกีฬาเซปักตะกร้อใน ประเทศไทย ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2526บทบาทของสมาคม ได้แก่ การจัดการแข่งขันเซปักตะกร้อใน ประเทศไทย การสนับสนุนและประสานงานสโมสรเซปักตะกร้อ การบริหารทีมเซปักตะกร้อของไทย จัดการแข่งขันในประเทศตะกร้อไทยแลนด์ลีก ตลอดจนการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก คิง ส์คัพ ซึ่งเป็นการแข่งขันเซปักตะกร้อระดับนานาชาติอันทรงเกียรติ ที่สุดที่จัดขึ้นทุกปี[3] นอกจากนี้ ในความร่วมมือกับสมาคมเซปัก ตะกร้อมาเลเซีย เมียนมาร์ และสิงคโปร์ สมาคมฯ ยังสร้างกฎ เกณฑ์มาตรฐานสำ หรับเซปักตะกร้อเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการ เติบโตในระดับสากล สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย 3


หมายถึง การเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า เบาๆ ซ้ำ กันหลายๆครั้ง เป็นการเตะเพื่อบังคับลูกให้อยู่ใกล้ตัวในระดับ สูงเกินสะเอว หลักการฝึกเช่นเดียวกับการเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า แต่มีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งมีหลัก การเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า ดังนี้ 1. การเดาะลูกด้วยหลังเท้า ปลายเท้าที่เดาะลูกจะกระดกขึ้น และลูกตะกร้อจะถูกหลังเท้าค่อนไปทางปลายเท้า บริเวณโคนนิ้วเท้าทั้งห้า ใช้ปลายเท้าตวัดลูกตะกร้อให้ลอยขึ้นมาตรง ๆ 2. ยกเท้าที่เดาะลูกให้ต่ำ ที่สุดเท่าที่จะทำ ได้ 3. ขณะที่เดาะลูกควรก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย 4. ควรฝึกเดาะลูกตะกร้อด้วยหลังเท้าให้ได้ทั้งสอง ยืนในท่าเตรียมพร้อม มือถือลูกตะกร้อโยนแล้วเดาะด้วยเข่าข้างถนัดต่อเนื่องกันจนกว่าลูกตะกร้อจะ ตกพื้น แล้วหยิบลูกตะกร้อขึ้นมาเดาะใหม่ ปฏิบัติเหมือนเดิมหลาย ๆ ครั้ง เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า การเดาะด้วยเข่า ข้างที่ถนัดดีแล้ว ให้เปลี่ยนเดาะด้วยเข่าข้างที่ไม่ถนัดบ้าง หรืออาจจะสลับการเดาะด้วยเข่าทั้งสองข้างก็ได้ เป็นทักษะพื้นฐานที่มีความสำ คัญสำ หรับการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อเป็นอย่างมาก นิยมใช้ในการเปิดลูกเสิร์ฟ การรุกด้วยศีรษะ ( การเขก ) การรับ การส่ง การชงลูก หรือการตั้งลูกตะกร้อ และการสกัดกั้นหรือการบล็อก ลูกจากการรุกของฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นจะต้องฝึกหัดการเล่นตะกร้อด้วยศีรษะได้หลาย ๆ ลักษณะ โดยเฉพาะผู้ เล่นตำ แหน่งหน้าซ้ายและหน้าขวา จะต้องเล่นตะกร้อด้วยศีรษะได้เป็นอย่างดี ทักษะพื้นฐานของ กีฬาตะกร้อ การเล่นตะกร้อด้วยหลังเท้า การเล่นตะกร้อด้วยเข่า การเล่นตะกร้อด้วยศีรษะ 4


ข้อที่ 1. สนามแข่งขัน ( THE COURT ) 1.1 พื้นที่ของสนามมีความยาว 13.40 เมตร และกว้าง 6.10 เมตตร จะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เมื่อวัดจากพื้นสนามสูงขึ้น ไป 8 เมตร (พื้นสนามไม่ควรเป็นสนามหญ้าหรือสนามทราย ) 1.2 เส้นสนาม ขนาดของเส้นสนามทุกเส้นที่เป็นขอบเขตของสนามต้องไม่กว้างกว่า 4 เซนติเมตร ให้ตีเส้นจากกรอบนอก เข้ามาในสนามและถือเป็นส่วนของพื้นที่สนามแข่งด้วย เส้นเขตสนามทุกเส้นต้องห่างจากสิ่งกีดขวางอย่างน้อย 3 เมตร 1.3 เส้นกลาง มีขนาดกว้างของเส้น 2 เซนติเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่ของสนามออกเป็นด้านซ้ายและด้านขวาเท่าๆกัน 1.4 เส้นเสี้ยววงกลม ที่มุมสนามของแต่ละด้านตรงเส้นกลางให้จุดศูนย์กลางอยู่ที่กึ่งกลางของเส้นกลางตัดกับขอบด้านใน ของเส้นข้างเขียนเส้นเสี้ยววงกลมทั้งสอง ด้านรัศมี 90 เมตร ให้ตีเส้นขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 90 เซนติเมตร 1.4 เส้นเสี้ยววงกลม ที่มุมของสนามของแต่ละด้านตรงเส้นกลางให้จุดศูนย์กลางอยู่ที่ก่งกลางของเส้นกลางตัดกับขอบด้าน ในของเส้นข้าง เขียนเส้นเสี้ยววงกลมทั้งสองด้านรัศมี 90 เซนติเมตร ให้ตีเส้นนขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกรัศมี 90 เซนติเมตร 1.5 วงกลมเสิร์ฟ ให้รัศมี 30 เซนติเมตร โดยวัดจากจุดกงกลางของเส้นหลังไปในสนาม 2.45 เมตร และวัดจากขอบด้าน นอกของเส้นข้างไปในสนาม 3.05 เมตร แ ละวัดจากขอบด้านนอกของเส้นข้างเข้าไปในสนาม 3.05 เมตร ใช้ตรงจุดตัด จากเส้นหลังและเส้นข้างเป็นจุดศูนย์กลาง ให้เขียนเส้นวงกลมขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 30 เซนติเมตร ( ดูรูปขนาดสนามจากภาคผนวก ) ข้อที่ 2. เสา ( THE POSTS ) 2.1 เสามีความสูง 1.55 เมตร ( ผู้หญิง 1.45 เมตร ) ตั้งอยู่อย่างมั่นคงพอที่จะทำ ให้ตาข่ายตึง โดยต้องทำ จากวัสดุที่มีความ แข็งแกร่งและมีรัศมีไม่เกิน 4 เซนติเมตร 2.2 ตำ แหน่งของเสา ให้ตั้งหรือวางไว้อย่างมั่นคงนอกสนามตรงกับแนวเส้นกลาง ห่างจากเส้นข้าง 30 เซนติเมตร กติกาเซปักตะกร้อ 5


ข้อที 3 ตาข่าย ( THE NET ) 3.1 ตาข่ายให้ทำ ด้วยเชือกอย่างดีหรือไนล่อน มีรูตาข่ายกว้าง 6 – 8 เซนติเมตร ความกว้างของผืน ตาข่าย 70 เซนติเมตร และความยาวไม่น้อยกว่า 6.10 เมตร ให้มีวัสดุที่ทำ เป็นแถบ ขนาดความกว้าง 5 เซนติเมตร ตรงด้านข้างของตาข่ายทั้งสองด้านจากด้านบนถึงด้านล่างตรงกับแนวเส้นข้างซึ่งเรียกว่า “แถบ แสดงเขตสนาม” 3.2 ตาข่ายให้มีขนาดความกว้าง 5 ซนติเมตร ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยมีเชือกธรรมดาหรือเชือก ไนล่อนอย่างดี ร้อยผ่านแถบและขึงตาข่ายให้ตึงเสมอระดับหัวเสา ความสูงของตาข่ายโดยวัดจากพื้นถึง ส่วนบนของตาข่ายที่กึ่งกลางสนามมีความสูง 1.52 เมตร ( ผู้หญิง 1.42 เมตร ) และวัดตรงเสาทั้งสองด้าน มีความสูง 1.55 เมตดียวมี 12 รู กับ 20 จุดตัดไขว้ หากทำ ด้วยหวายต้องมีจำ นวน 9 – 11 เส้น ขนด ของเส้นรอบวงต้องไม่น้อยกว่า 42 เซนติเมตร และไม่มากกว่า 44 เซนติเมตร ( ผู้หญิง 43 – 45 เซนติเมตร) น้ำ หนักก่อนใช้แข่งขันต้องไม่น้อยกว่า 170 กรัม และไม่เกินกว่า 180 กรัม ( ผู้หญิง 150 – 160 กรัม ) ข้อที่ 4 ลูกตะกร้อ ( THE SEPAKTRAKRAW BALL’ ) ลูกตะกร้อต้องมีลักษณะเป็นทรงกลม ทำ ด้วยหวายหรือใยสงเคราะห์ชั้นเดียวมี 12 รู กับ 20 จุดตัดไขว้ หากทำ ด้วยหวายต้องมีจำ นวน 9 – 11 เส้น ขนดของเส้นรอบวงต้องไม่น้อยกว่า 42 เซนติเมตร และไม่ มากกว่า 44 เซนติเมตร ( ผู้หญิง 43 – 45 เซนติเมตร) น้ำ หนักก่อนใช้แข่งขันต้องไม่น้อยกว่า 170 กรัม และไม่เกินกว่า 180 กรัม ( ผู้หญิง 150 – 160 กรัม ) 6


ข้อที่ 5 ผู้เล่น ( THE PLAYERS ) 5.1 การแข่งขันมี 2 ทีม ประกอบด้วยผู้เล่นฝ่ายละ 3 คน 5.2 ผู้เล่นหนึ่งในสามคนจะเป็นผู้ เสิร์ฟลูกและอยู่ด้านหลังเรียกว่า “ผู้เสิร์ฟ” “Server ( Tekong 5.3 ผู้เล่นอีกสองคนอยู่ด้านหน้า โดยคนหนึ่งจะอยู่ด้านซ้ายเรียกว่า “หน้าซ้าย” ( left inside ) และคนที่ อยู่ด้านขวาเรียกว่า “หน้าขวา” ( night inside )5.3 ผู้เล่นอีกสองคนอยู่ด้านหน้า โดยคนหนึ่งจะอยู่ด้าน ซ้ายเรียกว่า “หน้าซ้าย” ( left inside ) และคนที่อยู่ด้านขวาเรียกว่า “หน้าขวา” ( night inside ) )” ข้อที่ 6. เครื่องแต่งกายของผู้เล่น ( PLAYER ATTIRE) 6.1 สำ หรับผู้ชายต้องสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ( สำ หรับผู้หญิงให้สวมเสื้อยืดมีแขนและกางเกงขาสั้น ระดับเข่า ) และรองเท้ากีฬาพื้นยาง ( ถุงเท้าด้วย ) ห้ามผู้เล่นสวมสิ่งอื่นใดที่จะเป็นอันตรายแก่ฝ่ายตรง ข้ามในระหว่างการแข่งขัน กรณีที่อากาศหนาวอนุญาตให้ผู้เล่นสวมชุดวอร์มแข่งขันได้ 6.2 ส่วนต่างๆของเครื่องแต่งกายของผู้เล่นถือเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและชายเสื้อจะต้องอยู่ในกางเกง ตลอดเวลาการแข่งขัน 6.3 สิ่งใดก็ตามที่จะช่วยเร่งความเร็วของลูกตะกร้อ หรือช่วยในการเคลื่อนที่ของผู้เล่นไม่อนุญาตให้ใช้ 6.4 หัวหน้าทีม ( captian) จะต้องใส่ปลอกแขน ที่แขนเสื้อด้านซ้าย 6.5 เสื้อของผู้เล่นทุกคนจะต้องติดหมายเลขด้านหลังให้เห็นได้ชัดเจนให้แต่ละทีมใช้หมายเลข 1 – 15 เท่านั้น มีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 19 เซนติเมตร ซึ่งกำ หนดให้ผู้เล่นจะต้องมีเพียงหมายเลขเดียวตลอด การแข่งขัน ( tournament ) 7


ข้อที่ 7. การเปลี่ยนตัวผู้เล่น ( SUBSTITUTION ) 7.1ผู้เล่นคนใดที่ได้ลงแข่งขันในแต่ละทีม หรือได้เปลี่ยนตัวไปแล้วจะไม่อนุญาตให้ลงแข่งใน ทีม ( regu )อื่นๆอีก สำ หรับการแข่งขันประเภททีมชุด ( team ) เฉพาะครั้งนั้นๆ 7.2 การเปลี่ยนตัวผู้เล่นจะกระทำ เวลาใดก็ได้ โดยผู้จัดการทีมยื่นขอต่อกรรมการผู้ชี้ขาด เมื่อ ลูกตะกร้อไม่ได้อยู่ในการเล่น ( ลูกตาย ) 7.3 แต่ละทีม ( regu ) มีผู้เล่นสำ รองไม่เกิน 2 คน แต่อนุญาต ให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ 1 คน เท่านั้น 7.4 ผู้เล่นคนใดถูกผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน จะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ ถ้า หากว่ายังมิได้มีการเปลี่ยนตัว 7.5 ทีมใด ( regu ) มีผู้เล่นน้อยกว่า 3 คน จะไม่อนุญาตให้ทำ การแข่งขันและปรับทีมนั้นเป็น แพ้การแข่งขัน ข้อที่ 8 เจ้าหน้าที่ ( OFFICIALS ) กีฬาเซปักตะกร้อ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันดังต่อไปนี้ 8.1 กรรมการผู้ชี้ขาด 1 คน 8.2 กรรมการผู้ตัดสิน 2 คน ( ผู้ตัดสิน 1 คนผู้ช่วยผู้ตัดสิน 1 คน ) 8.3 กรรมการผู้กำ กับเส้น 6 คน ( กำ กับเส้นข้าง 4 คน และกำ กับเส้นหลัง 2 คน 8


ข้อที่ 9. การเสี่ยงและการอบอุ่นร่างกาย ( THE COIN TOSS AND WARM UP ) ก่อนเริ่มการแข่งขันกรรมการผู้ตัดสินจะทำ การเสี่ยง ผู้ชนะการเสี่ยงมีสิทธิ์เลือกลูกส่ง หรือเลือกแดนก็ได้ ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะเป็นทีมที่อบอุ่นร่างกายในสนามก่อนเป็น เวลา 2 นาที แล้วตามด้วยทีมที่เหลืออยู่ด้วย ตะกร้อที่ใช้ในการแข่งขัน และให้มีบุคคลอยู่ในสนามได้ 5 คนเท่านั้น ( ผู้เล่นตัว จริง 3 คน และหรือ ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอนและผู้เล่นสำ รอง ) ข้อที่ 10. ตำ แหน่งของผู้เล่นระหว่างการส่งลูก ( OSITION OF PLAYERS DURING SERVICE ) 10.1 เมื่อเริ่มผู้เล่นทั้งสองทีม ( both regus ) ต้องยืนอยู่ในที่ที่กำ หนไว้ในแดนของ ตน ลักษณะที่เ10.2 ผู้เสิร์ฟ ( tekong ) ต้องวางเท้าหลักอยู่ในวงกลมเสิร์ฟ 10.3 ผู้เล่นด้านหน้าทั้งสองคนของฝ่ายเสิร์ฟจะต้องยืนอยู่ในเสี้ยววงกลมตนเอง 10.4 ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะยืนอยู่ที่ใดก็ได้ในแดนของตนตรียมพร้อม 9


ข้อที่ 11. การเริ่มเล่นและการส่งลูก ( THE START OF PLAY AND SERVICE ) 11.1 การเริ่มเล่นให้ฝ่ายที่ได้เสิร์ฟ เป็นฝ่ายส่งลูกก่อนในเซตแรก ทีมที่ชนะในเซตแรกจะได้รับสิทธิ์เลือกการเสิร์ฟในเซตที่ 2 11.2 เมื่อกรรมการผู้ตัดสินขานคะแนนแล้ว ถือเป็นการเริ่มเล่น ผู้โยนจะต้องโยนลูกตะกร้อออกไปให้ผู้เสิร์ฟลูก หากผู้โยนโยนลูกตะกร้อออกไปก่อนกรรมการผู้ตัดสินขานคะแนนต้องโยนใหม่ และต้องเตือนผู้โยนนั้น 11.3 ระหว่างการเสิร์ฟ ในทันทีที่ผู้เสิร์ฟได้เตะลูกตะกร้อแล้วผู้เล่นทุกคนสามารถเคลื่อนที่ในแดนของตนได้ 11.4 การเสิร์ฟที่ถูกต้อง เมื่อลูกตะกร้อได้ข้ามไปยังฝ่ายตรงข้ามระหว่างแถบตาข่าย ไม่ว่าจะสัมผัสตาข่ายหรือไม่ก็ตาม ต้องให้ลูกตกสู่พื้นอยู่ในขอบเขตของสนาม ข้อที่ 12. การผิดกติกา ( FAULTS ) 12.1 สำ หรับผู้เล่นฝ่ายเสิร์ฟ ระหว่างการเสิร์ฟ 12.1.1 ผู้เล่นหน้า คนที่ทำ หน้าที่โยนลูกกระทำ อย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ได้โยนให้ผู้เสิร์ฟเตะลูกส่ง เช่น โยนลูกเล่น เคาะลูกเล่น โยนลูกให้ผู้ เล่นหน้าอีกคน ฯลฯ หลังจากผู้ตัดสินขานคะแนนแล้ว 12.1.2 ผู้เล่นหน้ายกเท้าหรือเหยียบเส้น หรือถูกตาข่าย หรือส่วนของร่างกายล้ำ เข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้ามขณะที่โยนลูก 12.1.3 ผู้เสิร์ฟ กระโดดเสิร์ฟ 12.1.4 ผู้เสิร์ฟไม่ได้เตะลูกที่โยน 12.1.5 ลูกตะกร้อถูกผู้เล่นฝ่ายเดียวกันก่อนข้ามตาข่าย 12.1.6 ลูกตะกร้อข้ามตาข่ายแต่ออกนอกเขตสนาม 12.1.7 ลูกตะกร้อไม่ข้ามตาข่าย 12.2 สำ หรับผู้เล่นฝ่ายรับ ระหว่างการเสิร์ฟ เจตนากระทำ ในลักษณะที่ทำ ให้ฝ่ายเสิร์ฟลูกเสียสมาธิ หรือส่งเสียงรบกวน หรือร้องตะโกน 12.3 สำ หรับผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ระหว่างการแข่งขัน 12.3.1 ถูกลูกตะกร้อในแดนฝ่ายตรงข้าม 12.3.2 ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายล้ำ เข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่างของตาข่าย ยกเว้นการติดตามล้ำ ตาข่ายหรืการลงสู่พื้นภายหลังการเล่นลูก ( follow through ) 12.3.3 เล่นลูกเกิน 3 ครั้ง 12.3.4 ลูกถูกมือหรือแขน 12.3.5 หยุดลูก หรือยึดลูกไว้ใต้แขน ระหว่างขาหรือลำ ตัว 12.3.6 ส่วนหนึ่งของร่างกายหรืออุปกรณ์ของเครื่องแต่งกายผู้เล่น ถูกตาข่ายหรือถูกเสาหรือถูกเก้าอี้กรรมการ12.3.7 ลูกตะกร้อถูกเพดาน หลังคาผนัง หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ ผู้ตัดสิน หรือตกลงในพื้นที่ฝ่ายตรงข้าม 10


ข้อที่ 13. การนับคะแนน ( SCORING SYSTEM ) 13.1 ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟหรือฝ่ายรับก็ตาม เมื่อมีการทำ ผิดกติกาเกิดขึ้น ( fault ) ฝ่ายตรงข้ามจะได้ คะแนนทันทีและจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟต่อไป 13.2 ทีมที่ชนะการแข่งขันในแต่ละเซตจะต้องทำ คะแนนได้ 21 คะแนน แต่ถ้าคะแนนเท่ากันที่ 20 : 20 ผู้ ชนะจะต้องมีคะแนนต่างกัน 2 คะแนนและคะแนนสูงสุดไม่เกิน 25 คะแนน เมื่อคะแนน 20 เท่า ผู้ตัดสิน ต้องขานว่า “ดิวส์คู่” ไม่เกิน 25 แต้ม 13.3 การแข่งขันจะต้องชนะกัน 2 เซต โดยมีการพักระหว่างเซต 2 นาที 13.4 ถ้าแต่ละทีมชนะกันทีมละ 1 เซต จะต้องทำ การแข่งในเซตที่ 3 ซึ่งเรียกว่า “ไทเบรค” โดยแข่งขัน กัน 15 คะแนน แต่ถ้าคะแนนเท่ากันที่ 14 : 14 ผู้ชนะจะต้องมีคะแนนต่างกัน 2 คะแนน และคะแนน สูงสุดไม่เกิน 17 คะแนน เมื่อคะแนน 14 เท่า ผู้ตัดสินต้องขานว่า “ดิวส์คู่” ไม่เกิน 17 แต้ม 13.5 ก่อนเริ่มการแข่งขันในเซตที่ 3 ผู้ตัดสินต้องทำ การเสี่ยง ผู้ชนะในการเสี่ยงจะได้สิทธิ์เลือกการเสิร์ฟ และให้มีการเปลี่ยนแดนเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำ คะแนนได้ 8 คะแนน ข้อที่ 14. การขอเวลานอก ( TIME OUT ) แต่ละทีม ( regu ) สามารถขอเวลานอกได้เซตละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 นาที โดยให้ผู้จัดการทีมหรือผู้ ฝึกสอนขอเวลานอกต่อกรรมการผู้ตัดสินเมื่อลูกตระก้อไม่ได้อยู่ในการเล่น และมีบุคคลในระหว่างการขอ เวลานอกได้ 5 คน ที่บริเวณท้ายสนามของแต่ละด้าน 11


ข้อที่ 15. อุบัติเหตุและการหยุดการแข่งขัน ( TEMPORARY SUSPENSION OF PLAY ) 15.1 กรรมการผู้ตัดสินสามารถหยุดการแข่งขันได้ไม่เกิน 5 นาที เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางหรือรบกวนการแข่งขัน หรือผู้เล่นเกิดบาดเจ็บและต้องได้รับการดูแลทันที 15.2 การหยุดพักสำ หรับผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บถือเป็นเวลานอก สำ หรับการบาดเจ็บอนุญาตให้พักการแข่งขันได้ไม่ เกิน 5 นาที ภายหลังจากหยุดครบ 5 นาทีแล้ว ผู้เล่นคนนั้นไม่สามารถทำ การแข่งขันต่อได้ จะต้องทำ การเปลี่ยน ตัวผู้เล่นนั้นออก ถ้าเกิดกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นไปแล้ว ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ และให้ฝ่ายตรงข้ามชนะการ แข่งขันในครั้งนั้น 15.3 ในระหว่างหยุดพักการแข่งขัน ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่ในสนามและไม่อนุญาตให้ดื่มน้ำ หรือได้รับการช่วยเหลือ ใดๆทั้งสิ้น ข้อที่ 16. วินัยและมารยาทในการแข่งขัน ( DISCIPLINE ) 16.1 ผู้เล่นทุกคนจะตั้งปฏิบัติตามกติกาการแข่งขัน 16.2 ในระหว่างการแข่งขันจะอนุญาตให้หัวหน้าทีมเท่านั้นเป็นผู้ติดต่อหรือซักถามต่อกรรมการผู้ตัดสิน ( ใน ลักษณะสุขภาพ ) 12


ข้อที่ 17. ความผิดและบทลงโทษ ( PENALTY ) 17.1 ความผิดที่ถูกตักเตือน ผู้เล่นที่กระทำ ความผิดจะต้องถูกตักเตือนและได้รับบัตรเหลืองใน 6 กรณีดังต่อไปนี้ 17.1.1 ปฏิบัติตนไม่มีน้ำ ใจนักกีฬา 17.1.2 แสดงกิริยาและวาจาไม่สุภาพ 17.1.3 ไม่ปฏิบัติตามกฎ กติกาการแข่งขัน 17.1.4 ถ่วงเวลาการแข่งขัน 17.1.5 เข้าหรือออกสนาม โดยไม่ได้อนุญาตจากผู้ตัดสิน 17.1.6 เจตนาเดินออกไจจากสนาม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน 17.2 ความผิดที่ถูกให้ออกจากการแข่งขัน ผู้เล่นที่กระทำ ความผิดถูกให้ออกจากการแข่งขันและได้รับบัตรแดงมี 5 กรณี ดังต่อไปนี้ 17.2.1 กระทำ ผิดกติกาอย่างร้ายแรง 17.2.2 ประพฤติร้ายแรงโดยเจตนาทำ ให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ 17.2.3 ถ่มน้ำ ลายใส่ฝ่ายตรงข้ามหรือผู้อื่น 17.2.4 ทำ ความผิดอย่างร้ายแรงโดยสบประมาทหรือดูถูกและหรือแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมไปยังฝ่ายตรงข้าม 17.2.5 ได้รับการเตือนด้วยบัตรเหลืองเป็นครั้งที่ 2 ในการแข่งขันครั้งนั้น 17.3 ผู้เล่นที่กระทำ ผิดถูกเตือนหรือให้ออกจากการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นความผิดทั้งในหรือนอกสนามแข่งขัน ผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน กรรมการผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือบุคคลอื่นๆให้พิจารณาลงโทษตามความผิดที่ได้กระทำ ขึ้น ข้อที่ 18. ความผิดขอเจ้าหน้าที่ทีม ( MISCONDCT OF OFFICIALS ) ในระหว่างการแข่งขันหากทีมหรือเจ้าหน้าที่ของทีมคนหนึ่งคนใดกระทำ ความผิดเกี่ยวกับวินัยและมารยาท ทั้ง ในสนามและนอกสนามแข่งขัน เจ้าหน้าที่ทีมหรือทีมนั้นๆจะต้องถูกพิจารณาลงโทษทางวินัยและมารยาท 13


ข้อที่ 19. บททั่วไป ( GENERAL ) ในการแข่งขันหากมีปัญหาหรือเรื่องราวใดๆก็ตามที่ เกิดขึ้นในทุกกรณี ซึ่งนอกเหนือจากที่มิได้ระบุไว้ใน กกติกาข้อใดๆของการแข่งขัน ให้ถือคำ ตัดสินของ กรรมการผู้ชี้ขาดเป็นที่สิ้นสุด 14


มารยาทในการเล่นตะกร้อ กีฬาตะกร้อเหมือนกับกีฬาประเภทอื่นๆ ที่ผู้เล่นจะต้องมีมารยาทในการเล่น เพื่อทำ ให้การเล่นดำ เนินไปด้วยดี นอกจากนี้ผู้ชมก็จะต้องมีมารยาทในการชมเช่นเดียวกัน จึงจะทำ ให้เกิดประโยชน์แก่การเล่นกีฬาอย่างสมบูรณ์ มารยาทของผู้เล่นและผู้ชมที่ดีมีดังนี้ 1. มารยาทของผู้เล่นตะกร้อที่ดี 1. ปฏิบัติตามระเบียบ กฎ กติกาการเล่นอย่างเคร่งครัด และการยอมรับการตัดสินของผู้ตัดสินตลอดเวลาที่ แข่งขัน 2. มีความสุภาพเรียบร้อย แสดงความเป็นมิตรและให้เกียรติแก่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก่อนและหลังจากการแข่งจัน เสร็จสิ้น ควรจับมือกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ไม่ว่าทีมตนจะชนะหรือแพ้ก็ตาม 3. ไม่แสดงกิริยาหรือถ้อยคำ ที่ไม่สุภาพต่อผู้เล่นและผู้ชม 4. มีใจคอหนักแน่น อดทน อดกลั้น และสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ 5. ไม่จงใจฟังคำ สอนจากผู้หนึ่งผู้ใดนอกสนามในระหว่างการแข่งขัน 6. ไม่พูดจาหยาบคายหรือแสดงกิริยาเสียดสีและล้อเลียนผู้แข่งขัน 2. มารยาทของผู้ชมตะกร้อที่ดี 1. แสดงความยินดีด้วยการปรบมือแก่ผู้เล่นที่ดี 2. ไม่กล่าวถ้อยคำ หรือแสดงกิริยาเยาะเย้ยถากถางผู้ที่เล่นผิดพลาด 3. ไม่เชียร์ในสิ่งที่เป็นการส่อเสียดในทางที่ไม่ดีต่อทีมหนึ่งทีมใด 4. ไม่กระทำ ตัวเองเป็นผู้ตัดสินเสียเอง หรือตะโกนด่าว่าผู้ตัดสิน 5. ไม่กระทำ สิ่งใดๆ ที่ทำ ให้ผู้ตัดสินหรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ ปฏิบัติงานไม่สะดวก ที่มา 15


บรรณานุกรม https://th.m.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8 %A1%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8 %81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8 %87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9 %84%E0%B8%97%E0%B8%A2 https://www.gotoknow.org/posts/582867#google_vignette https://sittinon30488.wordpress.com/2013/02/28/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8% B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A7% E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0% B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B 5-3/ https://sittinon30488.wordpress.com/2013/02/28/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E 0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84 %E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9% 87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8 %87%E0%B8%81%E0%B8%B5-3/ https://www.siamsporttalk.com/th/entertainment/sport/106-sepaktakraw/rules-sports-sepak-takraw/110-sepak-takraw-rules.html


Click to View FlipBook Version